เรื่อง การทำ ขนมไทย จัดทำ โดย ด.ช ววรพล ภูมิประเทศ ด.ช วายุ คำ ประสาร ชั้น ชั้ มัธยมศึกษาปีที่2/2 ครูผู้สอน นายอดิศักดิ์ ทองสุข โรงเรียนไตรเขตประชาสามัคคีรัชมังคลาภิกเษก สำ นักเขตพื้นที่การศึกษาน่าน
ก า ร ทำ ข น ม ไ ท ย ส า ร บั ญ. 1.ลูกชุบ2.ขนมใส่ไส้3.ขนมชั้น4.ขนมตาล5.สังขยาฟังทอง6.ขนมตะโก้7.ฝอยทอง8.เปียกปูนใบเตย9.ขนมน้ำ ดอกไม้ 1 0.ข น ม ต้ ม ห น้ า 4 ห น้ า 5 ห น้ า 6 ห น้ า 9 ห น้ า 1 0 ห น้ า 1 1 ห น้ า 1 2 ห น้ า 1 3 ห น้ า 7 ห น้ า 8
ขนมไทย มี เอกลัก ษณ์ ด ้านวัฒ นธรรมประจ าชาติ ไทยคื อ มีค วามละเอียด อ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบวิธีการทาที่พิถีพิถนัรสชาติอร่ อยหอมหวาน สี สัน สวยงาม รู ปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณี ตบรรจง และขนมไทยนั้น นั้ ยังเป็ นทั้ง ทั้ ขนมที่จดั ทาในพิธีงานวันสาคัญๆทางเทศกาล ต่างๆถ่ายทอดกันมาเป็ นวิถีชีวิตของ ...12 พ.ย. 2555 คำ นำ ขนมไทยนั้นนั้เกิดมีมานานแล้วตั้งตั้แต่ประเทศไทยยังเป็นสยามประเทศ ซึ่งสมัยนั้นนั้ ได้ติดต่อ ค้าขายกับต่างชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนติดต่อกันทั้งทั้ทางด้านสินค้าและวัฒนธรรม ขนมไทยใน ยุคแรกๆ เป็นเพียงนำ ข้าวไปตำ หรือโม่ให้ได้แป้ง และนำ ไปผสมกับน้ำ ตาล หรือมะพร้าว เพื่อทำ เป็นขนม เนื้อหา
. นำ ถั่วถั่เขียวเลาะเปลือกล้างทำ ความสะอาดด้วยน้ำ จนกว่าสีของน้ำ จากสีเหลืองอ่อน จะเปลี่ยนเป็นสีใสสะอาด หลังจากนั้นนั้จึงแช่ถั่วถั่เขียวเลาะเปลือกกับน้ำ ทิ้งทิ้ ไว้ประมาณ 3 ชั่วชั่ โมง ให้ถั่วถั่เขียวพองตัวอิ่มน้ำ จนนิ่ม แล้วจึงนำ ไปล้างให้สะอาดอีกครั้งรั้ 2. นำ ถั่วถั่เขียวที่แช่เสร็จแล้วใส่ในหม้อนึ่ง นึ่งนานประมาณ 15-20 นาที ด้วยไฟกลาง จนกระทั่งทั่ถั่วถั่เขียวสุก 3. นำ ถั่วถั่เขียวนึ่งสุกที่นิ่มแล้วลงใส่ในโถปั่น โดยแบ่งการปั่นทีละน้อย เพื่อเพิ่มความ ชัวร์ว่าถั่วถั่กวนของเราจะละเอียดมากพอก็ได้ 4. ใส่น้ำ ตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง ตามด้วยเกลือป่น 1/4 ช้อนชา หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง และจึงปั่นส่วนผสมทั้งทั้หมดให้เข้ากันอย่างละเอียด 5. เทส่วนผสมทั้งทั้หมดลงในกะทะด้วยไฟอ่อนๆ และค่อยๆ กวนไส้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 ชั่วชั่ โมง จนได้ไส้ถั่วถั่กวนแห้ง และเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงนำ ออกจากกระทะ ใช้ไม้พายยีๆ ตัวไส้ถั่วถั่กวนเพื่อให้ไส้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น หรือพักทิ้งทิ้ ไว้ให้จนไส้ ถั่วถั่กวนเย็นลง การทำ วุ้นสำ หรับชุบ 6. มาเริ่มทำ ตัววุ้นสำ หรับใช้ชุบ ด้วยการใส่ผงวุ้น 2 ช้อนชา ลงแช่ในน้ำ เปล่าประมาณ 10 นาที ให้วุ้นอิ่มน้ำ 7. เติมน้ำ เปล่าประมาณ 2 ถ้วยตวง ลงในหม้อต้มน้ำ ตามด้วยผงวุ้นที่แช่ทิ้งทิ้เอาไว้ ประมาณ 1 ถ้วยตวง และใส่น้ำ ตาลทราย 1/ 2 ถ้วยตวงตามลงไป แล้วจึงเคี่ยวส่วน ผสมให้เข้ากันด้วยไฟกลาง ประมาณ 15 นาที เพื่อให้วุ้นจมลงไป และคนเรื่อยๆ เพื่อ ไม่ให้วุ้นจับตัวเป็นก้อน 8. เมื่อน้ำ เดือดจึงคนต่ออีกประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนั้ค่อยปิดไฟ ยกลงใส่ภาชนะ และ พักวุ้นทิ้งทิ้ ไว้สักประมาณ 5 นาที เพื่อให้วุ้นเซ็ตตัว 9. เตรียมสีผสมอาหารตามใจชอบ แนะนำ ให้ใช้สีผสมอาหาร 1 ฝาต่อน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ หรือสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเข้มอ่อนของสี 10. เริ่มปั้นลูกชุบ โดยแบ่งลูกชุบเป็นก้อนๆ ปั้นให้เกิดรูปได้ตามต้องการ หลังจากปั้น เสร็จแล้ว ให้นำ ลูกชุบรูปทรงต่างๆ เสียบกับไม้ปลายแหลม โดยเสียบแค่เพียงเล็กน้อย เท่านั้นนั้แค่ปลายไม้ 11. หลังจากนั้นนั้นำ ลูกชุบไปชุบกับสีผสมอาหารที่เตรียมเอาไว้ สามารถใช้พู่กันทำ ให้ เกิดลวดลายได้ตามใจชอบ พักไว้ให้แห้ง แล้วจึงค่อยเริ่มชุบวุ้น โดยจะชุบทั้งทั้หมด 2 ครั้งรั้คือชุบครั้งรั้แรกพักทิ้งทิ้ ให้แห้ง แล้วจึงเริ่มชุบครั้งรั้ที่ 2 โดยเราจะต้องวางและเสียบ ลูกชุบแต่ละไม้เว้นระยะ ไม่ให้ติดกัน 12. เมื่อชุบวุ้นจนแห้งแล้ว นำ ลูกชุบมาตกแต่งต่อด้วยอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมความน่ารัก เพียงเท่านี้เราก็จะได้ลูบชุบหน้าตาน่ารับประทานแล้วค่ะ
ส่วนผสมสำ หรับ 15 ห่อ 1. น้ำ ตาลปี๊ป 100 กรัม 2. แป้งข้าวเหนียว 175 กรัม 3. น้ำ ใบเตยปั่นละเอียด 150 มิลลิลิตร 4. กะทิ 400 มิลลิลิตร 5. แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม 6. เกลือป่น ½ ช้อนชา สำ หรับใส่ในไส้ 7. เกลือป่น ½ ช้อนชา สำ หรับใส่ในกะทิ 8. มะพร้าวขูด 9. กลิ่นมะลิ ½ ช้อนชา 10. ใบตองสำ หรับห่อขนม 11. ไม้สำ หรับกลัด หรือไม้จิ้ม จิ้ ฟัน ขั้น ขั้ ตอนการทำ ขนมใส่ไส้ 1. นำ ใบตองสำ หรับห่อมาตัดแบ่ง โดยจะแบ่งตัดเป็น 2 ขนาด สำ หรับใช้ห่อชั้น ชั้ ใน