The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนปฏิบัติการ ต.ตะมะยูง ๖๔ ปรับปรุงใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krudut2538, 2022-05-23 05:08:01

แผนปฏิบัติการ ต.ตะมะยูง ๖๔ ปรับปรุงใหม่

แผนปฏิบัติการ ต.ตะมะยูง ๖๔ ปรับปรุงใหม่

แผนปฏิบัตกิ าร กศน.ตำบลตะมะยงู
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔

ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอศรีสาคร

สำนักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั ดนราธวิ าสนราธวิ าส

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 1

ขอ้ มูลพนื้ ฐานเพอื่ การวางแผน
๑.ประวัตคิ วามเปน็ มาของ กศน.ตำบลตะมะยูง

ทตี่ ั้ง
กศน.ตำบละมะยูง ตั้งอยูท่ ี่บ้านคลองหงษ์ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยงู อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส
ห่างจากสำนักงาน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอศรสี าคร ประมาณ ๘ กิโลเมตร
ประวัตคิ วามเปน็ มา
กศน.ตำบลตะมะยูง เป็นสถานที่ของอาคารที่ได้รับจากองค์การบริหารส่วนตำบลตะมะยูงตั้งอยู่
หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร จงั หวัดนราธวิ าส เพ่อื ใช้เปน็ สถานท่ีพบกลุ่ม และบริการประชาชน
พร้อมเป็นกศน.ตำบล ปัจจุบันเปิดทำการให้บริการแก่นักศึกษา กศน.และประชาชนในพ้ืนท่ี มีบุคลากรท่ี
รับผิดชอบงาน กศน.ตำบลตะมะยูงโดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง และ
นายยาฮารี นากอ ครูอาสาฯประจำตำบลตะมะยูง เปิดบริการให้คำแนะนำ ปรึกษา ด้านการจัดการศึกษาขั้น
พ้ืนฐาน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยวิธีเรียนการพบกลุ่ม ต้ังแต่เวลา 08.30 น.–16.30 น. ระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้นในวันพุธ ตั้งแต่เวลา 08.30 น.–16.30 น. .และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในวัน
พฤหัสบดี ต้ังแต่เวลา08.30น.–16.30 น. โดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง
และ นายยาฮารี นากอ ครูอาสาฯประจำตำบลตะมะยูง เป็นผูใ้ ห้บริการ
2. สภาพทางกายภาพของชุมชน (ตำบล/แขวง)

ขนาดพน้ื ที่ ทีต่ ง้ั และอาณาเขตติดตอ่ ลักษณะทางกายภาพ โครงสรา้ งพ้ืนฐาน การคมนาคมตดิ ต่อสอื่ สาร
กศน.ตำบละมะยงู ต้ังอยู่ท่ีบา้ นคลองหงษ์ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยงู อำเภอศรีสาคร จงั หวดั

นราธวิ าส หา่ งจากสำนกั งาน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอศรีสาคร ประมาณ
๘ กิโลเมตร

สภาพทางภมู ศิ าสตรต์ ำบลศรีสาคร
ลกั ษณะภมู ิประเทศ ส่วนใหญเ่ ปน็ ท่รี าบสลับเนินเขาเหมาะสำหรับทำสวนยางพาราและ

ปลูกไม้ผล เช่นลองกอง เงาะ มังคดุ ทเุ รียน
สภาพภมู อิ ากาศ

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 2

อำเภอศรีสาคร มีภมู ิอากาศเปน็ เขตรอ้ นชนื้ แบ่งเป็น 2 ฤดู

1.ฤดูฝน ฝนตกชกุ ในเดอื น พฤษภาคม –ธันวาคม

2.ฤดูรอ้ น ในช่วงเดอื น มกราคม-เมษายน

อณุ หภมู ิสูงสดุ ประมาณ 32 องศาเซลเซียส

อุณหภูมติ ่ำสด ประมาณ 18 องศาเซลเซียส

อณุ หภูมิเฉล่ยี ประมาณ 25 องศาเซลเซียส

ปริมาณน้ำฝนเฉลย่ี ประมาณ 2,518.5 มลิ ลิเมตร

อาณาเขตติดต่อ
ทศิ เหนือติดต่อกบั ตำบลรือเสาะ อ.รอื เสาะ จ.นราธวิ าส พน้ื ที่ อบต. รือเสาะ
ทศิ ใต้ติดตอ่ กบั ตำบลซากออ.ศรสี าคร จ.นราธวิ าส พน้ื ท่ี อบต. ซากอ
ทิศตะวันออกติดต่อกบั ตำบลเชิงคีรีอ. ศรีสาคร จ.นราธวิ าส พนื้ ที่ อบต. เชงิ คีรี
ทศิ ตะวันตกตดิ ต่อกับตำบลโคกสะตอ อ. รือเสาะ จ.นราธิวาส พ้ืนที่ อบต. โคกสะตอ

แหลง่ น้ำท่สี ำคัญ
• ตำบลตะมะยูงมีแหล่งนำ้ ตามธรรมชาติจำนวน 7 แหง่ คอื คลองไอร์ดาฮง, คลองไอรร์ ิ, คลองไอรป์ ีเยา๊ ะ
, คลองลูโบะ๊ บาตู, คลองจือแรง, แม่น้ำสายบรุ ี, บงึ ตอหลัง
• บอ่ นำ้ ต้ืนจำนวน 666 แห่ง , บอ่ โยก 8 แหง่ , ประปาภเู ขา 2 แหง่

จำนวนประชากร

มปี ระชากรทั้งสิน้ 5,224 คน แยกเป็นชาย 2,641 คน หญิง 2,583 คน

ประชากรมีความหนาแนน่ เฉลีย่ 194 คน / ตารางกิโลเมตร

หมูท่ ่ี บา้ น ประเภท จำนวนครวั เรือน
ชาย หญงิ รวมทงั้ สนิ้
156
1 บ้านตอหลัง 389 414 803 256
2 บา้ นตะมะยูง 572 544 1,116 186
3 บา้ นคลองหงษ์ 291 285 576 219
4 บ้านลโู บ๊ะบาตู 573 527 1,100 198
5 บ้านจอื แรง 466 495 961 148
6 บ้านบือแนนากอ 350 318 668 1,163
2,641 2,583 5,224
รวมทั้งสิน้

จำนวนครวั เรอื น 1,163 ครวั เรือนผลิตภณั ฑ์มวลรวมรายได้ผลิตภัณฑม์ วลรวมเปน็ ผลผลิตทาง
การเกษตร เชน่ ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจประจำอำเภอทำรายไดใ้ ห้กบั ประชาชน และมีผลไม้ เช่น ลองกอง
เงาะ มังคุด ทุกเรยี นและผลไม้ อืน่ ๆ มากมาย

สภาพทางเศรษฐกจิ
ประชากรส่วนใหญ่ของตำบลตะมะยงู ประกอบอาชีพ เกษตรกรรมทำสวนยางพาราสวนไมผ้ ล , รบั จ้างกรีดยาง
และรับจา้ งทว่ั ไป

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 3

ตารางแสดง : พนื้ ที่ทำการเกษตรในตำบลตะมะยงู

หมู่ที่ พื้นทีท่ ัง้ หมด(ไร)่ พื้นที่ทำการเกษตร พื้นที่ หมายเหตุ
(ไร)่ ชอ่ื หมูบ่ า้ น
ทอี่ ยู่อาศัย(ไร่)
1 2,625 2,350 ตอหลัง
2 3,351 3,193 125 ตะมะยงู
3 3,382 3,012 189 คลองหงส์
4 2,775 2,520 280 ลโู บะ๊ บาตู
5 3,531 3,248 175 จือแรง
6 3,468 3,285 185 บือแนนากอ
รวม 19,132 17,608 97
1,051 หมายเหตุ

แหลง่ เรยี นรู้ในชุมชน ท่ีตัง้
ลำดับที่ ชอ่ื กศน.ตำบล หมู่ท่ี ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยงู
หมูท่ ่ี ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๑ กศน.ตำบลตะมะยูง หมูท่ ี่ ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๒ บา้ นหนงั สือชมุ ชน หมูท่ ี่ ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยงู
๓ รพ.สต.ตำบลตะมะยูง หมู่ที่ ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๔ สถาบันศกึ ษาปอเนาะฯอคี อบี หมทู่ ่ี ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๕ อบต.ตะมะยูง หมู่ที่ ๖ บา้ นบอื แนนากอ ตำบลตะมะยงู
๖ โรงเรยี นศรวี ารนิ ทร์ หมทู่ ่ี ๕ บา้ นจอื แรง ตำบลตะมะยงู
๗ โรงเรียนบ้านบือแนนากอ
๘ ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ บ้านจือแรง

5. ปัญหาและความตอ้ งการทางการศกึ ษาของประชาชนที่จำแนกตามลกั ษณะของกลุ่มเป้าหมาย
ด้านการรู้หนังสือ ด้านการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สายสามัญ) ด้านอาชีพ ด้านการพัฒนา

ทกั ษะชวี ิต ด้านการพฒั นาสงั คมและชุมชน ดา้ นปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ด้านการศึกษาตามอัธยาศัย

ส่วนท่ี 2 การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis)

ข้อมูลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis) กศน.ตำบลตะมะยูง

ปจั จัยภายใน การวิเคราะห์ จุดแข็งและจุดอ่อน
1. การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน

1.1 จุดแขง็ ของ กศน.ตำบล/แขวง (Strengths - S)

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 4

ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน.ตำบล/แขวง วิทยากร) ด้านงบประมาณ
ด้านอาคารสถานท่ี สือ่ วสั ดอุ ุปกรณ์ และดา้ นโครงสร้างองค์กร/การบรหิ ารจัดการ คา่ นิยมองคก์ ร

.มีการมอบหมายงานตามความถนดั และความสามารถ
1.ผเู้ รยี นนำเอาความรู้ไปพฒั นาคุณภาพชีวติ
2.ผู้เรยี นสามารถศกึ ษาต่อไดจ้ ำนวนมาก
3.บุคลากรมุ่งมน่ั พัฒนาคณุ ภาพขององค์กรและผลผลิตอย่างต่อเน่ือง
4.บุคลากรมีความรูค้ วามสามารถ และมีความรบั ผดิ ชอบ
5.บคุ ลากรสามารถให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาแก่เพ่ือนร่วมงานได้
6.บุคลากรมีมนุษย์สมั พันธด์ ี
7.บคุ ลากรปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงกลุ่มเปา้ หมายได้ดี
8.งบประมาณท่ีไดร้ ับจดั สรรจากตน้ สงั กดั มเี พียงพอ
9.มกี ารวางแผนใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
10.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การสนับสนนุ งาน กศน.
1.2 จุดอ่อนของ กศน.ตำบล / แขวง (Weaknesses - W)

ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน. ตำบล/แขวง วทิ ยากร) ด้านงบประมาณ
ดา้ นอาคารสถานท่ี ส่อื วัสดุอปุ กรณ์ และด้านโครงสรา้ งองค์กร/การบรหิ ารจดั การ คา่ นยิ มองคก์ ร

1.นโยบายบางอย่างไม่อยู่ในแผนแตต่ อ้ งปฏิบัติ
2.ผลผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นโดยภาพรวมยังตำ่
3.บุคลากรสว่ นหน่ึงเปน็ ลกู จ้างชัว่ คราวขาดความมน่ั คงเรื่องรายได้และสวัสดกิ าร
4.การใชง้ บประมาณมีขอ้ จำกัดบางประการ
5.ขาดวสั ดุอปุ กรณ์เพื่อใชใ้ นการเรยี นการสอนใน กศน.ตำบล
6.สือ่ และอปุ กรณ์ท่ีมีอย่ยู ังใชไ้ ม่คมุ้ ค่าเท่าท่ีควร
7.ขาดบุคลากรดูแลอาคารสถานท่ี
8.มกี ารบริหารอย่างเป็นระบบแต่ยงั ไมค่ รบกระบวนการ

ปัจจัยภายนอก การวิเคราะห์ โอกาสและอปุ สรรค

ปัจจยั O = Opportunities T = Threats

1. งานการศกึ ษา 1. สงั คมชนบททำใหส้ ามารถจดั กิจกรรมได้ 1. สภาพสังคมเปล่ยี นไปทำให้วิถชี วี ติ เปลย่ี น
2. ขาดการปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างหน่วยงานกบั ชุมชน
ขัน้ พนื้ ฐาน สะดวก อยา่ งต่อเน่อื ง
3. การประชาสมั พันธ์ยังไม่ครอบคลุมทุกกจิ กรรม
2. สถานศึกษาเขา้ ไปมีส่วนร่วมในการจัด ละเป้าหมาย

กจิ กรรมของชมุ ชน

3. ประชาชนต้องการไดร้ ับการศกึ ษาเพม่ิ ข้ึน

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 5

4. มภี มู ปิ ัญญาและแหล่งเรยี นร้คู รอบคลมุ ทกุ 4. ผู้เรียน/ผู้รับบริการ ยงั ขาดความ เขา้ ใจงาน

ปจั จัย O = Opportunities T = Threats

2. งานการศกึ ษา พ้นื ทีท่ ำให้ ผรู้ บั บรกิ ารได้ศึกษาคน้ ควา้ ด้วย ของศูนย์ กศน.
ต่อเน่ือง
ตนเอง 5. ประชากรบางส่วนมีความจำเปน็ ในการ
3. งานการศึกษา
ตามอธั ยาศยั ประกอบอาชีพสูง จนไม่มเี วลาให้กับการศกึ ษา

6. สถานะและบทบาททางสังคมมผี ลต่อการเข้า

ร่วมกจิ กรรมในบางกจิ กรรม

1. ผู้เรียน/ผรู้ ับบรกิ าร ประกอบอาชีพ 1. ปัญหาการว่างงานทำใหข้ าดความสนใจในการ

เกษตรกรรม และอย่ใู นวัยทำงานที่มีรายได้ เข้าร่วมกจิ กรรม

นอ้ ย ทำใหส้ ามารถเขา้ ไปสนับสนุนสง่ เสรมิ 2. ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชพี รับจ้างจึงไม่ค่อยไม่

การทำเกษตรอนิ ทรยี ์ เกษตร มีเวลาให้การศึกษา

ผสมผสาน การปลูกผักปลอดสารพิษ

1. พ.ร.บ การศกึ ษาเปิดโอกาสใหท้ อ้ งถน่ิ มี 1. มกี ารแบง่ พรรค แบง่ พวก ขาดความสามัคคีใน

สว่ นรว่ มในการจดั การศึกษามากขนึ้ ทำให้ ชุมชน จากปญั หาดา้ นการเมืองทำใหก้ ารทำงาน

เกิดการระดมความคดิ ในการพฒั นาการศึกษา ไม่คล่องตวั

2. ได้รับความรว่ มมือจากภาคีเครอื ข่าย 2. ผู้นำบางส่วน ไมเ่ หน็ ความสำคัญ และไม่

องค์กรท้องถิ่น ประชาชนหรือชุมชนบางสว่ น สนบั สนุนการศกึ ษา

ในด้านการจัดการศึกษา

สว่ นที่ 3 แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
ของ กศน.ตำบล/แขวง
1. ชื่อสถานศึกษา กศน.ตำบตะมะยูง
2. ท่ีตั้ง/การติดต่อ บ้านคลองหงษ์ หม่ทู ่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรสี าคร จงั หวัดนราธิวาส

๙๖๒๑๐
3. สังกดั สำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั นราธิวาส
สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 6

อัตลักษณ์ กศน.ตำบลตะมะยูง
“ใฝเ่ รียนรู้ คู่คุณธรรมมจี ิตสาธารณะ”

เอกลักษณ์กศน.ตำบลตะมะยูง
“มคี วามรู้ คสู่ ามคั คี ตามวิถพี อเพียง”

ปรัชญา
สร้างโอกาสทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวติ บนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง

วิสยั ทัศน์
กศน.ตำบลตะมะยูง เปน็ หนว่ ยงานหลกั ทีจ่ ัดการศึกษาให้แหป่ ระชาชนซงึ่ อยู่นอกระบบโรงเรยี นให้มี
ความรู้ สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของตนใหด้ ขี ึน้ และพฒั นาชุมชนอย่างย่ังยืนตาม
แนวเศรษฐกิจพอเพียง

พันธกจิ
1.จดั และส่งเสริมการเรยี นรู้คู่คณุ ธรรมใหก้ บั ประชาชนทกุ กลมุ่ เปา้ หมายตามความต้องการในรปู แบบ
การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย
2.จัดและสง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทักษะการทำงานพัฒนาคณุ ภาพและชดเชยโอกาส
ทางการศกึ ษา
๓.สร้างความเขม้ แขง็ ของภาคีเครอื ข่ายในการร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ให้เปน็ กลไกในการส่งเสรมิ การเรยี นรู้ตลอดชีวิต
3.พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยสำหรบั ประชาชน
กลมุ่ เปา้ หมายเพื่อใหม้ ีคณุ ธรรมนำความรู้และทกั ษะการดำเนนิ ชีวติ บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

กลยุทธ์การดำเนนิ งาน ๕ประการ
1.ลุยถงึ ทเ่ี ข้าถึงกล่มุ เปา้ หมายทห่ี ลากหลายและทว่ั ถงึ
2.จัดกจิ กรรมหลากหลายโดนใจผูเ้ รยี น / ปรับวิธเี รียนเปลี่ยนวิธสี อนใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพและความ
ตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมายอย่างท่วั ถึงและหลากหลาย
3.ขยายแหล่งเรียนรแู้ ละเทคโนโลยี / พัฒนาแหลง่ เรียนร้แู ละภมู ปิ ญั ญาใหเ้ ป็นฐานความรู้ของชุมชน
4.ผนกึ กำลังภาคีเครือข่ายและกระจายบรกิ ารการศึกษา / ในการจดั การเรยี นรู้ตลอดชวี ิตแก่ชุมชนทีพ่ ลาด
โอกาสทางการศึกษาและให้ชุมชนเลือกรบั บริการตามความสนใจและความถนดั ของตนเอง
5.พัฒนาประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการ / จดั ระบบบริหารเพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบริการประชาชนอย่าง
ทัว่ ถึง

เป้าประสงค์ และมคี ุณภาพ

เพ่อื ใหป้ ระชาชนไดร้ ับการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอย่างทว่ั ถงึ
บนพ้ืนฐานปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่ือสร้างสังคมแห่งการเรยี นรู้ คู่คณุ ธรรม

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 7

นโยบายและจดุ เนนการดาํ เนนิ งาน สาํ นกั งาน กศน.
ประจําปงบประมาณ พ.ศ. 2564

วสิ ยั ทัศน

คนไทยทุกชวงวัยไดรบั โอกาสทางการศึกษา และการเรยี นรูตลอดชวี ติ อยางมีคุณภาพ มีทักษะท่ีจําเปน
และสมรรถนะที่สอดรับกับทศิ ทางการพัฒนาประเทศ สามารถดาํ รงชีวิตไดอยางเหมาะสม บนรากฐานของหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

พนั ธกจิ

1. จัดและสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ สอดคลองกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือยกระดับการศึกษาและ
พัฒนา สมรรถนะ ทักษะการเรียนรูของประชาชนกลุมเปาหมายใหเหมาะสมในแตละชวงวัย ใหพรอมรับการ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 8

เปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดํารงชีวิตไดอยางเหมาะสม กาวสูการเปนสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต
อยางย่งั ยนื

2. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู สื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาการ
วัดและประเมนิ ผลในทกุ รปู แบบใหมคี ณุ ภาพและมาตรฐานสอดคลองกบั รปู แบบการจัดการเรียนรูและบริบทใน
ปจจุบนั

3. สงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนําเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่มชองทางและ
โอกาสการเรียนรู รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและใหบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศยั ใหกับประชาชนกลุมเปาหมายอยางท่วั ถงึ

4. สงเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความรวมมือเชงิ รุกกบั ภาคเี ครอื ขาย ใหเขามามสี วนรวม
ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรูตลอดชีวิตในรูปแบบ
ตาง ๆ ใหกบั ประชาชน

5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองคกรใหมีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดีบนหลักของ
ธรรมาภบิ าล มีประสทิ ธิภาพ ประสิทธผิ ล และคลองตวั มากย่ิงขึ้น

6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรใหมีความรู ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรมและ
จริยธรรมทด่ี ี เพอ่ื เพ่ิมประสิทธิภาพของการใหบรกิ ารทางการศึกษาและการเรียนรูทม่ี คี ุณภาพมากยิ่งขึ้น

เปาประสงค

1. ประชาชนผูดอย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมท้ังประชาชนท่ัวไปไดรับโอกาสทางการ
ศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาตอเน่ือง และการศึกษาตาม
อัธยาศัยท่ีมีคุณภาพอยางเทาเทียมและทั่วถึง เปนไปตามบริบท สภาพปญหาและความตองการของแตละกลุม
เปาหมาย

