The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nichareeak, 2019-06-05 01:10:57

unit 2

unit 2

หนว่ ยท่ี 2 การจาแนกไม้ดอกไมป้ ระดับ

Nicharee Phaophongwana
แผนกวชิ าพืชศาสตร์

[วนั ท่ี]

หน่วยที่ 2

การจาแนกประเภทไม้ดอกไม้ประดับ
หัวเร่ือง

1. การจาแนกไมด้ อกไมป้ ระดบั ตามลกั ษณะพฤกษศาสตร์
2. การจาแนกไมด้ อกไมป้ ระดบั ตามความมุง่ หมายที่ใชง้ าน
3. การจาแนกไมด้ อกไมป้ ระดบั ตามลกั ษณะนิสัยของพนั ธุ์ไม้

สาระสาคญั
การจาแนกประเภทไมด้ อกไมป้ ระดบั เป็นการจดั กลุ่มประเภทของไมด้ อกไมป้ ระดบั โดยจดั จาแนก

เป็ นหมวดหมู่ ตามลกั ษณะคลา้ ยคลึงของการใช้ประโยชน์หรือตามลกั ษณะนิสัย เช่น เมื่อพูดถึงไมต้ ดั ดอก
(Cut flowers) ก็เขา้ ใจไดว้ ่าพนั ธุ์ไมช้ นิดน้นั ปลูกไวเ้ พื่อตดั ดอกมาใช้ประโยชน์ ในการจาแนกประเภทไม้
ดอกไมป้ ระดบั มีหลกั พิจารณาและวินิจฉยั ในการจาแนกต่าง ๆ ไม่เหมือนกนั ซ่ึงแลว้ แต่ความมุ่งหมายและ
จุดประสงคใ์ นการจาแนก

จุดประสงค์การเรียนรู้
เพ่ือให้มีความรู้ความเขา้ ใจและมีความสามารถในการจาแนกประเภทไมด้ อกไมป้ ระดบั ประเภท

ต่าง ๆ และมีคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ดา้ นความมีวินยั ความสนใจใฝ่ รู้ ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์และความ
ขยนั อดทน

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. บอกวธิ ีการจาแนกพชื ตามลกั ษณะพฤกษศาสตร์ได้
2. บอกวธิ ีการจาแนกพชื ตามความมุง่ หมายท่ีใชง้ านได้
3. บอกการจาแนกตามลกั ษณะนิสัยของพนั ธุ์ไมไ้ ด้
4. จาแนกตามลกั ษณะพฤกษศาสตร์ไดถ้ ูกตอ้ ง

หัวข้อเรื่อง
1. การจาแนกตามลกั ษณะพฤกษศาสตร์ (Botanical classification)
เป็ นการจาแนกประเภทไมด้ อกไมป้ ระดบั โดยยึดหลกั ถึงลกั ษณะและคุณสมบตั ิต่าง ๆ ในทาง

สรีระวิทยา เช่น ลกั ษณะตน้ ใบ ดอก ผล การขยายพนั ธุ์และตดั จาแนกพนั ธุ์ไมท้ ี่มีลกั ษณะคลา้ ยกนั ไวร้ ่วม
เป็ นพวกเดียวกนั จากกลุ่มใหญ่ลงไปหากลุ่มยอ่ ยท่ีมีลกั ษณะปลีกยอ่ ย โดยมีช่ือแน่นอนไม่ปะปนและซ้ากนั
ชื่อท่ีต้งั เรียกว่า ช่ือวิทยาศาสตร์ (Scientific name) ประกอบด้วย Genus ตามดว้ ย Species ดงั ตวั อย่างการ
จาแนกหมวดหมู่ของสาวนอ้ ยประแป้ง พนั ธุ์รูดอฟโรช์

