รายงานผลการดำเนินงาน
ฉบบั ท่ี กทธ 12/2564
สถิติขอ้ มูลระดบั น้ำทะเลจากสถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ข้ึน-ลง
แบบอตั โนมตั ิ ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
พลอยไพลนิ เอียดเสน
กองเทคโนโลยธี รณี
กรมทรพั ยากรธรณี
II
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
นายสมหมาย เตชวาล
ผอู้ ำนายการกองเทคโนโลยีธรณี
นายสุวภาคย์ อม่ิ สมุทร
ผู้อำนวยการสว่ นพฒั นาและฟืน้ ฟูพืน้ ที่แหลง่ ทรัพยากรธรณี
นายวเิ ชียร อินต๊ะเสน
จัดพิมพ์โดย กองเทคโนโลยีธรณี กรมทรพั ยากรธรณี
พมิ พค์ ร้งั ที่ 1 ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศพั ท์ 0 2621 9614 โทรสาร 0 2621 9612
สิงหาคม 2564
จำนวน 3 เล่ม
ข้อมลู การลงรายการบรรณานุกรม
พลอยไพลนิ เอียดเสน.
สถิตขิ ้อมูลระดับน้ำทะเลจากสถานตี รวจวดั ระดบั น้ำขนึ้ -ลง แบบอัตโนมัติ ประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2564 / โดย พลอยไพลนิ เอียดเสน .- กรุงเทพฯ : กองเทคโนโลยธี รณี
กรมทรัพยากรธรณี, 2564.
44 หน้า : 38 ภาพประกอบ : 1 แผนที่ : 2 ตาราง; 30 ซม.
รายงานผลการดำเนนิ งาน ฉบบั ที่ กทธ 12/2564
III
สารบัญ
หน้า
สารบญั .....................................................................................................................................................III
สารบัญรูป............................................................................................................................................... IV
สารบัญตาราง.......................................................................................................................................... VI
บทคัดย่อ................................................................................................................................................ VII
คำขอบคณุ .............................................................................................................................................VIII
บทที่ 1 บทนำ .......................................................................................................................................... 1
1.1 หลกั การและเหตผุ ล............................................................................................................. 1
1.2 วตั ถปุ ระสงค์ ........................................................................................................................ 1
1.3 ขั้นตอนการดำเนนิ งาน......................................................................................................... 2
1.4 ระยะเวลาดำเนินงาน ........................................................................................................... 2
1.5 พื้นทศี่ ึกษา........................................................................................................................... 2
1.6 ผลการศึกษาทเ่ี กีย่ วข้อง....................................................................................................... 4
บทที่ 2 สถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลขึน้ -ลง แบบอตั โนมตั ิ ....................................................................... 8
2.1 ข้อมลู สถานีตรวจวัดระดบั นำ้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ ...................................................... 8
2.2 ระบบการตรวจวดั ค่าระดับน้ำทะเล ................................................................................... 12
บทท่ี 3 ความสัมพนั ธ์ของชุดอปุ กรณ์ตรวจวดั ตา่ งๆ กบั ข้อมลู ระดบั น้ำทะเล .......................................... 20
3.1 การศึกษาความสัมพนั ธ์ของข้อมูลจากชดุ อุปกรณต์ รวจวัดต่าง ๆ กับการเปลี่ยนแปลง
ระดับนำ้ ทะเล .................................................................................................................... 20
3.2 การศกึ ษาข้อมลู จากชดุ อปุ กรณต์ รวจวัดต่าง ๆ................................................................... 23
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง ............................................................................... 31
บทที่ 5 สรุปและปัญหาอุปสรรค ............................................................................................................ 42
5.1 สรุป................................................................................................................................... 42
5.2 ปญั หาอุปสรรค .................................................................................................................. 42
เอกสารอ้างองิ ........................................................................................................................................ 44
IV
สารบญั รปู
หนา้
รปู ท่ี 1-1 แผนทีแ่ สดงสถานีวัดระดบั นา้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมัติ ของกรมทรัพยากรธรณี.................... 3
รปู ที่ 1-2 แสดงชดุ อปุ กรณต์ รวจวดั บริเวณสถานตี รวจวัดระดบั นา้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ ................. 4
รูปที่ 2-1 แสดงสถานตี รวจวัดระดับนา้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดระยอง.................................... 8
รูปท่ี 2-2 แสดงสถานีตรวจวัดระดับนา้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมัติ จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ..................... 9
รูปท่ี 2-3 แสดงสถานตี รวจวดั ระดับนา้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดนครศรธี รรมราช .................... 9
รปู ท่ี 2-4 แสดงสถานตี รวจวัดระดับนา้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมัติ จังหวดั ระนอง ................................. 10
รูปที่ 2-5 แสดงสถานตี รวจวัดระดบั นา้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวดั ภเู ก็ต.................................... 10
รปู ที่ 2-6 แสดงสถานีตรวจวัดระดบั น้าทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดตราด.................................... 11
รปู ท่ี 2-7 แสดงสถานีตรวจวดั ระดบั นา้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จงั หวัดชุมพร................................... 11
รูปท่ี 2-8 แสดงสถานตี รวจวดั ระดับนา้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมตั ิ จงั หวัดสตลู ..................................... 12
รปู ท่ี 2-9 แสดงชุดอุปกรณป์ ระมวลผลขอ้ มูลและจัดเกบ็ ข้อมูล ............................................................. 13
รปู ที่ 2-10 แสดงชุดอุปกรณ์แหลง่ จ่ายพลังงาน ..................................................................................... 13
รูปที่ 2-11 แสดงอุปกรณ์วดั คา่ ระดบั น้าทะเล (Tide Gauge)................................................................ 14
รปู ท่ี 2-12 แสดงอุปกรณ์วดั คา่ อุณหภมู แิ ละความชื้น (RH Temp. sensor) ......................................... 15
รูปท่ี 2-13 แสดงอปุ กรณ์วดั ค่าความกดอากาศ (Barometer) .............................................................. 15
รูปที่ 2-14 แสดงอปุ กรณ์วัดทิศทางและความเรว็ ลม (Wind Direct and Speed Sensor).................. 16
รปู ท่ี 2-15 แสดงอุปกรณ์วดั ปรมิ าณนา้ ฝน (Precipitation Gauge)...................................................... 16
รปู ท่ี 2-16 แสดงอุปกรณ์วัดคา่ พิกัด (GPS) ........................................................................................... 17
รปู ที่ 2-17 แสดงอปุ กรณ์ตรวจจบั ความเคลือ่ นไหวและอุปกรณ์สญั ญาณเตือน (Motion sensor and
Alarm)................................................................................................................................ 17
รูปท่ี 2-18 แสดงโปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K”................................................................... 18
รูปท่ี 2-19 แสดงแถบการใช้งานของโปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K”..................................... 18
