สารบัญ
17 ร่วมด้วยช่วยกัน...
05 ทีมวิศวกรสังคม จัดกิจกรรม
- โครงการศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรม
07 เสียงสะท้อน... ลิเกป่า
- โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จำกชุมชน - โครงการผ้ามัดย้อมเปลือกมังคุด
- กิจกรรมอื่นๆ
09 Check in...
ต�ำบลหนองไทร 21 ถอดบทเรียน...
- ประวัติศาสตร์ชุมชน จำกงำนวิจัยสู่ชุมชน
- ค�าขวัญต�าบลหนองไทร
- สถานที่ส�าคัญ 23 ขอบคุณ...
จำกในวิศวกรสังคม
2
3
บทบรรณาธิการ
ิ
ั
�
ุ
ี
“ประวตศาสตร์ชมชนตาบลหนองไทร” วารสารท ี ่ เครือข่ายท่สาคัญในการท่ช่วยต่อยอดแตก
ี
�
�
�
�
�
�
จัดทาโดยทีมวิศวกรสังคมประจาตาบลหนองไทร แขนงสร้างตาบลหนองไทรให้เข้มแข็ง คือ ผู้นา
ี
ื
ิ
ื
ุ
่
ุ
ั
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธาน โดยเน้อหาจะเกาะติด ชมชนและชาวชมชนเอง เครอขายจากมหาวทยาลย
ี
�
การท�างานในชุมชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคม ราชภัฏสุราษฎร์ธาน โดยหน่งในจานวนน้นเป็น
ั
ึ
ี
รายตาบล ตาบลหนองไทรเป็นชุมชนเก่าแก่ท่มีมาแต่ ลูกหลานในชุมชนที่ท�างาน ในนาม “วิศวกร
�
�
ี
โบราณ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาต ิ สังคม” จึงได้ข้อมูลเชิงลึกเก่ยวกับประวัติศาสตร์
จนเกิดเปนค�าขวัญประจ�าต�าบลที่วา “มังคุดหวาน อาบ ชุมชนแบบคนวงในมาบอกต่อ ซ่งอ่านได้ใน
่
็
ึ
�
้
นาพุมดวง กราบหลวงพ่อขา ถ่นวัฒนธรรมลิเกป่า” คอลัมน์ Chick in....ต�าบลหนองไทร กิจกรรม
�
ิ
ท่ามกลางการทางานภายใต้การแพร่ระบาดของเช้อไวรัส การท�างานและคอลัมน์เสียงสะท้อนจากชุมชน
ื
�
ึ
�
�
covid-19” การอาศัยกาลังใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ คาขอบคุณจากใจวิศวกรสังคม และอีกหน่ง
�
ี
ต้องใช้เครือข่ายเข้ามาหนุนเสริมจึงจะเป็นพลังสาคัญ ไฮไลท์ท่สาคัญในคอลัมน์บทเรียนจากงานวิจัย
�
ในการขับเคลื่อนการท�างาน สู่ชุมชนท่เก่ยวข้องกับเร่องราวในต�าบล
ี
ี
ื
หนองไทรอย่างถึงลูกถึงคน
บรรณาธิการ
สุวิมล เวชวิโรจน์
([email protected])
4
ทีมวิศวกรสังคม ประจ�าต�าบลหนองไทร อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางสาวสุวิมล เวชวิโรจน์ (อำจำรย์ออย)
อำจำรย์ที่ปรึกษำประจ�ำต�ำบลหนองไทร
ทีมวิศวกรสังคม (ประชาชน)
นายไมตรี พรมจ�าปา (ต่อ)
ประธำนต�ำบล
นางสาวธัญญวรินทร์ บุญพา (น้ำตำล) นายรัฐนันท์ คุ้มจันทร์ (จิม) นางสาววิจิตรา นุ่นนวน (ไหม)
�
นางสาวเพ็ญโสภา จิตมะกล�่า(ฟ้ำ) นายปัณณวัตร์ ตรียุทธ (ฟร้อง) นายณัฐวุฒิ มะยะเฉียว (วุด)
ทีมวิศวกรสังคม (บัณฑิตจบใหม่)
นางสาวรัตน์ติยา ปานเหลือง (โฟม) นางสาวจารุวรรณ หล�าศิริ (ตูน) ว่าที่ ร.ต. ภูริดล คะตะโต (ซีเกมส์)
นางสาวเพ็ญจิต คงภูชงค์ (มุก) นางสาวพลอยไพลิน ด�าดี (พลอย) นายเกริกชัย ศึกเสือ (เจน)
5
นายกิตติศักดิ์ คงเกษตร (โอม) นางสาวปิยธิดา คงสนอง (อร) นางสาวสุนิสา ธรรมรักษ์ (บุ๋ม)
นางสาวสุชัญญา โพธิครูประเสริฐ นายวุฒิชัย ด้วงโยธา (ปำล์ม) นางสาวณฐพร เพ็ชรานันท์
(ปิ้ก) (ช่อเอื้อง)
นายกันตพงษ์ บูชากรณ์
(แชมป์)
ทีมวิศวกรสังคม (นักศึกษา)
นางสาวจันทิมา พรศรี นายพิสิษฐ์ ชายทุ่ย นายนาวี รอดก�าเนิด
(ยุ้ย) (พี) (วี)
นายเจษฎากรณ์ บุญสพ นางสาวอมลรดา ทองหวั่น นางสาวพัชรี ภิรอด
(ไมค์) (เฟิร์น) (ปูน)
6
เสียงสะท้อนจากชุมชน
�
นายศักดิ์ชาย ไชยชานิ นายกองค์การบริหารส่วนต�าบลหนองไทร
ี
“รู้สึกดีใจท่ลูกหลานเรียนจบแล้วได้ทางานเป็นวิศวกรสังคม และได้เข้ามาพัฒนา
�
ื
ชุมชนโดยการสร้างศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่าเพ่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาความ
เป็นมา และเก็บไว้เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบไป”
นายวินัย บุญช้าง ผู้อ�านวยการโรงเรียนบ้านยางงาม
“รู้สึกยินดีที่ทางอาจารย์ และทีมวิศวกรสังคมต�าบลหนองไทรเข้ามาจัดกิจกรรมใน
�
�
พ้นท่ของโรงเรียนให้มีศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่า ทาให้ทางโรงเรียนได้นามาใช้
ื
ี
ประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน”
นายนิยม โกศล ก�านันต�าบลหนองไทร
“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากท่ได้มีทีมงานวิศวกรสังคม เข้าไปจัดกิจกรรมให้ความรู้
ี
แก่คนในหมู่บ้านและส่งเสริมให้คนในหมู่บ้านได้ฝึกทักษะวิชาชีพ ท�าให้คนในหมู่บ้านได้
มีอาชีพเสริมมากขึ้น ทั้งยังท�าให้ชาวบ้านในต�าบลหนองไทร ได้รู้จักประวัติความเป็นมา
ของบ้านเกิดตนเอง และภูมิใจในตัววิศวกรสังคมที่ตั้งใจกันท�างานให้ชุมชน โดยเฉพาะ
ี
อย่างย่งต้องขอขอบคุณอาจารย์ท่ปรึกษาของทีมวิศวกรสังคมตาบลหนองไทรท่ทุ่มเท
ิ
ี
�
ท�าให้มีกิจกรรมดีๆ เข้ามาส่งเสริมให้แก่คนในชุมชน”
