The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามัน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by zeath_junior, 2021-10-12 00:24:18

การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามัน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามัน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

Keywords: แหลม,สิงห์,ธรณีวิทยา,กรม,ทรัพยากรธรณี,การเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง,ชายฝั่ง,การสำรวจทางทะเล,จันทบุรี

-39-

4.3 ธรณีวิทยากายภาพพ้นื ทะเล

พื้นที่สารวจอยู่บริเวณใกล้ชายฝ่ังทะเล ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร ครอบคลุม
พ้ืนท่ีประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร บริเวณปากน้าแขมหนู อาเภอท่าใหม่ ถึงปากแม่น้าเวฬุ อาเภอแหลมสิงห์
จังหวัดจันทบุรี ปรากฏในแผนท่ีภูมิประเทศ กรมแผนท่ีทหาร มาตราส่วน 1:50,000 จานวน 3 ระวาง ได้แก่
ระวาง 5334 II (บา้ นโขดหอย), 5434 II (จังหวัดจนั ทบรุ ี) และระวาง 5433 IV (อาเภอแหลมสงิ ห)์

4.3.1 การสารวจธรณฟี ิสกิ สท์ างทะเล

การสารวจธรณีฟิสิกส์ทางทะเลประกอบด้วย การหยั่งน้าลึก (Echo sounding) เพ่ือ
สารวจระดับความลึกและลักษณะภูมิประเทศพื้นทะเล และการบันทึกภาพหน้าตัดข้างคลื่นไหวสะเทือน
แบบสะท้อนกลับระดับตื้น (Shallow marine seismic reflection profiling) เพื่อศึกษาลักษณะ
ธรณีวิทยาใต้พ้ืนทอ้ งทะเล การสารวจทั้งสองแบบจะดาเนนิ การไปพรอ้ มๆกันโดยใช้อปุ กรณ์การสารวจที่มี
ระบ บ การบั น ทึ กและป ระมวลผล คือ Very high resolution parametric (Non-linear) echo
sounding system ตราเครอื่ งหมาย Innomar รุ่น SES-2000 light ซ่ึงจะบันทึกข้อมูลเป็นระบบดิจิตอล
ที่มีความละเอียดแม่นยาสูง สามารถประมวลได้ขณะสารวจ (Real-time processing) และหลังจาก
สารวจ (post-survey processing)

ลักษณะการทางานของอุปกรณ์ Very high resolution parametric (Non-linear)
echo sounding system (รูปที่ 31) คือ การส่งชุดสัญญาณคล่ืนเสียงที่ประกอบด้วยสองความถ่ี (Dual
frequencies) ซ่ึงเป็นคล่ืนเสยี งชุดแรก (Primary dual-frequency) คอื 102 / 98,103 / 97, 104 / 96,
105 / 95 หรือ 106 / 94 กิโลเฮิรทซ์ ที่มีแรงดันสูงผ่านตัวส่งและรับสัญญาณ (Transducer) ลงไปในน้า
เพื่อหยั่งน้าลึกคล่ืนเสียงที่สอง (Secondary frequency) ซ่ึงเกิดจากการหักล้างกันระหว่างคลื่นเสียงชุด
แรกท่ีถูกเลือกส่งลงไปคือ 4, 6, 8, 10 หรือ 12 กิโลเฮิรทซ์ ตามลาดับ ( ตารางที่ 4) สามารถทะลุผ่านลง
ไปในช้ันตะกอนใต้พื้นท้องทะเล และสะท้อนกลับขึ้นมายังตัวรับสัญญาณหลังจากนั้นอุปกรณ์ประมวลผล
จะแสดงภาพความลึกน้า และภาพหน้าตัดข้างคล่ืนไหวสะเทือนแบบสะท้อนกลับของช้ันตะกอนและชั้น
หินใต้พน้ื ท้องทะเล (รูปท่ี 32) การเลือกความถ่ีคลื่นเสียงที่เหมาะสมในการสารวจธรณีวิทยาช้ันตะกอนใต้
พน้ื ท้องทะเลขนึ้ อยกู่ บั พื้นท่สี ารวจแตล่ ะแห่งซ่ึงก่อนการดาเนนิ การสารวจจริงจะทาการทดสอบการทางาน
และตรวจสอบข้อมูลท่ีใช้คล่ืนความถ่ีต่างๆกันไปจนได้ความถ่ีที่เหมาะสมท่ีสุดอย่างไรก็ตาม ลักษณะ
ปรากฏของคล่ืนไหวสะเทือนภายใน (Internal seismic facies) ของอุปกรณ์สารวจระบบน้ีไม่สามารถ
จาแนกได้ชดั เจน และวดั ความหนาของชน้ั ตะกอนไดส้ งู สุดไม่เกนิ 50 เมตร

รปู ที่ 30 เรือสารวจและการติดตั้งอุปกรณ์สารวจธรณฟี ิสิกสท์ างทะเลในพื้นทีส่ ารวจ

-40-

รปู ท่ี 31 ลักษณะการทางานหยั่งน้าลึก และบนั ทกึ ภาพหนา้ ตัดข้างดว้ ยคล่นื ไหวสะเทือนแบบ
สะทอ้ นกลบั ระดบั ตื้นโดยใช้อปุ กรณก์ ารสารวจแบบ Parametric echo sounding
ยี่ห้อ Innomar รนุ่ SES-2000 light

ตารางที่ 4 แสดงความถ่ขี องคลืน่ เสยี งแบบปฐมภูมิ (Primary frequency) และทตุ ิยภมู ิ
(Secondary frequency) ทีส่ ง่ ลงไปใตท้ อ้ งทะเล ในระบบ Parametric system

ความถปี่ ฐมภูมิ 1 (F1) ความถป่ี ฐมภูมิ 2 (F2) ความถ่ีทุติยภูมิ (F1-F2)
102 Kilohertz 98 Kilohertz 4 Kilohertz
103 Kilohertz 97 Kilohertz 6 Kilohertz
104 Kilohertz 96 Kilohertz 8 Kilohertz
105 Kilohertz 95 Kilohertz 10 Kilohertz
106 Kilohertz 94 Kilohertz 12 Kilohertz