รปู ท่ี 2-20 แสดงการใชง้ านของโปรแกรม “DataGraph–W4K 2.1.3.0”............................................. 19
รูปที่ 3-1 กราฟแสดงข้อมูลจากเคร่ืองตรวจวดั ระดบั น้าทะเล สถานีตรวจวดั ระดับน้าทะเลข้ึน-ลง ........ 23
รูปท่ี 3-2 กราฟแสดงข้อมูลจากเคร่ืองตรวจวัดระดบั น้าทะเล สถานีตรวจวดั ระดบั น้าทะเลขนึ้ -ลง ........ 24
รูปท่ี 3-3 กราฟแสดงข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดระดับน้าทะเล สถานีตรวจวัดระดบั นา้ ทะเลขน้ึ -ลง ........ 25
รูปท่ี 3-4 กราฟแสดงข้อมูลจากเคร่ืองตรวจวัดระดับนา้ ทะเล สถานตี รวจวดั ระดบั นา้ ทะเลข้นึ -ลง ........ 26
รูปที่ 3-5 กราฟแสดงข้อมูลจากเคร่ืองตรวจวดั ระดบั นา้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดบั นา้ ทะเลขึน้ -ลง ........ 27
รูปที่ 3-6 กราฟแสดงข้อมลู จากเคร่ืองตรวจวดั ระดบั นา้ ทะเล สถานตี รวจวดั ระดับน้าทะเลขึ้น-ลง ........ 28
V
สารบัญรูปภาพ (ต่อ)
หนา้
รูปท่ี 3-7 กราฟแสดงข้อมลู จากเครื่องตรวจวัดระดับน้าทะเล สถานีตรวจวดั ระดบั น้าทะเลขนึ้ -ลง ........ 29
รปู ท่ี 3-8 กราฟแสดงข้อมลู จากเคร่ืองตรวจวดั ระดบั นา้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดบั น้าทะเลข้นึ -ลง ........ 30
รูปที่ 4-1 กราฟแสดงข้อมูลระดับน้าทะเล สถานีตรวจวดั ระดบั น้าทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ
จงั หวัดระยอง (RYG) ต้งั แตเ่ ดือนกันยายน 2563 – เดือนสิงหาคม 2564.............................. 34
รูปท่ี 4-2 กราฟแสดงขอ้ มูลระดบั นา้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดบั น้าทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ
จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ (PKN) ตง้ั แตเ่ ดือนกันยายน 2563 – เดือนสิงหาคม 2564 ............... 35
รูปท่ี 4-3 กราฟแสดงข้อมลู ระดบั นา้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดับนา้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมัติ
จงั หวัดนครศรีธรรมราช (NRT) ต้งั แตเ่ ดือนกนั ยายน 2563 – เดอื นสิงหาคม 2564 .............. 36
รปู ท่ี 4-4 กราฟแสดงข้อมูลระดบั น้าทะเล สถานตี รวจวัดระดบั นา้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ
จังหวดั ระนอง (RNG) ต้งั แต่เดอื นกนั ยายน 2563 – เดือนสงิ หาคม 2564............................. 37
รปู ท่ี 4-5 กราฟแสดงข้อมลู ระดับนา้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดับนา้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอตั โนมตั
จังหวดั ภูเกต็ (PKT) ต้งั แตเ่ ดอื นกันยายน 2563 – เดอื นสงิ หาคม 2564................................ 38
รปู ที่ 4-6 กราฟแสดงข้อมูลระดบั นา้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดับนา้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมตั ิ
จงั หวดั ตราด (TRT) ตัง้ แตเ่ ดือนกันยายน 2563 – เดอื นสิงหาคม 2564................................ 39
รปู ที่ 4-7 กราฟแสดงข้อมลู ระดบั นา้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดับนา้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมตั ิ
จังหวดั ชุมพร (CPN) ตง้ั แต่เดือนกันยายน 2563 – เดือนสิงหาคม 2564............................... 40
รูปท่ี 4-8 กราฟแสดงข้อมูลระดับนา้ ทะเล สถานตี รวจวดั ระดับนา้ ทะเลข้นึ -ลง แบบอตั โนมัติ
จงั หวัดสตลู (STN) ต้ังแต่เดือนกันยายน 2563 – เดอื นสงิ หาคม 2564 ................................. 41
VI
สารบัญตาราง
หน้า
ตารางที่ 3-1 แสดงข้อมลู จากชดุ อุปกรณ์ตรวจวัดภายในสถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลขน้ึ -ลง
แบบอัตโนมตั ิ ................................................................................................................... 22
ตารางที่ 4-1 แสดงข้อมลู ระดบั น้ำทะเลและอัตราการเปล่ียนแปลงระดบั น้ำทะเล................................. 33
VII
สถิติข้อมูลระดับน้ำทะเลจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำข้ึน -ลง
แบบอัตโนมัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
พลอยไพลนิ เอยี ดเสน
บทคัดยอ่
การศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงของระดบั นำ้ ทะเลที่มคี วามสัมพนั ธ์กบั หลักฐานทางธรณีวิทยา
และการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศโลก โดยใช้เครื่องมอื วดั ระดับน้ำทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมัติ ควบคุม
ตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม เป็นโครงการภายใตย้ ุทธศาสตร์ท่ี 5 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แผนงาน 5.2 แผนงานยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบน
สังคมเศรษฐกิจภาคทะเล โครงการสำรวจธรณีวิทยาเพื่อการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝั่ง กิจกรรม
หลัก เสนอแนวทางการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับแต่งระบบ
ตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานอัตโนมัติ ควบคุมตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม
สำหรับการตรวจวดั การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลจากสถานีวดั ระดับน้ำแบบอัตโนมัติ ให้สามารถใช้
งานได้อย่างสมบูรณ์และต่อเนื่อง และเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์กับการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศในประเทศไทย โดยมีการตั้งสมมุติฐานวา่ แผน่ เปลือกในบริเวณทต่ี ั้งสถานีไม่มี
การเปลี่ยนแปลงทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ นำค่าระดับน้ำทะเลของแต่ละสถานี ตั้งแต่เดือนกันยายน
2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2564 รวมระยะเวลา 12 เดือน มาวิเคราะห์หาการเปลี่ยนแปลงในเชิงเส้น แบบ
Least Square Linear Regression พบว่า สถานตี รวจวดั ระดบั นำ้ ทะเล ขึน้ -ลง แบบอตั โนมตั ิ สว่ นใหญ่มี
การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง รวมทั้งสิ้น 6 สถานี มีรายละเอียดดังนี้ สถานีระยอง -0.92
มิลลิเมตร สถานีประจวบคีรีขันธ์ -1.00 มิลลิเมตร สถานีนครศรีธรรมราช -1.04 มิลลิเมตร สถานีระนอง
-0.18 มิลลิเมตร สถานีภูเก็ต -0.24 มิลลิเมตร และสถานีตราด -0.84 มิลลิเมตร ในขณะที่มีการ
เปลีย่ นแปลงของระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 2 สถานี คอื สถานชี มุ พร +1.31 มิลลเิ มตร และสถานสี ตูล +0.22
มิลลิเมตร นอกจากนี้ได้ทำการศึกษาระดับน้ำต่ำสุด-สูงสุด พบว่าในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ
มากสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิดหรือน้ำเป็น (Spring tide) และ ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำน้อย
สัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) อย่างไรก็ดี การวิเคราะห์ระดับน้ำทะเลควรมีข้อมูล 18.6 ปี
(รอบวัฏจกั รของนำ้ ) จึงควรเก็บขอ้ มูลเพ่ือใชใ้ นการศึกษาต่อไป
คำสำคญั : การเปลีย่ นแปลงระดบั นำ้ ทะเล การเปลย่ี นแปลงในเชิงเสน้ น้ำเกดิ -น้ำตาย วัฏจักรของน้ำ
VIII
คำขอบคุณ
ผู้จัดทำรายงานสถติ ขิ อ้ มลู ระดบั นำ้ ทะเลจากสถานตี รวจวัดระดบั น้ำข้ึน-ลง แบบอตั โนมัติ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ขอขอบคุณ นายสุวภาคย์ อิ่มสมุทร ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีธรณี
นายวิเชียร อินต๊ะเสน ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่แหล่งทรัพยากรธรณี นางสาววนิดา ระงับพิศม์
นายศุภวิชญ์ ยอแสงรัตน์ นางสาววันเพ็ญ อ่วมใจบุญ และนายสำราญ ประพัฒน์ ที่ได้มอบหมายงาน
ให้คำแนะนำ ชแี้ นะ แนวทางการทำงาน และสนบั สนนุ ข้อมลู ความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานจนลุล่วง
ตามวตั ถุประสงค์
ท้ายที่สุดขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีทุกท่านที่ได้ให้คำแนะนำ ทำให้การ
ปฏบิ ตั ิงานลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ขอขอบคณุ ทกุ ทา่ นไว้ ณ ทนี่ ี้
บทที่ 1
บทนำ
1.1 หลกั การและเหตุผล
การศกึ ษาการเปลีย่ นแปลงของระดับน้ำทะเลท่ีมคี วามสัมพันธ์กบั หลักฐานทางธรณีวิทยา
และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยใช้เครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมัติ ควบคุม
ตำแหน่งด้วยระบบดาวเทยี ม เป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ท่ี 5 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แผนงาน 5.2 แผนงานยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบน
สังคมเศรษฐกิจภาคทะเล โครงการสำรวจธรณีวิทยาเพื่อการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝ่ัง
