The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nirat, 2023-09-10 08:35:39

อารยธรรมจีน

อารยธรรมจีน

อารยธรรมจีน CHINESE CIVILIZATION เอกสารประกอบการเรีย รี น ครูนิ รู รัต รั น์ เสมอภพ


เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาสังคมศึกษาฯ รหัสวิชา ส33101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ฉบับนี้ เป็นสื่อที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบ การเรียนรู้ ครอบคลุมเนื้อหาสาระเรื่อง อารยธรรมตะวันออก มีเนื้อหาที่ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรของสถาน ศึกษา ซึ่งเอกสารประกอบการเรียนรู้ชุดนี้ แบ่งออกเป็น 2 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 เรื่อง อารยธรรมจีน เล่มที่ 2 เรื่อง อารยธรรมอินเดีย เอกสารประกอบการเรียนเล่มที่ 1 เรื่อง อารยธรรมจีน ฉบับนี้ นักเรียนสามารถศึกษา ทบทวน หรือเสริมทักษะในการเรียนรู้ด้วย ตนเอง และสามารถนำ ไปใช้กับบุคคลทั่วไปที่ศึกษาค้นคว้า เรื่องดัง กล่าวได้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนในการทำ เอกสารฉบับ นี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียนนี้คงอำ นวยประโยชน์ต่อ การเรียนตามสมควร หากท่านที่นำ ไปใช้มีข้อเสนอแนะ ข้าพเจ้ายินดีรับ ฟังข้อคิดเห็นต่าง ๆ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ นิรัตน์ เสมอภพ


เอกสารประกอบการเรียน ชุด อารยธรรมตะวันออก กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่มที่ 1 เรื่อง อารยธรรมจีน ฉบับนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษา หรือทบทวนบท เรียนด้วยตนเอง ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน เมื่อปฏิบัติตามคำ ชี้แจง ต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด 1. ให้นักเรียนอ่านมาตรฐาน/ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้อย่าง ละเอียดจะได้ทราบว่าเมื่อศึกษาเอกสารประกอบการเรียนฉบับนี้แล้ว จะได้รับความรู้เรื่องใดบ้าง 2. ให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน จำ นวน 10 ข้อ เพื่อวัดความรู้ พื้นฐานของตนเอง แล้วบันทึกผลคะแนนไว้ 3. ให้นักเรียนศึกษารายละเอียดในใบความรู้แต่ละตอน ตามลำ ดับ ทีละหน้า 4. เมื่อศึกษาใบความรู้แต่ละตอนแล้ว ให้นักเรียนตอบคำ ถามในใบงาน 5. หากนักเรียนมีข้อสงสัย ให้นักเรียนซักถามคุณครู หรือกลับไปศึกษา ใหม่อีกครั้ง 6. เมื่อศึกษาเอกสารประกอบการเรียนจบแล้ว ให้นักเรียนทำ แบบ ทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ เพื่อดูความก้าวหน้า และวัดความรู้ความ เข้าใจของตนเอง 7. ให้นักเรียนตรวจคำ ตอบจากแบบเฉลย แล้วนำ ผลคะแนนที่ได้ ไปเปรียบ เทียบกับคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน คำ ชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการเรียน


ตัวชี้วัด ส 4.2 ม. 4-6/1 วิเคราะห์อิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการ ติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการ เปลี่ยนแปลงของโลก มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ใน ด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำ คัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น สาระสำ คัญ อารยธรรมที่มีความยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลกที่มีถิ่นกำ เนิดใน เอเชียตะวันออก คือ อารยธรรมจีน เป็นอารยธรรมที่รู้จักกันอย่างกว้าง ขว้างและมีผลต่อพัฒนาการทางความคิดในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากมี มรดกทางสถาปัตยกรรม เช่น กำ แพงเมืองจีน และแนวความคิดและ ความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาและปรัชญา เอกสารประกอบการเรียน ชุด อารยธรรมตะวันออก เล่มที่ 1 อารยธรรมจีน 7


ขั้นตอนการใช้เอกสารประกอบการเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อการ สร้างสรรค์อารยธรรมจีนได้ 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถวิเคราะห์การสร้างสรรค์ความเจริญของอารยธรรม จีนได้ 3. ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำ งาน เอกสารประกอบการเรียน ชุด อารยธรรมตะวันออก เล่มที่ 1 อารยธรรมจีน 8 เอกสารประกอบการเรียน


แบบทดสอบก่อนเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง อารยธรรมจีน 10


10 กระดาษคำ ตอบแบบทดสอบก่อนเรียน ชุด อารยธรรมตะวันออก เล่มที่ 1 เรื่อง อารยธรรมจีน ชื่อ ............................................................ชัน ................ เลขที่ .............. เกณฑ์การประเมิน คะแนนระหว่าง 9-10 อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก คะแนนระหว่าง 7-8 อยู่ในเกณฑ์ ดี คะแนนระหว่าง 5-6 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ คะแนนระหว่าง 0-4 อยู่ในเกณฑ์ ปรับปรุง ข้อที่ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ 10 11


แบบทดสอบก่อนเรีย รี น 1.อารยธรรมจีนกำ เนิดและเจริญริบริเริวณลุ่มแม่น้ำ ใด ก.แม่น้ำ แยงซีเกียง ข.แม่น้ำ ซี ค.แม่น้ำ อามูร์ ง.แม่น้ำ หวางเหอ 2.ประเทศใดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมจีนมากที่สุด ก.ไทย ข.อินโดนีเซีย ค.เวียวีดนาม ง.กัมพูชา 3.สิ่งก่อสร้างที่พาดผ่านที่ราบ ภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลทราย ถือเป็นสัญญลักษณ์ของ อารยธรรมตะวันออก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ เป็นสิ่งเดียวที่ มนุษย์อวกาศมองเห็นเมื่ออยู่ในอวกาศ สิ่งนั้นคืออะไร ก.กำ แพงเมืองจีน ข.เขื่อนแยงซีเกียง ค.พีรามิดแห่งอียิปต์ ง.ซิกกูแลตของเมโสโปเตเมีย 4. ความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษของชาวจีนที่ได้รับอิทธิพลมาจากคำ สอนของลัทธิใด มากที่สุด ก.ขงจื้อ ข.เต๋า ค.ชินโต ง.พราหมณ์-ฮินดู 5. นักเรียรีนคิดว่าจุดมุ่งหมายในการสร้างกำ แพงเมืองจีนคืออะไร ก.ป้องกันภัยธรรมชาติ ข.ป้องกันแนวชายแดน ค.เพื่อให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ง.แสดงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ


