ทกั ษะชวี ติ และสงั คม
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1
ความหมาย ความสาคญั
และองค์ประกอบ
ของทักษะชีวติ และสงั คม
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
ทักษะ (Skill) โดยทั่วไปหมายถึง ความเชี่ยวชาญ ความคล่องแคล่ว ฝีมือ หรือความสามารถใน
เร่ืองใดเร่ืองหน่ึง ซึ่งทักษะเหล่าน้ีแต่ละบุคคลสามารถสร้างขึ้นได้จากการเรียนรู้และฝึกฝนจนเกิดความ
เ ชี่ ย ว ช า ญ
เช่น ทักษะทางกีฬา ทักษะทางภาษา ทักษะทางอาชีพ ทักษะในการบริหารจัดการเป็นต้น ความสามารถเหล่านี้
เปน็ ทักษะทจี่ าเป็นต่อการเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชพี ของแต่ละบคุ คลเราเรียกทักษะประเภทน้ีว่า “ทักษะ
ในการดารงชีวิต” หรือ Livelihood Skill หรือ Skill for living ซึ่งหมายถึงความสามารถของบุคคลที่
ช่วยให้ดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้ ซึ่งการมีทักษะดังกล่าวน้ีจะทาให้มีโอกาสดีกว่าผู้ที่ไม่มีทักษะในการ
ด า ร ง ชี วิ ต
ท้ังน้ีหน่วยงานทางด้านการศึกษาได้แบ่งทักษะในการดารงชีวิตออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะการจัดการ
ดูแลช่วยเหลือตนเอง ทกั ษะการเรียนรู้ ทักษะด้านสังคม และทักษะด้านการจัดการสร้างงานอาชีพ โดยได้วางกรอบ
แนวคิดทั้ง 4 ด้าน ดงั นี้
1. ทักษะการจัดการดูแลช่วยเหลือตนเอง หมายถึง ความสามารถในการนาข้อมูลสารสนเทศ
มากาหนดแนวทางการดาเนินชีวิตของตนเอง เลือกวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม สามารถควบคุม
ตนเอง
ในการแสดงออกและยอมรบั ผลของการกระทานัน้ ๆ ประกอบด้วย
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
1.1 ความสามารถในการวางแผนเพ่ือกาหนดเป้าหมายของตนเอง ได้แก่ ความสามารถในการ
จาแนกแยกแยะขอ้ มูลสารสนเทศ นาขอ้ มูลมากาหนดแนวทางในการดาเนินงานของตนเองได้ชัดเจนท้ังใน
ดา้ นจติ ใจ ด้านการเรยี น ดา้ นการทางาน และดา้ นสงั คมหรอื การอยู่ร่วมกับผอู้ ่นื
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
1.2 การแก้ปัญหาอย่างสมเหตุสมผล ได้แก่ความสามารถในการหา
ปัจจยั ท่ีทาให้เกิดปัญหา การเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองท้ังใน
ดา้ นการเรยี น ดา้ นการทางานและดา้ นสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
1.3 การ กร ะท าหรือการ แสดง ออ กอ ย่าง มีเหตุ ผล ไ ด้แ ก่
ความสามารถในการควบคุมตนเองในการแสดงออกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในชวี ติ ประจาวัน
1.4 การรับรู้ผลจากการกระทาของตนเอง ได้แก่ความสามารถ
ในการรู้จุดเด่น จุดด้อย และผลในการกระทา รวมท้ังรู้ผลกระทบท่ีเกิดขึ้น
จากการกระทานนั้ ๆ
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
2. ทกั ษะการเรยี นรู้ หมายถงึ ความสามารถในการแสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ และสามารถ
นาข้อมูลสารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิดท่ีหลากหลายสรุปเป็นองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง
ประกอบดว้ ย
2.1 ความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้แก่ ความสามารถในการศึกษาและรวบรวมข้อมูล
จากแหล่งการเรียนรู้รอบตัว โดยใชว้ ธิ ีการทีเ่ หมาะสม
