1
แบบขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (PA)
สำหรับขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะชำนาญการ
ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ระหว่างวันท่ี 1 เดอื น ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันท่ี 30 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2565
ผูจ้ ดั ทำขอ้ ตกลง
ชื่อ นางสาวจารุวรรณ นามสกลุ สริ ิสกุลเลิศ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนชมุ ชนบา้ นพบพระ สังกดั สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาตาก เขต 2
รับเงินเดือนในอนั ดับ คศ.2 อตั ราเงนิ เดือน 35,910 บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรยี นรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจดั การเรยี นรจู้ ริง)
หอ้ งเรียนวชิ าสามญั หรือวชิ าพ้นื ฐาน
หอ้ งเรยี นปฐมวัย
ห้องเรยี นการศึกษาพเิ ศษ
ห้องเรยี นสายวชิ าชพี
ห้องเรยี นการศึกษานอกระบบ / ตามอธั ยาศยั
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ตำแหน่งครู วทิ ยฐานะชำนาญการ ซ่ึงเป็น
ตำแหน่งท่ีดำรงอย่ใู นปจั จุบันกับผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ไวด้ ังต่อไปน้ี
สว่ นที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
1. ภาระงาน จะมภี าระงานเปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 22 ช่วั โมง/สัปดาห์ ดงั น้ี
กล่มุ สาระการเรยี นร้/ู รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 8 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 8 ช่วั โมง/สปั ดาห์
กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ จำนวน 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
ชุมนมุ หนนู อ้ ยรักการอา่ น จำนวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์
ลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
1.2 งานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
การมสี ว่ นรว่ มชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
1.3 งานพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 13 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
งานฝ่ายบรหิ ารทวั่ ไป จำนวน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
2
งานหัวหนา้ สายชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จำนวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์
งานครูท่ปี รกึ ษาประจำชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 (คาดการณ์)
1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวม จำนวน 22 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ดงั น้ี
กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 8 ช่วั โมง/สปั ดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 8 ช่วั โมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ จำนวน 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
ชุมนมุ หนูนอ้ ยรักการอา่ น จำนวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
ลกู เสือ-เนตรนารี จำนวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสรมิ และสนับสนุนการจดั การเรียนรู้ จำนวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์
การมสี ว่ นรว่ มชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
1.3 งานพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา จำนวน 13 ช่ัวโมง/สัปดาห์
งานฝา่ ยบริหารทว่ั ไป จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์
งานหวั หนา้ สายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชว่ั โมง/สัปดาห์
