“โ ร ค”...ส อ น ชี วิ ต
<<อยกู ับโรคอยา งไรใหก ายใจเปนสุข >>
By @ นาํ้ ตาหยดสดุ ทา ย @
คํานิยม
ภาษติ ฝรง่ั บอกวา Not how long you live, but how you live ! แปลวา ชวี ติ
จะยืนยาวเทา ไรไมสําคัญเทา กบั วาคุณมีชีวติ อยางไร
ผมโชคดีท่ีไดรจู กั กบั ผูห ญงิ หลายคน ลว นอายุยงั นอย แตใหบ ทเรยี นชีวติ ทป่ี ระมาณ
คามไิ ดใ หผมและผูคนในสังคมไทย
สุภาพร พงศพฤกษ เรียนจบธรรมศาสตร ผมชวนไปทํางานดวยที่องคกรพฒั นา
เอกชนเม่อื ป 2523 ทาํ งานอยหู ลายปกอนทีเ่ ธอจะลาออก วนั หน่ึงไดขา ววา เธอเปนมะเร็ง
ตัดสินใจไมผาตัด หาทางดูแลสขุ ภาพของตนเอง เธอเขียนหนังสือ ท่ี ”เมอ่ื ดฉิ นั เปนมะเร็ง“
แพรห ลายขายดี
สุภาพรมชี วี ิตยนื ยาวอกี หลายป กลายเปน วทิ ยากรไปใหกําลงั ใจผปู วยมะเร็งจํานวน
มากทัว่ ประเทศ แตสุดทา ย เธอกเ็ สียชวี ิตดวยมะเร็ง แตเ ปน บ้นั ปลายชวี ิตท่งี ดงาม มีคณุ คา
อยา งยิ่ง มกี ารสรุปบทเรยี นการจากไปของเธออยา งยิ่งใหญท ่ีมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตรแ ละ
เวทีอ่นื ๆ ท้ังชวี ิตและความตายของเธอมคี ณุ คา สาํ หรบั ทุกคน ไมวาเจบ็ ปว ยหรอื ไม ไมวาเปน
มะเรง็ หรอื ไมกต็ าม
พมิ ใจ อินทะมลู เปน สาวชาวแมร มิ จงั หวัดเชียงใหม ทตี่ ดิ เชือ้ เอชไอวีจาก
สามตี ้งั แตอ ายุยังนอ ย เธอขอบคุณเอดสที่ทาํ ใหเธอไดเ ขา ใจชีวิต ไดรูจักผูคน รูจ ักโลก
อยางทีเ่ ธอคงไมมีโอกาสไดรจู ักถา หากไมเ ปนเอดส เธอดูแลสขุ ภาพตนเองอยางดีจนมี
ชีวติ ยืนยาวมาจนถงึ วนั นี้ หลงั จากติดเชือ้ มาเกือบ 30 ปแลว
พมิ ใจขอบคณุ ทีท่ ําใหเธอไดเ รียนรูวาตนเองแมอ าจจะถูกคนมองวาเป น
เหมือน “ขยะ” ที่ลอยตามนํ้า แตเ ปนขยะท่ีอยางนอยก็ยงั นํามาเปน ปยุ ได
เธอเลาวา กอ นติดเช้อื เธอกม็ สี ุขภาพที่ออ นแออยแู ลว ยิ่งติดเชือ้ ยิ่งหนักเขา ไป
อีก แตเ มื่อเธอลกุ ขึ้นมาดแู ลสขุ ภาพของตนเอง ชวยเหลอื ชมุ ชน ทกุ คน ไมว า ติดเชอ้ื ไม
ตดิ เชอื้ ทาํ ใหเธอลืมความทกุ ข ความเจบ็ ปว ยของตนเอง เธอมองวา เธอนา จะตายไป
ตง้ั แต 30 ปท่แี ลว อยูมาถงึ ทุกวันนจ้ี งึ ถอื เปนกําไรชีวิต
นอกจากพิมใจ ผมยงั ไดท าํ งานรว มกบั ผูชดิ เช้อื อีกหลายคน ทงั้ หญิงและชาย
หลายคนยงั มีชวี ติ อยู พวกเขาไดเรียนรใู นการมชี วี ิตท่ีดีเพ่อื คนอนื่ จนลืมความเจบ็ ปวด
ความทกุ ขและปญ หาของตนเอง ติดเช้ือมาเกอื บ 30 ปยังมชี ีวติ อยูแ บบท่ีมองภายนอก
ไมรูวาพวกเขาติดเช้ือเอชไอวี
บุศรา โมลา เปน ผูหญงิ อีกคนหน่งึ ท่อี ยใู นกลุม คนทีผ่ มช่นื ชมยกยอง คนที่กา วขา ม
ความเจบ็ ปวย ความทกุ ขทรมานทางรางกายทีห่ าคาํ อธบิ ายไมไ ด ยอมรบั และเรยี นรทู ีจ่ ะอยู
กบั โรคน้ี เปน นักเรยี นรูที่ไมไ ดข งั ตวั เองอยูแตในมุมมดื ของชวี ิต แตออกไปสูอกี มมุ หนงึ่ ที่
สวางไสว ปลดปลอยตนเองจากขอจํากดั ของรางกาย ที่ไมอ าจปดก้ันการกา วขามไปสู
การปลดปลอยและอิสรภาพ
”โรคสอนชวี ิต“ เปน ”พินัยกรรม“ สาํ หรับผอู า นทกุ คน เปน ”มรดก“ มคี ณุ คา
ใหญยงิ่ ทีก่ ล่ันกรองออกมาจากสวนลึกของหวั ใจของคนท่มี องชีวิตในอดตี แบบนกั เรียนรู
ผเู หน็ คุณคาของทกุ ส่งิ ท่ีเกิดขน้ึ ไมวา ทกุ ขห รอื สุข ไมวาความสบายหรือความเจบ็ ไขไดป ว ย
ขอ เขยี นของบุศราเปนปรชั ญาชวี ติ เปนการคิดคาํ นงึ ถึงเหตกุ ารณตา ง ๆ ท่เี กิดขน้ึ
สะทอ นการมองโลกมองชีวิตดว ยสายตาของคนที่เขา ใจ ยอมรบั แตไ มใ ชก ารยอมจาํ นน หรือ
หมดอาลยั และก็ไมใชการตอสปู ระหนึ่งโรครา ย คอื ศัตรู แต คอื ส่งิ ที่หน่งึ เกิดขนึ้ มาจาก
ธรรมชาติ ทีอ่ าจจะยังหาคาํ ตอบไมไ ด
แตชวี ติ กเ็ ปนเชน น้ี มีมากมายหลายอยางทอ่ี ธบิ ายไมไ ด เรามีชวี ติ อยูดวยศรัทธา
มากกวา เหตุผล อยดู ว ยความไมรมู ากกวาความรู อานขอเขียนของบุศราจงึ รูสึกถึงความออ น
นอ มถอมตนของคนที่ยอมรับชีวติ ยอมรบั สิง่ ที่เกดิ ขึน้ ไมมคี วามอหังการท่ีพยายามหาคําตอบ
ของทกุ สง่ิ มีแตค วามพรอ มที่จะอยู พรอ มที่จะไป ตามวิถที ีธ่ รรมชาติกาํ หนด
อา นแลว รสู กึ ถงึ คําสอนท่ไี ดยนิ พระบางรูปท่ีสอนให หมายถงึ ให ”ปลง อโหสิ แผ“
ปลอยวาง ใหอโหสใิ หคนอื่นและขออโหสกิ รรมใหต นเอง พรอ มกบั แผเมตตาใหค นอนื่ และ
สรรพสง่ิ คนท่คี ดิ ไดเชน นเี้ ปน คนโชคดี เพราะชีวติ กับความตายไมใชอ ะไรที่แยกจากกันเปน
เพียงคนละดา นของเหรยี ญเดยี ว เปนสจั จธรรมที่ทาํ ใหเ รากา วพน จากความทุกขที่มาจากการ
แบง แยก คลา ยกับทท่ี า นพทุ ทาสสอนวา "Die before dying fore immortality” ตายกอ น
ตาย เพ่อื จะไดไ มม วี ันตาย
รองศาสตราจารย ดร. เสรี พงศพิศ
28 ตลุ าคม 2558
คาํ นิยม
หากเรานัง่ มองสายน้ําที่กาํ ลังไหลผานไปอยา งพนิ จิ พิเคราะห เราอาจสงั เกตไดว า
กระแสนาํ้ น้ีกอ กําเนดิ มาจากลาํ ธารเล็กๆ ไหลรนิ ลงมาจนเปน แมน้ําใหญ หยดนํ้าทุกหยดผา น
เร่ืองราวมามากมาย หนนุ เนอื่ งจากอดีตจนถึงปจจบุ นั และคงไหลตอ ไปในอนาคต
ชวี ติ ของเราแตล ะคนเปรียบเสมอื นแมน ํ้าทัง้ สาย เน้ือหาของชีวิตสัมพันธก ันต้งั แต
ตนธารจนถงึ หว งมหาสมุทร ในวิถีทางทด่ี ําเนินไปนี้ลวนมรี ายละเอียดหลากหลายที่ทกุ คน
จะตอ งไดป ระสบ เรียนรู สุข หรือ ทุกข คละเคลา กันไป จนกวาสายธารแหง ชีวติ จะหยดุ ไหล
รนิ ... ชวี ติ ของ แมว บุศรา ก็เปน อกี หน่งึ สายนา้ํ ทีเ่ ดนิ ทางผานเสนทางของกาลเวลาโดยมี
ภาวะความเจบ็ ปว ยดว ยโรคไต เปน สิง่ ท่ีดําเนินควบคมู ากับชวี ติ อยา งยาวนาน โรคภยั ไขเจบ็ นี้
กค็ ลา ย ๆ กบั คนทเี่ ดนิ ทางดวยกัน ไมนานเรากจ็ ะเรียนรจู ากเพือ่ นรวมทางทลี ะนอ ยทลี ะนอย
จนสามารถเดินทางไปดวยกนั ไดอ ยา งกลมกลืน หนาทข่ี องผม ซึง่ เปนอายรุ แพทยโรคไตไมไ ดมี
สงิ่ ใดสลกั สาํ คญั มากไปกวา การเปน เพอ่ื นอกี คนหน่ึง ที่ไดม ารวมการเดินทางครัง้ น้ี ในชว งเวลา
ใดเวลาหนึ่ง สิง่ ที่เราพอจะทําไดก ็ คือ การเกอ้ื กลู อดุ หนนุ ประคบั ประคองใหก ารเดนิ ทาง
เปน ไปอยางปลอดภยั ราบรืน่ และมีอุปสรรคนอ ยทสี่ ดุ ไมใชเพียงแคม ชี ีวิตอยู แตยังตองอยู
อยา งมชี วี ติ อกี ดว ย แลว ผูป วย โรคของไต และ หมอ กเ็ ดนิ รวมทางกันตอ ไป ...
ชีวิตก็เทา นี้ ... ในวันขา งหนา เสน ทางชีวิตหรอื สายน้ําของแมว มีความเปนไปไดไ ม
นอยท่จี ะไดร บั การรกั ษาดว ยการปลกู ถายไต เมอื่ ถึงวันนั้นสขุ ภาพตา ง ๆ ของรางกายก็จะ
กลับมาสมบรู ณ และการเจ็บปวยในอดีตทเ่ี คยประสบกจ็ ะเปนเพยี งความทรงจาํ อันมคี ณุ คา
ประดบั ไวใ นชวี ติ " มนุษยเ ปน สัตวโลกเพยี งชนดิ เดยี วที่มชี ีวิตอยูรอดมาถึงทุกวันนี้ก็เพราะ
มคี วามหวงั ความฝน ใฝอดีตอาจเคยพบอปุ สรรคหรอื ความทกุ ขจ นคิดวาไมอาจทานทน
ตอไปแตม นุษยก ส็ ามารถมชี ีวิตรอดตอมาไดและพรอมทจี่ ะสรางความหวังขนึ้ มาอีกคร้ัง "
... สายนาํ้ ยงั คงไหลไป…
นายแพทย ธีระยุทธ หยกอบุ ล
21 มนี าคม 2559
คาํ นิยม
ขอบคณุ บศุ รา โมลา ท่ีตดั สินใจมาเปนลกู ศิษย ในรว้ั พอ ขุนเมื่อป 2550 ทําใหครมู โี อกาส
ไดรูจ ักและเห็นความสามารถของลกู ศิษยคนนี้ จําไดว าบศุ รามีแตค วาม ย้ิมแยม แจมใส ราเรงิ โดยครู
ไมร ูเลยวาเธอมีโรคประจาํ ตวั ไมว าตองอานหนงั สอื ตาํ ราประจาํ วชิ าทีเ่ ปน ภาษาอังกฤษที่แสนยาก
หรอื ตอ งสอนแนะเพ่ือนและครู ในการเรียนรวู ิธสี รางหนาเว็บประจาํ รนุ เพือ่ นาํ เอาความรทู ี่เราคนควา
มาขน้ึ หนา เว็บใหเ พ่ือน ๆ และนอ งรนุ ตอ ๆ มาไดฝกฝน การใชเทคโนโลยีเพ่ือจดั เก็บและคนคืนขอมูล
บุศราทําไดอยางดี อธิบายใหเพอ่ื นเขาใจไดโดยไมเ ห็นเธอจะกังวลหรือมีโมโหเลย ทงั้ น้ีเพราะเราหลาย
คนตองการคาํ แนะนาํ อยางใกลชิดมาก ๆ (หมายถึงเราไมค อยถนดั เรอ่ื งเทคโนโลยี มีคําถาม และ
ตองการตวั ชวยกนั เกอื บทุกคน) ในชวงทบี่ ศุ ราทาํ วทิ ยานพิ นธน น้ั เธอคงหนกั ใจมิใชนอ ย แตเ มอื่ ใดที่มี
เสยี งรองขอความชวยเหลอื จากครูและเพ่ือน บศุ รารีบเดินทางมาทันที แมใ นเวลาที่เธอไดท ํางานที่
สถาบนั การเรยี นรูเพ่อื ปวงชนแลว ก็ไมเคยทจ่ี ะปฏเิ สธคาํ ขอของครแู ละเพ่อื น ท้งั งานวชิ าการ งานรบั
นอ ง งานวชิ าการทีค่ รูขอใหชว ย
ผหู ญิงตวั เล็ก ๆ ทแี่ ขง็ แกรงคนน้ี ชางมศี กั ยภาพ และมีหัวใจของการใหต ลอดมา ครูไมเคย
ไดยินเสียงบนคราํ่ ครวญในความเจ็บไขข องเธอเลย ไมร ูดว ยซาํ้ วาเธอตอ งทนทุกขท รมานตอความ
เจบ็ ปวดมาหลายป
เมอ่ื ไดอานหนงั สอื ทีเ่ ธอเขียนเลาเรือ่ งความยากลําบากยามเดก็ เมื่อเธอตองเดนิ ทางเขา
เมืองเพอื่ ใหไดเ รยี นหนังสอื นนั้ ทาํ ใหครตู อ งนํ้าตาไหล เธอชางเปนคนใฝรจู ริง ๆ ไมมคี าํ วา ยอ ทอ เลยใน
ผหู ญงิ ตัวเล็ก ๆ คนนี้ เรือ่ งโรคภัยทเ่ี ขามาทาํ ใหเ ธอตอ งเจ็บปวดทกุ ขท รมานนชี้ างโหดรายเสยี จริง ๆ
แมร า งกายของเธอตอ งทนทกุ ข แตเ ธอไดใชช ีวิตอยางมคี ณุ ภาพจรงิ ๆ โดยเฉพาะเธอนกึ ถงึ ประโยชน
ของผอู ่นื และสังคมกอนตัวเองเสมอมา ความเจบ็ ปว ยสอนเธอใหใชช วี ิตทมี่ เี ปาหมาย ทําประโยชน
ตลอดเวลา ใชช ีวิตใหม ีความสุข ความเจบ็ ปวดมไิ ดท ําใหเ ธอยอ ทอ เธอเปน ตัวอยา งที่หายากย่ิง เธอรู
คณุ คา ของการมชี ีวติ และรูอยูใ หม ีคณุ คา ตลอดเวลา เธอมคี ุณแมที่เขม แขง็ ใหกาํ ลงั ใจและดูแลใกลชดิ
นน่ั คือ เธอเกดิ มาเพอ่ื ตระหนกั ถงึ คําสอนของพระพทุ ธองค ไดฝก การมีสติ การมสี มาธเิ อาชนะความ
เจบ็ ปวด การมปี ญญาใชช ีวติ ดวยการคดิ บวก แมแ ตความเจ็บปวดจากโรคภัยกไ็ มยอมใหมันมามี
อาํ นาจเหนอื ความรสู ึกของเธอได ขอยกยอ งผูหญิงคนน้ี ชีวติ เปนเชน นั้นเอง ขอใหบศุ รามคี วาม
เจบ็ ปวดนอ ยลง และใหคณุ พระศรรี ัตนไตรคมุ ครองใหบุศรามีชีวติ ยนื ยาวตอไปอกี นาน ๆ
ทายนี้ขอใหผ ทู ่ไี ดอานหนังสือเลม น้ี จงรักชวี ติ ของตนเอง มเี มตตาทําประโยชน ใหผอู น่ื
บา งกอ นทีเ่ ราจะไมมโี อกาส ปญหาทเ่ี ราพบเปน เร่ืองเล็กนอ ย เมอ่ื เทยี บกบั ความเจ็บปวดจากโรคภยั
ของบุศรา โมลา
รองศาสตราจารย ดร. พมิ ลพรรณ ประเสรฐิ วงษ เรพเพอร
12 ธนั วาคม 2558
คํานยิ ม
ความเจ็บปว ยเปน เร่ืองทที่ ุกคนตอ งประสบในชวี ติ โดยไมจ าํ กดั เพศ วยั บางคน
โชคดมี สี ขุ ภาพแขง็ แรง แตอยาชะลาใจ ภัยเงียบมาไดท กุ เวลา บางคนเปนโรคเรื้อรงั จะอยู
อยางไรกบั โรคอยางสนั ติ และสามารถใชช วี ิตประจาํ วันไดเปน ปกติ มคี วามสขุ ตามอัตภาพ
หนงั สือ “โรคสอนชีวติ ” เปน หนังสือท่ีมคี ุณคา เหมาะสาํ หรบั ผูอ า นทกุ คน เปน
อทุ าหรณส าํ หรบั คนมสี ุขภาพดใี หด แู ลตนเอง และอยา ละเลยตอเสียงเรยี กรอ งของรางกาย
เปน กําลังใจใหสําหรบั ผูป วยโรคเรอื้ รงั ใหอ ยกู บั โรคไดอ ยางสันติสุข ใชชวี ิตไดตามปกติ โดยหัน
มาเอาใจใส ดแู ล และใหเ วลากับตัวเองมากข้ึน เขาทํานองทวี่ า “ปวยกายแตอยา ปวยใจ”
บศุ รา โมลา เปนบุคคลทีม่ ีความอดทนยอดเย่ยี ม เธอตองตอ สูก บั ความเจ็บปวดครัง้
แลว คร้งั เลา กับโรคไตทเี่ ปน มานาน และโรคแทรกซอนตาง ๆ และโรคไตยังอยกู ับเธอตลอด
ชวี ติ การรกั ษาใจใหค ดิ บวก ใหเวลากับตวั เองมากขึน้ เอาใจใสด ูแลรางกาย เรยี นรู ท่จี ะ
ยอมรบั และเปนกําลงั ใจใหก ับตนเองน้ัน ทาํ ใหเธอเปนคนทเี่ ขมแขง็ มีจิตใจที่แข็งแกรง และ
รูจักใชช ีวิตอยางมคี ุณคา ทกุ วนั นถ้ี งึ เธอจะปว ยก็เพียงรางกาย เธอยังคงทําประโยชนต อ สงั คม
ทาํ หนา ทใ่ี หค วามรูแ กผูอนื่ ซึง่ เปน แบบอยางท่ีนายกยอ ง ขอใหเธอจงมสี ุขภาพแขง็ แรง รกั ษา
กาย รกั ษาใจ ใหม คี วามสขุ ไดท าํ ในสง่ิ ทต่ี นเองปรารถนาเทอญ
รองศาสตราจารย ดร. สนุ ีย กาศจํารูญ
11 พฤศจิกายน 2558
คาํ นิยม
ไดรบั รเู รอ่ื งราวของนอ งแมว ผานทางลกู ศิษยผ ูชว ยศาสตราจารย ดร. เชาวนี
ลอ งชผู ล ผเู ปน เพ่อื นของนองแมว แมว า จะไมไดพบนองแมวบอย ๆ แตก็ไดติดตาม
อาการของนอ งแมวมาโดยตลอด เม่ือไดต อบรับคําขอของนอ งแมว ใหเ ขียนคาํ นิยม
สําหรบั หนังสอื “โรคสอนชีวิต” กเ็ รม่ิ อา นหนงั สอื และอา นจบในเวลาไมน าน แตพ บวา
การเขยี นคาํ นยิ มใหห นงั สอื เลมนไ้ี มงายเลย จงึ เขียนดวยใจจรงิ ๆ
หนงั สอื เลมนีเ้ ปนเหมือนครูผูใชช ีวิตของตนเองสอนผอู านแบบกัลยาณมิตร
ผทู ่หี ยบิ ไปอาน ถือไดวา เปน ผูม ีบุญ หากมองเหน็ แลว ผานเลยไป ไมหยิบมาอานก็ถอื ได
วาพลาดการเรยี นรทู ด่ี ที ีส่ ดุ ไป และผมู บี ุญทไ่ี ดอานหนงั สอื เลมนแ้ี ลวเอาไปคดิ และเลอื ก
ปฏิบตั ใิ หเหมาะสมกบั ตนเอง ถือไดว าเปน ผมู ีบญุ มากท่ีสดุ เพราะหนังสือประเภทนี้
ไมไ ดห าอา นงา ย ๆ เปนการเขียนจากชวี ิตของผูเขียนท่ีจะเปน ประโยชนต อ ผูอานอยา ง
ทสี่ ุด เพราะทกุ คนไมสามารถหลีกพน ความเจบ็ และความตายได ในชวี ติ ของนองแมว
ตอ งเคยทําบญุ มามากมาย แตหนังสอื เลมน้ี ถอื ไดวา เปนการสรางบญุ อีกแบบหนึง่
เพราะจะเปน ครชู วี ติ ใหก ับผูอา น เพ่ือใหใ ชช วี ิตไดอ ยา งสมดลุ ระหวา งกายกบั จติ และใช
จติ นาํ กายไดอ ยา งสงา งาม
ขอแสดงความชน่ื ชมอยา งสงู
ศาสตราจารย ดร. ดาราวรรณ ตะ ปน ตา
20 กรกฏาคม 2562
คาํ นิยม
ต้ังแตรูจ ักกนั เมอ่ื ประมาณ 20 ปกอน แมวเปน ผหู ญิงทคี่ ลองแคลว วอ งไว คดิ เร็ว
ทาํ เร็ว เต็มไปดวยพลงั ถา ไมน ับการเจอกนั ครัง้ แรกทโ่ี รงพยาบาล ในฐานะพยาบาลก็แอบ
คดิ วา “ปวยแบบน้ี แตเ ธอยังบอกไดว า สบาย ๆ” .... เวลาผา นไป มิตรภาพทด่ี มี ีใหก นั
ตลอดมา เราชวนกนั เรียน ชวนกนั ทําวิจัย พัฒนางาน และส่ิงทบ่ี อกกบั แมวมาเสมอ คือ ดแู ล
ตวั เองดว ยนะ ฟง เสยี งของรา งกายดว ย เธอจะตอบมาเสมอวา “แมวมีเกาชีวติ ”
เมอ่ื กาลเวลาผานไป บทสนทนาระหวา งจึงเปล่ียนเปน “แมวเกา ชวี ิต ใชไปแลว กี่
ชวี ิต” ดวยความเปนเจา แมข อ มลู การดูแลตวั เองในฐานะผเู ชยี่ วชาญดานโรคไต (ประสบการณ
ตรง) ทําใหบทสนทนา แผนการรกั ษา และการดูแลตนเอง ระหวา งผปู วยโรคไตดีกรปี ริญญาโท
2 ใบ (แมว) และพยาบาลจติ เวช (แอน) เปน คนละมมุ มอง แตก ็เปนการมองคนละมุมอยาง
เขา ใจ และเคารพในการตัดสินใจของผปู ว ย ไมม น่ั ใจวา การสนทนาในระยะเวลาทผ่ี า นมา
โดยทีพ่ ยาบาลจติ เวช อยากใหผ ูปว ยอยกู บั โรคอยา งเขา ใจ (แอบใช CBT มาตลอด) จะชว ยให
