The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ล้านนา จัดเป็นงานพุทธศิลปกรรมที่มี
ความสำคัญและทรงคุณค่ายิ่ง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบ
ประเพณีพิธีกรรมและจัดเก็บรักษาคัมภีร์ธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยช่างหรือสล่าผู้มีศรัทธา
และความชำนาญสร้างสรรค์ขึ้นด้วยภูมิปัญญาเชิงช่างล้านนาอย่างวิจิตรสวยงาม งานพุทธ
ศิลปกรรมล้านนาเหล่านี้จึงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติที่ควรค่าแก่การศึกษา
อนุรักษ์ พัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นสืบไป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nantaperi, 2024-06-11 01:29:03

ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม สัตตภัณฑ์: มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้านนา

ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ล้านนา จัดเป็นงานพุทธศิลปกรรมที่มี
ความสำคัญและทรงคุณค่ายิ่ง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบ
ประเพณีพิธีกรรมและจัดเก็บรักษาคัมภีร์ธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยช่างหรือสล่าผู้มีศรัทธา
และความชำนาญสร้างสรรค์ขึ้นด้วยภูมิปัญญาเชิงช่างล้านนาอย่างวิจิตรสวยงาม งานพุทธ
ศิลปกรรมล้านนาเหล่านี้จึงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติที่ควรค่าแก่การศึกษา
อนุรักษ์ พัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นสืบไป

Keywords: ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม สัตตภัณฑ์

๒. กลุ่มลวดลายที่มาจากวรรณกรรม ภาพที่ ๕๖ ลวดลายวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามจังหวัดลำปาง ๓. กลุ่มลวดลายเทวดา ภาพที่ ๕๗ ลายเทวดา สัตตภัณฑ์วัดมงคล (ทุ่งแป้ง) อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่


(๕๘) (๕๙) ภาพที่ ๕๘ ลวดลายเทวดา สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง ภาพที่ ๕๙ ลวดลายเทวดา สัตตภัณฑ์วัดศรีนวรัฐ (ทุ่งเสี้ยว) จังหวัดเชียงใหม่ ๔. กลุ่มลวดลายมนุษย์ ภาพที่ ๖๐ ลวดลายรูปมนุษย์ สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง


๕. กลุ่มลายอมนุษย์ ภาพที่ ๖๑ ลวดลายราหูอมจันทร์ สัตตภัณฑ์วัดปงสนุกเหนือ จังหวัดลำปาง ภาพที่ ๖๒ ลวดลายหน้ากาลคายเส้นไส้หมู สัตตภัณฑ์วัดบ้านหลุก จังหวัดลำปาง


ภาพที่ ๖๓ ลวดลายหน้ากาลคายเครือพรรณพฤกษา สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง ภาพที่ ๖๔ ลวดลายมนุษย์นาค สัตตภัณฑ์หอวัฒนธรรมนิทัศน์วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา


๖) กลุ่มลายพรรณพฤกษา ภาพที่ ๖๕ ลวดลายเครือเถาเงาะหัวขอดหรือลายก้านใบผักกูด สัตตภัณฑ์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงใหม่ ภาพที่ ๖๖ ลวดลายบัวหลวง สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง


ภาพที่ ๖๗ ลวดลายเครือดอกบัว สัตตภัณฑ์วัดเขาแก้วปินหวาน จังหวัดลำปาง ภาพที่ ๖๘ ลวดลายบัวสายมีลักษณะตูมและบานเต็มที่ สัตตภัณฑ์วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง


๗) กลุ่มลวดลายสัตว์ ภาพที่ ๖๙ ลวดลายพญานาคเกี้ยวพันกัน สัตตภัณฑ์วัดหนองเงือก จังหวัดลำพูน ภาพที่ ๗๐ ลายพญานาคเกี้ยวพันกัน สัตตภัณฑ์วัดพระยืน จังหวัดลำพูน


ภาพที่ ๗๑ ลายกลุ่มสัตว์หิมพานต์ของสัตตภัณฑ์วัดเวียง จังหวัดลำปาง ภาพที่ ๗๒ ลวดลายนักษัตรซอนแทรกในแผงสัตตภัณฑ์ สัตตภัณฑ์วัดแม่แก้ดหลวง จังหวัดเชียงใหม่


เวทีการจัดการความรู้ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์: อัตลักษณ์ คุณค่า และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้านนา” ณ วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ตำบลแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่