2. ประชาชนไดรบั การยกระดับการศกึ ษา สรางเสริมและปลกู ฝงคุณธรรม จรยิ ธรรม หนาทค่ี วามเปน
พลเมืองท่ีดีภายใตการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข ท่ีสอดคลองกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนําไปสูการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสรางความเขมแข็งใหชุมชน เพ่ือ
พัฒนาไปสูความมน่ั คงและย่งั ยืนทางดานเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร และสิ่งแวดลอม

3. ประชาชนไดรบั การพฒั นาทกั ษะการเรียนรูและแสวงหาความรดู วยตนเองผานแหลงเรยี นรู
ชองทางการเรียนรู และกจิ กรรมการเรยี นรูรปู แบบตาง ๆ รวมทงั้ มีเจตคตทิ างสงั คม การเมือง วทิ ยาศาสตร
และเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิด วิเคราะหแยกแยะอยางมเี หตผุ ล และนําไปประยกุ ตใชในชวี ิตประจาํ วัน
รวมถงึ การแกปญหาและพัฒนาคุณภาพชวี ติ ไดอยางสรางสรรค

4. หนวยงานและสถานศกึ ษา กศน. มหี ลกั สูตร ส่ือ นวตั กรรม ชองทางการเรียนรู และกระบวนการ
เรยี นรูในรปู แบบทห่ี ลากหลาย ทันสมัย และรองรับกบั สภาวะการเรียนรูในสถานการณตาง ๆ เพื่อแกปญหา
และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความตองการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลง
บริบทดานเศรษฐกจิ สังคม การเมอื ง วฒั นธรรม ประวัติศาสตรและสง่ิ แวดลอม

5. หนวยงานและสถานศึกษา กศน.สามารถนาํ เทคโนโลยีทางการศึกษาและเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลมาพฒั นา
เพ่ือเพิ่มชองทางการเรียนรู และนํามาใชในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรูและโอกาสการเรียนรูให
กับประชาชน

6. ชุมชนและภาคีเครือขายทุกภาคสวน มีสวนรวมในการจัด สงเสริม และสนับสนุนการศึกษานอก
ระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั รวมท้ังการขบั เคล่ือนกจิ กรรมการเรียนรูของชุมชน

7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองคกรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป
ตามหลกั ธรรมาภิบาล

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 9

8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพฒั นาเพือ่ เพิม่ ทักษะและสมรรถนะในการปฏบิ ัติงาน
และการให้บรกิ ารทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถงึ การปฏิบตั ิงานตามสายงานอย่าง
มปี ระสิทธภิ าพ

ตัวช้ีวดั

รายละเอยี ดตวั ชวี้ ัด คาเปาหมาย

1. ตวั ชว้ี ัดเชิงปริมาณ

1.1 รอยละของผูเรียนท่ีไดรบั การสนบั สนนุ คาใชจายการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษา รอยละ 80

ข้ันพืน้ ฐานตามสิทธทิ ี่กาํ หนดไว (เทียบกบั เปาหมายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจาย

ประจําป)

1.2 จาํ นวนของผูลงทะเบยี นเขารวมกิจกรรมการเรยี นรู/ ไดรับบรกิ ารกิจกรรมการศึกษา 756,675 คน

ตอเนอื่ ง ท่สี อดคลองกบั สภาพ ปญหา และความตองการ

1.3 จํานวนของผูรับบริการ/เขารวมกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย 9,800 คน

1.4 จาํ นวนบันทกึ ขอตกลงความรวมมอื (MOU) รวมกับภาคเี ครือขาย ไมนอยกวา

3,000 ฉบบั

1.6 จาํ นวนแหลงเรียนรูในระดับตาํ บลท่มี คี วามพรอมในการใหบรกิ าร/การจดั กจิ กรรม 1,787 แหง

การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั

1.7 จาํ นวนประชาชนที่เขารับการพฒั นาทกั ษะอาชพี เพอื่ สรางรายไดและการมีงานทํา 424,500 คน

1.8 จาํ นวน ครู กศน. ตําบล ที่ไดรบั การพัฒนาศกั ยภาพดานการจดั การเรยี นการสอน 100 คน

ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร

1.9 จาํ นวนประชาชนทไี่ ดรบั การฝกอบรมภาษาตางประเทศเพ่ือการสื่อสารดานอาชีพ 22,272 คน

1.10 จาํ นวนผผู านการอบรมหลักสูตรการดูแลผูสูงอายุ 6,800 คน

1.11 จาํ นวนประชาชนทีผ่ านการอบรมจากศนู ยดจิ ทิ ลั ชุมชน 185,600 คน

รายละเอียดตัวชีว้ ัด ค่าเปาหมาย

1.12 จาํ นวนสื่อการเรยี นออนไลน หลักสตู รการพัฒนาโปรแกรมคอมพวิ เตอรเพื่องาน ไมนอยกวา 30

อาชีพ วชิ า

1.13 จาํ นวนบุคลากรสงั กดั สํานักงาน กศน. ที่ไดรับการพัฒนาศกั ยภาพและความกาว 2,807 คน

หนาตามสายงานในอาชพี

1.14 จาํ นวนบุคลากรสังกัดสาํ นกั งาน กศน. ทเ่ี ขารบั การอบรมดานการปกปองและเชดิ ชู 10,000 คน

สถาบนั หลักของชาติ ดานความปรองดองสมานฉนั ท ดานการมจี ิตสาธารณะ

และดานทักษะในการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน

1.15 จาํ นวนบทความเพ่ือการเรยี นรูตลอดชวี ิตในระดบั ตาํ บล ในหัวขอตางๆ อาทิ อาชพี 8,000 ฉบบั

ชมุ ชน วฒั นธรรมทองถ่ิน ภูมปิ ญญา

1.16 จาํ นวนศูนยการเรยี นรูตนแบบ (Co-Learning Space) 77 แหง

2. ตวั ชว้ี ดั เชงิ คณุ ภาพ

2.1 รอยละของนักศึกษาท่ีคาดวาจะจบในทุกระดบั ทสี่ ําเร็จการศึกษาในแตละภาคเรยี น รอยละ 75

2.2 รอยละของผูจบหลักสตู ร/กิจกรรมการศกึ ษาตอเน่อื ง ท่ีสามารถนาํ ความรูความเขาใจ รอยละ 80

ไปใชพัฒนาตนเองไดตามจุดมุงหมายของหลกั สูตร/กจิ กรรม

2.3 รอยละของผูผานการพฒั นาทกั ษะอาชพี สามารถนําความรูไปใชในการประกอบ รอยละ 80

อาชีพหรอื พัฒนาตนเองได

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 10

2.4 รอยละของผูเรยี นในเขตพื้นท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใตท่ีไดรับการพฒั นาศักยภาพ รอยละ 80
หรอื ทกั ษะดานอาชพี สามารถมงี านทาํ หรอื นําไปประกอบอาชีพได รอยละ 80
รอยละ 80
2.5 รอยละของประชาชนทไี่ ดรบั บริการ/ เขารวมกจิ กรรมการศึกษาตามอัธยาศัย รอยละ 90
มีความรูความเขาใจ/ เจตคติ/ ทกั ษะ ตามจดุ มุงหมายของกิจกรรมที่กําหนด

2.6 รอยละของผูสงู อายทุ เี่ ปนกลุมเปาหมาย มโี อกาสมาเขารวมกจิ กรรมการศึกษา
ตลอดชีวิต

2.7 รอยละของบุคลากรท่ีไดรับการพฒั นา ท่ีมกี ารพัฒนาตนเองในดานพฤติกรรม
บุคลิกภาพ ทัศนคติ คานยิ มท่ีพงึ ประสงค ภาวะผูนาํ และมีจรรยาบรรณวิชาชีพ
ที่เหมาะสมยง่ิ ขึน้

จดุ เนนการดาํ เนนิ งานประจําปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔

1. นอมนาํ พระบรมราโชบายดานการศกึ ษาสูการปฏบิ ัติ
1.1 สืบสานศาสตรพระราชา โดยการสรางและพัฒนาศูนยสาธิตและเรียนรู “โคก หนอง นา

โมเดล”เพ่ือเปนแนวทางในการจดั การบริหารทรัพยากรรปู แบบตาง ๆ ท้ังดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพนั ธุตาง ๆ
และสงเสรมิ การใชพลงั งานทดแทนอยางมปี ระสทิ ธิภาพ

1.2 จดั ใหมี “หนง่ึ ชมุ ชน หนึง่ นวตั กรรม การพฒั นาชมุ ชน” เพื่อความกนิ ดี อยูดี มงี านทํา
1.3 การสรางกลุมจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมท้ังปลูกฝงผูเรียนใหมีหลักคิดที่ถูกตองดาน
คุณธรรมจริยธรรม มีทัศนคติที่ดีตอบานเมือง และเปนผูมีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผาน
กิจกรรมการพัฒนาผูเรยี นโดยการใชกระบวนการลกู เสอื และยวุ กาชาด

2. สงเสรมิ การจัดการศกึ ษาและการเรยี นรูตลอดชีวติ สําหรับประชาชนทเ่ี หมาะสมกับทุกชวงวยั
2.1 สงเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทํา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และ

การสรางนวัตกรรมและผลิตภัณฑท่ีมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความตองการของ
ประชาชนผูรับบริการ และสามารถออกใบรบั รองความรูความสามารถเพ่ือนาํ ไปใชในการพฒั นาอาชพี ได

2.2 สงเสรมิ และยกระดับทกั ษะภาษาอังกฤษใหกบั ประชาชน (English for All)
2.3 สงเสริมการเรียนการสอนท่ีเหมาะสมสําหรับผูที่เขาสูสังคมสูงวัย อาทิ การฝกอบรม
อาชีพที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสงเสริมสมรรถนะผูสูงวัย และ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 11

หลักสูตรการดูแลผูสูงวัย โดยเนนการมีสวนรวมกับภาคีเครือขายทุกภาคสวนในการเตรียมความพรอมเขาสู
สังคมสงู วยั

3. พัฒนาหลักสูตร สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลงเรียนรู และรูปแบบการจัด
การศึกษาและการเรยี นรู ในทุกระดบั ทกุ ประเภท เพอ่ื ประโยชนตอการจัดการศกึ ษาที่เหมาะสม
กบั ทุกกลุมเปาหมาย มีความทนั สมยั สอดคลองและพรอมรองรบั กับบรบิ ทสภาวะสังคมปจจุบนั ความตองการ
ของผูเรยี น และสภาวะการเรยี นรูในสถานการณตาง ๆ ท่จี ะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต

3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEPของ
กระทรวงศึกษาธิการและชองทางเรยี นรูรูปแบบอ่นื ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air

3.2 พัฒ นาแหลงเรียนรูประเภทตาง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital
Science Center/Digital Library ศูนยการเรียนรูทุกชวงวัย และศูนยการเรียนรูตนแบบ กศน. (Co-
Learning Space) เพื่อใหสามารถ “เรียนรูไดอยางทวั่ ถงึ ทุกท่ี ทกุ เวลา”

3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝกอบรมแบบออนไลน มีระบบการเทียบโอน
ความรูระบบสะสมหนวยการเรียนรู (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการใหบริการระบบทดสอบ
อิเล็กทรอนกิ ส(E-exam)

4. บรู ณาการความรวมมอื ในการสงเสริม สนบั สนนุ และจัดการศึกษาและการเรยี นรูใหกบั
ประชาชนอยางมคี ณุ ภาพ

4.1 รวมมอื กับภาคีเครอื ขายทงั้ ภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม และองคกรปกครองสวนทองถ่ิน
รวมทั้งสงเสริมและสนบั สนุนการมีสวนรวมของชมุ ชน อาทิ การสงเสรมิ การฝกอาชีพท่ีเปนอตั ลักษณและบริบท
ของชุมชนสงเสริมการตลาดและขยายชองทางการจําหนายเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ/สินคา กศน.

4.2 บูรณาการความรวมมือกับหนวยงานตาง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ท้ังในสวน
กลางและภมู ิภาค

5. พฒั นาศักยภาพและประสิทธภิ าพในการทํางานของบุคลากร กศน.
5.1 พฒั นาศักยภาพและทักษะความสามารถดานเทคโนโลยีดจิ ิทัล (Digital Literacy &

Digital Skills) ใหกับบุคลากรทกุ ประเภททุกระดบั รองรับความเปนรัฐบาลดิจิทลั อยางมีประสิทธภิ าพ รวมท้งั
พัฒนาครใู หมีทกั ษะความรู และความชาํ นาญในการใชภาษาอังกฤษ การผลติ สื่อการเรียนรแู ละการจัดการ
เรียนการสอนเพื่อฝกทักษะการคิดวเิ คราะหอยางเปนระบบและมีเหตุผล เปนข้นั ตอน

5.2 จัดกิจกรรมเสรมิ สรางความสมั พันธของบุคลากร กศน.และกจิ กรรมเพ่ิมประสิทธิภาพ
ในการทาํ งานรวมกันในรปู แบบตาง ๆ อาทิ การแขงขันกฬี า การอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการพัฒนาประสทิ ธิภาพใน
การทาํ งาน

6. ปรับปรงุ และพฒั นาโครงสรางและระบบบริหารจดั การองคกร ปจจัยพืน้ ฐานในการจดั
การศกึ ษาและการประชาสมั พนั ธสรางการรบั รูตอสาธารณะชน

6.1 เรงผลักดนั รางพระราชบัญญัติสงเสริมการเรยี นรู พ.ศ. .... ใหสําเรจ็ และปรับโครงสราง
การบริหารและอตั รากําลังใหสอดคลองกบั บริบทการเปล่ยี นแปลง เรงการสรรหา บรรจุ แตงตัง้ ที่มี
ประสทิ ธภิ าพ

6.2 นาํ นวตั กรรมและเทคโนโลยีดิจทิ ัลมาใชในการบรหิ ารจัดการ พฒั นาระบบการทาํ งาน
และขอมูลสารสนเทศดานการศึกษาท่ที ันสมยั รวดเรว็ และสามารถใชงานทนั ที โดยจัดตงั้ ศนู ยขอมูลกลาง
กศน. เพื่อจัดทําขอมูล กศน. ท้ังระบบ (ONE ONIE)

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 12

6.3 พัฒนา ปรบั ปรุง ซอมแซม ฟนฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดลอมโดยรอบของหนวย
งานสถานศึกษา และแหลงเรียนรูทกุ แหง ใหสะอาด ปลอดภยั พรอมใหบริการ

6.4 ประชาสมั พนั ธ/สรางการรบั รูใหกับประชาชนทวั่ ไปเกีย่ วกับการบริการทางวิชาการ/กจิ
กรรมดานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และสรางชองทางการแลกเปลย่ี นเรียนรูดานวชิ าการ
ของหนวยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ขาวประชาสมั พนั ธ ผานสือ่ รปู แบบตาง ๆ การจัดนิทรรศการ/
มหกรรมวชิ าการ กศน.

การจดั การศึกษาและการเรยี นรูในสถานการณการแพรระบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(COVID – 19) ของสาํ นักงาน กศน.

จากสถานการณการแพรระบาดของเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) เมื่อเดือน
ธันวาคม 2562 สงผลกระทบตอระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดบั ช้นั ซึ่งรฐั บาลและ
กระทรวงศกึ ษาธิการไดออกประกาศและมีมาตรการเฝาระวังเพอ่ื ปองกนั การแพรกระจายของเช้ือไวรัสดงั กลาว
อาทิ กําหนดใหมีการเวนระยะหางทางสังคม (Social Distancing) หามการใชอาคารสถานทข่ี องโรงเรยี นและ
สถาบันการศึกษาทกุ ประเภท เพ่อื จดั การเรยี นการสอน การสอบ ฝกอบรม หรือการทาํ กิจกรรมใด ๆ ทีม่ ผี ูเขาร
วมเปนจํานวนมาการปดสถานศกึ ษาดวยเหตุพิเศษ การกําหนดใหใชวธิ ีการจัดการเรยี นการสอนรูปแบบใหม
อาทิ การจัดการเรยี นรูแบบออนไลน การจัดการเรยี นรูผานระบบการออกอากาศทางโทรทัศน วิทยุ และ
โซเซียลมเี ดีย ตาง ๆ รวมถงึ การสื่อสารแบบทางไกลหรือดวยวธิ ีอิเลก็ ทรอนิกส

ในสวนของสํานกั งาน กศน. ไดมีการพฒั นา ปรบั รูปแบบ กระบวนการ และวิธกี ารดาํ เนนิ งาน
ในภารกจิ ตอเน่ืองตาง ๆ ในสถานการณการใชชวี ติ ประจําวัน และการจดั การเรียนรูเพ่ือรองรับการชวี ิตแบบ
ปกติวิถีใหม(New Normal) ซงึ่ กิจกรรมการเรยี นรูตาง ๆ ไดใหความสาํ คญั กบั การดําเนินงานตามมาตรการ
การปองกันการแพรระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) อาทิ การจัดกจิ กรรมการเรียนรูทุก
ประเภทหากมีความจําเปนตองมาพบกลุม หรอื อบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาตองมีมาตรการปองกนั ท่เี ขมงวด
มีเจลแอลกอฮอล์ลางมือ ผูรับบรกิ ารตองใสหนากากอนามัยหรอื หนากากผา ตองมีการเวนระยะหางระหวาง
บคุ คลเนนการใชสอ่ื ดจิ ิทัลและเทคโนโลยอี อนไลนในการจัดการเรียนการสอน

ภารกิจตอเนื่อง

1. ดานการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู
1.1 การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแตปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพื้นฐานโดย

ดําเนินการใหผูเรียนไดรับการสนับสนุนคาจัดซื้อหนังสือเรียน คาจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเรียน และคา
จัดการเรียนการสอนอยางทั่วถึงและเพียงพอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเขาถึงบริการทางการศึกษาท่ีมีคุณภาพโดย
ไมเสยี คาใชจาย

2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานใหกับกลุมเปาหมายผูดอย พลาดและ
ขาดโอกาสทางการศกึ ษา ผานการเรยี นแบบเรียนรูดวยตนเอง การพบกลุม การเรยี นแบบชั้นเรยี น และการจัด
การศึกษาทางไกล

3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา
ขัน้ พ้นื ฐาน ท้ังดานหลกั สูตรรปู แบบ/กระบวนการเรยี นการสอน ส่อื และนวัตกรรม ระบบการวดั และประเมนิ ผล
การเรยี น และระบบการใหบรกิ ารนักศึกษาในรูปแบบอืน่ ๆ

4) จัดใหมีการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรูและประสบการณ
ที่มีความโปรงใส ยตุ ธิ รรม ตรวจสอบได มมี าตรฐานตามทีก่ าํ หนด และสามารถตอบสนองความตองการ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 13

ของกลุมเปาหมายไดอยางมปี ระสทิ ธิภาพ
5) จัดใหมีกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผูเรยี นท่ีมคี ณุ ภาพท่ผี ูเรียนตองเรยี นรูและเขารวมปฏิบัติ

กิจกรรม เพ่ือเปนสวนหน่ึงของการจบหลกั สูตร อาทิ กจิ กรรมเสริมสรางความสามัคคี กจิ กรรมเกี่ยวกบั การปอง
กันและแกไขปญหายาเสพติดการแขงขันกีฬา การบําเพ็ญสาธารณประโยชนอยางตอเน่ือง การสงเสริมการ
ปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริยทรงเปนประมขุ กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี และยุวกาชาด
กิจกรรมจติ อาสา และการจัดต้ังชมรม/ชมุ นุม พรอมทง้ั เปดโอกาสใหผูเรียนนํากิจกรรมการบําเพ็ญประโยชนอื่น
ๆนอกหลักสตู รมาใชเพิม่ ช่วั โมงกิจกรรมใหผูเรยี นจบตามหลกั สตู รได

1.2 การสงเสริมการรูหนงั สือ
1) พัฒนาระบบฐานขอมูลผูไมรูหนังสือ ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัยและเปนระบบ

เดียวกันทงั้ สวนกลางและสวนภมู ภิ าค
2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครอ่ื งมือการดําเนนิ งานการส

งเสริมการรูหนังสอื ท่สี อดคลองกบั สภาพและบรบิ ทของแตละกลุมเปาหมาย
3) พัฒนาครู กศน.และภาคีเครือขายที่รวมจัดการศึกษา ใหมีความรู ความสามารถ และทักษะ

การจัดกระบวนการเรียนรูใหกับผูไมรูหนังสืออยางมีประสิทธิภาพ และอาจจัดใหมีอาสาสมัครสงเสริมการรู
หนังสอื ในพ้ืนที่ทม่ี ีความตองการจาํ เปนเปนพเิ ศษ

