เฮื อฉบันบที่ 1ร5วมใจไทสี ชมพู
วิถีชีวิตและภูมิปัญญา
Kotchaphan
คอลัมน์พิเศษ 1-7 แวดวงการศึกษา 19-24
รวมกิจกรรม"เฮือนรวมใจไทสีชมพู" รวมข่าวสาร บทความ แวดวงการศึกษา
: กองบรรณาธิการ : ภาคีเครือข่ายการศึกษาอำเภอสีชมพู
ก่อกุศล 8 รอบรั้ว ท้องถิ่น
รวมกิจกรรมทางศาสนาในพื้นที่ รวมข่าวสาร บทความ ท้องถิ่นอำเภอ
: วัดสีชมพู :อปท.อำเภอสีชมพู
ตำนานแห่งหมู่บ้าน 9 หน้าต่างสิ่งแวดล้อม 26-27
เรื่องเล่าและตำนานต่างๆ ในท้องถิ่น บทความเปิดโลกสิ่งแวดล้อมมิติต่าง ๆ
: นายวุฒิศักดิ์ ทองจีน : จุลทัศน์ อุปัชฌาย์/ ทิดหนูเกณ
เรื่องเล่าจากหมู่บ้าน 10-11 กลอนอ่านอักษรสังวาด 28
รวมข่าวสารรายงานโดยผู้ใหญ่บ้าน บทกวี
: นายวุฒิศักดิ์ ทองจีน : ชาตรี เสงี่ยมวงศ์
แวดวงกำนันผู้ใหญ่บ้าน 12-13 เขียนบทกวีที่สีชมพู 29
บทความน่ารู้จากแวดวงกำนันผู้ใหญ่บ้าน : ประทีป แซมไพร ,ปราโมช ปราโมทย์
: นายปกครอง
แกลลอรี่งานศิลปะ 30
ตลาดนัดสีเขียว 14-15
: ยุทธศักดิ์ ลุมไธสงค์
รวมข่าวสาร จากเครือข่ายเกษตรกร อ.สีชมพู
: นายสุรินทร์ ดีมูล เที่ยววิถีสีชมพู 31-33
สาระสุขภาพ 16-17 ส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน
: กลุ่มเที่ยววิถีสีชมพู
รวมข่าวสาร บทความเรื่องสุขภาพ
: สาธารณสุขอำเภอสีชมพู กินไรดี @ สีชมพู 34
ข่าวสารเกษตร 18 : ผู้ใหญ่ศักดิ์ ดาวเทียม
รวมข่าวสาร ประชาสัมพันธ์เรื่องเกษตร
: สำนักงานเกษตรอำเภอสีชมพู
15 1 ธันวาคม 2565
คณะที่ปรึกษา งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว
งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่น
นายศุภชัย ลีเขาสูง ปลัดจังหวัดขอนแก่น ซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2565 จัดขึ้นระหว่างวัน
นายปิยะพงษ์ คลั่งทอง นายอำเภอสีชมพู ที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2565 เพื่อ
นายสนาน ศรีม่วง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสีชมพู สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาว
นายชาตรี เสงี่ยมวงศ์ ประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น นอกจากมีพิธีและกิจกรรมที่
นายบุญจันทร์ มูลกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนสีชมพูศึกษา หลากหลายแล้ว การสร้างเรือนไม้โบราณจาก 26
นายสมคิด สิงสง ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ ปี 2554 อำเภอ (อำเภอละ 1 หลัง) เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้
นายปราโมทย์ ในจิต ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ ปี 2555 รับความสนใจจากประชาชน เพราะการสร้าง
นายสังคม เภสัชมาลา ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ ปี 2561 เรือนโบราณแต่ละหลัง แต่ละอำเภอได้ร่วมแรง
นายเสถียร ยอดดี ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ ปี 2560 ร่วมใจกัน ค้นหาช่างฝีมือที่มีความรู้ มีภูมิปัญญา
นายสรยุทธ วาระกูล นักเขียนอิสระ มีความชำนาญมาสร้างเรือนไม้โบราณอย่างสุด
นายสุวรรณ์ เติมภูเขียว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อ.สีชมพู ฝีมือ เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการรวมผู้คนให้มีความรัก
นายยุทธศักดิ์ ลุมไธสงค์ ศิลปินอิสระ ความสามัคคี ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จใน
นายกล้าหาญ โสสระเกษ ศิลปินอิสระ การพัฒนาด้านต่างๆต่อไป
นายจุลทัศน์ อุปัชฌาย์ นักเขียนอิสระ
เมื่อสร้างเรือนโบราณทั้ง 26 หลังเสร็จ พี่น้อง
กองบรรณาธิการ ประชาชนมีสถานที่จัดกิจกรรม เช่น การแสดง
ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละอำเภอ ตลอดทั้งนำสินค้า
นายปิยะพงษ์ คลังทอง นายอำเภอสีชมพู และผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจัดจำหน่าย
นางบุษกร ชินอ้วน ปลัดอาวุโสอำเภอสีชมพู
น.ส.รุจิกาญจน์ วีระโชติทนันชัย ปลัดอำเภอสีชมพู วารอำเภอสีชมพู ฉบับที่ 15 ได้นำภาพ
จ.อ.อารีย์ สอนตาง ปลัดอำเภอสีชมพู "เฮือนรวมใจไทสีชมพู "ของอำเภอสีชมพู มาขึ้น
นายชัยยศ บึงอำพันธ์ ปลัดอำเภอสีชมพู ปกของวารสารฯ“เฮือนรวมใจไทสีชมพู” มีความ
จ.อ.สมคิด ชำนิกุล ปลัดอำเภอสีชมพู หมายว่า เรือนที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจกัน
นายวีระยุทธ จันทะวิเศษ ปลัดอำเภอสีชมพู ของประชาชนชาวอำเภอสีชมพู ร่วมสร้างขึ้นเพื่อ
นายชัชพิสิฐ พรมทองดี ปลัดอำเภอสีชมพู เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความสามัคคี ความ
น.ส.ปวันรัตน์ บวรศิรินันท์กุล เสมียนตราอำเภอ เอื้ออาทร มิตรไมตรีที่งดงามและยั่งยืนของผู้คน
นายดนัย บุญผง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสีชมพู อำเภอสีชมพู ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
นางสาวอารีรัตน์ ชนะโยธา ครูผู้ช่วย กศน.อำเภอสีชมพู
นางสาวขนิษฐา อันทะปัญญา ครูผู้ช่วย กศน.อำเภอสีชมพู
นางจิรัชยา ฝอดสูงเนิน นักวิชาการศึกษา อบต.หนองแดง
นางสาวเพชรพริ้ง แพงคำรักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
นายวุฒิศักดิ์ ทองจีน ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.บ้านใหม่