งานครทู ี่ปรกึ ษาประจำชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จำนวน 5 ช่ัวโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน้ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์
3
2. งานทีจ่ ะปฏิบตั ติ ามมาตรฐานตำแหน่งครู
ลกั ษณะงานท่ปี ฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหนง่ ทจ่ี ะดำเนินการพฒั นา ตามข้อตกลง ของงานตามข้อตกลง ที่ ท่ีจะเกิดข้ึนกบั ผเู้ รยี น
ทีแ่ สดงให้เหน็ ถึงการ
1. ดา้ นการจดั การเรียนรู้ ใน 1 รอบ การประเมนิ คาดหวงั ใหเ้ กิดข้ึน เปลี่ยนแปลงไปในทาง
ลกั ษณะงานที่เสนอให้ กบั ผู้เรียน ท่ีดีขนึ้ หรือมกี ารพฒั นา
ครอบคลมุ ถึง การสรา้ งและ 1.1 การสรา้ งและพัฒนาหลักสตู ร และการ มากขึ้นหรอื ผลสัมฤทธิ์
หรือพฒั นาหลักสตู ร ออกแบบการจดั การเรยี นรูจัดการวเิ คราะห์ - ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรูต้ รงตาม
การออกแบบการจดั การ หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด หลักสูตรหลักสตู รแกนกลาง สงู ขึ้น
เรียนรู้ การจัดกจิ กรรมการ นำไปจัดทำรายวิชาวทิ ยาศาสตร์และ และหลกั สตู รสถานศึกษา
เรียนรู้ การสร้างและหรือ เทคโนโลยี และจดั ทำหนว่ ยการเรียนรใู้ ห้ ตามท่ีกำหนด และผ่านการ - นักเรียนรอ้ ยละ 100 มี
พฒั นาส่อื นวัตกรรม สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรสถานศกึ ษาและ วดั และประเมนิ ผล ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวชิ า
เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การวัดและประเมนิ ผลการ พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2561) โดย - ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ผ่าน เป็นไปตามคา่ เป้าหมายที่
จดั การเรียนรู้ การศึกษา มกี ารปรับประยกุ ตใ์ ห้สอดคล้องกบั บริบทของ กระบวนการการจดั การ โรงเรยี นกำหนด
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เพื่อ โรงเรยี น เรยี นรู้ทเี่ น้นการลงมอื ปฏบิ ัติ
แก้ปญั หาหรือพฒั นาการ (Active Learning) มีความ - นกั เรียนร้อยละ 80 มีทกั ษะ
เรียนรู้ การจัดบรรยากาศท่ี 1.2 จดั ทำแผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ า ยืดหยนุ่ เหมาะสมกับ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง
ส่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรยี น วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการจดั การ สถานการณ์ในปัจจุบัน สามารถลงมอื ปฏบิ ตั ิได้ด้วย
และการอบรมและพฒั นา เรยี นรู้ทเี่ น้นการลงมือปฏิบตั ิ (Active ตนเอง (Active Learning)
คุณลักษณะทดี่ ขี องผู้เรยี น Learning) มีความยืดหยนุ่ เหมาะสมกบั - ผเู้ รียนได้เรยี นรเู้ ก่ยี วกับคดิ ตามท่ีครูผสู้ อนไดอ้ อกแบบไว้
สถานการณ์ในปัจจุบนั วเิ คราะห์และการแกป้ ัญหา
และนำความรู้ไปอธิบาย - นกั เรียนร้อยละ 80 ได้
1.3 การจดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีเน้นผ้เู รยี น สถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนใน เรยี นรเู้ กี่ยวกบั เนือ้ หา โดย
เป็นสำคญั ผา่ นกิจกรรมที่เน้นให้ผ้เู รียนปฏิบตั ิ ชวี ิตประจำวันได้ พิจารณาจากผลการเรยี นรู้
(Active Learning) ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ของ
- ผู้เรยี นได้ฝึกทักษะและ แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่องแรงและ
และเทคโนโลยี ในด้านการ การเคล่อื นท่ี
คดิ วิเคราะห์และการ
แก้ปัญหา โดยใชเ้ อกสาร - นักเรยี นรอ้ ยละ 80 มี
ทักษะและกระบวนการทาง
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ในดา้ นการคิดวิเคราะห์และ
4
ตัวชวี้ ดั (Indicators)
ผลลัพธ์ (Outcomes) ทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ กับผูเ้ รยี น
ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบตั ิ งาน (Tasks) ของงานตามข้อตกลง ท่ี ที่แสดงให้เห็นถงึ การ
ตามมาตรฐานตำแหนง่