นางจิรา คุ้มจันทร์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน
ื
ี
“รู้สึกดีใจท่ได้เห็นลูกหลานทีมวิศวกรสังคม เข้ามาจัดกิจกรรมต่างๆในพ้นท่ตาบล
ี
�
หนองไทร ท้งด้านส่งเสริมอาชีพครัวเรือนยากจน และส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรม
ั
ลิเกป่าที่ก�าลังจะสูญหายไปจากต�าบล ด้วยการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมลิเกป่า”
7
นายมนัส พรมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1
ี
“รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากท่ทางทีมวิศวกรสังคม ได้เข้าไปดาเนินการจัดกิจกรรมให้
�
่
้
่
ความรูแกคนในหมูบาน และภูมิใจมากที่ทางทีมวิศวกรสังคมเล็งเห็นถึงความส�าคัญของ
้
ั
คนในหมู่บ้าน ท้งยังช่วยส่งเสริมกิจกรรมให้คนในหมู่บ้านได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
และรู้จักตัวตนจากประวัติของต�าบลและหมู่บ้านของตนเอง”
นายจารึก คุ้มจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต�าบลหนองไทร
“รู้สึกดีใจและรู้สึกยินดีที่ทีมวิศวกรสังคม ที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์การเรียน
ั
้
ุ
้
่
้
์
ั
ั
ื
ุ
ั
ู
่
ิ
ื
ั
รวฒนธรรม ลเกปา เพอใหเยาวชนรนหลงไดรจก ลเกปา และอนรกษสบสานวฒนธรรม
้
ู
่
่
ิ
ลิเกป่าต่อไป”
นายสุริยะ ปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต�าบลหนองไทร
“รู้สึกยินดี ที่ได้ร่วมงานกับน้องๆ วิศวกรสังคม ในการเข้ามาจัดกิจกรรมการพัฒนา
ความรู้ เพื่อสร้างอาชีพให้แก่ชาวบ้านในชุมชน และท�าให้เกิดรายได้หมุนเวียนขึ้นภายใน
ชุมชน”
สุรชัย แสงมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5
“รู้สึกยินดีและขอบคุณทางทีมวิศวกรสังคมท่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนในหมู่บ้าน
ี
�
ี
ได้มีความรู้ ความเข้าใจ และนาความรู้ท่ได้จากการฝึกอบรมไปต่อยอดในการพัฒนา
หมู่บ้านต่อไปได้”
8
C heck in... ต�าบลหนองไทร
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชน
�
�
ทีมวิศวกรประจาตาบลหนองไทรเข้ามาเยือน
ี
�
�
ตาบลหนองไทร อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน ขนาดและที่ตั้ง
ดินแดนชุมชนเก่าแก่ท่มีมาแต่โบราณ บริเวณชุมชน พนทในตาบลหนองไทรมประมาณ 42 ตาราง
ี
ี
�
ื
่
้
ี
ื
ี
�
้
้
�
สมัยก่อนเป็นพ้นท่ราบลุ่มแม่นา มีแม่นาพุมดวง กิโลเมตร หรือประมาณ 26,450 ไร่ โดยมีอาณาเขต
�
�
้
เป็นแม่นาสายหลักของผู้คนในชุมชน ทาให้ผู้คน ติดกับพื้นที่ต�าบลต่าง ๆ ดังนี้
�
้
ในชุมชนสัญจรผ่านเส้นทางนาเป็นหลัก ใช้พาหนะ อาณาเขต
ส่วนใหญ่เป็นเรือพาย เรือแจว และเรือยนต์ ในการ ทิศเหนือ ติดต่อกับ ต.หัวเตย อ.พุนพิน
้
�
ไปมาหาส ตลอดจนมหนองนาลกและพันธไม้นานา จ.สุราษฎร์ธานี
ุ์
ึ
ี
่
ู
ชนิด จนมีต้นไทรขนาดใหญ่ยืนต้นอยู่กลางแม่น�้า ทิศใต้ ติดต่อกับ ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน
เกิดเป็นชื่อเรียกต�าบล “หนองไทร” ประกอบด้วย จ.สุราษฎร์ธานี
5 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านหนองไทร หมู่ที่ 2 ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน
บ้านนาทราย หมู่ที่ 3 บ้านหนองขรี หมู่ที่ 4 บ้าน จ.สุราษฎร์ธานี
ปากมะร หมู่ท 5 บ้านท่าโพธ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต.น�้ารอบ อ.พุนพิน
่
ิ
์
ุ
ี
ของทรัพยากรธรรมชาติจนเกิดเป็นคาขวัญประจา จ.สุราษฎร์ธานี
�
�
�
ี
้
ตาบลท่ว่า “มังคุดหวาน อาบนาพุมดวง กราบหลวง
�
�
ิ
พ่อขา ถ่นวัฒนธรรมลิเกป่า” ท้งน้ผู้คนในชุมชน
ั
ี
มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ปลูกผัก สวน
�
้
ผลไม้ สวนยางพารา ปาล์มนามันและยังเป็นแหล่ง
การประมงพื้นบ้าน เพื่อให้สอดรับกับสภาพความ
เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ตารางแผนที่ต�าบลหนองไทร
ข้อมูล : เอกสารขององค์การบริหารส่วนต�าบลหนองไทร
9
ค�าขวัญต�าบลหนองไทร
“มังคุดหวาน อาบน�้าพุมดวง
กราบหลวงพ่อข�า ถิ่นวัฒนธรรมลิเกป่า”
มังคุดหวาน : แต่เดิมพื้นที่ต�าบลหนองไทรเป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การท�าสวน
ผลไม้ จึงได้นิยมปลูกผลไม้โดยเฉพาะมังคุด ที่เจริญเติบโตได้ดี ต้นแข็งแรงมีรส
หวานอร่อย ท�าให้เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของต�าบลอีกด้วย
อาบน�้าพุมดวง : จุดก�าเนิดของแม่น�้าพุมดวง คือการไหลมารวมกันระหว่างคลอง
แสงและคลองศก ณ ที่บ้านปากตรัง ต�าบลต้นยวน อ�าเภอพนม ก่อนจะไหลไป
้
�
ี
�
�
รวมกับคลองยันที่อาเภอคีรีรัฐนิคม และบรรจบกับแม่นาตาปีท่อาเภอพุนพิน โดย
ึ
้
ี
�
ี
�
ไหลผ่านตาบลหนองไทร ซ่งทาให้ตาบลหนองไทรเป็นพื้นท่ท่มีแม่น�าพุดดวง
�
