The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม_แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์เล่ม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 0309, 2021-04-06 05:28:03

รวมเล่ม_แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์เล่ม 1

รวมเล่ม_แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์เล่ม 1

แบบฝึกทกั ษะวิทยาศาสตร์เรื่อง พันธุกรรมและความหลากหลายของส่ิงมชี ีวิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวทิ ยาศาสตรเ์ ร่อื ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสิ่งมชี ีวติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

คำนำ

แบบฝึกเสริมทกั ษะวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาหรบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 จัดทา
ขนึ้ เพอื่ ใช้ในการพฒั นาการเรยี นการสอน รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6 รหัสวิชา ว 23102 เพอ่ื ให้นักเรยี นมีความรู้
ความเข้าใจในเรือ่ ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต แบบฝึกเสริมทกั ษะเล่มนี้ ประกอบดว้ ย
คาแนะนาในการใชแ้ บบฝกึ เสริมทักษะ เนือ้ หาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบฝึกทกั ษะและแบบทดสอบหลัง
เรียน พร้อมเฉลยคาตอบ นกั เรยี นสามารถศึกษาไดด้ ้วยตนเอง เมอ่ื นาแบบฝกึ เสริมทักษะเลม่ นไี้ ปใช้ในการ
จดั การเรียนการสอนแลว้ จะทาใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั เร่อื งพันธุกรรมและความหลากหลาย
ของสิง่ มชี วี ติ มากยิ่งข้นึ และสง่ ผลใหน้ ักเรียนมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสงู ขนึ้

ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยิง่ วา่ แบบฝึกเสรมิ ทักษะวทิ ยาศาสตรเ์ ลม่ นี้ จะเปน็ สว่ นหน่งึ ของเครอื่ งมือที่
จะช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้อยา่ งสมบูรณ์ มปี ระสิทธิภาพ และจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การจัดการเรียนรู้
สาหรบั นกั เรียน ครูผู้สอนและผู้ที่สนใจไดเ้ ป็นอยา่ งดี

ปราณวี ัลย์ สายบดุ ดี

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวิทยาศาสตร์เรอื่ ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสิ่งมชี วี ติ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ข

สำรบัญ หนา้

เร่ือง ข
คานา ค
สารบญั ง
คาแนะนาการใชแ้ บบฝกึ ทักษะวิทยาศาสตร์ จ
คาชแ้ี จง 7
จุดประสงค์การเรียน 10
แบบทดสอบก่อนเรียน 15
ใบความรู้ท่ี 1 เรือง ยีนและโครโมโซม 19
ใบความรู้ที่ 2 เรือง การแบง่ เซลล์ 20
แบบฝึกทกั ษะที่ 1 เรือง ยนี และโครโมโซม 21
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 2 เรอื ง ยนี และโครโมโซม 2 24
แบบทดสอบหลังเรยี น 28
ภาคผนวก
บรรณนานกุ รม

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ รื่อง พันธุกรรมและความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3



คำแนะนำกำรใชแ้ บบฝกึ ทักษะวิทยำศำสตร์

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ รื่อง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มีชีวิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 นกั เรยี น
ต้องปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอน ดงั นี้

1. กอ่ นศึกษาแบบฝึกทกั ษะ ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ลงในกระดาษคาตอบ
2. ให้นกั เรียนศกึ ษาเนือ้ หาจากใบความรู้เรื่อง แล้วปฏิบัตติ ามกจิ กรรมในแบบฝกึ ทกั ษะ
3. เม่ือทากิจกรรมในแบบฝกึ ทักษะเสรจ็ หมดทกุ แบบฝึกแล้ว ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น ใน

กระดาษคาตอบ
4. นักเรยี นนาคะแนนเปรยี บเทยี บคะแนนจากการทาแบบทดสอบก่อนเรียน
และหลงั เรียน เพือ่ ทราบผลการเรยี นและการพัฒนา

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตรเ์ ร่อื ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิต ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ง

คำชแ้ี จง

1. แบบฝกึ ทักษะวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของสิง่ มีชวี ิต รายวชิ า
วิทยาศาสตร์ 6 รหัสวชิ า ว23102 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 มีทงั้ หมด 4 เล่ม ดังนี้
เล่มที่ 1 เร่อื ง ยนี และโครโมโซม
เลม่ ที่ 2 เร่อื ง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม
เลม่ ที่ 3 เร่ือง กฎของเมนเดลและความผิดปกตทิ างพนั ธุศาสตร์
เลม่ ที่ 4 เรือ่ ง ความหลากหลายของสงิ่ มชี วี ติ

2. ในแต่ละชุดจะมีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และเนอ้ื หาสาระสอดคลอ้ งกับแผนการจัด
การเรยี นรูใ้ นคมู่ อื การจัดการเรียนรรู้ ายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 6 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3

3. จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หาและกจิ กรรมของแบบฝึกเสริมทักษะวทิ ยาศาสตร์
แต่ละเลม่ เสรจ็ สมบูรณ์ในตวั เองผูเ้ รียนสามารถใช้ไดด้ ว้ ยตนเอง

