6. เครอ่ื งแบบพลศึกษา กางเกงวอรม์ ขายาวสกี รมทา่ เสอื้ ยดื สชี มพ-ู ฟา้ ตามแบบ
ของโรงเรยี น กางเกงทบั เสือ้ ให้เรียบร้อย รองเทา้ ผา้ ใบสีด�ำ ถุงเทา้ นกั เรยี นสีขาวและตอ้ ง
มเี สื้อประจำ� สี 1 ตวั
7. เคร่ืองแบบลูกเสือ นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นทุกคนต้องมีเคร่ืองแบบ
ลูกเสือ และเคร่ืองประกอบเครื่องแบบลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ตามกฎกระทรวงว่าด้วย
เครือ่ งแบบลูกเสอื คนละ 1 ชุด เพ่อื ความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย เครื่องแบบลกู เสือให้ใช้
เนื้อผ้า และสีของผ้าแบบเดียวกันกับที่ทางโรงเรียนจัดบริการ หรือเคร่ืองแบบลูกเสือ
ตามทกี่ ระทรวงศกึ ษาธิการผอ่ นผัน
8. กระเป๋านกั เรียน กำ� หนดให้ใช้ได้ 2 แบบ คือ
1) กระเป๋าใส่หนังสือ (กระเปา๋ หลกั ) เป็นกระเปา๋ ผ้าสดี ำ� ให้ใช้แบบและขนาด
ท่ีโรงเรียนกำ� หนด หา้ มขดี เขียน ติดรปู หรอื แขวนเคร่ืองประดบั ตา่ ง ๆ บนกระเปา๋ ห้าม
หนบี ตดิ กาวหรือเย็บกลบี ด้านข้าง ดา้ นล่างของกระเปา๋ ท้งั ภายนอก และภายในกระเป๋า
โดยเด็ดขาด
2) กระเป๋าเคยี ง (กระเปา๋ รอง) เปน็ กระเป๋าขนาดเล็ก ส�ำหรับใส่ชุดพลศึกษา
หรืออปุ กรณ์การเรยี นให้ใช้ของที่โรงเรียนก�ำหนด หา้ มตกแต่งใด ๆ เหมือนกรณีกระเปา๋
หนังสือ
โรงเรียนขอเก็บกระเปา๋ ทีผ่ ิดระเบียบไว้จะคืนให้กบั ผปู้ กครอง “เท่าน้ัน” และหา้ ม
ใช้กระเป๋าเคยี งใบเดียวโดยไม่มกี ระเป๋านกั เรยี น ยกเว้นในชว่ งปดิ ภาคเรยี น
9. บัตรประจ�ำตัวนักเรียน ก�ำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องมีบัตรประจ�ำตัวนักเรียน
และใหน้ กั เรียนแสดงบัตรในการติดต่อกับหน่วยงานของโรงเรยี น
10. นกั เรยี นทุกคนตอ้ งคล้องบตั รนกั เรยี นโดยใช้สายคลอ้ งบัตรของโรงเรยี น
ข้อ 13 เครอ่ื งแบบนักเรยี นหญงิ ช้นั มัธยมศึกษาตอนตน้
1. เส้ือ แบบคอพับในตัว ผ้าขาวเกล้ียงไม่บาง หรือหนาเกินไป คอลึกสวมศีรษะ
ได้สะดวก สาบตลบเขา้ ข้างใน ส่วนบนของสาบให้ใหญ่พอแบะคอแลว้ ไมเ่ ห็นตะเข็บข้างใน
มีปกกว้าง 15 เซนติเมตร ใช้ผา้ สองชั้นเยบ็ แบบเขา้ ถ้�ำ แขนเส้ือมคี วามยาวเหนอื ข้อศอก
ปลายแขนจีบเล็กน้อย ประกอบด้วยผา้ สองช้นั กว้าง 3 เซนติเมตร ความยาวของเสอ้ื วัด
จากขอ้ มอื ขน้ึ มาเมอ่ื ยนื ตรงระยะตง้ั แต่ 10-14 เซนตเิ มตร ชายเสอื้ ดา้ นลา่ งมรี อยพบั ไมเ่ กนิ
3 เซนติเมตร ขนาดตัวเสื้อตั้งแต่แขนถึงขอบล่างมีความกว้างพอเหมาะกับตัวไม่รัดเอว
รมิ ขอบลา่ งดา้ นขวามีกระเป๋า 1 ใบ ปากกระเป๋าเปน็ ขอบกว้างไม่เกิน 2 เซนตเิ มตร ที่อก
เส้ือเบ้อื งขวาเหนอื ราวนมปักอักษรย่อ ส.ก.ร. ติดบนเน้ือผ้า ด้วยด้ายหรอื ไหมสีน�้ำเงินเข้ม
ตามที่โรงเรียนกำ� หนดเท่านนั้
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รังสิต 47
Suankularbwittayalai Rangsit School
2. กระโปรง ใชผ้ า้ สกี รมทา่ เกลย้ี งไมม่ ลี วดลาย ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั พับเป็นจีบ
ข้างละ 3 จีบ หันจีบออกด้านนอก เย็บทับจีบด้านล่างลงมาระยะ 6-12 เซนติเมตร
ชายกระโปรงพบั ขนาด 4-5 เซนตเิ มตร และตอ้ งไมแ่ คบจนเกนิ ไป เวน้ ระยะกวา้ งตอนกลาง
พองาม กระโปรงมคี วามยาวจากใต้เขา่ ลงมา 10-15 เซนตเิ มตร หา้ มพบั ขอบกระโปรง
3. รองเท้า หนังสีด�ำสนิท แบบหุ้มส้นปลายมนมีสายรัดหลังเท้า ไม่มีลวดลาย
ส้นสงู ไม่เกนิ 3 เซนติเมตร
4. ถุงเท้า ถุงเท้าสั้นสีขาว ไม่มีลวดลาย เวลาสวมให้พับถุงเท้าลงมา 2 ชั้น
กว้างประมาณ 2 นว้ิ อยเู่ หนือขอ้ เท้า ห้ามม้วนและตัดขอบถุงเทา้
5. เสอื้ บงั ทรงหรอื เสอ้ื ซบั ใน สขี าวเรยี บไมม่ ลี วดลาย นกั เรยี นหญงิ ตอ้ งใสท่ กุ คน
6. ผ้าผูกคอ หรือคอซอง สีกรมท่า สีเดียวกันกับกระโปรง ชายสามเหลี่ยม
ประกอบด้วยผา้ 2 ชั้น กว้างประมาณ 8 เซนตเิ มตร ยาว 80-100 เซนติเมตร เมื่อใสแ่ ลว้
ใหเ้ งือ่ นอยทู่ ่ีโคนปกเสือ้ ห้ามปลอ่ ยตำ่� หรอื ให้ใช้แบบส�ำเรจ็ รปู
7. กระเป๋านักเรียน ใชแ้ บบเดียวกนั กับนกั เรยี นชาย หา้ มขีดเขยี นและตกแตง่ ส่ิง
ใดๆ ลงบนกระเปา๋
8. เคร่ืองแบบพลศึกษา กางเกงวอร์มขายาวสีกรมท่า เสื้อโปโลตามแบบของ
โรงเรยี น รองเทา้ ผ้าใบสีขาวไมม่ ีลวดลาย ถงุ เท้าแบบเดยี วกันกบั ถงุ เท้านักเรยี น ห้ามใส่
ถงุ เท้าหลากสี และต้องมเี สื้อประจ�ำสี 1 ตวั
9. เครื่องแบบเนตรนารี นักเรียนหญิงช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นทุกคนต้องมี
เคร่ืองแบบ และเครื่องประกอบเครื่องแบบเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ตามกฎกระทรวง
วา่ ดว้ ยเครอ่ื งแบบลกู เสอื เนตรนารี คนละ 1 ชดุ เพอื่ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย เครอื่ งแบบ
เนตรนารีให้ใช้ผ้าและสีของผ้าตามที่โรงเรียนก�ำหนด หรือเคร่ืองแบบเนตรนารีตามที่
กระทรวงศกึ ษาธิการผอ่ นผัน
10. บตั รประจำ� ตัวนกั เรยี น ใชแ้ บบเดียวกับนักเรยี นชาย
ข้อ 14 เคร่อื งแบบนกั เรยี นชาย ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย
เหมือนกับนักเรียนชายช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ต่างกันที่เสื้อนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา
ตอนปลายจะปักรูปเสมาสีชมพู-ฟ้า ด้วยด้ายหรือไหมเหนือตัวอักษร ส.ก.ร. ตามแบบ
ที่โรงเรยี นกำ� หนดเทา่ นน้ั สว่ นชุดพลศกึ ษาใชก้ างเกงวอร์มท่มี เี สน้ ขลิบสชี มพู-ฟ้าตามแบบ
ที่ โรงเรียนก�ำหนด
48 คมู่ ือนักเรียนและผ้ปู กครอง
STUDENT HANDBOOK
ขอ้ 15 เครื่องแบบนกั เรยี นหญิง ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย
1. เสือ้ ผ้าขาวเกลี้ยงไมบ่ าง เสือ้ แบบคอเชิ้ตผ่าอกตลอด สาบเสอื้ ท�ำเป็นสาบตลบ
เข้าขา้ งใน กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร กระดมุ แบนใหญส่ ขี าว แขนยาวเหนอื ขอ้ ศอก 5 เซนติเมตร
จีบเฉพาะปลายแขน ผ้าประกอบปลายแขน 2 ช้นั กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร ปลายแขนมีตะขอ
หรอื กระดมุ ตดิ ไม่รัดรูป หลวมพอประมาณ สวมเส้อื สอดชายไว้ในกระโปรง ดงึ เสอื้ ให้ตึง
จนมองเห็นหัวเข็มขดั ทง้ั เสน้ ที่อกด้านขวาปกั อักษร ส.ก.ร. เหนืออักษรปักรปู เสมาสชี มพ-ู
ฟา้ ดว้ ยดา้ ยหรอื ไหมตามแบบท่ีโรงเรยี นกำ� หนดเทา่ นน้ั กางเกงวอรม์ มขี ลบิ สชี มพ-ู ฟา้ ตาม
แบบท่ีโรงเรยี นกำ� หนด
2. กระโปรง เหมือนนกั เรยี นหญงิ ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น
3. เขม็ ขดั ใชเ้ ขม็ ขัดหนงั สดี ำ� ไมม่ ีลวดลาย กว้าง 2.5-4 เซนติเมตร หัวเขม็ ขัดเป็น
รปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผา้ แบนขอบมนสดี ำ� ชนดิ หวั กลดั มปี ลอกหนงั สเี ดยี วกนั กบั เขม็ ขดั ขนาดกวา้ ง
1.5 เซนตเิ มตร สำ� หรบั ถอดปลายสายเขม็ ขดั ปลายเขม็ ขดั เปน็ รปู โคง้ มน (หา้ มเขยี นหรอื ตดิ
สง่ิ ใด ๆ ลงบนเข็มขดั และไมม่ ีสัญลกั ษณ์ หรอื ตัวอักษรใด ๆ บนเขม็ ขัด)
4. รองเทา้ และถงุ เทา้ เหมอื นนกั เรยี นหญิงชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น
หมวดที่ 3
S การแตง่ กาย
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
ขอ้ 16 ระเบียบการแต่งกาย
นักเรียนทุกคนต้องแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบท่ีก�ำหนด ในกรณีที่
นกั เรยี นมาโรงเรยี นในวนั หยดุ เรยี น หรอื ในเวลาเรยี นปกติ เพอ่ื ทำ� กจิ กรรมใด ๆ ใหน้ กั เรยี น
แต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียนเท่าน้ัน หากแต่งกายอื่นต้องได้รับอนุญาตจากครูเป็น
ลายลกั ษณ์อกั ษรให้แตง่ กายด้วยชุดทส่ี ภุ าพ กางเกง หรือกระโปรงทบั เสือ้ รองเท้าหุม้ สน้
หา้ มนงุ่ กางเกงขาสนั้ และงดสวมรองเทา้ แตะมาโรงเรยี น
- การแตง่ กายนักเรยี นชาย เอาเสอ้ื ใส่ในกางเกงใหเ้ รยี บร้อย หา้ มใส่เสือ้ ขา้ ง
ในสดี �ำหรอื สีอื่นๆ นอกจากสีขาว
- การแตง่ กายนักเรยี นหญิง หา้ มพับขอบกระโปรง
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั รงั สติ 49
Suankularbwittayalai Rangsit School
ข้อ 17 การไวท้ รงผม
1. นกั เรียนชายช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้น และชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย จะไว้ผม
สนั้ หรอื ยาวก็ได้ กรณีไวผ้ มยาวดา้ นขา้ ง ดา้ นหลงั ตอ้ งยาวไมเ่ ลยตนี ผม ดา้ นหนา้ และกลาง
ศีรษะเป็นไปตามความเหมาะสม หา้ มโกนผม แสกกลาง ท�ำผมด้านหน้าให้ต้งั ขน้ึ ด้วยนำ�้
หรือสารอ่ืนใด หา้ มท�ำสผี ม และหา้ มตกแตง่ ลวดลาย
2. นกั เรียนหญงิ ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น
2.1 ให้ไวผ้ มทรงบ๊อบ ตัดตรงเป็นเสน้ เสมอรอบศรี ษะ ความยาวที่ไมส่ ามารถ
รวบได้ แสกผมข้างใดข้างหนึ่ง ใช้ก๊ิบสีด�ำตดิ ผมให้เรยี บร้อย หา้ มใชท้ ี่คาดผม หวีสับ หรือ
เคร่อื งประดบั อ่ืน ๆ และห้ามซอยหรือสไลด์ผม ทำ� สีผม
2.2. ให้ไว้ผมยาวรวบดว้ ยยางรดั สีดำ� ต�ำแหน่งขอบบนของใบหู ผกู ด้วยรบิ บิน้
ตามแบบท่ีโรงเรยี นกำ� หนด โดยรวบใหต้ งึ ตดิ กบิ๊ ใหเ้ รยี บรอ้ ย และระดบั ชนั้ ม. 1 ผกู โบสกี รมทา่
ม. 2 สนี ำ�้ ตาล ม. 3 สดี ำ� หา้ มทำ� สผี ม ซอยหรอื สไลดผ์ ม หากผมแดงทเ่ี กดิ จากการอบหรอื
หนบี จากสารเคมีใด ๆ ใหแ้ ก้ไขใหถ้ กู ตอ้ งตามสภาพสเี ดมิ
3. นกั เรยี นหญงิ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ทรงผมเหมอื นนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษา
ตอนตน้ ผมยาวรวบดว้ ยยางรดั สดี ำ� ตำ� แหนง่ ขอบบนของใบหู ผกู ดว้ ยรบิ บน้ิ ตามแบบท่ีโรงเรยี น
กำ� หนด และระดบั ชน้ั ม. 4 ใหผ้ กู โบสกี รมทา่ ม. 5 สนี ำ�้ ตาล ม. 6 สดี ำ� หา้ มทำ� สผี มซอย
หรอื สไลดผ์ ม
นกั เรยี นควรตัดผมทกุ สิ้นเดือน เดอื นละ 1 ครัง้ เพ่อื รว่ มกิจกรรมสง่ เสริม
การเปน็ สภุ าพบรุ ษุ -สภุ าพสตรสี วนกหุ ลาบ ในคาบสง่ เสรมิ คณุ ธรรม
จรยิ ธรรมและสาธารณประโยชน์สัปดาห์แรกของทุกเดอื น
4.ห้ามใช้เครอ่ื งสำ� อาง แต่งหนา้ แตง่ ผม แต่งเล็บ หรือไว้เลบ็ ยาว
- สร้อยคอให้ใช้สแตนเลสหรือเงินเส้นเล็กลายสุภาพ เพื่อแขวนส่ิงศักด์ิสิทธิ์
ทางศาสนาเมอื่ แขวนแลว้ มคี วามยาวประมาณลน้ิ ปเ่ี กบ็ ไว้ในเสอื้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย หา้ มใสส่ รอ้ ย
คออ่นื ๆ โดยเดด็ ขาด
- ตา่ งหู ให้ใชเ้ ฉพาะนกั เรยี นหญงิ ทเ่ี จาะหขู า้ งละ 1 รู เปน็ กา้ นพลาสตกิ ใส โลหะ
