โครงงาน IS
เร่ือง เจลลางมือจากสารสกัดของพชื ตระกลู สม
จัดทําโดย
กัณณณ ิศรา เดชาเรืองสมุทร เลขที่ 10
กัลยาพร สุขสมบูรณ เลขที่ 11
ฐานดิ า นาครอด เลขท่ี 12
ดวงกมล โพธ์คิ ง เลขท่ี 13
ดาราวลี พิมพเ งิน เลขท่ี 14
เดอื นเตม็ บัวทอง เลขท่ี 15
ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 4/1
เสนอ
นางสาว ทพิ ยร ตั น เหลี่ยมแกว
รายงานเลมนี้เปน หนง่ึ ของวชิ า IS
โรงเรียนสวุ รรณพลบั พลาพทิ ยาคม
สํานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 1
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานวจิ ยั เรอ่ื งเจลลา งมอื จากสารสกดั ของเปลอื กสม สามารถดําเนนิ การประสบ
ความสาํ เรจ็ ลุลวงไปดว ยดี โดยการสนบั สนุนและการไดร บั การชวยเหลอื จากฝา ยบุคคลหลายฝาย ท่ี
คอยใหค าํ แนะนาํ และขอคิดเหน็ ในการศกึ ษาเปนอยา งดตี ลอดระยะเวลาที่ศึกษา
ขอขอบคุณคณุ ครทู พิ ยร ัตน เหลย่ี มแกว และคณุ ครปู ภาดา เฉลิมวัฒน ที่ไดใหคาํ ปรึกษา
เก่ียวกับการวิเคราะหข อมูลตา งๆ อนั เปน ประโยชนต อ การทํางานวจิ ยั รวมท้ังคาํ แนะนาํ เพ่อื มา
ปรับปรงุ แกไ ขใหด ีข้ึน ผวู ิจยั ขอกราบขอบพระคณุ เปน อยา งสูงไว ณ โอกาสนี้
สดุ ทา ยน้ีผวู จิ ัยหวงั เปน อยา งยงิ่ วางานวจิ ัยเลมนจี้ ะเปน ประโยชนส าํ หรบั ทานท่สี นใจ
คณุ ประโยชนท ีไ่ ดจากโครงงานวจิ ยั น้ี ขอยกใหก บั ผูมพี ระคณุ ทกุ ทา น รวมไปถงึ บุคคลที่เกย่ี วขอ ง
และรวมท้ังทมี่ ิไดกลา วถึง ผูวิจัยขอขอบพระคณุ อยา งสูงไว ณ โอกาสน้ี
คณะผจู ดั ทาํ
นางสาว กณั ณณ ศิ รา เดชาเรอื งสมทุ ร
นางสาว กัลยาพร สขุ สมบรู ณ
นางสาว ฐานดิ า นาครอด
นางสาว ดวงกมล โพธิค์ ง
นางสาว ดาราวลี พิมพเงนิ
นางสาว เดือนเต็ม บัวทอง
บทคัดยอ
โครงงาน เจลลางมอื จากสารสกัดของเปลอื กสม
ผจู ดั ทํา น.ส.กณั ณณศิ รา เดชาเรืองสมทุ ร ครูท่ีปรึกษา น.ส.ทพิ ยร ตั น เหลยี่ มแกว
น.ส.กลั ยาพร สุขสมบรู ณ น.ส.ปภาดา เฉลิมวฒั น
น.ส.ฐานิดา นาครอด
น.ส.ดวงกมล โพธ์คิ ง
น.ส.ดาราวลี พิมพเ งิน
น.ร.เดือนเต็ม บวั ทอง
โรงเรียนสุวรรณพลบั พลาพทิ ยาคม จงั หวดั กรุงเทพมหานคร
โครงงานวจิ ยั เรอ่ื งเจลลา งมอื จากสารสกดั ของพชื ตระกลู สม วัตถปุ ระสงคเพอื่ เปรยี บเทยี บ
อตั ราสวนของสารสกัดจากพชื ตระกูลสม ทส่ี ง ผลตอ เน้อื สัมผสั การระเหย ความคงทนของกลน่ิ
ขั้นตอนการดําเนินงานคือเตรียมสารสกดั จากพืชตระกูลสม ในอตั ราสว นสตู รที่1 และสตู รท่ี 2 ที่
ศกึ ษา โดยใชเปลือกสมจนี และสมเขยี วหวาน มีผลการทดลองดังน้ี เปรยี บเทียบอตั ราสวนของสตู ร
ท่ี 1 ระหวางสม จีน และสม เขยี วหวาน พบวาสมจนี มเี นื้อสัมผัส การระเหย ความคงทนของกล่ิน
ดีกวาสมเขยี วหวาน ในอัตราสวนของสตู รท่ี 2 ระหวางสม จีน และสม เขียวหวาน พบวาสม จนี มเี นอ้ื
สัมผัส การระเหย ความคงทนของกลิน่ ทดี่ กี วาสมเขยี วหวาน เมื่อนาํ เอาสมจีนสตู รท่ี 1 และสตู รที่ 2
มาเปรียบเทยี บกัน พบวาสม จีนสตู รที่ 2 มีเนือ้ สมั ผัส การระเหย ความคงทนของกลิน่ มากกวา สม
จีนสูตรที่ 1
สารบัญ หนา
ค
กติ ติกรรมประกาศ ง
บทคัดยอ จ
สารบญั
บทที่ 1-2
1 บทนาํ
3-8
ความเปน มาและความสาํ คัญ 9-10