4. ผเู้ รียนสามารถประเมินตนเองดว้ ยการตรวจคาตอบจากเฉลยในภาคผนวก

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตร์เรือ่ ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสงิ่ มีชวี ิต ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3



จุดประสงค์กำรทำแบบฝึกทกั ษะวิทยำศำสตร์ เลม่ ที่ 1

เม่ือนักเรยี นได้ศกึ ษาแบบฝกึ ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ เล่มท่ี 1 แลว้ นักเรียนสามารถ
1. อธบิ ายลกั ษณะของโครโมโซมได้
2. อธิบายความหมายของคาว่าพนั ธกุ รรมได้ถกู ตอ้ ง
3. จาแนกประเภทของหนว่ ยพันธกุ รรมได้

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตร์เรอ่ื ง พันธุกรรมและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยำศำสตร์
เล่มที่ 1

เรื่อง ยนี และโครโมโซม

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวทิ ยาศาสตรเ์ รือ่ ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3

แบบทดสอบกอ่ นเรียน
เรื่อง ยีนและโครโมโซม

คำช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทีถ่ กู ทส่ี ุดแลว้ ทาเคร่ืองหมาย (X) ลงในกระดาษคาตอบ

1. นกั เรียนจะสามารถพบโครโมโซมได้มากที่สุดที่ใด ค. ไซโทพลาสซึม
ก. นวิ เคลยี ส ง. คลอโรพลาส
ข. เยอื่ หุ้มเซลล์

จงใช้แผนภาพที่กาหนดใหต้ อบคาถามข้อ 2 -3

1

2. แผนภาพที่กาหนดเรยี กวา่ อะไร

ก. โครมาทดิ ค. โครโมโซม
ข. โครมาทิน ง. เซนโทเมยี ร์

3. จากภาพ หมายเลข 1 คือข้อใด ค. โครโมโซม
ก. เซนโทเมยี ร์ ง. โครมาทิด
ข. โครมาทิน

4. โครโมโซมค่ใู ดเป็นโครโมโซมเพศ ค. 1-22
ก. 1 ง. 1-23
ข. 23
ค. 23 คู่
5. มนุษย์มโี ครโมโซมจานวนกี่คู่ ง. 24 คู่
ก. 21 คู่
ข. 22 คู่

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ รอ่ื ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มชี วี ิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

6. ชิมแปนซีมจี านวนโครโมโซมในนวิ เคลียส 48 แทง่ ในเซลลส์ ืบพนั ธ์ุจะมีโครโมโซมเท่าใด

ก. 24 คู่ ค. 48 แท่ง

ข. 24 แท่ง ง. 48 คู่

7. หน่วยทค่ี วบคุมและถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมคืออะไร

ก. โครโมโซม ค. เซลล์

ข. นิวเคลียส ง. ยนี

8. ข้อใดกล่าวถกู ต้อง
ก. ยีนดอ้ ยสามารถสดงออกไดแ้ ม้มยี ีนเดยี ว
ข. ยีนเดน่ อยกู่ บั ยนี ด้อยจะแสดงลักษณะดอ้ ย
ค. ยีนเด่นสามารถแสดงออกได้แมม้ ียีนเดยี ว
ง. ยนี เดน่ อย่กู ับยนี ด้อยจะแสดงท้งั ลักษณะเดน่ และลกั ษณะดอ้ ย

9. ในการแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซสิ เซลล์ใหมท่ ีไ่ ดจ้ ะมโี ครโมโซมเป็นอยา่ งไร
ก. ลดลงครึง่ หนง่ึ ของเซลล์เดิม
ข. เพ่ิมขึ้นหนง่ึ เท่าของเซลล์เดมิ
ค. เท่าของเซลลเ์ ดิมทกุ ประการ
ง. เพิม่ ขึ้นเปน็ สองเทา่ ของเซลล์เดิม

10. ในการแบง่ เซลล์แบบไมโทซสิ เซลล์ใหมท่ ี่ไดจ้ ะมโี ครโมโซมเป็นอยา่ งไร
ก. ลดลงครึง่ หนึง่ ของเซลล์เดมิ
ข. เพ่มิ ขน้ึ หนง่ึ เทา่ ของเซลลเ์ ดิม
ค. เทา่ ของเซลล์เดิมทุกประการ
ง. เพ่ิมขนึ้ เปน็ สองเท่าของเซลล์เดิม

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ รื่อง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวติ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3

แบบทดสอบก่อนเรยี น
เร่อื ง ยนี และโครโมโซม

ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ตงั้ ใจทำแบบทดสอบนะคะ

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตรเ์ รื่อง พันธุกรรมและความหลากหลายของส่งิ มชี วี ติ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3

ใบควำมรู้ท1่ี เรอื ง ยีนและโครโมโซม

ยนี
ยีน (gene) คอื หนว่ ยพันธกุ รรมท่อี ยูบ่ นโครโมโซม (chromosome) มีลักษณะเรียงกันเหมอื น