หรือวัสดุธรรมชาติ หากเป็นหว่ งต้องมีเสน้ ผ่าศนู ย์กลางไม่เกนิ 1 เซนติเมตร ไม่หนา
- ต่างหหู า้ มนักเรยี นชายเจาะและใส่ต่างหู
50 คมู่ อื นักเรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
หมวดท่ี 4
คณุ สมบตั ขิ องนักเรียน
S โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รังสติ
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
ข้อ 18 นกั เรียนโรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รังสิต ท่ดี พี ึงปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
1. นักเรียนต้องมีเครื่องแต่งกาย เคร่ืองแบบนักเรียนและเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ครบ
ตามท่ีโรงเรยี นกำ� หนด
2. นกั เรยี นตอ้ งแต่งกาย และประพฤติตนตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คับของกระทรวง
ศกึ ษาธิการ และระเบียบของโรงเรียน
3. นกั เรยี นตอ้ งเช่อื ฟัง และปฏิบตั ติ นอยู่ในโอวาทของครู
4. นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นนักเรียน
ดว้ ยการไมส่ ูบหรือเสพสิ่งเสพติดใด ๆ ไม่เล่นการพนนั ไม่ประพฤติในทางชสู้ าว ไม่ม่วั สมุ
ในอบายมขุ ตา่ ง ๆ
5. นักเรียนต้องประพฤติ และปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเมือง จารีตประเพณี
และวฒั นธรรมอันดงี าม
6. นกั เรยี นต้องขยัน ประหยัด ซอ่ื สตั ย์ ตรงต่อเวลา มนี ้�ำใจนักกีฬา และยึดมัน่
ในศีลธรรม จรยิ ธรรม และคุณธรรมท่ดี ี
7. นักเรียนต้องสุภาพอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะต่อบุคคลท่ัวไป พึงปฏิบัติตนให้
เหมาะสมตามวัย เพศ และสถานภาพแห่งตน
8. นกั เรยี นตอ้ งมคี วามเสยี สละ เออื้ เฟอ้ื เผอื่ แผ่ เหน็ ประโยชนส์ ว่ นรวม รกั ษาทรพั ย์
สมบัติของโรงเรียน ของสังคมท่ัวไป มีความสามัคคีในหมู่คณะ รุ่นน้องนับถือรุ่นพ่ี
และรุ่นพป่ี ระพฤติปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ปน็ ตวั อย่างท่ดี ีแก่รุ่นน้อง
9. นกั เรยี นตอ้ งสรา้ งและดำ� รงไวซ้ งึ่ ชอ่ื เสยี งของโรงเรยี น ไมก่ ระทำ� การใด ๆ อนั เปน็
การท�ำลายชอื่ เสียงของโรงเรียนโดยเดด็ ขาด
10. นกั เรยี นตอ้ งพฒั นาศกั ยภาพ และสมรรถภาพของตนตลอดเวลา ทง้ั ดา้ นรา่ งกาย
จิตใจ สงั คม อารมณ์ สตปิ ัญญา และความรู้ความสามารถท่ีจะน�ำไปศึกษาต่อ ประกอบ
อาชีพ และช่วยเหลอื สงั คม
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รงั สติ 51
Suankularbwittayalai Rangsit School
11. ไมเ่ ล่นตามบรเิ วณตา่ ง ๆ ในเวลาท่ีมีการเรยี นการสอนตามตารางเรยี น ยกเวน้
เวลาเช้าก่อนเข้าแถว พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน และต้องอยูในเคร่ืองแบบนักเรียน
ท่ีเรียบรอ้ ยตลอดเวลา
หมวดที่ 5
S การมาโรงเรียนและการเข้าเรียน
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
ขอ้ 19 การปฏบิ ตั ติ นในการมาโรงเรียนและการเข้าห้องเรียน
1. แตง่ กายดว้ ยเครอื่ งแบบนกั เรยี น หรอื เครอื่ งแบบท่ีโรงเรยี นกำ� หนดและเรยี บรอ้ ย
ตลอดเวลาท่ีเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน ขณะอยู่ในโรงเรียนและออกไปท�ำกิจกรรม
นอกบรเิ วณโรงเรยี น
2. แต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเท้าแตะเข้ามา
ในบริเวณโรงเรียนไม่วา่ จะมาติดตอ่ ราชการ หรือกระท�ำกจิ กรรมใด ๆ ก็ตาม
3. ไม่อนญุ าตให้นกั เรียนขับรถยนตส์ ่วนตวั เขา้ มาในโรงเรียน กรณผี ปู้ กครองนำ� รถ
มาส่งให้นักเรียนลงจากรถในสถานที่ท่ี โรงเรียนก�ำหนด นักเรียนท่ี ใช้จักรยานหรือ
จักรยานยนต์เป็นพาหนะให้จอดหน้าประตูและน�ำจักรยานหรือจักรยานยนต์ไปจอดในที่ท่ี
กำ� หนด ขากลบั ให้น�ำจกั รยานหรือจักรยานยนต์ออกไปนอกโรงเรยี นก่อนขบั ขี่
4. ไม่พกพาอาวธุ
5. ไม่น�ำของมคี ่ามาโรงเรยี น
6. ไม่ตกแต่งเคร่อื งประดับใด ๆ มาโรงเรียนทงั้ ส้ิน
7. มาถึงโรงเรยี นก่อนเวลา 07.40 น.
8. รับการตรวจความเรียบร้อยจากครูเวรประจ�ำวันก่อนเข้าออกโรงเรียนทุกวัน
9. เข้าแถวเคารพธงชาติกอ่ นเข้าเรียนในตอนเชา้ ทกุ วัน
10. ไมอ่ อกจากโรงเรยี นกอ่ นเวลาเลกิ เรยี นโดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต
11. ไมอ่ ยู่ในบริเวณโรงเรียนโดยไมม่ ีครคู วบคุมเกนิ เวลาท่ีโรงเรยี นก�ำหนด
12. เข้าห้องเรยี น เขา้ ห้องประชมุ หรือเข้ารว่ มกจิ กรรมอย่างพร้อมเพรียงทกุ คร้งั
13. ต้องมีความเคารพ ส�ำรวม และรกั ษาระเบยี บวินยั
14. ท�ำความเคารพครู และผู้มาเยี่ยม เม่ือพบปะในบริเวณโรงเรียนด้วยการไหว้
ท่ีเหมาะสมและสมำ�่ เสมอ
52 คู่มอื นักเรยี นและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
15. เม่อื มคี วามจำ� เป็นตอ้ งหยดุ เรียน นกั เรียนหรือผู้ปกครองต้องแจง้ ให้ทาง
โรงเรยี นทราบเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรโดยด่วน
16. ไม่น�ำสินค้าและบริการทุกประเภทมาจำ� หนา่ ยในบริเวณโรงเรยี น
17. ไม่น�ำหนังสือ เอกสาร และแผ่นประกาศมาแจก หรือติดประกาศในบริเวณ
โรงเรยี น
18. ไมน่ ำ� บคุ คลภายนอกเขา้ มาในบรเิ วณโรงเรยี นโดยมิไดร้ บั อนญุ าตจากทางโรงเรยี น
19. ไมน่ ำ� อาหาร และเครอ่ื งดมื่ เขา้ ไปรบั ประทานในหอ้ งเรยี น หรอื บรเิ วณอนื่ นอกจาก
โรงอาหาร เว้นแต่ไดร้ บั อนญุ าตเปน็ ครัง้ คราว
20. ไม่เข้าไปในบริเวณที่เป็นเขตหวงห้าม หรือพื้นที่ท่ีโรงเรียนประกาศ ห้ามเข้า
เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพเิ ศษ
21. ไมเ่ ขา้ ไปในสถานทท่ี ่ีไมเ่ หมาะสมในระหวา่ งเดนิ ทางไปกลบั โรงเรยี นโดยเดด็ ขาด
ข้อ 20 การปฏบิ ัติตนในพิธีการหน้าเสาธงก่อนเข้าห้องเรยี น
1. สัญญาณเตือนโรงเรียน เวลา 07.40 น. นักเรียนมาเข้าแถวหน้าห้องโฮมรูม
ของตนเอง (ยกเว้นวันท่ีมคี าบส่งเสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรมฯ ใหเ้ ข้าแถวบรเิ วณโดม และวัน
ที่ โรงเรียนก�ำหนดให้เข้าแถวตามคณะสี) จัดแถวให้เป็นระเบียบภายใต้การควบคุม
ของคณะกรรมการนักเรียน หัวหน้าห้องเรียน ครูที่ปรึกษา หัวหน้าระดับช้ัน ครูเวร
ประจำ� วนั และครฝู า่ ยบรหิ ารกิจการนักเรยี น
2. นักเรียนทุกคนอยู่ในความสงบ หัวหน้านักเรียนที่ได้รับมอบหมายบอกเคารพ
ธงชาติ นักเรียนทุกคนต้องร้องเพลงชาติ เพลงประจ�ำโรงเรียน สวดมนต์ไหว้พระ และ
แผ่เมตตา
3. ครเู วรประจำ� วนั แจง้ เรอ่ื ง หรอื ประกาศขา่ วประจำ� วนั โดยนกั เรยี นทกุ คนตอ้ งน่ัง
ฟงั ด้วยความสงบ ส�ำรวม ไม่พูดคุย หรอื ทำ� กจิ กรรมใด ๆ จากน้ันครหู รือหวั หนา้ นักเรยี น
ส่ังใหน้ กั เรียนเขา้ ห้องเรียน
4. การเดินเข้าห้องเรียนต้องเดินเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่คุย เล่น หรือเดิน
แตกแถว
5. นกั เรยี นทมี่ าถงึ โรงเรยี นขณะทำ� พธิ กี ารหนา้ เสาธง 07.50 น . ครเู วรกกั นกั เรยี น
ใหร้ อจนกวา่ เสรจ็ พธิ ี ถา้ นกั เรยี นมาสายตง้ั แต่ 08.15 น. หวั หนา้ ระดบั บนั ทกึ ขอ้ มลู นกั เรยี น
ที่มาสาย และให้นักเรียนกรอกแบบบันทึกขออนุญาตเข้าห้องเรียน เมื่อครูผู้สอนลงช่ือ
อนญุ าตให้เขา้ ห้องเรียนแล้ว นักเรยี นตอ้ งนำ� แบบบนั ทกึ มาส่งท่หี อ้ งฝ่ายกจิ การนกั เรยี น
โรงเรยี นสวนกุหลาบวทิ ยาลยั รังสติ 53
Suankularbwittayalai Rangsit School
ขอ้ 21 การปฏบิ ตั ิตนในการเข้าหอ้ งประชมุ
1. นักเรียนทุกคนต้องรับผิดชอบว่าเป็นหน้าท่ีของตนท่ีจะต้องเข้าร่วมการประชุม
ทุกคร้ังตามวัน เวลา และสถานท่ีท่ีโรงเรียนก�ำหนด ผู้ท่ีไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
จะตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากครูทปี่ รึกษา ครูเวรประจ�ำวัน ครูประจ�ำคณะสี เปน็ ลายลกั ษณ์
อักษร
2. เดนิ เขา้ หอ้ งประชมุ อยา่ งมรี ะเบยี บ นงั่ ประจำ� ทตี่ ามทก่ี ำ� หนดไว้ และอยู่ในอาการ
สงบ ส�ำรวมตลอดเวลาการประชมุ
3. นักเรียนท�ำความเคารพเมื่อผู้ให้การอบรมเข้ามา และจะออกจากห้องประชุม
โดยหัวหน้านักเรยี นจะบอกทำ� ความเคารพ
4. ไม่ออกและเขา้ หอ้ งประชมุ ในขณะที่มีการประชมุ กอ่ นไดร้ บั อนญุ าต
ขอ้ 22 การปฏิบตั ิตนในห้องเรียน
1. เข้าและออกจากห้องเรยี นโดยพร้อมเพรยี งกัน
2. ดแู ลความสะอาดและความเรยี บรอ้ ยของหอ้ งเรยี นกอ่ นทจ่ี ะมกี ารเรยี นการสอน
3. แต่งกายดว้ ยชุดแตง่ กายท่ีโรงเรยี นกำ� หนด ในการเรียนแตล่ ะวชิ าในลกั ษณะท่ี
เรยี บรอ้ ย
4. ทำ� ความเคารพครผู สู้ อน หรอื วทิ ยากร กอ่ นและหลงั จากสนิ้ สดุ การเรยี นการสอน
5. ใหค้ วามสนใจเฉพาะวิชาทกี่ ำ� ลังเรยี นอย่เู ท่าน้นั ไม่นำ� วิชาอ่ืนมาทำ� โดยไม่ได้รบั
อนญุ าต
6. ไตถ่ ามปญั หา เสนอแนะ หรอื ใหข้ อ้ คดิ เหน็ ในขณะมกี ารเรยี นการสอนดว้ ยความ
สภุ าพ
7. ในขณะมีการเรียนการสอนนักเรียนควรแสดงออกซ่ึงการใฝ่รู้ ใฝ่เรียนและ
มสี ัมมาคารวะ
8. ขออนญุ าตผสู้ อนหรอื วทิ ยากร กอ่ นจะทำ� การใด ๆ ทเ่ี ปน็ การขดั จงั หวะการเรยี น
การสอน หรอื เมื่อตอ้ งการทจี่ ะแสดงความคดิ เห็น หรอื ลุกไปตดิ ตอ่ กบั เพ่อื นในหอ้ ง
9. เม่ือต้องเปลี่ยนห้องเรียนต้องเข้าแถวทั้งไปและกลับด้วยความรวดเร็วและเป็น
ระเบียบเรียบร้อย โดยมหี ัวหน้าช้ันเรยี นเปน็ ผู้น�ำและดูแล
10. ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ และข้อบังคับในการใช้ห้องต่าง ๆ ตามท่ีโรงเรียน
กำ� หนดไวอ้ ยา่ งเครง่ ครดั
11. หา้ มขีดเขียน ขอ้ ความใด ๆ ลงบนโต๊ะเรียน
12. หา้ มนำ� อาหารเขา้ มารับประทาน ในหอ้ งเรยี น
13. ห้ามทำ� ลายทรพั ย์สมบัตขิ องโรงเรียน
54 คมู่ ือนกั เรยี นและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
หมวดที่ 6
S แกลาะกราลรขาอกอนาุญรขาตาดออเรกียนนอกบรเิ วณโรงเรียน
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
ขอ้ 23 การขออนุญาตออกนอกห้องเรยี น
1. ในระหวา่ งทม่ี ชี วั่ โมงเรยี น นกั เรยี นจะตอ้ งอยู่ในหอ้ งเรยี น จะไปอยู่ในทอ่ี น่ื ใดไม่ได้
เว้นแต่จะได้รบั อนญุ าตจากครผู สู้ อนในช่ัวโมงน้ัน ๆ เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร
2. ไมอ่ นญุ าตใหอ้ อกจากหอ้ งเรยี นในคาบเรยี นแรกทเ่ี ขา้ หอ้ งเรยี นทงั้ ในตอนเชา้ และ
หลงั จากพกั กลางวัน
3. หากมีความจำ� เป็นต้องออกจากโรงเรียน เชน่ ป่วย ใหข้ ออนุญาตตอ่ ครผู สู้ อน
ในขณะน้ันเป็นลายลักษณอ์ กั ษร
4. ในกรณที คี่ รไู มอ่ ยู่ในหอ้ งเรยี นใหน้ กั เรยี นอยู่ในหอ้ งเรยี นดว้ ยความสงบเรยี บรอ้ ย
ไม่ส่งเสียงหรือกระทำ� การใด ๆ อันเปน็ การรบกวนห้องเรยี นใกล้เคียง