จดุ ประสงคข องโครงงาน 11-13
ขอบเขตการศึกษา 14-15
ประโยชนท่ไี ดร บั จากโครงงาน 16
2 เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กี่ยวขอ ง 17-20
3 วิธีทําเดนิ การวิจยั
4 ผลการวเิ คราะหข อ มูล
5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ เสนอแนะ
อา งองิ
ภาคผนวก
1
บทที่ 1
บทนาํ
ความเปนมา และความสาํ คญั ของปญ หา
ปจจบุ ัน เราไมส ามารถหลีกเลย่ี งปญ หาเช้ือโรคไดเลย เราตองเดินทางไปมาในสงั คม
สวนรวมเปน ประจํา ทําใหโอกาสติดเชือ้ โรคหรือลม ปว ยจงึ มมี ากขนึ้ ดวยเหตนุ ้ันจึงมมี าตรการ
ปอ งกนั เชื้อโรคหลายๆดาน หนงึ่ ในนนั้ คือการลา งมอื
เราสามารถใชเจลลางมอื ทดแทนไดก ารลา งมือได เจลลา งมอื จงึ มปี ระโยชนอยางมากใน
ชีวติ ประจําวนั ชวยในเรือ่ งของการประหยดั เวลาไปอยา งมาก แตบางคนก็ไมช อบใชเ จลลา งมือ
เพราะมกี ล่ินแอลกอฮอล และเลอื กท่ีจะไมเ ดนิ ไปลา งมอื เน่อื งจากในการหาทล่ี างมือและเวลาในการ
ลางมือใชเ วลาพอสมควร ทาํ ใหเ ช้อื โรคสามารถแพรห ลายไปทว่ั ในสังคม รวมถงึ คนใกลชดิ
ทางคณะผจู ดั ทาํ ไดเลง็ เหน็ ปญหาน้ีจึงไดจ ัดทําเจลลางมือจากสารสกัดของพืชตระกลู สม
ข้นึ มา เพอื่ ทจี่ ะสามารถใหผ ูใชส ามารถใชเจลลางมือจากสารสกัดของพชื ตระกลู สมทดแทนได
วัตถปุ ระสงคข องโครงงาน
เพอื่ เปรียบเทยี บอตั ราสว นของสารสกัดจากพชื ตระกลู สม ท่ีสงผลตอ เนื้อสมั ผัส การระเหย
ความคงทนของกล่ิน
สมมตฐิ านของโครงงาน
ไดอ ัตราสว นของสารสกัดจากพชื ตระกลู สม ท่ีสงผลตอเน้อื สัมผสั การระเหย ความคงทน
ของกลิ่นทีด่ ที สี่ ดุ
ขอบเขตของโครงงาน
ศกึ ษาขั้นตอนวิธีการทาํ เจลลา งมอื และการสกัดนาํ้ มันหอมระเหยจากเปลอื กสม ดวยวธิ ีการ
สกัดสารดวยตวั ทาํ ละลาย
2
ตวั แปร
ตัวแปรตน อตั ราสว นการสกดั จากพชื ตระกลู สม
ตัวแปรตาม ความคงทนของกลน่ิ เน้ือสัมผัส การระเหย
ตัวแปรควบคมุ ปริมาณของเอทานอล สถานท่ี และสารสกดั จากพชื ตระกูลสม
นยิ ามศัพทเฉพาะ
สารสกดั จากพชื ตระกลู สมหมายถงึ การสกดั สารอยางหยาบโดยใชเปลอื กสมจนี และ
สม เขยี วหวานมาสกัดโดยการแชเอทลิ แอลกอฮอลต ามเวลาทก่ี ําหนดคอื 30นาที 60นาที และ90นาที
ประโยชนท ี่ไดร บั จากโครงงาน
1) ไดอตั ราสว นที่เหมาะสมในการทาํ เจลลางมอื จากสารสกดั ของพืชตระกลู สมทม่ี ี
เนอื้ สมั ผัส การระเหยและความคงทนของกลนิ่ ทด่ี ที ่ีสุด
2) สามารถนาํ ไปตอยอดความคดิ ใหเปน รายได
3
บทท่ี 2
เอกสาร และงานวิจัยท่ีเก่ยี วของ
โครงงานเรอ่ื งเจลลางมอื กล่ินเปลือกสม ผทู ําโครงงานไดศ กึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ี
เกย่ี วขอ งดังตอ ไปน้ี
แนวคิดและทฤษฎี
การไดกล่นิ เปด โอกาสใหรางกายรูจําโมลกลุ สารเคมีในอากาศทีถ่ ูกสูดเขา ไป อวยั วะดมกลน่ิ ท่ีอยใู น
ดา นทงั้ สองขา งของผนงั กั้นโพรงจมูก ประกอบดว ยเยือ่ บรุ บั กลน่ิ (olfactory epithelium) และ
เนอื้ เยือ่ ยดื ตอ ใตย อื่ บุ (lamina propria) เยือ่ บผุ ิวรับกลิน่ มีเซลลรับกลิน่ (olfactory receptor cell) บุผวิ
ดา นลา งของแผน กระดกู พรนุ (Cribriform plate) ผวิ ดานบนของแผนกระดูกตง้ั ฉากอนั เปน สวนของ