�
เป็นแม่นาสายหลัก และนอกน้ยังเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างตาบลหนองไทรกับตาบล
ี
�
�
้
ท่าโรงช้างอีกด้วย
กราบหลวงพ่อข�า : “หลวงพ่อข�า รตโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองไทร ถือเป็นพระ
เกจิอาจารย์รุ่นเก่าแห่งอ�าเภอพุนพิน มีชื่อเสียงโด่งดังด้านวิทยาคมและด้านวาจา
สิทธิ์ วิชาการสะเดาะ ตลอดทั้งวิทยาคมและไสยศาสตร์จากพระอาจารย์เฒ่า เจ้า
อาวาสวัดหนองไทรองค์ก่อนจนแตกฉาน ภายหลังหลวงพ่อขาได้เป็นเจ้าอาวาสวัด
�
หนองไทร ท�าให้เป็นที่กราบไหว้ สักการะบูชาของชาวบ้านในพื้นที่ และยังได้รับ
การยกย่องจากชาวบ้านและผู้ที่ศรัทธาว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น�้าพุมดวง”
ถิ่นวัฒนธรรมลิเกป่า : ลิเกป่าของชุมชนหนองไทร มีอายุกว่าร้อยปี ในอดีตลิเก
ป่าได้รับความนิยมและจัดแสดงกันอย่างแพร่หลาย ปัจจุบันยังคงหลงเหลือลิเก
ป่าคณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์เพียงคณะเดียวที่ยังคงมีชีวิต และรับแสดงในบาง
วาระและโอกาสเท่านั้น เช่น นายสงบ ทับทิมทอง นายนิคม ไชยช�านิ นายสงัด
รัตนภักดี นางชะอ้อน โกลาหล นางจวน โกลาหล และนายขัน พันพัว เป็นต้น ซึ่ง
แต่ละท่านมีอายุไม่ต�่ากว่า 70-80 ปี ท�าให้การแสดงลิเกป่าหาชมได้ยาก
10
�
สถานที่ส�าคัญ จนแตกฉาน ภายหลังหลวงพ่อขาได้เป็นเจ้าอาวาส
วัดหนองไทร หลวงพ่อข�าเป็นผู้ที่มีเมตตาธรรมสูงมาก
ภายในวัดหนองไทรจะมีบรรดาสัตว์ต่างๆ มาอาศัยอยู่
�
เป็นจานวนมาก สัตว์บางตัวก็มีชาวบ้านนามาถวาย ท่าน
�
ี
ก็เล้ยงดูด้วยความเมตตาสงสาร สัตว์เหล่าน้ล้วนแต่
ี
ื
เช่อง เล้ยงโดยไม่มีการผูกล่ามหรือกักขัง หากินแต่
ี
ภายในบริเวณวัดและใกล้ๆ บางคร้งหากจะออกไปหากิน
ั
ไกลจากวัดบ้างก็จะกลับวัดเองโดยไม่มีใครทาร้าย
�
หลวงพ่อข�า ท่านสรงน�้าเพียงปีละครั้งเดียว แต่แปลกที่
ิ
ึ
ตัวท่านไม่มีกล่นสาบแต่อย่างใด ปีหน่งฝนแล้งมาก
�
เป็นเวลานานหลายเดือน ชาวบ้านจึงนิมนต์หลวงพ่อขา
สรงน�้าเพื่อถือเคล็ดขอฝน ท่านก็ออกมากลางแจ้งแล้ว
�
ั
ทาพิธีขอฝน วันน้นตรงกับวันแรม 8 คา เดือน 5
�
่
ขณะท่ชาวบ้านร่วมกันทาพิธีสรงนาหลวงพ่อขา ท้องฟ้า
ี
�
�
�
้
ึ
ก็เกิดมืดคร้มแล้วก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นับแต่น้นมา
ั
่
�
พอวันแรม 8 คา เดือน 5 ของทุกปี ชาวบ้านก็จะร่วมกัน
�
้
�
ทาพิธีสรงนาหลวงพ่อขาทุกปี แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว
�
วัดหนองไทร
‘หลวงพ่อขา รตโน’ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองไทร
�
ถือเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าแห่งอาเภอพุนพิน มีช่อ
�
ื
เสียงโด่งดังด้านวิทยาคม ชาวบ้านยกย่องว่า “เทพเจ้า
แห่งลุ่มแม่น�้าพุมดวง”
อัตโนประวัต ท่านเกิดเม่อประมาณปี พ.ศ.2420
ิ
ื
ณ บ้านนาทราย ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
ุ
บรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษ ณ
วัดหนองไทร ได้รับฉายาว่า “รตโน” ศึกษาวิชาการต่างๆ
ทั้งมูลกัจจายน์ ตลอดทั้งวิทยาคมและไสยศาสตร์จาก
พระอาจารย์เฒ่า เจ้าอาวาสวัดหนองไทรองค์ก่อน
11
ที่หน้าวัดหนองไทรมีแม่น�้าพุมดวงไหลผ่าน ซึ่งมีจระเข้
�
�
ู
ั
้
อาศัยอยู่เป็นจานวนมาก และจะคอยทาร้ายผคนและสตว ์
น้อยใหญ่ จนมีเสียงเล่าลือกันว่า หลวงพ่อขาไดทาพธลง
�
้
ี
ิ
�
อาคมไว้ จระเข้เม่อผ่านมาหน้าวัดหนองไทรก็จะลอยตัว
ื
้
ขึ้นมาให้เห็นแต่ไกล ไม่อาจด�าน�้าจมลงได หลวงพอข�า
่
มีคุณวิเศษทางด้านวาจาสิทธ์เช่นกัน ทานจงระมดระวัง
ิ
ึ
ั
่
มากในการพูด เพราะกลัวว่าจะเผลอพลาดพลั้งปากไป
�
ึ
ด่าคนอ่นแล้วมีอันเป็นไป มีอีกวิชาหน่งท่หลวงพ่อขา
ี
ื
ถูกกล่าวขานคือ วิชาการสะเดาะ ในอดีตหากว่ามีใคร
กินอาหารแล้วมีก้างปลาหรือกระดูกติดคอ เม่อมาให้
ื
หลวงพ่อข�าท�าน�้ามนต์ให้ดื่ม ก้างปลาหรือกระดูกที่ติด
คอน้นก็จะหลุดทันท แม้แต่วัตถุมงคลของท่านอย่างเช่น
ี
ั
เหรียญ ตะกรุด หรือชานหมาก ก็สามารถเอามาแช่น�้า
�
ทานามนต์สะเดาะก้างปลาหรือกระดูกให้หลุดจากลาคอ
�
้
�
ได้เช่นกัน หลวงพ่อข�าเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรม หนองในลาด
วินัยชอบเดินธุดงค์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามป่าดง
ื
หนองในลาด จากเดิมเป็นพ้นท่หนองขนาดใหญ่ซ่ง
ึ
ี
�
ยึดสันโดษ ไม่สะสมทรัพย์ ทาให้มีสาธุชนให้ความ อุดมไปด้วยธรรมชาติที่เป็นอู่ข้าว อู่น�้าของคนในชุมชน
เลื่อมใสศรัทธามาก ส�าหรับวัตถุนิยมของหลวงพอข�าที่
่
ื
ึ
ื
เพ่อใช้ในการทามาหากินทางการเกษตร ซ่งมีเน้อท ่ ี
�
�
ได้รับความนิยมสูงคือ เหรียญหลวงพ่อขารุ่นแรก พ.ศ. ประมาณ 130 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ได้มีเนื้อที่
