The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สารรอบตัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chettana.pangpond, 2022-01-19 20:26:24

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สารรอบตัว

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สารรอบตัว

11. การวดั และประเมินผล
1. กรอบการวัดและประเมนิ ผล แต่ละจดุ ประสงค์การเรยี นรนู้ ำเสนอประเด็นท่ที ำการวดั และ

ประเมินผล วธิ ีการวดั และเคร่อื งมือวดั ดงั ตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K) ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
- นกั เรยี นสามารถอธิบาย หลังเรยี น ขน้ึ ไป ; 6 คะแนน
ความหนาแน่นของสารได้ จาก 10 คะแนน

ด้านทักษะ (P) การปฏิบัติงาน แบบวัดการปฏบิ ตั ิงาน ไดค้ ะแนนรบู ริคส์
- นกั เรยี นสามารถสบื คน้ สงั เกตพฤติกรรม ตั้งแต่ 2 ข้ึนไป
ข้อมูลเก่ียวกับวิธกี ารหาคา่
ความหนาแน่นของสารได้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้คะแนนรบู ริคส์
ต้ังแต่ 2 ข้ึนไป
ด้านคณุ ลักษณะ (A)
- นกั เรียนมคี วามมุ่งมนั่ ในการ
ทำงาน

2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รูบรคิ ส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑร์ ูบรคิ ส์ ท่ี
สร้างขน้ึ สำหรบั การประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑ์รบู ริคส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. นักเรียนสามารถอธบิ ายความ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป
หนาแนน่ ของสารได้ (K)

2. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูล - มคี ุณสมบตั ิ 4 - มคี ุณสมบตั ิ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 - มคี ุณสมบตั ิ 1
เกี่ยวกับวิธีการหาค่าความ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั
หนาแน่นของสารได้ (P) คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ
คณุ สมบตั ิ

1. มขี อ้ มลู ถกู ต้อง

2. มีข้อมูลครบถ้วน

ประเดน็ การประเมิน 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)
3. ดำเนินการสืบค้นขอ้ มูลตาม - มคี ุณสมบัติ 4 - มีคุณสมบตั ิ 1
สอื่ แต่ละประเภทชนิดที่กำหนดขนึ้ ใน 4 ของระดับ - มีคุณสมบตั ิ 3 - มีคุณสมบัติ 2 ใน 4 ของระดบั
คุณภาพ คณุ ภาพ
4. แสดงแหล่งอ้างอิงข้อมูล ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ
ครบถ้วน
3. นกั เรียนมคี วามมุ่งมนั่ ในการ คณุ ภาพ คณุ ภาพ
ทำงาน (A)
คณุ สมบัติ

1. รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีได้รบั
มอบหมาย

2. อดทน ไมย่ ่อท้อต่อ
อปุ สรรคในการทำงาน

3. พยายามแก้ปัญหาในการ
ทำงานใหแ้ ล้วเสรจ็

4. ทำงานเสร็จตามเปา้ หมาย

3. เกณฑ์ประเมนิ ระดบั คณุ ภาพผลการเรียนรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นร้รู ว่ มกันทุกด้าน
เป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑป์ ระเมินตามคะแนนเกณฑ์รบู ริคส์
ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดมี าก มีคะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์ร้อยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ ้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพปรับปรุง มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม
4. เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คุณภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทั้งหมด

ระดับบคุ คล นกั เรียนมีผลงานอยใู่ นระดับ ดี ถอื ว่า ผ่าน (ประกันผลการเรยี นรู้ของนักเรียน)
ระดับกลมุ่ นักเรียนมีผลงานอยู่ในระดับ ดี ไมต่ ่ำกวา่ ร้อยละ 60 ของจำนวนนกั เรยี นท้งั หมด ถือ
วา่ การจดั ประสบการณ์เรียนรูต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ประสบผลสำเรจ็ (ประกันการสอนของครู)
5. เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนนเกบ็ จำนวนคะแนนเกบ็ ........คะแนน จากคะแนนรวมทั้งหมด…...
คะแนน กำหนดวิธีการคิดคะแนนเกบ็ ดงั นี้

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ีต้องการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกจิ กรรมของนักเรยี นแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทุกกิจกรรมทั้งหมดของทกุ กจิ กรรม

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18

กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รหัสวิชา ว21101

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 สารรอบตัว เร่ือง หาค่าความหนาแน่นของสาร เวลา 1 คาบ

ผสู้ อน นางสาวเจตนา บวั รสศกั ดิ์ โรงเรียนเทศบาลเมอื งสุโขทัย

สอนวันท.ี่ ........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวนั ท่.ี ........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบัติของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

2. ตวั ชีว้ ดั
ว 2.1 ม.1/5 อธิบายและเปรยี บเทยี บความหนาแน่นของสารบรสิ ทุ ธแิ์ ละสารผสม

3. สาระสำคญั
ความหนาแน่น (Density) เป็นสมบัติเฉพาะของสารหรือสสารแต่ละชนิด มีความเกี่ยวข้องระหว่าง

มวลกับปริมาตรของสารน้ัน ซึง่ การหาความหนาแน่นสามารถคำนวณได้จากสูตร D = M/V
โดย D คอื ความหนาแนน่ มหี นว่ ยเปน็ กรัมต่อลกู บาศกเ์ ซนติเมตร (g/cm³)
M คือ มวล มีหน่วยเปน็ กรัม (g)
V คอื ปริมาตร มหี นว่ ยเป็น ลูกบาศก์เซนตเิ มตร (cm³)

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายวธิ กี ารหาค่าความหนาแนน่ ของสารได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถคำนวณเพ่อื หาคำตอบเกยี่ วกบั วธิ ีการหาคา่ ความหนาแน่นของสารได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3. นกั เรียนมีความมุ่งมัน่ ในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
วธิ ีการหาคา่ ความหนาแนน่

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

8. ขน้ั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับข้ัน

กิจกรรม ดังนี้
ข้นั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 ครนู ำวัตถุ 3 ชนิดมาใสล่ งไปในนำ้ ให้นักเรียน แลว้ ให้นกั เรียนคาดเดาว่า วัตถทุ ้ัง 3 ชนิดนั้นจะจม
หรือลอย (วัตถุ 3 ชนิด เป็นวัตถุใกล้ตวั ของนักเรียนทีม่ ีทั้งวัตถทุ ี่จมและวัตถทุ ี่ลอยครูสามารถเลอื กมาสาธิตให้
นักเรยี นดไู ด)้

1.2 จากนั้นครูก็ทำการสาธิตจริงๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเปน็ ไปตามการคาดเดาของนักเรยี นหรือไม่ จาก
การสาธิตนี้ ครจู งึ ถามนกั เรยี นวา่ สมบตั ิอะไรของวัตถทุ เ่ี ป็นตวั กำหนดวา่ วตั ถุไหนจะจมหรือจะลอยในนำ้

(แนวคำตอบ สมบตั ิความหนาแน่นของสาร)
ขัน้ ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาท)ี

2.1 ครูตงั้ คำถามเพอ่ื กระตุน้ ความอยากรู้ของนักเรียน ดงั นี้
“รถบรรทกุ 2 คนั บรรทกุ วตั ถุตา่ งชนิดกนั แต่มวลของวัตถุทบี่ รรทกุ ไว้เทา่ กนั นักเรียนคิดว่าส่ิงทบ่ี รรทกุ บนรถ
คนั ใด มคี วามหนาแนน่ มากกว่า เพราะเหตุใด”

(แนวคำตอบ รถบรรทุกท่ีบรรทกุ ท่อนไม้มีความหนาแน่นมากกวา่ เพราะมีปริมาตรมากกวา่ จงึ ส่งผลให้
ความหนาแนน่ มากตามไปดว้ ย)

2.2 นกั เรียนแบง่ เป็น 2 กลุ่มและแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั หาคำตอบ เก่ียวกบั โจทย์ท่ีครกู ำหนดใหต้ ่อไปน้ี
(กลุม่ ที่ 1) วัตถหุ น่งึ มีมวล 150 กรมั ปรมิ าตร 300 ลกู บาศก์เซนติเมตร วตั ถุช้ินนม้ี ีความหนาแนน่
เท่าใด
(กล่มุ ที่ 2) วตั ถุหนง่ึ มีความหนาแนน่ 0.75 กรมั ต่อลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ถ้าวตั ถนุ ้ีปริมาตร 250
ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร จะมีมวลเทา่ ใด
ข้ันที่ 3 การอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (5 นาที)
3.1 นักเรียนแต่กลุ่มร่วมกันแสดงวิธีทำ โดยครูทำหน้าที่เสนอแนะและเพิ่มเติมข้อมูลให้ถูกต้อง
สมบรู ณ์
3.2 จากนั้นนักเรียนร่วมกันอภิปรายลงข้อสรุปว่า ความหนาแน่นเป็นสมบัติของสารที่บอกให้ทราบ
มวลของสารในหนึง่ หนว่ ยปรมิ าตรของสารนัน้ ซง่ึ สามารถเขยี นความสัมพนั ธ์ ไดด้ งั นี้

หนว่ ยของความหนาแนน่ คือ กรมั ต่อลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร หรอื กโิ ลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาที)

4.1 นักเรยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรียน จำนวน 3 ขอ้

ขน้ั ที่ 5 ประเมินผล (Evaluation) (10 นาที)
5.1 ครตู รวจแบบฝกึ หัดหลังเรยี น
5.2 ครูประเมินการทกั ษะการคำนวณจากแบบฝกึ หัด
5.3 ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คลจากการศึกษากจิ กรรม

9. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
สือ่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1
2. Power Point หาคา่ ความหนาแนน่