สร้อยลกู ปัด ทาหน้าที่ควบคุมลักษณะตา่ งๆ ทางพนั ธกุ รรมจากพ่อแมไ่ ปยงั ลูกหลาน ในคนจะมียนี ประมาณ
50,000 ยีน แต่ละยนี จะควบคุมลักษณะต่างๆ ทางพันธุกรรมเพยี งลกั ษณะเดียว ยนี ท่คี วบคุมลกั ษณะ
พนั ธุกรรมบางอย่างมี 2 ชนิด คือ

1. ยนี เดน่ (dominant gene) คือ ยีนท่ีแสดงลักษณะนน้ั ๆ ออกมาได้ แม้มียีนนั้นเพียงยีนเดียว
2. ยนี ด้อย (recessive gene) คอื ยีนทสี่ ามารถแสดงลักษณะใหป้ รากฏออกมาได้ กต็ ่อเมื่อมยี นี
ดอ้ ยท้งั สองยนี อยู่บนคูโ่ ครโมโซม
โครโมโซม
โครโมโซม (chromosome) ในเซลลข์ องส่งิ มีชวี ติ ประกอบดว้ ย นิวเคลยี ส เยอ่ื หุม้ เซลล์ ไซโทพลา
ซมึ เมอื่ ใช้กล้องจลุ ทรรศนส์ อ่ งดนู ิวเคลียสของเซลล์ทีก่ าลงั แบง่ ตัวจะเห็นโครงสร้างมีลกั ษณะเปน็ เสน้ ยาวๆ
เลก็ ๆ ขดไปมาเรียกโครงสรา้ งนี้วา่ โครมาทิน (chromatin) เม่อื เซลล์โครมาทินขดแนน่ มากขนึ้ และหดสั้นลง
จะมลี ักษณะเปน็ แท่งเรียกว่า โครโมโซม (chromosome) โครโมโซมแต่ละโครโมโซมประกอบด้วยแขน 2 ขา้ ง
เรียกว่า โครมาทิด (chromatid) ซ่ึงแขนท้ังสองจะมีจุดเช่ือมกันเรยี กวา่ เซนโทรเมยี ร์ (centromere) ดังรปู

รูปแสดงโครโมโซม

รูปแสดงกำรเชื่อมโยงของแขนโครโมโซม

จำนวนโครโมโซมของส่ิงมชี ีวติ
มจี านวนโครโมโซมทค่ี งทแี่ ละเท่ากันเสมอ ถา้ ส่ิงมีชวี ติ ต่างชนดิ กนั จะมีจานวนโครโมโซมที่แตกต่าง

กัน จานวนโครโมโซมในเซลลร์ า่ งกายและโครโมโซมในเซลล์สืบพันธุจ์ ะแตกต่างกัน โดยโครโมโซมในเซลล์
สืบพนั ธ์ุจะมเี พยี งคร่งึ หนงึ่ ของเซลล์รา่ งกาย ดงั ตาราง

ตำรำงแสดงจำนวนโครโมโซมในเซลลร์ ่ำงกำยและเซลล์สบื พันธุ์

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวทิ ยาศาสตร์เรื่อง พันธุกรรมและความหลากหลายของส่งิ มีชีวิต ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3

สงิ่ มีชวี ิต จานวนโครโมโซม

1. ถว่ั ลันเตา เซลล์ร่างกาย (แท่ง) เซลลส์ ืบพันธุ์ (แทง่ )
2. ข้าวโพด
3. ข้าว 14 7
4. มะเขอื เทศ
5. แมลงหว่ี 10 5
6. แมลงวัน
7. สนุ ขั 24 12
8. ปลากดั
9. ชมิ แปนซี 24 12
10. คน
84

12 6

78 39

42 21

48 24

46 23

การศกึ ษาจานวนและรูปร่างโครโมโซมของสิ่งมชี วี ิต เช่น คน ทาโดยนาเซลล์รา่ งกาย เช่น เซลลเ์ ม็ดเลอื ด
ขาวบางชนิดมาศึกษา และนามาถา่ ยภาพของโครโมโซม จากนัน้ จึงนาภาพถา่ ยโครโมโซมมาจดั เรยี งตามรูปร่าง
ลกั ษณะ และขนาด โดยนาโครโมโซมที่มรี ปู รา่ งลักษณะเหมือนกันและขนาดใกล้เคยี งกันมาจดั ไว้ในคเู่ ดยี วกนั

จำนวนโครโมโซมของคน
มนุษย์มีโครโมโซมจานวน 46 แท่ง จดั ได้ 23 คู่ แบ่งเป็นออโทโซม ซึ่งมลี ักษณะเหมอื นกันในเพศชายและ
เพศหญงิ จานวน 22 คู่ สว่ นคู่ท่ี 23 เปน็ โครโมโซมเพศ มีลกั ษณะต่างกันดังรปู