นางสาวกชพรรณ ณะดร เจ้าหน้าที่ปกครอง
ออกแบบปกและรูปเล่ม
นางสาวกชพรรณ ณะดร เจ้าหน้าที่ปกครอง
ฉบับที่ 15/1
คอลัมน์พิเศษ "เฮื อนรวมใจไทสี ชมพู"
ประวัติ/ที่มาของบ้าน ด้วยมีภูมิประเทศเช่นนี้ จึงทำให้
ประชาชนส่วนใหญ่นิยมสร้างบ้านเรือนเป็น
สภาพภูมิประเทศของอำเภอสีชมพู มีลักษณะ บ้านไม้ยกใต้ถุนสูง เพื่อป้องกันอันตรายจาก
คล้ายแอ่งกระทะขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา มีรูป สัตว์ป่าและน้ำไหลหลาก อาศัยใต้ถุนบ้านที่
ทรงงดงามและหลากหลาย อีกทั้งมีดิน น้ำ ป่าไม้ โล่งกว้าง เป็นที่จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือ
และพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ประชาชนส่วน เครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ หรือไม่ก็เป็น
ใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ด้วยการพึ่งพาอาศัย คอกวัวควาย อีกทั้งใช้เป็นพื้นที่พบปะพูดคุย
ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนิน ปรึกษาหารือกัน ส่วนด้านบนเรือน จะแบ่ง
ชีวิต อีกทั้งมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีศิลปวัฒนธรรมที่ ออกเป็นห้องๆ เช่น มีห้องนอน ห้องครัว
งดงาม เช่นวัฒนธรรมการสร้างบ้านเรือน มีความ ห้องโถงรับแขกผู้มาเยือน และชานระเบียง
เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับวิถีความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม รับลมรับแดด
ประเพณี และสอดคล้องกับภูมิประเทศที่ล้อมรอบ
ด้วยภูเขา มีห้วย หนอง คลอง บึงและแม่น้ำหลาย อำเภอสีชมพู ได้สร้างเรือนโบราณของ
สายไหลผ่านตลอดปี อำเภอสีชมพู โดยตั้งชื่อว่า “เฮือนรวมใจไท
สีชมพู” มีความหมายว่า เรือนที่สร้างขึ้นมา
จากความร่วมแรงร่วมใจกันของประชาชน
ชาวอำเภอสีชมพู เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่ง
ความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทร
มิตรไมตรี และยั่งยืนของผู้คนอำเภอสีชมพู
ฉบับที่ 15/2
คอลัมน์พิเศษ "เฮื อนรวมใจไทสี ชมพู"
พิธีขึ้นบ้านใหม่ "เฮือนโบราณ วิถีไทบ้านคนขอนแก่น"
งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2565
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
คอลัมน์พิเศษ
ประมวลภาพพิธี
รำบวงสรวง
๑๐ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองขอนแก่น
งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว
งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี ๒๕๖๕
คอลัมน์พิเศษ ฉบับทีี่ 15/4
งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว
งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และ
งานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2565
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565
ฉบับที่ 15/7
คอลัมน์พิเศษ
: สรยุทธ วาระกูล
“ความรุนแรงในสถานศึกษา
เกิดขึ้นได้อย่างไร ?” (1)
มีคลิปคุณครูดนตรีลงโทษเด็กนักเรียนด้วยวิธีการอันรุนแรงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลัง
ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ผ่านมาแล้วร่วม 4 เดือน
ผมลองไปไล่อ่านคอมเมนต์ในกระทู้เพจต่างๆดู ก็เห็นว่าคุณครูท่านนี้ได้ตกเป็นจำเลยสังคมไป
เรียบร้อยแล้ว ยังดีว่ามีท่านผู้อำนวยการเขต(สพม.) ที่ออกมาพูดแบบกลาง ๆ กันเอาไว้ให้เล็กน้อย
เมื่อไล่เรียงจากข่าว จึงทราบว่าข้อเท็จจริงคือ เด็กทะเลาะวิวาทกัน คุณครูรายนี้จึงใช้วิธีการ
ลงโทษซึ่งต่างไปจากที่กฎกระทรวงกำหนด หากมองในแง่ของการใช้ความรุนแรง แน่นอนอย่าง
ที่สุด คุณครูรายนี้ทำไม่ถูกต้องตั้งแต่เรียกเด็กขึ้นไปยืนบนฐานของเสาธงต่อหน้าเพื่อนนักเรียนนับ
ร้อย
....แต่!!!....ในแง่คิดของผม ในฐานะที่เคยอยู่กับเด็กๆและเยาวชนมาร่วม 40 ปี แม้ว่าจะไม่นิยม
ความรุนแรงเท่าไรนัก แต่ผมจะขออนุญาตวิเคราะห์สถานการณ์ของสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อ
พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนไทยในยุคหลัง ๆ ให้เข้าใจพอสังเขปดังนี้ว่า...แต่ก่อนอื่นที่ผมจะข้าม
ไปยังประเด็นต่าง ๆ ตามที่เกริ่นไว้ ผมขอยืนยันความคิดของตนเองอีกครั้งว่า หากนำงานวิจัยที่เวิ่น
เว้อของนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์และการแก้ไขปัญหาของเด็กและ
เยาวชนมาจับสถานการณ์ย่ำแย่เหล่านี้ เราก็แทบจะมองไม่เห็นข้อเท็จจริงอะไรเลย ด้วยแพทเทิร์น
วังวนที่ซ้ำซากและอ่อนช้อยไม่เหมาะสมกับไซส์ของสภาพแวดล้อมในสังคมยุคปัจจุบัน คล้าย
กิจกรรมตีเมืองกินขนมครกของภาครัฐที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหายาเสพติดประมาณนั้น แต่อย่างไร
ก็ตาม ผมเองก็เข้าใจเช่นกันว่า มันยาก! เพราะติดขัดด้วยข้อกฎหมายมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน
สังคมก็ไม่ต้องการเห็นภาพคน(เลว)ของรัฐลงไปเกลือกกลั้วกับสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นด้วยเช่นเดียวกัน
และเชื่อว่ามันจะคะคานความรู้สึกของพี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง
ติดตามต่อในวารสารอำเภอสีชมพู ฉบับที่ 16 ครับ....