กิจกรรมหลัก เสนอแนวทางการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝั่ง สำหรับงบประมาณประจำปี
พ.ศ. 2564 ของโครงการการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลที่มีความสัมพันธ์กับหลักฐานทาง
ธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยใช้เครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบ
อตั โนมตั ิ ควบคุมตำแหนง่ ดว้ ยระบบดาวเทียม จำนวน 1.11 ล้านบาท
กรมทรัพยากรธรณีเป็นหน่วยงานหนึ่งจากหลาย ๆ หน่วยงานที่ได้มีการติดตามการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล โดยในปีงบประมาณ 2556 – 2559 ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องวัด
ระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงแบบอัตโนมัติ จำนวน 8 สถานี ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดตราด จังหวัด
ประจวบครี ขี ันธ์ จังหวัดชมุ พร จังหวัดระนอง จงั หวัดภเู ก็ต จังหวัดนครศรธี รรมราช และจังหวัดสตูล เพ่ือ
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการติดตั้งระบบหาพิกัดดาวเทียมอย่าง
ต่อเนื่อง (Continuous Global Positioning System, CGPS) ที่สถานีวัดน้ำทะเลขึ้น-ลง จังหวัดระยอง
และจงั หวดั นครศรธี รรมราช เพอื่ ศึกษาการทรุดตัวของพืน้ ทสี่ ถานี
1.2 วตั ถุประสงค์
ประเมินประสิทธิภาพและปรับแต่งระบบตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ
ควบคมุ ระบบดาวเทียม สำหรบั การตรวจวดั การเปลยี่ นแปลงของระดบั นำ้ จากสถานรี ะดบั น้ำแบบอัตโนมัติ
ให้สามารถใช้งานไดอ้ ย่างสมบรู ณ์และต่อเนื่อง และเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์กบั
การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย โดยมีการตัง้ สมมตุ ิฐานวา่ แผ่นเปลือกในบริเวณทต่ี ั้งสถานี
ไม่มีการเปลีย่ นแปลงทั้งในแนวดิง่ และแนวราบ
2
1.3 ข้นั ตอนการดำเนินงาน
1. ดำเนินการจัดเก็นข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ
ควบคมุ ตำแหนง่ ดว้ ยระบบดาวเทยี ม อย่างเป็นระบบ
2. ตรวจสอบประสทิ ธภิ าพของเคร่ืองมือภายในสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบ
อัตโนมัติ ควบคุมตำแหน่งดว้ ยระบบดาวเทียม และดำเนินการแกไ้ ขในกรณที ่ีเคร่ืองมือมีความขดั ขอ้ ง
3. จัดทำรายงานสถิติข้อมูลระดับน้ำทะเลจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำขึ้น-ลง แบบ
อตั โนมัติ ประจำปีงบประมาณ 2564
1.4 ระยะเวลาดำเนนิ งาน
ภายในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแตเ่ ดอื นกันยายน 2563 – เดือนสงิ หาคม 2564
1.5 พ้ืนท่ศี ึกษา
พื้นที่ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลที่มีความสัมพันธ์กับหลักฐานทาง
ธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยใช้เครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบ
อตั โนมตั ิ ควบคมุ ตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม ประกอบด้วย 8 สถานี (รูปที่ 1-1) ได้แก่
1. สถานีตรวจวัดระดบั นำ้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอตั โนมัติ จงั หวัดระยอง
2. สถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอตั โนมตั ิ จงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธ์
3. สถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมตั ิ จงั หวดั นครศรีธรรมราช
4. สถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลข้นึ -ลง แบบอตั โนมัติ จงั หวัดระนอง
5. สถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมัติ จงั หวัดภเู กต็
6. สถานตี รวจวัดระดับนำ้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมัติ จงั หวัดตราด
7. สถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมัติ จังหวดั ชุมพร
8. สถานตี รวจวดั ระดบั น้ำทะเลขน้ึ -ลง แบบอตั โนมัติ จงั หวัดสตลู
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ ของกรมทรัพยากรธรณี จะมีการ
ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งมีการตรวจวัดค่าที่สัมพันธ์กับเวลา ประกอบด้วยอุปกรณ์
วัดค่าระดับน้ำทะเล อุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ ความกดอากาศ ความเร็วลม ทิศทางลม และ
ปริมาณน้ำฝนสะสม (รปู ท่ี 1-2)
3
รูปที่ 1-1 แผนที่แสดงสถานีวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมตั ิ ของกรมทรพั ยากรธรณี
4
รปู ท่ี 1-2 แสดงชดุ อปุ กรณต์ รวจวดั บริเวณสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมตั ิ
1.6 ผลการศกึ ษาท่ีเกี่ยวขอ้ ง
สมมาตร์ เนียมนิล และอิทธิ ตริสิริสัตยวงศ์ (2551) ทาการศึกษาแนวโน้มระดับน้าใน
อ่าวไทย จากข้อมูลสถานีวัดระดับน้า พบว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าทะเล เป็นตัวบ่งชี้อย่างหนึ่งถึง
การเปลยี่ นแปลงสภาวะอากาศ โดยเฉพาะภาวะโลกร้อน อัตราการเปลย่ี นแปลงของระดับน้าทะเลของโลก
มีค่าประมาณ 1.8 มม.ตอปี (IPCC,2007) แต่อัตราการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าทะเลเฉพาะพื้นที่ ยังมี
การศึกษาค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทย ยังไม่มีการศึกษาถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
การศึกษาครัง้ น้มี ีวตั ถุประสงค์เพ่ือทราบถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของระดบั นา้ ทะเลระยะยาว
5
สาหรับบริเวณอ่าวไทยโดยใช้ข้อมูลค่าเฉลี่ยรายปีในช่วงปี ค.ศ. 1940-2003 จากสถานี
วัดระดับน้าของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ จานวน 3 สถานี ประกอบด้วย สถานีอ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี
สถานีเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสถานีเกาะมัตโพน จ.ชุมพร จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย
จานวน 1 สถานี คือ สถานีเกาะสีชัง ชลบุรี ผลการศึกษาเบื้องต้น พบว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของ
ระดบั นา้ ทะเลระยะยาว มีคา่ แตกตา่ งกนั โดยสถานีอ่าวสตั หบี จ.ชลบรุ ี สถานเี กาะมัตโพน จ.ชุมพร สถานี
อ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี สถานีเกาะมัตโพน จ.ชุมพร และสถานีเกาะสีชัง จ.ชลบุรี อัตราการเปลี่ยนแปลงของ
ระดับน้าทะเลระยะยาว มีค่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.22 0.51 และ 0.81 มม.ต่อปี ส่วนสถานีเกาะหลัก
จ.ประจวบคีรีขันธ์ อัตราการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าทะเลระยะยาวมีค่าลดลงเฉลี่ย 0.52 มม.ต่อปี
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นวายังมีปัจจัยท้องถิ่นอีกหลายประการที่จะต้องได้รับการวิเคราะห์ ก่อนที่จะ
สามารถสรปุ หาการเปลย่ี นแปลงระดบั น้าทะเลทแ่ี ท้จรงิ ทีก่ าลงั เกิดข้นึ ในอา่ วไทย
รองศาสตราจารย์ ดร.สายสุนีย์ พุทธาคุณเจริญ (2554) ทาการศึกษาอุทกภัยจาก
ระดับน้าทะเลเพิ่มสูงขึ้นภายใต้สภาวะโลก โดยการรวบรวมข้อมูลจากสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง
ระดับน้าทะเล และข้อมูลระดับน้าทะเล แล้วนาข้อมูลมาประมวลผลเพื่อหาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
ระดับน้าทะเล ร่วมกับผลการศึกษาของคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ (Inter-governmental Panel on Climate Change; IPCC) และการศึกษาของ A. Cazenava
และ R.S. Nerem (2004) พบวา่ สาเหตขุ องการเปล่ียนแปลงระดับน้าทะเลมปี จั จยั หลกั 3 ปัจจยั คอื ปัจจัย
ที่หนึง่ คอื การเพม่ิ ขน้ึ ของอุณหภูมิ ทาให้นา้ ทะเลขยายตวั และมีระดับสงู ขึ้น (อัตรา 0.3-0.7 มม.ตอ่ ป)ี และ
น้าแข็งขั้วโลกละลาย (อัตรา 0.2-0.4 มม.ต่อปี) (สุภัทท์ วงศ์วิเศษสมใจ, 2554) ปัจจัยที่สองคือการเกิด
คลื่นสึนามิจากการยกตัวขึ้นและการทรุดตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และปัจจัยที่สามคืออิทธิพลของภูมิ
ประเทศ ภูมิอากาศ กระแสน้าอุ่น กระแสน้าเย็นในมหาสมุทร โดยทาการศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
ระดับน้าทะเลในน่านน้าประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลจากกรมอุทกศาสตร์ จาก 3 สถานีประกอบด้วย สถานี
เกาะตะเภาน้อย จ.ภูเก็ต สถานีเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสถานีสัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างปี พ.ศ.
2483-2549 ระยะเวลา 67 ปี พบวา่ ระดบั น้าทะเลของประเทศไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากน่านน้า
ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปกติไม่มากนัก และอยู่ห่างจากบริเวณน้าแข็งขั้ว
โลกจึงไม่ไดร้ ับอิทธิพลจากน้าแข็งละลายและชายฝ่ังทะเลของประเทศไทยท่กี าลังประสบปัญหานา้ ทะเลรุก