2.2 ใฝ่เรียนใฝ่รู้ ได้แก่ ความอยากรู้ มีความต้องการที่จะอ่านหนังสือ รักการอ่าน ชอบใช้เวลา
ว่ า ง
ในการศกึ ษาและเรยี นร้เู รอื่ งทตี่ นสนใจ
2.3 สรุปองค์ความรู้ ได้แก่ การนาข้อมูลสารสนเทศท่ีได้มาศึกษา วิเคราะห์ ตีความเปรียบเทียบ
เชื่อมโยงกบั ความรอู้ ่ืน ๆ จนเกดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการสรุปและตัดสินใจเลือกสรร
ได้
3. ทกั ษะด้านสงั คม หมายถงึ ความสามารถในการอยู่รว่ มกับผอู้ ่ืนดว้ ยความเอื้ออาทรช่วยเหลือและ
เห็นใจซ่ึงกันและกัน ร่วมมือกันทางานในลักษณะการเป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี สามารถปรับตัวอยู่ใน
สิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม และส่อื สารกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่างสรา้ งสรรคแ์ ละถกู กาลเทศะ ประกอบดว้ ย
3.1 ความสามารถในการสือ่ สารระหว่างบคุ คล ได้แก่ ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการพูดคุย
การถ่ายทอดเรื่องราวได้ชัดเจน สร้างสัมพันธภาพท่ีดีต่อกันระหว่างผู้พูดและผู้ฟังด้วยกิริยาท่าทางที่
สอดคลอ้ งเหมาะสม รวมทง้ั การรู้จักรบั ฟงั บุคคลอ่ืนอย่างตัง้ ใจและสร้างสรรค์
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
4. ทักษะด้านการจดั การสรา้ งงานอาชีพ หมายถึง ความสามารถในการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพ
ตัดสินใจเลือกอาชีพได้ตามความถนัดและความสนใจของตนเองรู้และเข้าใจปรับปรุงความรู้เพ่ือพัฒนา
อาชีพของตน ประกอบด้วย
4.1 ความสามารถในการเลือกอาชีพ ได้แก่ ความสามารถในการเลือกศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ
รู้จดุ เด่น จดุ ด้อย รคู้ วามสามารถเฉพาะทางทีจ่ ะใช้ในการประกอบอาชพี จนกระทง่ั สามารถเลือกอาชีพได้
ตามความถนดั และความสนใจของตนเองได้
4.2 ความสามารถในการวางแผนงานในการประกอบอาชีพ ได้แก่ การหาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ
การกาหนดแนวทาง และการวางแผนในการประกอบอาชีพจากความหมายและองคป์ ระกอบของทักษะใน
การดารงชีวิต หรือ จะครอบคลุมทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการพัฒนาตนเองและการอยู่
ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ประกอบด้วยการรู้จักตนเอง การแสวงหาและใช้ข้อมูล การสื่อสารและการสร้าง
ความสัมพันธ์กับผู้อ่ืน การทางานเป็นทีมการปรับตัว การมีวิสัยทัศน์ การคิดการตัดสินใจ และการ
แก้ปัญหา การวางแผนการจัดการ และการเลือกแนวทางการดารงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ทั้งน้ีเพ่ือให้
บคุ คลนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดใี นอนาคต
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
ทักษะชวี ติ (Life Skills) โดยทัว่ ไปหมายถงึ ความสามารถหรือคณุ ลักษณะภายในของบคุ คลทจ่ี ะช่วย
ใหส้ ามารถเผชญิ สถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและเตรียมพร้อมท่ีจะ
ปรับตัวได้ในอนาคต ทั้งนี้หลายหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาคนได้ให้ความหมายของทักษะชีวิต
หรอื Life Skills ไวห้ ลายประการ ดังนี้
องคก์ ารอนามยั โลก (World Health Organization : WHO) ซึ่งเปน็ หน่วยงานระหวา่ งประเทศของ
