วิธีการปฏิบตั ทิ ี่เป็นเลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายิกาวาส 1
วิธกี ารปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 2
คำนำ
การพฒั นารปู แบบการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนให้มีคุณลักษณะและ
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้วยกระบวนการบันได 5 ขั้น (QSCCS) และ PUNJA Model เป็นกระบวนการ
เรียนการสอนทส่ี ่งเสริมให้ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในชัน้ เรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งครูผู้สอนกับ ผู้เรยี น มุ่งให้ผเู้ รยี นลง
มือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) สร้างแรงบันดาลใจ ให้คาปรึกษา ดูแล แนะนา ทา
หน้าที่เป็นโค้ชและพ่ีเล้ียง (Coach & Mentor) แสวงหาเทคนิควิธีการจัดการ เรียนรู้ เพ่ือนาไปสู่การพัฒนาทักษะ
ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 คือ 3Rs 8Cs โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส ดาเนินการจัดทา Best Practice การ
ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยกระบวนการบันได 5 ข้ัน (QSCCS) และ PUNJA Model เพื่อยกระดับ
คุณภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 อย่างเป็น ระบบ ครูสามารถจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบ Active Learning
ผสมผสานกบั การเรยี นรู้ เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ได้อยา่ งมคี ณุ ภาพ โรงเรยี นวัดปญั จทายิกาวาส
หวังเป็นอย่างย่งิ ว่า จะเป็นประโยชน์สาหรับโรงเรียนที่สนใจ นาไปเป็นแบบอย่างในการบรหิ ารจัดการศึกษาให้เกดิ
ประโยชน์ตอ่ ไป
นายเกรียงไกร ผาดไธสง
รองผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดปัญจทายิกาวาส
วธิ ีการปฏิบตั ทิ ีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายกิ าวาส 3
สำรบญั
แบบเสนอผลงาน หน้ำ
ขอ้ มูลการนาเสนอผลงาน นวัตกรรม/วธิ กี ารปฎิบตั ิที่เป็นเลิศ (Best Practice)
4
1.ความเป็นมา และความสาคัญ 5
2.จุดประสงค/์ เปา้ หมาย 5
3.กระบวนการ/ขนั้ ตอน 7
4.ผลการดาเนินงาน 8
5.ปจั จัยท่ีทาให้ประสบผลสาเรจ็ 19
6.บทเรียนทไ่ี ด้รับ 20
7.การเผยแพร่/การไดร้ บั การยอมรบั /รางวลั ที่ไดร้ ับ 22
ภาคผนวก 23
ประวัติโดยย่อ 27
33
วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายิกาวาส 4
แบบเสนอผลงำน
ผลงำนนวัตกรรม/วธิ ีกำรปฏิบตั ทิ ่ีเป็นเลศิ (Best Practice)
สำนกั งำนเขตพื้นท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำปทุมธำนี เขต 2 ปี 2564
ชื่อผลงำน การพัฒนารูปแบบการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีคณุ ลักษณะ
และทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ดว้ ยกระบวนการบันได 5 ขั้น (QSCCS) และ PUNJA Model
ข้อมูลท่ัวไป
1. โรงเรียนวัดปญั จทายกิ าวาส
สังกัดสานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2
ตาบล ลาดสวาย อาเภอลาลกู กา
จังหวดั ปทมุ ธานี รหสั ไปรษณยี ์ 12150
โทรศัพทห์ น่วยงาน 02-560-1055
โทรสาร 02-560-1055 E-mail [email protected]
2. ชื่อผู้บรหิ ารโรงเรียนท่สี ่งผลงาน
นายเกรยี งไกร ผาดไธสง
ตาแหนง่ รองผู้อานวยการโรงเรยี นวดั ปัญจทายกิ าวาส
เบอรโ์ ทรศัพท์ 092-8895416
E-mail [email protected]
วิธกี ารปฏบิ ัตทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 5
ข้อมูลกำรนำเสนอผลงำน นวตั กรรม/วธิ ีกำรปฎบิ ตั ิทีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice)
สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำปทุมธำนี เขต 2 ปี 2564
ชอื่ ผลงำน การพฒั นารปู แบบการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning เพอ่ื พัฒนาผ้เู รียนให้มคี ณุ ลักษณะและ
ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ดว้ ยกระบวนการบันได 5 ขน้ั (QSCCS) และ PUNJA Model
1.ควำมเปน็ มำ และควำมสำคญั
1.1 ควำมเป็นมำและสภำพของปญั หำ
การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนา
ตนเองได้ ดังนั้นกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดย
เน้นด้านความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้ ในเร่ืองสาระความรู้ให้บูรณาการความรู้และทักษะด้านต่าง ๆ
ให้เหมาะสมในแต่ละระดับการศึกษาเพ่ือพัฒนาด้านความรู้เกี่ยวกับตนเองและความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ
สังคม (พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี 3), 2553)
การพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) เป็นทักษะการเรียนรู้ตาม
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 กาหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ไว้ดังน้ี “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษา และ
เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพดารงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการ
เปล่ียนแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21” ทักษะแห่งอนาคตในศตวรรษที่ 21 เป็นทักษะที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของ
ประชาชนคนไทยในฐานะการเป็นพลเมืองโลก ที่มีการดารงชีวิตท่ามกลางโลกแห่งเทคโนโลยี โลกของเศรษฐกิจ
และการค้าโลกาภิวฒั น์กบั เครือขา่ ย คณุ ลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 เปน็ สิ่งที่สาคญั ทผี่ บู้ รหิ ารสถานศึกษา
และครูทุกคนต้องรู้จัก ปรับการเรียนเปล่ียนการสอน พัฒนาหลักสูตร ปรับกิจกรรม การเรียนการสอน เป็น
กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนคิดเป็น ลงมือปฏิบัติจริง ลงมือทดลอง และรวบรวม ข้อมูล จัดการข้อมูลท่ี
ซบั ซอ้ นขึ้น สรุปเปน็ องค์ความรตู้ ลอดจนการนาความรู้ประสบการณ์ไปใชต้ ่อยอดและ ขยายผล นับเป็นสาคัญท่ีครู
ทุกคนจะตอ้ งดาเนนิ การ บทบาทของครูในศตวรรษท่ี 21 นอกจากครจู ะต้อง รเู้ รือ่ งหรอื หาการสอนอย่างลึกซ้ึงการ
มีความรู้และเช่ียวชาญในการสอนสามารถพัฒนาหลักสูตรได้วางแผนการ สอนและจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ มีกิจกรรมท่ีหลากหลายกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนสร้าง แรงบันดาลใจให้ผู้เรียนได้คิดเรียนรู้และหา
ความรู้ตอ่ ยอดอยา่ งไม่หยดุ ยั้งนับว่าเป็นบทบาทสาคัญของครูเป็น อย่างย่งิ การบูรณาการศาสตร์วชิ าเทคนิควิธีการ
เป็นประเด็นสาคัญอย่างย่ิงสาหรับการเป็นครูในศตวรรษท่ี 21 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
(2562) ได้สรุปความสาคัญของการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก (Active learning) ไว้ดังนี้ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active learning) เป็นกระบวนการเรียนการสอน ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในช้ันเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์
ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) สร้างแรง
วิธกี ารปฏบิ ตั ิทเ่ี ป็นเลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาส 6
บันดาลใจ ให้คาปรึกษา ดูแล แนะนา ทาหน้าท่ีเป็น โค้ชและพี่เล้ียง (Coach & Mentor) แสวงหาเทคนิควิธีการ
จดั การเรยี นรู้ และแหลง่ เรียนรทู้ ี่หลากหลาย ใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รียนรูอ้ ย่างมคี วามหมาย (Meaningful learning) ผเู้ รียน
สรา้ งองค์ความรู้ได้มีความเข้าใจใน ตนเอง ใชส้ ตปิ ญั ญา คิด วเิ คราะห์ สร้างสรรคผ์ ลงานนวัตกรรมท่ีบง่ บอกถึงการ