กระดกู เพดานปาก (Perpendicular plate of palatine bone), ผิวดานบนของกระดกู กนหอยของจมกู
(nasal concha) มีสารเคมปี ระมาณ 2% จกทงั้ หมดที่สูดเขาไปเทานน้ั ทไ่ี ปถึงอวัยวะดมกลน่ิ เปน
เพยี งแตต วั อยา งเล็กนอ ยของอากาศทีส่ ูดเขาไป
เชลลร บั กลน่ิ ย่นื ออกมาจากเยอ่ื บผุ ิวเพ่ือเปน ฐานสาํ หรบั เชลล (cilla) ทีม่ ีเมอื กอยรู อบๆ
กลิน่ ทําปฏกิ ริ ิยากบั ขนเซลลเ หลา นี้ กลิน่ โดยปกตเิ ปน โมลกลุ ประกอบอนิ ทรียเล็กๆ ระดับการ
ละลายไดใ นนาํ้ และลิพิดของกลน่ิ มคี วามเกย่ี วของโดยตรงกบั ความแรงของกล่นิ การท่กี ล่ินเขาไป
ยึดกับหนว ยรบั ความรสู ึกกบั โปรตนี จี (G protein-coupled receptor) ปลกุ ฤทธขิ์ อง adenylate
cyclase ซึ่งแปรอะดีโนซีนไตร ฟอสเฟต(ATP) ใหเปน Cyclic adenosine monophosphate ซึง่
สนับสนุนใหป ดประตูโซเดยี ม (sodium channel) ทําใหเกดิ ศกั ยตวั รับความรูส ึกเฉพาะพ้นื ท่รี ะดับ
กระตนุ ขีดเร่ิมเปล่ียน สําหรบั กลน่ิ ก็คอื ระดับการรบั รูท ่ีตํา่ ทส่ี ดุ เพยี งพอทีจ่ ะทาํ ใหเกดิ การ
ตอบสนองจากตัวรบั กล่ินในจมูก ตวั อยา งกค็ ือนํา้ หอมหยดหน่ึงในบนมี 6 หอ งคาไมเหมอื นกนั ใน
สารมีกลนิ่ ตา งๆ
4
ประวัติเจลลา งมอื
กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสขุ ใหขอมลู วา เจลลา งมอื ทํามาจากเอทิลแอลกอฮอล (Ethyl
Alcohol 70% w/w) : เปนแอลกอฮอลชวยในการฆา เชอ้ื โรคไดหลากหลายชนดิ มีฤทธใิ์ นการฆา เชอื้
โรคไดก วาง ทง้ั เช้ือแบคทเี รยี เชื้อรา และเชอ้ื ไวรสั ปอ งกนั ไดท นั ทหี ลงั การใชแ ละปอ งกนั ไดใ น
ระยะเวลานาน (ตองเขม ขน 60-80% จึงจะใชไดผล เหมาะทส่ี ุดก็คอื 70%) แอลกอฮอลฆา เชื้อ
แบคทีเรยี สว นใหญได ฆาเชอื้ วัณโรคได ฆา เช้อื ราและไวรัสไดบางชนดิ สวนสง่ิ ที่ทําลายไมไดก ็
ไดแ ก สปอรของเชือ้ แบคทเี รีย และเช้อื ไวรัสและเชือ้ ราบางตวั
ดังน้ัน ในทางการแพทยจะใชแ อลกอฮอลใ นการฆา เช้ือท่เี กีย่ วกบั แผลครับ เพราะเชอ้ื
เหลาน้นั มกั จะเปนพวกแบคทเี รีย และจะไมคอยใชในการจดั การกบั เชอ้ื อืน่ ๆ เชอ้ื ไวรัส จะมีแคบ าง
ชนดิ ท่ีฆาโดยแอลกอฮอลได เชน เชือ้ เอชไอวี เชื้อเรมิ เชอ้ื ไวรสั ตับอักเสบบี และซี เช้ือไขหวดั ใหญ
สวนไวรัสในกลุมที่ตดิ ตอ ในระบบทางเดนิ อาหาร เชน เชือ้ ไวรัสตับอักเสบเอ และเชอื้ Enterovirus
มักจะไมสามารถถูกทําลายดวยแอลกอฮอล แอลกอฮอลฆาเช้อื แบคทเี รียสว นใหญไ ด ฆา เชื้อวัณโรค
ได ฆา เชือ้ ราและไวรัสไดบ างชนิด สวนส่งิ ทีท่ าํ ลายไมไ ดก ็ ไดแ ก สปอรข องเชื้อแบคทเี รยี และเชื้อ
ไวรัสและเชื้อราบางตวั
ดังนัน้ ในทางการแพทยจะใชแอลกอฮอลในการฆา เชอ้ื ท่เี กี่ยวกบั แผลครับ เพราะเชือ้
เหลา น้ันมกั จะเปนพวกแบคทีเรยี และจะไมคอยใชในการจัดการกับเชอื้ อ่ืนๆ เช้อื ไวรัส จะมีแคบาง
ชนดิ ทฆี่ าโดยแอลกอฮอลไ ด เชน เชื้อเอชไอวี เชอ้ื เรมิ เช้อื ไวรสั ตับอักเสบบี และซี เชอ้ื ไขห วดั ใหญ
สวนไวรสั ในกลมุ ทต่ี ิดตอ ในระบบทางเดนิ อาหาร เชน เชือ้ ไวรัสตบั อักเสบเอ และเชื้อ Enterovirus
มกั จะไมสามารถถกู ทําลายดว ยแอลกอฮอล การใชลา งมอื กค็ ลา ยกับการใชสําลชี ุบแอลกอฮอลม า