สหประชาชาตแิ ละทาหน้าท่ีดแู ลประสานงานด้านสาธารณสุข ไดอ้ ธิบายว่า
ทกั ษะชีวิต หมายถึง ความสามารถในการปรบั ตวั และการมพี ฤติกรรมไปในทิศทางทีถ่ ูกต้องทจี่ ะเผชิญ
กับสง่ิ ทา้ ทายตา่ ง ๆ ที่เกดิ ข้นึ ในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้เสนอแนวคิดหลักของทักษะ
ชี วิ ต
ไว้ 10 ประการ คอื
1. การตดั สินใจ (
2. การแก้ปญั หา ( )
3. ความคดิ สร้างสรรค์ (
4. ความคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ (
5. การสือ่ สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ (
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
6. การสรา้ งสัมพันธภาพระหวา่ งบุคคล (Interpersonal Relationship Skills)
7. การตระหนกั รู้ในตนเอง (Self-Awareness)
8. ความเห็นใจผอู้ ื่น (Empathy)
9. การจดั การกบั อารมณ์ (Coping with Emotions)
10. การจดั การกับความเครียด (Coping with Stress)
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
แผนภาพแสดงองคป์ ระกอบของทกั ษะในการดารงชวี ติ
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความหมายของทักษะชีวิต ว่าหมายถึง ความสามารถ
ขน้ั พ้นื ฐานของบคุ คลในการปรับตวั และเลือกการดาเนินชีวิตท่ีเหมาะสมเพื่อให้สามารถเผชิญปัญหาต่าง ๆ
ที่อยู่รอบตัวในสภาพสงั คมปัจจบุ นั และเตรยี มพรอ้ มสาหรับอนาคตได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ส่วนกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้อธิบายเพ่ิมเติมว่า ทักษะชีวิตเป็นความสามารถ
ของบุคคล ประกอบด้วยความรู้และเจตคติในการจัดการกับปัญหาต่างๆ รอบตัวในสังคมปัจจุบัน และ
เตรยี มความพร้อมสาหรับการปรับตัวในอนาคต ครอบคลุมท้ังในเรื่องบทบาทของหญิงชาย เพศสัมพันธ์
สารเสพตดิ สุขภาพ จรยิ ธรรม อทิ ธพิ ลของสอ่ื สง่ิ แวดลอ้ ม ชีวติ ครอบครัว ตลอดจนปัญหาสังคมด้วย
ความคิดเชิงเหตุผล ซ่ึงนาไปสู่การตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งน้ีกระทรวงสาธารณสุขได้
จัดแบ่งองคป์ ระกอบของทกั ษะชวี ิตออกเปน็ 3 ด้าน คอื ดา้ นพทุ ธพิสยั ดา้ นจติ พิสัย และด้านทักษะพิสัย
ดังน้ี
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
แผนภาพแสดงองคป์ ระกอบของทกั ษะชวี ติ
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
ในระบบการศึกษาได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะชีวิตให้กับเยาวชนไทย โดยสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ได้อธบิ ายความหมายของทกั ษะชีวิต ว่าเป็นความสามารถของบุคคลท่ี
จะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ รอบตัวในสภาพสังคมปัจจุบันและเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตัวในอนาคต
โดย
ไดก้ าหนดให้ทกั ษะชีวติ เปน็ สมรรถนะสาคญั ท่ีผ้เู รยี นทุกคนได้รับการพัฒนา ทั้งในด้านความรู้ความรู้สึกนึก
คิด ให้รู้จักสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล รู้จักจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆได้อย่าง
เหมาะสม ปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม รู้จักหลกี เล่ียงพฤติกรรมไมพ่ งึ
ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน ป้องกันตัวเองในภาวะคับขัน และจัดการกับชีวิตอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ สอดคลอ้ งกับวฒั นธรรมและสงั คม
