The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wararat259, 2022-09-21 06:24:04

ชีวประวัติ

ชีวประวัติ

ยูทูปเบอร์ขวัญใจวัยรุ่น
Sunbeary “ซารต์-ปัทมพร”

เธอมีดีกรีเรียนจบคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ชื่อสกุล : ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นเส้นทางการทำงานเกี่ยว วันเกิด : 15 มีนาคม พ.ศ. 2536
กับบัญชีมาก่อน แต่ด้วยลักษณะงานเช่นนั้นไม่ใช่คำตอบของ การศึกษา : ปริญญาตรี คณะพาณิช
ความสุขในชีวิต จึงทำให้ตัดสินใจลาออกมาตามหาความฝัน ยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัย
ของตัวเองกระทั่งได้มีโอกาสไปช่วยเพื่อนสนิททำชาแนลยูทูป
ชื่อว่า “Kanninich” ได้สักพักหนึ่ง เธอจึงเปิด Sunbeary ธรรมศาสตร์
Channel ขึ้นมาด้วยความเป็นตัวของตัวเองและสามารถสร้าง อาชีพ : Youtuber
รอยยิ้มให้แก่คนดูได้แทบทุกคลิปทำให้ช่อง Sunbeary มียอด
subscribers ในยูทูปมากกว่า 2 ล้าน ภายในระยะเวลาเพียง

ไม่กี่ปีล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Sunbeary ก็ได้รวมช่องกับ
Kanninich สร้างแบร์ ฮัก โปรดักชั่น รังสรรค์ช่อง Bearhug
ขึ้นมา ซึ่งเต็มไปด้วยความสนุกสนานผสานความคิดสร้างสรรค์
ของทีมงานจนช่องใหม่มียอด subscribers กว่าหลักล้านแล้ว

เช่นกัน

ก่อนจะมาเป็นยูทูปเบอร์ขวัญใจวัยรุ่น

ซารต์เรียนจบคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จริงๆตอนแรกซา
รต์ตั้งใจจะเป็นหมอนะคะ แต่พอได้เห็นชีวิตพี่สาวตัวเองแล้ว เรารู้เลยว่ามันไม่ใช่เราแน่นอน
อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ใครๆ ก็อยากเป็น แต่สุดท้ายเราต้องรักในอาชีพนี้ด้วย ซึ่ง
จรรยาบรรณเราไม่ได้สูงพอ เราไม่ได้ชอบจนเสียสละตัวเองได้ขนาดนั้นดังนั้นหมอจึงไม่ใช่ทาง
ของเราเลยมาเลือกดูว่าเราสามารถเรียนอะไรได้อีกที่จะทำให้ลิงก์ไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการได้
เพราะอีกใจเราก็อยากจะมีธุรกิจส่วนตัว ซารต์เลยเลือกเรียนบัญชี เพราะเรารู้ว่าถึงจะไม่ได้เป็น
เจ้าของกิจการหรือถ้าอนาคตเปิดกิจการเองแล้วไม่รุ่ง จบมายังไงเราก็มีงานทำและไม่ตกงาน
แน่นอนกว่าจะจบมาได้ก็ยากอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะซารต์มารู้ตัวเองว่าเราไม่ได้อยากทำงาน
ด้านนี้ตั้งแต่ตอนที่ได้ไปฝึกงานแล้วค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงชั้นปีที่ 3 เราตั้งใจแล้วว่าจะไปฝึกงาน
3 เดือนเพื่อเอาประสบการณ์ แต่พอได้ไปฝึกงานและทำงานจริงๆ แค่ 2 เดือน ได้ไปเจอโลก