โครโมโซมเซลล์รา่ งกาย 1 เซลลข์ องผู้ชาย โครโมโซมเซลลร์ ่างกาย 1 เซลลข์ องผู้หญงิ

รปู แสดงโครโมโซมของเซลล์รา่ งกายในเพศชายและเพศหญิง

โครโมโซมในร่างกายมนษุ ย์มที งั้ หมด 46 แทง่ แบ่งเป็น
1. โครโมโซมร่างกาย (autosome) คือ โครโมโซมคู่ท่ี 1 – คูท่ ี่ 22 รวมจานวน 22 คู่ จานวน 44 แทง่
เหมอื นกนั ทัง้ ชายและหญงิ มบี ทบาทสาคัญในการการกาหนดลักษณะทางพนั ธกุ รรมตา่ งๆ ในร่างกาย
2. โครโมโซมเพศ (sex chromosome) คือ โครโมโซมคทู่ ่ี 23 ในเพศหญิงจะมีโครโมโซมเป็น XX

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตร์เร่ือง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของสง่ิ มชี ีวติ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3
ในเพศชาย XY โดยโครโมโซม Y จะมขี นาดเล็กกว่าโครโมโซม X

ภาพโครโมโซม Xและ Y http://www.bbc.com/news/health-24991843

 มนษุ ย์ผหู้ ญิงมโี ครโมโซม 44+XX แทง่
 มนษุ ย์ผูช้ ายมีโครโมโซม 44+XY แทง่
 เซลล์ไขม่ ีโครโมโซม 22+X แท่ง
 เซลลอ์ สุจิมโี ครโมโซม 22+X แท่ง หรอื 22+Y แท่ง

ในเพศชายมโี ครโมโซมเพศหนึ่งแทง่ ขนาดใหญ่ เรยี กวา่ โครโมโซม X และโครโมโซมเพศอีกแท่ง
หน่ึงมีขนาดเลก็ เรยี กว่า โครโมโซม Y สัญลักษณ์เพศชายคอื XY สว่ นโครโมโซมเพศของเพศหญิงเป็น
โครโมโซม X เหมอื นกนั ทั้งคู่ สัญลกั ษณเ์ พศหญงิ คือ XX

ร่ำงกำยประกอบเซลล์ 2 ประเภท
1. เซลลร์ ำ่ งกำย หมำยถงึ เซลลซ์ ึ่งประกอบเป็นเนื้อเย่อื ตา่ งๆ ตามอวัยวะทกุ ระบบ มีจานวน

โครโมโซมเท่ากบั จานวนโครโมโซมของสงิ่ มชี ีวิตแต่ละชนิด เชน่ คนมี 46 แท่ง
2. เซลลส์ บื พันธ์ุ หมำยถงึ เซลล์ท่มี หี น้าท่ีเกยี่ วกบั การสืบพันธุ์ โดยเพศผู้จะสร้างเซลล์อสุจิ

ส่วนเพศเมยี จะสรา้ งเซลลไ์ ข่ เซลล์สบื พันธุจ์ ะมีโครโมโซมเพยี งคร่ึงเดียวของเซลล์รา่ งกาย

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตร์เรอ่ื ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของสง่ิ มชี ีวติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
ภายในนวิ เคลยี สของแตล่ ะเซลล์ประกอบเป็นร่างกายของสิ่งมีชีวิต จะมจี านวนโครโมโซม

เท่ากันหมดทุกเซลล์ เชน่ ทกุ ๆ เซลลข์ องรา่ งกายคนมโี ครโมโซมจานวน 46 แท่ง สว่ นในเซลลส์ บื พนั ธจุ์ ะมี
โครโมโซมเพียงครงึ่ เดียวของเซลลร์ ่างกาย ดังแผนภาพ

แผนภำพแสดงเซลล์สบื พันธ์ุเพศชำยและเพศหญงิ
เมอ่ื เซลล์อสจุ ิ (sperm) ของพอ่ และเซลล์ไข่ (egg) ของแม่ ซงึ่ มีโครโมโซมเซลล์ละ 23 แท่ง มารวมกนั
เปน็ เซลลใ์ หม่ มีจานวนโครโมโซม 46 แท่ง ซ่งึ เทา่ กบั เซลล์รา่ งกายปกติดงั รูป

รูปแสดงจำนวนโครโมโซมภำยหลังกำรปฏิสนธิ

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตร์เร่อื ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของส่ิงมชี วี ิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3

ขอ้ ควรทรำบ
โครโมโซมในเซลลร์ ่างกายของส่งิ มชี ีวติ มีรปู ร่างลักษณะเหมือนกนั เป็นคๆู่ แต่ละคู่

เรียกวา่ ฮอมอโลกัสโครโมโซม (homologous chromosome) เมอื่ แบง่ เซลล์โครโมโซมแต่ละแท่งจะ
ประกอบด้วยโครมาทดิ 2 โครมาทิด (chromatid) ท่ีเหมอื นกนั บริเวณทีโ่ ครมาทิดทั้งสองติดกันเรียกว่า
เซนโทรเมยี ร์ (centromere)

