แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญ 41
แผนการจัดที่ 11 เรอ่ื ง คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4
จำนวน 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์
1. บอกความหมายและปฏิบัติตามคำปฏญิ าณได้
2. ทอ่ คำปฏิญาณของลกู เสือสามัญได้
เนอื้ หา
คำปฏญิ าณของลูกเสอื สามญั
กิจกรรมการเรยี นการสอน
1. พิธเี ปิด ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เพลง “ ลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ ” 5 นาที
3. สอนตามเนอื้ หา 30 นาที
3.1 ผู้กำกบั อธบิ ายความหมายของคำปฏิญาณของลูกเสือ
3.2 ให้ลกู เสอื แสดงบทบาทสมมติ การปฏบิ ัติตามคำปฏิญาณ โดยผู้กำกับ
เป็นผกู้ ำหนดหวั ข้อให้
3.3 ใหล้ ูกเสอื ท่องจำและเขียนคำปฏญิ าณ
3.4 ผูก้ ำกับติดตามการปฏิบัติตนตามคำปฏิญาณและให้ลกู เสือบันทกึ รายงาน
4. เล่าเรื่องส้นั ท่ีเป็นคติ 5 นาที
5. พธิ ปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที
สื่อการเรียนการสอน แผนภูมิคำปฏิญาณ
การวดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตความสนใจและการเข้าร่วมกิจกรรม
2. สังเกตการปฏบิ ัติตามคำปฏิญาณหลังจากท่ไี ด้เรียนไปแล้ว
3. ทดสอบการท่องคำปฏญิ าณของลูกเสอื สามญั
บนั ทึกหลงั การสอน………………………..…………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
42
คำปฏิญาณของลูกเสอื
คำปฏิญาณของลกู เสือไม่มีคำวา่ “อยา่ ” หรือ “ต้อง” คอื ไมม่ ีการหา้ มหรือบงั คับ
แต่เปน็ คำปฏญิ าณหรือคำมั่นสญั ญาของลูกเสือ และผูบ้ ังคบั บัญชาไดก้ ล่าวรบั รอง ด้วยเกยี รตขิ อง
ตนเองและด้วยความสมัครใจ ส่วนกฎของลกู เสอื ได้กำหนดไว้เป็นกลาง เพ่อื ให้ลูกเสอื ได้ถือเป็น
หลักปฏิบัตใิ นชวี ิตประจำวนั และโดยผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือจะต้องเคร่งครัดในการปฏบิ ัติตามกฎ
ของลกู เสอื เป็นพิเศษ เพื่อบำเพ็ญตนให้เป็นตัวอยา่ งทดี่ แี ก่ลูกเสือ
คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ทำใหล้ ูกเสอื มคี วามจงรักภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา และ
พระมหากษตั รยิ ์ ร้จู กั บำเพญ็ ตนให้เปน็ ประโยชน์แกผ่ อู้ ่ืน มรี ะเบยี บวนิ ยั อยใู่ นกรอบประเพณีอัน
ดงี าม และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความย่งุ ยากใด ๆ ในบ้านเมอื ง ดงั นน้ั จึงอาจกลา่ วไดว้ า่ การลกู เสือเป็น
กำลังสว่ นหนึ่งในการสร้างความมัน่ คงให้แกป่ ระเทศชาติ
คำว่า “ปฏญิ าณ” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน แปลว่า “การให้คำมน่ั
โดยสจุ ริต”
ลูกเสอื จะตอ้ งสำนึกว่า เขากล่าวคำปฏญิ าณด้วยความสมคั รใจของเขาเอง อนงึ่ เขา
จะตอ้ งเข้าใจด้วยว่า ผจู้ ะเรียกว่า “คนจริง” เพือ่ ให้คนอ่ืนนบั ถอื และเชื่อถือได้นน้ั จะตอ้ งรักษา
คำพูด โดยเฉพาะท่เี ปน็ คำปฏิญาณหรือคำมัน่ สัญญาของตน กลา่ วคือ ข้าสญั ญาวา่ จะทำอย่างไร
แลว้ ตอ้ งทำเหมือนปากพูดทุกอยา่ ง ดงั นั้นคำปฏญิ าณทก่ี ลา่ ววา่
ดว้ ยเกยี รติของขา้ ขา้ สัญญาว่า
ข้อ 1 ขา้ จะจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
ข้อ 2 ข้าจะชว่ ยเหลือผอู้ ื่นทุกเมื่อ
ข้อ 3 ขา้ จะปฏบิ ัตติ ามกฎของลกู เสือ
จากคำปฏิญาณข้อที่ 1 น้นั แสดงใหเ้ ห็นว่า ลกู เสือมีหน้าทดี่ งั ต่อไปนี้
ก. หน้าท่ีต่อชาติ
ชาตไิ ทย คือ แผ่นดินและนา่ นนำ้ ทร่ี วมกันเรยี กว่า “ประเทศไทย” ประกอบด้วย
ประชาชนพลเมืองที่รวมกันเรียกวา่ “คนไทย”
ธงชาติ เป็นเครือ่ งหมายแทนชาติ ฉะนัน้ ธงชาตจิ ึงเป็นสิ่งที่ควรแกก่ ารเคารพ เป็น
หนา้ ทข่ี องลูกเสอื ทุกคน จะตอ้ งแสดงความเคารพในโอกาสทีเ่ ชิญธงชาติขน้ึ สยู่ อดเสา และเวลา
เชิญธงชาตลิ งจากยอดเสา
พธิ ีเชิญธงชาตขิ ้นึ สู่ยอดเสาหรอื พิธเี ชิญธงชาตลิ งจากยอดเสาน้ี เปน็ พธิ ีสำคัญอย่าง
หน่ึงของลูกเสือ ซง่ึ จะต้องกระทำดว้ ยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมายใหเ้ ชญิ ธง
ชาติลง ควรถอื วา่ เป็นเกยี รตทิ ่ไี ดร้ บั มอบหมายให้ทำงานน้ี และจะตอ้ งระมดั ระวังไม่ให้ส่วนใด
ส่วนหนึ่งของธงสัมผสั พนื้ ดินเปน็ อนั ขาด ลกู เสอื ไม่ควรกระทำการใด ๆ ในอันท่ีจะนำมาซ่ึงความ
เส่ือมเสยี เกียรติของธงชาติ เช่น นำพ้นื ธงไปปูพื้น เช็ดส่ิงของหรือเหยียบยำ่ และกองไว้แทบเทา้
43
ธงชาติไทย เรยี กวา่ “ธงไตรรงค์” แปลว่า ธงสามสี ลูกเสือควรจะทราบดว้ ยว่า แต่
ละสีมคี วามหมายอยา่ งไร สญั ลกั ษณ์อีกอยา่ งหนงึ่ ของธงชาติ คอื เพลงชาติ ลกู เสือและ
ผูบ้ ังคับบญั ชาลกู เสือทกุ คน จะต้องสามารถรอ้ งเพลงชาติได้อย่างถกู ต้อง
ข. หน้าทีต่ ่อศาสนา
ลูกเสือจะนบั ถอื ศาสนาใด ๆ ก็ได้ เพราะทุกศาสนาก็มคี วามมุ่งหมายอย่างเดยี วกนั
คอื สอนใหบ้ ุคคลเป็นคนดี และทำใจให้ผ่องใสบริสทุ ธิ์
ค. หนา้ ที่ต่อพระมหากษัตรยิ ์
ผู้กำกบั ลกู เสอื พึงหาวธิ กี ารต่าง ๆ ท่ีจะทำให้ลูกเสอื สนใจพระราชกรณีกจิ ของ
พระมหากษตั รยิ ์ โดยเน้นถึงเวลาทพ่ี ระองค์ทรงอุทิศให้แก่บา้ นเมือง และเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไป
ทรงเยย่ี มเยียนประชาชน ในทอ้ งถิ่นต่าง ๆ ทวั่ ราชอาณาจักร
พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นพระประมขุ ของชาติ เปน็ ท่ีรว่ มแห่งความเคารพสกั การะ
และความสามัคคีของคนไทยทง้ั ชาติ
ง. การบำเพญ็ ประโยชน์ต่อผู้อนื่
การบำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ผู้อน่ื เปน็ หลักสำคัญประการหนึ่งของลกู เสือ และเปน็ ส่งิ ท่ี
ทำใหก้ ารลกู เสอื มีชอ่ื เสยี ง ได้รับการยกยอ่ งจากประชาชนโดยทว่ั ไป
โอกาสท่ีลูกเสอื จะบำเพ็ญประโยชนน์ ั้น ควรเรม่ิ จากสง่ิ ท่ีใกลต้ ัวเดก็ ก่อน แล้วขยาย
ออกไปตามวยั และความสามารถของเด็ก กลา่ วคือ
1. บา้ นเมืองของลกู เสอื ควรสง่ เสรมิ ให้เดก็ ทำงานในบ้านหรือบำเพ็ญประโยชนต์ ่อ
ครอบครวั เพ่ือเป็นการเพาะนสิ ัยที่ดใี หแ้ กเ่ ดก็
2. โรงเรยี นหรือทตี่ ัง้ กองลกู เสอื ผูบ้ ังคับบญั ชาลกู เสือควรสง่ เสริมให้เด็กได้ทำงาน
เปน็ ประโยชน์ต่อเพ่ือน ต่อห้องเรยี น ต่อโรงเรียนใหม้ ากทสี่ ดุ โดยสอนให้ลกู เสือตระหนกั วา่
งานเปน็ สิ่งทม่ี ีเกยี รติ งานเท่านั้นเปน็ เคร่ืองวัดคุณคา่ ของคน
44
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
แผนการจดั ท่ี 12 เร่อื ง คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสามญั จำนวน 1 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์
1. บอกความหมายและปฏบิ ัติตามกฎของลูกเสอื ได้
2. ท่องกฎของลูกเสือสามัญได้
เน้อื หา
กฎของลูกเสอื สามัญ
กจิ กรรมการเรยี นการสอน 10 นาที
1. พิธีเปดิ ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก )
2. เกม “ ผวู้ เิ ศษ ” 5 นาที
3. สอนตามเน้อื หา 30 นาที
3.1 ผูก้ ำกบั อธบิ ายความหมายของกฎของลกู เสือ
3.2 ให้ลูกเสอื แตล่ ะหม่อู ภิปรายรายการปฏิบัติตามกฎโดยผ้กู ำกบั กำหนดหวั ข้อให้
แล้วนำมารายงานหรือแสดงบทบาทสมมติ
3.3 ให้ลูกเสือท่องจำกฎของลกู เสือสามญั
3.4 ผกู้ ำกบั ตดิ ตามการปฏิบัติตนตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื แล้วให้ลูกเสอื
บันทกึ รายงาน
3.5 รอ้ งเพลงกฎลูกเสือ 5 นาที
4. เลา่ เรื่องสัน้ ทเี่ ป็นคติ
5. พิธีปดิ ( นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที
สื่อการเรียนการสอน 1. แผนภูมิเพลงกฎลูกเสือ
2. แผนภมู ิกฎลกู เสอื
การวดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตความสนใจและการเข้าร่วมกิจกรรม
2. สังเกตการปฏิบัตติ ามคำปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื หลงั จากที่ได้เรียน
ไปแลว้
3. ทดสอบการท่องกฎของลูกเสอื สามัญ
บันทกึ หลังการสอน…………………..………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………............................
ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
45
กฎของลูกเสือ
กฎของลกู เสอื มี 10 ข้อ ลกู เสือจะตอ้ งจำให้ได้ รคู้ วามหมายและปฏิบตั ิเปน็ กิจวตั รจนเกดิ เป็นนสิ ัย
ประจำตวั มีดังนี้
ข้อ 1 ลกู เสือมเี กยี รติเช่ือถือได้
ข้อ 2 ลูกเสือมคี วามจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และซือ่ ตรงต่อผู้มี
พระคณุ
ข้อ 3 ลกู เสอื มีหน้าทกี่ ระทำตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละช่วยเหลือผู้อน่ื
ข้อ 4 ลูกเสอื เปน็ มิตรของคนทกุ คน และเปน็ พนี่ ้องกับลกู เสอื อื่นท่วั โลก
ข้อ 5 ลกู เสือเปน็ ผสู้ ภุ าพเรยี บรอ้ ย
ข้อ 6 ลกู เสือมคี วามเมตตากรุณาต่อสัตว์
ข้อ 7 ลกู เสือเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาและผบู้ งั คบั บัญชาด้วยความเคารพ
ข้อ 8 ลูกเสือมีใจรา่ เรงิ และไมย่ อ่ ท้อต่อความยากลำบาก
ข้อ 9 ลกู เสอื เป็นผู้มัธยสั ถ์
ข้อ 10 ลูกเสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ
กฎของลกู เสอื 10 ข้อนี้ ไดด้ ัดแปลงมาจากกฎของลูกเสือขอ้ 10 ตามธรรมนูญของ
สมชั ชาลูกเสือโลกทว่ี ่า “ลูกเสือเปน็ ผู้สะอาดในทางความคดิ วาจา และการกระทำ”
ข้อ 1 ลูกเสือมเี กยี รติเช่ือถือได้
ลูกเสือที่แทจ้ รงิ ถือวา่ เกยี รติของเขาสำคญั กว่าสิง่ ใด เกยี รตขิ งิ เขาเปน็ สง่ิ
ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ คนทรี่ ู้จักรักษาเกยี รตเิ ป็นผู้ท่ีเช่ือถอื ได้เสมอ เขาจะไมก่ ระทำสิ่งใด ๆ ท่เี สยี เกียรติ เช่น
พูดเท็จกบั ผู้บังคบั บัญชาหรือผอู้ ยู่ใต้บงั คบั บัญชาของเขา และเขาจะทำตัวเป็นทน่ี ับถือของคนทั่วไป
ในฐานะท่ีเปน็ ลกู เสอื ทา่ นต้องไม่ยอมใหส้ งิ่ ยั่วยวนใจ ไมว่ ่าจะลึกลับหรอื รุนแรงเพียงใด มาชักจูง
ให้ท่านกระทำการใดๆ ท่ไี ม่สุจรติ หรือเป็นสงิ่ ท่นี า่ สงสัย ท่านจะไม่ละเมดิ คำมน่ั สญั ญาเป็นอันขาด
ข้อ 2 ลกู เสอื มคี วามจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และซื่อตรงต่อผูม้ ี
พระคณุ
ในฐานะท่เี ป็นพลเมืองดี ทา่ นจะตอ้ งระลกึ ไว้เสมอว่า ทา่ นเป็นคนหน่งึ ใน
คณะ หรอื เป็นอิฐก้อนหน่ึงในกำแพงทา่ นต้องทำหนา้ ทข่ี องทา่ นใหด้ ีทีส่ ุด และซื่อตรงกับผู้ท่ี
เกย่ี วขอ้ งกบั ทา่ น เช่น พ่อ แม่ พี่ นอ้ ง ท่านจะต้องไมท่ ำลายเกยี รตขิ องทา่ นด้วยการเลน่ ไม่ซ่ือ
นอกจากนน้ั ท่านต้องไมท่ ำให้ผทู้ ่ไี วว้ างใจท่านไม่วา่ ชายหรอื หญงิ ต้องผิดหวงั บรรพบุรษุ ของท่าน
ไดท้ ำงานด้วยความแขง็ แรง ดว้ ยความทรหด และตายดว้ ยความองอาจเพื่อรักษาบา้ นเมอื งไวใ้ ห้
ทา่ น ขออย่าให้บรรพบุรุษของทา่ นมองมาจากสวรรค์ แลเหน็ ท่านเท่ียวเตร่เอามือใสก่ ระเป๋าโดย
ไมไ่ ดท้ ำประโยชน์อะไรเพ่ือบ้านเมอื งเลย
46
ข้อ 3 ลูกเสอื มีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อ่นื
ลูกเสือจะพยายามให้ความเมตตากรุณา เพือ่ บำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนอยู่
เสมอ ความคิดของเขามวี า่ ทุกคนตอ้ งตาย แต่ทา่ นควรจะทำใจของท่านกอ่ นเวลาจากโลกน้ไี ปตาม
วถิ ีทางของธรรมชาติ ทา่ นควรจะทำความดีบา้ ง ฉะนั้นจงทำทนั ที เพราะท่านไม่รเู้ ลยว่าเมือ่ ใดทา่ น
จะตอ้ งลว่ งลบั ไป
ข้อ 4 ลกู เสอื เปน็ มิตรของคนทุกคน และเป็นพนี่ ้องกบั ลกู เสืออน่ื ท่วั โลก
ในฐานะทเ่ี ปน็ ลูกเสือ ท่านต้องยอมรับรู้วา่ คนอื่นเปน็ เพือ่ มนษุ ย์ และทา่ นต้อง
ไมร่ ังเกียรติความแตกต่าง ในเรื่องของความคิด วรรณะ ศาสนา หรือชาตบิ า้ นเมือง ทา่ นตอ้ งขจัด
อคตขิ องทา่ น และมองหาจุดดขี องคนอื่น สว่ นจดุ ช่ัวนั้นคนโง่ย่อมวจิ ารณไ์ ด้ ถา้ ท่านแสดงไมตรี
จติ ต่อคนชาติอ่ืนได้เช่นนี้ ก็นับว่าทา่ นไดก้ ่อใหเ้ กิดสันติภาพ และไมตรีจติ ระหว่างประเทศ และ
มวลมนษุ ยชาติได้
ข้อ 5 ลูกเสอื เปน็ ผูส้ ภุ าพเรียบรอ้ ย
ในฐานะทท่ี ่านเป็นลกู เสือ ท่าจะต้องสภุ าพและคำนึงถึงผู้หญิง คนแก่ เดก็ และ
บคุ คลทั่วไป แตย่ ิ่งกวา่ นนั้ ทา่ นจะต้องสภุ าพต่อฝ่ายตรงข้ามกับท่านด้วย รวมความว่าท่านจะต้อง
เปน็ สุภาพบุรษุ สภุ าพบรุ ษุ คือ ผูป้ ฏิบตั ติ ามกฎแหง่ การบำเพญ็ ประโยชน์ของลกู เสือ
ข้อ 6 ลูกเสอื มคี วามเมตตากรุณาต่อสตั ว์
สัตวท์ งั้ หลายมคี วามรักและความหวงแหนชีวติ ของตนยิ่งกว่าส่ิงใด ตา่ งก็
ดิ้นรนต่อสู้ เพ่อื ใหม้ ีชวี ติ อยู่รอดปลอดภยั จากอนั ตราย ทุกชีวิตปรารถนาความสขุ ความรัก ความ
อบอุน่ และการชว่ ยเหลอื เก้ือกลู แต่เกลยี ดกลัวและหวาดระแวงต่อการล่วงเกินเบียดเบียน และการ
ทำร้าย
ภารกจิ อันสำคัญของลูกเสือ คือ การช่วยเหลอื ผ้อู ่ืนให้พ้นจากความทกุ ข์และ
การบรกิ ารแกผ่ ู้อ่ืนให้ไดร้ บั ความสขุ ดงั นนั้ ลกู เสอื ทกุ คนควรจะเป็นผมู้ คี วามรักและความเมตตา
กรณุ าต่อสตั ว์ดว้ ย
ข้อ 7 ลูกเสอื เชื่อฟังคำสงั่ สอนของบดิ ามารดาและผบู้ ังคับบัญชาดว้ ยความเคารพ
ในฐานะท่ีเปน็ ลกู เสือ ทา่ นย่อมบงั คับตนเองและเต็มใจเช่อื ฟังคำสั่งของพ่อแม่
ครู อาจารย์ นายหมู่ และผกู้ ำกบั ลกู เสอื โดยชอบด้วยเหตผุ ลไม่มกี ารโต้แย้ง ชุมชนทม่ี วี นิ ัยเปน็
ชุมชนท่ีมคี วามสขุ แต่วินยั ต้องเกดิ มาจากภายใน มใิ ช่ถูกบงั คบั จากภายนอก ดงั น้นั ควรปฏบิ ัติตน
เป็นตวั อย่างทดี่ ีแก่ผู้อ่นื จงึ เป็นส่งิ ทีม่ คี ุณคา่ มาก
ข้อ 8 ลกู เสอื มีใจร่าเริง และไมย่ อ่ ทอ้ ต่อความยากลำบาก
ในฐานะที่เปน็ ลูกเสอื คนด่ืน ๆ จะคอยมองดทู า่ นและคดิ อย่เู สมอว่า ทา่ นคง
ไมห่ ัวเสยี และจะยนื หยัดต่อสู้ดว้ ยความเขม้ แข็ง และรา่ เริงอดทนในเมือ่ มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกดิ ข้ึน
ข้อ 9 ลกู เสอื เปน็ ผมู้ ธั ยัสถ์
47
ในฐานะทท่ี ่านเป็นลกู เสอื ทา่ นจะมองไปข้างหน้าและจะไมย่ อมเสียเวลา หรือ
เสยี เงินสำหรับความสุข คำสำราญในปัจจบุ นั แต่จะใช้โอกาสนั้นเพื่อใหไ้ ด้บรรลุความสำเรจ็ ใน
หนา้ ที่ท่ที ่านกระทำ ทัง้ น้เี พ่ือวา่ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระแก่ผอู้ ่ืน แตก่ ลบั จะเป็นการชว่ ยเหลือผู้อื่นได้
อกี ด้วย
ข้อ 10 ลกู เสือประพฤตชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ
ในฐานะทีท่ ่านเป็นลูกเสือ ทา่ นต้องมีใจสะอาด คดิ แต่เร่ืองเปน็ มงคล สามารถ
ควบคมุ สตแิ ละจติ ใจของตนเอง ไมใ่ หฟ้ ้งุ ซ่านในรูป รส กลน่ิ เสยี ง สมั ผสั และของมนึ เมาจน
เกินกว่าเหตุ ทา่ นต้องเป็นตวั ของตวั เอง และเปน็ ตวั อย่างที่ดีแก่ผู้อ่ืนในทกุ ส่ิงทุกอยา่ งทท่ี า่ นคดิ
พูด และกระทำ โดยเฉพาะท่านควรมสี ัมมาอาชีวะ คือ มอี าชีพสจุ ริต เพื่อเป็นความสขุ ของตนเอง
และสงั คม
คติพจน์
ลกู เสอื ทวั่ ไป “เสียชีพอย่าเสียสัตย์”
ลกู เสือสำรอง “ทำดที ี่สุด”
ลูกเสือสามัญ “จงเตรียมพร้อม”
ลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ “มองไกล”
ลกู เสอื วิสามญั “บรกิ าร”
48
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามญั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
แผนการจดั ท่ี 13 เรอ่ื ง คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสามญั (ต่อ) จำนวน 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์
บอกและปฏบิ ตั ิตามคำปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื สามัญได้
เน้ือหา
1. คำปฏิญาณของลูกเสอื สามัญ
2. กฎของลกู เสอื สามญั
3. การวางแผนปฏิบัติงานเพ่ือความเจรญิ ก้าวหน้า
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. พธิ เี ปดิ ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ ข่มี า้ วงกลม ” 5 นาที
3. สอนตามเนือ้ หา 30 นาที
3.1 ผกู้ ำกบั ทบทวนคำปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื สามญั
3.2 ผกู้ ำกับนัดหมายนายหมู่ลกู เสือและนำวิธีวางแผนการปฏิบตั ิตามคำปฏิญาณ
และกฎนอกเวลาเรียน
3.3 ให้นายหมู่ลกู เสอื ปฏบิ ัติการเป็นผูน้ ำในการสนทนากบั ลกู เสือในหมูเ่ ป็น
รายบคุ คล
3.6 ให้นายหมู่ลูกเสอื เสนอรายงานผลการสนทนาต่อผูก้ ำกบั 5 นาที
4. เล่าเร่ืองสัน้ ทเ่ี ป็นคติ
5. พธิ ปี ดิ ( นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที
สอ่ื การเรียนการสอน 1. แบบแผนงาน
2. แผนภูมิเพลง
การวัดผลและประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจและการเข้าร่วมกิจกรรม
2. ดูการปฏิบตั ติ นประจำวนั ในกองลูกเสือ
3. ซักถาม
บันทึกหลงั การสอน………………………..…………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
49
ตัวอย่างบันทกึ การสนทนาระหว่างนายหมู่กับสมาชกิ ในหมู่
1. ชื่อลกู เสือ……………………………………………………หม่…ู …………………………
2. ประวตั ิส่วนตวั อายุ………..ปี อย่บู ้านเลขท…่ี …………ถนน……………………………..