5. ในกรณีนักเรียนป่วยต้องมีใบอนุญาตจากครูผู้สอนหรือครูประจ�ำชั้นมาย่ืนต่อ
เจ้าหน้าที่พยาบาลเพ่อื ขอยา หรอื นอนพกั ที่ห้องพยาบาล
ขอ้ 24 การขออนุญาตออกนอกบรเิ วณโรงเรียน
1. นักเรียนต้องมีผู้ปกครองมาขออนุญาตด้วยตนเอง โดยกรอกแบบขออนุญาต
ทฝี่ ่ายบรหิ ารกจิ การนกั เรียน
2. การลาเปน็ สิทธเิ ฉพาะตัวจะลาแทนกันไม่ได้ ยกเว้นกรณีป่วยหนกั
3. ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติในการลานกั เรยี นกรอกข้อความขออนญุ าต เสนอฝ่ายบรหิ าร
กจิ การนักเรยี น
4. ครฝู า่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรียนอนญุ าตและลงทะเบยี น เก็บหลักฐานไว้สว่ นหนง่ึ
พร้อมหนงั สือขออนุญาตจากผู้ปกครอง โดยฉีกใหน้ กั เรียนตดิ ตัวไปสว่ นหนงึ่
5. กรณีที่นักเรียนไปท�ำธุระและกลับมาโรงเรียนอีกจะต้องมาติดต่อที่ฝ่ายบริหาร
กจิ การนกั เรยี น เพอ่ื ลงทะเบยี นเปน็ หลกั ฐาน และมอบเอกสารการอนญุ าตคนื ฝา่ ยบรหิ าร
กจิ การนกั เรียนพร้อมกับรบั ใบอนญุ าตเข้าห้องเรียน
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รังสติ 55
Suankularbwittayalai Rangsit School
ขอ้ 25 การลาหยุดเรียน
1. ตอ้ งยื่นใบลาตามแบบฟอรม์ ใบลาท่ีถกู ตอ้ ง หรือแบบที่โรงเรียนก�ำหนด
2. การย่ืนใบลาป่วยต้องยื่นใบลาป่วยอย่างช้าในวันรุ่งข้ึน ถ้ามีใบรับรองแพทย์
นำ� มามอบใหค้ รทู ปี่ รกึ ษาทนั ทหี ลงั จากทหี่ ายปว่ ย และแจง้ ฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรยี นทราบ
3. การย่ืนใบลากิจต้องยื่นก่อนวันลา หรือฝากใบลามาให้ในวันที่หยุดน้ัน กรณี
มีความจ�ำเป็นตอ้ งแจ้งให้ฝา่ ยบรหิ ารกิจการนกั เรยี นทราบ
ขอ้ 26 การขาดเรียน
1. ถ้านักเรียนขาดเรียนหรือมาสายให้ครูท่ีปรึกษาบันทึกข้อมูลในสมุดบันทึก
การมาเรียน ส่งฝ่ายบริหารกจิ การนกั เรยี นภายในเวลา 09.30 น. เพอ่ื ลงทะเบยี นทกุ วนั
2. ถา้ ขาดเรยี นโดยไมแ่ จง้ ใหท้ ราบหรอื ไมจ่ ดั สง่ ใบลาตดิ ตอ่ กนั 3 วนั ทางโรงเรยี น
โดยฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรยี น จะมจี ดหมายลงทะเบยี นหรอื โทรศพั ทแ์ จง้ ผปู้ กครองทราบ
3. ถ้าขาดเรียนติดต่อกัน 5 วัน โดยไม่แจ้งให้ทราบหรือไม่จัดส่งใบลาโรงเรียน
ฝ่ายบรหิ ารกิจการนกั เรียน จะมจี ดหมายลงทะเบียนเชญิ ผปู้ กครอง
4. ถ้าขาดเรียนติดต่อกัน 7 วัน โดยไม่แจ้งให้ทราบหรือไม่จัดส่งใบลาโรงเรียน
ฝ่ายบริหารกิจการนกั เรียน จะมีจดหมายลงทะเบียนเชิญผู้ปกครองอกี ครั้ง
ข้อ 27 การมาสาย
กลมุ่ สีเหลอื งครบ 7 ครง้ั เทา่ กบั สาย 1 ครั้ง และสายต้ังแตค่ รัง้ ที่ 16 เป็นตน้ ไป
(หรอื มากกว่า 15 คร้ังขึน้ ไป) จะถกู ตดั คะแนนวันละ 5 คะแนน
S กหมารวดทท�ำ ี่ค7วามเคารพ
UANRKAUNLGASRITBWSCITHTOAYOALLAI
ขอ้ 27 การทำ� ความเคารพในหอ้ งเรยี น
1. เม่ือครูเข้าห้องสอนทุกครั้งให้หัวหน้านักเรียนบอกท�ำความเคารพ โดยใช้ค�ำ
บอกวา่ “นกั เรยี น” นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งอยู่ในลกั ษณะพรอ้ มแลว้ จงึ สง่ั ตอ่ วา่ “เคารพ” นกั เรยี น
ทกุ คนยกมอื ไหวพ้ รอ้ มกบั พดู วา่ “สวสั ดคี รบั -สวสั ดคี ะ่ ” เมอ่ื ครตู อบวา่ “สวสั ดคี รบั -สวสั ดคี ะ่ ”
นักเรยี นจงึ เอามือลง
2. การถามตอบในคาบเรียนใหน้ กั เรยี นยกมือ เม่อื ได้รบั อนญุ าตจึงยนื ข้นึ พูดกับครู
ในทา่ ตรง เมอื่ หมดคาบเรยี นให้ปฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกับตอนเข้าสอนนักเรียนทุกคนกล่าวพรอ้ ม
กนั วา่ “ขอบคุณครบั -ขอบคณุ คะ่ ”
3. เมื่อครูท่านอื่นเข้ามาในห้อง ขณะที่ ไม่มีครูสอนประจ�ำวิชาน้ันอยู่ในห้อง
56 คมู่ ือนักเรยี นและผูป้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ใหน้ ักเรียนบอกทำ� ความเคารพเชน่ เดียวกนั
ข้อ 28 การท�ำความเคารพในโอกาสตา่ ง ๆ
1. เม่ืออยู่ในโรงเรียนพบครูหรือผู้ใหญ่เดินผ่านมา ให้ท�ำความเคารพด้วยการ
ยืนตรงและยกมือไหว้ พร้อมกับกล่าวว่า “สวัสดีครับ-สวัสดีค่ะ” ถ้าแต่งเครื่องแบบ
ลกู เสอื -เนตรนารี ใหท้ ำ� ความเคารพโดยวนั ทยาหตั ถ์
2. เมอ่ื พบครนู อกบรเิ วณโรงเรยี น ใหท้ ำ� ความเคารพดว้ ยการไหวต้ ามความเหมาะสม
และทักทายดว้ ยความสภุ าพ
3. ในกรณที ่มี ผี ู้มาตรวจเยย่ี มโรงเรียนมาในหอ้ งเรยี น ให้ครูท่คี วบคุมหอ้ งขณะนน้ั
หรือหัวหน้าห้องเรียนเป็นผู้บอกท�ำความเคารพ ถ้าอยู่นอกห้องเรียนหรือบริเวณอ่ืน ๆ
ให้หยดุ ยนื ตรงแล้วทำ� ความเคารพด้วยการไหว้ พร้อมกลา่ วคำ� วา่ “สวัสดคี รับ-สวสั ดคี ่ะ”
หมวดท่ี 8
S การปฏิบัติตนทว่ั ไป
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
ขอ้ 29 การใชห้ อ้ งสุขา
1. ไมม่ ว่ั สมุ หรอื คยุ กนั เสยี งดงั บรเิ วณหอ้ งสขุ า หรอื ทำ� กจิ กรรมอนื่ ๆ ในหอ้ งสขุ า
2. ไม่ขดี เขียนตัวหนงั สอื รูป หรือข้อความใด ๆ บนฝาผนังหอ้ ง
3. นกั เรียนตอ้ งชว่ ยกันรกั ษาความสะอาดหอ้ งสขุ า
ขอ้ 30 การซ้ืออาหารและการรบั ประทานอาหาร
1. ให้เรยี งตามลำ� ดบั กอ่ นหลังตามแนวปฏบิ ตั ิที่โรงเรยี นก�ำหนด
2. จะตอ้ งรบั ประทานอาหารในโรงอาหารเทา่ น้ัน
3. ไมค่ ุยเสียงดัง หรือคุยขา้ มโตะ๊ ไมพ่ ูดคุยเรอื่ งน่ารังเกยี จไมส่ ภุ าพในโรงอาหาร
4. นั่งรับประทานอาหารอย่างสุภาพ ไม่ยืนหรือเดินรับประทาน ไม่ท�ำอาหารตก
ออกนอกภาชนะ ไม่ท้ิงเศษอาหารบนโตะ๊ หรอื พ้ืนโรงอาหาร
5. เมือ่ รบั ประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ให้เกบ็ เศษอาหารใสภ่ าชนะรองรบั ตามที่
โรงเรียนก�ำหนดและน�ำภาชนะไปแลกบตั รประกันภาชนะ โดยใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบียบการใช้
โรงอาหารของโรงเรยี นอย่างเคร่งครดั
6. หา้ มน�ำภาชนะและอาหารออกนอกโรงอาหารโดยเด็ดขาด ยกเว้นนำ�้ เปล่า
7. รบั ประทานอาหาร ในชว่ งเวลาพกั หรือเวลาที่โรงเรียนก�ำหนดเทา่ นน้ั
8. ไมอ่ นุญาตให้สงั่ อาหารจากภายนอกมารับประทาน
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รงั สติ 57
Suankularbwittayalai Rangsit School
ขอ้ 31 ขอ้ ปฏบิ ัตเิ มือ่ ทำ� ของหายหรอื เก็บของได้
1. เม่ือนักเรียนท�ำของหายให้แจ้งครูเวรประจ�ำวัน หรือครูฝ่ายบริหารกิจการ
นักเรียน
2. เม่ือนักเรยี นได้รบั ของคนื แลว้ ให้ไปแสดงความขอบคณุ ตอ่ ผูท้ ่เี กบ็ ของได้
3. เมื่อเก็บของได้ให้นักเรียนน�ำไปแจ้งครูฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน เพื่อบันทึก
ข้อมูลคนดลี กู สวน และประกาศหาเจ้าของตอ่ ไป
ขอ้ 32 การปฏิบัติตนในการใชอ้ าคารเรียน
1. ใช้โต๊ะเก้าอ้ี โดยไม่น่ังโยกเก้าอ้ี ไม่เคล่ือนโต๊ะเก้าอี้ออกจากแถวท่ีจัดไว้
อย่างเรียบร้อยแล้ว
2. ไม่น่งั บนโต๊ะ ขอบหน้าตา่ ง หรอื ท่ีอนั ไมเ่ หมาะสม
3. รักษาความสะอาดของโตะ๊ เกา้ อ้ี และพน้ื ห้องเรียน ด้วยการไมท่ ง้ิ เศษกระดาษ
และเศษวสั ดุ หรอื ถม่ นำ้� ลาย สง่ั นำ�้ มกู ลงบนพน้ื ไมเ่ ขยี นหรอื แกะสลกั ขอ้ ความ หรอื รปู ใด ๆ
ลงบนโต๊ะ เกา้ อ้ี ฝาผนังห้อง พืน้ ห้อง ประตู หนา้ ต่าง
4. ไมน่ ง่ั ตามขอบระเบียง ไมน่ อนพกั ผ่อนหรือว่ิงเล่นบริเวณระเบยี งกนั สาด
5. ไมน่ ำ� โตะ๊ เกา้ อ้ี หรืออปุ กรณต์ า่ ง ๆ ในห้องเรยี นออกจากหอ้ งเรียน
6. ปิดไฟ ปดิ พดั ลม ปิดเครอื่ งปรบั อากาศทุกครง้ั หลังจากใชห้ อ้ งเสรจ็ แลว้
7. ไมเ่ ปิด หรอื เลน่ เครอ่ื งดบั เพลงิ โดยเดด็ ขาด
8. ไม่ข้ึนไปบนชนั้ ดาดฟ้า โดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต
9. ปฏิบัติตามกฎ และระเบยี บของการใช้หอ้ งและอาคาร ตามที่โรงเรียนกำ� หนด
ไว้อยา่ งเครง่ ครัด
ขอ้ 33 การปฏิบตั ิตนในการใช้สนามและบรเิ วณโรงเรียน
1. ใชส้ นามตามวนั และเวลาที่โรงเรียนกำ� หนด
2. ไม่ใช้สนามในเวลาท่สี นามเปยี ก
3. ไม่เลน่ ในบรเิ วณท่ีโรงเรยี นจดั ไวเ้ ป็นเขตหวงหา้ ม
4. ไมเ่ ดินลดั สนาม
5. ไมน่ อนเลน่ บรเิ วณมา้ หนิ ออ่ น โตะ๊ ไมซ้ มุ้ แปดเหลย่ี ม และไมน่ งั่ โดยเอาเทา้ เหยยี บ
หรอื ยนื บนโตะ๊
6. ไม่ท�ำลายดอกไม้และต้นไม้ทจ่ี ดั ปลกู ไว้ในบริเวณโรงเรียน
7. ไมท่ ิง้ เศษกระดาษ เศษวสั ดุ เศษอาหาร ภาชนะต่าง ๆ ทท่ี �ำใหบ้ ริเวณโรงเรียน
สกปรก
8. เมอ่ื พบเศษกระดาษ เศษวัสดุตกบนพืน้ ใหเ้ ก็บท้ิงลงภาชนะรองรบั
58 คูม่ อื นักเรียนและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
9. ไม่สง่ เสยี งดัง ตะโกน หรือแสดงอาการไม่สภุ าพใด ๆ ในบริเวณโรงเรยี น
10. ไม่ขีดเขยี นขอ้ ความใด ๆ บนโต๊ะหรอื เกา้ อท้ี ี่ทางโรงเรยี นจัดไว้ให้นงั่
11. ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อบังคับในการใช้สนาม และบริเวณโรงเรียน
ตามท่ีโรงเรยี นก�ำหนด โดยเคร่งครดั
ข้อ. 34 การปฏิบัติตนในการใชล้ ิฟต์
1. กดปุ่มหนา้ ชนั้ เฉพาะทิศทางท่จี ะขึ้นหรือลงเท่านั้นโดยกดให้ไฟตดิ เพียงครั้งเดียว
2. เมือ่ เขา้ ลิฟต์แลว้ ใหร้ บี เดนิ เขา้ ไปดา้ นในและพยายามยืนโดยการกระจายนำ�้ หนกั
และไม่ยนื ขวางประตู
3. กดป่มุ ภายในลฟิ ต์เฉพาะชั้นท่ีต้องการจะไปเท่าน้นั
4. ระหว่างท่ีโดยสารอยู่ในลิฟต์ หา้ มเลน่ ผลกั กระโดด กระแทก หรอื ยนื พงิ
บานประตูลฟิ ต์
5. หา้ มขีดเขยี น ปิด แปะ แผน่ ภาพ หรือสิ่งพิมพ์ใดๆ บนผนงั ลิฟต์
6. หา้ มเลน่ ฉดี นำ�้ บรเิ วณหนา้ ลฟิ ตแ์ ละในตลู้ ฟิ ต์ เพราะอาจจะเกดิ ไฟฟา้ ลดั วงจรได้
กรณีเกิดเหตุ ฉกุ เฉนิ ลฟิ ต์ค้างให้กดปมุ่ “EMERGENCY CALL” เพอื่ ติดตอ่
ครใู ห้ความช่วยเหลอื
7. หา้ มใชล้ ิฟต์ในระหว่างการปรับปรุงซอ่ มแซม
8. หา้ มใช้ลิฟต์ในขณะเกิดไฟไหม้
9. หากพบอุปกรณ์ช�ำรุด ไฟสัญญาณต่าง ๆ ไม่ท�ำงาน หรือพบเห็นส่ิงผิดปกติ
ใหร้ บี แจ้งครูทันที
10. ควรหลีกเหลี่ยงการใช้ลิฟต์ในขณะทเี่ กดิ พายฟุ ้าคะนอง หรือฝนตกหนัก หรือ
ขณะเกดิ แผน่ ดนิ ไหว เพราะลิฟตอ์ าจคา้ งได้
ข้อ 35 ให้รองผอู้ �ำนวยการฝ่ายบริหารกิจการนกั เรยี นรกั ษาการใหเ้ ปน็ ไปตาม
ระเบียบนี้
ขอ้ 36 ให้ ใชร้ ะเบยี บน้ีตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี 1 เมษายน 2564
(นายชาลี วัฒนเขจร)
ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั รังสติ
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รังสิต 59
Suankularbwittayalai Rangsit School
ระเบียบโรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รังสติ
วา่ ด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ. 2564
.....................................................................
