- 42 -
รปู ท่ี 4-12 (บน) แผนทีแ่ สดงขอบเขตบรเิ วณท่ีพบหินฐานและพ้นื ท่ีแหลง่ ทรัพยากรทรายจากการแปล
ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนระดับต้ืนแบบสะท้อนกลับความละเอยี ดสูง
(ล่าง) ตวั อย่างข้อมูลคลนื่ ไหวสะเทือนทแ่ี สดงลกั ษณะหินฐาน
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรัพยากรธรณี
- 43 -
4.5 พ้ืนทศี่ กั ยภาพแหลง่ ทรายนอกชายฝั่ง
จากการแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสิกส์ทางทะเลในพื้นที่สำรวจขั้นรายละเอียด เพื่อหา
บริเวณที่มีการสะสมตัวของตะกอนทรายในทะเล และจัดทำแผนที่แสดงขอบเขตพื้นที่แหล่งทรายในทะเล
(รูปที่ 4-12) โดยพื้นที่ศักยภาพแหล่งทรายในรายงานฉบับนี้ หมายถึงพื้นที่ซึ่งยังไม่มีเจาะสำรวจเพื่อพิสูจน์
ทราบ แต่มีแนวโน้มที่จะพบการตกสะสมของแหล่งทรายจากหลักฐานบ่งชี้ทางธรณีฟิสิกส์และธรณีวิทยา
ซึ่งจากการแปลความหมายข้อมูลคลืน่ ไหวสะเทือนแบบสะท้อนกลับระดับต้ืนในทะเลทำให้สามารถทราบถึง
ขอบเขตการตกสะสมตัวของทรายได้เบื้องต้น เนื่องจากเส้นทางเดินเรือสำรวจแต่ละแนวมีระยะห่างกัน
2 กิโลเมตรดังนั้นในการประเมินปริมาณทรัพยากรทรายจึงเป็นการประเมินแบบคาดคะเน (inferred) โดย
ใชว้ ธิ ที างเรขาคณิต (geometrical method; regular blocks) ซงึ่ เปน็ วิธที น่ี ยิ มแพร่หลายโดยท่ัวไปและไม่
ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก (David, 1977) โดยพื้นที่สะสมตัวของแหล่งทราย คือ แนวหาดทรายเดิมด้านนอก
อยู่บริเวณนอกชายฝั่งอำเภอปราณบุรีและบางส่วนของอำเภอสามรอ้ ยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบชั้น
ทรายหนาประมาณ 1-4 เมตร อยูล่ กึ จากระดับน้ำทะเล -17 ถงึ -30 เมตร คิดเปน็ พ้นื ที่แหล่งทรายประมาณ
150 ตารางกิโลเมตร
การประเมนิ ทรพั ยากรทรายเบื้องตน้ โดยอาศัยการแปลความหมายขอ้ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน
แบบสะท้อนกลับระดับตื้นพบว่า พื้นที่แหล่งทรายนอกชายฝั่งอำเภอปราณบุรีและบางส่วนของอำเภอสาม
ร้อยยอด จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ มีปริมาณศกั ยภาพแหล่งทรายเบอ้ื งตน้ 270 ลา้ นลกู บาศก์เมตร
4.6 ผลการวเิ คราะหธ์ าตโุ ลหะหนกั ในตะกอนพ้นื ทอ้ งทะเล
โลหะหนัก (Heavy Metals)หมายถึงธาตุที่มีความถว่ งจำเพาะตั้งแต่ 5 ขึน้ ไป ซ่ึงเป็นธาตุ
ในตารางธาตุที่มีเลขอะตอม ตั้งแต่ 23-34 และ 40-52 รวมทั้งธาตุในอนุกรมแลนทาไนด์และแอกติไนด์อยู่
ในคาบ 5-7 ในตารางธาตุมีสถานะเปน็ ของแข็ง (ยกเว้นปรอทในสภาวะปกติ) ในสถานะปกติโลหะหนักเมือ่
อยู่ในรูปของธาตุบริสุทธิ์มีความเป็นพิษเล็กน้อย แต่ถ้าอยู่ในรูปสารประกอบบางตัวจะเป็นอันตรายมาก
โลหะหนักเป็นสารที่คงตัว สามารถสลายตัวได้ สามารถเปลี่ยนเป็นสารประกอบเชิงซ้อนได้ จึงมีบางส่วน
ตกตะกอนสะสมอยูใ่ นดนิ ดินตะกอนท่อี ยูใ่ นนำ้ รวมถงึ เป็นอนุภาคคอลอยดใ์ นนำ้
โลหะหนักมีทั้งหมด 68 ธาตุ เช่น ตะกั่ว (Pb) ปรอท (Hg) แคดเมี่ยม (Cd) สังกะสี (Zn)
ทองแดง (Cu) นิเกิล (Ni) โครเมียม (Cr) เหลก็ (Fe) แมงกานสี (Mn) โคบอลต์ (Co) สารหนู (As) ไทเทเนียม
