นิ ราศ
พระบาท
ประวัตสิ ุนทรภู่
วนั สนุ ทรภู่ ตรงกบั วนั เกดิ คือ วนั ท่ี 26 มถิ ุนายน
ของทุกปี
พระสนุ ทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรอื ท่ีเรยี กกนั ทัว่ ไปวา่
สนุ ทรภู่ (พ.ศ. 2329-2398) กวไี ทยทม่ี ีชื่อเสียงใน
รชั สมัยพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย
มีผลงานที่มีชื่อเสียงหลายเรอื่ งไดแ้ ก่ พระอภยั มณี
นิราศพระบาท นิราศภเู ขาทอง ได้รบั ยกยอ่ งจากองค์การ
ยเู นสโกเป็นบคุ คลสาคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม
เมื่อ พ.ศ. 2529
ลกั ษณะคาประพันธ์
กลอนสุภาพ (กลอนแปด)
กลอนนิราศมีลักษณะบงั คับอย่างกลอนทัว่ ไป
กาหนดลักษณะเฉพาะเช่นเดยี วกับกลอน
เพลงยาว คือข้ึนต้นด้วยวรรครับ และลงทา้ ย
บทด้วยคาว่าเอย
จดุ ม่งุ หมาย
5.ตอ้ งการทราบ
1.ศึกษาประวัตชิ วี ิต ทรรศนะความ
ของสุนทรภขู่ ณะ
ตามเสด็จพระองค์ 3.ศึ กษาเส้ นทาง คิดเห็นจากบุคคล
เจ้าปฐมวงศ์ ไป การเดนิ ทาง ต่าง ๆทม่ี ตี ่อนิ ราศ
พระพุทธบาท ของสุนทรภู่จาก พระบาทสุนทรภู่
2.ศึกษา แนวคิด กรุงเทพฯ ถึง
ภาษิต คาคม
สานวนโวหารที่ พระพุทธบาท
ปรากฏในนิ ราศ
พระบาท 4.ค้นควา้ ประวตั ิ
สถานที่ต่าง ๆ ท่ี
แสดงถึงความ
เปล่ยี นแปลง
ตามสมัย
แนวคิด
วรรณคดีเรอื่ งนี้ สะทอ้ นภาพวถิ ชี วี ิตของคน
ไทยในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ เชน่ ภาพ
การแตง่ กายของชาววงั ท่ีอย่ใู นขบวนเสดจ็
ลักษณะท่าทาง และอุปนิ สัยของสาวชาววงั
การแตง่ กายและวิถชี วี ิตของชาวมอญที่
สามโคก ปทุมธานี ลกั ษณะทีอ่ ยอู่ าลัยของคน
ไทยตามแต่ละท้องถ่นิ นอกจากน้ี สนุ ทรภู่ได้
สอดแทรกคตธิ รรมบางประการที่ใชเ้ ป็นหลัก
ดาเนิ นชวี ติ เชน่ ความกตญั ญ ความซอ่ื สัตย์
สจุ รติ การเลือกคบคน เป็นตน้
เรื่องย่อ
นิราศพระบาทมีทงั้ เรอื่ งราวชวี ิต และอุปนิสัยส่วนตัวของสนุ ทรภู่ โดย
เน้นความรกั ทมี่ ีตอ่ นางจนั ภรรยา ซง่ึ สนุ ทรภสู่ ามารถเชอื่ มโยง
ความรูส้ ึกทมี่ ตี ่อนางกบั สถานทที่ เี่ ดินทางผา่ นได้อยา่ งกลมกลืน บาง
ตอนสะทอ้ นอุปนิสัยบางประการของสนุ ทรภู่ ความมอี ารมณ์อ่อนไหว
ดงั ตอนทพ่ี รรณนาถึงความสะเทอื นใจทเ่ี ห็นซากปรกั หักพังของกรุง
ศรอี ยธุ ยา บางตอนสะทอ้ นชวี ติ สาวชาววงั และชาวบา้ น ตลอดจนวิถี
ชวี ติ ของคนในสังคมไวด้ ้วย เชน่ การแตง่ กายของสาวชาววังทรี่ ว่ ม
ขบวนเสด็จ การแตง่ กายของสาวมอญทสี่ ามโคก และลกั ษณะบ้านของ
ชาวมอญในสังคมไทย ส่ิงทกี่ ล่าวถึงวถิ ีชวี ติ ในสังคมได้ชดั เจนทส่ี ุดคอื
งานวดั พระพทุ ธบาทอันเป็นงานสาคญั และย่งิ ใหญ่ กวีบรรยายภาพ
งานรนื่ เรงิ ทมี่ ีการละเล่นต่าง ๆ และการประดับตกแตง่ สถานทอ่ี ยา่ ง