6. ยุคประวัติศาสตร์ของจีนสัมพันธ์กับข้อใด ก.ราชวงศ์ชาง –ประดิษฐ์อักษร ข.ราชวงศ์โจว – ปรัชญาร้อยสำ นัก ค.ราชวงศ์โจว – ปกครองแบบจักรวรรดินิยม ง.ยุคหินใหม่ – ชุมชนเกษตรตามที่ราบลุ่มแม่น้ำ 7. ภายหลังการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิง จีนได้เปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบใด ก.ระบอบสังคมนิยม ข.ระบอบเผด็จการทหาร ค.ระบอบคอมมิวนิสต์ ง.ระบอบประชาธิปไตย 8. ข้อใดเป็นมูลเหตุของการเกิดสงครามระหว่างจีน-อังกฤษระหว่าง. ค.ศ. 1839- 1842 ก.สาวงาม ข.ทอง ค.ฝิ่น ง.ขุนนางฝ่ายขวา 9. ใครคือผู้เปลี่ยนจีนให้เข้าสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ ก.โจวเอินไหล ข.เหมาเจ๋อตุง ค.เติ้งเสี่ยวผิง ง.เจียงไคเชค 10. ภาพวาดของจีนที่เน้นความงามของธรรมชาติและความกลมกลืนกัน ระหว่างมนุษย์ กับธรรมชาติ เป็นอิทธิพลความคิดของลัทธิใด ก.ลัทธิเต๋า ข.ลัทธิขงจื๊อ ค.ลัทธิเม่งจื๊อ ง.ลัทธิฟาเฉีย


ประ เทศจีนเป็นประ เทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุด ประ เทศหนึ่ง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สามารถ ค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง5,000ปี รากฐานที่สำ คัญของอารยธรรมจีนคือการสร้างระบบ ภาษาเขียนในยุคราชวงศ์ฉิน(ศตวรรษที58ก่อน ค.ศ.)ให้เป็นภาษากลางใช้ได้ทั่วประ เทศเป็นครั้งแรกใน โลก(ไม่ว่าชนเผ่าใดๆจะพูดต่างกันสำ เนียงต่างกันแต่ใช้ ตัวเขียนเหมือนกัน)และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจื๊อ เมื่อประมาณศตวรรษที่2ก่อนค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมี ทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็นหลายอาณาจักรสลับ กันไปในบางครั้งก็ถูกปกครองโดยชนชาติอื่น เช่น มองโกล แมนจู ญี่ปุ่น วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพล อย่างสูงต่อชาติอื่นๆในทวีปวี เอเชียและ ในสังคมโลกยุค ก่อนประวัติศาสตร์นั้นไม่มีหลักฐานแน่ชัดนักว่าเริ่มริ่ต้น เมื่อไรแต่จากการขุดพบวัตถุโบราณตามลุ่มแม่น้ำ ฉาง เจียงและแม่น้ำ หวงแบ่งช่วงเวลานี้ออกได้เป็นสังคม สองแบบแบบแรกเป็นช่วงที่ผู้หญิงเป็นใหญ่เรีย รี กว่า ช่วงวัฒนธรรมหย่างเฉาและช่วงที่ผู้ชายเป็นใหญ่เรีย รี ก ว่าวัฒนธรรมหลงชานตำ นานเล่ากันว่าบรรพบุรุษจีน มีชื่อเรีย รี กว่าหวางตี้ และ เหยียนตี้


ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินเก่า จีนเป็นดินแดนที่มนุษย์อาศัยเป็นเวลานานที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปวีเอเชีย หลักฐานที่พบคือมนุษย์หยวนโหม่วมีอายุประมาณ1 ,700,000ปีล่วงมา แล้วถูกค้นพบในปีค.ศ. 1965ที่มณฑลยูนนานภาคตะวันตกเฉียงใต้ของ จีนและพบโครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่งมีอายุ ประมาณ700,000ปี-200,000ปีล่วงมาแล้วถูกค้นพบใน ปีค.ศ. 1929ที่บริเริวณตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่งและพบหลักฐานมนุษย์ ถ้ำ มีอายุประมาณ18,000ปีล่วงมาแล้วถูกค้นพบในปีค.ศ. 1930ที่ บริเริวณตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่ง ยุคหินกลาง ยุคหินกลางมีอายุประมาณ10,000ปี-6,000ปีล่วงมาแล้วใช้ชีวิตวิกึ่ง เร่ร่อน ไม่มีการตั้งหลักแหล่งถาวรมีการพบเครื่อรื่งถ้วยชาม หม้อ มีการ ล่าสัตว์ เก็บอาหารเครื่อรื่งมือหินที่ใช้ในชีวิตวิ ประจำ วันคือ หินสับ ขูด หัว ธนู ยุคหินใหม่ ยุคหินใหม่ในบริเริวณประ เทศจีนปัจจุบัน มีอายุในช่วง ประมาณ6,000ปี- 4,000ปีล่วงมาแล้วเริ่มริ่ตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชน รู้จักเพาะปลูกข้าวฟ่าง เลี้ยงสัตว์ ทอผ้า ปลูกบ้านมีหลังคาในยุคหิน ใหม่นี้มีมนุษย์ทำ เครื่อรื่งปั้นดินเผาที่มีความประณีตและแข็งแกร่งมาก ขึ้นตกแต่งเขียนลายสีและขัดมันผิว ยุคโลหะ มีอายุประมาณ4,000ปีล่วงมาแล้วหลักฐานที่เก่าสุดคือมีดทองแดง แล้วยังพบเครื่อรื่งสำ ริดริเก่าที่สุด ซึ่งนำ มาใช้ทำ ภาชนะต่างๆเช่นที่บรรจุ ไวน์กระถาง กระจกเงามีขนาดใหญ่และสวยงาม มากโดยเฉพาะสมัย ราชวงศ์ซางและ ราชวงศ์โจว ยุคโบราณ เป็นที่เล่าขานสืบทอดกันมาในหมู่ชาวจีนว่าตนเองเป็นลูกหลานเหยียนตี้ และ หวงตี้เมื่อประมาณ4,000ปีมาแล้วและยังเชื่อเช่นนั้นจวบจน ปัจจุบัน