ผปู ว ยมคี วามสขุ ทางใจ สามารถอดทนตอ ความเจบ็ ปวด และความเสอ่ื มของรา งกายตาม
กาลเวลาที่ตองเผชิญอยใู นทุก ๆ วนั ไดม ากนอยเพียงใด
ความหวงั ของพยาบาลจติ เวช คอื (1) ทุกขได (รูจักทกุ ขท ้ังกายและใจ มนั ผา นเขา
มาเดีย๋ วมันกจ็ ากเราไป รเู ทาทันความทุกขทางใจจากความคดิ ของเราเอง ถามตัวเองวาสิ่งที่
เราคิดวามันทุกขจรงิ มากนอ ยแคไ หน : Validating Negative Automatic Thoughts
คิดเปนอยา งอนื่ ไดห รอื เปลา : Variety และมปี ระโยชนท ีเ่ ราจะคิดใหทุกขหรือเปลา : Utility
(2) ปลอ ยบา ง (บางเร่อื งไมไ ดมีสาเหตมุ าจากเรา ขอแคใหร ับรูไมตองเก็บเอามาใหท กุ ขมาก
เกินไปจนใจจะทนไมไหว) (3) วางเปน (บางเหตเุ รากย็ ากทจ่ี ะหาคาํ ตอบ แมเ ราจะถาม
โชคชะตา จะโทษดนิ โทษฟา แตเ ม่ือเราพิจารณาจากตน เหตุของปญหา และเขาในในทุกส่ิงที่
เกิดอยา งเขา ใจ เรากต็ อ งรจู กั วางใหเ ปน ... ใคร วางไดก อ นก็จะพน ทกุ ขนัน้ ไดกอ น)
ยงั คงเปน กําลงั ใจดี ๆ เสมอ ใหเ ธอคนนี้ไดเดินบนเสนทางชีวิตทเ่ี ธอเลอื กเอง
คอยดแู ลประคบั ประคองสุขภาพกายและใจ ไมใหท กุ ขม าก เพราะทุกขกายตอ งเผชิญอยู
ทกุ วัน บางครัง้ เขาใจวา ทุกขมาก เจ็บปวดมาก ในใจก็บอกวา “เธอตอ งสู” (แตกไ็ มร ูวา จะให
เธอสกู บั อะไร ?) .... จะบอกวา “ขอใหดีข้ึน” (กร็ ูวาตามพยาธิสภาพของโรคมันตองดาํ เนินไป
ซง่ึ เปน คําตอบทีย่ ากเย็น สงิ่ ทีบ่ อกมาเสมอ คอื “สเู ทา ท่ีไหว” ไมทุกขกายทุกขใจมากจนเกิน
ทน ปลอ ยบา ง วางบา ง”
เพราะสุดทา ยของทุกคน คอื ทเ่ี ดียวกนั บทพสิ ูจนข องชวี ิต คือ เราทกุ คนตอ งพบ
กบั ความเจบ็ ปวย ความแกชรา และการจากลา เพียงแคเ ราไดเตรยี มตัว และใจของเรา
ไดม ากนอยแคไหน ? การตายดี ตายอยา งสมศักดิศ์ รีความเปน มนุษย และการจากไปไดท้ิง
อะไรดี ๆ ไวใหค นขา งหลังไดจดจาํ มากนอยแคไหน
ผชู ว ยศาสตราจารย ดร. เชาวนี ลอ งชผู ล
9 กรกฏาคม 2562
คาํ นยิ ม
นาํ้ ตาหยดสดุ ทา ย เจา ของงานเขยี น “โรคสอนชีวิต” << อยกู ับโรคอยา งไรใหกาย
ใจเปน สขุ >> เด็กหญงิ บุศรา โมลา “นองแมว” ลกู สาวคนเดยี วของคณุ พอ อาพร โมลา และ
คุณแมบ ุญสง โมลา ครูเริ่มรจู ักเดก็ หญงิ ไวผ มเปย 2 ขา ง ท่ีเขา มาเรยี นโรงเรียนบา นแมระหนั
พรอมพี่ ๆ ซ่ึงมีแตเด็กผชู าย ฉะนั้นไมแปลกใจเลยวา ทาํ ไมเดก็ หญงิ บุศรา จงึ มนี สิ ัยคลาย
เด็กผชู าย ซ่งึ เปน เดก็ ที่เขม แขง็ และอดทนมาก เปนเด็กที่มคี วามซนในระดบั ตน ๆ ของ
โรงเรียน มีเหตุใหต อ งเจบ็ ตวั ไดไ มเวนแตล ะวนั
จากลูกชาวนาที่เขา มาเรียนในชน้ั ประถมศกึ ษา จนจบระดบั ชั้น ป.6 และเขา ไป
สอบแขง ขนั เรยี นตอในโรงเรยี นสตรปี ระจาํ จงั หวัด (โรงเรยี นเฉลมิ ขวญั สตรี) ขณะทศี่ ึกษาตอ
ทน่ี ี่ ไดเ ปน ตวั แทนของโรงเรียน จงั หวัด และเขตการศึกษา ในการแขง ขนั กรฑี า จนไดร ับ
รางวลั พรอ มใบประกาศมากมาย ซง่ึ ตลอดระยะเวลาทผ่ี า นครเู ฝา ถาม ขา วคราวจากแม และ
เพ่อื น ๆ ติดตามความกาวหนาของลูกศษิ ย ทายทีส่ ดุ ครูและลกู ศษิ ย ก็จบการศึกษาระดบั
ปรญิ ญาโทสถาบนั เดยี วกัน คอื มหาวิทยาลัยนเรศวร และในขณะเดยี วกันครูกท็ ราบขา ววา
ลูกศษิ ยครูคนน้ี บศุ รา โมลา ปวยเปนโรคไตวายเรื้อรังระยะสดุ ทาย ถึงข้นั ตองลา งไตทาง
ชองทอง นัน่ คือ บทพิสูจนใหเ หน็ ถึงความอดทน และเขมแขง็ อยเู พอื่ “แม” .... ทร่ี ักเธอ
ยา งสุดหวั ใจ ครขู อเปน กําลงั ใจใหล กู ศิษยม ีความเขม แขง็ และอดทน อยูก บั “โรค” บน
“โลก” ใบน้ใี หไดน านที่สุดเทา ทจ่ี ะนานได เพื่อคนรอบขา งท่ีเธอรกั และเธอรกั สุดชีวิต
ขอใหห นงั สือทเ่ี ธอผูน้ีไดเขยี น เปนครูสําหรับผูปวยโรคตา ง ๆ ใหมีความอดทน และ
ไมดือ้ กบั คณุ หมอ ใหปฎบิ ตั ติ ัวตามคาํ แนะนาํ ของคุณหมอ และอยูบนโลกใบน้อี ยางมีสติ
ครอู ํานวย ปานสมบตั ิ
11 กรกฏาคม 2562
คาํ นิยม
คุณคาของงานเขียนน้ี มไิ ดอ ยทู ่คี วามหนา หรอื หมึกท่อี ยบู นกระดาษ แตเปน
คณุ คา ของ “การเรียนรูอนั ยิง่ ใหญจากประสบการณด ูแลตัวเองอยางเขาใจชวี ิตของ
ผเู ขียน” ซ่งึ ตองเปนผูปว ยโรคเรอ้ื รัง้ ตงั้ แตอ ายุยังนอย เปน ภาพสะทอ นของการเขา ถงึ
บรกิ ารทย่ี งั มชี อ งโหว ความอดทนกบั การดาํ เนนิ ของโรค การทาํ ความเขา ใจ การ
ปรบั ตัว ปรบั ใจกบั ความเจบ็ ปว ย อีกทงั้ ฉายภาพ ความรกั หลากหลายรปู แบบบนโลก
ใบน้ี ท่ีเปน แรงผลักดนั และกาํ ลังใจใหก าวขามผานชว งเวลาทย่ี ากลําบากคร้งั แลว ครัง้
เลา ประสบการณชีวติ และการเผชิญหนากบั ชดุ ความเจ็บปว ย ถกู ถา ยทอดอยา งเปน
ธรรมชาติ ทง้ั การอยูกบั โรคอยางเขาใจ คดิ บวก จนกลายเปน “โรคสอนชีวติ อยูกบั โรค
อยา งไรใหกายใจเปนสขุ ” ส่ิงสาํ คัญทีส่ ุดไมใ ชก ารหาคาํ ตอบวา งานเขียนน้พี ดู ถงึ
อะไรบา ง แตสาํ คัญทคี่ ณุ ไดอะไรหลงั จากอา นจบ... เปนกาํ ลังใจเสมอคะ
ผูชวยศาสตราจารย ดร. ภทั รมนัส มณจี ริ ะประการ
2 พฤศจิกายน 2558
คาํ นาํ
“เมอ่ื ทกุ ชวี ิตเมือ่ ลมื ตามาดูโลกตา งตอ งด้นิ รนเพือ่ ความอยรู อด ตอ งตอ สู
เผชญิ กบั ปญ หา และอปุ สรรคตา ง ๆ กาลเวลา มกั จะมาพรอมกบั ความเปลีย่ นแปลงใน
ชวี ิต” คนเราเกดิ มาบนโลกใบน้ี ...เพอ่ื อะไร ? เปน คาํ ถามงา ย ๆ แตไ ด ...มมุ มองและ
แงคิด
บางคน...เกิดมาเพ่อื ...หาความสุขใหชวี ิต
บางคน...เกดิ มาเพื่อ...อุทิศสรางกุศล
บางคน...เกดิ มาเพอื่ ...ขอแคไดเ ปน คน
บางคน...เกดิ มาเพอื่ ..หลดุ พน ไปนพิ พาน
บางคน...เกิดมาเพื่อ...สานฝน สรา งผลงาน
บางคน....เกดิ มาเพ่อื ...เปน อนั ธพาลมถี มไป
แลว ตําตอบทจี่ ริง...อยทู ไ่ี หน ?
ไมมีใครตอบได นอกจาก “ตวั ...ของตวั เอง”
สําหรับ “ฉนั ” เกิดมาเพือ่ << ชดใชก รรมอนั เกดิ จากการกระทาํ ของชวี ติ
เรยี นรถู ูกผิด และทาํ ชีวิตใหมคี ุณคาอยา งมสี ติในทุก ๆ วนิ าที >> ไมป ระมาทในชวี ติ
กับวนั เวลาท่ียังเหลืออยู เพราะทุก ๆ วินาทขี องชวี ติ อาจเปน การหายใจครงั้ สุดทา ยใน
ชวี ิตของเราก็เปน ได หากเราไดเรียนรูภายในจิตใจของตนเอง ไดวา “สขุ และทุกขเ ปน
เชน ไร ?” เรากจ็ ะสามารถปลอ ยวางทุก ๆ สิ่งท่เี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ เราได เมอื่ เราวางไดใจเรา
ก็จะมีพืน้ ท่ีวางเพอ่ื รบั “สุขและทกุ ขใ หม” ทจ่ี ะผา นเขา มาในชวี ติ เราได ในทุก ๆ วนั
ไมม ีส่ิงใดท่ีเปนของเรา และไมม สี งิ่ ใดทีจ่ ะอยูก บั เราไดต ลอดไป แมแ ตร างกายของเรา
เพราะสดุ ทา ยของทกุ ชวี ิต คงหนีไมพ น “ความตาย” ทเ่ี ปน จดุ จบของทุกชีวติ
หลายชีวิตถอื กาํ เนิด และเตบิ โตมาบนเสน ทางชวี ติ ทส่ี วยสดงดงาม ทา มกลาง
ความพรอ มทางครอบครวั และสงั คม ไมต องด้ินรนฟน ฝา ไขวค วา กไ็ ดม าซึ่งความสขุ
และสิง่ ที่ตนเองตอ งการ และอกี หลาย ๆ ชวี ิตทถ่ี ือกาํ เนิด และเตบิ โตมาบนเสน ทางชวี ติ
ทแ่ี สนลาํ บาก ยากเข็ญ ตองตอสดู ิ้นรนฟนฝา ไขวค วา ใหไ ดม า ซง่ึ ความสขุ และสงิ่ ท่ี
ตนเองตองการ และน่คี อื ...ความแตกตา งในชวี ติ ท่ที กุ ชีวติ ตอ งยอมรับ เรยี นรู และอยู
กับส่ิงท่ี มีและเปน ใหไ ด เสน ทางเดนิ ชวี ิตของคนแตล ะคน ไมเ หมอื นและไมเ ทา กนั
แตท ุกคนเกิดมายอมมเี สนทางฝน ของตวั เอง อาจมีเปาหมาย และฝน เดียวกนั แตว ธิ ีการ
เดนิ ทางไปสเู สน ทางแหง ความฝน น้ันแตกตางกัน บางคนอาจเดนิ ทางไปสทู างสายฝน
อนั รวดเรว็ แตบ างคนอาจเดนิ หลงทางครั้งแลวครัง้ เลา กวา จะไปถึงปลายทางฝน นัน้
“ฉนั ” ก็เปนหนึ่งในหลายคน ๆ ที่เกิดมาทามการเสน ทางชวี ติ ท่ี แสนลาํ บาก
ยากเขญ็ ตอ งตอ สดู น้ิ รนฟน ฝา ไขวค วา ใหไ ดม า ซ่งึ ความสุขและส่ิงทีต่ นเองตองการ
มีความฝน และมคี วามพยายามท่ีจะเดนิ ตามเสนทางฝน แตการเดนิ ทางของชีวิต ก็มกั มี
ชุดเหตกุ ารณตา ง ๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ ทาํ ใหไ มส ามารถเดนิ ทางไปสูค วามฝนของตัวเองได แตก ็
ไมไดทําใหชวี ติ เราหมดเสน ทางเดินไปสูค วามฝน เม่ือไปสฝู น ทีห่ นง่ึ ไมได ก็ตอ งยอมรบั
ความจรงิ ท่ีเกดิ ข้นึ ในชีวติ ใหได และมองหาเสนทางฝน ใหมต อ ไป ทผ่ี า นมาฉนั อาจใช
ชวี ติ ดว ยความประมาท ไมเคยสนใจถึงการมีชีวิตอยู หรอื คุณคา ของการใชชีวิตของ
ตวั เอง เดนิ ตามหาฝน แบบไรท ศิ ทาง อยไู ปวนั ๆ ทําทุกสง่ิ เพ่อื ตอบสนองความตอ งการ
จติ ใจตัวเอง ทําแตในสง่ิ ทต่ี วั เองตอ งการ ไมสนใจวาใครจะคิดอยางไร คดิ แคเพยี งวาสิ่ง
ทที่ าํ ไมไดสรา งความเดือดรอ นใหใ ครแคนัน้ พอ มุงหนา เดนิ ไปตามทางฝน ของตัวเอง
เพียงอยางเดียว จนทําใหเกดิ จุดเปล่ียนในชวี ติ มากมาย
42 ป ในการใชช วี ิตของฉัน มีเร่อื งราวเหตกุ ารณม ากมายทผี่ านมาในชีวิต
“ท้งั สขุ และทกุ ข- ผานความเปน ความตาย” คร้ังแลว ครง้ั เลา “ทุกความเจ็บปวด
ทกุ ความทรมาน” ท่ีเกดิ ขึ้น เปน “ครูทีด่ ีท่สี ุดทส่ี อนเรอ่ื งการใชชวี ติ ในทกุ ๆ วัน”
หนังสือเลม น้ีเขยี นขนึ้ จากประสบการณในการตอสูและใชช ีวติ ของผูหญิง
คนหนึ่งทีเ่ กดิ มาในครอบครัวเล็ก ๆ ของ “ลูกชาวนา” ท่ีดิน้ รน ตอสู และฟน ฝา กบั
ทกุ ปญหาที่ผานเขา มา เพ่อื รกั ษาลมหายใจและชีวิต อาจทําใหเกดิ แงค ิดและกาํ ลงั ใจ
ในการใชช วี ติ ใหแ กห ลาย ๆ คน
“น้าํ ตาหยดสุดทาย”
18 ตลุ าคม 2560
สารบัญ
ย อ น อ ดี ต
จุ ด เ ป ลี่ ย น ข อ ง ชี วิ ต
ทม่ี าของนามปากกา “นํา้ ตาหยดสดุ ทาย”
บทพิสจู น...ความอดทน
ยิ้มใหต วั เอง...ในวนั ท่ีใจมนั ออนลา
หวั ใจทีแ่ ขง็ แกรงทําใหฉนั มีแรงกา วเดินตอไป
อยกู ับความทกุ ขใหมสี ขุ ไดอ ยางไร
โลกสดใสในทกุ ๆ วนั <<ชวี ติ ใหม...กบั วนั ใหม>>
ความเจบ็ ปว ย...คอื ..ลาภอันประเสริฐ
ชวี ติ ..ทกุ ขได ก็ตอ งทนได ตองเขมแข็งใหไ ด
ทุกขห รือสขุ ..อยูที่ใจของเราเอง
เม่อื รูจกั วาง...ก็จะเพิ่มท่ีวา งใหช ีวติ
ความในใจของผูปวยโรคไตวายเร้ือรงั ทแ่ี สนด้ือ
อยูกบั โรคดวยกัลยาณมติ ร
ก า ว ข า ม ผ า น คาํ ว า ต า ย
ก า ร สู ญ เ สี ย ท่ี ไ ม เ สี ย ศู น ย
เ ต รี ย ม ตั ว เ ผ ชิ ญ ค ว า ม ต า ย อ ย า ง มี ศั ก ด์ิ ศ รี
ย อ น อ ดี ต
ร า ก เ ห ง า...ลู ก ช า ว น า
วันองั คารท่ี 18 ตลุ าคม 2520 เปนวันทีผ่ ูหญงิ อายุวยั 25 ป คนหนึง่ กําลังนอน
เจบ็ ปวด ทกุ ขท รมาน อยา งแสนเสาหสั อยบู นเตยี งนอนของโรงพยาบาล เฝา แตถ าม
ตวั เองตลอดเวลาวา “เมอ่ื ใดเลาฉันจะพนผา นความเจบ็ ปวดน้ไี ปเสียที” จนกระทง่ั เวลา
11.44 น. เสยี งรอ งของเด็กหญงิ คนหนึง่ ก็ดังข้นึ มา ความเจบ็ ปวด ความทกุ ขทรมาน
อยา งแสนสาหัสก็จบสน้ิ ลงในทันที จากนัน้ พยาบาลกอ็ มุ เดก็ นอ ยตวั เหยี่ ว ๆ หนงั ยน ๆ
คนหนง่ึ (คงจะนาเกลียดพอสมควรเนอะ...อันนี้ตองถามแมวา มนั นาเกลยี ดแคไหน..ตอบ
เองไมไ ด) ความเหี่ยว ๆ ยน ๆ นี่เองเปน ทมี่ าของชือ่ เดก็ นอยคนนี้ “เด็กหญิง แมว” หรอื
“นอ งแมว” ของบรรดาพี่ชายทง้ั 3 คน
เดก็ นอ ย คอย ๆ หดั คว่ํา หัด คลาน หัดเดิน หดั วิ่ง หัดพดู เริม่ เรียนรสู ิ่งตา ง ๆ
ท่ีอยรู อบตัว เตบิ โตมาทามกลางธรรมชาตทิ ่ีเปนทอ งทงุ นา อนั เขียวขจี มบี อ น้ํา คลอง
และบึง ไวใหกินใหใช (นา้ํ ประปา คอื อะไรไมร จู ัก) มีกุง หอย ปู ปลา เต็มไปหมด
ชางนา อศั จรรยเสยี จรงิ ๆ แคอยากกินปลาก็เหน็ พอ กบั แมเ อาตาขายไปวางในนาํ้ ก็มปี ลา
ตดิ มาเตม็ เลย อยากกินหอยพอแมก ไ็ ปงม ๆ ในนาํ้ ก็ไดห อยมากนิ อยากกินปูกนิ กงุ พอกบั
แมกเ็ อาลอบเอาไทรไปดักก็ไดป ไู ดกุงมากิน พืชผกั นานาพันธุหาเกบ็ กนิ ไดรอบรั้วบาน
แตละวนั เดก็ นอยก็จะเห็นวิถีชวี ติ ความเรยี บงา ยของคนในครอบครัว ทีต่ ื่นมา
ตั้งแตไ กโ ห (พูดกันจังคําน้ี เดก็ นอย ก็งง ๆ วา ไอไ กโ หเน่ียมันเปนอยา งไร แตก ช็ างเถอะไก
โหก ป็ ลอยใหม นั โหไป) วา แตพ อ กบั แมจ ะตน่ื มาทาํ ไมนะกไ็ มรสู นิ ะ พอเดก็ นอยลืมตามาก็
เหน็ แตแ สงอะไรไมร ูม าทม้ิ ตา แสบตาเสียจริง ไมอ ยากลมื ตาเลย พอลืมตาเสร็จแมก บั
ยายก็มาอมุ ไปปอนขาว ปอ นนํา้ (ชวี ติ ดด๊ี .ี ..สบายทส่ี ดุ ลมื ตามากม็ คี นเอาขา วเอานาํ้ ใสป าก
ใหไ มรกู นิ อะไรไปบา งแตก ค็ งอรอ ยเนอะถงึ ไดโ ตมาขนาดน้ี
ทกุ ๆ วนั กจ็ ะเหน็ พอ กบั แมเดนิ ไปกลางทงุ มคี นั ก้ันเปนชวง ๆ เปน ตาราง ๆ
ในตารางมีนาํ้ ดว ย เด็กนอยก็สงสยั วาท่ีเหน็ เขาเรียกอะไร “พอกับแมก็บอกวา เรยี กวา
“นา” คันทกี่ ัน้ เรียกวา “คันนา” ที่อยูตรงกลางตามคันนากั้น เรียกวา “บิ้งนา” แลว สงิ่ ท่ี
พอ กบั แมก าํ ลังทํา เรียกกนั วา “ทาํ นา” (เด็กนอยทาํ หนา เหมอื นเขา ใจ แตม ันเปน อยา งไร
ก็ไมร สู ินะ “นา” มันเยอะแทอ ะไรไมร ู พอ แมว า ไงก็ตามนั้นละ)
วันหนึ่ง...เด็กนอ ยเห็น พอกบั แมใชอ ะไรไมรูเสียงมันดัง๊ ดัง มีสายยาว ๆ
ตอมากับอะไรอีกกไ็ มรู มีนํา้ ออกมาดวย แตจะเปน อะไรก็ชา งเถอะ ทีร่ ู ๆ คอื นํา้ ทไ่ี หล
ออกมาใสมาก (นกึ ในใจ...เสร็จฉันละ ) เดก็ นอยไมรอรีรีบลงไปเกลอื กกล้งิ นอนเลนใน
รอ งนา้ํ ทม่ี ีนา้ํ ไหลออกมาในทันที (ชวี ติ สนุกสนานดแี ทน้าํ มาจากไหนเนี่ย เย็นจรงิ ๆ ชื่นใจ
ท่สี ุด) เลนนํา้ เสร็จกว็ งิ่ เลนไปตามคนั นา แตเอะ !! เม่ือวานทเี่ ราเหน็ ท่ีพอ กบั แมบอกวามนั
เปน “บง้ิ นา” มีนาํ้ ขังเต็มเลย มนั มาจากไหน ความเปนเด็กชา งสงั เกต (ไมไดอยากรอู ยาก
เหน็ นะ) กเ็ ดนิ สาํ รวจไปตามคนั นา กพ็ บวา นน่ั แนม นั มาจากรอ งนาํ้ นเ่ี อง กเ็ ดนิ ตามรอ งไป
เรอ่ื ย ๆ ก็ถึงบางออวาน้ําทีข่ ังในบ้ิงนา มันมากจากน้าํ ที่เราเลน น้ีเอง เด็กนอยกโ็ ลดแลน
ดว ยความเรว็ ไปตามคันนาเพอื่ ถามพอกับแมว า ทีท่ าํ อยูพ อกบั แมท าํ อะไร ? พอกับแมก็
ตอบวา “วิดนาํ้ เขา นา” (โอว !! ศัพทใ หม ไมเ ปนไร อยา งไรกล็ งทา ยดว ย...นา) ไมร อชา
มนั คางคาในใจ เดก็ นอ ยรีบถามพอ กับแมท นั ทีวา ไอท่ีมันเสียงดงั ๆ มีสายยาว ๆ ตอกับ
อะไรสกั อยา ง และมนี ้าํ ไหลออกมามันคอื อะไร ? พอ กับแมก ็บอกวา นน่ั คอื “รถไถนา”
สายยาว ๆ เรียกวา “สายพาน” ทย่ี าว ๆ มนี ้าํ ไหลออกมา เรียกวา “ทอ” (วนั นี้เลน เอา