(Ti) และ วานาเดยี ม (V) เป็นตน้ โลหะหนกั ทมี่ บี ทบาทต่อสงิ่ แวดล้อมมากทส่ี ดุ คือ ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม
และสารหนู มนุษย์ได้รับโลหะหนักเข้าไปในร่างกายอาจเนื่องมาจากโลหะหนักสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหาร
และในขบวนการทางชีวภาพโดยการสัมผัสหรือบริโภคเข้าไปโดยตรงหรือได้รับโดยทางอ้อม มักพบโลหะ
หนักปนเปื้อนในตะกอนมากกว่าในน้ำเสมอเพราะตะกอนมีประจุเป็นลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนโลหะหนักมี
ประจุเป็นบวกจึงมีความสามารถเกาะยดึ กันไดด้ ีกวา่ ในน้ำ
กองเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี
- 44 -
สารหนู แคดเมียม โครเมียม ทองแดง ตะกวั่ นิกเกิล และสงั กะสี ถอื เปน็ โลหะหนกั ที่พบได้
ทั่วไป ที่ส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม (Lambert et al., 2000) โลหะหนักนั้น สามารถเข้าสู่
ระบบสิ่งแวดล้อมได้ท้ังโดยจากธรรมชาตแิ ละจากกิจกรรมมนุษย์ แหล่งกำเนิดโลหะหนักที่สำคญั นั้นมาจาก
หลายแหล่งด้วยกัน อาทิ การพังทลายของดิน การผุพังของชั้นเปลือกโลก การทำเหมือง อุตสาหกรรม น้ำ
ทิ้งจากอาคารบ้านเรือน ยาฆ่าแมลงและสารกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น (Moris et al., 2012) ซึ่งสารประกอบ
โลหะหนักเหลา่ นี้ยังนำมาสกู่ ารทำงานผดิ ปกตริ า่ งกาย เนื่องจากการสะสมตวั ของโลหะหนักท่เี กนิ มาตรฐาน
ปัจจุบันประเทศไทยมีการกำหนดหลักเกณฑ์คุณภาพตะกอนดินและดินตะกอนชายฝั่ง
ทะเล โดยกรมควบคุมมลพิษ เพื่อเฝ้าระวังการปนเปื้อนมลสารและผลกระทบซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพ
อนามัย สิ่งแวดล้อมและสัตว์ทะเลหน้าดิน ซึ่งสามารถเปรียบเทียบข้อมูลผลการวิเคราะห์ตะกอนพื้นท้อง
ทะเลจากพน้ื ที่ศึกษา ไดจ้ ำนวน 6 ธาตุ ได้แก่ แคดเมียม(Cd) โครเมียม(Cr) ตะกัว่ (Pb) ทองแดง(Cu) สังกะสี
(Zn) และสารหนู(As) ในสว่ นของธาตุอน่ื อีกจำนวน 5 ธาตไุ ดแ้ ก่ โคบอลต์(Co) นกิ เกิล(Ni) เงนิ (Ag) แบเรียม
(Ba) และโมลิบดินัม(Mo) ได้ปรับใช้ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพตะกอนทะเลของประเทศสหรัฐอเมริกา
แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ เพื่อเปรียบเทียบโดยอนุโลมโดยยึดเอาปี
ประกาศลา่ สุดเป็นเกณฑ์ (ตารางท่ี 4-3)
การวิเคราะห์ทางเคมีธาตุจากตะกอนตัวอย่าง ดำเนินการวิเคราะห์โดยส่วนวิเคราะห์ดินและ
ตะกอนธารน้ำ กองวิเคราะห์และวิจัยทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 206 ตัวอย่างโดยวิธี
Aqua Regia Digestion ICP-OES (Inductively Couple Plasma-Optical Emission Spectrometer) ที่
พบสะสมในตะกอนทะเลจำนวน 26 ธาตุ ซึ่งประกอบด้วยธาตุโลหะและธาตุอโลหะได้แก่ สารหนู แคดเมียม
โคบอลท์ โครเมียม ทองแดง เหล็ก แมงกานีส นิเกิล ตะกั่ว ไทเทเนียม วานาเดียม สังกะสี เงิน อลูมิเนียม
แบเรยี ม เบริลเลยี ม บสิ มทั แคลเซียม โพแทสเซียม ลเิ ทียม แมกนีเซียม โมลิบดินมั โซเดยี ม พลวง ซลี ีเนียม
และสตรอนเทียม (ภาคผนวก ค) จากพื้นที่ศกึ ษาตะกอนในแม่นำ้ ริมชายฝงั่ ทะเลและนอกชายฝั่งทะเล
ตารางท่ี 4-3 ค่าเกณฑ์มาตรฐานคณุ ภาพตะกอนทะเลและชายฝ่งั
