บทเรียนสำเร็จรูป คำสรรพนาม

๑

คำแนะนำกำรใช้บทเรียนสำเร็จรูป

สำหรับครู

๑. ทดสอบความรู้พ้ืนฐาน ก่อนเรียน เพือ่ วดั พ้นื ฐานความรู้ของนกั เรียนทุกคน
๒. นาเขา้ สู่บทเรียน แจง้ สาระสาคญั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั จุดประสงค์การเรียนรู้และสาระ

การเรียนรู้ท่ีจะเรียน
๓. ช้ีแจง อธิบายข้นั ตอนการใชบ้ ทเรียนสาเร็จรูปโดยสรุป
๔. ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใชบ้ ทเรียนสาเร็จรูป ควบคกู่ บั แผนการจดั การเรียนรู้
๕. ควรให้นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ในบทเรียนสาเร็จรูปดว้ ยตนเองทีละกรอบโดยครูคอย

สงั เกตพฤติกรรมการเรียนของนกั เรียนและดแู ลใหค้ าแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด
๖. ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัดแตล่ ะเรื่อง เมื่อศกึ ษาจบเพือ่ ทบทวนความรู้ ถา้ ตอบผิดใหก้ ลบั ไป

ศกึ ษาทบทวนกรอบเดิมกอ่ น
๗. ทดสอบความรู้ หลงั เรียน หลงั จากทเี่ รียนจบแต่ละเล่ม บนั ทกึ ขอ้ มลู ไว้ เพอ่ื เปรียบเทียบ

ผลการเรียนรู้ก่อนและหลงั เรียน
๘. ใชเ้ ป็นส่ือ/นวตั กรรมการเรียนการสอนสาหรบั ครู
๙. ใช้เป็นแบบเรียนทใี่ ห้นกั เรียนไดเ้ รียนรู้เพ่มิ เติมและซ่อมเสริมความรู้ดว้ ยตนเอง

ให้นกั เรียนไดศ้ กึ ษาดว้ ยตนเองโดยมีคุณครู
คอยใหค้ าแนะนาหากนกั เรียนมีขอ้ สงสยั

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒

คำแนะนำกำรใช้บทเรียนสำเร็จรูป

สำหรับนักเรียน

๑. บทเรียนสาเร็จรูปเล่มน้ี ประกอบดว้ ย ส่วนเน้ือหา แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย สรุปเน้ือหา
และแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน

๒. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ห้ำมดเู ฉลยก่อนเดด็ ขำด
๓. ตรวจสอบคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนจากเฉลยในกรอบถดั ไป บอกคะแนนทไ่ี ด้

ให้คุณครูบนั ทกึ คะแนน
๔. ใหท้ าความเขา้ ใจในสาระสาคญั สาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั และจดุ ประสงค์

การเรียนรู้ กอ่ นศึกษาเน้ือหาในเล่มทุกคร้ัง
๕. บทเรียนสาเร็จรูปเลม่ น้ีเป็นเอกสารสาหรบั ใหน้ กั เรียนอา่ นศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง นกั เรียน

ตอ้ งซ่ือสตั ยต์ อ่ ตนเอง ไม่เปิ ดดคู าตอบก่อนตอบคาถามโดยเดด็ ขาด
๖. ใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาในแต่ละกรอบแลว้ ตอบคาถาม ตามลาดบั ไม่ควรขา้ มกรอบ

ในการตอบคาถามใหต้ อบในกระดาษคาตอบท่ีครูแจกให้ เมอื่ นกั เรียนตอบคาถามเสร็จแลว้
ให้นกั เรียนตรวจคาตอบโดยดเู ฉลยคาตอบในกรอบถดั ไป
๗. ถา้ นกั เรียนตอบถกู ตอ้ ง ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินในแตล่ ะแบบฝึกหดั ให้นกั เรียนศึกษาเน้ือหา
ในกรอบตอ่ ไปได้ แตถ่ า้ ไม่ผา่ นการประเมินตามเกณฑท์ ีก่ าหนดไวใ้ หน้ กั เรียนยอ้ นกลบั ไป
ศึกษาเน้ือหาจากกรอบเดิมอกี คร้ังหน่ึงเพื่อทาความเขา้ ใจใหม่ แลว้ ศกึ ษากรอบตอ่ ไปจนจบ
เน้ือหาในเลม่
๘. ให้นกั เรียนต้งั ใจศกึ ษาบทเรียน ไม่ตอ้ งรีบร้อน หรือกงั วลว่าล่าชา้ หรือเร็วกวา่ คนอืน่ ถา้ หาก
นกั เรียนมีขอ้ สงสัยในเน้ือหาให้นกั เรียนสอบถามจากคณุ ครูได้
๙. เมอื่ จบบทเรียนแต่ละเลม่ แลว้ ให้ทาแบบทดสอบ หลงั เรียน อีกคร้ังหน่ึง พร้อมตรวจสอบ
คาตอบจากเฉลย แลว้ เปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลงั เรียน

นกั เรียนอ่ำนคำแนะนำกำรใช้บทเรียนให้เข้ำใจ
ก่อนศึกษำบทเรียนสำเร็จรูปเล่มนี้
ขอให้นกั เรียนเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุขนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๓

แบบทดสอบก่อนเรียน

เล่มที่ ๒ เรื่อง คำแทนชื่อนี้คือ...สรรพนำม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๖

คำชี้แจง - แบบทดสอบมีท้งั หมด ๑๐ ขอ้ ใชเ้ วลาในการทาแบบทดสอบ ๑๕ นาที
- จงกาเคร่ืองหมายกากบาท  ทบั ขอ้ ก ข ค ง ที่ถกู ตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว
ลงในกระดาษคาตอบท่ีแจกให้

๑. “ทา่ นไมย่ อมรับประทานอะไรเลย” คาว่า “อะไร” เป็นคาสรรพนามชนิดใด

ก. วภิ าคสรรพนาม ข. ปฤจฉาสรรพนาม

ค. นิยมสรรพนาม ง. อนิยมสรรพนาม

๒. คาวา่ “ท”ี่ ในขอ้ ใดเป็นประพนั ธสรรพนาม ข. ทมี่ ีราคาสูงมาก
ก. งานรบั ปริญญาจดั ท่ีไหน ง. ฉนั ไปพบกบั เธอทบี่ า้ น
ค. รายการท่ีเธอชอบกาลงั เป็นท่นี ิยม

๓. “กนั ” ในขอ้ ใดเป็นวิภาคสรรพนาม ข. กันไม่ชอบคนน้นั
ก. ผหู้ ญงิ ชอบกนั คิว้ ง. นกั เลงตีกัน
ค. เกิดอะไรกัน

๔. “ฉัน” ในขอ้ ใดเป็นบุรุษสรรพนาม ข. ทา่ นไม่ชอบฉันแกงเผด็
ก. เขารกั กนั ฉนั พน่ี อ้ ง ง. ถกู ทุกขอ้
ค. ฉนั ไมช่ อบการผจญภยั

๕. ขอ้ ใดเป็นอนิยมสรรพนาม (สรรพนามไมช่ ้ีเฉพาะเจาะจง)

ก. อะไรๆ ก็ดดู ีไปหมด ข. ใครมากดกร่ิงที่ประตูบา้ น

ค. นน่ั ทา่ นมาแลว้ ง. เธอคอ่ ยๆ กา้ วเขา้ มาในห้อง

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๔

๖. ขอ้ ใดมีประพนั ธสรรพนาม (สรรพนามทีใ่ ชเ้ ชื่อมประโยค)

ก. เธอทาอะไรอยู่ ข. แบบฝึกหัดบทน้ียากจริง ๆ

ค. น้าฝนทรี่ องเอาไวใ้ ชด้ ่ืมไม่ได้ ง. ใครแต่งเร่ืองอเิ หนา

๗. คาสรรพนามในขอ้ ใดทาหนา้ ที่เป็นประธาน ข. พาเขาไปไกลๆ
ก. หลวงอาทา่ นรับฎีกาไว้ ง. งกู ดั เจา้ แตม้ มนั
ค. นา้ สาลจี ะไปส่งคณุ คะ่

๘. คาสรรพนามในขอ้ ใดทาหนา้ ท่เี ป็นกรรม
ก. หลวงป่ แู หวนทา่ นไม่คอ่ ยไดพ้ กั ผ่อน ข. หลวงนา้ ไปไหนมาคะ
ค. คุณมานพเขาไมค่ ่อยตรงเวลาเลย ง. นอ้ งทบุ มนั เสียงดงั สนนั่

๙ . ขอ้ ใดใชส้ รรพนามแลว้ มคี วามหมายเป็นคาถาม
ก. ขนมอะไรฉันก็ทานไดท้ ้งั น้นั
ข. ไหน ๆ กม็ าแลว้ เขา้ ไปดเู สีย
ค. ใด ๆ ในโลกลว้ นไมแ่ น่นอน
ง. อะไรที่เธอทาอยฉู่ นั ขอทาดว้ ยนะ

๑๐. ขอ้ ใดมคี าสรรพนามมากท่สี ุด
ก. อาจารย์ ทา่ นยงั ไม่มา
ข. อาตมาจะพบโยมทล่ี านวดั
ค. สมุดบนั ทึกของเธออยใู่ นกระเป๋ า
ง. นี่เป็นหลานสาวของเธอหรือของใคร

ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนใหเ้ ต็มความสามารถ
แลว้ ตรวจคาตอบจากเฉลยหนา้ ถดั ไปนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๕