หมทู่ …ี่ …………….ตำบล……………….อำเภอ…………จงั หวดั …………………………
3. ความเจรญิ กา้ วหน้าทางลกู เสือของตน (ใหใ้ ส่เครื่องหมาย / ลงใน 0 เฉพาะข้อท่เี ขา้ ใจเปน็
ความจรงิ ปฏบิ ตั ไิ ดห้ รือเคยปฏิบัตมิ าแลว้ เท่าน้นั )
ก่อนมาเป็นลุกเสือสามัญ เคยเป็นลูกเสอื สำรองมาแล้ว
ประวัติของผูใ้ หก้ ำเนดิ ลกู เสอื โลก
พระราชประวัติของพระราชทานกำเนิดลกู เสือไทย
การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจบั มือซ้ายของลกู เสือ
คติพจนข์ องลกู เสือ
คำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื
การบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ชุมชนอยา่ งน้อย 2 คร้งั
ระเบียบแถมมอื เปล่า ท่าถอื พลอง สัญญาณมือ และสัญญาณนกหวดี
เตรยี มอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ไปอยู่ค่ายพักแรมได้โดยไม่ตอ้ งมผี ้ชู ่วยเหลือ
บอกสถานท่ีสำคัญในทอ้ งถิ่นให้ผู้อื่นเขา้ ใจได้
ทศิ ทั้ง 8 และการใช้เขม็ ทิศ
เดินทางไกลพรอ้ มกับเพื่อนลกู เสือ ระยะทางไป – กลบั 10 กโิ ลเมตร
เครื่องหมายจราจร และปฏิบตั ิตามเคร่ืองหมายจราจรได้
วิธใี ชเ้ กบ็ รักษามดี และขวาน
ผูกเง่ือนประมง ผกู ร่น คนลาก อย่างหนง่ึ อย่างใดได้ 1 เง่อื น
ผกู เงือ่ นขัดสมาธิ ขัดสมาธิ 2 ชัน้ อยา่ งหน่งึ อย่างใดได้ 1 เงื่อน
ผกู เง่ือนผกู ซงุ ตะกรุดเบด็ ผู้รัง้ กบั วสั ดุอย่างหนึ่งอยา่ งใดได้ 1 เงือ่ น
ผกู แน่น เช่น ผูกประกบ ผูกทแยง ผูกกากบาทได้
ลักษณะและสัญญาณเกี่ยวกับกาลอากาศในท้องถ่ิน
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ดว้ ยการทำงานอดเิ รก คือ
1…………………………………..
2…………………………………..
3…………………………………..
50
4. การปฏิบัติตามคำปฏิญาณและกฎของลุกเสอื
เม่อื ได้รบั มอบหมายงานไดก้ ระทำจนสำเร็จไม่เหลวไหล
ไดป้ ฏบิ ัตติ นแสดงความจงรกั ภกั ดีตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยอ์ ยู่เสมอ
ได้บำเพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ สว่ นรวมอย่างนอ้ ยวันละ 1 ครั้ง
นอกจากเพ่ือนในกองแลว้ ลูกเสอื ต่างกองต่างอำเภออีกอยา่ งนอ้ ย 2 คน
ไม่เคยถูกผู้บงั คับบัญชาลงโทษเก่ียวกับการประพฤติตนไมเ่ รียบรอ้ ย
เคยชว่ ยเหลอื สตั ว์ทไี่ ด้รบั อนั ตรายอยา่ งน้อย 1 คร้งั
ไมเ่ คยถกู ลงโทษจากบดิ ามารดา หรือผู้บังคบั บัญชาเนื่องจากไม่ทำตามคำสัง่
ไมเ่ คยหลีกงานที่ไดร้ บั มอบหมายหรือให้ทำงานรว่ มกับผู้อ่ืน
ไดส้ ะสมเงนิ จากน้ำพักนำ้ แรงของตนเองฝากออมสินไว้แล้ว
เคยกระทำความผิดมาแลว้ แต่ขณะน้ีกลับประพฤตเิ ป็นคนดีและจะไมป่ ฏิบตั ิในทาง
เสอื่ มเสยี โดยเด็ดขาด
5. ควรวางแผนเพื่อความเจริญก้าวหนา้ ในอนาคตของตนเอง
เม่อื จบลูกเสอื โตรแี ล้วจะเรยี นวชิ าลกู เสือโทใหไ้ ด้หมดทุกวิชา
เมอ่ื สำเรจ็ การศึกษาระดับประถมศกึ ษาแลว้ จะสมัครช้นั มัธยมศึกษาและเลอื กเรียนวิชา
ลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามญั ต่อไป
เมอ่ื สำเร็จการศึกษาแล้วต้องการประกอบอาชีพ
ลงชือ่ ……………………..ผู้บันทึก
นายหมู่
51
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื สามญั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดที่ 14 เรอ่ื ง กิจกรรมกลางแจง้ จำนวน 1 ชัว่ โมง
จุดประสงค์
ปฏิบัติกจิ กรรมร่วมกบั หม่ลู กู เสอื หรือกองลกู เสือนอกสถานทไ่ี ด้
เน้อื หา
การบริการ
กจิ กรรมการเรยี นการสอน 10 นาที
1. พิธีเปิด ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก )
2. เพลง “ บรกิ าร ” 5 นาที
3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที
3.1 ผกู้ ำกับอธบิ ายหลกั การบริการและการประชุมวางแผน
3.2 ให้ลกู เสือวางแผนการปฏิบัติกจิ กรรมบรกิ าร
4. เล่าเรื่องสนั้ ทีเ่ ป็นคติ 5 นาที
5. พิธปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที
สื่อการเรียนการสอน 1. ภาพการบริการดา้ นต่าง ๆ
2. แผนภูมสิ ถานท่ีทีไ่ ปบริการ
3. แผนภมู เิ พลง
การวัดผลและประเมินผล 1. การสังเกต ความสนใจ
2. ดจู ากแผนการปฏบิ ัตงิ าน
บันทกึ หลงั การสอน…………………………………………..………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารสถานศึกษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
52
การบรกิ าร
ลกู เสือตรีทกุ คนจะตอ้ งมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมของหมู่หรือกองลูกเสือนอกสถานท่อี ย่าง
น้อย 1 ครงั้
หลกั บริการ
1. ผู้ให้บริการตอ้ งมีความพร้อมในด้านกำลัง เวลา และอื่น ๆ
2. ผู้ให้บริการตอ้ งมีการเตรียมตวั เป็นอย่างดี
3. ผู้ให้บริการตอ้ งมีน้ำใจ
กิรยิ ามารยาทของผ้ใู หบ้ ริการ
1. ต้องสุภาพอ่อนน้อมท้ังกายและจิตใจ
2. มีใจเปน็ ธรรม ไมเ่ ลอื กท่ีรกั มกั ที่ชงั ในการให้บรกิ าร
3. เป็นผ้ทู ี่รู้จกั กาล เวลา สถานที่ และบคุ คล เพอ่ื จะบรกิ ารไดถ้ กู ต้อง
4. เปน็ ผู้ยิม้ แยม้ อย่เู สมอ ใจเย็น และเหน็ ใจผูอ้ ื่น
5. เปน็ ผู้ยอมรบั และปรับตัวเขา้ กับสิ่งแวดลอ้ มได้
53
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
แผนการจดั ท่ี 15 เรื่อง กิจกรรมกลางแจ้ง (ตอ่ ) จำนวน 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์
ปฏิบตั กิ ิจกรรมร่วมกบั หมลู่ ูกเสือหรือกองลกู เสอื นอกสถานทไ่ี ด้
เนอ้ื หา
การบรกิ าร
กิจกรรมการเรยี นการสอน
1. พิธีเปิด ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ แข่งหุ่น ” 5 นาที
3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที
3.1 ลูกเสือวางแผนการปฏิบัติกิจกรรมบรกิ าร
3.2 ผกู้ ำกบั นำลูกเสอื ออกไปปฏิบัตินอกโรงเรยี นอย่างน้อย 1 คร้ัง
3.3 ใหล้ ูกเสอื บันทึกผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมบริการของหมู่เพอ่ื รายงานการบริการ
4. เล่าเร่ืองสัน้ ท่ีเป็นคติ 5 นาที
5. พธิ ีปดิ ( นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที
สือ่ การเรียนการสอน 1. แผนผังสถานท่ีที่ไปบริการ
2. แบบบนั ทึกการบรกิ ารหรือการบำเพ็ญประโยชน์
การวดั ผลและประเมินผล 1. การสังเกต ความสนใจ
2. ดจู ากแผนการปฏิบตั งิ าน
3. ตรวจผลงาน บันทกึ รายงานหลงั จากให้บริการแลว้
บันทกึ หลงั การสอน…………………………………..………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
54