เกณฑ์ As ค่าปริมาณความเข้มข้นของธาตุ (มิลลิกรัม/กโิ ลกรัมน้ำหนกั แห้ง) Zn
กำหนด 7 Ag Ba Cd Cr Co Cu Mo Ni Pb 102
เกณฑ์คุณภาพ 20 - - 2 42 - 25 - - 52 130
ตะกอนดินชายฝั่ง
ทะเล(กรมควบคุม - - 0.4 40 - 40 - 20 50
มลพิษ,2558)
UK Cefas กองเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี
sediment
quality
guideline for
the disposal of
dredged
material, 1994
- 45 -
Canadian
sediment
quality - - 0.7 52.3 - 18.7 - - 30.2 124
guidelines for 7.24
the protection
of aquatic life,
2001
The Dutch
quality - 160 0.8 100 9 36 0.5 35 85 140
standards ; for 29
aquatic
sediment, 2000
NOAA Sediment
quality 7.24 0.73 130 0.68 52.3 - 18.7 - 15.9 30.2 124
guidelines, 2008
ANZECC ,2000 20 1 - 1.5 80 - 65 - 21 50 200
Australia
National
Assessment
Guideline for
Dredging, 2009
สรุปผลการวิเคราะห์ปริมาณเคมีธาตุ 26 ชนิด ที่สะสมตัวในชั้นตะกอนพื้นผิวท้องทะเลในพื้นท่ี
สำรวจ (ภาคผนวก จ) เมื่อทำการเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพตะกอนดนิ ชายฝั่งของกรมควบคุม
มลพิษตามประกาศ จำนวน 6 ธาตุ และเปรียบเทียบรว่ มกับเกณฑ์คุณภาพตะกอนทะเลตามเกณฑป์ ระเทศ
สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลยี นิวซีแลนด์ อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ในส่วนของธาตุอนื่ ๆ ท่ีไมป่ รากฏ
ในประกาศของกรมควบคุมมลพิษ จำนวน 5 ธาตุ พบว่ามีปริมาณความเข้มขน้ สูงเกนิ มาตรฐานของธาตุสาร
หนูและทองแดง พบสะสมตัวปริมาณสูงในบริเวณแม่น้ำปราณบุรีและปริมาณลดลงเมื่อไกลจากฝั่งออกไป
ส่วนธาตุโคบอลต์และนิกเกิลพบสะสมตัวปริมาณสูงนอกแนวชายฝั่ง ซึ่งไม่สัมพันธ์กับตะกอนในแม่น้ำ
(ตารางที่ 4-4)
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรัพยากรธรณี
- 46 -
ตารางที่ 4-4 สรุปผลวิเคราะหต์ ะกอนพน้ื ทอ้ งทะเลในพ้นื ที่สำรวจ
ธาตุ ผลวิเคราะหท์ างเคมี เกณฑ์มาตรฐาน*
สารหนู (As) คา่ ตำ่ สดุ (ppm) คา่ สงู สดุ (ppm) (mg/kg dry wt.)
เงนิ (Ag)
อลูมิเนียม (Al) 19 7*
แบเรยี ม (Ba) 0.73**
เบอริลเลียม (Be) --
บิสมทั (Bi) -
แคลเซยี ม (Ca) 1,180 30,240 130**
แคดเมียม (Cd)
โคบอลต์ (Co) <3 52 -
โครเมยี ม (Cr) -
ทองแดง (Cu) <1 2 -
เหล็ก (Fe) 2*
โพแทสเซยี ม (k) -- 9***
ลเิ ทยี ม (Li) 42*
แมกนเี ซียม (Mg) 1,247 223,300 25*
แมงกานสี (Mn) -
โมลบิ ดนิ มั (Mo) <0.3 0.3 -
โซเดียม (Na) -
นเิ กลิ (Ni) 1 13 -
ตะกวั่ (Pb) -
พลวง (Sb) 3 37 0.5***
ซีลเิ นยี ม (Se) -
สตรอนเทียม (Sr) <2 31 15.9**
ไทเทเนียม (Ti) 52*
วาเนเดยี ม (V) 0.22% 2.973% -
สงั กะสี (Zn) 0.7***
425 5,942 -
-
1.6 34.8 42***
102*
1,595 20,910
240 1,668
--
1,808 43,450
1 22
<4 17
--
--
8 1,644
13 121
3 31
<7 58
* หลกั เกณฑ์คุณภาพดนิ ตะกอนชายฝ่งั ทะเล ตามประกาศกรมควบคมุ มลพษิ พ.ศ. 2558
** NOAA Sediment quality guidelines 2008
*** The Dutch quality standards; Circular on target values and intervention values for soil remediation 2000
กองเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี
- 47 -
บทท่ี 5
สรปุ ผลการสำรวจ
5.1 สรุปผลการสำรวจ
ผลการสำรวจทำแผนที่ธรณีวิทยากายภาพพื้นผิวท้องทะเลใกล้ชายฝั่งและนอกชายฝั่ง
อำเภอปราณบุรี บางสว่ นของอำเภอหวั หินและอำเภอสามร้อยยอด จงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ ครอบคลุมเน้ือท่ี
ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร ด้วยวิธีหยั่งน้ำลึก วิธีบันทึกภาพหน้าตัดคลื่นไหวสะเทือนแบบสะท้อนกลับ
ระดับตื้นความละเอียดสูง การเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ตะกอนพื้นผิวท้องทะเลและการตรวจวัดทิศทาง
และกระแสน้ำนอกชายฝัง่ พบว่า
ระดับความลึกน้ำตามแนวสำรวจมีความลึกตั้งแต่ -1 ถึง -38 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง
บรเิ วณลึกท่ีสุดอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของพ้ืนท่สี ำรวจ ทางตอนบนถึงตอนกลางของพืน้ ที่ มคี วามลาดชนั ต่ำกว่า
เมื่อเทียบกับทางด้านใต้ของพื้นที่สำรวจ พบลักษณะสลับกันของแนวสันดอนใต้น้ำและร่องน้ำหลายแนวที่ระดับ
ความลกึ -20 เมตร จากระดับทะเลปานกลางลงไปบรเิ วณทางตะวนั ออกเฉียงใต้ของพน้ื ที่ บริเวณใกลฝ้ ง่ั บนแนวสนั
ดอนทรายใต้นำ้ 1 แห่ง บรเิ วณตะวันออกของเขากะโหลกทร่ี ะดับความลกึ -4 ถงึ -8 เมตรจากระดบั ทะเลปานกลาง
ลักษณะตะกอนพื้นผิวท้องทะเลประกอบด้วย 4 ชนิด คือ ตะกอนโคลนทะเล คิดเป็นร้อยละ 20.5 ของพื้นท่ี
ทั้งหมด ตะกอนโคลนทะเลปนตะกอนทรายขนาดละเอียดถึงละเอียดมาก คิดเป็นร้อยละ 31.5 ของพื้นที่ทั้งหมด
ตะกอนทรายปนตะกอนโคลนทะเล คดิ เปน็ ร้อยละ 28 ของพื้นทที่ ้งั หมด และตะกอนทราย คิดเปน็ ร้อยละ 20 ของ
พ้นื ทีท่ ้งั หมด
การแปลความหมายข้อมูลการสำรวจคลื่นไหวสะเทือนระดับตื้นแบบสะท้อนกลับพบว่า
ลักษณะธรณีวทิ ยาช้ันตะกอนใต้พืน้ ท้องทะเลในพื้นที่สำรวจ สามารถจำแนกออกเปน็ 2 ชุด คือ ชั้นตะกอน
ชุดล่าง และชั้นตะกอนชุดบน ชั้นตะกอนชุดล่างเป็นชั้นตะกอนที่สะสมตัวในสมัยไพลสโตซีน ใน
สภาพแวดล้อมแบบบนบก ประกอบด้วยตะกอน 2 ชนั้ ยอ่ ย คือ ช้นั ย่อยดินเหนยี วแน่น ซ่ึงวางตวั รองรับ ชั้น
ยอ่ ยทางนำ้ โบราณ สว่ นช้นั ตะกอนชุดบนเป็นชัน้ ตะกอนทส่ี ะสมตัวในสมัยโฮโลซีนโดยอิทธิพลการรุกล้ำของ
นำ้ ทะเล ตงั้ แต่ประมาณ 10,000 ปที ผี่ า่ นมา มคี วามหนาตั้งแต่ 1-18 เมตร ประกอบดว้ ย 3 ชั้นยอ่ ย โดยช้ัน
ล่างสุดวางตัวปิดทับตะกอนไพลสโตซีน เป็นชั้นที่มีการตกสะสมตะกอนสลับกันระหว่างบนบกและทะเลท่ี
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลข้ึนลง ถัดมาเป็นชั้นย่อยตะกอนโคลนทะเลและบางพื้นที่พบช้ัน
ตะกอนทรายสะสมตัวซึ่งอาจแปลความหมายเป็นแนวชายหาดเดิม โดยชั้นย่อยน้ีหนา 1-4 เมตร และช้ัน
ยอ่ ยบนสุดเปน็ ชน้ั ตะกอนทางน้ำสมัยใหม่ซง่ึ ได้รบั อิทธพิ ลรว่ มจากตะกอนทะเล
การประเมินแหล่งทรายใต้ทะเลจากการแปลความหมายข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนระดับต้ืน
ทำให้สามารถกำหนดขอบเขตและระดับความหนาของพื้นที่แหล่งทรายในทะเล โดยพื้นที่ศักยภาพแหล่ง
ทรายในทะเล อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏการสะสมตัวในแนวชายหาดโบราณ ช้ัน