ฉบับที่ 15/8
พระสงฆ์ นั กสั งคมสงเคราะห์
ที่มา : ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ คณะสงฆ์อำเภอสีชมพู
ฉบับที่ 15/9
ประวัติความเป็นมา
บ้านขมิ้น ม.4 ต.ศรีสุข
บ้านขมิ้น หมู่ที่4 ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น บ้านขมิ้น มีเส้นทางคมนาคมสู่ตัวอำเภอโดยใช้เส้น ทำเนียบผู้ใหญ่บ้าน
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2425 - ปัจจุบันก่อตั้งหมู่บ้าน ทางหลวงจังหวัดสาย 228 ชุมแพ - อุดรธานี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ๑. นายจันทร์ เปสี
มาแล้ว 140 ปี มีผู้ใหญ่บ้านจนถึงบัจจุบัน 10 คน ที่ ที่ราบลุ่ม ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย สำหรับทำการเกษตร ๒. นายโล้น คำภากุม
ตั้งชื่อว่าบ้านขมิ้นนั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า อาศัยแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีอยู่ในหมู่บ้าน แหล่งน้ำที่สำคัญ ๓. นายชาลี พิมพ์สอน (๒ สมัย)
เถาวัลย์ของขมิ้นคนเฒ่าคนแก่จึงตั้งชื่อว่าหมู่บ้าน ของหมู่บ้าน ส่วนมากเกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มีลำห้วยทราย ๔. นายคำพา คำบู่ (ขึ้นอำเภอภูเวียง)
ขมิ้น บ้านขมิ้นตั้งอยู่ทางทิศใต้ของที่ว่าการอำเภอ ขาว ลำห้วยลอมไผ่ ลำห้วยวังยาง โดยอาศัยน้ำจากธรรมชาติ ๕. นายทองม้วน คำภากุม (ขึ้นอำเภอชุมแพ)
สีชมพู ระยะทางถึงที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน 3 กิโลเมตร คือน้ำฝนเพียงอย่างเดียว แหล่งน้ำธรรมชาติเป็นแหล่งที่อยู่ของ ๖. นายจันทา ศรีโคตร
และห่างจากจังหวัดขอนแก่น 111 กิโลเมตร สัตว์น้ำและการดำรงชีวิตของชุมชนซึ่งสภาพแหล่งน้ำนั้น ๗. นายเต็ม วรรณเวช
ถนนลาดยางตลอดเส้นทาง พื้นที่ของหมู่บ้านขมิ้นมี สามารถเก็บกักน้ำได้เพราะมีการขุดลอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ๘. นายโสภา สมผล (ขึ้นอำเภอสีชมพู)
พื้นที่ประมาณ 3,700 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัย 200 ไร่ มีประปาหมู่บ้านไว้ใช้อุปโภคในครัวเรือน ๙. นายถนอม เกื้อหนุน
และที่ทำการเกษตร 3,500 ไร่ ๑๐. นายประมวน นามมงคูณ (ปัจจุบัน)
บ้านขมิ้น มีจำนวนประชากรตามทะเบียนบ้าน 280 ครัว
เรือน ประชากรทั้งหมด 923 คน ชาย 569 คน หญิง 454 คน คำขวัญบ้านขมิ้น
ประชากรนับถือศาสนาพุทธ ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ บ้านขมิ้นดินดำน้ำสุ่ม คุณธรรมประกอบ
เกษตรกรรมเป็นหลัก เช่น การทำนา เลี้ยงสัตว์ และยังมีอาชีพ พร้อมประครองไว้แต่สิ่งดี สีเหลืองเหลื่อม
เสริมที่ทำรายได้ให้ราษฎรอีก เช่นปลูกพืชผัก การจักสาน ทอ เหลืองเรืองรองของขมิ้นชิ้นใหญ่ สมุนไพรอยู่
เสื่อกก รอบฮั้ว บ่อกลัวย้านเรื่องคัน หากินกันได้ปลา
แก่ผักสด มีหมดสู่อัน พืชพันธ์ธัญญาพร้อม
อาณาเขต กับทั้งของถนอมใช้ โสร่งไหมสิ้นหมี่ บ้านขมิ้น
ทิศเหนือ ติดต่อกับ เทศบาลวังเพิ่ม หมู่สี่ ชั่งแม่นดีกะด้อ คันอยากพ้อให้แหว่ยาม
ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านโนนหัวนา ตำบลศรีสุข
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านหินลาดทุ่งโพธิ์ ตำบลศรีสุข
ทิศตะวันตก ติดต่อกับบ้านโสกหาด เทศบาลวังเพิ่ม
ที่มา..นายประมวน นามมงคูณ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4
ฉบับที่ 15/10
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565
ฝ่ายปกครองตำบลภูห่าน โดยท่านหนูเทียน มังกร กำนันตำบล
ภูห่าน นายณรงค์ภร ภิญโญสุขจรุงชัย นายก อบต.ภูห่าน
พร้อมด้วยผู้นำตำบลภูห่าน ได้นำต้นหว้าสีชมพูไปปลูกที่เฮือน
โบราณ (เฮือนรวมใจไทยสีชมพู ) เพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565
นายบุญเลิศ ชูรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบริบูรณ์ และ
นายวีระศักดิ์ สีทาดี ประธานสภา อบต. บริบูรณ์ พร้อมด้วย
ประชาชนจิตอาสาได้ช่วยกันนำยางมะตอยกลบซ่อมแซ่มหลุม
ถนนทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อความสะดวกในการเดินทางและ
ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ที่มา..ตำบลภูห่าน/ตำบลบริบูรณ์
ฉบับที่ 15/11
วันที่ 21 - 24 พฤศจิกายน 2565
ตำบลบ้านใหม่ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการไปประดับตกแต่ง (เฮือนรวมใจ
ไทสีชมพู) โดยนายวุฒิศักดิ์ ทองจีน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 นายอนุสรณ์
บุดดาเวียง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายวีระนนท์ คุยเพือภูมิ
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ และนายสุรินทร์ ดีมูล
ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลภูห่าน พร้อมทีมงาน
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565
บ้านหนองแสง หมู่ที่ 8 ตำบลนาจาน ได้รวมทีมนางรำเพื่อ
ฝึกซ้อมรำ เตรียมพิธีขึ้นบ้านใหม่ เฮือนไทยโบราณ
"เฮือนร่วมใจไทสีชมพู" และในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
ที่มา..ตำบลนาจาน/ตำบลบ้านใหม่/ตำบลภูห่าน
ฉบับที่ 15/12
เ รี ย น จ บ ก ศ น .