ฟโี นไทป์ (phenotype) หมำยถึง ลกั ษณะทีป่ รากฏใหเ้ ห็นภายนอกซง่ึ เป็นผลมาจาก
ยีน เชน่ ตน้ สูง ต้นเตีย้ เมลด็ กลม เมลด็ ขรขุ ระ เป็นต้น

จโี นไทป์ (genotype) หมำยถงึ ลกั ษณะของยนี ทอี่ ยูภ่ ายใน จะอยู่กันเป็นคู่ ๆ นิยม
ใชส้ ญั ลักษณเ์ ป็นอักษรภาษาองั กฤษตัวพิมใหญแ่ ทนยนี ท่ีควบคุมลักษณะเดน่ และใช้อักษรตัวพิมเลก็ แทนยีน
ที่ควบคุมลักษณะด้อย เช่น TT, Tt , tt เป็นต้น แบง่ ออกได้เปน็ 2 ลักษณะ ไดแ้ ก่

1.พนั ธุแ์ ท้ (homozygous) หมำยถงึ ลกั ษณะของจโี นไทร์ทมี่ ยี ีนทั้งคู่เหมือนกันซ่ึงอาจ
เปน็ ยีนทม่ี ีลกั ษณะเด่นทั้งคู่ เชน่ TT, RR หรอื แสดงลักษณะด้อย เช่น tt , rr เป็นตน้

2.พนั ธท์ุ ำง (heterozygous) หมำยถงึ ลกั ษณะของจีโนไทป์ ท่ีมยี ีนท้ังคู่แตกต่าง
กัน โดยมียนี แสดงลกั ษณะเด่น 1 ยีนแสดงลักษณะด้อย 1 ยีน เช่น Tt , Rr เปน็ ตน้

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทักษะวิทยาศาสตรเ์ รอ่ื ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่ิงมชี ีวติ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3

ใบควำมรู้ท2ี่ เรือง กำรแบง่ เซลล์

กำรแบ่งเซลล์ (CELL DIVISION)
การเจริญเติบโต และการสบื พนั ธ์ุของสง่ิ มีชวี ติ เกย่ี วขอ้ งกบั การแบง่ เซลล์ 2 ขบวนการ คือ การ

แบง่ ตัวของนวิ เคลียส (KARYOKINESIS) และการแบง่ ตวั ของไซโทพลาซมึ (CYTOPLASM) เม่อื การแบ่งตวั ของ
นวิ เคลียสสน้ิ สุด ขบวนการแบง่ ตวั ของไซโทพลาสซมึ ทนั ที

กำรแบง่ ตัวของนิวเคลียสมีอยู่ 2 แบบ คือ
1. การแบง่ ตวั แบบไมโทซิส
2. การแบง่ ตัวแบบไมโอซสิ
วัฏจกั รของเซลล์ (cell cycle) หมายถึง ช่วงระยะเวลาการเปลย่ี นแปลงของเซลลใ์ นขณะที่เซลล์มีการ

แบ่งตวั ซึ่งประกอบดว้ ย 2 ระยะไดแ้ ก่ การเตรยี มตวั ให้พร้อมท่จี ะแบง่ ตัว และกระบวนการแบง่ เซลล์
1. ระยะอินเตอรเ์ ฟส (Interphase) – Chromosome จะมองเหน็ ไมช่ ัดเนื่องจากกาลังจาลองตวั เอง

ประกอบดว้ ย 3 ขั้นตอนย่อย
G1 : ระยะก่อนสร้าง DNA สรา้ งสารเพ่อื ใช้สร้าง DNA
S : ระยะสังเคราะหแ์ ละสร้าง DNA
G2 : ระยะหลังสร้าง DNA พรอ้ มแบ่งโคโมซมและไซโทพลาสซมึ
2. ระยะ M (M-phase) เป็นระยะทมี่ ีการแบ่งนวิ เคลียส และแบง่ ไซโทพลาสซมึ ซ่ึงโครโมโซมจะมีการ

เปลี่ยนแปลงหลายข้นั ตอน ก่อนท่ีจะถกู แบ่งแยกออกจากกนั ประกอบด้วย 4 ระยะย่อย คอื โพรเฟส เมทาเฟส
แอนาเฟส และเทโลเฟส

- Prophase - Chromosome เห็นชัด, เยือ่ หุ้มนิวเคลียสและนวิ คลโิ อลสั หายไป
- Metaphase - Chromosome มาเรียงตรงกลางเซลล์
- Anaphase - Chromosome แยกไปคนละขา้ งของเซลล์
- Telophase - นวิ เคลียสแยกเป็น 2 อนั

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตรเ์ รื่อง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสงิ่ มชี วี ติ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
กำรแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (mitosis)

ภาพกำรแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (mitosis)
http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin527

