ไพรินทร์ เบญจชย ฟังก์ชั่น ต่าง ๆ
Slide Title ฟังก์ชัน ค าอธิบาย SUM ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เพ่อ ื บวกค ่ าในเซลล ์ IF ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เพ่อ ืสง ่ กลบ ั ค ่ าหน่ึ งค ่ าถา ้ เงอ่ื นไขเป็ นจรง ิ และอก ี หน่ึ งค ่ าถา ้ เงอ่ื นไข เป็น เท็จ LOOKUP ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เม่ื อคณ ุ ตอ ้ งการด ู แถวหรอ ื คอลม ั น ์ เด ี ยว และคนหาค่าจากต าแหน่ง ้ เดียวกันในแถวหรือคอลัมน์ที่สอง VLOOKUP ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เม่ื อคณ ุ ตอ ้ งการคน ้ หาสง่ิ ต ่ างๆ ในตารางหรอ ื ช ่ วงตามแถว ตัวอย่างเช่น ค้นหานามสกุลของพนักงานด้วยหมายเลขพนักงาน หรือค้นหา หมายเลขโทรศัพท์โดยการค้นหานามสกุลของเธอ (เหมือนกับสมุดโทรศัพท์) MATCH ฟั งกช ์ น ั น ้ ี จะคน ้ หารายการท่ร ี ะบใ ุ นช ่ วงของเซลลต ์ ่ างๆ จากน ้ น ัจะส่งกลับ ตา แหน ่ งสม ั พน ั ธข ์ องรายการดง ั กล ่ าวในช ่ วงน ้ ั น ตว ั อย ่ างเช ่ น ถาช่วง ้ A1:A3 มี ค่า 5, 7 และ 38 สูตร =MATCH(7,A1:A3,0) จะส่งกลับตัวเลข 2 เน่ื องจาก 7 คือรายการที่สองในช่วงดังกล่าว
• Make Effective Presentations • Using Awesome Backgrounds • Engage your Audience • Capture Audience Attention ฟังก์ชัน ค าอธิบาย CHOOSE ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เพ่อ ื เลอ ื กค ่ าใดค ่ าหน่ึ งจาก 254 ค่าตามหมายเลขดัชนี ตัวอย่างเช่น ถ้า value1 ถึง value7 เป็นวันในสัปดาห์ ฟังก์ชัน CHOOSE จะส่งกลับเป็นวัน ใดวน ั หน่ึ งในสปั ดาหเ ์ ม่ื อใชห ้ มายเลขระหว ่ าง 1 ถึง 7 เป็น index_num DATE ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เพ่อ ืสง ่ กลบ ั เลขลา ดบ ั ต ่ อเน่ื องท่แ ีสดงถง ึ วน ั ท่ี หน่ึ งๆ ฟั งกช ์ น ั น ้ ี จะม ี ประโยชน์มากที่สุดในกรณีที่สูตรหรือการอ้างอิงเซลล์มีข้อมูลเกี่ยวกับปี เดือนและ วัน ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีเวิร์กชีตที่มีวันที่ในรูปแบบที่ Excel ไม่รู้จัก เช่น YYYYMMDD ใช้ฟังก์ชัน DATEDIF เพ่อ ื คา นวณจา นวนวน ั เด ื อน หรอ ืปี ระหว ่ างวันที่สองวัน DAYS ใชฟ้ ั งกช ์ น ั น ้ ี เพ่อ ืสง ่ กลบ ั จา นวนวน ั ระหว ่ างวน ั ท่สี องวน ั FIND, FINDB FIND และ FINDB จะค้นหาสตริงข้อความหนึ่งภายในสตริงข้อความที่สอง และ จะส่งกลับตัวเลขที่เป็นต าแหน่งเริ่มต้นของสตริงข้อความแรกจากอักขระแรกของ สตริงข้อความที่สอง