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

เร่ือง คำแทนชื่อนี้คือ...สรรพนำม

ข้อที่ คำตอบ
๑. ง
๒. ค
๓. ง
๔. ค
๕. ก
๖. ค
๗. ก
๘. ง
๙. ง
๑๐. ง

ทาแบบทดสอบแลว้ ไดก้ ่ีคะแนน
อยา่ ลืมบอกคณุ ครูจดบนั ทกึ คะแนนไวด้ ว้ ยนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๖

สำระกำรเรียนรู้

๑. ความหมายของคาสรรพนาม
๒. ประเภทและลกั ษณะของคาสรรพนาม
๓. หนา้ ท่ีของคาสรรพนาม

สำระสำคญั

การเลือกใชค้ าสรรพนามใหถ้ กู ตอ้ งตามประเภทและหนา้ ทีข่ องคาน้นั จะช่วยให้เราสามารถ
สื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

มาตรฐานการเรยี นรู้

ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของ
ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษาและรกั ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ

ตวั ชีว้ ดั
ป. ๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและหนา้ ท่ีของคาในประโยค

จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้

๑. อกความหมายและหนา้ ท่ีของคาสรรพนามไดถ้ กู ตอ้ ง
๒. ยกตวั อยา่ งคาสรรพนามท่ที าหนา้ ท่ตี ่างๆ ได้
๓. จาแนกประเภทของคาสรรพนามและระบตุ าแหน่งที่ใชใ้ นประโยคส่ือสารได้
๔. นาคาสรรพนามไปใชใ้ นการสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ ง

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๗

กรอบที่ ๑

บทนำ

ในส่วนของบทเรียนสาเร็จรูป เลม่ ท่ี ๑
เป็นการกลา่ วถึงเน้ือหา เรื่อง คานาม
เด็กๆ ยงั จาไดห้ รือเปลา่ วา่ คานามคอื อะไร
ใครจาไดช้ ่วยบอกคุณครูหน่อยไดไ้ หมคะ

จกุ จาไดค้ รบั คุณครู คานามคอื คาท่ใี ชเ้ รียกชื่อคน สตั ว์ ส่ิงของ
สภาพ ลกั ษณะและสถานที่ ตวั อยา่ งเช่น คณุ ครู ตารวจ นก
แมว นาฬกิ า กระถาง โรงเรียน ความเขา้ ใจ ถกู ตอ้ งไหมครับ

จกุ เขา้ ใจถกู ตอ้ ง เก่งมากค่ะ
นกั เรียนอ่านและสงั เกตขอ้ ความตอ่ ไปน้ี
แลว้ บอกคณุ ครูวา่ ขอ้ ความน้ีมีส่วนบกพร่องในเร่ืองใด

ข้อควำม

“ภูรินทร์ชอบเล้ียงสุนขั ทุกๆ เชา้ ภรู ินทร์จะนาสุนขั ของภูรินทร์ไปเดินออกกาลงั กาย
กบั ภรู ินทร์ทกุ วนั ”

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๘

คุณครูคะมคี าว่า “ภรู ินทร์” ซ่ึงเป็นชื่อเฉพาะ
หรือวิสามานยนามซ้ากนั ถึง ๔ คร้ัง และมีคาวา่
“สุนขั ”ซ่ึงเป็นคานามทว่ั ไปหรือสามานยนาม ซ้ากนั ๒ คร้ังค่ะ
เป็นขอ้ ความที่ยาว ไมไ่ พเราะสละสลวย

นกั เรียนคะ่ ถา้ หากเราจะปรบั ปรุงขอ้ ความน้ีใหม่
ใหไ้ พเราะสละสลวยแตใ่ จความของขอ้ ความ
จะตอ้ งยงั คงเหมอื นเดิม นกั เรียนวา่ น่าจะเขียนใหม่
ไดอ้ ยา่ งไร

“ภรู ินทร์ชอบเล้ียงสุนขั ทุกๆ เชา้ เขาจะนาสุนขั ของเขา
ไปเดินออกกาลงั กายกบั เขาทุกวนั ”

นกั เรียนใชค้ าวา่ “เขา” แทน “ภรู ินทร์” ใช่ไหมคะ
แลว้ นกั เรียนทราบหรือไมว่ ่าคาที่นามาใชแ้ ทนคานามทซ่ี ้ากนั เราเรียกวา่
คำสรรพนำม ซ่ึงนกั เรียนจะไดศ้ ึกษารายละเอยี ดของคาสรรพนามในกรอบถดั ไปค่ะ
เดก็ ๆ ตอ้ งศกึ ษาอยา่ งต้งั ใจนะคะ่ ถา้ หากอา่ นแลว้ ยงั ไม่เขา้ ใจสามารถสอบถามขอ้ สงสยั
จากคณุ ครูใหค้ ณุ ครูอธิบายเพม่ิ เติมไดค้ ่ะ

พวกหนูจะต้งั ใจศึกษาค่ะคุณครู

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๙

กรอบท่ี ๒

คำสรรพนำม

ควำมหมำยของคำสรรพนำม

คำสรรพนำม คอื คาแทนชื่อหรือแทนคานามทผี่ พู้ ดู หรือผเู้ ขียนไดก้ ล่าวมาแลว้ เพอื่ ช่วยให้
ไม่ตอ้ งกล่าวถงึ คานามน้นั ซ้าอีก

ตวั อย่ำง

* นางสาวซ่อนกล่ินเป็นพยาบาล นางสาวซ่อนกลิน่ มคี วามรับผิดชอบดีมาก
นางสาวซ่อนกลิน่ เป็นพยาบาลเธอมีความรับผดิ ชอบดีมาก
(คาว่า “เธอ” เป็นคาสรรพนามทใ่ี ชแ้ ทนช่ือ “นางสาวซ่อนกลิน่ ”)

* ปลาเป็นสัตวน์ ้า ปลาใชค้ รีบและหางวา่ ยน้า
ปลาเป็นสัตวน์ ้า มนั ใชค้ รีบและหางว่ายน้า
(คาว่า “มนั ” เป็นคาสรรพนามทใ่ี ชแ้ ทนคานาม “ปลา”)

* ชอ้ งนางเป็นคนใจดี เพื่อนๆ จึงชอบชอ้ งนาง
ชอ้ งนางเป็นคนใจดี เพอื่ นๆ จึงชอบเธอ
(คาวา่ “เธอ” เป็นคาสรรพนามท่ีใชแ้ ทนคานาม “ชอ้ งนาง”)

คาที่นามาใชแ้ ทนคานาม ดงั ตวั อยา่ งขา้ งตน้
เราเรียกว่า คำสรรพนำม และตอ่ จากน้ีไป
คณุ ครูขอใหน้ กั เรียนต้งั ใจศึกษาเกี่ยวกบั
คาสรรพนามแตล่ ะประเภทใหด้ ีนะคะ
ไมใ่ ช่เร่ืองยากเลยสาหรับนกั เรียน

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๐

กรอบที่ ๓
ประเภทของคำสรรพนำม

คาสรรพนามแบง่ ไดต้ ามลกั ษณะที่ใช้ แบง่ ออกเป็น ๖ ประเภท ดงั น้ี

๑. บรุ ุษสรรพนาม

๒. นิยมสรรพนาม

๓. อนยิ มสรรพนาม

๔. ปฤจฉาสรรพนาม

๕. วภิ าคสรรพนาม

๖. ประพันธสรรพนาม

นกั เรียนจะตอ้ งศึกษาและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั
คาสรรพนามแตล่ ะประเภทอยา่ งละเอียด ถา้ หากมขี อ้ สงสยั
นกั เรียนสามารถซกั ถามเพ่ิมเตมิ จากคณุ ครูไดน้ ะคะ
แลว้ อยา่ ลืมทาแบบฝึกหัดท่มี ีในบทเรียนดว้ ยนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๑

กรอบที่ ๔

บรุ ุษสรรพนำม

บุรุษสรรพนำม แบ่งเป็น ๓ ประเภท ดงั น้ี
๑) สรรพนำมบรุ ุษท่ี ๑ ใชแ้ ทนชื่อผพู้ ดู หรือผเู้ ขียน
ได้แก่ ฉนั ดิฉัน ผม กระผม ขา้ พเจา้ อาตมา ขา้ พระพุทธเจา้ ขา้ พระบาท

เกลา้ กระผม เกลา้ กระหมอ่ ม เรา ขา้ กู หนู อว๊ั ฯลฯ
ตัวอย่ำงประโยค
- ฉันไมช่ อบหนงั สือเล่มน้ีเลย
- ข้ำพเจ้ำขออนุญาตแสดงความคดิ เห็น
- ข้ำพระพุทธเจ้ำขอพระราชทานวโรกาสกราบบงั คมทูล
- อำตมำจะคอยอยทู่ ่วี ดั น้ี
- กูไมไ่ ป (เป็นคาไม่สุภาพ)

๒)สรรพนำมบุรุษท่ี ๒ ใชแ้ ทนช่ือผฟู้ ังหรือผทู้ ี่พูดดว้ ย
ได้แก่ เธอ คณุ ท่าน โยม ใตเ้ ทา้ พระคุณเจา้ ใตฝ้ ่ าละอองธุลพี ระบาท

ใตฝ้ ่าพระบาท เจา้ มึง แก เอง็ ล้อื ฯลฯ
ตัวอย่ำงประโยค
- คุณจะมาทน่ี ่ีอีกไหมคะ
- ท่ำนตอ้ งการหนงั สือเลม่ น้ีหรือคะ
- ใต้ฝ่ ำละอองธุลพี ระบำททรงพระราชอุตสาหะเสดจ็ พระราชดาเนินมา
- โยมควรเตรียมการไวก้ อ่ น
- พระคณุ เจ้ำประสงคส์ ิ่งใดโปรดเรียกเอาจากไวยาวจั กร
- มึงอยา่ ไปยงุ่ กบั เขานะ (เป็นคาไมส่ ุภาพ)