ราชวงศ์เซี่ย (2100- 1600 ปีก่อนคริสริต์ศักราช) เขตแดนราชวงศ์เซี่ย เล่ากันว่าในสมัยเหยานั้นแม่น้ำ หวงเหอเกิดอุทกภัยน้ำ หลากเข้าทำ ลายบ้านเมืองทำ ให้ชาวบ้านต้องอพยพไป อาศัยอยู่บนต้นไม้หรือรืบนยอดเขาเท่านั้นซึ่งภายหลังพระ เจ้าอวี่ใวี่ช้เวลา13ปีในการแก้ปัญหาอุทกภัยนี้สำ เร็จ และ ได้รับขนานนามว่าต้า-ยวี่ ปกครองจีนในช่วง2100- 1600ปีก่อนคริสริตกาล( 1557- 1057ปีก่อนพ.ศ.)มีอำ นาจอยู่แถบมณฑลชานซีในปัจจุบัน ใกล้แม่น้ำ หวงกษัตริย์ริ ย์เซี่ยองค์แรกคือพระ เจ้าอวี่เวี่ริ่มริ่ ประ เพณีการสืบราชสมบัติตามสายโลหิตในระยะแรกสืบ จากพี่มาสู่น้องสมัยราชวงศ์เซี่ยนี้มีหลักฐานว่าผู้ปกครอง มักเป็นหัวหน้าทางศาสนาหรือรืมีหน้าที่ทำ ปฏิทินด้วยแต่ ต่อมาความสำ คัญทางศาสนาหรือรืความเชื่อเรื่อรื่งนี้เสื่อม ลงไป อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์ซาง ( 1600- 1046 ปีก่อนคริสริต์ศักราช) เขตแดนราชวงศ์ซาง ราชวงศ์ซางมีอำ นาจอยู่ประมาณ550ปีคือตั้งแต่1600- 1046ปีก่อนคริสริต์ศักราช( 1057-503ปีก่อนพ.ศ.)ในช่วงนี้ เริ่มริ่มีการก่อตั้งกองทหาร,ข้าราชการและมีการลงโทษตาม กฎหมายมีกษัตริย์ริ ย์ปกครองทั้งสิ้น31พระองค์เมื่อพระ เจ้าเจี๋ย แห่งราชวงศ์เซี่ยซึ่งไร้คุณธรรมสร้างความเกลียดชังแก่คน ทั้งแผ่นดินเพิ่มขึ้นจนกระทั่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่มิชอบ พฤติกรรมของพระองค์รวมตัวกันเป็นกองกำ ลังเพื่อต่อต้าน การปกครองของเจ้าแผ่นดินทังมีอำ นาจอยู่แถบเมืองซางได้ รับการสนับสนุนจากหัวหน้าเผ่าต่างจึงใช้กำ ลังพลและอาวุธ โค่นล้มการปกครองของราชวงศ์เซี่ยแล้วสถาปนาราชวงศ์ ซางขึ้นโดยตั้งเมืองหลวงที่เมืองปั๋ว(อำ เภอเฉาเซี่ยนมณฑล ซานตงปัจจุบัน)เนื่องจากทังเป็นชนชั้นสูงในราชวงศ์เซี่ยมา ก่อนจึงถือว่าเป็นการปฏิวัติของชนชั้นสูงครั้งแรกใน ประวัติศาสตร์จีนนอกจากนั้นยุคนี้ยังเริ่มริ่มีการใช้ภาชนะ สำ ริดริอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะประ เภทถ้วยสุรามีดวง พระจันทร์กลองสำ ริดริซึ่งมีการขุดค้นพบเป็นหลักฐานกันมาก อารยธรรมในสมัยราชวงค์


อารยธรรมในสมัยราชวงค์ ราชวงศ์โจว( 1046-256ปีก่อนคริสริต์ศักราช) เขตแดนราชวงศ์โจว นักประวัติศาสตร์จีนแบ่งราชวงศ์โจวออกเป็น ราชวงศ์โจวตะวันตกและราชวงศ์โจวตะวันออกซึ่งมี ระยะครองแผ่นดินต่อเนื่องกัน790ปี(ยาวนานที่สุดใน จีน)แต่มีการย้ายเมืองหลวงหลังจากแพ้ชนะกันจึงแบ่ง ราชวงศ์นี้ด้วยทิศทางของเมืองหลวงเป็นหลัก