เด็กนอยงงไปเลย เจอศัพทใหมเยอะจริง) แลวเด็กนอยกเ็ ริงรา ทาแดดทา ลมบนคันนาอัน
กวา งใหญตอไป
วันถดั มา ...เด็กนอ ยกอ็ อกสาํ รวจผนื นาตามพอ กับแมเปน ปกติเชน ทุกวนั
แต เอะ !! วนั น้ีทาํ ไมพอกับแมเอารถไถนาลงไปทาํ อะไรในบิ้งนาละเนี่ย ? (งงแฮะ) กถ็ าม
วา พอกับแมท ําอะไร พอ กับแมก็ตอบวา “ไถนา” โดยใช “ผาน” ไถนาเสร็จกจ็ ะตอง
“คราดนา” โดยเปลย่ี นจากผานเปน “คราด” คราดเสร็จก็จะ “รดู เทอื กนา” โดยใช
“ไมแ ปร” เลน เอาเด็กนอ ยมนึ เลยทเี ดยี ว พอ กบั แมก ็เลา วิธีการทาํ นาใหเ ดก็ นอ ยฟงวา
หลังจากรูดเทอื กเสรจ็ ก็ตองเอาเมลด็ ขา วไปแชน ้ํา แลว เอาขึ้นมาเพาะใหเ มล็ดมันงอก
สกั 2-3 วนั หลงั จากนน้ั กเ็ อามาใส “กระบงุ ” หวา นไปในบง้ิ นา หลงั จากนน้ั ใช “ไห”
ชกั รอ งนํ้าในบิง้ นาแตล ะบิ้ง เพ่อื เอาไวระบายน้ําออกจากบิง้ นา (พอกบั แมท ําอะไรกันเนีย่
ยุงยากแท) ตน ขา วก็จะคอย ๆ โตข้นึ เร่ือย ๆ เราก็ตอ งดแู ละไมใ ห “หนอน /
เพล้ยี ” หรอื แมลงตา ง ๆ มาเกาะกนิ ตน ขา ว (วันน้เี ลนเอาเดก็ นอยเพลียกับกรรมวิธกี าร
ทาํ นาของพอ กบั แม)
วันเวลาผา นไป... ตน ขาวก็เรม่ิ เตบิ โต (ไมน าเชือ่ จากเมลด็ ขาวเปลือกเมล็ด
เลก็ ๆ เหลอื ง ๆ มันจะกลายเปนสีเขยี วได (โอว !! พอกบั แมฉ นั เกงทส่ี ุดเลย) สขุ ใดไหนจะ
เทาไดโ ลดแรนทามกลางทุงนาอนั เขียวขจที ่ีพอ กบั แมฉ นั สรางมา 2 เดือนกวา ๆ ผานไป
ตนขา วอันเขยี วขจี ก็มีอะไรไมรแู ตกออกมาจากปลายยอดตนขา ว เดก็ นอ ยไมร อชารีบถาม
พอกบั แมในทนั ที นีอ่ ะไร ? พอ กับแมก ็ตอบวา “รวงขา ว” ขาวออกรวงแลวรอมันแกเปน
สเี หลอื งทองเม่ือไร เราจะได “เกีย่ วขาว” แลว (เด็กนอยใจพองโต อยากเห็นเสียจริงวา
ขา วเปนสเี หลืองทองเนย่ี มันเปนอยาง จะสวยสูสีเขียวขจีที่เด็กนอยเหน็ อยหู รอื เปลา)
แลว วนั ทเ่ี ดก็ นอ ยรอคอย ...กม็ าถึง วนั ทีท่ ัง้ ทอ งทงุ ผนื นาของพอ กบั แมม ี
เมล็ดขา วทีอ่ วบเตงมสี เี หลืองทองอรา ม งามตายงิ่ นัก (สเี หลอื งทองมนั เปน แบบน้นี เ่ี อง)
พอกับแมก ็อธิบายวา หลงั จากน้ีเราจะ “เกย่ี วขาว” โดยการเอา “เคยี ว” มาเกย่ี วตนขาว
แลว เอามาวางเปน “ตบั ” ตากแดดไว 1-2 วนั เมอ่ื ขาวทีเ่ กย่ี วแหง กต็ อ ง “หอบขาว”
โดยการใช “ตอก” มัดเปน “ฝอ น” หลงั จากนน้ั เอา “ไมค นั หลาว” (ไมไ ผย าวสกั
ประมาณ 2 เมตร ท่มี ีปลายแหลมท้งั 2 ดา น) เสียบไปท่ฝี อ นขา วดา นละฝอน แลวหาบไป
กองตามจดุ ตางใน บิ้งนา หลงั จากน้ันกใ็ ช “รถสขี า ว” แยกตน ขา ว เรยี กวา “ฟางขา ว”
ออกจากเมลด็ ขา ว เรยี กวา “ขาวเปลอื ก” แลว เอาขาวเปลอื กไปขายจึงจะไดเ งินมาใช
(เด็กนอยคิดในใจมันยุงยากลําบากจงั กวาพอ กับแมจ ะไดเงินมาใหเรากินขนม)
สิ่งทีเ่ ดก็ นอยเหน็ สง่ิ ท่ีเดก็ นอ ยสมั ผัสต้ังแตเ ปนเดก็ นอยในชวี ิต “ครอบครวั
ชาวนา” มนั เปนวถิ ีชวี ิตที่เรยี บงาย มคี วามสขุ ในผืนแผน ดินเกดิ ผนื แผนดนิ ทพี่ อ กับหกั
รางถางพง จนกลายเปนผืนนาทก่ี วางใหญ ขาวทกุ ตน ขา วทุกเมลด็ ทพี่ อแมปลกู มนั แลก
มาดวย หยาดเหงือ่ แรงใจของพอ แม ผลผลติ ท่ีไดเ พียงแคแ ลกมาซง่ึ เงินตรา เอามาเลี้ยงดู
ครอบครัว เพื่อความสุขสบาย อนาคตของลูก ๆ
ภาพทุกภาพ เหตุการณท ุกเหตกุ ารณใ นแตล ะวนั ทเ่ี กดิ ขึ้น มันตราตรงึ อยใู นใจ
ของเดก็ นอ ยอยตู ลอดเวลา ความสุขทบ่ี รสิ ทุ ธิ์ ความสุขที่หาไดร อบ ๆ ตัว มันชางแสนมี
คณุ คา มากมายนกั การเรียนรูจ ากชวี ติ จริงมนั เปน สมบตั ิอนั เลอคาทพ่ี อแมใ หมาโดย
ไมรตู วั
“ความสุขในชวี ติ หาไดรอบ ๆ ตัว ถา เราเขาใจในสิง่ ท่เี ปน ”
ย อ น อ ดี ต
ค ว า ม สุ ข จ า ก ผื น น า
ทุกวัน เดก็ นอ ยก็จะเรงิ รา ว่งิ ทา ลม ฝา แดด ตามพ่ี ๆ และผูเปน บิดรและมารดา
ออกไปกลางทงุ นาอนั เขยี วขจี สสี นั ของตน ขา วเปน ภาพวาดอนั สวยสดงดงาม ตระการตา
ย่ิงนักสําหรับเดก็ นอ ย สายลมทีพ่ ดั ผานกลางทงุ นา ฝูงนกท่ีโบยบนิ หากินตามยอดหญา
และยอดขา วมนั เปน ภาพความทรงจาํ อนั งดงาม
“ นา” คอื แหลง เรียนรชู วี ติ หลอหลอมความคิด จติ ใจของเดก็ นอ ย เธอจะมี
ความสขุ ทกุ ครงั้ ที่ไดอ อกไปสาํ รวจผืนนาของพอ แม ทุกกิจกรรมทีพ่ อแมทํา มนั ทําใหเดก็
นอ ยตื่นเตน อยตู ลอดเวลา ในบงิ้ นาของพอแมมีทั้งขา ว มที ้ังกงุ หอย ปู ปลา นานาชนดิ
อยากกินอะไรกห็ าจบั ไดต ามรองนํ้ารอบ ๆ ทุงนา อยากกินผัก ก็มผี ักใหเ ก็บกนิ รอบทุง
เงนิ คือ อะไรเด็กนอยไมรูจกั ความสุขการดําเนนิ ชวี ิตในแตล ะวนั ไมตองแลกมาดวย
เงินตรา แตไดมาจากธรรมชาตทิ ่ีอยูรอบตวั ของเลน ไดม าจากตน ไม ตน หญา กองฟาง
และดนิ เหนยี ว อยากไดอ ะไรกป็ น เอา แลว กต็ ากแดดรอจนหวา จะแหง กเ็ อามาเลน อยาก
เลนสไลดเ ดอรก ป็ นไปบนยอดกองฟางแลว กท็ ้ิงตวั ลงมา แคนีก้ ท็ ําใหส นกุ เพลดิ เพลนิ กันได
ท้งั วนั อยากวา ยน้ําก็กระโดดคลองขางบา น (บอน้าํ ของฉนั กวางใหญเหลือเกิน)
วิถีชวี ติ ท่ีอยกู ับธรรมชาติ เปนแหลงเรยี นรชู วี ติ อันกวางใหญไพศาลให เดก็
นอ ยไดเรียนรูมิรจู บ พ้นื ทท่ี ุกตารางเมตรบรเิ วณรอบบา น และอาณาเขตใกลเ คยี งไมม ี
ตารางเมตรไหนเลย ท่เี ด็กนอ ยไมเคยวง่ิ ออกไปสัมผสั มัน ตน ไม ดอกไม ยอดหญา ผีเส้ือ
แมงปอ คอื เพ่อื นเลนท่ีดีท่สี ดุ ของเธอ และส่งิ ทเ่ี ด็กนอยโปรดปรานมากทีส่ ดุ ในบรรดาของ
เลน เหลา นี้ คงจะเปน อะไรไปไมได ถาไมใช ตน ไม อนั สงู ใหญน านาพนั ธุ เพราะเธอมี
ความสามารถทโ่ี ดดเดน ในเรอ่ื งของการ “ปน ตนไม” แมจ ะตองหลน ตอ งตกลงมาหลาย
ครัง้ หลายคราก็ไมไดทาํ ใหเธอเกิดความกลัวเลยแมแ ตนอย ดวยทกั ษะการเคลอ่ื นไหวตวั ท่ี
รวดเร็ว (แบบหาตัวจับยาก) ไมคอยจะอยนู ิ่งสักเทาไร (คนอน่ื ชอบมกั บอกวา “ซน”)
ย อ น อ ดี ต
วี ร ก ร ร ม ข อ ง เ ด็ ก ห ญิ ง บุ ศ ร า
เดก็ นอย พยายามบอกกบั ใคร ๆ วา “เธอไมไ ดซ น แคไมชอบอยูน่งิ ๆ เธอ
ไมไ ดซ ุม ซาม แตข องมนั วางขวางทางว่ิงเธอเอง” ก็ดูเหมือนจะไมม ีใครเชอ่ื เลย เด็กนอ ย
กไ็ ดแ ตถ อนหายใจแลว พูดคําวา “เฮย !!...มันยากจังเนอะไมเขา ใจกันบา งเลย” ทาํ ไงได
“เพราะชีวติ มนั คอื การเรยี นรู” ในแตล ะวันเดก็ นอ ยก็จะออกสํารวจตน ขา ว ตนไม
ใบหญา ในพ้นื ท่แี ปลงนา อาณาจักรอันกวา งใหญข องเธอ วนั หน่งึ เธอกว็ ิ่งตามพ่ี ๆ ไปเลน
กลางทุงนา เหน็ พี่ ๆ ปน ขนึ้ ไปบนยอดตนกระทมุ ตน ใหญท ีข่ นึ้ อยกู ลางทงุ นา ขนึ้ -ลง ๆ กนั
หลายหนและบอกวา “มีลูกนกเอี้ยงดว ย” ในใจกค็ ดิ วา “ลกู นกเอย้ี งหนาตามันเปน
อยา งไรละ ” ก็ถามพ่ี ๆ กไ็ มไดค าํ ตอบ << ดวยความเปน เดก็ ทีอ่ ยากรตู องหาคาํ ตอบ >>
ก็คิดวธิ ีวา จะทาํ อยางไรจะไดเห็นหนาลกู นกเอยี้ งบา ง เด็กนอยก็เรมิ่ สาํ รวจที่โคนตน
กระทุม และเรมิ่ หาทางมงุ ไปสเู ปาหมาย คือ รังของนกเอ้ยี งรงั นน้ั ทอ่ี ยูบนยอดตนกระทมุ
ทนั ทที ี่พ่ี ๆ เผลอเดก็ นอ ยก็เร่มิ ปนข้นึ ตน กระทมุ จนไดเห็นลกู นกเอย้ี ง พิจารณาหนา ตาเจา
นอยนกจนสมใจ ถงึ คราวทจี่ ะลงจากยอดตนกระทมุ (เอาละ สิ...งานเขา ละ คราวน้ี ดแู ต
ตอนพี่ ๆ ปนขึน้ แตไมไ ดดูตอนพีป่ น ลง ทําไงดี ?) จะเรยี กพ่ีก็กลวั พจ่ี ะตที ีแ่ อบปน ข้นึ ไป
เธอกโ็ รยตัวลงมาจากยอดกระทุมทันทีท่ลี งมาถึงพ้นื เธอก็แหกปากรอ งลั่นทุงเพราะโดน
หนอนลา น โดนกิ่งไมข ว น เปน เหตุใหพชี่ ายทงั้ 3 ตอ งเดินเรียงแถวถกู ไมเรยี วตาม ๆ กัน
วีรกรรมบนยอดไม ยังไมห มด วันหนงึ่ ณ บานปา เด็กนอยวง่ิ เลน อยกู ับบรรดา
พี่ชายทงั้ 3 ตามกจิ วัตรประจาํ วัน เมอ่ื เหนอ่ื ยจากการเลน กเ็ ริม่ หวิ พวกเรากเ็ ริ่มสํารวจ
บริเวณบา นปา วา มอี ะไรกนิ ไดบ า ง ? ทันใดนน้ั ...พี่ชายคนโตก็เหลือบไปเห็นตนมะละกอ
ตน สูงใหญพอ ๆ กับหลงั คาของยุงเกบ็ ขาว มนั มีมะละกอสกุ ดวย ตา งก็พากันไปหาไมมา
สอย แตก็ไมส ามารถสอยมนั ไดเพราะมนั อยูส งู มาก แลวจะทาํ อยา งจะไดก นิ ก็นง่ั คิดกนั
4 คน พี่นอง “พ่ี ๆ ลงมตเิ ปนเอกฉันทวา ใหนอ งเลก็ คนสุดทอง ปนข้นึ ไปเกบ็ ลงมา พี่ ๆ
จะใชก ระสอบปานรองอยขู า งลา ง” (ออิ ิ...สนกุ ฉันละ เดก็ นอ ยนึกในใจ เร่ืองปน ๆ ปาย ๆ
ของหมู ๆ) ดวยความสามารถของเธอเปาหมายคร้ังน้ีจึงไมใ ชเ รอื่ งยาก เธอปนขน้ึ ไปจน
เด็ดมะละกอสุกโยนมาใหพ ่ี ๆ ไดตามแผนทวี่ างไวท กุ ประการ มะละกอตกลงบนกระสอบ
ปา นไมมีชาํ้ เลยสกั นดิ “เย !! สาํ เรจ็ แลว” พ่ี ๆ ไดมะละกอแลวก็แยกยา ยเตรียมจะเอาไป
กนิ แต เด็กนอยตองถงึ กับจะรอ งไห เอาอกี แลว จะลงยงั ไงอะ (ทกั ษะการปนขึน้ เนี่ยหาใคร
เทียบเทียมยาก) ทกั ษะการลงเน่ียไมม เี ลย พ่ี ๆ กไ็ มม ีใครชวยอะไรได ตะโกนบอกเพยี งแค
ลงมาเลย เดี๋ยวปามาจะโดนตี คราวนี้ละดวยความกลัวก็โรยตัวลงมาเหมือนเดิม เพราะ
เปน ทักษะเดียวทีม่ ี พอลงมาถึงพื้นไมตองพดู เลย แหกปากรอ งเหมอื นเดินดวยความเจบ็
เพราะต้ังแตหนา อกลงมาถงึ ทอ งเปนแผลถลอก เลือดไหลซบิ ๆ เลยทีเดยี ว สรุปวา
มะละกอสกุ ก็ไมไ ดกนิ แถมเจบ็ ตวั อกี ตา งหาก พอปากลบั มาเหน็ หลานสาวเจบ็ ตวั พีช่ าย
ทง้ั 3 ก็ โดนไมเรียวไปตาม ๆ กันดังเชนเคย (ออิ ิ...สมนาํ้ หนา กินกนั อิม่ แตเ ราอด)
ทุกวัน เดก็ นอยจะสรา งวรี กรรมเดด็ ๆ ไมมีหยดุ หยอน (ความสามารถพเิ ศษ
ของเธอเยอะเกนิ เดก็ ธรรมดาทว่ั ไปในวยั เดยี วกนั ) เธอมสี ามารถในการปน ปา ยขน้ึ บน
จกั รยานที่แมถบี โดยทีแ่ มไมต อ งจอด ตน ไมท กุ ตน ท่ีมีในบรเิ วณบา น และทงุ นา ไมมีตน
ไหนเลยที่เธอไมเคยขึ้นเปนสํารวจ (เปนนักสํารวจตัวนอยประจาํ บาน) สิง่ ใดท่ีพอกับแม
บอกวา อยาทาํ นะลูก อยาไปนะลกู เดก็ นอยผนู ี้เปน คนวานอ ยสอนไงงาย ก็ตกปากรับคํา
วา “จะ” ทกุ ครง้ั ไปท่พี อและแมเ ตอื นและสอน แต ทนั ทที ผ่ี ูเปนพอ และแมห ันหลังให
เธอก็จะลงมือปฏบิ ัตทิ ันที ถาบอกใหเดนิ ไปซายเธอก็ไปเดนิ ไปทางขวา ถา บอกใหเ ธอ
เดนิ หนาเธอกจ็ ะถอยหลัง ถาบอกใหเดินชา ๆ เธอกจ็ ะวงิ่ ทันที สงิ่ ใดทไ่ี มใหท ําเธอก็จะทํา
โดยเร็ว (ไมไ ดด ้ือนะ...แตม ีความคดิ เปนของตัวเองมาแตเ ล็กแตน อ ย) สรปุ วาถา เธอไมเ จ็บ
ตัวเธอจะไมม ที างหยดุ ทําในสิ่งท่ีเธอตอ งการทาํ
เม่อื ถึงวยั ..เขา โรงเรยี นอนบุ าล ไปเรยี นได 3 วัน เด็กนอยผูมคี วามคลองแคลว
วอ งไว ในการเคล่อื นไหวมากกวาคนปกติทมี่ ี ออกมาวิ่งเลน ตอนพักกลางวันกับเพอ่ื น ๆ
วง่ิ ไปวง่ิ มาดว ยความสนกุ สนาน เอะ ... !! เงาอะไรดาํ ๆ อยูตรงหนา เงยหนา มาเอามอื ไป
จบั เฮย !! … นม่ี นั เลอื ดนน่ี า ใครเอาเสาอาคารเรยี นมาขวางทางวง่ิ ของเราเนย่ี ? ทาํ ไงได
มันหลบไมท ันแลว จะรองกร็ อ งไมไ ดก ลวั ครูตี ตองเกบ็ นา้ํ ตาเอาไวอยาใหใ ครเห็น สรปุ โดน
จัดไป 4 เขม็ แคน ัน้ เอง จบ๊ิ จบ๊ิ แผลทก่ี ลางหนา ผากจากการวง่ิ ชน มมุ เสาอาคารเรยี น
ยังมิไดต ัดไหมออก เด็กนอยกแ็ สดงความสามารถพิเศษของเธอดงั เชน เคย ตามแมไ ปซ้ือ
ของ (แม...ตะโกนบอกวา “อยา ลงมานะนง่ั รอทา ยรถนน่ั ละ ” เดก็ นอยไดย ินกต็ อบวา “จะ
แม” ) ทันทที ่ีแมห นั หลังจะเดินไปซอ้ื ของกไ็ ดยินเสียง “โผะ !!” จงึ หนั หลงั กลับมาดู ภาพท่ี
แมเห็น คอื เดก็ นอ ยผวู านอนสอนงา ยกระโดดลงจากทา ยรถ หัวไปกระแทกกอ นหินเลอื ด
ไหลนองหนา คราวนแ้ี ค 2 เขม็ สบายใจไป
น่ีเปนแควีรกรรมเดด็ ๆ บางสวนทีส่ รา งรอยแผลเปนใหก บั เดก็ นอย ไมร วมกับ
วีรกรรมเลก็ ๆ นอ ย ๆ อันนบั ไมถวนทสี่ รา งไว แต “ทุกส่ิงที่เกิดขึน้ ในชวี ิตของเด็กนอย
คนหนึง่ มันเปนประสบการณ เปน จดุ เรม่ิ ตนของการเรยี นรใู นการใชช ีวิต การปรับตวั
และการเอาตวั รอด (แกปญ หา) ทจี่ ะเติบโตกา วไปสสู ังคมอื่นตอ ไป นอกจากสงั คมใน
ครอบครวั ”
“การสงั เกต การลงมอื ปฏบิ ตั ิ การแกป ญหา ” ถูกหลอหลอมมาจากได
การเรยี นรูธรรมชาตริ อบ ๆ ตัว ซงึ่ เปน ครทู ีส่ อนเราตลอดเวลา ตลอดชีวติ จนนํามาสู
“ประสบการณชีวิต ” ทีม่ ีทั้งรา ยและดี ประสบการณท เี่ ลวรา ย ความผดิ พลาดใน
การคิดและตัดสนิ ใจลงมอื ทําในส่ิงตา ง ๆ ทผี่ า นมาในชวี ิต เปนเครอ่ื งเตือนสตขิ องเราได
เปนอยา งดีวา “เม่ือเราเดินทางผิดเราก็ไมควรเดนิ ทางนนั้ ซา้ํ อีก ยังมเี สนทางอีกหลายรอย
หลายพนั หลายหมน่ื หลานแสน หลายลา นทางใหเ ราเลอื กเดนิ หากเสน ทางใดทเ่ี ราเดนิ
แลว เรามีความสุข เรากใ็ ชเ สนทางเดนิ เดิมเดินตอ ไปและพยายามมองหาเสนทางใหมเดนิ
ตอไปเพื่อใหถงึ ฝง ฝน ของตวั เอง
“การมอี ิสระทางความคิด เรียนรูถกู ผิดจากการปฏิบัติ” แมบ างครงั้ ตอ ง
เจ็บตวั บางครัง้ ตองเลือดตกยางออกบางก็ตองยอม เพื่อแลกกบั คาํ วา “ประสบการณ”
เพราะ ถาไมเ จบ็ ไมปวด เราจะไมร วู าคําวา “เจบ็ ” “ปวด” เปน อยา งไร ถา ไมม ี
เลอื ดออก เราก็จะไมร ูเลยวา “เลอื ด” สอี ะไร ทุกสง่ิ ทุกเหตกุ ารณท ่เี กดิ ขึน้ ทผ่ี า นเขามา
ในชีวติ ผา นเขา มาเพื่อใหเ ดก็ ผูห ญิงคนหนงึ่ ไดเรียนรชู วี ติ เรียนรูจ กั การปรบั ตัว และเรียนรู
ที่จะแกปญหา เพอ่ื ใหสามารถเอาตัวรอดตามวถิ ชี วี ิตทีเ่ ปน อยู ทุกวรี กรรมที่เกิดข้นึ
อาจเกิดจากความตั้งใจบา ง ไมไดต ้งั ใจบาง ก็ทําใหเ ดก็ นอ ยคนนี้มี “ความมานะ
ความพยายาม และความอดทน มคี วามมงุ มนั่ ทีจ่ ะกา วเดนิ ไปขางหนา เพอ่ื เผชิญกับ
โชคชะตาทีล่ ิขติ มาจากฟา และชะตาชีวติ ของตวั เอง” การเขาสูรัว้ การศึกษา คอื การ
เปลยี่ นวิถชี ีวิตครงั้ ใหญใ นชีวติ เดก็ นอย จากออ มกอดของพอแม ท่ีมีใหเดก็ นอ ยออดออน
ในทกุ ๆ วนั จากอสิ ระในการโลดแลน ตามทอ งทงุ และคนั นา จากสนามเดก็ เลน อนั กวา ง
ใหญท ่เี ต็มไปดวยตน ขาว กงุ หอย ปู ปลา และตนไมอ ันเปนที่ โปรดปรานยงิ่ นกั ตอ จาก
น้ไี มมแี ลว ทําใหเ ด็กนอ ยตอ งปรับตัว เรยี นรู อยกู ับส่งิ แวดลอมใหมเ ปน ครงั้ แรกในชีวติ
ย อ น อ ดี ต
มุ ง สู ก า ร ศึ ก ษ า ... ส ม บั ติ เ ล อ ค า ... ที่ พ อ แ ม ใ ห
เมอื่ ตองกา วเขาสูร้ัวการศกึ ษา จากทเ่ี คยว่ิงเริงรา ไปตามทองทุง ตามประสา
เด็กนอ ย ตองเขา มาน่ังอยใู นหอ งสเ่ี หลย่ี ม มโี ตะ เกาอี้มากมาย วางเรียงกันเปน แถว ๆ
อยางเปนระเบียบ (นี่มันอะไรกนั เตม็ หองเลย แลว เราจะเอาพืน้ ท่ีทีไ่ หนวง่ิ เลนละ เน่ีย ?)