แบบบันทึกการบำเพ็ญประโยชน์
ลำดบั ที่ วนั เดือน ปี การบำเพญ็ ประโยชน์และการช่วยเหลือผ้อู ื่น ผ้รู ับรอง หมายเหตุ
55
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4
แผนการจดั ท่ี 16 เร่อื ง ระเบยี บแถว ( ทบทวน ) จำนวน 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์
ปฏบิ ตั ิตนตามระเบียบแถวได้
เน้ือหา 1. ระเบียบแถว ( การทบทวน )
1.1 ทา่ มือเปล่า
1.2 ท่ามอี าวุธ
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. พธิ เี ปิด ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ ไหวพริบ ” 5 นาที
3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที
3.1 ผกู้ ำกับให้ลกู เสือทบทวนระเบยี บแถว ทา่ มอื เปล่า ท่ามีอาวธุ
3.2 ใหน้ ายหมู่ลกู เสอื ฝกึ ทบทวนลูกเสือในหมู่ของตน
4. เลา่ เร่ืองสนั้ ท่เี ป็นคติ………………………………..…………………… 5 นาที
5. พธิ ปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแต่งกาย ธงลง เลกิ )……………………10 นาที
สอ่ื การเรียนการสอน 1. ไม้พลอง
2. นกหวดี
การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต และการปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่ง
2. การทดสอบ ปฏบิ ัติตามระเบียบแถวเป็นหมู่
บันทึกหลังการสอน………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
56
ระเบียบแถว
ท่าตรง
คำบอก “แถว – ตรง”
การปฏบิ ตั ิ ยืนให้สน้ เท้าชิด และอยใู่ นแนวเดยี วกนั ปลายเท้าแบะออกขา้ งละเท่า ๆ กนั ห่าง
กันประมาณ 1 คืบ (ทำมุม 45 องศา) เขา่ เหยียดตึงและบีบเขา้ หากนั ลำตัวยืดตรงอกผาย
ไหล่เสมอกัน แขนทั้งสองข้างหอ้ ยอยู่ข้างลำตวั และเหยยี ดตรงพลิกศอกไปขา้ งหน้าเลก็ น้อย จน
ไหลต่ ึงน้ิวมือเหยยี ดและชิดกัน นิ้วกลางติดขาตรงกง่ึ กลาง ประมาณแนวตะเขบ็ กางเกง เปิดฝ่ามือ
เล็กน้อย ลำคอยดื ตรงไม่ยน่ื คาง ตาแลตรงไปขา้ งหนา้ ได้ระดบั น้ำหนกั ตัวอยู่บนเทา้ ทง้ั สองเท่า ๆ
กัน และน่งิ
หมายเหตุ 1. ท่าตรงเปน็ ท่าเบื้องต้น และเป็นรากฐานของการปฏิบัติทา่ อ่นื ๆ
2.ใช้เปน็ ทา่ สำหรบั แสดงการเคารพไดท้ า่ หน่ึง
ทา่ เคารพ
1. วันทยหัตถ์
การฝกึ ขัน้ ต้น คำบอก “วันทยหตั ถ์ และ มอื ลง”
การปฏิบตั ิ ยกมือขวาข้นึ โดยเร็วและแข็งแรง จัดน้ิวมืออยา่ งเดียวกับทา่ รหัสของลกู เสือ
โดยให้ปลายนว้ิ ชแี้ ตะขอบล่างของหมวกคอ่ นไปขา้ งหน้าเล็กน้อยในแนวทางตาขวามือเหยยี ดตาม
แนวแขนขวาทอ่ นล่าง นวิ้ เหยยี ดตรงและเรียงชิดติดกนั ข้อมอื ไมห่ กั เปิดฝา่ มอื ขึ้นประมาณ 30
องศา แขนขวาท่อนบนย่ืนไปทางข้าง อยปู่ ระมาณแนวไหลเ่ ม่ืออยู่ในท่ีแคบ ให้ลดศอกลงไดต้ าม
ความเหมาะสม รา่ งกายส่วนอน่ื ตอ้ งไมเ่ สียลกั ษณะทา่ ตรง เม่ือได้ยินคำบอก “มือลง” ให้ลดมือ
ลงอยู่ในทา่ ตรงโดยเรว็ และแขง็ แรง (ท่าวันทยหตั ถ์โดยปกตติ ่อจากทา่ ตรงเปน็ ท่าเคารพเมอ่ื อยูต่ าม
ลำพงั นอกแถว)
ผู้บงั คับบญั ชาลูกเสือเข้าแถวแสดงการเคารพดว้ ยทา่ วนั ทยหตั ถ์ (สวมหมวก)
ลกู เสือจะสวมหมวกหรือไมส่ วมหมวก ใหท้ ำวันทยหตั ถไ์ ด้ ถ้าไม่สวมหมวกใหป้ ลาย
นว้ิ ชีแ้ ตะท่หี างคิ้วขวา
เมอื่ มีผู้รบั การเคารพ
คำบอก “ทางขวา (ทางซา้ ย ตรงหนา้ ) วันทยหัตถ์
การปฏิบตั ิ สะบดั หนา้ ไปยังผรู้ บั การเคารพ พรอ้ มกบั ยกมือทำวันทยหตั ถ์ ก่อนถึงผรู้ ับ
การเคารพ 3 ก้าว ตามองจับผู้รบั การเคารพและหันหน้าตามจนผู้รับการเคารพผ่านหน้าตนไปแลว้
2 กา้ ว ให้สะบัดหน้ากลับพรอ้ มกับลดมือลงเอง ถ้าผู้รบั การเคารพอยตู่ รงหนา้ ก็ปฏิบัติโดยไม่
ตอ้ งสะบัดหนา้
ในการฝกึ เมอ่ื ผรู้ ับการเคารพเคล่อื นท่ผี ่านกใ็ หส้ ะบัดหน้ากลบั พรอ้ มกับลดมือตาม
คำบอก “มอื ลง”
57
“แลขวา แลซา้ ย – ทำ”
คำบอก “แลขวา (ซา้ ย) – ทำ”
การปฏิบัติ สะบัดหนา้ ไปทางขวา(ซา้ ย) ประมาณกง่ึ ขวา(ซา้ ย) ก่อนถงึ ผรู้ ับการ
เคารพ 3 ก้าว ตามองจับผู้รบั การเคารพและหันหนา้ ตามจนผู้รบั การเคารพผ่านพน้ ไปแล้ว 2 กา้ ว
แล้วสะบัดหนา้ กลับทเ่ี ดิม
ในการฝึก เม่ือผู้รบั การเคารพเคลือ่ นทีผ่ า่ น ก็สะบัดหนา้ กลบั ท่ีเดมิ ตามคำบอกวา
“แล – ตรง”
ท่าพัก
พักตามปกติ
คำบอก “พกั ”
การปฏบิ ัติ หย่อนเขา่ ขวากอ่ น ต่อไปจงึ หย่อนและเคลือ่ นไหวสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย และ
เปลย่ี นเขา่ พักไดต้ ามสมควร แต่เทา้ ทัง้ สองคงอยกู่ บั ท่ี ห้ามพูดคยุ เมือ่ ไดย้ นิ คำบอกวา่ “แถว” ให้
ยืดตวั ข้นึ และจัดทกุ สว่ นของร่างกายอยู่ในทา่ ตรง นอกจากเข่าขวา ครั้นเม่ือได้ยนิ คำบอกวา่
“ตรง” ใหก้ ระตกุ เขา่ ขวาโดยเร็ว และแขง็ แรง กลับไปอยู่ในลักษณะของทา่ ตรง
พกั ตามระเบยี บ
คำบอก “ตามระเบียบ - พกั ”
การปฏบิ ตั ิ แยกเทา้ ซ้ายออกไปทางซา้ ยประมาณ 30 ซม. (หรือประมาณเกอื บครงึ่ กาวปกติ)
อย่างแข็ง
แรงและองอาจ พรอ้ มกับจับมอื ไขว้หลงั ให้หลงั มอื เขา้ หาตัว มือขวาทับมอื ซา้ ย
หลงั มือซ้าย
แนบติดกับลำตัวในแนวกึ่งกลางหลงั และอยูใ่ ต้เข็มขดั เล็กน้อย ขาทัง้ สองตึง
นำ้ หนักตวั อยู่
บนเท้าทง้ั สองเทา่ ๆ ก น และนิ่ง
เม่ือไดย้ นิ คำว่า “แถว - ตรง” ให้ชกั เทา้ ซ้ายชดิ เท้าขวาอยา่ งแข็งแรง พรอ้ มกบั มือ
ท้งั สองกลบั
ไปอยู่ในลกั ษณะทา่ ตรงตามเดิม
พักตามสบาย
คำบอก “ตามสบาย – พัก”
การปฏิบัติ หยอ่ ยเขา่ ขวาก่อน เช่นเดียวกบั “พกั ” ตอ่ ไปจงึ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างสบาย และ
พดู จากนั
ได้ แต่เท้าข้างหนึง่ ต้องอยูก่ ับที่ ถา้ มไิ ดร้ ับอนุญาตใหน้ ่ังจะนง่ั ไม่ได้
เมอื่ ไดย้ ินคำวา่ “แถว – ตรง” ให้ปฏิบตั ิอยา่ งเดียวกบั ทา่ พักปกติ
58
พกั นอกแถว
คำบอก “พกั แถว”
การปฏิบตั ิ ต่างคนตา่ งแยกออกจากแถวทนั ที แต่ต้องอยบู่ รเิ วณใกล้เคยี งน้ัน และไม่ทำเสยี ง
อกึ ทึก เม่อื
ได้ยินคำบอกว่า “แถว” ให้รบี กลบั มาเข้าแถวตรงท่ีเดมิ โดยเรว็ ในรปู แถวเดมิ
และเม่ือจดั
แถวเรียบรอ้ ยแล้วให้อยูใ่ นท่าตรงจนกว่าจะมคี ำส่ังต่อไป
หมายเหตุ สำหรบั ท่าพัก
ทา่ พกั เป็นทา่ เปลีย่ นอิริยาบถจากท่าตรง เพอื่ ผ่อยคลายความเครง่ เครยี ดตามโอกาส
ต่าง ๆ คือ
1. พักตามปกติ ใช้พักในโอกาสระหว่างการฝกึ – สอน เพ่อื อธบิ าย หรอื แสดง
ตัวอย่างแก่ ลูกเสือ
2. พักตามระเบียบ ใช้พกั ในโอกาสเกีย่ วกบั พิธกี ารต่าง ๆ เชน่ การตรวจพลสวน
สนาม หรอื อยใู่ นแถวกองเกียรติยศ ฯลฯ