เขา้ ไปในพ้นื ที่ซ่ึงเคยเป็นแผ่นดนิ อย่างรวดเรว็ ในเวลาไม่กปี่ ีที่ผ่านมานี้ ไมไ่ ด้มีสาเหตจุ ากน้าทะเลเพ่ิมสูงขึ้น
แต่อย่างใด
อิทธิ ตรสิ ริ สิ ตั ยวงศ์ (2555) ทาการศึกษาการเปลย่ี นแปลงระดบั น้าทะเลในอ่าวไทย และ
นาเสนอผลงานในงานประชุมวิชาการ สวทช. โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วน คือการศึกษาการ
เปลี่ยนแปลงระยะยาว คือใช้ข้อมูลประมาณ 65 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1940 - 2004 จากสถานีวัดระดับน้ากรม
อุทกศาสตร์ และการศึกษาการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น ใช้ข้อมูล 17 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1993-2009 จาก
6
ดาวเทียมอัลติเมตรี (Satellite Altimetry) พบว่าการเปลี่ยนแปลงระดับน้าทะเลเฉลี่ยในบริเวณต่าง ๆ
ของอ่าวไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นในระดับ 3-5 มม.ต่อปี อ่าวไทยตอนบนและชายฝั่งกัมพูชาเป็นบริเวณที่มีการ
เพิ่มข้ึนของระดับน้าทะเลเฉลี่ยสูงกว่าบริเวณอื่น ๆ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเล
เฉลี่ยในอา่ วไทยมอี ตั ราเรง่ ดังเช่นทีต่ รวจพบในการศึกษาที่ครอบคลุมทั้งโลกในระยะหลงั (ประมาณ 0.013
มม.ต่อปี Church and white, 2006 และ Jevrejeva et al, 2008) และไม่พบบริเวณใดของอ่าวไทยที่มี
อตั ราการลดระดับของทะเลเฉลย่ี
ณัฐวุฒิ อนิ ทบตุ ร และวิษุวฒั ก์ แตส้ มบัติ (2557) ไดท้ าการศึกษาการรุกล้าของความเค็ม
และการแพร่กระจายความเค็มตามความยาวของลาน้าในแม่น้าท่าจีน โดยการประยุกต์ใช้แบบจาลอง
คณิตศาสตร์เพื่อพยากรณ์การแพร่กระจายตามแนวยาวลาน้าและการรุกล้าความเค็มในแม่น้าท่าจีน
ผลการศึกษาจากแบบจาลองการพัดพาและการแพร่กระจาย พบว่าแม่น้าท่าจีนมีค่าสัมประสิทธิ์การ
แพร่กระจายเท่ากับ 400 ตารางเมตรต่อวินาที ซึ่งได้จากข้อมูลช่วงปี พ.ศ. 2553 และผลการศึกษาการ
เปลี่ยนแปลงของระดับน้าทะเล พบว่าค่าเฉลี่ยของระดับน้าทะเลที่เพิ่มขึ้นในบริเวณปากแม่น้าจะสูงกว่า
ระดับน้าทะเลในบริเวณอื่นของอ่าวไทยซึ่งมีการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเลประมาณปีละ 3.1 มม. ซ่ึง
สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเลทั่วโลก โดยบริเวณปากแม่น้าท่าจีนมกี ารเพิ่มขึ้นของระดับน้า
ทะเลประมาณปีละ 19.2 มม. ซึ่งค่าดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากผลกระทบของการทรุดตัวของแผ่นดิน
ประมาณ 14.5 มม.ต่อปี ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเลที่แท้จริงจึงคิดเป็นประมาณ 4.7 มม.ต่อปี
โดยการเพิ่มขึ้นของน้าทะเลดังกล่าวจะทาให้ค่าความเค็มรุกล้าไปในแม่น้าเป็นระยะทางที่ไกลขึ้น ผลการ
พยากรณ์การรกุ ล้าของความเคม็ ในอนาคตของปี พ.ศ. 2558 2563 และ 2568 พบว่าค่าความเค็มจะรกุ ล้า
เข้าไปเป็นระยะทางสูงสุด 55 กิโลเมตรจากปากแม่น้าโดยคิดเป็นระยะทางที่เพิ่มขึ้นจากสภาพปัจจบุ ัน 3
กิโลเมตรตามแนวยาวลาน้า ค่าความเค็มที่รุกล้าดังกล่าวนีจ้ ะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมริมสองฝง่ั
แม่น้า ดังนนั้ จึงจาเปน็ ต้องหามาตรการในการควบคมุ ความเคม็ เพื่อลดผลกระทบตอ่ ไป
เครือข่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งประเทศไทย (2562) สรุปผลการ
ดาเนินงานในระยะแรก (พ.ศ. 2562) การเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเล จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลง
ระดับน้าทะเลในบริเวณโดยรอบประเทศไทยที่ผ่านมาทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลสถานีวัดระดับน้าและข้อมูล
จากดาวเทียมประเภทอัลติมิเตอร์ พบว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับน้าทะเลระดับท้องถิ่นในบริเวณ
ใกล้เคยี งกบั ประเทศไทย มคี า่ อยใู่ นชว่ ง 3.6-6.6 มม.ต่อปี โดยระดับน้าทะเลมคี ่าสงู บริเวณอา่ วไทยตอนใน
ซึง่ ค่าทไ่ี ดใ้ กลเ้ คยี งกบั อตั ราการเพ่ิมขึ้นของระดับน้าทะเลในทะเลจีนใต้ 5-8 มม.ตอ่ ปี การศึกษาล่าสุดด้วย
วิธีการวิเคราะห์ระดับน้าแบบไม่เป็นเชิงเส้นและวิธเี ชิงเส้นแบบมาตรฐานในบริเวณอ่าวไทยและอันดามัน
พบว่า อัตราเฉลี่ยของการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเลเชิงสัมพัทธ์ในบริเวณชายฝั่งของประเทศไทยมี
ค่าประมาณ 6 มม.ต่อปี โดยผลการศึกษา ยังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนในแนวดิ่งของพื้นดิน มี
ส่วนอย่างมากต่ออัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน ้าทะเลเชิงสัมพัทธ์ในสเกลเ ล็กของการเพิ่มขึ้นของ
7
ระดับน้าทะเล โดยอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20 มม.ต่อปี หรือมากกว่าค่าเฉลีย่ ของโลกถึง 5-10 เท่า
พบทสี่ ถานีตรวจวดั นา้ บริเวณใกลๆ้ กรุงเทพมหานครท่ีซึง่ เปน็ ท่ีที่มีการสูบนา้ บาดาล ทาให้เกิดแผน่ ดินทรุด
อยา่ งสงู นอกจากน้ี ยงั พบวา่ อัตราการเพิ่มข้ึนของระดับนา้ ทะเลเชงิ สัมพทั ธ์ เพ่มิ ข้นึ อยา่ งมนี ยั สาคัญเกือบ
ทุกสถานีตรวจวดั ระดับนา้ หลงั จากเหตุการณ์แผน่ ดนิ ไหวสุมาตรา-อันดามนั โดยอตั ราการเพม่ิ ในช่วงล่าสุด
มีความแตกต่างเชิงพื้นที่น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราในอดีต แต่มีอัตราการเพิ่มประมาณ 20-30
มิลลิเมตรต่อปี เกือบทุกสถานี นอกจากนี้ผลการศึกษาผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้าทะเลด้วย
แบบจาลองทางคณิตศาสตร์ พบว่า พื้นที่ที่น้าทะเลรุกล้ามากที่สุดคือ พื้นที่ชายฝั่งตอนเหนือของอ่าวไทย
โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายฝั่งระหว่างแม่นา้ เจ้าพระยากับแม่น้าท่าจนี จะได้รับผลกระทบมากกว่าบริเวณ
ชายฝั่งอื่นๆ ทั้งนี้ ผลกระทบจากการเพิ่มขึ้น มีความรุนแรงอย่างชัดเจนในกรณีที่ไม่สามารถหยุดสูบน้า
บาดาลซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดแผ่นดินทรุดอย่างต่อเนื่อง ผลการศึกษายังพบว่าพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของ
กรงุ เทพฯ โดยเฉพาะบริเวณสนามบนิ สวุ รรณภมู ิ จังหวดั สมุทรปราการและพ้ืนท่ีใกล้เคียง ไดร้ ับผลกระทบ
มากกวา่ บริเวณอืน่ เน่อื งจากพนื้ ท่บี รเิ วณดังกลา่ วเปน็ พืน้ ที่ลุม่ โดยรวมแลว้ พน้ื ที่บริเวณชายฝ่งั ตอนบนของ
อา่ วไทยรูปตัว ก ไดร้ บั ผลกระทบมากกวา่ บริเวณอืน่ ๆ
บทท่ี 2
สถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ
2.1 ขอ้ มูลสถานตี รวจวดั ระดบั นำ้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมตั ิ
กรมทรัพยากรธรณีได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ
ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 จำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีระยอง ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ระนอง และ
ภูเก็ต และต่อมาได้ติดตั้งเพิ่มเติมอีกใน พ.ศ. 2559 จำนวน 3 สถานี ได้แก่ ตราด ชุมพร และสตูล ซึ่งมี
รายละเอยี ดดงั นี้
2.1.1 สถานีตรวจวดั ระดบั นำ้ ทะเลข้นึ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จงั หวดั ระยอง (RYG)
สถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอตั โนมตั ิ จงั หวดั ระยอง (รปู ที่ 2-1) ปรากฏบน
แผนที่ภูมิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7018 ระวาง 5234II
จังหวัดระยอง พิกัด 763859E 1394500N ได้ตั้งอยู่บริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่ง
ตะวันออก ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ภายในความรับผิดชอบของกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มกี ารสง่ ข้อมูลเขา้ เครือ่ งแม่ขา่ ยต้ังแต่ 15 มีนาคม 2559
รปู ที่ 2-1 แสดงสถานีตรวจวัดระดบั นำ้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอตั โนมัติ จังหวัดระยอง
2.1.2 สถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ จงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์
(PKN)
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (รูปที่ 2-2)
ปรากฏบนแผนท่ีภูมิประเทศของกรมแผนทีท่ หาร ปี 2542 มาตราสว่ น 1:50,000 ลำดับชดุ L7018 ระวาง
9
4932I จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พิกัด 587338E 1305457N ได้ตั้งอยู่บริเวณสะพานท่าเทียบเรือองค์การ
บริหารสว่ นจงั หวัดประจวบคีรีขันธ์ ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในความรับผิดชอบ
ขององค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์ มกี ารส่งข้อมลู เข้าเครือ่ งแมข่ ่ายต้ังแต่ 15 มนี าคม 2559
รูปท่ี 2-2 แสดงสถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลขนึ้ -ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์
2.1.3 สถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลข้นึ -ลง แบบอตั โนมตั ิ จังหวดั นครศรธี รรมราช
(NRT)