Product A • Feature 1 • Feature 2 • Feature 3 Product B • Feature 1 • Feature 2 • Feature 3 ฟังก์ชัน ค าอธิบาย DATE ส่งกลับเลขล าดับของวันที่ที่เฉพาะเจาะจง DATEDIF คา นวณจา นวนวน ั เด ื อน หรอ ืปี ระหว ่ างวน ั ท่สี องวน ั ฟั งกช ์ น ั น ้ ีจะมีประโยชน์ใน สูตรที่คุณต้องการค านวณหาอายุ DATEVALUE แปลงวันที่ในรูปแบบข้อความเป็นเลขล าดับ DAY แปลงเลขล าดับเป็นวันในเดือน DAYS ส่งกลับจ านวนวันระหว่างวันที่สองวันที่
การใช ้ ตว ั ดา เน ิ นการการคา นวณในส ู ตร Exce ชนิดของตัวด าเนินการ ❖คณิตศาสตร์ ❖การเปรียบเทียบ ❖ การน าข้อความมาต่อกัน ❖การอ้างอิง
คณิตศาสตร์ ตัวด าเนินการทาง คณิตศาสตร์ ความหมาย ตัวอย่าง + (เคร ่ อ ื งหมายบวก) การบวก 3+3 - (เคร ่ อ ื งหมายลบ) การลบ จ านวนติดลบ 3–1 , –1 * (เคร ่ อ ื งหมายดอกจน ั) การคูณ 3*3 / (เคร ่ อ ื งหมายทบ ั) การหาร 3/3 % (เคร ่ อ ื งหมายเปอรเ ์ ซ ็ นต)์ เปอร์เซ็นต์ 20% ^ (แคเรท) การยกก าลัง 3^2
ตัวด าเนินการเปรียบเทียบ ความหมาย ตัวอย่าง = (เคร่อ ื งหมายเท ่ ากบ ั) เท่ากับ A1=B1 > (เคร่อ ื งหมายมากกว ่ า) มากกว่า A1>B1 < (เคร่อ ื งหมายนอ ้ ยกว ่ า) น้อยกว่า A1<B1 >= (เคร่อ ื งหมายมากกว ่ าหรอ ื เท ่ ากบ ั) มากกว่าหรือเท่ากับ A1>=B1 <= (เคร่อ ื งหมายนอ ้ ยกว ่ าหรอ ื เทากับ ่ ) น้อยกว่าหรือเท่ากับ A1<=B1 <> (เคร่อ ื งหมายไม ่ เท ่ ากบ ั) ไม่เท่ากับ A1<>B1 ตัวด าเนินการเปรียบเทียบ
ตัวด าเนินการต่อข้อความ ตัวด าเนินการข้อความ ความหมาย ตัวอย่าง & (เครื่องหมาย 'และ') เชื่อมต่อ หรือต่อค่าสอง ค่า เพื่อรวมเป็นค่า ข้อความที่ต่อเนื่องกัน "North"&"wind" ให้ ผลลัพธ์เป็น "Northwind"
ตัวด าเนินการอ้างอิง ตัวด าเนินการ อ้างอิง ความหมาย ตัวอย่าง : (เคร ื่องหมายจ ุ ดค)ู ่ ตว ั ดา เน ิ นการช ่ วง ซ่ึ งสร ้ างการอางอิง ้ ไปยง ั เซลลท ์ ้ ง ั หมดท ี่อยร ู ่ ะหวางเซลล์ ่ อา ้ งอ ิ งสองเซลล ์ รวมท ้ ง ั ตว ั เซลลอ้างอิง ์ ท ้ ง ั สองเซลลน ์ ้ น ั ดว ้ ย B5:B15 , (เครื่องหมายจุลภาค) ตัวด าเนินการยูเนียน เป็ นการรวม อา ้ งอ ิ งหลายๆ ช ุ ดเขา ้ ดว ้ ยกน ั ใหการ ้ อ้างอิงหนึ่งชุด SUM(B5:B15,D 5:D15) (ช ่ องวา ่ ง) ตัวด าเนินการอินเตอร์เซกชัน ซึ่งสร้าง การอ้างอิงหนึ่งรายการไปยังเซลล์ร ่ วม ของการอา้งอิงท้งัสองชดB7:D7 C6:C8