3. สมุดประจำตัว
4. วตั ถุทงั้ 3 ชนิด ไดแ้ ก่ สกรเู หลก็ ทอ่ นไม้ โฟม
5. บกี เกอร์ขนาด 500 ml.
แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งเรียน
2. อินเทอรเ์ นต็

10. ชิน้ งาน / ภาระงาน
1. แบบฝกึ หัดหลงั เรียน

11. การวัดและประเมินผล
1. กรอบการวัดและประเมนิ ผล แต่ละจดุ ประสงค์การเรยี นรนู้ ำเสนอประเดน็ ท่ีทำการวัด และ

ประเมนิ ผล วิธกี ารวัด และเครอื่ งมือวดั ดงั ตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมินผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัดหลงั เรยี น ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
- นกั เรียนสามารถอธบิ าย หลังเรยี น ขน้ึ ไป ; 6 คะแนน
วิธกี ารหาคา่ ความหนาแนน่ จาก 10 คะแนน
ของสารได้ การปฏิบัตงิ าน
ด้านทักษะ (P) แบบวัดการปฏิบตั งิ าน ไดค้ ะแนนรูบริคส์
- นักเรยี นสามารถคำนวณ ต้ังแต่ 2 ขน้ึ ไป
เพ่อื หาคำตอบเก่ยี วกบั
วธิ กี ารหาค่าความหนาแนน่
ของสารได้

ด้านคุณลกั ษณะ (A) สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ได้คะแนนรูบรคิ ส์
- นักเรียนมคี วามมุ่งมนั่ ใน ต้งั แต่ 2 ขนึ้ ไป
การทำงาน

2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รบู รคิ ส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเปน็ รายขอ้ ของเกณฑ์รูบรคิ ส์ ท่ี
สร้างข้ึนสำหรับการประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ บู ริคส์

ประเด็นการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. นักเรียนสามารถอธบิ ายวธิ ีการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 ขนึ้ ไป
หาคา่ ความหนาแน่นของสารได้ (K)

2. นักเรียนสามารถคำนวณเพื่อหา - มีคุณสมบตั ิ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 - มีคณุ สมบตั ิ 1
ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ
คำตอบเกี่ยวกับวิธีการหาค่าความ ใน 4 ของระดบั คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ

หนาแน่นของสารได้ (P) คุณภาพ - มีคุณสมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 - มีคณุ สมบัติ 1
ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั
คณุ สมบัติ คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ

1. แทนค่าสมการได้ถกู ต้อง

2. แสดงวธิ กี ารคำนวณได้อยา่ ง

ถูกต้อง

3. คำตอบถกู ต้อง

4. มีความคล่องแคล่วในการ

คำนวณ

3. นกั เรียนมคี วามมุ่งมนั่ ในการ - มีคณุ สมบตั ิ 4

ทำงาน (A) ใน 4 ของระดบั

คณุ สมบัติ คุณภาพ

1. รบั ผิดชอบต่องานท่ีได้รบั

มอบหมาย

2. อดทน ไมย่ ่อท้อต่อ

อปุ สรรคในการทำงาน

3. พยายามแก้ปญั หาในการ

ทำงานใหแ้ ลว้ เสร็จ

4. ทำงานเสรจ็ ตามเป้าหมาย

3. เกณฑ์ประเมนิ ระดับคณุ ภาพผลการเรียนรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรู้ร่วมกันทุกดา้ น
เป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรับปรุง แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑป์ ระเมนิ ตามคะแนนเกณฑร์ ูบริคส์
ดังน้ี

ระดับคุณภาพดมี าก มคี ะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ สร์ ้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดบั คุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑร์ บู รคิ สร์ อ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑร์ บู รคิ ส์ร้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม

ระดับคุณภาพปรบั ปรุง มคี ะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์น้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็
4. เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทง้ั หมด

ระดับบุคคล นกั เรยี นมีผลงานอย่ใู นระดบั ดี ถือว่า ผา่ น (ประกนั ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น)
ระดบั กลุ่ม นักเรียนมผี ลงานอย่ใู นระดับ ดี ไม่ต่ำกว่ารอ้ ยละ 60 ของจำนวนนกั เรียนทง้ั หมด ถือ
วา่ การจัดประสบการณเ์ รยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรยี นร้ปู ระสบผลสำเรจ็ (ประกนั การสอนของคร)ู
5. เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนนเกบ็ จำนวนคะแนนเกบ็ ........คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด…...
คะแนน กำหนดวิธีการคดิ คะแนนเกบ็ ดังน้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ีตอ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกจิ กรรมของนักเรียนแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทกุ กจิ กรรมทงั้ หมดของทุกกจิ กรรม

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 19

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1 รหัสวชิ า ว 21101

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 สารรอบตวั เร่อื ง เปรยี บเทยี บความหนาแน่นของ เวลา 1 คาบ

สารบริสทุ ธแ์ิ ละสารผสม

ผสู้ อน นางสาวเจตนา บวั รสศักดิ์ โรงเรยี นเทศบาลเมืองสุโขทยั

สอนวันท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวันท.่ี ........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

2. ตวั ช้ีวัด
ว 2.1 ม.1/5 อธบิ ายและเปรียบเทยี บความ หนาแน่นของ สารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสม
ว 2.1 ม.1/6 ใช้เคร่ืองมือเพ่ือวัดมวลและปริมาตร ของ สารบริสุทธแ์ิ ละสารผสม

3. สาระสำคัญ
มวล คือ ปริมาตรของเนื้อทั้งหมดของสาร ทั้งของแข็งของเหลว และแก๊สต่างก็มีมวล หน่วยของมวล

คือ กรัมหรือกิโลกรัม และปริมาตร คือความจุของวัตถุที่มีรูปทรง 3 มิติ วัตถุทุกชนิดมีปริมาตรทั้งสิ้น หน่วย
ของปรมิ าตรท่ีเปน็ มาตรฐานมีไดห้ ลากหลาย เช่น cm³ หรือ m³ หรอื อนื่ ๆ

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหนาแนน่ ของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสมได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถใชเ้ ครอ่ื งมอื เพอ่ื วัดมวลและปรมิ าตรของสารบริสุทธิแ์ ละสารผสมได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นกั เรียนสามารถทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนได้

5. สาระการเรียนรู้
เปรียบเทยี บความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารผสม

6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

8. ขัน้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับข้ัน

กจิ กรรม ดงั นี้
ข้นั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 นักเรียนสังเกตภาพเรือดำน้ำ แล้วตั้งคำถามว่าความหนาแน่นมีความเกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ
อยา่ งไร

(แนวคำตอบ การที่เรือดำน้ำสามารถดำลงสู่ทะเลลึกได้นั้นต้องทำให้เรือดำน้ำทั้งลำมีความหนาแน่น
มากกวา่ นำ้ และหากตอ้ งการใหเ้ รอื ลอยขึ้นสู่ผวิ นำ้ ตอ้ งทำใหเ้ รือมีความหนาแน่นน้อยกว่านำ้ )

1.2 นักเรียนร่วมกันสังเกตบีกเกอร์ 2 ใบ โดยใบหนึ่งใส่น้ำเกลือ อีกใบหนึ่งใส่น้ำธรรมดา จากน้ัน
หย่อนลูกปัดลงในบีกเกอร์ทั้งสองใบ แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบผลจากกิจกรรม จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้น
ความคดิ ของนกั เรียน ดังนี้

น้ำเกลือ นำ้ ธรรมดา

ภาพท่ี 1 ลูกปัดในบกี เกอรน์ ำ้ เกลอื ภาพที่ 2 ลกู ปดั ในบีกเกอรน์ ำ้ ธรรมดา

- เมือ่ หย่อยลูกปดั ลงในบกี เกอร์ทั้งสองใบแล้ว นกั เรยี นสงั เกตเหน็ อะไรบา้ ง
(แนวคำตอบ ในบีกเกอร์นำ้ ธรรมลูกปดั จม และในบกี เกอรน์ ้ำเกลือลูกปัดลอย)
- นกั เรยี นทราบหรือไม่ เพราะเหตใุ ดจงึ เปน็ เชน่ นี้
(แนวคำตอบ นกั เรยี นสามารถหาคำตอบไดใ้ นขั้นต่อไป)
ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) (15 นาท)ี
2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนเก่ง ปานกลาง ออ่ น คละกนั
2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ พร้อมทั้งแจกใบกิจกรรมที่ 19.1 เรื่อง
ความหนาแน่นของสารบรสิ ทุ ธิ์และสารผสมเป็นอยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (5 นาที)
3.1 เมื่อนักเรียนได้ศึกษาใบความรู้แล้ว ครูอธิบายแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหนาแน่นว่า ความ
หนาแน่นเป็นสมบัติของสารที่บอกให้ทราบมวลของสารในหนึ่งหน่วยปริมาตรของสารนั้น โดยถ้าใช้มวลของ
สารหน่วยกรมั (g) ปรมิ าตรของสารจะใช้หน่วยลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร (cm³)
3.2 นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 19.1 เรื่อง ความหนาแนน่ ของสารบรสิ ุทธ์แิ ละสารผสมเป็นอยา่ งไร
ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาท)ี
4.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน โดยแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนเก่ง ปานกลาง อ่อน คละกนั ให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ระดมความคดิ ภายในกลุ่มตอบคำถามครู ดังน้ี
- วตั ถชุ นดิ หนึ่งมีความหนาแน่น 0.25 g/cm³ ถา้ วตั ถนุ ี้มปี ริมาตร 230 cm³ จะมมี วลเท่าใด
4.2 นักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเขียนสมการบนกระดานแลว้ นำเสนอโดยมีครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วม
แสดงความคดิ เหน็ และตรวจผลงาน
ขนั้ ท่ี 5 ประเมนิ ผล (Evaluation) (10 นาที)
5.1 ครตู รวจใบกิจกรรม
5.2 ครูประเมินการทกั ษะการทดลอง
5.3 ครูสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ เล่ม 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1