สวยงามสะทอ้ นให้เห็นวา่ คนไทยมอี ปุ นิสัยชอบความสนกุ สนาน
คาสาคัญ
พระบาท พรรณนา
ชลมารค
ล่องเรอื
บนั ทึกการ
เดนิ ทาง
คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์
การสรรคา คอื การเลอื กใชค้ าให้ส่ือความคดิ ความเขา้ ใจ
ความรูส้ ึกหรอื อารมณ์ได้ อย่างงดงาม
กาพย์ นิ ยมใชค้ าธรรมดา คาทเ่ี รยี บงา่ ย ใชพ้ รรณนา
เหตุการณ์หรอื อารมณ์สะเทอื นใจ
คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์
การสรรคา
การเล่นคาสัมผัส คือ การใชถ้ ้อยคาให้มีเสียงสัมผสั
คลอ้ งจองโดยการสัมผัสมี ๒ ชนิ ดคือ สัมผัสนอกและ
สัมผัสใน สัมผัสนอกเป็นสัมผสั บังคับตามฉันทลกั ษณ์
ของคาประพันธ์ ส่วนสัมผสั ในเป็นสัมผัสทไี่ ม่บังคับ
แต่สัมผัสในเป็นสัมผัสที่เพ่ิมความไพเราะย่งิ ข้ึน มี ๒
ลักษณะคือ สัมผสั พยญั ชนะ (สัมผสั อักษร) และสัมผสั
สระ
คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์
สั มผสั พยญั ชนะ
ยกตวั อย่างเชน่ พอจวนยา่รุง่ เรง่ ออกจากท่า
วันจะจรจากน้ องสิบสองคา่ พ่ีตั้งตาแลแลตามแพราย
ก็แลเปล่าเปลี่ยวไปน่ าใจหาย
ราลกึ ถึงดวงจันทรค์ รรไลลา ไมเ่ หือดหายห่วงหวงเป็นห่วงครนั ฯ
ทปี่ ระเทศเขตเคยได้เห็นเจ้า
แสนสลดให้ระทดระทวยกาย
บทประพันธน์ ี้ มีการเล่นคาสัมผสั พยญั ชนะในวรรคคือ จ และ ห
คาว่า จะ จร จาก เหือด หาย ห่วง หวง
คุณค่าดา้ นวรรณศิ ลป์
สั มผัสสระ
ยกตวั อย่างเชน่
เท่ยี วชมห้องปลอ่ งหิน มีนาย้ ้อยหยาดหยดั อย่างเมด็ ฝน
พอเทียนดบั ลับแลไมเ่ ห็นคน ผู้หญิงปนเดนิ ปะปะทะชาย
บทประพันธน์ ี้ มกี ารเลน่ คาสัมผัสสระในวรรคคือ สระอะ ะ
คาว่า ปะ ปะ ทะ
คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์
การเล่นคา
ใชก้ ลการประพันธใ์ นการแต่งบทรอ้ ยกรองดว้ ยการซาค้ า
หรอื ซาอ้ กั ษรให้เกิดเสียงเสนาะ หรอื ให้มคี วามหมายท่ีลึกซง้ึ
กนิ ใจย่งิ ข้ึน
ตัวอยา่ งเชน่
ทั้งจากทีจ่ ากคลองเป็นสองข้อ ยังจากอน้ั นก็ข้ึนในคลองขวาง
โอ้วา่ จากชา่ งมารวบประจวบทาง ท้ังจากบางจากไปใจระบม
บทประพันธน์ ้ี มีการเล่นคา คือคาวา่ จาก
คุณค่าดา้ นวรรณศิ ลป์
การหลากคา
การทใ่ี ชค้ าที่มีความหมายเหมือนกันแตอ่ อกเสียง มาแต่งบท
ประพันธ์ เพื่อให้เกิดคาทหี่ ลากหลายไมซ่ า้ หรอื เรยี กว่าคาพ้อง
ความหมาย (คาไวพจน์ )
ตวั อยา่ งเชน่
ถึงพบเพ่ือนท่รี ูจ้ ักเคยรกั ใคร่ ก็เฉยไปเสียมิได้จะทักถาม
คอยฟังเทวราชประภาษความ เมื่อไหรจ่ ะคืนอารามวัดระฆงั
บทประพันธน์ ี้ มีการใชค้ าพ้องความคือ คาวา่ อาราม แปลวา่ วดั
คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์
การเรยี บเรียงคา
