นาฏศิลป์นานาชาติ
International Dance
จัดทำโดย
นางสาว ฐิติญา สร้อยมี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6.4 เลขที่27
เสนอ
คุณครู ชลิดา ศุภสาร
ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2564
โรงเรียนเพชรพิทยาคม
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ศ33102 ศิลปะ6 ชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 6 โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องนาฏศิลป์
นานาชาติ ซึ่งสมุดเล่มเล็กเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ นาฏศิลป์ของ 5 ประเทศ
ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศษ ประเทศสเปน ประเทศอินเดีย ประเทศญี่ปุ่นและ
ประเทศจีน
ผู้จัดทำได้เลือก หัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่า
สนใจ ผู้จัดทำจะต้องขอขอบคุณ ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษาทุกคน
ที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความ
รู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่าน
ผู้จัดทำ
นางสาวฐิติญา สร้อยมี
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
นาฏศิลป์นานาชาติ 1
นาฏศิลป์ฝรั่งเศษ 2
นาฏศิลป์สเปน 4
นาฏศิลป์อินเดีย 6
นาฏศิลป์ญี่ปุ่น 8
นาฏศิลป์จีน 11
อ้างอิง 14
1
นาฏศิลป์นานาชาติ
นาฏศิลป์ เป็นธรรมชาติแห่งการแสดงออกโดยสากลของมนุษย์ชาติ
แสดงการออกทางการเคลื่อนไหวร่างกายที่มีระบบและงดงามซึงกำเนิด
ขึ้นมาพร้อมกับธรรมชาติของมนุษณ์หรือพฤติกรรมปกติของมนุษย์ที่
เรียกกันว่าภาษากายหรือภาษาท่าทาง ในการแสดงออกทางความรู้สึก
และอารมณ์ของมนุษย์ออกมาทางร่างกาย เช่น การเดิน การนั่ง การยืน
การกิน เป็นต้น
นาฏศิลป์สากลจึงเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้และทำความเข้าใจ
ในเรื่องประวัติที่มาลีลาท่ารำเครื่องดนตรีทำนองเพลงและการแต่งกาย
2
นาฏศิลป์ฝรั่งเศษ
บัลเลย์หรือระบำปลายเท้า (Ballet) เป็นศิลปะที่ผสมผสานท่าเต้น
และดนตรีที่แสดงอารมณ์และเรื่องราวตามเหตุการณ์ในบทละคร โดย
ไม่มีบทพูดหรือเจรจา หากแต่ใช้ท่าเต้นสีหน้าและดนตรีสื่อให้ผู้ชมเกิด
จินตนาการและสะท้อนภาพออกมาเป็นเรื่องราวได้ ดังนั้น ลีลา ท่าเต้นบัล
เลย์ จึงนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการแสดงบัลเลต์ โดยได้มีการ
บัญญัติชื่อท่าเต้นบัลเลต์ที่เป็นสากลและใช้เป็นมาตรฐานทั่วโลกไว้เป็น
ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของบัลเลต์
3
นาฏศิลป์ฝรั่งเศษ
ลีลาท่าเต้นบัลเลต์ จะเน้นที่การเคลื่อนไหวร่างกายในท่าต่าง ๆ ตาม
จังหวะดนตรีให้สอดคล้องกลมกลืนกัน โดยแทรกอารมณ์ความรู้สึกออก
ทางท่าเต้นและสีหน้าของนักเต้นที่สามารถสื่อไปยังผู้ชมให้เข้าใจเรื่องราวได้
โดยการฟังดนตรี บรรเลง และดูท่าทางการเต้นประกอบกันไป ฉะนั้น การ
ออกลีลาท่าเต้นบัลเลต์ จึงต้องอาศัยการทรงตัวที่ดีของส่วนต่าง ๆ ใน
ร่างกาย เริ่มตั้งแต่ ศีรษะ หัวไหล่ มือ ซี่โครง สะโพก ขา เท้า โยการวางท่า