และ ชั้น ชั้ นอก โดยให้ฉีกใบตองชั้น ชั้ นอกขนาดประมาณ 5 นิ้ว และสำ หรับชั้น ชั้ ในขนาดประมาณ 4 นิ้ว และตัดทรงให้เป็นรูปวงรี เพื่อให้สามารถห่อได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเช็ดใบตองให้ สะอาดเตรียมพร้อมสำ หรับห่อขนม 2. นำ มะพร้าวที่ขูดแล้วมาใส่เกลือป่น พร้อมน้ำ ตาลปี๊บแล้วนำ ขึ้นตั้ง ตั้ ไฟอ่อน พร้อมกวน ส่วนผสมทั้ง ทั้ หมดไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที จนส่วนผสมเริ่มแห้งจึงปิดไฟแล้วพักทิ้ง ทิ้ ไว้ให้เย็น 3. นำ แป้งข้าวเหนียวและน้ำ ใบเตยมาผสมเข้าด้วยกัน พร้อมกับนวดจนแป้งเริ่มจับตัว เป็นก้อน จากนั้น นั้ พักทิ้ง ทิ้ ไว้และคลุมด้วยพลาสติก 4. ตั้ง ตั้ ไฟนำ กะทิ 100 มิลลิลิตร เทผสมกับแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น และใส่กลิ่นมะลิเพิ่ม ความหอม คนให้ส่วนผสมทั้ง ทั้ หมดเข้ากันจนแป้งจับตัวเป็นเม็ด แล้วจึงใส่กระทิ 300 มิลลิลิตรที่เหลือ คนต่อไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ จนกะทิข้นขึ้นจึงปิดไฟ และพักทิ้ง ทิ้ ไว้ให้ เย็น 5. นำ ตัวไส้ที่เย็นแล้วมาปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดประมาณ 1 นิ้ว และปั้นตัวแป้งให้ เป็นก้อนกลมๆ แต่ต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวไส้ หลังจากนั้น นั้ จึงแผ่ตัวแป้งออก พร้อมกับ วางตัวไส้ลงตรงกลางแป้ง พร้อมกับห่อตัวแป้งให้มิดไส้ 6. นำ ใบตองทั้ง ทั้ ชั้น ชั้ นอก และชั้น ชั้ ในมาประกบกัน แล้วจึงนำ ขนมที่ปั้นไว้วางบนใบตอง พร้อมราดด้วยน้ำ กะทิประมาณ ½ ช้อนโต๊ะ แล้วจึงพับใบตองให้เป็นทรงสูง ก่อนจะคาด ทับด้วยใบมะพร้าว และใช้ไม้กลัดตัวขนมไว้ไม่ให้หลุด 7. ตั้ง ตั้ หม้อนึ่ง นำ ขนมไปนึ่งในน้ำ ที่เดือดจัดนานประมาณ 20 นาที (หากลองเช็คแล้วยัง ไม่สุกดีให้นึ่งต่อได้) เมื่อครบเวลาแล้วพร้อมจัดเสิร์ฟ
ส่วนผสมขนมชั้นชั้สำ หรับเสิร์ฟ 4 คน 1. แป้งมัน 320 กรัม 2. แป้งข้าวโพด 80 กรัม 3. แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม 4. แป้งท้าวยายม่อม 40 กรัม 5. น้ำ ตาลทรายขาว 550 กรัม 6. กะทิ 3 ถ้วย 7. น้ำ เปล่า 1 ถ้วย 8. สีผสมอาหาร (สีเขียว, สีฟ้า หรือสีตามใจชอบ) วิธีทำ ขนมชั้นชั้ 1. นำ แป้งทั้งทั้หมดมาผสมเข้าด้วยกันและพักทิ้งทิ้ ไว้ 2. นำ น้ำ เปล่าขึ้นตั้งตั้ ไฟกลาง แล้วจึงใส่น้ำ ตาลตามลงไป เคี่ยวไปเรื่อยๆ และเมื่อน้ำ ตาล ละลายดีจนกลายเป็นน้ำ เชื่อมแล้วให้ยกลงจากเตา