แลวคุณครกู ็เรียกใหไ ปนัง่ เกา อีป้ ระจําตาํ แหนง คงไมต อ งบอกวาเธอจะรูส กึ อยา งไร
คุณครกู ล็ อหลอกสารพัดท่จี ะทําใหเ ด็ก ๆ ในหอ งสงบนิง่ และพรอ มทจี่ ะทาํ กจิ กรรมกบั
ครแู ละเพือ่ น ๆ กวา เด็กนอ ยจะปรบั ตัวไดก็ใชเ วลานานพอสมควร การไปโรงเรยี นของ
เดก็ นอ ยกเ็ หมอื นคนอืน่ ท่วั ไป คือ เดินไปโรงเรยี น เพราะโรงเรยี นในหมบู านอยไู มไ กลจาก
บา นมากนกั เนือ่ งจากเปนหมบู า นเล็ก ๆ ทอี่ ยใู นเขตอําเภอเมอื ง (แตเ หมือนจะอยไู กล
เมอื งมาก) ดานสาธารณูปโภค ไมมไี ฟฟา ไมม นี าํ้ ประปาใช มเี พียง “ตะเกยี งเจา พายุ”
และ “นาํ้ ในหนอง คลองบงึ ” เทานน้ั ทีน่ ํามาใชด ่ืมกิน
สังคมใหม ที่เรยี กวา “โรงเรยี น” ไดสอนใหเ ดก็ นอ ยรจู ักอาน เขยี น เรยี นรู
หลกั วิชาการ แมจ ะเปน โรงเรียนเล็ก ๆ ในชุมชนชนบททีห่ างไกลความเจรญิ ยงั มี “คร”ู
จาํ นวนหนง่ึ ท่เี สียสละตนเองมาเพื่อสอนหนังสอื ใหก ับเด็กหลายสิบ หลายรอ ยคน จากรุน
สรู ุน มาเปนระยะเวลาหลายสบิ ป ครูสอนทั้งวิชาการ สอนทงั้ การใชช วี ิต และสอนใหรจู ัก
กับคาํ วา “ถูกผดิ ” ในการกาวเดนิ และเผชญิ ชวี ิต
7 ป ณ โรงเรยี นแหงน้ี (โรงเรยี นบานแมระหัน) ชวี ติ ของเดก็ นักเรียนในชนบท
เมื่อ 30 กวา ปที่แลว ชางมีความสุขเหลอื เกิน ไปเรยี นเรากเ็ ดนิ ไปโรงเรียน หอ ขาวใสปนโต
ไปน่ังกินรวมกันกับเพื่อน ๆ (นาํ้ ไปกินทโี่ รงเรียน เพราะโรงเรียนมนี ้ําใหกินฟรี ทางรฐั บาล
สรา งถงั นา้ํ เกบ็ น้าํ ฝนขนาดใหญไวใ หพวกเรา) ในฤดูน้าํ ทวม เรากจ็ ะมยี านพาหนะเฉพาะ
คอื “เรอื ” ทุกคนจะตองพายเรอื ไปเรยี นกันทุกคน รําใหญบ างเล็กบา งแลวแตจาํ นวน
ผูรว มทาง เน่ืองจากน้ําจะทว มทงั้ หมูบา นทุกป ถนนหนทางตาง ๆ ไมมีใหเราเดนิ สญั จร มี
เพียงทอ งทงุ ทีเ่ ตม็ ไปดวยนํา้ และระลอกคลืน่ (ทะเลบา นเรา) ยง่ิ ในยามฝนตกลงมา สาย
ลมพดั โชย หยดนาํ้ ฝนตกลงกระทบลงบนผวิ นาํ้ เปน ภาพทส่ี วยงามยง่ิ นกั การเดนิ ทางไป
เรียนในแตละวนั เราก็จะสลบั ผลัดเปลยี่ นกันน่งั ตวั เปย กเรียนกนั (สาเหตเุ นอ่ื งมาจาก
ระหวา งการเดนิ ทางมาโรงเรยี น “เรอื ” ที่เราพายมาโรงเรียนเกิดอบุ ตั เิ หตลุ ม ระหวางทาง
หนังสือและสมดุ จะเปย กนาํ้ (บวมและอวบมาก...ความรูเลยฟูตามหนงั สือ) ปน โตขาว
จมนาํ้ (อาหารกลางวันหายไปในพรบิ ตา ครั้งแรกก็นกึ อยใู นใจทาํ ไงดี วนั นี้อดขา วแน ๆ
เพราะท่ี โรงเรยี นไมม อี าหารกลางวนั ขาย) แตพอถึงเวลาพักกลางวันเพอ่ื น ๆ ก็จะแบงปน
อาหารกลางวนั ใหเ รากนิ เรากแ็ บงกนั กนิ อมิ่ บา งไมอ มิ่ บา ง แตพ วกเรามีรอยย้มิ แหง
ความสขุ ไปดว ยกนั พวกเราเรยี นเลน กนั ดว ยความรกั ความผกู พนั เปน เวลา 6-7 ปเ ต็ม ๆ
และแลวพวกเรากเ็ รียนจนจบประถมศกึ ษาปท ี่ 6 (กําลงั จะเกิดการเปลย่ี นแปลงในชีวติ
คร้ังใหญ อกี ครั้ง) สมัยนั้นการศกึ ษาเปนเรือ่ งหางไกลมากสาํ หรบั คนในชุมชนท่ีเด็กนอย
อาศยั อยู คนท่จี ะไดเ รยี นตอในระดับมัธยมศกึ ษาสวนใหญจ ะเปนเดก็ ผชู าย (โรงเรียน
มธั ยมจะอยใู นตัวเมอื ง และหมูบานทีเ่ ดก็ นอยอาศยั อยไู กลเมืองมาก อกี ท้ังถนนหนทางก็
ยากลาํ บากมเี พยี งถนนทเ่ี ปน ดนิ เหนยี วความกวา งประมาณ 3 เมตร ระยะทางประมาณ 8
กโิ ลเมตร ท่เี ช่ือมจากตัวหมบู า นเขา ตาํ บล) การเดินทางเขาตวั เมอื งตอ งใชร ถจักรยาน ข่ีไป
และไปข้ึนรถสองแถวประจําทางตอ
หลังจากจบการศกึ ษาช้นั ประถมศึกษาปที่ 6 พอ กบั แมก ็บอกเดก็ นอยวาไมต อง
เรยี นตอ แลว เนาะใหอ ยบู า นกบั พอ แม คอยกวาดบา น ถบู า น ลา งจาน ทาํ งานบา นก็
พอแลว ไปเรียนมนั ลาํ บาก แตด ว ยความทีเ่ ปน คนชอบเรยี นรู ในใจกค็ ิดวาถาเอาเวลาที่
เหลอื อีกคอ นชีวติ ทาํ แคน ีค้ งไมด ีแน ๆ เลยเกิดการตอรองวา “ขอไปสอบกอน ถาไมไดก็
จะไมเ รียน จะทาํ ตามทพ่ี อแมบอก”
เมอื่ มีโอกาส กท็ าํ ใหเ ตม็ ท่ี เพราะโอกาสไมไ ดเขามาในชีวิตเราบอยนัก ในทีส่ ดุ
ความพยายามในการอานหนงั สอื ความมุง ม่ัน ความต้งั ใจกส็ าํ เร็จผล เดก็ นอ ยสอบเขา
เรียนในระดับชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 1 ของโรงเรยี นเฉลมิ ขวัญสตรี ซึ่งเปน โรงเรยี นหญิงลวน
ประจําจังหวดั ได และน่ีคือ “จุดเปลย่ี นชวี ิต” ครัง้ สําคญั ของเด็กบานนอกคนหน่ึง ทก่ี ําลัง
จะเขาไปเผชิญชะตากรรมในตวั เมืองเปน ครง้ั แรกในชวี ิต ตองพบเจอกบั คนมากมาย
หลายพันคนท้ังครูและนักเรียน ตองใชช ีวิตอยูกบั คนแปลกหนาทไี่ มเคยรูจ ัก การปรบั ตวั
เปนเร่ืองที่สําคัญและยากลาํ บากมาก แตเ ดก็ บา นนอกคนนกี้ ็จะสไู มยอมแพ
จากสงั คมลกู ชาวนา สูสงั คมลกู ขา ราชการ คําถามท่มี ักจะถูกครูและ
เพอื่ น ๆ ในชนั้ เรยี นถาม คือ “พอ แมท าํ งานอะไร ?” 80% ในหองเรยี นก็จะตอบวา
“พอแมร บั ราชการ” อกี 19% ตอบวา “พอแมค าขาย/มธี ุรกจิ สว นตวั ” สว นอกี 1%
ตอบวา “พอแมทาํ นา” ทนั ทเี มือ่ สิ้นเสยี งตอบทกุ สายตาในหอ งเรยี นก็จะหันมามองหนา
“ลูกชาวนา” ฉนั ไมร ูหรอกวา เพ่อื น ๆ จะหนั มามองเพราะอะไร ? หรือแปลความวา
ลกู ชาวนาเปน อยา งไร ? ฉนั รเู พยี งแคว า “ลกู ชาวนาคนน้”ี สามารถมานง่ั และยนื อยตู รง
น้ีในที่ ทีล่ กู ขาราชการ พอ คา แมค าเขาอยกู ันไดก ็พอละ ฉนั ไมเ คยอายทเ่ี ปน ลกู ชาวนา
แตก ลบั ภูมใิ จในความเปน ลกู ชาวนา และมแี รงผลกั ดนั ที่จะกาวเดนิ ตอ ไปในร้วั การศกึ ษา
แหงนี้ ภาพทุกภาพที่ฉนั เหน็ มาตั้งแตเปน เด็กนอย หยาดเหงือ่ ทุกหยดของพอแม เปน
เครือ่ งเตอื นสติฉนั ไดเปนอยางดี คอยสอนและกระตุนเตือนใหฉนั ตง้ั ใจเรยี น ขวนขวายหา
ความรใู หส มกบั สงิ่ ทพ่ี อ แมตอ งเหน็ดเหนื่อยเพอ่ื ฉัน
ปด เทอมเพ่ือนก็จะไปเท่ยี ว ทะเล นํ้าตก ฯลฯ แตเราลูกชาวนาตองไปชว ยพอ
แมร ับจา งเกี่ยวขา ว เพ่ือหาเงินมาซ้ือชดุ นักเรียน รองเทา นกั เรียน และอปุ กรณก ารเรียน
สว นเงินคาเทอม และคาหนงั สอื พอแมออกให เพราะถาเราไมชวยพอ แมพ วกเราทัง้ 4 คน
กจ็ ะไมไดเรยี นตอ ชีวติ เปนเชน นี้ตลอดระยะเวลา 6 ป ทเี่ รยี นในระดบั มัธยมศึกษา
หกปก บั การศึกษาเรียนรู ในร้ัวโรงเรยี นเฉลิมขวัญสตรี ฉันไดอ ะไรมากมาย
ทั้งความรูวชิ าการ และความรใู นการใชช ีวติ จากการเลนกีฬา ซง่ึ เปนชว งเวลาท่ดี ีทส่ี ดุ
ชวงหนงึ่ ในชวี ติ ไดพบเจอและรจู ักเพอื่ นมากมาย ซึ่งลวนเปนเพือ่ นทีด่ ี และเปน
กลั ยาณมติ รเสมอมา “หกปก บั ความยากลาํ บาก” ในการเดนิ ทางไปเรยี นของเดก็
บา นนอกทตี่ อ งเขาไปเรียนในตวั เมอื ง ตอ งตนื่ ตั้งแตต ี 5 เตรียมตัวไปโรงเรียนกับ
แสงตะเกียงดวงนอ ย ๆ ทสี่ องแสงราํ ไร พอใหเ ห็นชุดนักเรยี นและอุปกรณตา ง ๆ น่ังกนิ
ขา ว (ไขเจียวสุดแสนอรอ ยจากฝมือแมเ ปนอาหารทดี่ ีที่สุดสาํ หรับครอบครวั เรา หมู ไก
เปนไงไมรจู กั หรอกนาน ๆ จึงจะไดล ้มิ รส) รอจนกวา พระอาทติ ยจ ะโผลข น้ึ มาจากขอบฟา
เพือ่ สอ งนาํ ทางใหข่จี กั รยาน โลดแลนไปบนถนนดนิ เหนียวเขาสตู วั ตําบล แลวขน้ึ รถ
โดยสารเขา ตัวเมือง กวาจะถึงโรงเรยี นก็เกือบแปดโมงพอดี เลิกเรียนกต็ องรีบวิ่งมาขน้ึ รถ
โดยสารเพ่อื แยงทีน่ ัง่ กบั นกั เรยี นมากมายอกี หลายโรงเรยี น กวา จะถงึ บานกพ็ ระอาทิตย
เกอื บจะลาลบั ขอบฟาไปแลว วันไหนโชคดีชวี ติ กจ็ ะเปน แบบน้ไี มล าํ บากมากเทา ไร มเี พียง
ความหวิ (เพราะต้งั แตอาหารกลางวนั ก็ไมม อี ะไรตกถงึ ทองอกี เลย) สิ่งที่พวกเราทาํ ได คอื
แวะขา งทางกนิ “ตะขบ ฝรง่ั ข้นี ก มะมวง” ทข่ี ้ึนขางทาง ปะทงั ความหวิ จนกวาจะปน
จกั รยานไปถงึ บา น แตถ า วนั ไหนโชครา ย “ฝนตกตอนเชา ” ถือวา เปน วกิ ฤตชีวิตท่ีสุด (วดั
ใจกนั เลยกว็ าได ถา ใจไมมคี วามมงุ มนั่ พยายามจริง ๆ คงตอ งนอนอยบู า นแน) แตด ว ย
ความต้งั ใจที่จะไปเรยี นก็ตอ งพบั ชุดนักเรยี น รองเทา ใสถงุ พลาสตกิ มัด หอ ยหนา
รถจักรยาน ใสเสอ้ื กนั ฝน (ดว ยความเปนลกู ชาวนาเสือ้ กันฝนไมต อ งซอ้ื พอ แมต ัดใหเ อง
... โดยการใชถ ุงพลาสติกทใ่ี สปุย เอามาลางใหส ะอาด ตัดตรงกลางใหสวมหัวได ตัดมุมถุง
ใหใ สแขนได แคนก้ี ็เปนเส้อื กันฝนอยางดสี ําหรบั พวกเรา) หลงั จากนน้ั กข็ ่ีจักรยานฝาลม
ฝา ฝน บนถนนดินเหนยี วทท่ี ้งั ล่นื ทั้งเปนโคลน ขี่ ๆ ไปดินเหนยี วกเ็ ขา ไปตดิ ทีบ่ ังโคลนรถ
ตองมีไมไผตดิ ตัวไวหนึ่งอนั ไวคอยแคะดินเหนียวออก ข่จี ักรยานไปรอ งไหไ ป ทั้งหนาว
ท้ังกลัว แตก ็ตอ งบอกตัวเองวา “ตองอดทน” เพื่ออนาคต ขี่จักรยานไปจนถงึ ตวั ตาํ บล
(กอนถึงตวั ตําบลจะมีคลองน้าํ ชลประทานและแองน้ําขา ง ๆ ซง่ึ เปนสถานทีล่ า งคราบดนิ
โคลนทีเ่ ปอนจากการขีจ่ กั รยาน และขี่ตอ ไปเพือ่ เอาจกั รยานไปฝากไวกบั คนรจู กั แลว
เปลี่ยนเสอ้ื ผา นัง่ รถโดยสารเขา เมอื งเพอื่ ไปโรงเรียน
แคการข่ฝี า ฝน ฝา ลม ไปเรยี นใน “ฤดูฝน” ยงั ไมล าํ บากเทา ใน “ฤดนู ํ้าทว ม”
(เปนฤดเู ฉพาะสําหรบั หมบู า นเรา จะยาวนานแคไหนข้นึ อยูก บั “ฝน” ทต่ี กลงมาสว นใหญ
จะทว มประมาณ เดอื นสงิ หาคม ถึง เดอื นพฤศจกิ ายน) ฤดนู ี้ตอ งมีพาหนะเพ่มิ ขึ้นใน
การเดนิ ทาง คอื “เรอื ” เพราะนาํ้ จะทว มทง้ั หมบู า นความลกึ จากพน้ื นา ประมาณ 1-2
เมตร พอกบั แมต อ งเอาจักรยานใสเรือแลวพายมาสง ตรงบรเิ วณถนนที่นา้ํ ทว มไมถึง
ระยะทาง ประมาณ 2 กโิ ลเมตร ตอนเยน็ กต็ องพายเรอื มารบั กลบั (เหตุนี้นีเ่ องทีพ่ อ แม
บอกวา ไมต อ งเรยี นอยบู า นทาํ งานบา นเถอะ) ภาพท่เี ราเห็นมนั สะทอ นใหเราตระหนักอยู
เสมอวา พอแมมี “ความรกั ความหวงั ดี ความมานะ พยายาม และอดทน” มากมาย
นักนอกจากจะทํางานเพ่ือหาเงินมาเลีย้ งครอบครวั สงเสียลกู ๆ เรียนหนงั สือ แลว ยงั ตอ ง
พายเรอื รับสง ลูกเพ่ือไปโรงเรียน เพือ่ แลกกับความรใู หแ กล กู ๆ ส่งิ เหลานจ้ี ึงยิง่ เปนแรง
พลักดันใหเ ราตอ ง “ตง้ั ใจ ตอ งอดทน มคี วามมานะ พยายามในการศกึ ษาเลา เรยี น”
และทําทุกอยางใหไดค ร่ึงหนงึ่ ของท่ีพอแมทาํ และทมุ เทเพ่ือเรา
หกปเ ต็มกบั ความอดทน ความพยายาม เพื่อใหไ ดมา คือ การศกึ ษา เปนหกป
ท่ีสอนการใชชวี ิต และไดประสบการณมากมาย และเปน หกปเ ต็มกบั การโลดแลน บน
ลวู ิง่ เสนทางนกั กรีฑา จากตัวแทนของโรงเรียน ไปสูต วั แทนของจงั หวัด ตวั แทนเขต
จนเขาไปแขง ในระดับประเทศ เหรียญรางวัล ใบประกาศหลายรอ ยใบทไ่ี ดม า ตางลว น
ไดม าจากความมานะ อดทน และฝกฝน เปนประสบการณท ด่ี ใี นชีวติ เพราะกวา จะไดม า
ซ่งึ คาํ วา “ชยั ชนะ” ทใ่ี ชเ วลาในการแขง ขนั เพยี งแคไมกี่ “วนิ าที” สอนใหฉ นั ไดเ รียนรวู า
เวลาเพยี งเสี้ยววินาที ทําใหเ ราสามารถไปสเู สน ชยั หรือเปาหมายในชวี ติ ไดก อ น และหลงั
คนอ่นื การทุม เทแรงกาย แรงใจในการฝก ซอมบนลูว ่ิง สอนชวี ติ เรามากมาย สอนใหฉ ันได
เรียนรูว า สง่ิ ทสี่ าํ คญั ทส่ี ุดในการทาํ ส่งิ ตาง ๆ คอื “การมวี นิ ยั ” เมอื่ มวี นิ ัยในตวั เองแลว
สงิ่ อืน่ ๆ จะตามมา การแขงขันสอนใหเรารจู กั คุณคาของ “เวลา” เพราะเวลาเพียงแค