2. Power Point เรื่อง ความหนาแนน่
3. บกี เกอร์ 2 ใบ
4. ลูกปัด 2 ลกู
5. น้ำเกลอื
6. น้ำเปล่า
แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องเรียน
2. อนิ เทอร์เน็ต

10. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
1. ใบกจิ กรรมท่ี 19.1 เร่ือง ความหนาแนน่ ของสารบริสุทธแ์ิ ละสารผสมเป็นอยา่ งไร

11. การวัดและประเมนิ ผล
1. กรอบการวัดและประเมนิ ผล แตล่ ะจุดประสงค์การเรียนรนู้ ำเสนอประเด็นทที่ ำการวัด และ

ประเมินผล วธิ กี ารวดั และเคร่ืองมือวัด ดังตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
ใบกิจกรรมท่ี 1
ด้านความรู้ (K) ตรวจใบกิจกรรมท่ี 1 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
- นกั เรียนสามารถอธิบายความ สังเกตพฤตกิ รรม ขนึ้ ไป ; 6 คะแนน
หนาแนน่ ของสารบริสุทธ์แิ ละ จาก 10 คะแนน
สารผสมได้
ดา้ นทกั ษะ (P) แบบวัดการปฏิบตั ิงาน ได้คะแนนรูบรคิ ส์
- นักเรยี นสามารถใชเ้ คร่ืองมือ ตงั้ แต่ 2 ข้นึ ไป
เพือ่ วดั มวลและปรมิ าตรของ
สารบริสทุ ธแิ์ ละสารผสมได้ ไดค้ ะแนนรบู ริคส์
ด้านคุณลักษณะ (A) ตั้งแต่ 2 ข้นึ ไป

- นกั เรยี นสามารถทำงาน สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม
รว่ มกบั ผู้อน่ื ได้

2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑร์ บู รคิ ส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑ์รูบริคส์ ที่
สร้างขึน้ สำหรบั การประเมิน (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑ์รูบริคส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)
- มีคณุ สมบตั ิ 1
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความ ใน 4 ของระดบั
คุณภาพ
หนาแน่นของสารบรสิ ุทธแิ์ ละสาร ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ขน้ึ ไป

ผสมได้ (K)

2. นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือเพื่อ - มคี ุณสมบัติ 4 - มคี ุณสมบตั ิ 3 - มคี ณุ สมบตั ิ 2

วัดมวลและปริมาตรของสาร ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ

บรสิ ทุ ธิแ์ ละสารผสมได้ (P) คุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ

คณุ สมบตั ิ

1. ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง

ตามลำดบั ข้นั วธิ ีการทดลองได้

ถูกต้อง

2. บันทกึ ผลเป็นระยะ

3. สรปุ ผลการทดลองได้

อย่าง ถูกตอ้ ง กระชบั ชดั เจน

4. ใช้ภาษาไดถ้ ูกต้อง

3. นกั เรียนสามารถทำงานร่วมกับ - มีคุณสมบตั ิ 4 - มีคุณสมบัติ 3 - มีคุณสมบัติ 2 - มคี ณุ สมบตั ิ 1
ผู้อ่ืนได้ (A) ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ
คณุ สมบัติ คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ

1. สมาชิกทกุ คนรว่ มกนั แสดง
ความคิดเห็น

2. ทำงานอย่างเป็นระบบ
ทกุ คนรหู้ น้าท่ตี นเอง

3. สมาชกิ ทุกคนร่วมกนั ทำงาน
ได้สำเรจ็ ตามเวลากำหนด

4. สง่ งานครบตรงตามเวลา
กำหนด

3. เกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คุณภาพผลการเรียนรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรรู้ ่วมกันทุกดา้ น
เป็น 4 ระดบั คือ ดมี าก ดี พอใช้ และปรบั ปรุง แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑป์ ระเมินตามคะแนนเกณฑร์ ูบริคส์
ดังน้ี

ระดบั คุณภาพดมี าก มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ ้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดับคุณภาพดี มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ สร์ อ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์ร้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพปรบั ปรุง มีคะแนนตามเกณฑร์ บู รคิ ส์น้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็
4. เกณฑ์การตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนักเรยี นจากคะแนนรวมทง้ั หมด

ระดบั บุคคล นักเรยี นมีผลงานอยูใ่ นระดับ ดี ถือว่า ผา่ น (ประกนั ผลการเรียนรู้ของนักเรียน)
ระดับกล่มุ นักเรยี นมีผลงานอยใู่ นระดับ ดี ไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนนกั เรียนทั้งหมด ถือ
ว่า การจดั ประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ประสบผลสำเร็จ (ประกันการสอนของครู)
5. เกณฑ์การตดั สนิ คะแนนเก็บ จำนวนคะแนนเกบ็ ........คะแนน จากคะแนนรวมทั้งหมด…...
คะแนน กำหนดวิธีการคิดคะแนนเก็บ ดงั น้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนทตี่ อ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกิจกรรมของนักเรยี นแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทุกกจิ กรรมทั้งหมดของทุกกจิ กรรม

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 20

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รหสั วิชา ว21101

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 สารรอบตัว เร่อื ง สมบัติของสารบริสุทธแ์ ละสารผสม เวลา 1 คาบ

ผู้สอน นางสาวเจตนา บัวรสศกั ด์ิ โรงเรยี นเทศบาลเมืองสุโขทยั

สอนวันท่ี.........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวนั ท.ี่ ........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตวั ช้วี ดั
ว 2.1 ม.1/7 อธบิ ายเกยี่ วกบั ความสัมพันธ์ระหวา่ งอะตอมธาตุ และสารประกอบ โดยใชแ้ บบจำลอง

และสารสนเทศ

3. สาระสำคญั
สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สาร

บริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว มีค่าคงที่ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว และความ
หนาแน่น แตส่ ารผสมมีจุดเดือดจุดหลอมเหลว และความหนาแน่นไม่คงที่ ขน้ึ อยู่กับชนดิ และสัดส่วนของสารท่ี
ผสมอย่ดู ้วยกนั

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายลักษณะสมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
2. นักเรยี นสามารถนำเสนอแผนภาพสมบัติของสารบริสุทธ์ิและสารผสมได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นสามารถทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่นได้

5. สาระการเรียนรู้
สมบตั ขิ องสารบรสิ ุทธ์และสารผสม

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

8. ขัน้ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับข้ัน

กจิ กรรม ดงั นี้
ขัน้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 นกั เรยี นรว่ มกันตอบคำถาม ดังต่อไปนี้
- สารบริสุทธิ์คอื อะไร
(แนวคำตอบ สารทีป่ ระกอบดว้ ยอนภุ าคของสารเพียง 1 ชนดิ )
- สารผสมคอื อะไร
(แนวคำตอบ สารทปี่ ระกอบดว้ ยอนุภาคของสารมากกวา่ 1 ชนดิ ผสมกันอยู่)
- สารผสมในชีวิตประจำวนั มีอะไรบา้ ง
(แนวคำตอบ แอลกอฮอล์ล้างแผล น้ำเช่อื ม และฟวิ ส)์
- นกั เรียนสงั เกตภาพนำหน่วยท่ี 2 สารบริสุทธ์ิ ถามนกั เรยี นว่าสิ่งทเ่ี ห็นในภาพมีลกั ษณะอย่างไร
(แนวคำตอบ เชน่ เปน็ ของแข็งและมันวาว เหมือนกนั แต่มรี ปู รา่ งท่ีแตกต่างกันลักษณะเป็นก้อน คด
โคง้ ทรงกระบอกคลา้ ยท่อ)
- ถ้านักเรียนต้องการทราบว่าสิง่ ทีเ่ หน็ ในภาพเป็นสารผสมหรอื สารบริสทุ ธจิ์ ะตอ้ งทำอย่างไร
(แนวคำตอบ เช่น นำไปทดลอง นำไปแยกสาร)

ข้นั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาที)
2.1 นักเรียนเลอื กหัวข้อทต่ี ้องการศึกษาระหวา่ งสารบรสิ ุทธิ์และสารผสม จากนน้ั สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับ

สมบัติของสารบรสิ ุทธแ์ ละสารผสมจากแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ
2.2 นกั เรยี นเขยี นสรุปองค์ความรู้ที่ได้ทำการศึกษาเร่ืองสมบตั ิของสารบริสุทธ์และสารผสมที่ศึกษาลง

ในสมุดประจำตวั
2.3 นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยในกลมุ่ จะมนี กั เรียนท่ศี ึกษาสมบัติของสารบริสุทธ์และสาร

ผสมรว่ มกันแลกเปลีย่ นข้อมลู ท่ไี ดจ้ ากการสืบคน้ และอภิปรายเพ่ือนเกดิ ความเข้าใจภายในกล่มุ
ข้นั ที่ 3 การอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (5 นาท)ี