มที กั ษะในศตวรรษที่ 21 มี ทกั ษะวชิ าการทักษะชวี ติ และทกั ษะวิชาชีพบรรลเุ ป้าหมายการเรียนร้ตู ามระดับชว่ งวยั
การจัดการศึกษาโดยใช้ PUNJA Model คือ รูปแบบจาลองการพัฒนาความรู้ ทักษะ และเจตคติ
ของ ผู้เรียน ผ่านการสง่ เสริมองค์ประกอบสาคัญ 5 องค์ประกอบ คอื P (Plan Life) U (Universal) N (Notion) J
(Judgment) และ A (Ability) ให้เกดิ ความพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงทง้ั ด้านการเมือง เศรษฐกจิ สังคม การดาเนิน
ชีวิต และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับทักษะสาคัญสาหรับการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 ท้ัง 3
ด้ า น คื อ Learning and Innovation Skills Information, Media and Technology Skills แ ล ะ Life and
career skills เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ - ทกั ษะ มีทศั นคตทิ ี่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มพี น้ื ฐาน ชีวิตทีม่ น่ั คง มีคุณธรรม มี
งานทา มีอาชพี เป็นพลเมืองทเ่ี ข้มแข็ง
โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส ได้วิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียนในปี
การศึกษา 2563 พบว่า ผลการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 (RT) อยู่ในระดับต่ามาก มีค่าเฉล่ียร้อยละ
71.41 ผลการสอบ (NT) ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 มีค่าเฉล่ียร้อยละ 45.87 ผลการสอบ O-NET ของช้ัน ประถมศึกษา
ปีที่ 6 มคี ่าเฉล่ยี 36.91 และผลการสอบ O-NET ของชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 มคี า่ เฉลย่ี 34.49 ซ่ึงอยู่ในระดับต่ามาก
เช่นกัน ปญั หาดงั กล่าวเมื่อผา่ นการวิเคราะห์อีกครง้ั จากคณะครู โดยใช้กิจกรรมชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)
พบว่า สาเหตุของปัญหาเกิดจาก ความสามารถในการอ่าน การเขียน และการคิดคานวณของนักเรียนเป็นสาเ หตุ
หลกั ท่ที าใหผ้ ลการเรยี นใน ระดับต่างๆ ตา่ และเมือ่ วเิ คราะหผ์ ลการนิเทศภายในปีการศึกษา 2563 พบว่า ครูเพยี ง
รอ้ ยละ 30 มีการ จัดการเรยี นรหู้ ลากหลายรปู แบบ เนน้ ใหผ้ เู้ รียนลงมอื ปฏิบัตแิ ละใหน้ ักเรียนมีส่วนร่วมในกจิ กรรม
หรือการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning ) แต่ยังมีครูอีกจานวนมากคิดเป็นร้อยละ 70 ท่ียังจัดการเรียนรู้
ด้วย รูปแบบเดิมๆ กล่าวคือเป็นการบอกความรู้ จัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการบรรยายประกอบสื่อ เป็น
หลัก การจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ในทุก
ระดับอยู่ในระดับที่ต่ามาตลอด ต้ังแต่ปีการศึกษา 2563 ย้อนหลังไป 3 ปีการศึกษา ท้ังนี้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน
ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็น RT NT และ O-NET ต่างอยู่ระดับต่ามาตลอด ปัญหาดังกล่าวต้องได้รับ การแก้ไขอย่าง
เรง่ ด่วน ดงั นัน้ ผูบ้ ริหารและคณะครูจงึ รว่ มกันคดิ หานวตั กรรมที่จะสง่ เสริมการเรียนรู้ของผู้เรยี น ให้มที ักษะพืน้ ฐาน
เบ้ืองต้นที่สาคัญในศตวรรษที่ 21 กล่าวคือ ทักษะหรือสมรรถนะการอ่าน (Reading) การเขียน (writing) และการ
คิดคานวณหรือคิดเลขเป็น (Arithenmatics) ทั้งน้ีผู้บริหารและคณะครูใช้ กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพ (PLC) และการประชุมกลุ่มย่อยเป็นส่วนขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ดังกล่าว ร่วมคิดนวัตกรรมการจัดการ
เรียนรู้รูปแบบเชิงรุก (Active Learning) เพื่อนาไปสู่การยกระดับ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยเฉพาะทักษะของ
ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เป็นสาคัญ ผู้บริหารและคณะครูได้ ศึกษาแนวทางเทคนิควิธีการในการส่งเสริมการอ่าน
วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 7
การเขียน และการเรียนรู้ท่ีสนุกสนานตามแนวคิดการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่มีรูปแบบท่ี
เหมาะสมมีประสทิ ธผิ ลต่อการพัฒนาผ้เู รียนใหม้ ที ักษะใน ศตวรรษท่ี 21 อย่างครบถ้วน
1.2 แนวทำงกำรแกป้ ญั หำและพัฒนำ
ผู้บริหารและคณะครู จึงร่วมกันคิดหานวัตกรรมท่ีจะส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้มีทักษะ
พ้ืนฐานเบ้ืองต้นที่สาคัญในศตวรรษที่ 21 กล่าวคือ ทักษะหรือสมรรถนะการอ่าน (Reading) การเขียน (writing)
และการคิดคานวณหรือคิดเลขเป็น (Arithenmatics) ทั้งน้ีผู้บริหารและคณะครูใช้ กระบวนการชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการประชุมกลมุ่ ย่อยเป็นส่วนขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ดงั กล่าว รว่ มคิดนวัตกรรมการ
จัดการเรยี นรู้รูปแบบเชิงรุก (Active Learning) เพื่อนาไปส่กู ารยกระดับ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นโดยเฉพาะทักษะ
ของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 เป็นสาคัญ ผู้บริหารและคณะครูได้ ศึกษาแนวทางเทคนิควิธีการในการส่งเสริมการ
อ่าน การเขียน และการเรียนรู้ท่ีสนุกสนานตามแนวคิดการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ท่ีมีรูปแบบที่
เหมาะสมมีประสิทธิผลต่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะใน ศตวรรษท่ี 21 อย่างครบถ้วน โดยนากระบวนการบันได
5 ขัน้ (QSCCS) มาพฒั นารปู แบบการจดั การเรยี นร้แู บบ Active Learning เพ่อื พัฒนาผูเ้ รยี นใหม้ ีคุณลกั ษณะและ
ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21
โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 มี
ภารกิจหลักในการจัดการศึกษา คือ การพัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล การ
พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนากาลังครูและบุคลากรทางการศึกษา การเพ่ิมโอกาสให้คน ทุกช่วง
วัยเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต การส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือ
การศึกษา และการพัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ภายใต้
แนวคดิ สาคัญในการจดั การศึกษา คือ PUNJA Model
จากที่มาและความสาคัญดังกล่าวข้างต้น โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส เห็นความสาคัญของการจัด
การศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ - ทักษะ มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพ้ืนฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงาน
ทา มีอาชีพ เป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง จึงได้ดาเนินการตามรูปแบบนวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อการ
ปฏบิ ตั ิท่เี ปน็ เลิศ “PTT Two PUNJA Model” ขึน้
2.จุดประสงค/์ เปำ้ หมำย
2.1 เพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่สามารถส่งเสริม พัฒนา ทักษะ
ของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 อย่างมีประสทิ ธิผล
2.2 เพ่ือทดลองใช้และปรับปรุงนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ท่ีพัฒนาข้ึน ให้ มี
ความเหมาะสม มีประสทิ ธิภาพต่อการสง่ เสริมพัฒนาทกั ษะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21
วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายกิ าวาส 8
2.3 เพื่อเผยแพรน่ วัตกรรมการจัดการเรยี นรเู้ ชิงรกุ (Active Learning) ท่มี คี วามเหมาะสมและ มี
ประสิทธิภาพต่อการพฒั นาทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ไปยงั สถานศึกษาตา่ งๆ