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดนครศรีธรรมราช (รูปที่ 2-3)
ปรากฏบนแผนทภ่ี มู ิประเทศของกรมแผนท่ีทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชดุ L7018 ระวาง
4927II อำเภอขนอม พิกัด 601556E 995435N ไดต้ ้ังอยบู่ ริเวณศูนยว์ จิ ยั และพัฒนาประมงชายฝั่ง ต.สิชล
อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ภายในความรับผิดชอบของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการส่ง
ขอ้ มูลเขา้ เครอื่ งแมข่ า่ ยตง้ั แต่ 1 ตุลาคม 2558
รูปท่ี 2-3 แสดงสถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลขึน้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จังหวดั นครศรธี รรมราช
10
2.1.4 สถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเลขน้ึ -ลง แบบอตั โนมตั ิ จังหวดั ระนอง (RNG)
สถานตี รวจวัดระดับนำ้ ทะเลขนึ้ -ลง แบบอัตโนมัติ จงั หวดั ระนอง (รูปที่ 2-4) ปรากฏบน
แผนที่ภูมิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7018 ระวาง 4728IV
จังหวัดระนอง พิกัด 456964E 1106141N โดยตั้งอยู่ภายในท่าเรือระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
เปน็ หนว่ ยงานในสงั กดั การทา่ เรือแห่งประเทศไทย มีการสง่ ขอ้ มลู เข้าเครื่องแม่ข่ายตั้งแต่ 23 มถิ ุนายน 2559
รปู ท่ี 2-4 แสดงสถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลขนึ้ -ลง แบบอตั โนมัติ จังหวัดระนอง
2.1.5 สถานตี รวจวดั ระดบั นำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดภเู กต็ (PKT)
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดภูเก็ต (รูปที่ 2-5) ได้ปรากฏ
บนแผนที่ภูมิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7018 ระวาง
4624I จังหวัดภูเก็ต พิกัด 434556E 862398N ตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจยั และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝั่งอันดามัน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม มีการส่งขอ้ มลู เข้าเคร่อื งแมข่ ่ายตั้งแต่ 15 มนี าคม 2559
รูปที่ 2-5 แสดงสถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลขน้ึ -ลง แบบ อตั โนมัติ จังหวดั ภเู ก็ต
11
2.1.6 สถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเลขนึ้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดตราด (TRT)
สถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จังหวัดตราด (รูปที่ 2-6) ปรากฏบน
แผนที่ภูมิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7018 ระวาง 5433III
อำเภอแหลมงอบ พิกัด 215973E 1346378N ตั้งอยู่ภายในท่าเรือแหลมงอบ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ
จ.ตราด มีการสง่ ขอ้ มูลเขา้ เครื่องแมข่ ่ายตง้ั แต่ 16 กรกฎาคม 2559
รูปที่ 2-6 แสดงสถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลขน้ึ -ลง แบบ อตั โนมตั ิ จังหวดั ตราด
2.1.7 สถานีตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอตั โนมตั ิ จังหวัดชมุ พร (CPN)
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดชุมพร (รูปที่ 2-7) ปรากฏบน
แผนที่ภูมิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7018 ระวาง 4829III
อำเภอสวี พิกัด 519055E 1106114N ได้ตั้งอยู่บริเวณสะพานปลาแหลมริ่ว ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน
จ.ชุมพร ซง่ึ เปน็ พน้ื ที่ส่วนบุคคล มีการสง่ ข้อมูลเข้าเครื่องแม่ขา่ ยต้งั แต่ 21 กรกฎาคม 2559
รปู ที่ 2-7 แสดงสถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลขนึ้ -ลง แบบอัตโนมตั ิ จงั หวัดชมุ พร
12
2.1.8 สถานีตรวจวดั ระดบั นำ้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอตั โนมตั ิ จงั หวดั สตลู (STN)
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติของกรมทรัพยากรธรณี (รูปที่ 2-8)
ปรากฏบนแผนท่ภี มู ิประเทศของกรมแผนที่ทหาร ปี 2542 มาตราส่วน 1:50,000 ลำดบั ชุด L7018 ระวาง
4922IV บ้านปากบารา พิกัด 579774E 758444N ได้ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู
จ.สตูล ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล มีการส่ง
ขอ้ มลู เขา้ เคร่อื งแม่ข่ายตง้ั แต่ 21 กรกฎาคม 2559
รปู ท่ี 2-8 แสดงสถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลข้ึน-ลง แบบอตั โนมตั ิ จงั หวัดสตลู
2.2 ระบบการตรวจวดั ค่าระดบั นำ้ ทะเล
ระบบตรวจวดั ค่าระดับทะเลน้ำขึน้ -ลง แบบอัตโนมัติ เป็นระบบที่ถูกออกแบบมาเพือ่ วดั
ค่าระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง จากสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานกำหนด โดยระดับน้ำทะเลที่ได้จากการวัดนี้จะเป็น
ระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าจากจุดต่ำสุดของระดับน้ำทะเลปานกลาง ข้อมูลที่ได้จะถูกจัดเก็บลงในอุปกรณ์ท่ี
ตดิ ตัง้ อย่ตู ามสถานตี า่ งๆ และสง่ ผา่ นขอ้ มูลมายงั เครื่องแม่ข่าย (Server) ทต่ี ดิ ตง้ั อยู่ ณ กรมทรัพยากรธรณี
ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลและการตั้งค่า Configuration ผ่านโปรแกรมที่ติดต้ังภายในเครื่องแมข่ ่าย
(Server) ดังกล่าว สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ จะประกอบด้วยชุดอุปกรณ์ต่างๆ
ประกอบดว้ ย 5 สว่ นหลกั ไดแ้ ก่ ชุดอปุ กรณ์ประมวลผลข้อมูล และจัดเกบ็ ขอ้ มลู ชดุ อปุ กรณ์รับ-ส่งส่ือสาร
ข้อมูล ชุดอุปกรณ์แหล่งจา่ ยพลงั งาน ชุดอุปกรณ์ตรวจวัด และชุดคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับการจัดการ
ข้อมูล ซ่งึ มีรายละเอยี ดดังน้ี
2.2.1 ชุดอปุ กรณป์ ระมวลผลขอ้ มลู และจดั เกบ็ ขอ้ มลู
ชุดอุปกรณ์ประมวลผลข้อมูล ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผล (CPU) หน่วยรับข้อมูล
เข้า-ออก (Input and Output Module) หน่วยสื่อสารข้อมูล (Communication Module) และ
หน่วยความจำบันทึกข้อมูล (Memory Storage) เรียกว่า Data Logger และชุดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
13
(Data Logger) (รูปที่ 2-9) ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บขอ้ มูลและประมวลผลข้อมูลท่ีได้จากชุดอุปกรณต์ รวจวัด
ต่างๆที่ติดตั้งอยู่ภายในสถานี โดยข้อมูลที่จัดเก็บได้ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บลงในหน่วยความจำ (SD Card)
ก่อนจะส่งข้อมูลชุดดังกล่าวไปยัง Server ผ่านทางระบบสื่อสารแบบ 3G หรือ GPRS ด้วยชุดอุปกรณ์รับ-
สง่ สือ่ สารขอ้ มลู (Communication Module)
รปู ท่ี 2-9 แสดงชดุ อุปกรณป์ ระมวลผลขอ้ มูลและจัดเก็บขอ้ มลู
2.2.2 ชดุ อปุ กรณ์รบั -ส่งสือ่ สารข้อมูล
ชุดอุปกรณ์รับ-ส่งสื่อสารข้อมูล ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแปลงข้อมูลเพื่อการรับ-ส่ง
ข้อมูลที่อยู่ภายในชุดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Data Logger) ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการตรวจวัดหรือข้อมูลการ
ตั้งค่า Configuration ประจำสถานี โดยการกระบวนการนำสัญญาณ (Modulation) ข้อมูลที่ได้แล้ว
สง่ ผ่านระบบส่อื สารแบบ 3G หรือ GPRS สง่ ไปท่ี Server ตอ่ ไป
2.2.3 ชุดอปุ กรณ์แหล่งจา่ ยพลังงาน
ชุดอุปกรณ์แหล่งจา่ ยพลงั งาน ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายและสำรองพลังงานให้กบั อุปกรณ์
ที่อยู่สถานีตรวจวัดทั้งหลาย โดยจะทำการแปลงพลังงานที่ได้จากเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell)
(รปู ท่ี 2-10) ไปเก็บไวย้ งั แบตเตอร่ี (Battery) เพื่อสำรองและจ่ายพลงั งาน
รูปที่ 2-10 แสดงชุดอปุ กรณแ์ หล่งจา่ ยพลังงาน
14
2.2.4 ชดุ อุปกรณ์ตรวจวัด
ชุดอุปกรณ์ตรวจวัด ทำหน้าที่สำหรับตรวจวัดสภาวะแวดล้อมต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย 7
ส่วน ได้แก่ อุปกรณ์วัดค่าระดับน้ำทะเล อุปกรณ์วัดค่าอุณหภูมิและความชื้น อุปกรณ์วัดค่าความกด
อากาศ อุปกรณ์วัดทิศทางและความเร็วลม อุปกรณ์วัดปริมาณน้ำฝน อุปกรณ์วัดค่าพิกัด และอุปกรณ์
ตรวจจบั ความเคลือ่ นไหว ซงึ่ มีรายละเอยี ดดังน้ี
2.2.4.1 อุปกรณ์วดั คา่ ระดบั น้ำทะเล (Tide Gauge)
ใช้หลักการทำงานการสะท้อนกลับของเรดาร์ โดยอุปกรณ์จะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุใน
รูปแบบ pulse โดยส่งเป็นช่วงๆ ส่งและหยุด สลับกันไป (เพื่อให้เครื่องรับมีช่วงเวลาที่จะรับสัญญาณที่
สะท้อนกลับมา) จากนั้นอุปกรณ์จะทำการคำนวณช่วงเวลาการสะท้อนกลับแปลงเป็นค่าสัญญาณไฟฟ้า
(รปู ที่ 2-11)
รูปที่ 2-11 แสดงอุปกรณ์วัดคา่ ระดบั น้ำทะเล (Tide Gauge)
2.2.4.2 อปุ กรณว์ ดั คา่ อณุ หภูมแิ ละความชนื้ (RH Temp. sensor)
โดยการวัดอุณหภูมิจะใช้เทอร์โมมิเตอร์เป็นตัววัดความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