3. พักตามสบาย ใช้พักในโอกาสท่ตี อ้ งรอรับคำส่ัง เพอ่ื ปฏิบัติต่อไปเปน็
ระยะเวลาสั้น ๆ เชน่ เม่อื ผู้ควบคมุ แถวตอ้ งไปรบั คำสง่ั จากผู้บังคับบญั ชา เป็นต้น
4. พกั นอกแถว ใช้พกั ในโอกาสที่ต้องรอรบั คำสั่ง เพอ่ื ปฏิบัติต่อไปเป็นระยะ
เวลานาน ๆ
ขวาหนั
คำบอก “ขวา – หนั ”
การปฏบิ ัติ ทำเป็น 2 จังหวะ คือ
จังหวะที่ 1 เปิดปลายเทา้ ขวา และยกสน้ เทา้ ซา้ ย ทันใดนนั้ ใหห้ นั ตัวไปทางขวาจนได้
90 องศา หมนุ เทา้ ทัง้ สองไปโดยให้สน้ เทา้ และปลายเทา้ ซึ่งเป็นหลกั น้นั ติดอยูก่ ับพืน้ นำ้ หนกั ตวั
อยทู่ ี่เท้าขวา ขาซ้ายเหยยี ดตึง บดิ สน้ เทา้ ซ้ายออกขา้ งนอกพอตึง
จงั หวะท่ี 2 ชักเท้าซา้ ยมาชิดเท้าขวาในลักษณะท่าตรงโดยเร็วและแข็งแรง
ซ้ายหนั
คำบอก “ซา้ ย – หนั ”
การปฏบิ ัติ ทำเป็น 2 จงั หวะ อย่างเดยี วกับทา่ ขวาหนั โดยเปล่ียนคำว่า “ขวา” เป็น
”ซ้าย”
กลบั หลงั หนั
คำบอก “กลบั หลัง – หัน”
การปฏบิ ัติ ทำเป็น 2 จังหวะ คือ
59
จงั หวะที่ 1 ทำเชน่ เดียวกบั ทา่ ขวาหันจังหวะที่ 1 แต่หันเลยไปจนกลบั หนา้ เปน็ หลงั
ครบ 180 องศา และใหป้ ลายเทา้ ซา้ ยไปหยุดอยู่ข้างหลงั เฉยี งซา้ ยประมาณครึง่ กา้ ว และในแนวสน้
เท้าขวา
จังหวะท่ี 2 ทำเช่นเดียวกบั ท่าขวาหันจังหวะท่ี 2
ท่าหนั ในเวลาเดิน
ขวาหนั
คำบอก “ขวา – หัน”
การปฏบิ ตั ิ ให้บอกคำว่า “ขวา” และ “หนั ” เมื่อเท้าขวาจรดถึงพ้นื ในลำดบั ตอ่
กันปฏิบัตเิ ป็น 2 จังหวะ ดังน้ี
จงั หวะท่ี 1 ก้าวเทา้ ซ้ายยกไปขา้ งหนา้ ในแนวปลายเท้าขวาประมาณคร่ึงกา้ ว
พรอ้ มกับบิดปลายเท้าใหไ้ ปทางก่ึงขวาดว้ ย ขณะเดยี วกันยกเทา้ ขวาและหมุนตัวด้วยสะโพก โดย
ใช้ปลายเท้าทง้ั สองเปน็ หลกั ไปทางขวาจนได้ 90 องศา
จงั หวะที่ 2 ก้าวเทา้ ขวาอกเดินต่อไปตามจังหวะการเดินเดินในทศิ ทางใหม่โดย
ต่อเน่อื ง
ซา้ ยหัน
คำบอก “ซ้าย – หัน”
การปฏิบตั ิ ใช้คำบอกว่า “ซ้าย - หนั ” เมอ่ื เท้าซา้ ยจรดถงึ พ้นื ในระดบั ตดิ ตอ่ กนั
ปฏิบตั ิเป็น 2 จังหวะ เชน่ เดียวกับขวาหัน โดยเปลยี่ นคำว่า “ขวา” เปน็ “ซา้ ย” เทา่ นน้ั
หมายเหตุ
สำหรบั ทา่ ขวาและซ้ายหัน
1. ท่าขวาและซา้ ยหัน เมอ่ื ปฏิบตั เิ ป็นจงั หวะต้องไม่หยดุ ชะงักและมือแกว่งตาม
จังหวะตดิ ต่อเรื่อยไป
2. ทา่ ท้ังสองน้ีใชใ้ นโอกาสท่ีต้องการเปลีย่ นทิศหรือหน้าแถวระหวา่ งการเดิน
กลบั หลังหัน
คำบอก “กลบั หลัง – หนั ”
การปฏบิ ตั ิ ใหบ้ อกคำวา่ “กลับหลงั ” และ “หัน” เมื่อเทา้ ซ้ายจรดถงึ พืน้ ใน
ลำดบั ตดิ ต่อกันปฏิบัติเปน็ 3 จงั หวะ ดงั นี้
จงั หวะท่ี 1 ก้าวเท้าขวาไปขา้ งหน้า 1 กา้ ว
จังหวะท่ี 2 ก้าวเทา้ ซ้ายไปขา้ งหน้า เล้ียวขวา และตบลงกบั พื้นดว้ ยปลายเท้าใน
แนวทางขวาของปลายเท้าขวาเล็กนอ้ ย พอเท้าซ้ายตึง ทนั ใดนนั้ ยกส้นเทา้ ขวาและหมุนตวั ด้วย
ตะโพกโดยใชป้ ลายเท้าทง้ั สองเป็นหลักไปข้างหลังจนได้ 180 องศา ขณะหมุนตวั นว้ิ มอื ทง้ั 2 ตดิ
กับขา้ งขา
60
จงั หวะที่ 3 กา้ วเทา้ ขวาออกเดินพร้อมกับยกมือและแกว่งแขน
ซอยเท้า
คำบอก “ซอยเท้า – ทำ”
การปฏิบัติ เมื่อหยดุ อยกู่ บั ที่ ถ้าได้ยนิ คำบอกว่า “ซอยเทา้ - ทำ” ใหย้ กเท้า
ขนึ้ ลงสลับกันอยู่กับท่ี ตามจังหวะการเดินในครง้ั น้นั โดยยกเทา้ ซา้ ยขึน้ กอ่ น เทา้ ที่ยกขึ้นน้นั ให้พนื้
รองเท้าสงู จากพืน้ ประมาณ 1 คืบ ลักษณะมือและการแกว่งแขนคงเปน็ ไปตามท่าเดินในคร้งั นั้น
ท่าถอดหมวกและสวมหมวก
ทา่ ถอดหมวกใช้คำบอก “ถอดหมวก” ทำเปน็ จงั หวะเดียวใหล้ กู เสือนำพลอง
ในมือขวามาไว้ตรงหนา้ ให้ตน้ ไมพ้ ลองอยู่ตรงกลางระหว่างเท้าทง้ั 2 ไม้พลองส่วนบนพิงแขนซ้าย
ดา้ นในซ่งึ งอตรงศอก แขนซา้ ยทอ่ นบนชิดลำตัว หน้าแขนต้ังได้ฉากฝา่ มือแบหงาย ขณะเดียวกนั
ใช้มอื ขวาถอดหมวกจากศีรษะเอามาวางไวบ้ นฝ่ามือซ้ายหน้าหมวกอย่ทู างขวา ใหห้ วั แม่มอื ซ้ายอยู่
ชดิ ขอบในหมวก นิ้วท้งั ส่ีติดขอบหมวกดา้ นนอกหน้าหมวกหันไปขา้ งขวา แลว้ ลดแขนขวาให้อยู่
ในท่าตรงตามเดมิ
สวมหมวกให้ใชค้ ำบอก “สวมหมวก” ใหล้ กู เสือใช้มอื ขวานำหมวกในมือ
ซา้ ยขึน้ สวม โดยใชม้ อื ซ้ายช่วยด้วย โดยใหส้ ายรัดทา้ ยทอยใหเ้ รยี บรอ้ ย แล้วใชม้ อื ขวาจบั ไมพ้ ลอง
ท่ีพงิ ไว้กบั แขนซา้ ยมาถือไว้ในท่าเรียบอาวธุ ตามเดิม
ข้อควรจำ ท่าถอดหมวด - สวมหมวก ลกู เสอื ตอ้ งทำด้วยความฉบั ไว
เรียบร้อย ผลที่ไดจ้ ากท่านี้อยู่ที่การฝึกบ่อย ๆ
ท่าหนั และการเคลอ่ื นที่ในเวลาถอื ไมพ้ ลอง ทา่ หนั ในเวลาถอื ไมพ้ ลองใชค้ ำ
บอกและวิธปี ฏิบตั เิ หมอื นอยู่กบั ทีม่ ือเปลา่ ถา้ หันในขณะทีไ่ ม้พลองอยู่ในทา่ เรียบอาวุธ เพอ่ื ให้การ
หนั สะดวกขณะหันยกไม้พลองในมอื ขวาใหพ้ ้นพนื้ เลก็ น้อย เมือ่ หันเสร็จแลว้ ลดมือขวาลงให้ไม้
พลองจรดพื้น
การเคลือ่ นทีใ่ นเวลาถือไม้พลองเหมือนกับการเคลื่อนท่มี ือเปลา่ ท้งั ในการใช้
คำบอกและวธิ ีปฏิบตั ิ ตามปกตเิ ม่ือจะเคลอื่ นทีผ่ ู้ควบคุมแถวตอ้ งบอกให้แบกอาวธุ เสียก่อน แลว้ จึง
สง่ั ใหเ้ ดนิ ในทา่ เดนิ แบกอาวุธอยใู่ นแถวควบคมุ เมือ่ จะทำความเคารพผู้ควบคุมแถวบอก “แลขวา
(ซ้าย) ทำ” ให้ลกู เสือหนั หน้าไปยังผูร้ บั การเคารพ แขนแกว่งตามปกตแิ ละรักษาทา่ แบกอาวุธไวค้ ง
เดมิ เมื่อพน้ ผู้รบั การเคารพแล้วหนั หนา้ แลตรงเอง
ถ้าลกู เสืออยู่ในท่าแบกอาวธุ เคล่ือนทไ่ี ปตามลำพงั เมอ่ื จะทำความเคารพให้
ลดไมพ้ ลองลงจากทา่ แบกอาวธุ มาเป็นทา่ เรยี บอาวุธ จงั หวะที่ 1 เพียงมือขวาที่ยกข้ึนมาจับไม้
พลองในร่องไหล่ซ้ายน้ันใหจ้ ัดน้วิ เหมือนท่าหัสของลกู เสือ ฝา่ มอื แบคว่ำใหข้ า้ งปลายนิ้วช้ีแตะ
ไม้พลอง ศอกงอไปขา้ งหน้าในแนวเดยี วกับไหล่ หันหน้าไปยงั ผรู้ บั การเคารพท่ยี ืนหรือเดินอยู่
61
(สวนมาหรือเดินไป) เม่ือผา่ นผ้รู บั การเคารพไปแล้ว เลกิ ทำความเคารพโดยใช้มือซา้ ยดันไม้พลอง
ขน้ึ ไปอย่ใู นท่าแบกอาวุธดังเดิม พรอ้ มกบั หันหนา้ แลตรงลดแขนขวาลง แขนแกว่งต่อไปในท่า
เดนิ ตามปกติ
ทา่ แบกอาวุธ - เรียบอาวุธ
ทา่ แบกอาวุธ ใชค้ ำบอก “แบก - อาวุธ” ให้ลกู เสอื ทำเปน็ 2 จงั หวะ
จงั หวะที่ 1 ยกไมพ้ ลองด้วยมอื ขวาผา่ นหน้าเฉียดลำตัวไปข้างซา้ ย ใหต้ ้นไมพ้ ลองอยใู่ นองุ้ มอื ซ้าย
ลำไม้พลองตงั้ อยตู่ รงร่องไหล่ซา้ ย มอื ขวาคงจับไมพ้ ลองอยทู่ เี่ ดมิ ศองอไปขา้ งหนา้ แนวเดยี วกบั