3.1 นกั เรียนร่วมกนั ลงมอื เขียนข้อสรปุ จากการสบื คน้ ข้อมลู ลงในกระดาษบรู๊ฟ
3.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแผนผังความคิดข้อสรุปที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติของสารบริสุทธแ์ ละ
สารผสม
3.3 นำผลงานนักเรียนตดิ กระดานเพ่อื นใหน้ กั เรยี นคนทกุ คนได้ศึกษาผลงานของเพ่ือนกลุ่มอน่ื เพม่ิ เติม
ข้นั ที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาที)
4.1 นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถามเกี่ยวกับสมบตั ขิ องสารบริสุทธแ์ ละสารผสม ดงั นี้
- เพราะเหตุใด ทองคำแทง่ จงึ เป็นสารบรสิ ทุ ธแิ์ ละทองรูปพรรณจึงเปน็ สารผสม
(แนวคำตอบ เพราะ ทองคำแท่งเป็นสารบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นทองคำ 100% ไม่มีส่วนผสมของโลหะ
ชนดิ อื่นๆ แตท่ องรูปพรรณมโี ลหะชนดิ อน่ื ผสมอยเู่ ช่นเงินทองแดง)
4.2 นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องสมบัติของสารบริสุทธ์และสารผสม ได้ข้อสรุปว่า สารบริสุทธ์ิ
ประกอบด้วยสารเพียงชนดิ เดียว จึงมีสมบัติทางกายภาพคงที่ ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารต้ังแต่ 2 ชนิดข้ึน
ไป โดยไมเ่ กดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี จงึ มสี มบัตทิ างกายภาพไมค่ งท่ี
ขน้ั ท่ี 5 ประเมินผล (Evaluation) (10 นาที)
5.1 นักเรียนร่วมกันอภปิ รายวา่ ได้ความรู้อะไรบ้างจากการเรียน เรื่อง สมบัติของสารบริสุทธิ์และสาร
ผสม และจะนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวันได้อยา่ งไร

9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1
2. Power Point สมบตั ขิ องสารบรสิ ทุ ธิแ์ ละสารผสม
3. กระดาษบรู๊ฟ
4. ปากกาเมจกิ
แหลง่ การเรียนรู้
1. ห้องเรียน
2. อินเตอร์เนต็

10. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
1. แผนผังความคิดเก่ยี วกับสมบัติของสารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสม

11. การวัดและประเมนิ ผล
1. กรอบการวัดและประเมินผล แตล่ ะจุดประสงค์การเรียนรนู้ ำเสนอประเดน็ ที่ทำการวดั และ

ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั และเคร่อื งมือวัด ดงั ตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมินผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวัดผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K) ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60
ขน้ึ ไป ; 6 คะแนน
- นักเรยี นสามารถอธบิ ายลักษณะ ตรวจแผนผงั ความคิด แผนผงั ความคดิ จาก 10 คะแนน
สมบตั ิของสารบริสทุ ธ์แิ ละสาร

ผสมได้

ด้านทกั ษะ (P) การปฏบิ ัติงาน แบบวัดการปฏบิ ตั งิ าน ได้คะแนนรูบรคิ ส์
- นกั เรียนสามารถนำเสนอ ตงั้ แต่ 2 ข้ึนไป
แผนภาพสมบตั ขิ องสารบริสุทธิ์
และสารผสมได้

ด้านคณุ ลักษณะ (A) สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้คะแนนรูบรคิ ส์
- นกั เรียนสามารถทำงานร่วมกับ ต้ังแต่ 2 ขึ้นไป
ผอู้ ืน่ ได้

2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รบู ริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเป็นรายข้อของเกณฑ์รบู ริคส์ ท่ี
สรา้ งข้ึนสำหรบั การประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑ์การใหค้ ะแนนเกณฑร์ ูบริคส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. นักเรยี นสามารถอธิบาย ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
ลกั ษณะสมบัตขิ องสารบริสทุ ธิ์
และสารผสมได้ (K)

ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

2. นักเรียนสามารถนำเสนอ - มคี ุณสมบัติ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 - มคี ณุ สมบัติ 1

แผนภาพสมบัติของสารบริสุทธ์ิ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ

และสารผสมได้ (P) คณุ ภาพ คุณภาพ คุณภาพ คุณภาพ

คณุ สมบัติ

1. นำเสนอรายละเอียด

ของเนือ้ หาครบถว้ นถูกต้อง

2. นำเสนอดว้ ยเสยี งดงั ฟัง

ชดั เจน

3. ตอบข้อซักถามได้ตรง

ประเดน็

4. ช้ินงานมคี วาม

สรา้ งสรรค์

3. นักเรยี นสามารถทำงาน - มีคณุ สมบตั ิ 4 - มีคุณสมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 - มีคุณสมบัติ 1

รว่ มกับผูอ้ ่นื ได้ (A) ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั

คุณสมบัติ คณุ ภาพ คุณภาพ คุณภาพ คุณภาพ

1. สมาชกิ ทกุ คนรว่ มกัน

แสดงความคิดเห็น

2. ทำงานอย่างเปน็ ระบบ

ทกุ คนรหู้ น้าท่ีตนเอง

3. สมาชิกทุกคนร่วมกัน

ทำงานได้สำเรจ็ ตามเวลา

กำหนด

4. ส่งงานครบตรงตามเวลา

กำหนด

3. เกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คุณภาพผลการเรียนรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นร้รู ่วมกันทุกดา้ น
เป็น 4 ระดับ คือ ดมี าก ดี พอใช้ และปรับปรงุ แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑ์ประเมนิ ตามคะแนนเกณฑร์ บู ริคส์
ดงั นี้

ระดับคุณภาพดีมาก มคี ะแนนตามเกณฑ์รบู ริคส์ร้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคสร์ ้อยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม

ระดับคุณภาพพอใช้ มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ ส์รอ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพปรับปรงุ มีคะแนนตามเกณฑร์ ูบริคส์น้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็
4. เกณฑก์ ารตัดสินระดับคุณภาพนักเรยี นจากคะแนนรวมทงั้ หมด

ระดบั บุคคล นกั เรียนมผี ลงานอยู่ในระดบั ดี ถอื วา่ ผ่าน (ประกนั ผลการเรียนรู้ของนักเรียน)
ระดับกลมุ่ นักเรยี นมผี ลงานอยูใ่ นระดบั ดี ไม่ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 60 ของจำนวนนักเรียนท้ังหมด ถอื
วา่ การจดั ประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ประสบผลสำเร็จ (ประกนั การสอนของคร)ู
5. เกณฑก์ ารตัดสินคะแนนเก็บ จำนวนคะแนนเก็บ........คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด…...
คะแนน กำหนดวิธกี ารคดิ คะแนนเกบ็ ดังนี้

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ีตอ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทกุ กิจกรรมของนักเรียนแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทกุ กจิ กรรมทง้ั หมดของทกุ กจิ กรรม

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 21

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รหสั วิชา ว21101

ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 สารรอบตัว เร่ือง สมบัติของสารบริสุทธแ์ ละสารผสม เวลา 1 คาบ

ผู้สอน นางสาวเจตนา บัวรสศกั ด์ิ โรงเรยี นเทศบาลเมืองสุโขทยั

สอนวันท่ี.........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวนั ท.ี่ ........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมบตั ขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตวั ช้วี ดั
ว 2.1 ม.1/7 อธบิ ายเกยี่ วกบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ งอะตอมธาตุ และสารประกอบ โดยใชแ้ บบจำลอง

และสารสนเทศ

3. สาระสำคญั
สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สาร

บริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว มีค่าคงที่ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว และความ
หนาแน่น แตส่ ารผสมมีจุดเดือดจุดหลอมเหลว และความหนาแน่นไม่คงท่ี ข้ึนอยกู่ ับชนิดและสัดส่วนของสารท่ี
ผสมอย่ดู ้วยกนั

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถอธบิ ายลักษณะสมบัตขิ องสารบริสุทธิ์และสารผสมได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
2. นักเรยี นสามารถนำเสนอแผนภาพสมบัติของสารบริสุทธ์แิ ละสารผสมได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นสามารถทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่นได้

5. สาระการเรียนรู้
สมบตั ขิ องสารบริสุทธแ์ ละสารผสม

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

8. ขน้ั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับข้ัน

กจิ กรรม ดงั น้ี
ข้ันท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถามเพ่อื ทบทวนเนื้อหา ดังนี้
- นกั เรียนสังเกตภาพนำหน่วยท่ี 2 สารบริสุทธ์ิ ถามนักเรยี นวา่ สิ่งท่เี ห็นในภาพมีลักษณะอย่างไร

(แนวคำตอบ เช่น เป็นของแข็งและมันวาว เหมือนกัน แต่มีรูปร่างที่แตกต่างกันลักษณะเป็นก้อน คด
โคง้ ทรงกระบอกคล้ายทอ่ )

- ถ้านกั เรยี นต้องการทราบว่าส่งิ ทเ่ี หน็ ในภาพเป็นสารผสมหรอื สารบรสิ ทุ ธ์จิ ะต้องทำอย่างไร
(แนวคำตอบ เช่น นำไปทดลอง นำไปแยกสาร)
1.2 นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียนหรือสือ่ อื่นๆ ที่เกี่ยวกับทองคำแท่งและทองรปู พรรณ จากนั้นครูตัง้
คำถามเพอื่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั หาคำตอบ ดังน้ี

“ทองคำแท่งและทองรปู พรรณเหมอื นหรือตา่ งกันอยา่ งไร”

ข้นั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาท)ี
2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม เป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน จำแนกเป็น เก่ง ปานกลาง อ่อน 1:2:1 จากนั้น

นักเรียนแตก่ ล่มุ ดำเนินการสืบค้นข้อมลู และระดมความคิดเพ่ือตอบคำถามข้างต้น
2.2 นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ สง่ ตวั แทนนำเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูล
2.3 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ตอบคำถาม ดังน้ี
- เพราะเหตุใด ทองคำแทง่ จงึ เป็นสารบริสทุ ธ์ิและทองรูปพรรณจงึ เป็นสารผสม
(แนวคำตอบ ทองคำแท่งเป็นสารบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นทองคำ 100% ไม่มีส่วนผสมของโลหะชนิด

