รายงานผลการดาเนินงาน
โครงการศูนย์การเรียนรูต้ ้นแบบ
(Co - Learning Space)
ห้องสมุดประชาชนจงั หวดั พิจิตร
กลุ่มงานการศึกษาตามอัธยาศยั
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศยั อาเภอเมืองพิจิตร
สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบ
และการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั พิจิตร
คานา
หอ้ งสมุดประชาชนจังหวดั พิจติ รจัดทารายงานสรปุ ผลการดาเนินงานอัธยาศัย เพือ่ รายงานผล
การดาเนินงานการจดั โครงการศนู ย์การเรียนรตู้ ้นแบบ (Co - Learning Space) หอ้ งสมุดประชาชน
จงั หวัดพิจิตร ที่ดาเนินการแล้วในงบประมาณรอบทีห่ นึง่
ซึง่ ผลการดาเนินงานที่สรุปมานีย้ งั เปน็ เครื่องมอื สาคญั ในการเป็นฐานความรู้ แหล่งความรู้ และ
แหลง่ การฝึกฝนทกั ษะต่างๆเพือ่ เป็นคู่มอื ในการขบั เคลือ่ นและเป็นแนวทางในการจดั กิจกรรมส่งเสริม
การอา่ นในรูปแบบทีห่ ลากหลาย ตามกลยทุ ธ์ในการส่งเสริมการอ่านของสานกั งานส่งเสริมการศกึ ษา
นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั พิจติ ร
เพือ่ ให้ประชาชนหรอื กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงการบริการของห้องสมุดประชาชนได้สะดวกมาก
ยิง่ ข้ึน ในการส่งเสริมการอ่านที่มกี ิจกรรมทีม่ ีความหลากหลาย มคี วามเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่
ละกลุ่ม เพือ่ พฒั นาความสามารถในการอ่านและเพิม่ อัตราการอ่านมากขึ้น
กลุ่มงานการศึกษาตามอธั ยาศัย
บทนา
โครงการศูนยก์ ารเรียนรู้ต้นแบบ (Co - Learning Space) ห้องสมุดประชาชนจงั หวัดพิจติ ร
สอดคลอ้ งกับนโยบาย กศน. ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ดังนี้
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๓ ยุทธศาสตร์ดา๎ นการพฒั นาและเสรมิ สร๎างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์
ข๎อ 3.2 พัฒนาแหลํงเรียนรู๎ให๎มีบรรยากาศและสภาพแวดล๎อมที่เอ้ือตํอการเรียนรู๎ มีความ
พร๎อมในการให๎บริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู๎ เป็นแหลํงสารสนเทศสาธารณะงํายตํอการเข๎าถึง มี
บรรยากาศท่ีเอือ้ ตํอการเรียนร๎ู เป็นพ้ืนทีก่ ารเรยี นรูส๎ าหรับคนทกุ ชํวงวยั มีส่ิงอานวยความสะดวก มีบรรยากาศ
สวยงามมชี ีวิต ท่ีดึงดูดความสนใจ และมคี วามปลอดภัยสาหรบั ผ๎ูใชบ๎ รกิ าร
ขอ๎ 2 จัดให๎มศี ูนย์การเรียนร๎ตู ๎นแบบ กศน. เพ่ือยกระดับการเรียนร๎ู ใน 6 ภูมิภาค เป็นพ้ืนท่ี
การเรียนรู๎ (Co - Learning Space) ท่ีทันสมัยสาหรับทุกคน มีความพร๎อมในการให๎บริการตํางๆ อาทิ พ้ืนที่
สาหรับการทางาน/การเรียนร๎ู พ้ืนท่ีสาหรับกิจกรรมตํางๆ มีห๎องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทางานรํวมกับ
ห๎องสมุดประชาชนในการให๎บริการในรูปแบบห๎องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต สื่อมัลดิมีเดีย เพื่อรองรับ
การเรียนรูแ๎ บบ Digital Library
หลกั การและเหตผุ ล
ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอยํางรวดเร็วด๎วยอานาจของเทคโนโลยีทาให๎การเรียนร๎ู อยํูกับที่ภายในห๎องเรียนหรือ
ห๎องสมุดไมสํ ามารถตอบโจทย์ การทํองโลกแหํงการเรียนร๎ูของเยาวชนคนรํุนใหมํและประชาชนท่ัวไป จึงทาให๎
วิถีการเรียนรู๎ยุคปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไป เพราะการเรียนรู๎ในยุคน้ีเน๎นให๎ผ๎ูเรียนเป็นศูนย์กลางแหํงการเรียนร๎ู
ผู๎เรยี นเปน็ ผเ๎ู รมิ่ ตง้ั คาถาม และออกค๎นควา๎ หาคาตอบดว๎ ยตนเองจากส่ิงตํางๆ รอบตัว ด๎วยวิธีการท่ีหลากหลาย
เชํน วธิ กี ารแลกเปล่ียนเรียนรู๎ วิธีการระดมสมอง วิธีการสืบค๎นจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์วิธีการลงมือปฏิบัติลอง
ผิดลองถกู เปน็ ต๎น ดงั กลําวนีค้ ือ กญุ แจสาคัญของการเรยี นรส๎ู าหรบั ยุคปัจจุบนั
การสร๎างพื้นท่ีแหํงการเรียนรู๎ท่ีทันสมัยและสร๎างสรรค์ จึงเป็นส่ิงจาเป็นที่ผู๎เก่ียวข๎องทุกฝ่ายต๎อง
คานึงถึงและเป็นภารกิจเรํงดํวนที่จะต๎องดาเนินการ (Co - Learning Space) เป็นแนวคิดในการสร๎างพ้ืนที่
แหํงการเรยี นรู๎ สาหรบั คนทวั่ ไป ท่ีสอดคล๎องกบั สภาพปญั หา ความตอ๎ งการ และเป็นพื้นท่ีแหํงการเรียนรู๎ให๎คน
ทั่วไปได๎เรียนร๎ูรํวมกัน เพื่อตํอยอดความต๎องการเรียนรู๎ ด๎วยพื้นท่ีแหํงการเรียนร๎ูท่ีทันสมัย พร๎อมสิ่งอานวย
ความสะดวกรวมถึงเวลาเปิด - ปิด บริการท่ีโดนใจผ๎ูรับบริการ สํงผลให๎การเรียนร๎ู เป็นเรื่องสนุก มีความสุข
และท๎าทาย ประกอบกับ (Co - Learning Space) เป็นแนวคิดในการสร๎างพื้นที่แหํงการเรียนร๎ูที่ทันสมัย ท่ี
เปน็ ที่นิยมกันทง้ั ในประเทศและตํางประเทศ นอกจากนี้จังหวดั พิจติ รได๎กาหนดวาระในการพัฒนาจังหวัดพิจิตร
ให๎เป็นเมืองแหํงการเรียนรู๎และสร๎างสรรค์รวมถึงสานักงาน กศน. มีนโยบายให๎จัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู๎ต๎นแบบ
(Co - Learning Space) ท่ัวทุกภมู ิภาค เปน็ พื้นทีก่ ารเรยี นรู๎ (Co - Learning Space) ที่ทันสมัยสาหรับทุกคน
มคี วามพร๎อมในการให๎บริการตํางๆ อาทิ พ้ืนท่ีสาหรับการทางาน/การเรียนร๎ู พื้นที่สาหรับกิจกรรมตํางๆ มีห๎อง
ประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทางานรํวมกับห๎องสมุดประชาชนในการให๎บริการในรูปแบบห๎องสมุดดิจิทัล บริการ
อนิ เทอร์เน็ต ส่อื มัลติมเี ดีย เพื่อรองรบั การเรยี นรู๎แบบ Digital Library
ด๎วยคุณคํา ความสาคัญ และความจาเป็น ดังกลําวน้ี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัยอาเภอเมืองพิจิตร จึงได๎จัดทา โครงการ “(Co - Learning Space)” พื้นที่แหํงการเรียนรู๎และ
สร๎างสรรค์จงั หวดั พจิ ติ รขึ้นโดยใชอ๎ าคารหอ๎ งสมดุ ประชาชนจงั หวัดพิจติ ร เป็นสถานท่ีในการดาเนินงาน
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือสร๎างพื้นท่ีแหํงการเรยี นรู๎ และสร๎างสรรคส์ าหรับประชาชนทวั่ ไปทกุ กลุํมเป้าหมาย
2. เพื่อเปิดโลกการเรยี นร๎ูท่ีทันสมยั ทันโลก ทนั เหตุการณ์ อนั เปน็ การพฒั นาศักยภาพประชาชน
3. เพ่ือเปน็ ศูนยร์ วมในการทากิจกรรมการเรยี นรู๎และสร๎างสรรค์รวํ มกันสาหรบั ประชาชนทกุ กลุมํ เปา้ หมาย
4. เพื่อเปน็ การสร๎างเมืองแหงํ การเรยี นร๎ู และสร๎างสรรคต์ ามวาระของการพัฒนาจงั หวัดพจิ ติ ร
5. เพื่อตอบสนองนโยบายของสานกั งาน กศน. ในการจัดต้ังศนู ยก์ ารเรียนร๎ตู ๎นแบบท่วั ทุกภูมิภาค
เปา้ หมาย
๑. เป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ
1.1. ประชาชนทว่ั ไปเขา๎ ใช๎บริการศูนย์ (Co - Learning Space) จานวน 900 คนตอํ ปี
1.๒. จัดกิจกรรมสงํ เสริมการเรียนรู๎ เดือนละ 1-2 ครัง้ ระหวาํ งเดอื นมิถุนายน 256๔–เดือนสิงหาคม 256๔
รวม 4 ครงั้ ผเู๎ ข๎ารํวมกจิ กรรม 20 คนตํอครั้ง รวมเป็น 80 คนตํอกจิ กรรมท่ีจัดทัง้ หมด
๒.เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ
2.1. กลํมุ ประชาชนทวั่ ไปทเ่ี ข๎าใช๎บรกิ าร ศนู ย์ (Co - Learning Space) มีความสขุ สนุกกับการเรยี นรู๎ รวมถงึ
เกิดแนวคดิ ในการเรยี นรู๎ ด๎วยวิธีการทห่ี ลากหลาย ดว๎ ยบรรยากาศการเรียนร๎ูทที่ นั สมยั มีความพร๎อมดว๎ ยสื่อ
วัสดุ อุปกรณ์
2.2. กลํุมประชาชนทวั่ ไปทเี่ ข๎าใช๎ศูนย์ (Co - Learning Space) เกดิ แนวคดิ ในการเรยี นร๎ู ด๎วยวิธกี ารและ
รูปแบบใหมํ เกิดแรงบนั ดาลใจใหอ๎ ยากเรยี นร๎ู เพลิดเพลนิ กับการเรยี นรู๎ และนาความร๎ไู ปปรับใช๎ในการดาเนนิ
ชวี ิต
วิธดี าเนนิ การ
กจิ กรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กล่มุ เปา้ เปา้ หมาย พนื้ ที่ ระยะเวลา งบประมาณ
(คน/ป)ี ดาเนนิ การ (บาท)
ปรับปรุง เพือ่ ปรบั ปรุงพฒั นา หมาย 900 คน พ.ค.64 –
สถานทแี่ ละมุม สถานที่ใหเ๎ ป็นศนู ย์ หอ๎ งสมดุ ส.ค.64
การเรียนร๎ูต๎นแบบ ประชาชน ประชาชน
ตา่ งๆ Co-Learning Space ทว่ั ไป จงั หวัดพิจิตร
ท่ีทันสมัยและ
สอดคล๎องกับความ
ตอ๎ งการของ
กลํมุ เป้าหมายโดย
พัฒนาปรบั ปรงุ ดังนี้
ป้ายช่อื โครงการ -เพอื่ เป็นส่ือในการบงํ 7,400