๓) สรรพนำมบุรุษที่ ๓ เป็นสรรพนามทใี่ ชแ้ ทนช่ือผทู้ ถ่ี กู กลา่ วถึง
ได้แก่ เขา มนั เธอ ทา่ น พระองค์ ฯลฯ

ตัวอย่ำงประโยค
- เขาคงไม่มาแลว้ ล่ะ
- มนั ชอบกินผลไมเ้ ป็นอาหาร
- พระองคเ์ สด็จมาเยีย่ มราษฎร

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๒

นกั เรียนจ๊ะ นกั เรียนตอ้ งทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั สรรพนามบรุ ุษท่ี ๒
ที่ใชแ้ ทนช่ือผฟู้ ัง ไดแ้ ก่ คาวา่ “เธอ และทา่ น” นอกจากจะใชแ้ ทนช่ือผฟู้ ังแลว้
ในปัจจุบนั ยงั มีผนู้ ามาใชแ้ ทนชื่อของท่ีพูดถงึ (สรรพนามบรุ ุษที่ ๓ )
ในทานองยกยอ่ งให้เกียรติอกี ดว้ ย

ตัวอย่ำง
* อาจารยส์ ุชาติท่ำนเป็นคนอารมณข์ นั

“ท่ำน” เป็นสรรพนามบรุ ุษที่ ๓ ท่ีใชแ้ ทน “อาจารยส์ ุชาติ”
* ถึงแมค้ ุณยายจะมีอายถุ ึง ๘๙ ปี แตท่ ่ำนกย็ งั แขง็ แรงมาก

“ท่ำน” เป็นสรรพนามบรุ ุษท่ี ๓ ที่ใชแ้ ทน “คุณยาย”
* ขวญั สุดาเธอร้องเพลงลูกทุง่ ไดไ้ พเราะมาก

“ เธอ” เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓ ท่ีใช้แทน “ขวญั สุดา”

ในกรอบถดั ไปเพ่อื น ๆ จะไดท้ าแบบฝึกหดั เพื่อทดสอบความรู้
ความเขา้ ใจจากการศกึ ษาเก่ียวกบั บรุ ุษสรรพนาม ต้งั ใจทาแบบฝึกหัด
ก็แลว้ กนั นะครับเพ่ือน ไม่ยากเลยครับเพอื่ นๆ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๓

กรอบท่ี ๕

แบบฝึ กหดั ที่ ๑

คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนขีดเสน้ ใตบ้ ุรุษสรรพนามและระบุประเภทของบรุ ุษสรรพนามน้นั จากประโยค
ท่ีกาหนดให้

ตัวอย่ำง (สรรพนามบรุ ุษที่ ๑, สรรพนามบุรุษที่ ๓)
ฉนั ไปเทย่ี วกบั เขาเม่อื วานน้ี

๑. กระผมยนิ ดีที่ไดต้ อ้ นรบั ใตเ้ ทา้
๒. โยมควรอโหสิกรรมใหเ้ ขาเสียที
๓. พวกเราไมไ่ ดไ้ ปดมู นั มานานแลว้
๔. อาตมาไดเ้ ขา้ เฝ้าพระองคท์ า่ นแลว้
๕. ดิฉนั ขอเชิญคุณไปร่วมงานดว้ ย

๖. หล่อนไม่เคยเขา้ ใจคณุ เลยสักนิดเดียว
๗. ท่านซ้ือบา้ นหลงั น้ีใหเ้ ธอหรือ
๘. ขา้ พเจา้ ไม่ควรอนุญาตใหเ้ ขาไปเลย
๙. ทา่ นใหม้ านิมนตพ์ ระคุณเจา้ ไปข้ึนรถ
๑๐. มนั เป็นสัตวเ์ ล้ยี งตวั โปรดของเธอ

นกั เรียนตรวจสอบคาตอบไดจ้ ากกรอบถดั ไป นกั เรียนตอ้ งซื่อสตั ยต์ อ่ ตนเอง
อยา่ เพิ่งใจร้อนเปิ ดดูเฉลยก่อนนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๔

กรอบท่ี ๖

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี ๑

ข้อท่ี ประเภทของบรุ ุษสรรพนำม

๑. กระผมยินดีทไ่ี ดต้ อ้ นรับใตเ้ ทา้ (สรรพนามบรุ ุษที่ ๑, สรรพนามบรุ ุษที่ ๒)

๒. โยมควรอโหสิกรรมให้เขาเสียที (สรรพนามบุรุษที่ ๒, สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓)

๓. พวกเราไม่ไดไ้ ปดูมนั มานานแลว้ (สรรพนามบุรุษท่ี ๑, สรรพนามบุรุษท่ี ๓)

๔. อาตมา เคยไดเ้ ขา้ เฝา้ พระองคท์ า่ นแลว้ (สรรพนามบรุ ุษท่ี ๑, สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓)

๕. ดิฉนั ขอเชิญคณุ ไปร่วมงานดว้ ย (สรรพนามบุรุษที่ ๑, สรรพนามบุรุษที่

๒)

๖. หลอ่ นไม่เคยเขา้ ใจคุณเลยสกั นิดเดียว (สรรพนามบรุ ุษที่ ๓, สรรพนามบุรุษท่ี ๒)

๗. ทา่ นเป็นคนซ้ือบา้ นหลงั น้ีให้เด๊ียน (สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓, สรรพนามบุรุษที่ ๑)

๘. ขา้ พเจา้ ไม่ควรอนุญาตให้เขาไปเลย (สรรพนามบุรุษท่ี ๑, สรรพนามบุรุษท่ี ๓)

๙. ทา่ นใหม้ านิมนตพ์ ระคุณเจา้ ไปข้นึ รถ (สรรพนามบรุ ุษที่ ๓, สรรพนามบุรุษท่ี ๒)

๑๐. มนั เป็นสตั วเ์ ล้ยี งตวั โปรดของเธอ (สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓, สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓)

ตรวจสอบคาตอบแลว้ เปรียบเทียบกบั เกณฑก์ ารประเมินวา่ นกั เรียนมผี ลการประเมิน

อยใู่ นระดบั ใด

เกณฑ์กำรประเมนิ ผลจำกกำรทำแบบฝึ กหัด

ตอบถูก ๑๘ - ๒๐ คา ดีมาก

๑๔ - ๑๗ คา ดี

๑๐ - ๑๓ คา พอใช้

๐ - ๙ คา ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียนอยา่ เพิง่ ตกใจถา้ หากตอบถูกไมถ่ งึ ๑๐ คา ใหก้ ลบั ไปศกึ ษา
เน้ือหาบุรุษสรรพนามใหม่ต้งั แตต่ น้ แลว้ ลองทาแบบฝึกหดั ใหมอ่ กี คร้ัง
แตถ่ า้ นกั เรียนเขา้ ใจถูกตอ้ งเก่ียวกบั บุรุษสรรพนามแลว้ นกั เรียนศกึ ษา
เก่ียวกบั นยิ มสรรพนำมในกรอบถดั ไปไดค้ ่ะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๕

กรอบท่ี ๗

นิยมสรรพนำม

นิยมสรรพนาม อา่ นวา่ นิ – ยะ – มะ – สับ – พะ – นาม นะคะ่
นกั เรียนมาศึกษาเก่ียวกบั นยิ มสรรพนำมกนั ตอ่ ดีกวา่ นะคะ่
เพ่ือนกั เรียนจะไดใ้ ชใ้ นการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเสียที

นิยมสรรพนำม หรือสรรพนามใช้ช้ีระยะ คือ สรรพนามท่ใี ชแ้ ทนคานามหรือขอ้ ความ
ทก่ี ลา่ วมาแลว้ เพอ่ื ช้ีเฉพาะหรือเพื่อบง่ ช้ีความชัดเจนของคานาม ไดแ้ ก่คาวา่ น่ี นน่ั โน่น โนน้
ที่น่ี ทน่ี นั่ ที่โน่น ฯลฯ

ตัวอย่ำง
* น่ีเป็นหนงั สือการ์ตูนทฉ่ี นั ชอบมากทส่ี ุด
* โน่นคือสนามที่นอ้ งอนุบาล ๑ ใช้เล่น
* ครูบอกใหเ้ ธอออกไปยืนทน่ี น่ั
* น่ีเป็นเพอื่ นของฉนั
* นนั่ คอื ตึกท่สี ร้างใหม่

คาวา่ “น่ี โน่น ทีน่ น่ั นี่ และ นน่ั ” ที่ปรากฏในประโยคดงั กล่าวขา้ งตน้ เป็น นยิ มสรรพนำม

นกั เรียนค่ะ ในการสื่อความหมายของคานิยมสรรพนาม “นี่ นนั่ โน่น น้ี น้นั โนน้ ”
มคี วามหมายแตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ย คอื

นี่ / น้ี ใชแ้ ทนคานามทใ่ี กลต้ วั ทส่ี ุด
นนั่ / น้นั ใชแ้ ทนคานามที่อยหู่ ่างออกไป
โน่น / โนน้ คาแทนคานามทอี่ ยหู่ ่างสุด

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๖

กรอบที่ ๘
ข้อสังเกตเกีย่ วกบั กำรใช้นยิ มสรรพนำม

ในการใชน้ ิยมสรรพนาม (สรรพนามช้ีระยะ) น่ี นนั่ โน่น โนน้ ที่นี่ ทน่ี นั่ ท่ีโน่น
มีขอ้ สังเกตดงั น้ี