ล าดับในการค านวณ ตัวด าเนินการ ค าอธิบาย : (เครื่องหมายจุดคู่) (ช่องว่างเดี่ยว) , (เครื่องหมายจุลภาค) ตัวด าเนินการอ้างอิง – จ านวนติดลบ (เช่น –1) % เปอร์เซ็นต์ ^ การยกก าลัง * และ / การคูณและการหาร + และ – การบวกและการลบ
ล าดับในการค านวณ ตัวด าเนินการ ค าอธิบาย & เช่ื อมสตรง ิ ขอ ้ ความสองสตรง ิ (การเรียงต่อ กัน) = < > <= >= <> การเปรียบเทียบ
ส่วนต่างๆ ของสูตร Excel 1. ฟังก์ชัน PI() ส่งกลับค่าของ Pi คือ 3.142... 2. การอ้างอิง เช่น A2 ส่งกลับค่าในเซลล์ A2 3. ค่าคงที่ คือ ค่าของจ านวนหรือค่าของข้อความที่ใส่เข้าไปยังสูตรโดยตรง เช่น 2 4. ตัวด าเนินการ เช่น ตัวด าเนินการ ^ (แคเรท) ท าหน้าที่ยกก าลังตัวเลข และ ตัวด าเนินการ * (เคร ่ อ ื งหมายดอกจน ั) ท าหน้าที่คูณตัวเลข
การใช้ฟังก์ชันและฟังก์ชันที่ซ้อนกันในสูตร Excel โครงสร้างของฟังก์ชัน 1. เร ่ ม ิ ตน ้ ดว ้ ยเคร ่ อ ื งหมายเท ่ ากบ ั (=) ตามดว ้ ยช ่ ื อฟงก์ชัน วงเล็บ ั เปิด อาร์กิวเมนต์ต่างๆ ส าหรับฟังก์ชันที่คั่นจากกันด้วย เคร ่ อ ื งหมายจ ุ ลภาค และวงเลบ ็ปิ ด 2. ช ่ ื อฟง ั กช ์ น ั เม ่ ื อตอ ้ งการด ู รายการฟง ั กช ์ น ั ท ่ ม ีีอยู่ ให้คลิกเซลล์ และกด SHIFT+F3
3. อาร์กิวเมนต์ อาร์กิวเมนต์อาจเป็นตัวเลข ข้อความ ค่าตรรกะ (เช่น TRUE หรือ FALSE) อาร์เรย์ ค่าความผิดพลาด (เช่น #N/A) หรือ การอ้างอิงเซลล์ก็ได้ อาร์กิวเมนต์ที่ระบุต้องให้ค่าที่ถูกต้องส าหรับ อาร์กิวเมนตน ์ ้ น ั อารกิวเ ์ มนต์ยังอาจเป็นค่าคงที่ สูตร หรือฟังก์ชัน อน ่ ื ๆ ไดอ ้ ก ี ดว ้ ย 4. คา แนะน าเคร ่ อ ื งม ื ออารกิวเ ์ มนต ์ คา แนะน าเคร ่ อ ื งม ือพร้อมด้วย ไวยากรณ์และอาร์กิวเมนตจ ์ ะปรากฏข ้ ึ นเม ่ ื อค ุ ณพม ิ พฟ์ งก์ชัน ั ตว ั อย ่ างเช ่ น เม ่ ื อคณ ุ พม ิ พ ์=ROUND(คา แนะน าเคร ่ อ ื งมือจะปรากฏ ข ้ ึ น คา แนะน าเคร ่ อ ื งม ื อจะปรากฏข ้ ึ นสา หรบ ัฟง ั กช ์ น ัที่มีอยู่แล้วภายใน เท ่ าน ้ น ั
Sum(การหาผลรวมของข้อมูล) Sum(Number1,Number2,…) รูปแบบ Number = เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการให้หาผลรวม ซึ่งจะใส่ ค ่ าไดม ้ ากกว ่ าหน ่ ึ งค ่ าโดยม ี เคร ่ อ ื ง , คั่นระหว่างแต่ละกลุ่มข้อมูล
MAX(Number1:Number2,…) Max(การหาค่าสูงสุดของจ านวน Number = เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการให้หาค่าสูงสุด ซึ่งจะใส่ ค ่ าไดม ้ ากกว ่ าหน ่ ึ งค ่ าโดยม ี เคร ่ อ ื ง , คั่นระหว่างแต่ละกลุ่มข้อมูล