2.4 เพ่อื สง่ เสริมการจดั การศึกษาให้มคี ณุ ภาพได้มาตรฐานและมที ักษะท่ีจาเปน็ ในศตวรรษที่ 21
2.5 เพือ่ เป็นเครอ่ื งมือในการบริหารจัดการและพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ของโรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส
3.กระบวนกำร/ข้ันตอน
3.1 กำรออกแบบนวัตกรรม
จากเจตนารมณ์ของการพฒั นาทักษะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ทม่ี คี วามมุง่ หวงั และความคาดหมาย
หลัก ๆ คือ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้เป็นพลเมืองท่ีมีคุณภาพ อันหมายถึง เป็นคนดี เป็นคนเก่ง เป็นคนท่ีสามารถ
ดารงชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข บนพื้นฐานของความเป็นไทย ภายใต้บริบท สังคมโลกใหม่ รวมทั้งเพิ่ม
ศักยภาพและความสามารถในระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ การสื่อสาร เพ่ือการพ่ึงตนเองและเพ่ือ
สมรรถนะในการแข่งขัน และโรงเรียนยกระดับคุณภาพสูงข้ึน สู่มาตรฐานสากล ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ
ตามเกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแห่งสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน (OBECQA) เปน็ โรงเรียนยุคใหม่ที่จัด
การศึกษาแบบองค์รวม และบูรณาการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ศาสนา และการเมือง เพ่ือพัฒนา
ประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีภาคีเครือข่ายการจัดการเรียนรู้และร่วมพัฒนากับสถานศึกษาระดับท้องถิ่น ระดับ
ภูมิภาค ระดับ ชาติและนานาชาติรวมทั้งเครือข่ายสนับสนุน จากสถาบันอุดมศึกษาและองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนเป็นศนู ยแ์ ละรว่ มเป็นเครอื ข่ายพัฒนา ความร้ใู ห้กับประชาชนในชมุ ชนและบคุ คลท่ัวไป
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงดาเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียนโดยใช้นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน
(Instructional innovation) โดยมีเป้าหมายตามหลักการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ท่ี
เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ซึ่งต้องดาเนินการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีความรอบรู้ ก้าวทันโลกและการเปลี่ยนแปลง มี
คุณธรรมและจริยธรรมสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้และพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับ
ปรัชญาการศึกษา ด้านประสบการณ์นิยม(Progressivism) และทฤษฎีการเรียนรู้ ด้านการสร้างองค์ความรู้ด้วย
ตนเอง (Constructivism) โดยสังเคราะห์เป็นนวัตกรรม การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active
Learning เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ด้วยกระบวนการบันได 5 ขั้น
(QSCCS) โดยกระบวนการพัฒนานวัตกรรม/วิธีปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ ใช้วิธี System Approachประกอบด้วย Input
Process Output Feedback และทกุ ข้ันตอนจะควบคมุ โดยวงจรคุณภาพ PDCA ดังแสดงในแผนภาพ ดังนี้
วิธกี ารปฏิบัติทเี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 9
ปจั จยั นำเขำ้ (Input) กำรควบคมุ ผลผลิต(Output)
การประเมินประสทิ ธิภาพ
กำรวเิ ครำะหค์ วำมต้องกำร การประเมนิ ประสทิ ธิผล ผลกำรเรียนรู้
ควำมจำเป็น
กระบวนกำร(Process) • ความรู้
• ผู้เรียน • ความสามารถในการปฏบิ ตั ิ
• สง่ิ แวดล้อม • กลยุทธ์การเรยี นการสอน • ทักษะ/กระบวนการ
• ภาระงานเพอ่ื การเรยี นรู้ (เน้นผู้เรียนเป็นสาคญั ) • คณุ ลกั ษณะของผู้เรยี น
• จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ • ความพึงพอใจของผเู้ รียน
• อุปกรณ์และส่ิงอานวย • ปรชั ญาการศึกษา
(Progressivism)
ความสะดวก
• ทฤษฎกี ารเรียนรู้
(Constructivism)
• วิธีการ/พฤติกรรมการเรยี น
ก าร สอ น( บัน ไ ด 5 ขั้ น
(QSCCS))
ข้อมูลยอ้ นกลบั (Feedback)
จากกระบวนการพฒั นานวัตกรรม/วธิ ปี ฏบิ ตั ิท่ีเป็นเลิศ ใชว้ ธิ ี System Approach ประกอบดว้ ย
Input Process Output Feedback และทุกขั้นตอนจะควบคุม โดยวงจรคุณภาพ PDCA ดังแสดงในภาพนั้นมี
ดาเนินการ ดังนี้
1.1) ศึกษาหลักสูตรของโรงเรียน ศึกษาเอกสารประกอบหลักสูตรและวเิ คราะหห์ ลักสตู ร
1.2) ออกแบบหน่วยการเรียนรู้และจัดทาแผนการเรียนรู้อย่างชัดเจน ซึ่งในแผนการจัดการ
เรียนรู้นอกจากจะกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดแล้ว จะกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้ง 3
ด้าน คือ ดา้ นพุทธิพิสัย ด้านจติ พิสยั และด้านทกั ษะพสิ ยั
1.3) ระบุเทคนิควิธีการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ระบุใช้สื่อ/นวัตกรรมที่ใช้จัดกิจกรรมการ
เรยี นรูท้ ่ีเหมาะสมสอดคลอ้ งกับเน้อื หาสาระและผเู้ รียน
1.4) กาหนดวิธกี ารวดั และประเมนิ ผลพร้อมเครือ่ งมือการวดั และประเมนิ ผลไวอ้ ย่างชัดเจน
1.5) จากนน้ั นาแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญใช้ส่ือ/
นวัตกรรมอย่างหลากหลายประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมท้ังออกแบบและสร้างเครื่องมือวัดและ
ประเมินผลการเรยี นร้ใู ห้ครอบคลมุ ตามตัวชวี้ ดั และมาตรฐานการเรยี นรู้
วธิ ีการปฏบิ ัติท่ีเป็นเลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายกิ าวาส 10
ทั้งนี้ ข้าพเจ้ามีการวัดและประเมินผลในแต่ละรายวิชา คือ การประเมินการปฏิบัติ
(Authentic Assessment) และการประเมินสภาพจริง (Performance Assessment) โดยผ่านการปฏิบัติของ
ผู้เรียน โดยการวัดและประเมินผลด้วยวิธีการดังกล่าวต้องวัดและประเมินได้ครอบคลุม ครบถ้วนพฤติกรรมของ
ผู้เรียนท้งั 3 ด้าน ดงั น้ี
ด้ำนพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) การประเมินความรู้ เป็นการให้ผู้เรียนได้รับความรู้
ความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ ท้ังเน้ือหาด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งความรู้ในเน้ือหาสาระนี้สามารถประเมิน
โดยการใชแ้ บบทดสอบ
ด้ำนจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นการประเมินการแสดงออกของผู้เรียนทั้งหมด
ตลอดจน การทางานร่วมกนั และคณุ ลกั ษณะต่างๆ ซ่ึงสามารถประเมินดว้ ยวิธีการสังเกตไดอ้ ยา่ งชดั เจน
ด้ำนทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) การประเมินทักษะ ตามคุณลักษณะและทักษะ
ที่สาคัญของนกั เรยี นในศตวรรษที่ 21
3.2 กำรดำเนนิ งำนตำมกจิ กรรม
ขนั้ เตรยี มกำร (Plan)
1) ผสู้ อนศึกษาเปา้ หมายของการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา ศกึ ษาหลกั สตู รของโรงเรยี น ศกึ ษา
เอกสารประกอบหลักสูตรและวเิ คราะหห์ ลักสตู ร ศกึ ษาคณุ ลักษณะและทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการคน้ ควา้ และ
สร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้
ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานท่ีตรวจสอบได้ เพื่อสร้างหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดและสาระ
การเรยี นรแู้ กนกลาง ภายใต้หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560)
2) ผสู้ อนจดั ทาหนว่ ยการเรยี นรู้ และแผนการจดั การเรยี นรู้
3) ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสารวจแนวคิดหลักในการจัดทาผลงงานและนวัตกรรม เพ่ือนาไปสู่
การกาหนดหวั ขอ้ องค์ความรู้ใหมท่ ีผ่ ู้เรียนมีความสนใจรว่ มกนั
ข้นั ดำเนนิ กำร (Do)
