The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือปฏิบัติงานการรังวัดเฉพาะราย (ฉบับแก้ไข มกราคม 2563)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suipook4, 2021-10-26 12:24:13

คู่มือปฏิบัติงานการรังวัดเฉพาะราย (ฉบับแก้ไข มกราคม 2563)

คู่มือปฏิบัติงานการรังวัดเฉพาะราย (ฉบับแก้ไข มกราคม 2563)

1

(ฉบับแกไ้ ขปรับปรุง)

คานา

สานักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดมีภารกิจสาคัญ ได้แก่การศึกษาวิเคราะห์
พิจารณาปรับปรุงแก้ไข ระเบียบ คาส่ัง ให้คาปรึกษา ตลอดจนจัดทาเอกสารวิชาการ และคู่มือ
ปฏิบตั งิ านรงั วัดของสานักงานทดี่ นิ ใหเ้ ป็นปัจจบุ นั เพ่ือวางกรอบการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หน้าทใี่ ห้เปน็ ไป
ในทศิ ทางเดียวกัน

คู่มือปฏิบัติงานการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนแรก
หมวดที่ 1 – 3 เปน็ การอธบิ ายเรือ่ งความหมายของการรังวัด วิธีการรังวัดทาแผนท่ีและอานาจหน้าท่ี
ส่วนที่สอง หมวดท่ี 4 - 11 เป็นเรื่องการดาเนินการเก่ียวกับเร่ืองรังวัดเฉพาะราย และส่วนที่สาม
หมวดท่ี 12 – 13 เป็นเร่ืองเครื่องมือรังวัดและเบ็ดเตล็ด เพื่อให้เจ้าหน้าที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่
สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานรังวัดเฉพาะรายเบ้ืองต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผล แต่ไม่ควรนาไปใชเ้ ป็นเอกสารอา้ งองิ ในการดาเนินการทางกฎหมาย

สานักมาตรฐานและสง่ เสรมิ การรังวดั

2 มกราคม 2563

2

สารบัญ หนา้

การรังวัดเฉพาะราย 6
หมวดท่ี 1 การรงั วดั
7
- การรังวดั เฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ 9
- วธิ ีการรังวัดทาแผนที่ 13
18
หมวดท่ี 2 อานาจและหนา้ ที่ 18
19
หมวดที่ 3 เอกสารสทิ ธเิ กี่ยวกบั ที่ดนิ 20
21
หมวดท่ี 4 การรบั คาขอ การนดั รงั วัด การเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนยี มและค่าใช้จา่ ยในการรงั วัด 22
- การรบั คาขอ
- การชีต้ าแหน่งประกอบการรับคาขอออกโฉนดท่ีดิน 29
- สว่ นราชการมีหนังสือขอความร่วมมอื (ช้ีตาแหน่งทดี่ นิ ) หรอื แจง้ ให้ทาการรงั วดั
- การนัดรงั วดั 37
- การเรียกเก็บค่าธรรมเนยี มและค่าใช้จ่ายในการรังวดั 38
- ประกาศจังหวดั เรอ่ื งค่าใช้จ่ายในการรังวดั เกี่ยวกบั โฉนดท่ีดนิ หรอื พิสูจนส์ อบสวน 43
หรอื ตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกับหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ 45
- บัญชคี ่าใช้จา่ ยสาหรบั การรงั วดั เก่ยี วกับโฉนดท่ีดินหรอื พิสูจน์สอบสวนหรือ 45
ตรวจสอบเนอ้ื ท่ีเกย่ี วกับหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ 45
- ตวั อย่าง บัญชีค่าใช้จ่ายฯ
46
หมวดท่ี 5 การดาเนินการเก่ียวกับเจา้ ของทีด่ ินข้างเคียง
48
- การตรวจสอบหลกั ฐานการ สง่ /รบั หนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินขา้ งเคียง 48
- การคน้ หาชอ่ื และทีอ่ ยู่ของเจ้าของทด่ี ินข้างเคียง 49
- การลงนามในหนงั สือแจ้งการระวงั ชีแ้ นวเขตและลงชอ่ื รับรองเขตที่ดนิ (ท.ด.38) 50
- การจา่ หน้าซองหนงั สือแจ้งให้เจ้าของที่ดินขา้ งเคียงมาระวงั ชี้แนวเขตและลงชอ่ื 52
52
รบั รองแนวเขตท่ีดิน (ท.ด.38) 55
- การดาเนินการเก่ยี วกบั ขา้ งเคียงกรณีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรบั รองการทา 55

ประโยชน์ ตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2532)
- การดาเนนิ การเก่ยี วกับขา้ งเคียงกรณีรงั วัดสอบเขตโฉนดท่ีดนิ หรอื ตรวจสอบเนอื้ ท่ฯี
- การแจ้งหมายข้างเคยี งกรณรี ังวัดแบง่ แยกท่ดี นิ ทีม่ กี ารรงั วดั ใหมแ่ ลว้
- การสอบถามเจ้าของท่ดี นิ ข้างเคียง
- การรบั รองแนวเขตทีด่ ินของทางราชการ
- การสอบผู้ปกครองทอ้ งทกี่ ่อนออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในทีด่ ิน

หมวดที่ 6 การรังวัดเฉพาะราย
- การเตรียมการรังวดั
• หลักฐานแผนที่
• เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้แบบพิมพ์

3

• การยืมเงนิ มดั จารงั วดั 57
- การรงั วดั และการปักหลกั เขต
58
• การรงั วัด 58
• การปกั หลักเขตทดี่ ิน 60
61
• วิธกี ารปักหลกั เขตทีด่ นิ
- การรังวดั ประเภทต่าง ๆ 66
68
• การรังวดั ออกโฉนดทดี่ ิน 69
71
การรงั วดั ซา้ ใบไต่สวน 72
การรงั วดั สอบเขตใบไต่สวน 72
81
การเตรยี มการรงั วัดออกโฉนดทีด่ นิ 82
การรงั วัดออกโฉนดท่ดี ินเฉพาะรายที่มีผคู้ ดั ค้าน 85
การรังวัดและการลงรปู แผนที่ในระวางแผนท่ี 86
88
• การรังวดั สอบเขตโฉนดที่ดิน 88
• การรังวดั รวมโฉนดที่ดิน 89
91
• การรงั วัดแบง่ แยกโฉนดที่ดิน
• การรังวดั แบ่งหักท่ีสาธารณประโยชน์
• การรงั วัดแบง่ เวนคืน

• การรงั วดั ทาแผนท่พี ิพาทตามคาสัง่ ศาล
• การรงั วดั ตรวจสอบท่ดี ินสาธารณประโยชน์

• การรงั วดั ออกหนงั สอื สาคญั สาหรบั ที่หลวง
• การรังวดั ทาแผนท่อี นื่ ๆ
- การคัดค้านแนวเขตท่ีดิน

- การงดรงั วัด รอการสง่ เรือ่ งรงั วัด และการยกเลกิ คาขอรังวัด
- การตรวจสอบหลักฐานและเอกสารกอ่ นกลับจากการรงั วดั

- การคานวณและลงที่หมายแผนที่
หมวดที่ 7 การรังวัดโดยระบบโครงขา่ ยการรังวัดด้วย

ดาวเทียมแบบจลน์ (RTK GNSS Network)

หมวดที่ 8 การสอบสวนบันทึกถ้อยคา 109

- การบนั ทกึ แบบไม่สมยอมซ้ือขาย แลกเปล่ียน ใหป้ ันแนวเขตกนั 110

- การบนั ทกึ การปักหลกั ไม่ถงึ เขต (หลกั พยาน) 112

- การบันทึกกรณีขา้ งเคียงขอไมล่ งนามรับรองเขตเนื่องจากมสี าธารณฯคน่ั กลางระหว่างทด่ี ิน

- การบันทึกการคัดค้านแนวเขตที่ดิน 116

- การบนั ทกึ แทนผวู้ ายชนม์ กรณเี จ้าของทดี่ ินขา้ งเคยี งผถู้ อื กรรมสทิ ธ์ถิ ึงแกก่ รรม 118

- การบนั ทกึ การลงนามแทนผู้เยาว์ 120

- แกค้ าขอรังวัด และการปกั หลกั เขต 122

- การบันทึกแบ่งหักทส่ี าธารณประโยชน์ 125

- การบนั ทึกแบ่งแยกจากัดเนอ้ื ทเ่ี ป็นไมจ่ ากดั เน้ือท่ี หรอื กลบั กัน 127

- การบันทกึ งดทาการรังวัด 129

4

- การบนั ทึกถอ้ ยคากรณีผถู้ ือกรรมสิทธิ์รวมตกลงเขตทีจ่ ะแบง่ แยกระหวา่ งกันเองไมไ่ ด้ 131

- การบันทกึ ถ้อยคาเจ้าของท่ดี ินข้างเคยี งท่ยี ังไม่มีหนงั สือแสดงกรรมสิทธ์ิ 133

- การบนั ทึกกรณีอื่น ๆ

หมวดที่ 9 การรายงานการรงั วัด 135

- การรายงานการรังวัด 135
• การรายงานการรงั วดั (ร.ว. 3 ก) กรณอี อกโฉนดท่ีดิน 135
• การรายงานการรังวัด (ร.ว. 3 ก) กรณสี อบเขต แบง่ แยก 136

• การรายงานการรงั วดั (ร.ว. 3 ก) กรณีรวมโฉนดที่ดิน 136
- การรายงานการรงั วัดทีต่ ้องใช้แบบพมิ พ์ ร.ว. 3 137

- ความหมายของถ้อยคาทีใ่ ช้ประกอบการรายงานการรงั วดั 137
- การพจิ ารณาดาเนินการยกเลกิ เรื่องท่ีคา้ งอยกู่ องกลางฝาุ ยรังวัด 139
- การเรยี งเอกสารเร่อื งรงั วัดที่ดิน 139

หมวดท่ี 10 การแก้ไขแผนที่และ/หรอื เนอ้ื ที่ 142
- การพิจารณาแกไ้ ขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ 142

• การตรวจสอบหลักฐานแผนที่ 143
• การรายงานและหมายเหตุในหลกั ฐานแผนที่
• การสง่ หลักฐานให้กรมทีด่ นิ พจิ ารณาแกไ้ ขรูปแผนที่หรอื เนื้อที่

- การพิจารณาแกไ้ ขตามมาตรา 69 ทวิ แหง่ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน

หมวดที่ 11 การดาเนนิ การเกย่ี วกับระวางและหลักฐานแผนที่ 145

- ประโยชนข์ องระวางแผนที่

- ชนดิ ของระวางแผนที่

- การเรียกช่อื ระวางแผนที่ / การใช้ระวางแผนท่ี 146

- การลงรูปแผนทีใ่ นระวางแผนที่ 149

• การลงรปู แผนที่ในระวางแผนท่ีกรณีออกโฉนดท่ีดินเฉพาะราย

• การลงรปู แผนทีใ่ นระวางแผนทีร่ ปู ถา่ ยทางอากาศกรณีออกโฉนดท่ีดนิ 151

เฉพาะราย

• การลงรูปแผนท่ีในระวางแผนทีก่ รณกี ารรังวัดสอบเขต แบ่งแยกและ

รวมโฉนดท่ีดิน

• การนารปู แผนทรี่ ังวดั ใหม่ด้วยระบบ RTK GNSS Network ลงระวางแผนท่ี 151

- การควบคมุ เก็บรักษาระวางแผนท่ี 154

• การจัดเกบ็ ระวางแผนท่รี ะบบเดิม

• การจดั เก็บระวางแผนทีร่ ะบบพกิ ดั ฉาก ยู ที เอม็

• การจดั เกบ็ ระวางแผนท่ีแผน่ พมิ พ์

- การควบคุมหลกั ฐานแผนท่ี 156

• ตน้ ร่างแผนที่

ประโยชน์ของต้นรา่ งแผนที่ /การควบคุมตน้ ร่างแผนท่ี /การเกบ็ ตน้ ร่างแผนท่ี

• รายการรังวดั (ร.ว. 67) และรายการคานวณ 5

หมวดที่ 12 การควบคมุ การรงั วดั 162
- ระยะเวลาในปฏบิ ัติงาน 162
- บญั ชีควบคุมงานรงั วดั 163
• บัญชีรับเร่ืองและนัดรงั วัด (ร.ว. 12) 163
• บญั ชีคมุ การนัดรังวัด (ร.ว. 70) 163
• บญั ชีคุมเรอ่ื งประจาตัวชา่ งรังวัด (ร.ว. 71) 164
• บญั ชงี านรงั วดั เกย่ี วกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ 165
• บัญชีคุมงานคา้ ง (กองกลาง) ของฝุายรงั วดั 165
• การรายงานผลงานรงั วัดประจาเดอื น (ร.ว.9 ค) 165
- ขอ้ ควรระวงั ในการปฏบิ ตั ิงาน 167
168
หมวดที่ 13 เครอ่ื งมอื รงั วัด
- การดแู ลรกั ษาเครือ่ งวัดระยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์และกล้องสารวจแบบประมวลผล 171
- ขอ้ ควรระวังการใชเ้ ครื่องมือรงั วดั 171
- ข้อควรระวังเก่ยี วกบั แบตเตอรแี่ ละระบบไฟฟาู ในกล้องและเคร่อื งวัดระยะฯ 175
• ข้อควรระวงั สาหรบั แบตเตอร่ี 177
• ขอ้ กาหนดในการชารจ์ แบตเตอรี่ 177
- การต่อระบบไฟขา้ งนอก 177
- การเบกิ จา่ ยและสง่ คนื เครื่องมอื 178
- โปรแกรมสานักงานท่ดี นิ สาหรับเครือ่ งลงทห่ี มาย 178
179
หมวดที่ 14 เบ็ดเตล็ด 179
- การอ่านคา่ ระยะในไม้สเกล 180
- การยอ่ และขยายแผนที่ 180
- การตรวจหรือคัดหลักฐานแผนท่ี 182
- การเขียนแผนที่ประกอบสัญญาเช่า 183
- การขดี เขตแบง่ แยกในโฉนดท่ดี นิ
- การปิดผนกึ รปู แผนที่ในโฉนดทีด่ นิ
- การต่อรูปแผนที่ในโฉนดทด่ี นิ แบบ น.ส.4จ
- การเขยี นรูปแผนท่ใี นโฉนดทดี่ นิ
- คาสัง่ ให้กลัด ท.ด.80 , ท.ด.80ก และ ท.ด.80ข
- ร.ว.ม. ปรากฏตดิ / ร.ว.ม. ปรากฏเป็น
- หลกั เขตที่ดนิ และรายการประกอบแบบมาตรฐานหลักเขตที่ดนิ
- แบบพมิ พ์เกี่ยวกับงานรงั วัดในสานกั งานท่ีดิน
- กฎ ระเบียบ คาสัง่ ท่ีสาคัญเกย่ี วกับการรงั วดั

6

หมวดท่ี 1

การรังวัด

การรังวดั เป็นศาสตร์แขนงหน่งึ ว่าดว้ ยการหาความสมั พันธ์ของตาแหน่งสิ่งต่าง ๆ บนพ้ืนผิวพิภพ
ซึ่งการรังวัดตามความหมายของกรมท่ีดิน ตามมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน หมายความว่า
การรังวดั ปกั เขต และทาเขต จดหรือคานวณการรังวัด เพื่อให้ทราบท่ีต้ังแนวเขตท่ีดิน หรือทราบท่ีตั้ง
และเน้อื ทีข่ องท่ดี ิน

เมือ่ พิเคราะหถ์ ้อยคาท่ีกฎหมายบัญญตั ิไว้ การรงั วัดตามนยั นี้ แยกออกเป็นหลกั ใหญ่ ๆ ไดด้ งั น้ี
- การรังวัดระยะ (รงั วดั ) แนวเขตที่ดนิ
- การใช้เคร่ืองมือในการรงั วัด การรังวดั เพื่อใหท้ ราบที่ตัง้ ของทีด่ ิน
- การปักหลกั เขตท่ดี ิน
- การทาเขต จด หรอื ทาแนวเขตใหร้ ้วู ่าท่ีดนิ นีจ้ ดเขตท่ีดนิ ของผ้ใู ด
- การคานวณเนือ้ ที่ของทด่ี นิ โดยวธิ คี ณิตศาสตรจ์ ากคา่ พิกัดฉากของแตล่ ะมมุ เขต หรอื

โดยวิธีมาตราส่วน

การรงั วัดเฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน แยกตามแต่ละประเภท ได้แก่ การรังวัด
ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ การรังวัดสอบเขต แบ่งแยก รวมโฉนดท่ีดิน
การรังวดั ตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทาประโยชน์ รวมถึง การออกหนังสือสาคัญสาหรับ
ท่ีหลวง ซ่งึ พอสรปุ ได้ ดงั น้ี

การรงั วดั ออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สือรบั รองการทาประโยชน์
ตามมาตรา 59 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน กาหนดให้ ในกรณีท่ีผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอ
ออกโฉนดท่ีดินหรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ เป็นการเฉพาะราย ไม่ว่าจะได้มีการประกาศของ
รฐั มนตรี ตามมาตรา 58 แลว้ หรือไมก่ ต็ าม หรือไดค้ รอบครองและทาประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจาก
ผู้ซ่ึงมีหลกั ฐานการแจ้งการครอบครอง เมอ่ื พนกั งานเจา้ หนา้ ทีพ่ จิ ารณาเห็นสมควร ให้ดาเนินการออก
โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีประมวล
กฎหมายทด่ี นิ กาหนด โดยผซู้ ่ึงครอบครองและทาประโยชน์ในท่ดี ินอย่กู อ่ นวันทีป่ ระมวลกฎหมายท่ีดิน
ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสาคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5
แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่ไม่รวมถึง ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตาม
มาตรา 27 ตรี ถ้ามีความจาเป็นจะขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เป็นการ
เฉพาะราย เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดาเนินการออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือ
รบั รองการทาประโยชน์แล้วแต่กรณี ไดต้ ามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการทก่ี ฎหมายกาหนด
ตามคาพิพากษาฎีกาท่ี 920/2526 น.ส. 3 มิใช่หลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อใน น.ส. 3 เป็นเจ้าของ
กรรมสิทธ์ิในที่ดินน้ันในทางทะเบียนเช่นเดียวกับโฉนดท่ีดิน ดังนั้น โฉนดที่ดินจึงเป็นเพียงองค์ประกอบ
หน่ึงของทะเบียนที่ดิน การที่จะเป็นทะเบียนที่ดินได้นั้นจะต้องอาศัยกรรมวิธีอ่ืนประกอบด้วย
เช่น สามารถตรวจสอบเพ่ือให้ทราบท่ีตั้งแนวเขตที่ดิน หรือทราบที่ตั้งและเนื้อท่ีของที่ดินได้ด้วย
จึงจะ ครบองคป์ ระกอบ และถือได้ช่ือว่าเป็นหลักฐานทะเบียนที่ดินอย่างแท้จริง เอกสารที่จะถือว่า
เปน็ ทะเบยี นที่ดนิ จะตอ้ งมีองค์ประกอบ ดงั น้ี

7

1. สามารถตรวจสอบทต่ี ั้งแนวเขตทด่ี ิน และเน้ือทีข่ องท่ดี นิ ได้
2. เป็นหนงั สอื สาคัญแสดงกรรมสิทธิท์ ่ดี ิน
การทาทะเบียนท่ีดินเพื่อให้สามารถตรวจสอบที่ตั้งแนวเขตท่ีดิน และเนื้อท่ีของที่ดินได้นั้น
จะตอ้ งมกี ารรงั วดั สร้างหมุดหลักฐานแผนทีแ่ ละสร้างระวางแผนทขี่ ้ึนก่อน เม่ือดาเนินการดังกล่าวเสร็จ
แล้วจึงจดั ใหม้ กี ารรังวัดทาแผนท่ีเพือ่ ออกโฉนดท่ีดิน ซึง่ มีวิธีการรังวัดดงั นี้
วิธีการรงั วัดทาแผนท่ีเพื่อออกโฉนดท่ีดิน ได้ถูกกาหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2497)
และกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 49 พ.ศ. 2544 (แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ) ใหก้ ระทาได้ 2 วิธี คอื
แผนทชี่ ั้นหนึ่ง กระทาโดยการใช้กล้องธีโอโดไลท์และเครื่องมือวัดระยะโยงยึดหลักเขตวัดง่ามมุม
ภาคของทิศ หรือใช้กล้องสารวจแบบประมวลผล หรือการรังวัดด้วยเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียม หรือ
ด้วยเครื่องมือสารวจประเภทอ่ืนที่มีความละเอียดถูกต้องไม่ต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กรมที่ดินกาหนด
โดยคานวณเป็นค่าพิกัดฉากสืบเน่ืองจากหมุดหลักฐานแผนที่ของกรมท่ีดิน และคานวณพ้ืนที่
โดยวธิ ีคณิตศาสตรจ์ ากค่าพกิ ดั ฉากของแตล่ ะมมุ เขต
แผนท่ีชนั้ สอง ซึ่งใช้ระวางแผนที่เป็นหลัก กระทาโดยวิธีวัดระยะเป็นมุมฉาก หรือวัดระยะ
สกัดเป็นรูปสามเหล่ียมจากเส้นหมุดหลักฐานโครงงานแผนที่หรือโดยวิธีจากรูปถ่ายทางอากาศและ
คานวณเนอื้ ทโ่ี ดยวธิ ีคณติ ศาสตร์ หรอื โดยมาตราสว่ น
ทด่ี ินบรเิ วณใดควรกระทาโดยวิธีใด ให้อธิบดกี าหนด (ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา)
ที่ดินในแผนที่ระวางออกโฉนดที่ดิน ซ่ึงรังวัดออกโฉนดท่ีดินไว้แล้ว โดยวิธีแผนที่
ชั้นหน่ึง หรือโดยวิธีแผนท่ีชั้นสองเม่ือมีความจาเป็นต้องรังวัดใหม่ จาต้องรังวัดโดยมีมาตรฐานเท่า
เดิม หรือดีกว่า เช่น เดิมเป็นแผนท่ีช้ันหนึ่งต่อมาต้องรังวัดใหม่ ก็ต้องทาการรังวัดเป็นแผนที่ชั้นหนึ่ง
จะทาการรังวัดเป็นแผนที่ช้ันสองไม่ได้ แต่ถ้าเดิมรังวัดเป็นแผนที่ชั้นสองอยู่แล้ว ต่อมาเม่ือมีการรังวัด
ใหม่จะทาการรังวัดเป็นแผนที่ชั้นสองตามเดิมหรือทาการรังวัดเปล่ียนเป็นแผนท่ีชั้นหนึ่งตามท่ีได้มี
ประกาศกาหนดพ้นื ที่ ให้ทาการรังวัดโดยวิธีแผนที่ชั้นหน่ึง ซ่ึงถือว่ามาตรฐานการรังวัดเท่าเดิมหรือดี
กว่าเดิมกย็ อ่ มกระทาได้
ในการรงั วดั ถ้าเสน้ เขตทีด่ ินท่ีรงั วดั เป็นเส้นคดไปคดมาไม่เป็นเส้นตรง ให้เจ้าของที่ดินท้ังสอง
ฝุายทาความตกลงกาหนดเส้นเขตใหม่ ให้เป็นเส้นตรงเส้นเดียวหรือหลายเส้นต่อกันได้ เม่ือตกลงกัน
ประการใดแล้ว พนักงานเจ้าหน้าท่ีก็จะรังวัดให้เป็นไปตามท่ีตกลงกัน ท้ังน้ี ก็เพ่ือให้รูปแปลงท่ีดินของ
เจ้าของท่ีดินแต่ละแปลงเป็นรูปเหล่ียมที่ดีข้ึน ซึ่งอาจเป็นรูปส่ีเหลี่ยม ห้าเหล่ียม เจ็ดเหลี่ยม
ก็ได้ ทาให้เกิดความสะดวกกับการดูแลรักษาแนวเขต ระงับข้อพิพาทที่อาจจะเกิดข้ึนได้ สะดวกต่อ
การรังวัดและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการปักเขตด้วย เว้นแต่ที่ดินข้างเคียงเป็นที่สาธารณประโยชน์
ซ่งึ ผดู้ ูแลรกั ษาที่สาธารณประโยชน์ไม่มีอานาจหน้าท่ีในการทาความตกลงกาหนดเส้นเขตใหม่ให้เป็น
เส้นตรงได้ เพราะการท่ีจะเปลี่ยนแปลงแนวเขตท่ีสาธารณประโยชน์ได้นั้น ต้องดาเนินการเป็นไปตาม
ผลที่กฎหมายกาหนดไวเ้ ทา่ นนั้
สาหรับการรงั วัดทาแผนทีเ่ ปน็ เรอื่ งค่อนข้างจะหนักไปในทางวิชาการเกี่ยวกับแผนที่อยู่มาก
เมื่อมีความจาเป็นในการจัดทาแผนท่ี กฎหมายจึงได้วางมาตรการบางอย่างไว้เพ่ือคุ้มครองปูองกัน
เจ้าหน้าทแ่ี ละใหอ้ านาจเจา้ หน้าทีท่ ผ่ี ูอ้ อกปฏบิ ตั งิ านในท้องท่ี
การรังวัดออกโฉนดที่ดิน จะต้องดาเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ี
กาหนดในประมวลกฎหมายที่ดิน การออกโฉนดที่ดินจะมีการปักหลักเขตคอนกรีตตามมุมเขตที่ดิน มีเลข
หมายและอักษรย่อช่ือจังหวัดกากับบนหัวหลัก ส่วนหมุดหลักฐานแผนที่เป็นหมุดโลหะทองเหลือง หรือ