เน่ืองจากโรงเรยี นมคี วามประสงค์ท่ีจะปลกู ฝงั อบรมนักเรียนให้อยู่ในระเบียบวินัย
มีคุณธรรม จรยิ ธรรม สามารถที่จะดำ� รงชวี ติ ในโรงเรยี น ครอบครัวและในสังคม ได้อยา่ ง
มคี วามสขุ และเปน็ ประชากรทีม่ คี ณุ ภาพของชาติ จงึ ได้ก�ำหนดระเบียบปฏิบตั ิตน สำ� หรับ
นักเรียนดังตอ่ ไปน้ี
ข้อ 1 ระเบียบนเ้ี รียกวา่ ระเบยี บโรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รงั สิต วา่ ดว้ ย
การลงโทษนกั เรียน พ.ศ. 2564
ต้งั แตว่ นั ใชร้ ะเบยี บน้ีใหย้ กเลกิ ระเบยี บหรอื หลกั ปฏิบัติอ่นื ใดทีข่ ดั แย้งกับระเบยี บนี้
ข้อ 2 นกั เรียนทีป่ ระพฤตขิ ดั ต่อระเบยี บตอ่ ไปน้ถี อื วา่ มีความผิด
2.1 ลักษณะความผิดประเภทที่ 1
2.1.1 การแตง่ กาย
2.1.2 การไว้ทรงผม
2.1.3 การมาโรงเรียนและเขา้ เรยี นสาย
2.1.4 การขาดเรยี นในระหว่างชว่ั โมง
2.1.5 การหนีโรงเรียน
2.1.6 การออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รบั อนญุ าต
2.1.7 การหลกี เลย่ี งพธิ ีการหนา้ เสาธง
2.1.8 การขาดเรยี น
2.1.9 มพี ฤตกิ รรมหรอื การแสดงออกไมเ่ หมาะสมกบั การเปน็ นกั เรยี น
2.1.10 การใช้เคร่ืองประดับที่ไม่มคี วามจ�ำเป็น
2.1.11 การนำ� ยานพาหนะเขา้ มาภายในบรเิ วณโรงเรียน โดยไม่ไดร้ บั
อนญุ าต
2.1.12 แตง่ กายไมเ่ หมาะสมเขา้ มาในวนั หยดุ ราชการ
60 คมู่ อื นกั เรียนและผูป้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
2.1.13 ไม่รว่ มกิจกรรมของโรงเรียนโดยไมม่ เี หตุผลสมควร
2.1.14 ส่งเสียงอึกทึกก่อความร�ำคาญ
2.1.15 การใชว้ าจาหยาบคาย
2.1.16 การมว่ั สมุ ในบรเิ วณโรงเรียน
2.2 ลกั ษณะความผิดประเภทท่ี 2
2.2.1 การทะเลาะวิวาท หรอื การกระท�ำอนั ก่อใหเ้ กิดความ
แตกความสามัคคี
2.2.2 การสบู บุหร่ี เสพของมนึ เมา และสิ่งเสพติดให้โทษ
2.2.3 การเล่นการพนัน
2.2.4 การพกอาวุธ หรือนำ� อาวธุ มาโรงเรยี น หรอื พกตดิ ตวั
2.2.5 การกระท�ำอันน�ำมาซึ่งความเสื่อมเสียของโรงเรียน การก่อ
ความไม่สงบท่ีท�ำให้เกิดความสับสน และวุ่นวายในโรงเรียน
2.2.6 ชู้สาว
2.2.7 การบบี บงั คบั หรอื ขเู่ ขญ็ เพอื่ นนกั เรยี นดว้ ยกนั เพอ่ื ประสงคท์ รพั ย์
หรอื เจตนาอื่น ๆ ท่ีไม่ได้รับการยินยอม
2.2.8 การปลอมตนเพื่อแสวงหาประโยชน์เพือ่ ตนเองหรอื ผู้อนื่
2.2.9 การขดั ขวางการปฏบิ ัตหิ น้าท่ขี องครทู ่ปี ฏบิ ตั หิ น้าท่ีโดยชอบ
2.2.10 ทำ� ลายทรพั ยส์ นิ ของเพอื่ นนกั เรยี น ครู บคุ คลอนื่ และของโรงเรยี น
2.2.11 น�ำหนงั สอื หรือสิง่ ลามกอนาจารเขา้ มาในโรงเรียน
2.2.12 เที่ยวเรร่ ่อนและม่วั สมุ ในทส่ี าธารณะ หรือในสถานเรงิ รมย์
2.3 ลกั ษณะความผดิ ประเภทที่ 3
2.3.1 การลักทรัพย์
2.3.2 การกา้ วรา้ วยยุ งใหเ้ กดิ ความเสอ่ื มเสยี ตอ่ ครู โดยวาจาหรอื ขดี เขยี น
2.3.3 ประทุษรา้ ย ทำ� รา้ ยเพือ่ นนกั เรียน ครหู รือนักเรยี น
ขอ้ 3 การลงโทษ มี 3 ขน้ั ตอน ดงั นี้
3.1 วา่ กลา่ วตักเตือน
3.2 ท�ำทัณฑบ์ น
3.3 ตัดคะแนนความประพฤติ
3.4 ท�ำกิจกรรมเพ่ือให้ปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรม
โรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสติ 61
Suankularbwittayalai Rangsit School
ขอ้ 4 นกั เรยี นทป่ี ระพฤตผิ ดิ ตามระเบยี บขอ้ ท่ี 2 จะไดร้ บั โทษลกั ษณะตา่ ง ๆ
ดงั ตอ่ ไปนี้
4.1 วา่ กลา่ วตักเตือน
4.2 ท�ำทณั ฑบ์ น
4.3 ตัดคะแนนความประพฤติ
4.4 ท�ำกิจกรรมเพอื่ ให้ปรับเปล่ยี นพฤติกรรม
ขอ้ 5 ขัน้ ตอนในการลงโทษนักเรียนท่ีประพฤตผิ ิดระเบียบ ประเภท 1 จะได้
รบั โทษ ตามข้อท่ี 1 โดยมีขั้นตอนดงั น้ี
5.1 วา่ กล่าวตักเตือน
5.2 ท�ำทัณฑ์บน
5.3 ตดั คะแนนความประพฤติ
5.4 ท�ำกจิ กรรมเพื่อใหป้ รับเปล่ียนพฤตกิ รรม
ขอ้ 6 นกั เรียนท่ีประพฤติผิดระเบยี บ ประเภทที่ 2 จะไดร้ ับโทษตาม ข้อที่ 4
ตามความหนักเบาแหง่ ความผิด ดงั นี้
6.1 ความผดิ ตามขอ้ 2.2 จะไดร้ บั โทษตงั้ แตข่ อ้ 5.2 ถงึ 5.4 ตามความเหมาะสม
6.2 ความผดิ ตามขอ้ 2.3 จะไดร้ บั โทษตงั้ แตข่ อ้ 5.3 ถงึ 5.4 ตามความเหมาะสม
ข้อ 7 การพิจารณาเมื่อนักเรียนกระท�ำความผิดถึงแม้ว่าจะเป็นความผิด
คร้งั แรกกต็ าม แตเ่ ปน็ ความผดิ ร้ายแรงทจี่ งใจกระทำ� หรอื ในกรณีท่ีมีการกระท�ำผิด
ร้ายแรงนอกเหนือจากที่กล่าวไว้ในระเบียบน้ี คณะกรรมการฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน
มีอ�ำนาจพจิ ารณาการลงโทษตามขอ้ 5.1-5.4
ขอ้ 8 ความผดิ ทีต่ อ้ งเขา้ ทีป่ ระชมุ คณะกรรมการฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนักเรียน
8.1 ลักทรพั ย์
8.2 ชู้สาวข้นั รา้ ยแรง
8.3 ก่อการทะเลาะวิวาทระหว่างโรงเรียน หรือภายในโรงเรียน หรือยุยง
สง่ เสริมใหเ้ กิดความแตกแยกในหมู่คณะ หรอื เกดิ ความกระด้างกระเด่อื ง หรอื เดนิ ขบวน
ตอ่ ตา้ นทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น (ทะเลาะววิ าทถงึ ขน้ั ใชอ้ าวธุ ทำ� รา้ ยรา่ งกายคกู่ รณ)ี
8.4 ติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง และสารเสพติดอ่ืน ๆ รวมทั้ง
เป็นผ้จู �ำหน่าย
8.5 ประพฤตผิ ิดร้ายแรง หรือกระท�ำการใด ๆ ทีน่ �ำความเสื่อมเสยี ชื่อเสยี ง
เกียรติยศมาสู่โรงเรียน
62 คมู่ ือนักเรียนและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
8.6 ความผิดอื่น ๆ ท่ี ไม่ได้ระบุไว้ ให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการ
ฝา่ ยบริหารกจิ การนกั เรยี นวินิจฉยั เปรยี บเทยี บความผดิ และระดับความผิดตอ่ ไป
แนวปฏบิ ตั ิในการตดั คะแนนความประพฤติของนกั เรียน
เพอื่ ใหก้ ารควบคมุ ดแู ลความประพฤตขิ องนกั เรยี นดำ� เนนิ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย และ
มปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ ไดก้ ำ� หนดแนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั คะแนนความประพฤตขิ องนกั เรยี นไว้ ดงั นี้
1. ให้นกั เรยี นทุกคนมีคะแนนความประพฤติคนละ 100 คะแนน ในแตล่ ะระดบั ชัน้
ตลอดปีการศกึ ษา
2. ค่าของคะแนนในระดบั ความผิดต่างๆ กำ� หนดไวด้ ังน้ี
ข้อ 9 มาตรการลงโทษ
รายการ รายการลงโทษ
ตดั คะแนน ความประพฤติ
1. แตง่ กายผดิ ระเบยี บข้อบังคบั ของโรงเรียน เช่น
- สวมเครอื่ งประดบั จำ� นวนเคร่อื งประดับมากชนิ้
เกินกว่าที่โรงเรียนก�ำหนด เช่น ต่างหูใส่เกนิ ข้างละร ู
- ทำ� สผี ม
- ผมซอย ผลติ ภณั ฑ์จัดแต่งทรงผม
- ไว้เล็บยาวมาก ตกแตง่ เล็บ ว่ากลา่ วตักเตอื น
- กระโปรงส้นั , กระโปรงแคบ แจง้ ผปู้ กครอง
- กางเกงสน้ั ตดั 5 คะแนน
- รองเทา้ -ถงุ เทา้ ผิดระเบียบ , ใสร่ องเทา้ ทบั ส้น
- ดึงเส้ือออกนอกกางเกง ตดั คะแนนความประพฤติ
- นักเรียนหญิงไม่ใสเ่ ส้อื ซับใน หากผดิ บอ่ ยครง้ั
- นักเรียนชายใส่ต่างหู ตดั คะแนนความประพฤติ
2. กระเป๋าผดิ ระเบยี บ, ครัง้ ละ 10 คะแนน
3. มาสาย, ขาดเรียน (ไมล่ า)
4. ไม่รว่ มกจิ กรรมหน้าเสาธง, กจิ กรรมของโรงเรียน
5. เล่นบนอาคาร
6. รบั ประทานอาหารนอกเขตโรงอาหาร
7. รับประทานอาหารก่อนเวลา
8. ไมส่ นใจเรยี น
9. ไม่รักษาความสะอาด
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รงั สติ 63
Suankularbwittayalai Rangsit School
รายการ ลงโทษ
ตดั คะแนน ความประพฤติ
1. พกพาสอ่ื ลามกอนาจารหรือมีไว้ครอบครอง วา่ กลา่ วตักเตือน
แจง้ ผู้ปกครอง
เพือ่ แลกเปลย่ี น จ�ำหน่าย จ่ายแจก ตัดคะแนนความประพฤติ
10 คะแนน
ว่ากล่าวตกั เตือน
แจ้งผูป้ กครอง
ความผิดตามข้อ 3 ตอ้ งชดใช้
1. ปลอมแปลงเอกสาร ความเสยี หาย
2. ทำ� ลายทรัพยส์ นิ ของโรงเรียน ตดั คะแนนความประพฤติ
3. ทะเลาะวิวาท 20 คะแนน
4. หนีโรงเรียน
5. เข้าสถานทต่ี ้องห้าม วา่ กล่าวตักเตือน
6. ก่อใหแ้ ตกความสามคั คี แจ้งผปู้ กครอง
7. รังแก / ขม่ ขู่ / รีดไถ ทำ� ทัณฑ์บน
ตดั คะแนนความประพฤติ
1. ก้าวรา้ วตอ่ ครู และบุคลากร 30 คะแนน
2. ซอ้ื / จำ� หนา่ ย / แลกเปลี่ยน / สบู บุหร่ี
พกพาบุหร่,ี พกพาอาวุธ ว่ากลา่ วตกั เตือน
3. ดืม่ สุราหรือเคร่อื งดม่ื ท่ีมีแอลกอฮอล์ แจ้งผปู้ กครอง
4. ลักทรัพย ์ ทำ� ทณั ฑบ์ น
5. เลน่ การพนนั ยา้ ยสถานศึกษา
6. นำ� พาบคุ คลภายนอกมากอ่ ความไม่สงบ ตัด 100 คะแนน
ภายในโรงเรยี น ท�ำกจิ กรรมเพ่อื ให้
7. มพี ฤตกิ รรมในทำ� นองชสู้ าว ปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรม
1. กระทำ� อนาจาร / ล่วงละเมิดทางเพศ
2. ซื้อ / จ�ำหน่าย / เสพสารเสพตดิ /
แลกเปล่ยี น / มีไวค้ รอบครองสิง่ เสพตดิ
ชนดิ รุนแรง เช่น ยาบ้า กัญชา ยาไอซ์
3. ทำ� รา้ ยผูอ้ น่ื ด้วยอาวุธหรือเครอ่ื งมือทีเ่ สมือน
อาวุธร้ายแรง เชน่ สนับมือ มีด อาวธุ ปนื
64 คู่มือนกั เรียนและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
แนวปฏิบัติในการลงโทษนักเรยี นทีถ่ กู ตัดคะแนน
1. ในกรณีเปน็ ความผิดสถานเบา หรอื เปน็ ความผดิ ครง้ั แรก การแก้ไขในเบือ้ งตน้
ให้ครูทุกคนมีหน้าท่ีตักเตือน อบรม และพิจารณาโทษนักเรียนแล้วแต่กรณี หากเห็นว่า
นกั เรยี นสมควรไดร้ บั โทษถงึ ถกู ตดั คะแนนความประพฤติใหร้ ายงานตอ่ คณะกรรมการฝา่ ย
บรหิ ารกิจการนักเรยี น
• การพจิ ารณาตดั คะแนนความประพฤติใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของคณะกรรมการฝา่ ย
บริหารกจิ การนักเรียน
• ในการตดั คะแนนใหค้ ณะกรรมการฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรยี นแจง้ หวั หนา้ ระดบั
และครูทีป่ รึกษาและรายงานให้ผู้ปกครองทราบทุกคร้ัง
• เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนถึง 30 คะแนน ให้คณะกรรมการฝ่ายบริหาร
กจิ การนักเรียนแจ้งครูทีป่ รกึ ษาประสานผปู้ กครอง ปรับปรงุ แก้ไขปญั หาและ
พฒั นาสง่ เสริมนกั เรยี น
• เมื่อถกู ตดั คะแนนถึง 60 คะแนน ให้คณะกรรมการฝ่ายบริหารกิจการนกั เรียน
เชิญผ้ปู กครอง มารบั ทราบพฤตกิ รรม และทำ� กจิ กรรมปรับปรงุ พฤติกรรม
• เมอ่ื ถูกตัดคะแนนถึง 80 คะแนน ใหค้ ณะกรรมการฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนักเรยี น
เชิญผูป้ กครองมารับทราบพฤติกรรม และทำ� ทณั ฑ์บน
• เมื่อถูกตัดคะแนนถึง 100 คะแนน ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ
ฝ่ายบริหารกิจการนกั เรียนและ ฝ่ายบริหารโรงเรียนวินิจฉัยเป็นท่ีสนิ้ สุด
การด�ำเนินการ
• ครบู นั ทกึ รายงานแจง้ ความผดิ ระเบยี บของนกั เรยี น สง่ ฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรยี น
• คณะกรรมการฝ่ายบริหารกิจการนักเรียนหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย พิจารณา
สอบสวนนักเรียนตามความเหมาะสมและด�ำเนินการตัดคะแนนความประพฤติพร้อมแจ้ง
ครทู ีป่ รกึ ษา หัวหน้าระดับและผู้ปกครองทราบ
หมายเหตุ
• นักเรียนท่ีผิดระเบียบของโรงเรียนจะถูกบันทึกความผิดระเบียบลงในทะเบียน
ประวตั ินักเรยี น
• เมอื่ สน้ิ ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนท่ี 2 ให้พิจารณาการพฒั นาคณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงคข์ องนกั เรียนจากกิจกรรมปรบั เปล่ียนพฤติกรรมตามที่โรงเรียนกำ� หนด
• กรณนี กั เรยี นทำ� ความผดิ แลว้ มกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขพฤตกิ รรมใหด้ ขี นึ้ หรอื ทำ� ความดี
อนื่ ๆ ใหค้ ณะกรรมการฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรยี นลดคะแนนความผดิ ที่ไดท้ ำ� ไวต้ ามสมควร
เพือ่ เป็นขวัญกำ� ลงั ใจแกน่ ักเรียนใหก้ ระทำ� ความดีตอ่ ไป
โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รังสติ 65
Suankularbwittayalai Rangsit School
• ในกรณที น่ี กั เรยี นทำ� ความดีใหป้ ระกาศชมเชย หรอื ใหร้ างวลั นกั เรยี นแลว้ แตก่ รณี
• การลงโทษดว้ ยวธิ อี นื่ ๆ ควบคกู่ บั การตดั คะแนนนน้ั อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของคณะ
กรรมการฝา่ ยบรหิ ารกจิ การนกั เรียน
• นกั เรยี นทท่ี ำ� ความผดิ อน่ื ๆ นอกเหนอื จากระเบยี บของโรงเรยี น ตอ้ งถกู ลงโทษ
ตามทค่ี ณะกรรมการฝ่ายบริหารกจิ การนักเรียนเห็นสมควร
ข้อ 10 ให้รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายบรหิ ารกิจการนกั เรยี นรักษาการใหเ้ ปน็ ไป
ตามระเบยี บน้ี
ข้อ 11 ให้ใชร้ ะเบียบนตี้ ั้งแตป่ กี ารศกึ ษา 2564 เปน็ ต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน 2564
(นายชาลี วฒั นเขจร)
ผอู้ ำ� นวยการโรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รงั สิต
66 คู่มอื นักเรยี นและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
กฎกระทรวง
ก�ำหนดความประพฤติของนักเรยี นและนกั ศึกษา
พ.ศ. 2548
อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
พ.ศ. 2546 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจ�ำกัดสิทธิและเสรีภาพ