เสยี้ ววินาที ถาเรากาวชา กวาคนอ่ืน และไมส ามารถรักษาระยะหาง หรือความเรว็ ได เราก็
ไมส ามารถท่ีจะเขา ถงึ เสนชยั กอ นคนอืน่ ไดเ ลย
สงิ่ สาํ คัญทสี่ ุดทีไ่ ดจ ากลูวง่ิ คอื “คณุ คา ของเวลา ความอดทน พยายาม และ
กาํ ลงั ใจ” เมอ่ื เราอยูหลงั คตู อ สู หากเรามีความพยายาม อดทน และมีกําลังใจ เรากจ็ ะมี
พลงั ใจการกาวแซงคแู ขงได แตถา เมือ่ ใดท่ีเราบอกวา ไมเอาแลว เหน่อื ยแลว เราจะไมม ี
ทางวิ่งเขา เสน ชยั กอนคแู ขง ไดเลย
กาวเขา สูรั้ว “สถาบนั ราชภฎั พบิ ลู สงคราม” หลงั จากจบการศกึ ษาชน้ั
มธั ยมศกึ ษาปที่ 6 เพื่อน ๆ ตา งก็สอบ Entrance กันหมด มีเพียงแตเรา เพราะในใจคิด
แลว วา พอแมเราคงไมสามารถหาเงินมาสง เราเรียนตอได เราจึงตดั สนิ ใจจะไปสมคั รเปน
พลรม หญงิ ทล่ี พบรุ ี แตแลว ความฝนกพ็ งั ทลาย เพราะแมไมใหไป ตอนน้ีใจสลาย ผดิ หวัง
(มันเหมอื นดวงเทยี นทก่ี ําลังสองสวาง วูบดับลง เหลือแตความมึดมดิ ในหวั ใจ) เสียใจอยู
หนึง่ สปั ดาหตั้งสตวิ า จะทําอยา งไรกบั ชีวิต บอกตัวเองวา “ความฝน หน่ึงจบลง เราตอง
สรา งความฝนใหม” เมอื่ ตง้ั สติไดจึงไปสมคั รสอบเขา ศกึ ษาตอทส่ี ถาบันราชภัฎพบิ ุล
สงคราม และสอบติดสาขาบรรณารักษศาสตร และสารนิเทศศาสตร (ทีแรกก็ไมเขา ใจวา
สาขานเ้ี ขาเรยี นอะไรกนั ) ตอนแรกต้ังใจเลอื กเรยี นสาขาพัฒนาสงั คม แตสถาบันไมเ ปด
การเรยี นการสอนในปน น้ั จงึ ตดั สนิ ใจเลอื กเรยี นสาขาบรรณารกั ษศาสตร และสารนเิ ทศ
ศาสตร เพราะช่ือยาวดี 555 ) และแลว ก็เหมือนฟา ผา ลงตรงกลางหวั ใจ นา สาวบอกวาพอ
แมเราจะสงไหวหรอื ใหออกไปเรยี นผูชว ยพยาบาล 1 ป กห็ าเงนิ ไดแลว (นกึ ในใจใหใ ช
ชีวติ ทัง้ ชวี ิตอยกู ับสิง่ ทเ่ี ราไมชอบ ชีวติ เราคงหาความสขุ ไมไดแ น) จงึ เกดิ การตอ รองขึ้นอกี
ครัง้ กับพอแมวา จะเอาใบปรญิ ญามาใหพอ แม พรอมกบั เกยี รตินิยม ซง่ึ มันเปน ความ
ลาํ บากมากในการปรับตวั กบั ระบบการศกึ ษาจากมัธยมมาเปน อดุ มศึกษา แตส่งิ ท่ีมอี ยูใน
หัวใจอยูตลอดเวลา คือ เราตอ งสู ตองอดทน ตอ งเพียรพยายามทาํ มันใหได และในทีส่ ดุ
เรากท็ าํ ไดด ว ยการควา เอา เกยี รตินยิ มอนั ดบั สอง มาใหพ อ แม
หลังจากจบการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี กส็ อบเขาทํางานทห่ี องสมดุ คณะ
เภสชั ศาสตรศาสตร มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ในระหวา งการทาํ งาน ป 2457 ก็ศกึ ษาตอ
ระดับปริญญาโท สาขาเทคโนโลยแี ละส่ือสารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึง่ ได
ความรู และประสบการณต า ง ๆ มากมาย ไดพ บกบั กลั ยาณมติ รหลากหลายสาขา และใน
ป 2550 ไดต ดั สนิ ใจเขา ศกึ ษาตอ ในสาขาบรรณารกั ษศาสตร และสารนเิ ทศศาสตร
มหาวทิ ยาลยั รามคาํ แหง (กรงุ เทพ ฯ) หลังจากที่เราตัดสินใจจะไปศึกษาตอในวนั
เสาร- อาทิตย ซง่ึ ตอ งน่ังรถไปกลบั พิษณุโลก-กรงุ เทพ ฯ เกดิ การคดั คา น และคาํ ถาม
ตามมาจากบคุ คลรอบตวั ปว ยแบบนวี้ าจะเดนิ ทางไหวหรือ ? คนดี ๆ เขายงั ไมท าํ กนั
(เราเปน คนท่ยี อมรบั และเคารพในการตดั สินใจของตัวเอง ถกู ผิด เรากจ็ ะยอมรับผลของ
การตดั สินใจน้ัน) เรากต็ อบไปเพียงแคว า ทําไดเทาที่ทําได สวนจุดจบจะเปน เชนไรก็ชา ง
ขอเพยี งแคไดเรยี นรู ในระหวางการเดนิ ทางนนั้ กพ็ อ (สําหรับฉันมองเปา หมาย คอื กาํ ไร
ชีวติ สง่ิ ที่สาํ คญั คอื ระหวา งทางเดนิ เราไดอ ะไรมากกวา ) 1 ปเตม็ ๆ กบั การเดินทางไป
เรียน ม. รามคําแหง กับระยะหลายหมน่ื กโิ ลเมตร เรากต็ ัดสนิ ใจเปลี่ยนท่ีทํางานไปทาํ ที่
สถาบันการเรยี นรเู พ่ือปวงชน อยูท่จี งั หวดั สมุทรสงคราม และศึกษาตอ จนจบในป 2552
“เมอื่ ใจเราสูจ ะไมมีคาํ วา แพ และไมมสี ่ิงใดในโลกใบนีท้ ี่เราจะทาํ ไมไ ดห าก
เราตอ งการจะทาํ ”
ย อ น อ ดี ต
คาํ ส อ น ข อ ง “พ อ แ ม ”
การเดนิ ตามรอยเทา “ พอ แม” มาตง้ั แตเปนเด็กนอยในทงุ นาอันกวา งใหญ
นบั เปน “การเรยี นรคู รงั้ แรกในชวี ิต อิสระทางความคิด อสิ ระในการปฏิบัต”ิ ทพ่ี อ แม
ปลอย ใหเ ราไดค ดิ ไดทาํ ในส่งิ ท่ีเราตองการ และเรียนรูท่ีจะแกไ ขปญ หาตาง ๆ ดว ยตนเอง
คอย ๆ หลอ หลอมเกดิ ขน้ึ มาในชวี ิตโดยทีเ่ ราไมร ูต ัว ซง่ึ เปนการสอนท่ีมีคา ท่ีสดุ ในชีวิต
ประโยคทลี่ ูก ๆ จะไดยินบอ ย ๆ จากพอและแมทีพ่ ร่ําสอนลูก ๆ มีเพยี งไมก ่ี
ประโยค
“ตงั้ ใจเรียนนะ โตข้ึนจะไดไมต องลําบากเหมอื นพอกบั แม”
“พอกับแมไ มม ีสมบตั ิอะไรให มีแตก ารศึกษา เพราะการศกึ ษาจะทําใหลกู หา
เล้ียงตวั เองได”
“อดทน...นะ ความเหนื่อยไมเคยทําใหคนตาย”
แตส ิ่งทีแ่ มสอนจากการปฏบิ ัติมนั มากมายนัก แมจ ะพาไปกลางนาตั้งแตย ัง
เดก็ ๆ และแมจ ะถามวา “รอ นไหม” เรากต็ อบวา “รอ น” แมก จ็ ะพดู ตามมาวา “ถารอ น
ตองต้ังใจเรียน” เรากต็ อบวา “จะ ” (ตอนนนั้ ไมร ูหรอกกจ็ ะ ๆ ไปอยางงัน้ ) ชวี ติ ลกู ชาวนา
มันยอ มแตกตางจากเพอื่ น ๆ ท่ีเปนลกู ขาราชการ พอ คา แมคา อยากไดอะไรกต็ อ งเก็บเงิน
หาเงินซื้อเอง เสาร-อาทิตย ปด เทอม ตองตามพอ แมไ ปรับจา งเก่ียวขา ว เพ่อื ใหไ ดเ งินมา
เพือ่ ซ้ือชดุ นกั เรียน คา เทอม หนงั สือ (พนี่ อง 4 คน เรียนมัธยมพรอมกันหมด) แมจ ะถาม
ลกู ๆ วา “เหนอ่ื ยไหม” เรากจ็ ะตอบวา “เหนือ่ ย” แมก็จะพดู ตามมาวา “ถา เหนือ่ ยตอง
ต้ังใจเรยี น” พอเกย่ี วขา วโดน “เคยี วเกีย่ วขา วบาดมือ” แมจ ะถามวา “เจ็บไหม” เราก็
ตอบวา “เจบ็ ” และทนั ทีแมกพ็ ดู ประโยคเดิมวา “ถา เจ็บก็ตองใจเรียน” ตอนเราเปนเด็ก
ไมเขาใจในความหมายท่ีแมพูดหรอก คิดเพยี งแควา ถาไมอยากรอ น ไมอ ยากเหน่ือย
ไมอยากเจ็บตวั กต็ องต้ังใจเรยี น แตสงิ่ ทแ่ี มต องการบอกลกู ๆ คือ การเปน ชาวนามนั
ยากลาํ บาก กวา จะไดมาซ่ึงขาวเปลอื กสักเมด็ มันตอ งใชท ั้งแรงกาย แรงใจ และตอ ง
พง่ึ พาดนิ ฟา อากาศ ถา ฝนไมต กขา วกต็ าย ถา ฝนตกมากนาํ้ ทว มนา ขา วกเ็ สยี หาย เปน หน้ี
เปน สนิ กวา จะไดเ งนิ มาแตล ะบาทแตล ะสตางคม นั แสนยากเขญ็ การศกึ ษาจะทาํ ใหล กู มี
อาวธุ หรอื เครื่องมอื ในการไปหาเลี้ยงชพี ได โดยไมลาํ บากเหมือนพอ แม
เมื่อลกู ๆ เร่ิมโตขึ้น รายไดจากการทํานาเพียงอยางเดียวไมพอกบั คาใชจา ยท่ี
ตองใชใ นการดําเนนิ ชวี ิตในแตละวันของครอบครวั ภาระหนส้ี ินที่เกดิ จากนาํ้ ทว มนา และ
คาใชจายในการสงลกู ๆ เรียนหนงั สอื ทําใหพ อกับแมต องไปทาํ งานกอสรางเพอื่ หารายได
เพม่ิ และในทุกวนั เสาร-อาทติ ย พอกบั แมจ ะพาฉนั ไปดว ย (ตอนนน้ั คิดแคว า ทําไมชวี ิตเรา
ไมสุขสบายเหมอื นเพอ่ื น ๆ หวิ้ ปูนมนั ท้งั หนักทั้งเหนือ่ ย รอ นก็รอ น ทาํ ไมพอแมไ มร กั เรา
หรอื อยา งไร ทาํ ไมพาเรามาลาํ บากแบบน้ี) ส่งิ ที่พอ แมทาํ เพยี งเพอ่ื ใหฉนั ไดเรยี นรูวา การ
เปน กรรมกรทํางานกอ สรางมนั ลําบาก มนั เหน่ือยอยางไร ตอ งหิ้วปนู กีก่ ระถัง ตองยกอิฐ
ก่ีกอน กวา จะไดเงนิ มา 100 บาท ใหเ รียนรวู าถาเปน ชางท่ีมฝี มือมคี วามรู เขาทาํ อะไรกนั
บาง คา แรง เขาถงึ ได 300-500 บาท การเปน ผรู บั เหมาเขา ทาํ อะไรบา ง เขาจงึ มรี าย
หลักพนั หลกั หมนื่ หลักแสน หลักลาน
พอแมสอนใหดกู ารปฏบิ ตั ขิ องคนเปน ตัวอยา งในการใชชวี ติ สอนใหรูจักทัง้ คนดี
และคนไมด ี สอนใหเ หน็ ผลจากการกระทาํ ของคนเหลา นน้ั มากกวา การสอนใหเ ปน แบบ
นัน้ ใหเ ปน แบบนี้ เมอื่ ลกู ๆ ทาํ อะไรก็ทาํ แตตอ งยอมรบั ผลของการกระทําของตัวเองให
ได ไมวาจะดหี รือราย เพราะนนั่ คอื “สิง่ ทลี่ ูกเลอื กทําเอง”
ทุกคร้งั ทเี่ หนอ่ื ยและทอ แมจ ะบอกกบั เราเสมอ วา “ลูกแมทาํ ได” แคไดย นิ
คาํ ๆ น้ี เพยี งคาํ เดียว พลังใจก็มา อปุ สรรคใด ๆ ท่อี ยูตรงหนามันดูเลก็ ลงไปในทนั ที
การสอนของพอกับแม ลว นแตเปนการสอนใหป ฏิบัติ สอนใหชว ยเหลอื ตัวเอง
สอนใหค ดิ เอง ตดั สนิ ใจเอง วาชีวิตและอนาคตเราเลือกทีจ่ ะทําอะไร เลือกทีจ่ ะเปน อะไร
ตนแบบของความเสียสละ ตน แบบของความทดทนท่ีลกู ๆ ไดจากพอและแม เปน เครอื่ ง
เตอื นสติ และเปน แนวทางในการกา วเดนิ บนถนนสายชวี ติ ของลกู ๆ ไดเ ปน อยา งดี
ตั ว อ ย า ง ท่ี ดี มี ค า ม า ก ก ว า “คาํ สอน”
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
ที่ มา ข อ ง น า ม ป า ก ก า “น้ํา ต า ห ย ด สุ ด ท า ย”
“ชวี ิตทกุ ชวี ิตเมือ่ ลืมตามาดูโลกตา งตองดิ้นรนเพ่อื ความอยูรอด
ตองตอ สเู ผชญิ กบั ปญ หา และอุปสรรคตา ง ๆ
กาลเวลามกั จะมาพรอ มกบั ความเปลีย่ นแปลงในชวี ิต”
“เพราะชวี ติ คอื ชวี ติ ไมมอี ะไรแนน อน มจี ุดสูงสุด-ต่าํ สดุ มที ง้ั ดแี ละราย”
จากเดก็ ผหู ญงิ ท่ีแข็งแรงคนหนงึ่ โตขึน้ มาเปนนกั กรีฑาระดบั เขต ระดับประเทศ ใชช วี ติ มา
ดวยความสุข สดใส วันหนึง่ ชีวิตตองมาพบกบั จุดเปลีย่ นแปลงครง้ั ยิง่ ใหญในชีวติ
"สงิ่ ท่เี ราไมเ คยคิดมากอนในชวี ติ ....วา มนั จะเกิดข้ึนกบั เรา และกไ็ มเ คยคดิ
เลยวาวนั น้ีเราตอ งมาเผชญิ กบั โรคราย ทีเ่ ขา มาเปลย่ี นชวี ติ ท้ังชวี ิตท่เี หลอื อยู"
ประมาณปลายป 2543 อยดู ี ๆ กม็ อี าการปวดทอ งมากจนทําใหต อง admit อยู
หลายวนั ทแี รกกค็ ดิ วา กระเพาะอาหารอักเสบธรรมดา ซึ่งหมอฉีดยาใหก็คงหาย แตเวลา
ผา นไป 3 วนั กบั การรกั ษา พยาบาล ทกุ อยา งดูเหมอื นมนั จะรนุ แรงข้ึนเรื่อย ๆ จากแค
ปวดทอ งเรากลบั เร่มิ มีอาการปวดหวั บวม ปส สาวะไมอ อก ความดนั โลหิตเร่มิ สูงข้นึ
เรื่อย ๆ จนทาํ ใหหมอตอ งสง่ั ตรวจวินจิ ฉยั เพมิ่ มากมาย ทั้งการเจาะเลือด สอ งกระเพาะ
อาหาร อลุ ตรา ซาวน กลนื แปง สวนแปง การนอนโรงพยาบาลครง้ั นน้ั ยอมรบั วา สาหสั
มากสําหรับเรา เพราะในชวี ติ ต้ังแตเ ด็กจนโต ไมเคยเจบ็ ปว ยอะไรขนาดน้มี ากอน
แมกระท่ังไขหวัดกแ็ ทบจะนับครัง้ ได และในท่สี ุดหมอกว็ นิ ิจฉัยวา “ไตอักเสบเฉียบพลนั ”
ตอนนน้ั มันเกดิ คาํ ถามมากมายกบั ตวั เอง วา เราเปน อะไร ทาํ ไมเรื่องแบบน้จี งึ ตอ งเกดิ กบั
เราและไมท ราบวา เปน โรคไตแลว มนั รา ยแรงอยา งไร รูเพียงแคว า เรารบั สภาพตัวเองท่ี
ตองเขาออกโรงพยาบาลบอย ๆ แบบนไี้ มได (เขา ออกโรงพยาบาลอาทติ ยเ วน อาทติ ย
เลย) ยอมรับวาปรบั สภาพรา งกายและจติ ใจของตวั เองไมไ ดเลยจรงิ ๆ
ดว ยความที่เราเปนคนท่มี ีสขุ ภาพแขง็ แรง เราเปน นกั กฬี าเร่ืองแบบนไี้ มน าเกดิ
กับเรา ยงิ่ คดิ ไมร นู า้ํ ตามนั มาจากไหน ตอนน้ันเสียใจมาก เครยี ด กงั วล และรูสกึ สบั สนใน
ชวี ติ ไมรวู าเราตองทาํ อยา งไรตอ ไปดี ในการนอนโรงพยาบาลครง้ั แลว ครง้ั เลา กค็ งหนไี ม
พน หัตถการทางการแพทย เข็มฉีดยา ยาเม็ด และ lab ตา ง ๆ ตามคําสงั่ ของหมอ ในเวลา
นน้ั การทาํ หตั ถการทางการแพทยทท่ี ําใหเ ราเจ็และไมเ คยลืมจนทุกวันนี้ คือ “การเจาะนาํ้
ไขสนั หลงั ” (ใหน อนขดตวั ทากุง แลว หมอใชเขม็ แทงเขา ไปในชอ งไขสนั หลงั เพอ่ื นํานํา้