8

หมดุ เหลก็ หรอื หมดุ คอนกรีต ทใ่ี ช้ปักหา่ งกันตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกาหนด เพ่ือประโยชน์ในการโยงยึด
หลักฐานแผนที่เมื่อเวลารังวัดเพ่ือออกโฉนดท่ีดิน เป็นการกาหนดตาแหน่งและท่ีต้ังแปลงท่ีดินท่ีออก
ให้แก่ราษฎรโดยไม่มีการเคล่ือนที่ เมื่อต้องการค้นหาหลักเขตท่ีปักไว้ 30 – 40 ปีมาแล้ว เจ้าหน้าท่ี
สามารถช้ีได้ว่าอยู่ตรงจุดใด เม่ือขุดลงไปสามารถเจอหลักเขตนั้นได้ ซึ่งเป็นเร่ืองทางด้านวิชาการ
ในปัจจุบันได้มีการสร้างหมุดดาวเทียม RTK Gnss Network เพ่ือใช้ในการโยงยึดหลักฐานแผนท่ี
ทาใหก้ ารค้นหาหลกั เขตท่ดี นิ กระทาไดง้ า่ ยขึ้น

การรงั วัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดท่ีดนิ ตามประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ม. 69 ทวิ, ม. 79)
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน กาหนดให้ผู้มีสิทธิในที่ดินประสงค์จะขอสอบเขตโฉนดที่ดิน

(มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน) แบ่งแยกท่ีดินออกเป็นหลายแปลงหรือรวมที่ดิน
หลายแปลงเข้าเป็นแปลงเดียวกัน (มาตรา 79 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน) ให้ยื่นคาขอพร้อมด้วย
หนังสือแสดงสิทธิ์ในท่ีดินต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี ส่วนการรังวัดทาแผนท่ีพิพาทตามคาสั่งศาล และการ
รังวัดตรวจสอบท่ีสาธารณประโยชน์ที่ไม่มีหลักฐาน น้ัน ไม่ได้เป็นการรังวัดตามประมวลกฎหมายที่ดิน
(ไม่มบี ทบัญญัตไิ วใ้ นประมวลกฎหมายที่ดิน) เป็นเพียงการรังวัดทาแผนท่ีและส่งรูปแผนท่ีพร้อมเอกสาร
ประกอบการรังวัดท่ีเก่ียวข้องให้กับส่วนราชการผู้มีหนังสือขอความร่วมมือหรือแจ้งให้ทาการรังวัดมา
เพือ่ ใหส้ ่วนราชการน้ันพจิ ารณาดาเนนิ การตอ่ ไป

พนักงานเจ้าหน้าท่ี หมายความว่า เจ้าพนักงานซ่ึงเป็นผู้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ และพนักงานอื่น ซงึ่ รัฐมนตรแี ตง่ ต้งั ให้ปฏบิ ัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ

การรังวัดออกหนงั สอื สาคญั สาหรับท่ีหลวง
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา 8 ตรี ท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับ
พลเมืองใชร้ ว่ มกันหรือใช้เพอื่ ประโยชน์ของแผ่นดนิ โดยเฉพาะ อธบิ ดอี าจจัดใหม้ หี นงั สือสาหรับท่ีหลวง
เพอื่ แสดงเขตไว้เป็นหลักฐาน
วรรคสอง แบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง ให้เป็นไปตามที่
กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 26 พ.ศ.2516 และกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 45 พ.ศ.2537)

9

หมวดท่ี 2
อานาจและหนา้ ที่
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ.2497 กระทรวงมหาดไทยไดอ้ อกคาสง่ั ท่ี 542/2525 เร่อื ง แตง่ ตั้งพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามมาตรา
70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่งต้ังให้ผู้ดารงตาแหน่งช่างรังวัดและนายช่างรังวัด ต้ังแต่ระดับ 4
ข้ึนไป ฝุายรังวัดในสานักงานที่ดินจังหวัดและสานักงานที่ดินสาขา เป็นเจ้าพนักงานท่ีดินตาม
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ในสานกั งานทดี่ ินจงั หวัดและสานกั งานท่ีดินสาขาน้ัน ๆ และตามหนังสือเวียน
กรมที่ดนิ ท่ี มท 0612/1/ว 29715 ลงวันท่ี 21 ธันวาคม 2525 ระบุว่าผู้ท่ีเป็นเจ้าพนักงานท่ีดินตาม
ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ยอ่ มเปน็ พนักงานเจา้ หนา้ ทีต่ ามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายท่ดี ินด้วย
ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ได้กาหนดมาตรฐาน
กาหนดตาแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญทุกส่วนราชการเข้าประเภทตาแหน่ง สายงาน และระดับ
ตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่งใหม่ ทาให้ช่ือตาแหน่งของข้าราชการเปล่ียนแปลงไป เพ่ือให้
เป็นการสอดคล้องกับช่ือตาแหน่งของข้าราชการที่เปลี่ยนแปลงไปตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กระทรวงมหาดไทยมีคาส่ัง ที่ 66/2552 ลงวันท่ี 18 กุมภาพันธ์
พ.ศ.2552 เร่ือง แตง่ ต้ังเจ้าพนกั งานทีด่ นิ ใหผ้ ู้ดารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ในสานักงานท่ีดินจังหวัดและ
สานักงานทีด่ นิ สาขา เป็นเจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ในสานักงานท่ีดินจังหวัดและ
สานกั งานท่ีดนิ สาขานนั้ ๆ คอื
(1) เจ้าพนักงานที่ดินจังหวดั หรือเจ้าพนกั งานที่ดินสาขา
(2) นักวิชาการท่ีดิน ตั้งแตร่ ะดับปฏบิ ตั กิ ารข้นึ ไปในฝุายทะเบยี น
(3) เจา้ พนักงานท่ดี นิ ตัง้ แตร่ ะดับปฏบิ ตั ิงานข้นึ ไปในฝุายทะเบยี น
(4) นายชา่ งรงั วดั ต้งั แตร่ ะดบั ชานาญงานขน้ึ ไปในฝา่ ยรังวัด
(5) ข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ ต้ังแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป หรือ
ประเภทท่วั ไป ตั้งแตร่ ะดบั ปฏิบัติงานขนึ้ ไป ซึ่งอธิบดกี รมทีด่ ินแตง่ ตั้งใหท้ าหน้าท่ีตาม (2) (3) และ (4)
เปน็ การชั่วคราว
ผู้ท่ีเป็นเจ้าพนักงานท่ีดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ย่อมเป็นพนักงานเจ้า หน้าที่
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินด้วย ตามหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท 0612/1/ว29715
ลงวนั ที่ 21 ธนั วาคม 2525 เรอื่ ง แต่งตั้งเจ้าพนกั งานท่ีดินตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
โดยเจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินน้ี คือนายช่างรังวัด ตั้งแต่ระดับชานาญงานข้ึนไป
ในฝุายรังวัดมีอานาจลงนามในหนังสือแจ้งการระวังชี้แนวเขตและลงชื่อรับรองเขตท่ีดิน (ท.ด. 38)
และหนังสือแจ้ง ผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงให้มารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด (ท.ด.81)
ช่างรงั วัดระดบั ปฏิบัตงิ าน ไม่มอี านาจลงนามในหนงั สือดงั กล่าว

หน้าที่ของชา่ งรังวัด
ได้แก่ การรังวัดทาแผนท่ีต่าง ๆ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

และระเบียบคาส่งั กรมทด่ี ิน
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน (มาตรา 66, 70, 70 ทวิ) และระเบียบคาสั่งกรมที่ดิน ได้กาหนด

อานาจหน้าทข่ี องช่างรงั วัด ซึ่งสามารถแยกอานาจหน้าท่ีของช่างรังวัดในการรังวัดท่ีดิน ตามข้ันตอน
การรังวดั ได้ดังนี้

10

อานาจและหนา้ ที่ ของช่างรงั วัดกอ่ นวนั ทาการรังวดั ท่ีดนิ
1. นาเรอื่ งรงั วัดลงบญั ชีคุมเร่อื งประจาตวั ช่างรงั วัด (ร.ว. 71)
2. จัดเตรียมเรื่องรังวัด เช่น ตรวจสอบเลขที่ดินข้างเคียง ขอเบิกต้นร่างหรือรายการ
รังวัดของที่ดนิ ที่ทาการรังวัดและแปลงขา้ งเคียง จดั ทาสาเนารปู แผนทใ่ี นระวาง เป็นต้น
3. จดั ทาหนังสอื (ท.ด. 38) เรียกเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตท่ีดินของตน และ
ลงช่ือรับทราบแนวเขตท่ีดินของตน ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ม. 70 (1) ซึ่งควรแจ้งเจ้าของท่ีดิน
ข้างเคียงทราบลว่ งหนา้ ก่อนวันทาการรงั วดั ไม่น้อยกว่า 15 วนั

อานาจและหน้าที่ ของช่างรังวดั ขณะทาการรังวัดที่ดิน
1. เข้าไปในที่ดินของผู้มีสิทธิในท่ีดินหรือผู้ครอบครองในเวลากลางวัน แต่จะต้องแจ้งให้
ผมู้ ีสิทธิในทดี่ ินทราบเสียก่อน (ม. 66 วรรคแรก) และให้ผู้มีสิทธิในที่ดินหรือผู้ครองครองท่ีดินอานวย
ความสะดวกตามควรแก่กรณี ไดแ้ ก่ กระทาการอย่างใด ๆ แก่การรังวัดเท่าท่ีจาเป็น และการอานวย
ความสะดวกน้ัน ควรเป็นกรณีที่เป็นไปเพ่ือประโยชน์แก่การรังวัดเท่านั้น เช่น การจัดเตรียมจอบ
เสียม ชะแลง (เครื่องมือช่วยอานวยความสะดวกในการรังวัด) การถากถางแนวเขตท่ีดินไว้ล่วงหน้า
การจกั เตรยี มไม้รวกหรือไมร้ ะแนงเพ่ือทาธงปกั ไวต้ ามมุมเขตทด่ี นิ และมุมเขตท่แี บง่ แยก
2. ใหเ้ จ้าของท่ีดนิ และเจา้ ของทดี่ นิ ขา้ งเคยี งนาทาการรังวัดตามเขตการครอบครอง
3. เม่ือเจา้ ของที่ดินและเจ้าของทีด่ ินข้างเคยี งนาทาการรังวัดตามเขตการครอบครองแล้ว
ช่างรังวัดจะต้องทาการรังวัดตรวจสอบตามหลักวิชาการ เพ่ือตรวจสอบสิทธิของผู้ครอบครองที่ดิน
เสียกอ่ นวา่ มีอย่แู ค่ไหนเพียงใดตรงตามหลักฐานเดิมหรือไม่ อย่างไร โดยพิจารณาจากหลักฐานในที่ดิน
เชน่ หมดุ หลกั ฐานแผนที่ หลักเขตเก่า คันเขต ร้ัว ต้นไม้ ยืนต้น ส่ิงปลูกสร้าง เป็นต้น ประกอบกับเอกสาร
หลักฐานของทางราชการ เช่น ตน้ ร่างแผนที่ รายการคานวณ ระวางแผนท่ี เปน็ ต้น
4. สร้างหมดุ หลักฐานแผนทใี่ นท่ดี นิ ของผูใ้ ดก็ได้ตามความจาเปน็ (ม. 66 วรรคสอง)
5. เมือ่ มีความจาเปน็ มอี านาจขุดดนิ ตดั รานกง่ิ ไม้ หรือกระทาการอย่างใด ๆ แก่ส่ิงขวาง
แกก่ ารรังวดั เท่าทจ่ี าเป็น (ม. 66 วรรคสาม)
6. เรียกผู้เก่ียวข้องมาให้ถ้อยคา หรือส่ังให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดเก่ียวข้องกับ
การสอบสวน ม. 70 (2)
7. ให้ผูม้ สี ิทธใิ นทด่ี ินจัดการปักหลักเขตตอ่ หนา้ พนักงานเจา้ หน้าทผี่ ู้ทาการรังวัด
(ให้นา ม. 66 และ ม. 70 มาใช้บังคับแก่การพิสูจน์สอบสวนท่ีดินเพ่ือออกหรือการตรวจสอบ
หนงั สือรบั รองการทาประโยชน์โดยอนุโลม (ม. 70 ทว)ิ )
อานาจดังท่ีกล่าวมานี้ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย กล่าวคือ หากมีผู้ใดฝุาฝืน
หรือไม่ปฏิบัติตามจะต้องมีความผดิ ตามทีก่ ฎหมายไดก้ าหนดโทษไว้

หน้าท่ี ของช่างรังวัดภายหลงั จากวันทาการรงั วดั ทีด่ นิ
ดาเนนิ การเก่ียวกับเรอ่ื งขัดข้องทต่ี อ้ งสอบถามขา้ งเคียง ให้เจ้าหน้าท่ีฝุายรังวัดสอบถามไปภายใน
7 วัน นับแต่วันรังวัดเสร็จ เว้นแต่กรณีท่ีต้องมีแผนที่ประกอบการสอบถามให้สอบถามภายใน 3 วัน
นับต้ังแต่วันส่ังถอนจ่าย และส่งเร่ืองรังวัดภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันทาการรังวัด ซ่ึงได้
กาหนดไว้ในคมู่ ือสาหรบั ประชาชน ขัน้ ตอนการรงั วัด สอบเขต แบง่ แยก รวมโฉนดทด่ี นิ หรือตรวจสอบ
เนอ้ื ท่ี แบ่งแยก รวมหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.อานวยความสะดวก ในการพิจารณา
อนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

11

อานาจและหน้าท่ี ของคนงานรงั วดั
อานาจของคนงานรังวัด ได้ถูกกาหนดขึ้นเพ่ือประโยชน์แก่การรังวัด ซ่ึงตามประมวล
กฎหมายที่ดิน มาตรา 66 วรรคแรก ความว่า “เพ่ือประโยชน์แก่การรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และ
คนงานรงั วดั มีอานาจเข้าไปในท่ีดินของผู้มีสิทธิในที่ดิน หรือผู้ครอบครองในเวลากลางวันได้ แต่จะต้อง
แจง้ ให้ผมู้ สี ิทธใิ นที่ดนิ ทราบเสียก่อน และให้ผู้มีสิทธิในท่ีดินหรือผู้ครองครองท่ีดินอานวยความสะดวก
ตามควรแก่กรณี”
สว่ นหนา้ ที่ ของคนงานรังวดั นน้ั ตามคาส่ังกรมที่ดิน ท่ี 763/2527 เรื่อง การจ้างคนงาน
รงั วัดที่ดนิ ลงวนั ท่ี 21 มถิ นุ ายน 2527 กาหนดให้คนงานรงั วัดมีหน้าท่ีปฏิบัติงานเป็นลูกมือช่างรังวัด
ในการแบกหามอุปกรณ์การรังวัด หลักเขตที่ดิน ถากถางแนวเขตท่ีดิน ขุดค้นหาหลักเขตและ
ปักหลักเขตที่ดนิ ลากโซว่ ัดระยะและอ่ืนๆ ตามทช่ี า่ งรงั วดั สัง่ ใหป้ ฏิบตั ิ

หนา้ ที่ของผขู้ อรังวัดในงานรงั วดั เฉพาะราย
(1) นาทาการรงั วัด ไดแ้ ก่ การนาชแ้ี นวเขตและลงชื่อรบั ทราบแนวเขตทด่ี นิ ของตน
(2) จดั การปักหลกั เขต คือ การดาเนนิ การเก่ียวกับเรือ่ งการปกั หลกั เขต ได้แก่ การจัดหา
หลักเขตท่ีดิน โดยการจ่ายค่าธรรมเนียมค่าหลักเขตท่ีดินให้แก่ทางราชการ (กฎกระทรวงฉบับท่ี 53
พ.ศ.2549 ขอ้ (10) คา่ ธรรมเนียมเบ็ดเตลด็ (ฌ) ค่าหลักเขตที่ดิน) การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ประกอบการ
ปักหลักเขต ได้แก่ อิฐ หิน ปูน ทราย และอุปกรณ์กะเทาะพื้นคอนกรีต เป็นต้น รวมถึงการให้ผู้ขอ
รังวัดจัดการปักหลักเขตท่ีดินลงตรงตาแหน่งมุมเขตที่ดินของตนร่วมกับช่างรังวัดและคนงานรังวัด
เพ่อื ใหผ้ ู้ขอรับทราบตาแหน่งท่แี น่นอนของหลักเขตทีด่ นิ และดูแลรกั ษาเขตท่ีดนิ ของตนตอ่ ไป
(3) ในกรณยี กเลิกคาขอรังวดั ผขู้ อมหี นา้ ท่ีถอดถอนหลักเขตที่ดินที่ตนได้นาปักหลักเขต
ไว้นาสง่ คนื สานกั งานท่ีดนิ

ม.67 ห้ามมิให้ผู้หน่ึงผู้ใด นอกจากพนักงานเจ้าหน้าที่ทาลาย ดัดแปลง เคลื่อนย้าย
ถอดถอนหลักหมายเขต หรือหมุดหลักฐานไปจากท่ีเดิม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท่ีดิน
(ต้องย่ืนคาขอ และ เจ้าพนักงานที่ดินสั่งให้เจ้าหน้าท่ีออกไปทาการให้ โดยผู้ขอมีหน้าที่อานวยความ
สะดวกตามควรแก่กรณี) เช่น ผู้ขอได้ย่ืนคาขอถอดถอนหลักเขตเป็นการชั่วคราว เพ่ือผู้ขอจะทาการ
ก่อสรา้ งกาแพงรั้วคอนกรีตเป็นตน้ จาเป็นต้องให้ช่างรังวัดทาการถ่ายระยะของหลักเขตที่ดิน เม่ือทา
การกอ่ สร้างกาแพงเสร็จแลว้ ใหม้ าแจ้งช่างรังวดั เพอื่ ทาการปักหลักเขตทด่ี นิ ลงตรงตาแหนง่ ท่ีดินเดมิ เป็นตน้

ในวันทาการรังวัดหากผู้ขอขอยกเลิกคาขอรังวัด ช่างรังวัดในฐานะเป็นพนักงาน
เจ้าหน้าท่ีตามประมวลกฎหมายท่ีดิน มีอานาจแจ้งให้ผู้ขอทาการถอดถอนหลักเขตท่ีดินที่ผู้ขอได้นา
ปักหลักเขตไว้และนาไปใชใ้ นราชการตอ่ ไป

(4) อานวยความสะดวกในเรื่องที่เก่ียวข้องกับการรังวัดตามควรแก่กรณี เช่น ติดตาม
บุคคลทเ่ี ก่ยี วข้องหรือผู้สงู อายหุ รอื ผูป้ กครองท้องทมี่ าให้ถอ้ ยคา หรือจัดส่งเอกสารหรือหลักฐานอ่ืนใด
ที่เกี่ยวข้องในการสอบสวน เป็นต้น รวมถึงกรณีท่ีผู้ขอรังวัดรับจะไปส่งหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดิน
ข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตด้วยตนเอง เช่น ข้างเคียงเป็นหน่วยงานทางราชการซึ่งผู้ขอรังวัด
จาเปน็ ตอ้ งนัดหมายเกี่ยวกับการเดินทาง หรือเป็นกรณที ่ีเจ้าของท่ีดินเป็นบุคคลซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณ
ใกล้เคียงกับที่อยู่ของผู้ขอรังวัด หรือที่ดินถมทับหลักเขตสูงเป็นเมตรจานวนหลายหลักต้องใช้เวลา
ในการขุดค้นหาหลักเขตมาก และเพื่อไม่ให้เจ้าของท่ีดินข้างเคียงรอการนาช้ีเขตนาน จึงมีความ
จาเป็นต้องขอความร่วมมือจากผู้ขอให้จัดหาคนงานช่วยขุดค้นหาหลักเขตดังกล่าว เพ่ือแก้ไขปัญหา
ในการปฏิบตั งิ านหลายอยา่ งพร้อมกนั ภายในระยะเวลาที่จากดั ท้งั นี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ขอ การให้

12

ผู้ขอรังวัดยินยอมอานวยความสะดวกตามกรณีดังกล่าวควรจัดทาเป็นบันทึกรวมเรื่องไว้ด้วย
เพื่อปอู งกนั การกล่าวโทษการดาเนนิ การตามอานาจหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีในภายหน้า เว้นแต่เป็นกรณี
ขอให้ผู้ขอรังวัดอานวยความสะดวกแก่การรังวัดเล็กน้อย เช่น การจัดเตรียมจอบ เสียม ชะแลง
(เคร่ืองมือช่วยอานวยความสะดวกในการรังวัด) การจัดเตรียมไม้รวกหรือไม้ระแนงเพ่ือทาธงปักไว้
ตามมมุ เขตท่ีดินและมุมเขตที่แบ่งแยก การมดั รวบกงิ่ ไม้หรือลิดกิ่งไม้ การเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางเล็กๆ
น้อยๆ เปน็ ตน้ จะแจง้ ให้ผู้ขอรงั วัดทราบเพื่อช่วยอานวยความสะดวกให้ด้วยวาจากน็ ่าจะเป็นการเพียง
พอสมควรแก่เหตุ

(ประมวลกฎหมายที่ดิน ม. 66, 70 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรังวัดปักหลัก
หมายเขตท่ดี นิ พ.ศ. 2527 และระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนด
ทดี่ นิ พ.ศ. 2527 หมวด 1 ข้อ 5)

การรังวัดปักหลักเขต เป็นกระบวนการทางานของพนักงานเจ้าหน้าที่ (ช่างฯ /คนงานรังวัด)
ร่วมกบั เจ้าของทด่ี นิ ผ้ซู งึ่ ไดย้ ่ืนคาขอรงั วดั ตามประมวลกฎหมายท่ดี นิ

ส่วนกรณีการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดิน ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน น้ัน
ตามกฎกระทรวงฉบับท่ี 43 ข้อ 6 กาหนดให้ผู้มีสิทธิในที่ดินหรือตัวแทน เป็นผู้ปักหลักตามมุมเขต
ของตน เพ่ือเป็นการอานวยความสะดวกในการรังวัดตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ
และตามนัยกฎกระทรวงฉบับท่ี 43 ข้อ 16 “ในกรณีออกโฉนดที่ดินเฉพารายตามมาตรา 59 และ
มาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ให้ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินยื่นคาขอตามแบ น.ส.1 ข
ท้ายกฎกระทรวงน้ี และให้นาข้อ 10(2) และ (3) ข้อ 11 และข้อ 15 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ซ่ึงตามข้อ
15 (1) ให้มกี ารรงั วดั ทาแผนที่ตามวิธการรงั วดั เพอ่ื ออกโฉนดที่ดนิ โดยให้เจ้าของทดี่ ินปักหลกั หมายเขต
ที่ดินไว้ทกุ มุมท่ดี นิ ของตน

13

หมวดท่ี 3
เอกสารสทิ ธิเกย่ี วกบั ทด่ี นิ

คาวา่ “เอกสารสทิ ธิ” มีบัญญตั ิไว้ใน มาตรา 1 (9) แห่งประมวลกฎหมายทดี่ นิ
มาตรา 1 (9) “เอกสารสิทธิ” หมายความวา่ เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการ กอ่ เปล่ียนแปลง โอน
สงวน หรือ ระงบั ซงึ่ สิทธิ (คอื เอกสารทีเ่ ป็นหลกั ฐานแหง่ การ “เคลอื่ นไหวในสทิ ธิ”)

แบง่ ประเภทเอกสารสิทธดิ งั กลา่ วได้ดงั นี้
1. เอกสารสิทธปิ ระเภทที่ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิในท่ดี ินและยังไม่ใช่หนงั สอื รับรอง

สิทธิครอบครองทีด่ นิ
2. หนังสือแสดงสทิ ธใิ นท่ีดิน ทอ่ี อกใหก้ บั ราษฎรกอ่ นประมวลกฎหมายทดี่ ิน

และตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
3. เอกสารสิทธิท่ีสว่ นราชการอนื่ ออกให้