ส มั ค ร เ ป็ น ผ ญ บ . ไ ด้ ห รื อ ไ ม่ ?
ต่อจากฉบับที่ 14...
โดย นายปกครอง
ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายทองมิได้เข้าเรียนใน
โรงเรียนประถมศึกษาในขณะที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 8 ตามระบบการศึกษาภาคบังคับตามปกติ
แต่เพิ่งเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาจาก กศน.ในภายหลัง และจบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2549
(อายุ 40 ปี) ซึ่งการจะถือว่าบุคคลใดสำเร็จการศึกษาภาคบังคับได้นั้น ย่อมต้องพิจารณาหลัก
เกณฑ์ตามอายุและกฏหมายเกี่ยวกับการศึกษาที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นเป็นสำคัญ เมื่อ
นายทองมิได้เข้ารับการศึกษาภาคบังคับตามช่วงอายุที่กำหนดไว้ในกฏหมายจนมีอายุเกินกว่าจะ
เข้ารับการศึกษาภาคบังคับตามปกติได้แล้ว จึงเป็นการพ้นวิสัยที่จะให้นายทองกลับเข้าไปรับ
การศึกษาภาคบังคับได้อีก
การที่นายทองสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาจาก กศน.นั้น แม้จะไม่อาจถือว่าสำเร็จการ
ศึกษาภาคบังคับตามช่วงอายุที่กำหนดในพระราชบัญญัติประถมศึกษา (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2505
ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ฯ มาตรา 12 แล้ว เห็นได้ว่า ผู้ที่จะ
ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต้องมีพื้นฐานความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับหรือที่กระทรวง
ศึกษาธิการเทียบไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ เมื่อการศึกษาภาคบังคับตามช่วงวัยของ
นายทอง คือ ชั้นประถมศึกษาตอนต้นแล้ว การที่นายทองสำเร็จการศึกษาจาก กศน. โดยตาม
ระเบียบแสดงผลการเรียนระบุว่าเป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ซึ่งแม้มิใช่
การศึกษาในระบบภาคบังคับตามปกติที่ควรจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติประถมศึกษาฯก็ตาม
แต่เป็นการสำเร็จการศึกษานอกโรงเรียนในระดับประถมศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พ.ศ.2544 อันเทียบเท่าการศึกษาในระดับประถมศึกษาตามพระราชบัญญัติลักษณะ
ปกครองท้องที่ฯ เมื่อกฎหมายมิได้กำหนดช่วงอายุของการศึกษาในระบบ กศน. เอาไว้เหมือนกับ
การศึกษาภาคบังคับ นายทองจึงสามารถเข้าศึกษากับ กศน.ได้
ดังนั้น การที่นายทองสำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษาจาก กศน. จึงถือได้ว่านาย
ทองเป็นผู้ที่มีพื้นความรู้เทียบได้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ ตามมาตรา 12 (14) แห่งพระ
ราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ฯ และการที่นายอำเภอไม่วินิจฉัยว่านายทองเป็นผู้ขาด
คุณสมบัติ ที่จะเป็นผู้ใหญ่บ้านและมิได้มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จึงไม่เป็นการ
ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด
ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่า นายทองลงทะเบียนเรียนไม่ถูกต้องตามหลักสูตรการศึกษาของ
กศน.นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏตามระเบียนแสดงผลการเรียนว่า เป็นการลงทะเบียนเรียนเกิน
จำนวนหน่วยกิตที่กำหนดในภาคการศึกษา ซึ่งผู้ฟ้องคดีได้มีการขอตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ
นายทอง โดยต่อมา กศน.ได้แจ้งว่านายทองสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ฉบับที่ 15/13
เ รี ย น จ บ ก ศ น .
ส มั ค ร เ ป็ น ผ ญ บ . ไ ด้ ห รื อ ไ ม่ ?