ภาพหน้าตดั ข้างคล่นื ไหวสะเทอื น
แบบสะท้อนกลบั ระดบั ตืน้

ความลกึ นา้

รูปท่ี 32 ภาพหนา้ ตดั ข้างความลกึ นา้ และภาพหนา้ ตดั ข้างคลนื่ ไหวสะเทอื นแบบสะท้อนกลบั ระดบั ตื้นของชนั้

ตะกอนและชน้ั หนิ ใต้พนื้ ทอ้ งทะเลขณะปฏบิ ัติงานในพนื้ ทีส่ ารวจโดยใช้ระบบ Parametric echo sounding
ตราเครอื่ งหมาย Innomar รนุ่ SES-2000 light

-41-
การหยั่งน้าลึก (echo sounding) ในการสารวจคร้ังนี้ ได้ดาเนินการสารวจ 2 แนว คือ
แนวต้ังฉากกับชายฝั่ง มีระยะห่างกันแนวละประมาณ 100-150 เมตร แต่ละแนวมีระยะทางประมาณ
1-2 กิโลเมตร (เฉล่ีย 1.5 กโิ ลเมตร) จานวน 350 แนวสารวจ รวมระยะทาง 400 กิโลเมตร แนวขนานกับ
ชายฝั่ง ห่างจากชายฝ่ังไม่เกิน 100 เมตร (เท่าที่เรือสามารถแล่นได้) รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
โดยแนวสารวจจะครอบคลุมชายฝ่ัง ตั้งแต่ปากน้าแขมหนูถึงอ่าวหมูใหญ่ ในแม่นา้ จันทบุรี หาดแหลมสิงห์
ถึงปากนา้ เวฬุ มีความยาวชายฝงั่ ประมาณ 40 กโิ ลเมตร
ก า ร บั น ทึ ก ข้ อ มู ล ภ า พ ห น้ า ตั ด ข้ า ง ค ลื่ น ไห ว ส ะ เทื อ น แ บ บ ส ะ ท้ อ น ก ลั บ ร ะ ดั บ ตื้ น
(shallow marine seismic reflection profiling) เพ่ือศึกษาลักษณะธรณี วิทยาใต้พ้ืนท้องทะเล
ได้ดาเนินการสารวจ 2 แนว คือ แนวต้ังฉากกับชายฝ่ัง มีระยะห่างกันแนวละประมาณ 500 เมตร
แต่ละแนวมีระยะทางประมาณ 2-2.5 กิโลเมตร จานวน 41 แนวสารวจ แนวขนานกับชายฝั่ง มีระยะห่าง
กนั แนวละประมาณ 500 เมตร จานวน 5 แนวสารวจ โดยแนวสารวจจะครอบคลุมชายฝง่ั ต้ังแต่ปากนา้ แขมหนู
ถงึ อ่าวหมใู หญ่ และหาดแหลมสิงห์ รวมระยะทางสารวจ 100 กิโลเมตร

รูปที่ 33 แผนที่แสดงเส้นทางเดนิ เรือสารวจธรณีฟิสกิ สท์ างทะเลด้วยวธิ ีหย่ังนา้ ลึก

-42-

รูปที่ 34 แผนทแ่ี สดงเสน้ ทางเดนิ เรือสารวจธรณีฟิสกิ ส์ทางทะเลดว้ ยวิธบี ันทึกภาพหน้าตัดขา้ ง

4.3.2 การตรวจวดั ระดับนา้ ข้ึน-น้าลง

การตรวจวัดระดับน้าข้ึน-ลง ประจาวัน (Tide measurement) เทียบกับระดับทะเล
ปานกลางในพ้ืนท่ีสารวจ ดาเนินการโดยใช้เครื่องมือ Portable water level recorder ย่ีห้อ Valeport
รุ่น 740 (รูปท่ี 35) ซ่ึงเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้าข้ึน-ลง ระบบดิจิตอล แบบวัดความดัน ซึ่งจะวัด
ความกดดันของน้าจากใต้น้า แล้วแปลงเป็นความสูงของน้าเหนืออุปกรณ์วัด โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่าง
ความดัน ความหนาแน่นของน้า อัตราเร่งเน่ืองจากแรงโน้มถ่วง และความสูงของน้าการตรวจวัดจะบันทึก
คา่ การเปล่ยี นแปลงระดับนา้ เทยี บกบั ระดับทะเลปานกลางในพื้นท่ีสารวจ ทุกๆ 1 นาที อุปกรณต์ รวจวดั ได้
ตดิ ต้งั ไว้บริเวณทา่ เรือในพื้นท่ีสารวจแตล่ ะพนื้ ท่ี

รปู ที่ 35 เครอื่ งตรวจวดั ระดับน้าข้นึ -น้าลงแบบวดั ความดนั ตราเคร่อื งหมาย Valeport ร่นุ 740

-43-

4.3.3 การเก็บและวเิ คราะหต์ ัวอยา่ งตะกอนพนื้ ผิวทอ้ งทะเล

การเกบ็ ตวั อย่างตะกอนพื้นผิวทอ้ งทะเลเพือ่ ศกึ ษาลักษณะ ชนิด และการกระจายตัวของ
ตะกอนท่ีตกสะสมตัวอยู่บนพื้นท้องทะเลในปัจจุบัน การเก็บตัวอย่างตะกอนในการสารวจคร้ังน้ีได้ใช้
เคร่ืองมือแบบ Home-made dredger ดงั แสดงในรูปที่ 36 โดยทาการเก็บตวั อย่างทัง้ หมด 45 ตวั อยา่ ง

รูปท่ี 36 แผนท่ีแสดงจุดเก็บตัวอย่างตะกอนพ้ืนผิวท้องทะเลในพื้นที่สารวจ (ซ้าย) และ แผนท่ีแสดง
การกระจายตัวของตะกอนพื้นผิวท้องทะเลในพนื้ ทส่ี ารวจชายหาดแหลมสิงห์ (ขวา)

กข
รูปท่ี 37 ก) เครื่องมือหาพิกัดทางภูมิศาสตร์บนพื้นโลกระบบดาวเทียม ตราเครื่องหมาย Garmin

และโปรแกรมควบคมุ การเดินเรือ Hydro pro - navigation ขณะปฏิบัติงานสารวจ
ข) เครอ่ื งมือเก็บตวั อยา่ งตะกอนพ้ืนทะเลแบบ Home-made dredger