4) สงเสริมสนับสนุนใหสถานศึกษาจัดกิจกรรมสงเสริมการรูหนังสือการคงสภาพการรูหนังสือ
การพฒั นาทกั ษะการรหู นงั สอื ใหกับประชาชนเพื่อเปนเครือ่ งมือในการศึกษาและเรยี นรูอยางตอเนอ่ื งตลอดชีวติ
ของประชาชน

1.3 การศึกษาตอเน่ือง
1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทําอยางยั่งยืน โดยใหความสําคัญกับการจดั การศึกษาอาชีพ

เพือ่ การมีงานทําในกลุมอาชีพเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ
บรกิ ารรวมถึงการเนนอาชีพชางพ้นื ฐาน ท่ีสอดคลองกบั ศักยภาพของผูเรียน ความตองการและศกั ยภาพของแต
ละพื้นที่มีคณุ ภาพไดมาตรฐานเปนที่ยอมรบั สอดรบั กับความตองการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ
ตลอดจนสรางความเขมแข็งใหกับศูนยฝกอาชีพชุมชน โดยจัดใหมกี ารสงเสริมการรวมกลุมวิสาหกิจชุมชน การ
พัฒนาหนึ่งตําบลหน่ึงอาชีพเดน การประกวดสินคาดีพรีเมี่ยม การสรางแบรนดของ กศน. รวมถึงการสงเสริม
และจัดหาชองทางการจําหนายสินคาและผลิตภัณฑ และใหมีการกํากับ ติดตาม และรายงานผลการจัด
การศึกษาอาชีพเพือ่ การมีงานทาํ อยางเปนระบบและตอเน่ือง

2) จดั การศึกษาเพอ่ื พฒั นาทกั ษะชีวิตใหกับทกุ กลุมเปาหมาย โดยเฉพาะคนพกิ าร ผูสงู อายุ
ที่สอดคลองกับความตองการจําเปนของแตละบุคคล และมุงเนนใหทุกกลุมเปาหมายมีทักษะการดํารงชีวิต
ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพพึ่งพาตนเองไดมีความรูความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให
อยูในสังคมไดอยางมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ ตาง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวันไดอยางมี
ประสิทธิภาพและเตรียมพรอมสําหรับการปรับตัวใหทันตอการเปลี่ยนแปลงของขาวสารขอมูลและเทคโนโลยี
สมัยใหมในอนาคตโดยจัดกิจกรรมท่ีมีเนื้อหาสําคัญตาง ๆ เชน การอบรมจิตอาสา การใหความรูเพ่ือการปอง
การการแพรระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต
การอบรมคุณธรรมและจริยธรรม การปองกันภยั ยาเสพตดิ เพศศกึ ษา การปลูกฝงและการสรางคานิยมท่ีพงึ ประ
สงคความปลอดภยั ในชวี ิตและทรัพยสิน ผานการอบรมเรยี นรูในรปู แบบตาง ๆ อาทิ คายพัฒนาทกั ษะชวี ิต การ
จัดตัง้ ชมรม/ชมุ นุมการอบรมสงเสริมความสามารถพเิ ศษตางๆ เปนตน

3) จดั การศึกษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชมุ ชน โดยใชหลักสูตรและการจดั กระบวนการเรยี นรู
แบบบรู ณาการในรูปแบบของการฝกอบรมการประชมุ สมั มนา การจัดเวทีแลกเปลีย่ นเรยี นรูการจัดกจิ กรรมจิต
อาสา การสรางชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุมเปาหมาย และบริบทของชุมชนแตละ
พ้ืนที่ เคารพความคิดของผูอื่น ยอมรับความแตกตางและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ รวมทงั้ สงั คม

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 14

พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการใหบุคคลรวมกลุมเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรูรวมกัน สรางกระบวนการจิต
สาธารณะการสรางจิตสํานึกความเปนประชาธิปไตยการเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบตอหนาท่ี
ความเปนพลเมืองที่ดีภายใตการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข การสงเสริม
คุณธรรม จริยธรรมการเปนจิตอาสา การบําเพ็ญประโยชนในชุมชนการ บริหารจัดการน้ํา การรับมือกับสา
ธารณภัยการอนุรักษพลังงานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม การชวยเหลือซ่ึงกันและกันในการพัฒนา
สงั คมและชุมชนอยางยงั่ ยืน

4) การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผานกระบวนการเรียนรูตลอด
ชีวิตในรูปแบบตางๆ ใหกับประชาชน เพ่ือเสริมสรางภูมิคุมกัน สามารถยืนหยัดอยูไดอยางม่ันคง และมีการ
บรหิ ารจัดการความเสย่ี งอยางเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสูความสมดลุ และยง่ั ยืน

1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย
1) พัฒนาแหลงการเรียนรูทม่ี ีบรรยากาศและสภาพแวดลอมทเ่ี อ้ือตอการอานและพฒั นาศักยภาพ

การเรียนรูใหเกิดขึ้นในสังคมไทย ใหเกิดขึ้นอยางกวางขวางและทั่วถึง เชน การพัฒนา กศน. ตําบล หองเรียน
ประชาชนทุกแหงใหมีการบริการที่ทันสมัย สงเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสงเสริมการอาน การสรางเครือ
ขายสงเสริมการอาน จัดหนวยบริการหองสมุดเคลื่อนที่ หองสมุดชาวตลาด พรอมหนังสือและอุปกรณเพ่ือจัด
กิจกรรมสงเสริมการอานและการเรียนรูท่ีหลากหลายใหบริการกับประชาชนในพื้นที่ตางๆ อยางท่ัวถึง
สม่ําเสมอ รวมทั้งเสริมสรางความพรอมในดานบุคลากร ส่ืออุปกรณเพ่ือสนับสนุนการอาน และการจัดกิจกรรม
เพือ่ สงเสริมการอานอยางหลากหลายรปู แบบ

2) จัดสรางและพัฒนาศูนยวิทยาศาสตรเพื่อการศึกษา ใหเปนแหลงเรียนรูวิทยาศาสตรตลอด
ชีวิตของประชาชน เปนแหลงสรางนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตรและเปนแหลงทองเท่ียวเชิงศิลปะวิทยาการ
ประจําทองถ่ินโดยจัดทําและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาท่ีเนนการเสริมสรางความรูและสรา
งแรงบันดาลใจดานวทิ ยาศาสตรสอดแทรกวิธกี ารคิดเชงิ วิเคราะห การคิดเชิงสรางสรรค และปลูกฝงเจตคติทาง
วิทยาศาสตรผานการกระบวนการเรียนรูที่บูรณาการความรูดานวิทยาศาสตร ควบคูกับเทคโนโลยี วิศวกรรม
ศาสตรและคณิตศาสตรรวมท้ังสอดคลองกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ
รวมท้ังระดบั ภูมิภาคและระดับโลกเพ่ือใหประชาชนมีความรูและสามารถนาํ ความรูและทักษะไปประยุกตใชใน
การดาํ เนินชีวติ การพฒั นาอาชีพ การรกั ษาสงิ่ แวดลอม การบรรเทาและปองกนั ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ รวมท้ังมี
ความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของโลกที่เป นไปอยางรวดเร็วและรุนแรง
(Disruptive Changes) ไดอยางมปี ระสทิ ธิภาพ

3) ประสานความรวมมือหนวยงาน องคกร หรือภาคสวนตางๆ ที่มีแหลงเรียนรูอื่น ๆ เพื่อสงเส
ริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยใหมีรูปแบบท่ีหลากหลาย และตอบสนองความตองการของประชาชน เชน
พพิ ธิ ภัณฑศนู ยเรียนรู แหลงโบราณคดี วัด ศาสนาสถาน หองสมดุ รวมถงึ ภมู ิปญญาทองถนิ่ เปนตน

2. ดานหลกั สตู ร สือ่ รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู การวัดและประเมินผลงานบรกิ าร
ทางวิชาการ และการประกันคุณภาพการศึกษา

2.1 สงเสรมิ การพฒั นาหลักสูตร รปู แบบการจดั กระบวนการเรยี นรูและกิจกรรมเพ่ือสงเสริม
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน
สมรรถนะ และหลักสูตรทองถ่ินท่ีสอดคลองกับสภาพบริบทของพื้นที่และความตองการของกลุมเปาหมายและ
ชมุ ชน

2.2 สงเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกสและสื่ออ่ืน ๆ ท่ีเอ้ือตอการเรียนรูของผู
เรยี นกลุมเปาหมายทัว่ ไปและกลุมเปาหมายพิเศษ เพ่อื ใหผูเรียนสามารถเรียนรูไดทกุ ที ทุกเวลา

2.3 พัฒนารปู แบบการจัดการศึกษาทางไกลใหมคี วามทันสมยั หลากหลายชองทางการเรยี นรู
ดวยระบบหองเรียนและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 15

2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศกึ ษา และการเทียบโอนความรูและประสบกา
รณเพ่ือใหมีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความตองการของกลุมเปาหมายไดอยางมีประสิทธิภาพ
รวมท้งั มกี ารประชาสัมพันธใหสาธารณชนไดรับรูและสามารถเขาถึงระบบการประเมนิ ได

2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลกั สูตร โดยเฉพาะหลักสูตรใน
ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานใหไดมาตรฐานโดยการนําแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส(e-
Exam) มาใชอยางมีประสทิ ธิภาพ

2.6 สงเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพ่ือพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู
การวัดและประเมินผล และเผยแพรรูปแบบการจัด สงเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังใหมีการนําไปสูการปฏิบัติอยางกวางขวางและมีการพัฒนาใหเหมาะสมกับ
บรบิ ทอยางตอเนื่อง

2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาใหไดมาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการ
ประกันคุณภาพภายในท่ีสอดคลองกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากข้ึน เพื่อพรอมรับการประเมินคุณภาพ
ภายนอกโดยพัฒนาบุคลากรใหมีความรู ความเขาใจ ตระหนักถึงความสําคัญของระบบการประกันคุณภาพ
และสามารถดําเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาไดอยางตอเน่ืองโดยใชการประเมินภายในดวย
ตนเอง และจัดใหมีระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเขาไปสนับสนุนอยางใกลชิด สําหรับสถานศึกษาท่ียังไมไดเขารับ
การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก ใหพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาใหไดคุณภาพตามมาตรฐานที่กาํ หนด

3. ดานเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา
3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศนเพ่ือการศึกษาเพื่อใหเช่ือมโยงและ

ตอบสนองตอการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจาย
โอกาสทางการศึกษาสําหรับกลุมเปาหมายตางๆ ใหมีทางเลือกในการเรียนรูที่หลากหลายและมีคุณภาพ
สามารถพัฒนาตนเองใหรเู ทาทันสอื่ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เชน รายการพัฒนาอาชีพเพ่อื การ
มงี านทาํ รายการตวิ เขมเติมเตม็ ความรู
รายการ รายการทาํ กนิ กไ็ ด ทําขายก็ดี ฯลฯ เผยแพรทางสถานวี ทิ ยุศึกษา สถานีวิทยโุ ทรทัศนเพื่อการศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอรเนต็

3.2 พฒั นาการเผยแพรการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั โดยผานระบบ
เทคโนโลยีดิจิทัล และชองทางออนไลนตาง ๆ เชน Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพ่ือส
งเสริมใหครู กศน. นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใชในการสรางกระบวนการเรียนรูดวยตนเอง (Do It Yourself :
DIY)

3.3 พัฒนาสถานีวทิ ยุศึกษาและสถานีโทรทัศนเพอ่ื การศึกษาเพ่ือเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการผลิต
และการออกอากาศใหกลุมเปาหมายสามารถใชเปนชองทางการเรียนรูที่มีคุณภาพไดอยางตอเน่ืองตลอดชีวิต
โดยขยายเครือขายการรับฟงใหสามารถรับฟงไดทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นท่ีท่ัวประเทศและเพ่ิมชองทางให
สามารถรับชมรายการโทรทัศนไดทั้งระบบ Ku -Band C -Band Digital TV และทางอินเทอรเน็ต พรอมที่
จะรองรบั การพฒั นาเปนสถานีวทิ ยโุ ทรทัศนเพื่อการศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV)

3.4 พฒั นาระบบการใหบรกิ ารสือ่ เทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษาเพ่ือใหไดหลายชองทางทงั้ ทาง
อินเทอรเน็ต และรูปแบบอื่น ๆอาทิApplication บนโทรศัพทเคลื่อนที่ และ Tablet รวมท้ังส่ือ Offline ใน
รปู แบบตางๆเพื่อใหกลุมเปาหมายสามารถเลอื กใชบริการเพื่อเขาถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรูไดตาม
ความตองการ

3.5 สํารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลดานการใชสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอยางตอเน่ืองเพื่อนํา
ผลมาใชในการพัฒนางานใหมีความถูกตอง ทันสมัยและสามารถสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูตลอดชีวิต
ของประชาชนไดอยางแทจรงิ

4. ดานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริ หรือโครงการอันเกีย่ วเนือ่ งจากราชวงศ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 16

4.1 สงเสรมิ และสนับสนุนการดาํ เนนิ งานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดาํ รหิ รอื โครงการ
อันเกีย่ วเนอื่ งจากราชวงศ

4.2 จดั ทาํ ฐานขอมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ที่สนองงานโครงการอันเนือ่ งมาจาก
พระราชดาํ ริหรือโครงการอันเกี่ยวเน่ืองจากราชวงศเพื่อนําไปใชในการวางแผน การติดตามประเมนิ ผลและการ
พัฒนางานไดอยางมีประสทิ ธภิ าพ

4.3 สงเสริมการสรางเครือขายการดาํ เนินงานเพื่อสนบั สนนุ โครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดําริ
เพ่ือใหเกิดความเขมแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั

4.4 พัฒนาศูนยการเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แมฟาหลวง”เพ่ือใหมีความพรอมในการจัด
การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหนาท่ีทีก่ าํ หนดไวอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ

4.5 จัดและสงเสรมิ การเรียนรูตลอดชวี ติ ใหสอดคลองกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพ้ืนทส่ี ูงถน่ิ
ทรุ กนั ดารและพ้นื ทช่ี ายขอบ

5. ดานการศกึ ษาในจังหวัดชายแดนภาคใต พน้ื ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและพืน้ ทบ่ี ริเวณ
ชายแดน

5.1 พฒั นาการจดั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ในจังหวัดชายแดนภาคใต
1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูท่ีตอบสนองป

ญหาและความตองการของกลุมเปาหมายรวมทง้ั อัตลกั ษณและความเปนพหุวฒั นธรรมของพน้ื ที่
2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานอยางเขมขนและต

อเน่ืองเพ่อื ใหผูเรยี นสามารถนําความรูท่ไี ดรบั ไปใชประโยชนไดจรงิ
3) ใหหนวยงานและสถานศึกษาจัดใหมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแกบุคลากร

และนักศกึ ษา กศน.ตลอดจนผูมาใชบริการอยางทัว่ ถึง

5.2 พฒั นาการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ
1) ประสานความรวมมือกับหนวยงานท่ีเกี่ยวของในการจัดทําแผนการศึกษาตาม

ยุทธศาสตรและบริบทของแตละจังหวดั ในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ
2) จัดทําหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพ้ืนที่ โดยเนนสาขาที่เปนความตองการของ

ตลาดใหเกดิ การพัฒนาอาชีพไดตรงตามความตองการของพืน้ ที่

5.3 จัดการศึกษาเพ่ือความม่ันคงของศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน
(ศฝช.)

1) พัฒนาศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพ่ือใหเปนศูนยฝกและ
สาธิตการประกอบอาชีพดานเกษตรกรรม และศูนยการเรียนรูตนแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดําริ
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สําหรบั ประชาชนตามแนวชายแดนดวยวธิ กี ารเรียนรูทห่ี ลากหลาย

2) มงุ จัดและพัฒนาการศึกษาอาชพี โดยใชวิธีการหลากหลายใชรูปแบบเชิงรุกเพอ่ื การเข
าถงึ กลุมเปาหมาย เชน การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความรวมมอื กบั เครอื ขาย การจัดอบรมแกนนาํ ดาน
อาชีพท่ีเนนเรือ่ งเกษตรธรรมชาตทิ ่ีสอดคลองกบั บริบทของชมุ ชนชายแดน ใหแกประชาชนตามแนวชายแดน

6. ดานบุคลากรระบบการบรหิ ารจัดการ และการมสี วนรวมของทกุ ภาคสวน
6.1 การพฒั นาบคุ ลากร
1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทใหมีสมรรถนะสูงข้ึนอยางตอเน่ือง ท้ังกอนและ

ระหวางการดํารงตําแหนงเพื่อใหมีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานใหมีความรูและทักษะตามมาตรฐานตาํ แหนง ให
ตรงกับสายงานความชํานาญ และความตองการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 17

ดําเนินงานของหนวยงานและสถานศึกษาไดอยางมีประสิทธิภาพรวมท้ังสงเสริมใหขาราชการในสังกัดพัฒนา
ตนเองเพอ่ื เลือ่ นตําแหนงหรอื เลือ่ นวิทยฐานะโดยเนนการประเมนิ วทิ ยฐานะเชงิ ประจกั ษ

2) พัฒนาศึกษานิเทศก กศน. ใหมีสมรรถนะที่จําเปนครบถวน มีความเปนมืออาชีพ
สามารถปฏิบัติการนิเทศไดอยางมีศักยภาพ เพ่ือรวมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอัธยาศยั ในสถานศกึ ษา

3) พัฒนาหัวหนา กศน.ตําบล/แขวงใหมีสมรรถนะสูงขึ้น เพื่อการบริหารจัดการ กศน.
ตําบล/แขวงและการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอยางมีประสิทธิภาพ โดยเนนการเปนนักจัดการความรู
และผอู ํานวยความสะดวกในการเรยี นรูเพ่ือใหผูเรียนเกิดการเรียนรูท่ีมปี ระสิทธิภาพอยางแทจริง

4) พัฒนาครู กศน. และบคุ ลากรท่ีเก่ยี วของกับการจดั การศึกษาใหสามารถจัดรูปแบบการ
เรียนรูไดอยางมีคุณภาพโดยสงเสริมใหมีความรูความสามารถในการจัดทําแผนการสอน การจัดกระบวนการ
เรยี นรู การวัดและประเมนิ ผล และการวจิ ัยเบือ้ งตน

5) พฒั นาศักยภาพบุคลากร ทรี่ บั ผิดชอบการบริการการศกึ ษาและการเรียนรู ใหมคี วามรู
ความสามารถและมีความเปนมืออาชพี ในการจดั บรกิ ารสงเสรมิ การเรยี นรูตลอดชีวติ ของประชาชน

6) สงเสริมใหคณะกรรมการ กศน. ทุกระดบั และคณะกรรมการสถานศกึ ษา มีสวนรวมใน
การบรหิ ารการดําเนนิ งานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน.อยางมีประสทิ ธิภาพ

7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ใหสามารถทําหนาท่ีสนับสนุนการจดั การศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอัธยาศัยไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ

8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสรางความสัมพันธระหวางบุคลากรรวมท้ังภาคีเครือขายท้ัง
ในและตางประเทศในทุกระดับ โดยจัดใหมีกิจกรรมเพ่ือเสริมสรางสัมพันธภาพและเพ่ิมประสิทธิภาพในการ
ทํางานรวมกันในรูปแบบที่หลากหลายอยางตอเน่ืองอาทิ การแขงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา
ประสทิ ธิภาพในการทํางาน

6.2 การพฒั นาโครงสรางพน้ื ฐานและอตั รากาํ ลงั
1) จัดทําแผนการพัฒนาโครงสรางพื้นฐานและดําเนินการปรับปรุงสถานที่และวัสดุอุป

กรณใหมคี วามพรอมในการจัดการศึกษาและการเรยี นรู
2) สรรหา บรรจุ แตงตง้ั และบรหิ ารอัตรากําลังท่ีมีอยูทง้ั ในสวนทีเ่ ปนขาราชการ พนักงาน

ราชการและลูกจาง ใหเปนไปตามโครงสรางการบริหารและกรอบอัตรากําลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจ
ตามท่ีกําหนดไวใหเกิดประสิทธิภาพสงู สดุ ในการปฏบิ ตั ิงาน

3) แสวงหาความรวมมือจากภาคีเครือขายทกุ ภาคสวนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนํามาใช
ในการปรับปรุงโครงสรางพ้ืนฐานใหมีความพรอมสําหรับดําเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศัย และการสงเสรมิ การเรยี นรูสําหรับประชาชน

6.3 การพัฒนาระบบบรหิ ารจดั การ
1) พัฒนาระบบฐานขอมูลใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันทั่ว