1. เอกสารสทิ ธิประเภทที่ไม่ใชห่ นังสือแสดงสิทธใิ นท่ีดนิ และไม่ใชห่ นงั สือรับรองสิทธิ
ครอบครองท่ดี นิ

แบบแจง้ การครอบครองท่ดี นิ (ส.ค.1)
แบบแจง้ การครอบครองทด่ี นิ (ส.ค.1) คือใบแจ้งการครอบครองทด่ี ินเป็นหลักฐานว่า
ผูค้ รอบครองเปน็ ผู้แจ้งวา่ ตนครอบครองทดี่ นิ แปลงใดอยู่ (ปจั จบุ ันไม่มีการแจ้ง ส.ค.1 อีกแล้ว) ส.ค.1
ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิท่ีดิน เพราะไม่ใช่หลักฐานท่ีทางราชการออกให้เพียงแต่เป็นการแจ้งการ
ครอบครองที่ดินของราษฎรเท่านั้น ส.ค.1 ถือเป็นหลักฐานแห่งการสงวนสิทธิครอบครอง
(ฎ.456/2506) ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินและยังไม่ใช่หนังสือรับรองสิทธิครอบครองที่ดิน
ดังนน้ั ตามกฎหมาย ทดี่ ินทม่ี ี ส.ค.1 จึงทาการโอนกันได้เพียงแต่แสดงเจตนาสละการครอบครองและ
ไม่ยึดถือพร้อมส่งมอบให้ผู้รับโอนไปเท่าน้ัน ก็ถือว่าเป็นการโอนกันโดยชอบแล้ว ผู้มี ส.ค.1 มีสิทธิ
นามาขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส.3 น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข)
ได้ 2 กรณี คอื

กรณีที่ 1 นามาเป็นหลกั ฐานในการขอออกโฉนดทด่ี นิ ตามโครงการเดนิ สารวจ
ออกโฉนดท่ดี นิ ท่ัวประเทศ กรณนี ้ีทางราชการจะเป็นผู้ออกให้เปน็ ท้องทไ่ี ป โดยจะมีการประกาศให้ทราบ
ก่อนล่วงหน้า

กรณที ่ี 2 นามาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดท่ีดิน หรือหนังสือรับรองการ
ทาประโยชน์ (น.ส.3 น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข) เฉพาะราย คือกรณที ่ีเจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะขอ
ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ก็ให้ไปยืนคาขอ ณ สานักงานที่ดินที่ที่ดินต้ังอยู่
เฉพาะการออกโฉนดท่ีดินน้ี จะออกได้ในพ้ืนท่ีท่ีได้สร้างระวางแผนที่สาหรับออกโฉนดที่ดินไว้แล้ว
เทา่ น้ัน

2. หนงั สอื แสดงสิทธใิ นทด่ี นิ ทอี่ อกให้กับราษฎรกอ่ นประมวลกฎหมายทด่ี นิ
และตามประมวลกฎหมายที่ดนิ

ประมวลกฎหมายท่ดี ิน หมวด 4 การออกหนงั สือแสดงสิทธิในที่ดิน ตามมาตรา 56 บัญญัติว่า
ภายใต้บังคับมาตรา 56/1 แบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการออกใบจอง หนังสือรับรองการทาประโยชน์

14

ใบไต่สวนหรือโฉนดท่ีดิน รวมทั้งใบแทนของหนังสือดังกล่าว ให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
(กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 พ.ศ.2537) ได้แก่

- ใบจอง (น.ส. 2)

ใบจอง คือหนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อเป็นการแสดงความยินยอมให้ครอบครอง
ทาประโยชนใ์ นท่ีดินเป็นการชัว่ คราว ซงึ่ ใบจองนีจ้ ะออกให้แกร่ าษฎรท่ที างราชการได้จัดท่ีดินให้ทากิน
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งทางราชการจะมีประกาศเปิดโอกาสให้จับจองเป็นคราว ๆ ในแต่ละ
ทอ้ งทีแ่ ละผู้ตอ้ งการจับจองควรคอยฟังข่าวของทางราชการ

ผมู้ ีใบจองจะต้องเร่ิมทาประโยชน์ในท่ีดินให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนต้องทาประโยชน์
ในท่ีดินให้แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี นับต้ังแต่วันท่ีได้รับใบจองและจะต้องทาประโยชน์ให้ได้อย่างน้อย
ร้อยละ ๗๕ ของทด่ี ินท่จี ัดให้ ทีด่ นิ ท่ีมีใบจองน้ีจะโอนใหแ้ ก่บคุ คลอนื่ ไมไ่ ด้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก
เม่ือทาประโยชน์ตามเง่ือนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินาใบจองน้ันมาขอออกหนังสือรับรองการ
ทาประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) หรือโฉนดท่ีดินได้แต่หนังสือรับรองการทาประโยชน์
หรือโฉนดทีด่ ินนั้นจะต้องตกอยใู่ นบงั คับห้ามโอนตามเง่อื นไขทีก่ ฎหมายกาหนด

- หนังสือรบั รองการทาประโยชน์ (น.ส. 3) , (น.ส. 3 ก.) , ( น.ส. 3 ข.)

หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. และ น.ส.๓ ข) หมายความวา่ หนงั สือ
รบั รองจากพนกั งานเจ้าหนา้ ที่ว่าไดท้ าประโยชน์ในท่ีดินแลว้

น.ส. 3 ออกให้แกผ่ ู้ครอบครองท่ีดินทั่ว ๆ ไป ในพื้นท่ีที่ไม่มีระวาง มีลักษณะเป็นแผนที่
รูปลอย ไม่มีการกาหนดตาแหน่งที่ดินแน่นอน หรือออกในท้องท่ีท่ีไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ
ซึ่งรัฐมนตรียังไม่ได้ประกาศยกเลิกอานาจหน้าท่ีในการปฏิบัติการตามประ มวลกฎหมายที่ดินของ
หัวหน้าเขต นายอาเภอ หรือปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจาก่ิงอาเภอ (นายอาเภอท้องท่ีเป็นผู้ออก)
แบบ น.ส. 3 ออกตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ 5 (พ.ศ.2497) แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ

น.ส. 3 ก. ในทอ้ งทท่ี ่ีมีระวางรปู ถ่ายทางอากาศ โดยมกี ารกาหนดตาแหนง่ ท่ดี ินในระวาง
รูปถา่ ยทางอากาศ (นายอาเภอทอ้ งที่เป็นผอู้ อกให้) แบบ น.ส. 3 ก. ออกตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ 18
(พ.ศ.2515) แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ

น.ส. 3 ข. ออกในท้องที่ท่ีไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ และรัฐมนตรีได้ประกาศยกเลิก
อานาจหน้าทใี่ นการปฏบิ ัติการตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ของหวั หน้าเขต นายอาเภอหรือปลัดอาเภอ
ผ้เู ป็นหวั หนา้ ประจาก่งิ อาเภอแลว้ (เจ้าพนกั งานที่ดนิ เป็นผู้ออก)

แบบหมายเลข 3 ออกได้ทุกพื้นที่ วิธีการออกเหมือนกับการออก น.ส. 3 แตป่ จั จบุ นั
ไมม่ กี ารออกแลว้ เพราะกรมท่ดี ินไม่พิมพไ์ ปให้ ถ้ามกี ารแบ่งแยกทด่ี ินแปลงแยกจะออก เปน็ แบบ น.ส. 3

- ใบไต่สวน (น.ส. 5)
ใบไตส่ วน คือหนังสือแสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดท่ีดิน และให้หมายความรวมถึง

ใบนา ด้วย ก่อนที่จะออกโฉนดที่ดินทุกคร้ังจะต้องทาใบไต่สวนข้ึนก่อนทุกคร้ัง เพราะใบไต่สวนเป็น
แบบการสอบสวน เหตุที่กฎหมายกาหนดให้ใบไต่สวนเป็นหนังสือแสดงสิทธิ์ท่ีดินและให้จดทะเบียน
สิทธิ์และนิติกรรมในใบไต่สวนได้เช่นเดียวกับโฉนดท่ีดินก็เพราะ เม่ือสมัยก่อนนั้น การท่ีกรมที่ดินได้
ดาเนนิ การเดนิ สารวจออกโฉนดทด่ี ินในทอ้ งทใี่ ดแล้ว เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินจะนาเรื่องการออกโฉนด
ทด่ี นิ ท้งั หมดกลับมาท่กี รมทีด่ ินเพอ่ื เขียนโฉนดแลว้ นาไปแจกโฉนดที่ดินให้ราษฎรภายหลัง บางคร้ังใช้

15

เวลาเป็นปี ๆ ทาให้ราษฎรเดอื ดร้อนเพราะจะทาการโอนที่ดนิ หรือนาที่ดินไปจดทะเบียนสิทธ์ิอื่นไม่ได้
เชน่ จานองเพอื่ ประกันการก้ยู ืมเงิน เปน็ ตน้ กฎหมายจงึ กาหนดให้ใบไต่สวนเป็นหนังสือแสดงสิทธิ์ใน
ทีด่ นิ ท่จี ะจดทะเบียนสทิ ธแ์ิ ละนิติกรรมใด ๆ ไดเ้ ช่นเดียวกับโฉนดที่ดิน

ส่วนใบนาก็เช่นเดียวกับใบไต่สวน กล่าวคือ เมื่อเจ้าหน้าท่ีไปเดินสารวจเพื่อออกโฉนด
ทด่ี นิ ให้เจา้ ของทดี่ นิ ไปนาทาการเดินสารวจ เม่ือเจ้าหน้าท่ีได้ทาการสอบสวนเสร็จแล้วก็ออกใบนาให้
เจ้าของทดี่ นิ ไว้เปน็ หลกั ฐาน ดังนัน้ กอ่ นออกโฉนดทดี่ นิ บางสมัยก็ออกใบไต่สวน บางสมัยก็ออกใบนา
จึงจดทะเบียนสิทธ์ิและนิติกรรมต่าง ๆ ในใบนาได้ ปัจจุบันใบนาไม่มีออกให้ ท่ีเหลืออยู่ก็ส่วนน้อยและ
จะค่อยๆ หมดไป ถ้าทีด่ ินมีใบไตส่ วนและมีหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์แสดงวา่ ท่ีดินน้ันนายอาเภอ
ได้รับรองการทาประโยชน์แล้ว เม่ือจดทะเบียนโอนจะต้องจดทะเบียนในหนังสือรับรองการทา
ประโยชนก์ อ่ นแลว้ จงึ มาจดแจง้ หลังใบไตส่ วน แตถ่ ้าใบไต่สวนมแี บบแจ้งการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑)
หรอื ไมม่ ีหลกั ฐานที่ดนิ ใด ๆ และเปน็ ทีด่ ินท่นี ายอาเภอยังไม่รับรองการทาประโยชน์ จะจดทะเบียนโอน
กันไม่ได้ เวน้ แตเ่ ปน็ การจดทะเบียนโอนมรดก

- โฉนดทดี่ ิน
โฉนดทด่ี ิน (น.ส.4, น.ส. 4 ก. ฯลฯ ปัจจุบนั ใชแ้ บบ น.ส.4 จ ) ตาม ม. 1 แห่งประมวล

กฎหมายที่ดิน หมายความถึง หนังสือแสดงกรรมสิทธ์ิท่ีดิน และให้หมายความรวมถึงโฉนดแผนท่ี

โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราว่า “ได้ทาประโยชน์แล้ว” ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ถือว่ามีกรรมสิทธิ์

ในท่ีดินน้ันอย่างสมบูรณ์ เช่น มีสิทธิใช้ประโยชน์จากท่ีดิน มีสิทธิจาหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใด

เข้ามาเกี่ยวขอ้ งกบั ทรัพยส์ นิ โดยมชิ อบ ดว้ ยกฎหมาย การท่จี ะออกโฉนดที่ดินได้จะต้องเป็นท้องที่ท่ีได้

สร้างระวางแผนท่ีหรือระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศแล้วเท่าน้ัน ถ้าไม่มีจะออกโฉนดท่ีดินไม่ได้

ตาแหน่งของโฉนดทดี่ นิ แต่ละแปลงท่ีออกให้สามารถหาตาแหน่งที่ต้ังของท่ีดินได้แน่นอนเพราะมีการ

ยึดโยงหลักเขตท่ีดินกับลวดรายละเอียดในระวางแผนที่ ซึ่งระวางดังกล่าวสร้างจากศูนย์กาเนิด

ปัจจุบันศูนย์กาเนิดของระวางท่ีใช้อยู่มี 29 ศูนย์ เช่น ที่กรุงเทพมหานครใช้ศูนย์กาเนิดท่ีภูเขาทอง

ท่ีจังหวัดนครปฐม ใช้พระปฐมเจดีย์เป็นศูนย์กาเนิด ท่ีเชียงใหม่ใช้ยอดเจดีย์ของวัดกู่เต้า เป็นต้น

แต่ปัจจุบันกรมที่ดินได้นาระวางแผนที่ระบบพิกัดจาก U.T.M. ซึ่งหาตาแหน่งโดยระบบสากลมาใช้

และระบบศนู ยก์ าเนิดกจ็ ะค่อย ๆ หมดไป

- โฉนดแผนที่
ออกตามประกาศออกโฉนดท่ีดิน ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2445) ซ่ึงโฉนดท่ีดินฉบับแรกออกที่

อาเภอบ้านแปูง อาเภอพระราชวัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันคืออาเภอบางปะอิน ต่อมาได้
ออกเป็นพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2452) เหตุที่เรียกโฉนดแผนท่ี เพราะโฉนด
ท่ีออกมีแผนท่ีด้วย ซึ่งแตกต่างจากโฉนดท่ีแบบเดิมซึ่งไม่มีแผนท่ี เช่น โฉนดสวน โฉนดปุา (เพ่ือประโยชน์
ในการเก็บภาษี) วิธีการออกโฉนดแผนที่เหมือนกับการออกโฉนดที่ดินทุกประการ หรือจะกล่าวว่า
โฉนดแผนที่กค็ อื โฉนดที่ดนิ กไ็ ม่ผดิ

- โฉนดตราจอง
ออกตามพระราชบัญญัติออกตราจองชว่ั คราว ร.ศ. 121 (พ.ศ. 2446) ซึ่งตอ่ มาได้เปลี่ยน

นามเป็นพระราชบัญญัติออกโฉนดตราจอง ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2449) ออกในมณฑลพิษณุโลก คือ
จงั หวัดพิษณโุ ลก พิจิตร อุดรดิตถ์ และสุโขทัย ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดทาให้โฉนดตรา

16

จองตกอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์บางส่วน ปัจจุบันไม่มีออก (เพราะ พ.ร.บ.ออกโฉนดตราจอง ร.ศ. 124
ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497) จะออกใหม่ก็เฉพาะออกเนื่องจากการ
แบ่งแยกโฉนดตราจองเดิม แต่ปัจจุบันกรมที่ดินไม่ได้พิมพ์แบบพิมพ์โฉนดตราจองแล้ว จึงให้นาแบบ
พมิ พโ์ ฉนดท่ดี ินมาใชแ้ ทนแล้วประทับตราว่า “โฉนดตราจอง” โฉนดตราจองเป็นหนังสือสาคัญแสดง
กรรมสิทธิ์เช่นเดยี วกับโฉนดที่ดิน จงึ จดทะเบยี นสิทธแิ์ ละนิติกรรมตา่ ง ๆ ได้เช่นเดยี วกับโฉนดท่ดี ิน

- ตราจองที่ตราว่าได้ทาประโยชน์แล้ว ออกตราพระราชบัญญัติออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับ
ท่ี 6) พ.ศ. 2479 ออกได้ท่ัว ๆ ไปไม่จากัดพ้ืนท่ี เช่น โฉนดตราจอง เดิมได้มีการออกตราจองท่ีเป็น
ใบอนุญาต เจ้าพนักงานท่ีดินเป็นผู้ออกเมื่อทาประโยชน์เสร็จแล้ว เจ้าพนักงานที่ดินจะออก
ตราจอง “ได้ทาประโยชน์แล้ว” ให้ ปัจจุบันไม่มีออก (เพราะ พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับท่ี 6)
พ.ศ.2479 ถูกยกเลิก โดย พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497) จะออกใหม่ก็เฉพาะ
ออกเน่ืองจากการแบง่ แยกตราจองฯ เดิม แต่ปัจจุบันกรมที่ดินไม่ได้พิมพ์แบบพิมพ์ตราจองฯ แล้วจึง
ใหน้ าแบบพิมพ์โฉนดที่ดินมาใชแ้ ทน แลว้ ประทับตราวา่ “ตราจอง” เป็นหนงั สอื สาคญั แสดงกรรมสิทธ์ิ
เช่นเดียวกับโฉนดท่ีดนิ จงึ จดทะเบยี นสิทธแิ์ ละนิติกรรมตา่ ง ๆ ไดเ้ ช่นเดยี วกบั โฉนดทดี่ ิน

- โฉนดที่ดนิ คอื หนงั สือสาคัญแสดงกรรมสทิ ธใิ์ นท่ีดิน ซ่ึงออกให้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ปัจจุบัน นอกจากน้ียังรวมถึงโฉนดแผนท่ี โฉนดตราจอง และตราจองท่ีว่า "ได้ทาประโยชน์แล้ว"
ซง่ึ ออกใหต้ ามกฎหมายเก่า แต่กถ็ อื วา่ มกี รรมสิทธ์ิเชน่ กัน ผู้เปน็ เจ้าของที่ดิน ถือว่ามีกรรมสิทธ์ิในที่ดิน
นั้นอย่างสมบูรณ์เช่น มีสิทธิใช้ประโยชน์จากท่ีดิน มีสิทธิจาหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใดเข้ามา
เกีย่ วขอ้ งกับทรัพย์สินโดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย

โฉนดท่ีดนิ , น.ส. 3 เปน็ หลักฐานแหง่ การก่อสิทธิ ( ฎ.1904 / 2540 , ฎ.2684 / 2531 )

3. เอกสารสทิ ธิทส่ี ่วนราชการอน่ื ออกให้
เอกสารสทิ ธิท่รี าชการออกให้ทจี่ ะกลา่ วตอ่ ไปน้ี ไมใ่ ชห่ นังสือแสดงสิทธิ ในท่ีดิน ผู้ที่มีแบบ

ก.ส.น. 5 ก็ดี น.ค.3 ก็ดี จะต้องไปขอออกหนังสือรับรองทาประโยชน์หรือโฉนดที่ดินแล้วแต่กรณี ซึ่งเม่ือ
ออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี ินดงั กลา่ วแล้วจะต้องห้ามโอน 5 ปี รายละเอียด ดังน้ี

ก.ส.น. 5 เป็นหนงั สือแสดงการทาประโยชน์ ซึ่งออกให้ในนิคมสหกรณ์ ตาม พ.ร.บ.จัดทดี่ ิน
เพอ่ื การครองชพี พ.ศ. 2511

น.ค. 3 เป็นหนงั สอื แสดงการทาประโยชน์ ซึง่ ออกใหใ้ นนิคมสร้างตนเอง ตาม พ.ร.บ.จัด
ทด่ี ินเพอื่ การครองชพี พ.ศ. 2511

ส.ท.ก. เปน็ หนงั สือสิทธิทากนิ ในเขตปุาไม้ ซ่ึงทางกรมปุาไม้เป็นผู้ออกให้
กรมปุาไม้ได้เร่ิมดาเนินการให้สิทธิทากิน (สทก.) ในเขตปุาสงวนแห่งชาติ มานับตั้งแต่

ปี 2525 ต่อมาปี พ.ศ. 2528 รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติปุาสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.
2528 กาหนดให้มีมาตรา 16 ทวิ และมาตรา 16 ตรี ขึ้นเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่มีความจาเป็นในการ
ครองชีพ สามารถเข้าทากินในเขตปุาสงวนแห่งชาติได้โดยไม่เดือดร้อน และโดยมีท่ีอยู่เป็นหลักแหล่ง
ซึ่งความตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการรับรองว่าสิทธิทากิน (สทก.) ในเขตปุาสงวนแห่งชาติท่ี
กรมปาุ ไมม้ อบให้กับราษฎรนั้นเปน็ ไปตามกฎหมาย

17

ส.ป.ก เป็นการปรับปรุงเก่ียวกับสิทธิและการถือครองในที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมี
สานักงานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นผู้รับผิดชอบ ดาเนินการภายใต้ พ.ร.บ. การปฏิรูป
ทด่ี นิ เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบับท่ี 2)พ.ศ. 2519 และ(ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2532

ภ.บ.ท. 5 เป็นแบบแสดงรายการเพือ่ ชาระภาษีบารุงท้องที่ ไมใ่ ช่เอกสารสทิ ธติ์ ามประมวล
กฎหมายทดี่ ิน ทาได้เพียงการส่งมอบการครอบครองที่ดินให้แก่กันเท่านั้น ไม่สามารถไปจดทะเบียน
สิทธแิ ละนติ กิ รรม ณ สานกั งานทดี่ ินทอ้ งท่ีได้ บคุ คลท่ีมีช่ือใน ภ.บ.ท. 5 อาจจะไม่ใช่เจ้าของท่ีดินและ
ท่ีดนิ อาจจะเปน็ ที่หวงหา้ ม ทไี่ ม่อยใู่ นหลักเกณฑ์ทจี่ ะออกเอกสารสิทธติ ามประมวลกฎหมายที่ดินก็ได้

(ผู้ท่ีมีแบบ ก.ส.น. 5 ก็ดี น.ค. 3 ก็ดี จะต้องไปขอออกหนังสือรับรองทาประโยชน์หรือ
โฉนดที่ดินแล้วแต่กรณี ซ่ึงเมื่อออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวแล้ว จะต้องห้ามโอน 5 ปี หรือ
เป็นไปตามข้อบังคบั ท่กี ฎหมายกาหนด)

18

หมวดที่ 4

การรับคาขอ การนัดรังวัด การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการรังวัด และ
การยกเลิกคาขอ

ตอนท่ี 1 การรับคาขอ
1.1 การรับคาขอประเภทท่ีมีโฉนดทีด่ นิ แล้ว
เมื่อเจ้าของที่ดินมีความประสงค์ ขอรังวัดสอบเขต แบ่งแยก หรือรวมโฉนดท่ีดิน

ใหย้ ื่นคาขอต่อเจา้ พนักงานท่ีดนิ ณ สานกั งานทีด่ ินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยกที่ที่ดินนั้นต้ังอยู่ พร้อมด้วย
โฉนดทด่ี ินสาเนาทะเบยี นบา้ น สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน ถ้ามีชื่อร่วมกันหลายคนต้องไปทุกคน
หรือทาหนังสือมอบอานาจให้ผู้ใดไปทาการแทนก็ได้ กรณีโฉนดท่ีดินติดจานองอยู่ต้องมีหนังสือ
แสดงความยินยอมจากผู้รับจานองมาประกอบคาขอด้วย

การรบั คาขอประเภทรงั วัดสอบเขต แบ่งแยกและรวมโฉนดท่ีดิน ผู้ขอต้องย่ืนคาขอ
ตามแบบ ท.ด. 9 หากเป็นการรังวัดแบ่งกรรมสิทธิ์รวมให้ใช้แบบ ท.ด. 16 บันทึกข้อตกลง
เรื่องแบ่งกรรมสิทธร์ิ วมเปน็ คาขอ เม่อื เขียนประเภทคาขอแล้วให้เขียนตาแหน่งท่ีดิน โดยกรอกรายละเอียด
ตามรายการทปี่ รากฏในโฉนดที่ดินแปลงนั้น ตามด้วยชื่อและที่อยู่ของผู้ขอรังวัดให้ครบถ้วน และให้จาลอง
รูปแผนท่ีหลังโฉนดท่ีดินจากฉบับเจ้าของที่ดินไว้ด้านหลังคาขอ หรือจะใช้วิธีถ่ายรูปแผนท่ี
หลังโฉนดท่ีดินเดิมก็ได้ ถ้าเป็นกรณีแบ่งแยกให้แสดงรูปแผนท่ีสังเขปของการแบ่งแยก
แลว้ ให้ผูข้ อลงชอ่ื รับรองรปู แผนท่ีไว้ด้วย ทั้งน้ี เพือ่ สะดวกแกก่ ารออกหนังสอื ถึงเจ้าของท่ีดินข้างเคียง
สาหรบั การถ่าย หรอื จาลองนั้นไม่ตอ้ งเรียกค่าธรรมเนียม

ขั้นตอนการดาเนินการรับคาขอสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดที่ดิน ของเจ้าหน้าท่ี
ฝุายทะเบียน มดี ังนี้