กล่าวคือค่าความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิตามหลักการของสารกึ่งตัวนำ เมื่ออุณหภูมิ
เพิ่มขึ้นความต้านทานจะลดลง คุณลักษณะนี้ เรียกว่า “สัมประสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเป็นลบ”
(NTC) การเปลย่ี นแปลงน้จี ะแปรตามความไม่บรสิ ุทธิใ์ นการเจือปน หากเจือปนมากเกนิ ไป สารกงึ่ ตัวนำจะ
มสี มั ประสิทธข์ิ องอณุ หภูมิเปน็ บวก
การวดั ความช้ืนสมั พัทธ์ จะวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปเม่ือเกิดความช้ืนและการ
อุ้มน้ำ ซึ่งอุปกรณ์จะประกอบด้วยเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก ซึ่งจะทำหน้าที่วัดค่าความชื้นในบรรยากาศ และ
วงจรอิเล็กทรอนิกสข์ นาดเลก็ ท่ีจะทำการแปลงค่าสัญญาณท่ีได้ ใหก้ ับอุปกรณ์ประมวลผล (รูปที่ 2-12)
15
รปู ที่ 2-12 แสดงอุปกรณว์ ัดคา่ อณุ หภมู ิและความชืน้ (RH Temp. sensor)
2.2.4.3 อปุ กรณ์วัดคา่ ความกดอากาศ (Barometer)
อุปกรณ์วัดค่าความกดอากาศประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจวัดความกดอากาศ
(รปู ที่ 2-13) โดยอุปกรณ์จะสร้างแรงดันไฟฟ้าทเ่ี ปลี่ยนแปลงตามความกดอากาศ กอ่ นจะส่งผ่านสัญญาณ
แรงดนั ไฟฟ้าให้กับอุปกรณแ์ ปลงคา่ ตอ่ ไป
รปู ท่ี 2-13 แสดงอุปกรณว์ ัดคา่ ความกดอากาศ (Barometer)
2.2.4.4 อปุ กรณว์ ัดทศิ ทางและความเรว็ ลม (Wind Direct and Speed
Sensor)
ใช้หลักการวัดค่าเวลาสะท้อนกลับของคลื่นเสียงผ่าน transducer โดยแบ่งเป็น 4
ทิศทาง หากมีลมเข้ามาทิศทางใดจะทำให้ช่วงเวลาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จากนั้นจะส่งข้อมูลที่ได้ผ่าน
วงจรควบคมุ แปลงเปน็ สัญญาณทางไฟฟา้ ต่อไป (รูปที่ 2-14)
16
รูปท่ี 2-14 แสดงอุปกรณ์วัดทศิ ทางและความเร็วลม (Wind Direct and Speed Sensor)
2.2.4.5 อุปกรณว์ ดั ปรมิ าณนำ้ ฝน (Precipitation Gauge)
อุปกรณ์วัดปริมาณน้ำฝนจะใช้เครื่องมือแบบถาดกระดก (Tipping Bucket) โดย
Bucket จะถูกต่อเข้ากับสวิตซ์ และนำเอาสัญญาณจากสวิตซ์มาต่อเข้ากับ Digital Input ของ RTU ซึ่ง
ลกั ษณะของสัญญาณเปน็ สัญญาณ Pulse โดยปริมาณนำ้ ฝนท่ที ำใหเ้ กดิ สญั ญาณ Pulse 1 สัญญาณหรอื 1
ครั้ง จะมีค่า 0.1, 0.2, 0.5, 1.0, หรือ 2.0 มิลลิเมตร ตามข้อกำหนดของเครื่องวัดปริมาณน้ำฝน
(รูปท่ี 2-15)
รปู ท่ี 2-15 แสดงอุปกรณว์ ัดปรมิ าณน้ำฝน (Precipitation Gauge)
2.2.4.6 อุปกรณ์วดั คา่ พิกดั (GPS)
การวัดพิกัดสถานีจะใช้เครื่องวัดพิกัดตามมาตรฐาน NEMA 0183 ซึ่งจะส่งข้อมูลต่างๆ
ออกมาในรปู แบบขอ้ ความ (Text or Sentence) โดย Output ของเครื่องมอื วัดพิกดั ดาวเทยี มจะถูกส่งต่อ
17
เข้ากับ Serial Port Interfaces ของ Data Logger ซึ่งภายในตัว Data Logger จะนำเอาข้อความที่ได้นี้
มาทำการดงึ เอาขอ้ มูล Latitude และ Longitude เพ่ือแสดงผลใหผ้ ใู้ ช้งานทราบ (รูปที่ 2-16)
รูปท่ี 2-16 แสดงอุปกรณ์วัดค่าพิกดั (GPS)
2.2.4.7 อุปกรณ์ตรวจจับความเคลอื่ นไหว (Motion sensor and Alarm)
หลักการตรวจจับความร้อนและการเคลื่อนไหว โดยใช้เซ็นเซอร์ที่เรียกว่า PIR ซึ่งเป็น
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถในการตรวจจับรังสีอินฟราเรด ที่แผ่ออกมาจาก
ตัวคนหรือสัตว์ จะมีรังสีความร้อนแผ่ออกมารอบๆ ในปริมาณที่แน่นอนอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเกิดการ
เคลอ่ื นไหว หรอื เคลอ่ื นท่ี กจ็ ะทำให้อณุ หภมู ใิ นบรเิ วณนัน้ เกิดการเปลีย่ นแปลง ส่งผลให้คล่ืนรังสคี วามร้อน
ที่ว่านี้แผ่กระจายออกมา ซึ่งอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (รูปที่ 26) จะถูกติดตั้งควบคู่กับอุปกรณ์
สัญญาณเตอื น (รูปที่ 2-17)
รปู ที่ 2-17 แสดงอุปกรณต์ รวจจบั ความเคลือ่ นไหวและอุปกรณ์สัญญาณเตือน (Motion sensor
and Alarm)
18
2.2.5 ชดุ คอมพิวเตอรแ์ มข่ ่ายสำหรบั การจดั การข้อมูล
ชุดคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับการจัดการข้อมูล ทำหน้าที่ในการเรียกดูข้อมูลจากชุด
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Data Logger) ซึ่งติดตั้งประจำสถานีตรวจวัด นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า
Configuration ผ่านระบบสื่อสารซึ่งในมรานี้คือเครือข่าย 3G หรือ GPRS นั่นเอง สำหรับข้อมูลที่ได้จาก
ชุดอุปกรณ์จดั เก็บขอ้ มูล (Data Logger) นัน้ แบ่งเปน็ ขอ้ มูลในรูปของ Text และข้อมลู ภาพ และข้อมูลท่ีได้
นี้จะถูกนำไปจัดการและจัดเก็บอยู่ใน Data Base ตามโปรแกรมที่ได้จัดสรรไว้ ซึ่งในที่นี้ได้แก่ โปรแกรม
Geonica TeleTrans W4K และ DataGraph–W4K 2.1.3.0
โปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K” เป็นโปรแกรมการจัดการและแสดงผลข้อมลู ท่ี
ถูกติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย หรือติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นโปรแกรมหลัก
สำหรับการจัดการเครื่องมือ Data Logger (รูปที่ 2-18) ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูล (Monitoring)
การบันทึกข้อมูลสู่ฐานข้อมูล (Data Base storage and Management) การตั้งค่าเครื่องมือ (Data
Logger Configuration) และการก้คู นื ขอ้ มูล (Stored Value or Data Recovery) (รปู ที่ 2-19)
รปู ท่ี 2-18 แสดงโปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K”
รปู ที่ 2-19 แสดงแถบการใชง้ านของโปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K”
19
โปรแกรม “DataGraph–W4K 2.1.3.0” เป็นโปรแกรมการจัดการฐานข้อมูลและ
แสดงผลที่ถูกติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย หรือติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เช่นเดียวกับ
โปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K” แตม่ ีหน้าท่เี พียงการจัดการฐานข้อมูลและการสอบถามข้อมูล ที่
มอี ยู่ในฐานข้อมลู ซ่งึ ผ้ใู ชง้ านสามารถเรยี กดูขอ้ มลู ย้อนหลังได้ (รูปท่ี 2-20)
รูปที่ 2-20 แสดงการใช้งานของโปรแกรม “DataGraph–W4K 2.1.3.0”
ข้อมูลที่ได้จาก Sensor ที่ได้จากการตรวจวัดจะถูกบันทึกและจัดเก็บในรูปแบบไฟล์ท่ี
เป็นมาตราฐานของอุปกรณ์ Data Logger ซึง่ ผใู้ ช้งานสามารถเรยี กดขู ้อมลู ตา่ งๆเหล่าน้ีได้ในรปู แบบ Text
ด้วยโปรแกรม “Geonica TeleTrans W4K” หรือเรียกดูข้อมูลย้อนหลังผ่านโปรแกรม “DataGraph–
W4K 2.1.3.0” ได้โดยตรง และส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายระบบสื่อสาร (Communication Network) ไปยัง
เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ม่ข่าย
ในทุกๆ 10 นาทีชุดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Data Logger) จะทำการคำนวณค่าที่ได้จาก
Sensor ในแตล่ ะชว่ งเวลา แลว้ เก็บขอ้ มูลลงในหน่วยความจำบันทึกข้อมลู (Memory Storage) เอาไว้เพ่ือ
ส่งตอ่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วไปให้กบั เครอื่ งคอมพิวเตอร์แมข่ า่ ยท่ีกรมทรพั ยากรธรณเี พื่อทำการบนั ทึกข้อมูลท่ีได้
บทที่ 3
ความสมั พนั ธข์ องชุดอปุ กรณ์ตรวจวัดต่างๆ กับข้อมลู ระดบั นำ้ ทะเล
3.1 การศึกษาความสัมพันธ์ของข้อมูลจากชุดอุปกรณ์ตรวจวัดต่างๆ กับการ
เปล่ยี นแปลงระดบั น้ำทะเล
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติแต่ละสถานี จะประกอบไปด้วย
อุปกรณ์ตรวจวัดสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ได้แก่ ระดับน้ำทะเล อุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ ความกด
อากาศ ความเร็วลม ทิศทางลม และปริมาณน้ำฝน (ตารางที่ 3-1) ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลทุกๆ 10 นาที
ทั้งนี้ข้อมูลต่างๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นจะใช้ในการแปลความหมายร่วมกับข้อมูลระดับน้ำทะเล ซึ่งจะกล่าว
โดยสังเขปต่อไป เพ่อื การศึกษาสาเหตุของการเพิม่ ข้นึ หรือลดลงอย่างไม่ปกติ ซง่ึ ขอ้ มลู เหล่าอาจเปน็ ปัจจัย
ท่ีสง่ เสรมิ ให้ระดบั นำ้ มีการเพ่ิมข้ึนหรอื ลดลงได้ ซึ่งมรี ายละเอยี ดดงั น้ี
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดระยอง (รูปที่ 3-1) มีแนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลงของระดับนำ้ ทะเลลดลง ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมทิ ี่เพิ่มขึ้น
และความกดอากาศที่ลดลง นอกจากนั้นค่าความเร็วลมยังมีแนวโน้มที่เพ่ิมสูงขึ้น ปริมาณน้ำฝนมีแนวโน้ม
ลดลง และไดร้ ับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใตก้ ำลังแรงและลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนอื เปน็ หลกั
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (รูปที่ 3-2)
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง ไม่สอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของ
อณุ หภมู ิและความชืน้ สัมพัทธ์ท่ีเพม่ิ ข้นึ ความกดอากาศลดลง นอกจากน้ันความเรว็ ลมและปริมาณน้ำฝนมี
แนวโน้มลดลง และได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใตก้ ำลังแรงเป็นหลัก
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดนครศรีธรรมราช (รูปที่ 3-3)
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง ไม่สอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของ
อุณหภูมิที่เพม่ิ ขึ้น ความกดอากาศและความชื้นสมั พทั ธท์ ล่ี ดลง นอกจากนน้ั ความเรว็ ลมและปริมาณน้ำฝน
ยงั มแี นวโน้มทเี่ พ่ิมขึน้ และได้รบั อทิ ธิพลจากลมตะวันตกเฉยี งเหนอื เปน็ หลัก
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดระนอง (รูปที่ 3-4) แนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง ไม่สอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
ความช้ืนสัมพัทธ์ ความกดอากาศ และความเร็วลมที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นปริมาณน้ำฝนยังมีแนวโน้มท่ี
ลดลง และได้รับอทิ ธิพลจากลมทางฝัง่ ตะวันออกเป็นส่วนใหญ่
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดภูเก็ต (รูปที่ 3-5) แนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง ไม่สอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
21
ความกดอากาศ และความเร็วลมท่ีเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นปริมาณน้ำฝนยังมีแนวโน้มท่ีลดลง และได้รับ
อิทธิพลจากลมในเกือบทกุ ทิศทาง
สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดตราด (รูปที่ 3-6) แนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง ไม่สอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่
เพิ่มข้นึ และความกดอากาศทลี่ ดลง นอกจากน้นั คา่ ความเรว็ ลมยังมีแนวโน้มทเี่ พ่ิมสูงขึ้น ในขณะท่ีปริมาณ
น้ำฝนมแี นวโนม้ ลดลง และไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้กำลังแรงและลมมรสมุ ตะวันตกเฉียง
เหนือกำลงั อ่อนเปน็ หลกั
สถานตี รวจวดั ระดับนำ้ ทะเลขึน้ -ลง แบบอตั โนมัติจังหวัดชมุ พร (รปู ท่ี 3-7) แนวโน้มการ
เปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ไม่ความสอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
และความชื้นสัมพัทธ์ที่ลดลง ในขณะท่ีความกดอากาศท่ีเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นความเร็วลมยังมีแนวโน้มท่ี
เพิ่มสูงขึ้น และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้กำลังแรงและลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ
กำลังออ่ นเปน็ หลกั
สถานีตรวจวัดระดบั น้ำทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดสตูล (รูปที่ 3-8) แนวโน้มการ
เปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น มีความสอดคล้องตรงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิท่ี
เพิ่มสูงขึ้นและความชื้นสัมพัทธ์ที่ลดลง ในขณะที่ความกดอากาศ และความเร็วลมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นปริมาณน้ำฝนยังมีแนวโน้มท่ีลดลง และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็น
หลัก
จากการศึกษาข้างต้นพบว่าแนวโน้มของข้อมูลที่แสดงสภาวะอากาศ ส่วนใหญ่ไม่
สอดคล้องกับแนวโนม้ การเปล่ียนแปลงของระดับนำ้ ทะเล เนื่องจากขอ้ มูลทใ่ี ช้ในการศึกษาคร้ังน้ีเป็นข้อมูล
ระยะสน้ั จงึ ไมค่ รอบคลมุ แนวโน้มการเปล่ียนแปลงโดยรวมมากนกั
อย่างใรก็ตาม สำหรับการศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงระดบั น้ำทะเลในระยะยาว จำเป็นอย่าง
ยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาข้อมูลระดับน้ำทะเล ร่วมกับข้อมูลความเร็วลม ทิศทางลม อุณหภูมิอากาศ
ความชื้นสัมพัทธ์ ความกดอากาศ และปริมาณน้ำฝน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีลักษณะเป็นพลวัต
(Dynamics) โดยมีลักษณะเป็นได้ทั้งเทอโมไดนามิกส์ (Thermodynamics) และไฮโดรนามิกส์
(Hydrodynamic) เพราะภูมิอากาศมีความเช่ือมโยงสัมพันธ์กันท่ัวโลก ดังนั้นการศึกษาการเปลี่ยนแปลง
ระดบั นำ้ ทะเล จงึ จำเป็นอยา่ งยิ่งท่จี ะตอ้ งมกี ารศึกษาร่วมกับข้อมูลความเร็วลม ทิศทางลม อณุ หภมู ิอากาศ
ความชื้นสัมพัทธ์ ความกดอากาศ และปริมาณน้ำฝน เนื่องจากเป็นข้อมูลแสดงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผล
โดยตรงทำใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงของระดบั น้ำทะเลเฉล่ยี ไปจากระดับปกติ นอกเหนอื จากปัจจยั ทางดารา
ศาสตร์และทางด้านธรณีวิทยา ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของกระแสน้ำทั่วโลกและ
กระบวนการเคลื่อนตวั ของแผน่ เปลอื กโลก
ตารางที่ 3-1 แสดงข้อมูลจากชดุ อุปกรณ์ตรวจวัดภายในสถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะ
สถานี ชดุ อุป
วดั ระดบั นำ้ (m.) อุณหภมู อิ ากาศ (°C) ความช้ืนสัมพันธ์ (%
ค่าน้อย คา่ ค่า คา่ น้อย ค่ามาก คา่ คา่ น้อย ค่ามาก
ลำดบั ระดบั
น้ำ
ทะเล ทสี่ ุด มาก เฉล่ยี ท่สี ดุ ทส่ี ุด เฉลยี่ ที่สุด ท่ีสดุ เ
ท่สี ดุ
1. RYG -0.93 1.87 0.56 18.25 32.24 28.00 37.97 100.00 8
2. PKN -1.24 1.66 0.24 17.66 35.10 27.26 36.13 100.00 7
3. NRT -0.97 1.18 -0.14 22.85 34.85 27.87 52.75 100.00 8
4. RNG 0.31 2.40 1.41 23.01 35.15 27.52 47.23 100.00 7
5. PKT -0.97 2.09 0.56 23.96 32.14 28.23 null null n
6.. TRT -1.34 1.23 0.00 13.13 27.82 22.49 null null n
7. CPN -0.99 1.61 0.08 20.74 32.69 26.72 null null n
8. STN -1.50 1.94 0.20 21.91 35.37 27.64 14.18 94.14 5
ะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมตั ิ
ปกรณ์ตรวจวัด (sensors)
%) ความดันบรรยากาศ (mb.) ความเรว็ ลม (m/s) ปริมาณน้ำฝน (mm.)
ค่า คา่ นอ้ ย ค่ามาก คา่ ค่า คา่ มาก คา่ คา่ นอ้ ย คา่ มาก คา่
เฉลีย่ ทีส่ ดุ ทส่ี ุด เฉล่ยี น้อย ที่สุด เฉลี่ย ทีส่ ุด ทส่ี ดุ สะสม
ทีส่ ุด
87.65 1001.61 1017.81 1009.43 0.10 23.14 3.55 0.00 11.60 1271.2
74.27 1001.10 1017.38 1009.47 0.02 29.88 3.40 0.00 19.00 967.40
86.46 1003.00 1015.81 1009.40 0.09 19.46 2.48 0.00 19.00 533.30
22
76.15 1003.09 1015.18 1009.93 0.02 29.86 2.51 0.00 14.20 1542.9
null 1003.73 1014.67 1009.64 0.00 11.66 2.62 0.00 10.50 940.50
null 999.00 1016.98 1008.91 0.35 16.48 2.90 0.00 13.70 2244.9
null 1003.07 1016.52 1010.77 0.03 14.30 2.71 0.00 0.4 30.1
55.09 1004.38 1015.85 1010.55 0.05 8.29 1.36 0.00 12.70 2262.7
23
3.2 การศกึ ษาข้อมูลจากชุดอปุ กรณต์ รวจวัดตา่ ง ๆ
รูปท่ี 3-1 กราฟแสดงข้อมลู จากเครอ่ื งตรวจวัดระดับนำ้ ทะเล สถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลข้นึ -ลง
แบบอตั โนมตั ิ จังหวัดระยอง (RYG) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 – สิงหาคม 2564
24
รปู ท่ี 3-2 กราฟแสดงขอ้ มลู จากเคร่ืองตรวจวัดระดับน้ำทะเล สถานตี รวจวัดระดบั น้ำทะเลข้ึน-ลง
แบบอัตโนมตั ิ จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ (PKN) ต้ังแตเ่ ดือนกันยายน 2563 – สงิ หาคม 2564
25
รปู ท่ี 3-3 กราฟแสดงขอ้ มูลจากเครอ่ื งตรวจวัดระดับน้ำทะเล สถานตี รวจวดั ระดบั น้ำทะเลขึ้น-ลง
แบบอัตโนมัติ จังหวดั นครศรีธรรมราช (NRT) ตงั้ แตเ่ ดือนกนั ยายน 2563–สิงหาคม 2564
26
รปู ท่ี 3-4 กราฟแสดงข้อมูลจากเคร่อื งตรวจวดั ระดับน้ำทะเล สถานตี รวจวัดระดับน้ำทะเลข้นึ -ลง
แบบอตั โนมตั ิ จังหวดั ระนอง (RNG) ต้ังแต่เดอื นกันยายน 2563 – สิงหาคม 2564
27
รปู ที่ 3-5 กราฟแสดงข้อมลู จากเครอื่ งตรวจวัดระดับนำ้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง
แบบอตั โนมัติ จังหวัดภเู กต็ (PKT) ต้ังแต่เดือนกนั ยายน 2563 – สงิ หาคม 2564
28
รปู ที่ 3-6 กราฟแสดงขอ้ มูลจากเคร่อื งตรวจวัดระดับนำ้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดับน้ำทะเลข้นึ -ลง
แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดตราด (TRT) ตั้งแต่เดอื นกนั ยายน 2563 – สิงหาคม 2564
29
รูปที่ 3-7 กราฟแสดงขอ้ มูลจากเคร่อื งตรวจวดั ระดับนำ้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดับน้ำทะเลข้นึ -ลง
แบบอตั โนมัติ จังหวดั ชุมพร (CPN) ตงั้ แต่เดอื นกันยายน 2563 – สิงหาคม 2564
30
รปู ที่ 3-8 กราฟแสดงขอ้ มลู จากเคร่อื งตรวจวัดระดับน้ำทะเล สถานตี รวจวดั ระดับน้ำทะเลข้นึ -ลง
แบบอัตโนมตั ิ จังหวัดสตูล (STN) ต้งั แตเ่ ดือนกนั ยายน 2563 – สิงหาคม 2564
บทที่ 4
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลระดับน้ำทะเลขนึ้ -ลง
จากการเทียบเคียงข้อมูลระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงในบทที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าข้อมูล