ประเทศอยางเปนระบบเพ่ือใหหนวยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนําไปใชเปนเครื่องมือสําคัญในการ
บริหารการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอยางมีประสทิ ธภิ าพ

2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกํากับ ควบคุม
และเรงรดั การเบกิ จายงบประมาณใหเปนตามเปาหมายทก่ี าํ หนดไว

3) พัฒนาระบบฐานขอมูลรวมของนักศึกษา กศน. ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัย
และเชอื่ มโยงกันทั่วประเทศ สามารถสืบคนและสอบทานไดทันความตองการเพื่อประโยชนในการจัดการศกึ ษา
ใหกบั ผูเรียนและการบริหารจดั การอยางมีประสิทธภิ าพ

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 18

4) สงเสริมใหมีการจัดการความรูในหนวยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษา
วิจัยเพื่อสามารถนํามาใชในการพัฒนาประสิทธภิ าพการดําเนินงานทส่ี อดคลองกับความตองการของประชาชน
และชุมชนพรอมทั้งพัฒนาขดี ความสามารถเชิงการแขงขนั ของหนวยงานและสถานศึกษา

5) สรางความรวมมือของภาคีเครือขายทุกภาคสวน ทั้งภาครฐั เอกชน ประชาสังคมทั้งใน
ประเทศและตางประเทศ รวมท้ังสงเสริมและสนับสนุนการมีสวนรวมของชุมชนเพื่อสรางความเขาใจ และให
เกิดความรวมมอื ในการสงเสรมิ สนับสนนุ และจัดการศกึ ษาและการเรยี นรูใหกับประชาชนอยางมคี ุณภาพ

6) สงเสริมการใชระบบสํานักงานอิเล็กทรอนิกส (e -office) ในการบริหารจัดการ เชน
ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ล็กทรอนกิ ส ระบบการขอใชรถราชการ ระบบการขอใชหองประชมุ เปนตน

7) พัฒนาและปรับระบบวิธกี ารปฏิบัติราชการใหทันสมยั มีความโปรงใส ปลอดการทุจริต
และประพฤตมิ ิชอบ บรหิ ารจดั การบนขอมูลและหลักฐานเชิงประจักษ มงุ ผลสมั ฤทธ์มิ ีความโปรงใส

6.4 การกํากับ นเิ ทศตดิ ตามประเมิน และรายงานผล
1) สรางกลไกการกํากบั นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดําเนินงานการศึกษา

นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยใหเชอ่ื มโยงกับหนวยงาน สถานศึกษา และภาคีเครอื ขายทัง้ ระบบ
2) ใหหนวยงานและสถานศึกษาท่เี กย่ี วของทุกระดบั พัฒนาระบบกลไกการกํากบั ติดตาม

และรายงานผลการนํานโยบายสูการปฏิบัติ ใหสามารถตอบสนองการดําเนินงานตามนโยบายในแตละเรื่องได
อยางมปี ระสทิ ธิภาพ

3) สงเสริมการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสอ่ื อืน่ ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการ
กาํ กับนิเทศ ตดิ ตาม ประเมินผล และรายงานผลอยางมปี ระสิทธภิ าพ

4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัตริ าชการตามคํารบั รองการปฏิบัติราชการ
ประจําปของหนวยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําป
ของสาํ นกั งานกศน.ใหดาํ เนินไปอยางมีประสิทธิภาพ เปนไปตามเกณฑ วธิ ีการ และระยะเวลาท่กี ําหนด

5) ใหมีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้ังหนวยงานภายในและภายนอกองคกร
ตง้ั แตสวนกลางภูมิภาค กลุมจังหวดั จงั หวัดอําเภอ/เขตและตําบล/แขวง เพื่อความเปนเอกภาพในการใชขอมูล
และการพัฒนางานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 19

ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ปี
สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙)

ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๙ มาตรา ๖๕ได้
กำหนดให้มี “ยทุ ธศาสตร์ชาติ”เพ่ือเป็นยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาประเทศในระยะยาว พร้อมกับการปฏิรูปและ
การพัฒนาระบบและกลไกการบริหารราชการแผ่นดินในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ให้สามารถนำไปสู่การ
ปฏบิ ัติอยา่ งจริงจัง ซง่ึ จะชว่ ยยกระดับคณุ ภาพของประเทศไทยในทกุ ภาคสว่ นและนำพาประเทศไทยใหห้ ลดุ พ้น
หรือบรรเทาความรุนแรงของสภาพปัญหาท่ีเกิดข้ึนในปัจจุบัน ท้ังปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาความเหล่ือมล้ำ
ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาความขัดแย้งในสังคมรวมถึงสามารถรับมือกับภัยคุกคามและบริหาร
จัดการความเสีย่ งที่จะเกิดข้นึ ในอนาคตและสามารถเปล่ียนผ่านประเทศไปพร้อมๆ กบั การเปลี่ยนแปลงภมู ิทัศน์
ใหม่ของโลกได้ ซงึ่ จะทำใหป้ ระเทศไทยยงั คงรักษาบทบาทสำคญั ของเวทีโลก สามารถดำรงรกั ษาความเป็นชาติ
ให้มีความมน่ั คง และคนไทยในประเทศมีความอยู่ดีมีสุขอย่างถ้วนหน้ากนั สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ จะ
ประกอบด้วย วิสัยทัศน์และเป้าหมายของชาติท่ีคนไทย ทุกคนต้องบรรลุร่วมกัน รวมทั้งนโยบายแห่งชาติและ
มาตรการเฉพาะ ซึ่งเป็นแนวทาง ทิศทาง และวิธีการที่ทุกองค์กรและคนไทยทุกคนต้องมุ่งดำเนินการไปพร้อม
กันอย่างประสานสอดคล้อง เพ่ือให้บรรลุซ่ึงสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการ คือ “ประเทศไทยม่ันคง มั่งค่ัง และ
ยั่งยืน ในทุกสาขากำลังอำนาจของชาติ”อันได้แก่ การเมืองภายในประเทศ การเมืองต่างประเทศ เศรษฐกิจ
สังคมจิตวิทยา การศึกษา การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีและการสื่อสาร ดังน้ีวิสัยทัศน์: ประเทศมีความมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศท่ี
พฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักการ: เชดิ ชูสถาบนั ประยุกต์ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นฐานในการพัฒนาประเทศ และคา่ นิยมความเป็นไทยเพ่ือสร้างความปรองดอง ซ่ึง
มอี งคป์ ระกอบคือ

๑) แนวคิด : เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควรจะเป็น โดยมี
พ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย และเป็นการมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
มุ่งเน้นการรอดพน้ จากภัยเพอ่ื ความมัน่ คง

๒) คุณลักษณะ : เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น
การปฏบิ ตั ิบนทางสายกลาง และการพฒั นาอยา่ งเปน็ ข้นั เปน็ ตอน

๓) คำนิยาม :ความพอเพียงประกอบด้วย ๓ คณุ ลกั ษณะ ได้แก่ ความพอประมาณคือความพอดีท่ีไม่
น้อยหรือมากเกินไป ความมีเหตุมีผล คือการตัดสินใจโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัย และคำนึงถึงผลท่ีคาดว่าจะ
เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว คือการเตรียมพร้อมรับผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงที่
คาดการณว์ ่าจะเกิดข้นึ ในอนาคต

๔) เงื่อนไข : การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงน้ัน ต้องอาศัยทั้ง
ความรู้และคุณธรรมเป็นพ้ืนฐาน ๒ เงื่อนไข ได้แก่ เงื่อนไขความรู้ อันประกอบด้วยความรู้เก่ยี วกบั วิชาการตา่ งๆ
ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งอย่างรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะใช้ความรู้นั้นมาพิจารณาให้เช่อื มโยงกันเพ่ือประกอบการวางแผน
มีความระมัดระวังในขั้นตอนการปฏิบัติ และเงื่อนไขคุณธรรมอันประกอบด้วย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความ
อดทน มีความเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการดำรงชีวิต

วตั ถุประสงค:์
๑) เพอ่ื สรา้ งความปรองดองสมานฉันท์
๒) เพอื่ เพิ่มกระจายโอกาสและคณุ ภาพการใหบ้ ริการของรฐั อย่างทว่ั ถึง เท่าเทียม เปน็ ธรรม

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 20

๓) เพอื่ ลดตน้ ทนุ ใหภ้ าคการผลติ และบริการ
๔) เพ่ือเพ่ิมมูลคา่ สินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบรกิ ารดว้ ยนวัตกรรม
ยุทธศาสตรห์ ลกั :
๑) ยทุ ธศาสตรส์ ร้างความมัน่ คงให้กับประเทศ
๒) ยทุ ธศาสตร์สรา้ งความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
๓) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคน
๔) ยุทธศาสตร์สรา้ งโอกาสบนความเสมอภาคและความเทา่ เทยี มกนั ทางสงั คม
๕) ยทุ ธศาสตรก์ ารเติบโตบนคุณภาพชวี ิตท่เี ป็นมติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม
๖) ยทุ ธศาสตรก์ ารปรับสมดลุ และพฒั นาระบบ
๒.๑ เป้าหมายความม่นั คง
๒.๑.๑ การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงท้ังภายในประเทศและ
ภายนอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความม่ันคง
ในทุกมติ ิ ทัง้ มิติเศรษฐกจิ สงั คม สิง่ แวดลอ้ ม และการเมือง
๒.๑.๒ ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์ท่ีเข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความมั่นคง
เป็นกลไกทน่ี ำไปสู่การบริหารประเทศทีต่ ่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลกั ธรรมาภบิ าล
๒.๑.๓ สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกำลงั เพอื่ พฒั นาประเทศ ชุมชน
มีความเขม้ แข็ง ครอบครัวมคี วามอบอุ่น
๒.๑.๔ ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ท่ีม่ันคงพอเพยี งกับการดำรงชีวติ มีที่
อยู่อาศยั และความปลอดภยั ในชีวิตทรัพยส์ นิ
๒.๑.๕ ฐานทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม มคี วามม่ันคงของอาหาร พลงั งาน และน้ำ
๒.๒ เป้าหมายความมงั่ ค่งั
๒.๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่ม
รายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน
มากข้นึ
๒.๒.๒ เศรษฐกิจมคี วามสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสรา้ งรายได้ท้งั ภายในและภายนอก
ประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสำคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ท้ังการ
คมนาคมขนส่ง การผลิต การค้าการลงทุนและการทำธุรกจิ มีบทบาทสำคัญในระดบั ภูมิภาคและระดับโลก เกิด
สายสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ และการค้าอย่างมีพลัง
๒.๒.๓ ความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่องได้แก่ทุนมนุษย์ ทุน
ทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนท่ีเป็นเคร่ืองมือเครื่องจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากร ธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอ้ ม
๒.๓ เป้าหมายความย่ังยนื
๒.๓.๑ การพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้
เพิ่มขน้ึ อย่างตอ่ เน่อื ง ซึ่งเป็นการเจรญิ เตบิ โตของเศรษฐกิจที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไมส่ ร้างมลภาวะ
ต่อสิ่งแวดล้อมจนเกนิ ความสามารถในการรองรับและเยยี วยาของระบบนเิ วศน์
๒.๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของ
ประชาคมโลก ซ่ึงเป็นท่ียอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดี
ขน้ึ คนมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม มีความเอื้ออาทร เสียสละเพ่อื ผลประโยชน์ส่วนรวม
๒.๓.๓ ประชาชนทุกภาคส่วนในสงั คมยึดถือและปฏิบัตติ ามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 21

แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒

สาระสำคญั ของแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐ กิจและ

สังคมแห่งชาติฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) สำหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทยในระยะ ๕ ปี
ซ่ึงเป็นการแปลงยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือเตรียมความพร้อมและ
วางรากฐานในการยกระดบั ประเทศไทยใหเ้ ปน็ ประเทศทพ่ี ฒั นาแล้ว มคี วามม่ันคง ม่ังค่ัง ยัง่ ยืน ดว้ ยการพฒั นา
ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซ่ึงการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) ได้กำหนดสาระสำคญั ไว้ ดังน้ี

วสิ ัยทศั น์:
มุ่งสู่การเปล่ียนผ่านประเทศไทยจากประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศ ท่ีมีรายได้สูง

มีความม่นั คงและยัง่ ยืน สงั คมอยรู่ ว่ มกนั อย่างมีความสุข และนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาว “มั่นคง มง่ั คั่ง
ย่ังยนื ”ของประเทศ

หลักการ :
๑) น้อมนำและประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในทุกมิติการพัฒนาอย่างบูรณา

การบนทางสายกลางมคี วามพอประมาณ มีเหตุผล และมีระบบภมู คิ ุ้มกนั ทด่ี ี
๒) คำนึงถึงการพัฒนาท่ีย่ังยืนโดยให้คนเป็นศูนย์กลาง เพ่ือสร้างความมั่นคงของชาตแิ ละเป็น

กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหาร
จดั การ และ

๓) มุ่งเสริมสร้างกลไกการพัฒนาประเทศ ท้ังกลไกท่ีเป็นกฎหมายและกฎ ระเบียบต่างๆ
เพื่อให้เอื้อต่อการขับเคล่ือนการพัฒนาในทุกระดับ ควบคู่กับการพัฒนากลไกในรูปแบบของคณะกรรมการใน
การขับเคลอื่ นยุทธศาสตร์ระดบั ประเทศและระดบั พ้ืนท่ี

วตั ถปุ ระสงค:์
๑) เพ่ือให้คนไทยทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถ สามารถพัฒนาตนเองได้ต่อเนื่อง

ตลอดชีวติ
๒) เพื่อให้ระบบเศรษฐกจิ มโี ครงสรา้ งทเ่ี ข้มแข็ง มเี สถียรภาพ แขง่ ขนั ได้ ยั่งยืน
๓) เพ่อื รกั ษาทนุ ธรรมชาติและคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ มส่คู วามสมดลุ ของระบบนเิ วศน์
๔) เพื่อสร้างความม่ันคงภายในประเทศ ป้องกันและลดผลกระทบจากภัยคุกคามข้ามชาติ

และ
๕) เพื่อให้การทำงานเชิงบูรณาการในลักษณะเช่ือมโยงระหว่างหนว่ ยงานทีย่ ึดหน้าทแ่ี ละพื้นที่

ทำให้ภาครฐั มปี ระสิทธิภาพและปราศจากคอรปั ช่ัน
ยทุ ธศาสตร:์
๑) ยทุ ธศาสตร์การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทนุ มนุษย์
๒) ยทุ ธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและความเหล่อื มล้ำในสังคม
๓) ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกจิ และแขง่ ขนั ได้อย่างย่ังยนื
๔) ยุทธศาสตรก์ ารเติบโตท่เี ปน็ มติ รกบั สิ่งแวดลอ้ มเพือ่ การพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื
๕) ยทุ ธศาสตร์การความม่ันคงแหง่ ชาติเพ่ือการพฒั นาประเทศสู่ความมั่งคัง่ และยั่งยนื
๖) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการในภาครฐั การปอ้ งกันการทจุ รติ ประพฤติมชิ อบและ

ธรรมาภิบาลในสังคมไทย
๗) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์
๘) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ยั และนวัตกรรม

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 22

๙) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาภาค เมอื ง และพนื้ ทีเ่ ศรษฐกิจ
๑๐) ยุทธศาสตรค์ วามร่วมมือระหว่างประเทศเพอ่ื การพฒั นา
เป้าหมายรวม:
๑) คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยท่ีสมบูรณ์ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเป็น
พลเมืองต่ืนรู้ ท าประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นนวัตกรรมสร้างสรรคท์ างสังคม มีความสุขท้ังมิติทางกาย ใจ สังคม
และจิตวิญญาณ มีวิถีชีวิตท่ีพอเพียง มีความเป็นไทย และมีความสามารถเชิงการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมี
ศกั ด์ิศรี
๒) ความเหล่ือมล้ำทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง
ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การประกอบอาชีพ และบริการทางสังคมท่ีมีคุณภาพอย่าง
ทวั่ ถงึ และเป็นธรรม
๓) ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐาน
บริการและดิจิทัล เน้นอุปสงค์นำการผลิตมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาด
เล็กทเ่ี ข้มแข็งมีการลงทุนในการผลติ และบรกิ ารฐานความรู้ช้ันสูงใหม่ๆ โดยกระจายฐานการผลิตและ การ
ให้บริการสู่ภูมิภาคเพื่อลดความเหลื่อมล้ำโดยเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวเฉล่ียร้อยละ ๕ ต่อปี
และมปี ัจจัยสนับสนุน อาทิ ระบบโลจิสติกส์ พลังงาน และการลงทุนวิจัยและพฒั นา
๔) ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับ
สิง่ แวดลอ้ ม มคี วามมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และนำ้
๕) มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย สังคมปลอดภัย สามัคคี สร้างภาพลักษณ์ท่ีดี และ
เพ่ิมความเช่ือม่ันของนานาประเทศต่อประเทศไทยความขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดในสังคมลดลง
ปัญหาอาชญากรรมลดลง ปริมาณความสูญเสียจากภัยโจรสลัดและการลักลอบขนส่งสินค้า และการค้ามนุษย์
ลดลง มคี วามพรอ้ มในการปกป้องประชาชนจากการก่อการรา้ ยและภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ
๖) มีระบบบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ กระจาย
อำนาจและมีส่วนร่วมจากประชาชน ลดปัญหาคอร์รัปช่ัน การใช้จ่ายภาครัฐต้องมีประสิทธิภาพสู ง และมี
บุคลากรทีม่ ีความรคู้ วามสามารถและปรับตัวได้ทันกบั ยุคดจิ ิทลั เพ่ิมข้นึ

แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙
สาระสำคัญของแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙

สำนกั งานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ เพ่อื ใช้เป็น
แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ ทั้งที่อยู่ในกระทรวง

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 23

ศึกษาธิการและนอกกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำไปใช้เป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้
สำหรับพลเมืองทุกช่วงวัยต้ังแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ีสำคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการ
ประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา และการศึกษาเพ่ือการมีงานทำและสร้างงานได้ ภายใต้บริบท
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความ
เป็นพลวัตร เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว
ซ่งึ ภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ ได้กำหนดสาระสำคัญสำหรับบรรลุเป้าหมายของ
การพัฒนาการศึกษาใน ๕ ประการ ได้แก่ การเข้าถึง (Access)ความเท่าเทียม (Equity) คุณภาพ (Quality)
ประสทิ ธิภาพ (Efficiency) และตอบโจทย์บริบทท่ีเปล่ียนแปลง (Relevancy) ในระยะ ๑๕ ปีขา้ งหน้า ดังน้ี

วิสัยทัศน์: ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพ่ือเป็นกลไก
หลักของการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของทุนมนุษย์ และรองรับการศึกษา การเรียนรู้ และความ
ทา้ ทายทเ่ี ปน็ พลวัตรของโลกศตวรรษท่ี ๒๑

หลักการ :๑) รัฐมีหน้าที่จัดการให้พลเมืองทุกคนได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถ
พัฒนาขีดความสามารถทม่ี ีอยู่ในตัวตนของแตล่ ะบุคคลให้เต็มตามศักยภาพ จากการมีส่วนร่วมของทกุ ภาคสว่ น
ในสังคม

๒) รัฐจะประกันโอกาสและความเสมอภาค ในการเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพและ
มาตรฐานตามศักยภาพและความสามารถของแต่ละบุคคล

๓) แยกบทบาท อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐ ในฐานะผู้กำกับนโยบายและแผน
ผ้กู ำกับการศึกษา ผ้ปู ระเมินผลการศึกษา ผ้สู ง่ เสรมิ สนบั สนุน และผจู้ ัดการศกึ ษาออกจากกัน

๔) รฐั พงึ ปฏบิ ัตติ อ่ สถานศึกษาภายใตก้ ฎกตกิ า ระเบยี บ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ทีเ่ ป็นมาตรฐานเดียวกัน
๕) ทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์ท้ังทางตรงและทางอ้อมจากการได้รับ
การศกึ ษาของพลเมืองต้องมสี ่วนร่วมระดมทุน และรว่ มรับภาระค่าใช้จ่ายเพ่อื การศึกษา
๖) สถานศึกษาต้องบรหิ ารและจัดการท่ีแสดงความรบั ผิดชอบ (Accountability) ต่อคุณภาพ
และมาตรฐานของบริการการศึกษาทใี่ ห้แก่ผ้เู รยี น
๗) รัฐจะกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนากำลังคน จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษา
คณะ/สาขาวิชาท่ีสนองตอบต่อความต้องการของตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ และ
๘) หลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สนองตอบ
ความตอ้ งการของผู้เรยี น ทงั้ ผู้ทอ่ี ยู่ในวัยเรียน และผูท้ อี่ ย่ใู นกำลงั แรงงาน
ยทุ ธศาสตร:์
๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและ
ประเมินผล
๒) ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากร ทาง
การศึกษา
๓) ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมรองรับความต้องการของ
ตลาดงาน และเพม่ิ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ
๔) ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศ และเทคโนโลยดี ิจิทัล
๕) ยุทธศาสตรพ์ ัฒนาคุณภาพคนทุกชว่ งวัยและการสร้างสงั คมแห่งการเรยี นรู้
๖) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาค
ส่วน
๗) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบการเงนิ เพือ่ การศึกษา
เปา้ หมายสดุ ทา้ ย:

