E-book เรื่อง MUMMY การทำมัมมี่ของอียิปต์

คํานํา

หนังสอื เล่มนีเปนสว่ นหนึงของวชิ า ส33101 ชนั มธั ยมศกึ ษาปที 6/4
ภาคเรยี นที 1 ปการศกึ ษา 2564 โดยหนังสอื เล่มนีมจี ดุ ประสงค์เพือศกึ ษา
หาความรทู้ ีได้จากเรอื ง " การทํามมั มขี องอยี ปิ ต์" ทังนีในหนังสอื เล่มนีมี
เนือหาประกอบด้วยความรเู้ กียวกับต้นกําเนิดของมมั มี ขันตอนวธิ ีการทํา
มมั มี รวมถึงประโยชน์ทีได้จากการทํามมั มี

ผูจ้ ัดทําได้เลือกหัวขอ้ นีในการทํารายงาน เนืองมาจากเปนเรอื งทีน่า
สนใจ รวมทังแสดงให้เห็นถึงวฒั นธรรมของชาวอยี ปิ ต์ ผู้จัดทําต้องขอ
ขอบคุณอาจารย์ชตุ ิมา จันทรป์ ระเสรฐิ ผูใ้ ห้ความรแู้ ละแนวทางการศกึ ษา
ขอขอบคุณเพือนๆทุกคนทีให้ความชว่ ยเหลือมาโดยตลอด หวงั วา่ หนังสอื เล่ม
นีจะให้ความรู้ และเปนประโยชน์แก่ผูอ้ า่ นทุก ๆ ท่าน หากมขี อ้ เสนอแนะ
ประการใด ผูจ้ ัดทําขอรบั ไวด้ ้วยความขอบพระคุณยงิ

ผูจ้ ัดทํา

เรอื ง หน้า

1.มมั มคี ืออะไร ? 1
2.กําเนิดมมั มรี า่ งแรกของอยี ปิ ต์ 2
3.อทิ ธิฤทธิขอิ งมมั มี 3
4.เรอื งชวี ติ หลังความตาย 4
5.พีระมดิ 5
6.มมั มยี คุ แรก 6
7.ขนั ตอนการทํามมั มี 7
8.นําปรงุ อาบศพมมั มี 22
9.โถเก็บอวยั วะภายใน 23
10.หน้ากาก หีบ และโลงศพ 24
11.มมั มี วฒั นธรรมด้านการแพทย์ 25
12.มมั มสี ตั ว์ 26
13.บรรณานุกรม 27



กําเนิดมัมมรี า่ งแรกของอยี ปิ ต์

เรอื งเรมิ ขึนเมือโอซิรสิ ถูกฆาตกร โอซิรสิ มีน้องชายใจโฉดชือเซธ
เซธฆ่าโอซิรสิ ด้วยความรษิ ยา เพราะรูส้ ึกว่าชาวอียิปต์รกั ใครเ่ ทิดทูนโอซิ
รสิ มากกว่าตน ไอซิสซึงเปนพระมเหสีของโอซิรสิ ทนไม่ได้ทีต้องพราก
จากพระสวามี นางเทียวค้นหาพระศพของโอซิรสิ ไปทัวอียิปต์และเมือ
พบแล้วก็นําพระศพของโอซิ รสิ กลับมา ไอซิสรูว้ ่าเซธจะต้องโกรธจัดถ้า
รูว้ ่านางทําอะไรลงไป นางจึงนําพระศพของโอซิรสิ ไปซ่อนแต่เซธก็รู้
ความจรงิ และนําพระศพของโอซิรสิ ออกจากทีซ่อน เซธหันพระศพโอซิริ
สออกเปน 14ชิน และนําชินส่วนต่างๆ ไปทิงกระจัดกระจายทัวแผ่นดิน
อียิปต์โดยคิดว่าตนสามารถกําจัดโอซิรสิ ได้ สาํ เรจ็ ในทีสุด เซธอาจ
กําจัดโอซิรสิ ได้ แต่ไม่อาจทําลายความรกั ทีไอซิสมีต่อโอซิรสิ ไอซิสออก
ตามหาโอซิรสิ อีกโดยแปลงรา่ งเปนเหยียวดํา (นกนักล่าชนิดหนึง) และ
เหินขึนไปเหนืออียิปต์เพือมองหาว่าเซธนําชินส่วนต่างๆ ไปซ่อนไว้ทีไหน

