อ่านวิจารณ์วรรณศิลป์
เรื่อง พระอภัยมณี
ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร
บทนำเรื่อง
พระอภัยมณีเป็นนิทานคำกลอนของสุนทรภู่ แต่งขึ้นในรัชกาลที่ ๒ เพื่อเลี้ยงชีพ
ตนเอง
ที่มาของเรื่อง
พระอภัยมณีเป็นเรื่องจากจินตนาการของสุนทรภู่ ผสมผสานกับสิ่งที่ได้ยินได้
ฟังมา นำมาแต่งให้มีสีสัน มีตัวละคร ที่มีทั้งคน ยักษ์ เงือก ผีเสือสมุทร
ชีเปลือย ม้านิลมังกร เนื้อเรื่องมีความสนุกสนานน่าตื่นเต้น ครบรส
ประวัติผู้แต่ง
ผู้แต่งคือพระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือเรารู้จักกันในนามสุนทรภู่ เป็นชาวบ้านกร่ำ
อำเภอ แกลง จังหวัดระยอง
๑. คุณค่าทางด้านเนื้อหา
๑.๑ โครงเรื่อง
เรื่องของเรื่องเริ่มจากพระอภัยมณีอยู่กินกับนางผีเสือสมุทรจนมีบุตรหนึ่งคน
ชื่อสินสมุทร สินสมุทรอายุ ๘ ปีได้วิ่งเล่นไปเจอหิน ที่ปิดปากถ้ำจึงเปิดออก และจับ
เงือกชรามาอวดพ่อ พระอภัยมณีจึงเล่าความจริงให้ลูกฟังว่าแม่เป็นยักษ์แปลง
เงือกชราอาสาจะช่วยเหลือให้สองพ่อลูกหนีจากนางผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณีออก
อุบายลวงให้ผีเสื้อสมุทรไป จำศีลในที่ไกลๆ เป็นเวลา ๓ คืน ๓วัน เงือกชราสอง
สามีภรรยาและลูกสาวจึงช่วยเหลือด้วยการให้
พระอภัยมณีและสินสมุทรขี่หลังไปยังเกาะแก้วพิสดาร
เมื่อครบ ๓ วันนางยักษ์กลับมาไม่เห็นใครจึงออก
ตามหา และได้ฆ่าเงือกเฒ่าแต่พระอภัยมณี สินสมุทร
และนางเงือกรอดพ้นมือนางผีเสื้อสมุทร
เพราะว่ายมาถึงเกาะแก้วพิสดารพอดีและ
โยคีได้ออกมาช่วยเหลือ เสกทรายโปรยใส่
จนนางผีเสื้อสมุทรกลัวดำลงน้ำหนีไป
๑.๒ ตัวละคร
พระอภัยมณีเป็นลูกกษัตริย์ เป็นคนรูปงาม มีเสน่ห์ เจ้าชู้ มีจิตใจอ่อนโยน
แต่ขาดความเด็ดขาด เป่าปี่ เก่งนางผีเสือสมุทร สามารถแปลงร่างเป็นหญิง
สวยได้ ศรัทธาในความรัก ดุร้าย รักสามีมากกว่ารักลูก มีรูปร่างจริงเป็นยักษ์
สินสมุทร เป็นบุตรของ นางผีเสือสมุทรกับพระอภัยมณี อายิ ๘ ปี มีบุคลิก
คล้ายแม่ ฉลาด ช่างพูดจาพระโยคี เป็นฤาษี มีน้ำใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วย
เหลือคน มีคาถาอาคม
รู้วิชาโหราศาสตร์
๑.๓ ฉาก
ในเรื่องมีฉากบรรยากาศเป็นเหมือนนิยายแฟนซี ประกอบไปด้วยถ้ำ ทะเล
เกาะ และมีการวิเคราะห์ตามหลักภูมิศาสตร์ ที่แม่นยำในสถานที่ที่สุนทรภู่ได้
แต่งไว้ ซึ่งถือเป็นอัจฉริยะในการประพันธ์
๑.๔ แก่นเรื่อง
กล่าวถึงความรักที่อยู่ด้วยกันแบบไม่สมัครใจ หากไม่เหมาะสมกันต่างชาติ
ต่างตระกูลกันก็ไม่สามารถรักกันได้และไมุ่สมหวัง
๒.คุณค่าด้านวรรณศิลลป์
๒.๑ ลักษณะคำประพันธ์
แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพหรือกลอนแปด เรื่อง
พระอภัยมณีแต่งเป็นนิทานคำกลอนมีคำลงท้ายเรื่องว่าเอย
๒.๒ รสวรรณคดี
เสาวรจนีย์ นารีปราโมทย์ พิโรธวาทัง สัลลาปังคพิสัย
ชมธรรมชาติ บทเกี้ยวพาราสี บทโกรธ โศกเศร้า
ชมความสวย แสดงความรัก เสียดสี ครํ่าครวญ
ชมความงาม ประชดประชัด อาลัยอาวรณ์
สื่อรัก เหน็บแนม