อ่ืนๆ แตท่ องรปู พรรณมีโลหะชนดิ อืน่ ผสมอยู่ เชน่ เงิน ทองแดง)
- ทองคำแทง่ และทองรูปพรรณมีสมบัติต่างกันอย่างไร
(แนวคำตอบ ทองคำแท่ง มีความเหนียวสามารถยืดขยายตีหรือรีดแผ่ไปได้ทุกทิศทางมีความอ่อนตัว

มากกว่าโลหะชนิดอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถประดิษฐ์เป็นรูปทรงต่างๆ ตามที่ต้องการได้ส่วนทองรูปพรรณมี
สว่ นผสมของโลหะอืน่ ทำใหม้ ีสมบัตแิ ข็งและคงรปู ดขี น้ึ สามารถประดิษฐเ์ ป็นเคร่ืองประดบั ได้งา่ ยขึ้น)
ขัน้ ที่ 3 การอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (5 นาที)

3.1 นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องสมบัติของสารบริสุทธ์และสารผสม ได้ข้อสรุปว่า สารบริสุทธ์ิ
ประกอบด้วยสารเพียงชนดิ เดียว จึงมีสมบัติทางกายภาพคงที่ ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดข้ึน
ไป โดยไมเ่ กิดปฏกิ ิริยาเคมี จงึ มสี มบัติทางกายภาพไมค่ งท่ี
ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาที)

4.1 นกั เรยี นสบื คน้ ข้อมลู เพิม่ เติมเก่ียวกบั สมบัติของสารบริสุทธแ์ ละสารผสมจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
4.2 นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และการนำ
ความรู้ท่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์
ขั้นท่ี 5 ประเมนิ ผล (Evaluation) (10 นาท)ี
5.1 นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่
เขา้ ใจหรอื ยงั มขี ้อสงสยั (ถา้ มี) ครชู ว่ ยอธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจ
5.2 นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข
อย่างไรบ้าง
5.3 ทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยการใหต้ อบคำถาม เชน่
- เพราะเหตใุ ด ทองคำแท่งจึงเปน็ สารบริสุทธ์แิ ละทองรปู พรรณจึงเป็นสารผสม
(แนวคำตอบ เพราะ ทองคำแท่งเป็นสารบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นทองคำ 100% ไม่มีส่วนผสมของโลหะ
ชนิดอนื่ ๆ แต่ทองรูปพรรณมโี ลหะชนดิ อ่ืนผสมอย่เู ช่นเงนิ ทองแดง)

9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
สอ่ื การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1

2. Power Point สมบตั ิของสารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสม
แหล่งการเรียนรู้

1. ห้องเรยี น
2. อนิ เตอร์เนต็

10. ช้นิ งาน / ภาระงาน
-

11. การวดั และประเมนิ ผล
1. กรอบการวัดและประเมินผล แตล่ ะจดุ ประสงค์การเรยี นรู้นำเสนอประเด็นทท่ี ำการวดั และ

ประเมินผล วิธกี ารวดั และเครอ่ื งมือวดั ดังตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K) การตอบคำถาม ตอบคำถาม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
- นักเรียนสามารถอธบิ าย ข้นึ ไป ; 7 คะแนน
ลกั ษณะสมบัติของสารบริสทุ ธ์ิ จาก 10 คะแนน
และสารผสมได้

ด้านทักษะ (P) การปฏบิ ตั งิ าน แบบวัดการปฏบิ ัตงิ าน ไดค้ ะแนนรูบรคิ ส์
- นกั เรยี นสามารถนำเสนอ ตัง้ แต่ 2 ขึน้ ไป
แผนภาพสมบตั ิของสาร
บรสิ ุทธ์แิ ละสารผสมได้

ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ไดค้ ะแนนรูบรคิ ส์
- นกั เรียนสามารถทำงาน ตั้งแต่ 2 ข้ึนไป
ร่วมกบั ผู้อนื่ ได้

2. เกณฑ์การใหค้ ะแนนเกณฑ์รูบรคิ ส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑ์รบู รคิ ส์ ท่ี
สร้างข้ึนสำหรบั การประเมิน (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ ูบริคส์

ประเด็นการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. นกั เรยี นสามารถอธิบาย ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป
ลักษณะสมบตั ิของสารบรสิ ุทธ์ิ
และสารผสมได้ (K)

2. นักเรียนสามารถนำเสนอ - มีคณุ สมบัติ 4 - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มคี ุณสมบตั ิ 2 - มคี ุณสมบัติ 1
ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั
แผนภาพสมบัติของสารบริสุทธ์ิ ใน 4 ของระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ

และสารผสมได้ (P) คณุ ภาพ - มคี ุณสมบัติ 3 - มีคณุ สมบตั ิ 2 - มีคณุ สมบตั ิ 1
ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ
คุณสมบัติ คณุ ภาพ คุณภาพ คุณภาพ

1. นำเสนอรายละเอียด

ของเน้อื หาครบถว้ นถูกต้อง

2. นำเสนอดว้ ยเสยี งดังฟัง

ชดั เจน

3. ตอบข้อซักถามได้ตรง

ประเดน็

4. ชน้ิ งานมคี วาม

สรา้ งสรรค์

3. นักเรียนสามารถทำงาน - มีคุณสมบตั ิ 4

ร่วมกับผู้อืน่ ได้ (A) ใน 4 ของระดับ

คณุ สมบัติ คุณภาพ

1. สมาชิกทุกคนรว่ มกัน

แสดงความคิดเหน็

2. ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ

ทุกคนรหู้ นา้ ทต่ี นเอง

3. สมาชิกทุกคนร่วมกัน

ทำงานไดส้ ำเร็จตามเวลา

กำหนด

4. สง่ งานครบตรงตามเวลา

กำหนด

3. เกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรรู้ ว่ มกันทุกด้าน
เปน็ 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรับปรงุ แต่ละระดับกำหนดเกณฑ์ประเมินตามคะแนนเกณฑ์รูบริคส์
ดงั นี้

ระดบั คุณภาพดมี าก มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์รอ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพดี มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ สร์ ้อยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพพอใช้ มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ ้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพปรบั ปรงุ มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคสน์ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม
4. เกณฑ์การตดั สินระดับคุณภาพนกั เรียนจากคะแนนรวมทงั้ หมด

ระดบั บุคคล นกั เรียนมีผลงานอยู่ในระดบั ดี ถือวา่ ผ่าน (ประกนั ผลการเรียนรู้ของนักเรียน)
ระดบั กลมุ่ นักเรยี นมผี ลงานอย่ใู นระดับ ดี ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด ถอื
ว่า การจดั ประสบการณเ์ รยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรียนรูป้ ระสบผลสำเร็จ (ประกันการสอนของครู)
5. เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนนเก็บ จำนวนคะแนนเก็บ........คะแนน จากคะแนนรวมทั้งหมด…...
คะแนน กำหนดวธิ กี ารคดิ คะแนนเกบ็ ดังน้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ตี ้องการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกจิ กรรมของนักเรยี นแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทกุ กิจกรรมทง้ั หมดของทกุ กจิ กรรม

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 22

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รหัสวิชา ว21101

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 สารรอบตวั เร่อื ง จุดเดอื ดของสารบริสุทธิแ์ ละสารผสม เวลา 1 คาบ

ผู้สอน นางสาวเจตนา บวั รสศกั ดิ์ โรงเรยี นเทศบาลเมืองสโุ ขทยั

สอนวนั ท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวันที่.........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหวา่ งสมบัติของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

2. ตัวชวี้ ัด
ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือดจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์ และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ

เขียนกราฟ แปลความหมายข้อมลู จากกราฟ หรอื สารสนเทศ

3. สาระสำคัญ
สารบรสิ ุทธปิ์ ระกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมนัน้ ประกอบด้วยสารสองชนิดมารวมกัน ซึ่ง

สารบริสทุ ธมิ์ ีจุดเดอื ดจดุ หลอมเหลวคงท่ี สารผสมมีจดุ เดอื ดจดุ หลอมเหลวไม่คงท่ี

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถอธิบายจุดเดือดของสารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสมได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นกั เรียนสามารถสบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั จดุ เดอื ดของสารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสมได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นมคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน

5. สาระการเรียนรู้
จดุ เดือดของสารบริสุทธแิ์ ละสารผสม

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน

8. ขน้ั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับข้ัน

กจิ กรรม ดงั นี้
ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 นกั เรียนร่วมกันทบทวนความรพู้ ืน้ ฐานแล้วให้ตอบคำถามดังต่อไปน้ี
- ส่ิงใดบ้างท่ีทำสารเปลี่ยนสถานะ
(แนวคำตอบ ความร้อนและอุณหภูมิ)
- ถา้ นำน้ำไปตัง้ ให้เดอื ด แล้วนำ้ เปล่ียนสถานะจากของเหลวเปน็ ไอ เรียกว่าอะไร
(แนวคำตอบ การเดือด)
ข้ันท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาท)ี
2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน จากนั้นร่วมกันศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับจุดเดือดของสาร
บริสทุ ธ์แิ ละสารผสมจากหนงั สือเรียน
2.2 อภปิ รายผลการศึกษาภายในกลมุ่
2.3 นักเรียนร่วมกันสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดเดือดของสารบริสุทธิ์และสารผสมจาก
อนิ เทอร์เน็ตและอภปิ รายผลการสบื ค้นภายในกล่มุ และบันทกึ ผลการสืบค้นลงในใบงานท่ี 22.1
ขั้นที่ 3 การอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (5 นาที)
3.1 นักเรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดเดือดของสารบริสุทธิ์และสารผสม จาก Power Point ที่ครู
สอนเพ่ือเชอื่ มโยงความรู้จากการสบื ค้นและความรู้ท่ีครอู ธิบายเพิ่มเติม
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาท)ี
4.1 นักเรียนตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ เรื่อง จุดเดือดของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการ
อภปิ รายร่วมกันภายในกลุม่ เพ่อื เปน็ การขยายความรู้และแลกเปล่ยี นความร้คู วามเขา้ ใจกบั เพื่อนรว่ มกลมุ่