5.ผลการศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงชายฝ่งั ทะเล

5.1 สถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝ่ังทะเล
5.1.1 สถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งในแนวราบ
5.1.1.1 สถานภาพการเปล่ียนแปลงชายฝัง่ ในชว่ งรอบ 6 ปี

ผลการวิเคราะห์สถานภาพการเปล่ียนแปลงชายฝ่ัง บริเวณพื้นท่ีอาเภอแหลมสิงห์
และตาบลตะกาดเง้า อาเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นระยะทางรวม 11.0 กิโลเมตร ในช่วงระหว่างปี
พ.ศ. 2545 – 2551 พบว่าสถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝ่ังในช่วงรอบ 6 ปี ของพื้นท่ีศึกษาแบ่งออกได้
เป็น 3 ลักษณะ คือพ้ืนท่ีกัดเซาะปานกลาง พ้ืนท่ีสะสมตัว และพื้นท่ีคงสภาพ คิดเป็นระยะทาง คือ
2.3 กิโลเมตร (21.0%) 0.5 กิโลเมตร (4.5%) และ 8.2 กิโลเมตร (74.5%) (รูปท่ี 41)

1) พื้นท่ีกัดเซาะปานกลาง (กดั เซาะระหวา่ ง 1 - 5 เมตรตอ่ ปี)
การสารวจครง้ั น้มี ีเพียงพื้นท่ีกัดเซาะปานกลาง ครอบคลุมพ้ืนท่ีทั้งหมด 12,790 ตารางเมตร
ชายหาดถูกกัดเซาะเป็นแนวยาวรวมทั้งหมด 2.3 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 21 ของระยะทางทั้งหมดที่ศึกษา
พ้ืนที่กัดเซาะปานกลางด้วยอัตราเฉลี่ย 1.37 เมตรตอ่ ปี พบ 2 บรเิ วณ คือ หาดบ้านเรือแตก ตาบลบางกะไชย
อาเภอแหลมสงิ ห์ และหาดบ้านป่าแสม ตาบลปากน้าแหลมสิงห์ (กัดเซาะเข้ามามากที่สุด เป็นระยะทาง
2.53 เมตร) (รปู ท่ี 38 )

รูปท่ี 38 หน้าหาดกดั เซาะปานกลาง บริเวณหาดบ้านเรือแตก ตาบลบางกะไชย
จะสังเกตเหน็ วา่ นา้ ทะเลกัดเข้ามาถึงตะพัก

-45-

2) พน้ื ที่สะสมตวั (สะสมตัว มากกวา่ 1 เมตรตอ่ ปี)
พ้ืนท่ีชายหาดมีการสะสมตัวเพิ่มขึ้น ครอบคลุมพ้ืนท่ีทั้งหมด 12,277 ตารางเมตร
รวมระยะทางสะสมตัวยาวทั้งหมด 0.5 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 4.5 ของระยะทางทั้งหมดที่ศึกษา พื้นท่ีสะสมตัว
ด้วยอัตราเฉล่ยี 3.93 เมตรต่อปี พบหนึง่ พ้ืนท่ี ได้แก่ ปากน้าแขมหนู ตาบลตะกาดเงา้ อาเภอทา่ ใหม่ สะสมตัว
ออกไปมากที่สุด 6.37 เมตร (รปู ท่ี 39)

รปู ท่ี 39 หน้าหาดสะสมตัว บรเิ วณหาดปากน้าแขมหนู ตาบลตะกาดเง้า อาเภอทา่ ใหม่
3) พ้ืนที่คงสภาพ (กัดเซาะหรอื สะสมตวั น้อยกวา่ 1 เมตรตอ่ ป)ี
พน้ื ท่ีชายหาดคงสภาพ รวมระยะทางคงสภาพทัง้ หมด 8.2 กโิ ลเมตร คิดเปน็ รอ้ ยละ 74.5

ของระยะทางทั้งหมด ได้แก่ หาดแขมหนู ตาบลตะกาดเง้า อาเภอท่าใหม่ และหาดแหลมสิงห์
ตาบลปากน้าแหลมสงิ ห์ อาเภอแหลมสงิ ห์ เป็นตน้ (รูปท่ี 40)

รปู ที่ 40 หนา้ หาดคงสภาพ บรเิ วณหาดแหลมสงิ ห์ ตาบลปากนา้ แหลมสิงห์ อาเภอแหลมสิงห์

-46-

รูปท่ี 41 แผนทก่ี ารเปล่ยี นแปลงชายฝ่ังในช่วงรอบ 6 ปี

-47-

5.1.1.2 สถานภาพการเปลยี่ นแปลงชายฝัง่ ในช่วงรอบ 9 ปี

ผลการวิเคราะห์สถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝ่ัง ระหว่างช่วง ปี พ.ศ. 2551 และ ปี พ.ศ. 2560
การเปรียบเทียบครั้งน้ีมีระยะทางเพียง 10 กิโลเมตร เนื่องจากพื้นท่ีเป็นป่าชายเลนไม่สามารถเดินสารวจได้ ผลท่ีได้
พบว่าในรอบ 9 ปี ชายหาดมีการเปล่ียนแปลงสองสถานภาพ คือ ชายหาดสะสมตัว และชายหาดคงสภาพ
คดิ เป็นระยะทาง 1 กโิ ลเมตร (10%) และ 9 กิโลเมตร (90%) ตามลาดับ ส่วนพนื้ ทกี่ ัดเซาะไม่พบในการสารวจครั้งนี้

1) พืน้ ท่สี ะสมตัว (สะสมตวั มากกวา่ 1 เมตรต่อป)ี

พ้ืนท่ีชายหาดมีการสะสมตัวเพิ่มข้ึน ครอบคลุมพื้นท่ีทั้งหมด 15,254 ตารางเมตร รวม
ระยะทางสะสมตวั ยาวทง้ั หมด 1.0 กิโลเมตร คดิ เปน็ ร้อยละ 10 ของระยะทางทงั้ หมดที่ศึกษา พืน้ ที่สะสมตัวด้วย
อัตราเฉล่ีย 1.49 เมตรต่อปี พบสามพ้ืนที่ ได้แก่ ปากน้าแขมหนู ตาบลตะกาดเง้า อาเภอท่าใหม่ ปากน้าแหลมสิงห์
และหาดบ้านชาหา้ น ตาบลปากน้าแหลมสิงห์ อาเภอแหลมสงิ ห์ สะสมตวั ออกไปมากทีส่ ุด 2.87 เมตร