และพักทิ้งทิ้ ไว้ให้เย็น 3. เมื่อน้ำ เชื่อมเย็นตัวลงแล้วให้ใส่กะทิ พร้อมคนให้เข้ากัน 4. นำ กะทิและน้ำ เชื่อมไปเทผสมกับแป้งทั้งทั้หมดที่เตรียมเอาไว้ โดยค่อยๆ เททีละนิดพร้อม ขยำ ให้แป้งเข้ากันดี 5. หลังจากนั้นนั้แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน แล้วนำ ส่วนที่ 1 ใส่สีผสมอาหารลงไป สามารถใช้ทั้งทั้ สีฟ้า เขียว หรือสีตามใจชอบ 6. หลังจากนั้นนั้เตรียมนึ่งโดยนำ ถาดพิมพ์มาเตรียมเอาไว้ แล้วเทแป้งส่วนที่ 1 ที่ใส่สีผสม อาหารแล้วลงไปก่อน เทให้มีความหนาประมาณ 2 มล. แล้วนำ ไปนึ่งประมาณ 10 นาที 7. เมื่อนึ่งส่วนที่ 1 เสร็จแล้ว ให้เทแป้งสีที่ 2 ตามลงไปทับบนหน้าด้วยความหนา 2 มล. แล้ว จึงทำ แบบนี้สลับชั้นชั้กันไปเรื่อยๆ 8. เมื่อทำ ครบจนได้หลายแล้ว พักทิ้งทิ้ ไว้ให้เย็นแล้วนำ ออกมาตัดเป็นชิ้นชิ้ๆ ก่อนเสิร์ฟ
ขนมตาล” เมนูขนมหวานไทยที่มีสีสันสวยสดใสชวนรับประทาน เสิร์ฟพร้อมกับมะพร้าวโ หน้าแล้วล่ะก็บอกเลยว่ารสชาติ และกลิ่นหอมคือที่สุด! และความอร่อย กับกลิ่นหอมนี้ก็ ตามกันเองได้ที่บ้านไม่อยากเลยค่ะ วิธีทำ ขนมตาล ส่วนผสมขนมตาล 20 ชิ้นชิ้ 1. เนื้อลูกตาลสุก 200 กรัม 2. แป้งข้าวเจ้า 350 กรัม 3. น้ำ ตาลทราย 320 กรัม 4. กะทิ 300 มิลลิลิตร 5. เกลือ ½ ช้อนชา 6. ผงฟู 1 ช้อนชา 7. มะพร้าวขูด วิธีทำ ขนมตาล 1. นำ ใบตองมาพับเป็นทรงกลมแบบถ้วยสำ หรับเป็นพิมพ์ใส่ขนม 2. ใส่กะทิ และน้ำ ตาลลงในชามผสม คนส่วนผสมทั้งทั้หมดให้เข้ากัน จนน้ำ ตาลละลายหมด ใส่เนื้อลูกตาลสุกลงไป พร้อมตีให้เข้ากัน 3. หลังจากนั้นนั้จึงใส่แป้งข้าวเจ้า ผงฟู และเกลือตามลงไป พร้อมกับตีผสมให้ส่วนผ ทั้งทั้หมดเข้ากัน 4. นำ ส่วนผสมทั้งทั้หมดมากรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ได้เนื้อแป้งเนียนละเอียด แนะนำ กรองประมาณ 2-3 รอบ แล้วจึงพักแป้งทิ้งทิ้ ไว้ 10 นาที 5. ระหว่างพักแป้งให้นำ ใบตองนึ่งก่อนประมาณ 1 นาที เพื่อไม่ให้แป้งติดใบตอง 6. หลังจากนั้นนั้เทแป้งลงในพิมพ์ใบตอง ใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที 7. เมื่อสุกแล้วนำ ยกลงจากเตา ใส่มะพร้าวขูดโรยหน้า พร้อมจัดเสิร์ฟได้เลย