ทรายหนาประมาณ 1-4 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นปริมาณสำรองเบื้องต้น
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรัพยากรธรณี
- 48 -
ประมาณ 270 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการพัฒนาสำรวจขั้นรายละเอียดเพ่ือ
ประเมินปรมิ าณและคุณภาพของทรายต่อไป
ผลการวิเคราะห์ปริมาณธาตุโลหะหนัก 12 ชนดิ และธาตุอื่น 16 ชนดิ ท่ีสะสมในชั้นตะกอน
พื้นผิวท้องทะเลในพื้นท่ีสำรวจที่มีค่าเกินมาตรฐานท่ีประกาศโดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่ามีปริมาณความ
เข้มข้นสูงเกินมาตรฐานของธาตุสารหนูและทองแดง พบสะสมตัวปริมาณสูงในบริเวณแม่น้ำปราณบุรีและ
ปริมาณลดลงเมื่อไกลจากฝั่งออกไป ส่วนธาตุโคบอลต์และนิกเกิลพบสะสมตัวปริมาณสูงนอกแนวชายฝั่ง ซึ่ง
ไมส่ ัมพนั ธ์กบั ตะกอนในแม่นำ้
5.2 การประยกุ ต์ใช้ขอ้ มลู ในงานท่ีเก่ียวขอ้ ง
ข้อมูลจากการสำรวจและแปลความหมาย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานที่เกี่ยวข้อง
ของทั้งหนว่ ยงานรัฐและเอกชน เช่น
1. กรมประมง สามารถนำข้อมูลของตะกอนพื้นผิวท้องทะเลไปใช้ในการศึกษาหา
ความสัมพนั ธ์ของการกระจายตัวของสัตวน์ ำ้ หน้าดนิ และพืชน้ำใต้ทะเลได้
2. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถนำข้อมูลใช้ประกอบเพื่อการวางแผนวาง
แนวปะการังเทียม โดยใชร้ ะดบั ความลกึ น้ำและธรณีสณั ฐานพืน้ ท้องทะเล
3. กรมเจ้าท่า ข้อมูลการสำรวจเพื่อการขุดลอกแนวร่องน้ำทางเข้าท่าเรือน้ำลึกและพื้นที่
ปากแมน่ ้ำเพื่อการประมงของชุมชนทอ้ งถน่ิ
4. กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เพื่อการกำหนดขอบเขตการออกประทาน
บตั รแหลง่ ทรายในทะเล เพอ่ื ใชใ้ นการก่อสรา้ งหรอื อุตสาหกรรมทรี่ องรบั การขยายตัวของ EEC ในอนาคต
5. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนระดับตื้น เพื่อกำหนดแนวการวาง
สายไฟ หรือสายเคเบล้ิ ใตน้ ้ำในชัน้ ตะกอนชุดบน
6. หนว่ ยงานและประชาชนในท้องถ่นิ มีความรูค้ วามเขา้ ใจเบื้องตน้ ถงึ ลักษณะ ธรณี
สัณฐานทางทะเลในพื้นที่ อันสามารถนำไปใช้ในการวางแผนงานร่วมกับหน่วยงานอื่น รวมถึงเพื่อบริหาร
จัดการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด
5.3 ปัญหาและอุปสรรค
ปัญหาและอปุ สรรคทีส่ ำคญั ในการดำเนินงานสำรวจคอื
1. สภาพอปุ กรณส์ ำรวจทีเ่ ส่ือมโทรมตามระยะเวลาการใช้งาน ทำให้ข้อมลู ทีจ่ ัดเก็บได้ขาด
ความชดั เจน ความละเอียดของขอ้ มูลสำรวจลดลง ส่งผลตอ่ การแปลความหมายข้อมูล
2. การขาดแคลนของบุคลากรกระทบถึงความต่อเนื่องของการทำงาน เนื่องจากขาด
กำลังคนทดแทนตำแหน่งงานที่เกษียณและกำลังจะเกษียณในระยะอันใกล้ ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้งานทาง
เทคนคิ ที่มลี กั ษณะเฉพาะด้าน
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรพั ยากรธรณี
- 49 -
3. การเจาะเก็บตัวอย่างในทะเลที่ระดับลึก เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีไม่สามารถเจาะเก็บ
ตัวอยา่ งทรี่ ะดับลึกลงไปถึงช้ันทางนำ้ โบราณได้ แม้ว่าจะมหี ลมุ เจาะตะกอนทะเลโบราณในแนวชายฝั่ง แต่