MIN(การหาค่าต ่าสุดของข้อมูล) MIN(NUMBER1:NUMBER2,…)
Average(Number1:Number2,…)
IF(การหาค ่ าจรง ิ หรอ ื เทจ ็ จากเงอ ่ ื นไขท ่ ร ี ะบ)ุ IF(logical,Value_if_true,Value_if_false) Logical = เงอ ่ ื นไขท ่ใี ชใ้ นการเปรย ี บเทย ี บหรอ ื ตรวจสอบขอ ้ ม ู ล Value_if_true = ค ่ าของเงอ ่ ื นไขท ่ เ ีป็ นจรง ิ Value_if_false = ค ่ าของเงอ ่ ื นไขท ่ เ ีป็ นเทจ ็
ถ้ายอดขายน้อยกว่า 10000 คิดค่านายหน้า10% IF(logical,Value_if_true,Value_if_false) Logical= ถ้ายอดขายน้อยกว่า 10000 Value_if_true= คิดค่านายหน้า10% Value_if_false= ค่านายหน้า0%
IF(logical,Value_if_true,Value_if_false) =IF(b2<10000,b2*10%,b2*0%) ถ้ายอดขายน้อยกว่า 10000 คิดค่านายหน้า10% ถ้ายอดขายน้อยกว่า 20000 คิดค่านายหน้า15%
ถ้ายอดขายไม่เกิน 10000 คิดค่านายหน้า10%ของยอดขาย ถา ้ ยอดขายตง ้ ั แต ่ 10000-30000 คิดค่านายหน้า20%ของยอดขาย ถ้ายอดขายเกิน 30000 คิดค่านายหน้า30%ของยอดขาย ถ้ายอดขายน้อยกว่า 10000 คิดค่านายหน้า10%ของยอดขาย ถ้ายอดขายน้อยกว่า30000 คิดค่านายหน้า20%ของยอดขาย ถ้ายอดขายเกิน 30000 คิดค่านายหน้า30%ของยอดขาย
ถ้ายอดขายน้อยกว่า 10000 คิดค่านายหน้า10%ของยอดขาย ถ้ายอดขายน้อยกว่า30000 คิดค่านายหน้า20%ของยอดขาย ถ้ายอดขายเกิน 30000 คิดค่านายหน้า30%ของยอดขาย If(ยอดขายน้อยกว่า 10000 ,คิดค่านายหน้า10%, if (ยอดขายน้อยกว่า30000 ,คิดค่านายหน้า20%,ยอดขายเกิน 30000 คิดค่า นายหน้า30%))
If(ยอดขายน้อยกว่า 10000 ,คิดค่านายหน้า10%, if (ยอดขายน้อยกว่า30000 ,คิดค่านายหน้า20%,ยอดขายเกิน 30000 คิดค่า นายหน้า30%)) If(b2< 10000 ,b2*10%,if (b2<30000 ,b2*20%,b2*30%))
ถ้ายอดขายน้อยกว่า 30000 คิดค่านายหน้า10% ถ้าไม่ใช้คิดค่านายหน้า15% logical( ถ้ายอดขายน้อยกว่า 30000) Value_if_true = น้อยกว่า 30000คิดค่านายหน้า10% Value_if_false =คิดค่านายหน้า15%
IF(logical,Value_if_true,Value_if_false) IF(ถ้ายอดขายน้อยกว่า30000,คิดค่านาย10%,คิดค่า นายหน้า 15%) IF(b2<30000,b2*10%,b2*15%)
IF(ถ้ายอดขายน้อยกว่า50000,คิดค่านาย15%,คิดค่า นายหน้า 30%) ถ้ายอดขายน้อยกว่า 50000 คิดค่านายหน้า15% ถ้าไม่ใช้คิดค่านายหน้า30%
ถ้ายอดขายน้อยกว่า 20000 คิดค่านายหน้า20% ถ้าไม่ใช้คิดค่านายหน้า25% IF(ถ้ายอดขายน้อยกว่า50000,คิดค่านาย15%,คิด ค่านายหน้า 30%)