ไขสันหลัง มาตรวจคนหาสาเหตุของการเกิดโรค) ทุกครงั้ ทต่ี องเขา โรงพยาบาล แลว ไดฟง
วา คุณตอง admit " น้ําตาก็เรมิ่ ซึม...พรอมกับคาํ ถามในใจของตัวเองวา .. นเ่ี ราเปน
อะไรกนั แน ... ทาํ ไม แคไ ตอกั เสบเราจงึ ตอ งเขา ออกโรงพยาบาลบอ ยขนาดนเ้ี ลย
หรอื ? คาํ ถามมากมายยังคงวนเวียนอยูในความคิดของเรา ความทอแท สิ้นหวัง เรมิ่
เขา มาในความรูสกึ อยา งตอ เนื่อง" แตทุกครง้ั ทม่ี องหนา แม (ซง่ึ ไมเ คยหนเี ราไมไ ปแมแ ต
วนั เดียว) ผูหญงิ ที่ดีท่ีสุดในชวี ติ แววตา สีหนาทหี่ ว งใยของผูห ญงิ คนน้ี ทําใหเรามี
รอยย้มิ มีกาํ ลงั ใจท่จี ะตอ สูก ับสิ่งท่เี กิดขนึ้
3 เดอื น หลงั จากการพยายามคน หาสาเหตขุ องอาการตาง ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ แตก็ยงั ไม
พบสาเหตทุ ่แี ทจริง เราถกู สง ไปรกั ษาตอทโี่ รงพยาบาลศิริราช เพ่ือหาสาเหตทุ แ่ี ทจริงของ
อาการปว ยดังกลา ว ความรูสึกสบั สน ทอ แท สน้ิ หวงั เร่ิมกลับมาอีกครงั้ ความไมคุนเคย
ทําใหเ รารสู ึกกลวั แตล ะคนื ณ โรงพยาบาลศริ ริ าชชา งเปน ทค่ี นื แสนยาวนานเหลอื เกนิ
ในชวี ติ ในแตล ะ วนั ๆ ก็ไดแ ตน ัง่ มองแมน าํ้ เจา พระยา มองดเู รือทีล่ อง ลอยไปตามแมน าํ้
เพอ่ื คลายเหงา ตองน่งั มอง นอนมอง คนไขท ี่คอ ย ๆ จากไปทลี ะคนทลี ะคน จิตใจเร่มิ หดหู
ขึ้นเร่ือย ๆ 2 สัปดาหผ า นไปของการรักษา เรากย็ ังไมรวู าเปนอะไร ความดันโลหติ ก็ยงั คง
สงู ตอ เนอ่ื ง 200 กวา ตลอดเวลา ทาํ ให Order การรักษาเรม่ิ เกดิ ข้นึ อีกมากมาย เร่มิ จาก
การเจาะเลอื ด เกบ็ ปส สาวะ X-ray ทาํ Ultrasound ทํา EKG ทาํ MRI Order ยาวเปน
หางวา ว ตอนน้นั รสู ึกอยางเดียววาอยากรอ งไห แตกต็ องเก็บนาํ้ ตาเอาไวบ อกกับตวั เองวา
เราตอง “อดทน” (คาํ น้แี มสอนมาตั้งแตเ ปนเด็กนอย) เราตองไมรองไหก ับสิ่งท่ีกาํ ลังจะ
เกิดขน้ึ เรา “ตองสแู ละตองผานเวลานีไ้ ปใหได”
Order ที่ยาวเปน หาวา วก็ยงั ไมพ บสาเหตุของอาการทเี่ ปน หลังจากน้นั
หมอขอ “เจาะนาํ้ ไขสนั หลงั ” อีกคร้ัง ตอนนนั้ มันกเ็ กิดคําถามขึ้นมาอกี “เราเคยเจาะไป
แลวน้ี ทําไมเราตองทําอีก ” จะมีใครรไู หมวามันเจ็บและทรมานแคไหน สงิ่ เดยี วทที่ ําได
คอื ตองพยายามอดทน ไมแสดงความเจ็บปวดใด ๆ ใหแมเห็น เพราะทุกคร้ังทมี่ องหนา
แมก ร็ ูทันทวี า แมเจ็บปวดกวา เรามากมายนัก เราก็พยายามอดทนจนผา นมนั ไปไดอ กี คร้ัง
ผลการตรวจก็ยังคงไมพบสาเหตุของการเกิดอาการตาง ๆ เหมือนเชนเคย และอกี 7 วนั
ตอ มา หมอกข็ อ “ตัดชน้ิ เนอ้ื ไต” กพ็ ยายามบอกกบั ตวั เองวา “อยากลัว ในสิ่งทก่ี ําลังจะ
เกิดขน้ึ ” มันคงไมเ จ็บเพราะเราผา นส่ิงที่เจ็บปวดมาแลว ต้งั หลายครง้ั คร้งั นเ้ี รากต็ อ งผาน
มนั ไปได และแลว เม่อื ถงึ เวลาที่ตอ งตัดชนิ้ เนอื้ ไต สายตาเราก็เหลือบไปเห็น เข็มทีย่ าวมาก
ในชีวิตน้ีไมเคยเหน็ เข็มอะไรทยี่ าวขนาดน้มี ากอ น (อนั น้ีนีน่ ะหรือทีม่ ันจะตองมาเจาะตรงที่
หลังเราเพ่ือตัดเอาเนอ้ื ไตออกมาตรวจ ) คงไมต อ งบอกวารสู ึกอยา งไร วา มันเจ็บและ
ทรมานแคไ หน ยาชากย็ าชาเถอะคงไมช ว ยอะไรเราไดม ากนกั ตอนเจาะไมเ ทา ไรเพราะ
ฤทธ์ิของยาชา แตต อนตัดช้ินเนือ้ ทไ่ี ตนส้ี ิ “บอกไดค าํ เดยี ววา เจบ็ สุด ๆ” หลงั การตัดชิ้น
เนอ้ื ไต ตอ งนอนทบั หมอน ทราย อกี 8-12 ชม. น่ีคอื ส่ิงทที่ รมานกวา เพราะหมอหามลกุ
จากเตียง เนอ่ื งจากตอ งรอดูผลการตรวจปส สวะวามีเลอื ดออกมาหรอื ไม ผูปว ยคนอนื่ ๆ
เขาก็เริ่มทยอยก ลับ Ward ทีละคนสองคนจนหมด เหลือเราเพียงคนเดียวที่ปสส าวะ
ไมออก สรุปวา คืนน้ันเรานอนเฝาหนว ยไตอยูคนเดยี ว ความเจบ็ ทงั้ หมดท่มี หี ายไปสิ้น
เพราะ ความกลัวเริ่มเขามา แทนที่ ความเงียบสงบ และความมดื ของหนว ยไต มนั วงั เวง
ยิ่งนัก โดยเฉพาะยามดึก สงัด มันเงียบสงบมาก เหมือนไมม ใี ครอยูก ับเราเลยสักคน
มนั แสนจะทรมานใจเหลือเกิน คืนนั้นท้ังคนื แทบไมไ ดนอนเลย สายตาท้งั สองขา งจบั จอ ง
มองดแู ตน าฬกิ าวา เมอื่ ไรจะถึง 6 โมงเชา เสียที ย่งิ รอดูเหมือนวาเวลามนั ย่งิ เดินชา ลง
กวา จะผานไปแตละนาที แตละช่วั โมง มันยาวนานเสียเหลือเกิน
ผลการตรวจ ครั้งน้ัน ทําให พบสาเหตุทแี่ ทจริงของอาการตาง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้
หมอวนิ จิ ฉยั วา กลมุ อาการตา ง ๆ นน้ั มาจากการเปน โรค IgA Nephopathy ตอนแรก
ก็ไมร ูห รอกวามัน คือ อะไร รูแคเพียงวา มนั เปน โรคท่ีเกิดจากการติดเช้ือไวรัส ท่ี Immune
ที่ไต ชนดิ A เชอ้ื ไวรสั ไดเขา ไปทาํ ลายเน้ือเยื่อทีไ่ ตท้งั 2 ขา ง สง ผลใหไ ต ฟอ ลงไปเรื่อย ๆ
และไตจะคอ ย ๆ สญู เสยี การทาํ งานจนในทสี่ ดุ จะเขาสูภาวะไตวายเรือ้ รัง หลงั จากนน้ั 2 ป
กวา ๆ ทีต่ อ งเดนิ ทางเพอ่ื รับการรกั ษาตอเนอื่ งท่ีศริ ิราชเดือนละ 2 ครง้ั “การเดนิ ทาง”
ทาํ ใหเ ราไดฝ ก ความอดทน และความแข็งแกรงของจติ ใจของเรา มากขึน้ เรื่อย ๆ “ความ
เจ็บปวด” “ความทกุ ขท รมาน” ตา ง ๆ จากโรคทีม่ ันเกดิ ขน้ึ เรม่ิ เปน สว นหนง่ึ ในชวี ิตเรา
ทีเ่ ราไมอาจจะหลีกเล่ยี งมนั ได และกเ็ ร่ิมบอกตวั เองวา “เราตอ งยอมรบั และเรยี นรทู จี่ ะ
อยูโรค รว มกนั อยางสันต”ิ ถา เราอยไู มไ ด โรคก็อยไู มไดเ ชน กัน
แมจ ะบอกตัวเองใหเข็มแข็ง บอกตวั เองใหสู เรียนรูอยูกับโรคใหไ ด แตห ลาย
ครงั้ หลายคราทม่ี ันเจบ็ ปวด ทกุ ขทรมานอยา งแสนสาหัส กวา จะผา นไปไดแตล ะวัน แตล ะ
เดือน แตละป มนั ยาวนานเหลือเกนิ จนบางครัง้ คดิ วาเราคงอดทนตอ สง่ิ เหลา น้ันตอ ไป
ไมไ ดอีกแลว การหันหาเขา ธรรมะ ปฏิบตั ธิ รรม อา นหนงั สือ เปนอกี หนทางหนึง่ ทท่ี ําให
ใจเราสงบลง เขา ใจชวี ติ มากขึน้ ยอมรับในสิง่ ทเ่ี กดิ ส่ิงท่เี ปน ไดอยางแทจริง “สง่ิ ทีเ่ กิด
ข้ึนกับเราไมตอ งถามหาคําตอบจากใครเลย ทุกสิ่งลวนมาจาก << กรรมของตวั เอง ...
อันเปน ผลทเ่ี กดิ จากการกระทาํ ของตวั เอง >> เม่อื คดิ ได ก็ไดคิด วา จะใชชีวติ อยูต อไป
ไดอ ยา งไร ใหท ัง้ กายใจเราไมท กุ ข ? “ความตาย” จงึ ไมใ ชส ่ิงท่มี ีความหมาย หรอื เปนสง่ิ ท่ี
เราจะตองกลวั อีกตอไป แตส ่งิ ทมี่ ีความหมายในชวี ิต คอื “การยอมรบั เรยี นรู ทจี่ ะอยกู บั
โรคท่เี ปนไดอ ยา งไร ? กายใจเราจึงจะเปนสุข”
จากนี้ตอ ไป คือ บทพิสูจนใ นการเดนิ ชวี ติ ของชวี ติ เราจะผานความทุกข ความ
เจ็บปวดท่จี ะเขามาในชวี ิตเราไดอ ยางไร ? เพอื่ ที่จะรกั ษาชวี ติ และลมหายใจของเราเอาไว
ทําในสงิ่ ทต่ี องการ ทาํ ในสง่ิ ท่ีเปน ประโยชนตอสังคม นบั จาก น้ีไปฉนั จะไมร อ งไห ใหก ับ
ความเจ็บปวดจากโรคนีอ้ กี แลว เพราะฉนั ทาํ ใจยอมรับส่งิ ทเ่ี กิดข้นึ กับตวั เราไดแ ลว นา้ํ ตา
ท่มี นั เคยไหลจะไมมอี กี แลว มันจะเปน "นํา้ ตาหยดสุดทาย" ทเ่ี ราจะรองไหเ พราะ
เจบ็ ปวดทรมานจากโรคไต “โรคไต เราและนายจะอยดู ว ยกนั ตอ ไป วนั ใดทเ่ี ราหมดลม
หายใจนายก็ตองหมดลมหายใจดว ยเชน กัน หากนายตองการมชี ีวติ อยูรว มกับเรานาย
กต็ อ งไมท ํารา ยเรา”
ขอบคุณ "โรคไตท่ที าํ ใหเรารจู กั คณุ คาของชวี ิต รจู กั การใชชวี ติ และท่ี
สําคัญทําใหเรารวู าชีวิตและเวลาทีเ่ ราเหลืออยูเ ราตองทาํ อะไร เพอ่ื ใคร"
29 มนี าคม 2546
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
บ ท พิ สู จ น ค ว า ม อ ด ท น
“ไมร ูวาเปนเพราะชะตาฟา ลขิ ิต...หรอื ...ชวี ติ ทีต่ ดิ กรรม
ที่ตอ งมีเรือ่ งราวและบทพิสูจนค วามอดทนใหชวี ิตอยา งตอ เน่อื ง”
หลงั จากการรกั ษา IgA Nephopathy เปน ไปไดดว ยดี การดําเนนิ ของโรค
เริม่ ชลอชาลงแตเรากลบั ประสบอบุ ัตเิ หตุในการแขง แชรบ อล ในงานกฬี าบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั ...ตอนนั้นก็ไมไ ดม ีการอาการอะไรมากแคร ูสึกวาปวดหลัง และ อาการปวด
หลงั ก็เรม่ิ ทวีความรุนแรงและปวดมากข้ึนเรอ่ื ย ๆ จนทําใหต อ งไปพบแพทย X-ray
ปรากฏวา กระดกู สนั หลงั L4, L5 ราว และเคล่ือนมาทับเสน ประสาท เมอื่ ตอ งมีการรกั ษา
กระดูกหลังทร่ี า วและเคลอ่ื นเร่ิมข้นึ การรกั ษากส็ วนทางกบั อาการของ โรคไตที่เปน ยาแก
ปวดทกุ ชนิดกไ็ มส ามารถกนิ ได สงิ่ ท่ที าํ ได คอื ทายา ระงับความเจ็บปวด ซง่ึ ก็ไมไดช ว ยให
ความเจบ็ ปวดเหลา น้ันลดลงเลย ตอนนน้ั สิ่งทด่ี ที ่สี ุดท่ี ทาํ ได คือ “อดทน และกอ็ ดทน”
ไดแตบอกกบั ตวั เองวา “เดี๋ยวมนั กห็ าย” เวลาผา นไปอาการตา ง ๆ กเ็ รม่ิ ทวคี วามรนุ แรง
มากขน้ึ จนไมส ามารถขยบั ขาสว นลา งตง้ั แตเอวลงไปได จึงทําใหต ดั สินใจเขา รับการผา ตัด
ใสเ หลก็ และทาํ Bone Graft กอ นการผาตัดก็ตอ งพบกับ Lab ชดุ ใหญอ ีกตามเคย เรมิ่
จาก X-ray เจาะเลือด Ultrasound เพื่อฉีดสีดูรอยรา วท่กี ระดกู หลงั (การรกั ษาครั้งนีก้ ไ็ ด
เรียนรเู คร่อื งมือแพทยใหม ๆ อาการใหม ๆ ความเจ็บปวดแบบใหม ๆ ชีวติ ไดเ รียนรู
เพมิ่ ขน้ึ อีก ถา กระดูกไมร า วคงไมม ที างไดสัมผสั หรอื เรียนรูแ น ๆ)
การผาตดั เรม่ิ ข้นึ ในวนั ท่ี 5 ธนั วาคม 2546 เวลา 20.00 น. (ฤกษด มี าก ผา ตดั
วนั พอเลย) ใชเ วลาในการผา ตดั 4 ชม. เตม็ หลังจากนนั้ เราก็มเี หลก็ ยาว 7 นิ้วเปนของ
ตวั เอง พรอ มกบั ความเจบ็ ปวดทีแ่ สน จะทรมาน เพราะหลงั การผา ตดั หมอสง่ั ฉดี ยา
แกปวดไปหลายเขม็ ในขณะท่ีไตเรากเ็ ร่ิมแยล ง เพราะเสยี ทงั้ เลือดและไดท ้งั ยาแกปวด
2 วนั หลงั การผาตดั เริ่ม มอี าการ บวม คา Cr ก็เพ่มิ ข้นึ เร่อื ย ๆ ซึง่ หมอบอกวา ถา ไมล ดคง
ตองฟอกเลือด ทนั ทีที่ไดย ินทําใหเ ราตัดสินใจของดยาแกป วดทกุ ชนิด ทันที จะขอตอ สูกับ
ความเจบ็ ปวดดว ยใจของตวั เอง หลงั จากท่ีงดยาแกปวด 2 วนั หลงั จากนน้ั อาการบวมก็
ลดลง แตค วามเจบ็ ปวดมนั ไมไ ดล ดลงเลย 12 วนั กบั การอดทน ตอสูกบั ความเจบ็ ปวด
1 เดือนทตี่ อง นอนนง่ิ ๆ (เพราะหมอใหเ ดินใหนอยทสี่ ดุ เพ่ือปองกันไมใ หเ หล็กท่ดี าม
กระดูกเคลอ่ื น ) ในชีวติ ดเู หมอื นวา ครงั้ น้จี ะทาํ ใหชวี ิตเราสงบนง่ิ ไดนานท่ีสดุ เทา ที่เคย
เปน มา
การรกั ษาครั้งนี้ ใหบ ทเรยี นชวี ติ เพ่ิมข้นึ เปนผูมีประสบการณด านโรคเพ่มิ ข้ึน
อีกหนงึ่ โรค ใหบ ทเรียน และพิสจู นก าํ ลงั ใจ สอนใหร ูวา “ทกุ สิ่ง ทกุ ปญหา ทม่ี ันผา นเขา
มาในชวี ติ ถาเรามีความ ..อดทน.. และ ..มงุ มัน่ ..มันก็จะผานไปได ” และทกุ ความ
เจบ็ ปวด ความทรมาน ผานมาเพียงแคเ สี้ยววนิ าที แลวมนั ก็ผา นไปเหลือแคเ พยี งอดตี และ
ความทรงจาํ วันตอ ไปกต็ อ งพบกบั ความเจ็บปวดแบบใหมเขา มาใหเ ราเรียนรูที่จะกาวขาม
เดนิ ไปขา งหนา ตอ ไป
12 มกราคม 2547
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“ ย้ิ ม ใ ห ตั ว เ อ ง...ใ น วั น ที่ ใ จ มั น อ อ น ล า ”
"เมอ่ื ชีวิตเดนิ ทางมาถึงจดุ ๆ หนง่ึ ที่ใจมันออ นลา หมดหวงั รูส กึ ทอ แท
สง่ิ เดยี วทีท่ าํ ได คอื ยิม้ ใหต ัวเองแลว บอกกับตวั เองวา ..