Co-Learning บอกให๎ทราบวํา
Space สถานทีแ่ หงํ น้ีเปน็ 450
พื้นทแี่ หํงการ Co-Learning Space 450
เรยี นรแ๎ู ละ พน้ื ท่แี หงํ การเรยี นร๎ู 710
สร๎างสรรค์ และสร๎างสรรค์
มุมอาณาจักรนัก -เพอ่ื ให๎มพี ้ืนทดี่ งึ ดดู
อาํ น ใจในการรบั บรกิ าร
จากการอาํ น
มุมอาณาจกั รนัก
คดิ -เพอ่ื อานวยความ
สะดวกใหก๎ บั
ผู๎ใชบ๎ รกิ ารทางาน
หรือทากิจกรรมแบบ
มมุ Kid's Play กลุมํ
and Learn
-เพื่ออานวยความ
สะดวกใหก๎ ับ
ผใู๎ ชบ๎ ริการทเ่ี ข๎ารบั
บริการท่คี รบครัน
หรือมีพ้ืนท่ีเรียนร๎ู
เฉพาะสาหรบั เด็ก
มุมสบาย -เพอ่ื การพักผํอน 450
สไตลค์ ุณ นง่ั เลํนพบปะพดู คยุ
อํานหนังสือ หรือเพ่ือ 3,960
การจัดกจิ กรรมหรือ 1,250
การทาตามความ 490
ต๎องการ มีบรกิ าร 19,170
Wifi ฟรี
-เพอื่ อานวยความ
สะดวกให๎กบั
Learn on LIVE ผู๎ใชบ๎ รกิ ารในการ
รบั ประทานอาหาร
วํางหรือเครอ่ื งดมื่
และการทากิจกรรม
ตาํ งๆ
Healthy Club -เพ่อื สงํ เสรมิ การอําน
Corner สร๎าง-การเรียนร๎กู าร
จัดกิจกรรมใน
บรกิ ารยมื -คืน รูปแบบทีห่ ลากหลาย
โดยใช๎เทคโนโลยเี ป็น
ส่อื กลางในการ
ใหบ๎ ริการในรูปแบบ
ออนไลน์
-เพ่อื อานวยความ
สะดวกให๎กับ
ปรบั ห๎อง ผ๎ูใชบ๎ ริการหนั มาออก
ประกอบ กาลงั กาย โดยไมํต๎อง
กิจกรรมให๎ เสียคาํ ฟิตเนส
พรอ๎ มใชง๎ านโดย
การกาจดั ปลวก
และซํอมแซม -เพ่ืออานวยความ
ผนังห๎องพร๎อม สะดวกให๎กับ
ทาสีใหมํ และ ผใู๎ ชบ๎ รกิ ารในการยืม-
ยา๎ ยและติดต้ัง คนื
โครงหลงั คา
พรอ๎ มติดลอ๎ -เพื่อให๎มคี วามพรอ๎ ม
นัง่ รา๎ นมเี บรค ตํอการให๎บริการและ
ปรับภูมทิ ัศน์ให๎ดู
สวยงาม และเพ่ือ
ประกอบกิจกรรม
ภายนอกอาคาร (Out
door) เพอื่ ลดความ
แออัดของผเ๎ู ข๎ามาใช๎
บรกิ ารเน่อื งจาก
สถานการณ์การแพรํ
ระบาดของเช้ือไวรัส
โควิด-19
การจัดกิจกรรม เพอื่ เติมเต็ม โครงการ ประชาชน 120 คน หอ๎ งสมุด พ.ค.64 –
ส่งเสรมิ การ ศนู ยก์ ารเรยี นรู๎ ทัว่ ไป ประชาชน ส.ค.64
อา่ นสร้างการ ตน๎ แบบ จงั หวดั พิจติ ร
เรยี นรู้ Co Learning Space
เดือนละ 1 คร้ัง พ้ืนทแ่ี หงํ การเรียนร๎ู
พ.ค.6๔–ส.ค.
64 และสรา๎ งสรรค์
ใหเ๎ ปน็ พื้นที่แหํงการ
รวม 4 ครง้ั เรยี นร๎ทู ่มี ีชวี ติ ชวี า
ทนั สมยั สอดคล๎องกับ
ผลิตผลิตภัณฑ์ ความต๎องการของ
เพ่อื เปน็ กลํุมเปา้ หมายเปน็
ชํองทางสรา๎ งรายได๎
ช่องทางสร้าง เสรมิ และใช๎เวลาวาํ ง
รายไดเ้ สรมิ ใหเ๎ ป็นประโยชนไ์ ด๎
ควบคกู่ บั การ
อา่ นเพอ่ื การ อกี ดว๎ ย
เรียนร้ไู ด้
ดงั ต่อไปนี้ \
- เจลลา๎ งมือ 1,560
ตา๎ น 3,265
ไวรสั โควดิ -19 3,190
5,655
- สายคลอ๎ ง
Mask
คุณทาได๎
- Key Cover
-เย็บหมอนนอน
อํนุ
ประเมนิ ผล เพื่อทราบ ทีมงาน ห๎องสมุด กนั ยายน --
รายงานผล ความสาเรจ็ ของ โครงการ ประชาชน ๒๕๖๔
จงั หวัดพิจติ ร
โครงการ Co -
Learning
Space
วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ
เบกิ จาํ ยเงินงบประมาณ ปี 2564 แผนงาน : ยุทธศาสตร์เพอื่ สนบั สนุนด๎านการพฒั นาและแสรมิ สรา๎ ง
ศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ กจิ กรรมสงํ เสรมิ และพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู๎ งบรายจํายอื่น รหสั
2000235052700027 เพอื่ จาํ ยเป็นคาํ ใช๎จาํ ยในการดาเนินโครงการดงั นี้
๑. คําใช๎จาํ ยในการปรับปรงุ สถานทแ่ี ละมุมตํางๆเปน็ เงนิ 34,330 บาท
2. คําใชจ๎ าํ ยในการจดั กจิ กรรมสํงเสรมิ การอาํ นและการเรยี นรเู๎ ป็นเงนิ 13,670บาท
รวมเปน็ เงนิ 48,000 บาท (สหี่ มื่นแปดพันบาทถว๎ น)
หมายเหตุ ทั้งน้ีถัวจํายทุกรายการตามความเป็นจรงิ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณในการจัด
กจิ กรรมหลกั ไตรมาส ๑ ไตรมาส ๒ ไตรมาส ๓ ไตรมาส ๔ รวม
ต.ค.-ธ.ค.6๔ ม.ค-ม.ี ค.6๔ เม.ย.-ม.ิ ย.6๔ ก.ค.-ก.ย.6๔
โครงการศนู ยก์ ารเรียนรู้ต้นแบบ 48,000
(Co - Learning Space) - - 48,000 -
48,000
หอ้ งสมุดประชาชนจงั หวัดพิจิตร
รวม
ผูร้ ับผดิ ชอบโครงการ
๑. นางสาวปภาวรินท์ ตํายหัวดง บรรณารกั ษ์ห๎องสมุดประชาชนจังหวดั พิจิตร
2. นางสาวอภริ ตั น์ นวลจนั ทร์ บรรณารกั ษห์ ๎องสมุดประชาชนจังหวดั พิจิตร
๓. นางสาวรัชนกี ร ยอดฉตั ร บรรณารักษ์หอ๎ งสมุดประชาชนอาเภอเมืองพิจติ ร
ระยะเวลา
ระหวาํ งเดือนมิถุนายน 256๔ – เดือนสิงหาคม 256๔
สถานทีด่ าเนนิ การ
หอ๎ งสมุดประชาชนจังหวัดพจิ ิตร
การติดตามและประเมนิ ผลโครงการ
- สงั เกต
- สมั ภาษณ์
- ชิน้ งาน
- แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
- รายงานผลการดาเนนิ งาน
สรปุ ผลการดาเนินงาน
จากแบบประเมนิ ความพึงพอใจและแบบวัดความรู้ผูเ้ ข้าใช้บรกิ ารและผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการศูนย์การ
เรยี นรู้ตน้ แบบ (Co - Learning Space) หอ้ งสมดุ ประชาชนจงั หวดั พจิ ิตร
เคร่ืองมอื ในการตดิ ตามประเมินผลและการเก็บรวบรวมข้อมลู
เพ่ือให๎การดาเนินโครงการเป็นไปด๎วยความเรียบร๎อย ค๎ุมคํา มีประสิทธิภาพและบรรลุตาม
วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ดงั นั้น ฝา่ ยตรวจตดิ ตามและประเมินผลแผนงาน/โครงการ จึงได๎ทาการติดตามและ
ประเมินผลโครงการโดยได๎ดาเนินการสารวจความคดิ เห็นของผ๎ูท่ีเข๎ารํวมโครงการ โดยการทาประเมินความพึง
พอใจการเข๎าใช๎บริการ การเข๎ารํวมกิจกรรม ประกอบกับการสัมภาษณ์และ การสังเกตเพ่ิมเติม เพื่อนามา
ประมวลและสรปุ ผล ในสวํ นของคาาถามปลายเปิด เพ่ือเปิดโอกาสให๎ผ๎ูตอบ แบบสอบถามสามารถแสดงความ
คิดเห็นตํางๆ เพ่ือนาาผลที่ได๎มาปรับปรุงและใช๎เป็นข๎อมูลในการดาาเนินโครงการ ในครั้งตํอไป โดย
แบบสอบถามมีท้ังหมด 3 ตอน ดังน้ี ตอนที่ 1 ข๎อมูลทั่วไปของผ๎ูตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 ประเมินความ
คดิ เห็นเกย่ี วกับการดาเนินโครงการ และ ตอนที่ 3 ขอ๎ เสนอแนะและข๎อคดิ เหน็ ตํอการดาเนินโครงการ
เกณฑ์ที่ใชใ๎ นการวเิ คราะห์ขอ๎ มลู มรี ะดบั คะแนน ดงั น้ี
มีความพึงพอใจ มากทสี่ ุด ระดับคะแนน เทาํ กบั 5
มคี วามพงึ พอใจ มาก ระดับคะแนน เทาํ กบั 4
มคี วามพงึ พอใจ ปานกลาง ระดบั คะแนน เทํากบั 3
มีความพงึ พอใจ น๎อย ระดบั คะแนน เทาํ กับ 2
มคี วามพงึ พอใจ น๎อยทสี่ ุด ระดับคะแนน เทํากบั 1
นามาวเิ คราะหห์ าคาํ รอ๎ ยละ และคาํ เฉล่ยี โดยคะแนนเฉลี่ยนามาแปลความหมายตามเกณฑ์ ดงั น้ี
คะแนนเฉลยี่ ระหวาํ ง 4.51 – 5.00 หมายถงึ มีความพงึ พอใจมากทสี่ ดุ
คะแนนเฉลย่ี ระหวาํ ง 3.51 – 4.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจมาก
คะแนนเฉลย่ี ระหวําง 2.51 – 3.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจปานกลาง
คะแนนเฉลย่ี ระหวาํ ง 1.51 – 2.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจนอ๎ ย
คะแนนเฉลี่ยระหวาํ ง 1.00 – 1.50 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจนอ๎ ยท่ีสุด
5.1 การเข้าใช้บริการ
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะหข์ ๎อมูลทัว่ ไปของแบบสอบถาม
ตาราง 1 แสดงร๎อยละของผต๎ู อบแบบสอบถาม จาแนก ตามเพศ อายุ การศกึ ษา
ข้อมูลทั่วไป จานวน รอ้ ยละ
เพศ 54 36.5 %
ชาย 94 63.5 %
หญิง
4 2.7 %
อายุ 41 27.7 %
อายุต่ากวาํ 15 ปี 38 25.7 %
16-30 ปี 34 23 %
31-40 ปี 20 13.5 %
41-50 ปี 11 7.4 %
51-60 ปี
60 ปขี นึ้ ไป 4.1 %
4.1 %
การศึกษา 6 6.8 %
ประถมศกึ ษา 6 27.7 %
มธั ยมศกึ ษาตอนตน๎ 10 57.4 %
มธั ยมศึกษาตอนปลาย 41 0%
ปวช/ปวส 85
ปริญญาตรี 0
สูงกวาํ ปริญญาตรี
ข๎อมูลทัว่ ไปของกลํุมตัวอยํางประชาชนท่ตี อบแบบสอบถาม จานวน 148 ชุด
จาแนกตาม เพศ
จากผลการประเมนิ กลมุํ ตวั อยํางประชาชน จานวน 148 คน ทต่ี อบแบบสอบถามพบวาํ รอ๎ ยละ
63.5 %เป็นเพศหญิง และร๎อยละ 36.5 % เป็นเพศชาย
จาแนกตาม อายุ
จากผลการสารวจกลํมุ ตัวอยํางประชาชน จานวน 148 คน ท่ีตอบแบบสอบถามพบวํา สํวนใหญํร๎อย
ละ 27.7 % มีอายุ 16-30 ปี รองลงมามอี ายุ 31-40 ปี คดิ เป็นร๎อยละ 25.7 % รองลงมามอี ายุ 41-50
ปี คิดเป็นร๎อยละ 23 % รองลงมามีอายุ 51-60 ปี คิดเป็นร๎อยละ 13.5 % รองลงมามีอายุ 60 ปีข้ึนไป