ไหล่ จงั หวะที่ 2 ดนั ไม้พลองดว้ ยมอื ซ้าย พรอ้ มกับส่งไม้พลองดว้ ยมือขวา ให้ไม้พลองพาดขึ้น
ไปบนบ่าซา้ ยแขนซ้ายทอ่ นบนชิดลำตัว ศอกซา้ ยงอหนา้ แขนตั้งได้ฉากกบั ลำตัว ขณะเดยี วกนั ลด
มอื ขวาลงในทา่ ตรงโดยเร็ว
ขอ้ ควรระวงั ขณะทล่ี ูกเสอื ทำทา่ แบกอาวุธ จงั หวะที่ 2 ระวงั อย่าให้ศรี ษะเคล่ือน
หลบไม้พลองทรงศีรษะให้คงทเี่ หมือนอยู่ในท่าตรงเสมอ ใหแ้ ขนซา้ ยอยู่ในลักษณะท่ีถูกต้องและ
ไม่เคลอ่ื นไหว ปลายไม้พลองจึงจะได้ระดับและไมเ่ อยี งไปมา
เรียบอาวุธ ใชค้ ำบอก “เรียบ – อาวธุ ” ให้ลกู เสอื ทำเป็น 3 จังหวะ จงั หวะท่ี 1 ยก
มอื ขวาขน้ึ จบั ไม้พลอง ศอกงอไปขา้ งหนา้ ในแนวเดียวกับไหล่ พรอ้ มกับเหยยี ดแขนซ้ายโดยลดไม้
พลองลงชดิ กับลำตัว จงั หวะท่ี 2 นำไม้พลองด้วยมอื ขวามาไวข้ ้างลำตัวในร่องไหล่ขวา (แขนซา้ ย
เหยยี ดเกือบสุดระยะท่มี อื ขวาจบั ไมพ้ ลองในทา่ เรยี บอาวธุ ) ขณะเดยี วกันยกมอื ซ้ายขึน้ กันไมพ้ ลอง
ท่ีรอ่ งไหลข่ วา ศอกงอไปขา้ งหน้าในแนวเดียวกบั ไหล่ จังหวะที่ 3 ลดแขนซ้ายลงอย่ใู นทา่ เรียบ
อาวุธตามเดิม (ในจังหวะน้ีเหยยี ดแขนขวาลงสดุ ระยะท่ีมอื ขวาจับไม้พลองอยู่ในทา่ เรยี บอาวุธ
ต้นไม้พลองอยใู่ นทา่ เรยี บอาวธุ ต้นไม้พลองจรดพ้นื )
ข้อสงั เกต ตอนเหยียดแขนขวาจากจงั หวะที่ 2 ลงสุดระยะทีม่ ือขวาจับไม้พลองใน
ทา่ เรยี บอาวุธในจังหวะท่ี 3 จะรู้สึกวา่ ตน้ ไมพ้ ลองจรดพ้ืน
รวมและขยายอาวุธ
ในแถวหนา้ กระดาน ลกู เสอื รวมอาวุธเม่ืออยใู่ นรปู แถวหน้ากระดาน โดยแตล่ ะหมู่
รวมอาวุธไวข้ ้างหน้ากองของตน
เมอ่ื มคี ำส่งั ว่า “รวมอาวุธ” ให้ลูกเสอื คนที่ 2 กบั คนท่ี 3 ก้าวออกมาข้างหน้า 1
ก้าว แล้วรอ้ ยหูไม้พลองเข้าดว้ ยกันหน้าหมขู่ องตน ลกู เสือคนท่ี 4 เอาไม้พลองสอดลกู เสืออืน่ ๆ
นายหมพู่ งิ ไมพ้ ลองฝาก
นายหมูล่ กู เสือหรือรองนายหมูท่ ีป่ ฏบิ ัติหน้าทแี่ ทน พงิ ไมพ้ ลองฝากเป็นคนสดุ ท้าย
กบั กระโจมของหม่ตู น
62
หมายเหตุ ในกรณที ่กี องจัดแถวหนา้ กระดานต้งั แต่ 2 แถวขึน้ ไป เม่ือจะสั่งรวมอาวุธ ขอให้อย่ใู น
ดลุ พนิ ิจของผบู้ ังคับบัญชา ถ้าเหน็ วา่ ที่ต้งั กระโจมอาวธุ แคบเกินไปอาจสง่ั ให้ขยายแถวท่ี 2 ,3 ไป
ทางหลงั เสียก่อนกไ็ ด้ เมอ่ื รวมอาวุธแล้วกเ็ ขา้ ประจำท่ีเดิม เม่ือมคี ำบอก “ขยายอาวุธ” ลูกเสอื แต่
ละหมูต่ ่างนำไมพ้ ลองออกจากกระโจมมาประจำที่ อยู่ในทา่ เรียบอาวธุ ตอ่ ไป
63
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4
แผนการจดั ที่ 17 เรือ่ ง กิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ 1. บอกวิธีใชม้ ีดและขวานอยา่ งเหมาะสมกบั งานได้
2. บอกวธิ ีเก็บรักษามดี และขวานได้
เน้ือหา การใช้และเกบ็ รกั ษามีดและขวาน
- ชนดิ ของมีดและขวาน
- วธิ ีใช้และเกบ็ รกั ษามีดและขวาน
- ใชม้ ดี เหลาสมอบก และขวานตัด - ผ่าไม้เพอื่ ก่อไฟ
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. พิธเี ปดิ ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ ข้ึนเขาลงห้วย ” 5 นาที
3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที
กลุ่มลกู เสือเรียนตามฐานโดยผกู้ ำกับอธิบายและสาธติ แลว้ ให้ลกู เสอื ฝกึ ปฏิบตั ิดังน้ี
ฐานท่ี 1 วิธใี ชเ้ ก็บรักษามดี และขวาน
ฐานที่ 2 การพก นำพา และสง่ ใหผ้ ู้อื่น
ฐานที่ 3 การใชม้ ดี เหลาสมอบก
ฐานท่ี 4 การใชข้ วานตัดและผ่าไม้เพื่อกอ่ ไฟ
4. เลา่ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นคติ 5 นาที
5. พิธีปิด ( นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที
ส่อื การเรียนการสอน 1. มีดและขวานชนดิ ตา่ ง ๆ
2. หนิ ลับมีดและขวาน
3. ไม้สำหรบั ทำสมอบกและฟนื
การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต ความสนใจ
2. ดูการเข้ารว่ มกจิ กรรม
บนั ทึกหลังการสอน………………………………………………………….………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
64
การใช้และเกบ็ รกั ษามดี และขวาน
มีดและขวานเป็นสงิ่ จำเป็นย่ิงสำหรับลูกเสอื มาก ซึ่งลกู เสือต้องนำติดตัวไปในระหว่างเดิน
ทางไกลและพักแรม มดี ท่นี ำไปมดั เปน็ มีดพบั มีดพก มีดพกที่มีฝักสวมแขวนตดิ กับเขม็ ขัดขา้ ง
ขวามอื ก่อนแขวนหรือติดเข็มตัด ต้องพบั และเอามีดใส่ฝกั ใหเ้ รยี บร้อย
การส่งมีด ควรพบั หรือใสฝ่ กั กอ่ นแล้วจงึ ส่งให้เพอ่ื น ถ้ามดี ไมไ่ ด้สวมฝักให้จับสันมดี แล้ว
ยนื่ ส่งทางด้ามมดี ให้เพ่อื น เมอื่ เพอ่ื นจบั ด้ามมีดแน่นแลว้ จงึ ปลอ่ ยมอื ทั้งนี้เพอื่ ป้องกันมิให้มดี บาด
มือผสู้ ง่ (เม่ือผ้รู บั จับดา้ มมีดหรอื ขวานหม่ันคงแลว้ กล่าว “ขอบคุณ” ผู้สง่ ปล่อยมือ)
มดี จำแนกได้ 2 ประเภท คือ
1. มดี เลก็
ได้แก่มีดพกประจำตัว มีดทใ่ี ชใ้ นการทำครวั
มดี พกประจำตวั เปน็ มีดใช้พกพาตดิ ตวั อยู่เสมอในขณะอยคู่ ่ายพักแรม หรือเดิน
ทางไกล ตวั มดี ประกอบด้วยส่วนใบมดี และด้าม มีดพกประจำกายมีไวเ้ พ่อื ตัดเชือก ลิดกง่ิ ไมข้ นาด
เล็ก หรืออาจใชใ้ นการประกอบอาหาร การเก็บรกั ษาและซอ่ มแซม ต้องหม่ันลบั ให้คมอยเู่ สมอ
และชโลมน้ำมนั เพื่อป้องกันสนิม หมน่ั ตรวจตราดอู ยา่ ให้ใบมดี โยกคลอนหรือดา้ มมดี แตกหกั
มดี ที่ใชใ้ นการทำครวั เปน็ มีดบางขนาดเล็กสำหรับการประกอบอา หาร อาจไมจ่ ำเป็น
ในการอยูค่ ่ายพักแรม เพราะอาจใชม้ ีดพกประจำกายแทนกไ็ ด้ วิธกี ารบำรุงรกั ษาเช่นเดยี วกับมดี พก
ประจำกาย
2. มดี ใหญ่
ไดแ้ ก่ มดี โต้ มีดดายหญ้า มดี พร้าถาง เป็นมีดท่มี ีความจำเป็นในการอยู่คา่ ยพกั แรมเปน็
อย่างมาก มสี ว่ นประกอบ 2 สว่ น คือ สว่ นใบมีดและส่วนด้าม ประโยชนใ์ ชส้ อยคือ ใชต้ ัดกิง่ ไม้
ใหญ่ ผา่ ฟนื ดายหญ้า ตดั กิ่งไม้ทีเ่ ปน็ อุปสรรคในการเดินทาง การเกบ็ รักษาจะต้องลบั ใหค้ ม
เช็ดให้แห้ง ทานำ้ มันทกุ ครง้ั ที่ใช้งานเสร็จแล้ว การบำรุงรักษาและซอ่ มแซม ต้องหมั่นตรวจดวู ่า
ด้ามมดี อยู่ในสภาพทส่ี มบูรณ์ดหี รือไม่ ใบมดี โยกคลอนหรอื ไม่ และถ้าใบมีดโยกคลอนไมค่ วรใช้
เศษไม้ตอกลงไปในด้ามมดี จะทำใหด้ า้ มแตก ใบมีดหลุดจาดดา้ มมีดได้ ควรเปล่ยี นดา้ มมดี เสีย
ใหมเ่ พ่ือความแข็งแรง วิธใี ช้ควรใหห้ า่ งจากผ้อู ื่น และใช้งานด้วยความระมัดระวงั ไม่ประมาท
หรอื คึกคะนอง
ขวาน แบง่ ออกเป็น 2 ชนดิ คอื
1. ขวานไทย มที ง้ั ขวานใหญแ่ ละของเล็ก
2. ขวานฝรง่ั มีทั้งขวานใหญแ่ ละของเล็ก