๕. กลไกการธำรงอัตลักษณ์ และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์” กลไกการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติให้ เหมาะสมนั้น ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของวัด ชุมชน นักวิชาการ หน่วยงานด้านวัฒนธรรม ตลอดจนถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ต้องบูรณาการความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไก ๔ ระดับที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ดังนี้ ๑. การจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมทั้งธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ ไม่ควรทำให้เป็นแค่ของเก่า เรื่องเล่า ตำนาน แต่ควรจัดการตามหลักวิชาการ ประกอบด้วยการ ถ่ายภาพ บันทึกรูปลักษณ์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเบื้องต้นอย่างเป็นระบบ การจัดการความรู้ว่ามี คติที่มาอย่างไร ใช้สอยประโยชน์อย่างไร รูปแบบโครงสร้าง ลวดลาย และสกุลช่างแบบไหน การจัดทำพิพิธภัณฑ์หรือจัดแสดงให้เป็นสัดส่วนและเหมาะสม ตลอดจนถึงการบูรณะซ่อมแซม อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยมีการรวบรวมธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ ตลอด จนถึงโบราณวัตถุอื่นๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ภายในวัดนำมาจัดตั้งพิพิธภัณฑ์หรือจัดแสดงให้ เหมาะสม พร้อมกับจัดทำฐานข้อมูล การให้ความรู้แก่ผู้เยี่ยมชม เพื่อเผยแพร่ความรู้และ ป้องกันการถูกลักขโมยหรือการทำลายโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนั้น การส่งเสริมให้วัดนำธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์กลับมาใช้สอยประโยชน์ตามบทบาทหน้าที่เดิมที่เคยปฏิบัติมาแต่ ก่อน ก็เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่งที่จะช่วยธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างมีคุณค่า


“...โลกและรัฐกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มรดกทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่แสดงถึง ความเป็นอัตลักษณ์ก็คือตัวตน มนุษย์มีธรรมชาติอย่างหนึ่ง คือจะค้นหาตัวเอง จะสร้างสรรค์ตัวเองขึ้นมาอยู่ในสังคม มรดกทางวัฒนธรรมมันจะสะท้อนความเป็นล้านนา มันสะท้อนมาจากวัฒนธรรมทั้งนั้น ถ้าไม่มีวัฒนธรรมมันจะสะท้อนตัวเองไม่ได้ถ้าเราไม่มี ตัวตน วัฒนธรรมมันเกิดขึ้นในชุมชน มันเกิดขึ้นในวิถีชีวิต แต่มาถึงยุคหนึ่ง โลกเริ่มสนใจ และให้ความสำคัญกับมรดกทางวัฒนธรรมมากขึ้น เพราะอะไร เพราะว่ามันมีการทำลาย มรดกทางวัฒนธรรมเกิดขึ้น มีกระแส มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ มันถึงเวลา หรือยังที่เราจะต้องมาช่วยกันรักษา มิฉะนั้น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มี หลากหลาย อาจจะหายไปหมดแน่...” ดร.พิพัฒน์พงศ์ มาศิริ


๒. การจัดการคน คนเป็นกลไกสำคัญยิ่งที่จะขับเคลื่อนการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิ ปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์” ให้คงอยู่อย่างมี คุณค่าคู่กับสังคมล้านนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยคนที่ต้องได้รับการพัฒนาทั้งความรู้ ความ เข้าใจ ความสามารถ และทักษะด้านอื่นๆ ประกอบด้วย ๑) ผู้ถ่ายทอดและสืบทอดความรู้เชิงช่าง การสืบทอดความรู้เชิงช่างมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมนั้น จำเป็นต้องอาศัยผู้ถ่ายทอดซึ่งก็คือช่างหรือสล่าผู้มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์เครื่องสักการะนั้นๆ เป็นครูถ่ายทอดความรู้และ ประสบการณ์ให้แก่ผู้สืบทอดซึ่งได้แก่อนุชนผู้สนใจ ๒) ผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการใช้สอยประโยชน์มรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม กลไกในการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ให้คงอยู่อย่างมีคุณค่า ต้องอาศัยปราชญ์ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และมีประสบการณ์ในการ ใช้สอยประโยชน์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอย่างถูกต้องและเป็นแบบแผนในงานบุญ ประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะพระสงฆ์ มัคนายก ตลอดจนถึงประชาชนในชุมชน ซึ่งต้องไม่นำไปใช้ สอยผิดประเภทหรือไม่จัดเก็บไว้ในที่ไม่สมควร อันจะเป็นการลดทอนคุณค่ามรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม ถ้าหากจัดการคนให้มีความรู้และประสบการณ์ในการใช้สอยประโยชน์มรดกภูมิ ปัญญาทางวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จักทำให้ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ ได้รับการฟื้นฟูนำกลับมาใช้สอยประโยชน์ตามบทบาทหน้าที่เดิมได้เป็นอย่างดี ๓) ผู้จัดการดูแลรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การที่มรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมจะได้รับการดูแลรักษาอย่างเป็นระบบและระเบียบนั้น ต้องอาศัยผู้ที่มีใจรักชื่นชอบ มีความรู้ และมีทักษะในการดูแลรักษา ควรประกอบด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ได้แก่ วัด ชุมชน หน่วยงานองค์กรท้องถิ่น หน่วยงานทางวัฒนธรรม ตลอดจนถึงช่างหรือสล่าซึ่งควร ได้รับการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการจัดทำฐานข้อมูล การจัดการความรู้ การ จัดทำพิพิธภัณฑ์แนวทางในการดูแลรักษาอย่างเป็นระบบและระเบียบ ตลอดจนถึง กระบวนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อประเภทต่างๆ