รปู ท่ี 42 ชายหาดสะสมตัว บริเวณหาดปากนา้ แหลมสงิ ห์ ตาบลปากน้าแหลมสงิ ห์ อาเภอแหลมสิงห์

3) พ้นื ทคี่ งสภาพ

รวมระยะทางคงสภาพทั้งหมด 9.0 กิโลเมตร คดิ เป็นร้อยละ 90.0 ของระยะทางทั้งหมด
ได้แก่ หาดแขมหนู ตาบลตะกาดเง้า อาเภอท่าใหม่ หาดแหลมสงิ ห์ ตาบลปากน้าแหลมสิงห์ อาเภอแหลมสิงห์
เนอื่ งจากในพืน้ ทีด่ งั กล่าวมีโครงสร้างป้องกันชายฝ่ังทะเล ชายหาดจึงไม่มกี ารกัดเซาะ (รปู ที่ 43)

รปู ที่ 43 พ้นื ที่คงสภาพ บริเวณหาดแขมหนู ตาบลตะกาดเง้า เนื่องจากมีโครงสร้างป้องกันชายฝ่ัง

-48-

รปู ท่ี 44 แผนทก่ี ารเปล่ยี นแปลงชายฝงั่ ในช่วงรอบ 9 ปี

-49-

5.1.2 สถานภาพการเปลย่ี นแปลงชายฝั่งในแนวด่ิง

การสารวจรังวัดชายฝ่ังด้วยเครื่องมือ DGPS ในแนวดิ่ง เพื่อนาข้อมูลมาจัดทาภาพมิติ
ของพ้ืนท่ีศึกษาโดยใช้โปรแกรม ArcGIS เพ่ือศึกษาสภาพสัณฐานหน้าหาดท่ีเปล่ียนแปลงไป ระหว่างช่วง
ก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กับช่วงหลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เม่ือทาการเปรียบเทียบสภาพหน้าหาดทั้งสอง
ช่วงในพื้นท่ีหาดแหลมสิงห์และหาดแขมหนู พบว่าพ้ืนที่ชายหาดโดยรวมมีการสะสมตัวของตะกอนทราย
หน้าหาดเพ่ิมข้ึน มีปริมาณตะกอนทรายที่มาสะสมตัวเพิ่มประมาณ 73,00 ลูกบาศก์เมตร และ 110,000
ลูกบาศก์เมตร ตามลาดับ คือ ช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้สัณฐานหน้าหาดมีการสะสมตัว แต่พอเข้า
ช่วงระหว่างมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (พฤษภาคม – ตุลาคม) สัณฐานหน้าหาดมีลักษณะแคบและลาดชัน
เน่ืองจากคล่ืนกาลังแรงได้ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรงกัดเซาะพื้นที่ถึงสันหาดด้านใน ตะกอนทรายถูกพัดพา
ออกไปจานวนมาก ทาให้หน้าหาดมีความลาดชันสูง บางพื้นที่คลื่นได้กัดเซาะเอาทรายบริเวณฐานของ
สันหาดออกไป จนมีสภาพต้ังฉากกับพื้นที่ จากนั้นในช่วงหลังฤดูมรสุมตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-มกราคม
พื้นที่ท่ีถูกกัดเซาะจะถูกแทนท่ีด้วยตะกอนชุดใหม่พร้อมกับกระบวนการปรับสัณฐานหน้าหาด ทาให้หน้า
หาดกว้างข้ึนและมีความลาดชันน้อยลง ลึกออกไปในทะเลประมาณ 100-150 เมตร จากฝั่งจะพบ
สันทรายใตน้ ้าเป็นแนวยาวขนานกับชายฝัง่ (รปู ท่ี 45)

กข
รปู ที่ 45 สณั ฐานหน้าหาด ก) หลังมรสุม และ ข) ก่อนฤดูมรสุม บรเิ วณหาดแหลมสิงห์

จะเหน็ ได้ว่าหาดแทบไม่มกี ารเปลยี่ นแปลง

-50-

หาดแหลมสิงห์ บริเวณท่าเรือสิงห์อานวย เม่ือนาข้อมูลที่ได้จากการสารวจสัณฐานหน้า
หาดในแนวด่ิง ทั้งช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และหลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มาทาภาพตัดขวางของ
หน้าหาด พบว่า หาดค่อนข้างคงสภาพ มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากเน่ืองจากปริมาณตะกอนทราย
หน้าหาดช่วงกอ่ นและหลงั มรสุมตะวันตกเฉียงใตม้ ปี ริมาณไมต่ า่ งกนั มากนัก

รปู ท่ี 46 ภาพสามมติ หิ น้าหาดแหลมสงิ ห์ บรเิ วณท่าเรอื สิงห์อานวย

รปู ท่ี 47 หนา้ หาดแหลมสงิ ห์ บรเิ วณท่าเรอื สิงห์อานวย มีการเปล่ียนแปลงไมม่ ากนัก

-51-

ตะกอนเพ่ิมข้นึ
ตะกอนลดลง
รปู ที่ 48 แสดงตะกอนทรายหนา้ หาดแหลมสิงห์ บริเวณทา่ เรือสิงห์อานวย
หาดแขมหนู บริเวณศรีไพรรีสอร์ท เม่ือนาข้อมูลท่ีได้จากการสารวจสัณฐานหน้าหาดใน
แนวด่ิง ทั้งช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และหลังมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้ มาทาภาพตัดขวางของหน้าหาด
พบว่า ปริมาณตะกอนทรายชายหาดในช่วงหลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ไม่แตกต่างเม่ือเทียบกับ
ปริมาณตะกอนทรายในช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดังนั้นการเปล่ียนแปลงชายฝ่ังในแนวดิ่ง หาดแขมหนู
บรเิ วณศรไี พรรสี อรท์ จึงเปน็ ลกั ษณะชายฝัง่ แบบคงสภาพ

รปู ท่ี 49 ภาพสามมิตหิ นา้ หาดแขมหนู บริเวณศรีไพรรสี อร์ท

-52-

รปู ท่ี 50 หนา้ หาดแขมหนู บรเิ วณศรีไพรรสี อรท์ มีการเปลยี่ นแปลงไมม่ ากนกั

ตะกอนเพ่ิมขนึ้
ตะกอนลดลง
รปู ท่ี 51 แสดงตะกอนทรายหน้าหาดแขมหนู บรเิ วณศรีไพรรสี อร์ท