นางค้นหาชินส่วนของโอซิรสิ
พบทีละชินๆ ยกเว้นชินเดียว
ทีถูกปลากินไป ไอซิสรวบรวม
ชินส่วนของพระศพเข้าด้วย
กัน นางรอ้ งไห้คราํ ครวญเมือ
มองพระศพของโอซิรสิ เมือ
องค์สุรยิ เทพเรเห็นนําตา
ของนางจึงส่งเทพอนูบิสและ
ทอธมาช่วยเทพพันชิน ส่วน
ของโอซิรสิ ด้วยผ้า จากนันไอ
ซิส อนูบิส และทอธ ก็ช่วยกัน
นําชินส่วนแต่ละชินออกมา
เรยี งเปนรูปรา่ งของโอซิรสิ
แล้วใช้ผ้าพันชินส่วนทังหมด
กลายเปนมัมมีรา่ งแรกไอซิส
จุมพิตมัมมี และโอซิรสิ ก็ถือ
กําเนิดใหม่อีกครงั ไม่ใช่เพือ
มีชีวิตอยู่ในโลกนี หากมีชีวิต
นิรนั ดรใ์ นโลกหลังความตาย
ในฐานะเจ้าแห่งผู้วายชนม์

อทิ ธิฤทธิของมมั มี

เรอื งราวเกียวกับมมั มนี ันมกี ารเล่าขาน
สบื ต่อกันมาเปนระยะเวลายาวนาน ไมว่ า่ จะ
เปน การออกอาละวาดหลอกหลอนหรอื สรา้ ง
วรี กรรม ขวญั ผวาได้ไมแ่ พ้ผรี ะดับแนวหน้าตัว
อนื ๆ เชน่ แฟรงเก็นสไตน์ ท่านเคาท์แดรค๊ คูล่า
แวมไพร์ ซงึ นับกันแล้ว มมั มเี ปนปศาจทีมอี ายุ
ยนื ยาว ทีสุดและมกี ําเนิดมาก่อนเผา่ พันธ์อุ นื ๆ
เจ้ามมั มนี ีเวลาอาละวาด คาดวา่ จะมพี ละ
กําลังมหาศาลถึงได้สามารถหักคอเหยอื ได้
อยา่ งเชน่ หนังเรอื ง มมั มี หลายๆภาค บางตัว
สามารถใชอ้ าวธุ หรอื เดินไต่ตามกําแพงได้เลย
ทีเดียว แต่ออกจะโอเวอรไ์ ปนิด สว่ นใหญ่มกั จะ
จินตนาการกันวา่ มมั มเี ดินโทงๆ เขา้ มาหักคอ
เสยี มากกวา่

ความเปนอมตะนานๆ ซงึ ต้องใชเ้ วลาเตรยี มหหลุมฝงศพและจัดการ
ตกแต่งนานมากทีเดียว โดยสรปุ เปนขนั ตอน ดังนี
1.ศพคนตายต้องอยใู่ นลัษณะทีทํามมั มแี ล้ว เพือปองกันไมใ่ ห้ศพเน่าเปอย

2.ต้องบรรจมุ มั มลี งในโลงศพไม้ แล้วนําไปบรรจใุ นโลงศพหินในหลุมฝงศพ

3.สถานทีเก็บศพต้องสรา้ งให้มคี วามแขง็ แรง มนั คง ไมม่ ชี อ่ งทางให้พวก
โจรเขา้ ไปขดุ ค้นหาสมบตั ิได้ และภายในห้องเก็บศพต้องมสี ง่ ของต่ง ๆ เพือ
อาํ นวยความสะดวกแก่วญิ ญาณคนตายในโลกใหม่