Kingdom Plant kingdom

Division Spermatophyta

Class Monocotyledonceae

Order Tropica

Family Araceae

Genus Dieffenbachia

Species Picta

Vanety Rudolph Rochrs

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Diefenbachia picta Var Rudoiph Rochrs
การจาแนกพืชลักษณะน้ีอาศัยทางพฤกษศาสตร์ จากกลุ่มใหญ่ไปหากลุ่มย่อย โดยต้งั แต่
อาณาจกั ร (Kingdom) แยกยอ่ ยช้นั ตระกูล สกุล ชนิด จนถึงพนั ธุ์ ซ่ึงเป็นกลุ่มเลก็ ท่ีสุด
2. การจาแนกตามความมุ่งหมายท่ีใช้งาน เป็ นการจาแนกพนั ธุ์ไม้ดอกไมป้ ระดบั โดยคานึงถึง
จุดประสงค์หรือความมุ่งหมายในการใช้ประโยชน์ และใช้ส่วนไหนของพนั ธุ์ไมเ้ พ่ือประโยชน์ท่ีตอ้ งการ
โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
2.1 ไม้ดอก (Flower plants) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมุ่งหมายในการใชด้ อกโดยมีดอกที่มีรูปทรง สีสรร
ของดอกสวยงาม ดงั น้นั การผลิตจึงมุ่งผลิตท้งั ปริมาณและคุณภาพ แยกไดเ้ ป็น

2.1.1 ไมต้ ดั ดอก (Cutting Flower plants) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ี่ปลูกเพ่ือตดั ดอกไปใช้ประโยชน์
พืชพวกน้ีจะมีคุณสมบตั ิที่เด่น ๆ คือ ดอก สีสรรสวยงาม ความทน ดอกดก ออกดอกตลอดปี และมีกา้ นดอก
ยาว เช่น กุหลาบตดั ดอก หนา้ ววั เบญจมาศ เยอบีร่า กลว้ ยไม้ เป็นตน้

2.1.2 ไมด้ อกกระถาง (Flowering potted plants) เป็นไมด้ อกชนิดท่ีปลูกในภาชนะ (กระถาง)
เพอื่ จดั จาหน่าย หรือตกแต่งอาคารสถานท่ี ไดแ้ ก่ ดาวเรือง เอสเตอร์ กุหลาบ เบญจมาศ เป็นตน้

2.1.3 ไมด้ อกท่ีปลูกในภาชนะแขวน (Hanging baskets) เป็ นไมด้ อกท่ีปลูกในภาชนะแขวน
เช่น กระถางแขวนหรือกระเชา้ แขวน ใชต้ กแต่งระเบียง ชายคา ผนงั บา้ น ไดแ้ ก่ แพรเซี่ยงไฮ้ กระดุมทอง บี
โกเนีย เป็นตน้

2.1.4 ไมด้ อกประดบั แปลง (Bedding plants) เป็ นไมด้ อกที่ปลูกในแปลงเพ่ือประดบั ตกแต่ง
อาคาร เช่น บานบุรี หงอนไก่ สร้อยไก่ ดาวกระจาย ทานตะวนั เป็นตน้

2.1.5 ไมด้ อกท่ีใชใ้ นการตกแต่งประดบั สวนหิน เป็ นพนั ธุ์ไมด้ อกท่ีเหมาะแก่การประดบั ใน
การจดั สวนหิน สวนน้าตก ซ่ึงมกั มีดอกดก ลาตน้ เล้ือย เช่น แพนซี แพรเซ่ียงไฮ้ กระดุมทอง

ทาประดิษฐ์ เป็นตน้

ภาพท่ี 2.1 หนา้ ววั ตดั ดอก ภาพท่ี 2.1 กลว้ ยไมส้ กุลหวาย

2.2 ไม้ประดบั (Ornamental plants) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมีรูปทรง ราก ใบ ตน้ ดอก และผลสวยงาม แบง่

ได้ 3 ประเภท คือ

2.2.1 ไมใ้ บ (Foliage plants) หมายถึงพนั ธุ์ไมท้ ่ีมีรูปร่างลกั ษณะของใบสวยงาม มีสีสนั รูปร่าง

ท่ีไดร้ ูปทรงรวมท้งั ไมป้ ระเภทที่ตดั ใบจาหน่าย ไดแ้ ก่ ปริก โปร่งฟ้า โกสน ปรง หมากเหลือง สาวนอ้ ยประ