ทางให้อยู่ในเส้นแนวที่ดีและยืนในลักษณะที่โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยจาก
ข้อเท้าที่อยู่เหนือปุ่มโคนหัวแม่เท้า โดยผู้เต้นต้องมีการฝึกฝนการแสดง
ท่าทางต่าง ๆ อกมาตามท่าเต้นที่สื่อความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆให้เป็นไป
ตามเรื่องราวที่กำหนด เช่น ดีใจ เสียใจ โศกเศร้า โกรธ เป็นต้น จึงมีความ
จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นการเรียนและฝึกซ้อมตั้งแต่ยังเด็ก เพราะกระดูกและ
กล้ามเนื้อของเด็กอ่อนทำให้สามารถทรงตัว และเคลื่อนไหวท่าต่าง ๆ ของ
บัลเลต์ได้อย่างคล่องตัว อ่อนช้อยและงดงาม
4
นาฏศิลป์สเปน
ระบำสเปน เป็นการเต้นที่เน้นความสง่างามของท่วงท่า และความ
ชัดเจนของ Footwork โดยมีการใช้อุปกรณ์ประกอบการเต้น เช่น
manton (ผ้าคลุมไหล่) castanets (กรับ) พัด หรือ jacket เป็นต้น ซึ่ง
การเต้นระบำสเปนสามารถแบ่งได้หลายประเภท เช่น Flamenco,
Regional และ Escuela Bolera เป็นต้น โดยผู้แสดงจะแต่งกายด้วย
เสื้อผ้าสีสันสดใส จัดจ้าน ซึ่งการเต้นระบำฟลามิงโก เริ่มต้นจากท้องถิ่น
ทางตอนใต้ในแคว้น อันดาลูเซีย (Andalusia)
5
นาฏศิลป์สเปน
ปัจจุบันการเต้นแบบฟลามิงโกได้แพร่หลายไปทั่วโลก และนำชื่อเสียง
มาสู่ประเทศสเปน ซึ่งระบำฟลามิงโกแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1.Grande หรือ Hondo (ยิ่งใหญ่ หรือ ลึก ชิด) คือชนิดของเพลงที่เข้มข้น
มีเนื้อหาเอาจริงเอาจัง หรือเศร้าสลด นักดนตรีมักจะใส่ความรู้สึกอย่าง
เต็มที่ (Duende) เข้าไปในบทเพลงชนิดนี้
2.Intermedio ( ปานกลาง ) เป็นบทเพลงที่ไม่มีเนื้อหาเอาจริงเอาจังเท่า
“Grande หรือ Hondo” บางครั้งบทเพลงจะมีกลิ่นอายของตะวันออกปน
อยู่ด้วย
3.Paqueno (เล็ก) คือเพลงระบำฟลามิงโก ที่สนุกสนานแสดงออกถึง
ความรัก หรือ ความสวยงามของธรรมชาติ
6
นาฏศิลป์อินเดีย
ภารตะนาฏยัม เป็นนาฏศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดีย มีส่วนสำคัญในพิธี
ของศาสนาฮินดูสมัยโบราณ สตรีฮินดูจะถวายตัวรับใช้ศาสนาเป็น “เทว
ทาสี” ร่ายรำขับร้อง บูชาเทพในเทวาลัย ซึ่งจะเริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
ศึกษาพระเวท วรรณกรรม ดนตรี การขับร้องของเทวทาสีเปรียบประดุจ
นางอัปสรที่ทำหน้าที่ร่ายรำบนสวรรค์
7
นาฏศิลป์อินเดีย
1. การแสดง ผู้แสดงต้องได้รับการฝึกฝนอย่างมีแบบแผน ด้วยระยะ
เวลายาวนานจนมีฝีมือยอดเยี่ยม สามารถเครื่องไหวร่างกายได้
สอดคล้องกับจังหวะดนตรี เนื้อหาสาระของการแสดง สะท้อนสัจธรรมที่
ปลูกฝังยึดมั่นในคำสอนของศาสนา แสดงได้ทุกสถานที่ ไม่เน้นเวที ฉาก
เพราะความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภารตะนาฏยัม คือลีลาการเต้น
และการ่ายรำ
2. ดนตรี ที่ใช้ประกอบการแสดง ในวงดนตรีจะมีผู้ขับร้อง 2 คน คนหนึ่ง
จะตีฉิ่ง คอยให้จังหวะแก่ผู้เต้น อีกคนจะเป็นผู้ขับร้องและตีกลองเป็น
หัวใจสำคัญของการแสดงภารตะนาฏยัม ส่วนเครื่องดีด และเครื่องเป่า
เช่น ขลุ่ย เป็นเพียงส่วนประกอบให้เกิดความไพเราะเท่านั้น