- แบง่ เซลล์ เพ่ือเพ่ิมจานวนเซลลข์ องร่างกาย ในการเจริญเตบิ โตของส่งิ มีชวี ติ หลายเซลล์
- การแบ่งเซลลเ์ พอ่ื การสบื พนั ธุ์ ในส่ิงมชี ีวิตเซลล์เดียว
- ไมม่ ีการลดจานวนชุดโครโมโซม (2n ไป 2n หรอื n ไป n )
- เมื่อสน้ิ สุดการแบง่ เซลล์จะได้ 2 เซลล์ใหมท่ มี่ ีโครโมโซมเท่าๆ กนั
- พบที่เน้ือเย่ือเจริญปลายยอด, ปลายราก, แคมเบียม ของพืชหรอื เนอ้ื เย่ือบผุ ิว, ไขกระดูกในสัตว์,
การสร้างสเปริ ์ม และไข่ของพืช
- มี 5 ระยะ คอื อนิ เตอร์เฟส (interphase), โพรเฟส (prophase), เมทาเฟส (metaphase), แอ
นาเฟส (anaphase) และเทโลเฟส (telophase)

สรปุ กำรแบ่งเซลล์แบบ Mitosis
- ไดเ้ ซลล์ 2 เซลล์
- Chromosome จานวนเท่าเดมิ (2n = 2n)
- เซลล์ท่ีได้มลี ักษณะเหมือนเดิมทุกประการ
- พบในการแบง่ เซลล์เพ่ือการเจรญิ เตบิ โต

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตรเ์ รอ่ื ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3
กำรแบง่ เซลล์แบบไมโอซิส (meiosis)

กำรแบง่ เซลลแ์ บบไมโอซิส (meiosis)
http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin527

1. แบง่ เซลลเ์ พอ่ื สร้างเซลลส์ บื พันธ์ุ เกิดในวัยเจรญิ พันธข์ุ องส่ิงมชี วี ิต สตั วแ์ ละมนุษยพ์ บในอัณฑะ
(testes), รังไข่ (ovary), ในพชื แบง่ เพ่อื สรา้ งสปอร์ (spore) ในพืช พบในอบั ละอองเรณู (pollen sac) และอบั
สปอร์ (sporangium) หรอื โคน (cone) หรือในออวุล (ovule)

2. การลดจานวนชดุ โครโมโซมจาก 2n เปน็ n ซ่ึงเปน็ กลไกหนงึ่ ที่ช่วยใหจ้ านวนชุดโครโมโซมคงที่
ในแตล่ ะสปชี สี ์

3. มี 2 ขั้นตอน คอื ไมโอซิส I (Meiosis - I) และไมโอซสิ II (Meiosis - II)

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวทิ ยาศาสตร์เรอ่ื ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวิต ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3

Meiosis I มีขั้นตอนการแบง่ เหมือน Mitosis แตกต่างจาก Mitosis คอื
1. ระยะ Prophase มกี ารแลกเปลยี่ น (Synapsis) สว่ นของ Chr. ใน Chr. คู่ทเ่ี หมอื นกัน
(Homologous Chromosome)
2. ระยะ Anaphase Homologous Chromosome จะแยกตวั ออกจากกันไปคนละข้างของเซลล์
ดังนนั้ แตล่ ะเซลล์ทแี่ ยกไปจึงมี Chr. ลดลงครง่ึ หนง่ึ (ในคน 46 แทง่ เหลอื 23 แท่ง)
3. Synapsis
4. การแลกเปลีย่ นสว่ นของโครโมโซมระหวา่ ง Homologous Chromosome ค่เู ดียวกัน
5. มีการไขวก้ นั ของ Homologous Chromosome เรยี ก Crossing Over Meiosis II คล้าย

Mitosis แตไ่ ม่มี การจาลองตัวของ Chromosome (ระยะ Interphase ตอนกลาง)

สรปุ กำรแบง่ เซลลแ์ บบ Meiosis
เพ่อื ให้เซลล์ทแี่ บ่งเป็นเซลล์สบื พนั ธุ์ (อสจุ ิ - ไข)่
หญงิ - เกิดที่รงั ไข่ (Ovary) ไดไ้ ข่ 1 ใบ
ชาย - เกดิ ทอ่ี ัณฑะ (Testis) ไดอ้ สุจิ 4 ตัว
เป็นการแบ่งเซลล์ท่ีลดจานวนโครโมโซมลงครง่ึ หน่ึง (2n = n) ได้เซลล์ 4 เซลล์

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์เรอ่ื ง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

แบบฝกึ ทกั ษะที่

1 ยีนและโครโมโซม

ตอนท่ี 1จงนาตัวอักษรหน้าข้อความด้านบนมาเติมลงใน หน้าขอ้ ความด้านล่างทีม่ ีความสมั พนั ธก์ ัน

................1. หน่วยพันธุกรรมทาหน้าที่ ควบคุมและถ่ายทอดข้อมลู
เกี่ยวกับลักษณะพนั ธุกรรมของสิ่งมีชวี ิต ใชจ้ าแนกความแตกต่าง

ระหว่างสิ่งมชี วี ติ แตล่ ะชนดิ
...............2. โครโมโซมแตล่ ะโครโมโซมประกอบด้วยแขน 2 ข้าง
...............3. จดุ เช่ือมกันระหว่างโครมาทิด

...............4. 44 โครโมโซม หรอื 22 คู่ a. เซนโทรเมยี ร์
...............5. การจับคู่โครโมโซมเป็นแบบ XX b. โครมาทิด
................6. การจับคูโ่ ครโมโซมเปน็ แบบ XY

c. โครโมโซมร่างกาย
d. ยนี
e. โครโมโซมเพศชาย

f. โครโมโซมเพศหญงิ
g. DNA

ต้งั ใจทำนะค่ะ...