ของบคุ คล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 39
มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทำ� ได้โดยอาศยั
อ�ำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้
ดงั ต่อไปนี้
ขอ้ 1 นกั เรียนและนักศึกษาตอ้ งไม่ประพฤติตน ดงั ต่อไปนี้
(1) หนีเรียนหรอื ออกนอกสถานศึกษาโดยไม่ได้รับอนญุ าตในช่วงเวลาเรียน
(2) เลน่ การพนัน จดั ให้มกี ารเลน่ การพนัน หรือมว่ั สุมในวงการพนนั
(3) พกพาอาวธุ หรือวัตถุระเบิด
(4) ซอื้ จำ� หนา่ ย แลกเปลยี่ น เสพสรุ า หรอื เครอ่ื งดม่ื ทม่ี แี อลกอฮอล์ สงิ่ มนึ เมา บหุ รี่ หรอื
ยาเสพตดิ
(5) ลักทรพั ย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ หรอื บงั คับขนื ใจเพื่อเอาทรัพยบ์ ุคคลอน่ื
(6) ก่อเหตทุ ะเลาะวิวาท ทำ� รา้ ยร่างกายผู้อนื่ เตรยี มการหรือกระทำ� การใด ๆ อันน่าจะ
ก่อใหเ้ กดิ ความไม่สงบเรยี บร้อย หรือขดั ตอ่ ศีลธรรมอันดขี องประชาชน
(7) แสดงพฤตกิ รรมทางชูส้ าวซ่งึ ไมเ่ หมาะสมในทีส่ าธารณะ
(8) เกย่ี วข้องกับการคา้ ประเวณี
(9) ออกนอกสถานท่ีพักเวลากลางคืน เพ่ือเท่ียวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็นการสร้าง
ความเดือดร้อนใหแ้ กต่ นเองหรอื ผอู้ ่นื
ขอ้ 2 ให้โรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษากำ� หนดระเบยี บวา่ ดว้ ยความประพฤตขิ องนกั เรยี นและนกั ศกึ ษา
ได้เท่าที่ ไม่ขัดหรือแยง้ กบั กฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันท่ี 27 ธันวาคม พ.ศ. 2548
จาตรุ นต์ ฉายแสง
รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รังสิต 67
Suankularbwittayalai Rangsit School
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
วา่ ดว้ ยการลงโทษนักเรยี นและนักศกึ ษา
พ.ศ. 2548
อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
พ.ศ. 2546 รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ จงึ วางระเบยี บวา่ ด้วยการลงโทษนกั เรยี นและ
นกั ศกึ ษาไวด้ งั ตอ่ ไปนี้
ขอ้ 1 ระเบียบน้ีเรยี กว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยการลงโทษนกั เรยี น
และนกั ศกึ ษา พ.ศ. 2548”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใชบ้ ังคบั ต้งั แตว่ นั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เปน็ ตน้ ไป
ขอ้ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือ
นกั ศกึ ษา พ.ศ. 2543
ข้อ 4 ในระเบียบนี้
“ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความว่า ครูใหญ่ อาจารย์ ใหญ่
ผู้อ�ำนวยการ อธิการบดี หรือหัวหน้าของโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือต�ำแหน่งท่ีเรียกช่ือ
อย่างอนื่ ของโรงเรียนหรือสถานศึกษาน้นั
“กระทำ� ความผดิ ” หมายความวา่ การทน่ี กั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษาประพฤตฝิ า่ ฝนื ระเบยี บ
ขอ้ บงั คบั ของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร หรอื กฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติ
ของนักเรียนและนกั ศกึ ษา
“การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาท่ีกระท�ำความผิด
โดยมีความมงุ่ หมายเพือ่ การอบรมสงั่ สอน
ข้อ 5 โทษทีจ่ ะลงโทษแกน่ ักเรยี นหรอื นกั ศกึ ษาทกี่ ระท�ำความผิด มี 4 สถาน ดงั น ี้
5.1 ว่ากล่าวตกั เตือน
5.2 ท�ำทัณฑบ์ น
5.3 ตัดคะแนนความประพฤติ
5.4 ท�ำกจิ กรรมเพ่ือใหป้ รับเปลย่ี นพฤติกรรม
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียน และนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือ
ลงโทษดว้ ยความโกรธ หรือดว้ ยความพยาบาท โดยให้คำ� นงึ ถึงอายุของนกั เรยี น หรอื นกั ศึกษา
และความรา้ ยแรงของพฤตกิ ารณ์ประกอบการลงโทษด้วย
การลงโทษนักเรียน หรือนักศึกษาให้เป็นไป เพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติ
ไม่ดีของนักเรียน หรือนักศึกษาให้รู้ส�ำนึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป
68 คมู่ อื นักเรียนและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ใหผ้ บู้ รหิ ารโรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษา หรอื ผทู้ ผี่ บู้ รหิ ารโรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษามอบหมาย
เป็นผู้มีอ�ำนาจในการลงโทษนกั เรียน นักศกึ ษา
ขอ้ 7 การวา่ กลา่ วตกั เตอื นใช้ในกรณนี กั เรยี น หรอื นกั ศกึ ษากระทำ� ความผดิ ไมร่ า้ ยแรง
ข้อ 8 การทำ� ทณั ฑบ์ นใช้ในกรณนี กั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษาทป่ี ระพฤตติ นไมเ่ หมาะสม กบั
สภาพนักเรียนหรือนักศกึ ษา ตามกฎกระทรวงวา่ ด้วยความประพฤตนิ ักเรียน และนกั ศกึ ษา หรอื
ไดร้ บั โทษว่ากลา่ วตักเตอื นแล้ว แตย่ งั ไม่เขด็ หลาบ
การท�ำทัณฑ์บนให้ท�ำเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาบันทึกรับทราบ
ความผดิ และรับรองการทำ� ทณั ฑบ์ นไว้ดว้ ย
ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการ ตัด
คะแนนความประพฤตินกั เรยี นและนกั ศึกษาของแต่ละสถานศกึ ษากำ� หนด และใหท้ �ำบันทึกข้อมูล
ไว้เปน็ หลักฐาน
ข้อ 10 ท�ำกจิ กรรมเพอ่ื ใหป้ รับเปล่ียนพฤตกิ รรม ใช้ในกรณที ่นี กั เรยี น และนกั ศึกษา
กระท�ำความผิดทส่ี มควร ตอ้ งปรับเปลีย่ นพฤติกรรม
การจดั กจิ กรรมให้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธกิ ารกำ� หนด
ข้อ 11 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และ ให้มี
อำ� นาจตีความและวนิ ิจฉัยปญั หาเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตามระเบยี บนี้
ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548
อดิศัย โพธารามิก
(นายอดศิ ัย โพธารามกิ )
รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รังสิต 69
Suankularbwittayalai Rangsit School
Sโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รงั สติ
UANKULARBWITTAYALAI
RANGSIT SCHOOL
70 คูม่ ือนักเรยี นและผ้ปู กครอง
STUDENT HANDBOOK
ฝา่ ยบริหารวชิ าการ
โรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสติ
SUANKULARBWITTAYALAI RANGSIT SCHOOL
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รังสิต 71
Suankularbwittayalai Rangsit School
โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รงั สิต
สู่มาตรฐานสากล
ส.ก.ร.
การพัฒนาหลักสูตรเพ่ือยกระดับผู้เรียนเข้าสู่มาตรฐานสากลมีศักยภาพเป็นพลโลก
โรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสิต ดำ� เนินการดังน้ี
1. การจดั การเรียนการสอนโดยใชภ้ าษาอังกฤษ เนน้ ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถสื่อสารได้
1.1 นักเรียนเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาทกุ ระดบั ช้ัน
1.2 เปดิ รายวชิ าภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ วิชา ฟัง-พดู / อ่าน-เขยี น ทุกระดบั ชน้ั ใน
กลมุ่ การเรยี นปกตแิ ละรายวชิ าภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ วชิ า ฟงั -พดู / อา่ น-เขยี น ในกลมุ่ การ
เรยี น EP (English program) และกลุ่มการเรียน GEP (Gifted education program)
2. จดั การเรยี นการสอนเปน็ ภาษาองั กฤษในกลมุ่ การเรยี น EP ( English program)
ทกุ ระดบั ชนั้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 18 คาบ/สัปดาห์
3. เปดิ รายวชิ า ภาษาจนี , ภาษาญปี่ นุ่ , ภาษาองั กฤษ, ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และ
ภาษาจนี , ภาษาญป่ี นุ่ , คอมพวิ เตอร,์ โครงงานวทิ ยาศาสตร,์ เสรมิ ทกั ษะอาชพี ในระดบั
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
4. จดั รายวชิ าเพ่ิมเติมมาตรฐานสากลใหผ้ ูเ้ รียนได้ศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง (IS :
Independent Study) ในระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
4.1 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
1) การศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ (Research and Knowledge
Formation : IS1) จำ� นวน 1.0 หนว่ ยกิต ในระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1
2) การสอ่ื สารและการน�ำเสนอ (Communication and Presentation :
IS2) จ�ำนวน 1.0 หน่วยกิต ในระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2
3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ (Global Education and
Social Service Activity : IS3) จดั ในกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น โดยใหผ้ เู้ รยี นนำ� สง่ิ ทเี่ รยี นรู้
หรือประสบการณ์จากรายวิชาเพ่ิมเติม IS1 และ IS2 มาบริการสังคมและน�ำเสนอ
ตอ่ ชมุ ชนในงานเปิดลานวชิ าการบา้ นสวนฯ รังสิต
72 คมู่ ือนกั เรียนและผ้ปู กครอง
STUDENT HANDBOOK
4.2 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย
1) การศกึ ษาคน้ คว้าและสรา้ งองค์ความรู้ (Research and Knowledge
Formation : IS1) จ�ำนวน 1.0 หน่วยกติ ในระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1
2) การสอ่ื สารและการน�ำเสนอ (Communication and Presentation :
IS2) จำ� นวน 1.0 หนว่ ยกติ ในระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2
3) กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ( Global Education and
Social Service Activity : IS3) จดั ในกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น โดยใหผ้ เู้ รยี นนำ� สง่ิ ทเ่ี รยี นรู้
หรอื ประสบการณจ์ ากรายวชิ าเพมิ่ เตมิ IS1 และ IS2 มาบรกิ ารสงั คมและนำ� เสนอตอ่ ชมุ ชน
ในงานเปิดลานวิชาการบา้ นสวนฯ รังสิต
โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รงั สติ 73
Suankularbwittayalai Rangsit School
กรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รงั สติ ปกี ารศกึ ษา 2564
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 253 51
ส.กก ร.อรบ.โครงสรา้ งเวล(าฉเรยีบนับปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
SUANRKAUNLGASRITBWSCITHTOAYOALLAIตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560)
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รังสิต ปกี ารศกึ ษา 2564
กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกิจกรรมลดเวลาเรียนเ ่ิพมเวลารู้
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ม. 1 ม. 2 ม. 3 ม. 4-6
ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม.
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 120 3 120 3 120 6 240
สงั คมศกึ ษาฯ 3 120 3 120 3 120 6 240
ประวตั ิศาสตร์ 4 160 4 160 4 160 7 280
สุขศึกษาและพลศึกษา 3 120 3 120 3 120 6 240
ศิลปะ 1 40 1 40 1 40 2 80
การงานอาชีพ 2 80 2 80 2 80 3 120
ภาษาตา่ งประเทศ 2 80 2 80 2 80 3 120
1 40 1 40 1 40 2 80
รวมเวลาเรียน (พ้ืนฐาน) 3 120 3 120 3 120 6 240
รายวิชาเพิ่มเติม 22 880 22 880 22 880 41 1,640
หนา้ ทีพ่ ลเมือง (เพิ่มเติม) ไม่นอ้ ยกวา่ 1,600 ชม.
การศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ (IS1) ปีละไม่น้อยกว่า 200 ชม. 2
การส่ือสารและการนําเสนอ (IS2) 111 จัดในช้ัน ม.4 ภาคเรยี นท่ี 1
การนาํ องค์ความรู้ไปใช้บริการสงั คม (IS3) จดั ในช้นั ม.4 ภาคเรยี นท่ี 2
สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น จัดในช้นั ม.2 ภาคเรยี นที่ 1 จัดในชัน้ ม.4 ภาคเรียนท่ี 2
สาระการเรยี นรู้สวนกุหลาบศึกษา จัดในชน้ั ม.2 ภาคเรียนท่ี 2 บรู ณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้
จดั ในชน้ั ม.2 ภาคเรยี นท่ี 2 บูรณาการในกล่มุ สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้ตา้ นทจุ ริต บูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมค่ายปฐมนิเทศนักเรยี นใหม่
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน บูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมค่ายปฐมนิเทศนักเรยี นใหม่ บูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้
- กิจกรรมแนะแนว 0 360
บูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้
- กิจกรรมนักเรียน 111 120
ลูกเสือ เนตรนารี/นักศึกษาวชิ าทหาร
กจิ กรรมชมุ นุม 40 40 40 120
- กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 40 40 40 120
30 30 30
รวมเวลาเรียนท้ังหมด รวม 3 ปี ไม่น้อยกว่า 3,600 ชม.