ความเรว็ ลม ทศิ ทางลม ปริมาณนำ้ ฝน ความช้นื สมั พัทธ์ และความกดดนั บรรยากาศ ไม่ได้มีผลกระทบกับ
ค่าการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง ในระยะเวลาสั้นๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ และจากสมมติฐานที่ว่า
พน้ื ดนิ ไม่มกี ารเปลยี่ นแปลงในแนวด่ิงอยา่ งมีนัยสำคัญในรอบ ±100 ปี (กรมทรพั ยากรธรณี, 2552) ดังนั้น
จึงนำเฉพาะค่าระดับน้ำทะเลมาวิเคราะห์หาการเปลี่ยนแปลงในเชิงเส้นได้ โดยได้นำข้อมูลระดับน้ำทะเล
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2564 มาวิเคราะห์หาการเปลี่ยนแปลง โดยการพล็อตลง
กราฟและหาการเปลี่ยนแปลงเชิงเส้นของแตล่ ะสถานี มีรายละเอียดดงั น้ี
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดระยอง มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -0.93 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 1.87 เมตร
เหนือระดับน้ำทะเล และมีค่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทีร่ ะดับ 0.56 เมตรเหนือระดบั นำ้ ทะเล โดยช่วงท่ีมีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง เพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกนั ข้ามช่วงที่มกี ารเปล่ียนแปลงระดบั น้ำทะเลขึ้น-ลง มากน้ันมีความสัมพันธต์ รงกับชว่ งนำ้ เกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปล่ียนแปลงระดับนำ้ ทะเลเฉล่ีย โดยกำหนดให้เป็นสมการเชงิ เส้นนัน้ พบว่ามี
การเปลี่ยนแปลงของระดบั นำ้ ทะเลลดลง 0.92 มม. (ตารางท่ี 4-1 และรูปท่ี 4-1)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ มีค่าระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -1.24 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเล
สูงสุดที่ระดับ 1.66 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีค่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ยที่ระดับ 0.24 เมตรเหนือ
ระดับน้ำทะเล โดยช่วงท่ีมีการเปล่ียนแปลงระดบั นำ้ ทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กนอ้ ยนั้นมีความสมั พันธ์โดยตรง
กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทางตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมี
ความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลเฉลี่ย โดย
กำหนดให้เป็นสมการเชิงเส้นนั้น พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง 1.00 มม. (ตารางท่ี
4-1 และรูปที่ 4-2)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัด
นครศรีธรรมราช มีค่าระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -0.97 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเล
สูงสุดที่ระดับ 1.18 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีค่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ยที่ระดับ -0.14 เมตรเหนือ
ระดับน้ำทะเล โดยช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธก์ ับช่วง
น้ำตาย (Neap tide) ในทางตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น -ลงมากนั้นมี
ความสมั พันธ์กบั ชว่ งนำ้ เกดิ (Spring tide) ซึง่ เมอ่ื คำนวณคา่ การเปล่ียนแปลงของระดบั นำ้ ทะเลเฉล่ีย โดย
32
กำหนดให้เป็นสมการเชิงเส้นนั้น พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง 1.04 มม. (ตารางที่
4-1และรูปที่ 4-3)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดระนอง มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ 0.30 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 2.40 เมตร
เหนือระดับน้ำทะเล และมคี า่ ระดบั น้ำทะเลเฉลี่ยทร่ี ะดับ 1.41 เมตรเหนอื ระดบั น้ำทะเล โดยช่วงที่มีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปลี่ยนแปลงระดบั น้ำทะเลเฉล่ีย โดยกำหนดใหเ้ ป็นสมการเชิงเสน้ นั้น พบว่ามี
การเปลยี่ นแปลงของระดับน้ำทะเลลดลง 0.18 มม. (ตารางที่ 4-1 และรปู ที่ 4-4)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดภูเก็ต มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -0.97 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 2.09 เมตร
เหนือระดับนำ้ ทะเล และมีค่าระดบั น้ำทะเลเฉลีย่ ที่ระดับ 0.56 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยช่วงที่มีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปล่ียนแปลงระดับนำ้ ทะเลเฉล่ีย โดยกำหนดให้เป็นสมการเชิงเส้นนั้น พบว่ามี
การเปลย่ี นแปลงของระดบั นำ้ ทะเลลดลง 0.24 มม. (ตารางที่ 4-1 และรปู ที่ 4-5)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดตราด มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -1.34 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 1.23 เมตร
เหนือระดับนำ้ ทะเล และมีค่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทีร่ ะดบั 0.00 เมตรเหนือระดบั นำ้ ทะเล โดยช่วงที่มีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปล่ียนแปลงระดับน้ำทะเลเฉลี่ย โดยกำหนดให้เปน็ สมการเชิงเสน้ นัน้ พบว่ามี
การเปล่ยี นแปลงของระดับนำ้ ทะเลลดลง 0.84 มม. (ตารางท่ี 4-1 และรปู ท่ี 4-6)
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดชุมพร มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -0.99 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 1.61 เมตร
เหนือระดับนำ้ ทะเล และมีค่าระดับน้ำทะเลเฉลย่ี ที่ระดับ 0.08 เมตรเหนือระดบั นำ้ ทะเล โดยช่วงท่ีมีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลเฉลี่ย โดยกำหนดใหเ้ ป็นสมการเชิงเส้นนัน้ พบว่ามี
การเปลยี่ นแปลงของระดับนำ้ ทะเลเพมิ่ ขึ้น 1.31 มม. (ตารางท่ี 4-1 และรูปท่ี 4-7)
33
ระดับน้ำทะเลของสถานีตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติจังหวัดสตูล มีค่า
ระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ระดับ -1.50 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีค่าระดับน้ำทะเลสูงสุดที่ระดับ 1.94 เมตร
เหนอื ระดบั น้ำทะเล และมีคา่ ระดบั น้ำทะเลเฉล่ียทรี่ ะดบั 0.20 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยช่วงท่ีมีการ
เปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงเพียงเล็กน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำตาย (Neap tide) ในทาง
ตรงกันข้ามช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงมากนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงน้ำเกิด (Spring
tide) ซึ่งเมื่อคำนวณค่าการเปล่ียนแปลงระดับนำ้ ทะเลเฉล่ีย โดยกำหนดให้เป็นสมการเชิงเส้นนั้น พบว่ามี
การเปลีย่ นแปลงของระดบั นำ้ ทะเลเพม่ิ ขน้ึ 0.22 มม. (ตารางท่ี 4-1 และรปู ที่ 4-8)
ตารางท่ี 4-1 แสดงข้อมูลระดบั นำ้ ทะเลและอัตราการเปล่ียนแปลงระดับนำ้ ทะเล
สถานี ระดบั นำ้ (เมตร) การเปลี่ยนแปลงของ
ต่ำสุด สูงสดุ ค่าเฉลี่ย ระดบั นำ้ ทะเล (มิลลเิ มตร)
สถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลขึ้น-ลง แบบ
อตั โนมัติ จงั หวดั ระยอง (RYG) -0.93 1.87 0.56 - 0.92
สถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบ -1.24 1.66 0.24 -1.00
อตั โนมตั ิ จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ (PKN)
-0.97 1.18 -0.14 -1.04
สถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลข้ึน-ลง แบบ
อัตโนมตั ิ จงั หวดั นครศรีธรรมราช (NRT) 0.30 2.40 1.41 -0.18
สถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลข้ึน-ลง แบบ -0.97 2.09 0.56 -0.24
อตั โนมัติ จังหวดั ระนอง (RNG)
-1.34 1.23 0.00 -0.84
สถานีตรวจวัดระดับนำ้ ทะเลข้ึน-ลง แบบ -0.99 1.61 0.08 +1.31
อัตโนมตั ิ จงั หวัดภเู ก็ต (PKT) -1.50 1.94 0.20 +0.22
สถานีตรวจวดั ระดับน้ำทะเลข้ึน-ลง แบบ
อตั โนมตั ิ จังหวดั ตราด (TRT)
สถานีตรวจวดั ระดบั น้ำทะเลขึ้น-ลง แบบ
อตั โนมัติ จังหวดั ชุมพร (CPN)
สถานีตรวจวดั ระดบั นำ้ ทะเลขึ้น-ลง แบบ
อัตโนมัติ จงั หวัดสตูล (STN)
รปู ท่ี 4-1 กราฟแสดงขอ้ มูลระดบั น้ำทะเล สถานตี รวจวัดระดบั นำ้ ทะเลขน้ึ -ลง แบ
2564
34
บบอตั โนมัติ จงั หวัดระยอง (RYG) ต้ังแตเ่ ดอื นกนั ยายน 2563 – เดอื นสงิ หาคม
รปู ที่ 4-2 กราฟแสดงข้อมูลระดับนำ้ ทะเล สถานตี รวจวดั ระดับน้ำทะเลขน้ึ -ลง แบ
สิงหาคม 2564
35
บบอตั โนมัติ จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ (PKN) ต้งั แตเ่ ดอื นกนั ยายน 2563 – เดอื น
รปู ที่ 4-3 กราฟแสดงข้อมลู ระดบั นำ้ ทะเล สถานตี รวจวัดระดับน้ำทะเลขน้ึ -ลง แบ
สงิ หาคม 2564
36
บบอตั โนมัติ จงั หวัดนครศรธี รรมราช (NRT) ต้งั แตเ่ ดอื นกันยายน 2563 – เดอื น
รปู ท่ี 4-4 กราฟแสดงขอ้ มูลระดบั น้ำทะเล สถานตี รวจวัดระดบั นำ้ ทะเลขน้ึ -ลง แบ
2564