เช็ดมือ เชด็ แผลก็ได เอทิลแอลกอฮอล 70% เปน ตวั ทใ่ี ชใ นทางการแพทยแ ละมาตรฐาน
อตุ สาหกรรมอาหาร โดยปกตจิ ะระเหยเรว็ ในอณุ หภูมิหอ ง 25 องศา ปกตเิ อทิลแอลกอฮอลก นิ ได
ตา งจากเมทลิ แอลกอฮอลท่กี นิ ไมไ ด จึงไมต อ งหวงหากใชเจลลางมอื แลวไปจบั อาหารรบั ประทาน
5
งานวิจยั ที่เก่ียวขอ ง
เจลลางมือวา นหางจระเข Aloe Vera Gel
โดยโครงงานของโรงเรยี นชโิ นรสวทิ ยาลัย
บทคดั ยอ
โครงงานวชิ า IS เรือ่ ง เจลลา งมอื จากวา นหางจระเข จดั ทาํ ขน้ึ เพอ่ื ท่ีเราจะนําวนุ หรือเจลทอี่ ยภู ายใน
วา นหางจระเขม าทําเจลลา งมอื และเพอื่ ท่จี ะลดการใชส ารเคมีจากการทําเจลลา งมอื โดยเราสามารถ
แบง เปนการทดลองออกเปน 2 ตอนคือ
ตอนที่ 1 นําวา นหางจระเขม าปลอกเอาเปลือกออกแลว ฝานเอาวุนขางในวา นหางจระเขอ อกมา หลกั
จากน้ันนาํ เน้ือวุนมาปน ใหล ะเอยี ด
ตอนท่ี 2 นําเนอ้ื ทไ่ี ดม าจากวา นหางจระเขม าผสมกบั ชดุ ทาํ สบูทเี่ ราเตรยี มไว จากนั้นนําแอลกอฮอล
ท่เี ตรียมไวแ ลว มาตวงในถว ยจาํ นวน 15 ml
สรุปไดว า เจลจากวานหางจระเขน ้ันสามารถทําใหผ วิ นมุ ชมุ ชืน้ รักษาแผลสมานแผลชว ยในการ
ตอตานเชือ้ แบททีเรยี ได โดยทีเ่ รากใ็ ชส ารเคมใี นปรมิ าณที่นอ ยกวาเจลลางมือท่ีวางขายทีอ่ ยูใน
ทองตลาดและเจลลางมือท่ไี ดกส็ ามารถท่ีจะลางมอื ใหสะอาด
6
คณุ ประโยชนของสม
สมเปนผลไมท่ีมีรสเปรย้ี วอมหวานสามารถนาํ มาทาํ เครอ่ื งด่ืมใหค วามสดชื่นกบั รางกายได
นอกจากน้สี มยงั มคี ณุ คาทางอาหารไมน อ ยและประโยชนอ ีกหลากหลายอยาง จงึ สามารถบอกไดว า
สมเปน ผลไมสารพดั ประโยชน เรามาดูกนั ดกี วา 12 ประโยชนข องสมนัน้ มอี ะไรบาง
1. ผลไมแ กทอ งผกู
2. กระตุนภมู ิคมุ กนั รา งกาย
3. ปรับสมดุลระดบั นาํ้ ตาลในเลือด
4. ชวยลดความดนั โลหิต
5. ลดคอเลสเตอรอลในเลอื ด
6. บาํ รุงหวั ใจ
7. ลดความเสี่ยงโรคน่ิวในไต
8. ยับย้งั การเกิดแผลเปอย
9. ลดความเสย่ี งโรคสโตรก
10. ปอ งกันมะเรง็
11. ลดความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม
12. สมชว ยบํารงุ ผวิ
7
โรคตดิ เชอื้ ทต่ี ดิ ตอผา นทางมอื
โรคติดเชื้อมากมาย สามารถติดตอผา นการสมั ผัส ตัวอยางโรคทีพ่ บบอย มดี งั น้ี
1.โรคตดิ เชอื้ ระบบทางเดินหายใจ เชน หวดั วณั โรค ไขห วดั ใหญ โรคหดั หดั เยอรมนั นอกจากจะ
ติดตอ ผานการหายใจเอาเชือ้ เขา ไปแลว การท่มี อื ไปสมั ผัสกบั ส่ิงของเคร่อื งใชทใ่ี ชรวมกบั บคุ คลอ่นื
หรอื เคร่อื งใชใ นท่ีสาธารณะ เชน ลกู บิดประตู ราวโหนรถเมล หรือราวบันได แลว มาแคะจมกู เช้อื
โรคกจ็ ะเขา สโู พรงจมกู สวนหนา เมอ่ื หายใจเขา ไป กท็ าํ ใหเกดิ โรคได
2.โรคติดเชือ้ ทางเดินอาหาร เชน ทอ งเสยี โรคตบั อักเสบชนิดเอ โรคบดิ อหวิ าตกโรค โรคพยาธิ
ชนดิ ตาง ๆ ซ่งึ ติดตอไดจ ากการท่ีมือปนเปอ นเชือ้ เหลานี้ แลว หยบิ จับอาหารรบั ประทานเขาไป
โรคติดตอ ทางการสมั ผัสโดยตรง เชน โรคตาแดง โรคเชอ้ื รา แผลอักเสบทผี่ ิวหนงั หดิ เหา โรคเรมิ
โรคท่ีติดตอ ไดห ลายทาง เชน โรคอสี กุ อีใส อาจตดิ ตอไดจ ากการหายใจ และการสัมผสั
โรคติดเช้ือเหลา นี้ เปนโรคทพี่ บบอย และบางครงั้ อาจมีภาวะแทรกซอนท่ีรนุ แรงตามมาได
8
ปองกนั โรคระบาด...ดวยหลกั ปฏบิ ัติงายๆ 12 ขอ นี้!
