The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Punpin Weerawan, 2022-09-08 00:55:58

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

กาพย์เห่ชม

เครื่องคาวหวาน
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑

ผู้แต่ง

กาพย์เห่ชมเครือ่ งคาวหวานเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็
พระพุทธเลศิ หล้านภาลยั (รัชกาลท่ี ๒) โดยพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์
กาพย์เห่น้ีขน้ึ ต้ังแต่ครั้งยงั ดำรงพระอิสสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสนุ ทร

จดุ ประสงค์ในการแต่ง

เพอื่ ใช้เป็นบทเห่สำหรับการเสดจ็ ประพาสทางชลมารค
แต่สิง่ ทท่ี ำให้กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพเิ ศษยิ่งขึน้ กค็ อื การทำหน้าที่
เป็น ‘จดหมายรกั ’ พรรณนาความรักความคิดถงึ ทเี่ จ้าฟ้ากรมหลวงอิศร
สนุ ทรมีต่อเจ้าฟ้าหญงิ บญุ รอดไปในตวั

ฉนั ทลักษณ์ของกาพย์เห่ชมเครอ่ื งคาวหวาน

ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่ โคลงสี่สภุ าพ

จะเร่ิมเน้อื หา ด้วยโคลงสี่สภุ าพ ๑ บท ()
()
จากน้ันต่อด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไปเรอ่ื ยๆ จนจบเนื้อหา

เมื่อเรม่ิ เนือ้ หาใหม่ก็เร่มิ โคลงใหม่อกี คร้ัง

กาพย์ยานี ๑๑

กาพย์เห่ชมเครอ่ื งคาว

แกงไก่มัสมัน่ เนื้อ นพคณุ พ่ีเอย
หอมยี่หร่ารสฉุน
ชายใดบรโิ ภคภญุ ช์ เฉียบร้อน

แรงอยากยอหตั ถ์ข้อน พศิ วาส หวงั นา

อกให้หวนแสวง ๚

แกงมัสมั่น มัสม่ันแกงแก้วตา
หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง
แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

ยำใหญ่ ยำใหญ่ใส่สารพดั วางจานจดั หลายเหลือตรา

รสดีด้วยนา้ ปลา ญ่ีปุ่นล้ายา้ ยวนใจ

ตบั เหลก็ เจอื นา้ ส้มโรยพรกิ ไทย
ไม่มีเทยี บเปรยี บมอื นาง
ตบั เหล็กลวกหล่อนต้ม
โอชาจะหาไหน

หมูแนม

หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพรกิ สดใบทองหลาง

พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย

ก้อยกุ้ง ก้อยกุ้งปรุงประทิน่
วางถึงลน้ิ ดน้ิ แดโดย
รสทิพย์หยบิ มาโปรย
ฤๅจะเปรยี บเทียบทันขวญั

เทโพพน้ื เนือ้ ท้อง แกงเทโพ
เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครนั
ของสวรรค์เสวยรมย์

แกงขม ความรกั ยกั เปลย่ี นท่า ทำนา้ ยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลีย้ งกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเหน็

ข้าวหงุ ปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น

ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมติ รประดิษฐ์ทำ ข้าวหุง

เหลือรู้หมปู ่าต้ม แกงคัว่ ส้ม
แกงคั่วส้มใส่ระกำ
ช้าช้าพล่าเนอ้ื สด รอยแจ้งแห่งความขำ
ฟุ้งปรากฏรสหน่ื หอม ช้าทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
คดิ ความยามถนอม
สนทิ เนื้อเจอื เสาวคนธ์ พล่าเน้ือ

ล่าเตียง

ล่าเตยี งคิดเตยี งน้อง นอนเตยี งทองทำเมืองบน
ลดหลน่ั ชน้ั ชอบกล ยลอยากนิทรคดิ แนบนอน

หรุ่ม เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน

เจบ็ ไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

รงั นก รังนกนง่ึ น่าซด โอชารสกว่าทงั้ ปวง
นกพรากจากรงั รวง เหมอื นเรียมร้างห่างห้องหวน

แกงไตปลา ผกั โฉมชอ่ื เพราะพร้อง
เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ไตปลาเสแสร้งว่า ผกั หวานซ่านทรวงใน
ดจุ วาจากระบดิ กระบวน ใคร่ครวญรกั ผกั หวานนาง
ใบโศกบอกโศกครวญ
ให้พ่เี คร่าเจ้าดวงใจ