1. ผ้ขู อตอ้ งยน่ื คาขอตามแบบ ท.ด. 9 หรือ ท.ด. 16 แลว้ แต่กรณี
2. เจา้ หน้าทต่ี รวจสอบสารบบ ตรวจลายมือชือ่ ตรวจบญั ชอี ายดั
3. ลงบัญชีรบั ทาการประจาวนั (บ.ท.ด. 2)
4. เขียนใบสัง่ เงนิ ค่าธรรมเนียม ให้ผู้ขอชาระเงินค่าธรรมเนียม คาขอแปลงละ 5 บาท
หากเป็นกรณีมอบอานาจให้เรยี กค่ามอบอานาจและปิดอากรแสตมป์ให้ครบถ้วน
5. ลงบัญชสี ถติ งิ าน และเงนิ คา่ ธรรมเนียม (บ.ท.ด. 21)
6. ลงบัญชคี มุ เรอื่ งรังวัด (บ.ท.ด. 11)
7. เขยี นข้อความในบันทกึ หน้าเร่อื งรงั วัด (ท.ด. 82)
8. เขียนใบแจ้งเร่ืองระหว่างดาเนินการ (ท.ด. 74) กลัดหลังโฉนดฉบับสานักงานที่ดิน
เพอ่ื แสดงว่าท่ดี นิ แปลงน้มี ีการขอรังวัด
9. เสนอเจ้าพนักงานท่ดี ินลงนาม และส่งเร่ืองใหฝ้ ุายรังวัดดาเนนิ การ

1.2 การรับคาขอประเภทที่ยงั ไม่มีโฉนดท่ีดนิ
เม่ือเจ้าของที่ดินมีความประสงค์ ขอรังวัดออกโฉนดท่ีดินให้ยื่นคาขอ

ต่อเจ้าพนกั งานทดี่ ิน ณ สานักงานทด่ี นิ จงั หวัด/สาขา/สว่ นแยกทท่ี ่ีดินนั้นต้ังอยู่ พร้อมด้วยหลักฐานที่ดิน
อย่างใดอยา่ งหนึง่ เชน่ แบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค. 1) รวมตลอดถงึ ผูค้ รอบครองตอ่ เน่ือง ใบจอง (น.ส. 2)
ใบเหยยี บย่า แบบหมายเลข 3 หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ (น.ส. 3, น.ส. 3 ก., น.ส. 3 ข., สค. 1 )

19

ตราจอง ตราจองท่ีตราวา่ “ไดท้ าประโยชน์แล้ว” หนังสือแสดงการทาประโยชน์ นิคมสร้างตนเอง (น.ค. 3)
หนังสือแสดงการทาประโยชน์สหกรณ์นิคม (กสน. 5) ใบแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในท่ีดิน
ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน หรือไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินแต่ได้ครอบครองท่ีดิน
มาก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ เป็นต้น รวมท้ังสาเนา ทะเบียนบ้าน สาเนาบัตรประจาตัว
ประชาชน บนั ทึกคาชี้แจงตรวจและชี้ระวางแผนที่ (ร.ว. 10) กรณีหลักฐานที่ดินที่นามาขอออกโฉนดท่ีดิน
ตดิ จานอง จะตอ้ งมีหนังสือแสดงความยนิ ยอมจากผ้รู บั จานองมาประกอบคาขอดว้ ย

การรับคาขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ผู้ขอต้องย่ืนคาขอตามแบบ น.ส. 1 ข. ก่อนยื่นคาขอ
ต้องให้ผู้ขอช้ีระวางแผนท่ีก่อน โดยให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝุายรังวัดของสานักงานที่ดินฯ การช้ีระวาง
แผนทีก่ เ็ พ่อื จะใหท้ ราบตาแหน่งท่ีตั้งของท่ีดิน และรูปแผนที่ประมาณเขตติดต่อข้างเคียงท้ังส่ีทิศ หากผู้ขอ
รังวัดขอออกโฉนดที่ดินให้จดหมายเลขระวาง เลขท่ีดิน หน้าสารวจ โฉนดท่ีดินเลขที่ ตาบล อาเภอ
ของท่ดี ินใกลเ้ คยี งมาด้วย กจ็ ะเปน็ การสะดวกแก่การค้นหาที่ดินแปลงท่ีจะขอออกโฉนดได้รวดเร็วย่ิงขึ้น
เน่ื อ ง จ า ก ใ น ก า ร อ อ ก โ ฉ น ด ที่ ดิ น เ ฉ พ า ะ ร า ย จ ะ กร ะ ท า ไ ด้ ใ น บ ริ เ ว ณท่ี ดิ น ที่ ได้ สร้ างระวางแผนท่ี
เพื่อการออกโฉนดท่ีดินไว้แล้ว สาหรับการทราบอาณาเขตติดต่อข้างเคียงท้ังส่ีทิศก็เพื่อสะดวก
ในการแจ้งให้เจ้าของท่ีดินข้างเคียงมาระวังช้ีและรับรองแนวเขตที่ดิน ถ้าเจ้าของท่ีดินข้างเคียง
ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนท่ีปรากฏในสานักงานที่ดินฯ ก็ไม่สามารถจะส่งหนังสือแจ้งให้ข้างเคียง
มาระวังช้ีและรับรองแนวเขตท่ีดินได้ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ดินท่ีจะต้องค้นหาให้ทราบท่ีอยู่
ของเจ้าของท่ีดินข้างเคียงและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เม่ือพบท่ีดินแปลงที่จะขอออกโฉนดท่ีดิน
ในระวางแผนที่แล้ว เจ้าหน้าที่จะเขียนรูปแผนที่ท่ีดินโดยประมาณลงในแบบบันทึกคาช้ีแจงตรวจ
และช้ีระวางแผนท่ี (ร.ว. 10) พร้อมท้งั เขยี นชอ่ื ที่อยู่และตาแหนง่ ทด่ี ินแปลงขา้ งเคียง (ถ้ามี) โดยกรอก
ขอ้ ความและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แล้วให้ผู้ขอลงชื่อพร้อมด้วยช่างรังวัดผู้บันทึกลงชื่อด้วย
สาหรับการตรวจและช้รี ะวางแผนทเ่ี พอื่ ออกโฉนดที่ดนิ ไมต่ อ้ งเสียคา่ ธรรมเนียม

ตอนท่ี 2 การช้ตี าแหน่งประกอบการรบั คาขอออกโฉนดท่ดี ินเฉพาะราย
การชีต้ าแหนง่ ประกอบการรับคาขอออกโฉนดทด่ี นิ เฉพาะราย เป็นงานที่ต้องดาเนินการ

ก่อนการรบั คาขอออกโฉนดทด่ี ินเฉพาะราย ข้นั ตอนการออกโฉนดท่ีดนิ เฉพาะราย มดี งั น้ี
1. ผู้ขอต้องช้ีระวางแผนท่ี (ร.ว.10) ที่ฝุายรังวัด เพื่อประโยชน์ในการออกหนังสือ

แจ้งข้างเคียง โดยให้ผู้ขอนาสาเนาโฉนดท่ีดินแปลงใกล้เคียงที่ดินท่ีขอออกโฉนดฯ หรือสอบถาม
ใหไ้ ด้ข้อมูลว่าที่ดนิ อยู่หา่ ง หรืออยู่ใกล้สถานท่ีสาคัญต่าง ๆ เช่น วัด โรงเรียน แม่น้า คลอง หนอง บึง
ถนนสายใด ไปทางทิศใด เป็นระยะทางเท่าไหร่ และตั้งอยู่หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ ใด เพ่ือให้สามารถ
กาหนดตาแหน่งท่ีดินในระวาง และส่งหมายแจ้งที่ดินข้างเคียงได้ถูกต้อง หากท่ีดินข้างเคียง
เป็นที่มกี ารครอบครอง (ท.ค.) หรือหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ (น.ส.3) ตอ้ งใหผ้ ู้ขอนาชื่อและท่ีอยู่
ในปัจจุบันของเจ้าของท่ีดินดังกล่าวมาให้พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐานด้วย เพ่ือปูองกันเหตุกรณีการ
แจง้ ขา้ งเคยี งผิดพลาดคลาดเคล่ือนไมต่ รงกบั ผูม้ ีสิทธค์ิ รอบครองทาประโยชน์ในที่ดินในปัจจุบัน หากผู้
ขอไมท่ ราบ ควรแนะนาใหผ้ ู้ขอสอบถามได้จากกานันหรือผใู้ หญ่บ้านในท้องทแ่ี หง่ นนั้

2. ผู้ขอตอ้ งยืน่ คาขอตามแบบ น.ส. 1ข.
3. เจา้ หนา้ ท่ลี งบญั ชีรบั ทาการประจาวัน (บ.ท.ด. 2)
4. เขียนใบสั่งเงินค่าธรรมเนียม ให้ผู้ขอชาระเงินค่าธรรมเนียม คาขอแปลงละ 5 บาท
หากเปน็ กรณีมอบอานาจให้เรียกคา่ มอบอานาจและตดิ อากรแสตมป์ให้ครบถว้ น
5. ลงบญั ชีสถิติงาน และเงินคา่ ธรรมเนียม (บ.ท.ด. 21)

20

6. ลงบัญชีคุมเรอื่ งรังวัด (บ.ท.ด. 11)
7. เขยี นขอ้ ความในบันทกึ หนา้ เรื่องรงั วัด (ท.ด. 82)
8. เสนอเจ้าพนกั งานที่ดินลงนาม และส่งเรอื่ งให้ฝาุ ยรงั วดั ดาเนนิ การ

ตอนท่ี 3 สว่ นราชการมหี นังสือขอความรว่ มมอื หรอื แจ้งให้ทาการรังวดั
การช้ีตาแหน่งท่ีดินกรณีส่วนราชการมีหนังสือขอความร่วมมือ หมายถึง การชี้ตาแหน่ง

เพ่ือให้ทราบที่ต้ังของที่ดินเท่าน้ัน มิได้หมายถึงให้ทาการรังวัดสอบเขตที่ดินตามระเบียบกรมที่ดิน
แต่อยา่ งใด

การชี้ตาแหน่งท่ีดิน แยกวิธีดาเนินการออกเป็นสองกรณี คือ มี หรือไม่มีบันทึกข้อตกลง
ระหว่างกรมทีด่ นิ กับหนว่ ยงานของราชการ ดังนี้

การชี้ตาแหน่งท่ีดิน กรณีมีบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับหน่วยงานของราชการ
การดาเนินการใหเ้ ปน็ ไปตามบนั ทึกขอ้ ตกลงนั้น ๆ ได้แก่

- การช้ีตาแหน่งท่ีดินตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับกรมบังคับคดี ท่ี มท
0711/ว 25887 ลงวันท่ี 21 พฤศจิกายน 2526 ท่ี มท 0726/ว 23 มถิ ุนายน 2540

- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับกรมสรรพกร ที่ มท 0705/ว 4155 ลงวันท่ี 19
กมุ ภาพันธ์ 2528

- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับกรมแรงงาน ท่ี มท 0705/ว 22608 ลงวันท่ี 1
ตุลาคม 2529

- บันทกึ ข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับสานักงาน ก.พ. ที่ มท 0705/ว 19744 ลงวันท่ี
25 กันยายน 2533

- บันทกึ ข้อตกลงระหวา่ งกรมท่ีดนิ กบั กองทนุ เพอ่ื การฟ้ืนฟแู ละพฒั นาระบบสถาบนั การเงิน
ลงวนั ท่ี 26 พฤศจิกายน 2544

- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับสานักงานปูองกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ท่ี มท 0514/ว 15271 ลงวนั ท่ี 13 มิถุนายน 2546

ตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการชี้ตาแหน่งท่ีดินเพ่ือยึดทรัพย์นายประกันตาม
คาส่ังศาล พ.ศ. 2526 กรณีการช้ีตาแหน่งที่ดินท่ีมีบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับหน่วยงานของ
ราชการกาหนดให้หวั หน้าฝุายรังวัดทาการนัดรังวัดเป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องนัดตามลาดับคาขอ เม่ือกาหนด
เจ้าหน้าที่และวันทาการแล้ว ให้ลงบัญชีตามระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการควบคุมงานรังวัดในสานักงาน
ที่ดิน พ.ศ.2523 พร้อมทั้งแจ้งให้กองยึดอายัดและจาหน่ายทรัพย์สิน หรือสานักงานบังคับคดีและ
วางทรพั ยภ์ ูมิภาค กรมบังคับคดี หรือหน่วยงานตามบันทึกข้อตกลงทราบลว่ งหน้าไม่นอ้ ยกวา่ 25 วนั

การชี้ตาแหน่งท่ีดิน กรณีท่ีไม่มีบันทึกข้อตกลงกับกรมท่ีดิน ให้ดาเนินการตามหนังสือ
กรมทด่ี นิ ท่ี มท 0726/ว 02433 ลงวันที่ 31 มกราคม 2544 เรื่อง หน่วยราชการขอให้นาชี้ตาแหน่ง
ทด่ี ิน เมื่อหน่วยงานทางราชการน้ันมีหนังสือขอความร่วมมือ มาให้ช้ีตาแหน่งที่ดิน ให้ถือว่าหนังสือ
ดังกล่าวไม่เป็นคาขอรังวัด และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือ
เจา้ พนกั งานทดี่ นิ จงั หวดั สาขาให้ความอนเุ คราะห์ส่ังให้ช่างรังวัดร่วมไปกับเจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานนั้น
ออกไปช้ีตาแหน่งของที่ดินโดยยึดระวางแผนท่ีเป็นหลัก แล้วชี้ตาแหน่งให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้น
ทราบวา่ ท่ดี นิ ตามหนงั สือแสดงกรรมสทิ ธิอ์ ยู่ในบริเวณใดเท่านน้ั โดยไมต่ อ้ งเขา้ ไปในท่ดี ินเพือ่ ทาการขุด

21

หรือค้นหาหลักเขตท่ีดิน จึงไม่ต้องมีหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงทราบตามความในมารา 66
แหง่ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน แตอ่ ยา่ งใด

ส่วนราชการมีหนังสือถึงสานักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ขอความร่วมมือหรือ
แจ้งให้ทาการรังวดั เช่น การรงั วดั ทาแผนทีพ่ พิ าทตามคาส่ังศาล การออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง
การออกโฉนดที่ดินท่อี ย่ใู นเขตจัดรูปท่ีดิน การรังวัดตรวจสอบท่ีสาธารณประโยชน์ ที่ไม่มีหนังสือสาคัญ
สาหรบั ท่ีหลวง การชตี้ าแหนง่ ท่ีดินตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับกรมบังคับคดี , กรมแรงงาน ,
สานกั งาน ก.พ. หรือกองทนุ เพอ่ื การฟนื้ ฟแู ละพัฒนาระบบสถาบนั การเงิน เป็นต้น กรณดี ังกลา่ วขา้ งต้น
ใหถ้ ือว่าหนงั สอื ท่แี จ้งนั้นเป็นคาขอให้รบั ดาเนินการตอ่ ไป สาหรบั การรังวัดทาแผนที่พิพาทตามคาสั่งศาล
เจา้ พนักงานที่ดินผู้ไปทาแผนที่พิพาทตามคาส่ังศาลไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 1 และมาตรา 67
แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน เพราะมิได้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินเป็นแต่ศาลหรือส่วนราชการ
รอ้ งขอใหด้ าเนนิ การให้ในฐานะผ้ชู านาญงานหรอื มคี วามรใู้ นทางการรังวัดทาแผนทเ่ี ทา่ นั้น

ตอนท่ี 4 การนัดรังวดั
ให้หวั หนา้ ฝา่ ยรงั วดั หรอื ผูท้ ่ไี ด้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้นัดทาการรังวัด

ทาการนัดรังวดั ตามเกณฑ์ทก่ี รมท่ดี นิ กาหนดโดยคานงึ ถึงความรู้ความสามารถ และสมรรถนะของช่างรังวัด
แต่ละคนว่ามีขีดความสามารถในการรังวัดได้เดือนละกี่ราย ถ้านัดงานรังวัดให้มากเกินไปจะทาให้งานค้าง
ในมือมาก และเมื่อช่างรังวัดออกไปทาการรังวัดแล้วต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตาม
ระเบียบทก่ี รมทดี่ ินกาหนด มิให้นดั รังวัดขา้ มลาดับ ให้นัดเรือ่ งรังวดั ใหช้ ่างรังวัดเรียงไปตามลาดับในบัญชี
คมุ การนดั รงั วัด (ร.ว. 70) ทั้งนเ้ี พื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ยื่นคาขอและเป็นการปูองกันข้อครหาต่างๆ
อนั จะมขี ึ้นแก่เจา้ หน้าท่ี

ในกรณที ไี่ มส่ ามารถทาการรงั วดั ได้ในวนั นดั เชน่ ผขู้ อแจ้งวา่ นา้ ท่วม ก็ให้บันทึกถ้อยคาผู้ขอไว้
ตามแบบบันทึกถ้อยคา (ท.ด. 16) ว่าจะให้นัดทาการรังวัดวันใดโดยให้เลือกเอาวันใดวันหน่ึง แต่ต้องไม่
กอ่ นวนั ที่ได้นัดรังวัดไวแ้ ลว้ โดยเกบ็ บนั ทกึ นั้นไว้เปน็ หลกั ฐานรวมเร่ืองไว้เป็นตน้

หากผู้ขอรายใดมีความประสงค์จะขอให้นัดรังวัด ให้เร็วเป็นกรณีพิเศษ โดยแจ้งว่ามีธุระ
จาเปน็ เร่งด่วนที่จะต้องดาเนนิ การใหเ้ สร็จโดยเรว็ ในกรณนี ี้ตามระเบยี บกรมท่ดี นิ ว่าด้วยการรับคาขอ
รังวัด การนัดรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ. 2547 ลงวันท่ี 17 ธ.ค. 47
กรมที่ดินได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้มีการนัดรังวัดเป็นกรณีพิเศ ษ
นอกเหนือจากลาดับได้ โดยเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก จะต้องสอบสวนผู้ขอและผู้ท่ี
เก่ียวข้องถึงเหตุผล ตลอดจนความจาเป็นเร่งด่วนจริง ๆ เป็นกรณี ๆ ไปท้ังนี้ต้องมีเอกสารหลักฐาน
ประกอบการสอบสวนด้วย สาหรับอานาจการพิจารณาอนุญาตน้ีเป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยเฉพาะ หากผู้ว่าราชการจังหวัดจะมอบหมายให้ผู้ใดดาเนินการควรออกคาส่ังให้ชัดแจ้งรัดกุมและ
เพื่อปูองกันข้อครหา ไม่ควรมอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก เป็นผู้พิจารณา
อนญุ าตแทน

อนง่ึ บริเวณพนื้ ทล่ี ุ่มท่ีมีน้าท่วมในฤดูฝนและฤดูนา้ หลาก เม่ือมีคาขอเกิดข้ึน ควรจะนัดรังวัด
เป็นกลุ่มในฤดูที่น้าไม่ท่วม ท้ังน้ีไม่ต้องนัดตามลาดับท่ียื่นคาขอให้ทาเร่ืองขออนุมัติผู้ว่าราชการจังหวัด
เป็นคราว ๆ ไปส่วนบริเวณใดที่น้าไม่ท่วม ก็นัดรังวัดไปตามปกติ ในกรณีที่ผู้ขอได้มายื่นคาขอรังวัด
สอบเขตโฉนดท่ีดินหลายแปลงพร้อมกัน หากที่ดินท่ีขออยู่บริเวณใกล้เคียงกันและสามารถจะนัด
ทาการรังวัดสอบเขตได้ในวันเดียวหลายแปลง โดยไม่เป็นปัญหาแก่เจ้าของท่ีดินข้างเคียง
ทีจ่ ะมารับรองแนวเขตท่ีดิน ให้นัดทาการรังวัดท่ีดินแปลงจานวนดังกล่าวในวันเดียวกัน สาหรับกรณี

22

โฉนดท่ีดินท่ีมีผู้ถือสิทธิ์รวม 2 คน หากผู้ขอจะย่ืนคาขอรังวัดสอบเขตท่ีดินเพียงคนเดียว โดยที่
อีกคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้วและยังไม่มีการจดทะเบียนผู้จัดการมรดกรวมทั้งยังไม่ขอรับมรดก กรณีน้ี
ไม่ควรรับคาขอและนัดรังวัดสอบเขต ควรแจ้งให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายไปดาเนินการ
รบั มรดกให้เสร็จเรยี บร้อยกอ่ น

อย่างไรก็ตาม กรมท่ีดินมีนโยบายที่จะเร่งรัดงานรังวัดเฉพาะรายของสานักงานท่ีดิน
จังหวัด/สาขา/ส่วยแยกทุกแห่ง ให้สามารถกาหนดนัดทาการรังวัดให้เจ้าหน้าที่ไปทาการรังวัดได้
ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับคาขอ ท้ังน้ีเพ่ือให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และขจัดความเดือดร้อน
ของเจ้าของที่ดิน สาหรับการนัดเรื่องรังวัด เก่ียวกับการออกโฉนดท่ีดิน การรังวัดแบ่งแยก สอบเขต
และรวมโฉนดท่ีดนิ ใหน้ ัดรงั วดั คละกัน

หากจังหวัดใด สานักงานที่ดินภายในจังหวัดมีระยะเวลานัดรังวัดนาน (คิวรังวัดยาว)
สามารถบริหารจดั การงานรังวัดเฉพาะรายภายในพ้ืนที่จังหวัด โดยเกลี่ยช่างรังวัดจากสานักงานที่ดิน
จังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ท่ีมีระยะเวลานัดรังวัดสั้นไปช่วยสานักงานท่ีดินฯ ท่ีมีระยะเวลานัดรังวัดนาน
(คิวรังวัดยาว) หรือให้ช่างรังวัด 1 คนปฏิบัติงาน 2 สานักงาน และหรือนาวิธีนัดรังวัดเป็นกลุ่มมาใช้
ในการนัดรังวัด โดยการสารวจคาขอรังวัดที่ค้างระหว่างรอทาการรังวัดท้ังหมด แล้วจัดกลุ่มคาขอ
ที่มีท้องท่ีซึ่งที่ดินตั้งอยู่ใกล้เคียงกันหรือหมู่บ้านเดียวกัน แล้วนัดทาการรังวัดเป็นกลุ่ม หรือบริหาร
จัดการตามท่ีเห็นควร โดยขอมติจากอนุกรรมการดาเนินการบริหารจัดการงานรังวัดเฉพาะรายระดับ
จังหวัด (ไม่ต้องขออนมุ ตั จิ ากผวู้ ่าราชการจังหวดั ) (หนงั สือกรมที่ดิน ด่วนมาก ที่ มท 0514.3/ว 853 ลง
วันที่ 13 มกราคม 2559 คาสั่งกรมที่ดิน ที่ 85/2559 เร่ือง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดาเนินการบริหาร
จดั การงานรังวัดเฉพาะรายระดับจังหวดั ลงวนั ท่ี 13 มกราคม 2559)

ช่างรังวัดเม่ือได้รับคาส่ังจากเจ้าพนักงานท่ีดินให้ไปทาการรังวัดตามคาขอและเมื่อถึง
กาหนดใกลว้ ันใกลว้ ันนัดทาการรังวัด หรือถึงกาหนดวันนัดทาการรังวัด มีอุปสรรคทาให้ช่างรังวัดไม่
สะดวกจะไปทาการรงั วดั จึงไดท้ าความตกลงใหช้ า่ งรังวดั ผอู้ น่ื ไปปฏิบัติการแทนโดยพละการและมิได้
รายงานใหผ้ ู้บังคับบัญชาทราบแต่ประการใด ท้ังนี้ แม้จะเป็นการหวังดีต่อทางราชการเพื่อให้กิจการ
ลลุ ่วงไปก็ตาม แตย่ ่อมไม่เปน็ การชอบด้วยวิธีปฏิบัติราชการ กรมท่ีดินจึงมีคาสั่งท่ี 1/2496 ลงวันท่ี 1
มกราคม 2496 เรือ่ ง ห้ามช่างแผนท่ีทาการรงั วัดแทนกันโดยพละการ เมื่อช่างรังวัดผู้ใดไม่สามารถจะ
ไปปฏิบตั หิ น้าที่ได้ ก็ให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อจะได้ส่ังเปล่ียนแปลงต่อไป เว้นแต่จะเป็น
กรณรี บี ด่วนไม่อาจรอรบั คาสั่งได้ เช่น มีเหตุจาเป็นโดยกะทันหัน อันเป็นเหตุไม่สามารถจะไปทาการ
รังวัดในวันตามกาหนดได้และขอร้องให้ช่างรังวัดผู้อื่นไปทาการรังวัดแทน เพื่อมิให้เสียหายแก่ผู้ขอ
กใ็ ห้ช่างรงั วดั ผูร้ ับมอบไปทาการรังวัดแทนได้ ถ้าสามารถจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบด้วยวาจา
กอ่ นเดนิ ทางไดก้ ็ใหป้ ฏิบัตเิ สยี กอ่ น และให้ช่างรังวดั ผู้ได้รับคาส่งั เดิมรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
เป็นหลักฐานโดยดว่ นดว้ ย

เมื่อถึงวันทาการรังวัดให้ช่างรังวัดเดินทางไปพบกับผู้ขอรังวัด ณ สถานท่ีนัดหมาย เช่น
บ้านกานัน บ้านผู้ใหญ่บ้าน วัดหรือโรงเรียน ซ่ึงการจะนัดพบช่างรังวัดที่ใดให้เป็นไปตามความประสงค์
ของผูข้ อรงั วัด

ตอนท่ี 5 การเรียกเก็บคา่ ธรรมเนยี มและค่าใชจ้ ่ายในการรังวัด
ตามมาตรา 103 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กาหนดให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและ

คา่ ใช้จา่ ยตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง แต่ตอ้ งไมเ่ กินอตั ราตามบญั ชที า้ ยประมวลกฎหมายนี้
การเรยี กเก็บค่าธรรมเนียมและคา่ ใช้จา่ ยในการรงั วัด

23

1) กฎกระทรวงฉบบั ท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล

กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 กาหนดให้เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มไว้ ดังน้ี

o ค่าธรรมเนียมการพสิ จู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเน้อื ทีเ่ กย่ี วกบั หนังสอื รบั รองการ

ทาประโยชน์

- ถา้ เรียกเปน็ แปลง แปลงละ 30 บาท (ออกหนังสือรับรองการทา

ประโยชน์)

- ถา้ เรยี กเปน็ วัน วันละ 30 บาท (ตรวจสอบเน้ือท่ีฯ)

- คา่ คัดหรอื จาลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท

- ค่าคานวณเน้ือที่หรอื สอบแส แปลงละ 30 บาท

- คา่ จับระยะ แปลงละ 10 บาท

o ค่าธรรมเนียมรังวัดเก่ียวกบั โฉนดทด่ี ิน

- ถ้าเรียกเป็นแปลง แปลงละ 40 บาท (ออกโฉนดฯ 1 แปลง 40

บาท/แบง่ แยก คิดตามจานวนแปลงท่แี บง่ แปลงละ 40 บาท)

- ถา้ เรยี กเป็นวัน วันละ 40 บาท (สอบเขต/รวมโฉนดฯ)

- ค่าคัดหรือจาลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท

- ค่าคานวณเนอื้ ทหี่ รอื สอบแส แปลงละ 30 บาท

- คา่ จบั ระยะ แปลงละ 10 บาท

- ค่าหลักเขตทีด่ นิ หลกั ละ 15 บาท (กฎกระทรวงฉบับที่ 53 พ.ศ.