10 10 10
ไม่น้อยกวา่ 1,200 ชม./ปี
74 คูม่ ือนกั เรียนและผูป้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต 75
Suankularbwittayalai Rangsit School
กร โคะลสรดุ่มงบั.กสกมาร.รัธ้ารเยงร.มหยี ศลนกึักEษสโรกคPะูตาลดตรร(ุ่มหEบัองกn้อนสมาgงตัธรรlเน้iรย้าเsรียhมงยีนหศPนพึกลrเิoEศษักgPษาสrตa(ูตmอEรnน)หgตปอ้l้นีกisงาhรเรศPยีึกrษนoาพg2rเิ 5ศa6mษ4) ปกี ารศกึ ษา 2564 ϱ
กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม จานวนหน่วยกิต รวม
• รายวิชาพื้นฐาน ม.1 ม.2 ม.3 9
9
ภาษาไทย 333 9
คณิตศาสตร์ 333 3
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6
- วิทยาศาสตร์ 333 3
- เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 1 1 1 3
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2
- สังคมศึกษา 222 2
- ประวัตศิ าสตร์ 111 2
- พระพุทธศาสนา 111 6
ศลิ ปะ 3
- ทัศนศลิ ป์ 1 0.5 0.5 9
- ดนตรี 0.5 0.5 1 66
- นาฏศลิ ป์ 0.5 1 0.5 6
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 222 9
การงานอาชีพ 111 6
ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 333 9
รวม 22 22 22 3
33
• รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
99
คณิตศาสตร์ 222
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 333
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 222
ภาษาตา่ งประเทศ 333
หน้าทพ่ี ลเมือง 111
11 11 11
รวม
• กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
แนะแนว 33 33 33
ลกู เสือ-เนตรนารี
กจิ กรรมชมุ นมุ และสาธารณประโยชน์
รวมหน่วยกติ ทั้งหมด
76 คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
โครงสร้างหลักสูตรห้องเรียนพิเศษวทิ ยาศาสตร์ ตามแนวทางของ สสวท. และ สอวน.
โครงสร้างหลักกสลตู รุ่มหก้อางรเรเรียยีนนพเิ GศษEวPทิ ย(Gาศifาtสeตdร์EตdามuแcนaวtiทoาnงขPอrงoสgสraวmท.)แลปะีกาสรอศวนกึ .ษา 2564
กระสลดมุ่ .ับกกมา.รัธรเย.รมยี ศนกึ รGษะEาดPตับอ(มนGตธัif้นtยeมdศEกึ dษuาcตatอioนnตP้นrogram) ปีการศึกษา 2564
จานวนหนว่ ยกิต
กล่มุ สาระการเรยี นร้/ู กิจกรรม ม.1 ม.2 ม.3 รวม
• รายวชิ าพน้ื ฐาน
ภาษาไทย 3339
คณิตศาสตร์ 3339
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- วทิ ยาศาสตร์ 3339
- เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1 1 1 3
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- สงั คมศึกษา 2226
- ประวัติศาสตร์ 1113
- พระพทุ ธศาสนา 1113
ศิลปะ
- ทัศนศิลป์ 1 0.5 0.5 2
- ดนตรี 0.5 0.5 1 2
- นาฏศิลป์ 0.5 1 0.5 2
สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 2226
การงานอาชีพ 1113
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3339
รวม 22 22 22 66
• รายวชิ าเพ่มิ เติม
คณิตศาสตร์ 22 26
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 33 39
ภาษาไทย 0.5 1 - 1.5
ภาษาตา่ งประเทศ 33 39
หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 11 13
9.5 10 9 28.5
รวม
• รายวิชาเพ่ิมพูนประสบการณ์
คณิตศาสตร์ - 112
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 - 12
1124
รวม
• กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
แนะแนว 32.5 33 33 98.5
ลกู เสือ-เนตรนารี
กิจกรรมชมุ นมุ และสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกติ ท้งั หมด
โรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสติ 77
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสรา้ งหลักสตู รห้องเรยี นปกติ
โครงสรา้ งหลกักสลูตุ่มรกหา้อรงเเรรียยี นนวปทิ กยตาิ ศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2564
กระลสดุม่ ับ.กกมา.รธั รเยร.มยี ศนึกรวษะิทดายตบัาอศมนาธั สตยต้นมรศ(์ 1–กึ 0ษค7ณา-1ตติ 0อศ9นา,สต2ต้น0ร7์(-ป12ีก00า79ร-,ศ13ึก00ษ97า,-322005976)4-209, 307-309)
กลมุ่ สาระการเรียนรู้/กิจกรรม จานวนหนว่ ยกติ รวม
• รายวิชาพื้นฐาน ม.1 ม.2 ม.3 9
9
ภาษาไทย 333 9
คณติ ศาสตร์ 333 3
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6
- วิทยาศาสตร์ 333 3
- เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1 1 1 3
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2
- สงั คมศึกษา 222 2
- ประวัติศาสตร์ 111 2
- พระพุทธศาสนา 111 6
ศิลปะ 3
- ทัศนศิลป์ 1 0.5 0.5 9
- ดนตรี 0.5 0.5 1 66
- นาฏศลิ ป์ 0.5 1 0.5 8
สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 222 7
การงานอาชีพ 111 1
ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 333 12
รวม 22 22 22 3
• รายวิชาเพมิ่ เตมิ 2
คณิตศาสตร์ 233 33
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 313
ภาษาไทย 1- - 99
ภาษาต่างประเทศ 444
หนา้ ทพี่ ลเมอื ง 111
การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง (IS) -2-
รวม 11 11 11
• กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
แนะแนว 33 33 33
ลูกเสอื -เนตรนารี
กิจกรรมชมุ นมุ และสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกิตทงั้ หมด
78 คมู่ อื นกั เรียนและผ้ปู กครอง
STUDENT HANDBOOK
ϳ โครงสร้างหลกั สตู รหอ้ งเรียนปกติ
โครงสร้างหลกั กสลตู ่มุ รหก้อางรเเรรียียนนปวกิทตยิ าศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2564
กรสะลดมุ่.กบั กมา.รรธั เ.ยรมยี ศนึกวรษิทะดายตาบั อศมนาธั สตยตน้ มร(์ศ1–ึก1ค0ษณ-า1ติต1ศ2อา,นส2ตต1รน้0์ -ป(2ีก11า12ร0,ศ-3กึ 11ษ10า-23,2152261)40-212, 310-312)
กล่มุ สาระการเรยี นรู้/กิจกรรม จานวนหนว่ ยกติ
• รายวชิ าพืน้ ฐาน ม.1 ม.2 ม.3 รวม
ภาษาไทย 3339
คณติ ศาสตร์ 3339
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
- วทิ ยาศาสตร์ 3339
- เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 1 1 1 3
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- สังคมศกึ ษา 2226
- ประวัตศิ าสตร์ 1113
- พระพุทธศาสนา 1113
ศิลปะ
- ทศั นศิลป์ 1 0.5 0.5 2
- ดนตรี 0.5 0.5 1 2
- นาฏศิลป์ 0.5 1 0.5 2
สขุ ศึกษาและพลศึกษา 2226
การงานอาชีพ 1113
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3339
รวม 22 22 22 66
• รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
คณิตศาสตร์ 2338
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3137
ภาษาไทย 1- -1
ภาษาตา่ งประเทศ 2226
การงานอาชีพ - 112
เลือกเสรี - 112
หนา้ ท่พี ลเมอื ง 1113
การศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง (IS) -2-2
9 11 11 31
รวม
• กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
แนะแนว 31 33 33 97
ลกู เสอื -เนตรนารี
กิจกรรมชุมนมุ และสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกติ ทง้ั หมด
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รงั สติ 79
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสร้างหลกั สตู รหอ้ งเรยี นปกติ ϵ
โครงสรา้ งหลกั กสลูตรมุ่ หก้อางรเรเรยี ยี นนปทกตั่วไิ ป ปีการศึกษา 2564
กระลดสุ่มับก.กมารัธ.รเยรม.ยี ศนึกทรษ่ัวะาไดตปับอปมนกีธัตาน้ยรมศ(1กึศ1ษึก3าษ-12า15ต46อ,4น21ต3น้ -2(1141,33-1131-341,42)13-214, 313-314)
จานวนหน่วยกิต
กลุม่ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ม.1 ม.2 ม.3 รวม
• รายวชิ าพ้นื ฐาน
ภาษาไทย 3339
คณิตศาสตร์ 3339
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
- วิทยาศาสตร์ 3339
- เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1 1 1 3
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
- สงั คมศกึ ษา 2226
- ประวัติศาสตร์ 1113
- พระพุทธศาสนา 1113
ศลิ ปะ
- ทัศนศิลป์ 1 0.5 0.5 2
- ดนตรี 0.5 0.5 1 2
- นาฏศลิ ป์ 0.5 1 0.5 2
สขุ ศึกษาและพลศึกษา 2226
การงานอาชีพ 1113
ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3339
รวม 22 22 22 66
• รายวิชาเพ่ิมเตมิ
คณิตศาสตร์ 2- -2
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3126
ภาษาไทย 1 - 12
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม - -11
ภาษาต่างประเทศ 2226
การงานอาชีพ - 213
เลอื กเสรี - 224
หนา้ ที่พลเมอื ง 1113
การศึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง (IS) -2-2
9 10 10 29
รวม
• กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
แนะแนว 31 32 32 95
ลูกเสือ-เนตรนารี
กจิ กรรมชมุ นมุ และสาธารณประโยชน์
รวมหน่วยกิตทั้งหมด
80 คู่มือนักเรียนและผ้ปู กครอง
STUDENT HANDBOOK
โครงสรา้ งหลักสตู รห้องเรยี นพิเศษ
โครงสรา้ งหลกั ลสูตุ่มรกหา้อรงเรเรียยี นนพEPิเศษ(English Program) ปีการศกึ ษา 2564
รกะสลดมุ่.กับกมา.รรธั เ.ยรมยี ศนรกึ ะEษดPาบั ต(มEอnธันgยปlมลisศาhยกึ Pษrาoตgrอaนmป)ลปากียารศกึ ษา 2564
กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม จานวนหนว่ ยกิต รวม
• รายวิชาพ้นื ฐาน ม.4 ม.5 ม.6 6
6
ภาษาไทย 22 2 7
คณติ ศาสตร์ 22 2 6
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4.5 2.5 - 2
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 22 2 3
ประวตั ิศาสตร์ -- 2 3
ศิลปะ 11 1 2
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 11 1 6
การงานอาชพี -- 2 41
ภาษาตา่ งประเทศ 22 2 12
14.5 12.5 14 24.5
รวม 6
• รายวิชาเพ่ิมเตมิ 12
2
คณิตศาสตร์ 444 56.5
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7 9.5 8
สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 222 97.5
ภาษาตา่ งประเทศ 444
หน้าทพ่ี ลเมอื ง 0.5 1 0.5
17.5 20.5 18.5
รวม
• กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
แนะแนว 32 33 32.5
ชุมนุม
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกติ ท้งั หมด
โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รังสิต 81
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสรา้ งหลกโักคลสร่มุูตงรกสหาร้อรง้าเรเงรียหยี นนลGพักเิEสศPษตู ว(รGิทหยi้อfาteงศdเารสEยี ตdนรu์พcaิเศtiษonวิทPยroาgศrาaสmต)รป์ ีการศกึ ษา 2564
กระลสดมุ่ ับ.กกมา.รธั รเยร.มยี ศนรกึ ะGษดEาับPตมอ(ธันGยปifมลteศาdยึกษEdาตuอcaนtปioลnายProgram) ปกี ารศึกษา 2564
กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม จานวนหน่วยกิต
• รายวิชาพนื้ ฐาน ม.4 ม.5 ม.6 รวม
ภาษาไทย 2226
คณิตศาสตร์ 2226
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 7- -7
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2226
ประวตั ิศาสตร์ - -22
ศลิ ปะ 1113
สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 1113
การงานอาชพี - -22
ภาษาต่างประเทศ 2226
17 10 14 41
รวม
• รายวชิ าเพ่มิ เตมิ
คณติ ศาสตร์ 4 4 4 12
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 12 10 27
ภาษาต่างประเทศ 5 5 4 14
หนา้ ทพี่ ลเมอื ง 0.5 1 0.5 2
14.5 22 18.5 55
รวม
• กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
แนะแนว 31.5 32 32.5 96
ชุมนุม
กิจกรรมสาธารณประโยชน์
รวมหน่วยกิตทงั้ หมด
82 ค่มู ือนักเรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ϭϭ โครงสรา้ งหลกโักคลสรตูมุ่ งรกสหา้อรรงา้เรเงรียหียนนลวปกัทิ กยสตาตูิ ศราหสอ้ตงร์เร–ยี คนณปิตกศตาิ สตร์ ปกี ารศึกษา 2564
กระสลดุ่ม.ับกกมา.รรธั เ.ยรมยี ศนรึกวะษิทดายบั ตามอศัธนายสปตมลรศา์ยึก–ษ(ค4าณ0ต6ิตอ-ศ4นา0ปส7ลต,าร5ย์ 0ป6(กี 4-า50ร06ศ7-ึก,4ษ60า0762,-565600476)-507, 606-607)
กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม จานวนหนว่ ยกิต
• รายวิชาพ้นื ฐาน ม.4 ม.5 ม.6 รวม
ภาษาไทย 2226
คณิตศาสตร์ 2226
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 61 - 7
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2226
ประวตั ิศาสตร์ - -22
ศลิ ปะ 1113
สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 1113
การงานอาชพี - -22
ภาษาตา่ งประเทศ 2226
16 11 14 41
รวม
• รายวิชาเพ่มิ เตมิ
คณติ ศาสตร์ 4 4 4 12
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7 12 10 29
ภาษาต่างประเทศ 2226
เลอื ก (ภาษา/คอมพวิ เตอร์) 2215
หนา้ ที่พลเมอื ง 0.5 1 0.5 2
15.5 21 17.5 54
รวม
• กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
แนะแนว 31.5 32 31.5 95
ชมุ นุม
กิจกรรมสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกิตทัง้ หมด
โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รงั สิต 83
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสร้างหลกั สตู รหอ้ งเรียนปกติ
โครงสรา้ งหลกั ลสุ่มตู รกหา้อรงเรเรยี ยี นนวปิทกยตาิ ศาสตร์ – คณิตศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2564
กระลสดมุ่ บั.กกมา.รธั รเยร.มยี ศนรึกวะษิทดายับตามอศธันายสปมตลรศา์ยกึ–ษ(ค4าณ0ต8ิตอ-ศ4นา0ปส9ลต,าร5ย์ 0ป8(กี 4-า50ร08ศ9-ึก,4ษ60า0982,-556600498)-509, 608-609)
กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม จานวนหนว่ ยกติ รวม
• รายวิชาพ้นื ฐาน ม.4 ม.5 ม.6 6
6
ภาษาไทย 222 7
คณติ ศาสตร์ 222 6
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 61 - 2
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 222 3
ประวตั ิศาสตร์ --2 3
ศิลปะ 111 2
สขุ ศึกษาและพลศึกษา 111 6
การงานอาชีพ --2 41
ภาษาต่างประเทศ 222 12
16 11 14 29
รวม 6
• รายวชิ าเพมิ่ เติม 1
3
คณติ ศาสตร์ 444 2
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7 12 10 53
ภาษาต่างประเทศ 222
การงานอาชพี 1- - 94
ความถนดั ทางวชิ าชีพ -21
หน้าที่พลเมอื ง 0.5 1 0.5
14.5 21 17.5
รวม
• กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
แนะแนว 30.5 32 31.5
ชมุ นมุ
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
รวมหน่วยกิตทงั้ หมด
84 คมู่ ือนักเรยี นและผูป้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ϭϯ โครงสร้างหลักสูตรหอ้ งเรยี นปกติ
โครงสร้างหลกักลสุ่มตู กรหาร้อเงรเยีรียนนภปากษตาิอังกฤษ - คณิตศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2564
กรสะลด่มุ.กบั กม.ารรธั .เยรมียศนรกึ ภะษดาาษับตามออัธนังยกปมฤลศษากึย-ษคาณตติอศนาปสลตารย์ ปกี ารศึกษา 2564
กลมุ่ สาระการเรยี นรู/้ กจิ กรรม จานวนหน่วยกิต
ม.4 ม.5 ม.6 รวม
• รายวิชาพืน้ ฐาน
ภาษาไทย 2226
คณติ ศาสตร์ 2226
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 61 - 7
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2226
ประวตั ิศาสตร์ - -22
ศิลปะ 1113
สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 1113
การงานอาชีพ - -22
ภาษาต่างประเทศ 2226
16 11 14 41
รวม
• รายวิชาเพิ่มเติม
ภาษาไทย 2226
คณิตศาสตร์ 4 4 4 12
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี - 347
ภาษาต่างประเทศ 5 5 6 16
การงานอาชีพ 1214
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม -1-1
ความถนดั ทางวิชาชพี - 213
เสรมิ ทกั ษะอาชีพ 2- -2
การศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง (IS) 2- -2
หนา้ ที่พลเมอื ง 0.5 1 0.5 2
16.5 20 18.5 55
รวม
• กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
แนะแนว
ชุมนุม 32.5 31 32.5 96
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกิตทั้งหมด
โรงเรยี นสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รงั สติ 85
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสรา้ งหลกั สูตรห้องเรียนปกติ
โครงสร้างหลกั ลสูตมุ่ รกหา้อรงเรเรยี ยี นนปภากษติาองั กฤษ - ภาษาญีป่ ุ่น ปกี ารศกึ ษา 2564
รกะลสด่มุ บั .กกมารัธ.รเยร.มียศนรึกะภษดาาับษตมาออธันงัยปกมลฤศาษยึก-ษภาตาษอานญปีป่ ลนุ่ายปกี ารศึกษา 2564
กล่มุ สาระการเรียนร้/ู กจิ กรรม จานวนหนว่ ยกติ รวม
• รายวชิ าพ้ืนฐาน ม.4 ม.5 ม.6 6
6
ภาษาไทย 22 2 7
คณติ ศาสตร์ 22 2 6
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.5 1.5 - 2
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 22 2 3
ประวตั ิศาสตร์ -- 2 3
ศลิ ปะ 11 1 2
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 11 1 6
การงานอาชีพ -- 2 41
ภาษาตา่ งประเทศ 22 2 4
15.5 11.5 14 7
รวม 11
27
• รายวชิ าเพิม่ เตมิ 1
2
ภาษาไทย -22 2
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี -34 54
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 452
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาญ่ปี ่นุ ) 999 95