สามารถใช้ได้เพียงเทียบเคียง การเจาะพิสูจน์ทราบในพื้นที่สำรวจจึงมีความจำเป็น เพื่อยืนยันการแปล
ความหมายข้อมลู
4. สภาพภมู อิ ากาศและลักษณะลมมรสุมในพน้ื ทส่ี ำรวจเป็นปัจจัยเชื่อมโยงถึงความเร็วลม
และขนาดคลน่ื ซึ่งส่งผลต่องานเดนิ เรือสำรวจในทะเล ทีล่ า่ ชา้ และข้อมลู ท่ีได้ขาดความสมบูรณ์
5. การเช่าเรือเพื่อการสำรวจทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกิจกรรมการ
ทอ่ งเทย่ี วสูงเนือ่ งจากอัตราค่าเชา่ ตอ่ วันมรี าคาแพง และหาเช่าเรอื ได้ยากในชว่ งหนา้ ท่องเท่ียว
5.4 ข้อเสนอแนะ
การจัดซื้ออุปกรณ์การสำรวจทดแทนชุดเดิม เนื่องจากอุปกรณ์มีการเสื่อมสภาพตาม
ระยะเวลา สง่ ผลตอ่ ความชดั เจนของข้อมูลการสำรวจท่ีได้
ควรจัดให้มีการบรรจุอัตรากำลังในตำแหน่งที่ต้องใช้ความรู้เทคนิคเฉพาะด้าน เพื่อให้งาน
สามารถดำเนนิ การได้อย่างต่อเนอื่ ง ไมส่ ะดดุ เน่ืองจากบคุ ลากรใกล้ถึงวาระเกษยี ณจำนวนมาก
การเจาะสำรวจระดบั ลึกในทะเล เพอ่ื เปน็ ข้อมลู อ้างองิ และเทยี บเคียงการแปลความหมาย
ขอ้ มลู คลืน่ ไหวสะเทือนระดบั ตืน้ ให้มคี วามถกู ต้องแม่นยำมากยิ่งข้นึ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำวิจัยร่วมกันระหว่างหน่วยงานและสถาบันการศึกษา
เพื่อให้ได้ขอ้ มูลที่มคี วามถูกต้อง สามารถนำมาใชอ้ า้ งองิ ได้
การปรับปรุงระเบียบค่าเช่าเรือสำรวจให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้
สามารถเช่าเรอื ทมี่ ีขนาดใหญข่ น้ึ ได้ ทำให้สามารถทำการสำรวจในบริเวณทไ่ี กลจากชายฝ่ังได้
5.5 ข้อจำกดั
เนื่องจากการสำรวจครั้งที่ 2 อยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม ในช่วงกลางวันที่ดำเนินการสำรวจ
เป็นช่วงนำ้ ลงของวัน ทำให้ไม่สามารถทำการสำรวจเก็บข้อมูลใกล้ชายฝั่งได้เทา่ กับการสำรวจครั้งท่ี 1 แนว
สำรวจโดยส่วนใหญ่จึงไมค่ รอบคลุมถึงบริเวณการกระจายตัวของตะกอนทรายชายฝ่งั ทส่ี ะสมตวั ในทะเล
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรัพยากรธรณี
- 50 -
บทที่ 6
ขอ้ เสนอแนะนโยบาย แผน มาตรการและขอ้ มูลทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับ
การบริหารจัดการธรณวี ทิ ยาและทรัพยากรแรใ่ นทะเล
จากการสำรวจ ศึกษา แปลผลการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลด้านธรณีวิทยากายภาพ
พื้นผิวทะเล เพื่อศึกษาลักษณะภูมิประเทศพื้นท้องทะเล ชนิดและลักษณะการกระจายตัวของตะกอน
ทิศทางและความเร็วของกระแสน้ำชายฝั่ง สามารถสรุปข้อเสนอแนะนโยบาย แผน มาตรการและข้อมูลท่ี
เกย่ี วขอ้ งกบั การบริหารจดั การธรณีวทิ ยาและทรัพยากรแร่ในทะเล ไดด้ งั นี้
1. การพจิ ารณาพืน้ ท่ีทม่ี คี วามเหมาะสมสำหรบั การวางปะการังเทียม
จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั หลกั เกณฑ์สำคญั ในการกำหนดพนื้ ที่จดั
วางปะการงั เทียม (บางข้อท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั งานสำรวจในครั้งน)้ี มดี ังน้ี
1. ระดับน้ำเหนอื กองวัสดุทน่ี ําไปวางในชวงน้ำลงตำ่ สุดต้องมีความลกึ ไม่น้อยกว่า 6 เมตร
เพอื่ ความปลอดภัยในการเดนิ เรอื
2. สภาพพืน้ ทะเลเหมาะสมไม่เป็นโคลนเหลว และไม่ทำให้วัสดุจมตัวเกินกว่า 20 ซม.