ความเป็นจริง ซารต์เลยมานั่งคิดว่าเราต้องอยู่แบบนี้ไปอีก 30-40 ปีเลยเหรอ

เอาจริงๆ ก่อนหน้านั้นที่ซารต์รู้ตัวเองแล้วว่าเราไม่ได้อยากทำงานด้านบัญชี เราก็
เลยเรียนเท่าที่จำเป็น แต่เราก็ยังตั้งใจเรียนให้ได้เกียรตินิยมอยู่นะคะ คือเราคิดแต่
ว่าอยากจะได้เกียรตินิยม แต่ก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไม คิดแค่ว่าเอาเรียนดีไว้ก่อน แล้วก็
เอาเวลาว่างมาหางานเสริมทำไปด้วย ไปขายดอกไม้งานรับปริญญา เย็บสมุดขาย
ขายเสื้อผ้ามือสอง ไปลองขายตรง เราลองทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพราะเราอยากเก็บ
เงินออมให้ได้มากที่สุด เนื่องจากว่าถ้าเรียนจบปุ๊บซารต์จะไม่ขอเงินพ่อกับแม่อีก
แน่นอน ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเลือกงานได้ก็คือต้องมีเงินเก็บของตัวเองก่อน
ตอนเรียนจบซารต์ก็เลยมีเงินเก็บก้อนหนึ่งจำนวน 50,000 บาท เงินจำนวนนี้มัน
น่าจะพอที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ถึง 5 เดือน ในขณะที่เรายังหางานที่ชอบทำไม่ได้

พอเรียนจบแล้ว เราก็ยังอยากคอนเฟิร์มตัวเองอีกรอบหนึ่งว่าเราไม่ชอบ
อาชีพนี้จริงๆ หรือเปล่า ตอนทำงาอาจจะไม่เหมือนกับตอนฝึกงานก็ได้
ซารต์ก็เลยไปทำงานด้านนี้อยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน แล้วเราก็รู้ตัวเอง
ชัวร์ๆ แล้วว่ามันไม่ใช่ คือเราทุกข์ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้าบริษัทเลยนะคะ
เพื่อนๆ เห่อได้ใส่ชุดทำงาน ได้โน้ตบุ๊กใหม่กัน แต่เราไม่มีความรู้สึกตื่น
เต้นกับอะไรใหม่ๆ นี้เลย ซารต์เลยมองว่าเราน่าจะผิดปกติแล้วแหละ
หลังจากนั้นคุณแม่ก็ยังอยากให้ทำงานสายนี้อยู่ เลยได้ไปทำงานที่บริษัท
หลักทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ไปเป็นผู้ช่วยของโบรกเกอร์ ขายหุ้น ซื้อหุ้น
ซื้อกองทุน แต่ก็ทำอยู่ได้ประมาณ 4 เดือนก็ไม่ชอบอีกแล้ว คือเพื่อนร่วม
งานดีมาก แต่เราไม่ชอบในการใช้ชีวิตของตัวเอง ทำไมเราต้องออกไป

ทำงานตอนรถติด เราอยากเลือกเวลาชีวิตเอง

ก่อนที่ซารต์จะตัดสินใจลาออกจากงานแต่ละครั้ง ซารต์คิดดีแล้วนะคะ คือมันมีคำพูดที่ว่าเรา
จะรู้ตัวเองได้ว่าเราอยากทำงานตรงนี้จริงๆ หรือเปล่า ให้เรามองคนที่เติบโตที่สุดในองค์กร
ซึ่งซารต์ก็นั่งมองหัวหน้าตัวเอง มองดูแล้วก็คิดว่าถ้าในอนาคตเราอายุ 30-40 ปี เราไม่อยาก
อยู่ตรงจุดนี้เลย มันไม่ใช่เรา แล้วเราจะทำไปทำไม ถ้าแค่อยากจะเก็บเงินเฉยๆ สู้เราไปเก็บ
เงินจากการทำในสิ่งที่เราชอบไม่ดีกว่าเหรอ ตอนนั้นเลยเป็นจุดที่ทำให้ซารต์กล้าที่จะลาออก
จากงานทั้งสองที่ได้เลย เพราะเรามองคนที่เติบโตที่สุดในองค์กรแล้วรกๆทางบ้านเขาก็ไม่เห็น
ด้วยแต่ซารต์ก็บอกให้ทางบ้านมั่นใจว่าไม่ต้องกลัว ซารต์มีใบปริญญา ยังไงก็กลับไปสมัคร
งานใหม่ได้ เขาก็ไม่เห็นด้วยแต่เขาก็รู้แล้วแหละว่าเราไม่ไหวเพราะทุกวันที่ซารต์กลับจากที่
ทำงานมาซารต์จะบอกแม่ทุกครั้งว่าเราไม่มีความสุขเรารู้สึกอยากป่วยสั่งให้ตัวเองป่วยจะได้ไม่
ต้องไปทำงานเพราะตั้งแต่เด็กจนโตแม่น่าจะเห็นว่าซารต์มีความสุขทุกวัน จนกระทั่งได้ทำงาน