ท่ีจะดำเนนิ การพฒั นา ตามขอ้ ตกลง คาดหวงั ให้เกดิ ขน้ึ เปลย่ี นแปลงไปในทาง
ใน 1 รอบ การประเมิน กับผเู้ รียน ทด่ี ขี ้นึ หรือมกี ารพัฒนา
มากข้นึ หรือผลสมั ฤทธิ์
สงู ขน้ึ
1.4 จดั กิจกรรมใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแกป้ ญั หา โดยใชเ้ อกสาร
และเน้นความแตกต่างของนักเรียนรายบุคคล และเรียนรู้ผ่านกจิ กรรมท่ีเน้น วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
แบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสามารถทาง ให้ผเู้ รียนปฏบิ ัติ (Active ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 80 และ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แล้วให้นักเรียน Learning โดยใช้ สามารถพัฒนาต่อยอดเปน็
ช่วยเหลือกันในการเรียน โดยใช้กระบวนการ กระบวนการในการสืบ ทักษะกระบวนการทาง
ในการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้นั E5 ในรปู แบบ เสาะหาความรู้ 5 ขั้น E5 ใน วิทยาศาสตร์โดยใชค้ วามรู้
ใบแบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รปู แบบ แบบฝึกทักษะ ทางวทิ ยาศาสตร์และ
เรือ่ งแรงและการเคล่ือนที่ สง่ เสริมให้นักเรียน เทคโนโลยีได้
ฝึกฝนทักษะการคิด วิเคราะห์ แสวงหาความรู้ - นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิ
ดว้ ยตนเอง เป็นใช้ความรูท้ างวิทยาศาสตร์และ ทางการเรยี นสูงกวา่ ค่า - นักเรียนรอ้ ยละ 80 มี
เทคโนโลยีได้ เป้าหมายของสถานศกึ ษา ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
ตง้ั แต่ระดับผลการเรยี น 2.5
1.5 มกี ารวดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ - นกั เรยี นทม่ี ีผลการเรียนรไู้ ม่ ขน้ึ ไป
โดย วดั และประเมินการเรยี นรูจ้ ากการเขา้ ผา่ นเกณฑ์ ได้รับการซ่อม
ร่วมกจิ กรรมในช้ันเรยี น การทำงานกลุ่ม เสริม แก้ไข ปรบั ปรงุ และ - นกั เรียนร้อยละ 90 มี
การนำเสนอ การสอ่ื สาร กระบวนการทาง พัฒนาจนมีผลการเรียนรูผ้ ่าน คะแนนคุณลกั ษณะอันพงึ
วิทยาศาสตร์และนำเสนอแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ เกณฑท์ ี่กำหนด ประสงค์ ตั้งแตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป
กับเพื่อนในห้องเรยี นได้
- นกั เรียนมคี วามสุขในการ - นกั เรยี นรอ้ ยละ 90 มี
1.6 ศึกษาค้นคว้า วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เรียนวทิ ยาศาสตรแ์ ละ คะแนนอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละ
งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวกบั การแก้โจทย์ทาง เทคโนโลยี และมเี จตคติที่ดี เขยี น ต้ังแตร่ ะดบั ดขี น้ึ ไป
วทิ ยาศาสตร์เรอื่ งแรงและการเคลอ่ื นทีแ่ ละ กบั การจัดบรรยายกาศในชั้น
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และนำ เรียน - นักเรียนร้อยละ 100 ใน
ความรทู้ ีไ่ ด้มาวางแผนในการจัดทำวจิ ัยในช้ัน กล่มุ ทมี่ ผี ลการเรียนรู้ไม่ผา่ น
เรียน เพ่อื แกป้ ัญหานักเรียนที่มผี ลการเรยี นรู้ เกณฑไ์ ด้รบั การซอ่ มเสรมิ
ไม่ผา่ นเกณฑ์ทกี่ ำหนด โดยมีการบันทึก แกไ้ ข ปรับปรงุ และพัฒนาจน
รายละเอียดไว้ในหลงั แผนการจดั การเรียนรู้ มีผลการเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์
5
ลกั ษณะงานท่ปี ฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหนง่ ทจ่ี ะดำเนินการพัฒนา ตามขอ้ ตกลง ของงานตามขอ้ ตกลง ที่ ท่จี ะเกดิ ขึน้ กับผ้เู รียน
ทีแ่ สดงให้เหน็ ถงึ การ
ใน 1 รอบ การประเมนิ คาดหวงั ให้เกดิ ขน้ึ เปล่ียนแปลงไปในทาง
กับผเู้ รียน ทด่ี ีขึน้ หรอื มีการพฒั นา
มากขน้ึ หรือผลสมั ฤทธิ์
สูงขน้ึ
2. ดา้ นการสง่ เสริมและ 1.7 มีการพัฒนาการจดั บรรยายกาศในช้นั - นักเรยี นได้รับการปรับปรุง - ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 90 มคี วาม
สนับสนุน การจดั การเรยี นรู้ เรียนใหเ้ หมาะสมกบั วัยของนกั เรยี น เชน่ มี แกไ้ ข และพฒั นา เปน็ คดิ เห็นเกย่ี วกบั การจดั การ