ทั้งน้ี สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้กาหนดองค์ประกอบของทักษะชีวิตท่ีสาคัญท่ีจะ
สร้างและพฒั นาอนั จะเปน็ ภมู คิ ุ้มกนั ใหก้ ับเด็กและเยาวชนไว้ 4 องค์ประกอบ ดงั นี้
1. การตระหนักร้แู ละเห็นคุณคา่ ในตนเองและผ้อู ื่น หมายถงึ การร้จู ักความถนัด ความสามารถจุดเดน่
จดุ ด้อยของตนเอง เขา้ ใจความแตกต่างของแต่ละบุคคล รู้จักตนเอง ยอมรับ เห็นคุณค่า และภาคภูมิใจ
ในตนเองและผอู้ น่ื มีเป้าหมายในชวี ิต และมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะในการดารงชวี ติ
2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูลข่าวสาร ปัญหา
และสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์ และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผลและข้อมูลที่
ถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง
สรา้ งสรรค์
3. การจดั การกบั อารมณ์ และความเครียด หมายถงึ ความเข้าใจ และรู้เท่าทันภาวะอารมณ์ของบุคคล
รู้สาเหตุความเครียด รู้วิธีการควบคุมอารมณ์และความเครียด รู้วิธีผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยน
พฤต4ิก.รรกมาทร่ีจสะรก้าอ่งใสหัมเ้ กพดิ ันอธาภรมาพณท์ไมี่ด่พีกึงับปผรู้อะสื่นงคหไ์ มปาใยนถทึงางกทาด่ี รี เข้าใจ
มุมมอง อารมณ์ ความรู้สึกของผู้อื่น ใช้ภาษาพูดและภาษากาย
เพ่ือสือ่ สารความรูส้ กึ นึกคิดของตนเอง รับรู้ความรู้สึกนึกคิดและ
ความต้องการของผู้อื่น วางตัวได้ถูกต้องเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ
ใช้ในการส่ือสารที่สร้างสัมพันธภาพที่ดีสร้างความร่วมมือ
และทางานรว่ มกับผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
สงั คม ( หมายถึง กลมุ่ คนทอ่ี ยู่รวมกันและมีความสมั พนั ธ์กนั โดยทางตรงหรือทางออ้ มมกี าร
จัดระเบียบ กฎเกณฑ์ร่วมกัน มีแบบแผนการดาเนินชีวิตหรือยึดถือวัฒนธรรมร่วมกัน องค์ประกอบของ
สงั คมจึงประกอบดว้ ยพ้นื ท่ีหรอื ดินแดนบุคคลทุกเพศทุกวัยและวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมท่ีมีลักษณะเฉพาะ
ของตนเอง
ทกั ษะสงั คม ( นักการศกึ ษาทงั้ ของไทยและต่างประเทศได้อธิบายความหมายของทักษะ
สังคมไว้หลายลกั ษณะ เชน่
1. ทักษะสังคม คือ ความสามารถของบุคคลในการที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ โดยสามารถแสดงออกถึงความคิด ความรู้สึกของตนเองตามสิทธิและความพึงพอใจ
ตลอดจนทาให้ความต้องการแหง่ ตนสามารถบรรลุได้โดยไมล่ ะเมดิ สิทธแิ ละความพึงพอใจของบคุ คลอ่นื
2. ทักษะสังคม หมายถึง ความสามารถของบุคคลในสังคมที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยการ
รจู้ กั รบั ผดิ ชอบตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนร้จู กั ปฏิบัติต่อผูอ้ ื่นมจี ิตสานกึ และสร้างประโยชน์ใหแ้ ก่สงั คม
3. ทักษะสังคม หมายถึงการรู้จักอยู่ร่วมกันและทางานด้วยกันรู้จักการให้และการรับ รู้จักความ
รับผิดชอบ เคารพสิทธิของผู้อ่ืน และมีความสานึกต่อผู้อื่น อันได้แก่การอยู่ร่วมกันในสังคม และ
ความร้สู ึกท่ดี ตี ่อสงั คม คือ ทักษะท่ีจะทาให้มนุษย์แต่ละคน ซ่ึงเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม สามารถดาเนิน