2490 ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปคล้ายใบสาเก
คงเหลือจากการจับจองในการทาการเกษตรจากคน
�
ในชุมชน ประมาณ 24 ไร่ ซ่งกรมพัฒนาท่ดิน กระทรวง
ี
ึ
�
ื
เกษตรและสหกรณ์ งานพัฒนาแหล่งนาเพ่อการอนุรักษ์
้
ดินและนา ร่วมกับชุมชนได้มีการจัดทาโครงการขุดสระ
�
�
้
เก็บนาเพื่อบรรเทาสภาพปัญหาความแห้งแล้ง และการ
�
้
ขาดแคลนน�้าในชุมชน ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านนาทราย ม.2
ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาในปี
พ.ศ.2481 พื้นที่หนองในลาดมีเนื้อที่ 130 ไร่ เป็น
พื้นที่เลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านในชุมชน
12
ี
ื
พ.ศ.2528 ชาวบ้านได้เข้าไปจับจองพ้นท่ของหนองใน วัดยางงาม
ลาดเพื่อท�าการเกษตร ส่งผลให้เหลือเนื้อที่ 70 ไร่ ทาง วัดยางงามเป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ผู้น�าหมู่บ้านได้ปรึกษาการท�าอาณาเขตในพื้นที่
ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต�าบลหนองไทร อ�าเภอพุนพิน จังหวัด
�
ื
�
พ.ศ.2554 ทางผู้นาหมู่บ้านได้ทาโครงการย่นให้ สุราษฎร์ธานี ได้มีการอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ 10
หน่วยงานรัฐบาล ในกาขุดอ่างเก็บน�้า
ี
มิถุนายน 2536 แต่ก่อนท่จะได้มีการอนุญาตให้สร้าง
ี
พ.ศ.2558 กรมพัฒาท่ดินได้รับมอบหมายเป็นผู้รับ วัดก็ได้มีส�านักสงฆ์อยู่แล้ว ต่อมาเมื่อได้มีการสร้างวัด
ผิดชอบโครงการขุดอ่างเก็บนาเพ่อใช้ในการเกษตร และ
ื
้
�
ิ
�
ึ
ชาวบ้านก็ได้เข้ามาทาบุญขอพรเพ่มมากข้นและได้ทา
�
การท่องเที่ยว กิจกรรมต่างๆ ในวันส�าคัญทางพระพุทธศาสนา
พ.ศ.2559 ผู้น�าชุมชนได้พันธ์ปลาจากกรมประมง
ของอ�าเภอน�ามาปล่อยลงในสระเก็บน�้า และในปี
ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่าแห่งบ้านหนองไทร
ู
�
ิ
้
ี
่
พ.ศ.2560 กรมพัฒนาทดน ไดจัดทาโครงการปลก
คณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์ หมู่ 3 ตาบลหนองไทร
�
ั
้
�
�
�
้
ปาล์มนามันรอบๆ สระเก็บนา และรายได้ท้งหมดนาไป อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ใช้เป็นสวัสดิการในชุมชน
ประวัติความเป็นมา
พ.ศ.2562 ผนาชมชนได้เสนอโครงการเพอของบประมาณ
ุ
่
้
ื
�
ู
ลิเกป่าคณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์ ในพื้นที่หมู่ 3
ในการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ จากกระทรวงมหาดไทย
�
�
ตาบลหนองไทร อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน ี
พ.ศ.2564 ได้รบงบประมาณจากองค์การบริหาร
ั
มีรากฐานความรู้เกี่ยวกับการแสดงลิเกป่าท่สืบทอด
ี
�
ส่วนตาบลหนองไทร เพ่อนามาซ่อมแซมเส้นทางเข้าสระ
�
ื
มายาวนานเล่าสืบต่อกันมาในคณะว่า ความรู้ด้านการ
เก็บน�้าเนื่องจากช่วงปลายปี และในปัจจุบันมีกิจกรรม
ิ
่
แสดงลิเกป่าในคณะได้รับการถ่ายทอดจากคนต่างถน
ปลูกต้นไม้ในวันส�าคัญ
โดยทางคณะลิเกรู้จักกันในชื่อว่า “ยายสาย” ไม่ทราบ
่
่
่
นามสกุล ถิ่นฐานเดิมยายสายไมปรากฏแนชัด แตบอก
เล่ากันต่อมา บ้างก็ว่ามาจากภาคอีสาน บ้างก็ว่ามาจาก
ี
ื
ภาคกลางและได้เดินทางเข้ามาในพ้นท่หมู่ 3 ตาบล
�
ี
�
หนองไทร อาเภอพุนพน จงหวดสราษฎร์ธาน
ุ
ั
ิ
ั
เมื่อประมาณกว่า 150 ปีที่ผ่านมา
ื
ี
ยายสายได้เข้ามาแสดงลิเกป่าในพ้นท่ช่วงรัชสมัย
ของพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะน้นลิเกป่า
ั
เป็นท่นิยมมาก ยายสายจึงได้ทาการถ่ายทอดความรู้
�
ี
เร่องลิเกป่าให้แก่เด็กวัยรุ่นในพ้นท่ด้วยตนเอง ได้แก่
ี
ื
ื
13
�
�
้
นายพรอม ทิมทอง, นายวาด ไชย, นายวัน อินทรพรหม ประพันธ์ ไชยชานิ, นายอนัน ไชยชานิ, นายยา อินทรพรหม,
,นาบเปยด ไชยช�านิ ,นายเกลา ไชยช�านิ,นายแผ้ว ไชย นายนิพนธ์ คุ้มจันทร์, นายภิรมย์ อินทเชื้อ, นายจ�านง
ี
�
ื
�
ิ
ึ
ี
ื
้
ื
�
ั
ชาน ซ่งได้ฝึกฝนการแสดงลิเกป่าจนมีความชานาญ เม่อ ไชยชานิ,นายสร้าง หับล่น, นายเซ้ยน อินทเช้อ, นางชะอน
การแสดงลิเกป่าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นาย โกลาหล และนายสงบ ทิมทอง คณะของนายแผ้ว
ี
แผ้ว ไชยช�านิ จึงได้รวมกลุ่มชาวบ้านจัดตั้งคณะลิเกป่า ถ่ายทอดการแสดงลิเกป่าให้ลูกหลานกลุ่มน โดยใช้การ
้
ึ
ข้นด้วยความรักและหลงใหลในการแสดงลิเกป่าต้องการ ถ่ายทอดแบบมุขปาฐะ ไม่มีการบันทึกเช่นเดียวกับทาง
ั
ึ
ั
้
้
ให้การแสดงลิเกป่าอยู่คู่ชุมชน ซ่งในขณะน้นยังไม่นิยม คณะของนายแผวไดรบการถายทอดมาจากยายสาย ดงนน
ั
ั
่
้
ต้งช่อคณะ แต่ใช้วิธีการเรียกช่อคณะตามช่อของหัวหน้า ผู้ศึกษาในศาสตร์การแสดงลิเกป่าจึงต้องใช้ความต้งใจ
ั
ื
ื
ื
ั
้
่
คณะ ลิเกปาคณะนี้จึงชื่อ “คณะลุงแผว” ไปโดยปริยาย และความเพียรในการจดจ�าและเรียนรู้อย่างสูง