ราชวงศ์โจวตะวันตก ( 1046-771 ปีก่อนคริสริต์ศักราช) เผ่าโจวเป็นเผ่าเก่าแก่และ ใช้แซ่จีโดยอาศัยแถบลุ่มน้ำ เว่ยเหอ ต่อมาย้ายถิ่นไปอยู่ฉีซาน(ด้านเหนืออำ เภอฉีซานมณฑลฉ่านซี ปัจจุบัน)ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ด้านการเพาะปลูกมากกว่าแล้ว เรียรีกตนเองว่าชาวโจวผู้นำ เผ่าทุกรุ่นต่างปรับปรุงโครงสร้างเผ่า ก่อสร้างบ้านเรือรืนและกำ หนดตำ แหน่งขุนนางทำ ให้มีลักษณะ ของชาติรัฐชัดขึ้นเมื่อผู้นำ นามว่าจีฟาทำ ลายราชวงศ์ซางสำ เร็จ แล้วจึงสถาปนาราชวงศ์โจวขึ้นปกครองแผ่นดินและ เปลี่ยน พระนามเป็นพระ เจ้าโจวอู่หวังแล้วสร้างเมืองหลวงใหม่ที่เมือง เฮ่า(ด้านตะวันตกอำ เภอฉางอานมณฑลฉ่านซีปัจจุบัน)นัก ประวัติศาสตร์เรียรีกแผ่นดินโจวช่วงนี้ว่าราชวงศ์โจวตะวันตก นอกจากนั้นยังริเริริ่มริ่ ปูนบำ เหน็จความชอบด้วยที่ดินและทรัพย์สิน แก่ขุนนางซึ่งสร้างความชอบแก่แผ่นดินหรือรืเจ้าแผ่นดินเป็นครั้ง แรกด้วยราชวงศ์โจวตราระบบสืบสายวงศ์ขึ้นใช้อย่างชัดเจน เป็นครั้งแรกโดยกำ หนดว่าตำ แหน่งกษัตริย์ริ ย์หรือรืเจ้านครรัฐต่าง ต้องสืบทอดเฉพาะบุตรคนโตของภรรยาเอกเท่านั้นบุตรที่เหลือ จะรับการแต่งตั้งในตำ แหน่งต่ำ ลงไปการสืบทอดชัดเจนนี้สร้าง ความมั่นคงแก่ราชวงศ์ยิ่งขึ้นเมื่อล่วงถึงสมัยของพระ เจ้าโจวโยว หวัง เมืองเฮ่าซึ่งเป็นเมืองหลวงเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรงเกิดโรค ระบาดประชาชนลำ บากยากแค้นโดยกษัตริย์ริ ย์ไม่สนใจไยดีกลับลุ่ม หลงสุรานารีแรีละความบันเทิงหรูหราส่วนขุนนางประจบสอพลอ ไม่ทำ งานตามหน้าที่ทำ ให้เจ้านครรัฐบางคนรวมตัวกับชนเผ่าฉวี่ ยนหรงเข้าโจมตีและปลงพระชนม์กษัตริย์ริ ย์ถือเป็นจุดสิ้นสุด อาณาจักรโจวตะวันตก อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ยุคชุนชิว (770-256 ปีก่อนคริสริต์ศักราช) หลังจากอาณาจักรโจวตะวันตกของพระ โจวโยวหวังล่ม สลายลงโดยความร่วมมือของเจ้านครรัฐบางคนกับเผ่า เฉวี่ยวี่นหรงแล้วพวกเขาสถาปนารัชทายาทอี้จิ้วขึ้นเป็น กษัตริย์ริ ย์องค์ใหม่ทรงพระนามว่าพระ เจ้าโจวผิงหวังแล้ว ย้ายไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เมืองลั่วอี้เนื่องจากเมืองเฮ่า ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้อย่างมากนัก ประวัติศาสตร์เรียรีกช่วงการครองอำ นาจของราชวงศ์นี้ ว่ายุคชุนชิว(SpringandAutumnPeriod)ซึ่งมี สงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ของเจ้านครรัฐต่างเป็น ระยะ เพื่อความเป็นเจ้าผู้นำ นครรัฐยุคนี้เริ่มริ่ต้นใน ปี770ก่อนค.ศ.(227ปีก่อน พ.ศ.)รัชสมัยพระ เจ้าโจวผิง หวังถึงปี476ก่อนค.ศ. (พ.ศ.67)หรือรื ปีที่44สมัยพระ เจ้าโจวจิ้งหวัง อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ยุคเลียดก๊ก ต้นยุคชุนชิวแผ่นดินจีนมีประมาณสองร้อยนครรัฐแต่ สงครามแย่งชิงอำ นาจหรือรืแผ่ขยายอิทธิพลต่างผนวกดิน แดนต่างเข้ากับรัฐผู้ชนะจนกระทั่งเหลือเพียงรัฐใหญ่เจ็ด รัฐมหาอำ นาจในตอนปลายยุคชุนชิวนักประวัติศาสตร์จีน เรียรีกว่าเจ็ดมหานครรัฐแห่งยุคจั้นกั๋ว ได้แก่ รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐเยียน รัฐหาน รัฐเจ้า รัฐเว่ย และรัฐฉิน ยุคสมัยนี้ มีสงครามดุเดือดระหว่างรัฐต่อเนื่องรัฐฉินกับรัฐฉีได้รับ การขนานนามเป็นสองรัฐมหาอำ นาจฟากตะวันออกและ ฟากตะวันตกซึ่งถือเป็นดุลอำ นาจต่อกันยุคนี้สิ้นสุดโดย การขึ้นครองอำ นาจของอิ๋งเจิ้งแห่งรัฐฉินหรือรืที่รู้จักกันใน นามฉินสื่อหวงตี้ (พระ เจ้าฉินสื่อหวงตี้)โดยถือเป็น จักรพรรดิองค์แรกของจีนสมัยราชวงศ์และจักรวรรดิ อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์ฉิน(221 -206 ปีก่อนคริสริต์ศักราช) จีนยุคจักรวรรดิ เขตแดนราชวงศ์ฉิน นักประวัติศาสตร์นิยมเรียรีกประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ราชวงศ์ ฉินถึงราชวงศ์ชิงว่าเป็นจีนยุคจักรวรรดิถึงแม้ว่าราชวงศ์ฉินจะ มีอายุเพียงแค่12ปีแต่พระองค์ได้วางรากฐานสำ คัญของ อารยธรรมชนเผ่าฮั่นไว้เป็นจำ นวนมาก เมืองหลวงตั้งอยู่ที่เสียนหยาง(บริเริวณเมืองซีอานปัจจุบัน) จิ๋นซีฮ่องเต้ต้องการบังคับประชาชนให้ใช้มาตรฐานที่กำ หนด ขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อให้การรวมประ เทศสมบูรณ์จึงเลือกใช้วิธีวิธี ค่อนข้างบีบคั้นและรุนแรงด้วยการประหารเหล่าปัญญาชนที่ ต่อต้านคำ สั่งของพระองค์และสานุศิษย์ขงจื๊อนอกจากนั้นยัง ออกคำ สั่งเผาหนังสือในความครอบครองของขุนนางและชาว บ้านซึ่งมิใช่มาตรฐานของพระองค์ทั้งหมดแล้วเร่งเผยแพร่ มาตรฐานของแผ่นดินโดยเร็ว สิ่งก่อสร้างที่สำ คัญของราชวงศ์ฉินคือกำ แพงเมืองจีนซึ่ง เป็นการต่อแนวกำ แพงเก่าให้เป็นปึกแผ่นฉินซีฮ่องเต้สร้างแนว ปกกันพวกป่าเถื่อนจากทางเหนือโดยการสร้างกำ แพงต่อเชื่อม กำ แพงเดิมที่อยู่เดิมจากการก่อสร้างของรัฐต่างสมัยจ้านกั๊วกา รก่อสร้างนี้ทำ ให้กลายเป็นกำ แพงขนาดยาวนับหมื่นลี้จึงเรียรีก กำ แพงนี้ว่า “กำ แพงหมื่นลี้” ผลงานอื่นได้แก่ระบบกฎหมาย การเขียนหนังสือระบบเงินตรา เป็นต้น อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (206ปีก่อนคริสริต์ศักราช-ค.ศ.220) เขตแดนของราชวงศ์ฮั่น เมื่อเล่าปังเอาชนะ เซี่ยงอี่สำ เร็จจึงสถาปนาตนเองเป็น จักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ฮั่นอันยิ่งใหญ่และยาวนาน มีพระนามว่าสมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเกาจูโดยตั้งเมือง หลวงที่ฉางอาน(ใกล้บริเริวณเมืองซีอานมณฑลฉ่านซี ปัจจุบัน)แล้วเรียรีกชื่อประ เทศว่าอาณาจักรฮั่นนัก ประวัติศาสตร์จีนแบ่งยุคสมัยของราชวงศ์ฮั่นเป็นสองยุค ตามที่ตั้งของเมืองหลวงคือ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก(เริ่มริ่ต้น โดยพระ เจ้าฮั่นเกาจู่)โดยมีราชวงศ์ซินของอองมังมาคั่น เป็นระยะสั้นๆ ก่อนที่จะ เกิดการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นตะวัน ออก(เริ่มริ่ต้นที่พระ เจ้าฮั่นกวงอู่)โดยย้ายนครหลวงไปที่ เมืองลั่วหยาง อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์ซิน (ค.ศ. 9-23) ราชวงศ์ซินมีเป็นราชวงศ์สั้นๆผู้ก่อตั้งคืออองมังทรงได้ อำ นาจมาจากการปฏิวัติโค่นล้มจักรพรรดิฮั่นเมื่อเสด็จ สวรรคตราชวศ์ฮั่นก็ฟื้นฟูกลับขึ้นมาอีกครั้ง ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 23-220) ราชวงศ์นี้เป็นราชวงศ์ที่ถูกกู้ขึ้นมาหลังถูกอองมังยึด อำ นาจ เป็นราชวงศ์ฮั่นดังเดิมแต่ย้ายเมืองหลวงไปลั่ว หยาง ช่วงเสื่อมของฮั่นตะวันออกเกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลืองขึ้น ใน ค.ศ. 184(พ.ศ.727)ซึ่งเป็นจุดเริ่มริ่ต้นของยุคขุนศึก หลังจากนั้นได้มีอาณาจักรสามแห่งตั้งประชันกันโดย เรีย รี กว่ายุคสามก๊กเป็นที่มาของวรรณกรรมเรื่อ รื่ งสามก๊ก เนื่องจากความเจริญริของชนชาติจีนในยุคราชวงศ์ฮั่นคน จีนจึงเรีย รี กตัวเองว่าเป็น"ชาวฮั่น" สืบทอดมาจนถึง ปัจจุบัน อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220-280) เป็นยุคที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊กโดยมีจ๊กก๊กของเล่าปี่ วุยก๊กของ โจโฉ และง่อก๊กของ ซุนกวน ทั้งสามก๊กต่างก็ทำ สงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีน โดยจุดเริ่มริ่ต้นของการแตกแยกเป็นสามก๊กมีเค้ารางเริ่มริ่จาก การกบฏของโจรโพกผ้าเหลืองทำ ให้ราชวงศ์ฮั่นอ่อนแอลงตั๋ง โต๊ะซึ่งเป็นแม่ทัพชายแดนจึงเข้ามาควบคุมอำ นาจในเมืองหลวง นำ ไปสู่การแตกแยกกันของเหล่าขุนศึกทั่วสารทิศและทำ ศึก สงครามต่อเนื่องกันตั้งแต่ค.ศ. 189ซึ่งในช่วงเวลานี้มีเหล่าขุนศึก ขุนพล ขุนนาง และ เสนาธิการที่ปรึกรึษาที่เก่งกล้า สร้างชื่อเสียง ในการทำ สงครามและการปกครองเป็นจำ นวนมาก อาทิ กวนอู เตียวหุย จูล่ง จูกัดเหลียง ลิโป้ ซุนฮก กุยแก กาเซี่ยง สุมาอี้ ซุนเซ็ก จิวยี่ โลซก ลิบอง ฯลฯ ต่อมา พระ เจ้าเหี้ยนเต้ ถูกบุตรชายโจโฉขับออกจากบัลลังก์ แผ่นดินจีนแตกออกเป็น 3 แคว้นอย่างชัดเจน แต่หลังจากทั้ง สามก๊กทำ สงครามแย่งชิงดินแดนกัน สุมาอี้ ขุนนางและแม่ทัพ ใหญ่ของวุยก๊ก ก็ได้เข้ายึดอำ นาจการบริหริารในวุยก๊กไว้ได้และ เป็นจุดเริ่มริ่ต้นของการวางรากฐานเพื่อสถาปนาราชวงศ์จิ้น ค.ศ.263 (พ.ศ.806) จ๊กก๊กล่มสลาย สุมาเจียว บุตรชายของสุ มาอี้ ได้สั่งกองทัพเข้ายึดได้สำ เร็จ ค.ศ.265(พ.ศ.808)วุยก๊กถูกยึดจากภายในโดยสมบูรณ์โดย ตระกูลสุมา หลานชายของสุมาอี้คือ สุมาเอี๋ยน ก็ได้ปลดฮ่องเต้ ของสกุลโจออก แล้วก่อตั้งราชวงศ์จิ้น ค.ศ.280(พ.ศ.823)ก๊กซุนกวนล่มสลายสุมาเอี๋ยนรวมแผ่นดิน จีนกลับมาโดยสมบูรณ์ อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์จิ้นตะวันตก (ค.ศ. 265-317) เขตแดนของราชวงศ์จิ้น สุมาเอี๋ยน สถาปนาตนเองเป็นจิ้นอู่ตี้ก่อตั้งราชวงศ์จิ้นตะวัน ตกใน ค.ศ.265(พ.ศ.808)เข้าแทนที่ราชวงศ์วุ่ยของเฉาเชา หรือรื โจโฉ กระทั่งในค.ศ.280(พ.ศ.823)ราชวงศ์จิ้นตะวันตก ก็ปราบง่อก๊กลงได้รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น เป็นอันสิ้นสุดยุค สามก๊ก ต่อมาราชวงศ์จิ้นได้เปิดรับเผ่านอกด่านทางเหนือเข้ามาเป็น จำ นวนมากหัวหน้าของชนเผ่าซงหนูหลิวหยวนก็ประกาศตั้งตัว เป็นอิสระ โดยใช้ชื่อว่าฮั่นกว๋อภายหลังหลิวหยวนสิ้นบุตรชาย ชื่อหลิวชง ยกกำ ลังเข้าบุกลั่วหยางนครหลวงของจิ้นตะวันตก จับจิ้นหวยตี้ เป็นตัวประกันและสำ เร็จโทษในเวลาต่อมา ราชวงศ์จิ้นตะวันออก(ค.ศ.317-420) การล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตกทำ ให้แผ่นดินจีนตกอยู่ใน ภาวะแตกเป็นเสี่ยงๆราชสำ นักจิ้นย้ายฐานที่มั่นทางการ ปกครองและ เมืองหลวงลงไปทางใต้สถาปนาราชวงศ์จิ้น ตะวันออก (ค.ศ.317-420หรือรืพ.ศ.860-963)ขณะที่สถานการณ์ทาง ตอนเหนือวุ่นวายหนักแผ่นดินที่แตกออกเป็นแว่นแคว้นของชน เผ่าต่าง 16 แคว้นโดยเรียรีกยุคนี้ว่ายุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น เป็นยุคสั้นที่เกิดการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของชาวจีนเชื้อ สายต่างๆ อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 420-581 ) หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตก(ค.ศ.265–316หรือรื พ.ศ.808-860)ภาคเหนือของจีนก็ตกอยู่ในภาวะจลาจลและสงคราม ชนเผ่าของยุค16แคว้นจวบจนค.ศ.386หัวหน้าเผ่าทั่วป๋าเซียนเปยได้ สถาปนารัฐเว่ย์เหนือและตั้งนครหลวงที่เมืองผิงเฉิง(ปัจจุบันคือเมือง ต้าถงในมณฑลซันซี)ยุติความวุ่นวายจากสงครามแย่งชิงอำ นาจที่เกิด ขึ้นทางภาคเหนือในค.ศ.439(พ.ศ. 982) เมื่อถึงปีค.ศ.581 (พ.ศ. 1 124)หยางเจียนปลดจักรพรรดิโจวจิ้งจาก บัลลังก์ สถาปนาราชวงศ์สุย จากนั้นกรีธรีาทัพลงใต้ ยุติสภาพการ แบ่งแยกเหนือใต้อันยาวนานของแผ่นดินจีนได้เป็นผลสำ เร็จ เพิ่มเติมทางฝ่ายเหนือก่อนที่ราชวงศ์จิ้นจะพบจุดจบทางห้าชนเผ่า เผ่าเชียงเผ่าซยฺงหนูเผ่าตีเผ่าเซียนเปย์(ที่แบ่งออกเป็นตระกูลมู่หยง และตระกูลทั่วป๋า)หลังจากฝูเจียนอ๋องแห่งแคว้นเฉียนฉินพ่ายแพ้ที่แม่ น้ำ เฝ่ย์ก็เริ่มริ่อ่อนแอลงโดยได้มีการกล้าแข็งขึ้นของกลุ่มที่เหลือและฝู เจียนได้ตายโดยน้ำ มือของเหยาฉังและทางแดนเหนือ(ที่ว่านี้เป็นแดน ที่อยู่เหนือแม่น้ำ แยงซีเกียง)ก็เป็นการช่วงชิงกันระหว่งมู่หยงย่งเหยา ฉังมูหยงฉุย (ตระกูลทั่วป๋าเริ่มริ่ก้าวขึ้นมาอย่างเงียบๆ)โดยมูหยงฉุย กวาดล้างมู่หยงหย่งก่อนแล้วโดนทั่วป๋ากุยทำ ให้พ่ายแพ้โดยตาม ประวัติศาสตร์แล้วทั่วป๋ากุยเป็นโจรปล้นชิงม้ามาก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น ผู้ยิ่งใหญ่ในแดนเหนือ อีกฝ่ายทางใต้นอกจากทั่วป๋ากุยทางแดนใต้ต้องเริ่มริ่จากการชนะศึก ที่แม่น้ำ เฝยสุ่ยของทัพจิ้นและผู้ปรีชรีาของจิ้นอันได้แก่ เซี่ยอานมหา เสนาบดี และจอมทัพเซี่ยเสียนล้มตายลงทางทัพของซุนเอินได้ก่อ หวอดบวกกับทัพแดนจิงโจวของหวนเศียนได้ทำ การก่อกบฏโดยมี วีรวีบุรุษในตอนนั้นหลิวอวี้ที่วี้ ที่พากเพียรจากทหารตำ แหน่งเล็กในกองทัพ เป่ย์พูและ ได้ไต่เต้าขึ้นจนเป็นผู้นำ ในกองกำ ลังเป่ย์พูและภายหลังได้ บีบให้ตระกูลซือหม่าสละบัลลังก์ และ ได้ก่อตั้งราชวงศ์ใต้ที่มีชื่อว่ารา ชวงศ์ซ่งและ ได้ยกทัพตีชิงแดนเหนือแต่เกิดเหตุหลิวมู่จือคนสนิทเสีย ชีวิตวิระหว่างที่กำ ลังบุกตีขึ้นเหนือ อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581 -618) เขตแดนราชวงศ์สุย สุยเหวินวิตี้ฮ่องเต้ได้รวบรวมประ เทศให้เป็นปึกแผ่นได้อีกครั้ง แต่โอรสคือสุยหยางตี้ไม่มีความสามารถทำ ให้ซ้ำ รอยราชวงศ์ฉิน บรรดาผู้ปกครองหัวเมืองต่างตั้งตนเป็นใหญ่และแย่งอำ นาจกัน ราชวงศ์สุยอยู่ได้เพียงสองรัชกาลเช่นกัน(พ.ศ. 1 124- 1 160) (ค.ศ.581 -617) ภายหลังการรวมแผ่นดินของราชวงศ์สุยสภาพสังคมโดยรวม ได้รับการฟื้นฟูจากภาวะสงครามมีการเติบโตด้านการผลิตเกิด ความสงบสุขระยะหนึ่งสุยเหวินวิตี้ได้ดำ เนินการปฏิรูปการ ปกครองครั้งใหญ่โดยยุบรวมเขตปกครองในท้องถิ่นลดขนาด องค์กรบริหริารรวมศูนย์อำ นาจไว้ที่ส่วนกลาง ฮ่องเต้กุมอำ นาจ เด็ดขาดทั้งในทางทหารการปกครองและ เศรษฐกิจโดยมีขุนนาง เป็นเพียงผู้ช่วยในการบริหริาร อารยธรรมในสมัยราชวงค์ ราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) ภาพเขตแดนราชวงศ์ถัง หลี่หยวน(หลี่เอียน)หรือรืถังเกาจูฮ่องเต้ขุนนางใหญ่ในสมัยสุยได้ ลุกฮือที่แดนไท่หยวนและ ได้บุตรชายคนรองหลี่ซื่อหมินทำ การชนะ ศึกอย่างต่อเนื่องได้ตั้งราชธานีที่เมืองฉางอัน(เมืองฉางอันเป็น เมืองหลวงของหลายราชวงศ์ อาทิฮั่นตะวันตกราชวงศ์สุยราชวงศ์ จิ้นตะวันออก)ผู้นำ ของแคว้นถังได้สถาปนาตัวเองเป็นอิสระจากสุย หยางตี้และ ได้ชัยชนะ เด็ดขาดจากแคว้นอื่นๆต่อมาเหล่าโอรสของ หลี่หยวนมีความขัดแย้งกันองค์ชายรองหลี่ซื่อหมินได้ทำ การยึด อำ นาจจากรัชทายาทหลี่เจี้ยนเฉิงและ โอรสองค์ที่สามหลี่หยวนจี๋ จากในเหตุการณ์ที่ประตูเสียนอู่สุดท้ายหลี่เอียนถูกบีบให้สละราช สมบัติหลี่ซื่อหมินได้สถาปนาตนขึ้นเป็นถังไท่จงฮ่องเต้


ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร(ค.ศ.907-960) ในช่วงปลายราชวงศ์ถังมีการก่อกบฏประชาชนตามชายแดนขันที ครองอำ นาจบริหริารบ้านเมืองอย่างเหิมเกริมริมีการแย่งชิงอำ นาจ กัน แม่ทัพจูเวินวิ (จูเฉวียวีนจง)สังหารขันทีทรงอำ นาจในราชสำ นัก แล้วสถาปนาตนเป็นจักรพรรดิ ทำ ให้ราชวงศ์ถังสิ้นสุดบรรดาหัว เมืองต่างๆมีการแบ่งอำ นาจกันเป็นห้าราชวงศ์สิบอาณาจักรคือ ราชวงศ์เหลียง ถัง จิ้น ฮั่น และ โจวโดยปกครองแถบลุ่มน้ำ ฮวงโห ติดต่อกันมาตามลำ ดับส่วนเขตลุ่มแม่น้ำ แยงซีเกียงกับดินแดนทาง ใต้ลงไปเกิดเป็นรัฐอิสระอีก10รัฐรวมเรียรีกว่าสิบอาณาจักรการแบ่ง แยกอำ นาจปกครองยุคนี้ขาดเสถียรภาพชีวิตวิของประชาชนเต็มไป ด้วยความลำ บากยากแค้นต่อมาเจ้าควงอิ้นผู้บัญชาการทหาร องครักษ์ชิงอำ นาจจากราชวงศ์โจวตั้งตนสถาปนาราชวงศ์ซ่งหรือรื ซ้องเป็นพระ เจ้าซ่งไท่จู่แล้วปราบปรามรวมอาณาจักรเรื่อรื่ยมาจน กระทั่งพระ เจ้าซ่งไท่จงผู้สืบทอดราชบัลลังก์ปิดฉากสภาพการแบ่ง แยกดินแดนทั้งหมดลงสำ เร็จโดยใช้เวลาเกือบ20ปี ราชวงศ์หยวน(ค.ศ. 1279- 1368) เขตแดนราชวงศ์หยวน ยุคนี้ประ เทศจีนถูกปกครองโดยชาวมองโกล นำ โดย หยวนชื่อจู่ (หรือรืกุบไลข่าน)ซึ่งโค่นราชวงศ์ซ่งตั้งราชวงศ์หยวนหรือรืราชวงศ์ มองโกลขึ้นยุคสมัยนี้ได้มีชาวต่างประ เทศเดินทางมาค้าขายเช่น มาร์โคโปโลมีการพิมพ์ธนบัตรจีนขึ้นครั้งแรกมีการส่งกองทัพ รุกราน ชวา เวียวีดนาม ญี่ปุ่น แต่ไม่ประสบความสำ เร็จ สมัยนี้อาณาเขตมีขนาดใหญ่มากว่ากันว่าใหญ่กว่าอาณาจักรโรมัน ถึง4 เท่าหลังจากกุบไลข่านสิ้นพระชนม์ชนชั้นมองโกลได้กดขี่ชาว จีนอย่างรุนแรง จนเกิดกบฏและสะสมกองกำ ลังทหารหรือรืกลุ่มต่อ ต้านขึ้นช่วงปลายราชวงศ์หยวนจูหยวนจางได้ปราบปรามกลุ่มต่างๆ และขับไล่ราชวงศ์หยวนออกไปจากแผ่นดินจีนได้สำ เร็จ อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368- 1644) ราชวงศ์หมิงเป็นราชวงศ์ของจีนสถาปนาโดยจูหยวนจาง(จักร พรรดิหมิงไท่จู่)เมื่อปีค.ศ. 1368(พ.ศ. 191 1 )จูหยวนจางเป็นฮ่องเต้ คนที่สองในประวัติศาสตร์จีนหลังจากหลิวปังหรือรืพระ เจ้าฮั่นเกาจู่ ที่ไต่เต้าสร้างฐานะขึ้นมาจากชาวนา จูหยวนจางเป็นผู้นำ กองกำ ลังที่ทำ ศึกปราบราชวงศ์หยวนแล้วขับ ไล่มองโกลออกจากแผ่นดินจีนได้จากนั้นสถาปนาตนขึ้นเป็น ฮ่องเต้นที่เมืองนานกิงและสถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นจักรพรรดิห มิงไท่จู่ปกครองประ เทศนานกว่า31ปีเสริมริสร้างความเข้มแข็งใน อาณาจักรด้วยการรวมศูนย์อำ นาจปกครองทำ ให้บ้านเมืองมี แสนยานุภาพทางทหารเข้มแข็งกว่าสมัยราชวงศ์ซ่งมากพระองค์ ยังลดหย่อนการเก็บภาษีจากชาวนาที่ยากไร้จึงได้รับความเคารพ รักจากชาวนาจำ นวนมากแต่พระองค์กลับทรงโหดเหี้ยมต่อเหล่า ขุนนางและนายทหารที่มีคุณูปการในการช่วยสถาปนาราชวงศ์ เนื่องจากระแวงว่าจะคิดการล้มล้างราชวงศ์จึงได้สั่งประหาร เหล่าผู้ภักดีไปจำ นวนมหาศาล อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644- 1912) ราชวงศ์ชิง(ค.ศ. 1644- 1912หรือรืพ.ศ.2187-2454)บุกเบิกและ สร้างราชวงศ์ชิงตั้งแต่ค.ศ. 1582-ค.ศ. 1912โดยเผ่านูรฮาชี(แมนจู เลีย)สมยานามกษัตริย์ริ ย์ชิงไทจงฮ่องเต้จักรพรรดิบนหลังม้าปฐม กษัตริย์ริ ย์ชื่อจักรพรรดิหวงไท่จี๋,ซุนจื่อและคังซีและจักรพรรดิบัลลังก์ เลือดหย่งเจิ้น(องค์ชายสี่), จักรพรรดิเจ้าสำ ราญเฉียนหลง(หลาน หงษ์ลิ)ศึกล่าบัลลังก์ทองเจี่ยชิ่งและ เต้ากวง มีจักรพรรดิรวมทั้งสิ้นในราชวงศ์13พระองค์ซึ่งจักรพรรดิปูยีเป็น จักรพรรดิองค์สุดท้ายและ เป็นราชวงศ์สุดท้ายก่อนสถาปนาเป็น ระบบสาธารณรัฐเป็นราชวงศ์ของเผ่าแมนจูเลีย(ชนเผ่ามองโกล เลียมีชนเผ่าถึง2,000-3,000เผ่า)เป็นชนต่างชาติทางเหนือที่เข้า มาปกครองประ เทศจีนต่อจากราชวงศ์หมิงซึ่งภายหลังเกิด"ศึก กบฏราชวงศ์หมิง"ภายในประ เทศจีนโดยกบฏเปิดประตูเมืองให้ แมนจูเลียเข้ายึดครองทำ ให้ได้รับสมยานามกษัตริย์ริ ย์ชิงไทจงฮ่องเต้ เพราะ เข้ายึดเมืองได้โดยไม่ต้องลงจากหลังม้าเป็นรัชสมัยที่มีการ เปลี่ยนแปลงการปกครองการตรวจตราข้อบังคับของสังคมศาสนา และการค้าทางเรือรืที่รุ่งเรือรืงที่สุดยุคหนึ่งก็ว่าได้คือการให้ชายจีนไว้ ผมหางเปียและ ใส่เสื้อแบบแมนจูเลียคือปิดแขนเสื้อและขาเลียน แบบสมัยราชวงศ์ถังเก่าพร้อมประคำ 500เม็ดและต้องนับถือพุทธ จีนที่แตกต่างไปจากเดิมคือมีประคำ 500เม็ดและ เริ่มริ่นับถือศาสนา พุทธจีนที่เจริญริรุ่งเรือรืงมากยุคหนึ่ง อารยธรรมในสมัยราชวงค์