นยิ มสรรพนำม จะอยตู่ ามลาพงั ทาหนา้ ท่เี ป็นประธำน หรือกรรม เช่นเดียวกบั คานาม
แต่ถ้ำ น่ี นนั่ โน่น โนน้ ทีน่ ี่ ท่นี นั่ ทโี่ น่น ตำมหลงั คำอน่ื จะทาหนา้ ที่เป็นคาวเิ ศษณ์
เพือ่ ขยายคานามที่อยขู่ า้ งหนา้

ตวั อย่ำง
* ที่น่ีคอื ประเทศไทย
คาวา่ “ท่ีน่ี” เป็น นิยมสรรพนาม ทาหนา้ ทเ่ี ป็นประธานของประโยค

* นั่นนกั เรียนท่สี อบไดท้ ี่หน่ึง
คาวา่ “นั่น” เป็น นิยมสรรพนาม ทาหนา้ ท่เี ป็นประธานของประโยค

* ไทยนี้รกั สงบ
คาว่า “นี้” ตามหลงั คาวา่ “ไทย” น้ีในประโยคน้ี เป็นวเิ ศษณ์ ขยายคานาม “ไทย”

* ทองน้ันเป็นของมีค่า
คาว่า “น้ัน” ตามหลงั คาวา่ “ทอง” น้นั เป็นวิเศษณ์ ขยายคานาม “ทอง”

นกั เรียนตอ้ งสังเกตให้ดีนะคะ คาวา่
“น่ี นนั่ โน่น โนน้ ที่นี่ ทนี่ นั่ ที่โน่น ท่ีโนน้ ”
ปรากฏอยตู่ าแหน่งใดในประโยค
เป็น นิยมสรรพนาม หรือ วิเศษณ์ กนั แน่

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๗

กรอบท่ี ๙

แบบฝึ กหดั ที่ ๒

ตอนที่ ๑
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความที่มีนิยมสรรพนาม

และเขยี นเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความทีไ่ มม่ ีนิยมสรรพนาม

๑. เส้ือตวั น้ีแมซ่ ้ือให้ฉนั
๒. น่ีคือละครทคี่ ณุ ยายชอบดูมาก
๓. บา้ นหลงั โนน้ เพ่งิ ทาสีใหม่
๔. ท่ีนี่ฝนตกต้งั แต่เชา้
๕. เดก็ นกั เรียนเหลา่ น้ีต้งั ใจเรียนดีมาก
๖. สระว่ายน้าทน่ี ี่มคี ลอรีนในน้ามาก
๗. ท่ีน่ีเป็นโรงเรียนท่ฉี ันตอ้ งการมาเรียน
๘ ที่โน่นอากาศหนาวมาก
๙. จงั หวดั สุราษฎร์ธานีน้นั มกี ารแข่งขนั เรือยาวทกุ ปี
๑๐. รถยนตค์ นั น้นั เป็นของใคร

ตอนท่ี ๒

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเติมนิยมสรรพนาม หรือ สรรพนามช้ีระยะให้ถูกตอ้ ง

๑. ฉันอยู่ สบายกวา่ อยู่

๒. ทีเ่ ห็นอยใู่ กลๆ้ คือ โรงเรียนทฉ่ี นั เรียนอยู่ นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจทาแบบฝึกหัด
ให้ดีนะค่ะ อยา่ เพ่งิ เปิ ดดูเฉลย
๓. เป็นของที่ไมม่ รี าคา เธอกร็ ู้ดีอยแู่ ลว้ เสียกอ่ นละ ตรวจคาตอบจาก
กรอบถดั ไปนะคะ
๔. ลา้ งชามทว่ี างอยทู่ ่ี ให้สะอาดดว้ ยนะ

๕. หยบิ ของ ติดมือมาให้ฉนั ดว้ ยนะจ๊ะ

๖. อากาศหนาวมาก

๗. คือทนี่ งั่ ทค่ี ุณไดจ้ องไว้

๘. หนงั สือของเธอ

๙. คุณมาถึง เม่อื ไหร่

๑๐. บา้ นของฉนั เห็นอยลู่ บิ ๆ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๘

กรอบท่ี ๑๐

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี ๒

ตอนที่ ๑ ๑. เส้ือตวั น้ีแม่ซ้ือให้ฉัน
 ๒. น่ีคอื ละครทีค่ ณุ ยายชอบดมู าก
 ๓. บา้ นหลงั โนน้ เพ่งิ ทาสีใหม่
 ๔. ทีน่ ี่ฝนตกต้งั แต่เชา้
 ๕. เด็กนกั เรียนเหลา่ น้ีต้งั ใจเรียนดีมาก
 ๖. สระว่ายน้าทนี่ ่ีมีคลอรีนในน้ามาก
 ๗. ท่นี ี่เป็นโรงเรียนท่ฉี ันตอ้ งการมาเรียน
 ๘ ท่โี น่นอากาศหนาวมาก
 ๙. จงั หวดั สุราษฎร์ธานีน้นั มีการแข่งขนั เรือยาวทกุ ปี
 ๑๐. รถยนตค์ นั น้นั เป็นของใคร


ตอนที่ ๒

๑. ฉันอยู่ ที่น่ี (ที่โน่น)สบายกว่าอยู่ ท่โี น่น (ที่นี่)

๒. ที่เห็นอยใู่ กลๆ้ นี่ คือ โรงเรียนทีฉ่ นั เรียนอยู่ ในแตล่ ะตอนถา้ หากนกั เรียน
ตอบถูกไม่ถึง ๕ ขอ้ นกั เรียน
๓. น่ี (น้นั ) เป็นของทไี่ มม่ ีราคา เธอกร็ ู้ดีอยแู่ ลว้ ควรจะตอ้ งกลบั ไปศึกษาเน้ือหา
นิยมสรรพนามใหม่อกี คร้งั นะคะ
๔. ลา้ งชามที่วางอยู่ ที่นี่ (ทน่ี นั่ ) ให้สะอาดดว้ ยนะ

๕. หยบิ ของ นน่ั ติดมอื มาใหฉ้ ันดว้ ยนะจะ๊

๖. ท่ีน่ี (ที่โน่น) อากาศหนาวมาก

๗. นี่ (นนั่ ) คือทนี่ ง่ั ทีค่ ุณไดจ้ องไว้

๘. น่ี (นนั่ )หนงั สือของเธอ

๙. คณุ มาถึง ทนี่ ี่ เมือ่ ไหร่

๑๐. โน่น บา้ นของฉนั เห็นอยลู่ บิ ๆ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๑๙

กรอบที่ ๑๑

อนยิ มสรรพนำม

อนิยมสรรพนาม คือ สรรพนามท่ีใชแ้ ทนคานามทว่ั ๆ ไป ไม่ช้ีเฉพาะเจาะจงวา่ เป็นอะไร
ไดแ้ ก่ คาว่า “ใคร อะไร ไหน ใด ใด ๆ ทไ่ี หน ผใู้ ด ผูห้ น่ึงผใู้ ด” โดยสื่อความหมายเป็น
ประโยคบอกเลา่ ไมใ่ ช่คาถาม

ตัวอย่ำง
* ไม่มีใครดีเทา่ เธอ
* เขาไมม่ ีอะไรจะกิน
* นิธิจะอยทู่ ี่ไหนกไ็ ด้
* ใครจะไปกบั ฉันบา้ ง
* ใด ๆ ในโลกลว้ นอนิจจงั
* ไม่มีใครนอนหลบั ทบั สิทธ์ิ
* ฉนั ไมเ่ ห็นใครขยนั เทา่ เธอ
* รู้ส่ิงใดหรือจะสู้รู้วิชา
* ฉันไม่อยากพ่งึ ผ้หู น่ึงผ้ใู ดหรอก

คาว่า “ใคร อะไร ทไ่ี หน ใคร ใดๆ สิ่งใด ผหู้ น่ึงผใู้ ด ” ท่ขี ดี เสน้ ใต้
ลว้ นเป็นอนยิ มสรรพนำม

นกั เรียนตอ้ งจาไวว้ า่ อนิยมสรรพนาม เป็นคาท่ีใชแ้ ทนคานามทวั่ ไป
ไมช่ ้ีเฉพาะเจาะจงและไม่ไดส้ ่ือความหมายเป็นคาถามแต่ส่ือความหมายเป็นประโยคบอกเล่า
และปรากฏในประโยคบอกเล่า

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๐

กรอบท่ี ๑๒

ปฤจฉำสรรพนำม

ปฤจฉำสรรพนำม คือคาท่ใี ชแ้ ทนคานามในประโยคมคี วามหมายเป็นคาถาม ไดแ้ ก่ ใคร
ทไี่ หน อะไร ส่ิงใด ไหน ใด ผูห้ น่ึงผูใ้ ด หรือคาอน่ื ๆ ทีส่ ื่อความหมายเป็นคาถาม

ตัวอย่ำง
* ใครทาการบา้ นเสร็จแลว้
* บา้ นของเธออยทู่ ่ไี หน
* อะไรอยบู่ นก่ิงไม้
* ผ้ใู ดทาร้ัวบา้ นพงั
* สิ่งใดอยใู่ นตู้
* ใครเป็นเจา้ ของรถยนตค์ นั น้ี
* คณุ แม่ซ้ืออะไรมาบา้ ง
* สิ่งใดท่ีคุณตอ้ งการ
* คณุ ครูกลา่ วยกยอ่ งใคร