แบบฝึกทกั ษะท่ี

2 ยนี และโครโมโซม 2

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวิทยาศาสตร์เรอื่ ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มีชวี ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

คาช้แี จง จงเติมคาตอบลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง

1. ยนี คอื .................................................................ทาหน้าท.่ี .........................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ยนี ทแี่ สดงลักษณะออกมาได้ แม้มียนี นน้ั เพยี งยนี เดียว คอื ............................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. เตมิ ขอ้ มูลในตารางแสดงเซลลร์ า่ งกายและโครโมโซมในเซลล์สืบพนั ธุ์ของสง่ิ มีชีวิตให้สมบรู ณ์

สิง่ มชี ีวิต เซลล์ร่ำงกำย เซลลส์ ืบพนั ธุ์

1. ขา้ วโพด ………………. 5

2.มะเขือเทศ 24 …………………

3. สนุ ัข 78 39

4.ปลากัด ………………. 21

5. คน 46 ……………….

4. เซลล์อสจุ ิ + เซลลไ์ ข่ ………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ต้งั ใจทำนะค่ะ...

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทักษะวทิ ยาศาสตรเ์ รือ่ ง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3

แบบทดสอบกอ่ นเรียน
เร่ือง ยีนและโครโมโซม

คำช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถ่ี กู ท่สี ุดแลว้ ทาเคร่ืองหมาย (X) ลงในกระดาษคาตอบ

1. นกั เรียนจะสามารถพบโครโมโซมได้มากที่สุดที่ใด ค. ไซโทพลาสซึม
ก. นวิ เคลยี ส ง. คลอโรพลาส
ข. เยอื่ หมุ้ เซลล์

จงใช้แผนภาพที่กาหนดใหต้ อบคาถามขอ้ 2 -3

1

2. แผนภาพที่กาหนดเรยี กว่าอะไร

ก. โครมาทดิ ค. โครโมโซม
ข. โครมาทิน ง. เซนโทเมยี ร์

3. จากภาพ หมายเลข 1 คือข้อใด ค. โครโมโซม
ก. เซนโทเมยี ร์ ง. โครมาทิด
ข. โครมาทิน

4. โครโมโซมคใู่ ดเป็นโครโมโซมเพศ ค. 1-22
ก. 1 ง. 1-23
ข. 23
ค. 23 คู่
5. มนุษย์มโี ครโมโซมจานวนกคี่ ู่ ง. 24 คู่
ก. 21 คู่
ข. 22 คู่

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ ร่ือง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของสง่ิ มชี ีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

6. ชมิ แปนซีมีจานวนโครโมโซมในนวิ เคลียส 48 แท่งในเซลลส์ บื พนั ธจุ์ ะมีโครโมโซมเท่าใด

ก. 24 คู่ ค. 48 แทง่

ข. 24 แทง่ ง. 48 คู่

7. หน่วยท่คี วบคุมและถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมคืออะไร

ก. โครโมโซม ค. เซลล์

ข. นวิ เคลียส ง. ยีน

8. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง
ก. ยีนด้อยสามารถสดงออกได้แม้มยี นี เดียว
ข. ยีนเดน่ อยู่กบั ยีนด้อยจะแสดงลกั ษณะดอ้ ย
ค. ยนี เด่นสามารถแสดงออกได้แม้มยี ีนเดยี ว
ง. ยนี เด่นอยู่กับยีนดอ้ ยจะแสดงทัง้ ลักษณะเด่นและลกั ษณะดอ้ ย

9. ในการแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซิส เซลล์ใหม่ทไ่ี ด้จะมโี ครโมโซมเป็นอยา่ งไร
ก. ลดลงครงึ่ หน่ึงของเซลลเ์ ดิม
ข. เพมิ่ ขน้ึ หน่งึ เทา่ ของเซลล์เดมิ
ค. เท่าของเซลลเ์ ดมิ ทกุ ประการ
ง. เพม่ิ ขน้ึ เป็นสองเทา่ ของเซลลเ์ ดิม

10. ในการแบง่ เซลล์แบบไมโทซิส เซลลใ์ หม่ทไ่ี ด้จะมีโครโมโซมเปน็ อย่างไร
ก. ลดลงครงึ่ หนงึ่ ของเซลลเ์ ดิม
ข. เพ่มิ ขึ้นหน่ึงเทา่ ของเซลลเ์ ดมิ
ค. เทา่ ของเซลล์เดิมทกุ ประการ
ง. เพม่ิ ขน้ึ เปน็ สองเทา่ ของเซลลเ์ ดิม