การพัฒนาผลงานและนวัตกรรมของนักเรียนจากการจัดการเรียนการสอน Active learning เพ่ือ
พัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี ุณลกั ษณะและทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ด้วยกระบวนการบนั ได 5 ขนั้ (QSCCS) ดงั นี้
วิธกี ารปฏบิ ตั ิทเ่ี ปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 11
ครูผู้สอนได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนบันได 5 ขั้น ซ่ึงเร่ิมต้นจากการตั้ง
คาถาม
1.) กำรตั้งคำถำม/สมมติฐำน (Learning to Question: Q) ซึ่งในกระบวนการน้ีนักเรียนฝึก
การคิดวิเคราะห์ในการต้ังคาถามโดยใช้เทคนิค 5W1H มาเป็นพื้นฐานในการกาหนดปัญหาหรือความสนใจข้ัน
พ้ืนฐาน หลังจากที่กาหนดปัญหาหรือต้ังคาถามท่ีสนใจในการค้นคว้าหาคาตอบของความรู้แล้วนั้น เข้าสู่
กระบวนการระดมแนวคิดร่วมกันผ่านกระบวนการทางานเป็นกลุ่มเพ่ือวางแผนเพื่อสืบค้นผ่านแหล่งเรียนรู้ หรือ
แหล่งสารสนเทศตา่ งๆ
2.) กำรสืบค้นควำมรู้และสำรสนเทศ (Learning to Search :S) ตามความถนัดของแต่ละ
บุคคลและนามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มและในชน้ั เรียนโดยครูคอยติดตามและอานวยความสะดวกและแนะ
แนวทางให้นักเรียนเกิดแนวคิดเพ่ิมเติมด้วยตัวของนักเรียนเองในการค้นคว้าหาความรู้ และสรุปองค์ความรู้ที่ได้
ดว้ ยตนเอง
3.) กำรสร้ำงองค์ควำมรู้ (Learning to Construct :C) ตามแนวทางท่ีตนเองสนใจ จากน้ัน
นามานาเสนอดว้ ยรูปแบบและวิธกี ารตา่ งด้วยเทคโนโลยี
4.) กำรส่ือสำรและนำเสนออย่ำงมีประสิทธิภำพ (Learning to Communicate: C) เช่น
PowerPoint แผ่นพับสรุปความรู้ mind mapping ตัดต่อVDO ซ่ึงต้องเน้นให้ใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมและ
สามารถสื่อสารขยายความได้อย่างม่ันใจ ไม่ใช่อ่านเอกสารหนา้ ชัน้ เรียนและไม่เน้นการทารายงานทารูปเล่มซึ่งเนน้
วิธกี ารปฏบิ ัตทิ ีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาส 12
เชิงปริมาณแต่ขาดคุณภาพทางวิชาการ มีการอ้างอิงแหล่งท่ีมาได้ถูกต้อง โดยหลังจากท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มได้
นาเสนอเสร็จสิ้นในชั้นเรียนแล้ว ครูผู้สอนจะทาหน้าที่คอย Coaching & Mentoring ซึ่งในการ Coaching &
Mentoring ครูผู้สอนจะทาในทุกขั้นตอนของกระบวนการบันได 5 ขั้น เพ่ือฝึกการคิดให้กับนักเรียน ซึ่งในขั้นน้ีครู
จะสะท้อนผลการเรียนรู้ทันทีหลังจากท่ีนาเสนอให้เห็นจุดเด่นจุดด้อย และเปลี่ยนเรียนรู้ซ่ึงกันและกันเพ่ือนาไป
ปรับปรุงและพัฒนางานของตนเองต่อไปให้ดีข้ึน ซึ่งจะเห็นลาดับพัฒนาการการเรียนรู้ของนักเรียนในการคิด
แก้ปัญหาและพฒั นางานของตนเองอยา่ งเห็นได้ชดั เมื่อได้ดาเนนิ การนาเสนองานใหม่ เม่ือครูผสู้ อนเหน็ วา่ นกั เรียนมี
ความพรอ้ มและชนิ้ งานที่ได้ศึกษามาความสมบูรณ์เหมาะสมแล้วจะเปดิ โอกาสให้นักเรียนไดน้ าความรูข้ องตนเองไป
เสนอตอ่ สาธารณะ
5.) กำรบริกำรสังคมและจิตสำธำรณะ (Learning to Serve :S) หรือในเวทีต่างๆ ต่อไป เช่น
กิจกรรมหน้าเสาธง ช่วงพักกลางวัน เสียงตามสาย การเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือลง social media งานสัปดาห์
วทิ ยาศาสตร์ การจัดคา่ ยอจั ฉริยภาพทางด้านวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ตน้
ขน้ั ตรวจสอบและประเมินผลกำรพัฒนำงำน (Check)
1) ผู้เรียนมีความตื่นตัวในการเข้าร่วมกิจกรรม มีการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งเรียนรู้และมี
การปรบั ปรงุ เป็นระยะโดยมผี สู้ อนทาหนา้ ทใี่ หข้ อ้ เสนอแนะในการแก้ไขปรบั ปรงุ และพฒั นางาน
2) เม่ือผู้เรียนจัดทานวตั กรรม แล้ว ผู้สอนทาหน้าท่ีตรวจสอบ และเสนอแนะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ร่วมกบั ผู้เรียน
ขั้นสรปุ และรำยงำน (Action)
1) Reflection หรือถอดบทเรียน เป็นข้ันตอนการนาเสนอผลงานของนักเขียนในแต่ละกลุ่ม
เพ่ือให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างกลุ่ม นอกจากนมี้ ีกระบวนการการถอดบทเรียนจากการทาผลงานหรือ
นวตั กรรมของตนเองว่านักเรยี นเรยี นรู้อะไร ไดอ้ ะไรจากการทาผลงานหรือนวัตกรรมในครงั้ นี้ เพ่อื เปน็ การทบทวน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งหน่วยการเรียนรู้ท่ีผ่านมา หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นกระบวนการตก
ผลึกทางความคิด เพ่ือเชื่อมโยงองค์ความรู้ท่ีได้รับกับการนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน โดยมีผู้สอนทาหน้าท่ี ให้
คาชแี้ นะอยา่ งใกล้ชิด
2) ผู้สอนนาเสนอนวัตกรรมท่ีผู้เรียนร่วมกันสร้างองค์ความรู้ครั้งน้ีเผยแพร่ท้ังภายใสถานศึกษา
และภายนอกสถานศึกษา ทงั้ ในระดบั ชาติและระดับนานาชาติ
3.3 ประสทิ ธภิ ำพของกำรดำเนนิ งำน
ขั้นตอนในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มี
คุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ด้วยกระบวนการบันได 5 ข้ัน (QSCCS) พบว่านักเรียนเกิด
คุณลักษณะและทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานท่ีตรวจสอบได้
วิธกี ารปฏิบัติท่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายิกาวาส 13
สามารถนาวิธีการเรียนรู้ ท่ีใช้กระบวนการบันได 5 ข้ัน (QSCCS) ของการพัฒนาผู้เรียนสู่มาตรฐานสากล ในการ
ดาเนินงานไปใช้เป็นแหล่งข้อมลู ในการศึกษา และใชเ้ ปน็ แนวทางการพัฒนา หรอื เปน็ ฐานขอ้ มูลสาหรบั การศึกษา
เพ่มิ เติมท่จี ะนาไปสกู่ ารพฒั นา การตอ่ ยอด การแสวงหาองค์ความร้ใู หม่เพม่ิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง
3.4 กำรใชท้ รัพยำกร
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและ
ทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ดว้ ยกระบวนการบันได 5 ขั้น (QSCCS) ไดเ้ น้นคุณลกั ษณะและทักษะในศตวรรษ
ที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ซึ่งต้องอาศัยจากแหล่งการเรียนรู้ที่
หลากหลายและเป็นแหล่งการเรียนรทู้ ่ีอยู่ในท้องถิน่ เพอื่ ใหก้ ารสบื คน้ ข้อมูลและนาข้อมลู มาใชส้ รา้ งองค์ความรู้ใหม่
นน้ั มีความถกู ต้อง น่าเชื่อถอื จึงมกี ารใชท้ รัพยากรในรปู แบบต่าง ๆ ดงั นี้
3.4.1 ผู้เรียนและผู้สอนระดมความคิด เพ่ือระบุแหล่งเรียนรู้ท่ีสามารถสืบค้นหาข้อมูลมาจัดทา
ผลงานและนวัตกรรมของตนเองได้อย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ เช่น ห้องสมุดโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส
พพิ ธิ ภณั ฑ์ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น และขอ้ มลู ในระบบอนิ เตอร์เน็ต
3.4.2 กระบวนการสืบค้นข้อมูลและเขียนบทความ มีการใช้ทรัพยากร เช่น กระดาษ A4
กระดาษฟลิบชาร์จ ปากกาเคมี เพื่อใชใ้ นการจดบันทึกข้อมลู แล้วนาไปจดั พิมพ์โดยคอมพิวเตอรเ์ พื่อเกบ็ ข้อมูลเป็น
สารสนเทศ
3.4.3 การลงพื้นท่ีสืบค้นข้อมูล ได้รับการอานวยความสะดวกจากผู้ปกครองของนักเรียนซึ่งเป็น
คนในทอ้ งถิ่น ทาให้นกั เรยี นสามารถเข้าถงึ ข้อมลู เชิงลึกได้
3.4.4 การจัดตีพิมพ์ผลงานและนวัตกรรมที่ได้ดาเนินการศึกษา ผ่านโรงพิมพ์โดยใช้ป้ายไวนิล
หรอื กระดาษอารต์ มัน ในรูปแบบโปสเตอร์เพือ่ เพมิ่ ความนา่ สนใจให้กับงานนาเสนอ
3.4.5 การเผยแพร่ผลงานและนวัตกรรมท่ีได้ดาเนินการศึกษา ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตามศกั ยภาพและความสนใจของนกั เรียนเอง
วธิ ีการปฏิบตั ิทเ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายกิ าวาส 14
3.5 กำรออกแบบนวัตกรรมกำรพัฒนำคุณภำพกำรศกึ ษำ “PUNJA Model”
ภาพแสดงผงั นวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PUNJA Model”