จากตวั อยา่ งทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ คาว่า “ใคร ท่ีไหน อะไร ผใู้ ด ส่ิงใด ”
เป็นปฤจฉาสรรพนามหรือสรรพนามใชถ้ าม ทกุ ประโยคส่ือความหมายเป็นประโยคคาถาม

ให้นกั เรียนจาไวว้ ่า อนิยมสรรพนามและปฤจฉาสรรพนามมสี ่วนแตกต่างกนั
ในการส่ือความหมาย คือ อนิยมสรรพนาม สื่อความหมายบอกเล่า ปรากฏในประโยคบอกเล่า

ปฤจฉาสรรพนาม ส่ือความหมายเป็นคาถาม ปรากฏในประโยคคาถาม

ข้อสังเกตในกำรใช้อนยิ มสรรพนำมและปฤจฉำสรรพนำม
ถา้ หากอนิยมสรรพนามและปฤจฉาสรรพนาม วางไวห้ ลงั คานาม คาน้นั ก็จะเป็นคาวเิ ศษณ์

เช่น * อาหารอะไรฉันก็กินได้
อะไร ในประโยคไมไ่ ดเ้ ป็นคาถาม ปรากฏอยหู่ ลงั คานาม “อาหาร”

ดงั น้นั อะไร จึงเป็นคาวิเศษณ์ ขยาย อาหาร
* คนไหนท่ีไดร้ ับรางวลั
ไหน ในประโยคปรากฏอยหู่ ลงั คานาม “ คน” ไหน จึงเป็นคาวิเศษณ์ ขยาย “ คน”

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๑

กรอบที่ ๑๓

แบบฝึ กหดั ท่ี ๓

คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขียน ? หนา้ ขอ้ ความทเ่ี ป็นปฤจฉาสรรพนาม (สรรพนามที่ใชถ้ าม)
และเขยี น  หนา้ ขอ้ ความทม่ี อี นิยมสรรพนาม (สรรพนามไม่ช้ีเฉพาะเจาะจง)

๑. ใครทาผิดตอ้ งถูกลงโทษ

๒. ใครเห็นแวน่ ตาของคณุ ครูบา้ ง

๓. สุขาอยหู่ นใด

๔. ที่ใดมรี ักท่นี น่ั มีทุกข์

๕. ความพยายามอยทู่ ่ีไหนความสาเร็จอยทู่ ี่นน่ั

๖. อะไรก็ตามทีก่ นิ ไดเ้ ราเรียกวา่ อาหาร

๗. ถึงอย่ำงไรพี่ยงั รักเธอไมค่ ลาย

๘. ทำไมหนอตอ้ งเป็นเรา ไมย่ ากเลยนะ

๙. ใครหนอรกั เราเท่าชีวี ระบุใหไ้ ดว้ ่าขอ้ ใดเป็นอนิยมสรรพนาม

๑๐. เด็กสอบตกเป็นความผดิ ของใคร หรือ ปฤจฉาสรรพนาม

๑๑. ใครจะไปกบั ฉันกไ็ ด้

๑๒. ฉันไม่เห็นใครเลย

๑๓. เธออยบู่ า้ นกบั ใคร

๑๔. ผ้ใู ดก็สามารถทาได้

๑๕. ผ้หู นึง่ ผ้ใู ดจะแสดงความเห็นอีกบา้ ง

๑๖. คณุ ครูลงโทษใคร

๑๗. เธอจะกินอะไร

๑๘. ไม่วา่ ส่ิงใดเธอกไ็ มช่ อบ

๑๙. ไม่ว่าวันไหนเธอกข็ ยนั อา่ นหนงั สือ

๒๐. ที่ใดที่เธออยากไป

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๒

กรอบที่ ๑๔

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี ๓

๑.  ใครทาผิดตอ้ งถกู ลงโทษ

๒. ? ใครเห็นแว่นตาของคุณครูบา้ ง

๓. ? สุขาอยหู่ นใด

๔.  ทใ่ี ดมรี กั ท่ีนนั่ มที ุกข์

๕.  ความพยายามอยทู่ ไ่ี หนความสาเร็จอยทู่ ี่นนั่

๖.  อะไรกต็ ามทกี่ นิ ไดเ้ ราเรียกว่าอาหาร

๗.  ถึงอย่ำงไรพยี่ งั รกั เธอไม่คลาย นักเรียนตอบถูกก่ีข้อ

๘. ? ทำไมหนอตอ้ งเป็นเรา เปรียบเทียบกบั เกณฑก์ ารประเมนิ

๙. ? ใครหนอรักเราเท่าชีวี
๑๐. ? เด็กสอบตกเป็นความผิดของใคร ตอบถูก ๑๘ - ๒๐ ขอ้ ดีมาก

๑๑.  ใครจะไปกบั ฉนั กไ็ ด้ ๑๔ - ๑๗ ขอ้ ดี

๑๒.  ฉันไมเ่ ห็นใครเลย ๑๐ - ๑๓ ขอ้ พอใช้

๑๓. ? เธออยบู่ า้ นกบั ใคร ๐ - ๙ ขอ้ ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

๑๔.  ผ้ใู ดกส็ ามารถทาได้

๑๕. ? ผ้หู นึง่ ผ้ใู ดจะแสดงความเห็นอีกบา้ ง

๑๖. ? คุณครูลงโทษใคร

๑๗. ? เธอจะกินอะไร

๑๘.  ไมว่ า่ สิ่งใดเธอก็ไม่ชอบ

๑๙.  ไม่วา่ วนั ไหนเธอกข็ ยนั อา่ นหนงั สือ

๒๐. ? ทีใ่ ดท่เี ธออยากไป

เดก็ ๆ อยา่ เพง่ิ ตกใจไป ถา้ หากตอบถูกไม่ถึง ๑๐ ขอ้
ให้เดก็ ๆ ยอ้ นกลบั ไปศึกษาเน้ือหา ในกรอบที่ ๗ (ปฤจฉาสรรพนาม
และอนิยมสรรพนาม ) อกี คร้ัง แลว้ ทาแบบฝึกหัดท่ี ๓ อีกคร้ัง
เดก็ ๆ กจ็ ะเขา้ ใจมากย่งิ ข้ึน

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๓

กรอบท่ี ๑๕

วิภำคสรรพนำม

วภิ าคสรรพนาม (สรรพนามบอกความช้ีซ้า) คือ สรรพนามทใ่ี ชแ้ ทนคานามขา้ งหนา้
เพอ่ื จาแนกคานามน้นั ออกเป็นส่วน ๆ มีคาว่า บา้ ง ตา่ ง กนั

ตัวอย่ำง
* กรรมการนกั เรียนต่ำงทาหนา้ ท่ขี องตนอยา่ งดี
* นกั กีฬาต่ำงแสดงความสามารถอยา่ งเต็มท่ี
* สตั วใ์ นสวนสัตวบ์ ้ำงก็กินอาหาร บา้ งก็นอน บา้ งก็หอ้ ยโหนตามก่ิงไม้
* คนงานบา้ งตดั หญา้ บ้ำงขุดดิน
* ทกุ คนช่วยกนั ทางาน
* นกั เรียนชายยกพวกตีกนั

นกั เรียนยกตวั อย่ำงเพมิ่ เตมิ จำกท่คี ณุ ครูบอกได้ไหมคะ

เพอ่ื น ๆ ช่วยกนั ทางานจนเสร็จ

ไม่วา่ เด็กหรือผใู้ หญ่ต่ำง ก็ตอ้ งทางาน

นกั เรียนบา้ งก็เลน่ บ้ำงกอ็ า่ นหนงั สือ
ดีมากจะ้ เด็ก ๆ พอจะเขา้ ใจเกี่ยวกบั วิภาคสรรพนามแลว้

แตก่ ารใชว้ ภิ าคสรรพนาม บา้ ง ตา่ ง กนั มหี ลกั การใชท้ ีน่ กั เรียน
ตอ้ งทาความเขา้ ใจอยา่ งละเอียด เพื่อท่จี ะใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๔

กรอบที่ ๑๖

หลักกำรใช้วิภำคสรรพนำม

๑. บ้ำง ใชแ้ ทนคานามขา้ งหนา้ เพอ่ื บอกใหร้ ู้ว่าคานามน้นั มหี ลายส่วนและแยกทากริยาตา่ งกนั
ตัวอย่ำงประโยค
* สตั วใ์ นสวนสัตวบ์ ้ำงก็กินอาหาร บ้ำงก็นอน บ้ำงก็หอ้ ยโหนตามก่ิงไม้
บ้ำง ในประโยคตวั อยา่ ง แทนคานาม คือ สตั วใ์ นสวนสตั ว์ เพือ่ แสดงวา่ สตั วใ์ นสวน

สัตวน์ ้นั มีหลายชนิด หลายพวก แตล่ ะพวกหรือแต่ละตวั ทากริยาทีแ่ ตกตา่ งกนั
* คนงานบ้ำงตดั หญา้ บ้ำงขุดดิน

บ้ำง ในประโยคตวั อยา่ ง แทนคานามท่อี ยขู่ า้ งหนา้ คือ คนงาน เพือ่ แสดงวา่ คนงาน
น้นั มีหลายคน แตล่ ะคนทากริยาท่แี ตกต่างกนั

๒. ต่ำง ใชแ้ ทนคานามขา้ งหนา้ เพื่อบอกให้รู้วา่ คานามน้นั จาแนกเป็นหลายส่วนแต่กระทา
กริยาอยา่ งเดียวกนั