สถานการณโรคระบาดกาํ ลังแพรกระจายไปทว่ั โลก สาเหตุมาจากสภาพอากาศทแ่ี ปรปรวนจนยาก
จะคาดเดา สาํ หรบั โรคระบาดที่มักเกดิ ขึ้นในประเทศไทย วิธกี ารปองกนั ที่ดที ส่ี ดุ คอื รักษาสุขภาพ
ใหแข็งแรงอยูเ สมอ สรา งภมู คิ ุม กันใหก ับตนเอง โดยมหี ลกั ปฏบิ ัตงิ ายๆ ดงั นี้..
1. ลา งมอื ทุกครั้งกอน – หลังรับประทานอาหาร
2. ลางมือทกุ คร้ังหลงั สัมผสั สง่ิ ของสาธารณะ เชน กลอนประตู ลกู บดิ ราวบนั ได ราวบนรถ
โดยสาร
3. ลา งมือทกุ คร้งั หลงั ขับถา ย
4. หลกี เลยี่ งการคลกุ คลี ใกลช ดิ และใชข องใชรว มกับผูป ว ยโรคระบาด
5. ใชผ า หรอื กระดาษทชิ ชูปด ปากและจมกู ทุกคร้งั เม่ือไอ จาม
6. หากเจบ็ ปว ยเปน ไขห วดั ควรใชหนา กากอนามยั เม่อื ตอ งไปสถานทชี่ ุมชน
7. หม่ันทําลายแหลง เพาะพนั ธุย งุ ลาย เชน โอง นาํ้ แจกัน กระปอ ง ยางรถยนตเ กา ๆ หลุมทีม่ ี
นํา้ ขงั
8. รบั ประทานอาหารท่สี ะอาด ปรุงสุกใหม ถูกสขุ ลักษณะ
9. หลีกเลย่ี งอาหารดบิ หรอื สกุ ๆ ดบิ ๆ
10. ดืม่ นํา้ ท่ีสะอาดเพยี งพอตอรางกาย
11. ใชภาชนะท่ีสะอาดในการรบั ประทานอาหารและดื่มน้ํา
12. ออกกาํ ลงั กายเปนประจาํ ตามความเหมาะสมของรา งกาย
9
บทท่ี 3
วธิ ีดาํ เนินการ
วัสด/ุ อุปกรณ
1. เอทิลแอลกอฮอล จาํ นวน 1000 มิลลิลติ ร
2. เปลือกสมเขยี วหวาน สมจีน จํานวน 150 กรมั ตอชนิด
3. กลีเซอรนี จํานวน 100 มลิ ลลิ ติ ร
4. น้ํากลั่น 1000 มลิ ลลิ ิตร
5. คารโ บพอล
6. ดา งไตรเอทาโนลามนี
7. บกี เกอรขนาด 100 ,250 มิลลิลติ ร
8. หลอดตวง
9. แทง แกว คนสาร
10. หลอดหยด
11. เครอ่ื งช่ังดิจติ อล
12. แปรงลา งทาํ ความสะอาด
13. แผนอะลมู เิ นยี มฟอยล จาํ นวน 1 มวน
14. ขวดบรรจุภณั ฑ จาํ นวน 12 ขวด
10
วิธกี ารทํานํา้ มนั หอมระเหย
1. จดั เตรียมเปลอื กสมเขียวหวาน สม จีน ชนดิ ละ 150 กรมั
2. นาํ เปลือกสมแตละชนิดทเ่ี ตรยี มไวมาแชใ นบกี เกอรที่มเี อทลิ แอลกอฮอล บกี เกอรล ะ 100
มิลลิลติ ร
3. ปด ดว ยอะลูมิเนียมฟอยล ตามเวลาทไ่ี ดก าํ หนดไว
4. เมือ่ ไดน้ํามนั หอมระเหยแลวนํามาใสในขวดบรรจุ
สว นประกอบ
สตู รที่ 1 สตู รที่ 2
1. เอทิลแอลกอฮอล 95% จาํ นวน 75 มิลลลิ ติ ร 75 มิลลิลติ ร
2. คารโบพอล 940 จํานวน 0.4 กรัม 0.8 กรัม
3. ดางไตรเอทาโมลามนี จาํ นวน 10 หยด 16 หยด
4. กลเี ซอรีน จาํ นวน 5 มิลลิลติ ร 5 มลิ ลลิ ิตร
5. นาํ้ สะอาด จาํ นวน 40 มลิ ลิลิตร 40 มลิ ลลิ ติ ร
6. น้าํ มนั หอมระเหย จาํ นวน 10 มิลลลิ ิตร 25 มลิ ลิลตร
วธิ ีการทาํ เจลลา งมอื จากสารสกัดของพชื ตระกูลสม
1. นาํ กลีเซอรนี เทลงในน้ําสะอาด และจากนนั้ คนใหเขา กนั พอดี
2. นําคารโ บพอลมาโปรยลง ในสว นผสมของขอท่ี 1 ( คอยๆเตมิ และคนจนใหเขา กันด)ี
3. เติมเอทิลแอลกอฮอลในสว นผสมของขอ ที่ 2 และคนใหเ ขา กนั
4. เตมิ น้าํ มันหอมระเหยทเี่ ตรยี มเอาไว แลวบรรจุใสบรรจุภณั ฑท ป่ี ด สนทิ
11
บทที่ 4
ผลการวเิ คราะหขอ มลู
ตอนท่ี1 ตารางเปรยี บเทยี บอตั ราสว นของสารสกัดจากพชื ตระกูลสม
สารละลาย สตู ร เวลา เวลาใน ความ เนื้อสมั ผัส การระเหย
การขน้ึ รปู คงทนของ ของเจล