การแสดงตู้คัมภีร์ธรรมและสัตตภัณฑ์ร่วมกับโบราณวัตถุต่างๆ ภายในอาคารหอมณเฑียรธรรม ชั้นที่ ๑ วัดบุพพาราม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


๓. การจัดการพื้นที่เรียนรู้ การสร้างพื้นที่เรียนรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ ธรรม และสัตตภัณฑ์” ในชุมชน เป็นกลไกสำคัญยิ่ง โดยต้องได้รับความร่วมมือระหว่างทางวัด ร่วมกับชุมชน หน่วยงานองค์กรท้องถิ่น หน่วยงานทางวัฒนธรรม และช่างหรือสล่า เพื่อสร้าง พื้นที่การเรียนรู้ให้แก่อนุชนผู้สนใจได้ศึกษาเรียนรู้และเสริมสร้างทักษะการสร้างสรรค์มรดกภูมิ ปัญญาทางวัฒนธรรม โดยอาจเปิดพื้นที่ในวัด โรงเรียน หน่วยงาน และบ้านของช่างพื้นบ้าน หรือสล่าเป็นแหล่งเรียนรู้ จัดเป็นข่วงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พร้อมกับกำหนดรูปแบบ การเรียนรู้ที่ชัดเจนเป็นระบบ การรวบรวมช่างพื้นบ้านแขนงต่างๆ และเปิดรับสมัครผู้สนใจ หรืออนุชนคนรุ่นใหม่เข้ามาศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจักทำให้เกิดพื้นที่เรียนรู้ในชุมชนที่มี ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ชุมชนเกิดการตระหนักรู้ในคุณค่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จน สามารถพัฒนาไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในชุมชน โดยเฉพาะการส่งเสริมและเชื่อมโยง กับการท่องเที่ยวเชิงศาสนาวัฒนธรรม และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาดสากลและกลุ่ม ลูกค้าใหม่ๆ ในระดับต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาและผลักดันมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมล้านนาไปสู่การเป็น Soft Power ในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ๔. การจัดการเครือข่าย ในหลายพื้นที่ มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีหน่วยงาน องค์กร และกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้ธำรง อัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิด การแลกเปลี่ยนความรู้ ความร่วมมือและการจัดการร่วมกัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ดำเนินการขับเคลื่อนด้วยเครือข่าย ทั้งนี้วัดและชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการสร้างความ ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งตัวบุคคล หน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมกัน แลกเปลี่ยนเสริมสร้างสนับสนุนทรัพยากรด้านต่างๆ เช่น ความรู้ งบประมาณ บุคลากร เป็น ต้น ตลอดจนภาควิชาการที่ต้องจัดการความรู้เกี่ยวกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็น ระบบและเป็นระเบียบ


ทั้งนี้กลไกการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์” โดยชุมชนในล้านนาดังกล่าว เป็นกระบวนการ จัดการที่เหมาะสม นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นฐานในการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ประเภทงานช่างฝีมือดั้งเดิม ทั้ง ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับจังหวัด ระดับชาติ และระดับมนุษยชาติหรือระดับโลกต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี แผนภูมิกลไกการธำรงอัตลักษณ์ และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ การจัดการมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม •ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม สัตตภัณฑ์ การจัดการคน •ผู้ถ่ายทอดและสืบทอดความรู้เชิงชช่างช •ผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ •ผู้จัดการดูแลรักษา การจัดการพืน้ทเี่รียนรู้ •วัด ชุมชน โรงชเรียน หน่วยงชาน ท้องชถิ่น หน่วยงชานทางชวัฒนธรรม บ้านของชช่างช(สล่า)ในท้องชถิ่น การจัดการเครือข่าย •วัด ชุมชน หน่วยงชาน องชค์กร ทั้งชภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ


การจัดแสดงธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ ภายในวิหารวัดบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่