ประโยคตวั อย่ำง
* กรรมการนกั เรียนต่ำงทาหนา้ ท่ีของตนอยา่ งดี

ต่ำง ในประโยคตวั อยา่ ง แทนกรรมการนกั เรียนซ่ึงมหี ลายคน แต่ทกุ คนทากริยา
อยา่ งเดียวกนั คือทาหนา้ ท่ี

* นกั กีฬาต่ำงแสดงความสามารถอยา่ งเตม็ ท่ี
ต่ำง ในประโยคตวั อยา่ ง แทนนกั กีฬาซ่ึงมีหลายคน แต่ทุกคนทากริยาอยา่ งเดียวกนั
คือ แสดงความสามารถ
๓. กนั ใชแ้ ทนคานามท่ีอยขู่ า้ งหนา้ เพ่ือบอกใหร้ ู้ว่าคานามน้นั มหี ลายส่วนและทากริยา
เกี่ยวขอ้ งกนั หรือร่วมกนั
ตวั อย่ำงประโยค

* ทุกคนช่วยกันทางาน
กัน ในประโยคตวั อยา่ ง แทนคานามที่อยขู่ า้ งหนา้ คอื คน เพือ่ แสดงว่า คนมีหลายคน
แต่ทากริยาร่วมกนั

* นกั เรียนชายยกพวกตีกนั
กัน ในประโยคตวั อยา่ งแทนคานาม นกั เรียนชาย เพอื่ แสดงวา่ นกั เรียนชายมหี ลายคน
หลายพวกทากริยาร่วมกนั

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๕
กรอบท่ี ๑๗

แบบฝึ กหดั ที่ ๔

คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเตมิ วิภาคสรรพนาม (สรรพนามบอกความช้ีซ้า) ในแต่ละประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง

๑. ผคู้ น มองดนู างสาวไทย

๒. นกั เรียน กเ็ ดิน ก็วง่ิ ไปเขา้ แถวเคารพธงชาติ

๓. เกิดอบุ ตั ิเหตรุ ถชน ทส่ี ่ีแยก

๔. กรรมกร ไม่พอใจทไี่ มไ่ ดร้ ับคา่ แรงเพิ่ม

๕. เขาหัวเราะ เสียงดงั สนนั่ ลนั่ หอ้ ง

๖. นกั เรียน ทาการบา้ น อา่ นหนงั สือ

๗. เด็กๆ รับผิดชอบหนา้ ทีข่ องตนเป็นอยา่ งดี

๘. เมื่อฝนตกลงมาชาวนา เตรียมไถหว่าน

๙. แมค่ า้ ช่วย ลา้ งทางเดินเทา้ ทีว่ างของขาย

๑๐. คนงาน ไมพ่ อใจท่ีถูกนายจา้ งตดั เงินเดือน

อยา่ ใจร้อน เปิ ดดูเฉลยเสียก่อนละ ตอ้ งซื่อสตั ยต์ อ่ ตนเองนะจ๊ะ
ทาแบบฝึกหดั เสร็จแลว้ ตรวจสอบคาตอบจากเฉลยในกรอบถดั ไปนะจ๊ะหนู ๆ
ตอบถูก กี่ขอ้ อยา่ ลืมให้คณุ ครูบนั ทกึ คะแนนไวด้ ว้ ยนะจะ๊

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๖

กรอบที่ ๑๘

เฉลยแบบฝึ กหดั ที่ ๔

๑. ผคู้ น ตา่ ง มองดนู างสาวไทย

๒. นกั เรียน บา้ ง กเ็ ดิน บา้ ง ก็วิง่ ไปเขา้ แถวเคารพธงชาติ

๓. เกิดอบุ ตั ิเหตรุ ถชน กนั ที่ส่ีแยก

๔. กรรมกร ต่าง ไมพ่ อใจที่ไมไ่ ดร้ ับค่าแรงเพิ่ม

๕. เขาหัวเราะ กนั เสียงดงั สนน่ั ลนั่ ห้อง

๖. นกั เรียน บา้ ง ทาการบา้ น บา้ ง อา่ นหนงั สือ

๗. เด็กๆ ต่าง รบั ผดิ ชอบหนา้ ทข่ี องตนเป็นอยา่ งดี

๘. เมอ่ื ฝนตกลงมาชาวนา ตา่ ง ก็เตรียมไถหว่าน

๙. แมค่ า้ ช่วย กนั ลา้ งทางเดินเทา้ ทว่ี างของขาย

๑๐. คนงาน ต่าง ไม่พอใจทถ่ี กู นายจา้ งตดั เงินเดือน

ตรวจสอบคาตอบแลว้ เปรียบเทียบกบั เกณฑก์ ารประเมินว่านกั เรียนมีผลการประเมนิ

อยใู่ นระดบั ใด

เกณฑ์กำรประเมนิ ผลจำกกำรทำแบบฝึ กหัด

ตอบถูก ๙ - ๑๐ ขอ้ ดีมาก

๗ - ๘ ขอ้ ดี

๕ - ๖ ขอ้ พอใช้

๐ - ๔ ขอ้ ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ถา้ หากนกั เรียนตอบถูกไมถ่ งึ ๕ ขอ้ ลองยอ้ นกลบั ไปศึกษาเน้ือหา
วภิ าคสรรพนาม อกี คร้งั แลว้ ทาแบบฝึกหัดใหม่ เปรียบเทยี บผลดว้ ยจะ้

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๗

กรอบที่ ๑๙

ประพนั ธสรรพนำม

ประพนั ธสรรพนาม (สรรพนามเช่ือมประโยค) คือ สรรพนามท่ีใชแ้ ทนคานามทก่ี ลา่ วมา
ขา้ งหนา้ เพื่อไม่ตอ้ งการกล่าวซ้าอกี และเป็นการเช่ือมประโยคใหร้ วมเป็นประโยคเดียวกนั

ได้แก่ ผู้ ผทู้ ี่ ผูซ้ ่ึง ท่ี ซ่ึง อนั ดงั คาเหล่าน้ีจะปรากฏในประโยคในตาแหน่ง
ตามหลงั ประธาน หรือกรรมของประโยค

ตวั อย่ำงประโยค
- บุคคลอันมีจิตใจสงบยอ่ มมคี วามสุข
คาว่า “อนั ” เป็นคาสรรพนามแทนคานามทอ่ี ยขู่ า้ งหนา้ คือ “บคุ คล”

ซ่ึงทาหนา้ ที่เป็นประธานของประโยค

- พวกเราควรให้อภยั กบั คนที่ทาผิดโดยรู้เทา่ ไม่ถงึ การณ์
คาว่า “ท่ี” เป็นคาสรรพนามแทนคานามท่อี ยขู่ า้ งหนา้ คอื “คน” ซ่ึงทา

หนา้ ทเี่ ป็นกรรมของประโยค

- ฉันชอบคนท่ีต้งั ใจเรียนหนงั สือ
คาว่า “ท่ี” เป็นคาสรรพนามแทนคานามท่อี ยขู่ า้ งหนา้ คอื “คน” ซ่ึงทา

หนา้ ที่เป็นกรรมของประโยค
- เขาเป็นหมอที่มชี ่ือเสียง
คาว่า “ท”ี่ เป็นคาสรรพนามแทนคานามท่ีอยขู่ า้ งหนา้ คอื “หมอ” ซ่ึงทา

หนา้ ทเ่ี ป็นส่วนเตมิ เต็มของประโยค

นกั เรียนคนไหนสามารถยกตวั อยา่ งประโยค บา้ นซ่ึงอยใู่ นซอยถูกไฟไหม้
ที่มีประพนั ธสรรพนามไดบ้ า้ ง

เยี่ยมมาก นกั เรียนเขา้ ใจถกู ตอ้ งคะ่
นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๘

กรอบที่ ๒๐

แบบฝึ กหดั ท่ี ๕

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนใชส้ รรพนามเช่ือมประโยคต่อไปน้ีใหเ้ ขา้ กนั

๑. ครูทาโทษนกั เรียน นกั เรียนไมท่ าการบา้ น

๒. ฉันไปงานวนั เกิดคุณสมศรี คณุ สมศรีเป็นประธานบริษทั

๓. นกเกาะบนตน้ มะมว่ ง นกร้องเพลง

๔. พขี่ องฉนั เรียนเกง่ พีข่ องฉนั สอบเขา้ เรียนต่อในมหาวิทยาลยั ได้

๕. เขาไดก้ ระทาความดี ความดีของเขาควรไดร้ บั การสรรเสริญ

๖. เขาบชู าความรกั ความรักทาให้คนตาบอด

๗. คุณยา่ ให้ผา้ ปักแก่ฉนั ผา้ ปักทาดว้ ยฝีมอื ประณีต

๘. ประธานมอบประกาศนียบตั รแกน่ กั เรียน นกั เรียนเขา้ รบั การฝึกอบรมมารยาท

๙. คณุ ลุงสมชายให้หนงั สือแก่ฉัน คุณลุงสมชายเป็นเพอ่ื นของคณุ พ่อ

๑๐. เพอ่ื นของฉันป่ วยเป็นไข้ เพื่อนของฉันหายแลว้

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๒๙

กรอบที่ ๒๑

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี ๕

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนใชส้ รรพนามเช่ือมประโยคต่อไปน้ีให้เขา้ กนั