2549 ข้อ (10) ค่าธรรมเนียมเบด็ เตล็ด (ฌ) ค่าหลักเขตทด่ี ิน)

2) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 48 (พ.ศ. 2542) ยกเลิกข้อ 4. ตาม กฎกระทรวงฉบับที่ 47 และ

ใชค้ วามต่อไปนแี้ ทน

- ค่าพาหนะเดินทางให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าท่ี และคนงานท่ีจ้างไปทา

การรงั วัด

- คา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ ๆ ในการรงั วัด

ใหจ้ ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของ

กระทรวงการคลงั

- คา่ ปวุ ยการให้แก่เจ้าพนักงานผปู้ กครองท้องที่ คนหน่งึ วันละ 50 บาท

3) กฎกระทรวงฉบับที่ 53 (พ.ศ.2549)

(10) คา่ ธรรมเนยี มเบ็ดเตล็ด

(ฌ) ค่าหลักเขตท่ีดิน หลักละ 15 บาท ถ้าเป็นการเดินสารวจฯ คิดเป็นราย

แปลงๆ ละ 60 บาท

ตัวอย่าง กรณีรวมโฉนดและแบ่งแยกท่ีดินในคราวเดียวกัน ให้คิดค่าธรรมเนียมแต่ละ
ประเภทและนามารวมกัน เช่น รวมโฉนดฯ 2 วัน คิดค่าธรรมเนียม 80 บาท แบ่งแยกฯ 3 แปลงคิด
คา่ ธรรมเนียม 120 บาท รวมเป็นเงินคา่ ธรรมเนยี ม 200 บาท เปน็ ตน้

การเรียกเก็บคา่ ธรรมเนยี มและคา่ ใชจ้ ่ายในการรังวดั ซ่งึ เปน็ เงินนอกงบประมาณท่ีเรียก
เก็บจากผู้ขอรังวัด (เอกชน) ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับ

24

โฉนดท่ดี ิน หรือพสิ จู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเนื้อที่เก่ยี วกบั หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542
กาหนดให้จังหวัดออกประกาศกาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดฯ ไม่เกินกว่าอัตราในบัญชีค่าใช้จ่ายตาม
แบบในระเบียบดังกล่าว เมื่อเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดได้กาหนดค่าใช้จ่ายแล้วให้นาเสนอผู้ว่าราชการ
จงั หวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้สานักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก และสานักงานท่ีดินอาเภอ
ปดิ ประกาศไว้ในทเ่ี ปดิ เผย ณ สานกั งานที่ดนิ นั้น ๆ เพือ่ ให้ประชาชนทีม่ าตดิ ต่อทราบโดยท่ัวกัน

ส่วนแนวทางการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย (เงินมัดจารังวัด) เก่ียวกับการรังวัดโฉนดที่ดิน
หรือพิสูจน์สอบสวนหรือตรวจสอบเน้ือท่ี เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ เม่ือฝุายรังวัด
ไดร้ บั คาขอ (ท.ด. 9 หรือ ท.ด. 16) หรือหนังสือศาลจากฝุายทะเบียนแล้ว ให้นาลงบัญชีรับเรื่องและ
นัดรังวัด (ร.ว. 12) และกาหนดตัวช่างรังวัดพร้อมทั้งวันทาการรังวัด โดยพิจารณาจากบัญชีคุมการ
นัดรังวัด (ร.ว. 70) เม่ือนัดรังวัดให้แก่ช่างรังวัดผู้ใดให้ลงบัญชีคุมเร่ืองประจาตัวช่างรังวัด (ร.ว. 71)
ของผู้นั้นทันที จากน้ันให้ผู้ดาเนินการเขียนวันนัดรังวัดไว้ในบัญชีรับเร่ืองและนัดรังวัด (ร.ว. 12)
บันทึกหน้าเร่ืองการรังวัดที่ดิน (ท.ด. 82) ตามระเบียบให้ครบทุกช่อง แล้วมอบใบนัดทาการรังวัด
(ท.ด. 2 ก.) ให้ผขู้ อไป สาหรบั ใบนัดทาการรังวดั (ท.ด. 2 ก.) ให้จดหมายเลขโทรศพั ท์ของเจ้าของท่ีดิน
ผู้ยื่นคาขอรังวัดและหมายเลขโทรศัพท์ของสานักงานที่ดินที่สามารถติดต่อได้โดยตรงทั้งฉบับท่ีแจก
ให้ผขู้ อและฉบบั ท่เี ก็บไว้ในเร่ืองรังวดั เพื่อประโยชน์ในการตดิ ต่อภายหลงั

คาขอทีเ่ กิดก่อนวนั ท่ี 30 มิถุนายน 2558 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่าย
ในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือที่เกี่ยวกับหนังสือรับรอง
การทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดท่ีดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือ
รวมโฉนดที่ดิน เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ กาหนดให้ทาการรังวัด 1 วัน ใช้สาหรับพื้นท่ีโล่งเตียน เป็นต้น
หากเป็นพ้ืนที่ชุมชน ที่นา ที่ไร่ ท่ีสวน ท่ีมีแนวเขตคดโค้งและที่มีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไข
ตามหลักวิชารังวัดและทาแผนที่ เช่น หมุดหลักฐานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือท่ี ให้เพิ่มจานวน
วันทาการรังวัดได้ 1 วัน โดยให้หัวหน้าฝุายรังวัด หัวหน้างานรังวัด หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย
เป็นลายลักษณ์อักษร นัดรังวัดไปตามลาดับวันท่ีรับคาขอก่อนหลัง พร้อมท้ังประมาณการเงิน
คา่ ธรรมเนียม คา่ หลักเขตทีด่ นิ และคา่ ใช้จา่ ยในการรังวัดท่ีดนิ

สว่ นคาขอทเ่ี กดิ ต้งั แตว่ นั ที่ 30 มถิ ุนายน 2558 เปน็ ต้นไป ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อท่ีเก่ียวกับ
หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2558 ได้กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดท่ีดิน
แบ่งแยก สอบเขต หรอื รวมโฉนดที่ดิน ใหเ้ รยี กค่าใช้จา่ ยตามประกาศจงั หวัด โดยใชเ้ น้ือท่แี ปลงที่ขอรังวัด
เป็นเกณฑ์ และให้หัวหน้าฝ่ายรังวัด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้นัดทาการ
รังวัด ทาการสอบสวนผู้ขอรังวัดเกี่ยวกับตาแหน่งและสภาพท่ีดินในขณะย่ืนคาขอ หากมีเหตุต้องเพิ่มวัน
ทาการรงั วัด ให้พจิ ารณาตามหลกั เกณฑก์ ารเพม่ิ วันทาการรังวัดในบัญชีท้ายระเบียบฯ โดยระบุเหตุผล
ใหป้ รากฏ ในใบนัดรังวัด (ท.ด. ๒ ก) ทาการบันทึกต่อจากข้อความ “สภาพท่ีดินขณะขอทาการรังวัด....”
พร้อมช้ีแจงค่าใช้จ่ายในการรังวัดให้ผู้ขอทราบ ไม่ต้องขออนุมัติเพิ่มวันทาการรังวัดจากเจ้าพนักงานที่ดิน
เสร็จแล้วใหห้ วั หนา้ ฝาุ ยรงั วัด หรือผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเปน็ ลายลกั ษณ์อักษรให้นัดทาการรังวัดเป็นผู้ลง
นามในชอ่ งเจ้าพนกั งานทด่ี นิ ในใบนดั รงั วดั ท.ด.2ก แล้วส่งมอบ ท.ด.2ก ฉบับสาเนาให้ผู้ขอเก็บไว้เป็น
หลักฐานเพอ่ื ใช้ในการติดตามเรื่องรังวดั (ระเบยี บกรมทีด่ ิน ว่าดว้ ยการรับคาขอรังวัด การนดั รังวดั และ
การเรยี กคา่ ใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2558)

25

ให้ผู้ขอวางเงินมัดจารังวัดในวันยื่นคาขอซ่ึงถือปฏิบัติตามคาส่ังกรมท่ีดินที่ 131/2513
เรื่อง การรบั เงนิ คา่ ใช้จา่ ยในการรงั วัด ดงั นี้

ข้อ 1. เม่ือเจ้าของที่ดินผูข้ อรังวัดย่นื คาขอ และเจ้าหน้าที่รับคาขอแล้ว ให้ส่งเร่ืองให้ช่าง
แผนที่ประมาณเงินลงในใบนัดรังวัดตามวิธีการเดิม และให้บันทึกเจ้าของท่ีดินผู้ขอรังวัดให้ทราบว่า
จะตอ้ งใช้เงินจานวนที่ประมาณไว้ โดยต้องนามามอบในวันท่ีมารับทราบกาหนดวันทาการรังวัด และ
รบั หนงั สือถงึ เจ้าของที่ดินขา้ งเคียง

ข้อ 2. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้กาหนดวันทาการรังวัดแล้ว ให้มีหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินผู้ขอ
รังวัดทราบลว่ งหนา้ พอสมควร โดยกาหนดวันที่จะต้องมารับหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียง พร้อม
ทงั้ นาเงนิ ทไี่ ดป้ ระมาณไว้ แล้วมามอบให้สานกั งานท่ดี นิ ไว้ด้วย

ฯลฯ
ขอ้ 4 สาหรบั จงั หวดั ทส่ี ามารถจะกาหนดวันทาการรังวัดได้ในระยะใกล้ๆกับวันรับคาขอ
ให้เรียกเงนิ ลว่ งหนา้ ไว้ในวนั ยื่นคาขอได้
สรุป ผู้ขอรงั วดั ตอ้ งวางเงินมัดจารงั วัดก่อนวนั ทาการรังวัดตามบันทึกที่ได้แจ้งกาหนดวัน
วางเงินให้ผู้ขอทราบ หากเลยวันกาหนดนัดวางเงินไม่มาวางให้บันทึกนาเรียนเจ้าพนักงานที่ดินให้มี
หนังสือเรียกผู้ขอมาวางเงินโดยถอื ปฏิบัติตามนัยระเบียบว่าด้วยการรายงานผลการปฏิบัติงานฯ พ.ศ.
2555 ข้อ 36

ค่าใชจ้ า่ ยในการรังวัดออกโฉนดที่ดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือรวมโฉนดที่ดิน เป็นไปตาม
หลกั เกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ โดยใชจ้ านวนเนอื้ ทเี่ ป็นหลกั หรือเป็นค่าคงท่ี ดังน้ี

- เนื้อท่ไี มเ่ กิน 5 ไร่ เวลาทาการ 1 วนั
- เนอ้ื ทไี่ ม่เกนิ 15 ไร่ เวลาทาการ 2 วัน
- เน้อื ท่ีไม่เกนิ 30 ไร่ เวลาทาการ 3 วนั
- เนื้อที่ไม่เกนิ 50 ไร่ เวลาทาการ 4 วนั
- เนอ้ื ทเ่ี กนิ กวา่ 50 ไร่ ทุก ๆ 50 ไร่ หรือ เศษเกนิ กว่า 25 ไร่ ใหเ้ พ่ิมวันทาการรงั วัด 1 วนั

(เชน่ เนื้อที่มากกว่า 75 ไร่ ข้นึ ไป ถึง เน้อื ท่ี 125 ไร่ เวลาทาการ 5 วัน /เน้ือท่ีมากกว่า
125 ไร่ข้ึนไป ถึง เนอื้ ท่ี 175 ไร่ เวลาทาการ 6 วัน /เน้ือที่ 175ไร่ ข้ึนไป ถึง เน้ือที่ 225 ไร่ เวลาทาการ
7 วนั เป็นต้น)

และมหี ลักเกณฑ์การเพิ่มวันทาการรังวัด หรือเปน็ คา่ ตวั แปร ดังนี้
1. กรณีท่ีดินตั้งอยู่ในพ้ืนท่ีองค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่นกรุงเทพมหานคร/
เมอื งพทั ยา ฯลฯ หรอื เทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเปน็ ไมย้ นื ตน้ เชน่ สวนผลไม้ สวนปาล์ม
สวนยาง ฯลฯ เปน็ ตน้ ใหเ้ พิ่มวันทาการรงั วดั 1 วัน
2. กรณีการรงั วัดตอ้ งคานวณจากดั เนือ้ ท่ี ให้เพมิ่ วันทาการรงั วดั 1 วนั
3. กรณกี ารรงั วัดมที ่ีดินขา้ งเคียงมากแปลง ทกุ ๆ ขา้ งเคยี ง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า
15 แปลง ใหเ้ พ่มิ วนั ทาการรังวดั 1 วัน
4. กรณีการรังวัดแบ่งแยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรือเศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพิ่มวัน
ทาการรงั วดั 1 วัน
5. กรณมี ีเหตุขอ้ 1 และ 2 รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน ให้เพ่ิมวันทาการรังวัดได้ในกรณีใด
กรณีหนึ่งเทา่ น้นั

26

ทงั้ นี้ การกาหนดค่าใช้จา่ ยในการรังวดั ดงั กลา่ ว ใหค้ านึงถึงผลกระทบกับประชาชนท่ีจะได้รับ
หากกาหนดคา่ ใชจ้ า่ ยทสี่ งู เกินความจาเป็นด้วย

ตัวอย่าง การเรยี กเก็บค่าใช้จ่ายในการรงั วดั
กรณีท่ี 1. การรงั วดั ออกโฉนดทด่ี ิน เน้อื ทีต่ ามหลกั ฐาน 51 ไร่ ท่ดี ินตงั้ อยู่ในเขตเทศบาลเมอื ง
- คิดเปน็ คา่ ธรรมเนยี มออกโฉนดท่ดี ิน 1 แปลง 40 บาท
- คา่ หลักเขตท่ีดนิ คานวณจากรปู แผนท่ี 10 หลักเปน็ เงนิ 150 บาท (หลักละ 15 บาท)
- คา่ ปุวยการผ้ปู กครองทอ้ งท่ี 50 บาท
- ทีด่ นิ ตั้งอยู่ในพื้นที่เทศบาลเมือง เพม่ิ วนั ทาการรังวดั 1 วนั
- คานวณวันทาการรังวัดโดยคิดตามจานวนเน้ือท่ี 51 ไร่ คิดเป็นวันทาการ 4 วัน (เนื้อท่ี
เกินกว่า 50 ไร่ แต่เศษไม่เกินกว่า 25 ไร่ ไม่เพิ่มวันทาการรังวัด คือ เนื้อที่ไม่ถึง 75 ไร่
0.1 ตารางวา ไม่เพ่ิมวัน) และเพิ่มวันทาการรังวัดในกรณีท่ีที่ดินต้ังอยู่ในพ้ืนที่เทศบาล
เมืองจานวน 1 วนั รวมเปน็ 5 วนั ทาการ (นาจานวนวนั ไปคิดคานวณคา่ คนงานรังวัดและ
ค่าพาหนะรถยนต์)
- ค่าคนงานรังวัด (รงั วัดเปน็ งานแผนที่ช้ันหนึง่ ) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 5 วัน เปน็ เงิน 8,400 บาท
- ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1600 บาท / 5 วัน
เปน็ เงนิ 8,000 บาท
- ค่าใชจ้ ่ายอ่ืนๆ (คา่ ส่งหนงั สือแจ้งข้างเคียง) เหมาจา่ ย 200 บาท

รวมเป็นเงินคา่ มดั จารงั วดั จานวน 16,840 บาท เป็นตน้

กรณที ี่ 2.
การรังวัดแบ่งแยกโฉนดที่ดิน เนื้อที่ 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา ที่ดินต้ังอยู่นอกเขต

เทศบาลเมือง แบ่งจากดั เน้อื ทใี่ หไ้ ด้เน้ือที่แปลงแบง่ แยกเท่ากบั เน้ือท่ีแปลงคงเหลอื
- คดิ เปน็ คา่ ธรรมเนยี มแบง่ แยกโฉนดที่ดนิ 1 แปลง 40 บาท
- คา่ จากดั เนือ้ ที่ 2 แปลง ๆ ละ 30 บาท เป็นเงนิ ค่าธรรมเนยี ม รวมจานวน 60 บาท
- ค่าหลักเขตท่ีดินคานวณจากรปู แผนท่ี 10 หลกั เป็นเงิน 150 บาท (หลกั ละ 15 บาท)
- ค่าปุวยการผู้ปกครองท้องท่ี 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง กรณีที่ข้างเคียงเปน็ ทส่ี าธารณประโยชน)์
- คานวณวันทาการรงั วดั โดยคดิ ตามจานวนเนื้อท่ี 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา (เกิน 30 ไร่
เพ่ิมวันทาการรังวัด 1 วัน) คิดเป็นวันทาการ 4 วันและเพิ่มวันกรณีจากัดเนื้อที่ 1 วัน
รวมเป็น 5 วันทาการ (นาจานวนวนั ไปคดิ คานวณคา่ คนงานรังวัดและค่าพาหนะรถยนต์)
- ค่าคนงานรงั วดั (รงั วดั เปน็ งานแผนที่ชั้นหนึ่ง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 5 วัน เปน็ เงิน 8,400 บาท
- ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1600 บาท / 5 วัน
เปน็ เงนิ 8,000 บาท
- คา่ ใชจ้ ่ายอนื่ ๆ (ค่าส่งหนงั สือแจง้ ขา้ งเคียง) เหมาจ่าย 200 บาท
รวมเป็นเงนิ คา่ มัดจารังวดั จานวน 16,900 บาท เป็นต้น

27

กรณีที่ 3.
การรังวัดแบ่งแยกจัดสรรโฉนดทดี่ ิน เน้ือที่ 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา จานวน 100

แปลง โดยขอจากดั เนอื้ ที่ใหไ้ ดเ้ น้อื ท่ีตามผังจัดสรร ที่ดินตั้งอยใู่ นเขตเทศบาลเมอื ง และตดิ ท่ีดนิ
ขา้ งเคียงจานวน 75 แปลง

1. คิดเปน็ ค่าธรรมเนยี มแบง่ แยกโฉนดท่ดี ิน 100 แปลงๆละ 40 บาท เป็นเงนิ 4,000 บาท
2. ค่าจากัดเนือ้ ที่ 100 แปลง ๆ ละ 30 บาท เป็นเงินค่าธรรมเนยี ม รวมจานวน 3,000 บาท
และการจากัดเนอ้ื ทห่ี รอื ที่ดินตง้ั อยใู่ นเขตเทศบาลเมืองเขา้ หลกั เกณฑ์การเพม่ิ วนั ทาการรังวดั จานวน
1 วนั
3. ค่าหลกั เขตที่ดินคานวณจากรูปแผนท่ี 300 หลักๆ ละ 15 บาทเป็นเงนิ 4,500 บาท
4. ค่าปุวยการผู้ปกครองท้องท่ี 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง กรณที ขี่ ้างเคียงเป็นท่ีสาธารณประโยชน)์
5. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า15
แปลง ใหเ้ พ่ิมวันทาการรังวดั 1 วนั กรณนี ีท้ ่ดี นิ ตดิ ที่ดินข้างเคยี งจานวน 75 แปลง เพ่ิมวันทาการรังวัด
จานวน 2 วนั (เศษไม่เกนิ กว่า15 แปลงปัดทงิ้ )
6. คานวณวันทาการรังวัดโดยคิดตามจานวนเนื้อท่ี 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา (เกิน 30 ไร่
เพ่ิมวันทาการรงั วัด 1 วัน) คดิ เปน็ วนั ทาการจานวน 4 วนั
7. คานวณวันแบง่ แปลงจดั สรร 100 แปลง (เข้าหลกั เกณฑก์ ารเพมิ่ วันทาการรงั วดั ตาม
จานวนแปลงแบง่ แยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพม่ิ วนั ทาการรังวดั 1 วัน) คดิ
เปน็ วนั รังวดั แบง่ แยกจดั สรร จานวน 12 วัน (เหลอื เศษไม่เกนิ กวา่ 4 แปลงปัดเศษทงิ้ )
8. คิดวันทาการรังวดั จากขอ้ 2 + ข้อ 5 + ข้อ 6 และขอ้ 7 (1 วนั + 2 วัน + 4 วนั +12 วนั )
รวมเปน็ วันทาการจานวน 19 วนั
9. ค่าคนงานรังวัด (รังวัดเป็นงานแผนท่ีชั้นหน่ึง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 19 วัน เปน็ เงนิ 31,920 บาท
10. คา่ พาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1,600 บาท / 19 วัน
เป็นเงิน 30,400 บาท
11. คา่ ใช้จ่ายอ่นื ๆ (คา่ ส่งหนังสอื แจง้ ขา้ งเคียง) เหมาจ่าย 200 บาท

รวมเปน็ เงินคา่ มัดจารงั วัด จานวน 74,070 บาท เป็นตน้

การรังวัดออกโฉนดท่ีดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือรวมโฉนดที่ดิน ให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่าย
ในลักษณะเหมาจ่าย กรณีมีการคัดค้านการรังวัด หากมีการรังวัดใหม่ให้เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย
ในการรังวัดใหม่เท่าท่ีจาเป็นจากผู้ขอรังวัดโดยเหมาจ่าย (หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0706/ว 25689
ลงวนั ที่ 2 สงิ หาคม 2542 และระเบยี บกรมที่ดิน ว่าด้วยการรับคาขอรังวัด การนัดรังวัดและการเรียก
เก็บเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการรังวดั เฉพาะราย พ.ศ.2547 ข้อ 16)

ในกรณีการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดกรณีการรังวัดทาแผนท่ีพิพาทตามคาสั่ง
ศาล จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดจากโจกท์และหรือจาเลย ตามท่ีศาลกาหนดมา เนื่องจากเป็น
เงินนอกงบประมาณ ตามนัยระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการรับคาขอรังวัด การนัดรังวัดและการเรียก
เกบ็ เงินคา่ ใชจ้ า่ ยในการรงั วดั เฉพาะราย พ.ศ.2547 จงึ ได้กาหนดให้เรยี กค่าใช้จา่ ยในลักษณะเหมาจ่าย
โดยอนุโลม โดยแยกตามกรณีที่ศาลมีหนงั สอื หรอื คาพิพากษาของศาลได้ ดงั นี้