คณะของลุงแผ้วได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดย เม่อกลุ่มลูกศิษย์ของนายแผ้วศึกษาลิเกป่า
ื
�
�
�
เฉพาะหลังฤดูทานาจะทาการแสดงเกือบทุกวันอย่างต่อ จนสามารถทาการแสดงลิเกป่าได้ นายสลบ ทิมทอง
ั
ึ
เนื่องยาวนาน ซ่งขณะน้นอาย 15 ปี หลงใหลในการแสดงลิเกป่า
ุ
ื
�
ในปี พ.ศ. 2500 เม่อมีกลุ่มชาวบ้านรุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นอย่างมาก มีความเห็นว่าตนและเพ่อทาการแสดง
ื
ื
ั
�
สนใจและอยากเรียนรู้ในการแสดงลิเกป่ามากขึ้น นาย ลิเกป่าได้ จึงชักชวนกันก่อต้งคณะลิเกป่าเพ่อทาการ
แผ้วจึงถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแสดงลิเกป่าให้กับ แสดงในวาระโอกาสต่างๆ ซ่งในขณะน้นลิเกป่า
ึ
ั
ึ
กลุ่มเครือญาติรุ่นลูก รุ่นหลาน ซ่งประกอบไปด้วย นาย เป็นท่นิยมกันอย่างมากในพ้นท่จังหวัดสุราษฎร์ธาน
ี
ี
ี
ื
14
ุ
ั
งานประเพณีต่างๆ ต้องมีการจัดแสดงลิเกป่า แต่ไม่สามารถรวบรวมได้ครบทกคน ด้วยเหตุผลดงน ้ ี
ร่วมอยู่ด้วย แต่การตั้งคณะในครั้งนั้นยังไม่มีการตั้งชื่อ นายประพันธ์ ไชยชานิ,นายอนัน ไชยชานิ, นายยา อินทร
�
�
คณะของนายสงบออกแสดงในงานบุญ งานกฐิน พรหม และนายนิพนธ์ คุ้มจันทร์ได้เสียชีวิตไปแล้ว และ
ทอดผ้าป่า โดยได้รับค่าตอบแทนคนละสิบบาทหรือ นายภิรมณ์ อินทเช้อ กับนายจานง ไชยชานิได้ตัดสินใจ
�
�
ื
บางงานใช้การเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทน คณะของ เลิกทาการแสดงทาให้ต้องมีการฝึกหัดสมาชิกจากผู้ท ่ ี
�
�
นายสงบแสดงร่วมกันมาจนถึงช่วงลิเกป่าลดความนิยม สนใจลิเกป่าขึ้นมาใหม่ ซึ่งสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมาคือ นาย
ลงไป ทาให้คณะไม่ค่อยมีการแสดงประกอบกับการ สุนพล สรเกษตรริน,นางจ้วน โกลาหล, นายสงัด รัต
�
แสดงลิเกป่าไม่ใช่อาชีพหลัก นักแสดงหลายคนมีภาระ ภักดี, นายขัน พันพัว, นางวรรณา ไชยชานิ,นายทว ี
�
ื
้
ี
ิ
ั
ี
ี
ึ
้
หน้าท่อ่นจากภาระหน้าท่หลักตองรบผดชอบจงตองมการ ทิพย์บรรพต และนายสุชาติ ทิมทอง ซึ่งเป็นบุตรชาย
ึ
หยุดกิจกรรมของทางคณะไป ของายสงบเข้ามาร่วมแสดงกับนักแสดงกลุ่มเดิมซ่ง
หลังจากท่ลิเกป่าลดความนิยมลงการแสดงลิเกป่า ประกอบไปด้วย นายนิคม ไชยช�านิ,นายสร้าง หับลั่น,
ี
ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มหาชมได้ยากปี พ.ศ. 2535 นายเซ้ยน อินทเช้อ, นางชะอ้อน โกลาหล และนายสวบ
ื
ี
ึ
ี
นายสงบ จึงมีความคิดท่จะฟื้นฟูการแสดงลิเกป่า มินทอง ซ่งถือได้ว่าเป็นคณะรวมมิตรประดิษฐ์ศิลปะชุด
ั
ื
ั
โดยได้ก่อต้งลิเกป่าข้นอีกคร้ง และได้ต้งช่อคณะน้ข้น ก่อตั้ง
ี
ึ
ึ
ั
ด้วยตนเองว่า ลิเกป่าคณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์ โดย
พยายามรวบรวมสมาชิกกลุ่มท่เคยร่วมการแสดงกันมา
ี
รูปภาพ : นายสงบ ทิมทอง หัวหน้าคณะลิเกป่าคณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์
ที่มา : การเก็บภาคสนามที่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 3 ต�าบลหนองไทร อ�าเภอ
พุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
15
ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 คณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์
ร่วมแสดงกันมาจนได้มีโอกาสเข้าไปฝึกหัดลิเกป่าให้
�
ู่
�
โรงเรียนบ้านยางงาม หม 3 ตาบลหนองไทร อาเภอพุนพิน
ึ
จังหวัดสุราษฎร์ธานีซ่งส่งผลให้เกิดคณะลิเกป่าของทาง
ึ
้
ี
โรงเรียนขน และฝึกหัดจนมีนักเรยนบางคนมีความสามารถ
ในการแสงลเกปาจนในระดับคณะไววางใจใหรวมแสดง
่
่
้
ิ
้
กับทางคณะได้คือเด็กหญิงปิตินันท์ เรืองโรจน์ และเด็กหญิง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช่น วัดโพธิ์น้อย อ�าเภอวิภาวดี
กัลยาณ ศรฑามาส ซงปัจจบันได้รบการแสดงลเกป่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีตลอดจนงานว่าจ้างให้ไปแสดงท ี ่
ุ
ั
ึ
่
ี
ี
ิ
ร่วมกับทางคณะรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์ในหลายโอกาส ต่างจังหวัด เช่น การแสดงที่จังหวัดชุมพร
นักแสดงรวมมิตร ประดิษฐ์ศิลป์ร่วมการแสดงกัน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2564 ทางนายกองค์การบริหาร
ิ
มาหลายชุด ร่วมแสดงกันมากว่า 20 ปี นักแสดงทุกคน ส่วนตาบล นายศักด์ชาย ไชยช�าน และผู้อานวยการ
�
ิ
�
แสดงลิเกป่าเป็นอาชีพเสริม แต่ท�างานอ่นเป็นอาชีพหลัก โรงเรียนยางงาม นายวินัย บุญช้างร่วมกันวิศวกรสังคม
ื
ิ
ี
เช่น นายสงบ ทมทอง ประกอบอาชพหลักเป็นกรรมกร ประจ�าต�าบลหนองไทร ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรม
ื
ี
หรือนายเซ้ยน อินทเช้อ อดีตเป็นพนักงานของการรถไฟ ลิเกป่าแห่งบ้านหนองไทร โดยจัดให้ครูภูมิปัญญาลิเก