ถ้ายอดขายน้อยกว่า 20000 คิดค่านายหน้า20% ถ้ายอดขายน้อยกว่า 30000 คิดค่านายหน้า25% IF(ถ้ายอดขายน้อยกว่า20000,คิดค่านายหน้า15%,if(ถ้า ยอดขายน้อยกว่า30000,คิดค่านายหน้า 30%, ไม่มีค่านายหน้า))
4.6 ถ้ายอดขายไม่เกิน 10,000 คิดค่านายหน้า 10% ถ้ายอดขายไม่เกิน 30,000 คิดค่านายหน้า 20% ถ้ายอดขายมากกว่า30,000 คิดค่านายหน้า 30% IF(logical,Value_if_true,if(ogical,Value_if _trueValue_if_false))
IF(logical,Value_if_true,if(ogical,Value_if _trueValue_if_false)) =IF(b2<10000,b2*10%,if(b2<30000,b2 *20%,b2*30%))
4.7 ถ้ายอดขายไม่เกิน 10,000 คิดโบนัส 5% ถ้ายอดขายไม่เกิน 50,000 คิดค่านายหน้า 20% ถ้ายอดขายมากกว่าไม่เกิน 50,000 คิดค่านายหน้า 25% IF(logical,Value_if_true,if(Value_if_false)) IF(b2<10000,b2*5%,b2*0%)
คะแนนรวม 0-49 ได้เกรด 0 คะแนนรวม 50-54 ได้เกรด 1 คะแนนรวม 55-59 ได้เกรด 1.5 คะแนนรวม 60-100 ได้เกรด 2
ifคะแนนรวม <49 ได้เกรด 0 if คะแนนรวม <55 ได้เกรด 1 if คะแนนรวม <60 ได้เกรด 1.5 if คะแนนรวม<100 ได้เกรด 2
if(คะแนนรวม <49 ,ได้เกรด 0 if( คะแนนรวม <55 ,ได้เกรด 1 if (คะแนนรวม <60 ,ได้เกรด 1.5,คะแนนรวม<100 ได้เกรด 2
if(g3 <49 , ,if(g3 <55 ,1,if (g3 <60 ,1.5,2)
PMT •ค านวณเงินผ่อนช าระคืนเงินกู้ในแต่ละงวด โดยค านวณจากการผ่อนช าระคงที่และ อต ั ราดอกเบ ้ ย ี คงท ่ ี
PMT(rate, nper, pv, [fv], [type]) •rate อต ั ราดอกเบ ้ ย ี ของเงน ิ ก ู ้ • Nper จา นวนงวดทง ้ ั หมดท ่ ต ี อ ้ งผ ่ อนช าระ •Pv ม ู ลค ่ าปจ ั จ ุ บน ั หรอ ื ม ู ลค ่ ารวมทง ้ ั หมด ณ เวลา ปัจจุบันของจ านวนเงินในทุกงวดที่จะต้องช าระในอนาคต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเงินต้น
ถา ้ ซ ้ ื อคอนโดราคา 2.2 ล้านบาท โดย ธนาคารให้ผ่อน 20 ปี ท ่ อ ี ต ั ราดอกเบ ้ ย ี 8% ต่อปี จะต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ตว ั อย ่ าง
PMT(rate, nper, pv, [fv], [type]) •rate อต ั ราดอกเบ ี ย ้ ของเง ิ นก ้ ู 8% ต ่ อปี • Nper จา นวนงวดทง ั ้ หมดท ี ่ ต ้ องผอ ่ นชา ระ ผอ ่ น 20 ปี • Pv มล ู ค ่ าปั จจบ ุ น ั หร ื อมล ู ค ่ ารวมทง ั ้ หมด ณ เวลาปัจจุบัน ของจา นวนเง ิ นในท ุ กงวดท ี ่ จะต ้ องชา ระในอนาคต หร ื อเร ี ยกอีก อย ่ างหน ึ ่ งว ่ าเง ิ นต ้ น ราคา 2.2 ล้านบาท
PMT(rate, nper, pv, [fv], [type]) • PMT(8%, 20, 2200000)
ถาม & ตอบ