๑. ครูทาโทษนกั เรียน นกั เรียนไม่ทาการบา้ น

ครูทาโทษนกั เรียนทไ่ี ม่ทาการบา้ น

๒. ฉนั ไปงานวนั เกิดคุณสมศรี คุณสมศรี เป็ นประธานบริ ษทั

ฉันไปงานวนั เกิดคณุ สมศรี ซ่ึงเป็นประธานบริษทั

๓. นกเขาส่งเสียงขนั นกเขาเกาะบนยอดไม้

นกเขาทีเ่ กาะบนยอดไมส้ ่งเสียงขนั

๔. พีข่ องฉนั เรียนเกง่ พี่ของฉนั สอบเขา้ เรียนตอ่ ในมหาวิทยาลยั ได้

พ่ีของฉนั ทเี่ รียนเก่งสอบเขา้ เรียนต่อในมหาวิทยาลยั ได้

๕. เขาไดก้ ระทาความดี ความดีของเขาควรไดร้ บั การสรรเสริญ

เขาไดก้ ระทาความดอี นั ควรไดร้ บั การสรรเสริญ

๖. เขาบูชาความรกั ความรกั ทาใหค้ นตาบอด

เขาบชู าความรักซ่ึงทาให้คนตาบอด

๗. คุณยา่ ใหผ้ า้ ปักแกฉ่ ัน ผา้ ปักทาดว้ ยฝีมือประณีต

คณุ ยา่ ใหผ้ า้ ปักซ่ึงทาดว้ ยฝีมอื ประณีตแก่ฉนั

๘. ประธานมอบประกาศนียบตั รแกน่ กั เรียน นกั เรียนเขา้ รับการฝึกอบรมมารยาท

ประธานมอบประกาศนียบตั รแกน่ กั เรียนที่เขา้ รับการฝึกอบรมมารยาท

๙. คณุ ลงุ สมชายใหห้ นงั สือแกฉ่ ัน คณุ ลุงสมชายเป็นเพอ่ื นของคุณพอ่

คณุ ลงุ สมชายซ่ึงเป็นเพอ่ื นของคุณพอ่ ใหห้ นงั สือแกฉ่ นั

๑๐. เพ่อื นของฉันป่ วยเป็นไข้ เพ่อื นของฉนั หายแลว้

เพอื่ นของฉันทีป่ ่ วยเป็นไขห้ ายแลว้

เกณฑ์กำรประเมนิ ผลกำรทำแบบฝึ กหัด ตอบถกู ๙ - ๑๐ ขอ้ ดีมาก

นกั เรียนตอบถกู ก่ีขอ้ คะ ถา้ หากตอบถกู ไมถ่ ึง ๕ ขอ้ ๗ - ๘ ขอ้ ดี
นกั เรียนควรศกึ ษาใหมอ่ กี คร้งั ในเน้ือหาน้ี นะจ๊ะ ๕ - ๖ ขอ้ พอใช้
๐ - ๔ ขอ้ ไม่ผา่ นเกณฑ์

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๓๐

กรอบท่ี ๒๒

นกั เรียนไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั คาสรรพนามแต่ละประเภทไปแลว้
ตอ่ ไปนกั เรียนก็จะไดร้ บั ทราบถงึ หนา้ ทขี่ องคาสรรพนามบา้ ง
นกั เรียนอยากทราบไหมค่ะว่าคาสรรพนามทาหนา้ ท่ีใดบา้ ง
นกั เรียนทุกคนตอ้ งต้งั ใจทาความเขา้ ใจในเน้ือหาต่อไปน้ีจ๊ะ

หน้ำที่ของคำสรรพนำม

คาสรรพนามทุกประเภททาหนา้ ทเี่ หมือนคานาม กล่าวคือ ทาหนา้ ท่เี ป็นประธานของ

ประโยคหรือเป็นกรรมของประโยค เช่น

๑. ทาหนา้ ท่ีเป็นประธานของประโยค - ดิฉันจะไปพบคุณที่บา้ น

- น่ี คือหอ้ งนอนของฉนั

- ท่ำนดมุ าก

๒. ทาหนา้ ที่เป็นกรรมของประโยค - คณุ ชอบอะไร

- ฉันจะตีเธอทุกคน

- เดก็ ๆ กินอะไรๆ ก็ได้

๓. ใชเ้ รียกขาน - ท่ำนคะมีคนมาขอพบ

- เธอจ๋ำหยบิ หนงั สือใหฉ้ นั หน่อย

๔. เป็นส่วนเตมิ เต็ม - เด็กคนน้ีเหมือนคุณมาก

- เธออยบู่ า้ นกบั ใคร

๕. ใช้เชื่อมประโยค - เขาพาฉนั ไปบา้ นที่ฉันไม่เคยไป

- เขามีความคดิ ซึ่งไมเ่ หมอื นใคร

- คนท่ีไปกบั เธอเป็นนอ้ งฉนั

๖. ใชข้ ยายนามทที่ าหนา้ ท่เี ป็นประธาน หรือกรรมของประโยค เพ่อื แสดงความรู้สึก

ของผพู้ ูด หรือบอกฐานะของบุคคลท่กี ล่าวถึง จะวางไวห้ ลงั คานาม

- คณุ ครูท่านไม่พอใจท่ีเราไมต่ ้งั ใจเรียน

- ฉันแวะไปเยยี่ มคุณครูท่านมา

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

๓๑

กรอบท่ี ๒๓

ข้อสังเกตการใช้คาสรรพนาม

การใชค้ าสรรพนามมขี อ้ สงั เกต ดงั น้ี

๑. บุรุษสรรพนามบางคาอาจเป็นไดห้ ลายบุรุษข้นึ อยกู่ บั หนา้ ท่ขี องคาเป็นสาคญั

เช่น
- วนั น้ีฉันเหน่ือย ฉันขอหยดุ พกั สักหน่ึงวนั
ฉัน เป็นสรรพนามบรุ ุษท่ี ๑
- เราจะทางานบา้ น
เรา เป็นสรรพนามบุรุษท่ี ๑
- เราน่ะทางานบา้ นเสร็จแลว้ หรือ
เรา เป็นสรรพนามบรุ ุษท่ี ๒

๒. วิภาคสรรพนาม คาวา่ “กนั ตา่ ง บา้ ง” น้นั ตอ้ งใชแ้ ทนนาม หรือสรรพนาม
แต่ถา้ ทาหนา้ ทข่ี ยายคานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ จดั เป็นคาวเิ ศษณ์

เช่น
- เด็กบ้างผใู้ หญ่บ้าง
- เดินบ้างว่ิงบ้าง
- ต่างจิต ต่างใจ
- เขาบ้าง เราบ้าง
- ทามากบ้าง ทานอ้ ยบ้าง
- เขาพูดต่างกบั ฉนั

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

32 กรอบที่ ๒๔

บทสรุป

คำสรรพนำม

คาสรรพนาม คอื คาแทนช่ือ การที่เราไดศ้ ึกษาหลกั การใช้

คาสรรพนามไดถ้ กู ตอ้ งจะช่วยใหก้ ารใชภ้ าษาในการส่ือสารมีความกะทดั รดั
และใชส้ ่ือความหมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

บุรุษท่ี ๒ บรุ ุษท่ี ๓
ผ้ฟู ัง ผู้ทเ่ี รำกล่ำวถึง

นยิ มสรรพนำม
สรรพนามใช้ช้ีระยะ

บรุ ุษที่ ๑ บุรุษสรรพนำม
ผู้พดู คำทใี่ ช้แทนชื่อบคุ คล

ประพันธสรรพนำม คำสรรพนำม อนิยมสรรพนำม
สรรพนามเชื่อมประโยค สรรพนามบอกความ

ไม่เจาะจง

วภิ ำคสรรพนำม ปฤจฉำสรรพนำม
สรรพนามบอกความช้ีซ้า สรรพนามทใ่ี ชถ้ าม

นักเรยี นไดศ้ กึ ษาเน้ือหาเกย่ี วกบั คาสรรพนามแต่ละประเภทไปแลว้ ใหน้ ักเรยี น
ทาแบบฝึกหดั ในกรอบถดั ไปอกี ครงั้ เพอ่ื เป็นการตรวจสอบว่านกั เรยี นเขา้ ใจใน
เน้อื หามากน้อยเพยี งใด แบบฝึกหดั ไมย่ ากเลยจะ๊ อย่าใจรอ้ นดูเฉลยกอ่ นนะจะ๊

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

33

กรอบที่ ๒๕

แบบฝึ กหัดที่ ๖

คำชีแ้ จง นาคาสรรพนามทขี่ ีดเสน้ ใตใ้ นขอ้ ความแตล่ ะขอ้ ไปเขียนในช่องตา่ ง ๆ ให้ถกู ประเภท
ในกรอบคาตอบดา้ นลา่ ง

ตัวอย่ำง ๐. โปรดอยา่ ถามวา่ ฉันเป็นใครเมอื่ ในอดีต
๑. นี่คือสถานแห่งบา้ นทรายทองทฉ่ี ันปองมาอยู่
๒. ธ ประสงค์ใด จงสฤษด์ิดงั หวงั วรหฤทยั
๓. เธอมาจากไหน เธอจะเป็นใคร ฉันไม่เคยหวนั่
๔. ไทยนี้รกั สงบ แตถ่ งึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไมใ่ ห้ใครขม่ ขี่
๕. เรำก็เหมือนมอดมว้ ย หมดสิ้นสกุลไทย
๖. แลว้ สอนวา่ อยา่ ไวใ้ จมนุษย์ มนั แสนสุดลึกล้าเหลือกาหนด
๗. ใครหนอรกั เรำเทา่ ชีวี
๘. “คณุ จะมาพบผอู้ านวยการหรือคะ วนั น้ีท่ำนไมอ่ ยู่ ไปประชุมท่จี งั หวดั ”
๙. ใครช่วยช้ีแจงรายละเอียดให้ท่ำนฟังหน่อยไดไ้ หม
๑๐. เดก็ ๆ ต่ำงกค็ ดิ ว่าการเรียนสาคญั พวกเขำจึงต้งั เรียน

ข้อ บรุ ุษ ประพันธ วภิ ำค ปฤจฉำ นิยม อนยิ ม
สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม
ตวั อยา่ ง
๑. ฉนั - - ใคร - -
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๗.
๘.
๙.
๑๐.