4.ขนั 1 – 2 ต้องมนี ักบวชทําพิธีสวดมนต์ประกอบอยา่ งถูกต้อง พิธีฝงศพ
ของชาวไอยคุปต์จะพิถีพิถันและเน้นการจัดศพ ให้อยใู่ นลักษณะเดิมมาก
ทีสุด พรอ้ มทีจะให้บาและอคั กลับมาสถิตอยอู่ กี ครงั หนึงให้ได้ นันคือความ
พยายามทีนําไปสูค่ วามเปนอมตะแห่งชวี ติ ทีแท้จรงิ

- พีระมดิ สงิ ก่อสรา้ งรปู ทรงเลขาคณิตทีมอี ายยุ าวนานหลายพันปและเชอื
กันวา่ จะคงอยไู่ ปอกี หลายพันป ฮีโรโดตัสนักประวตั ิศาสตรช์ าวกรกี ได้
บนั ทึกวา่ ต้องใชแ้ รงงานราว10,000- 400,000คน ใชเ้ วลาก่อสรา้ ง 20 ป
- จํานวนหินทีนํามาใชส้ รา้ งประมาณ 23,000,000 แท่ง นําหนักประมาณ
2.5 ตันต่อแท่ง หินทีนํามาสรา้ งถูกลําเลียงมาจากเมอื งหินทางตอนใต้ของ
อยี ปิ ต์โดยทางเรอื ตามแมน่ ําไนล์ ซงึ ในหน้านําท่วมจะท่วมเข้าไปในบรเิ วณ
ทีราบห่างจาสถานทีสรา้ งพีระมดิ ประมาณ 1/4 ไมล์และลําเลียงแท่งหิน
ด้วยการใชเ้ ครอื งมอื ลักษณะคล้ายแครเ่ ลือนและชกั ลากด้วยเชอื ก
-ฐานพีระมดิ เปนรปู สเี หลียมจัตุรสั มคี วามยาวด้านละประมาณ 756 ฟุต
ผูส้ รา้ งต้องการแสดงความรเู้ กียวกับค่าทางคณิตศาสตรค์ ือถ้าเอา 2 เท่า
ของความสูงพีระมดิ หารความยาวรอบฐานจะได้ค่า พายอาร์

พีระมดิ สถานทีฝงพระบรมศพ
- ยคุ เรมิ แรกอาจทําอยา่ งงา่ ยๆด้วยการขดุ หลุมฝงในพืนทราย ต่อมา
ววิ ฒั นาการมหี ลังคา และสาํ หรบั ผูม้ ฐี านะดีหรอื มคี วามสาํ คัญเชน่ ฟาโรห์
จะเกิดการสรา้ งพีระมดิ
- หลุ่มฝงศพในยคุ แรกเรยี ก"มสั ตาบา" เปนสเี หลียมผนื ผา้ สรา้ งด้วยอฐิ ไว้
เหนือหลุมศพ มกี ารพัฒนาสรา้ งด้วยหินกลายเปนพีระมดิ ในยคุ เรมิ ต้นเรยี ก
พีระมดิ ขนั บนั ได ต่อมามกี ารฉาบด้านทังสใี ห้เรยี บ มหี ้องต่างๆอยา่ งซบั
ซอ้ น วหิ ารสาํ หรบั สกั การะพระบรมศพ และด้านนอกมรี ปู แกะสลักสฟงซซ์ งึ
เปนผูเ้ ฝาสุสานของฟาโรห์