ลักษณะงานที่เสนอให้ การจดั บรรยากาศ ใหน้ กั เรยี นรสู้ ึกสนุก เรา้ ใจ รายบคุ คลตามข้อมลู เรียนการสอนของครอู ยู่ใน
ครอบคลมุ ถงึ การจดั ทำขอ้ มูล และชว่ ยกระต้นุ ให้นกั เรียนตอ้ งการมสี ่วน สารสนเทศประจำวชิ า ระดบั มาก (3.50) ขึ้นไป
สารสนเทศของผู้เรียนและ รว่ มกบั กิจกรรม ส่งเสริมนักเรยี นทกุ คนให้มี
รายวชิ า การดำเนินการตาม โอกาสนำเสนอความคิดเหน็ และออกมา - นักเรียนได้รับการดูแล ผ่าน - นกั เรยี นรอ้ ยละ 90 ได้รับ
ระบบดูแลชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี น นำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นเป็นประจำ สรา้ งแรง ระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน การปรบั ปรงุ แกไ้ ข และ
การปฏบิ ตั งิ านวชิ าการ และ บันดาลใจในการเรยี นและเช่ือมโยง เพื่อแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาใน พฒั นาผลการเรียนรูใ้ ห้ผ่าน
วิทยาศาสตร์ศาสตรก์ บั ชวี ิตประจำวนั เพ่ือให้ เกณฑท์ ี่กำหนด
นกั เรยี นเห็นคณุ คา่ ในการเรียน และประโยชน์ - นักเรียนร้อยละ 100 ได้
ท่ีเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ ร่วมทัง้ ใชส้ ่อื ผ่านการประเมนิ SDQ , การ
เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดระยะเวลาในการ เยีย่ มบ้าน กจิ กรรมโฮมรมู
เรยี นร้ขู องนกั เรียน สามารถทำความเขา้ ใจได้
งา่ ยข้ึน และสง่ เสริมคณุ ลักษณะทดี่ ขี องผู้เรยี น
คอื ความรบั ผิดชอบในการส่งภาระงาน และมี
ความซื่อสัตยต์ ่อตนเอง ในการทำงานใน
รายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ
ทดสอบความรู้ดว้ ยตนเอง
2.1 จัดทำข้อมลู สารสนเทศรายวชิ า
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยใช้ Google
form และโปรแกรม Microsoft Excel ใน
การจดั เกบ็ ข้อมูล และสรปุ สารสนเทศใน
รปู แบบกราฟแท่ง และรายงานผลสะท้อน
กลบั ให้นักเรียน เพือ่ ใหน้ ักเรียนทราบว่า ต้อง
ปรับปรุงแกไ้ ขผลการเรียนในหวั ข้อใดบา้ ง
6
ลกั ษณะงานทป่ี ฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวชวี้ ดั (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหน่ง ท่ีจะดำเนนิ การพฒั นา ตามข้อตกลง ของงานตามข้อตกลง ท่ี ท่จี ะเกิดขึ้นกบั ผเู้ รยี น
ท่ีแสดงให้เห็นถงึ การ
งานอน่ื ๆ ของสถานศึกษา ใน 1 รอบ การประเมนิ คาดหวงั ใหเ้ กดิ ข้นึ เปลีย่ นแปลงไปในทาง
และการประสานความรว่ มมือ กบั ผเู้ รยี น ท่ีดขี ึน้ หรือมกี ารพัฒนา
กับผปู้ กครอง ภาคีเครือข่าย หรอื นกั เรยี นคนใดยงั ไม่ไดท้ ดสอบ หรอื สง่ มากขนึ้ หรอื ผลสัมฤทธิ์
และหรือสถานประกอบการ ภาระ/ชนิ้ ทีก่ ำหนด เรื่องของการปรับตัวในการ
เรียน การใช้ชีวิตในโรงเรียน สูงข้ึน
2.2 มีการดำเนนิ การตามระบบดแู ล แ ล ะ ป ร ั บ พ ฤ ต ิ ก ร ร ม ใ ห้
ชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี น โดยบันทึกข้อมลู ส่วนตวั ของ เหมาะสม เป็นไปตาม และกิจกรรมการประชมุ
นกั เรยี นแต่ละคน ดำเนินกจิ กรรมกรรมเย่ยี ม ร ะ เ บ ี ย บ ข้ อ บ ั ง ค ั บ ของ ผปู้ กครอง
บ้านออนไลน์ การประเมนิ SDQ นักเรยี น โรงเรียน และประสานความ
และจดั กิจกรรมโฮมรูมนกั เรียน เพือ่ เป็นการ ร่วมมือกับผู้ปกครองในการ - นักเรียนรอ้ ยละ 90 ไดเ้ ข้า
เตรยี มความพรอ้ มใหน้ ักเรียนและแจ้งขอ้ มลู กำกับติดตามนักเรียนในการ ร่วมกิจกรรมทก่ี ลมุ่ สาระการ
ขา่ วสารทีส่ ำคัญใหก้ ับนกั เรยี นทราบ และมี เรียนการเรียน และ เรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละ
กล่มุ ไลน์สำหรบั แจ้งข้อมูลข่าวสารของทาง พฤตกิ รรมใหเ้ หมาะสม เทคโนโลยี และโรงเรียนไดจ้ ัด
โรงเรียนให้กับผู้ปกครอง ขึ้น
- นักเรยี นได้รับการพฒั นา
2.3 ปฏบิ ตั งิ านเพ่อื พฒั นาคุณภาพ ความรู้ความสามารถทาง - รอ้ ยละ 100 ของนักเรยี น