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวิทยาศาสตรเ์ รื่อง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของสิ่งมชี วี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

แบบทดสอบหลงั เรยี น
เร่อื ง ยนี และโครโมโซม

ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ตัง้ ใจทำแบบทดสอบนะคะ

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝึกทกั ษะวทิ ยาศาสตรเ์ รื่อง พันธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มีชวี ิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

ภำคผนวก

จัดทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทกั ษะวทิ ยาศาสตรเ์ ร่อื ง พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3

เฉลยแบบทดสอบกอ่ น - หลังเรียน
เร่อื ง ยนี และโครโมโซม

ขอ้ ขอ้ ทถ่ี ูก
1ก
2ค
3ง
4ข
5ค
6ข
7ง
8ค
9ก
10 ค

ทำแบบทดสอบได้ก่ขี ้อคะ

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทักษะวทิ ยาศาสตร์เรอื่ ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

แบบฝกึ ทกั ษะที่

1 ยนี และโครโมโซม

ตอนท่ี 1 จงนาตวั อักษรหน้าข้อความด้านบนมาเตมิ ลงใน หน้าข้อความด้านล่างที่มคี วามสมั พันธก์ นั

........d........1. หนว่ ยพันธุกรรมทาหน้าที่ ควบคุมและถ่ายทอดข้อมูล
เกยี่ วกับลกั ษณะพันธุกรรมของสงิ่ มชี ีวติ ใช้จาแนกความแตกต่าง
ระหว่างส่งิ มชี วี ติ แตล่ ะชนดิ

........b.......2. โครโมโซมแต่ละโครโมโซมประกอบด้วยแขน 2 ข้าง
.........a......3. จุดเชือ่ มกันระหว่างโครมาทดิ
........c.......4. 44 โครโมโซม หรอื 22 คู่

........f....... 5. การจบั คู่โครโมโซมเป็นแบบ XX a. เซนโทรเมยี ร์
........e.......6. การจับค่โู ครโมโซมเป็นแบบ XY b. โครมาทิด
c. โครโมโซมร่างกาย

d. ยนี
e. โครโมโซมเพศชาย
f. โครโมโซมเพศหญิง

g. DNA

ทำถกู กี่ข้อคะ่

จดั ทำโดย นำงสำวปรำณวี ลั ย์ สำยบดุ ดี กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทักษะวิทยาศาสตรเ์ รอื่ ง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวิต ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3

แบบฝึกทกั ษะที่

2 ยีนและโครโมโซม2

คำชแี้ จง จงเติมคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

1. ยีน คอื หนว่ ยพันธุกรรมทอี่ ยู่บนโครโมโซม (chromosome) มลี ักษณะเรยี งกันเหมือนสร้อย
ลกู ปดั ทาหนา้ ที่ ควบคุมลักษณะตา่ งๆ ทางพนั ธุกรรมจากพอ่ แมไ่ ปยงั ลูกหลาน
............................................................................................................................. .........................

2. ยนี ที่แสดงลักษณะออกมาได้ แมม้ ียีนน้นั เพียงยนี เดยี ว คอื ...............ยนี เดน่ ..........................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. เตมิ ขอ้ มูลในตารางแสดงเซลล์รา่ งกายและโครโมโซมในเซลล์สืบพนั ธ์ขุ องสงิ่ มีชีวิตให้สมบรู ณ์

ส่งิ มชี วี ิต เซลลร์ ่ำงกำย เซลลส์ ืบพันธุ์

1. ขา้ วโพด ………10………. 5

2.มะเขือเทศ 24 …………12………

3. สุนขั 78 39

4.ปลากดั ………42………. 21

5. คน 46 ………23……….

4. เซลลอ์ สจุ ิ + เซลล์ไข่ ……………………ไซโกต…………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ทำถูกกข่ี ้อค่ะ

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แบบฝกึ ทักษะวิทยาศาสตร์เรื่อง พนั ธุกรรมและความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3

บรรณานกุ รม

ถนดั ศรบี ญุ เรอื งและคณะ. 2548. สอ่ื การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูพ้ น้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิยา -
ศาสตร์ สมั ฤทธม์ิ าตรฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เลม่ 1 ชว่ งชนั้ ที่ 3 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3.
กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจริญทัศน์.

นภาภรณ์ ธญั ญา. 2553. ขยนั กอ่ นสอบ วทิ ยาศาสตร์ ม.3 กรุงเทพฯ : แมค็ .
ประดับ นาคแกว้ . 2551. หนังสอื เรียนสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ม.3 . กรงุ เทพฯ : แมค็ .
พิมพันธ์ เดชะคุปต์และคณะ. 2551. หนงั สอื เรียนสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ม.3 . กรงุ เทพฯ :
สถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ(พว.).

จัดทำโดย นำงสำวปรำณีวลั ย์ สำยบดุ ดี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version