นผสมสำ หรับสังขยาฟักทอง 1 ลูก ฟักทอง 1 ลูก กะทิ 200 มล. ไข่ไก่ 2 ฟอง ไข่เป็ด 2 ฟอง น้ำ ตาลปี๊บ 180 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา ใบเตย นตอนการทำ สังขยาฟักทอง นำ ฟักทองคว้านฝาและคว้านเมล็ดออกให้เรียบร้อย โดยให้เหลือเพียงแต่ใยด้านในให้เก็บ าไว้ เพื่อช่วยยึดตัวสังขยาไม่ให้หลุดออกเวลานำ ไปนึ่ง แล้วจึงนำ ฟักทองไปทำ ความสะอาด นใน และด้านนอกให้สะอาด พักทิ้งทิ้ ไว้ให้ฟักทองแห้งจึงค่อยนำ มาทำ ต่อ ใส่ไข่ไก่ และไข่เป็ดลงในชามผสม ตามด้วยกะทิ น้ำ ตาลปี๊บ และใบเตย หลังจากนั้นนั้ ใช้วิธี รขยำ ส่วนผสมทั้งทั้หมดให้เข้ากัน เมื่อเริ่มเข้ากันแล้วเพื่อให้ได้สังขยาที่เนื้อเนียน ให้กรอง นผสมด้วยผ้าขาวบาง หรือกระชอนตาถี่ก่อนใส่ลงในฟักทอง โดยควรกรองมากกว่า 1 ครั้งรั้ อให้ได้เนื้อสังขยาที่เนื้อเนียนจริงๆ เทสังขยาลงในฟักทอง โดยเหลือบริเวณด้านบนไว้เล็กน้อย เพื่อไม่ให้สังขยาล้นฟักทอง อนำ ไปนึ่ง ขณะเทหากมีฟองให้ตักออกให้หมด นำ ฟักทองสังขยาไปนึ่งประมาณ 45 นาที วิธีเช็คว่าสังขยาสุกดีแล้วหรือยัง ให้ใช้ไม้จิ้มจิ้ ายแหลมจิ้มจิ้ลงไปเช็คที่สังขยา ถ้าหากไม่มีเนื้อสังขยาติดขึ้นมาตามไม้จิ้มจิ้แสดงว่าเนื้อ ขยาสุกดีแล้ว เมื่อฟักทองสังขยาสุกแล้ว นำ ออกจากซึ้งมาพักทิ้งทิ้ ไว้ให้ฟักทองสังขยาเซ็ตตัว และนำ มา แบ่งเป็นชิ้นชิ้เล็ก ก่อนจัดเสิร์ฟ
ส่วนผสมฝอยทอง 1. ไข่แดงของไข่เป็ด 6 ฟอง 2. ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง 3. น้ำ เปล่า 1 ลิตร 4. น้ำ ตาลทราย 1 กก. 5. กลิ่นมะลิ 6. ไม้ปลายแหลม ขั้นขั้ตอนการทำ ฝอยทอง 1. แยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกันทั้งทั้ ไข่เป็ดและไข่ไก่ โดยกรองไข่แดงทั้งทั้หมดด้วยผ้า ขาวบาง ให้ได้ไข่แดงที่ละเอียด เพื่อฝอยทองที่เส้นสวย แนะนำ ให้กรอง 2-3 ครั้งรั้ 2. นำ หม้อใส่น้ำ เปล่า และนำ ขึ้นตั้งตั้ ไฟโดยใช้ไฟกลาง แล้วจึงใส่น้ำ ตาล กลิ่นมะลิ คนไปเรื่อยๆ จนน้ำ ตาลละลายเริ่มละลายจึงใช้ไฟอ่อน 3. คนไปเรื่อยๆ จนน้ำ ตาลเริ่มมีความข้นเป็นน้ำ เชื่อม และเมื่อน้ำ เชื่อมในกะทะมีลักษณะเป็น น้ำ พุ ให้ใช้กรวยโรยไข่แดงลงไป ให้เป็นวงกลม โดยหากโรยสูงจะได้ฝอยทองเส้นเล็ก แต่ หากโรยแบบต่ำ จะได้ฝอยทองเส้นใหญ่ ให้โรยวนไปเรื่อยๆ ซ้ำ ทางเดิมประมาณ 20 รอบ 4. จากนั้นนั้ ให้ใช้ไม้ปลายแหลมเกี่ยวเส้นไข่ที่สุกแล้วไปนำ ไปวนในน้ำ เชื่อม พร้อมกับนำ เส้น ฝอยทองมาพักบนตระแกรงให้สะเด็ดน้ำ เชื่อมออก 5. นำ ฝอยทองที่ได้มาม้วนให้เป็นก้อนพอดีคำ พร้อมจัดเสิร์ฟ