แห่งประเทศไทย ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว ป่ามาร่วมแสดงตามวาระโอกาส และบูรณาการเรียน
�
โดยการแสดงท่มีการว่าจ้างมีท้งในพ้นท่หมู่ 3 ตาบล การสอนเข้าสู้ชั้นเรียน เพื่อเป็นการสืบต่อลมหายใจให้
ี
ี
ั
ื
ื
ี
หนองไทร อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน และพ้นท่อ่น กับลิเกป่าให้ยังคงอยู่คู่ชุมชน
�
ื
ี
16
ร่วมด้วยช่วยกัน จัดกิจกรรม
ี
โครงกำรเสวนำส่งเสริมกำรท่องเท่ยวบนพื้นฐำนของภูมิปัญญำ อัตลักษณ์และวัฒนธรรม
ิ
ของชุมชนท้องถ่น : ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่ำแห่งบ้ำนหนองไทร อ�ำเภอพุนพิน จังหวัด
สุรำษฎร์ธำนี
วันที่ 18 กรกฎำคม 2564
ู
กลุ่มเป้ำหมำย : คร นักเรียนโรงเรียนบ้านยางงามและประชาชน
หมู่ 3 ต�าบลหนองไทร อ�าเภอพุนพิน
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วัตถุประสงค์ : เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของ
ภูมิปัญญา อัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชน
ท้องถิ่น
สถำนที่ : ห้องศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่า
โรงเรียนบ้านยางงาม ต�าบลหนองไทร
อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ี
กิจกรรม : 1. การจัดการท่องเท่ยวบนพ้นฐานของภูมิปัญญา
ื
อัตลักษณ์และวัฒนธรรมลิเกป่าให้อยู่คู่ชุมชน
2. การบูรณาการความรู้สู่การพัฒนาวัฒนธรรม
ลิเกป่าให้อยู่คู่ชุมชน
3. การสาธิต “การร้อยลูกปัดลิเกป่า” ผ่านครู
ภูมิปัญญาและครูโรงเรียนบ้านยางงามและ
ร่วมแลกเปลี่ยนในหัวข้อ แนวทางการพัฒนา
โลโก้สินค้าและบรรจุภัณฑ์ลิเกป่า (เส้อ,แมสผ้า, สื่อประชำสัมพันธ์ : 1. สถานีวิทยุกระจายเสียง BOX 88.5MHz
ื
ตุ๊กตา,ถุงผ้า) สุราษฎร์ธานี ออกอากาศวันที่ 26 กรกฎาคม
4. เรียนรู้แนวทางการส่งเสริมการท่องเท่ยวบน 2564
ี
พ้นฐานของภูมิปัญญา อัตลักษณ์และวัฒนธรรม 2. Youtube ช่องชอบเที่ยว เผยแพร่วันที่ 27
ื
ลิเกป่าให้อยู่คู่ชุมชนท้องถิ่น และเข้าชม กรกฎาคม 2564
“ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่า ตาบลหนองไทร 3. เพจเช็คอินสุราษฏร์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 17
�
อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี” กรกฎาคม 2564
17
โครงกำรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสู่ต�ำบล :
หนองในลำด ต�ำบลหนองไทร อ�ำเภอพุนพิน
จังหวัดสุรำษฎร์ธำนี
วันที่ 21 พฤศจิกำยน 2564
ู่
�
�
กลุ่มเป้ำหมำย : ผู้นาชุมชน และประชาชนหม 2 ตาบลหนองไทร
�
อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน ี
วัตถุประสงค์ : เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณหนอง
ในลาดให้มีอุดมสมบูรณ์และอนุรักษ์พันธุ์ไม้
ิ
หายากในท้องถ่น เช่น ต้นหลุมพอ และต้นพะยูง
�
กิจกรรม : 1. กิจกรรมพัฒนาทาความสะอาดบริเวณหนองในลาด
สถำนที่ : หนองในลาดหมู่ 2 ต�าบลหนองไทร 2. กิจกรรมปลูกต้นกล้าหลุมพอ และ ต้นกล้า
อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พะยูง ลงบริเวณรอบหนองในลาด
18
โครงกำรฝึกทักษะปฏิบัติกำรเพื่อยกระดับสินค้ำทำงกำรเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนของ
ต�ำบลหนองไทร อ�ำเภอพุนพิน จังหวัดสุรำษฎร์ธำนี : ผ้ำมัดย้อมจำกเปลือกมังคุด
วันที่ 21 พฤศจิกำยน 2564
�
�
ู่
กลุ่มเป้ำหมำย : ผู้นาชุมชน และประชาชนหม 4 ตาบลหนองไทร
�
ี
�
อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน จานวน 30 คน
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมให้เป็น
แหล่งรายได้ชุมชน
2. เพื่อส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ใน
ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
3. เพื่อส่งเสริมการน�าวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ใน
ชุมชนมาทาให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้ท่ย่งยืน
�
ี
ั
สถำนที่ : ศาลาหมู่บ้านหมู่ที่ 4 ต�าบลหนองไทร
อ�าเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
กิจกรรม : 1. อบรมเชิงปฏิบัติการขั้นตอนการย้อมสีผ้า
จากเปลือกมังคุด
2. การสาธิตขั้นตอนการย้อมสีธรรมชาติจาก
เปลือกมังคุด
3. การสาธิตการท�าลวดลายผ้ามัดย้อม
กรกฎาคม 2564
19
กิจกรรม COVID-19 WEEK
วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ทีมวิศวกรสังคมต�าบลหนองไทร
น�าโดย อาจารย์สุวิมล เวชวิโรจน์ อาจารย์ที่ปรึกษาประจ�าต�าบล
�
ได้ด�าเนินการตามท่ได้มอบหมายให้ดาเนินการกิจกรรม ภายใต้
ี
โครงการ U2T COVID-19 WEEK ก้าวต่อไป สู้ภัยโควิด ร่วมกับ
ผู้น�าชุมชนในการถือป้ายเดินรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19