ชี วิ ต อ ยู่ ใ น สั ง ค ม
ไดอ้ ยา่ งสงบสขุ และเป็นประโยชน์ต่อสงั คมนั้น ๆ
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
4. ทักษะสังคม หมายถึง ทักษะในการติดต่อสื่อสารของผู้คนในสังคม ครอบคลุมทักษะใน 3 ด้าน
คือ
4.1 ทักษะในการอยู่ร่วมกันและทางานร่วมกับผู้อ่ืน การยอมรับ การนับถือในส่ิงที่ถูกต้อง และ
การอยรู่ ว่ มกันในสังคมทีม่ กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้
4.2 ทักษะในการควบคมุ ตนเองและรู้จักตัดสนิ ใจด้วยตนเอง
4.3 ทกั ษะการแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นและประสบการณก์ บั ผอู้ น่ื
จากตัวอย่างความหมายของทักษะสังคมข้างต้น สรุปได้ว่า ทักษะสังคมโดยทั่วไปหมายถึง
ความสามารถของบุคคลในการมีส่วนร่วม หรือการเข้าสังคมเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขด้วย
การปฏิบัติตนแสดงถึงการรับผิดชอบตามบทบาทหน้าท่ีของตน รู้จักปฏิบัติต่อผู้อ่ืนได้อย่างเหมาะสม
สามารถอยู่และทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื สามารถดาเนินชีวิตอยใู่ นสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้งการรจู้ กั
ค ว บ คุ ม ต น เ อ ง รู้ จั ก ตั ด สิ น ใ จ
ด้วยตนเอง รู้จักร่วมแลกเปล่ียนแนวคิดและประสบการณ์กับบุคคลอ่ืน มีสานึกต่อสังคมและสร้าง
ป ร ะ โ ย ช น์
ใหแ้ กส่ งั คม
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
องค์ประกอบของทกั ษะสงั คม
การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล เป็นรากฐานสาคัญของทักษะสังคม ซึ่งประกอบด้วย
ทั ก ษ ะ
ทจี่ าเ1ป. ็นก1า0รรปจู้ รกั ะเกปา็นรผดู้ใหังนแ้ ล้ี ะผ้รู บั
2. การปรับตวั ใหเ้ ข้ากับสิ่งแวดล้อม
3. การเคารพในสิทธิและยอมรับความสามารถของตนเองและ
ผอู้ น่ื
4. การควบคุมตนเองและการจัดการกับความขัดแย้งได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ
5. มีความเป็นผู้นา รู้จักโน้มน้าวจิตใจคน สร้างแรงบันดาลใจ
และความกระตอื รอื ร้นให้เกิดข้ึนในกลุม่
6. การรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม และการเคารพต่อ
ขอ้ ตกลง กฎกตกิ าของกลมุ่
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
7. การปฏิบัติตนในสังคมอย่างเหมาะสม เช่น มารยาทและการแต่งกาย
ในสงั คม
8. การวางแผนและการมสี ่วนร่วมในการทางานกบั ผอู้ ื่น
9. การแสดงความคิดเห็นของตนเอง และการยอมรับความ
คดิ เหน็ ของผู้อ่ืน
10. ความสามารถในการประนีประนอม และการจัดการกับ
ความขัดแย้งได้อย่ างมีประสิทธิภาพท้ั งน้ีสามารถแบ่งกลุ่ม
องค์ประกอบทักษะสังคมออกเปน็ 5 ด้าน ไดแ้ ก่
1. ด้านทักษะในการส่ือสารระหว่างบุคคล หมายถึง ความสามารถในการส่ือสาร ท้ังในด้านการ
สื่ อ ส า ร
ที่ไม่ใช้ถ้อยคา เช่น การแสดงออกด้วยท่าทาง และการใช้ภาษาท่ีสอดคล้องเหมาะสม และรู้จักรับฟัง
บุคคลอนื่ อย่างตง้ั ใจ การให้และการรูจ้ กั รับฟังขอ้ มูลยอ้ นกลบั บุคคลอ่นื อยา่ งสร้างสรรค์
2. ด้านทักษะการปรับตัว หมายถึง ความสามารถในการปรับเปล่ียนตนเอง ทั้งทางด้านความคิด ทัศนคติ
และพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสมกบั สภาพบรบิ ทแวดล้อมท่ีเปลยี่ นแปลงไป
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
