ภาวะพึ่งพาอาศัย (Mutualism +,+) เป็ นความสัมพนัธ ์ ของสิ่งมีชีวติ2 ชนิดที่อยรู่ ่วมกนัเป็ นระยะเวลานานจนไม่สามารถแยกออกจาก กนัได ้โดยที่ท้งัสองฝ่ายต่างไดป้ ระโยชนซ ์ ่ึงกนัและกนัเช่น - ไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza) เป็ นการอยรู่ ่วมกนัระหวา่งรากบัรากพืช โดยพืชจะท า หน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสงและสร้างอาหารให้ราเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต นอกจากน้ียงัเป็ นที่ อยอู่าศยัใหแ ้ ก่รา ส่วนราน้นัจะมีโครงสร ้ างที่เป็ นเส้ นใยเรียกวา่ ไฮฟา (Hyphae) ท า หนา ้ ที่คอยหาแร่ธาตุอาหารจากดินที่ใชใ้ นการเจริญเติบโตของพืช นอกจากน้ีรายังให้ ความช้ืนแก่รากพืชอีกดว ้ ย - โปรโตซัว(Trichonympha sp.) ในล าไส้ปลวก ภายในโปรโตซัวจะมีแบคทีเรียที่ สามารถสร้างเอนไซม์เซลลูเลส (Cellulase) ที่สามารถยอ่ยไมใ้ หป้ ลวก ส่วนปลวกจะให้ที่ อยอู่าศยัและอาหาร ซ่ึงกค ็ือเซลลูโลส แก่โปรโตซัว - ไลเคนส์(Lichens) เป็ นสิ่งมีชีวติ2 ชนิด คือราและสาหร่าย ที่มาอาศยัอยดู่ว ้ ยกนั โดย ที่ราจะใหค ้ วามช้ืนแก่สาหร่าย ส่วนสาหร่ายสามารถสังเคราะห ์ ดว ้ ยแสงและสร ้ างอาหาร ใหแ ้ ก่ราได ้
2. ภาวะไดป้ ระโยชน ์ ร ่ วมกน ั (Protocooperation +,+) เป็ นความสัมพนัธ ์ ของสิ่งมีชีวติ2 ชนิด ที่อยรู่ ่วมกนัโดยที่ต่างฝ่ายต่างไดป้ ระโยชนซ ์ ่ึงกนัและกนั แต่สามารถแยกออกจากกนัเช่น - นกเอ้ียงกบัควาย นกเอ้ียงจะกินปรสิต เช่น เห ็ บ ไร ที่อยบู่นตวัควาย ซ่ึงควายจะได้ประโยชน์ เนื่องจากปรสิตที่ก่อความรา คาญถูกกา จดัขณะเดียวกนันกเอ้ียงกจ ็ ะไดร ้ับอาหารจากการกินเห ็ บ ไร ที่อยบู่นตวัควาย - มดดา กบัเพล้ีย มดนา จะนา ไข่ของเพล้ียไปไวใ้ นรังบนตน ้ไม ้ เพื่อใหค ้ วามอบอุ่นและฟักออกมา เป็ นตวัเมื่อถึงเวลาออกหาอาหาร มดดา จะนา เพล้ียไปดว ้ ยเพื่อใหเ ้ พล้ียใชป้ ากเจาะและดูดน้า หวาน จากตน ้ไมแ ้ ลว ้ปล่อยใหน ้ ้า หวานไหลออกมา ซ่ึงทา ใหม ้ ดดา ไดอ ้ าหารจากเพล้ียอีกทอดหนึ่ง -แมลงกบัดอกไม ้ แมลงจะไดก ้ินน้า หวานจากดอกไมเ ้ป็ นอาหาร ส่วนดอกไมจ ้ ะไดแ ้ มลงช่วยใน การผสมเกสร