3. เครื่องแต่งกาย ในยุคโบราณ จากหลักฐานที่ปรากฏตามรูปปั้ น รูป
แกะสลัก ไม่สวมเสื้อ สวมแต่ผ้านุ่งยาวแค่เข่า ใส่เครื่องประดับ สร้อยคอ
ต่างหู กำไล ข้อมือ ข้อเท้า ต้นแขน ปละเครื่องประดับที่ศีรษะ ปัจจุบันสวม
เสื้อ ยึดหลักการแต่งกายสตรีที่เป็นชุดประจำชาติของอินเดีย
8
นาฏศิลป์ญี่ปุ่น
ละครโน เป็นนาฏกรรมที่ใช้นักแสดงชายทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยนัก
แสดง 2 ประเภท ได้แก่ ตัวละครหลัก หรือ ชิเตะ และตัวละครสมทบ หรือ
วากิ โดยเรื่องราวจะดำเนินไปตามบทบาทที่สะท้อนออกมาผ่านหน้ากาก
มีดนตรีประกอบ จากนักร้อง หรือ จิอุไต และนักดนตรี หรือ ฮะยะชิคะตะ
เวทีละครโนนั้นเรียบง่าย ทำมาจากไม้ Ennoki มีจุดสำคัญอยู่ที่ฉาก
หลัง ที่วาดเป็นรูปต้นสน เรียกกันว่า คะกะมิอิตะ มีที่มาอยู่ที่ว่า แต่เดิม
แล้วละครโนไม่ได้ทำการแสดงต่อหน้าผู้ชม แต่เป็นการแสดงต่อหน้า
ต้นสน ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของพระเจ้าตามความเชื่อของชินโต ด้วยการมี
เนื้อหาเป็นไปเพื่อบูชาเทพเจ้าต่างๆ
9
นาฏศิลป์ญี่ปุ่น
นักแสดงทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากาก เป็นเครื่องบ่งบอกทั้งบทบาทที่
ได้รับ อารมณ์ที่แสดงออก และบุคลิกของตัวละคร รวมถึง เพศ อายุ และ
อื่น ๆ หรือเรียกได้ว่าเป็นทั้งหมดของการแสดงที่ดึงดูดสายตาผู้ชมก็ว่า
ได้ การสวมใส่หน้ากากจะทำให้ผู้แสดงไม่สามารถก้มมองปลายเท้าใน
ขณะแสดงได้ ดังนั้นจึงต้องใช้สมาธิและความชำนาญในการแสดงอย่าง
มาก เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และเป็นสาเหตุหลักของการเคลื่อน
ตัวอย่างช้า ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของละครโน
10
นาฏศิลป์ญี่ปุ่น
เครื่องแต่งกายของละครโน เรียกว่า โนโชโซกุ ประกอบด้วยผ้าหลาก
หลายประเภท เป็นอีกส่วนสำคัญของการแสดงและบทบาทของตัวละคร
เพราะบ่งบอกถึงฐานะ อารมณ์ และบุคลิก เพื่อเสริมกันกับหน้ากากได้
เป็นอย่างดี และชุดที่มีความซับซ้อนยุ่งยาก มีรายละเอียดมากในการใส่
นี้ เป็นอีกเสน่ห์ของการแสดงที่นักแสดงต้องใช้ความว่องไวในการ
เปลี่ยนด้วยผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อให้ก้าวออกมาสู่เวที
เบื้องหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่บางครั้งพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนกันต่อ
หน้าผู้ชมในขณะแสดง
สีในละครโน ใช้ในการบ่งบอกสถานะของตัวละคร อันได้แก่
สีขาว แทน ชนชั้นสูง
สีแดง แทน หญิงสาว
สีฟ้าอ่อน แทน อารมณ์ที่หุนหันพลันแล่น
สีน้ำเงินเข้ม แทน คนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
สีเขียวอ่อน แทน ข้าทาส บริวาร
สีน้ำตาล แทน คนรับใช้ ชาวไร่ชาวนา
11
นาฏศิลป์จีน
อุปรากรจีน(งิ้ว)ที่เป็นแบบมาตรฐาน และนับเป็นศิลปะประจำชาติ คือ
อุปรากรปักกิ่ง ซึ่งการแสดงจะเน้นศิลปะด้านดนตรี การขับร้อง นาฏลีลา
การแสดงอารมณ์ ศิลปะการต่อสู้กายกรรม ผู้แสดงจะต้องมีพรสวรรค์
น้ำเสียงมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังต้องมีความอดทนสูงอีกด้วย องค์