4.2 ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ตั้งคำถาม 1 ข้อ
ข้นั ท่ี 5 ประเมนิ ผล (Evaluation) (10 นาที)

5.1 ให้นกั เรียนประเมินผลการเรยี นร้ขู องตนเองโดยการตอบคำถามของครู

9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
สอ่ื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1
2. Power Point จุดเดอื ดของารบริสุทธ์แิ ละสารผสม
แหลง่ การเรียนรู้
1. ห้องเรียน
2. อนิ เตอรเ์ น็ต

10. ชิน้ งาน / ภาระงาน
1. ใบงานที่ 22.1 เรอื่ ง ขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการสืบคน้ ข้อมูลเกย่ี วกับจุดเดอื ดของสารบริสุทธ์แิ ละสารผสม

11. การวดั และประเมินผล
1. กรอบการวัดและประเมินผล แตล่ ะจุดประสงค์การเรียนรนู้ ำเสนอประเด็นที่ทำการวดั และ

ประเมินผล วธิ ีการวัด และเคร่อื งมือวดั ดงั ตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั ผล เครื่องมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล
ใบงานท่ี 22
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 22 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
- นกั เรียนสามารถอธบิ ายจุด การปฏิบัติงาน ข้ึนไป ; 6 คะแนน
เดอื ดของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสาร สงั เกตพฤติกรรม จาก 10 คะแนน
ผสมได้
ดา้ นทักษะ (P) แบบวัดการปฏิบตั งิ าน ได้คะแนนรูบรคิ ส์
- นักเรยี นสามารถสบื คน้ ขอ้ มูล ตงั้ แต่ 2 ขึน้ ไป
เก่ียวกบั จดุ เดือดของสารบรสิ ุทธ์ิ
และสารผสมได้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ไดค้ ะแนนรูบรคิ ส์
ด้านคุณลกั ษณะ (A) ต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป
- นกั เรียนมีความมุ่งมนั่ ในการ
ทำงาน

2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเป็นรายข้อของเกณฑ์รูบริคส์ ท่ี
สรา้ งขึน้ สำหรับการประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑ์รูบริคส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ดี) 2 (พอใช้)

1. นกั เรยี นสามารถอธิบายจุดเดอื ด ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 ขน้ึ ไป
ของสารบรสิ ุทธิ์และสารผสมได้ (K)

2. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูล - มีคณุ สมบัติ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคณุ สมบตั ิ 2 - มคี ณุ สมบัติ 1
ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ
เกี่ยวกับจุดเดือดของสารบริสุทธ์ิ ใน 4 ของระดบั คุณภาพ คุณภาพ คุณภาพ

และสารผสมได้ (P) คณุ ภาพ - มีคณุ สมบัติ 3 - มีคณุ สมบัติ 2 - มคี ณุ สมบตั ิ 1
ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ
คณุ สมบัติ คุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ

1. มคี วามสอดคลอ้ งกับข้อมูล

2. มีขอ้ มลู ไดค้ รบถว้ น

3. ดำเนินการสืบค้นข้อมูลตาม

สอ่ื แตล่ ะประเภทชนดิ ที่กำหนดขึน้

4. แสดงแหล่งอา้ งอิงข้อมูลท่ี

ทำการครบถว้ น

3. นกั เรียนมีความมุ่งม่ันในการ - มีคณุ สมบัติ 4

ทำงาน (A) ใน 4 ของระดบั

คณุ สมบตั ิ คุณภาพ

1. รบั ผิดชอบตอ่ งานที่ไดร้ บั

มอบหมาย

2. อดทน ไมย่ ่อท้อตอ่

อปุ สรรคในการทำงาน

3. พยายามแกป้ ัญหาในการ

ทำงานใหแ้ ล้วเสร็จ

4. ทำงานเสร็จตามเป้าหมาย

3. เกณฑ์ประเมินระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรู้ กำหนดระดับคณุ ภาพผลการเรยี นรู้ร่วมกันทุกด้าน
เป็น 4 ระดับ คือ ดมี าก ดี พอใช้ และปรับปรงุ แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑ์ประเมนิ ตามคะแนนเกณฑ์รบู ริคส์
ดังน้ี

ระดบั คุณภาพดมี าก มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ ้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดับคุณภาพดี มีคะแนนตามเกณฑ์รบู รคิ ส์รอ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑร์ บู ริคส์รอ้ ยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพปรบั ปรุง มีคะแนนตามเกณฑร์ บู รคิ สน์ ้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็
4. เกณฑ์การตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนักเรยี นจากคะแนนรวมทง้ั หมด

ระดบั บุคคล นักเรยี นมีผลงานอยูใ่ นระดับ ดี ถือวา่ ผ่าน (ประกนั ผลการเรียนรู้ของนักเรียน)
ระดับกลมุ่ นักเรยี นมีผลงานอยใู่ นระดับ ดี ไมต่ ่ำกว่ารอ้ ยละ 60 ของจำนวนนกั เรียนทั้งหมด ถือ
ว่า การจดั ประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ประสบผลสำเร็จ (ประกันการสอนของครู)
5. เกณฑ์การตดั สนิ คะแนนเก็บ จำนวนคะแนนเก็บ........คะแนน จากคะแนนรวมทั้งหมด…...
คะแนน กำหนดวิธีการคดิ คะแนนเก็บ ดงั น้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนทตี่ อ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทุกกิจกรรมของนักเรยี นแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทุกกจิ กรรมทั้งหมดของทกุ กจิ กรรม

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 23

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รหัสวชิ า ว21101

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 สารรอบตวั เร่อื ง จดุ เดอื ดของสารบริสุทธิ์และสารผสม เวลา 1 คาบ

ผู้สอน นางสาวเจตนา บวั รสศกั ดิ์ โรงเรียนเทศบาลเมืองสุโขทยั

สอนวนั ที่.........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวนั ท.ี่ ........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี

2. ตัวช้ีวัด
ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือดจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์ และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ

เขียนกราฟ แปลความหมายขอ้ มลู จากกราฟ หรือสารสนเทศ

3. สาระสำคัญ
สารบริสุทธปิ์ ระกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมนนั้ ประกอบด้วยสารสองชนิดมารวมกัน ซ่ึง

สารบริสุทธมิ์ ีจุดเดอื ดจดุ หลอมเหลวคงที่ สารผสมมีจุดเดือดจดุ หลอมเหลวไม่คงที่

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายจุดเดือดของสารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสมได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นกั เรียนสามารถสังเกตการทดลองจดุ เดอื ดของสารบรสิ ุทธ์แิ ละสารผสมได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3. นกั เรยี นมคี วามมุ่งม่ันในการทำงาน

5. สาระการเรียนรู้
จุดเดอื ดของสารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสม

6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

8. ขั้นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับขั้น

กจิ กรรม ดงั นี้
ขนั้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) (5 นาท)ี

1.1 นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตรปู ภาพ หมอ้ นำ้ หนา้ รถยนต์ จากนน้ั ตอบคำถามตอ่ ไปนี้
- หน้อนำ้ หน้ารถยนต์ มหี น้าที่อะไร
(แนวคำตอบ เปน็ อปุ กรณท์ ่ชี ว่ ยระบายความรอ้ นในเครอื่ งยนต์ ขณะทเ่ี ครอื่ งยนตท์ ำงาน)
1.2 นักเรียนรับข้อมูลเพิ่มเติมจากครู ดังนี้ น้ำในหม้อน้ำเดือดได้หากเติมน้ำที่เป็นสารบริสุทธิ์ แต่ถ้า
เติมน้ำที่ผสมสารอื่นหรือน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำรถยนต์ จะทำให้จุดเดือดของน้ำในหม้อน้ำสูงขึ้นจึงไม่เดือด
เพราะเหตุใดจงึ เปน็ เช่นน้ี ครูต้ังปญั หาให้นักเรยี นร่วมกันหาคำตอบในขัน้ ตอ่ ไป
ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) (15 นาที)
2.1 นักเรียนดูคลปิ วิดีโอการทำกจิ กรรมท่ี 22.1 จุดเดือดของสารบริสทุ ธิ์และสารผสมเปน็ อย่างไร

2.2 นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 22.1 เรือ่ ง จุดเดือดของสารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสม

ขั้นที่ 3 การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (5 นาท)ี
3.1 นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ และอภิปรายจากการดำเนินกิจกรรมดังน้ี
- กจิ กรรมนี้เรียนรู้เก่ียวกับเรอื่ งอะไร
(แนวคำตอบ จดุ เดอื ดของสารบริสทุ ธแ์ิ ละสารผสม)
- กิจกรรมน้มี ีจุดประสงค์อะไร
(แนวคำตอบ สังเกตการเปลี่ยนแปลงขณะท่ีของเหลวเริ่มเดือดและกำลังเดือด อุณหภูมิ ของน้ำกลั่น

และสารละลายโซเดียมคลอไรด์)
- วิธีการดำเนนิ กจิ กรรม มขี ั้นตอนโดยสรปุ อย่างไร
(แนวคำตอบ น้ำกลั่นเมื่อได้รับความร้อนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและกลายเป็นไอจนกระทั่งเกิดการเดือด