คิดเปน็ รอ๎ ยละ 7.4 % และอายุตา่ กวาํ 15 ปี คิดเป็นร๎อยละ 2.7 %
จาาแนกตามการศกึ ษา
จากผลการสารวจกลุมํ ตวั อยาํ งประชาชน จานวน 148 คน ท่ีตอบแบบสอบถามพบวํา สํวนใหญํร๎อย
ละ 57.4 % มีการศึกษาระดับปริญญาตรี รองลงมามีการศึกษาระดับปวช/ปวส คิดเป็นร๎อยละ 27.7 %
รองลงมามีการศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย คิดเป็นร๎อยละ 6.8 % และการศึกษาระดับมัธยมตอนต๎น/
ประถมศึกษา คดิ เปน็ รอ๎ ยละ 4.1 %
ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความพึงพอใจการเขา๎ ใช๎บริการ
ประเดน็ ความคิดเหน็ ความพงึ พอใจ/ความรู๎ความเขา๎ ใจ/การนาไปใช๎ รวม คําเฉลี่ย SD
นอ๎ ย น๎อย ปาน มาก มาก 148 4.53 0.70
1.มุมอาณาจักรนกั คิด โซนทางาน/ ที่สุด กลาง ที่สุด
ประชุม 12345 148 4.64 0.70
2.มุมอาณาจักรนกั อําน โซนสํงเสรมิ การ - - 4 46 98
อาํ น คน๎ คว๎าข๎อมูล ส่อื 148 3.54 0.46
3.Learn on Live โซนกิจกรรม - - 2 43 102 148 4.70 0.54
4.มมุ สบายสไตล์คุณ โซนพักผํอน 148 4.62 0.70
5.มมุ Kids Play and Laern โซนเด็ก - - 2 40 106 148 4.62 0.63
6.ศนู ยด์ ิจทิ ลั ชมุ ชน โซน IT - - 4 36 108 148 4.56 0.58
7.หอ๎ งเฉลมิ พระเกยี รติ - - 3 56 99 148 4.24 0.58
8.Healthy Club Corner โซนออก - - 1 53 94
กาลังกาย - - 2 61 85 148 6.80 0.79
9.ภาพรวมความพึงพอใจในการเข๎าใช๎ - - 69 74 25
บรกิ าร
- - 2 29 117
ตอนท่ี 3 ขอ๎ เสนอแนะ/ข๎อคดิ เห็นตํอการเขา๎ ใช๎บริการ
คาชม ส่งิ ควรปรบั ปรุง
ดี อปุ กรณ์ออกกาลงั กายบางชนิ้ ใช๎ไมํได๎
ดี ควรซอํ มเคร่ืองออกกาลังกายบางเครือ่ ง
ดี ห๎องสมุดดูมืด ทาให๎รู๎สึกอึดอัด โดยเฉพาะช้ัน 2
อากาศไมํคํอยถํายเท
ดี -
ดคี ํะ -
ดคี ํะ -
ดีคํะ -
โดยรวมดคี ํะ -
ดีมากๆครบั -
โซนตํางๆทใ่ี ห๎บริการมีความเหมาะสม -
บรรยากาศดีครับ โลงํ ปลอดโปรํง -
จัดมมุ ตาํ งๆใหมํดีคํะ -
มีมมุ บริการทห่ี ลากหลายดี -
ดูเปน็ สดั สวํ นมากข้นึ กวาํ เดิม -
ดคี รบั บรรยากาศดี สวย -
มีระเบียบมากข้ึนคํะ -
บรรยากาศดีครับ -
จัดมุมใหมํสวยคํะ -
สถานที่นาํ เขา๎ ใช๎ เจา๎ หนา๎ ทีห่ ๎องสมุด บริการดี -
บรรณารกั ษ์ใหบ๎ ริการดีคํะ -
ดา๎ นลาํ งจดั ใหมดํ ีแลว๎ คํะ แตดํ ๎านบนร๎อนไปนิดนึงคํะ -
ให๎บริการดี -
กิจกรรมที่จัดในเฟส ดีมากครับ อยากให๎จัดเรื่อยๆ -
บริการดีคํะ จัดมุมสวย -
มีมุมให๎บริการที่หลากหลาย -
บรรยากาศนําดี สวย -
กิจกรรมนําสนใจมากคะํ -
ห๎องสมดุ มีมมุ ท่ีหลากหลายเหมาะกบั ทกุ วยั ดีคะํ -
สรุปผลการดาเนินงานสรุปภาพรวมจากการเข๎าใช๎บริการ “ศูนย์การเรียนรู๎ต๎นแบบ (Co - Learning Space)
ห๎องสมุดประชาชนจังหวัดพิจิตร” ในคร้ังนี้ พบวํา สามารถดาเนินงานได๎สาเร็จลุลํวงตามวัตถุประสงค์ผู๎เข๎าใช๎
บริการสํวนใหญํ มีทัศนคติในเชิงบวก อยํูในระดับ มากที่สุด และจากการติดตามและประเมินผลครั้งน้ี จาก
กลมุํ ตวั อยาํ งทีเ่ ขา๎ ใช๎บริการจานวน 148 คน พบวาํ ผ๎ตู อบแบบประเมินสํวนใหญํมีความพึงพอใจตํอการเข๎าใช๎
บริการในภาพรวมทกุ ด๎านอยํใู นระดบั มากทีส่ ดุ สรปุ รายการแยกดงั นี้
1. มุมอาณาจักรนักคิด โซนทางาน/ประชมุ ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํในระดับมากที่สดุ
มีคาํ เฉล่ียสงู ถึง 4.53 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบย่ี งเบนมาตรฐานอยทูํ ่ี 0.70
2. มุมอาณาจักรนกั อาํ น โซนสํงเสริมการอาํ น ค๎นคว๎าข๎อมูล ส่อื ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยใํู น
ระดบั มากทส่ี ดุ มีคาํ เฉลีย่ สูงถึง 4.64 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.70
3. Learn on Live โซนกจิ กรรม ผู๎ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยํูในระดับมากทส่ี ุดมีคําเฉลีย่
สงู ถึง 3.54 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี าํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทํู ่ี 0.46
4. มุมสบายสไตล์คณุ โซนพักผํอน ผ๎ูตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยํูในระดบั มากมีคําเฉลี่ยสงู ถึง
4.70 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.54
5. มุมKids Play and Laern โซนเดก็ ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใูํ นระดับมากมคี าํ เฉลี่ย
สูงถงึ 4.62 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทํู ี่ 0.70
6. ศนู ย์ดิจทิ ลั ชมุ ชน โซน ITผตู๎ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยใํู นระดบั มากมีคาํ เฉล่ียสงู ถึง 4.62
จากระดับคะแนน 5 โดยมคี าํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทํู ่ี 0.63
7. หอ๎ งเฉลมิ พระเกยี รติ ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํใู นระดับมากมีคาํ เฉลี่ยสูงถงึ 4.56
จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบย่ี งเบนมาตรฐานอยํทู ี่ 0.58
8. Healthy Club Corner โซนออกกาลังกาย ผ๎ตู อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยํใู นระดบั มาก
ทีส่ ดุ มคี าํ เฉล่ียสูงถึง 4.24 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.58
9. ภาพรวมความพงึ พอใจในการเขา๎ ใชบ๎ ริการ ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใูํ นระดบั มาก
ท่สี ุดมคี ําเฉลีย่ สงู ถงึ 6.80 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบีย่ งเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.79
5.2 การจัดกจิ กรรมสํงเสรมิ การอํานสรา๎ งการเรยี นรผู๎ ลติ ผลิตภณั ฑ์เพื่อเปน็ ชํองทางสร๎างรายได๎เสริมควบคูํกบั
การอํานเพื่อการเรยี นรู๎ไดด๎ งั ตํอไปน้ี
กิจกรรมสายคล้อง Mask คณุ ทาได้
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข๎อมลู ทั่วไปของแบบสอบถาม
ตาราง 1 แสดงร๎อยละของผูต๎ อบแบบสอบถาม จาแนก ตามเพศ อายุ การศกึ ษา
ขอ้ มูลทั่วไป จานวน ร้อยละ
เพศ 10 20.4 %
ชาย 39 79.6 %
หญิง
24 49 %
อายุ 17 35.7 %
20-35 ปี 8 16.3 %
35-50 ปี
50 ปี ขึน้ ไป
ข๎อมลู ทวั่ ไปของประชาชนที่ตอบแบบสอบถาม จานวน 49 ชดุ
จาแนกตาม เพศ
จากผลการประเมนิ กลํุมผเ๎ู ข๎ารํวมกจิ กรรมประชาชน จานวน 49 คน ท่ีตอบแบบสอบถามพบวํา รอ๎ ย
ละ 79.6 % เป็นเพศหญิง และร๎อยละ 20.4 % เปน็ เพศชาย
จาแนกตาม อายุ
จากผลการประเมินกลุํมผเ๎ู ข๎ารวํ มกจิ กรรมประชาชน จานวน 49 คน ที่ตอบแบบสอบถามพบวํา สํวน
ใหญํร๎อยละ 49 % มอี ายุ 20-35 ปี รองลงมามอี ายุ 35-50 ปี คิดเป็นร๎อยละ 35.7 % และอายุ 50 ปี ขึ้น
ไป คดิ เปน็ ร๎อยละ 16.3 %
ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความพงึ พอใจการเข๎ารํวมกิจกรรม
ประเดน็ ความคิดเหน็ ความพงึ พอใจ/ความรู๎ความเข๎าใจ/การนาไปใช๎ รวม คาํ เฉล่ีย SD
นอ๎ ย นอ๎ ย ปาน มาก มาก 49 4.50 0.70
1. การจดั กิจกรรมในครั้งนม้ี ีประโยชน์ ที่สุด กลาง ท่สี ดุ 49 4.38 0.70
ตํอทาํ น 12345 49 4.69 0.46
2. ทาํ นได๎มสี ํวนรวํ มในการทากิจกรรม - - 1 24 24
3. ทํานไดร๎ ับความรู/๎ ประโยชนจ์ ากการ 49 4.44 0.54
เขา๎ รวํ มกจิ กรรมเพื่อไปปรบั ใช๎ได๎ - - 2 24 23 49 4.26 0.70
4. รูปแบบ/หวั ขอ๎ ในการจดั กิจกรรมมี - - - 15 34
ความเหมาะสม 49 4.38 0.63
5. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมีความ - - 1 25 23 49 4.46 0.58
เหมาะสม 49 4.51 0.58
6. การประชาสัมพนั ธ์การจัดกิจกรรมมี - 1 5 24 19
ความเหมาะสม 49 4.43 0.79
7. สถานทีจ่ ดั กิจกรรมมีความเหมาะสม - - 4 22 23
8. สอื่ /อุปกรณ์ เทคนิคทีใ่ ชใ๎ นการ 49 4.67 0.47
ประกอบการจัดกิจกรรมมคี วาม - - 2 22 25 49 4.28 0.70
เหมาะสม - - 2 20 27
9. วิทยากรสามารถใหข๎ ๎อมูลได๎เป็น
อยํางดี - 1 1 20 27
10. วทิ ยากรมคี วามสภุ าพ เป็นมติ ร
และเป็นกันเอง - - - 16 33
11. ภาพรวมความพงึ พอใจในการจดั
กิจกรรมคร้ังนี้ - - 1 24 24
ตอนท่ี 3 ข๎อเสนอแนะ/ข๎อคดิ เหน็ ตํอการเข๎ารํวมกิจกรรม อยากใหจ้ ดั กิจกรรมอีก