3. ภาวะอ ิ งอาศย ั หร ื อภาวะเก ้ ื อกล ู (Commensalism +,0) เป็ นความสมัพนัธ ์ ของสิ่งม ี ช ี วติ2 ชนิดท ี่อยรู่ ่วมกนั โดยที่ฝ่ ายหนึ่งได้รับ ประโยชน ์ ส่วนอ ี กฝ่ายไม่ไดแ ้ ละไม่เส ี ยประโยชน ์ใด ๆ เช่น - ปลาฉลามกบัเหาฉลาม เหาฉลามจะคอยยด ึ เกาะกบั ปลาฉลามเพ ื่อจะ ไดร ้ับเศษอาหารท ี่ปลาฉลามกินไม่หมด แต่กไ็ ม่ไดส้่งผลเส ี ยตวปลาฉลาม ั - นกกบัตน ้ ไมใ้ หญ่นกจะฃทา รังบนตน ้ ไมใ้ หญ่ทา ใหไ้ ดท ้ี่อยอู่าศยัส่วน ตน ้ ไมน ้ ้ นั ไม่เส ี ยประโยชน ์ - พืชอิงอาศัย (Epiphyte) เช่น กระเชา ้ส ี ดา เฟิร ์ น จะเกาะอยบู่ นต้นไม้ เพ ื่อใชเ ้ป็ นแหล่งท ี่อยอู่าศยั โดยท ี่ตน ้ ไมไ้ ม่ไดป้ ระโยชน ์ แต่กไ็ ม่เส ี ย ประโยชน์ใด ๆ
4. ภาวะปรสิต (Parasitism +,-) เป็ นความสมัพนัธ ์ ของสิ่งม ี ช ี วติ2 ชนิดท ี่อยรู่ ่วมกนั โดยที่จะมีฝ่ ายหนึ่งเสีย ประโยชน ์ จากการเป็ นผถูู้กอาศยัเร ี ยกวา่ โฮสต์(Host) และจะมีอีกฝ่ าย หน่ึ งท ี่ไดป้ ระโยชน ์ จากการไปอาศยัอยกู่บัโฮสต์เรียกฝ่ ายที่ได้ประโยชน์ วา่ ปรสิต (Parasite) ปรสิตแบ่งออกเป็ น 3 ประเภท คือ
5. ภาวะล ่ าเหยอ ื ่ (Predation +,-) เป็ นความสมัพนัธ ์ ของสิ่งม ี ช ี วติ2 ชนิดท ี่อยรู่ ่วมกนั โดยฝ่ายท ี่เป็ นผลู้่า (Predator) จะเป็ นฝ่ายไดร ้ับประโยชน ์ ส่วนผถูู้กล่าหร ื อเหยอ ื่ (Prey) จะเป็ นฝ่ายเส ี ยประโยชน ์ เช่น สตัวก ์ินพ ื ช สตัวก ์ินสตว์ หรือพืช ั กินแมลง ซ่ึ งความสมัพนัธ ์ จะช่วยทา ใหร ้ ะบบนิเวศม ี ความสมดุลเกิดข ้ึ น กล่าวค ื อถา ้ในระบบม ี จา นวนผลู้่าเพิ่มข ้ึ น จา นวนเหยอ ื่กจะลดลงเนื่องจาก ็ ถูกล่าไปหมด และเม ื่อจา นวนเหยอ ื่นอ ้ ยลง ประชากรผลู้่ากจ ็ ะเริ่มนอ ้ ยลง ตามไปดว ้ ยเน ื่องจากขาดอาหาร ส่งผลใหเ ้ หยอ ื่กลบัมาเพิ่มจา นวนมากข ้ึ น และวนเป็ นวงจรอยา่งน ้ ีไปเร ื่อย ๆ
6. ภาวะแก ่ งแยง ่ (Competition -,- ) เน ื่องจากท ้ งัสองฝ่ายจา เป็ นตอ ้ งใชท ้ รัพยากรเด ี ยวกนั ในการดา เนินชีวิต จึง ทา ใหภ ้ าวะแก่งแยง่เป็ นความสมัพนัธ ์ ของสิ่งม ี ช ี วติ2 ชนิด ท ี่อยรู่ ่วมกนั โดยตอ ้ งแก่งแยง่แข่งขนัเพ ื่อใหไ้ ดแ ้ หล่งทรัพยากรน ้ นัมาเป็นของตน ซึ่ง ส่งผลเส ี ยแก่ท ้ งัสองฝ่าย สามารถแบ่งไดเ ้ป็ น 2 แบบ คือ