ขวานเล็ก และขวานใหญ่ ประกอบดว้ ย 2 สว่ น คือ สว่ นขวานและสว่ นดา้ ม
65
สว่ นตา่ ง ๆ ของขวาน
วธิ ีใชม้ ดี และขวาน
1. ไม่วางมดี หรือขวานให้ทางคมหงายขนึ้
2. ไม่ใช้หัน่ ถาก ฟนั วตั ถทุ ่แี ข็งเกินไปจนคมท่ือ ปิ่น
3. ไมใ่ ช้กรีดทำลายทรัพยส์ นิ ให้เสียหาย
4. ไมน่ ำไปลนไฟหรอื วางใกล้ไฟเกนิ ควร
5. การส่งมีด ใหจ้ ับสนั มีดหันคมออก สง่ ทางดา้ มใหผ้ ู้รับ
6. การแบกหรือถือมีด ขวานขนาดใหญ่ ให้หนั ด้านคมออกนอตัว
7. การส่งขวานใหญ่ จบั ด้ามขวานให้ตัวขวานห้อยลงคมขวานหนั ออกข้าง ๆ
8. ส่งขวานขนาดเลก็ ให้จับท่ีตวั ขวาน หนั คมไปทางด้านหลัง ปล่อยด้ามขวานชี้ลง
การเกบ็ รักษาขวาน
1. ด้ามขวานหลวมเอาลิ่มขนาดตอ้ งการแชน่ ำ้ อ่นุ ตอกสลักเขา้ ไปทำให้แนน่
2. ลับมีด ขวาน ให้คมเสมอ
3. มดี ใชแ้ ล้วเชด็ ให้แหง้ หลอดน้ำมันเกบ็ เข้าที่
4. ขวานใชแ้ ลว้ เชด็ ให้แห้ง ทามนั มันกันสนิม ขวานใหญค่ วรลบั เก็บไว้กับขอนไม้
ใบการใชม้ ดี เหลาไม้ให้เป็นสมอบก หรือทำเครอื่ งใช้อย่างอ่นื หรือการใชล้ ดิ กงิ่ ไม้ ผา่ ไม้
เพ่อื เตรยี มการก่อกองไฟ ลูกเสือต้องมีความระมัดระวงั และเรียนรูก้ ารจบั ไม้ วางไม้ การจบั ถือ
ขวานใหถ้ กู ตอ้ ง
66
วธิ กี ารใชม้ ดี หรือขวานให้ถกู วธิ ี
67
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามัญ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
แผนการจัดที่ 18 เรือ่ ง กิจกรรมกลางแจง้ (ตอ่ ) จำนวน 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์
1. ผกู เงอื่ นจากเชือกทม่ี ขี นาดเดียวกันและบอกประโยชน์ได้อย่างนอ้ ย 1 เงอื่ น
2. ผกู เงือ่ นจากเชือกทม่ี ีขนาดต่างกนั และบอกประโยชน์ได้อย่างนอ้ ย 1 เง่ือน
3. ผกู เงอื่ นด้วยเชือกกับวัสดอุ ย่างใดอย่างหน่ึงและบอกประโยชนไ์ ด้อยา่ งนอ้ ย 1 เงื่อน
เนอ้ื หา
1. การผกู เงอื่ นโดยใช้เชือกทม่ี ขี นาดเดียวกนั
2. การผูกเงอื่ นโดยใชเ้ ชือกทม่ี ีขนาดตา่ งกนั
3. การผกู เงื่อนโดยใช้เชอื กกบั วัสดอุ ย่างใดอยา่ งหนึ่ง
กจิ กรรมการเรียนการสอน
1. พธิ เี ปดิ ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ รถไฟด่วน ” .………… ..…..……….……… …… … ….. 5 นาที
3. สอนตามเนอ้ื หา.........….…………………………..…………… 30 นาที
3.1 ลกู เสือช่วยกนั อภิปรายถงึ ประโยชนข์ องเชือกในชวี ิตประจำวัน
3.2 ผู้กำกบั สรุปการใชเ้ ง่อื นดังนี้
- การใช้เชือกที่มีขนาดเดียวกัน
- การใชเ้ ชือกที่มขี นาดต่างกัน
3.3 แบง่ หมลู่ ูกเสือเรียนตามฐานตา่ ง ๆ ดังนี้
ฐานท่ี 1 เง่ือนประมง เง่อื นผูกรน่ และเงอ่ื นผูกคนลาก
ฐานท่ี 2 เง่ือนขัดสมาธิ และเง่อื นขัดสมาธิ 2 ชัน้
ฐานที่ 3 เงื่อนผกู ซงุ เง่ือนตะกรุดเบด็ และเงื่อนผกู รงั้
3.4 ผกู้ ำกบั สรปุ การเรยี นจากฐานโดยใช้เกมทดสอบปดิ ตาผกู เง่ือน
4. เล่าเรื่องส้ันที่เป็นคติ…………………………………………..… 5 นาที
5. พิธีปดิ ( นดั หมาย ตรวจเครื่องแตง่ กาย ธงลง เลิก )……..…… 10 นาที
สอื่ การเรียนการสอน 1. เชือก
การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต ความสนใจ
2. ทดสอบ
บนั ทึกหลงั การสอน…………………………………………………………………………………
.............................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา………………………………………………………………
68
การผูกเงื่อนโดยใชเ้ ชือกขนาดเดยี วกนั
1. เง่ือนประมง
เป็นเงื่อนทใี่ ช้สำหรบั ต่อเชื่อทมี่ ขี นาดเดียวกัน ซ่ึงเปน็ ทร่ี ู้จกั กนั อีกชื่อหน่ึงว่า
“เงื่อนหวั ล้านชนกนั ” นัน่ เอง
ประโยชน์ของเง่ือนประมง
1. ใช้ต่อเชื่อทม่ี ีขนาดเดยี วกัน
2. ใช้ตอ่ เช่ือที่มขี นาดเลก็ หรือใช้ตอ่ สายเอ็นตกปลาซง่ึ ชาวประมงนิยมใชท้ ัว่ ไป
3. ใชต้ อ่ เชื่อทมี่ ีขนาดใหญ่ เพ่อื ใช้ลากจูงเพราะสามารถรับกำลงั ลากไดด้ ี
4. ใช้ผูกคอขวดเพื่อเป็นการถอื หว้ิ
5. ใช้ผกู สายไฟเพือ่ ทำกบั ระเบดิ
วิธีผกู เง่อื นประมง
ขน้ั ที่ 1 ใหป้ ลายเชือกซ้อนกันดงั รูป
ข้นั ที่ 2 ผูกปลายเชอื ก ก รอบตัวเชือก A ด้วยผูกขัดชัน้ เดยี วธรรมดา
ข้ันที่ 3 ผกู ปลายเชอื ก ข รอบตวั เชือก B
ข้ันที่ 4 ดึงเสน้ เชอื ก A , B ให้ปมเง่ือนเชอื กเข้าไปชนกัน
69
2. เงอ่ื นผกู ร่น
เป็นเง่ือนผูกเพื่อทบเชอื กส่วนทช่ี ำรุด
ประโยชน์
1. ใช้ผกู ร่นทบเชือกทีช่ ำรดุ เล็กน้อย ซ่งึ ถ้าใช้กำลังมาก ๆ อาจขาด เมื่อทบแลว้ จะให้
กำลงั เทา่ เดิม
2. ใช้ทบเชือกที่ยาวมาก ๆ ใหส้ ้ันลงตามต้องการ
วิธีการผกู เงอ่ื นผูกรน่
ขั้นท่ี 1 ทบเชือกดังรปู
ขน้ั ที่ 2 ทำส่วนปลายเชือกให้เปน็ บ่วง
ขน้ั ท่ี 3 ดงึ บว่ ง ก และ ข เขา้ ไปในห่วง ดึง A , B ใหต้ งึ
ขัน้ ที่ 4 ใช้ไม้ขัดเสน้ เชือก A กับบ่วง ข , B กับบ่วง ก
70
3. เงื่อนผูกคนลาก
ประโยชน์
1. ทำบวงคลอ้ งไหลเ่ มอ่ื ตอ้ งการลากของหนกั ๆ
2. ใช้ผูกลูกบันได
วธิ กี ารผกู
ขน้ั ท่ี 1 ใชส้ องมอื จบั ตรงกลางเชอื กแลว้ พลิกมือขวาจนเกิดบ่วง
โดยเชือกมอื ซ้าย A อยดู่ ้านบน
ขน้ั ที่ 2 จบั เชือกด้านซา้ ย A อ้อมดา้ นใต้ (ด้านหลงั ) ของบว่ ง
ข้นั ที่ 3 ดึงขอบบ่วงลา่ งลอดใต้เส้นเชือก A
ข้นั ท่ี 4 ดงึ บ่วงลา่ ง (จากข้ันที่ 3) ข้ามขอบบ่วงบน ดงึ และจดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บร้อย
71
การผกู เง่อื นโดยใช้เชอื กตา่ งขนาดกนั
1. เงือ่ นขัดสมาธิ
เป็นเง่ือนตอ่ เชือกท่ีมีขนาดต่างกนั
ประโยชน์ ใชต้ ่อเช่ือท่ีมขี นาดต่างกัน
วธิ ีการผกู เงื่อนขดั สมาธิ
ขน้ั ที่ 1 งอเชือกเสน้ ใหญ่ให้เปน็ บว่ ง สอดปลายเชอื กเส้นเล็กเขา้ ในบว่ งโดยสอดจากข้างล่าง
ขัน้ ที่ 2 ม้วนเชือกเส้นเล็กลงอ้อมดา้ นหลังเชือกเสน้ ใหญ่ทง้ั คู่
ขั้นที่ 3 จับปลายเชอื กเส้นเลก็ ข้ึนไปลอดเสน้ ตัวเองเปน็ การขดั ไว้ จัดเง่ือนให้แนน่ และเรียบรอ้ ย
72
2. เงอื่ นขัดสมาธิ 2 ชนั้
ใช้คล้องผูกกบั สมอ ขอ หรือบว่ ง ใช้ตอ่ เชือกที่มขี นาดตา่ งกันมาก หรือต่อเชือกเปยี ก
นำ้ เชอื กไนลอ่ น
วธิ กี ารผูก
การผูกเง่ือนโดยใชเ้ ชอื กผูกวัสดุอนื่
1. เงอื่ นผกู ซุง
เงอื่ นผูกซงุ เป็นเงื่อนที่ใช้สำหรับผกู สง่ิ ของตา่ ง ๆ ใหแ้ นน่ เป็นเง่ือนทม่ี ลี ักษณะพิเศษคอื
ผกู งา่ ย แกง้ ่าย แต่เป็นเงื่อนทยี่ งิ่ ดงึ ยิง่ แนน่ ยิง่ ดงึ แรงมากเทา่ ไรก็จะยิ่งแนน่ มากเท่านัน้
ประโยชน์ของเง่ือนผูกซุง
1. ใช้ผูกกบั วัตถทุ เ่ี ปน็ ทอ่ นยาว ๆ เชน่ ท่อนซุง เสา เป็นต้น