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 24

๑) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพ
และขีดความสามารถของทุนมนุษย์ (Productivity) ท่ีตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการ
พัฒนาประเทศ เพ่ือให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักของประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่พัฒนา
แลว้ อย่างยั่งยืน ภายใตพ้ ลวตั รของโลกศตวรรษท่ี ๒๑

๒) ประชากรทุกชว่ งวยั สามารถเข้าถงึ โอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาและการเรียนรู้
จากระบบการศกึ ษาทีม่ คี วามยืดหยนุ่ หลากหลาย และตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู รยี น เพ่อื ยกระดบั ชนชั้น
ของสังคม ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ท่ีเอ้ือต่อการสร้างสังคมแห่ง
ปญั ญาและการสร้างสภาพแวดลอ้ มที่เออ้ื ต่อการเรียนรู้ ที่ประชาชนสามารถแสวงหาความรูแ้ ละเรียนรู้ได้อย่าง
ต่อเน่อื งตลอดชีวิต

๓) ผู้เรียนแต่ละระดับการศึกษา ได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพที่มีอยู่ใน
ตัวตนของแต่ละบุคคล และมีคุณลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์ มีองค์ความรู้ที่สำคัญและทักษะการเรียนรู้ใน
ศตวรรษท่ี ๒๑ รวมทงั้ ทักษะการดำรงชวี ิต และทักษะความรู้ความสามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัติงานท่ี
ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ

๔) ภาคการศึกษามที รัพยากรและทุนท่เี พียงพอสำหรบั การจัดการศกึ ษาทีม่ คี ุณภาพมาตรฐาน
จากการส่วนร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพื่อการศึกษาจากทุกภาคส่วนในสังคม ผ่านการ เสียภาษีตาม
สิทธิและหน้าท่ีของพลเมือง การบรจิ าค และการร่วมรับภาระค่าใชจ้ ่ายทางการศึกษา

๕) สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ดว้ ยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล
สามารถให้บริการท่ีตอบสนองความต้องการบริบทเชิงพื้นท่ี ระดับประเทศและระดับภูมิภาคในฐานะท่ีเป็น
ศูนย์กลางของการบริการด้านการศึกษาในภูมภิ าคอาเซียน (Hub for Education) และเป็นภาคเศรษฐกิจหนึ่ง
ของระบบเศรษฐกจิ ของประเทศและของภูมิภาค ทส่ี ร้างรายไดใ้ หก้ บั ประเทศไทย

ความเชอ่ื มโยงระหว่างยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คม
แห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ กับทิศ
ทางการพัฒนาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารในมติ ดิ า้ นต่างๆ

๕.๑ มิตดิ า้ นความมั่นคง
๕.๑.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี : ยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ ความ

มั่นคงเป็นเร่ืองท่ีส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตและความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นกับนานาชาติด้านการลงทุนและการท่องเท่ียว และ ความสงบสุขของสังคมโดยรวม
ดงั นั้นเพ่ือบรรลเุ ปา้ หมายในการสรา้ งเสถียรภาพภายในประเทศ ลด/ปอ้ งกันภัยคุกคามจากภายนอก และสร้าง
ความเชื่อมัน่ ในอาเซยี นและประชาคมโลก มกี รอบแนวทางท่ีตอ้ งให้ความสำคัญ ดังน้ี

๑) เสรมิ สร้างความมน่ั คงของสถาบันหลกั ของชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้มีความจงรักภักดี และธำรงรักษาสถาบันหลัก
คือชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์

๒) ปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศ ขจัดคอร์รัปชั่นสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ
กระจายอำนาจและสร้างความเชอ่ื มัน่ ในกระบวนการยุติธรรม

๓) ป้องกันและแกไ้ ขการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใตเ้ น้นเสริมสรา้ งกระบวนการ
สันตสิ ขุ และสันตวิ ิธี ขจัดความขัดแย้ง ลดความรุนแรงตามแนวทาง “เขา้ ใจ เขา้ ถงึ พฒั นา”

๕.๑.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์ความม่ันคงเพ่ือให้
เกิดความมั่นคงในการพัฒนาประเทศระยะยาวตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี ท่ีมีความสัมพันธ์
ระหวา่ งการเมอื ง เศรษฐกจิ สังคมจิตวทิ ยา จงึ กำหนดวตั ถปุ ระสงค์ของยทุ ธศาสตร์ความมัน่ คง ดังนี้

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 25

๑)เพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงภายใน ไม่ให้ลุกลามเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะภัยคุกคามต่อสถาบันหลักของประเทศ ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกใน
สงั คมไทยและความรุนแรงในพืน้ ท่จี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ให้ได้รบั การแก้ไขในระดับหนึ่งและไม่ขยายตวั ต่อไป

๒) เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชนและภาคประชาชนมีความพร้อมในการผนึก
กำลังรับภัยคุกคามและมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านความมั่นคง มีศักยภาพในการป้องกันและ
แก้ไขสถานการณท์ อี่ าจเกิดขึ้นจากภยั คุกคาม เชน่ ภยั คกุ คามทางเทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์

๓) เพื่อให้นโยบายด้านความมั่นคงกับนโยบายเสถียรภาพและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
สงั คม ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมในทกุ มติ ิ ให้สามารถพฒั นาไปในทศิ ทางเดียวกนั อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

๔) เพือ่ สร้างความร่วมมือดา้ นความมั่นคงกับมติ รประเทศทั้งในระดบั โลกภูมิภาคและประเทศ
รอบบา้ น เปน็ เครื่องมอื รกั ษาผลประโยชนข์ องชาติและความสงบสขุ ของประเทศ

๕) เพ่ือลดความเส่ียงจากภัยก่อการร้ายและการโจมตีด้านไซเบอร์ ไม่ให้มีผลกระทบต่อการ
พัฒนาประเทศ

๖) เพื่อลดและบรรเทาปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสาธารณภัยต่างๆ ได้แก่
ภัยแล้ง ภัยหนาว อุทกภยั ดนิ โคลนถลม่ ไฟป่าและหมอกควัน

เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านความมั่นคงของ
ประเทศในข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต
ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพ่ือให้นักเรียน นักศึกษา
และประชาชน สามารถได้รับการเสริมสร้างทั้งทางทฤษฎีและปฏิบตั ิให้เกิดความสำนกึ ที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา
และพัฒนาสังคมไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาข้อโต้แย้งด้วยสันติวิธี การอย่รู ่วมกันด้วยความสามคั คี
และการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ อีกทั้งควรกำหนดให้ประชากรวัยเรียนในพื้นท่ีจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ สามารถเขา้ ถึงการจดั การศึกษาอย่างเสมอภาค เหมาะสมและสอดคล้องกบั อัตลกั ษณแ์ ละความต้องการ
ของพนื้ ที่

๕.๒ มิติดา้ นเศรษฐกิจ
๕.๒.๑ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ปี :ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันของ

ประเทศ
๑) การพัฒนาภาคการผลิตและบริการประเทศไทยมีฐานการผลิตที่หลากหลายที่ยังสามารถ

พัฒนาคุณภาพให้เป็นกำลังขับเคล่ือนเศรษฐกิจท่ีสำคัญได้ แต่ยังต้องเผชิญกับปัญหาซ่ึงต้องเร่งรัดดำเนินการ
แกไ้ ข ดงั นี้

๑.๑) พัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ พัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกที่มีศักยภาพสูง โดย
การผลักดันไทยเปน็ ฐานการผลิตและการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน พร้อมกับเนน้ การสรา้ งมลู ค่าเพม่ิ ด้วยการ
ยกระดับมาตรฐานและผลติ ภัณฑเ์ ฉพาะ พฒั นาเครอื ข่ายวสิ าหกิจและบุคลากรและเทคโนโลยกี ารผลิตตลอดจน
สรา้ งความเขม้ แข็งใหก้ ับผปู้ ระกอบการไทย นอกจากนี้ จะพัฒนาไทยให้เป็นฐานการผลิต การพฒั นาเทคโนโลยี
เพื่อผลิตสินค้าท่ีมีความละเอียดสูง และการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญพร้อมท้ังมีตรา
สินคา้ ของไทยและเปน็ ทรี่ ้จู ักในเอเชีย

๑.๒) การสร้างรายได้จากการท่องเท่ียว โดยพัฒนากลุ่มเมืองท่องเท่ียว และผลักดัน
ให้ไทยเป็นศูนย์กลางท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ รวมท้ังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้สามารถสร้างรายได้เพ่ิมขึ้นอย่าง
ต่อเน่ือง โดยจะให้ความสำคัญกับการตลาด การดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาระบบ โลจิ
สติกส์เพื่อการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อม่ันและความปลอดภัย และพัฒนาการท่องเท่ี ยวเชิงศิลปะและ
วัฒนธรรม เช่อื มโยงสินคา้ OTOP กับการทอ่ งเทยี่ วและส่งเสริมการทอ่ งเท่ียวเชิงสุขภาพและสปา

๑.๓) ศูนย์กลางการให้บริการสุขภาพ พฒั นาไทยเป็นศูนย์กลางให้บริการสุขภาพของ
ภูมิภาคอาเซียนเพ่ือสร้างรายได้ แล้วนำไปยกระดับคุณภาพบริการเพ่ือลดความเหล่ือมล้ำภายในประเทศโดย

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 26

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านบริการสุขภาพ (Health Services) โดยเฉพาะในโรงพยาบาล
เอกชนท่ีมีความพร้อม และส่งเสริมและพัฒนาสถานบริการสุขภาพ (Wellness Health) เช่น สปานวดแผน
ไทย เป็นต้น ในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วที่สำคญั รวมทั้งเพ่มิ ศกั ยภาพในการผลิตยาสมุนไพรและผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรให้ได้
มาตรฐานและส่งเสริมการตลาดในเชิงรุก ตลอดจนพัฒนาใหไ้ ทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิชาการ และงานวิจัย
ดา้ นการแพทยข์ องภูมิภาค

๒)พัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชนผลการวิเคราะห์ของท้ัง World Economic Forum
(WEF) แ ล ะ International Institute for Management Development (IMD) พ บ ว่า ศั ก ยภ าพ ข อ ง
ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เม่ือเทียบกับต่างประเทศยังไม่สูง จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดเล็ก ผู้ประกอบการสินค้าหนึ่งตำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์ และวิสาหกิจชุมชนโดยมีแนวทางใน
การดำเนนิ การทสี่ ำคญั ดงั น้ี

๒.๑) พัฒนาทักษะและองค์ความรู้ของผู้ประกอบการไทยในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ
รูปแบบใหมใ่ ห้มีจุดเด่น และสามารถต่อยอดด้วยความคิดและนวัตกรรม รวมท้ังสร้างความได้เปรียบจากความ
หลากหลายและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพ่ือตอบสนองความต้องการของตลาดไลฟ์สไตล์
และก้าวทนั ต่อกระแสการเปล่ียนแปลงของสงั คมโลก ตลอดจนสง่ เสริมสถาบนั การศกึ ษาในทอ้ งถ่นิ ใหเ้ ปน็ แหล่ง
รวบรวมและศกึ ษาเกย่ี วกับภมู ิปัญญาชาวบ้านในการพัฒนาผลิตภัณฑท์ ม่ี ีความเป็นเอกลกั ษณแ์ ละพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพ่ือสนองตอบผู้บริโภคทุกระดับและรณรงค์ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้
ผูป้ ระกอบการเห็นความสำคัญในการสร้างเครอื่ งหมายการค้าของตนเองและสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยให้เป็น
ทย่ี อมรบั ของคนทั่วโลก

๒.๒) พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อยสู่สากล (SMEs) ให้มีการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ที่
เข้มแข็งเพ่ือเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ และ
เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน อาทิ พัฒนาและยกระดับผรู้ ับช่วงการผลติ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพ่ิมมูลค่า เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมให้เติบโตอย่างสมดุลตามศักยภาพของพ้ืนที่ ด้วย
การกำหนดธรุ กิจทีม่ ีศกั ยภาพและเชอ่ื มเครือข่ายธรุ กจิ ในแต่ละพื้นที่ เพ่ิมมูลค่าสนิ คา้ และบรกิ ารด้วยภูมปิ ัญญา
และเอกลกั ษณ์ของท้องถ่ินตลอดจนสนบั สนุน SMEs ท่ีมศี กั ยภาพขยายการลงทนุ ไปในตา่ งประเทศ

๒.๓) พัฒนาวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และกลุ่ม
ประชาชน/เกษตรกรในชุมชน ให้เป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคม รวมท้ังให้สามารถพึ่งพาตนเอง โดย
ในส่วนของการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจะเน้นการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ สรา้ งเครือข่ายตลาด จัดตง้ั กองทุน
วิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการเรียนรู้ในการประกอบวิสาหกิจชุมชนและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าท่ีรัฐเพ่ือ
สนับสนนุ วิสาหกิจชุมชนอย่างมีประสทิ ธิภาพ สำหรบั การพัฒนาสหกรณ์จะให้ความสำคัญกับการเพ่ิมศักยภาพ
การเช่ือมโยงระบบการผลิตกับการตลาด ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใช้ระบบสหกรณ์เป็นกลไกใน
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชุมชน รวมท้ังพัฒนาการเรยี นรู้และทกั ษะการสหกรณ์ สู่วิถชี ีวติ ประชาชน
นอกระบบการศกึ ษา

๓) การพัฒนาพื้นท่ีพิเศษและเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน พัฒนาเป็นฐานการผลิตใหม่
กระจายกิจกรรมเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างความม่ันคงในพ้ืนท่ีชายแดนเช่ือมโยงกับประเทศ
เพอื่ นบ้านท้ังในด้านการผลติ รว่ มและชอ่ งทางการตลาดร่วมกัน

๔) การลงทุนพัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐาน
๔.๑) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร เน้นการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ICTท่เี ป็น

อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ทันสมัยและกระจายท่ัวถึง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญ
ระดบั มาตรฐานสากล เพ่ิมขีดความสามารถของอุตสาหกรรม ICT และใช้ ICTในการสร้างนวัตกรรมการบรกิ าร
ภาครัฐแบบบูรณาการประยุกต์ ICT เพ่ือสร้างความเข้มแข็งของภาคการผลิต การศึกษาและพาณิชย์
อเิ ลก็ ทรอนิกส์

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 27

๔.๒) การวิจยั และพัฒนา มีเป้าหมายท่ีเพมิ่ สดั ส่วนคา่ ใช้จ่ายวจิ ยั และพัฒนาไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ
๓ โดยมีสัดส่วนรัฐต่อเอกชน ๒๐ : ๘๐ โดยบูรณาการงานวิจัยระหว่างหน่วยงานวิจัยหลักของประเทศและ
สนับสนุนวิจัยที่มุ่งเป้าตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา โลจิ
สติกสแ์ ละห่วงโซอ่ ุปทาน อาหารแปรรปู และสขุ ภาพและชีวเวชศาสตร์ อากาศยาน และผลติ ภณั ฑไ์ บโอเบส
รวมท้ังงานวิจัยเพ่ือพัฒนาอุตสาหกรรม นอกจากนี้จะเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาเป็น ๗๐ คนต่อ
ประชากร ๑๐,๐๐๐ คน เช่น พัฒนานักวิจัยและสนับสนุนนักเรียนทุนรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบคุ ลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาคการผลิต
และบรกิ ารเป็นต้น

๕) การเช่ือมโยงกับภูมภิ าคและเศรษฐกิจโลก
๕.๑) ส่งเสรมิ ให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจ การให้บริการทางการศกึ ษาการ

ให้บริการด้านการเงิน การให้บริการด้านสุขภาพ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ และการลงทุนเพ่ือการวิจัยและ
พฒั นา รวมท้ังเปน็ ฐานความร่วมมือในเอเชีย

๕.๒) เพิ่มบทบาทและการมีส่วนร่วมของไทยในองค์การระหว่างประเทศในการผลักดันการ
พัฒนาในอนุภูมิภาคและภูมิภาค รวมท้ังประเทศกำลังพัฒนาในภูมภิ าคอื่น ๆ และให้ความช่วยเหลือทั้งในด้าน
การเงินและทางเทคนิคกับประเทศกำลังพัฒนา ในการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจสังคมและการ
พฒั นาทุนมนุษย์

๕.๓) สนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้า ท้ังในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี และส่งเสริม
การค้ากับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเดียวกัน(Intra-Regional Trade) มากข้ึนเปิดโอกาสให้ทุกภาค
ส่วนท่เี ก่ียวข้องได้เข้ามามสี ่วนร่วมในการกำหนดท่าทีเจรจาการคา้ ระหว่างประเทศ เร่งรัดการใช้ประโยชน์จาก
ขอ้ ตกลงท่มี ผี ลบังคบั ใชแ้ ลว้ ตลอดจนใชโ้ อกาสจากการเปดิ เสรีการคา้ และการลงทุน

๕.๒.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์สร้างความเข้มแข็งทาง
เศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างย่ังยืนยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม
ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและระบบโลจิสติกส์ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง ภาค และพ้ืนที่
เศรษฐกิจ ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการต่างประเทศ ประเทศเพือ่ นบ้าน และภมู ิภาค

๑) การเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการอันจะนำมา
ซ่ึงความเข้มแข็งของทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมและเศรษฐกิจฐานราก ตามหลักการพัฒนาท่ียั่งยืนโดยมีแนว
ทางการพัฒนา ดังน้ี

๑.๑) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนในการบริหารจัดการภาคเกษตร โดยสร้างบุคลาก รด้าน
การเกษตร การผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่หรือดำเนินนโยบายบัณฑิตคืนถิ่น จัดทำหลักสูตรการศึกษาเพ่ือสร้าง
เกษตรกรท่ีมคี วามร้แู ละความสามารถในการยกระดับการผลติ แปรรปู การตลาดและการบริหารจดั การ

๑.๒) ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมศักยภาพในปัจจุบันให้เข้าสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นก้าวหน้า
เพื่อผลิตสินค้าที่รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยส่งเสริมการท างานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมท้ังด้านการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมและเตรียมความ
พรอ้ มของบุคลากรทจ่ี ะเข้าสภู่ าคอุตสาหกรรม โดยผ่านระบบการศกึ ษาทวิภาคแี ละสหกจิ ศึกษา

๑.๓) สร้างระบบกลไกและเครือข่ายท่ีเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการเช่ือมโยงความ
ร่วมมือของภาคธุรกิจในลักษณะคลัสเตอร์ ระหว่างภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ เช่น มาตรการที่
สนับสนุนสถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัยและพัฒนา ให้มีบทบาทเป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงความร่วมมือ
ระหว่างธุรกจิ หรือสถานประกอบการตา่ ง ๆ ทรี่ วมตัวกันเปน็ คลสั เตอร์

๑.๔) วางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมสำหรับอนาคต มุ่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ท่ีผสาน
โอกาสจากแนวโน้มบริบทโลก และการปรับเปล่ียนเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีข้ันสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
อัตโนมัติ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมการผลิตเคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 28

อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ โดยวางแผนและพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมอนาคต ซึ่งต้องดำเนินการ
ร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบนั วจิ ยั ต่าง ๆ เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน ส่งเสริมให้
ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และระบบการศึกษาเร่งรัดเพ่ือให้สามารถผลิตบุคลากรท่ีมี
ทักษะรองรับอตุ สาหกรรมอนาคตระยะแรกได้อย่างทันการณ์ สำหรบั การวางแผนพัฒนากำลงั คนในระยะตอ่ ไป

๑.๕) เสรมิ สร้างขีดความสามารถการแขง่ ขันในเชิงธุรกิจของภาคบริการท่ีมศี ักยภาพให้เติบโต
และสนบั สนนุ ภาคการผลิต เช่น การบริการสขุ ภาพ การศกึ ษานานาชาตธิ รุ กจิ บรกิ ารขนสง่ และโลจิสตกิ ส์

๑.๖) พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเท่ียวเชิงบูรณาการ ส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
โดยพัฒนาทักษะฝีมือบุคลากรในภาคบริการและการท่องเที่ยวจัดฝึกอบรมมัคคุเทศก์ภาษาต่างประเทศทั่ว
ประเทศ