การศกึ ษาของโรงเรียน ดงั น้ี วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ับการดแู ล แกป้ ญั หาและ
ผา่ นสอื่ นวัตกรรมที่ครูสร้าง ชว่ ยเหลอื โดยการมสี ่วน
- ปฏบิ ัตงิ านวชิ าการ โดยปฏบิ ตั ิหน้าที่ และพฒั นาขน้ึ ในรปู แบบ ร่วมกับผู้ปกครอง ทัง้ ดา้ นการ
กรรมการของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ต่างๆ และไดร้ ว่ มกิจกรรม เรียน พฤตกิ รรม และการ
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยร่วมกับคุณครู ของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ดำรงชวี ิต
ในการกำหนดวิสัยทศั น์ พนั ธกิจ และ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เปา้ หมาย และกำหนดตวั ช้ีวดั ความสำเร็จของ
กลุ่มสาระฯ มีโครงสร้างการบริหาร และ - ผเู้ รยี นสามารถนำผลการ
พรรณนางานทชี่ ัดเจน ในการดำเนินกิจกรรม เรียนรู้ของตนเองมาปรับปรุง
ต่าง ๆ และรว่ มกบั คุณครจู ัดการเรียนร้ใู หก้ ับ และพัฒนาตนเองได้
ผู้เรยี น โดยใช้สอ่ื ท่ีครสู ร้างขนึ้ ร่วมกับ
เทคโนโลยีทางการศึกษา ให้เหมาะสมกบั การ
เรียนรูข้ องนักเรียน
- ปฏิบัตงิ านฝ่ายงบประมาณ
- การจดั ทำแผนปฏบิ ัตกิ ารโรงเรียน
แผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรยี น
7
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ดั (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหน่ง ท่ีจะดำเนนิ การพัฒนา ตามขอ้ ตกลง ของงานตามข้อตกลง ท่ี ทจี่ ะเกิดขน้ึ กับผู้เรยี น
ที่แสดงให้เห็นถงึ การ
3. ด้านการพัฒนาตนเองและ ใน 1 รอบ การประเมนิ คาดหวงั ให้เกดิ ข้นึ เปลี่ยนแปลงไปในทาง
วิชาชพี กบั ผเู้ รียน ท่ีดีข้นึ หรือมีการพฒั นา
ลกั ษณะงานที่เสนอให้ 2.4 รายงานผลการพัฒนาผเู้ รยี นเพ่อื เป็น มากข้นึ หรอื ผลสมั ฤทธิ์
ครอบคลมุ ถึง การพัฒนา ขอ้ มูลให้ผปู้ กครองได้ทราบ รวมถงึ การหาแนว - นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้
ตนเองอย่างเป็นระบบ และ ทางแก้ไขหรือพัฒนารว่ มกบั ผู้ปกครอง เนือ้ หาวิชาวิทยาศาสตร์และ สูงขนึ้
ต่อเนอื่ ง การมสี ว่ นรว่ ม ในการ เทคโนโลยี ผา่ นการจดั การ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ 3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและ เรียนรูด้ ้วยเรียนรผู้ ่านส่ือ - นักเรยี นรอ้ ยละ 100 ได้
เพ่ือพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ ตอ่ เนอ่ื ง โดยการอบรมกับหน่วยงานท่จี ัดการ นวัตกรรมทีค่ รูสรา้ งขึน้ พัฒนาตนเองด้าน
และการนำความรู้ อบรมเกยี่ วกับการจดั การเรียนการสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ความสามารถ ทักษะท่ไี ด้จาก อบรมพฒั นาเองเกย่ี วกับการใชเ้ ทคโนโลยี - นกั เรียนทม่ี ีปญั หาในการ หนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื งแรง
การพัฒนาตนเอง และวชิ าชีพ ดิจทิ ลั เพื่อการศึกษา เช่น การใช้โปรแกรม เรียนร้ไู ดร้ ับการแกไ้ ขด้วยสื่อ และการเคลื่อนทแ่ี ละทกั ษะ
มาใชใ้ นการพฒั นา การจดั การ ต่างๆ เพื่อสรา้ งสื่อการเรียนการสอน ใบ นวตั กรรมที่ได้จากการเขา้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
เรียนรู้ การพฒั นาคุณภาพ กิจกรรม ใบความรู้ โปสเตอร์ วีดิโอ สไลดใ์ น รว่ มชมุ ชนการเรียนร้ทู าง ผ่าน สือ่ นวัตกรรมทีค่ รูสรา้ ง
ผู้เรยี น และการพฒั นา การนำเสนอ เป็นตน้ และศึกษาคน้ คว้าหา วชิ าชพี หรอื PLC ขึ้น
นวตั กรรม การจดั การเรยี นรู้ ความรเู้ กี่ยวกับการพฒั นาสมรรถนะวิชาชีพครู
จากเว็บไซต์คุรสุ ภา หรือหน่วยงานทาง - นกั เรียนเกดิ การเรียนรูจ้ าก - นกั เรียนร้อยละ 100 ของ
การศึกษา ส่ือ นวัตกรรมของคุณครูที่ กลุ่มนักเรยี นทม่ี ปี ัญหาในการ
พัฒนาขน้ึ มา เรียนรู้ มผี ลการเรยี นรผู้ ่าน
3.2 มีสว่ นในการเป็นเขา้ รว่ มชมุ ชนการ เกณฑท์ กี่ ำหนด
เรยี นรทู้ างวิชาชีพกับคณะครูภายในและ
ภายนอกโรงเรียน ในการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ - นกั เรียนร้อยละ 100 ของ