การงานอาชีพ 1- -
การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง (IS) 2- -
หนา้ ท่พี ลเมือง 0.5 1 0.5
16.5 20 17.5
รวม
• กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
แนะแนว 32 31.5 31.5
ชมุ นุม
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
รวมหน่วยกติ ท้งั หมด
86 คู่มือนกั เรียนและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ϭϱ โครงสรา้ งหลกั สูตรห้องเรยี นปกติ
โครงสรา้ งหลกั สลูต่มุ รกหา้อรงเรเรียยี นนปภกาตษิาองั กฤษ - ภาษาจนี ปกี ารศกึ ษา 2564
รกะลสดมุ่ .บักกมา.รรัธเย.รมียศนึกรภะษดาาษับตามออนธั งั ปยกลมฤาศษยึก-ษภาาตษอานจปีนลปาีกยารศกึ ษา 2564
กลุ่มสาระการเรียนรู้/กจิ กรรม จานวนหน่วยกิต รวม
ม.4 ม.5 ม.6 6
• รายวิชาพืน้ ฐาน 6
7
ภาษาไทย 22 2 6
คณิตศาสตร์ 22 2 2
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5.5 1.5 - 3
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 22 2 3
ประวตั ิศาสตร์ -- 2 2
ศลิ ปะ 11 1 6
สุขศกึ ษาและพลศึกษา 11 1 41
การงานอาชพี -- 2 4
ภาษาตา่ งประเทศ 22 2 7
15.5 11.5 14 10
รวม 27
1
• รายวิชาเพ่มิ เตมิ 1
2
ภาษาไทย -22 2
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี -34 54
ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 442
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาจีน) 999 95
การงานอาชพี 1- -
สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม -1-
การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง (IS) 2- -
หนา้ ท่ีพลเมือง 0.5 1 0.5
16.5 20 17.5
รวม
• กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
แนะแนว 32 31.5 31.5
ชุมนุม
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
รวมหนว่ ยกิตท้งั หมด
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลยั รังสิต 87
Suankularbwittayalai Rangsit School
โครงสร้างหลักสตู รห้องเรียนวทิ ยาศาสตร์ในโรงเรียน
โครงสร้างหลโกั ดสยูตกราหร้อกงำ� เกรับยี ดนแูวลิทขยอางศมาหสาตวริท์ใยนาโลรยังเร(โียคนรงการ วมว. มธ.-สกร) ปกี ารศึกษา 2564
โดยการกากับรดะูแดลบั ขมอธั งยมมหศาวึกิทษยาาตลอัยน(ปโคลรางยการ วมว. มธ.-สกร) ปกี ารศึกษา 2564
ระดสบั .กมัธ.รย.มศึกษาตอนปลาย
กล่มุ สาระการเรยี นรู้/กิจกรรม จานวนหนว่ ยกิต
• รายวิชาพน้ื ฐาน ม.4 ม.5 ม.6 รวม
ภาษาไทย 2226
คณติ ศาสตร์ 33 - 6
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 7- -7
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2226
ประวัติศาสตร์ - -22
ศลิ ปะ 1113
สุขศึกษาและพลศึกษา 1113
การงานอาชพี - -22
ภาษาตา่ งประเทศ 2226
18 11 12 41
รวม
• รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
คณิตศาสตร์ 332 8
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 14.5 13.5 33
ภาษาต่างประเทศ 222 6
หน้าทพี่ ลเมือง 0.5 1 0.5 2
10.5 20.5 18 49
รวม
• กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
แนะแนว 28.5 31.5 30 90
ชุมนุม
กจิ กรรมสาธารณประโยชน์
พบผเู้ ชี่ยวชาญ
รวมหนว่ ยกติ ทง้ั หมด
88 คูม่ อื นักเรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
ϭϳ
ระเบียบโรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสิต
ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
---------------------------------------------------------------------
ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนตามหลักสูตรการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช
2561 ตามคำ� สัง่ กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ 293/2551 ลงวนั ที่ 11 กรกฎาคม 2551 เรอ่ื ง
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
จงึ เปน็ การสมควรท่ีก�ำหนดระเบียบ โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รงั สิต วา่ ด้วยการวดั และ
ประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั
ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) เพือ่ ใหส้ ามารถด�ำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคลอ้ งกบั
คำ� สงั่ ดงั กล่าว
ฉะนน้ั อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา 39 แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ าร
ราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2556 และกฎกระทรวงแบง่ สว่ นราชการ คณะกรรมการ
บริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยความเห็นชอบของคณะ
กรรมการสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน จึงวางระเบียบไวด้ งั ต่อไปนี้
ขอ้ 1 ระเบียบนี้เรยี กว่า “ระเบยี บโรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั รงั สิต วา่ ดว้ ยการ
วดั และประเมนิ ผล การเรยี นตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)”
ข้อ 2 ระเบยี บน้ีให้ใชบ้ งั คับตั้งแต่ปกี ารศึกษา 2561 เปน็ ตน้ ไป
ขอ้ 3 ให้ยกเลิกระเบียบ ข้อบงั คับ ทีข่ ัดแยง้ กบั ระเบยี บน้ีให้ใชร้ ะเบยี บนแ้ี ทน
ขอ้ 4 ระเบียบน้ีให้ใชค้ วบค่กู ับหลักสตู รโรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลยั รงั สติ ตาม
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ข้อ 5 ให้ผูอ้ ำ� นวยการสถานศึกษา รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี
“โรงเรียน” หมายความว่า “โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รงั สิต”
“ผ้อู �ำนวยการ” หมายความว่า “ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั รงั สติ ”
“คร”ู หมายความวา่ “ครูโรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลัย รงั สติ ”
“บุคลากรทางการศึกษา” หมายความว่า “บุคลากรทางการศึกษาโรงเรียน
สวนกหุ ลาบวิทยาลัย รงั สติ ”
โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลยั รงั สติ 89
Suankularbwittayalai Rangsit School
“ผู้ปกครอง” หมายความว่า “บดิ ามารดา ผู้ใชอ้ ำ� นาจปกครองตามประมวล
กฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ รวมทง้ั บคุ คลซง่ึ รบั นกั เรยี นไว้ในความปกครอง แทนบดิ ามารดา”
หมวด 1
หลักการดำ� เนินการวัดและประเมินผลการเรยี น
ข้อ 6 การประเมินผลการเรียน ให้เป็นไปตามหลกั การด�ำเนนิ การต่อไปนี้
6.1 สถานศกึ ษาเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบการวดั และการประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น
โดยเปดิ โอกาสใหผ้ ูท้ ีเ่ กี่ยวขอ้ งมสี ่วนรว่ ม
6.2 การวดั และการประเมินผลการเรยี นรู้ มีจดุ มุ่งหมายเพ่อื พฒั นาผู้เรยี นและ
ตดั สินผลการเรียน
6.3 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ อ้ งสอดคลอ้ งและครอบคลมุ มาตรฐานการ
เรียนรู้/ตัวชี้วัดตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ก�ำหนดในหลักสูตรสถานศึกษา และจัดให้มีการ
ประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกจิ กรรมพฒั นา
ผูเ้ รียน
6.4 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการจดั การเรยี น
การสอน ต้องดำ� เนินการดว้ ยเทคนคิ วิธกี ารท่ีหลากหลาย เพ่ือใหส้ ามารถวดั และประเมนิ
ผลผเู้ รียนไดอ้ ยา่ งรอบดา้ นทัง้ ดา้ นความรู้ ความคดิ กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ
เหมาะสมกบั สิ่งทีต่ อ้ งการวดั ธรรมชาติวชิ า และระดบั ชน้ั ของผู้เรียน โดยต้งั อย่บู นพ้ืน
ฐานของความเทย่ี งตรง ยุติธรรมและเช่ือถอื ได้
6.5 การประเมนิ ผเู้ รยี นพจิ ารณาจากพฒั นาการของผเู้ รยี น ความประพฤติ การ
สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ การรว่ มกจิ กรรม และการทดสอบ ควบคู่ไปในกระบวนการ
เรยี นการสอนตามความเหมาะสมของ แตล่ ะระดบั และรปู แบบการศกึ ษา
6.6 เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นและผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.7 ใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศกึ ษาและระหวา่ งรปู แบบการ
ศึกษาต่าง ๆ
6.8 ใหส้ ถานศึกษาจดั ท�ำและออกเอกสารหลกั ฐานการศึกษา เพื่อเปน็ หลกั ฐาน
การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รายงานผลการเรยี นแสดงวฒุ กิ ารศกึ ษาและรบั รองผลการเรยี น
ของผเู้ รยี น
หมวด 2
วิธีการวดั และประเมนิ ผลการเรียน
ขอ้ 7 สถานศึกษาตอ้ งดำ� เนนิ การวดั และประเมนิ ผลให้ครบองคป์ ระกอบทง้ั 4 ดา้ น
คือ กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้ 8 กลุม่ สาระ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น คุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน
90 คู่มือนักเรยี นและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
ข้อ 8 การประเมินผลการเรยี นรตู้ ามกล่มุ สาระการเรียนรู้ทัง้ 8 กลุม่ สาระ เป็นการ
ประเมินความรู้ ความสามารถ ทักษะ เจตคติ ทักษะการคิด ที่ก�ำหนดอยู่ในตัวชี้วัดใน
หลักสตู ร ซึง่ จะนำ� ไปสู่การสรปุ ผลการเรียนรตู้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ ด�ำเนนิ การวดั ผล
ตามเกณฑ์ทกี่ ำ� หนด ดงั น้ี
8.1 กำ� หนดสดั ส่วนคะแนนระหวา่ งเรยี นกับปลายภาคเรยี น โดยให้ความส�ำคญั
ของคะแนนระหว่างเรียนมากกวา่ คะแนนปลายภาคเรยี น ได้แก่
1) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สัดสว่ นคะแนนเป็น 70 : 30
2) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ สัดส่วนคะแนนเปน็ 70 : 30
3) กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ สดั ส่วนคะแนนเป็น 70 : 30
4) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สดั สว่ นคะแนน
เป็น 70 : 30
5) กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ สัดสว่ นคะแนนเปน็ 70 : 30
6) กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ สดั ส่วนคะแนนเปน็ 80 : 20
7) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี สดั ส่วนคะแนนเป็น 80 : 20
8) กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาพลศึกษา สดั สว่ นคะแนนเป็น 80 : 20
8.2 ตรวจสอบเวลามาเรียนของผ้เู รียนใหเ้ ปน็ ไปตามทสี่ ถานศึกษากำ� หนด
8.3 ประเมนิ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระในระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
และผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษาก�ำหนดด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย
และใช้การประเมนิ ผลตามสภาพจริง
8.4 ประเมนิ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระ ปลายภาคเรยี น จากผลการทดสอบ
(หรอื แฟ้มสะสมผลงาน) ท้ังทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ
8.5 ผู้เรียนท่ีมีเวลาเรียน มีผลการประเมินระหว่างเรียนและปลายภาคเรียน
ประมวลผลเป็นระดับผลการเรียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษาก�ำหนด เป็นผู้ผ่านการประเมิน
สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระ และนำ� ผลการประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น
8.6 ผู้เรยี นที่มผี ลการประเมนิ ตวั ช้วี ัด/มาตรฐานการเรยี นรู้ไม่ผ่านตามเกณฑ์ท่ี
สถานศกึ ษากำ� หนด ผู้สอนตอ้ งด�ำเนินการซ่อมเสริมระหว่างเรียน
8.7 การตัดสินผลการเรียนให้น�ำผลการประเมินระหว่างเรียนรวมกับผลการ
ประเมนิ ปลายภาคเรยี นตามสัดสว่ นคะแนนท่ีโรงเรียนก�ำหนดแลว้ ให้ระดับผลการเรยี น
8.8 ในกรณที ผี่ ้เู รียนทุจรติ ในการวดั และประเมินผลคร้ังใดให้ไดผ้ ลการประเมนิ
ในครง้ั นนั้ เปน็ “0” หากเปน็ การทจุ รติ ในการวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น ให้ไดร้ ะดบั
ผลการเรยี นเป็น “0” ในรายวิชานั้น
ขอ้ 9 การประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ของผู้เรียน ให้ครปู ระจำ� วชิ า
ด�ำเนนิ การวัดผลตามเกณฑ์ที่กำ� หนด ดงั น้ี
โรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย รงั สิต 91
Suankularbwittayalai Rangsit School
9.1 กำ� หนดแนวทางการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นของผเู้ รยี น คอื
กลมุ่ สาระการเรยี นรแู้ ละผรู้ บั ผดิ ชอบพฒั นาและประเมนิ ทกุ คณุ ลกั ษณะ การบรู ณาการตวั
ชว้ี ดั ของการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น รว่ มกบั การประเมนิ ผลกลมุ่ สาระการ
เรยี นรู้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้
9.2 ประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นของผเู้ รยี นจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
และผลงาน/ชนิ้ งานของผเู้ รยี นในตวั ชวี้ ดั ของ 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ สี่ อดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ดั
ความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น
9.3 ผเู้ รยี นที่ไดร้ บั ผลการประเมนิ จากครผู สู้ อน 8 กลมุ่ สาระ ตามเกณฑท์ ส่ี ถาน
ศึกษาก�ำหนด และได้รับการประมวลผลตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก�ำหนด เป็นผู้ผ่านการ
ประเมิน และน�ำผลการประเมนิ ไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน
9.4 ผู้เรียนทม่ี ีผลการประเมินไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์
และเขียน ผู้สอนและคณะกรรมการประเมินฯ ต้องด�ำเนินการส่งเสริมพัฒนาให้มีความ
กา้ วหนา้ ในตวั ชวี้ ดั ทม่ี จี ดุ บกพรอ่ ง และสรา้ งผลงานทสี่ ะทอ้ นความสามารถในตวั ชว้ี ดั ทตี่ อ้ ง
ปรบั ปรงุ แก้ไขไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ ด้วยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย
ข้อ 10 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ให้ครูผู้สอนด�ำเนินการ
วัดผลไปพรอ้ มกับการประเมนิ ผลระดบั ชนั้ เรยี นตามเกณฑท์ ่ีก�ำหนดดงั นี้
10.1 กำ� หนดแนวทางการพฒั นาและประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
กลมุ่ สาระการเรยี นรูแ้ ละผทู้ ร่ี บั ผิดชอบพัฒนาและประเมนิ ทุกคุณลักษณะ
10.2 ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี นจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมหรอื
สร้างภาระงานรวบยอดของผเู้ รียนตามพฤตกิ รรมบง่ ช้ีตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษากำ� หนด
10.3 ผู้เรียนที่ได้รับผลการประเมินจากครูผู้สอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ตามเกณฑ์ ทส่ี ถานศกึ ษากำ� หนด และไดร้ บั การประมวลผลตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำ� หนด
เปน็ ผผู้ า่ นการประเมินและนำ� ผลการประเมินไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน
10.4 ผู้เรียนท่ีมีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ผสู้ อนตอ้ งดำ� เนนิ การปรบั ปรงุ พฒั นาและประเมนิ ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำ� หนด
ข้อ 11 การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนให้ประเมนิ เป็นรายภาคเรยี น โดยสถาน
ศกึ ษาเป็นผู้กำ� หนดแนวทาง การประเมิน ผู้รับผดิ ชอบกจิ กรรมด�ำเนนิ การประเมินตามจุด
ประสงค์ในรายกจิ กรรม ตามเกณฑ์ท่ีกำ� หนดดังน้ี
11.1 ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปตามที่สถานศึกษา
ก�ำหนด
11.2 ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรมและผลงาน/ชิ้นงาน
ของผู้เรยี น ตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษาก�ำหนดดว้ ยวิธีการทห่ี ลากหลาย และใชก้ ารประเมนิ
ตามสภาพจรงิ
92 คู่มือนกั เรียนและผู้ปกครอง
STUDENT HANDBOOK
11.3 ผเู้ รยี นทมี่ เี วลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและผลงาน/ชน้ิ งาน
ของผเู้ รยี น ตามเกณฑท์ สี่ ถานศกึ ษากำ� หนด เปน็ ผผู้ า่ นการประเมนิ รายกจิ กรรมและนำ� ผล
การประเมินไปบนั ทึกในระเบยี นแสดงผลการเรียน
11.4 ผเู้ รยี นทมี่ ีผลการประเมินไม่ผา่ นตามเกณฑเ์ วลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรมหรือ
เกณฑ์การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน ช้ินงานของผู้เรียนหรือทั้งสองเกณฑ์ ถือว่าไม่ผ่าน
การประเมนิ ผลกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ผสู้ อนตอ้ งด�ำเนนิ การซ่อมเสริมและประเมนิ จนผ่าน
ยกเว้นมเี หตุสดุ วสิ ยั ให้อยู่ในดุลยพินจิ ของสถานศึกษา
หมวด 3
เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ข้อ 12 การตัดสินผลการเรียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.