บทส่งท้าย ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ เป็นงานพุทธศิลปกรรมประเภทเครื่อง สักการบูชาที่ชาวล้านนาได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยภูมิปัญญาเชิงช่าง จัดเป็นมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ประเภทงานช่างฝีมือดั้งเดิม โดยมีคติและพัฒนาการมาจาก ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาสมัยพุทธกาลจวบจนถึงปัจจุบัน ทำให้เป็นงานพุทธศิลปกรรมที่ ทรงคุณค่าด้านจิตใจ ด้านศิลปะ ด้านองค์ความรู้ ด้านประวัติศาสตร์ ด้านประเพณีพิธีกรรม และด้านการสร้างรายได้ในชุมชน ส่วนลวดลาย รูปแบบ และภูมิปัญญาเชิงช่างของธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์นั้น ประดับด้วยลวดลายกลุ่มพรรณพฤกษา กลุ่มคติความเชื่อจากวรรณกรรม กลุ่มเทวดา และกลุ่มสัตว์ทำให้มีความโดดเด่นสวยงาม ตกแต่งด้วยเทคนิคงานปิดทองหรือ งานลายคำ งานไม้แกะสลัก งานปั้น งานลงพื้นรักพื้นชาด และงานประดับกระจก อันเป็น ภูมิปัญญาเชิงช่างที่นิยมในล้านนา การที่จะช่วยธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ “ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์” ให้คงอยู่อย่างมีคุณค่า ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของ วัด ชุมชน หน่วยงานด้านวัฒนธรรม และสถาบันการศึกษา โดยต้องบูรณาการการทำงาน ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยกลไก ๔ ระดับ ได้แก่ ๑. การจัดการมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม ๒. การจัดการคน ๓. การจัดการพื้นที่เรียนรู้ ๔. การจัดการเครือข่าย แนวทาง ดังกล่าวนี้เป็นกระบวนการจัดการที่มีความเหมาะสม สามารถใช้เป็นแนวทางในการขึ้น ทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ประเภทงานช่างฝีมือดั้งเดิม เพื่อธำรงไว้ให้เป็นอัตลักษณ์ล้านนาต่อไป


เอกสารอ้างอิง กลุ่มสงวนรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริม วัฒนธรรม. คู่มือดำเนินงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม พ.ศ.๒๕๕๙. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหาร ผ่านศึก, ๒๕๖๑. กาญจนา ชลศิริ และวัชระ กว้างไชย์. การอนุรักษ์นาคทันต์และธรรมาสน์บุษบกล้านนา. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ๒๕๖๑. ธวัชชัย ทำทอง. ศิลปะสกุลช่างลำปาง. กรุงเทพฯ : บางกอกปริ้นท์, ๒๕๖๖. ประทีป พืชทองหลาง และญาตาวีมินทร์พืชทองหลาง. โครงการสืบค้นและจัดเก็บข้อมูลสัตต ภัณฑ์ล้านนา. รายงานการวิจัย. สถาบันวัฒนธรรมศึกษา (สำนักมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม. ๒๕๕๕. พระนคร ปัญญาวชิโร. วิถีเทศน์ในล้านนา. เชียงใหม่ : หจก. ซีเอ็มมีเดีย, ๒๕๕๗. พระสุธีรัตนบัณฑิต. การจัดการมรดกวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา. นนทบุรี: นิติธรรมการ พิมพ์. ๒๕๖๔. มณี พยอมยงค์ และศิริรัตน์ อาศนะ. เครื่องสักการะในล้านนาไทย. เชียงใหม่: ส.ทรัพย์การ พิมพ์, ๒๕๓๘. มณี พยอมยงค์ และศิริรัตน์ อาสนะ. เครื่องสักการะในล้านนาไทย. เชียงใหม่: ส.ทรัพย์การ พิมพ์. ๒๕๓๙. ศิริศักดิ์ อภิศักดิ์มนตรี และธนิกานต์ วรธรรมานนท์. อานิสงส์หีดหอไตร ฉบับวัดพระหลวง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่. วารสารดำรงวิชาการ, ๒๕๕๙: ๑๕(๒), ๕๙-๘๘. สุชีพ ปุญญานุภาพ. พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน. พิมพ์ครั้งที่ ๑๖. กรุงเทพฯ: มหา มงกุฎราชวิทยาลัย, ๒๕๒๙. อุดม รุ่งเรืองศรี. พจนานุกรมล้านนา-ไทย ฉบับแม่ฟ้าหลวง. พิมพ์ครั้งที่ ๑. เชียงใหม่ : โรงพิมพ์ มิ่งเมือง, ๒๕๓๔.


Click to View FlipBook Version