ทำไมเราทุกข์ขนาดนี้ แต่สุดท้ายเขาก็สู้แรงของเราไม่ได้

เริ่มต้นชีวิตยูทูปเบอร์
เกิดเป็น Sunbeary Channel

พอลาออกจากงาน ซารต์ก็ไปทำงานขายประกันและขายตรงอยู่ก่อนนะคะ แล้ว
เนื่องจากเรามีเพื่อนที่ทำชาแนลยูทูปอยู่ก็คือ กานต์-อรรถกร รัตนารมย์ หรือเจ้าของ
Kanninich Channel ซึ่งกานต์เป็นเพื่อนกับซารต์ตั้งแต่อยู่ที่มหาวิทยาลัย เขาทำ
ชาแนลตั้งแต่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่3ตอนนั้นก็ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เขาทำหรอกค่ะ แต่
ซารต์สนิทกับกานต์มาก เลยรู้ว่ากานต์เป็นคนเดียวที่ซารต์รู้จักเลยก็ว่าได้ที่เขาไม่ได้
สานต่อกิจการของที่บ้าน เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยตัวเองจนเลี้ยงตัวเองมาได้ซารต์ก็เลย
มั่นใจในตัวกานต์ว่าสิ่งที่เขาทำต้องสำเร็จแน่ๆตอนที่ซารต์ทำชาแนลของตัวเอง คือ
กานต์เขาเช่าบ้านเพื่อทำเป็นสตูดิโอกับเพื่อนของเขาอีกคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายตัดต่อ เรา

ก็ได้อาศัยสถานที่ถ่ายทำใช้ทรัพยากรของเขาทั้งคนตัดต่อทั้งอุปกรณ์ทั้งกล้องและ
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดเลย เราเลยทำงานด้วยกันมา 3 คน

คลิปแรกออกไปมีคนดูหลักแสนก็ถือว่าเยอะพอสมควรเลยนะในสมัยนั้น เพราะว่าซารต์ช่วยช่องกานต์
Kanninich มาก่อนโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ช่วยอยู่นานจนคนจำหน้าเราได้ พอคลิปแรกออกมา กานต์ก็ช่วยแชร์ลง
เพจ ทำให้คนเข้ามาดูเยอะการทำคลิปครั้งแรกถ่ายนานมากเลยนะคะ ถ่ายครึ่งวันก็ยังไม่ผ่าน ต้องนั่งพูดอยู่กับ
กล้อง พูดไปเขินไป เพื่อนๆ ก็มาให้กำลังใจจนเราต้องไล่เพื่อนออกไป เหมือนเรายังไม่ชิน เราไม่เคยทำมาก่อน
ไม่มีเวลาฝึก แต่ก็เลือกแล้วว่าจะทำเป็นอาชีพ ก็ต้องทำให้ได้ แต่พอทำไปสัก 2-3 คลิปก็เริ่มชินซารต์จะเรียนรู้

จากความผิดพลาดของตัวเองทุกครั้ง อย่างเวลาคนตัดต่อมาบอกว่าตรงนี้พูดไม่ดีนะ เราก็จะปรับและฝึกไป
เรื่อยๆตั้งแต่นั้นมา ซารต์ก็เลือกที่จะทำช่องเกี่ยวกับเด็กเพราะเราเป็นคนรักเด็ก ทำไปได้สักพัก มันรู้สึกว่าตัวเอง
ต้องฝืนทำ เราทุกข์มากคือซารต์ยังไม่รู้ทางของตัวเอง ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรคิดแต่ว่าจะพูดหน้ากล้องยังไง
ให้ดูธรรมชาติ ให้เด็กๆ เขาดูแล้วมีความสุขแต่หลังๆทำไปแล้วมันไม่ใช่เราเราจะคิดทุกครั้งว่าวันนี้จะเอาอะไรมา
รีวิวดีเราต้องหาอะไรที่เกี่ยวกับเด็กมารีวิวอย่างคลิปเล่นสไลม์ ซารต์ไม่สนุกเลยต้องใช้ความพยายามมากๆพอมา
ถึงจุดหนึ่งที่รู้ว่าไม่ไหวแล้ว ซารต์เลยบอกกับตัวเองว่ เราหนีงานประจำหนีสิ่งที่ไม่ชอบมาเพื่อจะเจองานที่ชอบ
แล้วเราจะไปฝืนตัวเองทำไมไปหลอกคนดูทำไม สักวันเขาก็รู้อยู่ดีว่าเราไม่มีความสุขตั้งแต่นั้นมาซารต์เลยเลือกที่