PUNJA Model คือ รูปแบบจาลองการพัฒนาความรู้ ทักษะ และเจตคติของผู้เรียน ผ่านการส่งเสริม
องค์ประกอบสาคัญ 5 องค์ประกอบ คือ P (Plan Life) U (Universal) N (Notion) J (Judgment) และ
A (Ability) ให้เกิดความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงท้ังด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การดาเนินชีวิต และ
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับทักษะสาคัญสาหรับการเรียนรู้ใน ศตวรรษท่ี 21 ท้ัง 3 ด้าน คือ
Learning and Innovation Skills Information, Media and Technology Skills และ Life and career skills
เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ - ทกั ษะ มที ัศนคตทิ ี่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพนื้ ฐานชีวิตท่ีม่ันคง มีคณุ ธรรม มีงานทา มอี าชีพ
เปน็ พลเมอื งท่เี ข้มแข็ง
3.5.1 องค์ประกอบของ PUNJA Model
องค์ประกอบพ้ืนฐานสาหรับการพัฒนาความรู้ ทักษะ และเจตคติของผู้เรียน
โรงเรียนวัดปญั จทายกิ าวาส 5 องคป์ ระกอบ ได้แก่
วธิ ีการปฏบิ ตั ิท่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายกิ าวาส 15
1) องค์ประกอบพ้ืนฐานที่ 1 P : Plan Life (การวางแผนชีวติ )
1.1) ความหมายของการวางแผนชวี ิต
การวางแผนชวี ิต หมายถึง แนวทางหรือข้อกาหนดในการปฏบิ ตั ิของผู้เรยี นดว้ ยวิธีการ
เหมาะสม เพ่อื นาไปสกู่ ารวางเป้าหมายของชวี ติ ในแต่ละชว่ ง ตามทผ่ี เู้ รยี นได้กาหนดไว้ด้วยตนเอง
1.2) ประโยชนข์ องการวางแผนชีวิต
เพ่อื ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการวางแผนชีวิตและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันส่งผลให้
ชวี ิตมีเปา้ หมาย มคี ุณคา่ รจู้ ักใชเ้ วลาทมี่ ีอยใู่ ห้เป็นประโยชน์ และรจู้ ักจดั สรรเวลา ให้สมดุล
1.3) แนวทางการเสรมิ สร้างองคป์ ระกอบพนื้ ฐาน
(1) การสง่ เสริมให้ผูเ้ รียนวางแผนเกย่ี วกบั ค่าใชจ้ า่ ยในชีวติ ประจาวัน
(2) การส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นวางแผนเกยี่ วกบั การศึกษา
(3) การส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นวางแผนเก่ียวกับการแบ่งเวลาสาหรบั การทากิจกรรมตา่ งๆ
(4) การสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนวางแผนในการเรียนตอ่ หรือประกอบอาชีพ หลังสาเร็จการศกึ ษา
2) องค์ประกอบพน้ื ฐานท่ี 2 U : Universal (ความเป็นสากล)
2.1) ความหมายของความเปน็ สากล
ความเปน็ สากล หมายถึง แนวทางการพฒั นาผ้เู รยี นให้มีศักยภาพเปน็ พลโลก และ
ยกระดับการจัดการเรยี นการสอนใหเ้ ทียบเคียงมาตรฐานสากล ท้งั ด้านคุณภาพทางวชิ าการ คุณภาพของผู้สอน
และ คุณภาพของการวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารปฏบิ ตั ิที่เป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 16
2.2) ประโยชน์ของความเปน็ สากล
เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนพัฒนาศกั ยภาพเปน็ พลโลก มคี วามเปน็ เลิศทางวชิ าการ สามารถ
ใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนรู้ ออกแบบ สรา้ งสรรค์ สอ่ื สาร นาเสนอ และเผยแพร่องคค์ วามรู้ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
2.3) แนวทางการเสริมสร้างองคป์ ระกอบพน้ื ฐาน
(1) การสง่ เสรมิ ความเปน็ เลศิ ตอบสนองต่อความถนัดและความต้องการของผู้เรียน
(2) การสง่ เสริมแหลง่ เรยี นรภู้ ายในโรงเรียนที่มีมาตรฐาน
(3) การสง่ เสริมให้ผ้สู อนใชส้ ่อื ทหี่ ลากหลายและไดม้ าตรฐานในการจดั การเรียนการ
สอน
3) องคป์ ระกอบพื้นฐานที่ 3 N : Notion (ความคดิ )
3.1) ความหมายของความคดิ
ความคิด หมายถึง แนวทางการพัฒนาผู้เรียนให้คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดย
การศึกษาข้อมูล หลักฐาน การแยกแยะข้อมูล ตลอดจนพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล แล้วต้ังสมมติฐานเพ่ือ
หาสาเหตุของปญั หา และสามารถหาแนวทางการแกไ้ ขปญั หานั้น ๆ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
3.2) ประโยชน์ของความคดิ
เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักใชเ้ หตผุ ลพจิ ารณาไตร่ตรองอยา่ งรอบคอบ ยอมรบั ความ
คิดเหน็ ทแี่ ตกต่าง ไมใ่ ชอ้ คตหิ รืออารมณ์ของตนเองเปน็ สาคัญ
3.3) แนวทางการเสรมิ สรา้ งองค์ประกอบพื้นฐาน
(1) การส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นสรา้ งสรรค์ ประดิษฐ์ และออกแบบผลงานเขา้ แข่งขนั ในเวที
ระดบั ตา่ งๆ
(2) การส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนแสดงความคดิ เห็นหรือแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
วิธีการปฏิบตั ิทเ่ี ปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 17
4) องคป์ ระกอบพ้ืนฐานท่ี 4 J : Judgment (การตัดสินใจ)
4.1) ความหมายของการตัดสินใจ
การตดั สินใจ หมายถงึ แนวทางการพัฒนาผเู้ รียนให้เกดิ กระบวนการคน้ หาทางเลือก หรือ
แนวทางการปฏิบัติท่ีถกู ต้องเหมาะสมกบั สถานการณ์ ทรัพยากร และบคุ คล จนนาไปสู่การบรรลเุ ปา้ หมายและ
วัตถปุ ระสงค์ตามท่ตี ้องการอย่างมปี ระสิทธิภาพ
4.2) ประโยชน์ของการตัดสนิ ใจ
เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถตัดสินใจ โดยการสร้างทางเลือกที่หลากหลาย จากนั้น
ประเมินผลของทางเลือกแต่ละทางและเลือกทางเลือกท่ีดีท่ีสุด อันจะนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์
ตามทต่ี ้องการ
4.3) แนวทางการเสริมสรา้ งองค์ประกอบพนื้ ฐาน
(1) การสง่ เสริมให้ผเู้ รียนเหน็ โทษของยาเสพติด
(2) การสง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมา ประยกุ ตใ์ ช้ในการ
ตดั สนิ ใจเลอื กเป้าหมายหรือ แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวนั
5) องค์ประกอบพน้ื ฐานที่ 5 A : Ability (ความสามารถ)
5.1) ความหมายของความสามารถ
ความสามารถ หมายถึง แนวทางการพัฒนาผู้เรียนตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพของ
ผู้เรยี น ท้ังดา้ นความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และการบูรณาการตามความเหมาะสม
5.2) ประโยชนข์ องความสามารถ เพ่ือส่งเสริมให้ผเู้ รยี นคน้ พบความสามารถ ความถนัดและ
ความสนใจ ของตนเองในดา้ นต่างๆ อย่างเหมาะสม
วิธกี ารปฏบิ ตั ิที่เปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 18
5.3) แนวทางการเสรมิ สร้างองคป์ ระกอบพืน้ ฐาน
(1) การส่งเสริมให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้เรอื่ งเก่ียวกบั ตนเอง และความสมั พันธ์ของตนเองกบั
สังคม
(2) การส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนมีความรแู้ ละทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(3) การสง่ เสริมให้ผู้เรยี นมคี วามร้เู กี่ยวกับศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม การกีฬา ภมู ปิ ัญญา
ไทย และการประยกุ ตใ์ ชภ้ ูมปิ ัญญา
(4) การสง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีความรู้ และทกั ษะด้านคณิตศาสตร์ และดา้ นภาษา
(5) การส่งเสริมให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ และทกั ษะในการประกอบอาชพี และ
การดารงชีวิตอยา่ งมีความสุข
3.5.2 ทกั ษะสำคญั สำหรับกำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ของ PUNJA Model
ทกั ษะสาคญั สาหรับการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ของ PUNJA Model สาหรับการพัฒนา
ความรู้ ทักษะ และเจตคติของผูเ้ รยี น โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส มี 3 ทกั ษะสาคัญ ได้แก่