คาชม สิ่งควรปรับปรงุ ให๎มกี จิ กรรมแบบนี้อกี
อยากให๎มกี ารสอนออนไลน์
ดคี รับ สอนช๎าอีกนิดคะํ ควรจะมีกิจกรรมดีๆแบบน้อี ีก
เป็นกิจกรรมทดี่ ี ขยายเวลาสอนมากกวํานี้
เปน็ กจิ กรรมทดี่ คี ํะ วทิ ยากรสอนไวคะํ ไมํทนั คํะ
ไดค๎ วามรจู๎ ากกิจกรรมนเ้ี ป็นอยํางมากคํะ ท่เี รยี นไกลไปหนอํ ยคํะ อยากให๎มีกิจกรรมดีๆแบบนต้ี ํอไปคํะ
อยากไห๎มกี ารสอนออนไลนใ์ นเรื่องอ่ืนๆ การทาไวไปหนอํ ยคํะ อยากให๎มีการสอนทาเจลลา๎ งมอื ครับ
อกี
ซูมข้ันตอนใกลๆ๎ จะชัดเจนมากข้ึนคํะ อยากให๎จดั อบรมให๎ประชาชนท่ัวไป
ได๎ความรูเ๎ พมิ่ ข้ึนเพื่อนามาปรับใชใ๎ น
ชวี ติ ประจาวนั ด๎วย
จัดใหม๎ บี อํ ยครง้ั จนท.จะมีความ ขอให๎จัดไลฟ์อ่นื ๆอีกเป็นระยะอยําง
ชานาญ(ไมเํ ขนิ /อาย) ตํอเนือ่ ง
บรรยากาศที่ถํายบางมุมมืดมองไมํคํอย อยากให๎มีสอนออนไลน์ในเร่ืองการทา
เหน็ ภายในที่เราจะนาเสนอ เจลแอลกอฮอลครบั
เสยี งของการไลฟ์สดคํะ ขอให๎ชัดกวาํ
นคี้ ํะ อาจจะตํอไมค์พูด
อธบิ ายชา๎ ๆกวํานีห้ นํอยคํะ แล๎วอาจ
พูดคยุ โตต๎ อบกับผ๎ูดบู า๎ ง อาจแบงํ ทีม
คนนึงมาคอยดูคอมเม๎นตอบคอมเมน๎
แลว๎ บอกวิทยากรให๎วิทยากรพูดหรือ
เรยี กช่ือคนเรียน แล๎วตอบคาถามเคา๎
ใหเ๎ ปน็ การมปั ฏสิ มั พนั ธก์ ันคํะ มที ่ีทา
วนั น้ดี มี ากคํะ
สรุปผลการดาเนินงานสรุปภาพรวมจากการเข๎ารํวมกิจกรรมสายคล๎อง Mask คุณทาได๎ ในคร้ังนี้ พบวํา
สามารถดาเนินงานได๎สาเร็จลุลํวงตามวัตถุประสงค์ผู๎เข๎ารํวมกิจกรรม มีทัศนคติในเชิงบวก อยํูในระดับ มาก
ที่สุด และจากการติดตามและประเมินผลครั้งน้ี จากกลํุมตัวอยํางท่ีเข๎าใช๎บริการจานวน 49 คน พบวํา ผู๎ตอบ
แบบประเมินสํวนใหญํมีความพึงพอใจตํอการเข๎ารํวมกิจกรรมในภาพรวมทุกด๎านอยูํในระดับ มากที่สุด สรุป
รายการแยกดังนี้
1. การจัดกิจกรรมในครง้ั นี้มีประโยชนต์ อํ ทําน ผ๎ูตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํในระดบั มาก
ท่ีสุดมีคาํ เฉลีย่ สงู ถงึ 4.50 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.70
2. ทาํ นได๎มสี วํ นรวํ มในการทากจิ กรรม ผ๎ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจอยํูในระดับมากท่สี ดุ มี
คําเฉล่ยี สงู ถึง 4.42 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยูทํ ี่ 0.70
3. ทาํ นได๎รับความร/๎ู ประโยชน์จากการเข๎ารวํ มกจิ กรรมเพื่อไปปรบั ใช๎ได๎ ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความ
พึงพอใจอยํูในระดบั มากทสี่ ดุ มคี ําเฉลย่ี สูงถึง 4.69 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยูํที่
0.46
4. รูปแบบ/หวั ขอ๎ ในการจดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํใู น
ระดบั มากมีคําเฉล่ยี สูงถึง 4.44 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยํทู ่ี 0.54
5. ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยํูในระดับมาก
มีคําเฉล่ยี สงู ถึง 4.26 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบย่ี งเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.70
6. การประชาสมั พันธก์ ารจดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํูใน
ระดับมากมคี ําเฉล่ยี สูงถงึ 4.38 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยทูํ ี่ 0.63
7. สถานทจี่ ดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยูใํ นระดบั มากมีคําเฉลยี่
สูงถงึ 4.46 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบีย่ งเบนมาตรฐานอยทูํ ี่ 0.58
8. ส่อื /อปุ กรณ์ เทคนคิ ทใี่ ช๎ในการประกอบการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม ผูต๎ อบแบบสอบถามมี
ความพึงพอใจอยํูในระดับมากท่สี ดุ มีคําเฉลย่ี สงู ถึง 4.51 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยูํท่ี
0.58
9. วิทยากรสามารถใหข๎ ๎อมลู ไดเ๎ ปน็ อยาํ งดี ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํใู นระดับมากที่สุดมี
คําเฉลยี่ สูงถงึ 4.43 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทํู ี่ 0.79
10. วิทยากรมีความสภุ าพ เปน็ มิตร และเปน็ กนั เอง ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํในระดับ
มากท่สี ดุ มีคาํ เฉลยี่ สูงถงึ 4.67 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.79
11. ภาพรวมความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมครง้ั น้ี ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใูํ นระดับ
มากถึงมากท่สี ดุ มีคําเฉลีย่ สูงถึง 4.28 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบย่ี งเบนมาตรฐานอยทํู ่ี 0.70
แบบวดั ความร๎กู จิ กรรมสายคลอ๎ ง Mask คุณทาได๎
สรุปผลแบบวัดความรูก๎ ิจกรรมสายคล๎อง Mask คุณทาได๎ ในครง้ั นี้ พบวํา สามารถดาเนินงานได๎สาเร็จ
ลลุ วํ งตามวัตถุประสงค์ ผู๎เข๎ารวํ มกิจกรรมทาแบบทดสอบผาํ นเกณฑ์ที่ตงั้ ไว๎ สามรถสรปุ รายการแยกได๎ดังนี้
1. ยางยดื สาหรับทาสายคล๎องแมสควรวดั ความยาวประมาณ 26 น้ิว สาหรบั บคุ คลทั่วไป
เลอื กถูก จานวน 47 คน คดิ เป็น 95.9 %
เลอื กผิด จานวน 2 คน คดิ เปน็ 4.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ นี้ผท๎ู ี่ทาแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ตง้ั ไว๎
2. ควรเผอื่ ยางยืดสาหรบั ทาสายคลอ๎ งแมสให๎ยาวเทําท่ีเราพอใจ
เลือกถูก จานวน 42 คน คิดเป็น 85.7 %
เลือกผิด จานวน 7 คน คดิ เป็น 14.3 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อนี้ผู๎ทีท่ าแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทตี่ ั้งไว๎
3. การวัดความยาว ควรใชไ๎ ม๎บรรทัด สายวดั หรอื ตลบั เมตร เพือ่ ความแมนํ ยา ถกู ต๎อง
เลือกถูก จานวน 46 คน คดิ เป็น 93.9 %
เลือกผิด จานวน 3 คน คดิ เป็น 6.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ นี้ผู๎ท่ีทาแบบวัดความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ต้งั ไว๎
4. กอํ นจะใสยํ างยดื ในตวั ปรบั ระดบั ควรกดปุ่มสาหรบั เลอ่ื น กอํ นใสํยางยืด
เลือกถูก จานวน 48 คน คดิ เป็น 98 %
เลือกผดิ จานวน 1 คน คดิ เป็น 2 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อน้ีผท๎ู ท่ี าแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ท่ตี ง้ั ไว๎
5. การลนปลายยางยืดเพอื่ ป้องกันการหลุดของดา๎ ยรอบยางยืด
เลอื กถูก จานวน 46 คน คิดเปน็ 93.9 %
เลือกผิด จานวน 3 คน คิดเปน็ 6.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อนี้ผทู๎ ที่ าแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ท่ีตั้งไว๎
6. เทคนคิ การใสตํ วั หนอน ควรดงึ ไว๎ท่ปี ลายยางยืดกอํ น
เลือกถูก จานวน 44 คน คดิ เปน็ 89.8 %
เลือกผดิ จานวน 2 คน คิดเปน็ 10.2 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ น้ีผท๎ู ท่ี าแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ตงั้ ไว๎
7. หากทุกคนที่ทํานจัดทาสายคล๎องแมสสาหรับคนอว๎ น ควรเผือ่ ยางยืดออกมาให๎พอดีไมยํ าวเกนิ ไป
เลอื กถูก จานวน 40 คน คดิ เป็น 81.1 %
เลอื กผิด จานวน 9 คน คดิ เปน็ 18.4 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ นี้ผท๎ู ่ีทาแบบวดั ความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ตั้งไว๎
8. การใช๎เขม็ ยางยดื ดึงแนนํ เกนิ ไป หรอื หลายรอบเกนิ ไปอาจทาให๎ยางยืดขาดได๎
เลอื กถูก จานวน 44 คน คิดเปน็ 89.8 %
เลือกผิด จานวน 5 คน คิดเปน็ 10.2 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อนี้ผูท๎ ี่ทาแบบวดั ความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทตี่ ง้ั ไว๎
9. การหยอดกาวรอ๎ นใช๎เยอะๆ จะไดต๎ ดิ นานๆ
เลอื กถูก จานวน 19 คน คิดเปน็ 38.8 %
เลอื กผิด จานวน 30 คน คดิ เป็น 61.2 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ นี้ผู๎ทท่ี าแบบวดั ความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ท่ตี ั้งไว๎