วนผสมขนมเปียกปูน สำ หรับเสิร์ฟ 5 ที่ 1. แป้งข้าวเจ้า 240 กรัม 2. แป้งมันสำ ปะหลัง 60 กรัม 3. น้ำ ปูนใส 600 มิลลิลิตร 4. น้ำ ใบเตยคั้นคั้480 มิลลิลิตร 5. น้ำ ตาลมะพร้าว 120 กรัม 6. น้ำ ตาลทรายขาว 60 กรัม 7. เกลือ ¼ ช้อนชา 8. กะทิ 500 มิลลิลิตร 9. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา 10. งาขาวคั่วคั่1 ช้อนโต๊ะ ขั้นขั้ตอนการทำ ขนมเปียกปูน 1. นำ แป้งข้าวเจ้า และแป้งมันร่อนผสมกัน แล้วจึงใส่น้ำ ปูนใสลงไปผสมกับแป้ง 2. หลังจากนั้นนั้ ใส่น้ำ ใบเตยปริมาณ 220 มิลลิลิตร น้ำ ตาลมะพร้าว น้ำ ตาลทราย กะทิ และ เกลือตามลงไป คนจนน้ำ ตาลละลายดี 3. นำ ส่วนผสมที่ได้กรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ได้แป้งที่เนียนละเอียด 4. นำ ส่วนผสมใส่ในกะทะ แล้วนำ ขึ้นตั้งตั้ ไฟอ่อน แล้วจึงเคี่ยวไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ แป้งติดกะทะ และจับตัวกันเป็นก้อน เมื่อรู้สึกว่าแป้งเริ่มเหนียวหนืดขึ้น และแป้งเริ่มมีสีเงา มันวาว ให้ปิดเตา 5. นำ แป้งที่ได้เทใส่แม่พิมพ์ที่ทาน้ำ มันไว้แล้วเพื่อไม่ให้แป้งติดพิมพ์ เกลี่ยให้หน้าแป้งสวย เนียนเท่ากัน แล้วจึงพักทิ้งทิ้ ไว้รอให้ขนมเปียกปูนเซ็ตตัว 6. เมื่อขนมเปียกปูนเซ็ตตัวเย็นลงแล้ว ก่อนนำ เสิร์ฟให้โรยด้วยงาขาวคั่วคั่พร้อมรับประทาน
ส่วนผสมขนมน้ำ ดอกไม้ สำ หรับเสิร์ฟ 5 ที่ 1. แป้งข้าวเจ้า 240 กรัม 2. แป้งมัน 15 กรัม 3. น้ำ ลอยดอกมะลิ หรือน้ำ เปล่าใส่กลิ่นมะลิ 450 มิลลิตลิตร 4. น้ำ ตาลทราย 120 กรัม 5. น้ำ กระเจี๊ยจี๊บ 60 มิลลิตร 6. น้ำ อัญชัน 60 มิลลิตร 7. น้ำ ใบเตย 60 มิลลิตร วิธีทำ ขนมน้ำ ดอกไม้ 1. นำ แป้งข้าวเจ้า และแป้งมันร่อนผสมให้เข้ากัน 2. เตรียมน้ำ ลอยดอกมะลิ แล้วจึงใส่น้ำ ตาลทรายลงไป คนไปเรื่อยๆ จนน้ำ ตาลทรายละลาย หมดจนกลายเป็นน้ำ เชื่อม 3. นำ น้ำ เชื่อมที่ได้เทใส่ลงในแป้ง ค่อยๆ คนให้เข้ากันดี จนแป้งไม่เป็นเม็ด แล้วจึงแบ่งแป้ง ออกเป็น 3 ส่วนเพื่อทำ เป็น 3 สี จากนั้นนั้ ใส่สีจากน้ำ สมุนไพรต่างๆ ทั้งทั้3 สีที่เตรียมเอาไว้ลงใน แป้ง (สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ) คนให้สีกับแป้งเข้ากันดี แล้วจึงพักทิ้งทิ้ ไว้ 4. เตรียมนึ่ง โดยให้นำ ถ้วยตะไลเปล่าไปนึ่งให้ร้อนก่อนใส่แป้ง ประมาณ 5 นาที เพื่อให้แป้ง ไม่ติดถ้วย และเพื่อให้ตัวแป้งหน้าบุ๋ม 5. ใส่แป้งลงในถ้วยตะไล โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลา หรือขนมสุกดีแล้ว ให้ นำ ถ้วยตะไลแช่ไว้ในน้ำ เย็น และเมื่อถ้วยเย็นจึงค่อยแคะขนมน้ำ ดอกไม้ออก พร้อมนำ จัด เสิร์ฟ