๑.๗) ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มี
ทักษะในการทำธุรกิจ รวมท้ังส่งเสริมให้มีการกำหนดหลักสูตรที่เกี่ยวกับทักษะการเป็นผู้ประกอบการท้ังใน
ระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ระดบั อดุ มศึกษา และสายอาชพี ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจในการเริม่ ต้นธุรกจิ ตลอดจน
สรา้ งสภาพแวดลอ้ มในสถานศกึ ษาให้เออ้ื ต่อการเรยี นร้แู ละกระตุ้นการเปน็ ผู้ประกอบการ

๒) เร่งส่งเสริมให้เกิดสังคมนวัตกรรม ผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ และพัฒนาสภาวะ
แวดล้อมของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจยั และนวัตกรรม

๒.๑) ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีบทบาทหลักด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและร่วมกำหนด
กำหนดทิศทางการพัฒนานวัตกรรมกับสถาบันการศึกษาสถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคสังคมหรือชุมชน อาทิ
ปรับกฎระเบียบให้สามารถสนับสนุนทุนวิจัยในภาคเอกชน การร่วมทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าว
กระโดด

๒.๒) เร่งสร้างความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มศักยภาพของภาครัฐ ท้ัง
การเข้าถึงและการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐและการเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐจาก
สาธารณชน

๒.๓) สง่ เสรมิ ให้ภาคสังคมนำงานวิจัยพัฒนาและเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปใช้ปรับปรุงคุณภาพ
ชีวิต และสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมให้กับผลผลิต โดยอาศัยกลไกการดำเนินงานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่าง
สถาบันการศึกษา สถาบันการวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนหรือชุมชนไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี
การศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีเพ่ือผูพ้ กิ าร เทคโนโลยเี พือ่ ผู้สูงอายุ

๒.๔) ใช้การตลาดนำการวิจัย เพื่อดำเนินการวิจัยท่ีมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยเช่ือมโยงการท างานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย
สถาบนั การเงิน ภาครัฐ ภาคธรุ กจิ

๒.๕) ส่งเสริมระบบการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วศิ วกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education)และเพ่ิมจำนวนนักเรียนที่สนใจในด้านดังกล่าว เพอื่ ผลิ
ตก าลังคนและครใู นเชงิ คุณภาพ พรอ้ มไปกบั การเพ่มิ แรงจูงใจในอาชีพครวู ิทยาศาสตร์

๒.๖) ส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเป็นผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจในการเร่ิมต้นทำธุรกิจ
โดยมุ่งเน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้มีส่วนร่วมพัฒนาหลักสูตรกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยในการ
ผลติ บุคลากรเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหวา่ งการเรียนรกู้ ับการทำงาน และส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นดา้ นวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีได้มีโอกาสฝึกงานในสาขาเทคโนโลยี (Technology Sector) และด้านเทคนิคต่างๆ และขยาย
ผลการเคลอ่ื นย้ายบคุ ลากรวิจัยภาครฐั ไปทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม้ ากยงิ่ ขึ้น

๒ .๗) ปรับปรุงและพัฒนาระบบ รองรับเทคโนโลยีสำคัญๆให้เกิดประสิทธิภาพ อาทิ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีกราฟิก เทคโนโลยีทางการศึกษาเทคโนโลยเี พือ่ ผู้สูงอายุและผู้
พิการ เทคโนโลยกี ารขนสง่ และโลจิสตกิ ส์

๓) การสนบั สนุนการพัฒนาระบบขนส่งโลจสิ ตกิ ส์ และพฒั นาเศรษฐกิจดิจทิ ัล

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 29

๓.๑) สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเน่ืองที่เกิดจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
โดยยกระดบั ขีดความสามารถของบุคลากรในระบบขนส่งให้มีความรูค้ วามสามารถในองค์ความรแู้ ละเทคโนโลยี
สมัยใหม่ และสามารถปรับตัวให้ทันตอ่ การเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรดา้ นการ
ขนส่งทางอากาศให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง รว่ มหารือกับสถาบันการศกึ ษาท่ไี ด้มาตรฐานดา้ นการบนิ เพ่ือพจิ ารณา
วางแผนก าลังคนในอุตสาหกรรมการบินของประเทศ พร้อมท้ังกำหนดแนวทางยกระดับมาตรฐานหลักสูตร
และอุปกรณก์ ารเรยี นการสอนของสถาบนั การศึกษาตา่ ง ๆ

๓.๒) พัฒนาบุคลากรและวางแผนจัดการกำลังคนด้านโลจิสติกส์ให้สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของภาคธุรกิจ โดยเน้นการเพิ่มผลิตภาพแรงงานโดยหน่วยงานภาครัฐร่วมดำเนินการกับภาคเอกชนใน
การปรับปรงุ หลกั สตู รการศกึ ษาสาขาโลจิสตกิ ส์ระดับอาชวี ศึกษาและระดับปริญญาฝึกอบรมวิชาชีพเฉพาะหรือ
เทคนิคเฉพาะด้าน และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการฝึกอบรมระดับปฏิบัติงาน เพื่อให้กำลังคน
ดา้ นโลจสิ ติกสม์ คี ณุ ภาพ มาตรฐาน และสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของภาคธุรกิจ

๓.๓) ส่งเสริมนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมดิจทิ ัลและเทคโนโลยอี วกาศของไทย
โดยพัฒนาบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถรองรับต่อการ
พัฒนาเทคโนโลยีดิจทิ ัลและสอดคลอ้ งกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต

๔) การพฒั นาในระดบั ภาค เมอื ง และพน้ื ท่เี ศรษฐกจิ
๔.๑) การพัฒนาภาคในระยะต่อไป จะให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของ

ประชาชนอย่างต่อเน่ือง ทั่วถึง และเป็นธรรม โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ท้ัง
ระบบท่ีเน้นการดำเนินการอย่างบูรณาการยึดประเด็นการพัฒนาท่ีสำคัญโดยเชื่อมโยงบทบาทและสร้าง
เครือข่ายการมีสว่ นร่วมของชมุ ชน สถาบัน และภาคกี ารพัฒนาทีเ่ กีย่ วข้อง

๔.๒) เสริมสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจติดต่อทางการค้า การเงิน การบริการ
และความร่วมมอื กับนานาชาติ รวมทงั้ เปน็ ศนู ยก์ ลางการศึกษาและการบริการด้านการแพทย์และสุขภาพระดับ
นานานชาติ พัฒนาเมืองปริมณฑลให้เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการธุรกิจและการพาณิชย์ ศูนย์กลางขนส่ง
และโลจิสติกส์ ศูนย์บริการด้านสุขภาพและการศึกษาและเมืองที่อยู่อาศัย พัฒนาเมืองเชียงใหม่ พิษณุโลก
ขอนแก่น และนครราชสีมา ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การบริการสุขภาพ การศึกษาโดยปรับปรุงเส้นทาง
คมนาคมทงั้ สายหลักและสายรอง และเชื่อมโยงกบั โครงสรา้ งพื้นฐานของภาค

๔.๓) พัฒนาพื้นทเ่ี ศรษฐกิจ โดยพัฒนาโครงสร้างพ้นื ฐานและคณุ ภาพบริการสังคมเพื่อรองรับ
การดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนและเป็นฐานเศรษฐกิจหลักของประเทศ ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาด้าน
อาชีวศึกษา วิศวกรรมและเทคโนโลยี เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางให้สอดคล้องสามารถรองรับกิจกรรม
เศรษฐกิจในพื้นท่ีได้อย่างเหมาะสม สนับสนุนการศึกษาวิจัยให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาหรือ
สถาบันวิจัยในพ้ืนทรี่ ว่ มดำเนนิ การ

๔.๔) พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดน ๑๐ พื้นที่ ได้แก่ ตาก สระแก้ว สงขลา หนองคาย
นครพนม มุกดาหาร ตราด กาญจนบุรี เชียงราย และนราธิวาส โดยส่งเสริมให้ภาคประชาชนและภาคีการ
พฒั นาท่ีเก่ียวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมและได้รบั ประโยชน์จากการพัฒนา โดยเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถ
ของวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นท่ี พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชนให้สามารถใช้ประโยชน์จาก
การพฒั นา

๕) การพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจและบริการ และการ
ลงทนุ ท่ีมสี มรรถนะสูง และเปน็ ที่ยอมรับในภูมิภาค ทั้งการให้บรกิ ารทางการศึกษาการให้บริการด้านการเงิน
การให้บริการดา้ นสุขภาพ การให้บริการดา้ นโลจิสตกิ ส์ และการลงทุนเพ่ือวจิ ยั และพัฒนา รวมทั้งเปน็ ฐานความ
ร่วมมือในเอเชีย และส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพ่ือขยายฐานการผลิตการค้า/การบริการของ
ผู้ประกอบการไทย สร้างผลตอบแทนจากเงินทุนและองค์ความรู้ของไทย และพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็น
ชาติการคา้ (Trading Nation) ซึ่งเป็นการปรับตัวรับการเปลยี่ นแปลงด้านอปุ าทาน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 30

จากการเป็นประชาคมอาเซียนภายหลังปี พ.ศ.๒๕๕๘ โดยมุ่งพฒั นาทรัพยากรมนุษยเ์ ทคโนโลยี และนวัตกรรม
ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าให้กับธุรกิจ สินค้า และบริการอย่าง
ตอ่ เนอื่ ง สรา้ งความเป็นหุ้นส่วนการพฒั นากบั ประเทศในอนุภมู ิภาค ภูมภิ าค และนานาประเทศ ทั้งในระดบั ทวิ
ภาคี พหุภาคี เพ่ิมบทบาทของประเทศไทยในการให้ความช่วยเหลือทางการพัฒนาแก่ประเทศกำลังพัฒนาใน
ด้านต่างๆ เช่น การวิจยั และพัฒนา การพัฒนาทุนมนษุ ย์

เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านเศรษฐกิจข้างต้น
กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ
ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาทุกระดับทุก
ประเภท ได้รับการฝึกปฏิบัตงิ านอาชีพตามความถนัดและความสนใจ พร้อมทัง้ ได้มีโอกาสปฏบิ ัติงานจริงในด้าน
การจัดการ การใช้เทคโนโลยีการผลิต การซื้อการขาย การท างานร่วมกันในรูปแบบสหกรณ์ตามกระบวนการ
ใหค้ รบวงจร จนเกิดความตระหนกั ในความสำคัญของการเรยี นสายอาชีพ และควรกำหนดให้นักเรียน นักศึกษา
ท่ีสำเร็จในแต่ละระดับการศึกษาได้รับการศึกษาต่อเนื่องเพื่อเพ่ิมความรู้ ทักษะความสามารถในด้านการ
ประกอบอาชีพ ที่ตรงกับสภาพตลาดแรงงานในแต่ละท้องถิ่น/พื้นท่ี ที่สำคัญควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ
การศึกษาอาชีวศึกษา มีสมรรถนะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มีปรมิ าณ
เพียงพอสำหรับรองรับตลาดแรงงานในประเทศ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ
รัฐบาล

๕.๓ มติ ดิ า้ นสงั คม
๕.๓.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตรก์ ารสร้างโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทียม

กันทางสังคมเพ่ือพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศและลดความเหลื่อมล้าในสังคม
โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคนให้มีคุณภาพและมีความมั่นคงท้ังทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีโอกาสในการ
เข้าถึงทรัพยากรอย่างท่ัวถึงและเป็นธรรมและมีการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตท่ีดีใน
สังคมสูงวยั ซ่ึงมีแนวทางการดำเนนิ งานที่สำคัญ ดังนี้

๑) การสร้างความอยดู่ ีมีสุขของครอบครัวไทยใหเ้ อื้อต่อการพัฒนาคนโดยเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ
และบทบาทหน้าที่ของสถาบันครอบครัวในการบ่มเพาะ วางรากฐานจริยธรรม คุณธรรมของสมาชิกใน
ครอบครัว การสรา้ งความอบอ่นุ และความม่ันคงให้ครอบครัว และการสร้างสมดุลระหว่างการท างานและชีวิต
สว่ นตวั

๒) การพัฒนาศกั ยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศโดยในช่วงวัย
เด็กตง้ั แต่แรกเกิดให้มีพัฒนาการทส่ี มวัยในทุกด้าน วัยเรียน วยั รุ่นให้มีทักษะการเรยี นรู้ ทักษะชีวติ สามารถอยู่
ร่วมกับผู้อ่ืนภายใต้บริบทสังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม วัยแรงงานให้มีการพัฒนายกระดับสมรรถนะฝีมือแรงงาน
เพ่ือสร้างผลิตภาพเพิ่มให้กับประเทศ วัยผู้สูงอายุให้มีการท างานท่ีเหมาะสมตามศักยภาพและประสบการณ์มี
รายได้ในการด ารงชวี ิต มีการสร้างเสริมและฟนื้ ฟูสขุ ภาพเพอื่ ป้องกันหรือชะลอความทุพพลภาพและโรคเรือ้ รัง
ตา่ งๆ ที่กอ่ ให้เกิดภาระแกป่ ัจเจกบุคคล ครอบครวั และระบบบริการสขุ ภาพ

๓) การสร้างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยสร้าง
ความมั่นคงทางด้านรายได้และการออม กระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ท้ังในด้านบริการสาธารณะ
ข้ันพื้นฐานและฐานทรพั ยากรตา่ งๆ โดยเฉพาะกลมุ่ ผมู้ รี ายไดน้ อ้ ยและกลมุ่ ด้อยโอกาส เช่น การเข้าถึงปจั จยั
การผลิต/ที่ดินทำกินของเกษตรรายย่อย การได้รับบริการด้านการศึกษาและสาธารณสุขที่มีคุณภาพของเด็ก
ยากจนและการสร้างหลักประกันทางรายได้ให้กับแรงงานนอกระบบที่มีรายได้น้อย เป็นต้น รวมท้ังการ
จัดรูปแบบสวัสดิการพ้ืนฐานท่ีจำเป็นและเหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมาย (customize welfare) ที่คำนึงถึงฐานะ
ทางเศรษฐกจิ และสังคมที่แตกตา่ งกนั โดยมีแนวทางการรับภาระคา่ ใชจ้ ่ายร่วมกนั (cost sharing)

๔) การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียมและท่ัวถึงโดยการ
ปฏิรูปโครงสร้างและระบบบริหารจดั การการศึกษาจัดโครงสร้างจัดการการศึกษาใหม่เพื่อสร้างความรับผิดชอบ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 31

ต่อผลลัพธ์ (Accountability) ปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษาเพ่ือเพ่ิมคุณภาพและประสิทธิภาพการจัด
การศึกษาโดยการจัดสรรงบประมาณตรงสู่ผู้เรียน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา
ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครูผู้สอน พัฒนาระบบการประเมินและการรับรองคุณภาพท่ีเน้นผลลัพธ์ที่ตัว
ผเู้ รยี น โดยมุ่งจัดการเรียนรู้เพ่อื สรา้ งสมรรถนะกำลังคนทั้งระบบตั้งแต่ระดับปฐมวยั จนถึงการเรียนร้ตู ลอดชีวิต
การวิจยั และการใช้เทคโนโลยีและส่ือเพอ่ื การเรยี นรู้

๕) การพฒั นาระบบสขุ ภาพบูรณาการระบบหลักประกนั สุขภาพภาครัฐ ๓ กองทุน เพือ่ ให้เกิด
ความเป็นเอกภาพในการบรหิ ารจัดการ มกี ารใช้ทรัพยากรอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และลดความเหลื่อมล้าในระบบ
หลักประกันสุขภาพภาครฐั พัฒนาการบริหารจัดการระบบสุขภาพด้วยการมีและการใชร้ ะบบข้อมลู สารสนเทศ
เพ่ือการบริหารทรพั ยากรด้านสาธารณสุข การสง่ เสริมการอภิบาลระบบสุขภาพในลักษณะที่มีการใช้ทรัพยากร
ร่วมกัน การสนับสนุนความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาระบบบริการที่มีการลงทุน
และใช้ทรัพยากรร่วมกัน การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อรองรับการเป็น
สังคมผ้สู ูงอายุ รวมท้ังการสรา้ งโอกาสในการเปน็ ศูนยก์ ลางสุขภาพนานาชาตทิ ง้ั ในด้านศูนย์กลางบริการสุขภาพ
(Medical Service Hub) ศูนย์กลางบริการเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) โดยนำรายได้กลับมาใช้
ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการให้ความสำคัญกับมิติสุขภาพในทุก
นโยบายสาธารณะ (Health in All Policies) เพ่ือสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบของนโยบาย
สาธารณะท่ีมตี อ่ สขุ ภาพของประชาชน

๖) การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมโดยการฟื้นฟูบทบาท
สถาบันศาสนาในการส่งเสริมศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมตามหลักคำสอนทางศาสนา การธำรงรักษา
วัฒนธรรมที่ดีงามเพื่อเป็นฐานรากที่เข้มแข็งในสังคมท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และการบริหารจัดการ
ทนุ ทางวัฒนธรรมเพ่ือสร้างมลู คา่ เพม่ิ ทางเศรษฐกิจ

๕.๓.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๑๒ : ยุทธศาสตร์การเสรมิ สร้างและพฒั นา
ทุนศกั ยภาพมนษุ ย์ ยุทธศาสตร์การสรา้ งความเปน็ ธรรมลดความเหล่ือมล้าในสงั คม

๑) เป้าหมายการพัฒนา
๑.๑) คนไทยทุกกลุ่มวัยมีทักษะและความรู้ความสามารถท่ีจะเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ

เดก็ ปฐมวัยมีพัฒนาการเต็มตามศกั ยภาพ สามารถเติบโตเป็นคนดี มีคณุ ภาพ และทำประโยชน์ตอ่ สังคมโดยรวม
เด็กวัยเรียนมีนิสัยรักการอ่านและมีทักษะการเรียนรู้ในเชิงคิดสังเคราะห์ สร้างสรรค์ต่อยอดไปสู่การสร้าง
นวัตกรรมความรู้ มีทักษะชีวติ และอาชีพ ทักษะทางการเงนิ ทักษะสารสนเทศ ส่ือและเทคโนโลยี วยั แรงงาน
เพ่ิมสมรรถนะทั้งความรู้ ทักษะ คุณลักษณะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน มีความรู้และทักษะ
การบริหารจัดการทางการเงินท่ีเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ วัยสูงอายุ มีงานทำและรายได้ที่
เหมาะสมกับศักยภาพผูส้ งู อายุ

๑.๒) คนไทยมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและ
ภายนอกประเทศ

๑.๓) คนไทยมีพฤติกรรมเสยี่ งทางสขุ ภาพทลี่ ดลงและมีคุณภาพชีวติ ทีด่ ขี นึ้
๑.๔) คนไทยมีจิตสำนึกพลเมอื งที่มีทัศนคติและพฤตกิ รรมที่มีประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมมีคณุ ธรรม
จรยิ ธรรมและมคี ่านยิ มตามบรรทัดฐานทดี่ ขี องสังคมไทย
๑.๕) เพม่ิ โอกาสการเข้าถึงบริการพ้ืนฐานทางสงั คมของภาครัฐ
๒) แนวทางการพัฒนา
๒.๑) พัฒนาศักยภาพคนทุกกลุ่มวัยให้มีทักษะและความรู้ความสามารถโดยส่งเสริมให้เด็ก
ปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะสมองและทกั ษะทางสังคมท่ีเหมาะสม พัฒนาเดก็ วัยเรียนให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์
อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการท างานและการใช้ชีวิตท่ีพร้อมเข้าสู่ตลาดงาน ส่งเสริม
แรงงานให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการ ท้ังทักษะขั้นพ้ืนฐาน ทักษะ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 32

เฉพาะในวิชาชีพ และทักษะในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ พัฒนาศักยภาพของกลุ่มผ้สู ูงอายุให้มีโอกาสเข้า
สู่ตลาดงานเพ่มิ ข้ึน

๒.๒) ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการเรยี นรู้ตลอดชีวติ โดย
๒.๒.๑) ยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยขยายผลความร่วมมือ

ระหว่างสถาบันอาชีวศึกษา สถาบันอุดมศึกษา ภาคเอกชน และผู้และผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศในการ
พัฒนาสาขาทมี่ ีความเช่ยี วชาญเฉพาะด้าน การน าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจดั การเรียนการสอน
รวมทัง้ ขยายการจัดทำและการใช้หลกั สตู รฐานสมรรถนะใหม้ ากข้นึ

๒.๒.๒) ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางที่มี
ศักยภาพเขา้ ร่วมระบบทวิภาคี หรือสหกิจศึกษารวมทั้งสร้างความรู้ความเขา้ ใจให้กับผู้ประกอบการ ครฝู ึกหรือ
ครูพ่ีเลี้ยงให้ทราบถึงบทบาทในการร่วมวางแผนการจัดการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และการติดตาม
ประเมินผลผู้เรียน