10. สายคลอ๎ งแมส มปี ระโยชน์สาหรับทํานมากในชํวงน้ี
เลือกถูก จานวน 49 คน คิดเปน็ 100 %
เลอื กผดิ จานวน 0 คน คิดเป็น 0%
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อน้ีผู๎ที่ทาแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทต่ี ั้งไว๎
กิจกรรม Key Cover
ตอนท่ี 1 ผลการวเิ คราะหข์ ๎อมูลท่ัวไปของแบบสอบถาม
ตาราง 1 แสดงร๎อยละของผูต๎ อบแบบสอบถาม จาแนก ตามเพศ อายุ การศึกษา
ข้อมูลทั่วไป จานวน ร้อยละ
เพศ 2 5.4 %
ชาย 35 94.6 %
หญงิ
7 18.9 %
อายุ 14 37.8 %
15-35 ปี 11 29.7 %
20-35 ปี 5 13.5 %
35-50 ปี
50 ปี ขน้ึ ไป
ข๎อมูลท่ัวไปของประชาชนทีต่ อบแบบสอบถาม จานวน 37 ชดุ
จาแนกตาม เพศ
จากผลการประเมนิ กลํมุ ผเ๎ู ข๎ารํวมกจิ กรรมประชาชน จานวน 37 คน ทต่ี อบแบบสอบถามพบวํา รอ๎ ย
ละ 94.6 % เป็นเพศหญิง และร๎อยละ 5.4 % เปน็ เพศชาย
จาแนกตาม อายุ
จากผลการประเมินกลํุมผเ๎ู ข๎ารวํ มกิจกรรมประชาชน จานวน 37 คน ท่ีตอบแบบสอบถามพบวํา สํวน
ใหญํร๎อยละ 37.8 % มีอายุ 20-35 ปี รองลงมามีอายุ 35-50 ปี คิดเป็นร๎อยละ 29.7 % รองลงมามีอายุ
15-35 ปี คิดเป็นร๎อยละ 18.9 % และอายุ 50 ปี ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ๎ ยละ 13.5 %
ตอนที่ 2 ประเมินความพงึ พอใจการเขา๎ รวํ มกิจกรรม
ประเดน็ ความคิดเห็น ความพงึ พอใจ/ความร๎ูความเข๎าใจ/การนาไปใช๎ รวม คาํ เฉลี่ย SD
น๎อย นอ๎ ย ปาน มาก มาก 37 4.62 0.54
1. การจดั กิจกรรมในครั้งนมี้ ีประโยชน์ ทส่ี ดุ กลาง ทสี่ ดุ 37 4.62 0.63
ตอํ ทําน 12345 37 4.62 0.75
2. ทาํ นได๎มีสวํ นรํวมในการทากจิ กรรม - - 1 12 24
3. ทาํ นได๎รับความรู/๎ ประโยชนจ์ ากการ 37 4.64 0.63
เข๎ารวํ มกจิ กรรมเพื่อไปปรบั ใช๎ได๎ - - 3 9 25 37 4.59 0.68
4. รูปแบบ/หัวขอ๎ ในการจดั กิจกรรมมี - - 1 10 26
ความเหมาะสม 37 4.54 0.73
5. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมีความ - - 3 8 26 37 4.64 0.58
เหมาะสม 37 4.56 0.80
6. การประชาสัมพนั ธก์ ารจดั กิจกรรมมี - - 4 7 26
ความเหมาะสม 37 4.75 0.49
7. สถานทจ่ี ัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม - - 5 7 25
8. ส่ือ/อปุ กรณ์ เทคนิคท่ีใช๎ในการ 37 4.67 0.57
ประกอบการจัดกิจกรรมมคี วาม - - 2 9 26 37 4.67 0.57
เหมาะสม - 1 4 6 26
9. วิทยากรสามารถให๎ข๎อมูลไดเ๎ ป็น
อยาํ งดี - - 1 7 29
10. วิทยากรมีความสุภาพ เปน็ มิตร
และเป็นกันเอง - - 2 8 27
11. ภาพรวมความพงึ พอใจในการจดั
กจิ กรรมครั้งน้ี - - 2 8 23
ตอนที่ 3 ข๎อเสนอแนะ/ข๎อคดิ เหน็ ตอํ การเข๎ารํวมกิจกรรม อยากใหจ้ ดั กจิ กรรมอีก
คาชม ส่ิงควรปรบั ปรงุ
-
ขอบคุณคํะ - -
ขอให๎มีกจิ กรรมตลอดนะคะ -
สรุปผลการดาเนินงานสรุปภาพรวมจากการเข๎ารํวมกิจกรรม Key Cover ในครั้งนี้ พบวํา สามารถดาเนินงาน
ได๎สาเร็จลุลํวงตามวัตถุประสงค์ผู๎เข๎ารํวมกิจกรรม มีทัศนคติในเชิงบวก อยูํในระดับ มากที่สุด และจากการ
ติดตามและประเมินผลครั้งน้ี จากกลุํมตัวอยํางท่ีเข๎าใช๎บริการจานวน 37 คน พบวํา ผ๎ูตอบแบบประเมินสํวน
ใหญํมคี วามพึงพอใจตอํ การเข๎ารวํ มกิจกรรมในภาพรวมทุกดา๎ นอยํใู นระดับ มากท่สี ุด สรุปรายการแยกดังนี้
1. การจดั กจิ กรรมในครัง้ น้ีมีประโยชน์ตอํ ทําน ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใํู นระดบั มาก
ทีส่ ุดมคี าํ เฉล่ียสูงถึง 4.62 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี าํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.54
2. ทํานได๎มสี วํ นรํวมในการทากจิ กรรม ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูใํ นระดับมากท่สี ดุ มี
คําเฉลี่ยสงู ถงึ 4.59 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทํู ี่ 0.64
3. ทํานได๎รบั ความร๎/ู ประโยชนจ์ ากการเข๎ารํวมกิจกรรมเพื่อไปปรบั ใช๎ได๎ ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความ
พงึ พอใจอยใํู นระดบั มากท่สี ุดมคี ําเฉลย่ี สงู ถึง 4.67 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูที่
0.75
4. รูปแบบ/หวั ข๎อ ในการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใูํ น
ระดบั มากท่สี ดุ มีคําเฉล่ียสูงถึง 4.62 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.63
5. ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยํูในระดับมาก
ทส่ี ดุ มีคําเฉล่ียสงู ถงึ 4.59 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.68
6. การประชาสมั พันธก์ ารจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํูใน
ระดับมากทีส่ ดุ มีคําเฉลีย่ สงู ถึง 4.54 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยูํที่ 0.73
7. สถานทจี่ ัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยํใู นระดับมากทีส่ ุดมี
คําเฉล่ียสูงถงึ 4.64 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.58
8. ส่ือ/อปุ กรณ์ เทคนคิ ทีใ่ ช๎ในการประกอบการจดั กจิ กรรมมคี วามเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมี
ความพงึ พอใจอยูํในระดับมากทส่ี ดุ มีคําเฉลยี่ สูงถงึ 4.54 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยูํท่ี
0.80
9. วทิ ยากรสามารถให๎ข๎อมลู ได๎เปน็ อยาํ งดี ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูใํ นระดับมากทสี่ ุดมี
คาํ เฉลย่ี สูงถึง 4.75 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยูทํ ี่ 0.49
10. วทิ ยากรมคี วามสุภาพ เปน็ มติ ร และเปน็ กนั เอง ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูใํ นระดับ
มากท่สี ุดมีคําเฉล่ยี สูงถงึ 4.67 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.57
11. ภาพรวมความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมครั้งนี้ ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใํู นระดับ
มากถึงมากที่สดุ มีคําเฉลย่ี สงู ถึง 4.13 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบ่ยี งเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.57
แบบวัดความรูก๎ จิ กรรม Key Cover
สรุปผลแบบวัดความร๎ูกิจกรรม Key Cover ในคร้ังน้ี พบวํา สามารถดาเนินงานได๎สาเร็จลุลํวงตาม
วตั ถปุ ระสงค์ ผู๎เขา๎ รํวมกจิ กรรมทาแบบทดสอบผํานเกณฑท์ ี่ตั้งไว๎ สามรถสรปุ รายการแยกไดด๎ ังนี้
1. การทากระเป๋าใสํพวงกญุ แจ สามารถเกบ็ กุญแจไดค๎ รบ หางําย หายรู๎
เลอื กถูก จานวน 37 คน คดิ เป็น 100 %
เลอื กผิด จานวน 0 คน คิดเป็น 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ น้ีผท๎ู ี่ทาแบบวดั ความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ต้งั ไว๎
2. การทา Key Cover เราใช๎ผา๎ คอตต๎อนลายในการทา
เลือกถูก จานวน 37 คน คดิ เป็น 100 %
เลอื กผิด จานวน 0 คน คิดเป็น 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อน้ีผ๎ูที่ทาแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทต่ี งั้ ไว๎
3. การเลือกสีด๎ายเยบ็ ผา๎ ควรใชส๎ เี ดียวกบั ผา๎ ท่ีเรานามาทา
เลอื กถูก จานวน 34 คน คิดเป็น 91.9 %
เลอื กผดิ จานวน 3 คน คดิ เปน็ 8.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อนี้ผท๎ู ่ที าแบบวัดความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทีต่ ้งั ไว๎
4. การเลอื กสซี บิ ควรใช๎สีเดียวกบั ผา๎ ทีเ่ รานามาทา
เลอื กถูก จานวน 31 คน คดิ เป็น 83.8 %
เลอื กผิด จานวน 6 คน คดิ เป็น 16.2 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อนี้ผท๎ู ่ที าแบบวัดความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ง้ั ไว๎
5. การนาซิบมาติดต๎องให๎หัวซบิ อยํูดา๎ นบนและเย็บใหห๎ มดตามความยาวของซบิ
เลอื กถูก จานวน 47 คน คิดเป็น 95.9 %
เลือกผิด จานวน 2 คน คิดเปน็ 4.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผูท๎ ท่ี าแบบวดั ความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ตั้งไว๎