2560) กำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพอื่ ตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู้ รยี น ดงั นี้
12.1 ตัดสินผลการเรยี นเป็นรายวิชา ผู้เรียนตอ้ งมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไม่
น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นท้ังหมดในรายวชิ านั้น ๆ
12.2 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวช้ีวัดและผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา
กำ� หนด
12.3 ผเู้ รยี นตอ้ งได้รับการตดั สินผลการเรยี นทุกรายวิชา
12.4 ผ้เู รยี นตอ้ งได้รบั การประเมินและมผี ลการประเมนิ ระดับผา่ นตามเกณฑ์ท่ี
สถานศึกษากำ� หนด ในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และ
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน
ขอ้ 13 การใหร้ ะดบั ผลการเรียน
13.1 การตดั สินผลการเรยี นตัดสินเป็นรายวชิ า โดยใชผ้ ลการประเมนิ ระหวา่ ง
ภาคและ ปลายภาคตามสดั สว่ นทส่ี ถานศกึ ษากำ� หนด ทกุ รายวชิ าตอ้ งไดร้ บั การตดั สนิ และ
ให้ระดับผลการเรียน ทั้งนี้ผู้เรียนต้องผ่านทุกรายวิชาพ้ืนฐาน การตัดสินผลการเรียน
ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้ระบบผ่านและไม่ผ่าน โดยก�ำหนดเกณฑ์การตัดสินผ่าน
แตล่ ะรายวชิ าทร่ี อ้ ยละ 50 จากนนั้ จงึ ใหร้ ะดบั ผลการเรยี นทผ่ี า่ น สำ� หรบั ระดบั มธั ยมศกึ ษา
ตอนต้นและตอนปลายใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับ แนวการให้ระดับ
ผลการเรียนและความหมายของแตล่ ะระดับดังแสดงในตาราง ดงั น้ี
โรงเรยี นสวนกุหลาบวทิ ยาลยั รังสติ 93
Suankularbwittayalai Rangsit School
ระดับผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นรอ้ ยละ
4 ดเี ย่ียม 80 - 100
3.5 ดมี าก 75 - 79
3 70 - 74
2.5 ด ี 65 - 69
2 ค่อนขา้ งด ี 60 - 64
1.5 ปานกลาง 55 - 59
1 50 - 54
0 พอใช้ 0 - 49
ผ่านเกณฑข์ ้ันตำ�่
ตำ่� กวา่ เกณฑ ์
ในกรณีที่ไม่สามารถให้ระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับได้ ให้ใช้ตัวอักษรระบุ
เง่ือนไขผลผลการเรยี น ดงั นี้
“มส” หมายถึง ผเู้ รียนไม่มีสิทธ์เิ ขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรียน เนือ่ งจากผู้
เรยี นมเี วลาเรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นในแตล่ ะรายวชิ า และไม่ไดร้ บั การผอ่ นผนั
ใหเ้ ขา้ รับการวัดผลปลายภาคเรยี น
“ร” หมายถงึ รอการตดั สนิ และยงั ตดั สนิ ผลการเรยี นไม่ได้ เนอ่ื งจากผเู้ รยี น
ไมม่ ขี อ้ มลู ผลการเรยี นรายวชิ านนั้ ครบถว้ น ไดแ้ ก่ ไม่ไดว้ ดั ผลระหวา่ งภาคเรยี น/ปลายภาค
เรียน ไม่ได้ส่งงานที่มอบหมายให้ท�ำ ซึ่งงานน้ันเป็นส่วนหน่ึงของการตัดสินผลการเรียน
หรอื มีเหตสุ ุดวสิ ยั ทท่ี ำ� ให้ประเมนิ ผลการเรยี นไม่ได้
13.2 การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ใหผ้ ลการประเมินเป็นผา่ น
และไมผ่ า่ น กรณที ผี่ า่ นใหร้ ะดบั ผลการประเมนิ เปน็ ดเี ยยี่ ม ดี และ ผา่ น ในการสรปุ ผลการ
ประเมนิ เพอ่ื การเลอ่ื นชน้ั และจบการศกึ ษา กำ� หนดเกณฑก์ ารตดั สนิ เปน็ 4 ระดบั และความ
หมายของแตล่ ะระดับ ดังน้ี
ดเี ยยี่ ม หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขยี นทม่ี คี ุณภาพดีเลิศอย่เู สมอ
ดี หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนทีม่ ีคณุ ภาพเป็นทย่ี อมรับ
ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนท่มี คี ณุ ภาพเปน็ ท่ียอมรบั แตย่ งั มขี ้อบกพร่องบางประการ
ไม่ผา่ น หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์
และเขยี นหรือถา้ มีผลงาน ผลงานน้นั ยงั มีขอ้ บกพร่องท่ีต้องได้รับการปรบั ปรุงแก้ไขหลาย
ประการ
94 คู่มือนกั เรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK
13.3 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้ผลการประเมินเป็นผ่านและ
ไม่ผ่าน กรณีท่ีผ่านให้ระดับผลการประเมินเป็นดีเย่ียม ดี และผ่าน ในการสรุปผลการ
ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคร์ วม ทกุ คณุ ลักษณะเพอื่ การเลื่อนชั้นและจบการศึกษา
ก�ำหนดเกณฑ์การตัดสนิ เปน็ 4 ระดับ และความหมายของ แตล่ ะระดับ ดังนี้
ดเี ยยี่ ม หมายถงึ ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ติ นตามคณุ ลกั ษณะจนเปน็ นสิ ยั และนำ� ไปใช้ในชวี ติ
ประจำ� วนั เพอื่ ประโยชน์สุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดับดี
เย่ยี ม จ�ำนวน 5 – 8 คุณลักษณะ และไม่มคี ุณลกั ษณะใดได้ผลการประเมินต�่ำกวา่ ระดับดี
ดี หมายถงึ ผเู้ รยี นมคี ณุ ลกั ษณะในการปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ การ
ยอมรบั ของสงั คม โดยพจิ ารณาจาก
1. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยี่ยม จ�ำนวน 1 - 4 คณุ ลกั ษณะ และไม่มี
คุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต�่ำกว่าระดบั ดี หรือ
2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีทง้ั 8 คณุ ลักษณะ หรอื
3. ได้ผลการประเมินต้ังแตร่ ะดบั ดีข้ึนไป จ�ำนวน 5 - 7 คณุ ลกั ษณะ
และมีบางคณุ ลักษณะไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน
ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รยี นรบั รแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขทสี่ ถานศกึ ษา
ก�ำหนด โดยพิจารณาจาก
1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่านทัง้ 8 คณุ ลกั ษณะ หรือ
2. ได้ผลการประเมินตัง้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป จ�ำนวน 1 - 4 คุณลกั ษณะ และ
คณุ ลักษณะทเี่ หลือไดผ้ ลการประเมินระดับผ่าน
ไมผ่ ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขท่ี
สถานศึกษา กำ� หนดโดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ไม่ผา่ น ต้งั แต่ 1 คณุ ลกั ษณะ
13.4 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วม
กจิ กรรม การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและผลงานของผเู้ รยี นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำ� หนดและให้
ผลการประเมนิ เปน็ ผ่านและไมผ่ า่ น
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนมี 3 ลกั ษณะ คอื
1) กจิ กรรมแนะแนว
2) กิจกรรมนักเรยี น ซ่งึ ประกอบด้วย
(1) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ�ำเพ็ญประโยชน์
และนกั ศกึ ษา วิชาทหาร โดยผเู้ รยี นเลือกอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง
(2) กจิ กรรมชมุ นุมหรอื ชมรม
ทงั้ นี้ ผเู้ รยี นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จะตอ้ งเขา้ รว่ มกจิ กรรมทงั้ ขอ้ (1) และ (2)
ส�ำหรับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
ในขอ้ (1) หรอื (2)
โรงเรยี นสวนกุหลาบวทิ ยาลัย รังสติ 95
Suankularbwittayalai Rangsit School
(3) กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
ให้ใช้ตวั อกั ษรแสดงผลการประเมนิ ดังน ้ี
“ผ” หมายถงึ ผเู้ รียนมีเวลาเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
และมีผลงานตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษาก�ำหนด
“มผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ปฏิบัตกิ ิจกรรม
และมผี ลงานไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษาก�ำหนด
ข้อ 14 การเปลย่ี นผลการเรียน
14.1 การเปลย่ี นผลการเรยี น “0”
สถานศกึ ษาจดั ใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสรมิ ในมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ทผ่ี เู้ รยี น
สอบไมผ่ า่ นกอ่ น แล้วจงึ สอบแก้ตัวได้ไม่เกนิ 2 คร้งั ถ้าผู้เรียนไม่ดำ� เนินการสอบแกต้ วั ตาม
ระยะเวลาทส่ี ถานศึกษากำ� หนด ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศกึ ษาที่จะพิจารณาขยายเวลา
ออกไปอีก 1 ภาคเรยี น สำ� หรับภาคเรยี น 2 ต้องดำ� เนนิ การใหเ้ สรจ็ สิน้ ภายในปกี ารศกึ ษาน้นั
การสอบแก้ตัว ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรียนไมเ่ กนิ “1”
ถ้าสอบแกต้ ัว 2 ครงั้ แลว้ ยงั ได้ระดบั ผลการเรยี น “0” อกี ให้สถานศกึ ษาแตง่
ต้ังคณะกรรมการด�ำเนนิ การเกย่ี วกบั การเปลยี่ นผลการเรียนของผู้เรยี น โดยปฏบิ ัติดังน้ี
1) ถ้าเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน ใหเ้ รยี นซ�้ำรายวิชานน้ั
2) ถา้ เปน็ รายวิชาเพิม่ เติม ให้เรยี นซ�้ำหรอื เปล่ียนรายวชิ าเรยี นใหม่ ท้งั น้ี
ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา
ในกรณที เี่ ปลยี่ นรายวชิ าเรยี นใหม่ ใหห้ มายเหตใุ นระเบยี นแสดงผลการเรยี นวา่
เรยี นแทนรายวิชาใด
14.2 การเปลี่ยนผลการเรยี น “ร”
การเปลี่ยนผลการเรยี น “ร” ให้ดำ� เนนิ การดังน้ี
ให้ผู้เรียนด�ำเนินการแก้ไข “ร” ตามสาเหตุ เมื่อผู้เรียนแก้ไขปัญหาเสร็จ
แลว้ ให้ได้ระดบั ผลการเรียนตามปกติ (ตัง้ แต่ 0 - 4)
ถ้าผเู้ รียนไม่ดำ� เนนิ การแก้ “ร” กรณที สี่ ง่ งานไม่ครบ แต่มีผลการประเมนิ
ระหวา่ งภาคและปลายภาค ใหผ้ สู้ อนนำ� ขอ้ มลู ทมี่ อี ยตู่ ดั สนิ ผลการเรยี น ยกเวน้ มเี หตสุ ดุ วสิ ยั
ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของสถานศกึ ษา ทจี่ ะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอกี ไมเ่ กนิ 1 ภาคเรยี น
สำ� หรับภาคเรยี นที่ 1 สำ� หรบั ภาคเรียนท่ี 2 ตอ้ งด�ำเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิน้ ภายในปกี ารศึกษานัน้
เมอื่ พน้ กำ� หนดนแี้ ลว้ ใหเ้ รยี นซำ้� หากผลการเรยี นเปน็ ”0” ใหด้ ำ� เนนิ การแก้ไขตามหลกั เกณฑ์
14.3 การเปลยี่ นผลการเรียน “มส”
การเปลี่ยนผลการเรียน “มส” มี 2 กรณี ดังน้ี
1) กรณีผู้เรยี นได้ผลการเรยี น “มส” เพราะมีเวลาเรยี นไม่ถึงร้อยละ 80 มี
เวลาเรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรยี นในรายวชิ าน้ัน ใหส้ ถานศกึ ษาจดั ใหเ้ รยี น
96 คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง
STUDENT HANDBOOK