ยุคสาธารณรัฐจีน (ค.ศ. 1912- 1949) ปีพ.ศ.2454เกิดการปฏิวัติซินไฮ่ซึ่งเป็นการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการ ปกครองจีนให้เป็นระบอบสาธารณรัฐที่นำ โดยดร.ซุนยัดเซ็นราชวงศ์ชิงถูก ยึดอำ นาจในปีนั้นและ ในพ.ศ.2455ผู่อี๋จักรพรรดิองค์สุดท้ายถูกบังคับให้ สละราชสมบัติถือเป็นจุดอวสานของราชวงศ์ชิงและการปกครองระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีน ดร.ซุนยัดเซ็นได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลคนแรกของสาธารณรัฐ จีน แต่ก็สละตำ แหน่งให้กับยฺเหวียวีนชื่อไข่อย่างไรก็ตามยเหวียวีนซื่อไข่กลับ ทะ เยอทะยานคิดจะฟื้นฟูระบอบจักรพรรดิตั้งตนขึ้นเป็นฮ่องเต้จึงถูกต่อ ต้านจากทั่วสารทิศซุนยัดเซ็นจึงประกาศทำ ศึกต่อต้านสุดท้ายแล้วยเหวียวีน ซื่อไข่ล้มป่วยเสียชีวิตวิ ไปแต่แผ่นดินจีนก็เข้าสู่ความวุ่นวายจากการชิงอำ นาจ กันของเหล่าขุนศึกและกลายเป็นยุคสมัยที่วุ่นวายและนองเลือดที่สุดช่วง เวลาหนึ่งของจีนซุนยัดเซ็นล้มป่วยแล้วเสียชีวิตวิหลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลา ชิงอำ นาจระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งที่นำ โดยเจียงไคเช็คกับพรรคคอมมิวนิสต์ ที่นำ โดยเหมาเจ๋อตงการทำ ศึกในช่วงแรกเจียงไคเช็คเป็นฝ่ายชนะแต่ เนื่องจากการรุกรานของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สองทำ ให้ทั้งสองฝ่ายต้องยุติความขัดแย้งลงชั่วคราวแล้วหันมาร่วม มือกันทำ สงครามกับญี่ปุ่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงพรรค ก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ได้มีการเจรจาเพื่อก่อตั้งรัฐบาลผสมแต่ เจียงไคเช็ควางแผนที่จะกำ จัดพรรคคอมมิวนิสต์ทำ ให้เหมาเจ๋อตงและแกน นำ ของพรรคต้องนำ พาสมาชิกและชาวนาผู้ยากไร้ที่เป็นกองกำ ลังส่วนใหญ่ ของพรรคเดินทัพทางไกลขึ้นไปทางเหนือจากนั้นเหมาเจ๋อตงก็นำ กองทัพ เปิดศึกกับเจียงไคเช็กอีกครั้งเนื่องจากภายในพรรคก๊กมินตั๋งเองก็มีความ ขัดแย้งภายในไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตริคอรัปชั่นภายในพรรคได้ รวมถึงเหมาเจ๋อตงสามารถชี้นำ และปลุกระดมชวนเชื่อชาวจีนผู้ยากไร้ทั่ว ประ เทศในเวลานั้นให้เข้าร่วมการต่อสู้พรรคคอมมิวนิสต์จึงได้ชัยชนะ ใน ที่สุดส่วนเจียงไคเช็คก็ลี้ภัยไปยังเกาะ ไต้หวันและสถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้น ใหม่ ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน ( 1949–ปัจจุบัน) ประวัติศาสตร์สาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มริ่ตั้งแต่วันที่1ตุลาคมค.ศ. 1949 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะ เหนือพรรคก๊กมินตั๋งในสงครามกลางเมือง จีน เหมาเจ๋อตุงประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน(PRC)ที่กรุงปักกิ่ง บนจัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ จีนยุคใหม่