-53-

5.2 ธรณสี ัณฐานชายฝ่ังทะเล

ธรณีสัณฐานชายฝั่ง เป็นการศึกษาลักษณะรูปร่าง การกาเนิด วิวัฒนาการ และ
กระบวนการต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนบนพ้ืนท่ีชายฝั่ง ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นธรณีสัณฐานชายฝ่ังจึงเป็ น
ลักษณะรูปร่างระหว่างทะเลกับแผ่นดิน ลม คลื่น น้าขึ้นน้าลง และกระแสน้าเป็นตัวการหลักที่ร่วมกันทา
ให้เกดิ พืน้ ท่ีชายฝง่ั ชนิดตา่ งๆ ในขณะเดยี วกันก็เปน็ ตัวการท่ีทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชายฝ่ังอกี ดว้ ย

การศึกษาธรณีสัณฐานชายฝั่งทะเลในพ้ืนที่อาเภอแหลมสิงห์ ด้วยการเก็บตัวอย่าง
ตะกอนผิวดนิ ชายหาด โดยผลการศึกษามีดังนี้

5.2.1 เกบ็ ตัวอย่างตะกอนชายหาดระดบั ผิวดิน

ศึกษาสภาพแวดล้อมการสะสมตัวของตะกอนชายทะเลด้วยการเก็บตัวอย่างตะกอนผิวดิน
ชายหาด โดยแบ่งเปน็ ตะกอนชายทะเลบรเิ วณหน้าหาด และตะกอนชายทะเลบริเวณหลังหาด ครอบคลุม
พนื้ ทชี่ ายฝ่ังทะเลอาเภอแหลมสงิ ห์จานวน 150 ตัวอยา่ ง (รูปท่ี 53, ภาคผนวก)

ลักษณะตะกอนประกอบด้วยแร่ควอตซ์ (Quartz) เป็นองค์ประกอบหลัก (มากกว่าร้อยละ92)
ขนาดละเอียดถึงหยาบ การคัดขนาดปานกลางถึงดี ความมนดี (Rounded) ข้ึนกับจุดเก็บตัวอย่าง เช่น
บริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากคลื่นหรือรอยต่อระหว่างทะเลกับฝ่ัง ตะกอนจะมีการคัดขนาดปานกลางถึงเลว
นอกจากนย้ี งั สามารถพบเศษเปลือกหอยได้ทว่ั ไป (Moderate to poor sorted) อาจสะสมตวั เปน็ ชน้ั หนา
สว่ นบริเวณที่อยหู่ ่างออกไปจากอิทธิพลของคล่ืน ตะกอนมีการคดั ขนาดดี (Well sorted) มขี นาดละเอียด
ถึงปานกลาง ความมนของตะกอนบ่งช้ีว่าตะกอนที่สะสมในพื้นที่ถูกพัดพามาตามกระแสน้ามีแหล่งต้น
กาเนดิ ที่ค่อนขา้ งไกล (รปู ที่ 52)

รปู ที่ 52 ชัน้ เศษเปลือกหอยที่พบในบรเิ วณหน้าหาด

-54-

รปู ท่ี 53 แผนทต่ี าแหน่งเก็บตัวอยา่ งตะกอนหน้าหาดระดับผิวดินพ้นื ทอ่ี าเภอแหลมสิงห์ จังหวดั จันทบรุ ี

-55-

5.3 การสารวจธรณีวิทยาทางทะเล

ผลการสารวจทาแผนท่ีธรณีวิทยากายภาพพ้ืนทะเลใกล้ชายฝั่ง ในแผนที่ 3 ระวาง คือ
ระวางบ้านโขดหอย ระวางจังหวัดจันทบุรีและระวางอาเภอแหลมสิงห์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ
80 ตารางกิโลเมตร ได้ข้อมูลความลึกน้ารวมระยะทาง 450 กิโลเมตร ข้อมูลภาพหน้าตัดข้างคล่ืนไหว
สะเทือนแบบสะท้อนกลับระดับตื้นรวมระยะทาง 100 กิโลเมตร เก็บตัวอย่างตะกอนพื้นผิวท้องทะเล
จานวน 45 ตัวอย่าง

5.3.1 ความลกึ นา้ และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศพน้ื ทะเล

ผลการสารวจ ระดับน้าตามแนวเสน้ สารวจมคี วามลกึ -0.5 ถึง -10 เมตร จากระดบั ทะเล
ปานกลาง (รูปท่ี 54) น้าลึกท่ีสุดอยู่บริเวณร่องน้าปากแม่น้าเวฬุ ลักษณะพ้ืนผิวท้องทะเลในพ้ืนท่ีสารวจ
โดยท่ัวไปค่อนข้างราบเรียบ มีความลาดชันต่าประมาณ 1: 500 พบแนวสะสมของตะกอนทราย บริเวณ
ปากแม่น้าแขมหนู ระยะทางยาว 2 กิโลเมตร (ก) และพ้ืนที่สะสมตะกอนทรายปนโคลนทะเลบริเวณทาง
ทศิ ตะวันตกของปากแมน่ า้ เวฬุ (ข)

รปู ที่ 54 แผนท่ีแสดงระดบั ความลกึ นา้ และลักษณะภูมิประเทศพน้ื ทะเลในพนื้ ที่สารวจ

-56-

5.3.2 ลักษณะตะกอนพนื้ ผิวทอ้ งทะเล

จากการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างตะกอนพื้นผิวท้องทะเลจานวน 45 ตัวอย่าง
ตามหลักการจาแนกชนิดตะกอนของ Folk (1980) แบ่งเป็น 1) ตะกอนโคลนทะเลปนทราย 40% 2)
ตะกอนโคลนทะเล 38% 3) ตะกอนทรายปนโคลนทะเล 16% 4) ตะกอนทราย 6% และจากการเก็บ
ตัวอย่างตะกอนพ้ืนทะเลในงานสารวจธรณีวิทยากายภาพและปริมาณธาตุโลหะหนักพื้นทะเลอ่าวไทย
ในพืน้ ทจ่ี งั หวัดจนั ทบรุ ี ปีงบประมาณ 2559 ของสานักเทคโนโลยี กรมทรพั ยากรธรณี และตัวอย่างตะกอน
พน้ื ทะเลในงานสารวจครง้ั น้ี (พ้นื ท่รี วม 1,530 ตารางกโิ ลเมตร) พบวา่