มมั มียคุ แรก

มมั มเี ทียมยคุ แรกเกิดขนึ เมอื 7,000 ปมาแล้ว โดยชาวชนิ วอรโ์ ร
แห่งทวปี อเมรกิ าใต้ ชนกลุ่มนีได้ชอื ตามสถานทีแห่งหนึงในประเทศชลิ ี ณ
ทีแห่งนัน นักวทิ ยาศาสตรไ์ ด้พบรอ่ งรอยการดําเนินชวี ติ ของชาวชนิ ชอรโ์ ร
พวกเขาเปนชาวประมงทีอยรู่ วมกันเปนชมุ ชนเล็กๆ รมิ ชายฝงมหาสมุทร
แปซฟิ ก เชอื กันวา่ ชาวชนิ ชอรโ์ รทํามมั มขี นึ เพราะ เชอื เรอื งชวี ติ หลังความ
ตาย พวกเขาพยายามทําให้มมั มดี ูเหมอื นมชี วี ติ มากทีสุด ซงึ แสดงให้เห็น
วา่ พวกเขาไมต่ ้องการรา่ งกายของคนผูน้ ันเน่าเปอย บางทีคนกลุ่มนีอาจ
เชอื วา่ คนตายจะฟนคืนชวี ติ ขนึ ได้หากศพได้รบั การรกั ษาไวใ้ นการทํามมั มี
ชาวชนิ ชอรโ์ รจะนําอวยั วะภายในทังหมดออกจากศพเปนอนั ดับแรก จาก
นันจึงเลาะเนือและหนังออกจากกระดูกปล่อยทิงไวจ้ นแห้งแล้วจึงใชไ้ ม้
เล็กๆ ผูกติดกับแขน ขา และกระดูกสนั หลัง เพือยดึ กระดูกสว่ นต่างๆ ไว้
ด้วยกัน จากนันจึงนําโคลนสขี าวมาพอกบนโครงกระดูกเพือทําให้เปนรปู
เปนรา่ ง นําผวิ หนังบรเิ วณใบหน้ากลับไปปะไวท้ ีเดิม เชน่ เดียวกับหนังสว่ น
อนื ๆ ของรา่ งกาย เมอื โคลนแห้งแล้ว จึงทาด้วยสดี ําหรอื แดง ชาวชนิ ชอร์
โรทํามมั มเี ปนเวลาราว 3,000 ป มมั มยี คุ แรกทาสดี ํา แต่มมั มใี นยคุ หลัง
สุดเมอื ประมาณ4,000 ปก่อน ชาวชนิ ชอรโ์ รกลับทาสแี ดง เราพบมมั มชี นิ
ชอรโ์ รรา่ งแรกๆ ในป 1917 เมอื มกี ารขดุ พบมมั มี 12 รา่ งทางเหนือของ
ชลิ ี และในป1983 คนงานก่อสรา้ งก็พบมมั มจี ากหลุมศพโบราณดังกล่าว
เพิมอกี มมี มั มชี นิ ชอรโ์ รโบราณทีขดุ ได้จากทีนัน ประมาณ 100 รา่ ง และ
ยงั พบมมั มใี นบรเิ วณอนื ๆ ของชลิ ีอกี ด้วย

ขันตอนการทํามมั มี

ในสมยั อยี ปิ ต์โบราณ เมอื มคี นตายก็จะนําศพไป ฝงไวใ้ นทะเลทราย
อนั รอ้ นระอุ ความรอ้ น และความแห้งแล้งทําให้รา่ งกายแห้งอยา่ งรวดเรว็
โดยทีแบคทีเรยี ไมม่ โี อกาสได้ยอ่ ยสลายศพเสยี ก่อน จึงกลายเปนมมั มไี ป
ตามธรรมชาติ คงจะมกี ารค้นพบโดยบงั เอญิ

ต่อมาชาวอยี ปิ ต์ก็เรมิ ใช้ โลงบรรจศุ พ ก่อนฝง เพือปองกันมใิ ห้สตั ว์
ปาแทะกินศพ แต่ก็กลับพบวา่ ซากศพทีฝงในโลง ได้เปอยเน่าไป ไมแ่ ห้ง
และอยคู่ งทนเหมอื นแต่ก่อน เพราะโลงศพทําหน้าทีเก็บกักความชนื จาก
รา่ งกาย เพียงพอทีจะอาํ นวยให้แบคทีเรยี เจรญิ เติบโต และทําการยอ่ ย
สลายให้ศพเน่าเปอยได้

ต่อมาอกี หลายรอ้ ยป ชาวอยี ปิ ต์ก็ได้ศกึ ษาทดลองวธิ ีต่าง ๆ เพือทีจะ
รกั ษาสภาพศพให้คงทนอยไู่ ด้ กรรมวธิ ีในการรกั ษาศพให้คงทน ประกอบ
ด้วยการแชอ่ าบศพด้วยสงิ ทีชะงกั การเจรญิ เติบโตของแบคทีเรยี แล้วพัน
ด้วยแถบผา้ ลินิน ปจจบุ นั เราเรยี กกรรมวธิ ีนีวา่ การทํามมั มี





