6. ต๎องนาใยกาวมากางออกแล๎วนาผา๎ ไปวางติดตามแบบ และรดี ด๎วยเตารดี ไฟกลางเพื่อให๎ผ๎ากาวติด
เลือกถูก จานวน 36 คน คดิ เปน็ 97.3 %
เลือกผดิ จานวน 1 คน คดิ เปน็ 2.7 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ นี้ผูท๎ ี่ทาแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทตี่ ั้งไว๎
7. ตอ๎ งนาผ๎าก๏นุ มาเยบ็ ใหร๎ อบช้นิ งาน
เลอื กถูก จานวน 36 คน คดิ เปน็ 97.3 %
เลอื กผดิ จานวน 1 คน คิดเปน็ 2.7 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ นี้ผทู๎ ท่ี าแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90% ทต่ี งั้ ไว๎
8. การใสํหํวงกุญแจควรเว๎นดา๎ นลํางไวเ๎ พ่ือใสํหวํ งกุญแจ
เลอื กถูก จานวน 28 คน คิดเปน็ 75.7 %
เลือกผิด จานวน 9 คน คดิ เป็น 24.3 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผดิ ในขอ๎ นี้ผู๎ที่ทาแบบวดั ความรู๎ตอบไมผํ ํานเกณฑ์ 90 % ทตี่ ง้ั ไว๎
9. ขนาดของหํวงกุญแจต๎องใชข๎ นาดเลก็ เทําน้ัน
เลอื กถูก จานวน 16 คน คิดเปน็ 43.2 %
เลอื กผิด จานวน 21 คน คดิ เป็น 56.8 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผท๎ู ่ที าแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทต่ี ั้งไว๎
10. Key Cover มปี ระโยชนส์ าหรบั ทาใหล๎ ูกกุญแจไมํไปขูดขดี กระเปา๋ สตางค์ คน๎ หางาํ ย หยบิ ใช๎งาน
งาํ ย เปน็ การจัดระเบยี บกญุ แจไปในตัว
เลือกถูก จานวน 37 คน คิดเปน็ 100 %
เลอื กผดิ จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อนี้ผู๎ทที่ าแบบวดั ความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทีต่ ้ังไว๎
กิจกรรม เย็บหมอนอนอนุ่
ตอนที่ 1 ผลการวเิ คราะหข์ อ๎ มูลทวั่ ไปของแบบสอบถาม
ตาราง 1 แสดงรอ๎ ยละของผต๎ู อบแบบสอบถาม จาแนก ตามเพศ อายุ
ข้อมูลท่ัวไป จานวน รอ้ ยละ
เพศ 5 14.3 %
ชาย 30 85.7 %
หญงิ
15 42.9 %
อายุ 2 5.7 %
15-25 ปี 4 11.4 %
26-35 ปี 7 20 %
36-46 ปี 7 20 %
46-60 ปี
60 ปี ข้ึนไป
ข๎อมลู ทัว่ ไปของประชาชนทต่ี อบแบบสอบถาม จานวน 35 ชดุ
จาแนกตาม เพศ
จากผลการประเมนิ กลุํมผ๎ูเข๎ารวํ มกิจกรรมประชาชน จานวน 35 คน ท่ีตอบแบบสอบถามพบวํา ร๎อย
ละ 85.7 % เป็นเพศหญิง และร๎อยละ 14.3 %เปน็ เพศชาย
จาแนกตาม อายุ
จากผลการประเมินกลํมุ ผ๎เู ขา๎ รวํ มกจิ กรรมประชาชน จานวน 35 คน ที่ตอบแบบสอบถามพบวํา สํวน
ใหญํร๎อยละ 42.9 % มีอายุ 15-25 ปี รองลงมามีอายุ 46-60 ปี / 60 ปี ขึ้นไป คิดเป็นร๎อยละ 20 %
รองลงมามีอายุ 36-46 ปี คิดเปน็ ร๎อยละ 11.4 % และอายุ 26-35 ปี ข้นึ ไป คิดเปน็ ร๎อยละ 5.7 %
ตอนที่ 2 ประเมนิ ความพงึ พอใจการเข๎ารํวมกจิ กรรม
ประเดน็ ความคิดเห็น ความพึงพอใจ/ความรู๎ความเขา๎ ใจ/การนาไปใช๎ รวม คาํ เฉลีย่ SD
นอ๎ ย น๎อย ปาน มาก มาก 35 4.68 0.52
1. การจดั กจิ กรรมในครง้ั นมี้ ีประโยชน์ ท่ีสดุ กลาง ท่ีสุด 35 4.77 0.54
ตํอทาํ น 12345 35 4.8 0.48
2. ทํานได๎มีสํวนรํวมในการทากิจกรรม - - 1 9 25
3. ทํานได๎รับความร/๎ู ประโยชน์จากการ 35 4.68 0.52
เขา๎ รํวมกจิ กรรมเพ่ือไปปรับใช๎ได๎ - - 2 4 29 35 4.62 0.54
4. รูปแบบ/หวั ขอ๎ ในการจัดกิจกรรมมี - - 1 5 29
ความเหมาะสม 35 4.62 0.54
5. ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมมีความ - - 1 10 24 35 4.71 0.51
เหมาะสม 35 4.77 0.42
6. การประชาสัมพนั ธ์การจดั กจิ กรรมมี - - 1 11 23
ความเหมาะสม 35 4.77 0.49
7. สถานทจ่ี ดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม - - 1 11 23
8. สือ่ /อปุ กรณ์ เทคนิคทใี่ ช๎ในการ 35 4.82 0.85
ประกอบการจัดกจิ กรรมมีความ - - 1 8 26 35 4.65 0.76
เหมาะสม - - - 8 27
9. วทิ ยากรสามารถใหข๎ ๎อมลู ได๎เป็น
อยาํ งดี - - 1 6 28
10. วิทยากรมีความสุภาพ เปน็ มิตร
และเป็นกันเอง - - 1 4 30
11. ภาพรวมความพึงพอใจในการจัด
กจิ กรรมครั้งนี้ - - 1 8 28
ตอนที่ 3 ขอ๎ เสนอแนะ/ข๎อคิดเหน็ ตอํ การเขา๎ รวํ มกจิ กรรม อยากให้จดั กิจกรรมอีก
คาชม สิง่ ควรปรบั ปรงุ
ควรจัดกจิ กรรมแบบน้ีอีก
กิจกรรมมีประโยชน์คํะ - นําสนใจดี
ดีมาก - อยากให๎มกี จิ กรรมเร่อื ยๆ
กจิ กรรมดีคํะ - อยากให๎มีกจิ กรรมเรอ่ื ยๆ
มปี ระโยชนค์ ะํ - ควรมีกิจกรรมดีๆอยํางนีอ้ ีกคํะ
กิจกรรมดีมากๆคํะ -
กิจกรรมดีมาก - เรียนความรูม๎ าทาอาชพี เสริม
มปี ระโยชน์มากคะํ ดี - ตอ๎ งการเรยี นความรู๎เพ่อื นามาตอํ ยอด
สอนเขา๎ ใจงํายคํะ หารายไดเ๎ สริม
เสียงดงั ฟงั ชดั ภาพชดั เจน ประชาชน --
สนใจกจิ กรรมนคี้ ํะ --
สรุปผลการดาเนินงานสรุปภาพรวมจากการเข๎ารํวมกิจกรรมเย็บหมอนนอนอํุน ในคร้ังนี้ พบวํา สามารถ
ดาเนินงานได๎สาเร็จลุลํวงตามวัตถุประสงค์ผ๎ูเข๎ารํวมกิจกรรม มีทัศนคติในเชิงบวก อยูํในระดับ มากที่สุด และ
จากการติดตามและประเมินผลคร้ังนี้ จากกลุํมตัวอยํางที่เข๎าใช๎บริการจานวน 35 คน พบวํา ผ๎ูตอบแบบ
ประเมินสํวนใหญํมีความพึงพอใจตํอการเข๎ารํวมกิจกรรมในภาพรวมทุกด๎านอยูํในระดับ มากท่ีสุด สรุป
รายการแยกดังน้ี
1. การจดั กจิ กรรมในครั้งนม้ี ีประโยชนต์ ํอทําน ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยใํู นระดบั มาก
ที่สุดมีคําเฉล่ียสูงถึง 4.68 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.52
2. ทํานได๎มีสํวนรํวมในการทากิจกรรม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํในระดบั มากทส่ี ุดมี
คาํ เฉลีย่ สงู ถงึ 4.77 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.54
3. ทํานได๎รับความรู/๎ ประโยชน์จากการเข๎ารวํ มกจิ กรรมเพื่อไปปรบั ใช๎ได๎ ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความ
พงึ พอใจอยํใู นระดบั มากทีส่ ดุ มีคําเฉล่ียสูงถึง 4.8 จากระดับคะแนน 5 โดยมคี ําเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยํทู ี่ 0.47
4. รปู แบบ/หวั ข๎อ ในการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํใน
ระดบั มากท่ีสดุ มีคําเฉล่ยี สงู ถึง 4.68 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.52
5. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยูํในระดับมาก
ทส่ี ุดมคี าํ เฉลย่ี สงู ถึง 4.62 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยูํท่ี 0.54
6. การประชาสมั พนั ธ์การจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํใน
ระดบั มากทีส่ ดุ มีคาํ เฉลย่ี สูงถึง 4.62 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.54
7. สถานทจ่ี ดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ผ๎ตู อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยํูในระดับมากทสี่ ดุ มี
คําเฉลี่ยสูงถึง 4.71 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยํทู ี่ 0.51
8. สอ่ื /อปุ กรณ์ เทคนคิ ที่ใชใ๎ นการประกอบการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม ผู๎ตอบแบบสอบถามมี
ความพงึ พอใจอยูํในระดบั มากทสี่ ุดมคี ําเฉลยี่ สูงถงึ 4.77 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี ําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูท่ี
0.42
9. วทิ ยากรสามารถใหข๎ ๎อมูลได๎เปน็ อยํางดี ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํใู นระดับมากที่สดุ มี
คาํ เฉล่ยี สูงถงึ 4.77 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี ําเบยี่ งเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.49
10. วิทยากรมีความสุภาพ เป็นมติ ร และเป็นกันเอง ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํในระดับ
มากท่สี ุดมีคําเฉลย่ี สงู ถงึ 4.82 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบย่ี งเบนมาตรฐานอยูํที่ 0.45
11. ภาพรวมความพงึ พอใจในการจดั กจิ กรรมครั้งนี้ ผ๎ูตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํูในระดับ
มากท่ีสุดมคี าํ เฉล่ยี สูงถึง 4.65 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทํู ี่ 0.76