ตะกอนพื้ นผิวท้ องท ะเลประกอบด้วยตะกอน โคลน ท ะเลสีเทาเขียว สีเท า
สีเทาเข้ม (รูปท่ี 55ก) สะสมตัวในพื้นทะเลห่างจากชายฝ่ังต้ังแต่ 1 กิโลเมตร ออกไป คิดเป็น 70.6%
ของพ้ืนท่ีท้ังหมด (1,080 ตารางกิโลเมตร) ตะกอนโคลนทะเลปนตะกอนทรายขนาดละเอีย ดมาก
สีเทาอมเขียว สีเทาปนน้าตาล บางพื้นที่ปนเศษเปลือกหอยขนาดเล็ก (รูปที่ 55ข) สะสมตัวในบริเวณใกล้
ฝ่ังเข้ามา และมีกระจายตัวออกไปไกลในพื้นท่ีปากแม่น้า (เนื่องจากอิทธิพลของน้าข้ึน-น้าลง) คิดเป็น
14.7% (225 ตารางกิโลเมตร) ตะกอนทรายขนาดละเอยี ดมากปนตะกอนโคลนทะเล สีเทา สีเทาอมเขียว
สีเทาปนน้าตาล (รูปท่ี 55ค) สะสมตัวใกล้แนวชายฝั่งและบริเวณรอบ ๆ หินใต้น้า คิดเป็น 6.5%
(100 ตารางกิโลเมตร) และตะกอนทรายขนาดหยาบถึงขนาดละเอียด สีส้ม สีน้าตาลปนส้ม (รูปท่ี 55ง)
สะสมตัวบริเวณใกล้ชายฝ่ังและรอบๆ กองหินใต้นา้ ส่วนตะกอนทรายขนาดปานกลางถึงขนาดละเอียดมาก
สีเทาปนน้าตาล สีเทาปนเขียว สีน้าตาลอ่อน (รูปท่ี 55จ) จะพบสะสมตัวบริเวณปากน้าประแสร์
และรอบๆ ของหมู่เกาะมนั จงั หวดั ระยอง คดิ เปน็ 8.2% (125 ตารางกโิ ลเมตร) (รูปที่ 56)

กข

ค งจ

รปู ที่ 55 ตวั อย่างตะกอนพ้นื ผวิ ท้องทะเล ก) ตะกอนโคลนทะเล ข) ตะกอนโคลนทะเลปนตะกอนทราย
ค) ตะกอนทรายปนตะกอนโคลนทะเล ง และ จ) ตะกอนทราย

-57-

รปู ที่ 56 แผนทแ่ี สดงชนิดและการสะสมตัวของตะกอนพ้นื ทะเลในพ้นื ท่สี ารวจ

-58-

5.4 การเผยแพรข่ ้อมลู

ดาเนินการเผยแพร่ข้อมูลการเปล่ียนแปลงชายฝั่งทะเลพื้นท่ีอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ออกเป็น 3 รูปแบบคือ การสัมมนาระดมความคิดเห็น เผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและเอกสาร
เผยแพรใ่ นรปู ของสอื่ ส่งิ พมิ พ์ต่างๆ

5.4.1 การสัมมนาระดมความคิดเห็น

การประชุมสัมมนา เร่ือง การเปล่ียนแปลงชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
พ้ืนท่ีอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธข์ ้อมูลที่ได้จากการศึกษา
ให้กับหนว่ ยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กานนั ผู้ใหญบ่ ้าน ตลอดจนประชาชนที่อาศยั ตามแนวชายฝ่ัง
ที่สนใจ นาไปใช้เปน็ แนวทางในการวางแผนการใชป้ ระโยชน์ทดี่ นิ ตามแนวชายฝั่งให้เหมาะสมสอดคล้องกับ
สภาพพ้ืนท่ี อีกท้ังกิจกรรมแลกเปลย่ี นความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในพื้นท่ี โดยมี
เป้าหมายผู้เข้าร่วมการสัมมนาครัง้ น้ี จานวน 100 คน ซึ่งได้รบั การตอบรับอย่างดีจากทุกภาคสว่ นที่มีส่วน
เกี่ยวข้องกับปญั หาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในพ้นื ท่จี งั หวัดจทั บรุ ี (รูปท่ี 57)

ข้อเสนอแนะจากการสัมมนา
1. อยากให้มีการสารวจและจดั สัมมนาข้ึนบอ่ ยๆ
2. ต้องการให้คนในท้องถ่นิ ซ่ึงเปน็ ผูม้ ีสว่ นได้สว่ นเสียโดยตรง ได้รบั ทราบขอ้ มูลข่าวสาร/
ข้อเท็จจรงิ ตลอดจนรบั การฟังข้อคดิ เหน็ จากคนในพ้ืนที่ หากหน่วยงานภาครัฐจะดาเนินการโครงการใดๆ
ในพื้นท่ี
3. ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ มีการศึกษา เรียนรู้ และนาภูมิปัญญาชาวบ้านมาช่วยใน
การแกไ้ ขปญั หาการกดั เซาะชายฝัง่

รูปที่ 57 การสมั มนาระดมความคดิ เห็น ณ ณิสาญ์สิริ บูติค รสี อร์ท อาเภอแหลมสงิ ห์ จงั หวัดจนั ทบรุ ี

-59-

5.4.2 เผยแพร่ขอ้ มูลผา่ นระบบอนิ เตอรเ์ น็ต

เพื่อให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และประชาชนท่ัวไป มีความสะดวก รวดเร็วและง่ายต่อ
การเข้าถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี กรมทรัพยากรธรณี
โดยสานักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม จึงได้ดาเนินการเผยแพร่ข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับการศึกษา ได้แก่ แผนผัง
และรายละเอียดหมุดหลักฐานอ้างอิง แผนท่ีและข้อมูลสถานภาพการเปล่ียนแปลงชายฝั่งในพื้นท่ีศึกษา
โดยสามารถดาวน์โหลดและสืบค้นข้อมลู ขอ้ มลู ข้างต้น ได้ที่เว็บไซตก์ รมทรพั ยากรธรณี (www.dmr.go.th)
(รูปท่ี 58)