สตู รที่ 1 30 นาที
สมเขียวหวาน 1 ชั่วโมง เจล กลนิ่
1 ชัว่ โมง
สูตรท่ี 2 30 นาที 2 ช่ัวโมง 35 วินาที ไมเ หนอะ 10 วินาที
30 นาที
สตู รท่ี 1 2 ช่วั โมง 42 วินาที ไมเ หนอะ 11 วินาที
สม จีน 1 ชัว่ โมง
1 ช่วั โมง 2 ชั่วโมง 52 วินาที ไมเหนอะ 12 วินาที
สูตรท่ี 2 30 นาที
30 นาที 2 ชว่ั โมง 38 วนิ าที ไมเ หนอะ 7 วินาที
1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง 43 วินาที ไมเหนอะ 8 วนิ าที
1 ช่วั โมง 2 ช่ัวโมง 60 วนิ าที 10 วินาที
30 นาที 2 ชั่วโมง 37 วินาที ไมเหนอะ 9 วินาที
สบายผวิ
30 นาที
ไมเหนยี ว
1 ช่วั โมง
1 ช่วั โมง 2 ชั่วโมง 47 วนิ าที ไมเหนอะ 10 วนิ าที
30 นาที 2 ชวั่ โมง 11 วินาที
2 ช่ัวโมง 62 วินาที ไมเ หนอะ 7 วินาที
2 ชวั่ โมง 39 วนิ าที สบายผิว 8 วนิ าที
2 ช่ัวโมง ไมเหนยี ว 9 วนิ าที
ไมเ หนอะ
60 วินาที ไมเหนอะ
120 วนิ าที ไมเหนอะ
สบายผวิ
12
ตอนที2่ ผลวิเคราะหขอ มลู
โครงงานเรื่องเจลลา งมือจากสารสกดั ของพชื ตระกลู สม ไดท ดสอบประสิทธภิ าพของเจ
ลลางมอื มกี ารนาํ เสนอผลการวเิ คราะหข อมูล 2 ตอน ดังนี้
ตอนท่ี 1 ในการเปรยี บเทียบความคงทนของกล่นิ ของเจลลางมอื จากสารสกดั ของพืช
ตระกูลสม ในอตั ราสวนสูตรที่ 1 ระหวางสมจนี และสมเขียวหวาน พบวา สมจีนมีความคงทนของ
กล่ินทดี่ ีกวาสม เขียวหวาน ในอตั ราสวนสตู รที่ 2 ระหวางสม จนี และสม เขยี วหวาน พบวา สม จนี มี
ความคงทนของกลิ่นทด่ี กี วา สม เขยี วหวาน วิเคราะหข อมลู ไดวา สมจนี สตู รที่ 2 มคี วามคงทนของ
กลนิ่ ท่นี านและหอมกวา เนอ่ื งจากเวลาในการคงทนของกลน่ิ มเี วลาทม่ี ากท่ีสดุ เพราะสูตรที่ 2
ปรมิ าณของนา้ํ มันหอมระเหยมีมากกวา สูตรที่ 1 โดยสมเขียวหวานสตู รท่ี 2 สมจนี สตู รที่ 1
สมเขียวหวานสตู รท่ี 1 มีความคงทนของกลน่ิ รองลงมาเนือ่ งจากมีเวลาในการคงทนของกลิน่
นอ ยลงมาตามลําดบั
ตอนที่ 2 ในการเปรียบเทียบการระเหยของเจลลางมอื จากสารสกดั ของพืชตระกูลสม ใน
อตั ราสวนสูตรท่ี 1 ระหวา งสม จนี และสม เขยี วหวาน พบวา สม จีนมกี ารระเหยทด่ี กี วา สมเขยี วหวาน
ในอัตราสวนสูตรที่ 2 ระหวา งสม จนี และสม เขยี วหวาน พบวา สมจนี มกี ารระเหยทด่ี กี วา
สม เขียวหวาน วเิ คราะหขอ มูลไดว า สม จีนสูตรท่ี 2 มกี ารระเหยที่เรว็ และมอื แหง เร็วกวา เน่อื งจาก
เวลาในการระเหยมีเวลาท่ีนอ ยทสี่ ุด เพราะสตู รที่ 2 ปริมาณของนาํ้ มันหอมระเหยมมี ากกวาสตู รท่ี 1
โดยสม เขยี วหวานสูตรท่ี 2 สมจนี สตู รที่ 1 สมเขยี วหวานสตู รท่ี 1 มีการระเหยรองลงมาเน่ืองจากมี
เวลาในการระเหยนอยลงมาตามลาํ ดับ
ผลการวิเคราะหขอ มูล
การทดลองการเปรยี บเทยี บเนอ้ื สัมผัส การระเหย ความคงทนของกลิน่ ของเจลลางมอื จาก
สารสกัดของพชื ตระกลู สม คอื กล่ินของเปลือกสมเขยี วหวานและกลน่ิ ของเปลือกสมจนี ทง้ั 2 สตู ร
เปนเวลา 30 นาที 60 นาที 90 นาที สรปุ ผลการทดลองไดว า สม จีนสูตรท่ี 2 มีความคงทนของกลนิ่
การระเหย เนอื้ สัมผสั เนอื่ งจากเวลาในการคงทนของกลิ่นมีเวลาทีม่ ากที่สดุ และเวลาในการระเหยมี