และท�าความสะอาด บริเวณจุดเสียง ทั้งนี้ยังได้แจกหน้ากากผ้า ,
Face Shield , สเปย์แอลกอฮอล์ล้างมือ , คู่มือ COVID-19 ให้
ั
�
้
ี
่
ื
กบพน้องชาวบ้านในพนท่ตาบลหนองไทร โดยมผู้นาชมชนและ
ี
ุ
�
ี
หัวหน้าส่วนราชการเป็นตัวเเทนชุมชนในการรับมอบ เพื่อกระจาย
ต่อไปยังชาวบ้านในชุมชน
กิจกรรมปลูกฟ้ำทะลำยโจร
ี
�
่
เม่อวันท 13 กันยายน 2564 ทีมวิศวกรสังคมตาบลหนองไทร
ื
ู้
ได้ประสานงานไปยังผใหญ่บ้าน หม 3 นายจารึก คุ้มจันทร์ เพ่อขอลงพ้นท ่ ี
ื
ื
ู่
้
�
้
ู
้
้
กศน. หนองไทรในการปลกต้นฟาทะลายโจรจานวน 30 ตน ใชพนท ่ ี
ื
11 ตารางวา โดยได้ปรับภูมิทัศน์รอบๆ พ้นท่ท่จะปลูกต้นฟ้าทะลายโจร
ี
ี
ื
กิจกรรมส�ำรวจ Covid-19
ื
�
ี
วิศวกรสังคมตาบลหนองไทร ได้มีการลงพ้นท่โรงเรียน ตลาด
วัด ที่พักอาศัย ในต�าบลหนองไทรตั้งแต่เดือนเมษายนเพื่อส�ารวจ
ข้อมูลโควิดตามมาตราการป้องกันCovid-19 ของศูนย์ U2T
กิจกรรมส�ำรวจสัมมำชีพ
�
ื
เม่อเดือนเมษายนท่ผ่านมา ทีมวิศวกรสังคมตาบลหนองไทร
ี
�
ื
ได้มีการลงพ้นท่สารวจข้อมูลเชิงลึกของชาวบ้านในตาบลหนองไทร
ี
�
ทั้ง 5หมู่ จ�านวน15 ครัวเรือน เพื่อส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพให้
แก่ครัวเรือนยากจน
20
ถอดบทเรียนจากงานวิจัยสู่ชุมชน
สุวิมล เวชวิโรจน์
(อาจารย์ที่ปรึกษาวิศวกรสังคมประจ�าต�าบลหนองไทร
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี )
กำรมีโอกำสในกำรท�ำงำนทำงด้ำนวิชำชีพ “ครู”
ท�างานวิจัยรับใช้ชุมชน
เป็นส่งท่ต้องเพียรศึกษำไม่รู้จบ และใช้เป็นค�ำตอบท่อยู่
ี
ิ
ี
ในใจเสมอมำว่ำ จงอยู่กับอำชีพอย่ำงรู้คุณค่ำและรู้จัก
ทดแทนคุณแผ่นดินเกิด
“ปริจเฉทการขับร้องในลิเกป่า Q : ท�ำไมถึงสนใจงำนวิชำกำรทำงด้ำนวัฒนธรรม ?
A : เหตุผลเดียวเลยค่ะ เป็นคนสุราษฎร์ธานีโดยก�าเนิด งานวิจัย
ของคณะรวมมิตรประดิษฐ์ศิลป์ ท้งหมดเป็นงานศึกษาในจังหวัดของตัวเอง ประกอบกับสนใจ
ั
ศาสตร์ทางด้านภาษากับวัฒนธรรม ความรู้สึกส่วนตัวมองว่า
ต�าบลหนองไทร อ�าเภอพุนพิน วัฒนธรรมมีมนเสน่ย์ มีรากเหง้าท่ได้รับการสืบต่อมาอย่างยาวนาน
ี
ิ
ี
ิ
เป็นส่งท่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของท้องถ่น และสะท้อนตัว
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตนของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นได้อย่างลงตัว หรืออาจจะเรียกได้ว่า
” เป็น “สมบัติร่วม” ที่ผู้คนในชุมชนได้รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อประโยชน์
ี
�
ใช้สอยท่สอดคล้องกับการดาเนินชีวิต นับว่าเป็นมรดกช้นสาคัญ
ิ
�
ที่บรรพบุรุษได้ถ่ายทอดให้มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
Q : ใช้งำนวิจัยต่อยอดอะไรให้กับชุมชนบ้ำง ?
�
A : ในการทางานคิดอยู่เสมอว่าอย่าทางานเพียงเพ่อปิดเล่มงาน
�
ื
วิจัย แต่จงต่อยอดจากผลการวิจัยมาสร้างคุณประโยชน์ให้กับ
ุ
ชมชนท้องถ่น จึงจะเรียกว่าเป็นงานท่มอบคุณค่าให้กับชุมชนและ
ิ
ี
ื
ึ
สังคมอย่างแท้จริง โดยการหยิบยกงานวิจัยมาเป็นส่วนหน่งในเน้อหา
21
ของประวัติลิเกป่าแห่งบ้านหนองไทร และยกระดับสร้างเป็นศูนย์
เรียนรู้วัฒนธรรมลิเกป่า ตลอดจนบูรณาการเรียนการสอนเข้าสู่
ช้นเรียนให้กับลูกหลานชาวหนองไทรได้รู้จักภูมิปัญญาและราก
ั
ี
ั
�
่
ั
ี
ื
ั
เหง้าของตนเอง และเป็นการสกดบทเรยนทได้จดทาเป็นหนงสอ
ประวัติศาสตร์ชุมชน ในรูปแบบ E-book VDO ประวัติลิเกป่าส่ง
มอบให้กับชุมชน เพ่อเป็นอีกหนงแรงสนบสนุน ส่งเสรมให้การ
ึ
ื
่
ั
ิ
แสดงลิเกป่ายังคงอยู่คู่ชุมชน
Q : ผลจำกกำรอุทิศตนจำกกำรท�ำงำนเพื่อชุมชน ?
A : ต้องยอมรับว่ากระแสสื่อใหม่มาแรงมาก ๆ ท�าให้คนท�างาน
ึ
ทางด้านวัฒนธรรม ต้องใช้พลังใจอย่างมากในการช่วยผลักดัน ซ่ง
ั
�
ั
่
ั
ิ
่
็
่
ตนเองยอมรบวายงเปน “หนอออนๆ” ทางวชาการ การอาศัยกาลง
ใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอต้องใช้พลังจากเครือข่ายเข้ามาหนุน
ึ
่
เสรมจงจะเป็นพลงสาคญในการขบเคลอน ซงจากการทางานใน
ั
ั
ั
ึ
�
่
ิ
�
ื
พ้นท่ชุมชนหนองไทรได้มีการจัดทาโครงการส่งเสริมการท่องเท่ยว
ี
ี
�
ื
บนพื้นฐานของภูมิปัญญา อัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชน
ท้องถิ่น : สืบสานวัฒนธรรมลิเกป่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564
ี
ท่ผ่านมา ผลการดาเนินงานพบว่า ควรมีการยกระดับการเรียนการ
�
สอนในดานบทขับรอง การรายร�าในแบบลิเกปาเพื่อฝกสอนใหกับ
่
้
้
ึ
้
่
ลูกหลานได้เรียนรู้ภูมิปัญญาของตนเอง เป็นการสร้างอัตลักษณ์
ื
ให้ยังคงอยู่คู่ชุมชน และดึงหน่วยงานเข้ามาช่วยสนับสนุนเพ่อสร้าง
หลักประกันความต่อเนื่องให้กับวัฒนธรรม
ี
ี
Q : ท้ำยท่สุดน้ อยำกให้อำจำรย์ฝำกแง่คิดหรือค�ำแนะน�ำถึงหน่วยงำน
ชุมชน หรือคนสุรำษฎร์ฯรุ่นใหม่ๆ ด้วยครับ ?
A : อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างหน่งของคนหนองไทรท่สามารถ
ึ
ี
ถ่ายทอดตัวตนไว้ได้ก็คือ “ลิเกป่า” ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า ลิเกป่า
แห่งบ้านหนองไทรมีความโดดเด่นในด้านการสร้าง “เครือข่าย”
ซ่งเป็นหลักประกันความอยู่รอดของวัฒนธรรมแล้ว ก็ควรคานึงถึง
ึ
�
ั
ความย่งยืนของวัฒนธรรมควบคู่กันไปด้วย กล่าวคือ ควรให้ชุมชน
สถาบันการศึกษา หน่วยงานท้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมสืบทอด
ั
สนับสนุนในด้านการฝึกหัดให้กับลูกๆ หลานๆ ชาวหนองไทร และนาเข้าส แต่ไม่ว่ำจะต้องใช้เวลำยำวนำนสักแค่ไหน อำจำรย์สุวิมล เวช
�
ู่
ี
สถาบันการศึกษาในรูปแบบวิชาเรียน ชมรม และเผยแพร่ให้สถาบัน วิโรจน์ หรือครูออยท่ทีมวิศวกรสังคมหรือชำวชุมชนหนองไทรเรียก
ู
ุ
่
ู
่
ทเกยวข้องในท้องถนทราบ เพอจะได้ยนมอเข้ามาช่วยสนบสนน กันจนคุ้นหู ครผ้มีใจรักในวัฒนธรรมประจ�ำถิน กยังคงม่งมัน และทุ่มเท
็
ุ
ี
่
ิ
ี
่
่
่
ื
ั
่
ื
ื
ในเรื่องการเปิดพื้นที่ให้กับวัฒนธรรมใด้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อสำนต่อ.....มรดกทำงวัฒนธรรมให้อยู่คู่เยำวชนเมืองคนดีสืบไป
22
ขอบคุณ...จากใจวิศวกรสังคม
ขอขอบพระคุณ... ผู้อ�านวยการโรงเรียนบ้านยางงาม
ทีมวิศวกรประจ�าต�าบลหนองไทร ต้องขอขอบพระคุณผู้อ�านวยการโรงเรียนบ้านยางงาม ผอ.วิชัย บุญช้าง เป็นอย่างสูง
่
้
้
์
่
้
็
้
ที่ใหสถานในการจัดศูนยการเรียนรูวัฒนธรรมลิเกปา เพื่อเปนการสืบทอดวัฒนธรรมทองถิ่นไมใหสูญหาย และยังมีการบูรณา
การเข้าสู่การเรียนการสอนในชั้นเรียนให้กับเยาวชนเพื่อเปิดโอกาสได้เรียนรู้และสัมผัสกับภูมิปัญญาของชุมชนต่อไป
ขอขอบพระคุณ... ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3
ทีมวิศวกรสังคมต�าบลหนองไทร ต้องขอขอบพระคุณ นายจารึก คุ้มจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต�าบลหนองไทร ที่เปิด
โอกาสให้ทางทีมวิศวกรสังคมเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับชุมชนและอ�านวยความสะดวกให้ด้านสถานที่การจัดกิจกรรม รวมถึง
ความร่วมมือต่างๆ ในทุกๆ ด้าน
ขอขอบพระคุณ... ชาวบ้านในชุมชนต�าบลหนองไทร
ี
พวกเราทีมงานวิศวกรสังคม ตาบลหนองไทรต้องขอขอบพระคุณชาวบ้านในชุมชนต�าบลหนองไทรท่ให้การต้อนรับ
�
ั
ึ
ี
ี
ื
เป็นอย่างด รวมท้งให้ความร่วมมือกับทุกกิจกรรมท่ทีมงานวิศวกรสังคมได้จัดข้น นับว่าเป็นพลังท่สาคัญในการขับเคล่อนงาน
�
ี
ในครั้งนี้
ขอขอบพระคุณ.... ก�านัน
การจัดกิจกรรมในต�าบลหนองไทร ทางทีมงานวิศวกรสังคมประจ�าต�าบลหนองไทร ต้องขอขอบพระคุณ นายนิยม โกศล
ก�านันต�าบลหนองไทรเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านได้ให้ความกรุณา สนับสนุนการท�างานของคณะท�างานในทุกๆ ด้าน ทั้งให้ความร่วม
มือในการด�าเนินกิจกรรม การให้ข้อมูล รวมทั้งประสานงานในทุกๆ ด้าน ที่เป็นประโยชน์ต่อการท�างาน และการจัดกิจกรรม
ต่างๆ ให้การด�าเนินงานส�าเร็จลุล่วงและเกิดประโยชน์กับชุมชนอย่างแท้จริง
ขอขอบพระคุณ... นายกองค์การบริหารส่วนต�าบลหนองไทร
จากการเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชน ต�าบลหนองไทร ทีมวิศวกรสังคม ได้รับความกรุณาและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
�
ิ
จากนายศักด์ชาย ไชยชาน นายกอบต.ตาบลหนองไทร ท้งด้านการให้ข้อมูลต่างๆ ในชุมชน และข้อมูลด้านประวัติศาสตร์
ั
�
ิ
ชุมชนท�าให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เป็นประโยชน์ต่อทีมวิศวกรสังคม ให้การท�างานส�าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
23
ขอขอบพระคุณ... นายมนัส พรมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1
ที่คอยช่วยเหลือวิศวกรสังคมและให้ความร่วมมืออย่างดีเสมอมา ขอบคุณส�าหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่มีให้
ทีมวิศวกรสังคม ตลอดจนด้านความรู้ข้อมูลในชุมชนจนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในตาบล สุดท้ายน้ในฐานะตัวแทน
ี
�
วิศวกรสังคม ต�าบลหนองไทร ขอขอบคุณจากใจจริง
ขอขอบพระคุณ... นาย สุริยะ ปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4
ั
ี
ท่ให้การสนับสนุนทีมวิศวกรสังคมตาบลหนองไทรของเรา ได้เข้าไปติดต่อประสานงานท้งในด้านครัวเรือนยากจน และขอ
�
ั
ี
ื
ื
�
ข้อมูลต่างๆในการจัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ อีกท้งยังคอยให้คาปรึกษาหารือในทุกๆเร่องเก่ยวกับชุมชนเพ่อประโยชน์
ต่อๆ ไปให้การจัดกิจกรรมในครั้งหน้า
ขอขอบพระคุณ... อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�าหมู่บ้าน (อสม)
จากการจัดกิจกรรมในหลายๆ ครั้งภายในต�าบลหนองไทร จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยส�าหรับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�า
หมู่บ้าน (อสม) ท่ช่วยสละเวลามาช่วยคัดกรองและดูแลความเรียบร้อยในการจัดโครงการของทีมวิศวกรสังคม ขอขอบพระคุณ
ี
จากใจจริง
24
25