แบบทดสอบหลังเรีย รี น 1. ยุคประวัติศาสตร์ของจีนสัมพันธ์กับข้อใด ก.ราชวงศ์ชาง –ประดิษฐ์อักษร ข.ราชวงศ์โจว – ปรัชญาร้อยสำ นัก ค.ราชวงศ์โจว – ปกครองแบบจักรวรรดินิยม ง.ยุคหินใหม่ – ชุมชนเกษตรตามที่ราบลุ่มแม่น้ำ 2. ภายหลังการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิง จีนได้เปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบใด ก.ระบอบสังคมนิยม ข.ระบอบเผด็จการทหาร ค.ระบอบคอมมิวนิสต์ ง.ระบอบประชาธิปไตย 3. ข้อใดเป็นมูลเหตุของการเกิดสงครามระหว่างจีน-อังกฤษระหว่าง. ค.ศ. 1839- 1842 ก.สาวงาม ข.ทอง ค.ฝิ่น ง.ขุนนางฝ่ายขวา 4. ใครคือผู้เปลี่ยนจีนให้เข้าสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ ก.โจวเอินไหล ข.เหมาเจ๋อตุง ค.เติ้งเสี่ยวผิง ง.เจียงไคเชค 5. ภาพวาดของจีนที่เน้นความงามของธรรมชาติและความกลมกลืนกัน ระหว่างมนุษย์ กับธรรมชาติ เป็นอิทธิพลความคิดของลัทธิใด ก.ลัทธิเต๋า ข.ลัทธิขงจื๊อ ค.ลัทธิเม่งจื๊อ ง.ลัทธิฟาเฉีย