นํายาอาบศพสูตรทีแพรห่ ลายเปนสูตรแรก ๆ มสี ว่ นประกอบดังนี
- นํามนั ทีทําจากพืชเชน่ นํามนั งา
- สารสกัดคล้ายขผี งึ ทีเรยี กกันวา่ Balsam ซงึ ได้จากต้นหรอื รากของพืช
บางชนิด เชน่ ต้นกกธปู หรอื ธปู ฤๅษี (Cattail)
- ยางไมร้ บั ประทานได้ซงึ มคี ุณสมบตั ิเปนนําตาลตามธรรมชาติ เชน่ ยางที
สกัดจากต้นอะคาเซยี (Acacia)
- ยางสน ซงึ เปนสว่ นประกอบสาํ คัญทีสุด เพราะหากนําไปผสมในนํามัน
และสว่ นประกอบอนื ๆ แล้ว จะทําให้นํายาอาบศพมคี ุณสมบตั ิฆา่ เชอื
แบคทีเรยี ปองกันไมใ่ ห้ศพเน่าเปอย

ในการทํามมั มนี ัน นอกจากขนั ตอนการรกั ษารา่ งแล้ว อวยั วะภายใน
สาํ คัญของผูต้ าย ได้แก่ ตับ ลําไส้ ปอด และกระเพาะอาหาร จะต้องถูกห่อ
รวมกันไวแ้ ละเก็บรกั ษาไวพ้ รอ้ มรา่ ง (หัวใจอยกู่ ับรา่ งไมค่ วกั ออกมา) โดย
ในยคุ แรกๆ อวยั วะเหล่านีจะถูกห่อผสมกับวสั ดุ

ขเี ลือย โคลน และผา้ ลินิน จากนันยดั กลับไปในรา่ งทีตากแห้งแล้ว ก่อนขนั
ตอนการพันผา้ ศพ แต่บางยคุ ก็มกี ารนําอวยั วะภายในเหล่านันใสใ่ นโถและ
วางไวข้ า้ งมมั มใี นหลุมฝงศพ ซงึ โถเก็บอวยั วะภายในของผูต้ าย เรยี กวา่
“โถคาโนปก” 1 ชดุ มี 4 ใบ นิยมใชว้ สั ดุเปนหิน แยกชนิ สว่ นอวยั วะทังสไี ว้
ในโถแต่ละใบ







บรรณานุกรม

1.ความหมายของมมั มี ( ออนไลน์ )
วนั ศุกรท์ ี 4 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564

https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B
1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88

2.ประวตั ิความเปนมา และขนั ตอนการทํามมั มี ( ออนไลน์ )
วนั ศุกรท์ ี 4 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564

https://sites.google.com/site/prawatikhwampenmakhxn
gmammi/1-kaneid-mammi

3.กวา่ จะมาเปนมมั มอี ยี ปิ ต์ ( ออนไลน์ )
วนั ศุกรท์ ี 4 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564

https://www.gypzyworld.com/photo/view/1633

4.นํายาอาบศพของมมั มอี ยี ปิ ต์โบราณ ( ออนไลน์ )
วนั เสารท์ ี 5 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564

https://www.bbc.com/thai/international-45223377

5.พิธีกรรม ความเชอื และขนั ตอนการทํามมั มี ( ออนไลน์ )
วนั เสารท์ ี 5 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564

https://www.sarakadeelite.com/arts_and_culture/mum
mies-in-ancient-egypt/

จัดทําโดย

นายพสธร ชาญมานิต เลขที 6

นายธนภัทร์ วจีสตั ย์ เลขที 11

นายกฤษณะ แพงอุม่ เลขที 16

นางสาวปารฉิ ัตร ทุมทน เลขที 27

ชนั มธั ยมศกึ ษาปที 6/4

สามารถแสกน QR Code
เพือไปทีชนั หนังสอื ซงึ ประกอบไปด้วย
E-bookทีเปนเนือหา หนังสอื ทีได้รวม
คลิปวดิ ีโอทีเกียวข้อง และหนังสอื ทีมี
แบบทดสอบให้ทุกคนได้ลองทํา