หนึง่ ชีวติ ท่เี ปน เรานัน้ ไมใชของเรา แตมาจากสองหัวใจแหง ความรัก ไมวา จะเกิดอะไร
ขนึ้ เราตอ งอดทนและฟน ฝาไปใหได เพอ่ื ตอบแทนหัวใจทงั้ สองดวง "
หลายครั้ง ทช่ี ีวติ พบกับปญหาตา ง ๆ ท่เี ขามารมุ เรา และทกุ คร้งั เราก็ได
กาํ ลังใจจากคนที่รักเรา ทําใหเรามแี รงและกําลงั ทีจ่ ะลุกขนึ้ สู กา วเดนิ ตอ ไป ยอมรับวาเคย
มหี ลายครง้ั เหมอื นกันท่ีคิดอยากหยุดทุกอยา ง อยา งหนปี ญหา ไมอ ยากเผชิญกบั ส่ิงท่ีมนั
เกดิ ขึ้นอีกแลว ซง่ึ ทกุ ครั้งท่ีเกิดความคดิ นี้ขึน้ มา มภี าพหน่งึ ทล่ี อยมาหาเรา คอื "พอกับ
แม" คนท่ใี หชวี ิตและลมหายใจเรา คนทร่ี กั เรามากกวาชวี ิตของตวั เอง เคยถามตัวเอง
เหมอื นกนั วาเราทาํ รายตัวเองไดไหม ?...คาํ ตอบ...คอื ...เราทาํ ได แลวเราจะทาํ รา ยหวั ใจ
ของพอกับแมไดไหม ? พอคําถามนม้ี ันเกดิ ข้ึน ความรสู ึกทอแท ส้ินหวงั และความรูสกึ
เหลานน้ั มนั จะหายไปในทนั ที เพราะเราคงทาํ อยา งนน้ั ไมไ ด หน่งึ ชีวติ ของเราเกิดมา
จากความรกั ของสองชีวิต หากเราทํารายหนึง่ ชีวติ คอื ตวั เรา เทา กบั เราทํารา ยชวี ติ
อกี สองชวี ติ
ทกุ ครัง้ ที่มองยอ นกลับไป เราดีใจที่เราผานความรูสกึ แบบนั้นมาได ดใี จทเี่ รามี
คนรอบขา งทดี่ ี คอยเปน กําลังใจใหเ ราอยตู ลอดเวลา ทกุ รอยยม้ิ ท่เี ราไดร บั มนั ทําใหมี
กําลงั ใจสูกบั สิง่ ท่ีเกดิ ขน้ึ มแี รงและมคี วามหวงั ในการใชชวี ิต มองเห็นวนั พรงุ น้ี เพราะที่
ผานมาเราเคยแตยิ้มใหคนอื่น แตเรากลับไมเคยยิ้มใหตัวเองเลย เราจงึ ไมเคยไดสัมผสั
ความสวยงาม และเสนหของรอยยิ้มเหลานั้นเลย
วันนี้ เราไดลองหดั ยมิ้ ใหตัวเองแลว มนั ทําใหไ ดรบั รูวา กาํ ลงั ใจทด่ี ีที่สดุ ในชีวิต
ตอ งมาจากตวั ของเราเอง เพียงแคเราลองยิ้มใหต ัวของตัวเอง เรากม็ ีแรงและกาํ ลงั ใจทีจ่ ะ
สรรคส รา งสิ่งตาง ๆ ไดอ กี มากมาย ปญหาทกุ ปญ หาที่ผา นเขา มาในชวี ิต เราก็พรอ มท่ีจะ
เผชญิ พรอมที่จะกา วผา นมนั ไปดวยความหวงั
"ไมวา ชีวติ จะเกิดอะไรขึ้น ฉนั จะกา วผานมนั ไปดวยหนึ่งรอยย้มิ กบั สองความรกั "
11 พฤษภาคม 2550
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“หั ว ใจ ท่ี แ ข็ ง แ ก ร ง ทาํ ใ ห มี แ ร ง ก า ว เ ดิ น ตอ ไ ป”
“ภมู ิคมุ กนั ทดี่ ีทสี่ ดุ ในตวั เอง คอื จิ ต ใ จ ท่ี เ ข ม แ ข็ ง”
เมอ่ื เวลาผา นไป “ไต” ...กส็ ญู เสยี การทํางานไปทลี ะนอ ย ๆ จนในทีส่ ุด
อาการตา ง ๆ ก็เริ่มรนุ แรงขึ้นเรอ่ื ย ๆ จน กาวเขา สู ภาวะ “ไตวายเร้ือรังระยะสดุ ทา ย ”
(นี่ฉันกลายเปนผปู ว ยไตวายเร้ือรังระยะสุดทาย...แลว หรอื ? ) คําถามทีเ่ กิดขึน้ ไมไ ดเปน
คาํ ถามท่ีตอ งการคําตอบ แตเ ปนคําถามท่ถี ามตวั เองวา ? จากนต้ี อ ไปเราจะใชชีวติ อยู
อยา งไร ? ทุกสิ่งทเี่ กิดขึน้ ตลอดระยะเวลาผานมากับคาํ วา “ผูปวยโรคไต” ทาํ ใหเ ราได
เรยี นรจู ักพยาธิสภาพของโรคไต การดาํ เนนิ ของโรค อยา งทอ งแท และท่สี าํ คญั ที่สุด คอื
“การปรบั ตวั ” ทีจ่ ะเผชญิ และกา วขามผา นกลมุ อาการตาง ๆ เหลา นนั้ ของโรคไตทีเ่ กิดข้ึน
ในแตละวนั เพือ่ ใหชวี ิตมีความสุขทงั้ กายใจ ไมทกุ ข ทรมานกบั อาการตาง ๆ ที่เกิดข้นึ
“โรคไต” เปน ครสู อนประสบการณ ชวี ิตหลาย ๆ ดา น ทง้ั ประสบการณก ารใช
เคร่ืองมือทางการแพทย ประสบการณการใชยา และที่สําคญั คือ ประสบการณก ารใช
ชีวติ ในการเปนผูโ รคไต (รบั รองไดว า ใครไมเคยเปนไมม ีทางรไู ดเลย) การเจบ็ ปวยตา ง ๆ
มีดา นดี ๆ มากมายใหเ ราสมั ผัส อยูเราเลอื กท่ีจะมอง สําหรบั ฉัน “โรคไต” ใหอ ะไร
มากมายในชวี ติ
โรคไต... “สรา ง” ... ภมู ิคุมกนั ท่ีดที สี่ ดุ คือ “จติ ใจท่ีเขมแข็ง”
โรคไต... “สอน” ... ใหร วู า “เวลา” มีคุณคา และสาํ คัญมากเพยี งใด
โรคไต... “เสรมิ ” ... พลังและกาํ ลงั ใจในการเรยี นรตู อ สชู ีวิต
“การฝก จติ ใจใหเขมแข็ง เปน เหมอื นกําแพงก้ันปญ หา และอุปสรรคในชีวติ ชว ย
ใหเ รามีแรงและกําลังใจในการกาวเดนิ ตอ ไป” ความอดทนในการตอ สกู บั เหตกุ ารณต า ง ๆ
ทผ่ี า นเขา มาในชวี ิต การบอกตัวเองทกุ วนั วา “ตองส”ู และ “กาวเดนิ ตอ ไปใหไ ด ”
แมบ างครง้ั อาจเจ็บปวด ทุกข หรอื ผดิ หวงั เกดิ ความรสู กึ ทอแท และออนแอ แตเมอื่ ไดส ติ
ฉันก็จะลุกขึ้น กา วเดนิ ตอ ไปดวยความหวงั และกาํ ลงั ใจ บอกตวั เองอยเู สมอวา สกั วนั คงไป
ถงึ เสน ชัยในชวี ิต
20 พฤศจิกายน 2550
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“อ ยู กั บ ค ว า ม ทุ ก ข ใ ห มี ค ว า ม สุ ข ไ ด อ ย า ง ไ ร”
“วนั ท่ีเรามคี วามทุกขม ากทสี่ ดุ วนั นัน้ กจ็ ะเปนวนั ที่เราเขมแขง็ มากทสี่ ดุ เชน เดยี วกนั ”
จะกค่ี ร้งั ท่ี ทอแท และส้ินหวงั ส่งิ เดียวทที่ ําใหมแี รงลุกข้ึน และกา วตอ ไป
ขางหนาได คือ “ความหวัง” และ “กาํ ลงั ใจ ” อยางนอยมุมหนึ่งของความเสียใจ ความ
ผดิ หวงั มันก็ทาํ ใหเราเรยี นรแู ละเขาใจโลกมากยิง่ ขึน้ ทกุ ยางกาวทีเ่ รากา วเดนิ ไปจะทาํ ให
เราไดเรยี นรูคุณคา ของการมชี วี ติ และลมหายใจ แมห นทางในการดาํ เนนิ ของชวี ติ จะ
คดเคี้ยว และลาํ บากสกั เพยี งใด แมบางคร้ังจะเดินไปสทู างตนั ก็ตาม เสน ทางที่คดเคยี้ ว จะ
สอนใหเ ราสามารถประคองตวั รกั ษาสมดลุ ชวี ติ ใหส ามารถเดนิ ทางไปตามความคดเคย้ี ว
น้ันได สอนใหเรารจู ักการออนนอมถอ มตน รูจกั การปรบั ตวั ในการดาํ เนนิ ชีวิต ลาํ บากมาก
บางนอ ยบางก็ขนึ้ อยูกับเสน ทางทเี่ รากา วเดนิ ไป เมอ่ื เราเดนิ ทางไปสทู างตนั (เสน ทางผดิ )
การเดินทางเหลา นั้นก็จะสอนใหเ ราใหเ รยี นรู ทบทวนในสิ่งที่เราคิดเราทาํ ใหมอกี คร้ัง
สอนใหเ ราเอาขอ ผดิ พลาดพลาดในการเดนิ ทางครง้ั แรก มาพจิ ารณาหาสาเหตเุ พอ่ื แกไ ข
และกา วเดนิ ตอ ไปดว ยสตใิ นเสนทางใหมอ กี ครัง้ จะก่ีรอ ยกี่พันเสนทางเดนิ ในชวี ติ จะก่ี
รอยกี่พนั ครัง้ ในการกาวเดินที่ผดิ พลาด ไมใ ชจ ดุ จบสุดทา ยในการใชช วี ิต แตท กุ รอ ยทุกพัน
ครัง้ ท่กี าวเดินผิด คือ “ประสบการณใ นการใชช วี ติ ” ย่ิงกา วผิดพลาดมากเทาไร ยิ่งได
เรยี นรู มปี ระสบการณใ นการแกไขส่ิงตาง ๆ มากเทา น้ัน
ในชีวิตเราทกุ คน คงไมมใี ครกาวเดินบนถนนสายชวี ติ ดวยเสน ทางท่โี รยดวย
กลีบกหุ ลาบ คงไมม ใี ครทไี่ มเ คยกาวพลาดสักครง้ั สกั ครา มีแตวา จะผิดพลาดมากนอ ย
แคไ หนเทา นน้ั เอง คนเราเกดิ มาบนโลกใบในเวลาทต่ี า งกนั (แมแตคูแ ฝดยงั คลอดออกมา
ไมพ รอ มกนั ) จงึ ไมตองแปลกใจเลยวา “ทําไมคนเราจึงไมเ หมอื นกัน”
“หนา ตา”...เหมือนกนั ...นสิ ัยตา งกัน
“พอ แม”...เดยี วกนั ...เพศ อายุ หนา ตา นสิ ยั อาชพี ...ไมเ หมอื นกนั
“ครอบครัว”...เดยี วกนั ...เพศ อายุ หนา ตา นิสยั อาชพี ไมเ หมือนกนั
“ชมุ ชน”...เดยี วกนั เพศ อายุ หนา ตา นสิ ยั อาชพี วฒั นธรรมในครอบครวั ไม
เหมือนกัน
ธรรมชาติ สรางทกุ ส่งิ บนโลกใบนใี้ หเ กิดความแตกตาง เพ่อื ใหทุกชีวติ ท่ีเกดิ มา
ไดเ รยี นรทู ่จี ะอยกู ับความแตกตาง คนทเ่ี รยี นรูและปรบั ตัวกบั ความแตกตา งไดม ากทส่ี ุด
คอื “คนทม่ี ีความสขุ มากท่สี ดุ ” คนที่ไมส ามารถเรียนรูแ ละปรับตวั เขา กับความแตกตา ง
ไดนอยทีส่ ุด คอื “คนท่มี ีความทุกขมากที่สุด” หลกั งาย ๆ ในการใชชีวิตทจ่ี ะอยูก ับความ
แตกตา งบนโลกใบน้ี คือ “การยอมรับ เรยี นรู อยก บั สงิ่ นั้น ๆ ” ยอมรับในที่มี ยอมรับใน
ส่งิ ท่ีเปน ทงั้ ในธรรมชาติสภาพแวดลอ ม เหตกุ ารณตา ง ๆ ตวั ตนของตนเองและตัวตนของ
คนอ่ืน เพ่อื ที่จะเรียนรูปรบั ตัวใหสามารถอยรู วมกบั ธรรมชาตสิ ภาพแวดลอ ม เหตุการณ
และสังคมได เพียงเทาน้เี ราก็สามารถใชช ีวิตอยบู นโลกของความแตกตา งไดอ ยา งมี
ความสขุ
“หากตวั เรายงั คงมคี วามหวงั มแี รง และพลงั ” สักวนั เราคงเดนิ ไปถึงเสน ชัย
ในชวี ติ วนั วาน และวันน้ที ําใหเ ราไดบ ทเรียนชวี ติ ทม่ี คี ามากท่สี ุด ทาํ ใหรูวาโลกน้ยี งั มี
อะไรอีกมากมาย ทั้งที่ดแี ละเลวรา ยทีเ่ ราไมเคยสมั ผัส สงิ่ ราย ๆ ท่ีเราพบมันคงเปนเพียง
แคเสี้ยวหนึ่งในชีวิตแคน้ันเอง วนั พรงุ น้ยี ังมีสงิ่ ดี ๆ อกี มากมายทร่ี อใหเราเอือ้ มมือไป
สมั ผสั มนั มองทกุ สิง่ ทผ่ี านเขามาในชวี ติ “ใหเปนบทเรียนทมี่ คี า ยิง่ ” ทเ่ี ราไมส ามารถหา
อา นไดจ ากหนงั สอื หรือตําราเลมไหน ๆ ที่สดุ ของความทุกขใ นทุก ๆ เรอื่ งน้นั มีขอบเขต
มวี งจํากัดของความทุกขน้ัน เพยี งแคเ รามคี วามอดทน อดกลนั้ ตอ สงิ่ เหลาน้ัน และกาว
ผา นชว งเวลานน้ั ไปใหไ ด เวลาจะเปนผูที่คอยเยียวยา รักษาความเจ็บปวดทั้งหลายให
หายไป เวลาจะเปน ตวั ชว ยใหจ ิตใจเราแขง็ แกรงข้ึน
ถา เรามสี ติ อยกู บั ปจจุบนั ทเ่ี ราเปน ไมกงั วลและคดิ ถึงวันวานและอนาคต
มากนกั จะทาํ ใหเ ราสามารถตอ สู หรือแกไ ขกับ ความทกุ ขท ่ีเกิดขึ้นกับเราในปจจุบนั ได
อยา งงา ยดาย ลมื อดตี ทม่ี ันเลวราย รวบรวมแรงและกําลงั ใจแกไขสิ่งทเ่ี ปน ปจ จบุ ัน
ตง้ั มัน่ จติ ใจใหแ นว แน เพือ่ หาแนวทางแกไข เรยี นรแู ละเขา ใจธรรมชาตขิ องความ
ทกุ ข จะทําใหเราไดสัมผสั สง่ิ ท่ีดี ๆ กลบั มาเสมอ
“วนั ทเ่ี รามี ความทกุ ข มากที่สุด วันนั้นก็จะเปนวันที่เรา เขม แข็ง มาก
ทส่ี ุด เชนเดยี วกัน”
วันนี้ ฉันสามารถใชชีวิตอยูรว มกบั ภาวะไตวายเรอื้ รังระยะสดุ ทา ยได อยา งมี
ความสขุ “ความเจ็บปวด ความทกุ ข ความกังวลในอดีตฉนั ลืมมนั ไป
หมดแลว พยายามอยกู ับปจจบุ ันใหมคี วามสุขมากที่สดุ ” ทําในส่ิงท่อี ยากทาํ และ
สามารถทาํ ได กลา ที่จะกาวเดนิ ในเสนทางท่ีเลอื กเอง และเดินไปดวยหวั ใจท่ีตง้ั ม่ัน ไมเ คย
คดิ หรือกงั วลกบั อนาคตที่มันจะเกดิ ข้นึ ในวนั พรงุ นี้ วาเสน ทางทเี่ ราเลือกเดนิ ไปนั้น เราจะ
พบกับความสาํ เรจ็ หรือไม จดุ จบจะเปน เชน ไร “เพยี งแคว ันน้ีไดล งมือทําในส่งิ ทอี่ ยากทาํ
แคน กี้ ส็ ขุ พอแลวกบั หน่ึงชวี ติ ทีเ่ หลืออย”ู
อยากขอบคณุ โรค และทุกปญหาและอุปสรรคในชีวติ ทท่ี ําใหวนั น้ีฉัน
สามารถท่จี ะยมิ้ ไดทัง้ นาํ้ ตา ทาํ ใหฉนั มคี วามอดทน และเขมแข็งท่จี ะยนื และ
กา วเดนิ ตอ ไปไดใ นโลกใบน้ีไดอยางมคี วามสุขในทกุ ๆ วัน
28 เมษายน 2551
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
โ ล ก ส ด ใ ส ใ น ทุ ก ๆ วั น “ ชี วิ ต ใ ห ม..กั บ วั น ใ ห ม ”
" บนเสนทางเดนิ ของชีวติ ...ยอ มมแี สงสวางใหเ รากา วเดนิ ไปอยูเ สมอ "
เม่อื พระอาทิตยกําลงั เคลื่อนพนจากขอบฟาเปน สัญญาณใหร วู ากําลงั กาวเขาสู
“วันใหม”
อดีต...คือ...บทเรยี นชวี ติ ทนี่ าจดจํา และเปน ประสบการณทด่ี ี
ปจจุบัน...คอื ...ชวงเวลาทีด่ ีที่สุดทเี่ ราสามารถลขิ ติ ได
อนาคต...คือ...ความหวังและความฝน ท่ีเปนแรงบันดาลใจ
ไมว าจะวันไหน ๆ จะเปน วันท่ีดที ่สี ุดในชีวิ ต เมอ่ื ใดทเี่ รารสู กึ วา ตัวเองกาํ ลัง
“ทอ ..กําลังสิน้ หวงั ” อยาปลอ ยใหค วามทอ แทส นิ้ หวังน้นั มนั กอ ตัวขึน้ ในใจเรา นาน ใหส ิ่ง
เหลา น้ันมนั เปนแคเพียงความรสู กึ พยายามลบมนั ออกจากใจใหเ รว็ ท่ีสุด และพยายามลุก
ขน้ึ กาวเดนิ ตอ ไป เพราะหนทางขา งหนา ยงั มีสิง่ ใหม ๆ รอใหเราเรยี นรูอกี มากมาย
ความทุกขใ จ เศราใจ ความผิดหวงั ทงั้ หลายทผ่ี า นเขามาในชีวติ เปน
ประสบการณทีด่ ี ท่ีทาํ ใหเ ราเขม แขง็ และอดทน ทาํ ใหเ ราสามารถเผชญิ กบั ส่ิงเลวรา ย
ที่จะเกดิ ขึน้ ในวันน้แี ละอนาคตไดอ ยา งไมม ีขอ แม ทกุ ส่ิงในชีวติ แมวาจะเร่ิมตนไมส วยงาม
แตก็สามารถจบลง ดวยความงดงามไดดวย “สองมือ สองเทา และ หน่งึ หวั ใจ ” ที่
กลา แกรง เมื่อทกุ ขเ กา ผา นไป ทกุ ขใหมกจ็ ะเขา มาแทน เมื่อความสขุ เกาผา นไป ความสุข
ใหมก็จะเขา มาแทน ในชีวิตเราก็มเี พียงเทาน้ี จะอยูก บั เราชา หรือเร็วนน้ั อยูท ี่ตวั เราเองวา
จะเกบ็ “ทกุ ข และสขุ ” นนั้ ไวกบั เรานานเทาไรแคนั้นเอง วนั น้ีสขุ -ทกุ ขผ านเขา มาเพือ่ ให
เราไดสมั ผัส แกไข จดจาํ อยา ไดย ดึ ตดิ กบั สงิ่ เหลา น้นั เมอ่ื สมั ผสั แลววานั่น คอื ความสขุ
น่ัน คอื ความทุกข กจ็ งวางส่งิ เหลาน้ันลง เตรยี มกําลงั ใจเพอ่ื รอรับทุกข-สุขในวนั พรุงนี้
ตอไป วันเวลาผานมาแลว กผ็ า นไป ชีวิตเรามีวนั ใหม ๆ ไวร อใหเ ราสมั ผสั และกา วขา ม
ชว งเวลาเหลา นนั้ ตลอดเวลา ทุกสิง่ ทุกเหตกุ ารณท ่ีเกดิ มันเกิดข้นึ เพียงแคเสย้ี ววินาที
ไมม เี หตกุ ารณใ ดเกดิ ขน้ึ นานกวา วนิ าที แตล ะเหตกุ ารณน น้ั อาจตอ เนอ่ื งยาวนานมากนอ ย
ข้ึนอยูกับชดุ เหตกุ ารณน ้นั ๆ
ชวี ิตที่เหนอื่ ยนนั้ เปน เรื่องธรรมดา ถาชวี ิตใครไมเคยเหนื่อยลา นั่นสแิ ปลกเพราะ
คน ๆ น้ันคงไมเ คยตอ สแู ละดนิ้ รน “เม่ือทกุ ขไมเกิด...กาํ ลังใจก็ไมเ กดิ ” ทกุ ยา งกา วของ
การตอ ส.ู ..คือ...วนั พรุง น้ที ่ดี ีกวา หากวันนเ้ี รามวั แตทอ แทสน้ิ หวงั หยดุ ทุกส่ิงทุกอยางลง
วนั พรงุ นค้ี งไมตองพูดถงึ เราคงไมม ีแมแตแ รงทีจ่ ะประคองรา งของเราใหย นื อยู
ทุก ๆ วนั พยายามบอกตวั เองวา "วนั นเ้ี ปนวนั ท่ฉี ันมคี วามสขุ มากทีส่ ดุ
ความทุกขลวนเปน บทพสิ ูจนค วามสามารถ และกาํ ลงั ใจของฉนั ไมว า หนทางขา งหนา
จะยาวไกลสกั เพยี งใด ฉันจะกา วไปขา งหนา ดว ยหัวใจท่ีตงั้ ม่ัน ไมมีสิง่ ใดท่ีฉนั ปรารถนา
จะทาํ แลว ทําไมได " เพยี งแคน ี้ ทกุ ส่งิ ทเี่ ราตองการจะไขวค วาคงไมไ กลเกิน
เออ้ื ม
“ขอใหว ันนีเ้ ปนทุก ๆ วันใหมข องชวี ติ ...ทกุ ๆ เร่อื งทเี่ ลวรายนน้ั จะ
กลายเปน ดา นทด่ี ี ๆ ของชวี ติ เพยี งแคเรารจู ักที่จะมองหาดา นดี ๆ ของสง่ิ
เหลา นน้ั ความสขุ ความสมหวงั มมี ากเกนิ ไปจะทําใหเราออนแอ ไมม ีภมู ิ
ตา นทานใด ๆ เลย ตรงกนั ขา มยง่ิ เราทุกขม าก ผิดหวงั มากจะทําไหเ ราได
เรียนรูการใชช วี ติ และสามารถเผชญิ กบั วนั พรุงนไ้ี ดอยา งมีความสขุ ”
ตราบใดทเี่ รายงั รสู ึกวาเรามที ุกข เราเศรา ใจ แสดงวาเรายังมลี มหายใจ ยังมี
โอกาสไดเ รียนรทู จ่ี ะแกป ญหา "ทกุ อยา งทผ่ี า นเขา มาในชีวิต..คอื ..ประสบการณท ่ีดี
ทีส่ ดุ "
“อยาเพียงแคคิดวาเราจะเดนิ ...แตข อใหเราเรม่ิ ตนทจ่ี ะกาวเดนิ ไป
ขา งหนา ...แลวเสนชัยในชวี ติ จะเปนของเรา”
3 มกราคม 2552
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“ ค ว า ม เ จ็ บ ป ว ย...คอื ...ล า ภ อั น ป ร ะ เ ส ริ ฐ ”
"เพียงแคเราเขาใจชีวิต ทุกสงิ่ ท่วี นเวียนเขา มาในชวี ติ ก็จะเปนแคเรื่องงา ย ๆ