3. ด้านทักษะในการปฏเิ สธและเจรจาตอ่ รอง หมายถงึ ความสามารถในการปฏิเสธในส่งิ ท่กี อ่ ให้เกิด
ผลเสียแก่ตนเองและผู้อ่ืน การรู้จักประนีประนอมในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง
บุคคล การโน้มน้าวให้ผู้อื่นเห็นสอดคล้องกับความคิดของตนและเสนอทางเลือกที่จะสร้างความพึง
พอใจรว่ มกนั ท้ังของตนเองและผ้อู น่ื
4. ดา้ นทกั ษะในการให้ความร่วมมอื หมายถึง ความสามารถในการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มได้อย่างดี
ทาให้งานบรรลผุ ลตามเปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ การประเมนิ ความสามารถของตนเองทจ่ี ะใชป้ ระโยชน์ต่อกลุ่ม
หรอื สังคม การใหค้ วามสนบั สนุนและความไว้วางใจในสมาชกิ กลุม่ การยอมรับในความแตกตา่ งระหว่าง
บุคคลในการทางานร่วมกัน รวมท้ังการใหค้ วามชว่ ยเหลือกันและกัน การไม่เอาเปรียบและการรับผิดชอบ
ผลงานของกลมุ่ รว่ มกัน
5. ด้านทักษะในการเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ื่น หมายถงึ ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจความรู้สึกความ
ต้องการของบคุ คลอนื่ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
จะเหน็ วา่ ทกั ษะทางสังคมครอบคลุมการแสดงออกใน 6 ลกั ษณะดว้ ยกนั ประกอบด้วย
1. การแสดงออกทางอารมณ์ ( หมายถึง ความสามารถในการสื่อสาร
โดยไม่ใช้ถ้อยคา รวมทั้งการแสดงเจตคติและการแสดงออกระหว่างบุคคลด้วยกิริยาท่าทางตา่ ง ๆ
2. ความไวในการรับรู้อารมณ์ผู้อ่ืน ( หมายถึงความสามารถในการรับ
และตีความหมายของการสื่อสารท่ีไมไ่ ดใ้ ชถ้ ้อยคาของบคุ คลอื่น
3. การควบคุมอารมณ์ตนเอง ( หมายถึง ความสามารถในการควบคุมและ
กากับอารมณ์ รวมท้งั การแสดงออกไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. การแสดงออกทางสังคม ( หมายถงึ ความสามารถในการแสดงออกดว้ ยการ
ใช้ถ้อยคา และความสามารถในการรว่ มสนทนากับผ้อู ่นื
5. ความไวในการรบั รทู้ างสงั คม ( หมายถึง ความสามารถในการตีความหมายการ
สือ่ สารจากถอ้ ยคาของบุคคลอ่นื ๆ ในสงั คม
ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะสงั คม
6. การควบคุมทางสังคม ( หมายถึง ทักษะในการแสดงบทบาททางสังคม
และความสามารถในการแสดงตนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
จากความหมาย องค์ประกอบ และลักษณะของทักษะสังคม จะเห็นว่า ทักษะสังคมเป็น
ความสามารถรู้จักและเข้าใจตนเอง ความสามารถรู้และเข้าใจความต้องการของคนอ่ืน ๆ ท่ีมีความ
เก่ียวข้องรวมทั้งการแสดงออกได้อย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์ต่าง ๆ และสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม
นอกจากน้ีทักษะในการดารงชีวิต ( ทักษะชีวิต ( และทักษะสังคม (
เป็นทักษะที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และจะช่วยส่งเสริมให้ปัจเจกชนพัฒนาตนเองและพัฒนาสังคม และ
ประเทศชาตไิ ด้อย่างมน่ั คงและย่ังยนื
ความสาคญั ของทกั ษะชวี ิตและสงั คม
ทักษะชีวิตและสังคม ( คือ ทักษะท่ีจาเป็นสาหรับมนุษย์เพ่ือให้สามารถ
ดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สงบสุข และสร้างสรรค์ประโยชน์ให้สังคมเจริญก้าวหน้า
ตอ่ ไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช* (พระปรมาภิไธยในขณะน้ัน) ได้มีพระบรมราโชวาท