จะเปลี่ยนสไตล์การทำคลิปของตัวเองไป

ทุกวันนี้ซารต์อยู่กับงานยูทูปเบอร์มา 2 ปีกว่า ซารต์จะทำงานตรงนี้ไปจนกว่าจะไม่มีความสุขทำจนกว่า
อาชีพนี้จะไม่ใช่อาชีพ แต่ซารต์ไม่อยากให้งานยูทูปเบอร์มาเป็นรายได้หลักของพวกเรานะคะ เพราะถ้าเกิดว่า
เราอยากรวยด้วยอาชีพนี้มันจะต้องรับสปอนเซอร์เยอะๆ ซึ่งมันจะทำร้ายทั้งตัวเองและคนดู ขืนทำแบบนี้
อนาคตต่อไปจะยิ่งเป็นกราฟลง สู้เราไปทำธุรกิจอย่างอื่น แล้วเอางานนี้เป็นอาชีพเสริม เป็นสิ่งที่เราทำแล้ว
มีความสุขจะดีกว่า ซารต์ไม่อยากไปบังคับตัวเองว่าฉันต้องมีรายได้จากงานนี้เท่านั้นเท่านี้นะในแต่ละเดือน
ซารต์มองว่าอาชีพนี้ยากนะคะ มันสามารถสร้างรายได้ได้ก็จริง แต่ว่าเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน
ว่าถ้าจะทำอาชีพนี้อย่างจริงจัง เราจะทำยังไงให้มีคนดูตลอดทุกคลิป อาชีพนี้ไม่แน่นอน ไม่มั่นคงนะคะ ดู
อย่างอาชีพดารานักแสดงสิคะ เขายังไม่แน่นอนเลย แล้วเราเป็นใคร เราไม่ได้เพอร์เฟกต์แบบเขา สักวันเราก็
ต้องมีร่วงเหมือนกัน หรือสักวันถ้าเราพลาดก็คือพลาดเลยนะ มียูทูปเบอร์บางคนที่พลาดแล้วเหมือนกัน ซึ่ง
วันหนึ่งซารต์ sunbeary กับกานต์ kanninich อาจจะพูดอะไรพลาดไป หรือไปทำอะไรบางอย่างที่เราคิด
ว่าถูกแต่มันผิดมารยาททางสังคม เราก็อาจจะไม่มีคนดูไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นอาชีพนี้ก็ถือว่าเสี่ยงมาก
จริงๆ ค่ะ แต่ซารต์ไม่ได้กลัวว่าจะมีคู่แข่งนะคะ เรามองว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมวงการที่ทำให้คนเข้ามาในโลกยูทู

ปมากขึ้นมากกว่า เพราะยังไงคนใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว

แนะเด็กรุ่นใหม่อยากเป็นอะไรก็ตาม
ต้องเริ่มต้นที่ใจรัก ตอบตัวเองให้ได้



ส่วนตัวซารต์ไม่ได้บอกว่างานประจำไม่ดี หรืองานอิสระดีกว่าหรือว่าอะไรนะคะ แต่ถ้าเราไปทำงาน
ที่ตัวเองไม่ได้ชอบ ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลงมากๆ เลยนะ กลับกันถ้าเราทำในสิ่งที่ชอบ
มันไม่รู้เลยว่าเราไปเอาพลังมาจากไหน มันไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ ตรงนี้อยู่ที่ว่าเราจะให้คำตอบกับ

ตัวเองยังไงสุดท้ายซารต์อยากฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ๆ ใครที่อยากจะทำอาชีพยูทูปเบอร์ หรือใครที่
อยากจะเป็นอะไรก็ตามขอแค่เรารู้ว่าใจเรารักกับอะไร มันใช่เราหรือเปล่าให้ใช้ชีวิตตามจิต

วิญญาณที่แท้จริงของตัวเอง ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ความต้องการของเรา เพราะบางคนก็ไม่ได้
เหมาะที่จะเป็นในสิ่งที่คนอื่นเป็น ถ้าให้พูดตามตรงแต่ละคนอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จได้เห
มือนๆ กัน แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรจริงๆ ก็อยากให้ลองหลายๆอย่างลองให้เยอะๆ
ลองไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะเจอตัวเอง เพราะกว่าจะมีวันนี้ซารต์ก็เคยทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบมา

Youtube : bearhug channel


Click to View FlipBook Version