ทางวชิ าชพี ผ่านกจิ กรรมนเิ ทศ เกดิ การเรยี นร้จู ากส่ือ
นวตั กรรมของคณุ ครทู ี่
3.3 การจัดการเรยี นรู้ และนำผลจากการ พัฒนาขนึ้ มา สามารถพฒั นา
ประชุม PLC ไปสร้างเป็นสื่อ นวัตกรรม เพือ่ คุณภาพผ้เู รยี น หรอื แกไ้ ข
นำมาใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน หรือ นกั เรียนทีม่ ผี ลการเรยี นรู้ไม่
แก้ไขนกั เรียนทมี่ ผี ลการเรยี นร้ไู มผ่ า่ นเกณฑท์ ี่ ผา่ นเกณฑท์ กี่ ำหนดได้
กำหนด
หมายเหตุ
8
1. รปู แบบการจัดทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน. ตามแบบให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการจดั การ
เรยี นร้ขู องแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหวา่ งผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา และข้าราชการครูผูจ้ ดั ทำ
ข้อตกลง
2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลักที่สง่ ผล
โดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นำเสนอรายวิชาหลักที่ทำการสอน โดยเสนอในภาพรวม ของ
รายวชิ าหลกั ท่ีทำการสอนทุกระดับชัน้ ในกรณที ีส่ อนหลายรายวชิ า สามารถเลอื กรายวชิ าใดวิชาหน่ึงได้ โดยจะตอ้ ง
แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางาน ตามข้อตกลง
สามารถประเมินไดต้ ามแบบการประเมนิ PA 2
3. การพฒั นางานตามขอ้ ตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคัญกับผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ของผูเ้ รียน
(Outcomes) และตวั ช้ีวดั (Indicators) ทีเ่ ปน็ รูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมนิ ผลการพัฒนา
งานตามข้อตกลง ใหค้ ณะกรรมการดำเนนิ การประเมนิ ตามแบบ PA 2 จากการปฏบิ ตั ิงานจริง สภาพการจดั การ
เรียนรู้ในบรบิ ทของแตล่ ะสถานศึกษา และผลลพั ธ์การเรยี นร้ขู องผูเ้ รียนท่ีเกดิ จากการพัฒนางานตามขอ้ ตกลงเปน็
สำคัญ โดยไม่เน้นการประเมนิ จากเอกสาร
ส่วนที่ 2 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานท่เี ป็นประเด็นทา้ ทายในการพัฒนาผลลพั ธก์ ารเรียนรูข้ องผเู้ รียน
ประเดน็ ที่ทา้ ทายในการพฒั นาผลลพั ธ์การเรียนร้ขู องผเู้ รยี น ของผจู้ ดั ทำข้อตกลง ซึ่งปจั จุบนั ดำรงตำแหน่ง
ครู วิทยฐานะชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้
และการพัฒนาคุณภาพการเรยี นรูข้ องผ้เู รยี น ให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดขี น้ึ หรือมีการพฒั นามากขนึ้
(ทง้ั น้ี ประเด็นทา้ ทายอาจจะแสดงให้เหน็ ถงึ ระดับการปฏิบัติที่คาดหวังทสี่ งู กว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง “การแก้โจทย์ปัญหาทางวิทยาศาสตร์เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่และทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา
ความรู้ 5E ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
1. สภาพปัญหาของผ้เู รียนและการจดั การเรยี นรู้
การสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นสื่อการเรียนการสอนนับว่ามีความสำคัญในการ
ส่งเสริมความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนทำให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสามารถและความต้องการ ซึ่งชุด
กิจกรรมการเรียนรู้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้สอนดำเนินการสอนไปตามลำดับขั้นผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมก าร
เรียนการสอนทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มทำให้นักเรยี นได้รู้จักการวางแผนในการแก้ปัญหารู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและ
กันทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและผู้เรียนกับผู้เรียนชุดกิจกรรม การเรียนรู้เป็นนวัตกรรมทาง