28

กรณีที่ 1 ศาลมีหนังสือหรือคาพิพากษาขอให้ทาการรังวัดท่ีดินโจกท์ ที่ดินจาเลย และ
บริเวณท่ีดินในส่วนท่ีพิพาทหรือท่ีดินที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาคดีพิพาทเร่ือง
แนวเขตที่ดิน การเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดจึงต้องคิดคานวณเน้ือท่ีที่ดินโจกท์ ท่ีดินจาเลย
และท่ีดินที่เกี่ยวข้องรวมกัน ในทานองเดียวกันกับการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดในการรังวัด
รวมโฉนดที่ดนิ

ตวั อย่าง การเรยี กเก็บเงนิ คา่ ใช้จ่ายในการรงั วดั กรณีการรังวัดทาแผนที่พิพาท
ศาลมีหนงั สือหรือคาพิพากษาขอใหท้ าการรังวดั ทีด่ ินโจกท์ ทีด่ ินจาเลย และบริเวณท่ีดิน
ในสว่ นที่พพิ าท ที่ดินโจกท์ โฉนดที่ดิน เนื้อท่ี 30 ไร่ – งาน 1 ตารางวา ท่ีดินจาเลย โฉนดท่ีดิน เน้ือท่ี
45 ไร่ – งาน – ตารางวา ทด่ี ินพิพาทตัง้ อยใู่ นเขตเทศบาลเมอื ง
1. คา่ ธรรมเนยี มในการรังวดั ทาแผนท่ีพิพาทโฉนดทด่ี ิน 6 วนั ๆ ละ 40 บาทเป็นเงิน 240บาท
(เนือ้ ทรี่ วมจานวน 2 แปลง เทา่ กบั 75 ไร่ – งาน 1 ตารางวา คิดค่าใช้จ่ายตามเน้ือที่ได้ 5 วัน
โดยเนือ้ ทเี่ กนิ กวา่ 50 ไร่ เศษเกนิ กว่า 25 ไร่ เพิ่มวนั ทาการรงั วดั 1 วัน) และเพมิ่ วนั กรณีท่ีดิน
ตง้ั อยูใ่ นเขตเทศบาลเมืองอกี 1 วนั รวมเป็นวันทาการจานวน 6 วัน)
2. ค่าปุวยการผู้ปกครองท้องท่ี 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง กรณีท่ขี ้างเคยี งเป็นทสี่ าธารณประโยชน์)
3. ค่าคนงานรงั วัด (รังวัดเป็นงานแผนที่ช้ันหน่ึง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 6 วนั เป็นเงิน 10,080 บาท
4. ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจา่ ยเป็นวัน) ตามประกาศจงั หวดั วนั ละ 1600 บาท / 6 วัน เป็น
เงิน 9,600 บาท
5. ค่าใชจ้ ่ายอน่ื ๆ (ค่าส่งหนังสือแจง้ ขา้ งเคยี ง) เหมาจ่าย 200 บาท
รวมเป็นเงินค่ามัดจารังวัด (ข้อ 1 = 240 บาท + ข้อ 2 = 50 บาท + ข้อ 3 = 10,080
บาท + ข้อ 4 = 9,600 บาท + ขอ้ 5 = 200 บาท) จานวน 20,170 บาท เป็นตน้

กรณีท่ี 2 ศาลมีหนงั สือหรือคาพิพากษาให้ทาการรงั วัดตามการครอบครองปรปักษ์ หรือ
รงั วัดแบ่งได้มาโดยการครอบครอง หากในคาร้องมีโจกท์หลายคนและแต่ละคนขอรังวัดตามเขตการ
ครอบครองและทาประโยชน์ในโฉนดทีด่ นิ ตามสัดสว่ นของตนเองแล้ว ในขั้นตอนการรับคาขอรังวัดจะ
แยกคาขอเป็นรายแปลงตามการได้มา จึงทาให้การเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดแยกเป็นราย
แปลงตามแต่ละคาขอ แต่หากในคาร้องโจกท์มีเพียงคนเดียวหรือหลายคน ครอบครองและทา
ประโยชน์ในท่ีดินท่ีพิพาทแปลงเดียว การคิดค่าใช้จ่ายในการรังวัดจะคิดตามจานวนเน้ือท่ีตาม
หลักฐานท่ดี ินแปลงทพี่ ิพาทเปน็ เกณฑใ์ นการคิดค่าใช้จ่ายในทานองเดียวกันกบั การรังวดั แบง่ แยกทีด่ นิ

ส่วนแนวทางการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัด ซึ่งเป็นเงินงบประมาณหรือเงินที่
เรียกเก็บจากส่วนราชการซ่ึงเป็นผู้ขอรังวัด ซึ่งตามหนังสือกรมท่ีดิน ด่วนท่ีสุด ที่ มท 0511.4/ว
31483 ลงวันที่ 19 ตลุ าคม 2547 กาหนดมาตรฐานวันทาการรังวัดออกหรือตรวจสอบหนังสือสาคัญ
สาหรับทหี่ ลวง พ.ศ.2547 ไว้ โดยใชเ้ นื้อท่ีตามหลักฐานเป็นตัวกาหนดวันทาการรังวัดและให้บวกเพ่ิม
วันทาการรังวัดได้ในกรณีที่มีผู้บุกรุกหรือคัดค้าน หรือในกรณีท่ีมีปัญหาอุปสรรคในการรังวัดและได้
บันทึกผู้ขอและหรือผู้ปกครองท้องที่เป็นหลักฐานให้เจ้าพนักงานที่ดินพิจารณาอนุญาตให้เพ่ิมวันทา
การรังวัดไดต้ ามความจาเป็น

29

ในกรณี การรงั วดั เก่ียวกบั ทส่ี าธารณประโยชน์ท่ีไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง เช่น รังวัด
ตรวจสอบทางหรือลารางสาธารณประโยชน์ ให้ประมาณการเงินค่ามัดจารังวัดตามจานวนแปลง
ขา้ งเคยี งท่ตี ดิ ทสี่ าธารณะโดยรอบ ซ่งึ คดิ คานวณได้จากจานวนแปลงข้างเคียงประมาณ 5 แปลงต่อ 1
วนั ทาการ รวมกนั กบั วันทาการท่ีประมาณการจากคณุ ลกั ษณะดา้ นความกว้างหรือยาวหรอื จานวนเนื้อ
ทีข่ องพืน้ ท่สี าธารณะท่จี ะทาการรังวดั เป็นองค์ประกอบการคดิ วันทาการ

การเรียกเกบ็ เงนิ ค่ามดั จารังวดั กรณีการรงั วดั เก่ียวกบั ท่ีสาธารณประโยชน์ที่มีและไม่มีหนังสือ
สาคัญสาหรับท่ีหลวง ให้เรียกเก็บได้เท่าที่จาเป็นและใช้จ่ายจริง (ตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการ
รับคาขอรังวัดการนัดรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 ลงวันที่ 17
ธันวาคม 2547 ขอ้ 14) จากผูม้ ีหน้าทด่ี ูแลรกั ษา ซ่ึงตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแล
รักษาและคุ้มครองปูองกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.
2553 ข้อ 13 กาหนดให้เบิกจ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และสามารถเบิก
จ่ายเงินค่ามัดจารังวัดตามกรณีนี้ได้เฉพาะวันทาการของทางราชการเท่าน้ัน เพราะติดปัญหาข้อ
กฎหมาย ตามพระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒

ในกรณีที่ต้องทาการเบิกจ่ายเงินค่ามัดจารังวัด ได้แก่ เงินค่าคนงานรังวัด จากเงิน
งบประมาณซ่ึงไม่เข้าหลักเกณฑ์การเหมาจ่าย จาเป็นต้องใช้คนงานท่ีได้ขึ้นทะเบียนรายชื่อคนงาน
รงั วัดทไี่ ดข้ ้นึ ทะเบียนไว้ทสี่ านกั งานท่ีดนิ ตามคาสงั่ กรมทด่ี นิ ที่ 763/2527 เร่ือง การจ้างคนงานรังวัด
ที่ดิน ลงวันท่ี 21 มิถนุ ายน 2527 ประกอบการเบิกจ่ายเงินค่าคนงานรังวัด ส่วนกรณีการเบิกจ่ายเงิน
ค่ามัดจารงั วัดโดยวธิ เี หมาจ่าย ไมต่ อ้ งใชเ้ อกสารหลักฐานเกยี่ วกบั คนงานรังวัดประกอบการเบิกเงินแต่
อย่างใด

ปจั จุบันงานรงั วดั ทด่ี นิ ตามโครงการต่างๆ เชน่ โครงการรังวัดเพ่ือการชลประทาน เป็นต้น
จะทาการจ้างเหมาบริการ ซึ่งถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ
การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แทนการจัดจ้างคนงานรังวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนคนงานรังวัดไว้ตาม
คาส่งั กรมที่ดิน ท่ี 763/2527 เรือ่ ง การจา้ งคนงานรงั วัดทด่ี ิน ลงวนั ที่ 21 มถิ นุ ายน 2527

30

ประกาศจงั หวัด......................................................................
เร่ือง ค่าใช้จ่ายในการรงั วัดเก่ียวกับโฉนดทด่ี นิ หรอื พิสูจนส์ อบสวน

หรือตรวจสอบเน้ือท่เี กย่ี วกบั หนังสือรับรองการทาประโยชน์

ด้วยจังหวัด..................................... .......ได้กาหนดค่าใช้จ่ายเพ่ือใช้ เรียกเก็บในการรังวัด
เกย่ี วกับโฉนดทด่ี ิน หรือพสิ จู น์สอบสวน หรือตรวจสอบเนอ้ื ทีเ่ กย่ี วกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์
ในทอ้ งทีจ่ งั หวัดนี้ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยแลว้ จงึ ประกาศใหท้ ราบท่วั กันดังน้ี

ทอ้ งท่ี โฉนดทดี่ ิน หนังสอื รับรองการทาประโยชน์
อาเภอ/เขต ออก/ตรวจสอบ/รวม แบง่ แยก
ลาดบั ที่ ออก/สอบเขต/รวม แบ่งแยก
เน้ือท่ี จานวน เน้ือที่ จานวน
ตาบล/แขวง เนอื้ ท่ี จานวน เนื้อที่ จานวน (ไร)่ เงนิ (ไร่) เงนิ

(ไร)่ เงิน (ไร)่ เงนิ (บาท) (บาท)

(บาท) (บาท)

1. อาเภอเมือง

ก. - รงั วัดโดย ไม่เกิน 5 X ไม่เกิน 5 X

วิธแี ผนที่ ไม่เกนิ 15 X ไมเ่ กนิ 15 X

ชน้ั หนึ่ง ไม่เกิน 30 X ไม่เกิน 30 X

ไม่เกิน 50 X ไมเ่ กนิ 50 X

ไมเ่ กิน X ไมเ่ กิน X

100ไม่ X 100ไม่ X

เกนิ 150 X เกนิ 150 X

150 ข้ึน 150 ขึ้น

ไป ไป

ท้ังน้ี ตง้ั แตว่ ันท.ี่ ..............................พ.ศ...................
...................................................
ผวู้ ่าราชการจงั หวดั

31

ประกาศจังหวัด........................................................................

เร่อื ง ค่าใช้จา่ ยในการรงั วดั เกีย่ วกับโฉนดทด่ี ิน หรอื พิสูจนส์ อบสวน
หรือตรวจสอบเนอ้ื ทเ่ี กี่ยวกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์

ด้วยจงั หวัด............................................ได้กาหนดคา่ ใช้จ่ายเพอ่ื ใช้เรียกเกบ็ ในการรังวัด

เกีย่ วกบั โฉนดที่ดนิ หรือพิสูจนส์ อบสวน หรือตรวจสอบเนื้อทเี่ กยี่ วกับหนงั สือรับรองการทาประโยชน์

ในทอ้ งทจ่ี ังหวดั นี้ ตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทยแลว้ จงึ ประกาศให้ทราบท่ัวกันดงั นี้

ท้องที่ โฉนดท่ีดิน หนังสอื รับรองการทาประโยชน์
อาเภอ/เขต
ลาดบั ท่ี ออก/สอบเขต/รวม แบ่งแยก ออก/ตรวจสอบ/รวม แบ่งแยก

ตาบล/แขวง เนอ้ื ท่ี จานวน เนอ้ื ท่ี จานวน เนือ้ ที่ จานวน เน้ือที่ จานวน
(ไร่) เงนิ (ไร่) เงิน
(ไร)่ เงิน (ไร)่ เงนิ

(บาท) (บาท) (บาท) (บาท)

1. อาเภอเมือง

ก. รังวัดโดย ไมเ่ กิน 5 X ไมเ่ กนิ 5 X

วธิ ีแผนทช่ี ัน้ ไม่เกิน 15 X ไมเ่ กิน 15 X

สอง(ทาการ ไม่เกิน 30 X ไม่เกิน 30 X

รังวัดดว้ ย ไมเ่ กนิ 50 X ไมเ่ กิน 50 X

กลอ้ ง) ไมเ่ กนิ X ไม่เกนิ X

100ไม่ X 100ไม่ X

เกิน 150 X เกนิ 150 X

150 ขนึ้ 150 ขึ้น

ไป ไป

ทง้ั น้ี ตั้งแต่วนั ท.่ี ..............................พ.ศ............
............................................................
ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด....................

32

ประกาศจังหวดั ........................................................................
เร่ือง ค่าใช้จา่ ยในการรงั วดั เกี่ยวกบั โฉนดที่ดนิ หรือพิสจู น์สอบสวน

หรือตรวจสอบเนื้อทีเ่ กย่ี วกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์

ด้วยจงั หวัด............................................ได้กาหนดคา่ ใช้จ่ายเพ่อื ใช้เรียกเก็บในการรังวดั
เกยี่ วกบั โฉนดท่ีดนิ หรอื พิสจู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่เกยี่ วกบั หนังสอื รับรองการทาประโยชน์

ในท้องทจี่ งั หวัดนี้ ตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทยแล้ว จงึ ประกาศใหท้ ราบท่ัวกนั ดังนี้

ท้องที่ โฉนดทดี่ ิน หนังสอื รับรองการทาประโยชน์

ลาดบั ท่ี อาเภอ/เขต ออก/สอบเขต/รวม แบง่ แยก ออก/ตรวจสอบ/รวม แบง่ แยก

ตาบล/แขวง เนอ้ื ที่ จานวน เนอ้ื ท่ี จานวน เนื้อที่ จานวน เน้ือที่ จานวน

(ไร่) เงิน (บาท) (ไร่) เงิน (บาท) (ไร)่ เงิน(บาท) (ไร)่ เงนิ (บาท)

1. อาเภอเมอื ง

ก. - รงั วัด ไมเ่ กนิ 5 X ไม่เกิน 5 X ไม่เกิน 20 X ไม่เกิน 20 X

โดยวธิ แี ผน ไมเ่ กนิ 15 X ไมเ่ กนิ 15 X ไม่เกิน 50 X ไมเ่ กนิ 50 X

ที่ชัน้ สอง(ทา ไมเ่ กิน 30 X ไม่เกิน 30 X ไมเ่ กนิ X ไมเ่ กิน X

การรงั วัด ไมเ่ กนิ 50 X ไมเ่ กิน 50 X 100ไม่ X 100ไม่ X

ด้วยโซ่) ไมเ่ กนิ 100 X ไม่เกิน X เกิน 150 X เกนิ 150 X

ไม่เกิน 150 X 100ไม่ X 150 ขน้ึ 150 ขน้ึ

150 ข้นึ ไป X เกิน 150 X ไป ไป

150 ขึ้น

ไป

ทั้งน้ี ตงั้ แตว่ ันท่ี.........................พ.ศ...................

...................................................
ผูว้ ่าราชการจังหวัด.............................................

33

หมายเหตุ
- ให้ใช้สาหรบั พืน้ ทีโ่ ลง่ เตียน
- ส่วนพื้นท่ีชุมชน ที่นา ที่สวน ที่มีแนวเขตคดโค้งและที่มีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไขตามหลัก
วชิ าการรังวัด และทาแผนที่ เช่น หมดุ หลกั ฐานโครงงานแผนทส่ี ูญหาย จากัดเน้ือที่ ให้เพิ่มจานวน
วันทาการรังวดั 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน (หนังสือรับรองการทาประโยชน์) หากมีการตั้งคณะกรรมการ
ตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ใหเ้ พิ่มคา่ พาหนะ 1 วัน
- สาหรับการรังวัดแบ่งแยก (จัดสรร) ให้ทาการรังวัดและปักหลักเขตให้คานวณวันทาการทุก
12 แปลงต่อหนึ่งวัน (เฉพาะโฉนดท่ดี ิน)
- สาหรบั การรังวัดแบ่งแยกมากแปลง ให้ทาการรังวัดและคานวณวันทาการทุก 20 แปลงต่อหนึ่งวัน
(เฉพาะหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์)

34

แบบ ก.
ตัวอยา่ ง บัญชคี า่ ใชจ้ ่ายสาหรบั การรงั วัดออกโฉนดที่ดิน แบ่งแยก สอบเขต และรวมโฉนดท่ีดิน (โดยวิธีแผนทช่ี ั้นหน่งึ )

จานวน เวลา ค่าพาหนะ คา่ จ้างคนงานรงั วดั ค่าปวุ ยการ ค่าใช้ รวมเงนิ

เนื้อท่ี ทาการ วันละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวน ผู้ปกครอง จ่ายอนื่ ๆ (บาท)
ลาดับ (ไร่) (วัน) (บาท) (บาท) (คน) (บาท) เงนิ ท้องท่ี (บาท)

ท่ี (บาท) คนหน่ึงวันละ

(บาท)

1 ไมเ่ กิน 5 1 800 800 4 250 1,000 50 100 1,950

2 ไมเ่ กนิ 15 2 800 1,600 4 250 2,000 50 100 3,750

3 ไมเ่ กิน 30 3 800 2,400 4 250 3,000 50 100 5,550

4 ไม่เกนิ 50 4 800 3,200 4 250 4,000 50 100 7,350

5 ไม่เกนิ 100 5 800 4,000 4 250 5,000 50 100 9,150

6 ไม่เกิน 150 6 800 4,800 4 250 6,000 50 100 10,950

7 150 ข้ึนไป 7 800 5,600 4 250 7,000 50 100 12,750

หมายเหตุ - ให้ใชส้ าหรบั พื้นทีโ่ ล่งเตยี น
- ส่วนพื้นท่ีชุมชน ท่ีนา ที่ไร่ ที่สวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหา อุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไข
ตามหลักวิชาการรังวัดและทาแผนท่ี เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือที่ให้เพ่ิม
จานวนวันทาการรังวัด 1 วนั
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดที่ดิน หากมีการต้ังคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพิ่มค่าพาหนะ 1 วัน
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ คา น ว ณ
วนั ทาการรงั วดั ทกุ 12 แปลงต่อหน่ึงวัน

35

แบบ ข.

ตัวอย่าง บัญชีคา่ ใช้จ่ายสาหรบั การรังวัดออกโฉนดท่ีดนิ แบง่ แยก สอบเขต และรวมโฉนดทด่ี ิน
(โดยวธิ แี ผนท่ีช้นั สอง ทาการรังวดั ดว้ ยกล้อง)

จานวน เวลา ค่าพาหนะ ค่าจ้างคนงานรงั วดั ค่าปวุ ยการ ค่าใช้ รวมเงนิ

เน้อื ท่ี ทาการ วนั ละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวน ผู้ปกครอง จา่ ยอ่ืน ๆ (บาท)

ลาดบั (ไร่) (วนั ) (บาท) (บาท) (คน) (บาท) เงิน ท้องท่ี (บาท)

ที่ (บาท) คนหนึ่งวนั ละ
(บาท)

1 ไม่เกนิ 5 1 800 800 3 250 750 50 100 1,700

2 ไมเ่ กิน 15 2 800 1,600 3 250 1,500 50 100 3,250

3 ไม่เกิน 30 3 800 2,400 3 250 2,250 50 100 4,800

4 ไม่เกิน 50 4 800 3,200 3 250 3,000 50 100 6,350

5 ไม่เกนิ 100 5 800 4,000 3 250 3,750 50 100 7,900

6 ไม่เกิน 150 6 800 4,800 3 250 4,500 50 100 9,450

7 150 ขึ้นไป 7 800 5,600 3 250 5,250 50 100 11,000

หมายเหตุ - ใหใ้ ช้สาหรับพืน้ ทโ่ี ล่งเตียน
- ส่วนพ้ืนที่ชุมชน ที่นา ที่ไร่ ท่ีสวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซ่ึงต้องแก้ไข
ตามหลักวชิ าการรังวัดและทาแผนที่ เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเนื้อท่ีให้เพ่ิม
จานวนวันทาการรงั วัด 1 วนั
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง
ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพ่มิ คา่ พาหนะ 1 วนั
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ คา น ว ณ
วนั ทาการรังวดั ทุก 12 แปลงต่อหนง่ึ วนั

36

แบบ ค.

ตัวอย่าง บัญชีคา่ ใชจ้ ่ายสาหรบั การรงั วดั ออกโฉนดที่ดิน แบ่งแยก สอบเขต และรวมโฉนดที่ดิน
(โดยวธิ แี ผนที่ช้นั สอง ทาการรงั วดั ดว้ ยโซ)่

จานวน เวลา ค่าพาหนะ ค่าจา้ งคนงานรงั วัด ค่าปวุ ยการ ค่าใช้ รวมเงิน

เน้ือท่ี ทาการ วนั ละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวน ผู้ปกครอง จ่ายอ่นื ๆ (บาท)
ลาดับ (ไร่) (วนั ) (บาท) (บาท) (คน) (บาท) เงนิ ทอ้ งท่ี (บาท)

ท่ี (บาท) คนหน่ึงวนั ละ

(บาท)

1 ไมเ่ กนิ 5 1 800 800 2 250 500 50 100 1,450

2 ไมเ่ กิน 15 2 800 1,600 2 250 1,000 50 100 2,750

3 ไม่เกนิ 30 3 800 2,400 2 250 1,500 50 100 4,050

4 ไมเ่ กนิ 50 4 800 3,200 2 250 2,000 50 100 5,350

5 ไมเ่ กิน 100 5 800 4,000 2 250 2,500 50 100 6,650

6 ไม่เกิน 150 6 800 4,800 2 250 3,000 50 100 7,950

7 150 ข้ึนไป 7 800 5,600 2 250 3,500 50 100 9,250

หมายเหตุ - ใหใ้ ชส้ าหรบั พน้ื ท่ีโล่งเตียน
- ส่วนพื้นท่ีชุมชน ท่ีนา ที่ไร่ ท่ีสวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไข
ตามหลักวิชาการรังวัดและทาแผนที่ เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือท่ีให้เพิ่ม
จานวนวนั ทาการรงั วดั 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบท่ีดินตามกฎกระทรวง
ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพิ่มค่าพาหนะ 1 วัน
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ คา น ว ณ
วันทาการรงั วัดทกุ 12 แปลงตอ่ หนง่ึ วัน

37

แบบ ง.
ตัวอยา่ ง บญั ชคี ่าใชจ้ ่ายสาหรบั การออก การตรวจสอบเนอื้ ที่ แบ่งแยก และรวมหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์

จานวน เวลา คา่ พาหนะ คา่ จา้ งคนงานรงั วัด คา่ ปุวยการ ค่าใช้ รวมเงิน

เนอื้ ท่ี ทาการ ผู้ปกครอง จ่ายอน่ื ๆ (บาท)

ลาดับ (ไร)่ (วนั ) ท้องที่ (บาท)
ที่
วันละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวน คนหนึ่งวัน

(บาท) (บาท) (คน) (บาท) เงิน ละ

(บาท) (บาท)

1 ไมเ่ กนิ 20 1 800 800 2 250 500 50 100 1,450
2 ไมเ่ กิน 50 2 800 1,600 2 250 1,000 50 100 2,750
3 ไม่เกิน 100 3 800 2,400 2 250 1,500 50 100 4,050
4 ไม่เกิน 150 4 800 3,200 2 250 2,000 50 100 5,350
5 150 ข้ึนไป 5 800 4,000 2 250 2,500 50 100 6,650

หมายเหตุ - ให้ใช้สาหรบั พืน้ ท่ีโล่งเตยี น

- ส่วนพ้ืนที่ชุมชน ที่นา ท่ีไร่ ที่สวนที่มีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซ่ึงต้องแก้ไข

ตามหลักวชิ าการรังวัดและทาแผนท่ี เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือที่ให้เพ่ิม

จานวนวันทาการรังวัด 1 วัน

- ในกรณีรังวัดออกโฉนดที่ดิน หากมีการต้ังคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง

ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ใหเ้ พม่ิ คา่ พาหนะ 1 วัน

- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ ค า นว ณ

วันทาการรงั วัดทุก 12 แปลงต่อหนึง่ วัน

.........................................................................................................................................................................................

ตัวอยา่ ง ใบสาคัญรบั เงิน (ค.ท.ด.30)

วนั ที่ เดือน พ. ศ.