3. ไมเ่ ป็นพืน้ ท่ซี ึ่งมีปริมาณตะกอนแขวนลอยในน้ำมาก ซ่ึงจะทำให้ตะกอนทับถมท่ีผิววัสดุ
จน สิ่งมีชวี ิตประเภทเกาะตดิ ไมส่ ามารถอย่อู าศัยได้
จากขอ้ กำหนดท้งั 3 ขอ้ ที่กลา่ วมานนั้ สามารถกำหนดขอบเขตพนื้ ทีท่ ี่เหมาะสมกบั การวาง
ปะการังเทียม โดยจะอยู่ในระดบั ความลึกน้ำที่ 15-20 เมตร ห่างจากฝั่งมากกว่า 5.4 กิโลเมตร หรือ 3 ไมล์
ทะเล เป็นบริเวณที่สะสมตัวของตะกอนที่แข็ง ไม่ทำให้ปะการังเทียบทรุดหรือยุบตัวลงไปในตะกอน และ
เป็นพ้นื ที่ทหี่ ่างไกลจากปากแมน่ ้ำปราณบรุ ี ไมม่ ีตะกอนแขวนลอยในน้ำมากเกินไป ดังรปู ที่ 6-1
2. พืน้ ทีแ่ หล่งทรัพยากรทรายในทะเล
จากการสำรวจและแปลความหมายข้อมูลทางธรณีฟิสิกส์ สามารถกำหนดพื้นที่ที่มี
ศักยภาพแหล่งทรายนอกชายฝั่ง ขนาดพื้นที่ 150 ตารางกิโลเมตร มีปริมาณสำรองประมาณ 270 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเหมาะจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกทส่ี ำคัญในการชว่ ยแก้ไขปญั หาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยวิธีการ
เตมิ ทรายชายหาดในพื้นท่จี ังหวัดประจวบครี ีขันธใ์ นอนาคต (รูปที่ 4-12)
3. การเฝ้าระวงั พนื้ ท่ชี ายหาดบริเวณเหนือเขากะโหลกจากการกัดเซาะชายฝ่ัง
จากข้อมูลการสำรวจจะพบว่า ชายหาดบริเวณนั้นได้เกิดจากการเคลื่อนที่ของตะกอน
ทรายจากชายฝั่ง ไปสะสมตัวในทะเลทั้งด้านนอกและทางเหนือของพื้นท่ีเขากะโหลก จึงควรมีการติดตาม
เฝ้าระวังและสังเกตพฤติกรรมของสันดอนทรายใต้น้ำว่าจะมีการพัดพากลับมาสะสมตัวบนชายหาดหรือไม่
ในช่วงหลังฤดูมรสุม หากไม่มีการเคลื่อนย้ายตะกอนทรายกลับมาตามธรรมชาติจะต้องเตรียมหาวิธีรับมือ
หรอื แกป้ ญั หาดว้ ยการเติมทราย เพ่ือให้บรรเทาการกดั เซาะท่จี ะเพิม่ มาข้นึ ในอนาคต
กองเทคโนโลยีธรณี กรมทรพั ยากรธรณี
- 51 -
รปู ท่ี 6-1 แผนท่แี สดงบริเวณที่เหมาะสมในการวางปะการังเทยี ม (กรอบสีดำ)
กองเทคโนโลยธี รณี กรมทรพั ยากรธรณี
เอกสารอา้ งองิ
ประกาศกรมควบคุมมลพิษ เร่ือง กำหนดหลกั เกณฑค์ ุณภาพตะกอนดนิ ชายฝง่ั ทะเล พ.ศ.2558 (2558, 9 ตลุ าคม), กรมควบคมุ
มลพิษ.
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, 2550, รายงานการศึกษาจัดทำแผนหลักและแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝง่ั
ทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนบน (พิมพค์ รัง้ ที่ 1): ปทมุ ธาน,ี สถาบันวิจัยและให้คำปรกึ ษามหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 235 หนา้ .
__________________________, 2557, สถานการณ์ชายฝั่งและการจดั การปัญหาการกดั เซาะชายฝั่งจากอดีตถงึ ปัจจุบัน (พิมพ์
คร้งั ที่ 1): ปทมุ ธาน,ี วสิ ุทธิ คอนซลั แตนท์, 266 หน้า.