การศึกษาอย่างหนึ่งที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียนและกระทำร่วมกับเพื่อนๆ โดยเริ่มจากที่นักเรียนได้
เผชิญปัญหาแล้วตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบโดยการเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมและสรุปข้อมูลได้อย่าง
9
สมเหตุสมผลช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามอัตภาพช่วยเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะที่คงทนผู้เรียนสามารถ
นำไปฝกึ เมื่อไรก็ได้ไม่จำกดั เวลาและสถานท่ีฝกึ ความรบั ผดิ ชอบของผู้เรยี น และผูเ้ รียนมีเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรียน
จากการศกึ ษาของ (บญุ เก้ือ ควรหาเวช,2543:91-93) การใช้วิธกี ารสอบแบบสืบเสาะหาความรู้มี
ผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนสูงข้ึนดังจะเห็นได้จาก
การศึกษาของพรรัตน์ กิ่งมะลิ (2552:61)การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนแบบสืบเสาะหาความรู้ เป็นกระบวนการ
เรียนรู้ทีเ่ น้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกคดิ ฝึกปฏิบัติ เน้นเพื่อให้นักเรียนแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง ลง
มือปฏิบัติ ค้นพบและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองจนเกดิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยมีกระบวนการใน
การสืบเสาะหาความรทู้ ีส่ ำคญั 5 ข้ัน คอื
1) ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
2) ขน้ั การสำรวจและคน้ หา (Exploration)
3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
4) ขัน้ ขยายความร(ู้ Elaboration)
5) ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
ดว้ ยเหตุผลดงั กลา่ ว จึงมคี วามจำเปน็ อยา่ งยง่ิ ท่ผี ้วู จิ ยั จะการแก้โจทย์ปญั หาทางวทิ ยาศาสตรเ์ รอื่ ง แรงและ
การเคลอ่ื นท่ีและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักเรียนระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 โดย
ใชก้ ารจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ขั้นพืน้ ฐานตอ่ ไป
เพ่ือเปน็ การพัฒนาและแก้ปัญหาในดา้ นการคิด การคดิ แกป้ ญั หา การเชอ่ื มโยง การส่ือความ
ภาษาและสัญลักษณ์ และการให้เหตุผลของผู้เรียนหมดไป อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E มีขั้นตอนการทำกิจกรรม และเน้นทักษะ
กระบวนการอยา่ งเหมาะสมกับระดับความสามารถและวัยของผู้เรยี น จะสามารถสง่ ผลให้ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สูงขึ้น และชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกกิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบ
เสาะหาความรู้ 5E ยังเป็นสื่อที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล นักเรียนจะได้มีเจตคติที่ดีต่อการ
เรยี นวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. วธิ กี ารดำเนนิ การให้บรรลผุ ล
2.1 วเิ คราะห์หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ
พทุ ธศกั ราช 2561) และหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นชมุ ชนบา้ นพบพระ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2563 ในเรอื่ ง
ของ มาตรฐานการเรียน และตัวชวี้ ัด ของเนื้อหา
2.2 จัดทำโครงร่างของเนื้อหาเอกสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง “การแก้โจทย์
ปัญหาทางวิทยาศาสตร์เรื่อง แรงและการเคลื่อนท่ีและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ
10
นกั เรยี นระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 โดยใช้การจดั การเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5E ”โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น
ส่วน ๆ พรอ้ มเฉลยตัวอย่าง กจิ กรรม และแบบฝึกหดั ดงั น้ี
ชุดแบบฝึกทกั ษะท่ี 1 การเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุ
ชุดแบบฝกึ ทักษะที่ 2 แรงและการกระทำ
ชดุ แบบฝกึ ทักษะท่ี 3 แรงดึงและแรงผลกั
ชุดแบบฝึกทกั ษะท่ี 4 แรงโน้มถว่ งของโลก
ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะที่ 5 แรงดึงดดู ของโลกท่ีกระทำตอ่ วัตถุ
2.3 ให้คุณครใู นกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชว่ ยกนั ตรวจสอบ
ความถกู ต้อง ในเนอื้ หา การเฉลยของตวั อยา่ ง กจิ กรรม และแบบฝกึ หดั พรอ้ มท้งั เสนอแนะ เพ่อื ปรบั ปรงุ แก้ไข
2.4 ครูผู้สอนนำชดุ การเรียนมาปรบั ปรงุ แกไ้ ขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระ
การเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนชมุ ชนบ้านพบพระ
2.6 นำเอกสารการเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง “การแก้โจทย์ปัญหาทาง
วิทยาศาสตร์เรื่อง แรงและการเคลื่อนท่ีและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักเรียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
ทงั้ ในรูปแบบ ONLINE หรอื ONSITE โดยปรับกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ท
2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ ในโปรแกรม
Microsoft Excel และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน
ในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริม สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้
ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรยี นมีผลการเรียนรผู้ ่านเกณฑท์ ่กี ำหนด
3. ผลลพั ธ์การพัฒนาท่ีคาดหวงั
3.1 เชิงปรมิ าณ
นกั เรยี นระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 4 หอ้ ง รวมจำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 136
คน ได้รับการพัฒนามโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ด้วยชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝกึ กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5E ” โดยมีคะแนนทดสอบปลายภาคผา่ นเกณฑ์
(ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) คดิ เป็นรอ้ ยละ 80 ของจำนวนนักเรยี นท้งั หมด และนกั เรยี นท้งั หมดมีความพึงพอใจ
ต่อการจดั การเรียนรู้ดว้ ยชุดแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์เรือ่ ง แรงและการเคลอ่ื นท่ี มีค่าเฉล่ียอย่ใู นระดบั มากขน้ึ ไป
3.2 เชงิ คุณภาพ
11
นกั เรยี นระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 จำนวน 4 หอ้ ง รวมจำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 136
คน มีความรู้ความเข้าใจในมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์เรอื่ ง การแก้โจทย์ปญั หาแรงและการเคลือ่ นที่ และสามารถ
นำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการเรยี นรู้ไปเชอื่ มโยงกบั ชีวติ ประจำวัน เพื่อใช้ในการตดั สินใจในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
ลงชอ่ื ........................................................................
(นางสาวจารวุ รรณ สริ ิสกลุ เลิศ)
ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะชำนาญการ
ผู้จดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน
1/ตุลาคม/2564
ความเหน็ ของผอู้ ำนวยการสถานศึกษา
( ) เห็นชอบให้เปน็ ขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน
( ) ไมเ่ หน็ ชอบให้เปน็ ข้อตกลงในการพฒั นางาน โดยมขี อ้ เสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข และเสนอเพอ่ื
พิจารณาอกี ครั้ง ดังน้ี
.......................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................................
(นายภูรินท์ ชนลิ กุล)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนชมุ ชนบา้ นพบพระ
................/.............../...................