ผักโฉม

กาพย์เห่ชมผลไม้

ผลชดิ แช่อม่ิ โอ้ เอมใจ
หอมชื่นกลนื หวานใน อกชู้
รน่ื รื่นรสรมย์ใด ฤๅดุจ น้ีแม

หวานเลิศเหลอื รู้รู้ แต่เนอื้ นงพาล ๚

ผลชิดแช่อ่ิมอบ หอมตรลบลา้ เหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปาน หวานเหลอื แล้วแก้วกลอยใจ

ลูกตาล

ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเยน็ ยงิ่ ย่งิ เย็นใจ

คดิ ความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเหน็

ลูกจาก

ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำเป็น

จากชา้ น้าตากระเด็น เป็นทกุ ข์ท่าหน้านวลแตง

มะปราง

หมากปรางนางปอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง

ยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอ่ิมอาบซาบนาสา

มะม่วง หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา

คิดความยามนทิ รา อรุ าแนบแอบอกอร

ล้นิ จี่ ลนิ้ จีม่ ีครุ่นครุ่น เรยี กส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวลิ ล้ินลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน

ลูกพลับ

พลับจีนจกั ด้วยมดี ทำประณีตน้าตาลกวน
คดิ โอษฐ์อ่อนยม้ิ ยวน ยลยิ่งพลบั ยับยบั พรรณ

น้อยหน่า

น้อยหน่านำเมลด็ ออก ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์

มือใครไหนจกั ทัน เทียบเทียมท่ีฝีมอื นาง

ลกู เกด ผลเกดพเิ ศษสด โอชารสล้าเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบาง สางเกศเส้นขนเม่นสอ

ทบั ทิม

ทบั ทมิ พร้มิ ตาตรู ใส่จานดูดจุ เม็ดพลอย
สุกแสงแดงจกั ย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย

ทเุ รยี นเจียนตองปู เน้ือดีดเู หลอื เรอื งพราย ทเุ รยี น
เหมอื นศรฉี วกี าย สายสวาทพี่ทคี่ ู่คิด

ลางสาด

ลางสาดแสวงเน้อื หอม ผลงอมงอมรสหวานสนทิ
กลืนพลางทางเพ่งพศิ คิดยามสารทยาตรามา

เงาะ ผลเงาะไม่งามแงะ สละ
มล่อนเมลด็ และเหลือปัญญา
หวนเหน็ เช่นรจนา สละสำแลงผล
จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม คิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าท่มิ ปิ้มปืนกาม
นามสละมละเมตตา

กาพย์เห่ชมเคร่อื งหวาน

สงั ขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม
เป็นนยั นำวาที สมรแม่ มาแม

แถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพยี บแอ้อกอร ๚

สังขยาหน้าตงั้ ไข่ ข้าวเหนยี วใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลอื บแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ

ซ่าหร่ิมลิ้มหวานล้า แทรกใส่น้ากะทเิ จอื ซ่าหรม่ิ

วติ กอกแห้งเครือ ได้เสพหร่มิ พมิ เสนโรย

ลำเจียก ลำเจยี กช่ือขนม
นกึ โฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิน่ ดิน้ แดโดย
โหยไห้หาบหุ งางาม

มัศกอด มศั กอดกอดอย่างไร
น่าสงสยั ใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ
ขนมนามนี้ยงั แคลง

ลดุ ตี่ ลุดตน่ี น้ี ่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
แคลงของแขกแปลกกลน่ิ อาย
โอชาหน้าไก่แกง

ขนมจบี ขนมจบี เจ้าจีบห่อ
งามสมส่อประพมิ พ์ประพาย
นกึ น้องนุ่งจีบกราย
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน

ขนมเทียน รสรักยกั ลำนำ
ประดิษฐ์ทำขนมเทยี น
คำนงึ นว้ิ นางเจียน
เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม

ทองหยบิ ทองหยบิ ทิพย์เทยี มทดั
สามหยบิ ชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดม
ก้มหน้าเมนิ เขนิ ขวยใจ

ขนมผงิ ขนมผงิ ผงิ ผ่าวร้อน เพยี งไฟฟอนฟอกทรวงใน
เมอื่ ไรเหน็ จะเยน็ ทรวง
ร้อนนกั รักแรมไกล

รงั ไร ทองหยอด ทองม้วน

รงั ไรโรงด้วยแป้ง ทองหยอดทอดสนทิ
เหมือนนกแกล้วทำรังรวง ทองม้วนมดิ คดิ ความหลงั
โอ้อกนกท้ังปวง สองปีสองปิดบงั
ยังยินดีด้วยมีรัง แต่ลำพงั สองต่อสอง