6.อารยธรรมจีนกำ เนิดและเจริญริบริเริวณลุ่มแม่น้ำ ใด ก.แม่น้ำ แยงซีเกียง ข.แม่น้ำ ซี ค.แม่น้ำ อามูร์ ง.แม่น้ำ หวางเหอ 7.ประเทศใดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมจีน มากที่สุด ก.ไทย ข.อินโดนีเซีย ค.เวียวีดนาม ง.กัมพูชา 8.สิ่งก่อสร้างที่พาดผ่านที่ราบ ภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลทราย ถือเป็นสัญญลักษณ์ของ อารยธรรมตะวันออก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ เป็นสิ่งเดียวที่ มนุษย์อวกาศมองเห็นเมื่ออยู่ในอวกาศ สิ่งนั้นคืออะไร ก.กำ แพงเมืองจีน ข.เขื่อนแยงซีเกียง ค.พีรามิดแห่งอียิปต์ ง.ซิกกูแลตของเมโสโปเตเมีย 9. ความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษของชาวจีนที่ได้รับอิทธิพลมาจากคำ สอนของ ลัทธิใดมากที่สุด ก.ขงจื้อ ข.เต๋า ค.ชินโต ง.พราหมณ์-ฮินดู 10. นักเรียรีนคิดว่าจุดมุ่งหมายในการสร้างกำ แพงเมืองจีนคืออะไร ก.ป้องกันภัยธรรมชาติ ข.ป้องกันแนวชายแดน ค.เพื่อให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ง.แสดงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ


ภาคผนวก


เฉลยแบบทดสอบก่อน-เรียนหลังเรียน ข้อที่ ก่อนเรียน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 หลังเรียน ง ค ก ก ข ก ง ค ข ก ก ง ค ข ก ง ค ก ก ข


Click to View FlipBook Version