ขา้ พเจา้ ตาแหนง่

เป็นเจา้ พนักงานผ้ปู กครองท้องท่ี / ผแู้ ทน อยู่ทีบ่ ้าน หมู่ที่

ตาบล อาเภอ จงั หวดั

ได้รับเงินจาก เปน็ เงนิ ๕๐ บาท (ห้าสบิ บาทถว้ น ) เป็นค่าปว่ ยการเจ้าพนกั งาน

ผปู้ กครองท้องท่ี ราย

คาขอเลขท่ี ลงวนั ท่ี ไปเป็นการถูกต้องแลว้

ลงชื่อ ผู้รับเงิน

(...............................................................................)

ลงช่อื ผ้จู ่ายเงนิ

38

ระเบียบกระทรวงมหาดไทย
วา่ ดว้ ยคา่ ใช้จา่ ยในการรงั วดั เก่ยี วกบั โฉนดท่ดี ิน หรอื พิสูจนส์ อบสวน
หรือตรวจสอบเนือ้ ท่เี กย่ี วกบั หนงั สือรับรองการทาประโยชน์ (ฉบบั ท่ี 2)

พ.ศ. 2558
--------------------------
โดยท่สี มควรปรับปรงุ ค่าใช้จ่ายตามบัญชีค่าใช้จ่ายในการรังวัดท้ายระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือท่ีเกี่ยวกับหนังสือ
รบั รองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 ให้เหมาะสมกับสภาพท้องถ่นิ และสอดคล้องกับสภาวะความเปล่ียนแปลงทาง
เศรษฐกจิ กระทรวงมหาดไทยโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลังจงึ ออกระเบยี บ ไว้ดงั ต่อไปนี้
ขอ้ 1 ระเบียบน้ีเรยี กว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับ
โฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.
2558”
ข้อ 2 ระเบียบนใี้ หใ้ ชบ้ งั คับตงั้ แต่วันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกบัญชีค่าใช้จ่ายตาม แบบ ก. แบบ ข. แบบ ค. และแบบ ง. ท้ายระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือท่ี
เก่ียวกบั หนังสือรับรองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 และให้ใช้บัญชีค่าใช้จ่ายตามแบบ ก. แบบ ข. แบบ ค.
และแบบ ง. ท้ายระเบยี บน้แี ทน
ข้อ 4 ให้จังหวัดออกประกาศกาหนดค่าใช้จ่ายตามระเบียบน้ีภายในสามสิบวัน นับแต่วันท่ี
ระเบียบนใี้ ชบ้ งั คับ
ประกาศจังหวัดที่กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน
หรือตรวจสอบเน้อื ที่เก่ยี วกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่าย
ในการรังวดั เกี่ยวกับโฉนดทดี่ นิ หรอื พิสจู น์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือท่ีเก่ียวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์
พ.ศ. 2542 ใหย้ ังคงใช้ได้ตอ่ ไปจนกว่าจะมปี ระกาศตามวรรคหน่ึงใชบ้ งั คบั

ประกาศ ณ วันท่ี 5 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2558
พลเอก

(อนุพงษ์ เผา่ จนิ ดา)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

แบบ ก.

39

ตัวอยา่ ง บัญชคี ่าใช้จา่ ยสาหรับการออก การตรวจสอบเนอ้ื ที่ แบ่งแยก และรวมหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์

คา่ พาหนะ ค่าจ้างคนงานรังวัด (1) (2)

ลาดบั จานวน เวลา วนั ละ จานวน จานวน คนละ จานวน “ค่าปวุ ยการ” ค่าใช้จา่ ย รวมเงนิ
ท่ี เน้อื ที่ ทาการ (บาท) เงิน (คน) (บาท) เงิน คนหน่ึงวนั ละ อน่ื ๆ (บาท)
(ไร)่ (วัน) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท)

1 ไมเ่ กนิ 20 1 1,600 1,600 2 420 840 50 200 2,690
2 ไม่เกิน 50 2 1,600 3,200 2 420 1,680 50 200 5,130

3 กรณเี นือ้ ท่เี กนิ กวา่ 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรือเศษเกินกวา่ 25 ไร่ ให้เพ่ิมวนั ทาการรังวดั 1 วัน

หมายเหตุ หลกั เกณฑ์การเพม่ิ วนั ทาการรงั วัด
1. กรณีที่ดินต้ังอยู่ในพื้นที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือท่ีสวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พ่มิ วนั ทาการรงั วัด 1 วัน

2. กรณีการรังวัดตอ้ งคานวณจากัดเนอ้ื ท่ี ใหเ้ พิ่มวันรังวดั 1 วัน

3. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ใหเ้ พ่ิมวันทาการรงั วัด 1 วนั

4. กรณกี ารรงั วัดแบ่งแยกจดั สรร ทุก ๆ 8 แปลง หรือเศษเกนิ กวา่ 4 แปลง ให้เพิ่มวนั ทาการรงั วดั 1 วัน

5. กรณีมีเหตุขอ้ 1 และ 2 รวมอย่ใู นเรือ่ งเดียวกันให้เพิม่ วันทาการรังวดั ไดใ้ นกรณหี นงึ่ เท่าน้ัน

แบบ ข.

40

ตวั อย่าง บัญชีค่าใช้จา่ ยสาหรบั การรงั วัดออกโฉนดทดี่ นิ แบง่ แยก สอบเขตและรวมโฉนดทด่ี ิน
(โดยวธิ แี ผนท่ีชนั้ สองทาการรังวัดดว้ ยโซ่)

ค่าพาหนะ คา่ จา้ งคนงานรงั วัด (1) (2)

ลาดับ จานวน เวลา วนั ละ จานวน จานวน คนละ จานวน “คา่ ปุวยการ” ค่าใช้จ่าย รวมเงนิ
ที่ ทาการ (บาท) เงิน (คน) (บาท) เงนิ คนหน่ึงวนั ละ อน่ื ๆ (บาท)
เนอ้ื ที่ (วนั ) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท)
(ไร)่

1 ไม่เกนิ 5 1 1,600 1,600 2 420 840 50 200 2,690

2 ไมเ่ กนิ 15 2 1,600 3,200 2 420 1,680 50 200 5,130
3 ไมเ่ กิน 30 3 1,600 4,800 2 420 2,520 50 200 7,570

4 ไม่เกิน 50 4 1,600 6,400 2 420 3,360 50 200 10,010

5 กรณเี น้ือทเ่ี กินกว่า 50 ไร่ ทุก ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพม่ิ วนั ทาการรังวัด 1 วัน

หมายเหตุ หลักเกณฑ์การเพิ่มวันทาการรงั วัด
1. กรณีที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรอื เทศบาลนคร หรอื เทศบาลเมอื ง หรือท่ีสวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พ่มิ วนั ทาการรังวัด 1 วนั

2. กรณีการรังวัดต้องคานวณจากัดเน้อื ที่ ใหเ้ พ่มิ วนั รังวัด 1 วนั

3. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ใหเ้ พิม่ วันทาการรงั วัด 1 วัน

4. กรณกี ารรงั วดั แบง่ แยกจดั สรร ทุก ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพิ่มวันทาการรังวดั 1 วนั

5. กรณมี ีเหตุข้อ 1 และ 2 รวมอยูใ่ นเรือ่ งเดียวกันให้เพ่มิ วันทาการรงั วัดไดใ้ นกรณีหนึ่งเทา่ นั้น

แบบ ค.

41

ตัวอย่าง บญั ชีค่าใช้จ่ายสาหรับการรังวัดออกโฉนดทด่ี นิ แบง่ แยก สอบเขตและรวมโฉนดท่ีดนิ
(โดยวิธแี ผนท่ชี น้ั สองทาการรงั วัดดว้ ยกลอ้ ง)

คา่ พาหนะ คา่ จา้ งคนงานรังวัด (1) (2)

ลาดับ จานวน เวลา วนั ละ จานวน จานวน คนละ จานวน “ค่าปุวย คา่ ใช้จ่าย รวมเงิน
ที่ เนอ้ื ที่ ทาการ (บาท) เงิน (คน) (บาท) เงิน การ” อน่ื ๆ (บาท)
(ไร่) (วัน) (บาท) (บาท) คนหน่ึงวันละ (บาท)

(บาท)

1 ไม่เกนิ 5 1 1,600 1,600 3 420 1,260 50 200 3,110

2 ไม่เกิน 15 2 1,600 3,200 3 420 2,520 50 200 5,970

3 ไม่เกิน 30 3 1,600 4,800 3 420 3,780 50 200 8,830

4 ไมเ่ กิน 50 4 1,600 6,400 3 420 5,040 50 200 11,690

5 กรณเี นอื้ ท่ีเกนิ กว่า 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพม่ิ วันทาการรงั วัด 1 วนั

หมายเหตุ หลกั เกณฑ์การเพิ่มวันทาการรังวดั
1. กรณีที่ดินตั้งอยู่ในพื้นท่ีองค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรอื เทศบาลนคร หรอื เทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ให้เพิ่มวันทาการรงั วัด 1 วัน

2. กรณีการรังวัดต้องคานวณจากัดเนื้อท่ี ใหเ้ พมิ่ วนั รงั วัด 1 วนั

3. กรณีการรังวัดมีท่ีดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ให้เพม่ิ วันทาการรังวัด 1 วัน

4. กรณีการรงั วดั แบง่ แยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรือเศษเกนิ กว่า 4 แปลง ให้เพิ่มวันทาการรงั วดั 1 วัน

5. กรณมี ีเหตุข้อ 1 และ 2 รวมอยใู่ นเร่อื งเดียวกันให้เพ่มิ วนั ทาการรังวัดไดใ้ นกรณหี นง่ึ เทา่ นั้น

แบบ ง.

42

ตวั อยา่ ง บัญชคี ่าใช้จ่ายสาหรับการรังวัดออกโฉนดท่ดี ิน แบ่งแยก สอบเขตและรวมโฉนดที่ดนิ
(โดยวิธแี ผนทช่ี นั้ หน่งึ )

คา่ พาหนะ ค่าจ้างคนงานรังวดั (1) (2)
วนั ละ จานวน รวมเงิน
ลาดับ จานวน เวลา (บาท) เงิน จานวน คนละ จานวน “คา่ ปวุ ย คา่ ใช้จ่าย (บาท)
ที่ เนอ้ื ท่ี ทาการ (คน) (บาท) เงิน การ” อน่ื ๆ
(ไร่) (วนั ) (บาท) 3,530
(บาท) คนหน่ึงวนั ละ (บาท) 6,810
1,600 1,600 (บาท) 10,090
1,600 3,200 13,370
1 ไม่เกิน ๕ ๑ 1,600 4,800 4 420 1,680 50 200
2 ไมเ่ กนิ ๑๕ ๒ 1,600 6,400
3 ไมเ่ กนิ ๓๐ ๓ 4 420 3,360 50 200
4 ไม่เกนิ ๕๐ 4
4 420 5,040 50 200

4 420 6,720 50 200

5 กรณีเนื้อทเ่ี กนิ กว่า 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพิ่มวนั ทาการรงั วดั 1 วนั

หมายเหตุ หลักเกณฑก์ ารเพิม่ วันทาการรังวัด
1. กรณีที่ดินต้ังอยู่ในพ้ืนท่ีองค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พิ่มวันทาการรังวดั 1 วนั

2. กรณกี ารรงั วดั ต้องคานวณจากดั เนื้อท่ี ใหเ้ พมิ่ วนั รังวัด 1 วัน

3. กรณีการรังวัดมีท่ีดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ให้เพ่มิ วันทาการรงั วัด 1 วนั

4. กรณีการรังวัดแบ่งแยกจดั สรร ทกุ ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกินกว่า 4 แปลง ใหเ้ พ่ิมวันทาการรังวดั 1 วัน

5. กรณีมีเหตุขอ้ 1 และ 2 รวมอยใู่ นเรอื่ งเดยี วกันให้เพม่ิ วนั ทาการรงั วดั ไดใ้ นกรณีหน่ึงเทา่ นั้น

ค่าพาหนะ ทาการจา้ งเหมาเป็นวันๆละไม่เกนิ กว่า 1,600 บาท โดยไมค่ านงึ ถึงระยะทางใกล้หรอื ไกล
สว่ นอัตราคา่ จา้ งคนงานรงั วดั คนละวนั ละ 420 บาท นนั้ เป็นอตั ราคา่ จา้ งแรงงานฝีมอื ทส่ี ูงกวา่ อตั ราค่าแรงงาน
ตามประกาศของคณะกรรมการค่าจา้ ง เรอ่ื ง อตั ราคา่ จา้ งขัน้ ต่า โดยกระทรวงการคลงั ได้อนุมัติอัตราจ้างลูกจ้าง
ช่ัวคราว ตาแหน่งคนงานรังวัด ในอัตราสูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่าของตาแหน่งได้เป็นกรณีพิเศษ ตามบันทึก
กระทรวงการคลัง ดว่ นทสี่ ดุ ท่ี กค 0406.3/348 ลงวันท่ี 8 มกราคม 2557

ท้ังนี้ อัตราค่าใช้จ่ายในการรังวัดให้เป็นไปตามประกาศจังหวัด และต้องไม่เกินกว่าอัตราท่ีได้
กาหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์
สอบสวน หรือตรวจสอบเน้อื ที่เก่ยี วกับหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2558

43

หมวดที่ 5
การดาเนินการเกี่ยวกับเจา้ ของที่ดินข้างเคยี ง

ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน “เพือ่ ประโยชนแ์ ก่การรังวดั ให้พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีมีอานาจ
เรียกผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงมาระวังแนวเขตและลงชื่อรับทราบแนวเขตท่ีดินของตน หรือเรียกให้บุคคล
ท่ีเก่ียวข้องมาให้ถ้อยคา หรือส่ังให้ส่งเอกสารหลักฐานอื่นใดท่ีเก่ียวข้องในการสอบสวน” การแจ้งเจ้าของที่ดิน
ข้างเคียงใหม้ าระวงั และลงช่อื รบั รองแนวเขตตามมาตรา 70 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ไมไ่ ด้บัญญัตวิ ่า จะต้องแจ้ง
เปน็ หนังสือแต่อย่างใด

การแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงหรือ ท่ีเรียกกันว่า “หมายข้างเคียง” ในการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก
รวมโฉนดทด่ี นิ ออกโฉนดท่ดี ินหรอื หนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ กรณีทีด่ ินท่ที าการรังวัดไม่มีหลักฐานการรังวัด
ใหม่ (ร.ว.ม.) และจะต้องแกไ้ ขรูปแผนทหี่ รอื เนือ้ ที่ ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงกระทบสิทธิ์
ของเจ้าของทีด่ นิ ข้างเคยี ง จึงจาเป็นตอ้ งแจง้ ให้ผู้สิทธิในท่ดี ินขา้ งเคียงรอบด้านให้ไประวังช้ีแนวเขตที่ดิน ตลอดทั้ง
ลงชือ่ รับทราบแนวเขตท่ดี นิ ของตนกบั ใหถ้ อ้ ยคาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

การแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังชี้แนวเขตฯ ในกรณี การรังวัดแบ่งแยก รวม หรือสอบเขต
โฉนดท่ีดิน การแบ่งแยก รวม หรือตรวจสอบเน้ือที่หนังสือรับรองการทาประโยชน์ การรังวัดได้มาโดยการ
ครอบครอง หรือการรังวัดตามคาขอท่ีเป็นการรังวัดตามประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นการดาเนินการตามนัย
มาตรา 70 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ หากผลการรังวดั ไมต่ ้องตามหลักฐานเดิมและเจา้ ของทดี่ ินข้างเคียงไม่มา
ระวงั ช้ีแนวเขตฯ ตอ้ งดาเนินการตามนัยกฎกระทรวงฉบบั ที่ 31 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในท่ีดิน
ขา้ งเคยี งใหม้ าลงช่อื รบั รอง แนวเขตท่ีดินหรือคัดค้านการรังวัด พ.ศ. 2521 ส่วนการรังวัดในกรณีอื่นๆ ซ่ึงมิได้
เป็นการรังวัดตามประมวลกฎหมายท่ีดิน เช่น รังวัดตรวจสอบที่สาธารณประโยชน์ท่ีไม่มีหลักฐาน การรังวัด
ทาแผนที่พิพาทส่งศาล เป็นต้น การแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงเป็นการดาเนินการตามนัยมาตรา 66
แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงไม่ต้องมีหนังสือสอบถามในกรณีที่เจ้าของที่ดินข้างเคียงไม่มาระวังชี้แนวเขตฯ
เหมอื นกบั กรณีการรงั วดั ตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อยา่ งใด

ในกรณีผมู้ ีสิทธิในทีด่ ินข้างเคยี งเปน็ ผู้เยาว์ การสง่ หนังสือแจ้งเจ้าของทด่ี ินข้างเคียงให้มาระวังชี้แนวเขตฯ
ใหด้ าเนนิ การสง่ หนงั สือแจ้งผ้เู ยาว์ซงึ่ เปน็ ผูม้ ีสิทธใิ นที่ดนิ ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน การระวังช้ี
แนวเขตและลงชอ่ื รบั ทราบแนวเขตที่ดนิ ไม่เข้าลักษณะการทานิติกรรมตามกฎหมาย ดงั นั้น เมอ่ื ผู้เยาว์มาระวังช้ี
แนวเขตด้วยตนเองและสามารถลงนามรับรองเขตได้ก็ให้ช่างฯ จัดทาบันทึกข้อเท็จจริงพร้อมให้ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง
ได้แก่ บิดามารดาหรือผู้ปกครอง (ถ้ามี) ลงนามรับรองในบันทึกถ้อยคารวมเรื่องไว้ด้วย หรือให้ผู้เยาว์
มอบอานาจเป็นหนงั สอื ใหบ้ ดิ ามารดาหรือผปู้ กครอง มาระวงั ช้ีแนวเขตฯ แทนกไ็ ด้ แต่ถ้ามีกรณีคัดค้านแนวเขต
จะดาเนินการได้โดยต้องไดร้ ับอนุญาตจากศาลกอ่ น

การแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียง (การแจ้งคร้ังแรก) จึงเป็นการแจ้งตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมาย
ที่ดิน โดยใช้แบบพิมพ์ ท.ด. 38 หรือหนังสือแจ้งการระวังช้ีแนวเขตและลงชื่อรับรองแนวเขตท่ีดินกรณีออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ซึ่งได้พิมพ์ข้อความเป็นแบบฟอร์มไว้แล้ว เพียงกรอกข้อความ
ทีต่ ้องการลงในช่องว่างไปเท่าน้ัน เช่น ชอื่ ผู้ขอ ประเภทการรังวัด ท่ีต้ังของท่ีดินของแปลงรังวัด ตาบล อาเภอ จังหวัด
กาหนดวันทาการรงั วัด ตอนล่างเป็นใบรับหมายข้างเคียง ส่วนด้านหลังหนังสือ แจ้งข้างเคียงดังกล่าวมีแบบการ
มอบหมายให้บุคคลอน่ื มาชีเ้ ขตแทนเจา้ ของทดี่ นิ เป็นการอานวยความสะดวกแก่เจา้ ของที่ดินข้างเคียงที่ไม่อาจจะไป
รว่ มระวังชี้แนวเขตดว้ ยตัวเอง

44

ตวั อย่าง หนงั สอื มอบเรอื่ งการระวงั ช้ีและรบั รองเขตทดี่ ิน

วันท่ี..........เดือน........................พ.ศ.

.

ขา้ พเจา้ .....................................................................................................อายุ.......................................

อยู่บา้ นเลขท่.ี ............................ตรอก/ซอย.....................................ถนน.........................................หม่ทู ี่.............

ตาบล...................................อาเภอ........................................จงั หวัด.................................โทร............................

เป็นเจ้าของทด่ี ินข้างเคยี งที่ทาการรังวดั โดยมีหลักฐาน.........................................................................................

ไดม้ อบให้……………………………………………………………………………………………………….….อายุ………………………..ปี

อยูบ่ า้ นเลขท.ี่ .......................ตรอก/ซอย........................................ถนน..................................หมูท่ ่.ี .....................

ตาบล..................................อาเภอ.........................................จังหวดั ..................................โทร...........................

เปน็ ผ้มู าระวังช้แี ละลงช่ือรับรองแนวเขตที่ดินแทนขา้ พเจา้ ซง่ึ เป็นข้างเคยี งของ. .

. .จนเสร็จการ

(ลงลายมอื ช่ือ).......................................ผู้มอบ

(ลงลายมอื ชื่อ).......................................ผ้รู บั มอบ

(ลงลายมอื ชือ่ )........................................พยาน

(ลงลายมือชอ่ื )........................................พยาน

ค่าใช้จา่ ยในการสง่ หนังสอื แจง้ เจ้าของท่ีดินข้างเคียง ในกรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดแบบเหมา
จ่ายให้เรียกเก็บจากผ้ขู อรังวดั เปน็ เงิน 200 บาท และให้ช่างผู้ทาการรังวัดเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่ง
หนงั สือแจง้ เจา้ ของที่ดนิ ขา้ งเคยี งให้มาระวังชีแ้ นวเขตฯ

การส่งหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตฯ ในกรณีสอบเขตโฉนดท่ีดิน หรือ
ตรวจสอบหนังสือรับรองการทาประโยชน์ หรือการแบ่งแยก หรือรวมโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทา
ประโยชน์ หรอื รงั วัดทาแผนที่พิพาทตามคาสั่งศาล โดยปกตใิ ห้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เว้นแต่กรณี
ท่ีข้างเคียงบางด้านผู้ขอรังวัดรับจะไปส่งด้วยตนเอง เช่น ข้างเคียงเป็นหน่วยงานทางราชการซ่ึงผู้ขอรังวัด
จาเปน็ ต้องนดั หมายเก่ียวกับการเดนิ ทาง หรอื เปน็ กรณีที่เจ้าของท่ีดินเป็นบุคคลซ่ึงอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
กับท่อี ยขู่ องผขู้ อรังวัด เป็นต้น ใหบ้ นั ทกึ ถ้อยคาของผู้ขอรังวัดในกรณที ผี่ ูข้ อรังวัดรับจะไปส่งด้วยตนเองเก็บรวม
เรื่องไว้เปน็ หลกั ฐานดว้ ย

(หนังสอื กรมทด่ี นิ ที่ มท 0726/ว 29243 ลงวันท่ี 26 กนั ยายน 2545)

การส่งหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตฯ ในกรณีการรังวัดเกี่ยวกับ
ท่สี าธารณประโยชน์ที่มแี ละไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง ตามระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการรับคาขอรังวัด
การนัดรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2547 ข้อ 14
ให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดให้เรียกเก็บได้เท่าท่ีจาเป็นและใช้จ่ายจริงจากผู้ขอรังวัดหรือผู้มีหน้าท่ีดูแล
รักษาที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการส่งหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังช้ี
แนวเขตฯ ดงั น้นั จงึ ใหผ้ ูข้ อรงั วดั หรือผู้มหี นา้ ที่ดแู ลรกั ษาท่ีสาธารณประโยชนด์ งั กลา่ วรับไปสง่ ด้วยตนเองและให้
ส่งมอบหลักฐานการนาส่งทางไปรษณีย์หรือหลักฐานการรับหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้กับช่างรังวัด
ในวนั รงั วัดเพอ่ื รวมเรือ่ งไว้เป็นหลกั ฐาน

45

การตรวจสอบหลักฐานการ สง่ /รับ หนงั สอื แจ้งเจา้ ของทดี่ ินข้างเคียง
การตรวจสอบหลักฐานการ ส่ง/รับ หนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตว่าถูกต้อง
ตรงตามข้อกาหนดของไปรษณยี ์นิเทศหรอื ไม่น้ัน ใหต้ รวจสอบจากใบตอบรับ หากผู้ลงนามรับเป็นผู้ท่ีมีชื่อระบุ
อยู่บนจา่ หนา้ ซองไปรษณีย์ (รับเอง) หรือเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในบ้านเรือนเดียวกัน หรือเป็นบุคคลซึ่งทางานอยู่ใน
สถานท่ีเดียวกันกับผู้รับ หรือเป็นเจ้าหน้าที่รับรองหรือผู้ดูแลของโรงแรมหรืออาคาร หรือเป็นผู้ทาหน้าท่ี
เวรรกั ษาการณข์ องหน่วยงานหรืออาคารหลายช้นั ต่างๆ เป็นผู้แทนของผู้ที่มีช่ือระบุอยู่บนจ่าหน้าซองไปรษณีย์
แลว้ ใหด้ าเนนิ การตอ่ ไปไดต้ ามควรแกก่ รณี หากผ้รู บั ไมใ่ ช่ผรู้ ับดงั ทก่ี ล่าวมาแล้ว หรือเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้รับ
หนงั สอื ภายหลังวันทาการรังวัด ใหร้ ายงานเสนอเจา้ พนกั งานท่ีดินเพ่ือนัดทาการรังวัดตรวจสอบเฉพาะด้านท่ีมี
ปญั หาดังกล่าวตอ่ ไป กรณที ่เี จา้ ของทีด่ ินข้างเคยี งไม่ไดม้ าระวงั ช้ีแนวเขตและได้โต้แย้งเรื่องคัดค้านเร่ืองลายมือ
ช่อื ในใบตอบรับวา่ เปน็ ลายมอื ช่อื ปลอม ให้สานักงานทีด่ ินมีหนังสือสอบถามขอ้ เทจ็ จริงจากไปรษณีย์ในประเด็น
ปญั หาดงั กลา่ ว หากไปรษณยี ์ได้ให้คารับรองวา่ ลายมอื ชื่อถกู ต้องจึงดาเนินการให้ผู้ขอต่อไปตามระเบียบ แต่ถ้า
ไปรษณยี ใ์ ห้คารบั รองว่าลายมอื ช่ือไมถ่ กู ตอ้ ง ใหน้ ัดทาการรังวัดตรวจสอบเฉพาะดา้ นอีกคร้งั
(ประกาศคณะกรรมการกิจการไปรษณีย์ เร่ือง ให้ใช้ไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2557 ข้อ 6. ข้อ 63.
และขอ้ 103)
(หนังสือกรมท่ดี นิ ที่ มท 0611/ว 14522 ลงวันที่ 23 มิถนุ ายน 2525)