แบบวดั ความร๎กู ิจกรรมเย็บหมอนนอนอนุํ
สรปุ ผลแบบวดั ความร๎ูกิจกรรมเย็บหมอนนอนอํุน ในครัง้ น้ี พบวาํ สามารถดาเนนิ งานได๎สาเร็จลุลํวงตาม
วตั ถุประสงค์ ผเ๎ู ขา๎ รวํ มกิจกรรมทาแบบทดสอบผํานเกณฑท์ ี่ต้งั ไว๎ สามรถสรุปรายการแยกได๎ดงั น้ี
1. การทาหมอนเปน็ กิจกรรมที่ทาให๎ทาํ นใชป๎ ระโยชนไ์ ด๎จริง
เลอื กถูก จานวน 35 คน คิดเปน็ 100 %
เลือกผิด จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผูท๎ ท่ี าแบบวดั ความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทีต่ ้งั ไว๎
2. การนาผา๎ มาวดั และตัดควรใช๎กวา๎ งยาวตามขนาดของหมอนทีเ่ ราต๎องการ
เลอื กถูก จานวน 37 คน คิดเปน็ 100 %
เลือกผิด จานวน 0 คน คดิ เป็น 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อนี้ผูท๎ ท่ี าแบบวดั ความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ต้งั ไว๎
3. การวัดความยาว ควรใชไ๎ ม๎บรรทัด สายวัด หรือตลับเมตร เพ่ือความแมํนยา ถกู ต๎อง
เลือกถูก จานวน 37 คน คดิ เปน็ 100 %
เลอื กผิด จานวน 0 คน คดิ เปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ นี้ผทู๎ ท่ี าแบบวัดความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ง้ั ไว๎
4. กอํ นจะเย็บหมอนควรรอ๎ ยด๎ายใหย๎ าวมากๆจะไมตํ ๎องร๎อยดา๎ ยบอํ ยๆ
เลอื กถูก จานวน 11 คน คดิ เป็น 31.4 %
เลือกผดิ จานวน 24 คน คิดเปน็ 68.6 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผิด ในขอ๎ นี้ผทู๎ ่ีทาแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทต่ี ั้งไว๎
5. การร๎อยไดค๎ วรยาวสดุ แขน ใชด๎ า๎ ย 2 ทบในการเยบ็
เลือกถูก จานวน 32 คน คดิ เปน็ 91.4 %
เลอื กผดิ จานวน 3 คน คดิ เป็น 8.6 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผูท๎ ่ีทาแบบวัดความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ัง้ ไว๎
6. เทคนคิ การเยบ็ หมอนให๎มีขนาดเทํากัน ควรตดั ผ๎าคร้งั ละหลายๆผนื ทบซ๎อนหลายๆชน้ั
เลือกถูก จานวน 11 คน คิดเปน็ 31.3 %
เลอื กผดิ จานวน 24 คน คดิ เปน็ 68.8 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผิด ในข๎อนี้ผท๎ู ที่ าแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ท่ตี ้งั ไว๎
7. หากคนทท่ี ํานจะเย็บหมอนไปให๎ใช๎ เปน็ ผู๎สงู อายุ ควรยัดใยสังเคราะห์ใหแ๎ นนํ ๆเหมือนของเด็ก
เลอื กถูก จานวน 17 คน คิดเปน็ 48.6 %
เลือกผดิ จานวน 18 คน คิดเป็น 51.4 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผดิ ในข๎อนี้ผู๎ท่ีทาแบบวดั ความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ั้งไว๎
8. การยัดใยสงั เคราะห์ ต๎องยัดทลี ะน๎อยๆ กระจายทั่วเพ่ือให๎สวยงาม
เลือกถูก จานวน 34 คน คิดเปน็ 91.1 %
เลอื กผิด จานวน 1 คน คดิ เปน็ 2.9 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อนี้ผทู๎ ท่ี าแบบวัดความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ตั้งไว๎
9. การเย็บตะเขบ็ ปิดหมอน ต๎องเย็บด๎วยด๎ายเส๎นเดียว
เลือกถูก จานวน 8 คน คิดเป็น 22.9 %
เลอื กผดิ จานวน 27 คน คิดเป็น 77.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผิด ในขอ๎ น้ีผ๎ูทท่ี าแบบวดั ความร๎ูตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ท่ีต้ังไว๎
10. หมอนหนนุ มีประโยชน์สาหรับทํานมากในชํวงนี้
เลือกถูก จานวน 35 คน คิดเป็น 100 %
เลือกผดิ จานวน 0 คน คดิ เป็น 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผ๎ูที่ทาแบบวัดความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ต้ังไว๎
กิจกรรมเจลล้างมอื ตา้ นไวรัสโควดิ -19
ตอนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์ขอ๎ มูลทัว่ ไปของแบบสอบถาม
ตาราง 1 แสดงรอ๎ ยละของผ๎ตู อบแบบสอบถาม จาแนก ตามเพศ อายุ
ขอ้ มูลทั่วไป จานวน รอ้ ยละ
เพศ 4 12.5 %
ชาย 28 87.5 %
หญิง
3 9.4 %
อายุ 2 6.3 %
15-25 ปี 4 12.5 %
26-35 ปี 11 34.4 %
36-46 ปี 12 37.5%
46-60 ปี
60 ปี ขนึ้ ไป
ข๎อมลู ทัว่ ไปของประชาชนที่ตอบแบบสอบถาม จานวน 32 ชดุ
จาแนกตาม เพศ
จากผลการประเมินกลมุํ ผู๎เข๎ารวํ มกิจกรรมประชาชน จานวน 32 คน ท่ตี อบแบบสอบถามพบวํา รอ๎ ย
ละ 87.5 %เปน็ เพศหญิง และร๎อยละ 12.5 % เปน็ เพศชาย
จาแนกตาม อายุ
จากผลการสารวจกลํุมผ๎ูเข๎ารํวมกิจกรรมประชาชน จานวน 32 คน ที่ตอบแบบสอบถามพบวํา สํวน
ใหญํร๎อยละ 37.5 % มีอายุ 60 ปี ขน้ึ ไป รองลงมามอี ายุ 46-60 ปี คดิ เป็นรอ๎ ยละ 34.4 % รองลงมามีอายุ
36-46 ปี คิดเป็นร๎อยละ 12.5 % รองลงมามีอายุ 15-25 ปี คิดเป็นร๎อยละ 9.4 % และอายุ 26-35 ปี
ข้นึ ไป คดิ เป็นรอ๎ ยละ 6.3 %
ตอนที่ 2 ประเมนิ ความพงึ พอใจการเข๎าใชบ๎ ริการ
ประเด็นความคิดเห็น ความพึงพอใจ/ความร๎ูความเขา๎ ใจ/การนาไปใช๎ รวม คําเฉล่ีย SD
นอ๎ ย นอ๎ ย ปาน มาก มาก 32 4.6 0.81
1. การจัดกิจกรรมในครั้งนีม้ ีประโยชน์ ทสี่ ุด กลาง ทสี่ ดุ 32 4.48 0.88
ตอํ ทําน 12345 32 4.6 0.81
2. ทํานได๎มสี ํวนรํวมในการทากิจกรรม - - - 7 25
3. ทํานได๎รับความร๎/ู ประโยชนจ์ ากการ 32 4.6 0.81
เข๎ารวํ มกจิ กรรมเพ่ือไปปรับใช๎ได๎ - - - 9 23 32 4.37 0.94
4. รูปแบบ/หวั ข๎อ ในการจัดกิจกรรมมี - - - 7 25
ความเหมาะสม 32 4.31 0.96
5. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมมีความ - - - 7 25 32 4.6 0.81
เหมาะสม 32 4.14 1.00
6. การประชาสัมพันธ์การจดั กิจกรรมมี - - - 12 20
ความเหมาะสม 32 4.37 0.94
7. สถานที่จดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม - - - 13 19
8. สอ่ื /อปุ กรณ์ เทคนิคท่ใี ชใ๎ นการ 32 4.37 0.94
ประกอบการจัดกจิ กรรมมีความ - - - 7 25 32 4.65 0.76
เหมาะสม - - - 15 17
9. วิทยากรสามารถให๎ข๎อมลู ได๎เปน็
อยาํ งดี - - - 11 21
10. วิทยากรมีความสุภาพ เปน็ มติ ร
และเป็นกันเอง - - - 11 21
11. ภาพรวมความพงึ พอใจในการจัด
กิจกรรมคร้ังน้ี - - - 6 26
ตอนท่ี 3 ขอ๎ เสนอแนะ/ข๎อคิดเหน็ ตอํ การเข๎ารวํ มกิจกรรม อยากใหจ้ ดั กิจกรรมอีก
คาชม ส่ิงควรปรบั ปรุง
เปน็ กจิ กรรรมท่ีดีมากคํะ - อยากใหจ๎ ัดอีก
วยิ ากรสอนเขา๎ ใจงําย -
สถานที่เหมาะในการทากิจกรรม - -
วทิ ยากรเปน็ กันเองสอนเข๎าใจ - -
กิจกรรมดีมีประโยชน์ - -
-
กิจกรรมดีมีประโยชน์มากๆคํะ - -
ดีคะํ - -
มีประโยชน์คะํ - -
กจิ กรรมท่ีจดั ดีมากคํะ - -
กจิ กรรมดีคํะ - -
มปี ระโยชน์มากคํะ - -
ดคี ะํ - -
กจิ กรรมดีมาก - -
ดคี ํะกจิ กรรมเขา๎ กบั สถานกราณ์ชวํ งนี้ - -
นาไปใช๎ประโยชนไ์ ด๎
- -
ดมี ากครบั เข๎ากบั สถานกราณ์ชวํ งน้ี มี
ประโยชน์มาก
สรุปผลการดาเนนิ งานสรุปภาพรวมจากการเขา๎ รวํ มกิจกรรมเย็บหมอนนอนอุนํ ในครั้งน้ี พบวํา สามารถ
ดาเนินงานไดส๎ าเร็จลลุ วํ งตามวัตถุประสงคผ์ ูเ๎ ข๎ารวํ มกิจกรรม มีทศั นคตใิ นเชงิ บวก อยํูในระดับ มากท่ีสดุ และ
จากการติดตามและประเมนิ ผลครั้งนี้ จากกลมํุ ตัวอยาํ งทเ่ี ข๎าใช๎บริการจานวน 32 คน พบวํา ผต๎ู อบแบบ
ประเมินสํวนใหญมํ ีความพึงพอใจตํอการเขา๎ รํวมกิจกรรมในภาพรวมทกุ ดา๎ นอยใูํ นระดบั มากทสี่ ดุ สรุป
รายการแยกดังน้ี
1. การจดั กิจกรรมในคร้งั นม้ี ีประโยชน์ตอํ ทาํ น ผ๎ูตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยูใํ นระดับมาก
ทีส่ ดุ มีคาํ เฉลยี่ สูงถงึ 4.6 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบีย่ งเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.81
2. ทาํ นได๎มีสํวนรํวมในการทากิจกรรม ผู๎ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจอยใูํ นระดบั มากทีส่ ดุ มี
คาํ เฉลย่ี สูงถึง 4.48 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทํู ่ี 0.88
3. ทาํ นได๎รับความร๎/ู ประโยชน์จากการเข๎ารวํ มกิจกรรมเพ่ือไปปรบั ใชไ๎ ด๎ ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความ
พงึ พอใจอยใํู นระดับมากที่สุดมคี าํ เฉลยี่ สงู ถึง 4.6 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ยี งเบนมาตรฐานอยทํู ี่ 0.81
4. รูปแบบ/หัวขอ๎ ในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ผต๎ู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํใู น
ระดบั มากที่สดุ มีคําเฉลยี่ สูงถึง 4.6 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี ําเบย่ี งเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.81
5. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอยํูในระดับมาก
ที่สดุ มคี าํ เฉลย่ี สงู ถงึ 4.37 จากระดบั คะแนน 5 โดยมคี าํ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.94
6. การประชาสมั พันธก์ ารจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ผตู๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูํใน
ระดับมากท่ีสุดมีคาํ เฉลีย่ สูงถึง 4.31 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบยี่ งเบนมาตรฐานอยํูที่ 0.96
7. สถานที่จดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม ผู๎ตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยใํู นระดบั มากที่สดุ มี
คาํ เฉล่ยี สงู ถงึ 4.6 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคําเบีย่ งเบนมาตรฐานอยูทํ ี่ 0.81
8. สื่อ/อปุ กรณ์ เทคนิคทใี่ ช๎ในการประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ผู๎ตอบแบบสอบถามมี
ความพึงพอใจอยํูในระดบั มากทส่ี ุดมีคาํ เฉล่ียสูงถึง 4.14 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบี่ยงเบนมาตรฐานอยูํที่
1.00
9. วทิ ยากรสามารถใหข๎ ๎อมลู ได๎เป็นอยํางดี ผ๎ูตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยูใํ นระดับมากทีส่ ดุ มี
คําเฉลีย่ สงู ถึง 4.37 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทูํ ี่ 0.94
10. วิทยากรมคี วามสุภาพ เปน็ มติ ร และเป็นกันเอง ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยํูในระดับ
มากทส่ี ุดมคี าํ เฉลี่ยสูงถงึ 4.37 จากระดบั คะแนน 5 โดยมีคําเบยี่ งเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.94
11. ภาพรวมความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมครงั้ น้ี ผูต๎ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยใูํ นระดับ
มากทส่ี ดุ มีคําเฉลย่ี สงู ถึง 4.65 จากระดับคะแนน 5 โดยมีคาํ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยํูท่ี 0.76
จากผลของการประเมินเม่ือพิจาราณา แสดงใหเ๎ ห็นวําผ๎เู ขา๎ รํวมกิจกรรมมีความพงึ พอในอยูใํ นระดับ
มากทีส่ ุด รองลงมา คือ มาก นอกจากนี้ ผู๎เข๎ารวํ มกจิ กรรมสวํ นใหญํมีความคิดเห็นตํอการอยากให๎มกี ารจดั
กจิ กรรมอกี ร๎อยละ 80
แบบวัดความร๎ูกจิ กรรมเจลลา๎ งมือต๎านไวรสั โควดิ -19
สรปุ ผลแบบวัดความรู๎กจิ กรรมเจลลา๎ งมือตา๎ นไวรสั โควดิ -19 ในครงั้ นี้ พบวํา สามารถดาเนินงานไดส๎ าเรจ็ ลลุ วํ ง
ตามวตั ถุประสงค์ ผ๎ูเขา๎ รวํ มกิจกรรมทาแบบทดสอบผํานเกณฑ์ทตี่ ั้งไว๎ สามรถสรุปรายการแยกได๎ดังน้ี
1.เจลลา๎ งมอื แอลกอฮอลลม์ ีฤทธใ์ิ นการฆาํ เช้ือโรค ทงั้ เชอ้ื แบคทเี รีย เช้อื รา และป้องกนั ไวรสั
เลือกถูก จานวน 32 คน คดิ เป็น 100 %
เลือกผิด จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ น้ีผูท๎ ท่ี าแบบวดั ความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ทต่ี ัง้ ไว๎
2.วัสดุอุปกรณ์และภาชนะทุกอยํางที่ใชใ๎ นการทาตอ๎ งสะอาด
เลอื กถูก จานวน 35 คน คิดเป็น 100 %
เลอื กผดิ จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในข๎อน้ีผู๎ทท่ี าแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ท่ตี ั้งไว๎
3.หากผสมแลว๎ ควรปดิ ภาชนะใหส๎ นิทเพื่อป้องกนั แอลกอฮอลลร์ ะเหย
เลอื กถูก จานวน 31 คน คิดเป็น 96.9 %
เลอื กผดิ จานวน 1 คน คิดเปน็ 3.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อนี้ผูท๎ ท่ี าแบบวัดความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ที่ต้งั ไว๎
4.ใชน๎ า้ สะอาด 250 กรมั สาหรับการทาเจลในครั้งน้ี
เลอื กถูก จานวน 31 คน คดิ เป็น 96.9 %
เลือกผิด จานวน 1 คน คดิ เป็น 3.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อนี้ผทู๎ ่ีทาแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ั้งไว๎
5.นา CARBOPL คํอยๆโปรยลงนา้ สะอาด 250 กรัม ระหวาํ งโปรยตอ๎ งคนให๎เขา๎ กัน
เลือกถูก จานวน 32 คน คิดเป็น 100 %
เลือกผดิ จานวน 0 คน คดิ เป็น 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผู๎ทที่ าแบบวดั ความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ต้งั ไว๎
6.ตอ๎ งทิ้ง CARBOPL ทคี่ นให๎เขา๎ กนั แล๎วไว๎ 24 ชม. จะได๎เป็นเนื้อเจล
เลอื กถูก จานวน 31 คน คดิ เป็น 96.9 %
เลอื กผิด จานวน 1 คน คดิ เปน็ 13.1 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในข๎อน้ีผทู๎ ท่ี าแบบวัดความร๎ูตอบผํานเกณฑ์ 90 % ท่ีตงั้ ไว๎
7.นาสวํ นผสมทุกอยํางมาคนจนเป็นเนอื้ เดยี วกันประมาณ 10 นาที แลว๎ นาใสภํ าชนะทีต่ อ๎ งการ
เลือกถูก จานวน 32 คน คิดเป็น 100 %
เลอื กผดิ จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถกู ในขอ๎ น้ีผท๎ู ี่ทาแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ต้ังไว๎
8.สวํ นผสมในการทาเจลล๎างมอื แอลกอฮอลลจ์ ะประกอบด๎วยสวํ นผสม 6 อยําง
เลอื กถูก จานวน 32 คน คดิ เป็น 100 %
เลอื กผดิ จานวน 0 คน คิดเปน็ 0 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกถูก ในขอ๎ นี้ผ๎ูท่ที าแบบวัดความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ท่ตี ัง้ ไว๎
9.เจลลา๎ งมือแอลกอฮอลจ์ ะมีแตํสฟี า้ เทํานน้ั
เลือกถูก จานวน 2 คน คดิ เป็น 6.3 %
เลอื กผดิ จานวน 30 คน คิดเปน็ 93.8 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผดิ ในขอ๎ นี้ผ๎ทู ท่ี าแบบวดั ความรู๎ตอบผํานเกณฑ์ 90 % ที่ตัง้ ไว๎
10.ขวดพลาสตกิ แบบหวั ป๊มั เทาํ นัน้ ที่นิยมนามาใสเํ จลแอลกอฮอลล์
เลือกถูก จานวน 4 คน คดิ เป็น 12.5 %
เลือกผดิ จานวน 28 คน คดิ เปน็ 87.5 %
เฉลยคาตอบ ต๎องเลือกผดิ ในขอ๎ น้ีผทู๎ ท่ี าแบบวดั ความรู๎ตอบผาํ นเกณฑ์ 90 % ทต่ี ง้ั ไว๎
ภาคผนวก
ปรับปรงุ พื้นทเี่ พอ่ื การเรยี นรู้
กอํ นทาปา้ ยชือ่ โครงการ Co - Learning Space
หลังทาป้ายชื่อโครงการ Co - Learning Space
ปรบั ปรุงพ้ืนท่ีเพ่ือการเรยี นรู้
กอํ นทายา๎ ยและติดต้ังโครงหลังคาพร๎อมติดล๎อน่งั รา๎ นมเี บรก
ปรบั ปรุงพ้ืนท่ีเพ่ือการเรยี นรู้
หลงั ทายา๎ ยและติดต้ังโครงหลังคาพร๎อมติดล๎อน่งั รา๎ นมเี บรก
ปรบั ปรงุ พ้นื ทีเ่ พ่อื การเรียนรู้
กอํ นปรับห๎องประกอบกจิ กรรมใหพ๎ ร๎อมใชง๎ านโดยการกาจัดปลวกและซํอมแซมผนงั ห๎องพรอ๎ มทาสใี หมํ
ปรบั ปรงุ พ้นื ทีเ่ พ่อื การเรียนรู้
กอํ นปรับห๎องประกอบกจิ กรรมใหพ๎ ร๎อมใชง๎ านโดยการกาจัดปลวกและซํอมแซมผนงั ห๎องพรอ๎ มทาสใี หมํ
ปรบั ปรงุ พ้นื ทีเ่ พ่อื การเรียนรู้
กอํ นปรับห๎องประกอบกจิ กรรมใหพ๎ ร๎อมใชง๎ านโดยการกาจัดปลวกและซํอมแซมผนงั ห๎องพรอ๎ มทาสใี หมํ
ปรับปรุงพืน้ ท่เี พื่อการเรยี นรู้
หลังปรบั ห๎องประกอบกจิ กรรมให๎พร๎อมใชง๎ านโดยการกาจัดปลวกและซํอมแซํมผนังหอ๎ งพร๎อมทาสีใหมํ
ปรับปรุงพื้นที่เพ่อื การเรยี นรู้
หลงั ปรบั ห๎องประกอบกจิ กรรมให๎พร๎อมใชง๎ านโดยการกาจัดปลวกและซํอมแซํมผนงั ห๎องพร๎อมทาสีใหมํ
การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านสรา้ งการเรียนรู้
กจิ กรรมสายคลอ้ ง Mask คุณทาได้
การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านสรา้ งการเรียนรู้
กจิ กรรมสายคลอ้ ง Mask คุณทาได้
การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านสรา้ งการเรียนรู้
กจิ กรรมสายคลอ้ ง Mask คุณทาได้
การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านสรา้ งการเรยี นรู้
กิจกรรม Key Cover