การเรยี บเรยี งคา คือการจัดวางคาทเ่ี ลือกสรรแลว้ ให้มาเรยี งรอ้ ยกันอยา่ งต่อเน่ื องตาม
จังหวะ ตามโครงสรา้ งภาษ หรอื ตามฉันทลักษณ์ ซง่ึ มหี ลายวธิ เี ชน่
๑.จัดลาดับความคิดหรอื ถอ้ ยคาจากส่ิงสาคัญจากน้ อยไปมาก จนถงึ ส่ิงสาคัญสูงสดุ อัน
เป็นจดุ สดุ ข้นั
๒.จดั ลาดับความคิดหรอื ถอ้ ยคาจากส่ิงสาคัญน้ อยไปหามาก แต่กลับหักมุมความคิด
ผู้อา่ นเมอ่ื ถึงจุดสุดขน้ั
๓.จัดลาดบั คาให้เป็นคาถามแตไ่ มต่ ้องการคาตอบหรอื มคี าตอบอยู่ในตวั คาถามแลว้
๔.เรยี งถอ้ ยคาเพ่ือให้ผู้อ่านแปลความหมายไปในทางตรงขา้ มเพ่ือเจตนาเยาะเย้ย
ถากถาง
๕.เรยี งคาวลี ประโยค ทม่ี คี วามสาคัญเทา่ ๆกนั เคียงขนานกันไป
คุณค่าดา้ นวรรณศิ ลป์
การเรยี บเรียงคา
ตวั อยา่ งเชน่
โอ้อาลัยใจหายไมว่ ายห่วง
ดังศรสักปักซาร้ ะกาทรวง เสี ยดายดวงจันทราพะงางาม
เจ้าคมุ แคน้ แสนโกรธพิโรธพ่ี แตเ่ ดือนยจี่ นยา่ งเข้าเดือนสาม
จนพระหน่อสุรยิ ว์ งศ์ทรงพระนาม จากอารามแรมรา้ งทางกนั ดาร
ด้วยเรยี มรองมลุ ิกาเป็นขา้ บาท จานิราศรา้ งนชุ สดุ สงสาร
ตามเสดจ็ เสรจ็ โดยแดนแสนกันดาร นมสั การรอยบาทพระศาสดา
บทประพันธท์ ยี่ กมาน้ี มีการจัดวางคาเรยี งรอ้ ยอยา่ งต่อเนื่องตามจงั หวะ
ตามโครงสรา้ งภาษ หรอื ตามฉันทลักษณ์
คุณค่าดา้ นวรรณศิ ลป์
การใช้ภาพพจน์
ภาพพจน์ เป็นการใชถ้ ้อยคาสานวนโวหาร
ท่ีทาให้ผรู้ บั สารเกดิ มโนภาพ
เกิดจนิ ตนาการ ถา่ ยทอดอารมณ์ ทาให้มี
ความรูส้ ึกรว่ มตรงตามความปรารถนาของ
ผู้ส่ งสาร
สั พพจน์
สัทพจน์ คือ การใชถ้ ้อยคาท่เี ลียนเสียง
ธรรมชาติ เชน่ เสียงดนตรเี สียงรอ้ งของสัตว์ หรอื
เลียนเสียงกริ ยิ าอาการต่าง ๆ ของคน การใช้
ภาพพจน์ ประเภทนี้ ไมว่ า่ จะเป็นการพูดหรอื การ
เขียน จะชว่ ยสื่อให้ผู้รบั สารรูส้ ึกเหมอื นไดย้ ินเสียง
โดยธรรมชาติของส่ิงนั้ น ๆ และเห็นกิรยิ าอาการ
ของส่ิงน้ั น ๆ ดว้ ย
คุณค่าดา้ นวรรณศิ ลป์
ตวั อย่างเช่น ไม่ไดศ้ ัพทเ์ ซง็ แซด่ ้วยแตรสังข์
ประจวบจนสุรยิ นเยน็ พยบั ระฆังหงงั่ หงง่ั หงา่ งลงครางครมึ
วเิ วกแว่วกลองโยนตะโพนกระห่ึม
ป่ ีระนาดฆอ้ งกลองประโคมดัง รุกขาครม้ึ ครอบแสงพระจันทร
มโหรปี ่ ีไฉนจับใจแจ้ว
ทุกท่ีทับสัปปรุ ุษกพ็ ูดพึม
บทประพันธน์ ้ี มีการเลยี นเสียงระฆงั ทม่ี เี สียงดงั หงงั่ หงง่ั หงา่ ง
ข้อคิด คตคิ าสอน และความจรรโลงใจ
นิ ราศพระบาทให้ข้อคดิ เก่ียวกับการคบ
คนวา่ ไม่ควรเลือกคบคนทค่ี าพูดอนั
ไพเราะ แตใ่ ห้ใชค้ วามรอบคอบ เพราะคน
ท่พี ดู จาหวานหูอาจเป็นภยั ได้ นอกจากน้ี
ยงั ให้ความจรรโลงใจจากภาพความงาม
ท่พี รรณนาไว้อย่างไพเราะอกี ด้วย
วดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ าร
ตัง้ อยทู่ ่ี อาเภอพระพุทธบาท
จังหวดั สระบรุ ี