โดย นายปกครอง
พ.ศ.2544 โดยจบการศึกษาระดับประถมศึกษา และมีหนังสือรับรองว่านายทองได้รับอนุมัติให้
จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาแล้ว หนังสือดังกล่าวจึงเป็นการใช้อำนาจตามกฏหมายของ
เจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลอันเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา
5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ย่อมมีผลตราบเท่าที่ยังไม่มี
การเพิกถอนหรือสิ้นผลลงโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่นตามมาตรา 42 วรรคสองแห่งพระ
ราชบัญญัติเดียวกัน ข้อโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีจึงฟังไม่ขึ้น ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา
ยกฟ้อง(คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อร. 26/2565)
หลักการสำคัญที่ได้จากคดีดังกล่าว อันถือเป็นบรรทัดฐานการปฏิบัติราชการสำหรับผู้มี
อำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านในเรื่องวุฒิการศึกษา คือ
1. วุฒิการศึกษาเป็นคุณสมบัติสำคัญในการสมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งการ
สำเร็จการศึกษาภาคบังคับตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ฯนั้น
จะพิจารณาขณะที่ผู้สมัครมีอายุครบตามหลักเกณฑ์ที่กฏหมายเกี่ยวกับการศึกษาซึ่งใช้บังคับใน
ขณะนั้นกำหนดไว้ กรณีหากผู้สมัครไม่ได้เข้ารับการศึกษาภาคบังคับตามปกติ โดยล่วงเลยเวลา
ที่กำหนด แต่ได้เข้ารับการศึกษาและสำเร็จการศึกษาจาก กศน. ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าการศึกษา
ภาคบังคับแล้ว ย่อมถือว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติด้านการศึกษาครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ฉะนั้น บุคคลที่จบการศึกษาจาก กศน. ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าการศึกษา
ภาคบังคับ จึงมีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาประกอบกับ
คุณสมบัติประการอื่นๆที่กำหนดไว้ในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันด้วย
2. หนังสือรับรองผลการศึกษาที่ระบุว่า บุคคลใดได้รับอนุมัติให้จบการศึกษาในระดับ
ใด ถือเป็นคำสั่งทางปกครองตามกฏหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ซึ่งย่อมมีผลตราบ
เท่าที่ยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผลลงโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น ดังนั้น เมื่อยังไม่มีการ
เพิกถอนวุฒิการศึกษาของบุคคลใด จึงยังคงถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้สำเร็จการศึกษาตาม
หลักสูตรที่กำหนดไว้ในหนังสือรับรองผลการเรียนนั้น
(ปรึกษาการฟ้องคดีปกครองอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ สายด่วนศาลปกครอง 1355 หรือศึกษา
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.admincourt.go.th)
ฉบับที่ 15/14
ผลิตภัณฑ์กลุ่มทำไม้กวาดดอกหญ้า
บ้านเบญจวัลย์ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านใหม่
อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
เป็นไม้กวาดดอกหญ้าคุณคุณภาพดี
1 มัดมี 10 ด้าม ราคา 350 บาท
ซื้อ 1 ด้าม ราคา 40 บาท
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่
062-3351671 คุณธีรภัทร
ฉบับที่ 15/15
ตลาดสีเขียวฉบับนี้มารู้จัก นายสมคิด ดีมูล อายุ 48 ปี
เกษตกรผู้เลี้ยงกระบือพื้นบ้านเป็นอาชีพ นายสมคิด เล่าว่า “เริ่มเลี้ยง
กระบือพื้นบ้าน ตั้งแต่ปี 2539 ถึงตอนนี้ก็ 26 ปีแล้ว จากที่ซื้อมาเลี้ยง
เพียงแค่สองตัวหลังจากนั้นก็ซื้อมาเพิ่มเรื่อยๆ และได้ออกลูกปีละ
1ครั้ง การเลี้ยงกระบือไม่ยุ่งยากเพียงแค่มีเวลา ให้ทุกวันแค่นั้นพอ
การเลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติ ทำมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ตายาย ปัจจุบัน
นายสมคิด มีกระบือพื้นบ้าน 30 ตัว และแต่ละปีจะจำหน่ายออกปีละ
5-6 ตัว สร้างรายได้ ปีละ150,000-200,000 บาทหรือต้องการใช้เงิน
ก็ขายได้ตลอด มีแม่พันธุ์กระบือ ที่ให้ลูกได้ 10 ตัว พ่อพันธุ์ที่สมบูรณ์
และสืบพันธุ์ได้ ในฝูง 3 ตัว แต่ถ้าอยากได้พันธุ์ที่ต่างจากที่มีก็สามารถ
นำมาผสมได้ นายสมคิดได้บอกว่า การเลี้ยงแบบธรรมชาติจะมี
อุปสรรคบ้างในฤดูทำนาเพราะพื้นที่ในการเลี้ยงปล่อยน้อยลง หลังจาก
ฤดูเก็บเกี่ยวก็สบาย ยิ่งช่วงนี้ราคากระบือยังไปได้ดี นายสมคิด จะยึด
อาชีพนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดแรง เดินตามไม่ไหว อีกอย่างรายได้
เพิ่มจากการเลี้ยงกระบือ คือ มูล ของกระบือ มีคนมาติดต่อซื้อไปทำ
ปุ๋ยทุกปีแบบเหมาคอก สร้างรายได้ปีละ 8,000-10,000 บาท”
ท่านใดสนใจกระบือพื้นบ้าน สามารถติดต่อดูตัว และสอบถามราคา
ได้ที่ นายสมคิด ดีมูล บ้านเลขที่ 33/1 บ้านโนนงาม หมู่ที่ 3
ต.ภูห่าน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น
โทร 0940090541 ปัจจุบันตำรงตำแหน่งประธานสภา อบต.ภูห่าน
ฉบับที่ 15/16
คลินิกเด็กดี
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสีชมพู
จัดกิจกรรมคลินิกเด็กดีและโรงเรียนพ่อแม่ โดยมีการให้บริการดูแลฉีด
วัคซีนตามวัย ประเมินการเจริญเติบโตและภาวะโภชนาการ ตรวจคัด
กรองและส่งเสริมพัฒนาการเด็กเบื้องต้นเหมาะสมกับวัย คัดกรองการ
ได้ยิน คัดกรองภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก การให้ความรู้
เกี่ยวกับเรื่องวัคซีน อาหารโภชนาการ การเจริญเติบโตสมวัยเพื่อให้พ่อ
แม่และผู้ปกครองสามารถดูแลเด็กได้อย่างเหมาะสม ให้คำปรึกษาเกี่ยว
กับการเลี้ยงดูเด็ก
วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเด็กดีและโรงเรียนพ่อแม่
1.การส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการ เด็กปฐมวัยได้รับการประเมิน
พัฒนาการ การเจริญเติบโต ภาวะโภชนาการ ตามบริการมาตรฐานเด็ก
ปฐมวัยได้รับการส่งเสริมให้มีสุขภาพดีทุกด้าน เช่น ด้านพัฒนาการ การ
เจริญเติบโต ภาวะโภชนาการ สุขภาพกายและทันตสุขภาพ หากพบความ
ผิดปกติจะได้ให้การช่วยเหลือหรือแนะนำตั้งแต่แรกเริ่ม พ่อแม่และผู้เลี้ยงดู
เด็ก ได้รับความรู้และทักษะการอบรมเลี้ยงดู เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีใน
ทุกด้านตั้งแต่แรกเกิด
2. การลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความผิดปกติที่เป็นปัญหาต่อการ
เติบโตและพัฒนาการเด็ก เฝ้าระวังและวินิจฉัยโรคแต่เริ่มแรก และให้การ
รักษาทันที เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด การมองเห็น การ
ได้ยิน ภาวะโลหิตจาง
3. เด็กได้รับวัคซีนป้องกันโรคครบตามเกณฑ์
ที่มา : สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสีชมพู
ฉบับที่ 15/17
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสีชมพู
จัดกิจกรรมโครงการอบรมแกนนำนักเรียนด้านทันตสุขภาพ
จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันให้ถูกวิธี
โดยผู้เข้ารับการอบรมนั้นเป็นตัวแทนนักเรียนชั้น ป.4-ป.6
จำนวน 60 คน เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
ที่มา : โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสีชมพู
ข่าวประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร
สำนักงานเกษตรอำเภอสีชมพู
Srichompu Agricultural 043-399111
สำนักงานเกษตรอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
วันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 นายฉลอง เชื้อสาวะถี
เกษตรอำเภอสีชมพู มอบหมายให้ น.ส.อัญรินทร์ พิมพ์อิทธิภัทร
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ พร้อมด้วย
น.ส.เพชรพริ้ง แพงคำรักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติ
การ เข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการพัฒนาเจ้าหน้าที่เป็น
ที่ปรึกษาเกษตรกรและเป็นวิทยากรด้านมาตรฐาน GAP
ณ โรงแรมวีวิช อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ภาพบรรยากาศการสัมมนา ในวันที่ 23-24 พ.ย. 2565 ณ รร.วีวีช จ.ขอนแก่น
และในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ได้ร่วมกับ นักวิชาการส่ง
เสริมการเกษตรจากภาคอิสานทั้ง 20 จังหวัด รวม 100 ราย
ลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติและให้ข้อมูลแนวทางการผลิตพืชผัก ตาม
มาตรฐาน GAP ณ.แปลงหัวไชเท้าเกษตรกร ต.หินตั้ง และ
แปลงมะม่วงเกษตรกร ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ซึ่งเมื่อจบการอบรมสัมมนาฯ เจ้าหน้าที่ต้องนำองค์ความรู้ดัง
น.ส.อัญรินทร์ พิมพ์อิทธิภัทร น.ส.เพชรพริ้ง แพงคำรักษ์ กล่าว มาใช้ในการเป็นที่ปรึกษาเกษตรกรและเป็นวิทยากร
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ด้านมาตรฐาน GAP ในกลุ่มผู้ปลูกพืชผักและไม้ผลในพื้นที่
อ.สีชมพู ต่อไป
ภาพการขนส่งหัวไชเท้าจากแปลงปลูกปโรงคัดทำความสะอาด ภาพเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากเกษตรกรผู้ปลูกหัวไชเท้า
ภาพเจ้าหน้าที่ตรวจพื้นที่เบื้องต้น ภาพเกษตรกรทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนเข้าโรงคัด
เรียบเรียง/จัดทำ : เพชรพริ้ง แพงคำรักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ฉบับที่ 15/18
ฉบับที่ 15/19
ฉบับที่ 15/20
ฉบับที่ 15/21
ฉบับที่ 15/22
ฉบับที่ 15/23
ฉบับที่ 15/24
ฉบับที่ 15/25
ฉบับที่ 15/26
โบว์รักสีชมพู
ตั้งแต่ปี 2561 เมื่อมีตำแหน่งมีเงินเดือน "น้องโบว์" ก็เริ่มเก็บออม
เงินเดือนทุกเดือนๆละ 1,000 บาทมาตลอดถึงปีนี้ 2565 ก็เพื่ อสิ่งนี้.
ถนนหมายเลข2159 ครั้นมาจาก อ.เกษตรสมบูรณ์ มาถึงหน้า
รพ.สต.โนนกอก ที่อยู่ขอบซ้ายถนนก็เจอถนนหมายเลข 4088
เป็นทางลัดไป อ.หนองบัวแดง จากหน้า รพ.สต.นี้ตรงตามถนน
หมายเลข 4088 มาแค่ 7 กิโลเมตร มาถึงบ้านท่าคร้อก็เจอทางแยกลง
ขอบขวาเป็นถนนสายมุ่งสู่ภูฯ มีเสาและสายไฟฟ้าเป็นสิ่งสังเกตเห็นชัด
เมื่อขับมาอีกแค่ 1.8 กิโลเมตร ขอบถนนซ้ายมือก็ถึงจุดเช็คอิน
"วิวหลักล้าน" แลเห็นภาพมุมกว้างเต็มตาและสุดสายตาเห็นเทือกเขา
ภูแลนคาอยู่ทางทิศตะวันขึ้นและเทือกภูเขียวอยู่ทางทิศตะวันตกภูแต่
ตรงกลางภาพมุมกว้างๆ ก็เห็นทุ่งนาข้าวนาอ้อยและทิวไม้เป็นแถว
แนวบนคันนา.