เวลานอ ยที่สุด เพราะสูตรท่ี 2 ปริมาณของนาํ้ มนั หอมระเหยมีมากกวา สตู รท่ี 1 โดยสม เขยี วหวาน
สตู รท่ี 2 มีความคงทนของกลิ่น การระเหยเปนอนั ดบั ท่ีสอง เนื่องจากเวลาในการคงทนของกล่ินมี
13
เวลาที่นอ ยกวา และมีเวลาในการระเหยทม่ี ากกวาชดุ การทดลองสม จีนสตู รท่ี2 สมจีนสตู รท่1ี มี
ความคงทนของกลิ่นและการระเหยเปนอนั ดับท่สี ามเนอื่ งจากเวลาในการคงทนของกลิ่นมเี วลาท่ี
นอ ยกวา และมเี วลาในการระเหยทีม่ ากกวา ชดุ การทดลองสมเขียวหวานสูตรท่ี 2 สมเขยี วหวานสตู ร
ท1ี่ มีความคงทนของกล่นิ เปน อันดบั สุดทา ยหรืออนั ดับทส่ี เ่ี น่ืองจากเวลาในการคงทนของกลนิ่ มี
เวลาทน่ี อยกวา และมีเวลาในการระเหยทม่ี ากกวา ชดุ การทดลองสมจนี สตู รที่ 2 สมเขียวหวานสตู รที่
2 และสมจนี สตู รท่1ี
14
บทที่ 5
สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ เสนอแนะ
โครงงานเรื่องเจลลา งมือจากสารสกัดของพืชตระกลู สม
สรุปผล
ผลการเปรยี บอัตราสวนของสูตรท่ี 1 ระหวา งสมจีนและสมเขยี วหวาน พบวา สมจนี มเี นอ้ื
สัมผัส การระเหย ความคงทนของกลิ่น ดีกวาสม เขียวหวาน ในอัตราสว นสตู รที่ 2 ระหวา งสมจนี
และสม เขียวหวาน พบวาสมจีนมีเนอื้ สัมผสั การระเหย ความคงทนของกล่ิน ดีกวา สม เขยี วหวาน
อภปิ รายผล
เจลลา งมือจากสารสกัดจากพชื ตระกูลสมจนี ในสูตรที่ 2 มีการระเหยและความคงทนของกลนิ่ ดี
ทีส่ ุด เนื่องจากเวลาในการคงทนของกลนิ่ จากสารสกัดสมจีนสูตรที่ 2 ทั้ง 3 ชุดการทดลองมี
เวลานานท่สี ดุ สมเขยี วหวานสตู รท่ี 2 สม จนี สูตรท่ี 1 สม เขียวหวานสตู รที่ 1 มคี วามคงทนของ
กลน่ิ รองลงมาเนือ่ งจากมเี วลาในการคงทนของกลน่ิ นอ ยลงมาตามลาํ ดับ และในการระเหยสม จีน
สูตรที่ 2 มกี ารระเหยท่ีเรว็ และมอื แหงเรว็ กวา เนอ่ื งจากเวลาในการระเหยมีเวลาท่นี อ ยทส่ี ดุ เพราะ
สตู รท่ี 2 ปริมาณของนํ้ามนั หอมระเหยมมี ากกวาสตู รท่ี 1 โดยสมเขียวหวานสูตรท่ี 2 สมจีนสูตรท่ี 1
สม เขียวหวานสตู รที่ 1 มกี ารระเหยรองลงมาเนือ่ งจากมเี วลาในการระเหยนอ ยลงมาตามลําดบั
ขอเสนอแนะ
จากผลการทําโครงงาน ผจู ัดทาํ โครงงานมขี อเสนอดังนี้
1. ขอ เสนอแนะในการนาํ ผลไปใช
ในข้นั ตอนการทํานา้ํ มันหอมระเหยนิ่งแชน านกล่ินทไี่ ดย ่ิงหอมมากขน้ึ
การทํานาํ้ มนั หอมระเหยหากเปดทง้ิ ไวกลน่ิ ของเปลือกสม จะระเหยจนหมดควร
ปดใหสนิทและมดิ ชิดดวยฟอยดอ ะลูมเิ นียม
15
ในขน้ั ตอนที่ 2 หลงั จากนนั้ ควรแชท ิ้งไว 2-3 ชม.หรือ 1 คืน เพื่อใหคารโบพอล กระจายตวั
และพองตวั ใหเ ต็มที่ ในการทาํ เจลลางมอื น้คี วรอยใู นความดแู ลของผใู หญ
2. ขอเสนอแนะสําหรบั ทาํ โครงงานคร้ังตอไป
ควรทดลองในรูปแบบการทดลองทม่ี ีกลิ่นของเปลือกสมที่หลากหลายชนดิ มาก
ขึน้ และเพ่มิ ระยะเวลาในการแชเ ปลอื กสมในสว นของข้นั ตอนการทํานาํ้ มนั หอมระเหย
16
อางอิง
แกว กลั ยา โสตถิสวสั ดิ์ เเละ อุลยั วรรณว ทิ ยเกยี รติ . (2554). ประสิทธภิ าพของเจลลางมือทผี่ ลติ จาก
เมา หลวงตอ การทําลายจุลนิ ทรยี ก อโรค. สกลนคร : มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร.