ประกอบของอุปรากรจีนจะประกอบด้วยสิ่งต่างๆ ดังนี้
1. ประเภท และบทบาทตัวละคร ตัวละครชายกับหญิงแบ่งออก
เป็น "บู๊และบุ๋น" โดยประเภทที่แสดงบู๊จะต้องแสดงกายกรรม ส่วน
ประเภทที่แสดงบุ๋นจะเน้นที่การขับร้อง และการแสดงอารมณ์ แต่ถ้า
แสดงบทบาทที่คาบเกี่ยวกัน จะเรียกตัวละครนั้นว่า "บู๊บุ๋น"
2. เทคนิคการแสดง แสดงตามทฤษฎีการเคลื่อนไหวทุกส่วนของ
ร่างกาย มีจังหวะสง่างาม การเคลื่อนไหวของมือ เท้า การเดิน การ
เคลื่อนไหวของหนวดเครา ชายเสื้อ ขนนกที่ประดับอยู่บนศีรษะจะคล้าย
กับละครใบ้ ใช้สัญลักษณ์แทนความหมาย เช่น การยกทัพใช้คนถือธง
เพียงคนเดียว เดินนำหน้าแม่ทัพ กิริยาอายของสตรีจะแสดงโดยการยก
แขนเสื้อมาบังใบหน้า และการแสดงว่ากำลังนอนก็แสดงโดยวางแขนไว้
บนโต๊ะแล้วนอนหนุนแขน เป็นต้น
12
นาฏศิลป์จีน
3. เครื่องแต่งกาย แต่งตามชุดประจำชาติ มีชุดจักรพรรดิ ชุดขุนนาง
เครื่องทรงเสื้อเกราะ มงกุฎจักรพรรดิ หมวกขุนนาง นักรบ รองเท้าเป็น
รองเท้าผ้าพื้นเรียบ ผู้แสดงแต่งหน้าเองตามบทบาทที่แสดง
4. ดนตรี และการขับร้อง เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการแสดงอุปรากร
จีน ซึ่งเครื่องดนตรีประเภทบุ๋นประกอบด้วยเครื่องดีด เครื่องสี ที่สำคัญ
ได้แก่ ซอ ปักกิ่ง กีตาร์ทรงกลมคล้ายพระจันทร์ แบนโจสามสาย ขลุ่ย ปี่
ออร์แกน แตรจีน ส่วนเครื่องดนตรีประเภทบู๊ ประกอบด้วยเครื่องดนตรี
ประเภทบู๊ ประกอบด้วยเครื่องดนตรี และเครื่องกระทบ ได้แก่ กรับ กลอง
หนัง กลองเตี้ย กลองใหญ่ ฆ้องใหญ่ ฆ้องเล็ก ฆ้องชุด และฉาบ ลักษณะ
การขับร้องนับว่าเป็นหัวใจสำคัญ เพราะผู้ชมต้องการฟังความไพเราะ
ของการขับร้องเพลงมากกว่าการติดตามดูเพื่อให้ทราบเนื้อร้อง
13
นาฏศิลป์จีน
5. เวที ฉาก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดง สมัยโบราณเวทีมักสร้างด้วย
อิฐ หิน เรียกว่า "สวนน้ำชา" หรือ "โรงน้ำชา" เวทีชั่วคราวสร้างด้วยไม้
รูปสี่เหลี่ยม มีหลังคา ยึดด้วยเสา 4 ตัว พื้นเวทีปูด้วยเสื่อหรือพรม
อุปกรณ์โต๊ะ 1 ตัว เก้าอี้ 2 ตัว ไม่มีม่านด้านหน้า อาวุธ เช่น ดาบ หอก ธนู
หลาว ทวน กระบอง
อ้างอิง 14
1.MAMONN. 2565. ละครโน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
https://th.anngle.org/j-culture/easynou.html. 4 มกราคม 2565.
2.สถาบันบางกอกแดนซ์ สาขาเซ็นเวิลด์. 2565. ระบำสเปน. (ออนไลน์).
แหล่งที่มา :
https://bangkokdanceacademy.com/class/%E0%B8%A3%E0%B8%
B0%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B
8%9B%E0%B8%99/. 4 มกราคม 2565.
3.ต้นแก้ว. 2565. ภารตนาฏยัม. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
https://www.gotoknow.org/posts/408293. 4 มกราคม 2565.
4.Unknown . 2565. นาฏศิลป์จีน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7/m1/206/lesson3/page09.p
hp. 4 มกราคม 2565.
5.Unknown . 2565. ศิลปะการแสดงประเภทการเต้นของตะวันตก
. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://tattep.blogspot.com/2016/06/blog-
post.html. 4 มกราคม 2565.