1) ทักษะท่ี 1 Learning and Innovation Skills (ทักษะการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม)
ทกั ษะนี้เปน็ ตวั กาหนดความพร้อมของผเู้ รยี นเขา้ สูโ่ ลกการทางานทมี่ ีความซับซ้อนมากข้ึน
ในปจั จบุ นั ไดแ้ ก่
(1) ความรเิ ร่มิ สร้างสรรค์และนวัตกรรม เชน่ การคดิ อย่างสร้างสรรค์ การทางานกับผู้อื่น
อย่างสร้างสรรค์ และ การสรา้ งนวตั กรรม
วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ เี่ ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 19
(2) การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแก้ปญั หา เชน่ การใหเ้ หตุผลอยา่ งมี ประสิทธผิ ล
การใช้การคิดอย่างเป็นระบบ และการพิจารณาและการตัดสนิ ใจ
(3) การสอ่ื สารและการรว่ มมือ เชน่ ส่อื สารอยา่ งชดั เจน และการร่วมมือกบั ผู้อ่ืน
2) ทักษะท่ี 2 Information, Media and Technology Skills (ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือ
และเทคโนโลยี) เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารผ่านทางสื่อและเทคโนโลยีมากมาย ผเู้ รยี นจึงต้อง
มีความสามารถในการแสดงทักษะการคิด อย่างมีวิจารณ์ญาณและปฏิบัติงานได้หลากหลาย โดยอาศัยความรู้ใน
หลายด้าน ดังนี้
(1) ความรู้ด้านสารสนเทศ เช่น การประเมินข้อมูลสารสนเทศ การใช้และการจัดการ
สารสนเทศ
(2) ความรู้เกี่ยวกับสื่อ เช่น การวิเคราะห์สื่อ การผลิตส่ือ การพิจารณา การตัดสินใจ
และ การแกป้ ญั หา
(3) ความรดู้ า้ นเทคโนโลยี เชน่ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
3) ทักษะท่ี 3 Life and career skills (ทักษะชีวิตและอาชพี )
การดารงชีวิตและทางานในยุคปัจจบุ ันให้ ประสบความสาเร็จ ผู้เรียนจะต้องพัฒนาทักษะ
ชวี ติ ท่ีสาคญั ดังตอ่ ไปนี้
(1) ความยดื หย่นุ และการปรับตวั เชน่ การปรับตัวเพ่ือพร้อมรับการเปลยี่ นแปลง
(2) ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม เช่น การมปี ฏิสัมพันธ์อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
กับผูอ้ ืน่ และการทางานอย่างมีประสิทธภิ าพในทีมท่ีมีความหลากหลาย
(3) ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ เช่น การแนะนาผู้อ่ืนไปในทางที่ดี และมีความ
รับผดิ ชอบท้งั ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ
4.ผลกำรดำเนนิ งำน
4.1 ผลท่ีเกิดตำมจุดประสงค์
4.1.1 ครูผู้สอนสามารถนากระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ไปใข้กับผู้เรียนทา
ให้สง่ เสริม พฒั นา ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
4.1.2 โรงเรียนทดลองใช้และปรับปรุงนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่
พฒั นาขน้ึ ให้ มคี วามเหมาะสม มีประสิทธภิ าพตอ่ การส่งเสริมพฒั นาทกั ษะของผูเ้ รยี นในศตวรรษที่ 21
4.1.3 โรงเรียนเผยแพร่นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่มีความเหมาะสม
และ มีประสทิ ธภิ าพต่อการพฒั นาทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 ไปยังสถานศกึ ษาตา่ งๆ
วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายกิ าวาส 20
4.2 ผลสัมฤทธ์ิของงำน
ผลการดาเนินงานการจัดการเรียนการสอน Active learning โดยใช้กระบวนการบันได 5 ข้ัน
(QSCCS)ของการพัฒนาผู้เรียนสู่มาตรฐานสากล พบว่าผู้เรียนเกิดทักษะ การคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมี
วิจารณญาณ และการคิดแก้ปัญหา ค้นคว้าและคัดเลือกข้อมูลหรือองค์ความรู้เป็นทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่
21 สามารถค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ซึ่งทักษะเหล่าน้ีจะติดตัวผู้เรียนไป
ตลอด และผู้เรียนสามารถจัดทาผลงานซ่ึงเป็นนวัตกรรมสาคัญซ่ึงเป็นผลสรุปของการออกแบบการจัดการเรียนรู้
และสามารถนานวัตกรรมมาศึกษาหาความรู้ และนาสูก่ ารเผยแพร่ให้กว้างขวางมากขึน้
ครูผู้สอนสามารถนากระบวนการจัดการเรียนการสอน เพื่อการแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียน
ไม่ได้ ด้วยกระบวนการบันได 5 ขั้น (QSCCS) ไปปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนการสอนได้
ทกุ วิชา/ทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ทุกระดบั ชัน้ ต้งั แตป่ ฐมวัย ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา ครูสามารถ จัดการเรยี น
การสอนท่ีมปี ระสิทธิผล ทั้งการปรับการเรียนเปล่ยี นการสอน
4.3 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั
4.3.1 นักเรียนเกิดคุณลักษณะและทักษะในศตวรรษท่ี 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วย
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดแก้ปัญหา
สามารถแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ
4.3.2 ผู้เรียนสามารถเปล่ียนจากผู้รับองค์ความรู้มาเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ และเผยแพร่องค์ความรู้
ที่เกิดจากการศึกษา ค้นคว้าให้เกิดประโยชน์กับชมุ ชนทอ้ งถิน่ ของตนเอง
5.ปัจจัยทีท่ ำให้ประสบผลสำเร็จ
5.1 ผลทเี่ กิดข้ันกับนักเรียน
1) นกั เรยี นโรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาสไดร้ บั การศึกษาที่มคี ุณภาพ ไดม้ าตรฐาน
2) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสมีความรู้ ทักษะ และเจตคติที่ดีสอดคล้องกับทักษะสาคัญ
สาหรับการเรียนรูใ้ น ศตวรรษท่ี 21
3) นักเรียนโรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาส ร้จู ักการวางแผนชีวิตและนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั โดย
การใช้เวลาทีม่ ีอยใู่ ห้เปน็ ประโยชน์ ร้จู กั จัดสรรเวลาใหส้ มดลุ ส่งผลให้ชีวิตมเี ปา้ หมาย และ มีคณุ ค่า
4) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้เป็นพลเมืองที่เข้มแข็งมี
ความเป็นเลิศทางวิชาการ สามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ ออกแบบ สร้างสรรค์ ส่ือสาร นาเสนอ และเผยแพร่
องค์ความรูไ้ ด้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
วิธกี ารปฏิบัติที่เปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 21
5) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส สามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ โดยการใช้
เหตุผลในการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช้อคติหรืออารมณ์ของตนเอง
เป็นสาคญั
6) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายกิ าวาสสามารถตัดสินใจ โดยการเลือกทางเลือกท่ีดีที่สุด อันจะนาไปสู่
การบรรลุเปา้ หมายและวตั ถุประสงค์ตามที่ต้องการ
7) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสค้นพบความสามารถ ความถนัดและความสนใจของตนเองใน
ด้านตา่ งๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
8) นักเรียนโรงเรยี นวดั ปัญจทายิกาวาส มีคณุ ลักษณะอันพง่ึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนที่
ดี
9) นักเรียนโรงเรยี นวัดปัญจทายกิ าวาสมคี ุณธรรม จริยธรรมและทศั นคตทิ ี่ถูกตอ้ ง ตอ่ บ้านเมือง
10) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสมีงานทา มีอาชีพ มีพ้ืนฐานชีวิตท่ีม่ันคง และเป็นพลเมืองที่
เขม้ แขง็
11) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสมีทักษะการคิดริเริ่มสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ สามารถนา
นวตั กรรมมาส่กู ารปฏิบัติ โดยการสื่อสารได้ชัดเจนและมปี ระสทิ ธิภาพ
12) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสมีทักษะความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี สามารถ