แป้ง คลา้ บอนสี

2.2.2 ไมก้ ระถาง (Potted plants) เป็นพนั ธุ์ไมป้ ระดบั ที่นามาปลูกในกระถาง หรือภาชนะปลูก

เช่น เฟื่ องฟ้า เลบ็ ครุฑ ไทรยอดทอง อกาเว่ เป็นตน้

2.2.3 ไมด้ ดั และไมแ้ คระ (Miniature and Bonsai) เป็ นพนั ธุ์ไมป้ ระดบั เกิดจากการดดั หรือ

บงั คบั ตดั แต่งรูปทรงตามตอ้ งการ ไมป้ ระดบั ประเภทน้ีเป็ นพืชที่มีคุณสมบตั ิพิเศษ คือ กิ่งกา้ นเหนียวไม่

เปราะหักไดง้ ่าย และเม่ือดดั แลว้ จะไม่คืนรูปเดิม ไดแ้ ก่ โทร, โมก, มะสัง, มะขวิด, หมากเล็กหมากน้อย,

ตะโก, ขอ่ ย เป็นตน้

ภาพที่ 2.3 เฟิ ร์น ซานาดู ไมใ้ บ ภาพท่ี 2.4 อะโกรนีมา่

3 จาแนกตามลกั ษณะนิสัยของพนั ธ์ุไม้ จาแนกได้ 5 ประเภท คือ
3.1 จาแนกตามถิ่นกาเนิด แบ่งได้ 2 ประเภท คือ

3.1.1 ไมป้ ่ าหรือไมพ้ ้นื เมือง (Wild and Native plant) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ี่เกิดตามธรรมชาติจากถิ่น
กาเนิดโดยตรง เช่น กลว้ ยไมป้ ่ า จงั๋ รองเทา้ นารี ทงั หลงั ขาว ปาลม์ บงั สูรย์ เป็นตน้

3.1.2 ไมล้ ูกผสม (Hybrid) และไมพ้ นั ธุ์แท้ เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมนุษยน์ ามาคดั เลือกปรับปรุงพนั ธุ์
เพ่ือใหไ้ ดล้ กั ษณะต่าง ๆ ตามที่ตอ้ งการ เช่น โป๊ ยเซียน โกสน เฟื่ องฟ้า เป็นตน้

ภาพที่ 2.5 รองเทา้ นารีเหลืองกระบี่ ภาพที่ 2.6 โกสนพนั ธุ์ลูกผสมใหม่ๆ

3.2 จาแนกตามอายขุ องพนั ธุ์ไม้ แบ่งได้ 3 ประเภท
3.2.1 ไมล้ ม้ ลุก (Annuals) เป็นไมด้ อกไมป้ ระดบั ท่ีมีอายเุ พียงฤดูกาลเดียว หรือ เรียกวา่
ไมล้ ม้ ลุก เช่น บานช่ืน ดาวเรือง บานไมร่ ู้โรย ทานตะวนั
3.2.2 ไมข้ า้ มปี หรือไม้ 2 ฤดู (Biennials) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีเจริญเติบโตทางดา้ นใบ ลาตน้ ในปี
แรกและจะออกดอกในปี ท่ี 2 เช่น ซ่อนกลิ่นฝร่ัง
3.2.3 ไมย้ นื ตน้ (Perenials) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมีอายมุ ากกวา่ 2 ปี เช่น ประดู่ ศรีตรัง เป็นตน้

ภาพที่ 2.7 กลุ่มไมด้ อกลม้ ลุก ภาพที่ 2.8 อินทผาลมั

3.3 จาแนกตามลกั ษณะของเน้ือไม้ จาแนกได้ 2 ประเภท
3.3.1 ไมเ้ น้ืออ่อน (Herbaceous and succulent plants) เป็ นพนั ธุ์ท่ีมีน้าภายในตน้ มาก มีผลทา