รูปท่ี 58 เวบ็ ไซต์กรมทรพั ยากรธรณี(http://www.dmr.go.th/more_news.php?cid=
562&filename=index)

-60-

5.4.3 เอกสารเผยแพร่ในรูปของส่อื ส่ิงพิมพต์ ่างๆ

นอกจากการจัดประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนแล้ว กรมทรัพยากรธรณี
ยังได้ดาเนินการเผยแพร่ข้อมูลสถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝ่ัง อาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ซึ่งจัดทาออกมาในรูปแบบของรายงานนาเสนอผลการศึกษา โปสเตอร์วิชาการท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษา
แผ่นพับ หนังสือใหค้ วามรู้เกี่ยวกับชายฝั่งทะเลไทย เช่น หนังสือวิกฤตการณ์ชายฝ่งั ทะเลไทย หนังสือธรณี
พิบตั ภิ ยั ใกลต้ วั หนงั สอื ลดผลกระทบธรณีพบิ ัตภิ ัย เป็นตน้ (รปู ที่ 59)

รูปที่ 59 เอกสารและสง่ิ พิมพ์ สาหรับการเผยแพรข่ ้อมลู ผลการศึกษา พร้อมทั้งข้อมูลองคค์ วามรู้
เกย่ี วกับชายฝ่ังทะเล และธรณีพิบตั ิภัย

6.สรุปผลการศกึ ษา

6.1 สถานภาพการเปลยี่ นแปลงชายฝ่งั

6.1.1 สถานภาพการเปลย่ี นแปลงชายฝ่งั ในแนวราบ

6.1.1.1 สถานภาพการเปลย่ี นแปลงชายฝ่งั ในช่วงรอบ 6 ปี

ผลการวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงชายฝ่ังทะเลบริเวณพ้ืนท่ีอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545 – 2551 ระยะทางรวมประมาณ 11.0 กิโลเมตร พบว่าพื้นที่แบ่งออกได้เป็น
3 สถานภาพ คือพ้ืนท่กี ัดเซาะปานกลาง พนื้ ทสี่ ะสมตัว และพื้นที่คงสภาพ คิดเป็นระยะทาง คือ 2.3 กิโลเมตร
(21.0%) 0.5 กโิ ลเมตร (4.5%) และ 8.2 กโิ ลเมตร (74.5%) ตามลาดบั

6.1.1.2 สถานภาพการเปลย่ี นแปลงชายฝง่ั ในช่วงรอบ 9 ปี

ผลการวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงชายฝั่งทะเลบริเวณพ้ืนที่อาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2560 ระยะทางรวมประมาณ 10.0 กิโลเมตร พบว่าพื้นที่แบ่งออกได้เป็น
2 สถานภาพคือ ชายหาดมีการเปล่ียนแปลงสองสถานภาพ คือ ชายหาดสะสมตัว และชายหาดคงสภาพ
คิดเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร (10%) และ 9 กิโลเมตร (90%) ตามลาดับ ส่วนพ้ืนท่ีกัดเซาะไม่พบ
ในการสารวจคร้งั น้ี

จากผลการวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงแนวชายฝ่ังในอดีตที่ผ่านมา 2 ช่วงเวลา คือ รอบ 6 ปี
และรอบ 9 ปี จะพบว่าพ้ืนที่ศึกษามีการเปล่ียนแปลง สังเกตได้จากบริเวณที่มีการกัดเซาะปานกลางคือ
บริเวณบ้านเรือแตก ตาบลบางกะไชย และบ้านป่าแสม ตาบลปากน้าแหลมสิงห์ จะเห็นว่าพื้นท่ีดังกล่าว
มีการกัดเซาะปานกลางในรอบ 6 ปี แต่เม่ือเปรียบเทียบรอบ 9 ปี พื้นที่ดังกล่าวเปล่ียนเป็นคงสภาพ
พืน้ ท่ีส่วนใหญ่ในภาพรวมมีแนวโนม้ ดขี ึ้น คอื มสี ถานภาพสะสมตวั และคงสภาพ ตะกอนถูกพัดพาออกไปมาก
ในช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สัณฐานหน้าหาดมีการเปล่ียนแปลงรูปร่างอย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงต้น
เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนพฤศจิกายน –ธันวาคม ตะกอนท่ีถูกพัดพาหายไปจากพื้นที่
ก็ถูกแทนท่ีด้วยตะกอนใหม่ ในช่วงเวลาน้ีสัณฐานหน้าหาดจะเปล่ียนแปลงตลอดเวลาและวิวัฒนาการ
ใกลเ้ คียงกับหน้าหาดเดิม

-62-

6.1.2 สถานภาพการเปลยี่ นแปลงชายฝงั่ ในแนวดงิ่

เมอ่ื ทาการเปรียบเทยี บสัณฐานหน้าหาดแหลมสงิ ห์ และ หาดแขมหนู ในช่วงก่อนมรสุมตะวันตก
เฉียงใต้กับหลังมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ พบว่า ปริมาณทรายหนา้ หาดในช่วงหลังมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้ มีปริมาณ
เพ่ิมมากข้ึนกว่าช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กล่าวคือ ในช่วงก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงเดือนมีนาคม
ถึงต้นเดือนมิถุนายน หน้าหาดมีการสะสมตัว แล้วพื้นท่ีหน้าหาดเร่ิมมีการกัดเซาะในช่วงระหว่างฤดูมรสุม
ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ในช่วงดังกล่าวสัณฐานหน้าหาดมีลักษณะแคบและลาดชัน
เน่ืองจากคล่ืนกาลังแรงได้ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรงกัดเซาะพ้ืนท่ีถึงสันหาดด้านใน ตะกอนทรายถูกพัดพา
ออกไปจานวนมากทาให้หน้าหาดมีความลาดชันสูง จากนั้นในช่วงหลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่ปลาย
เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ พื้นท่ีที่ถูกกัดเซาะจะถูกแทนท่ีด้วยตะกอนชุดใหม่ ทาให้หน้าหาดกว้างขึ้น
และมีความลาดชันน้อยลง ลึกไปในทะเลประมาณ 100-150 เมตร จากฝั่งจะพบสันทรายใต้น้าเป็นแนวยาว
ขนานกบั ชายฝ่ัง อีกทั้งในพ้ืนท่ีมีการสร้างโครงสร้างปอ้ งกันการกัดเซาะชายฝ่งั ทาให้การกัดเซาะลดลงและมี
ตะกอนทรายมาสะสมตวั มากขน้ึ