ฉบับที่ 15/27
ปี 2554 "น้องโบว์" เป็นสาวสำนักงานกองเลขาของคนทำงานวิจัย "ตั้งแต่หันมาเฮ็ดแบบนี้กะแทบบ่ได้ซื้อแนวกิน
เพื่อท้องถิ่น "ชุดภูกระแต" ก็มี "อ้ายปุ๊" ขับมอเตอร์ไซค์มา...ประจำ. คือจั่งแต่ก่อนเพราะของกินกะมีพอได้กินไก่กะ
ผืนดินวิวงามนี้เป็นที่ดินมูล (มรดก)ของพ่อ-แม่"อ้ายปุ๊" จำนวน2แปลง หลายปลากะมี" น้องโบว์ว่า
ติดกันแปลงทิศตะวันขึ้น(เมื่อยืนและหันหน้าลงทิศใต้) เป็น "นส3.ก "
พื้นที่ 5 ไร่ กับ 2 งานและเมื่อยืนอยู่ที่เดิมและหันหน้าลงทิศใต้เช่นเดิม "ตอนแรกๆผมกะอยากปลูกต้นนั้นต้นนี้เห็นเพิ่นปลูกกะ
ผืนดินแปลงขวามือคือทิศตะวันตกภูเป็น "ภบท.5" พื้นที่ 4 ร่ อยากมีคือเพิ่นแต่ผมปลูกแล้วมันกะตาย ตอนหลังๆมา
ผมให้ต้นไม้มันเลือกอยู่ของมันเอง" อ้ายปุ๊เอ่ย
แต่เดิมโน้นพื้นที่ทั้งหมดก็ทำนาปลูกข้าวเท่านั้น แต่มาถึงปี 2554 "กะค่อยๆทำไปเรื่อยๆเน๊าะอ้ายเน๊าะ โบว์อยากให้ที่นี่เป็น
เริ่มปลูกอ้อยแทนข้าว ครั้นถึงปี 2560 รื้ออ้อยออกบางส่วนเพื่อทำนา แหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อไปถึง "คนนอนนา-โคกหนองนา"
ข้าวและปีถัดมา 2561 รื้ออ้อยออกหมดสิ้นเพื่อทำสิ่งนี้สิ่งที่ใจปอง. อีกหลายที่ของเครือข่ายฯทั้งฝั่งภูแลนคาภูกระแตและฝั่ง
ปีแรกๆเมื่อเริ่มทำ "น้องโบว์กับอ้ายปุ๊" ต้องเจอคือได้ยินคำเว้าของปู่-ย่า เทือกภูเขียว" อ้ายปุ๊กะเว้าอีกว่า "...เลขาของนายก อบจ.
(พ่อ-แม่ของอ้ายปุ๊) ว่า...แต่ทั้ง 2 ก็ยังหยัดยืนครองใจของกันและกันไว้ ชัยภูมิ เพิ่นกะมาเห็นแล้วเพิ่นกะว่า งามหลายวิวงามคัก
ให้คงเดิม. เป็นตามานอนจักหลายๆคืน"
ปี 2562 ขุดบ่อบาดาลและติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์สำหรับระบบให้น้ำ
กับพืชในผืนดินแปลง "นส.3ก" และปี 2563 ขุดคลองในที่ดินแปลงนี้
ส่วนแปลง "ภบท.5" ขุดสระ (บ่อเก็บน้ำ) เมื่อปี 2554 ซึ่งขอบบ่อทั้ง 4
ด้านเป็นที่อยู่ของพืชพรรณ ขอบทิศเหนือติดขอบถนนสายมุ่งสู่ตีนเทือก
ภูเขียวกับขอบทิศตะวันตกภูก็เป็นทิวไผ่ ขอบด้านทิศใต้สร้างเถียงนาและ
มีต้นสะเดา มะม่วง ส่วนขอบด้านทิศตะวันขึ้นมีมะขามเทศ มะขามหวาน
น้องโบว์ (น.ส.ธนัชญา โม้งน้อย) เกิดเมื่อปี 2533
ที่บ้านหนองโสน ต.หนองข่า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ บ้านนี้อยู่ตีนภู
กระแตด้านทิศใต้ "น้องโบว์" มีน้อง 1 คน พ่อเป็นพี่ชายของ
"อบต.น้อย" (อุทิศ โม้งน้อย)
ปี 2555 แต่งงานกับ "อ้ายปุ๊" ปี 2556 ก็อยู่บ้านปู่เฮือนย่าบ้านฉนวน
(มาอยู่เลี้ยงปู่เลี้ยงย่าและครองมูลของลูกชายโทน-ลูกชายเดียว)
อ้ายปุ๊ (สุชาติ กินโนนกอก) เกิดเมื่อปี 2528
ที่บ้านฉนวน ต.หนองย่า อ.เกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ
ทั้ง 2 มีลูกชายคนเดียว
"น้ำพุ" (ด.ช.ธนาวิชญ์ กินโนนกอก) อายุ 9 ขวบ.