ใหเ้ น้ือไมอ้ วบน้า เช่น ฤาษีผสม เบญจมาศ กระบองเพชร อกาเว่ กุหลาบหิน เยอบีร่า
ไม้เน้ือแข็ง (Woody plants) เป็ นพันธุ์ไม้ท่ีมีเน้ือไม้มีไส้กลาง มีเน้ือเย่ือเจริ ญ

(Cambium) เช่น กหุ ลาบ เฟ่ื องฟ้า เล็บครุฑ จาปา ชบา มะลิ เป็นตน้

ภาพท่ี 2.9 เยอร์บีร่า ภาพท่ี 2.10 กุหลาบ

3.4 จาแนกตามความตอ้ งการแสงเพ่อื การเจริญเติบโต แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
3.4.1 ไม้ในร่ม (Indoor plants) เป็ นพันธุ์ไม้ที่ต้องการแสงน้อยหรื อแสงร่ าไรในการ

เจริญเติบโตชอบความช้ืนสูง เช่น หนา้ ววั ดาษตะกว่ั สาวนอ้ ยประแป้ง เฟิ ร์น อะโกรนีมา เป็นตน้
3.4.2 ไมก้ ลางแจง้ (Outdoor plants) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ี่ตอ้ งการแสงตลอดท้งั วนั เช่น ไทร

ปาลม์ สน กหุ ลาบ เยอบีร่า ทานตะวนั

ภาพที่ 2.11 กลุ่มพนั ธุ์ไมใ้ นร่ม ภาพท่ี 2.12กลุ่มพนั ธุ์ไมก้ ลางแจง้

3.5 จาแนกตามการใชน้ ้าเพื่อการเจริญเติบโต แบง่ ได้ 3 ประเภท คือ
3.5.1 พนั ธุ์ไมท้ ่ีชอบน้ามาก (Hydrophytes) เป็นพนั ธุ์ไมท้ ี่เจริญเติบโตไดด้ ีในน้า หรือเรียกไม้

น้า (Aquatic plant) เช่น บวั ชนิดตา่ ง ๆ สาหร่าย กกญี่ป่ ุน เป็นตน้

3.5.2 พนั ธุ์ไม้ท่ีต้องการน้าปานกลาง (Mesophytes) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ่ีต้องการน้าปานกลาง
พอเหมาะในการเจริญเติบโต ไดแ้ ก่ พนั ธุ์ไมโ้ ดยทวั่ ๆ ไป ไดแ้ ก่ เล็บครุฑ โกสน สาวน้อยประแป้ง
เฟื่ องฟ้า เป็นตน้

3.5.3 พนั ธุ์ไมท้ ่ีทนแลง้ (Xerophytes) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ี่ทนแลง้ ไดด้ ี เจริญเติบโตไดด้ ีในที่มีน้า
นอ้ ย เช่น อกาเว่ วา่ นหางจระเข้ ลิ้นมงั กร กระบองเพชร เป็นตน้

ภาพท่ี 2.13 บวั ภาพที่ 2.14 เงินเตม็ บา้ น อะโกรนีม่าอีกชนิดหน่ึง

3.6 จาแนกตามลกั ษณะลาตน้
3.6.1 ไมเ้ ล้ือย (Climbing or Vine) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ี่มีลาตน้ เป็ นเถาวเ์ ล้ือยไปตามส่ิงท่ีเกาะ เช่น

สร้อยอินทนิน นมแมว การเวก บานบุรี โปร่งฟ้า พวงโกเมน เป็นตน้
3.6.2 ไมพ้ ุม่ (shrubs) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมีก่ิงกา้ นแตกแขนงออกมาทาใหร้ ูปทรงเป็ นพุม่ กลมหรือ

เป็นทรงพมุ่ เช่น แกว้ เลบ็ ครุฑ โกสน ชบา เทียนทอง คอนยา่
3.6.3 ไมต้ น้ (Trees) เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ่ีมีลาตน้ แข็งแรง มีลาตน้ เดียวแตกกิ่งกา้ นสาขาให้ร่มเงา

สวยงาม เช่น ตะแบก เหลืองอินเดีย

ภาพที่ 2.15 เล็บมือนาง ภาพที่ 2.16 อมรเบิกฟ้า


Click to View FlipBook Version