ชมนก จีบกัน ตัดพ้อ
ชมปลา
๒.๓ ศิลปะการประพันธ์
๑. การเล่นสัมผัสในแพรวพราวทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
(สัมผัสพยัญชนะ)
ตัวอย่าง
แม่ของเจ้าเขาเป็นเชื้อผีเสื้อสมุทร ขึ้นไปฉุดฉวยบิดาลงมา
จึงกำเนิดเกิดกายสายสุดใจ จนเจ้าได้แปดปีเข้านี่แล้ว
ตัวอย่าง
กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน
๒. การใช้คำที่ทำให้เกิดจินตภาพ สื่อถึงอาการเคลื่อนไหว
ตัวอย่าง
นางผีเสื้อเหลือโกธรโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคุนธร์ขุนไศล
ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย
เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหินหลุทรุดสลาย
เสียงครึกครื้นคลื่นคลุ้มขึ้นกลุ้มกาย ผีเสื้อร้ายรีบรุดไม่หยุดยืน
๓. การเล่นเสียงพยัญชนะท้ายวรรคทำให้เกิดเสียงจังหวะที่ไพเราะ
ตัวอย่าง
•ระลอกซัดพลัดเข้าในปากฉลาม ลอดออกตามซีกเหงือกเสลือกสลน
•ฝูงม้านํ้าทำท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
•ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย
๔. การใช้คำพรรณนาโวหาร เช่น บทชมธรรมชาติ
ตัวอย่าง
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟู พ่นฟองนํ้าบ้างดำจร
ฝูงพิ มพาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผุดพ่ นฟองนํ้าบ้างดำจร
กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง
มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ลอยสล้างกลางแสแลสลอน
ฝูงม้านํ้าทำท่าเหมือนม้าเผ่น ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน
ตะเพี ยนทองท่องนํ้านำตะเพี ยน
ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน
ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา
๕. การใช้คำที่ทำให้เกิดจินตนาการทั้งภาพ แสง สี เสียง
ตัวอย่าง
เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคียงเรียงรุกขา
จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสุดสายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม
จะเหลียวดูสุริย์แสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม
ฟังสำเนียงเสียงคลื่นดังคลื่นโครม ยิ่งทุกข์โทมนัสในฤทัยในฤทัยทวี
พอเย็นยํ่าคํ่าพลบลงโพล้เพล้ ท้องทะเลมืดมัวทั่ววิถี
๖. การใช้ภาพพจน์ประเภทอุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งที่
เหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง
พระโยคีมีญาณว่าหลานรัก จงสำนักอยู่ให้สมอารมณ์หมาย
อันยักษีผีสางสมุทรพราย มาถูกทรายชายหาดก็ขาดใจ
เราลงเลขเสกทำไว้สำเร็จ ดังเขื่อนเพชรภูตปีศาจไม่อาจใกล้
มันอยู่แต่ห่างห่างช่างเป็นไร ทำไม่ได้นัดดาเจ้าอย่ากลัว
๗. การใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ขัน
ตัวอย่าง
อียักษาตาโตโมโหมาก รูปก็กากปากก็เปราะไม่เหมาะเหม็ง
นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง ผัวของเอ็งเขาระอาไม่น่าชม