2. ใช้ผกู สัตว์ เรือ หรอื แพ ไว้กบั หลกั
3. ใช้ผูกหนิ แทนสมอเรือ หรือผกู หินแทนสมอบกกไ็ ด้
4. ใชเ้ ปน็ เง่ือนเริ่มต้นในการผูกทแยง
ขัน้ ตอนการผกู เงือนผูกซงุ
ขั้นท่ี 1 สอดเชือกให้คล้องรอบตน้ ซงุ หรือเสา
ขน้ั ที่ 2 งอปลายเชอื กคลอ้ งตวั เชือก
73
ขนั้ ท่ี 3 พนั ปลายเชอื กรอบเส้นตัวเอง 3 - 5 รอบ ดึงตัวเชือกใหเ้ ง่ือนแนน่
2. เงอ่ื นตะกรดุ เบด็
เงื่อนตะกรุดเบด็ นับเปน็ เง่ือนที่สำคัญของวชิ าลูกเสอื เพราะใช้ผูกเง่ือนอื่น ๆ อีกหลาย
เงอื่ น เช่น เง่ือนผกู แนน่ เงื่อนประกบ เง่ือนกากบาท
ประโยชน์ของเง่ือนตะกรดุ เบ็ด
เป็นเงื่อนทใี่ ช้ในงานตา่ ง ๆ มากมาย เช่นผกู สิ่งของตา่ ง ๆ ผกู เหล็ก ผกู รั้ว ผกู ตอมอ่
ในการสรา้ งสะพาน ผกู รอกแขวน ผกู สมอเรือ ผกู เบ็ด เป็นต้น
วธิ ผี ูกเงือ่ นตะกรุดเบ็ด
ข้นั ที่ 1 พันเชือกให้เปน็ บ่วงสลับกัน ดังรูป
ขัน้ ท่ี 2 เล่อื นบ่วงให้เขา้ ไปซอ้ นจนทับกนั เป็นบ่วงเดียว
74
ขน้ั ท่ี 3 นำบ่วงจากข้ันที่ 2 สวมลงในเสาแล้วดงึ ปลายเชอื กจัดเงื่อนให้แน่น
3. เงอ่ื นผกู ร้งั
ประโยชนข์ องเงื่อนผูกร้งั ใช้ผูกเสาเต็นท์ ผูกสตั ว์ ผูกบว่ งต่าง ๆ สามารถเลื่อนเชอื ก
ใหห้ ย่อนและตงึ ได้ ผกู หว่ งต่าง ๆ เพราะเลอื่ นเชือกให้หย่อนหรือตงึ ได้
วิธกี ารผกู เงอื่ นผกู รงั้
75
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สามัญ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4
แผนการจัดท่ี 19 เร่อื ง กิจกรรมกลางแจง้ (ตอ่ ) จำนวน 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์
1. ผกู แน่นแบบต่าง ๆ ไดถ้ ูกต้องและม่ันคง
2. บอกประโยชนข์ องการผกู แนน่ แบบต่าง ๆ ได้
เนอ้ื หา
- การผกู แน่น ผกู ประกบ ผูกทแยง ผกู กากบาท
กจิ กรรมการเรียนการสอน
1. พิธเี ปดิ ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 10 นาที
2. เกม “ ข้นึ เขาลงหว้ ย ” 5 นาที
3. สอนตามเน้อื หา 30 นาที
3.1 ผ้กู ำกับอภปิ รายถงึ ประโยชน์ของการใชเ้ ชือกในชีวติ ประจำวัน
3.2 แบ่งหมูล่ ูกเสอื เรยี นตามฐาน โดยผู้กำกบั อธบิ ายและสาธติ แล้วให้ลูกเสือปฏิบตั ิ
ดังน้ี
ฐานที่ 1 การผูกประกบและประโยชน์
ฐานท่ี 2 การผูกทแยงและประโยชน์
ฐานท่ี 3 การผกู กากบาทและประโยชน์
3.3 เกมทดสอบ “การแข่งม้าโรมัน”
4. เล่าเรื่องสั้นทเ่ี ป็นคติ 5 นาที
5. พิธปี ดิ ( นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที
ส่อื การเรียนการสอน 1. ไม้พลอง เชอื ก
2. แผนภูมิการผกู แนน่ แบบตา่ ง ๆ
3. แผนภมู เิ พลง
การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต ความสนใจ
2. ซักถามและทดสอบ
บนั ทึกหลงั การสอน……………………………………..……………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
………………………………………………………………………………….................................
.............................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
76
การผกู แนน่
การผูกแนน่ เป็นการผูกวตั ถุให้ติดแน่นเขา้ ด้วยกันโดยใชเ้ ชือกหรือวัสดุอ่นื หรือวสั ดุคล้าย
เชอื ก ซ่ึงมีประโยชน์ต่อลูกเสือเป็นอย่างมาก ในการเขา้ คา่ ยพกั แรมหรือการเดนิ ทางไกล เปน็ ต้น
การผูกแน่นมี 3 คือ
1. ผกู ประกบ
2. ผกู ทแยง
3. ผูกกากบาท
1. ผูกประกบ
ประโยชน์
1. ใช้ตอ่ ไม้หลาย ๆ ท่อนเข้าด้วยกนั ให้ยาว
2. ใช้ผูกต่อไม้ในการก่อสร้าง
3. ใชผ้ กู ตอ่ พลองทำเสาธงลอย
วธิ ีการผูก
วธิ ที ่ี 1 ผกู ประกบ 2 ทอ่ น
ข้ันที่ 1 เอาไมท้ จ่ี ะตอ่ มาวางซ้อนขนานกนั โดยใหป้ ลายที่จะต่อซ้อนกันราว 1 ใน 4
หรอื 1 ใน 5 ของความยาวของไม้ จากนัน้ เอาเชือกผูกเง่ือนตะกรุดเบ็ดที่เสาตน้ ใดต้นหน่ึง แลว้
บดิ ปลายเชอื กเขา้ กับตวั เชอื ก (แตง่ งาน) ใช้ลม่ิ ขนาดเท่าเสน้ เชอื กยดั ระหวา่ งเสา “ตามรูป” ใช้
เชือก 2 เสน้ เวลาผูกจรงิ ผูกทลี ะเสน้
77
ขั้นที่ 2 พันเชอื กรอบไม้ทงั้ สองอันให้เชอื กเรยี งกนั พนั จำนวนรอบจนกว้างเทา่ กับ
ความกวา้ งของไมท้ ้งั สองอัน สอดเชือกเขา้ กลางระหวา่ งไม้ทัง้ สอง ซ่ึงยังหา่ งกันอยเู่ พราะมีลม่ิ ยัด
ไวเ้ พื่อเตรียมพันหักคอไก่
ขั้นที่ 3 หกั คอไกโ่ ดยสอดเชอื กในระหว่างไม้พนั รอบเชอื กท่พี นั อยู่เดมิ ดงึ ล่ิมออก
รัดหกั คอไก่ใหแ้ น่น
ขน้ั ท่ี 4 ผกู ปลายเชอื กดว้ ยเงื่อนตะกรุดเบ็ดทีไม้คนละอันกบั ท่ขี ้นึ ต้น
วธิ ีท่ี 2 ผูกประกบ 3 ทอ่ น
วธิ กี ารผกู เริม่ ดว้ ยผูกตะกรดุ เบด็ ที่เสาต้นกลาง แต่งงานเชือกแล้วพนั รอบเสาท้ังสามให้เชือก
เรยี งกันจนกวา้ งเทา่ ความกว้างของเสาทงั้ สามตน้ หักคอไกร่ ดั จนแนน่ ลงท้ายดว้ ยผกู ตะกรุดเบ็ดท่ี
เสาตน้ รมิ เป็นอันสำเร็จ
78
2. ผูกทแยง
ประโยชน์
1. ใช้ผูกนั่งรา้ นในการก่อสร้าง
2. ผูกไมค้ ำ้ ยนั เสาป้องกันเสาล้ม
3. ใช้ผูกตอมอ่ เสาสะพาน
วธิ ีผูก
ขั้นท่ี 1 ใชป้ ลายเชอื กด้านหนง่ึ คลอ้ งรอบไมเ้ สาท้ังสองต้น และผกู ดว้ ยเง่ือนผกู ซุง
ขั้นท่ี 2 ดึงปลายเชือกลงทางขวา เพ่ือให้เงื่อน
แนน่ แลว้ พนั รอบเสาทั้งสอง 3 - 4 รอบ
ขน้ั ท่ี 3 พนั ทแยงรอบเสาท้ังคู่ 3 รอบ
ขนั้ ท่ี 4 หักคอไก่ 2 - 3 รอบ
79
ข้นั ที่ 5 ลงด้วยเงือ่ นตะกรุดเบ็ด
3. ผกู กากบาท
ประโยชน์
1. ใช้ผูกน่งั รา้ นในการกอ่ สร้าง
2. ใช้ผูกตอมอ่ เสาสะพาน
วธิ ีการผกู
ขั้นท่ี 1 ผูกเงอ่ื นตะกรุดเบ็ดทหี่ ลกั อนั ตง้ั (อันนอนก็ได้) แล้วแต่งงานปลายเชอื กส่วนท่เี หลอื ให้
เขา้ กนั ให้เรียบร้อย
80
ข้นั ท่ี 2 อ้อมเชือกลอดใต้ไม้อนั นอนทางด้านขวา ดึงให้ตงึ มอื พาดขา้ มอันต้งั ดา้ นบน ลอดอนั
นอนด้านซ้ายขน้ึ มาพาดข้ามอนั ต้ังดา้ นลา่ ง ลอดอนั นอนดา้ นขวาเป็นอันครบรอบ พันอย่างน้สี กั 3
– 4 รอบ ดงึ ให้ตึงทุก ๆ รอบ
ขัน้ ที่ 3 หักคอไก่
หกั คอไก่ คือการพันรอบอ้อมเง่อื นในข้นั ที่ 2 เพื่อรัดเชือกให้ตงึ จะไดไ้ ม่รูดลง
ขั้นท่ี 4 เม่ือหกั คอไก่ได้ 2 - 3 รอบ และดงึ เชือกให้ตึงแลว้ ใหจ้ บลงดว้ ยเงื่อนตะกรุดเบ็ดท่ไี ม้
อนั นอนซ่ึงเปน็ คนละอนั กบั อนั ข้ึน
81
หมายเหตุ การผกู กากบาทมีลำดบั ข้ันการผูกดงั น้ี
1. ขึน้ ต้นดว้ ยเงอ่ื นตะกรุดเบด็ ท่ีหลักต้นหนึง่
2. แต่งงานเชือกกบั ปลายเชือก
3. พนั เชอื กอ้อมหลักทงั้ สอง
4. คักคอไกเ่ พ่อื รดั เชือกให้แน่น
5. ลงทา้ ยดว้ ยเงื่อนตะกรุดเบ็ดที่หลกั คนละตน้ กบั ขอ้ 1