และเปน ประสบการณท ่ดี ี ๆ ใหชีวติ "
สิบกวาปม าแลว ....ท่ีฉนั ไดร ว มทุกขร ว มสขุ มากบั เพอื่ นรัก “โรคไต” ทีใ่ คร ๆ ก็
ไมต องการใหมนั เกดิ ข้นึ กบั ตัวเอง แตใ นเมอ่ื มันเกดิ ขน้ึ แลว เราก็ตองอยูกบั มันตอ ไป
วันแรกทีเ่ ราพบกนั ยอมรบั วาทกุ ข ทอแท และสน้ิ หวัง จนหวั ใจมนั ออ นลา
เหมอื นกบั โลกนีม้ ันมึดมนไปทุกทิศ ทาง อนาคตท่ี วาดหวงั ไว เสน ทางเดนิ ชวี ติ ที่ คดิ วาจะ
สดใส มันมดึ ดบั ลงในทันที วินาทนี น้ั แทบจะไมม ีอะไรใหหวั ใจดวงน้ไี ดหวงั อกี ตอไป
วันแลววนั เลาฉันกไ็ ดแ ตเฝาถามตวั เองวา ทาํ ไม ? และทาํ ไม ? ชีวิตฉันถึงได
โชครา ยขนาดน้ี ทาํ ไม? ชวี ติ ฉันจะตอ งมาเจบ็ ปว ยดว ยโรคอะไรแบบน้ี คําถามเหลานี้มนั
วนเวียนอยูในความคิดตลอดเวลา ยิ่งคดิ ใจยง่ิ ทอ ยง่ิ คดิ ยิง่ สิ้นหวงั และวันหน่ึงฉันกไ็ ดค ดิ
วา ทุกอยางทีเ่ ราประสบลว นมาจากการกระทําของตัวเองทัง้ สิ้น แลวเราจะเฝา ตัง้ คาํ ถาม
วา ทาํ ไม ? ตอไปอีกเพอ่ื อะไร เพราะในความโชครายมนั มีส่งิ ดี ๆ ซอ นไวเ สมอ อยา งนอ ย
ในทกุ ๆ ความเจบ็ ปวด เรากไ็ ดฝ ก ความอดทนมากขน้ึ ไดเ รยี นรอู าการ และพยาธสิ ภาพ
ของโรค
“โรคเปน ครสู อนใหเ ราไดเ รยี นรกู ารปรบั ตวั และพฤตกิ รรมไดเ ปน อยา งดใี น
แตละวันเราไดเ รยี นรูอาการมากมายทม่ี นั กําลังจะเกดิ ขึ้น และสิง่ เหลานีจ้ ะสอนใหเ รา
เปน คนที่รูจ ักสงั เกต และสามารถแกปญหาในส่ิงท่ีเราเผชญิ อยไู ดเ ปน อยา งดี และสอน
ใหเ รารวู า เราตองปฏิบตั ติ นอยา งไรจึงจะอยรู วมกับโรคไดอ ยา งมีความสขุ ”
ทุกยางกา วที่เรากาวเดนิ ตอ จากน้ีเราก็จะกาวเดินตอไปดว ยสติ เวลาทุก
วินาทีทีก่ ําลงั จะผานเขามาในชีวิตเราจะใชม นั คมุ คามากทสี่ ดุ
วันนฉ้ี ันดีใจและขอบคุณเพือ่ นอยา งนายมาก “โรคไต ” ทท่ี ําใหฉ นั ไดพ บกบั
(แอน) ผูหญงิ ทีด่ ที ่สี ุดในชวี ิตอีกหน่งึ ทคี่ อยเปน แรงผลกั ดนั เปน กําลงั ใจใหฉ ันกลา ทีจ่ ะ
กา วขามผานความทกุ ขทเี่ กดิ ขนึ้ ในชีวิต โรคไตยังทําใหฉ ันไดพ บกับกลั ญาณมิตรมากมาย
ทง้ั ในรว้ั สถานศกึ ษา และสถานทท่ี าํ งาน แมว าวันน้ีคา การทาํ งานของไตจะลดลงมาก
เพยี งใด ฉันจะอดทนและตอสตู อ ไป ไมว าพรงุ นจี้ ะเกดิ อะไรขนึ้ ฉันจะไมเสยี ใจเลย เพราะ
วนั นี้ฉันทาํ ดที สี่ ดุ แลว
อนาคตนาย (โรคไต) จะพาฉันไปอยทู ่ไี หน ฉนั พรอมทจี่ ะไปพรอมนาย แตว ันนี้
ฉนั ยงั สามารถเอาชนะนายไดอ ยนู ายจะตอ งไปพรอ มฉนั แลว ฉนั จะพานายไปตามหาดา น
ดี ๆ ใหชีวิตดวยกัน บางทีนายอาจจะติดใจแลว อยกู บั ฉันตลอดไปก็ไดใครจะรู วันนี้ฉัน
ขอบใจนาย (โรคไต) มากท่ีทําใหฉ นั ไดเรียนรวู า การใชช ีวติ มันมีคา มากมายแคไ หน
ขอบคุณ “สองหัวใจ สองความรกั ” ที่มอบหวั ใจที่แข็งแกรง ดวงนม้ี าเรียนรู
ชวี ิตในโลกใบน้ี จะใชช วงเวลาดี ๆ ท่เี หลืออยูตามหาดานดี ๆ ของชีวติ ตอ ไป
1 กนั ยายน 2552
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“ ชี วิ ต..ทุ ก ข ไ ด ก็ ต อ ง ท น ไ ด ต อ ง เ ข ม แ ข็ ง ใ ห ไ ด ”
"ขอบคุณ โรค ท่ีทาํ ใหไดเรยี นรู และประสบการณช ีวติ ไดสัมผสั กับความรูสึกตาง ๆ
มากมายทง้ั ความเจบ็ ปวด ทรมาน และรวู า ความอดทนเปน อยา งไร"
มีหลายคนเคยบอกฉันวา “ดูไมเหมือนคนปวยเลย ” ทกุ คร้ังที่ไดย นิ คําน้ี ทําให
หวั ใจฉนั ชมุ ชื่นอยตู ลอดเวลา มแี รงและกาํ ลังใจการกาวเดินบนถนนสายฝน ทุก ๆ เสนที่
เลือกเดินตลอดมา
แตเมือ่ เวลามนั ผา นไป เรากต็ อ งยอมรบั ในพยาธสิ ภาพของรา งกาย วา มนั ยอ ม
เสื่อมไปตามกาลเวลาและการดาํ เนินของโรค แมท่ีผานมาตองสรา งภมู ิคุมกันใหต วั เอง
สรา งกาํ ลงั ใจใหต วั เองใหม แี รงและพลงั ในการตามใหด า นดี ๆ ใหกบั ชีวิต แตค วามรูส ึกของ
ผปู วยเรือ้ รังระยะสดุ ทา ยทกุ คน คงปฏิเสธไมไ ด ณ จดุ หน่งึ ท่ีรูสึกสับสน วนุ วาย วาตอจาก
นีไ้ ปเราจะใชชวี ิตอยา งไร ท่จี ะทําใหคนรอบขา งทเี่ รารัก และรักเราเปน ภาระหรอื
เดอื ดรอ นนอ ยท่ีสุดจากการเจบ็ ปว ยของเรา
ทกุ วนั นี้พยายามบอกตัวเองอยตู ลอดเวลาวา “เราตอ งเดนิ ตอ ไปขางหนา ได
ดวยตัวของตัวเอง ถาเราอดทน ” ไมวา พรงุ นจ้ี ะเปนอยา งไร ขอแคว ันน้ีไดทาํ ในสงิ่ ทด่ี ี ๆ
เพ่ือตัวเองและคนรอบขางก็พอ ฝง ฝน จะจบลงท่ตี รงไหนกค็ งตอ งยอมรับมนั
ขอบคณุ “โรค” ทท่ี ําใหไดเ รียนรูจ กั กับคาํ วา “เจบ็ ปวด ” “อดทน ” และ
“เขม แขง็ ”
ขอบคณุ “โรค” ทีท่ ําใหฉันไดเรียนรวู า “ชีวิตน้ีมันมคี า มากเพยี งใด”
ขอบคณุ “โรค” ทที่ าํ ใหฉ นั ไดใ ช “ชวงเวลาทเี่ หลืออยูอ ยา งมคี ุณคา มากทสี่ ดุ ”
ขอบคณุ “โรค” ท่ีทําใหฉ ันได “เรยี นรวู า ชวงเวลาของการเปนผูปว ยเรือ้ รัง
ระยะสุดทายมันเปน อยางไร”
จากวันน้ีไปฉนั จะกา วเดนิ ผานทุกส่งิ ท่ีกําลงั จะเกิดข้นึ ดวยสติ และหวังวา
โรคเรือ้ รงั ท่อี าศยั อยูในตัวฉัน จะใหป ระสบการณท ด่ี ีในการใชช ีวิต และเรยี นรูก นั และกนั
ตอไปอกี นาน ๆ เพราะชวี ิตยงั มดี า นดี ๆ ใหต ามหาอีกมากมาย หวังแคเพยี งวนั นี้เราจะอยู
รวมกันและตอ สไู ปดว ยกนั อยา งมคี วามสขุ ก็พอ จะขอใชช ว งเวลาท้ังหมดทเี่ หลอื ทมี่ ี
สรา งสรรคส งิ่ ดี ๆ เพื่อสงั คมตอ ไป
18 พฤษภาคม 2553
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
“ ทุ ก ข ห รื อ สุ ข..อ ยู ที่ ใ จ ข อ ง เ ร า เ อ ง ”
“ส่ิงท่มี ีคาทส่ี ุดในชีวติ คอื การไดมชี ีวติ และลมหายใจ การไดมีโอกาสตอสูแ ละกา วเดิน
ตอ ไปขา งหนา ชวี ิตทุกชวี ติ ยอ มมีทัง้ เร่ืองราวดี ๆ และเลวรายทหี่ มุนเวยี น เปลี่ยนผันเขา
มาในชวี ติ จะมีสักกีค่ นในโลกใบน้ที ่เี กิดมาเพยี บพรอ มทุกอยา ง โดยท่ีไมเคยพบกบั ปญหา
และเรอ่ื งราวเลวรายใด ๆ เลยในชีวติ ”
ตราบใดที่เรายงั คงเปน มนุษยท่ยี ังคงเวยี นวา ยตายเกดิ ในโลกใบน้ี เรายอ มเจอทั้ง
ปญ หาและอปุ สรรคนานาชนดิ ทเ่ี ขา มาใหเ ราพสิ จู นค วามอดทน ชวี ติ เรายง่ิ เจอปญ หามาก
เทาไร ย่งิ ทาํ ใหเรามปี ระสบการณม ากขึน้ เทาน้นั
ทกุ ๆ ปญหาทผ่ี านเขามาในชีวติ จะเปนแบบฝก หดั ที่แสนวเิ ศษท่ีสุดที่ใหเ ราได
ฝกคดิ ไตรตรอง ดว ยเหตผุ ล ยงิ่ เราไดเจอปญ หาทีห่ นกั มากเทา ไร ทาํ ใหเ ราไดใช
วจิ ารณาญาณ และความคดิ มากขึน้ เทานน้ั เคยมีความรูส กึ แบบนไี้ หม ?...วา …
ทาํ ไมนะ...ชวี ติ เราถงึ โชครา ยไดม ากมายขนาดน้ี ?
ทาํ ไมนะ...เราถึงไดเ จอแตป ญ หาเดมิ ๆ แบบซ้าํ ซากอยูร่ําไป ?
ทาํ ไมนะ...เราถงึ พบเจอแตเ รอื่ งราวเลวรา ยอยูไดต ลอดเวลา ?
ทาํ ไมนะ...เราถงึ ไมไ ดม ีไมไดเปน อยางทเี่ ราคิด ?
ทาํ ไมนะ...เราทําสิ่งใดไมเคยประสบความสําเร็จเลยสักที ?
ในชวี ิตจรงิ ๆ แลว เราเคยหาคําตอบเหลา น้ีใหก ับตวั เองไหมวา “คาํ ถามเหลา น้ี ”
มนั เกดิ ขน้ึ มาจากอะไรกนั แน ?
“มนั เกิดขึ้นมาจากปญ หาที่ผานเขามาในชวี ติ เรา ” หรอื วา “มันเกดิ ข้ึนจากใจ
ของเราเอง” ถา เราพิจารณาใหดโี ดยการใชสตเิ ราจะเหน็ ไดว า “ปญหาทุกปญ หาที่ผา น
เขา มาในชีวิตเรานน้ั ที่เราทกุ ข เราเศรา เราทอ แท ผิดหวงั เบอื่ หนา ย มันเกิดมาจาก
ใจของเราเองทง้ั สน้ิ ” มนั ไมไดเกิดมาจากตวั ปญหาเหลา นัน้ เลย
เคยลองคิดเลน ๆ ไหมวา ...ทาํ ไม...มเี หตกุ ารณ ๆ เดยี วกนั เกดิ ข้ึนระหวา งคน
สองคน ทาํ ไมคนหนึ่งถงึ ไดท กุ ขใจไดอยา งแสนสาหัส...แตอ กี คนหนง่ึ กบั นัง่ หวั เราะและย้มิ
ไดอ ยา งมคี วามสุข สิง่ เหลานี้ไมใชเร่อื งแปลก เพราะวา “ความทกุ ข” กบั “ความสขุ ” คือ
เรือ่ งเดียวกัน แตใ จเราตางหากท่ที าํ ให “ความทกุ ข” กบั “ความสขุ ” เปน คนละเร่อื งกนั
หากเรามองในดานดี ๆ ของส่ิงทเ่ี กดิ ขึน้ เราก็จะพบแต “ความสขุ ” หากเรามอง
แตในดา นรา ย ๆ ของส่ิงน้นั เราก็จะพบแต “ความทกุ ข ” จะเห็นไดวา จะสุขหรอื จะทกุ ข
อยทู ีใ่ จของเราเองท้ังสนิ้
ทกุ ๆ ครั้งท่เี รามปี ญหาวนเวยี นเขามาในชวี ิต หากเรามองอกี มมุ หนึ่งในดานทเ่ี รา
ไมเคยมอง เราจะพบวา ทุก ๆ ปญ หาทีเ่ ขามา ลว นแตมีสิ่งดี ๆ แฝงอยใู นตวั ของมันเอง
อยา งนอ ยทีส่ ุดเราก็รูส ึกมีคณุ คา ในตวั เอง วาเราสามารถกาวขา มผานมันมาได
เกดิ ประสบการณด ี ๆ ในการตอสูและดน้ิ รน ซึ่งความรูสึกและสิ่งเหลาน้ีเราไมสามารถหา
ซ้ือหรือขอมาจากใครไดเ ลย ยิ่งเราเจอปญหามากเรากจ็ ะมีประสบการณม ากขนึ้ เร่อื ย ๆ
จนในทสี่ ุดเราก็จะมองเหน็ สิ่งเหลานี้วามนั ไมใชป ญหา เพราะเราไดเรยี นรแู ละศึกษา อยา ง
ถอ งแท ไดสัมผสั ในทกุ ความเปน ไปของส่ิงท่เี กดิ ข้ึนเปน อยา งดี
ชีวิตเราเกิดมาพรอ มกบั “หวั ใจหนงึ่ ดวง ” ทม่ี าจากความรักของสองชวี ติ
เพราะฉะนน้ั เทา กบั เรา “หนึง่ ชวี ิต” มหี วั ใจทผี่ กู พันกันอยู “สามดวง” ในเมื่อเรามหี วั ใจ
อยใู นตัวของเราเองต้ังสามดวง เราก็ตอ งมแี รงและกาํ ลงั ใจในการตอสแู ละกาวเดนิ ตอ ไป
ขา งหนา ไมวา จะเกิดสง่ิ รา ย ๆ ใด ๆ ผานเขามาในชีวิตเราตอ งกา วผา นมนั ไปใหไ ด และ
เกบ็ เกี่ยวสิ่งที่ดเี หลา นี้เอาไวในภาพความทรงจาํ ของเราใหไ ดมากท่สี ุดเทา ท่ีเราจะทําได
ทุกคร้ังท่ีเกดิ ปญหาและเรือ่ งราวรา ยใด ๆ จงบอกกบั ตัวเองวา “ขอบคณุ ทกุ ๆ
ปญหาทผี่ านเขา มาในชีวิต และทาํ ใหฉ ันไดฝ กความอดทนและความเขมแขง็ ” แลว เรากจ็ ะ
ยิ้มไดกบั เร่อื งราวตา ง ๆ ท่ีผา นเขามาในชวี ิต
“ขอเปน กําลงั ใจใหกบั หวั ใจทุกๆดวงในการกา วเดินอยูบนถนนชีวติ สายน”้ี
28 กุมภาพนั ธ 2554
จุ ด เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต
เ มื่ อ “รู จั ก ว า ง ก็ จ ะ เ พิ่ ม ที่ ว า ง ใ ห ชี วิ ต”
เม่ือรูตน เหตุแหงทุกข "ใจ...ของเราจะสขุ เอง “การมสี ติ สมาธิ และปญ ญา ”
จะทําใหเราสามารถตอ สูและกา วขา มผา นกับตน เหตแุ หง ทกุ ขน น้ั ๆ ได
ทผ่ี านมาฉันใชชีวติ จมอยกู บั ความทกุ ข ยอมใหความเจ็บปวด และความเศรา
ความทอแท ส้นิ หวัง วนเวยี นอยูในหวงความรูสึก ฉันปลอ ยใหใ จของตวั เองจมอยกู บั
ความทุกข ไมเคยมองเหน็ ส่ิงทีด่ ี ๆ ของมันเลย ในแตล ะวนั ไดแ ตถ ามตวั เองวา “ทาํ ไม
โชคชะตาไมเคยเขาขางเราเลย ? ทาํ ไมชีวติ เราจึงเจอแตป ญ หา ? ทาํ ไมชีวติ เราจงึ เจอแต
เหตกุ ารณทเี่ ลวราย ? ทาํ ไมชวี ติ เราไมป ระสบความสําเร็จเหมือนคนอืน่ ? มีแตคาํ ถามวา
ทาํ ไม ? ทาํ ไม ? และทาํ ไม ? ทีม่ าพรอ มกบั มรสมุ ครง้ั แลวคร้งั เลาในชีวิต ” ความรูสกึ ทม่ี นั
ปวดรา วในหวั ใจ กบั คาํ ถามวา ทาํ ไม ? ไมไ ดช ว ยใหช วี ติ ของฉันดีข้นึ มาเลย ความปวดรา วที่
มันเกาะกินในหัวใจมันมากเกนิ กวา ใจจะรับได มันกท็ ําใหฉนั ตอ งถามตวั เองใหมวา “จะ
ยอมใหค วามปวดรา วนน้ั มนั เกาะกนิ ใจเราไปอกี นานแคไ หน ?” ลองเปลย่ี นคาํ ถาม ถาม
ตัวเองใหมสิวา “เพราะอะไร....เราจงึ ทกุ ข ? เพราะอะไร...ชวี ติ เราจงึ เจอแตปญ หา ?
เพราะอะไร...เราจงึ เจอแตเหตกุ ารณทเี่ ลวรา ย ? เพราะอะไรชวี ติ เราจงึ ไมป ระสบ
ความสําเร็จ ? แปลกเนอะ...แคเ ปลย่ี นคาํ ถามจากคาํ วา “ทาํ ไม” มาเปน “เพราะอะไร”
ประโยคคําถามสน้ั ๆ ทเี่ ราใชม นั ต้ังแตวนั ท่เี ราเรม่ิ หดั พดู เมอ่ื คร้ังเรายงั เปนเดก็ นอ ย <<
แม. ..นน่ั อะไร ? แม. ..ทําไมมันเปนแบบนน้ั ? แม. ..เพราะอะไรมันจึงเปน แบบน้ี ? >>
มันเปลย่ี นความคดิ เราในทนั ที ใจที่มนั เจ็บ ใจท่มี ันทุกข ใจทม่ี นั ทอ กลบั มีพลังเกดิ ขน้ึ
ในทนั ที
สต.ิ .. ทมี่ นั ลอยเควง ควาง หายไปจากตวั เรา มันเรม่ิ กลับเขามา จากใจที่
กระสับกระสายไรสมาธิ
สมาธิ... กเ็ ริ่มหยุดนง่ิ พิจารณาตนเหตุแหงทกุ ขว า “เพราะอะไรเราจงึ ทุกข ?”
เม่ือเรารูตนเหตแุ หงทกุ ขเ ราก็เกดิ ปญ ญา
ปญญา...ท่จี ะแกทกุ ขเหลาน้นั ได
วนั น้ีฉันกส็ ามารถหาคาํ ตอบใหกบั ตัวเองไดแ ลว วา “เพราะอะไรฉันจึงตอ งเปน
ทุกข” คาํ ตอบทีไ่ ด คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง (กเิ ลส) ในตัวของเราเองท่ีเกบ็
มนั สะสมเอาไวในใจ จนวนั หน่ึงมนั เพิม่ มากข้ึนเรื่อย ๆ จนมนั ลน ออกมา ไมส ามารถเติม
อะไรเขาไปไดอีกแลว ทําใหหาความพอดีใหกบั ชวี ิตตวั เองไมได เวลานฉ้ี นั สามารถเรยี นรู
และทาํ ความเขา ใจ “จิตใจ” ของตวั เองไดแลว ฉนั กค็ อยเรมิ่ “วาง” (วางในทนี่ ้ี หมายถึง
การวางเฉย และปลดปลอยทุกขทีละทกุ ข ทุกขใดท่ีเกดิ จากตวั เองก็หาวิธกี ารแกทุกขเทา ที่
เราจะทาํ ได ทกุ ขใดทเ่ี กิดจากคนอื่นท่เี ราไมส ามารถแกไ ด เราก็แครบั รูและกป็ ลอ ยใหม นั
ผา นไป โดยไมเ อาใจเราไปผกู ตดิ กบั ทกุ ขน นั้ ) เม่อื เรา “วาง” ทกุ ขท่ผี านเขา มาได ใจเรา
ก็จะเบาและมี “พ้นื ทวี่ าง” ท่ีจะรับทุกขใหมท ่ผี านเขา มาในชวี ิตที่เหลอื อยูท ้งั ชีวิตดวย
หัวใจทีเ่ ปน สุข ฉนั สามารถที่จะอยรู ว มกบั ทกุ ขน นั้ ไดอยา งเปนสุข โดยการพยายามเรียนรู
และมองเห็น “ขอ ด”ี ของทกุ ขน้นั ๆ แมจะเปนเพยี งขอ ดีเพียงนอยนดิ ก็ตาม ซึ่งทาํ ให
ฉนั เปนทุกขน อ ยกวา ทีเ่ คยเปน พยายามคน หาดา นดใี นเชงิ บวกของสถานการณ
ตา ง ๆ ทเี่ ลวราย ท่ีผานเขามาในชีวติ จะทาํ ใหเ รามคี วามหวงั และกําลังใจ สามารถตอสู
กับสิ่งเหลา นนั้ ได และการไมยึดติดกับความทกุ ขม ากเกนิ ไป จะทําใหเ รามองเห็นสวนดี
จากดา นตา ง ๆ ของชวี ิตที่เหลอื อยู ความทกุ ข และปญหาท่ผี านเขา มาในชีวติ เรา จะทาํ ให
เราเขา ใจชวี ิตมากขน้ึ
ฉนั เขาใจแลววา “การมสี ติ สมาธิ และปญ ญา...อนั นาํ ไปสกู ารวางเฉย ” จะ
ทาํ ใหเราสามารถตอ สูก ับตนเหตแุ หง ทกุ ขน ั้น ๆ ได ถา เราคดิ วา “ความสุข ” นน้ั เปนส่งิ ท่ี
หาไดยาก ชวี ิตเราก็จะมี “ความสขุ ” ไดย าก ทงั้ ๆ ท่คี วามเปน จรงิ แลว ความสุขมีอยู
รอบ ๆ ตัวเรา ถา เรามัวหมกมนุ อยูกับความทุกข ความเศรา เรากจ็ ะมองไมเ หน็ ความสขุ
เหลา นน้ั เลย การเปดโอกาสใหตัวเองมองสงิ่ รอบขางในแงมุมอน่ื บา ง โดยเฉพาะในแงมุม
ทด่ี ีตอชวี ิต พยายาม มองดา นดี ๆ ของส่ิงตาง ๆ จะทาํ ใหเราพบกับความสขุ ไดอ ยา ง
งา ยดาย ในโลกใบน้ยี งั มีส่งิ สวยงามรอใหเ ราสมั ผสั อกี มากมาย หากเราปรับความคิด
เปลีย่ นมมุ มองของการใชช วี ติ เราจะพบวามีความสุขอกี มากมายท่รี อใหเ ราคนพบ อยาปด
กน้ั ตวั เองใหจมอยูก ับความทุกข จงวางทุกขน้ันแลวหันกลบั มาเตมิ ความสุขใหกับชีวิต
กนั ดกี วา
"ใชชีวติ และเวลาท่ีเหลืออยูใหคมุ คา และเกดิ ประโยชนม ากทีส่ ุด คงเพียงพอแลว
สําหรับหน่งึ ชวี ติ "
25 มถิ นุ ายน 2550