กรมทรัพยากรธรณี, 2555, การศึกษาการเปล่ียนแปลงธรณีสณั ฐานชายฝั่งทะเล [ออนไลน์]: สืบคน้ จาก
library.dmr.go.th/Document/DMR_Technical_Reports/2555/35683.pdf [21 มกราคม 2561]
_______________, 2559, Geophysical and geotechnical survey: Marine Geology [online]: สืบคน้ จาก
www.dmr.go.th/main.php?filename=Geophysic2015_EN [21 มกราคม 2561]
_______________, 2559 Status of Coastal Geo-Environment in Thailand [online]: สืบคน้ จาก
www.dmr.go.th/main.php?filename=Coastal2015_EN [21 มกราคม 2561]
_______________, 2544, การสำรวจแรน่ อกชายฝัง่ อันดามันและอา่ วไทยกรมทรัพยากรธรณี; กองเศรษฐธรณีวทิ ยา, 26 หนา้
กรมอุทกศาสตร์, 2536, นำรอ่ งน่านนำ้ ไทย เล่ม 1 อา่ วไทย: กองทัพเรือ, 187 หนา้ .
____________, 2550, ระดบั น้ำในนา่ นนำ้ ไทย (พิมพ์ครงั้ ท่ี 1): กรงุ เทพฯ, โรงพิมพ์กองสร้างแผนที่, 187 หนา้ .
สถาบนั นวตั กรรมการเรยี นร,ู้ มหาวิทยาลัยมหดิ ล,ทรพั ยากรธรณ/ี แหลง่ แร่เศรษฐกจิ [ออนไลน]์ : สบื คน้ จาก
https://il.mahidol.ac.th/e-media/earth-science/chapter5_1.html [26 สงิ หาคม 2563]
สนิ สินสกุล, สวุ ฒั น์ ตยิ ะไพรตั น์, นิรันดร์ ชัยมณี และบรรเจิด อรา่ มประยรู , 2545, การเปลยี่ นแปลงพื้นที่ชายฝ่ังทะเลดา้ นอ่าวไทย:
กองธรณีวทิ ยา, กรมทรยั ากรธรณี, 173 หน้า.
Alqahtani, F.A., Johnson, H.D., Jackson, C.A.L., and Som, M.R.B., 2015, Nature, origin and evolution of Late
Pleistocene incised valley-fill, Sunda shelf, Southeast Asia: Sedimentology, v.62, p.1198-1232.
Bird, M.I., Austin, W.E.N., Wurster, C.M., Fifield, L.K., Mojtahid, M., and Sargeant, C., 2010, Punctuated eustatic
sea-level rise in the early mid-Holocene: Geology, v.38, p.83-806.
Morley, C.K., and Charusiri, P., 2011, Geology of Thailand, Chapter 11: in Geological Society of London, Ridd M.
F., Barber A.J., and Crow M.J., eds., pp.273-334.
Negri, M.P., 2009, Fossil mollusc-faunas: Their bearing on the Holocene evolution of the Lower Central Plain
of Bangkok (Thailand): Asian Earth Sciences, v.35, p.524-544.
_________, 2012, A late Pleistocene transgression in Thailand: A marine molluscan fauna from Ban Praksa (Samut
Prakan Province): Asian Earth Sciences, v.43, p.145-149.
Scheffers, A., Brill, D, Kelletat, D., Brucker, H., Scheffers, S., and Fox, K, 2012, Holocene sea levels along the
Andaman Sea coast of Thailand: Holocene, v.22, p.1169-1180.
Sinsakul, S., 2000, Late Quaternary geology of the Lower Central Plain, Thailand: Asian Earth Sciences, v.18,
p.415-426.
Waelbroeck, C., Labeyrie, L., Michel, E., Duplessy, J.C., McManus, J.F., Lambeck, K., Balbon, E.,and Labracherie,
M., 2002, Sea-level and deep water temperature changes derived from benthic foraminifera isotopic
records: Quaternary Science Reviews, v.21, p.295-305.
Zhiqiang, F., Astin, T., Corbett, P.W.M., and /westerman, R., 2008, Climate-driven Cyclicity in the Quaternary of
the Gulf of Thailand: Earth Science Frontiers, v.15, p.20-25.
Lambert M, Leven BA, Green RM. New methods of cleaning up heavy metal in soils and water; Environmental
science and technology briefs for citizens; Manhattan, KS: Kansas State University; 2000
Morais S, Costa FG, Pereira ML. Heavy metals and human health. In: Oosthuizen J, editor. Environmental
health – emerging issues and practice. 2012. pp. 227–246.
UK Cefas sediment quality guidelines for the disposal of dredged material, 1994, Port of London Authority.
Canadian sediment quality guidelines for the protection of aquatic life, 2001, Canadian council of ministers of
the environment.
The Dutch quality standards; for aquatic sediment, 2000, National institute for public health and
environmental protection.
NOAA Sediment quality guidelines, 2008, National Oceanic and Atmosphere Administration.
ANZECC sediment quality guidelines, 2000, the Australian and New Zealand Environment and Conservation
Council.