แก่นิสิต นักศึกษา เกี่ยวกับความสาคัญของทักษะชีวิตและสังคม และแนวทางการปฏิบัติตนดังความตอน
หน่งึ วา่
ความสาคญั ของทกั ษะชวี ติ และสงั คม
จากพระบรมราโชวาทดังกล่าวจะเห็นว่า มนุษย์ทุกคนจาเป็นต้องมีทักษะชีวิตและสังคมเน่ืองจาก
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ( คือ โดยธรรมชาติจะต้องดาเนินชีวิตร่วมกับบุคคลอ่ืน ๆ มีการ
ติดต่อสัมพันธ์พ่ึงพาอาศัยกนั และไม่สามารถดาเนนิ ชวี ิตอยู่อย่างอิสระตามลาพังแต่เพียงผู้เดียวได้การอยู่
ร่วมกันในสังคมเริ่มต้นท่ีบ้าน โรงเรียน หรือที่ทางาน ไปถึงระดับประเทศชาติ และสังคมโลก ซึ่งต้องใช้
ทักษะหรือความสามารถในการปรับตัวของบุคคลเพื่อให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข น่ันคือ
ทกั ษะชวี ติ และสงั คมมีความสาคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หรือการพัฒนา “คน” ทุกเพศและทุกวัย
ซง่ึ ตอ้ งผ่านกระบวนการฝกึ ฝนและเรียนรูอ้ ยา่ งต่อเนอื่ งและตลอดชวี ติ การมที ักษะชีวติ และสังคมทีด่ จี ะทา
ใหส้ ามารถพฒั นาตนเอง สามารถปรบั ตัวไดด้ ใี นส่งิ แวดล้อมท่ีมีการเปล่ียนแปลง อันจะนาไปสู่การมีชีวิต
ที่ดีในอนาคต ในทานองกลับกัน หากขาดทักษะชีวิตและสังคม จะทาให้บุคคลน้ันมีปัญหาในการปรับตัว
ซง่ึ จะนาไปสู่ปัญหาสงั คมอน่ื ๆ ตลอดจนโอกาสท่อี าจจะประสบความล้มเหลวในชีวิตได้ ทักษะชีวิตและ
สงั คมจงึ เป็นทักษะทม่ี ีความสาคัญท้ังทางด้านส่วนบุคคลและดา้ นสังคม ดงั นี้
ความสาคญั ของทกั ษะชวี ิตและสงั คม
ความสาคัญทางด้านส่วนบุคคล ทักษะชีวิตและสังคมเป็นคุณลักษณะสาคัญอย่างหน่ึงของ
ความสามารถทางความฉลาดทางอารมณ์ ( ของมนุษย์ ซ่ึงจะช่วยให้บุคคลสามารถดาเนินชีวิตได้
อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข เพราะจะสามารถนาความรู้ เจตคติและทักษะไปใช้ในการจัดการกับ
ปญั หาต่าง ๆ รอบตวั ในสภาพสังคมปัจจุบัน และการเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตัวในอนาคตได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ท่ีสังคมมีความเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะชีวิตและสังคมย่ิงมี
ความจาเป็นมากข้ึน เพราะบุคคลต้องสามารถจัดการกับความตระหนักรู้ในตนเองและการปฏิสัมพันธ์กับ
ผู้อ่ืน สามารถแก้ปัญหาได้โดยสันติวิธีเม่ือเกิดความขัดแย้ง สามารถปรับตัวได้ในทุกสภาพแวดล้อมการ
ขาดทกั ษะชวี ติ และสงั คม จะทาให้บุคคลไมส่ ามารถควบคุมตนเองไดเ้ มอื่ ต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆกล่าวได้
ว่า ทักษะชีวติ และสังคมช่วยให้มนษุ ย์ดาเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข มั่นคง และประสบความสาเร็จในชีวิต
ได้
ความสาคัญทางด้านสังคม ทักษะชีวิตและสังคมเป็นทักษะที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ระหวา่ งสมาชกิ ในสงั คม ความเข้าใจกนั และกัน สามารถทางานรว่ มกันได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สามารถใช้
ศักยภาพของแต่ละบุคคลในการพัฒนาสังคมได้อย่างเต็มที่ มีแนวทางแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นโดยสันติวิธี
สมาชิกในสังคมรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนา
สังคมท่ตี นอยู่ สงั คมมคี วามสงบสุข และมีความเจริญร่งุ เรืองอย่างมน่ั คงและย่งั ยืน