จ่ามงกฎุ งามจรงิ จ่ามงกฏุ ใส่ช่ือดจุ มงกุฏทอง

เรยี มร่าคำนงึ ปอง สะอง้ิ น้องนัน้ เคยยล

บัวลอยเล่ห์บัวงาม บัวลอย
คดิ บัวกามแก้วกบั ตน
ปลัง่ เปล่งเคร่งยคุ ล ฝอยทอง
สถนนชุ ดุจประทมุ
ฝอยทองเป็นยองใย
ช่อม่วง ช่อม่วงเหมาะมีรส เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
หอมปรากฏกลโกสุม คดิ ความยามเยาวมาลย์
คิดสสี ไลคลุม
หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน เยบ็ ชุนใช้ไหมทองจนี ๚

คณุ ค่าของวรรณคดี

กาพย์เห่ชมเครอื่ งคาวหวาน

คณุ ค่าทางด้านเนือ้ หา

๑. ให้ความรู้เกย่ี วกบั วัฒนธรรมด้านการกินของคนไทยในอดีต

- สะท้อนให้เหน็ ถึงความละเอยี ดอ่อน พิถพี ิถนั ในทกุ ขัน้ ตอนของ
การทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การจัดวางสสี นั และรูปลกั ษณ์ของอาหารคาวหวาน โดย
อาหารบางชนดิ นั้นไม่ปรากฏแพร่หลายหรอื ไม่คุ้นชือ่ ในปัจจุบนั เช่น แสร้งว่า หรุ่ม
ล่าเตยี ง ยำใหญ่ มศั กอด ช่อม่วง เป็นต้น

- ความประณีตพถิ ีพิถัน ช่างประดิดประดอย ท่ปี รากฏในเร่อื ง เช่น ศลิ ปะใน
การจัดแต่งอาหารด้วยการแกะสลกั ซึง่ เป็นงานที่ผู้หญงิ ไทยสมยั ก่อนต้องเรียนรู้และ
ฝึกหดั โดยเฉพาะผู้หญงิ ทอ่ี ยู่ในวงั

คุณค่าทางด้านวรรณศลิ ป์

กาพย์เห่ชมเคร่อื งคาวหวานมคี วามไพเราะจากการสรรคำและ

๑. การเล่นเสยี ง มสี ัมผัสในแพรวพราว พรรณนาความได้ละเอียด วางคำได้จงั หวะ

การเล่นเสยี งวรรณยกุ ต์ในคำว่า
“หรุ่ม” “รุม” “รุ่ม”

๒. การใช้ความเปรียบ ใช้โวหารภาพพจน์หลายอย่าง เช่น อุปมา อุปลกั ษณ์

รงั นกนึง่ น่าซด โอชารสกว่าทงั้ ปวง
นกพรากจากรงั รวง เหมอื นเรยี มร้างห่างห้องหวน

๓. อธพิ จน์ (การกล่าวเกินจรงิ ) ทำให้ผู้อ่านเกิดจนิ ตภาพ มุ่งเน้นความงดงาม

เชงิ วรรณศิลป์ยิ่ง
เหน็ หรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคอื ไฟฟอน

คณุ ค่าทางด้านสังคม

๑. การติดต่อวัฒนธรรมกบั ต่างชาติ
สะท้อนให้เหน็ ว่าสงั คมไทยในสมัยรัตนโกสินทร์มคี วามหลากหลาย

เช้ือชาตริ วมกับคนไทย ซง่ึ จะเหน็ ได้จากคำประพันธ์ ดงั นี้

“รสดีด้วยน้าปลา ญปี่ ุ่นล้าย้ายวนใจ”

๒. วฒั นธรรมอาหารของชาตติ ่างๆ เข้ามาปะปน
อาหารเวียดนาม เช่น ยำใหญ่หรอื ยำญวน หมแู นม
อาหารจีน เช่น ตบั เหลก็ ลวก รงั นกนึ่ง ลิ้นจี่ พลบั จนี กวนด้วยนา้ ตาล
อาหารเปอร์เซียร์ เช่น มสั มันไก่ ข้าวหงุ ล่าเตยี ง ผลเกด ทับทิม มศั กอด
อาหารจากโปรตุเกต เช่น ทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง
อาการจากตุรกี ได้แก่ หรุ่ม

กาพย์เห่ชม

เคร่ืองคาวหวาน

จบแล้วค่ะ


Click to View FlipBook Version