อุณหภูมิขณะเดือดจะคงที่แม้ว่าจะให้ความร้อนต่อไป ส่วนสารละลายโซเดียมคลอไรด์เมื่อให้ความร้อนจะมี
อุณหภูมิเพ่ิมข้ึน และกลายเป็นไอจนกระทง่ั เกิดการเดือดโดยอุณหภูมิขณะเดือดจะเพ่ิมข้ึนเร่ือยๆ ไม่คงท)ี่

- ทราบไดอ้ ย่างไรวา่ น้ำกล่นั และสารละลายโซเดยี มคลอไรดก์ ำลงั เดอื ด
(แนวคำตอบ เกิดฟองแก๊สเล็กๆ ทกี่ ้นบีกเกอรแ์ ลว้ ลอยขึน้ ส่ดู า้ นบน และขณะเดือดสงั เกตเห็นแก๊สมี
ฟองขนาดใหญ่เกดิ ขึน้ ทั่วทง้ั ภาชนะสารเปลีย่ นสถานะจากของเหลวเปน็ แก๊ส)
- ข้อควรระวงั ในการทำกิจกรรมมอี ะไรบ้าง
(แนวคำตอบ ระวังตะเกียงแอลกอฮอล์ลม้ และแอลกอฮอลท์ ี่ใชเ้ ปน็ เชอ้ื เพลงิ หก โดยจัดใหม้ ีอุปกรณ์
ดบั เพลิง เชน่ ผา้ เปยี กหรือถงั ดับเพลงิ )
3.2 นักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนว่าความแตกต่างระหว่างคำว่าการเดือดกับจุดเดือดของสารบริสุทธ์ิ
และสารผสม กล่าวคือ การเดือด สรุปได้ว่า ปรากฏการณ์ที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นไอเมื่อได้รับความร้อน
เกิดฟองอากาศ (air bubble) อย่างรวดเร็ว เน่ืองจากของเหลวมีความดนั ไอ (vapour pressure) เท่ากับความ
ดันบรรยากาศที่อยู่รอบๆ เช่น การทำให้อาหารสุก (cooking) ส่วนจุดเดือด สรุปได้จากการทดลอง น้ำกลั่น
(สารบริสุทธิ์) เมื่อได้รับความร้อนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและกลายเป็นไอจนกระทั่งเกิดการเดือด อุณหภูมิขณะ
เดือดจะคงที่แม้ว่าจะให้ความร้อนต่อไป ส่วนสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (สารผสม) เมื่อให้ความร้อนจะมี
อณุ หภูมเิ พมิ่ ขนึ้ และกลายเป็นไอจนกระทง่ั เกิดการเดือดโดยอุณหภูมขิ ณะเดือดจะเพิ่มขนึ้ เรื่อยๆ ไมค่ งท่ี
ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาที)
4.1 นักเรียนทำแบบฝึกหดั ท่ี 3.5 ในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
4.1 นกั เรยี นรว่ มกนั คิด ถา้ เปลีย่ นสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ เปน็ สารละลายชนดิ อืน่ เช่น สารละลาย
นำ้ ตาลทราย จดุ เดอื ดจะเปน็ อยา่ งไร
ขัน้ ท่ี 5 ประเมนิ ผล (Evaluation) (10 นาท)ี
5.1 ใหน้ กั เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องตนเองโดยการตอบคำถามของครู

9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
ส่ือการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1
2. Power Point จุดเดือดของสารบริสุทธแ์ิ ละสารผสม
3. วิดีโอการทดลอง เร่ือง จุดเดือดของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารผสมเปน็ อยา่ งไร
4. แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1
แหล่งการเรียนรู้
1. ห้องเรยี น
2. อินเตอรเ์ น็ต

10. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
1. ใบกิจกรรมที่ 22.1 เรือ่ ง จดุ เดือดของสารบรสิ ทุ ธ์แิ ละสารผสม

11. การวัดและประเมนิ ผล
1. กรอบการวัดและประเมินผล แตล่ ะจดุ ประสงค์การเรยี นรู้นำเสนอประเดน็ ทที่ ำการวัด และ

ประเมินผล วิธีการวัด และเครื่องมือวัด ดังตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล

ด้านความรู้ (K) ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60
ขึน้ ไป ; 6 คะแนน
- นักเรยี นสามารถอธิบายจดุ ตรวจแบบฝึกหดั หลังเรยี น แบบฝกึ หัดหลงั เรยี น จาก 10 คะแนน
เดอื ดของสารบรสิ ทุ ธ์ิและ แบบวัดการปฏิบัติงาน
แบบสังเกตพฤติกรรม ไดค้ ะแนนรบู รคิ ส์
สารผสมได้ ต้ังแต่ 2 ขึ้นไป

ด้านทกั ษะ (P) ได้คะแนนรบู ริคส์
ตงั้ แต่ 2 ขน้ึ ไป
- นักเรยี นสามารถสงั เกต การปฏบิ ัติงาน
การทดลองจดุ เดือดของสาร

บรสิ ุทธ์แิ ละสารผสมได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตพฤติกรรม
- นกั เรียนมคี วามมุ่งมน่ั ใน

การทำงาน

2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเกณฑ์รูบริคส์ (Rubric Score) ใหค้ ะแนนเป็นรายข้อของเกณฑร์ บู ริคส์ ท่ี
สร้างขึน้ สำหรับการประเมนิ (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑ์การให้คะแนนเกณฑร์ ูบริคส์

ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ดี) 2 (พอใช้)
- มคี ณุ สมบัติ 1
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายจดุ ใน 4 ของระดบั
คุณภาพ
เดือดของสารบรสิ ุทธ์แิ ละสาร ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 ข้นึ ไป
- มีคุณสมบตั ิ 1
ผสมได้ (K) ใน 4 ของระดบั
คุณภาพ
2. นักเรียนสามารถสังเกตการ - มีคณุ สมบตั ิ 4 - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มีคุณสมบตั ิ 2

ทดลองจุดเดือดของสารบริสุทธิ์ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั

และสารผสมได้ (P) คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ

คณุ สมบตั ิ

1. อธิบายวิธีการทดลอง

ตามลำดบั ขั้นไดถ้ กู ต้อง

2. สังเกตผลการทดลอง

และสามารถอธิบายออกมาเป็น

คำพดู ได้

3. สรุปผลการทดลองได้

อย่าง ถูกตอ้ ง กระชบั ชดั เจน

4. ระบอุ ปุ กรณ์หรือ

เคร่ืองมือที่ใช้ในการทดลองได้

ถกู ต้อง

3. นกั เรยี นมีความมุ่งมน่ั ในการ - มีคุณสมบตั ิ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคุณสมบตั ิ 2

ทำงาน (A) ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ

คุณสมบัติ คุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ

1. รับผดิ ชอบตอ่ งานที่ได้รบั

มอบหมาย

2. อดทน ไมย่ ่อท้อตอ่

อุปสรรคในการทำงาน

3. พยายามแก้ปัญหาในการ

ทำงานให้แลว้ เสร็จ

4. ทำงานเสรจ็ ตาม

เป้าหมาย

3. เกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรู้รว่ มกันทกุ ด้าน
เปน็ 4 ระดบั คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรับปรงุ แตล่ ะระดับกำหนดเกณฑป์ ระเมนิ ตามคะแนนเกณฑ์รูบริคส์
ดงั น้ี

ระดบั คุณภาพดีมาก มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์ร้อยละ 80 – 100 ของคะแนนเตม็
ระดบั คุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบรคิ ส์รอ้ ยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพพอใช้ มีคะแนนตามเกณฑ์รบู ริคสร์ ้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพปรับปรงุ มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์น้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม
4. เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทั้งหมด

ระดบั บคุ คล นกั เรียนมีผลงานอยใู่ นระดับ ดี ถอื ว่า ผ่าน (ประกนั ผลการเรียนรู้ของนักเรยี น)
ระดับกลุม่ นักเรยี นมผี ลงานอยู่ในระดับ ดี ไม่ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 60 ของจำนวนนกั เรียนทัง้ หมด ถอื
วา่ การจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ประสบผลสำเร็จ (ประกันการสอนของคร)ู
5. เกณฑ์การตดั สินคะแนนเกบ็ จำนวนคะแนนเกบ็ ........คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด…...
คะแนน กำหนดวธิ กี ารคดิ คะแนนเกบ็ ดังนี้

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ีตอ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทกุ กิจกรรมของนักเรยี นแตล่ ะคน)
คะแนนรวมทุกกิจกรรมทั้งหมดของทกุ กิจกรรม

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 24

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน รหสั วิชา ว21101

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 สารรอบตัว เร่ือง จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธ์ิ เวลา 2 คาบ

และสารผสม

ผสู้ อน นางสาวเจตนา บัวรสศักดิ์ โรงเรียนเทศบาลเมืองสโุ ขทยั

สอนวนั ที่.........เดือน......................พ.ศ. ............ (ม.1/1)

สอนวันท.ี่ ........เดอื น......................พ.ศ. ............ (ม.1/2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

2. ตวั ชี้วดั
ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ

เขียนกราฟ แปลความหมายขอ้ มลู จากกราฟ หรือสารสนเทศ

3. สาระสำคัญ
สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีจุดหลอมเหลวคงที่ ส่วนสารผสมมีจุดหลอมเหลวไม่คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและ

สัดสว่ นของสารท่ีผสมอย่ดู ้วยกัน

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถเปรียบเทยี บอณุ หภูมิจดุ หลอมเหลวของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสมได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรยี นสามารถคำนวณการหาจดุ หลอมเหลวของสารบริสุทธ์แิ ละสารผสมได้
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3. นกั เรียนมีความมุ่งมั่นในการทำงาน