ส่วนผสมทำ ไส้ขนมต้มสำ หรับ 4 เสิร์ฟ 1. มะพร้าวทึนทึกขูด 300 กรัม 2. น้ำ ตาลปี๊บ 200 กรัม 3. น้ำ ลอยดอกมะลิ หรือน้ำ เปล่า ส่วนผสมแป้งขนมต้มสำ หรับ 4 เสิร์ฟ 1. แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม 2. น้ำ ใบเตย 80 มล. ส่วนผสมคลุกหน้าขนมต้มสำ หรับ 4 เสิร์ฟ 1. มะพร้าวขูด 100 กรัม 2. เกลือป่น ½ ช้อนชา ขั้นขั้ตอนการทำ ขนมต้ม 1. นำ น้ำ ลอยดอกมะลิ หรือหากไม่มีสามารถใช้น้ำ เปล่าได้ขึ้นตั้งตั้ ไฟกลาง แล้วจึงใส่น้ำ ตาลปี๊บ และมะพร้าวขูด เมื่อน้ำ ตาลปี๊บละลายหมดให้ใช้ไฟอ่อน และผัดไปเรื่อยๆ จนไส้เริ่มแห้งจึงปิด เตา และพักทิ้งทิ้ ไว้ให้ไส้เย็นลง 2. เมื่อไส้เย็นลงแล้ว นำ มาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดประมาณ 1 นิ้ว แล้วจึงพักทิ้งทิ้ ไว้ 3. นำ แป้งข้าวเหนียว แล้วทยอยใส่น้ำ ใบเตย แล้วค่อยๆ นวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเริ่มเข้า เนื้อให้เติมน้ำ ใบเตยเข้าไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นนั้นำ ผ้าขาวบาง หรือพลาสติกมาคลุมแป้งและพัก แป้งทิ้งทิ้ ไว้ประมาณ 5 นาที 4. สำ หรับการทำ มะพร้าวคลุกขนม ให้นำ มะพร้าวที่ขูดไว้แล้วไปนึ่งให้สุก แล้วนำ มาคลุกกับ เกลือ 5. หลังจากนั้นนั้ตั้งตั้กะทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำ เปล่า เมื่อน้ำ เดือดให้แบ่งแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วจึงแผ่แป้งออกเป็นแผ่นบางๆ ใส่ไส้ที่เราเตรียมเอาไว้ลงตรงกลาง ให้ตัวแป้งหุ้มตัวไส้ให้ มิด แล้วจึงปั้นตัวแป้งที่มีไส้แล้วเป็นก้อนกลมอีกครั้งรั้ 6. ใส่แป้งลงไปในกะทะที่น้ำ เดือด รอจนตัวแป้งลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ แล้วจึงช้อนขึ้นมาสะเด็ด น้ำ ออกจากแป้ง แล้วจึงนำ แป้งที่ได้ไปคลุกกับมะพร้าวขูดผสมเกลือที่เตรียมเอาไว้ 7. ทำ ต่อแบบนี้จนครบทุกลูก ขนมต้มไส้มะพร้าวก็พร้อมกับนำ เสิร์ฟได้เลย
1. ทำ ไส้ขนมต้มโดยใส่มะพร้าวขูด น้ำ ตาลมะพร้าว และน้ำ ลอยดอกมะลิลงในกระทะ ผัดจนแห้ง ยกลง จากเตา พักไว้พออุ่น ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดปลายนิ้วหัวแม่มือหรือขนาดตามชอบ พักไว้ 2. ทำ แป้งขนมต้มโดยเทแป้งใส่อ่างผสม ค่อย ๆ เติมน้ำ ใบเตยลงไป นวดผสมจนเนื้อเนียน 3. ตั้งตั้หม้อเติมน้ำ เปล่าใส่ใบเตยเพิ่มความหอม ต้มจนเดือด นำ แป้งมาห่อไส้ขนมปั้นให้เป็นก้อนกลม แล้วใส่ลงไปต้มจนสุกลอยขึ้น เสร็จแล้วเอาไปคลุกกับมะพร้าวขูดผสมเกลือให้ทั่วทั่จัดเสิร์ฟ จบ