การคน้ หาช่ือและท่อี ยู่เจ้าของทีด่ ินขา้ งเคยี ง
หนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท 0711.1/ว 19091 ลงวันท่ี 1 กันยายน 2526 ได้กาหนดให้เจ้าหน้าที่ ฝุาย
รังวัด และฝุายทะเบียนร่วมกันปฏิบัติหน้าท่ี โดยให้เจ้าหน้าท่ีฝุายรังวัดเขียนเลขท่ีดิน เลขหน้าสารวจ และชื่อ
ตาบล ของที่ดินแปลงข้างเคียงท่ีมีเขตติดต่อกับแปลงท่ีขอรังวัด พร้อมท้ังลงนามผู้ค้นไว้ด้วยตามแบบฯ แล้วส่งให้
ฝุายทะเบียน เม่ือฝุายทะเบยี นไดร้ ับเร่ืองคืนจากฝาุ ยรังวดั แล้ว ให้เจา้ หนา้ ทีค่ ้นหาหมายเลขโฉนดที่ดินช่ือและที่อยู่
เจ้าของที่ดินขา้ งเคียง โดยเขียนลงในแบบฯ พรอ้ มทั้งลงนามผ้คู น้ หาไว้ดว้ ยแล้วส่งคืนฝาุ ยรังวดั ภายใน 2 วัน

การลงนามในหนังสือแจ้งการระวังชี้แนวเขตและลงชื่อรับรองเขตทีด่ นิ (ท.ด. 38)
คาส่งั กระทรวงมหาดไทย ท่ี 542/2525 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2525 เร่ือง แต่งต้ังพนักงานเจ้าหน้าท่ี
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน แต่งต้ังให้ผู้ดารงตาแหน่งช่างรังวัดและนายช่างรังวัด ตั้งแต่ระดับ 4
ข้ึนไป ฝุายรังวัดสานักงานท่ีดินจังหวัด หรือสานักงานที่ดินสาขา เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ี ตามมาตรา 70
แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน และหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท 0611/1/ว 4375 ลงวันท่ี 17 กุมภาพันธ์ 2526 ให้
ช่างรงั วดั และนายชา่ งรังวดั ตงั้ แตร่ ะดบั 4 ขนึ้ ไปในสานกั งานทีด่ ินจังหวัดหรือสานกั งานท่ีดินสาขา เป็นผู้ลงนาม
ในหนงั สอื แจ้งการรังวัดชี้แนวเขตและลงชอ่ื รบั รองเขตทีด่ ิน (ท.ด.38) ในฐานะพนกั งานเจ้าหนา้ ทตี่ ามมาตรา 70
แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน โดยไม่ตอ้ งทาเป็นหนังสอื ราชการแยกต่างหาก ซ่ึงต่อมาไดม้ กี ารกาหนดช่ือตาแหน่ง
ข้าราชการพลเรือนสามัญทุกส่วนราชการใหม่ กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคาสั่ง ท่ี 66/2552 ลงวันท่ี 18
กุมภาพันธ์ 2552 เร่ือง แตง่ ต้ังเจา้ พนกั งานท่ีดิน แตง่ ต้งั ให้นายชา่ งรงั วัด ตัง้ แต่ระดบั ชานาญงานขึ้นไปในฝุายรังวัด
เปน็ เจ้าพนักงานทดี่ นิ มีอานาจหนา้ ท่ีตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน

การจา่ หน้าซองหนงั สอื แจ้งให้เจ้าของท่ีดนิ ข้างเคียงระวังชี้แนวเขตและลงชือ่ รับรองเขตที่ดิน (ท.ด.38)
หนังสือกรมท่ดี นิ ท่ี มท 0606/ว 31734 ลงวันท่ี 3 ธนั วาคม 2539 ได้กาหนดไว้ในกรณีท่ีเจ้าของที่ดิน
ข้างเคียงมีชื่อหลายคน ให้แจ้งชื่อคนแรกและต่อท้ายด้วยคาว่า “และผู้ถือกรรมสิทธ์ิรวม” เช่น เรียน นายสุพร
ทองดีน และผู้ถือกรรมสิทธ์ิรวม เป็นต้น ส่วนการจ่าหน้าซองให้แจ้งช่ือและท่ีอยู่ของผู้ถือกรรมสิทธ์ิรวมคนแรก
เทา่ น้นั

46

การดาเนินการเก่ียวกบั ข้างเคียง

ก. กรณีออกโฉนดท่ีดินหรอื หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์

ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2532) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนด
ที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ หมวด 2 การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ตาม
มาตรา 59 ตรี แหง่ ประมวลกฎหมายทดี่ ินขอ้ 8 ถ้าปรากฏว่าที่ดินมีอาณาเขตระยะของแนวเขตและท่ีดินข้างเคียง
ทุกด้านถกู ต้องกับหลกั ฐานการแจ้งการครอบครอง ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมาย
ที่ดิน พ.ศ. 2497 เช่ือได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อท่ีท่ีคานวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามหลักฐานการแจ้ง
การครอบครองดังกลา่ ว ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ท่ีออกโฉนดทีด่ นิ หรอื หนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเน้ือท่ี
ที่ได้ทาประโยชน์แล้ว แต่ไม่เกินเน้ือท่ีที่คานวณได้ และในกรณีที่ระยะแนวเขตท่ีดินผิดพลาดคลาดเคล่ือนให้
พนักงานเจ้าหน้าท่ีออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเน้ือท่ีที่ได้ทาประโยชน์แล้ว
เม่อื ผู้มีสิทธิในท่ีดินขา้ งเคียงไดล้ งชอื่ รับรองแนวเขตไว้เปน็ การถกู ต้องครบถ้วนทุกดา้ น

- การแจ้งข้างเคียงใช้แบบพิมพ์ตามหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท 0713/ว 3549 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์
2533 ซึ่งมีข้อความว่าถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขต โดยไม่คัดค้าน
การรังวัดเม่ือพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่วันทาการรังวัด พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์โดยไม่ต้องมีการรังรองแนวเขต การแจ้งข้างเคียงให้ส่งทางไปรษณีย์
ลงทะเบียนตอบรับตามท่ีอยทู่ เี่ คยติดต่อหรอื ตามทอ่ี ยูท่ ่ีผ้มู ีสิทธิ ในทด่ี นิ ข้างเคยี งไดแ้ จง้ เปน็ หนังสอื ไว้

- กรณที ี่ผมู้ สี ิทธิในที่ดนิ ข้างเคยี งได้รบั หนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้มาระวังแนวเขตแล้ว แต่ไม่มา
หรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเนื้อท่ีที่ได้ทาประโยชน์แล้ว โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต เมื่อพ้นกาหนด
เวลาสามสิบวนั นับแต่วนั ทาการรังวดั

- กรณที ่ไี ม่อาจติดต่อผ้มู ีสทิ ธใิ นที่ดินข้างเคยี งใหม้ าระวังแนวเขตได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศ
ตามแบบประกาศในหนงั สือกรมที่ดิน ท่ี มท 0713/ว 3549 ลงวนั ที่ 16 กมุ ภาพันธ์ 2533 แจ้งให้ผู้มีสิทธิในที่ดิน
ข้างเคียงนั้นมาลงชื่อรับรองแนวเขต หรือคัดค้านการรังวัดไว้ในที่เปิดเผย ณ สานักงานท่ีดินจังหวัดหรือ
สานกั งานท่ีดินสาขา สานักงานเขต หรือท่ีว่าการอาเภอหรือก่ิงอาเภอ ท่ีทาการกานัน ท่ีทาการผู้ใหญ่บ้าน และ
บริเวณท่ีดินของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงแห่งละหน่ึงฉบับ ในกรณีท่ีดินอยู่ในเขตเทศบาลให้ปิด ณ สานักงาน
เทศบาลอีกหน่ึงฉบบั ดว้ ย ถ้าผู้มสี ิทธิในทด่ี นิ ขา้ งเคยี งไม่มาตดิ ต่อหรอื คดั ค้านประการใดภายในสามสิบวันนับแต่
วันปิดประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเน้ือท่ี
ท่ีได้ทาประโยชนแ์ ล้ว โดยไม่ตอ้ งมีการรับรองแนวเขต

47

ประกาศ...................................
เรอ่ื ง การระวงั ชีแ้ นวเขตและลงช่อื รับรองเขตทด่ี นิ

ด้ ว ย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ไ ด้ น า รั ง วั ด
.........................................................................ที่ดินระวาง....................................................ตามหลักฐาน

.................................เลขที่.....................หมู่ท่ี................ตาบล...................................... ..อาเภอ
..................................จังหวัด............. ..........................พนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ดาเนินการเสร็จแล้วเมื่อวันท่ี

......................เดือน............................................พ.ศ............................ปรากฏว่าทีด่ ินแปลงนี้มีแนวเขตข้างเคียง
ติดต่อกบั ทด่ี ินของ...........................................................................................................แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่
อาจติดตอ่ ผมู้ สี ทิ ธิในทีด่ นิ ขา้ งเคียงดังกลา่ วใหไ้ ประวังแนวเขตได้

ฉะนัน้ จงึ ขอให.้ ........................................................................................................................................
ไปตรวจสอบแนวเขตท่ีดินของท่านวา่ ตามที่พนักงานเจ้าหนา้ ที่ทาการ.................................................................

ไว้แลว้ นนั้ จะเป็นการถูกตอ้ งหรอื รุกลา้ แนวเขตทีด่ ินของท่านหรือไม่ เสร็จแล้วขอใหท้ ่านไปติดต่อ
พนกั งานเจา้ หนา้ ท่เี พ่ือลงชื่อรับรองแนวเขตหรอื คดั ค้านการรงั วดั ภายในกาหนดสามสบิ วนั นับแตว่ นั ปิดประกาศ
น้ี หากทา่ นไม่ดาเนินการอย่างหนึง่ อย่างใดภายในกาหนดดงั กลา่ ว พนักงานเจา้ หนา้ ทจ่ี ะได้ออก

...................................................................................โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต

ประกาศ ณ วันท่.ี .............เดอื น.......................พ.ศ..................
ลงช่ือ...................................................................
(..................................................)

ตาแหนง่ ..................................................................
ประทับตราประจาตาแหนง่

ที่....................../........................... เขียนที่

.......................................................

วันที่...................เดือน..................................พ.ศ

...................

เรยี น .............................................................

ขา้ พเจ้า.............................................................ไดน้ าประกาศฉบับที่

.........................../.............................

ลงวนั ท่.ี .....................เดอื นที.่ ...................................พ.ศ......................แล้ว จึงเรยี นมาเพ่ือทราบ

(ลงชอ่ื ).......................................................ผู้ปิดประกาศ

(ลงชือ่ ).......................................................พยาน
(ลงชอ่ื ).......................................................พยาน

48

ตอ่ มากรมทด่ี นิ ได้มหี นงั สือ ท่ี มท 0516.5/ว 30598 ลงวนั ที่ 22 ธนั วาคม 2558 เร่ือง การระวังช้ีแนว
เขตและลงชื่อรับรองเขตท่ีดินกรณีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ให้เจ้าหน้าท่ีถือปฏิบัติ
ดังน้ี

1. การออกโฉนดทีด่ ินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เปน็ การเฉพาะราย
1.1 กรณอี อกโดยอาศยั หลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดนิ (ส.ค.1) ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของ

คณะกรรมการจัดทดี่ นิ แห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2532) ขอ้ 8 และขอ้ 9 (1), (2) และให้ใช้หนังสือแจ้งเรื่องการ
ระวังชี้แนวเขตท่ีดินและลงช่ือรับรองเขตที่ดิน , หนังสือนาส่งประกาศ และประกาศฯ ตามแบบแนบท้าย
หนงั สือ ที่ มท 0516.5/ว 30598 ลงวันที่ 22 ธนั วาคม 2558 แล้วแต่กรณี

1.2 กรณอี อกโดยอาศัยหลักฐานอ่ืนนอกจากข้อ 1.1 หรือไม่มีหลักฐานสาหรับท่ีดิน ให้แจ้งผู้มีสิทธิ
ในท่ีดนิ ขา้ งเคียงให้มาระวงั ชแี้ นวเขตและลงชือ่ รับรองเขตท่ีดิน โดยใช้หนังสือแจ้งเรื่องการระวังชี้แนวเขตและ
ลงชื่อรับรองเขตท่ดี ิน ตามแบบแนบทา้ ยหนังสือ ที่ มท 0516.5/ว 30598 ลงวันท่ี 22 ธันวาคม 2558 ส่งทาง
ไปรษณยี ล์ งทะเบยี นตอบรับไปยงั ผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงตามที่อยู่ที่เคยติดต่อ หรือตามท่ีอยู่ที่ผู้มีสิทธิในท่ีดิน
ขา้ งเคยี งนนั้ ได้แจง้ เปน็ หนังสอื ไวต้ ่อพนกั งานเจา้ หน้าที่ เพ่อื ให้มารบั รองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด

ในกรณที ผ่ี ู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงได้รับหนังสือ แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตท่ีดิน
โดยไมค่ ัดคา้ นการรังวดั ให้พนกั งานเจ้าหน้าท่ีออกดโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวน
เน้ือท่ที ี่ไดท้ าประโยชนแ์ ลว้ โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขตท่ีดิน เม่ือพ้นกาหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันทาการ
รงั วัด ในกรณที ี่มาอาจติดตอ่ ผมู้ สี ทิ ธใิ นทีด่ ินขา้ งเคยี งได้ ใหป้ ิดประกาศตามข้อ 5. แลว้ ดาเนนิ การต่อไป

2. การออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สอื รับรองการทาประโยชนโ์ ดยการเดนิ สารวจ ...ฯลฯ
3. การดาเนนิ การกรณีไม่มีการรบั รองแนวเขตทีด่ ิน

กรณีเจ้าของที่ดินข้างเคียงไม่มาระวังช้ีแนวเขตและลงช่ือรับรองเขตท่ีดิน หรือมาแต่ไม่ยอม
ลงชอ่ื รบั รองแนวเขตทด่ี นิ โดยไม่คัดค้านในวันทาการรังวัด หรือกรณีที่ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียง
ใหม้ าระวงั ชี้แนวเขตและลงช่ือรับรองเขตที่ดินในวันทาการรังวัดได้ ให้เจ้าของท่ีดินผู้นาทาการรังวัดรับรองว่า
มิได้นาทาการรังวัดรุกล้าเขตที่ดินข้างเคียง ในใบรับรองเขตติดต่อของเจ้าของท่ีดินและเจ้าของที่ดินข้างเคียง
(ท.ด. 34) พร้อมให้หมายเหตุในใบไต่สวน (น.ส.5) หรือในแบบบันทึกการสอบสวนสิทธิและพิสู จน์การทา
ประโยชน์เพ่ือออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน (น.ส.1ก)
หรือบันทึกการสอบสวนสิทธิและพิสูจน์การทาประโยชน์เพื่อออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์เพื่อออก
หนังสือรับรองการทาประโยชน์เฉพาะราย (น.ส.1ค) แล้วแต่กรณีตามระเบียบ กรมท่ีดิน ว่าด้วยการเขียน
ขา้ งเคียงและการรับรองแนวเขตทด่ี นิ ฯ

4. การดาเนินการกรณีเจา้ ของทด่ี นิ ขา้ งเคียงมาลงชื่อรับรองแนวเขตทดี่ ินในภายหลัง
ให้บันทึกถ้อยคาเจ้าของท่ีดินข้างเคียงโดยใช้แบบพิมพ์ ท.ด.16 รับรองเขตที่ดินรวมเรื่องไว้โดย

ไมต่ ้องลงชอื่ ในใบรับรองเขตตดิ ต่อของเจา้ ของทีด่ นิ และเจา้ ของท่ดี ินขา้ งเคยี ง (ท.ด. 34) และให้บรรยายในช่อง
ข้างเคยี งท่ีมไิ ด้มาระวังชแ้ี นวเขตที่ดนิ เพ่ิมเติมว่า “...(ชื่อเจ้าของท่ีดินข้างเคียง)...ได้รับรองเขตที่ดินตามบันทึก
ถอ้ ยคาฉบับลงวันที่ ... เดอื น ...พ.ศ....” พรอ้ มลงชอ่ื เจา้ หน้าทีผ่ บู้ ันทกึ กากับไว้
การปิดประกาศ

5. ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ทีม่ ีหนังสือนาส่งประกาศ ตามแบบแนบทา้ ย แจ้งให้ผู้มสี ิทธิในที่ดินขา้ งเคียง
น้นั มาลงชอื่ รับรองเขตทด่ี ินหรือคัดค้านการรังวดั เพอื่ ปดิ ไว้ในท่ีเปดิ เผยมกี าหนดเวลา 30 วัน ณ สานกั งานที่ดิน
จงั หวัดหรือสานกั งานที่ดนิ สาขา สานกั งานเขตหรอื ทว่ี า่ การอาเภอ สานักงานเทศบาล ที่ทาการองค์การบริหาร
ส่วนตาบล ที่ทาการแขวงหรือท่ีทาการกานัน ที่ทาการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ และบริเวณท่ีดินของผู้มีสิทธิใน
ท่ีดินข้างเคียง แห่งละหน่ึงฉบับ ถ้าผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงไม่มาติดต่อหรือคัดค้านประการใดภายใน 30 วัน

49

นับแต่วันปิดประกาศ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกดโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวน
เนอ้ื ทท่ี ่ีได้ทาประโยชน์แล้ว โดยไม่ต้องมกี ารรบั รองแนวเขตทีด่ นิ

ข. กรณรี งั วดั สอบเขตโฉนดทด่ี ินหรือการตรวจสอบเนื้อทต่ี ามหนังสือรับรองการทาประโยชน์
ในการดาเนินการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 31 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และระเบียบกรมท่ีดินว่าด้วยการติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในท่ีดิน
ข้างเคยี งให้มาลงชือ่ รบั รอง แนวเขตท่ีดนิ หรือคดั คา้ นการรงั วดั พ.ศ. 2521 การติดต่อหรือการแจ้ง ผมู้ สี ิทธิในที่ดิน
ข้างเคียงให้มารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดตามความในมาตรา 69 ทวิ วรรคสามและวรรคหก
แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน น้ัน จะดาเนินการภายหลังจากท่ีได้ทาการรังวัดเสร็จแล้ว และจะดาเนินการ
ดงั กลา่ วตอ่ เม่อื ปรากฏผลของการรังวัดวา่ การครอบครองไม่ตรงกับแผนท่ีหรือเนื้อที่ในโฉนดท่ีดิน เม่ือผู้มีสิทธิ
ในที่ดินได้รับรองแนวเขตแล้ว เจ้าพนักงานที่ดินมีอานาจแก้ไขแผนที่หรือเนื้อที่ให้ตรงกับความเป็นจริงได้
ตามมาตรา 69 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน เวน้ แตเ่ ป็นการสมยอมเพอื่ หลีกเลี่ยงกฎหมาย

การดาเนินการในกรณีข้างต้น เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง ได้รับการติดต่อจากพนักงาน
เจ้าหน้าท่ีให้มาระวังแนวเขตแล้วแต่ไม่มา หรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งให้มาลงช่ือรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด (เป็นการแจ้งคร้ังท่ีสอง)
โดยส่งหนงั สอื แจ้งทางไปรษณยี ์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามท่ีอยู่ท่ีเคยติดต่อซึ่งปรากฏ
ในหลักฐานท่ีสานักงานที่ดิน เช่น สารบบที่ดิน บัตรรายช่ือผู้มีสิทธิในที่ดินหรือตามที่อยู่ที่มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง
แจ้งการเปลย่ี นแปลงหรอื การย้ายที่อยู่ไว้เปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ที่

ในกรณีท่ไี มอ่ าจตดิ ต่อผู้มีสทิ ธิในท่ีดินข้างเคยี งใหม้ าระวังแนวเขตได้ ใหด้ าเนินการ ดงั น้ี
- ให้ปิดหนังสือแจ้งให้ผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงมาลงช่ือรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด
โดยมอบหมายใช้ช่างผู้ทาการรังวัดหรือช่างรังวัดอ่ืนนาไปปิด ณ บริเวณท่ีดินของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงน้ัน
และใหม้ พี ยานร้เู หน็ การปดิ หนงั สอื แจ้งอยา่ งนอ้ ย 2 คน แลว้ บันทึกถ้อยคาพยานเปน็ หลักฐานติดเรื่องไว้ด้วย
- ใหท้ าหนงั สือนาส่งหนังสือแจง้ สง่ ไปยงั หัวหน้าเขต นายอาเภอ หรือปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจา
กิ่งอาเภอท้องท่ีซ่งึ ทีด่ นิ นั้นตอ้ งอยู่ เพอ่ื ปดิ ประกาศไว้ ณ ทว่ี ่าการเขต ที่วา่ การอาเภอหรือก่งิ อาเภอแล้วแตก่ รณี
- ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับท่ีอยู่ท่ีพนักงาน
เจ้าหน้าที่สอบถามได้ความจากนายทะเบียนอาเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น (ให้หมายความรวมถึง
การตรวจสอบข้อมูลบุคคลจากระบบสารสนเทศของกรมการปกครองด้วย ตามหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท
0514.3/ว 14574 ล.ว. 4 มิ.ย. 2550) หรือถ้าสอบถามแล้วยังไม่ทราบท่ีอยู่ของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง
ก็ให้สง่ ไปยงั ผูม้ ีสทิ ธิในทีด่ ินขา้ งเคียงตามท่ีอยู่ท่ปี รากฏหลกั ฐานทสี่ านกั งานที่ดิน
- การส่งหนังสือแจ้งไปปิด ณ ที่ว่าการเขต ที่ว่าการอาเภอหรือกิ่งอาเภอท้องท่ี และการส่งหนังสือ
แจง้ ไปยงั ผมู้ ีสทิ ธใิ นทด่ี นิ ขา้ งเคียงใหก้ ระทาในวันเดียวกัน
- การปดิ หนงั สอื แจ้ง ณ บริเวณที่ดนิ ของผูม้ ีสทิ ธิในทีด่ ินข้างเคยี งใหก้ ระทาโดยไม่ชกั ช้า หนังสือแจ้งให้
ใช้แบบ ท.ด. 81

ค. การแจ้งหมายข้างเคียง กรณรี ังวัดแบ่งแยกที่ดินที่มกี ารรังวัดใหมแ่ ลว้
ระเบียบกรมท่ีดินว่าด้วยการแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงกรณีรังวัดแบ่งแยกท่ีดิ นท่ีมีการรังวัด

ใหมแ่ ลว้ พ.ศ. 2527 เมอ่ื มีการขอรงั วดั แบ่งแยกทีด่ นิ นอกจากจะต้องให้ย่ืนคาขอและดาเนินการตามระเบียบ
แล้ว ให้สอบถามผู้ขอ เช่น ขอแบ่งทางทิศใด จากไหนถึงไหน มีระยะกว้างยาวประมาณเท่าใด และให้แสดง
รปู แผนทโ่ี ดยประมาณไว้หลงั คาขอ หรอื หลงั บันทึกขอ้ ตกลงเร่ืองแบ่งกรรมสิทธิ์รวม แล้วให้ผู้ขอรับรองไว้ด้วย
การเขียนแผนทป่ี ระกอบเร่ืองถา้ ข้างเคียงเปล่ยี นแปลงไปก็ใหเ้ ขียนเพ่มิ เตมิ ดว้ ย


Click to View FlipBook Version