๓. คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม
๓.๑ สะท้อนวิถีความเป็นอยู่ของคนไทยเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก
ผูกเปลเห่กล่อม
ตัวอย่าง
พระบิตุรงค์ทรงศักดิ์ก็รักใคร่ ด้วยเนื้อไขมิได้คิดริษยา
เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า จนใหญ่กล้าอายุได้แปดปี
๓.๒ สะท้อนให้เห็นว่าในสังคมไทยมีความเชื่อเรื่องความฝัน
เคราะห์กรรม เทวดา ภูตผีปีศาจ เวทมนตร์คาถา
ตัวอย่าง
• พอม่อยหลับกลับจิตนิมิตฝัน ว่าเทวัญอยู่ที่เกาะนั้นเหาะเหิน
มาสังหารผลาญถํ้าระยำเยิน แกว่งพะเนินทุบนางแทบวางวาย
• นึกจะใคร่สะเดาะพระเคราะห์เจ้า พอบรรเทาโทษาที่อาสัญ
เหมือนงอนง้อขอชีวิตแก่เทวัญ กลัวแต่ขวัญเนตรพี่ จะมิทำ
• สินสมุทรฟังเสียงสำเนียงแน่ รู้ว่าแม่มั่นคงไม่สงสัย
ดูรูปร่างอย่างเปรตสมเพชใจ ช่างกระไรราศีไม่มีงาม
• อันยักษีผีสางสมุทรพราย
เราลงเลขเสกทำไว้สำเร็จ มาถูกทรายชายหาดก็ขาดใจ
ดังเขื่อนเพชรภูตปีศาจไม่อาจใกล้
๓.๓ สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยมีการให้ความช่วยเหลือกัน เช่น
ตอนที่เงือกพาพระอภัยมณีและสินสมุทรหนี ตอนโยคีช่วย
ปกป้องพระอภัยมณี สินสมุทรและนางเงือก
ตัวอย่าง
พระโยคีมีจิตคิดสงสาร จึงว่าท่านหนีตายหมายมาหา
เราลงมาคอยช่วยด้วยเมตตา แต่กิจจาไม่กระจ่างยังคลางแคลง
๓.๔ สะท้อนให้เห็นว่าการอยู่ในสังคมต้องมีสติปัญญาให้มาก เช่น
ตอนที่พระอภัยมณีหลอกให้นางผีเสือสมุทรไปถือศีลอดข้าวอดน้ำ
ตอนเงือกวางแผนนำพาพระอภัยมณีและสินสมุทรหนี ตอนที่สิน
สมุทรหลอกล่อแม่ให้ห่างไกลจากพระอภัยมณีออกไป
ตัวอย่าง
ฝ่ายโยคีมียศพจนาถ ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ
จงตัดบ่วงห่วงใยอาไลยลาญ อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย
ทั้งนี้เพราะเคราะห์กรรมทำให้วุ่น จึงสิ้นบุญวาสนาสีกาเอ๋ย
เห็นมิได้ไปอยู่เป็นคู่เชย ด้วยสองเคยปลูกเลี้ยงกันเพี ยงนั้น
อย่าควรคิดติดตามด้วยความโกรธ จะเป็นโทษกับสีกาเมื่ออาสัญ
จงยับยั้งฟังคำรูปรำพั น ไปสวรรค์นฤพานสำราญใจ
๓.๕ สะท้อนให้เห็นถึงความรักระหว่างสามีภรรยาว่า หากเป็น
ความรักที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจ ก็อาจก่อให้เกิดปัญหา
ครอบครัวได้ เช่นพระอภัยมณีเป็นมนุษย์แต่ต้องไปอยู่กับ
นางผีเสื้อสมุทร
ตัวอย่าง
แม่ผีเสื้อเมื่อไม่เห็นในใจเลย พี่ ไม่เคยอยู่ในถ้ำให้รำคาญ
คิดถึงน้องสองชนกที่ปกเกล้า จะสร้อยเศร้าโศกาน่าสงสาร
ด้วยพลัดพรากจากมาเป็นช้านาน ไม่แจ้งการว่าข้างหลังเป็นอย่างไร
จึงจำร้างห่างห้องให้น้องโกรธ จงงงดโทษพี่ ยาอัฌชาสัย
แม้นไปได้ก็จะพาแก้วตาไป นี่จนใจเสียด้วยนางต่างตระกูล
พี่ มนุษย์สุดสวาทป็นชาติยักษ์ จงคิดหักความสวาทให้ขาดสูญ
จัดทำโดย
ม.3/1
เด็กหญิง เมธาวี วิเศษเสนา เลขที่๑๖
เด็กหญิง ณัฎฐ์ชญา สมสุรินทร์ เลขที่ ๑๗
เด็กหญิง นิศารัตน์ ขอนสัก เลขที่ ๒๔
เด็กหญิง พิมพ์มณี รุ่งเปิดเกรียงไกร เลขที่ ๑๔