ความรสู ขุ ภาพ (2564).12 คณุ ประโยชนข องสม เม่อื คณุ รแู ลวตองไมม องผาน กรุงเทพฯ : กระปกุ .
คอม
ความรูสขุ ภาพ (2563).โรคทีม่ ากับ...มอื กรงุ เทพฯ : ระบบบริการสขุ ภาพ.เน็ท
นภาพร ศิลาฤทธิ์ และเนตรทราย เดชวีระพานชิ ย. (2556). เจลสมุนไพรจากใบสาบเสือเพอ่ื ยบั ยัง้
แบคทีเรยี . รายงานโครงการหมายเลข ChE. : ภาควชิ าวิศวกรรมเคมี คณะวศิ วกรรมศาสตร
มหาวทิ ยาลัยขอนแกน .
เบญจพร พนู ศรสี วสั ด์ิ. (2561). เจลลา งมอื วา นหางจระเข. (สหกจิ ). กรุงเทพฯ : คณะศลิ ปศาสตร
มหาวิทยาลัยสยาม.
ปวติ รา วัฒโนดร. (2561).แอลกอฮอลเ จลลา งมือผลไมร วม (สหกจิ ศกึ ษา) กรงุ เทพฯ : คณะศลิ ป
ศาสตร มหาวทิ ยาลัยสยาม.
พนดิ า ชูดวง, ธิติพร ทับทมิ แดง, ศศธิ ร ประโพธพงษ, นรนิ ทิพย ศรสี ุบรรณ และ ษิตาภรณ อมร
รัตนโสภิต. (2562). เจลแอลกอฮอลลา งมอื ผสมวา นหางจระเขก ลิ่นกหุ ลาบ. (สหกิจศกึ ษา).
กรุงเทพฯ: คณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลยั สยาม.
ศาสตราจารย ดร.ศภุ ยางค วรวุฒคิ ุณชยั . (2563).เจลสมุนไพรทาํ ความสะอาดมือ. จังหวัดสงขลา
: มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร.
สวุ รรณา เธยี รอังกูร, นวพร อนนั ตสนิ กุล และ ชมพูกานต เธยี รชวานนท. (2558). ขอมูลท่วั ไปของ
เจลแอลกอฮอล. : สาํ นักเคร่ืองสาํ อางและวัตถุอนั ตราย กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย.
อ.ดร.ธรี พงศ ยะทา.(2562). “ไฮโดรแอลกอฮอลเ จล” เจลลา งมือนวตั กรรมนาโนสตู รสมุนไพร
ธรรมชาติ. : ภาควิชาสรีรวิทยา คณะสตั วแพทยศาสตร จฬุ าฯ
17
ภาคผนวก
1.รปู ภาพการทดลอง
ขั้นตอนการทาํ น้ํามนั หอมระเหย
วสั ด/ุ อุปกรณ ข้ันตอนที1่ ช่ังเปลือกสมท้ัง 2 ชนดิ ใหเทา กนั
ขน้ั ตอนที2่ นําเปลือกสมที่ไดใ สล งในบีกเกอร
18
ขั้นตอนที่3นาํ เอทลิ แอลกอฮอลใ สลงในบีกเกอรจ ํานวน 100 มิลิลติ ร
ขัน้ ตอนสดุ ทายปด ดว ยอะลมู เิ นียมฟอยล ตามเวลาที่ไดก ําหนดไว
19
ข้ันตอนการทําเจลลางมือ
ขั้นตอนที่1 ตวงคารโ บพอล 0.4 กรัม
ขน้ั ตอนที2่ นําคารโบพอลมาละลายในนาํ้ กลน่ั คนจนเขากนั แลวทง้ิ ไวจนเกิดการพองตัว
ขน้ั ตอนท่3ี เตมิ เอทิลแอลกอฮอลในสวนผสมของขอท่ี 2 และคนใหเขากัน
20
ขั้นตอนที่4 คอ ยๆเติมดางไตรเอทาโนลามีนลงในสว นผสมของขอ ที่ 3 (คอยๆเติมและคนไปดว ย ไม
จําเปน ตอ งเตมิ สารจนหมด)
ขนั้ ตอนที่5 ชงั่ น้ํามันหอมระเหยใหไ ดป ริมาณท่ีกําหนด
ขัน้ ตอนสดุ ทา ย เติมน้ํามนั หอมระเหยทเ่ี ตรยี มเอาไว แลว บรรจุใสบรรจุภณั ฑท ีป่ ดสนทิ