ฉบับที่ 15/28
. เฮื อนโฮมใจไทสีซมพู
(กลอนอ่ านอั กษรสังวาด ล้ านช้าง)
๏ เฮื อน ปุ กสร้าง ส ว ย ส ง่ า แ ง ง ง า ม
โฮม แฮงศรัทธา ซ่างดี ฝีมือโก้
ใจ ต่ อใจผสานสู้ สูงพูนแพงค่ า
ไท ใดมาพบพ้อ สะออนโอ้ อิ่ มหทัย
๏ สี สันแสนอาจเอ้ เฮื อนเก่ าซาวอี สาน
ซม แซวแนววิถี ปราชญ์ปู มภูมิบ้าน
พู พูนเป็นมูนไว้ ไ ท สี ซ ม พู ม อ บ
สนอง ดำริล้ำ งามย้อนยุ คสมัย
๏ เพื่อสืบ ฮอยเผ่าเซื้อ สานต่ อวันนาน
สื่อภูมิ ปัญญาญาณ สู่ ซ น ภ า ย ซ้ อ ย
สะออน เฮื อนสูงซานแจ้ ง แงงเงายามค่ำ
เสียงแคน ลำผ่านผ้าย ภายคุ้ มข่วงสนาน
๏ ลำนำ กวีวาทต้ าน ขานเล่ าตำนาน
ปางปู่ย่า ตายาย ท ว ด ทำ ท า ง ไ ว้
เป็นฮี ต ฮอยคองเค้ า วิถี ไทลาวเก่ า
ปุ กเฮื อน สูงยกไว้ หลายใซ้ผะโยชน์ ผล
๏ จึ่ งถึ ง วันหว่างนี้ ดี ฤกษ์ มงคล
เมืองขอนแก่ นสมัย ท่านไกรสรสรรค์ สร้าง
มูนมัง ฮั กษาไว้ เฮื อนโฮงงามค่ า
ซาวหก หลั งยุ คย้อน ถาวรไว้ฮ่ำเฮี ยน
๏ สาธุ ขอผู้มีส่วนสร้าง สูงค่ าอานิ สงส์
บุ ญเมลื องเฮื องฮอง ฮุ่ งไสวไปหน้ า
อย่าสุ มีคาข้อง ส ม ห วั ง ทุ ก สิ่ ง
มาเฮื อนสีซมพูจ่ งสุขล้ำ มาแล้ วซุ่มเย็น คนเยอ๚๛
. .ชาตรี เสงี่ยมวงศ์
. . ๒๗ พ.ย. ๒๕๖๕
ฉบับที่ 15/29
: ประทีป แซมไพร , ปราโมช ปราโมทย์
แสดงความยินดี บทกวีศรีรังสรรค์
..... อุ ณ ห ภู มิ คุ้ ม ภั ย
แสดงความยินดีกับพี่น้ องไทบ้าน ๏ คำร่ำลือถือกันว่าพยากรณ์
ใช่กล่าวย้อนบอกล่วงหน้าไปไกลโพ้น
ที่จะมีงานการทำบุญผูกเสี่ ยว พยากรณ์พยากงคงจะโดน
ทุกคนร่วมมือคือหัวใจหนึ่ งเดียว ใช่จักโหนถูกเผ็งเองหนึ่งเดียว
หลังการเก็บเกี่ยวเที่ยวงานไหมนานาชาติ ๏ ว่าเหมันต์ปีนี้จักน้าวหนาว
ก ว่าปีก่อนจะกล่าวเล่าขานเคี่ยว
พอเหมันต์ผันหน้ามาจริงเจียว
ผู้คนยินดีกับพี่น้ องเมือง "ขอนแก่น" กลับไม่เฮี้ยวเกี่ยวข้าวยังร้อนรน
หนุ่ ม-สาว ควงแขนแฟนเที่ยวงานกาชาด ๏ เปิงเพลงเกี่ยวเทียวจมท่วมฝนฉ่ำ
ฟ่อนข้าวร่ำพรำพรมโซมน้ำฝน
ผู้นำท่านมี หน้ าที่ วิสั ยทัศน์ ห น้าหนาวบ่หนาวกลับชุ่มชล
ไกรสร กองฉลาด ท่านประกาศให้โลกลือ รอแดดรนท้นท่วมอ่วมอรทัย
๏ วิปริตผิดแผกแทรกรุมเร้า
โลกร้อนเร่าเผาผลาญร่านยุคสมัย
แอก ไถ ดีใจที่ท่านได้ออกบ้าน ร้อนฝนหนาวร้าววนทนกันไป
หลังจากตกงานชาวบ้านวางมือถือ ท ุกฤดูขู่ไล่ต้อนเราเศร้าประจำ
ไม้เก่าเหลาใหม่เชื่อในหัวใจฝีมือ ๏ วันเคลื่อนเดือนปีที่วนวก
ล้วนแล้วนั้ นคือภูมิปัญญาชาวบ้าน
มรดกดินน้ำลมไฟให้ลึกล้ำ
ห้วงบัดนี้มิแยกฤดูคู่บุญกรรม
หมู่บ้านกลางเมืองเสี ยงผู้คนโฮแซว
เราต้องทำใจในกรรมบุญ
เรียงรายเป็นแถวแล้วถิ่นสถาน ๏ ขึ้นอยู่กับซับกุมภูมิอากาศ
ร้อยปีย้อนหลังวังเวียงโบราณ จักระบาดหนาวร้อนฝนปนกระสุน
ให้กาลเวลากาลเป็นผู้ขับขานเรื่องราว ร้อนแล้วหนาวห้าวเม็ดฝนวนชุลมุน
อุณหภูมิจักคุ้มภัยไปตลอดกาล ๚ะ๛
ประทีปแซมไพร : ปลายปี ๒๕๖๕ ปราโมช ปราโมทย์
๒๗๑๑๒๐๒๒
ฉบับที่ 15/30
คำ : คำกาล ธารชีวา
(จิรัชยา ฝอดสูงเนิน)
ฉบับที่ 15/31
" สีชมพู
ในฤดู กาลเก็ บเกี่ ยว "
ที่มา : เพจ เที่ยววิถีสีชมพู
ฉบับที่ 15/32
ที่มา : เพจ เที่ยววิถีสีชมพู
ฉบับที่ 15/33
ที่มา : เพจ เที่ยววิถีสีชมพู
แซ่บรส้าุดนซอย ฉบับที่ 15/34
พิกัด.ถนนสาย
ชุมแพ-สีชมพู
(หน้าโรงเรียนนาจานศึกษา)
↙️สินค้าแนะนำ เป็นร้านอาหารทะเลที่หลาก
หลาย อาทิเช่น ตำ/ยำ รสเด็ด
ปลาร้าแซบสุดซอย ทุกชนิดอัดแน่นด้วยรสชาติ
ที่คุณต้องลอง
ตามด้วยอาหารตามสั่งที่หลาก
หลายเมนู มีไว้ให้คุณลูกค้า
ลิ้มลอง
สถานที่กว้างขวาง
ที่จอดรถสะดวกสบาย
เปิดบริการทุกวัน
ร้านแซ่บสุดซอย
ผู้ใหญ่ศักดิ์ ดาวเทียม
Photo by Dang