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

34 กรอบท่ี ๒๖
เฉลยแบบฝึ กหัดที่ ๖

ข้อ บรุ ุษ ประพันธ วิภำค ปฤจฉำ นิยม อนยิ ม

สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม สรรพนำม

๑. ฉัน ที่ - - นี่ -

๒. ธ - - - - -

๓. เธอ/ฉนั - - ไหน/ใคร - -

๔. - - - - น้ี ใคร

๕. เรา - - - - -

๖. มนั - - - - -

๗. เรา - - ใคร - -

๘. คุณ/ท่าน - - - - -

๙. ทา่ น - - - - ใคร

๑๐. พวกเขา - ตา่ ง - - -

ตรวจสอบคาตอบแลว้ นกั เรียนตอบถูกก่ีขอ้ เปรียบเทียบกบั เกณฑท์ ่กี าหนด

ตอบถูก ๙ - ๑๐ ขอ้ ดีมาก

๗ - ๘ ขอ้ ดี

๕ - ๖ ขอ้ พอใช้

๐ - ๔ ขอ้ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ถา้ หากตอบถกู ไมถ่ งึ ๕ ขอ้ ให้ยอ้ นกลบั ไปศกึ ษา เน้ือหาคาสรรพนามใหมต่ ้งั แต่ตน้

แลว้ ทาแบบฝึกหัดใหม่อกี คร้ัง

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

35

แบบทดสอบหลงั เรียน
เล่มท่ี ๒ เรื่อง คำแทนชื่อ น้ีคือสรรพนำม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๖

คำชีแ้ จง - ขอ้ สอบมีท้งั หมด ๑๐ ขอ้ ใช้เวลาในการทาแบบทดสอบ ๑๕ นาที
- จงกาเคร่ืองหมายกากบาท  ทบั ขอ้ ก ข ค ง ทีถ่ กู ตอ้ งทส่ี ุดเพียงขอ้ เดียว
ลงในกระดาษคาตอบทแี่ จกให้

๑. คาวา่ “อะไร” ในประโยคใดท่ีเป็นอนิยมสรรพนาม

ก. อะไรทีเ่ ธอชอบกิน ข. เขาตอ้ งการอะไร

ค. นกั เรียนพดู อะไรกนั ง. พูดอะไรกไ็ มฟ่ ังท้งั น้นั

๒. คาว่า “ท”ี่ ในขอ้ ใดเป็นประพนั ธสรรพนาม ข. รายการท่ีเธอชอบกาลงั เป็นทน่ี ิยม
ก. ท่บี า้ นของเธอจดั งานเล้ยี งใหญ่โต ง. งานรบั ปริญญาจดั ท่ไี หน
ค. ทม่ี รี าคาสูงมาก

๓. “กนั ” ในขอ้ ใดเป็นวิภาคสรรพนาม ข. กันไมช่ อบหนา้ เขาเลย
ก. เขาถกู กันเป็นพยาน ง. นกั เลงตีกัน
ค. ผหู้ ญิงชอบกันคิ้ว

๔. คาว่า “ผม” ในขอ้ ใดเป็นคาสรรพนาม ข. แม่ชอบไปทาผมทร่ี ้าน
ก. ผมเผา้ ไมเ่ คยหวี ง. ใครเป็นคนเอาสมดุ มาคืนผม
ค. เธอตอ้ งใส่วิกผม

๕. ขอ้ ใดเป็นอนิยมสรรพนาม (สรรพนามไม่ช้ีเฉพาะเจาะจง)

ก. เธอคอ่ ยๆ กา้ วเขา้ มาในห้อง ข. นน่ั ท่านมาแลว้

ค. ใครมากดกร่ิงท่ปี ระตบู า้ น ง. ไมว่ ่าอะไรฉนั กไ็ ม่ตอ้ งการ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

36

๖. ขอ้ ใดมปี ระพนั ธสรรพนาม (สรรพนามท่ใี ชเ้ ช่ือมประโยค)

ก. เธอทาอะไรอยู่ ข. แบบฝึกหัดบทน้ียากจริง ๆ

ค. น้าฝนที่รองเอาไวใ้ ชด้ ื่มไม่ได้ ง. ใครแตง่ เร่ืองอิเหนา

๗. คาสรรพนามในขอ้ ใดทาหนา้ ท่เี ป็นประธาน ข. พาเขาไปไกลๆ
ก. หลวงอาทา่ นรบั ฎีกาไว้ ง. งกู ดั เจา้ แตม้ มนั
ค. นา้ สาลีจะไปส่งคณุ ค่ะ

๘. คาสรรพนามในขอ้ ใดทาหนา้ ทเี่ ป็นกรรม
ก. หลวงป่ แู หวนทา่ นไม่คอ่ ยไดพ้ กั ผ่อน ข. หลวงนา้ ไปไหนมาคะ
ค. คณุ มานพเขาไมค่ อ่ ยตรงเวลาเลย ง. นอ้ งทุบมนั เสียงดงั สนนั่

๙ . ขอ้ ใดใชส้ รรพนามแลว้ มีความหมายเป็นคาถาม
ก. ขนมอะไรฉนั กท็ านไดท้ ้งั น้นั
ข. ไหน ๆ ก็มาแลว้ เขา้ ไปดูเสีย
ค. ใด ๆ ในโลกลว้ นไม่แน่นอน
ง. อะไรท่ีเธอทาอยฉู่ นั ขอทาดว้ ยนะ

๑๐. “คนในกรุงเทพบา้ งก็ทางานบา้ งก็อยบู่ า้ น” คาใดในประโยคที่เป็นคาสรรพนาม
ก. ใน ข. บา้ ง
ค. ก็ ง. คน

ทาแบบทดสอบก่อนเรียนให้เต็มความสามารถ
แลว้ ตรวจคาตอบจากเฉลยหนา้ ถดั ไปนะคะ

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

37

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน

เล่มท่ี ๒ เร่ือง คำแทนชื่อนี้คือ...สรรพนำม

ข้อที่ คำตอบ
๑. ง
๒. ข
๓. ง
๔. ง
๕. ง
๖. ค
๗. ก
๘. ง
๙. ง
๑๐. ข

จากการทาแบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจสอบคาตอบแลว้ ตอบถูกกี่ขอ้

เปรียบเทียบกบั เกณฑท์ ี่กาหนดดว้ ยจ๊ะ (ขอ้ ละ ๑ คะแนน)

ตอบถูก ๙ - ๑๐ ขอ้ ดีมาก

๗ - ๘ ขอ้ ดี

๕ - ๖ ขอ้ พอใช้

๐ - ๔ ขอ้ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

เปรียบเทยี บผลการประเมินกอ่ นเรียนและหลงั เรียน นกั เรียนไดค้ ะแนนเพิ่มข้ึน

หรือไม่ รายงานคะแนนที่ไดใ้ ห้คุณครูทราบดว้ ยจะ้

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี

38

บรรณำนุกรม

ทนิ รตั น์ จนั ทราภินนั ท.์ ๒๕๔๙. หลกั ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖. พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๑.

กรุงเทพฯ : เดอะบุคส์.

ธารง ชูทพั และคณะ. ๒๕๒๔ . หนงั สือชุดเสริมประสบกำรณ์ กล่มุ ทกั ษะภำษำไทย
ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ .พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑. กรุงเทพฯ : ฟิ สิกส์เซ็นเตอร์.

นรบดี สิริเนาวพงศ.์ ๒๕๔๙. สื่อเสริมสำระกำรเรียนรู้พนื้ ฐำนภำษำไทย ชุดหลกั ภำษำน่ำรู้ ๖.
พิมพค์ ร้ังท่ี ๑. กรุงเทพฯ : ฟิ สิกส์เซ็นเตอร์.

นฤภร รุจิเรขและคณะ. ๒๕๕๐. ชุดกจิ กรรมพฒั นำกำรคดิ วิเครำะห์ ภำษำไทย ป. ๖. พมิ พค์ ร้ังท่ี
๑.

กรุงเทพฯ : บริษทั พฒั นาคุณภาพวิชาการ จากดั

ประพีร์ เทพธรานนท์ และคณะ . ๒๕๓๕. แบบฝึ กหัดภำษไทย หลกั ภำษำ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๖
โรงเรียนสำธติ แห่งมหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒. กรุงเทพฯ :
บวรสารการพิมพ์ จากดั .

เปรมจิต ชนะวงศ.์ ๒๕๓๒. หลักภำษำไทย. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑. นครศรีธรรมราช : โครงการตาราและ
เอกสารทางวิชาการ วทิ ยาลยั ครูนครศรีธรรมราช.

ศภุ วรรณ สัจจพิบลู . ๒๕๔๙. เสริมทกั ษะกำรเรียนรู้พืน้ ฐำนหลกั ภำษำไทย. พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ .
กรุงเทพฯ :

ดอกหญา้ วชิ าการ จากดั .

อชั ชา แสงอสั นียแ์ ละคณะ. ๒๕๔๐. หนงั สือเสริมทกั ษะภำษำไทย. พมิ พค์ ร้งั ที่ ๒. กรุงเทพฯ :
เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเมน้ ท.์

นิรามยั แป้นมี โรงเรียนอนุบาลปัตตานี