นามาประยกุ ต์ใช้ได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
13) นักเรียนโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาสมีทักษะชีวิต สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ มภี าวะผู้นาและความรับผิดชอบทัง้ ตอ่ ตนเอง สงั คม และประเทศชาติ
5.2 ผลท่เี กิดข้นึ กบั ครู
1) ครูมีวิธีการและเทคนิคการสอนท่ีจะให้ความรู้แก่ผู้เรียนด้วยการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพสูงท่ี
ม่งุ เน้นการพฒั นาผู้เรียนในภาพรวมมากกวา่ ความสาเร็จทางวชิ าการแตเ่ พียงอย่างเดยี ว
2) ครูมีการสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ โดยครูจะเป็นผู้ทากิจกรรมหรือการเรียนการสอนน้อยลงและ
เป็นผอู้ านวยความสะดวกในการชว่ ยเหลือใหผ้ เู้ รียนจัดการเรียนร้ขู ้อมูลดว้ ยตนเอง มากขึ้น
3) ครมู ีพฤตกิ รรม และการปฏบิ ตั ติ นท่เี หมาะสมและเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีแกผ่ ูเ้ รียน ชุมชน สงั คม
4) ครูมีพฤติกรรม และการปฏิบัติตนท่ีเป็นแบบอย่างแก่ผู้เรียน ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบัน
พระมหากษัตริย์ และมคี วามเออ้ื อาทรตอ่ ครอบครวั และชุมชนของตน
5) ครูมีการพัฒนาคุณภาพ คุณธรรมและจริยธรรมของ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงรูปแบบ และวิธีการ
ทางาน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าท่ีเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยใช้หลักการบรหิ ารกิจการบ้านเมืองที่ดี
และเป็นแนวทางในการ ปฏบิ ตั ริ าชการ
วธิ กี ารปฏบิ ัติท่เี ปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 22
5.3 ผลทเ่ี กิดขนึ้ กับโรงเรยี น
1) โรงเรยี นวัดปัญจทายกิ าวาส มกี ารบรหิ ารจดั การการศึกษาทมี่ ีประสิทธิภาพ ด้วยหลักธรรมาภิบาล
2) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีนวัตกรรมในการบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ผ่าน
กระบวนการ PUNJA Model ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
3) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยเน้นให้นักเรียนเกิด
ทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ิมโอกาสใหค้ นทุกชว่ งวัยเข้าถงึ บริการทางการศึกษา อย่างต่อเนื่องตลอดชีวติ
4) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่มี
ประสิทธิภาพ
5) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีการจัดการศึกษาการด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษาท่ี
ทันสมยั
6) โรงเรียนมีกลยุทธ์ในการพัฒนานักเรียนให้มีทักษะด้านการเรียนรู้ ด้านสารสนเทศ ส่ือ และ
เทคโนโลยีทกั ษะชีวติ และอาชพี
7) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส เป็นศูนย์รวมการประสานระหว่าง ครู และนักเรียนในการติดต่อ
สอ่ื สารกับชมุ ชนและสงั คม
8) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้มี
คุณธรรมจริยธรรม ส่งเสริมนักเรียนให้เป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง โดยสอดแทรกเน้ือหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเข้ากับวิชา
ต้านทุจรติ
9) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ
จดั การศึกษาภายใต้แนวคิดสาคัญในการจดั การศึกษา คือ PUNJA Model
10) โรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส มีการจัดการศึกษาโดยใช้รูปแบบ PUNJA Model ท่ีสอดคล้องกับ
นวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา PTT TWO 4 Smart Model ของสานักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ปทุมธานี เขต 2
6.บทเรยี นทไ่ี ดร้ บั
6.1 กำรระบุข้อมูลทไี่ ดร้ ับจำกกำรผลิตและกำรนำผลงำนไปใช้
1) นักเรยี นเกดิ คุณลักษณะและทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการคน้ คว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ย
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดแก้ปัญหา
สามารถแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ
2) ผู้เรยี นทราบวธิ ีการค้นควา้ และคดั เลอื กขอ้ มูลหรือองคค์ วามรู้ได้อยา่ งถูกต้องและเป็นระบบ
3) ผเู้ รยี นมคี วามภาคภูมิใจในผลงานหรอื นวตั กรรมของตนเอง
วิธีการปฏบิ ัตทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายิกาวาส 23
4) ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกันในเร่ืองท่ีเก่ียวกับการนาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ไปพัฒนาท้องถ่ิน และ
รจู้ กั ทอ้ งถิ่น ซง่ึ เป็นชุมชนของนกั เรยี นในหลากหลายแง่มุมมากย่งิ ขน้ึ สนองตอบหลกั สตู รสถานศึกษา และหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
6.2 ข้อเสนอแนะ ขอ้ ควรระวงั
1) ผู้เรียนขาดประสบการณ์และทักษะในการค้นคว้า เลือกใช้และรวบรวมข้อมูล การจัดทาผลงาน
หรือนวัตกรรมครั้งนี้ ผู้สอนจาเป็นต้องดูแล ให้คาแนะนาในลักษณะของผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) และ
ผู้ให้คาแนะนา (Coach) อย่างใกล้ชิด พร้อมช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการปรับปรุง
แก้ไขและพัฒนางานใหด้ ียิ่งขน้ึ
2) ผู้สอนต้องวางแผนการจัดทาผลงานหรือนวัตกรรมของนักเรียนให้มีความชัดเจน รัดกุม เพ่ือให้
การดาเนนิ งานเป็นไปตามแผนท่กี าหนดไว้
6.3 แนวทำงในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพ่ิมเติม
1) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ
และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้วยกระบวนการบันได 5 ขั้น (QSCCS) ควรจัดทาในรูปแบบของส่ือ
ออนไลน์ เช่น E-book เพื่อให้สามารถมีผู้เข้าถึงองค์ความรู้ท่ีนักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและเรียบเรียงอย่างเป็น
ระบบไดจ้ านวนมากและวงกวา้ งยิง่ ขึ้น หรือเข้าถึงโดยการสแกน QR code
2) การนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้กับผลงานหรือนวัตกรรมของนักเรียนมากขึ้น เช่น
การใช้ AR Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีที่นาภาพเสมือน ที่เป็นรูปแบบ 3 มิติ จาลองเข้าสู่โลกจริงผ่าน
กลอ้ ง จะทาให้ผลงานหรือนวัตกรรมของนักเรยี นมีความนา่ สนใจและมปี ฏสิ มั พนั ธ์กบั ผู้อ่านได้มากยงิ่ ข้นึ สอดคล้อง
กบั การพฒั นาการศึกษาในยคุ ไทยแลนด์ 4.0
3) การกาหนดประเดน็ ท่ีจะศึกษา ค้นคว้า ใหม้ คี วามเฉพาะเจาะจงมากข้ึน เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นได้ศึกษา
องคค์ วามรู้อย่างละเอยี ดและลึกซึง้
7.กำรเผยแพร/่ กำรได้รับกำรยอมรับ/รำงวัลทไ่ี ด้รบั
7.1 กำรเผยแพร่
1) เผยแพร่เป็นเอกสารประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้ปกครอง คณะครูในโรงเรียน โรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย
และโรงเรยี นในสงั กัดสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
2) เผยแพรผ่ ่านส่อื เวบ็ ไซต์ www.punjatha.ac.th
3) เผยแพร่ผ่านส่อื ออนไลน์ Facebook Fanpage โรงเรียนวดั ปัญจทายกิ าวาส
วิธกี ารปฏิบตั ิที่เป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 24
7.2 กำรได้รบั กำรยอมรับ/รำงวัลที่ไดร้ บั
ประเภท ระดบั /ช่ือรำงวลั ทีไ่ ด้รับ หนว่ ยงำนทม่ี อบ
นายเกรยี งไกร ผาดไธสง ครดู ีไม่มอี บายมขุ ประจาปีการศกึ ษา 2563 สานักงานเครือข่ายองคก์ รงดเหล้า
(สคล.) รว่ มกับ สานักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน (สพฐ.)
มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราช
วทิ ยาลยั (มจร.) สานกั งานกองทนุ
สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นายเกรยี งไกร ผาดไธสง หลกั สตู รอบรมออนไลนก์ ารจัดการเรยี นรู้ สสวท.
วิทยาการคานวณสาหรบั ครูประถมศกึ ษาปีที่
๔ - ๖ Coding Online for Grade ๔-๖
Teacher (C๔T – ๗)
ครูศรญั ญา น้อยพิมาย ครดู ไี ม่มอี บายมุข ประจาปกี ารศึกษา 2563 สานักงานเครือขา่ ยองคก์ รงดเหล้า
(สคล.) รว่ มกบั สานกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.)
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย (มจร.) สานักงานกองทุน
สนบั สนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.)
ครศู รญั ญา น้อยพิมาย หลกั สตู รอบรมออนไลนก์ ารจัดการเรยี นรู้ สสวท.
วทิ ยาการคานวณสาหรบั ครปู ระถมศกึ ษาปีที่
๔ - ๖ Coding Online for Grade ๔-๖
Teacher (C๔T – ๗)
ครนู ันทพร ภ่จู ันทร์ อบรมแก้ปัญหาการอ่านผ่านส่ือสามมติ ิ บริษทั บา้ นรกั การอ่าน จากดั
ครธู นกิจ เสยี บไธสง การนาเสนอผลงานวจิ ัยระดับชาตฯิ ครั้งที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ดา้ นนวัตกรรมการเรียนรู้และส่ิงประดิษฐ์
ครูธนกจิ เสียบไธสง อบรมหลักสตู รวทิ ยาศาสตรบัณฑิตกับการ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี
สรา้ งบัณฑิตนวัตกรและแนวทางการประกอบ
อาชพี
ครธู นกิจ เสียบไธสง การอบรมออนไลน์การจดั การเรียนวทิ ยาการ สพฐ และ สสวท
คานวณสาหรบั ครชู ้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1-3
วธิ ีการปฏบิ ตั ิทเี่ ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 25
ประเภท ระดับ/ชอื่ รำงวัลที่ไดร้ ับ หนว่ ยงำนทมี่ อบ
ครูฉัตราภรณ์ จุปะมะตัง การประกวดผลิตสอื่ การเรยี นรูโ้ ครงการ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา
กิจกรรมรณรงค์ เฝ้าระวังและสง่ เสริม ประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
ครูฉัตราภรณ์ จุปะมะตัง สรา้ งสรรค์วนั วาเลนไทน์
ครูทศพล เพยี รดี อบรมออนไลนก์ ารจดั การเรียนรูว้ ิทยาการ สสวท.
ครสู ุรีรตั น์ งามสะพรงั่ คานวณสาหรับครูมัธยมศกึ ษาปีที่ 1-3
ครูสุรีรัตน์ งามสะพรั่ง ผ่านการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการพฒั นาครูผชู้ ว่ ยสู่ สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา
ครูสรุ รี ัตน์ งามสะพรั่ง ความเป็นครูมืออาชีพ ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2
ครสู รุ ีรตั น์ งามสะพรั่ง การอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารพัฒนาครผู ้ชู ่วยสู่ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา
ความเปน็ ครูมืออาชพี ประถมศึกษาปทุมธานีเขต 2
ครูภานุมาส หวงั ดี การอบรมเชิงปฏบิ ัติการวิเคราะหผ์ ลสอบและ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา
การจดั ทาสารสนเทศ NT ระดบั โรงเรียน ประถมศึกษาปทุมธานเี ขต 2
ครภู านมุ าส หวังดี การอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการพฒั นาระบบการวัด สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
และประเมนิ ผลระดับสถานศึกษา ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2
ครภู านุมาส หวงั ดี การประกวดผลิตสอ่ื เรยี นร้โู ครงการกิจกรรม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ครูภานมุ าส หวังดี รณรงคเ์ ฝา้ ระวังและส่งเสรมิ สร้างสรรคว์ นั วา ประถมศกึ ษาปทุมธานเี ขต 2
เลนไทน์ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่
ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
การพฒั นาโครงสร้างรายวชิ ากล่มุ สาระการ ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต2
เรียนรู้ภาษาไทยสัมพันธ์กับการทดสอบ (
test blueprint) และการใชแ้ บบทดสอบ การยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้
มาตรฐานเปน็ สว่ นหน่งึ ของการวัดผลระหว่าง ในมาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั วิกฤตตาม
เรียน แนวคิด active learning
การยกระดบั คุณภาพการจัดการเรยี นรใู้ น สานักงานลูกเสือแห่งชาติ
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับวิกฤตตามแนวคิด กระทรวงศึกษาธกิ าร
active learning สานกั งานลูกเสือแห่งชาติ
การฝึกอบรมลกู เสือ ข้ันความรทู้ ัว่ ไป กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั
ความรูเ้ บ้อื งตน้
วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาส 26
ประเภท ระดับ/ช่ือรำงวัลทไี่ ดร้ บั หน่วยงำนท่ีมอบ
ครภู านุมาส หวังดี การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการพัฒนาครผู ู้ช่วยสู่ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ความเปน็ ครมู ืออาชพี ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต2
ครูภานุมาส หวงั ดี การจัดการเรียนร้ตู ามทฤษฎีการสรา้ งองค์ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ความรดู้ ว้ ยตนเอง ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต2
ครภู านุมาส หวังดี การจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา
ประถมศึกษาปทุมธานี เขต2
ครภู านมุ าส หวงั ดี การใช้ห้องสมดุ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา
ประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต2
ครภู านมุ าส หวังดี การจัดการเรยี นรู้สู่ห้องเรยี นคุณภาพ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษาปทุมธานี เขต2
หมำยเหตุ
/ ผู้นาเสนออนุญาตให้สว่ นกลางดาเนนิ การเผยแพร่ผลงานเพ่อื ประโยชนท์ างการศึกษา
วธิ ีการปฏิบตั ิท่เี ปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 27
ภำคผนวก
วธิ กี ารปฏบิ ัติทเ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปัญจทายิกาวาส 28
ภำพกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน
1. องค์ประกอบพ้นื ฐานที่ 1 P : Plan Life (การวางแผนชีวิต)
วิธกี ารปฏิบัติท่เี ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 29
2. องค์ประกอบพ้นื ฐานท่ี 2 U : Universal (ความเป็นสากล)
วิธีการปฏบิ ตั ทิ ่เี ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายกิ าวาส 30
3. องคป์ ระกอบพ้นื ฐานท่ี 3 N : Notion (ความคดิ )
วธิ ีการปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายกิ าวาส 31
4. องคป์ ระกอบพื้นฐานที่ 4 J : Judgment (การตัดสินใจ)
วธิ กี ารปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice) โรงเรียนวดั ปัญจทายิกาวาส 32
5. องค์ประกอบพน้ื ฐานที่ 5 A : Ability (ความสามารถ)
วิธีการปฏิบตั ทิ ีเ่ ป็นเลิศ(Best Practice) โรงเรียนวดั ปญั จทายกิ าวาส 33
ประวัติโดยยอ่
ชอ่ื - สกลุ นายเกรยี งไกร ผาดไธสง
วันเดอื นปเี กดิ 17 สงิ หาคม 2532
สถำนที่เกดิ จงั หวัดบรุ ีรัมย์
ที่อยู่ 116 ม.8 ต.พทุ ไธสง อ.พทุ ไธสง จ.บรุ รี ัมย์ 31120
ตำแหน่งหน้ำท่ปี จั จบุ นั รองผูอ้ านวยการโรงเรียน
สถำนที่ทำงำนปจั จบุ ัน โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส อาเภอลาลูกกา จังหวดั ปทมุ ธานี
ประวตั กิ ำรศกึ ษำ
พ.ศ.2550 มัธยมศึกษา จากโรงเรยี นพุทไธสง อาเภอพุทไธสง จงั หวัดบุรรี ัมย์
พ.ศ.2556 ปริญญาตรี ครศุ าสตรบณั ฑิต สาขาวิชาคณติ ศาสตร์
จากมหาวทิ ยาลยั ราชภฎั บุรีรัมย์
พ.ศ.2562 ปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา
จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
วิธีการปฏิบตั ทิ เี่ ป็นเลศิ (Best Practice) โรงเรยี นวดั ปญั จทายิกาวาส 34