-63-

6.2 ธรณีวิทยาทางทะเล

ผลการสารวจทาแผนที่ธรณีวิทยากายภาพพ้ืนทะเลใกล้ชายฝั่ง ในแผนท่ี 3 ระวาง
คือระวางบ้านโขดหอย ระวางจังหวัดจันทบุรีและระวางอาเภอแหลมสิงห์ ครอบคลุมพ้ืนท่ีประมาณ
80 ตารางกิโลเมตร ด้วยวิธีหย่ังน้าลึก วิธีบันทึกภาพหน้าตัดข้างคล่ืนไหวสะเทือนแบบสะท้อนกลับระดับตื้น
ความละเอียดสูงและการเก็บตัวอย่างตะกอนพื้นผิวท้องทะเล พบว่าระดับน้าตามแนวเส้นสารวจมีความลึก
-0.5 ถึง -10 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง น้าลึกท่ีสุดอยู่บริเวณร่องน้าปากแม่น้าเวฬุ ลักษณะพ้ืนผิวท้องทะเล
ในพื้นที่สารวจโดยทั่วไปค่อนข้างราบเรียบ มีความลาดชันต่าประมาณ 1: 500 พบแนวสะสมของตะกอนทราย
บริเวณปากแม่น้าแขมหนู ระยะทางยาว 2 กิโลเมตรและพื้นท่ีสะสมตะกอนทรายปนโคลนทะเลบริเวณ
ทางทิศตะวันตกของปากแม่น้าเวฬุ ชนิดของตะกอนพ้ืนทะเลแบ่งเป็น 1) ตะกอนโคลนทะเลปนทราย 40%
2) ตะกอนโคลนทะเล 38% 3) ตะกอนทรายปนโคลนทะเล 16% 4) ตะกอนทราย 6%

7. ข้อเสนอแนะ/แนวทาง ในการวางแผนป้องกันและลดผลกระทบ

จากการกัดเซาะชายฝงั่ สาหรบั พืน้ ท่อี าเภอแหลมสงิ ห์ จงั หวัดจันทบรุ ี

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งจากการวิเคราะห์ทั้ง 2 ช่วงเวลา
พบว่าพื้นที่ชายฝ่ังอาเภอแหลมสิงห์ ส่วนใหญ่มีสถานภาพคงสภาพ (คงท่ี) และสะสมตัว เน่ืองจากชายหาด
คอ่ นขา้ งสมดลุ และในพื้นทีม่ ีการสรา้ งโครงสรา้ งป้องกนั การกดั เซาะชายฝง่ั

การเฝา้ ระวังและเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื รบั มือกับการเปลย่ี นแปลงชายฝ่ังในอนาคต

เน่ืองจากพ้ืนที่ชายหาดมีการเปล่ียนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา (Dynamic) อีกทั้ง
การเปล่ียนแปลงสภาพพื้นท่ีโดยการใชป้ ระโยชน์ที่ดินตามแนวชายฝงั่ ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทาให้ชายหาดมี
การปรับตัวเพ่ือเข้าสู่ภาวะสมดุล ดังน้ัน ในบริเวณพื้นท่ีที่มีแนวโน้มเกิดการกัดเซาะ ควรมีการติดตามเฝ้า
ระวังอย่างใกล้ชิดและหาแนวทางการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยกรมทรัพยากรธรณีสนับสนุนข้อมูล
พื้นฐานด้านการเปล่ียนแปลงชายฝั่งเชิงพื้นที่ ลักษณะธรณีสัณฐานชายฝ่ัง ธรณีวิทยา แผนท่ีสถานภาพ
การเปลี่ยนแปลงชายฝ่ังทะเล พร้อมทั้งข้อเสนอแนะหรือแนวทาง ในการวางแผนป้องกันและลดผลกระทบ
จากการกัดเซาะชายฝงั่ ให้กับองคก์ ารบรหิ ารส่วนท้องถิน่ และประชาชนต่อไป

ประชาชนในพ้ืนท่ีเป็นอีกปัจจัยหน่ึงท่ีสาคัญท่ีจะช่วยให้การบริหารจัดการเชิงพื้นที่ให้
ประสบความสาเร็จ โดยการปลูกจิตสานึกร่วมกันในการอนุรกั ษ์และหวงแหนพื้นท่ี พร้อมทัง้ เสนอรปู แบบการ
นาภูมปิ ญั หาชาวบ้านมาใช้ในการป้องกนั และลดผลกระทบจากปญั หาการกัดเซาะชายฝ่ัง เช่น การปลูกต้นไม้
ท้องถ่ินเพ่ือยึดตะกอนหน้าหาด นอกจากน้ี ควรมีแผนในการติดตามเฝ้าระวังพ้ืนที่ เพื่อเตรียมความพร้อม
และรบั มอื กบั การเปลีย่ นแปลงชายฝั่งท่จี ะเกิดขึ้นในอนาคต

เอกสารอา้ งอิง

กรมทรัพยากรธรณี , 2550, แผนทีธ่ รณวี ิทยาจังหวดั จนั ทบุรี , สาํ นกั ธรณวี ิทยา : กรมทรัพยากรธรณี
กรมทรัพยากรธรณี, 2550, ธรณีวิทยาประเทศไทย, พิมพ์ครั้งท่ี 2 ฉบับปรับปรุง, กรุงเทพฯ:

กรมทรัพยากรธรณี, 628 หน้า.
สิน สินสกุล, สุวัตน์ ติยะไพรัช, นิรันดร์ ชัยมณี และบรรเจิด อร่ามประยูร, 2545, การเปลี่ยนแปลงพ้ืนที่

ชายฝ่งั ทะเลดา้ นอา่ วไทย, พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1, กรงุ เทพฯ: กรมทรพั ยากรธรณี, 173 หน้า.
เลศิ สิน รักษาสกุลวงศ์, ธาราดล ประกอบชาต,ิ 2533, ธรณวี ทิ ยาระวางจันทบุรี ระวางอาํ เภอแหลมสิงห์

และระวางบา้ นโขดหอย, กรมทรพั ยากรธรณ,ี 37 หน้า

.


Click to View FlipBook Version