5. สาระการเรียนรู้
จุดหลอมเหลวของสารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสม

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

8. ข้นั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es) ซึ่งกำหนดลำดับ

ข้ันกจิ กรรม ดังนี้
ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) (5 นาที)

1.1 นักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เกี่ยวกับสารบริสุทธิ์และสารผสม รวมทั้งจุดเดือดของสารบริสุทธิ์
และสารผสม

1.2 นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถามเพอ่ื นำเขา้ สบู่ ทเรียน ดังนี้
- เกลอื ทนี่ ำมาทำนำ้ เกลือใหผ้ ู้ปว่ ย จะสามารถตรวจสอบไดอ้ ยา่ งไรว่าเกลือนนั้ บริสุทธ์หิ รอื ไม่ (นกั เรียน
ใชโ้ ทรศัพท์หาขอ้ มูลเพอ่ื ตอบคำถาม)
(แนวคำตอบ นำน้ำเกลือมาหาจุดหลอมเหลว และพิจารณาว่าเกลือดังกล่าวมีจุดหลอมเหลวคงท่ี
หรอื ไม่ ถ้ามีจุดหลอมเหลวคงที่ แสดงวา่ เกลอื ทน่ี ำมาทำน้ำเกลือดังกลา่ วเปน็ สารบริสุทธ์ิ)
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) (15 นาที)
2.1 ครูกำหนดประเด็นคำถามว่า “สารบริสุทธิ์และสารผสม มีจุดหลอมเหลวเป็นอย่างไร” ก่อน
นักเรียนรับชมวิดีโอ เพอื่ เปน็ การกระตุน้ ให้นกั เรยี นมคี วามตัง้ ใจในการรบั ชมวดิ โี อ
2.2 นักเรียนร่วมกันรับชมวิดีโอการทดลอง เรื่อง จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม จาก
เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=RJliKgTwqhk

ขั้นท่ี 3 การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (10 นาท)ี
3.1 นักเรียนสรุปความรู้จากวีดีโอท่ีรับชม จากนั้นตอบคำถามเพื่อทดสอบความสนใจในการรับชม

วิดีโอ ดงั นี้
- กิจกรรมน้เี รียนรู้เกีย่ วกบั เรอ่ื งอะไร
(แนวคำตอบ จุดหลอมเหลวของสารบรสิ ทุ ธแิ์ ละสารผสม)
- สารใดเปน็ ตัวแทนของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารใดเปน็ ตวั แทนของสารผสม
(แนวคำตอบ แนฟทาลนี เป็นสารบรสิ ุทธแ์ิ ละกรดเบนโซอกิ ในแนฟทาลนี เป็นสารผสม)
- สารบรสิ ทุ ธแิ์ ละสารผสมมจี ดุ หลอมเหลวแตกตา่ งกันอย่างไร
(แนวคำตอบ สารบรสิ ทุ ธ์ิมจี ดุ หลอมเหลวคงที่ ส่วนสารผสมมจี ุดหลอมเหลวไม่คงที่)
3.2 นกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรียนว่า จุดหลอมเหลว คอื อณุ หภมู ิที่สารเปล่ียนสถานะจากของแข็งเป็น

ของเหลว ซึง่ สารบริสุทธิ์ จะมีจุดหลอมเหลวคงที่ ส่วนสารผสมมจี ดุ หลอมเหลวไม่คงท่ี
ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)

4.1 ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหาจุดหลอมเหลวและช่วงอุณหภูมิที่หลอมเหลว โดยนักเรียน
รว่ มกันระบุอุณหภูมิของการทเ่ี ร่ิมหลอมเหลวและเม่ือหลอมเหลวหมด รวมทงั้ ช่วยกันคำนวณเกี่ยวกับค่าเฉลี่ย
ของช่วงอณุ หภูมทิ หี่ ลอมเหลว
ขั้นท่ี 5 ประเมินผล (Evaluation) (5 นาที)

5.1 นกั เรียนร่วมกันตอบคำถาม
5.2 นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับ และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้
ประโยชน์

9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้

1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตรช์ นั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1
2. วดิ ีโอการทดลอง จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม จาก https://www.youtube.com/
watch?v=RJliKgTwqhk
3. Power Point จุดเดือดของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารผสม
แหลง่ การเรยี นรู้
1. ห้องเรียน
2. อนิ เตอร์เนต็

10. ชิน้ งาน / ภาระงาน
-

11. การวดั และประเมนิ ผล
1. กรอบการวัดและประเมินผล แต่ละจุดประสงค์การเรียนรู้นำเสนอประเด็นที่ทำการวัดและ

ประเมินผล วธิ กี ารวัด และเครื่องมือวัด ดังตาราง

ตาราง : แสดงกรอบการวดั และประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมินผล
คำถาม
ด้านความรู้ (K) การตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60
- นักเรียนสามารถเปรยี บเทยี บ แบบวัดการปฏบิ ัติงาน ขึ้นไป ; 6 คะแนน
อณุ หภมู ิจดุ หลอมเหลวของ จาก 10 คะแนน
สารบริสุทธแ์ิ ละสารผสมได้
ได้คะแนนรบู รคิ ส์
ดา้ นทักษะ (P) การปฏบิ ัตงิ าน ตง้ั แต่ 2 ขน้ึ ไป
- นักเรียนสามารถคำนวณการ
หาจดุ หลอมเหลวของสาร
บริสุทธแ์ิ ละสารผสมได้

ด้านคุณลักษณะ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ไดค้ ะแนนรบู รคิ ส์
- นกั เรียนมีความมุ่งมน่ั ในการ ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป
ทำงาน

2. เกณฑก์ ารให้คะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑ์รูบริคส์ ท่ี
สร้างข้นึ สำหรับการประเมิน (Analytical Rubric Score)

ตาราง : แสดงเกณฑ์การใหค้ ะแนนเกณฑร์ บู ริคส์

ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ดี) 2 (พอใช้)
- มคี ุณสมบตั ิ 1
1. นักเรยี นสามารถเปรยี บเทียบ ใน 4 ของระดับ
คณุ ภาพ
อณุ หภมู จิ ุดหลอมเหลวของสาร ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 ขึ้นไป

บรสิ ทุ ธ์ิและสารผสมได้ (K)

2. นักเรียนสามารถคำนวณการ - มีคณุ สมบัติ 4 - มีคณุ สมบตั ิ 3 - มีคุณสมบตั ิ 2

หาจุดหลอมเหลวขอ งสาร ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั

บรสิ ทุ ธแิ์ ละสารผสมได้ (P) คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ

คุณสมบตั ิ

1. แสดงวธิ กี ารคำนวณได้

อยา่ งถูกต้อง

ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช้)
2. ระบอุ ณุ หภมู เิ ม่ือเร่มิ - มีคุณสมบตั ิ 4 - มคี ุณสมบตั ิ 1
หลอมเหลวและเมื่อหลอมเหลว ใน 4 ของระดับ - มคี ณุ สมบัติ 3 - มคี ุณสมบัติ 2 ใน 4 ของระดับ
หมดได้ คุณภาพ คุณภาพ
ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ
3. คำตอบถูกตอ้ ง
4. มีความคล่องแคล่วใน คณุ ภาพ คณุ ภาพ
การคำนวณ
3. นักเรยี นมคี วามมุ่งมน่ั ในการ
ทำงาน (A)
คุณสมบัติ
1. รบั ผดิ ชอบต่องานท่ี
ไดร้ ับมอบหมาย
2. อดทน ไมย่ ่อท้อต่อ
อุปสรรคในการทำงาน
3. พยายามแก้ปัญหาใน
การทำงานให้แล้วเสรจ็
4. ทำงานเสรจ็ ตาม
เป้าหมาย

3. เกณฑ์ประเมนิ ระดบั คณุ ภาพผลการเรียนรู้ กำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรูร้ ่วมกันทุกดา้ น
เป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ แต่ละระดับกำหนดเกณฑ์ประเมินตามคะแนนเกณฑร์ ูบริคส์
ดังน้ี

ระดบั คุณภาพดมี าก มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ อ้ ยละ 80 – 100 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพดี มคี ะแนนตามเกณฑ์รบู ริคส์ร้อยละ 70 – 79 ของคะแนนเต็ม
ระดบั คุณภาพพอใช้ มคี ะแนนตามเกณฑร์ ูบริคสร์ ้อยละ 60 – 69 ของคะแนนเต็ม
ระดับคุณภาพปรับปรงุ มคี ะแนนตามเกณฑ์รูบริคส์น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม
4. เกณฑ์การตดั สนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมท้ังหมด

ระดับบคุ คล นักเรียนมีผลงานอยู่ในระดบั ดี ถอื วา่ ผา่ น (ประกนั ผลการเรยี นรู้ของนักเรียน)
ระดบั กลุ่ม นักเรียนมีผลงานอยู่ในระดบั ดี ไม่ต่ำกว่ารอ้ ยละ 60 ของจำนวนนกั เรียนท้ังหมด ถือ
ว่า การจัดประสบการณ์เรียนรตู้ ามแผนการจดั การเรยี นรปู้ ระสบผลสำเร็จ (ประกันการสอนของครู)

5. เกณฑ์การตดั สนิ คะแนนเกบ็ จำนวนคะแนนเก็บ........คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด…...
คะแนน กำหนดวธิ กี ารคิดคะแนนเกบ็ ดังน้ี

จำนวนคะแนนเกบ็ = (จำนวนคะแนนท่ตี อ้ งการ × จำนวนคะแนนรวมทกุ กิจกรรมของนักเรยี นแต่ละคน)
คะแนนรวมทุกกิจกรรมทง้ั หมดของทกุ กิจกรรม


Click to View FlipBook Version