๒.๒.๓) พฒั นาคณุ ภาพครูโดยปรับหลกั สตู รการผลติ ครูให้อิงสมรรถนะ มจี ิตวิญญาณ
ความเป็นครู ให้เป็นผู้แนะนำ รวมท้ังศึกษาแนวทางการกำหนด “สมรรถนะครูระดับชาติ”ที่จะนำไปสู่การ
ออกแบบวิชาชีพครูท้ังระบบ ต้ังแต่หลักสูตรการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ การประเมินวิทยฐานะ
ทางวิชาชพี การส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวติ ของครู

๒.๒.๔) พัฒนาสื่อการเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้เอื้อต่อคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย
สะดวกทั่วถึง ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ มีการจัดทำสื่อระบบการเรียนรโู้ ดยใชส้ ่ืออิเล็กทรอนิกส์ทสี่ ามารถใช้งาน
ผา่ นระบบอุปกรณ์ส่ือสารเคลื่อนที่ รวมถึงใชม้ าตรการทางภาษีจูงใจให้ภาคเอกชนผลติ หนังสอื ส่ือการอ่านและ
การเรียนรทู้ ีม่ ีคุณภาพและราคาถูก

๒.๒.๕) ส่งเสริมการสรา้ งเครอื ข่ายระหว่างบ้าน วดั โรงเรียน ในการพฒั นาแหล่งการ
เรียนรู้มีชีวิตในชุมชนและให้มีการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า อาทิ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดโบราณสถาน อุทยาน
ประวัติศาสตร์ โรงเรียนผู้สูงอายุ และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางสังคมท่ีแสดงถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม จารีต
ประเพณี ศลิ ปหตั ถกรรมท่ีสบื ทอดมาจากอดีต รวมทั้งพัฒนาระบบจัดการความร้บู นฐานนวัตกรรมการเรียนรู้ท่ี
สอดคล้องกับภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นและภมู สิ ังคม

๒.๓) หล่อหลอมคนไทยให้มีความเป็นพลเมืองที่ดีตามบรรทัดฐานของสังคมและส่งเสริมให้
ภาคธุรกิจทำธุรกิจเพ่ือสังคม โดยสร้างค่านิยมในการดำเนินชีวิต การศึกษา และการท างานตามบรรทัดฐาน
ของสังคม โดยการปลูกฝังและหล่อหลอมสมาชิกในครอบครัวให้มีความเอ้ืออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มี
คณุ ธรรมจริยธรรม สถาบันการศกึ ษามีการจัดการเรียนการสอนที่มีกจิ กรรมเก่ียวกับคณุ ธรรม จริยธรรมปรชั ญา
ชีวิต มีการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมการท างานที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม ท างานเป็นทีม มี
ระเบยี บวนิ ัย ยอมรับความคดิ เหน็ ตา่ ง ความมุมานะในการแสวงหาความรู้

๒.๔) ให้ความช่วยเหลือทางสังคมเพ่ือเป็นแต้มต่อแก่กลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ ๔๐ ที่มี
รายได้ต่ำสุด ให้ได้รับการศึกษาที่สูงข้ึนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ และ
ยกระดับรายได้ ให้ได้รับการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ท่ีเหมาะสม
อยา่ งท่ัวถงึ และเปน็ ธรรม สร้างโอกาสการเขา้ ถึงการศึกษาท่ีมคี ุณภาพใหแ้ ก่กล่มุ เป้าหมายฯ อยา่ งต่อเน่ืองและมี
คุณภาพโดยไม่ถกู จำกัดศกั ยภาพจากสภาพครอบครัว พนื้ ที่ และสภาพร่างกาย โดยการพัฒนาศนู ย์เด็กเล็กให้มี
คุณภาพและไดม้ าตรฐาน การดูแลและป้องกันนักเรียนท่ียากจนท่ีอาศัยในพ้ืนที่ห่างไกลโรงเรียน ไม่ให้เด็กออก
จากโรงเรียนกลางคันโดยให้ความช่วยเหลือแก่เด็กนักเรียนยากจนท่ีครอบคลุมต้ังแต่การสร้างรายได้ของ
ครัวเรือน การสนบั สนุนค่าเดินทางไปยังสถานศกึ ษา การให้ทุนการศึกษาต่อระดบั อุดมศึกษาแก่เดก็ เรียนดีและ
ยากจน โดยมีเงื่อนไขเมื่อจบการศึกษาแล้วต้องกลับไปทำงานที่บ้านเกิด และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ
ส่งเสริมการเรยี นรใู้ นพืน้ ท่หี ่างไกล

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 33

๒.๕) กระจายการให้บริการภาครัฐท้ังด้านการศึกษาสาธารณสุข โครงสร้างพ้ืนฐาน และการ
จัดสวัสดิการในภูมิภาคให้มีความครอบคลุมและทั่วถึงทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมท้ังการจัดสรร
ทรพั ยากรใหม้ กี ารกระจายตวั อย่างเปน็ ธรรม

ตลอดจนการสร้างปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ รวมท้ังกฎหมายกฎระเบียบให้เกิดการแข่งขันที่
เป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิติด้านสังคมข้างต้น
กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ
ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ผู้เรียนและสถานศึกษาในส่วน
ภูมิภาค/ชนบท ได้รับการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการศึกษาเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาทุก
ระดับ ทุกประเภท โดยเฉพาะระดับก่อนประถมศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น โดยประสาน
ทรัพยากรทางการศึกษาในจังหวัด/ท้องถ่ิน เพ่ือให้บรรลุตามเป้าหมาย และควรกำหนดให้ระบบและวิธีการ
ส่งเสริม คัดเลือกเพื่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงข้ึน ได้รับการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้เกิดความเป็นธรรม
ความเสมอภาคแก่นักเรียน นักศึกษาทุกระดับทุกประเภทการศึกษา รวมท้ังควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ
การศึกษาอุดมศึกษามีปริมาณเหมาะสมสอดคล้องในสาขาความต้องการแต่ละสายอาชีพ มีองค์ความรู้และ
ทักษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ มีเจตคติและคุณลักษณะนิสัยท่ีพึงประสงค์

๕.๔ มิตดิ า้ นการบรหิ ารจัดการภาครัฐท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
๕.๔.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหาร

จดั การภาครัฐ เพอื่ ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เกิดประสิทธิผล มีความคุม้ ค่า
โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมในการให้บริการสาธารณะ และเพ่ือให้สอดคล้องกับทิศทางและบริบทการ
เปล่ียนแปลงของโลก ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงานท่ีสำคัญคือ การเพ่ิมประสิทธิภาพภาครัฐโดยการปรับ
โครงสรา้ งระบบราชการใหส้ ามารถตอบสนองการเปลยี่ นแปลงและความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
และมปี ระสิทธิภาพ เช่น พัฒนา e-government และ e-service เพอื่ เพิ่มประสิทธิภาพในการท างานและการ
ให้บริการ เป็นต้น และพัฒนาและบริหารกำลังคนภาครัฐเพ่ือปรับบทบาทให้สอดคล้องกับภารกิจที่มีอยู่ และ
เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เช่น พัฒนาหลักสูตรและดำเนินการฝึกอบรมต่าง ๆ จัดทำร่าง
ยุทธศาสตร์บริหารกำลังคนภาครัฐ วิเคราะห์อัตรากำลังคนภาครัฐตามยุทธศาสตร์ประเทศ เป็นต้น รวมท้ังลด
ปัญหาคอร์รัปชั่น เพ่ือสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการภาครัฐ และสร้างความเช่ือม่ันศรัทธาในการ
บริหารงานของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สร้างและใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานและลดข้ันตอนในการ
ทำงาน นำระบบ ICT มาใช้ในการดำเนินงาน ตลอดจนปฏิรูปกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างขีด
ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

๕.๔.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ :ยุทธศาสตร์การเพมิ่ ประสิทธภิ าพ
การบรหิ ารจัดการในภาครฐั และธรรมาภิบาลในสังคมไทย

๑) เปา้ หมาย
๑.๑) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการของภาครัฐและ

ประสิทธภิ าพในการประกอบธรุ กิจของประเทศ ให้อยู่ในอันดบั สองของอาเซยี น
๑.๒) เพิม่ จำนวนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินแต่ละประเภท ทีม่ กี ารบริหารจัดการทดี่ ี
๑.๓) เพิม่ คะแนนดชั นภี าพลกั ษณ์คอรร์ ปั ชน่ั อยู่สูงกวา่ รอ้ ยละ ๕๐
๑.๔) ลดข้อร้องเรียนของประชาชนที่ไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอ

ภาคและเป็นธรรม
๒)แนวทางการพัฒนา
๒.๑) ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจและคุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความ

โปร่งใส ทันสมัย คล่องตวั มีขนาดที่เหมาะสม เกดิ ความคุ้มค่า สามารถให้บริการประชาชนในรูปแบบทางเลือก
ที่หลากหลายและมีคุณภาพ โดยกำหนดภารกิจขอบเขตอำนาจหน้าที่ของการบริหารราชการส่วนกลาง ส่ว น

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 34

ภมู ิภาค และส่วนท้องถิ่นให้ชัดเจนและไม่ซ้ำซอ้ น พฒั นาบุคลากรและปฏิรปู ระบบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ
ให้มีประสิทธิภาพ มีความร้คู วามสามารถสอดคล้องกับการปฏิบัติงานในยุคเศรษฐกิจดิจทิ ัล จัดทำยุทธศาสตร์
การพฒั นารัฐวสิ าหกจิ ในระยะยาวใหม้ คี วามชดั เจนและสามารถปฏบิ ตั ิได้จรงิ

๒.๒) ปรับปรุงกระบวนการงบประมาณและสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการ
คลังภาครัฐ เพ่ือให้การจัดสรรและการใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ และให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมใน
การตัดสนิ ใจกระบวนการงบประมาณ โดยแก้ไขพระราชบัญญตั ิวธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ และกฎหมายท่ี
เก่ียวข้อง เช่น พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการ
บริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.๒๕๕๑ รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนพัฒนา
ระดับพ้ืนท่ีให้เชื่อมโยงต้ังแต่ระดับชุมชนถึงระดับจังหวัดซ่ึงค่าของบประมาณของจังห วัดควรมีความชัดเจนว่า
เป็นวงเงินตามภารกิจของกระทรวงและวงเงินตามค่าขอของจังหวัด นอกจากน้ีให้ปรับปรุงระบบติดตาม
ประเมินผลใหส้ ามารถวดั ผลสมั ฤทธ์ิการใช้จ่ายงบประมาณไดอ้ ยา่ งแท้จริง

๒.๓) เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการสาธารณะให้ได้มาตรฐาน สากล โดยปรับ
รูปแบบและวิธีดำเนินการของภาครัฐให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคมในลักษณะรูปแบบ
ประชารัฐปรับรูปแบบการให้บริการของรัฐจากรูปแบบเดิมไปสู่การให้บริการผ่านระบบดิจิทัลอย่างเป็นระบบ
สร้างระบบโครงสร้างพ้ืนฐานกลางของภาครัฐและเอกชน (Data Center) ผ่านบริการเครือข่ายภาครัฐ บูรณา
การขอ้ มลู ข้ามหน่วยงานผา่ นระบบดิจทิ ัลรองรบั การใช้ประโยชน์จากข้อมลู ภาครัฐรว่ มกนั

๒.๔) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพ่ือให้สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส
และยุติธรรม โดยปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมท่ีดีของสังคมไทยให้กับเด็กและเยาวชน ผ่านกลไกครอบครัว
สถาบนั การศกึ ษาส่ือมวลชน และเครือข่ายทางสังคม ยกระดบั มาตรฐานจริยธรรมของข้าราชการและเจ้าหน้าที่
ของรัฐผา่ นกลไกการบริหารงานบุคคล วางระบบและกระบวนการจดั การตอ่ การทจุ รติ ให้มปี ระสทิ ธิภาพ

๕.๔.๓ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ -๒๕๗๔ : ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตรการเรียน
การสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลงั คน การวิจยั และนวัตกรรม รองรับ
ความต้องการของตลาดงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศยุ ทธศาสตร์การพัฒนา
ระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล ยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคม
แห่งการเรียนรู้ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาค
สว่ น ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาระบบการเงนิ เพ่ือการศึกษา

๑) ความคาดหวัง:
๑.๑) ลดความแตกต่างในคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาระหวา่ งสถานศึกษา
๑.๒) เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงบรกิ ารการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน
๑.๓) กระจายอำนาจและความรับผดิ ชอบไปส่สู ถานศกึ ษาเพอื่ การพัฒนาทยี่ ง่ั ยืน
๑.๔) เพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าของการบริหารจัดการ เพื่อรองรับการแข่งขัน

อย่างเปน็ ธรรมภายใตก้ ำกบั ของรัฐ
๑.๕) สร้างการมีส่วนรว่ มในการระดมทนุ และการสนองทนุ เพื่อการศึกษาจากทุกภาคสว่ นของ

สังคม
๒) มาตรการ:
๑.๑) ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศท่ีบูรณาการและเชื่อมโยง

ระหว่างหน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน
เพื่อการกำกับ ติดตามประเมินผล การบริหารจัดการ และการตัดสินใจเชิงนโยบายของผู้บริหาร พัฒนาระบบ
ฐานข้อมูลสารสนเทศท่ีบูรณาการและเช่ือมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายในการประเมินคุณภาพ
ภายนอก การตดิ ตามประเมนิ ผลของหน่วยงานสว่ นกลางและสว่ นภูมภิ าค

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 35

๑.๒) จัดทำแผนท่ีต้ังสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดยใช้ระบบ GIS เพื่อกำหนดจำนวนและที่ต้ัง
สถานศกึ ษาทเี่ หมาะสม สอดคล้องกับความตอ้ งการของผู้เรยี น จัดทำแผนและขนั้ ตอนการควบรวมสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน แบ่งกลุ่มสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานตามศักยภาพและความพร้อม เพื่อลดความแตกต่างของคุณภาพ
และมาตรฐานระหวา่ งสถานศึกษา

๑.๓) ส่งเสริมให้สถาบันอาชีวศึกษา /สถาบันอุดมศึกษาผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาท่ีมี
ความเชี่ยวชาญ เพ่ือให้สถาบันมีขนาดและจำนวนการผลิตท่ีสอดคล้องกับจำนวนผู้เรียนที่มีแนวโน้มลดลง
รวมทั้งสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาทั้งของรับและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยอาศัยกลไก
ทางการเงนิ ด้านอปุ สงค์ ผา่ นกองทุนเงนิ ให้กู้ยืมทผ่ี ูกกบั รายได้ในอนาคต

๑.๔) ปรับโครงสร้างการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ตามแนว
ทางการกระจายอำนาจไปสู่สถานศกึ ษา รวมทั้งปรับบทบาทของหน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนภูมิภาคให้
ทำหน้าท่ีเป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมินผล ส่งเสริมสนับสนุน และกระจายอำนาจให้
สถานศึกษาทำหน้าที่เป็นผจู้ ดั การศกึ ษา

๑.๕) ปรับระบบการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวของรัฐและเอกชนท่ีสะท้อนคุณภาพมาตรฐาน
ประสทิ ธภิ าพ ประสิทธิผล ตามความแตกตา่ งของคุณลกั ษณะสถานศึกษาและคุณลักษณะของผเู้ รียนดว้ ยความ
เปน็ ธรรม และส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชนท่ีมีศักยภาพและความพรอ้ มเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารและ
จดั การศกึ ษา

๑.๖) กำหนดแผนความต้องการการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ โดยจำแนกตาม
สาขาวิชาท่ีขาดแคลน และกำหนดให้มีแผนพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ
ระบบการบริหารงานบคุ คลของครู ผ้บู รหิ าร และบุคลากรทางการศึกษา

๑.๗) ปรับเปล่ียนระบบการจัดสรรเงินจากเดิมท่ีจัดสรรผ่านด้านอุปทานหรือสถานศึกษา มา
เป็นจัดสรรผ่านด้านอุปสงค์หรือตัวผู้เรียนในสัดส่วนที่เหมาะสม และกำหนดแผนและขั้นตอน การเปลี่ยนผ่าน
ระบบการจัดสรรเงินเพ่ือการศึกษา เพื่อมิให้สถานศึกษาได้รบั ผลกระทบจากการเปล่ียนระบบ การจัดสรรเงิน
สนับสนุนการจัดต้ังกองทุนเงินให้เปล่าสำหรับผู้เรียนที่ด้อยโอกาสและยากจน ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มี
คุณภาพมาตรฐาน รวมท้ังออกแบบและพัฒนาระบบบัญชีสถานศึกษาตามเกณฑ์คงค้างเพ่ือ การรายงาน
การเงิน

๑.๘) พฒั นาระบบและกลไกการสง่ เสรมิ สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามามีสว่ นรว่ มใน
การผลิตและพัฒนาสื่อ ตำรา ส่ิงพิมพแ์ ละสอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ทีม่ ีคณุ ภาพและมาตรฐาน รวมท้งั สื่อเพอ่ื การพฒั นา
ผูบ้ ริหาร ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่อื สารที่ทนั สมยั

๑.๙) ส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในทุกพื้นท่ี โดยการจัดต้ังศูนย์การเรียนท้องถ่ิน ภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาทักษะ ความรู้และความสามารถในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชากรทุกช่วงวัย
รวมท้ังสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ้ืนที่พิเศษ และพ้ืนท่ีในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตามความเหมาะสมของพน้ื ที่

เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิติด้านบริหารจัดการ
ภาครัฐท่มี ีประสิทธิภาพในข้างต้น กระทรวงศึกษาธกิ ารควรมีการกำหนดเปา้ หมายหรือแนวทางการดำเนินงาน
ให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษา เพ่ือให้โครงสร้างของการบริหาร
การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัว โดยกระจายอำนาจ
หรือมอบอำนาจจากส่วนกลางลงไปสู่หน่วยปฏิบัติ ส่วนภูมิภาค กำหนดกลไกและส่งเสรมิ ให้ทุกภาคสว่ นมีส่วน
รว่ มในการจัดการศึกษาและสนับสนุนทรัพยากรเพ่ือการศึกษารวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศกึ ษา
กบั องค์กรหรอื หน่วยงาน

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 36

ยทุ ธศาสตรก์ ารศึกษาจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579)

1 แนวคิดการจัดการศึกษา
1.1 หลกั การจัดการศึกษา
1) หลักการจัดการศึกษาเพ่ือปวงชน (Education for all) เป็นการจัดการศึกษาเพ่ือให้

ประชาชนทุกคน ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงวัยมีโอกาสในการศึกษาและการ
เรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือให้แต่ละบุคคลได้พัฒนา ตามความพร้อมและความสามารถให้บรรลุขีดสูงสุด มีความรู้
ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ในการดำรงชีวิต และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม รวมทั้งมีสมรรถนะใน
การท างานเพ่ือการประกอบอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน
และการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศ อันจะนำไปพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
แผนยุทธศาสตร์การศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องกำหนดเป้าหมายการจัดการศึกษาท่ีครอบคลุม โดย
ไมป่ ลอ่ ยปละละเลย หรอื ทิง้ ใครไวข้ ้างหลัง

2) หลักการจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียม (Inclusive Education) เป็นการจัดการศึกษา
สำหรับผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนกลุ่มปกติ กลุ่มด้อยโอกาสท่ีมีความยากลำบาก และขาด
โอกาสเน่ืองด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจและภูมิสังคม ซ่ึงรัฐ ต้องดูแลจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา สนับสนุน
ผู้เรียนกลุ่มน้ีให้ได้รับการศึกษาตามศักยภาพและ ความพร้อมอย่างเท่าเทียม กลุ่มท่ีมีความต้องการจำเป็น
พิเศษ ซ่ึงหมายรวม กลุ่มผู้มีความบกพร่อง ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม อารมณ์ การส่ือสารและการ
เรียนรู้ หรือร่างกายพิการ หรือ ทพุ พลภาพ รวมทง้ั บุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มผี ู้ดแู ล รฐั ต้องจัดให้
บคุ คลดงั กลา่ วมสี ิทธิ และโอกาสได้รับการศึกษาร่วมกับเดก็ ปกติในกรณที ่ีสามารถเรยี นได้ เพือ่ ให้เขาได้มีโอกาส
เรียนรู้ แลกเปล่ียนความรู้ ความคิดและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นในสังคม หรือจัดให้เป็นพิเศษตามระดับ ความ
บกพร่อง นอกจากน้ีบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ รัฐต้องจัดรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึง
ความสามารถของบุคคลนั้น ด้วยเหตุผลสำคัญคือบุคคลท่ีมีความสามารถพิเศษเป็นทรัพยากร ที่สำคัญของ
ประเทศ หากจัดการศึกษารูปแบบปกติ อาจทำให้ไม่สามารถพัฒนาบุคคลดังกล่าวให้มีความรู้ ความสามารถ
ตามศักยภาพของเขาได้ รัฐจึงมีหน้าที่ลงทุนพิเศษสำหรับบุคคลเหล่านี้ และถือเป็นสิทธิ ของบุคคลซ่ึงมี
ความสามารถพิเศษท่ีจะได้รับบริการทางการศึกษาซ่ึงเหมาะสมสำหรับการพัฒนาศักยภาพ ของตน แผน
ยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทาง การพัฒนาท่ีครอบคลุม
การดแู ลและพัฒนาบคุ คลทุกกลมุ่ เปา้ หมายอย่างเทา่ เทยี มและทวั่ ถงึ

3) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดำรงชีวิตและการประพฤติปฏิบัติตน
ของประชาชนทุกระดับ เพ่ือการดำรงชีวิตในสังคมอย่างพอเพียง เท่าทันและเป็นสุข การศึกษาจึงต้องพัฒนา
ผู้เรียนให้มีความรอบรู้ มีทักษะท่ีพร้อมรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและวัฒนธรรมจากโลก
ภายนอก โดยยึดหลัก ความพอประมาณ ที่เป็นความพอดีท่ีไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อ่ืนการตัดสินใจที่มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะ
เกิดข้ึน จากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ และมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ซ่ึงเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับ
ผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่
คาดว่า จะเกิดข้ึนในอนาคตทั้งใกล้และไกล โดยใช้ความรอบรูเ้ ก่ียวกับวิชาการตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้องอย่างรอบด้าน

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 37

มีความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความ
ระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจริต อดทน พากเพียร และใช้สติปัญญา
ในการดำเนนิ ชีวิต

4) หลักการมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคส่วน (all for Education) การจัดการศกึ ษาอย่างมคี ณุ ภาพ
และมีประสิทธิภาพให้กับประชาชนทุกคน เป็นพันธกิจท่ีต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน
เน่ืองจากรัฐต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ในการจัดการศึกษาที่ต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ทุกระดับการศึกษา
และทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย สนองความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล
และสนองยุทธศาสตร์ชาติและ ความจำเป็นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐจึงต้องให้
ความสำคัญและสนับสนุน การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ิน เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอ่ืนในการ
จัดการศึกษา โดยบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรต่าง ๆ จะได้รับการส่งเสริมให้เข้าร่วมจัดการศึกษา เสนอแนะ
กำกับ ติดตาม และสนับสนุนการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ตามความพร้อมเพื่อประโยชน์ของสังคม
โดยรวม

5) หลักการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรม การจดั การศกึ ษาใหอ้ ยู่ร่วมกันอยา่ งมคี วามสขุ มี
ความมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาคน ให้มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข โดยเฉพาะการอยู่
ร่วมกันในสังคม พหุวัฒนธรรม เป็นการอยู่ร่วมกันของบุคคลท่ีมีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา
วัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งทัศนคติ ความเช่ือ ดังนั้น การเรียนรู้เพื่อยอมรับในความแตกต่างและความ
หลากหลาย ของสังคมพหวุ ฒั นธรรม จำเปน็ อยา่ งย่งิ ทจ่ี ะตอ้ งเรียนรู้ เพอื่ การอยรู่ ว่ มกันอย่างสันติ

1.2 เป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) เป็น
เปา้ หมายท่ีประเทศสมาชกิ องค์การสหประชาชาติ จำนวน 193 ประเทศไดล้ งมติ รับรองในการประชมุ สมัชชา
ใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. 2558 โดยจะใช้เป็นวาระแห่งการพัฒนา ของโลกในอีก 15 ปีข้างหน้า
(ค.ศ. 2016 - 2030) มีท้ังหมด 17 เป้าหมาย โดยเป้าหมายด้าน การศึกษา คือ เป้าหมายท่ี 4 สร้าง
หลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่า เทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้
ตลอดชีวิตแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องพัฒนาคุณภาพ
และประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของประเทศเพ่ือสร้าง หลักประกันว่าเด็กปฐมวัยทุกคนจะได้รับการเตรียม
ความพร้อมก่อนเข้าเรียนประถมศึกษาทุกคนสำเร็จ การศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาท่ีมีคุณภาพ
และมีผลลัพธ์ทางการเรียนท่ีมีประสิทธิผลทุกคน สามารถเข้าถึงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาด้วย
ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและมีคุณภาพกำลัง แรงงานมีทักษะท่ีจำเป็นรวมถึงทักษะทางเทคนิคและอาชีพสำหรับ
การจ้างงาน การมีงานที่ดีและ การเป็นผู้ประกอบการ กลุ่มผู้พิการและด้อยโอกาสเข้าถึงการศึกษาและการฝึก
อาชีพทกุ ระดับอย่างเท่าเทียม มีการเพ่มิ จำนวนครูทม่ี ีคุณภาพ เพื่อการศึกษาสำหรับการพัฒนาอย่างย่ังยืนและ
การมวี ถิ ีชวี ติ ทยี่ ัง่ ยนื

1.3 ยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ซ่ึงได้กำหนด
เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพ่ือใช้เป็น กรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้
สอดคล้องและบูรณาการกันเพ่ือให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกัน ไปสู่เป้าหมายกรอบยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว
ครอบคลุมนโยบายการพัฒนาประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ (Growth & Competitiveness) การสร้าง โอกาสบนความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม
(Inclusive Growth) และการปรบั สมดุลและ พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ

1.4 แผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ได้กำหนดเป้าหมายของการจัด
การศึกษาของประเทศ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทาง ในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบรู ณาการกันใหเ้ กิด
เป็นพลงั ขับเคลือ่ นร่วมกนั ไปสเู่ ป้าหมาย เปา้ หมายการศึกษาครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ การเข้าถงึ โอกาสทางการ

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 38

ศึกษา (Access)ความเท่าเทียม ทางการศึกษา (Equity)ด้านคุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ
(Efficiency) และการตอบโจทย์ บริบททีเ่ ปล่ียนแปลง (Relevancy)

2 วิสัยทัศน์ (Vision) “ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต
อย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวติ อย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และ การเปล่ยี นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21”

3 พันธกจิ (Mission)
1. เสริมสร้างความมั่นคงแก่สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม

จริยธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนพ้ืนฐานหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ
พอเพยี ง

2. พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับสู่มาตรฐานสากลและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันสู่
ความมั่นคง มั่งคง่ั ยัง่ ยืน

3. พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพ้ืนท่ีให้มีประสิทธิภาพ ตามหลัก
ธรรมาภิบาล

4 เปา้ ประสงคห์ ลกั มน่ั คง
1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดม่ันสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มี

จติ สำนกึ ในความเปน็ พลเมือง มีคุณธรรม จริยธรรม อย่รู ่วมกนั อยา่ งมีความสุข ในสงั คมพหุวฒั นธรรม ม่ังค่ัง
2. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะการดำรงชีวิตในศตวรรษ ที่ 21 โดยเน้น

ทักษะการเรียนรู้ ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน รวมท้ังทักษะการส่ือสาร และเทคโนโลยี สามารถ พ่ึงพาตนเอง
ได้

3. กำลังคนมีคุณภาพมีทักษะท่ีสำคัญและมีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดงาน เป็น
ฐานรองรับการขบั เคลอื่ นประเทศไทย 4.0 ยั่งยนื

4. หน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย
โปรง่ ใส มีการบูรณาการการท างานทกุ ระดับในพื้นที่และมีส่วนร่วมจากประชาชน

5. ผเู้ รยี นทุกกลุ่มเปา้ หมายไดร้ ับบรกิ ารทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทยี ม
6. ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ่ึงพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
5 ยุทธศาสตร์ เปา้ หมาย ตวั ช้วี ัด กลยทุ ธ์ และแนวทางปฏิบัตขิ องกลยุทธ์
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 การศึกษาเพอ่ื เสรมิ สรา้ งความมัน่ คง เป้าหมายเชงิ ยทุ ธศาสตร์
1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลัก
และการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข
2. ประชาชนในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้อยู่ร่วมกันอยา่ งมคี วามสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรม
3. ประชาชนในจังหวดั ชายแดนภาคใต้มคี ุณธรรม จริยธรรม มีความเป็นพลเมอื งไทย และพล
โลก สามารถดำรงตนไดต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั ิของกลยทุ ธ์ตามยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1
กลยุทธ์ที่ 1 เสริมสร้างความภาคภูมิใจ และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และ
พระมหากษตั รยิ ์
1) พัฒนาหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความภาคภูมิใจ ความจงรักภักดี
ตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์
2) ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมท่ีเสริมสร้างความภาคภูมิใจและความ
จงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 39

3) ผลิตสื่อสร้างสรรค์ในทุกช่องทางการสือ่ สารทเี่ สริมสร้างความมน่ั คงแกส่ ถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษตั รยิ ์

4) ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่าน
กระบวนการเรียนการสอนกิจกรรมสภานกั เรยี นและการจดั กิจกรรมเสริมในรูปแบบตา่ งๆ

กลยทุ ธ์ท่ี 2 เสริมสรา้ งการอยรู่ ว่ มกันอยา่ งมคี วามสุขในสงั คมพหุวัฒนธรรม
1) ส่งเสริมให้สถานศกึ ษาจัดการเรยี นรกู้ ารอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมพหวุ ัฒนธรรม
2) ส่งเสริมให้สถานศึกษานำกระบวนการสันติศึกษา ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อการอยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมต่างๆจัดตั้งพัฒนาศูนย์การเรียนรู้หรือแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม จังหวัด
ชายแดนภาคใตใ้ นสถานศึกษา
กลยุทธ์ท่ี 3 ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่เน้นความมีวินัย ในตนเอง ความเป็นพลเมืองไทย
พลโลก และการดำรงตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือความม่นั คงทางดา้ นเศรษฐกิจและ สงั คม
1) พัฒนาผู้นำ ผู้บริหารการศึกษาและผบู้ ริหารสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนผา่ นหลักสูตร
และกิจกรรมการพัฒนาที่หลากหลายเข้มข้น ให้มีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของแต่ละพื้นที่
อย่างต่อเน่อื งย่งั ยนื
2) ส่งเสริมการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรเก่ียวกับคุณธรรมจริยธรรมท่ีสอดคล้องกับวิถีชีวิต
และความเปน็ อตั ลกั ษณ์ของพื้นที่
3) ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ความเป็น
พลเมือง ไทยและพลโลกเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลงใน
อนาคต
4) ปลูกฝังความมีวินัยในตนเองผ่านกิจกรรมต่างๆที่หลากหลายเช่น ลูกเสือ-เนตรนารี
ยุวกาชาด กิจกรรมกีฬาค่ายเยาวชนกลุ่มเยาวชนจิตอาสาอย่างหลากหลาย ภายใต้ความรว่ มมือจากผู้ปกครอง
ชุมชน และผลติ สื่อสร้างสรรค์ในการส่งเสริมการปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม
5) ส่งเสรมิ การน้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสกู่ ารปฏิบตั ิท่ีเปน็ รูปธรรม โดย การ
พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาพอเพียงท่ีย่ังยืน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในสถานศึกษา
และชมุ ชนให้ครอบคลมุ ทกุ พ้ืนที่
ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายเชิง
ยุทธศาสตร์
1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถตามช่วงวัย และมี
ศกั ยภาพ รองรบั การพฒั นาพืน้ ที่ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
2. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตพร้อมรับบริบทการ
เปลยี่ นแปลง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ัติของกลยทุ ธ์ตามยทุ ธศาสตร์ที่ 2
กลยุทธท์ ี่ 1 สง่ เสริมและพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ภาพและมีทกั ษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
1) ส่งเสริมการเรียนรูแ้ ละพัฒนาการเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยการพัฒนา

ศักยภาพของครแู ละผู้สอนการพัฒนาคุณภาพสภาพแวดล้อมและห้องเรียนปฐมวัยการใช้วรรณกรรมเป็น ฐาน
และการพัฒนาการสร้างองค์ความร้แู กผ่ ู้ปกครองและการจดั หาผลิตสอ่ื สร้างสรรค์ทเ่ี หมาะสมกบั การเรียนรูโ้ ดย
การบูรณาการร่วมกนั ของทกุ หนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบท้งั ภาครัฐ สว่ นท้องถ่นิ และเอกชน

2) พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางและ
บริบท ของพ้นื ท่ี

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 40

3) จัดทำและพัฒนาหลักสูตรด้านอาชีพเช่ือมโยงกันต้ังแต่ระดับประถม มัธยมศึกษ า
อาชวี ศกึ ษา อดุ มศกึ ษาการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอธั ยาศยั ตามบรบิ ทของพ้นื ที่

4) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ท่ีจำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ
คิดวิเคราะห์ การสรา้ งและพัฒนานวตั กรรม อาทิ การเรยี นการสอนแบบสะเต็มศกึ ษา การสอนแบบโครงงาน

5) สง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยเนน้ การพัฒนาศูนย์การ
เรยี นรูร้ ะดับตำบล ใหม้ คี วามพร้อมและไดม้ าตรฐาน

6) พัฒนาทักษะการใช้ภาษาแม่ และภาษาท่ี 2 เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู
กลาง ภาษาจนี ภาษาอาหรับ

7) การใช้ICT เพื่อการส่ือสาร การประกอบอาชีพ และการจัดต้ังศูนย์ภาษาและเทคโนโลยี ท่ี
ทันสมัยใหค้ รอบคลุมพนื้ ที่

กลยุทธท์ ี่ 2 ผลิตและพัฒนาครู ให้มีศกั ยภาพ และขีดความสามารถในการจัดการเรียน การสอน
ใหส้ อดคลอ้ งกับบรบิ ทของพื้นที่

1) ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษา กำหนดคุณลักษณะและผลิตครู ให้สอดคล้องกับบริบทของ
พนื้ ท่ี

2) จดั ตัง้ ศูนยพ์ ัฒนาครู บคุ ลากรทางการศึกษา และผู้สอนสำหรบั จังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดย
เน้นอดุ มการณข์ องการเป็นครู

3) ส่งเสริมการพัฒนาครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา ในรูปแบบท่ีหลากหลาย
สอดคล้อง กับความต้องการท่ีแท้จริง เน้นการสร้างเครือข่ายการพัฒนาในรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพ (PLC) และสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาท้ังภาครัฐและ
เอกชน

4) จัดใหม้ ีการนำผลการพฒั นามาใช้ในการปฏิบัตงิ าน พัฒนาประเมินผลการปฏิบัติงานอย่าง
เป็น ระบบครบวงจร

กลยุทธ์ท่ี 3 ส่งเสริมและพัฒนา สื่อการเรียนรู้ต่างๆ แหล่งเรียนรู้ให้มีมาตรฐาน เปิด โอกาสให้
ประชากรทุกช่วงวยั ไดเ้ ขา้ ถึงแหลง่ เรียนรู้ ทีส่ อดคล้องกับบริบทของพืน้ ท่ี

1) จัดหา พัฒนา ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาที่สอดคล้องกับ ความ
ต้องการ จำเป็นและบริบทของพื้นท่ีโดยจัดต้ัง “ศูนย์ผลิต พัฒนาส่ือและเทคโนโลยีการศึกษา” ที่เหมาะกับ
สภาพสังคมโดยความร่วมมอื ของหน่วยงาน ท้งั ภาครัฐ เอกชนและองค์กรเอกชน เพื่อสาธารณประโยชน์ (NGO)

2) สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ท่ีทันสมัย ได้แก่อุทยานการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ทาง
ประวัติศาสตร์ ศูนยก์ ารเรยี นร้ชู มุ ชน ห้องสมุดชมุ ชน

3) ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการรวบรวม อนุรักษ์ และใช้ ปราชญ์ชาวบ้านและภูมิปัญญา
ทอ้ งถ่นิ ทีส่ อดคลอ้ งกับอัตลกั ษณ์ของพ้ืนท่ี

4) ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายสังคมรูปแบบต่างๆ เพ่ือ
สร้าง สงั คมแห่งการเรียนรแู้ ละการเรยี นร้ตู ลอดชีวติ

กลยุทธ์ท่ี 4 พัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้สูงวัยให้สามารถประกอบอาชีพท่ีเหมาะสมกับวัยและ การ
ดำรงชวี ิตอย่างมีความสขุ

1) ส่งเสริมการรวมกลุ่มการเรียนรู้ร่วมกันของผู้สูงวัย โดยการจัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพผู้สูงวัย ใน
ชมุ ชนให้ครอบคลมุ พืน้ ท่ี

2) ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของผู้สูงวัยในชุมชน
ส่งเสริม ให้ผู้สูงวัยท่ีเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ครูผู้ทรงคุณค่าท่ีมีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการ
สอน ในสถานศึกษาตามความสมคั รใจ

ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 การผลติ และพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการแข่งขนั

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 41

เปา้ หมายเชิงยทุ ธศาสตร์
1. ประชากรวัยแรงงานมีทกั ษะและสมรรถนะทั้งความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะด้านอาชพี สอดคลอ้ งกับ
ความตอ้ งการของตลาดงาน และได้รับการสง่ เสริมสนับสนุนสู่ความเป็นเลศิ
2. ประชากรวยั ทำงานมคี วามเชยี่ วชาญ และมคี วามเป็นเลศิ เฉพาะด้าน
กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั ขิ องกลยุทธ์ตามยุทธศาสตร์ที่ 3
กลยุทธ์ท่ี 1 ผลิตและพัฒนากำลังคนท่ีมีคุณภาพและปริมาณให้สัมพันธ์กับความต้องการ ของ
ตลาดแรงงานในพนื้ ทรี่ ะดับประเทศและระดบั สากล

1) ศึกษาและจัดทำข้อมูลความต้องการการผลิตและพัฒนากำลังคน ท้ังด้านปริมาณและ
คุณภาพ ตามนโยบายเมืองต้นแบบสามเหล่ียมมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน และตามกรอบความร่วมมือกลุ่ม
ประชาคม เศรษฐกจิ อาเซียนและสากล

2) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะอาชีพ
ฝมี ือ แรงงานผเู้ รียนสูม่ าตรฐานสากล

3) พัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ สอดคล้องกบั หลักสตู รด้านอาชีพ

4) พัฒนาระบบการแนะแนวให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาครูที่ปรึกษาให้เป็น ครู
แนะแนว และเพิ่มประสิทธิภาพการแนะแนวอาชพี เพ่อื เพ่มิ สัดส่วนผ้เู รยี นสายอาชีพใหส้ ูงขึ้น

5) เพิ่มปรมิ าณผู้เรยี นหลกั สูตรทวิศกึ ษา/ทวิภาคี ภายใต้ความร่วมมือกับสถานประกอบการ
กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากำลงั คนที่มีความเช่ยี วชาญและเปน็ เลศิ เฉพาะดา้ น

1) พฒั นาหลักสตู รสมรรถนะในสาขาที่ตรงกับความต้องการของตลาดและการพัฒนาประเทศ
2) ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนระดับอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะ และมีความพร้อมสู่ความ
ต้องการของตลาดงาน เชน่ อุตสาหกรรมฮาลาล อาหารทะเลแปรรปู
3) พัฒนาหลักสูตรเพ่ือเสริมความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ แบบครบวงจร ทั้งกระบวนการ
ผลิต แปรรปู การจัดจำหนา่ ย การตลาดและการดำเนินการในเชิงธุรกิจ
4) ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษามีความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยการใช้งานวิจัยท้องถ่ินและ
การสรา้ งนวตั กรรม เพื่อเปน็ ฐานในการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมในพ้นื ท่ี
5) สานฝันกีฬา สู่ความเป็นเลิศและอาชีพ พร้อมร่วมกับหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ผลักดันให้มี
การ สรา้ งความพรอ้ มรองรบั การแข่งขนั กีฬาระดบั ภาค ระดบั ชาติและระดบั นานาชาติ
6) ส่งเสริมสนับสนุนการจัดห้องเรียนพิเศษ(ห้องเรียนกีฬา ห้องเรียนศิลปะ ห้องเรียนดนตรี
ห้องเรียนอาชีพ) แผนการเรียนเฉพาะด้าน (แผนการเรียนวิทย์–กีฬา แผนการเรียนศิลป์ภาษา–กีฬา แผนการ
เรยี นศิลป์ –อาชีพ)
7) พัฒนาสถานศึกษาท่ีเน้นการเรียนการสอน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างน้อย
จงั หวัดละ 1 แห่ง
8) พฒั นาระบบการจัดกิจกรรมการแข่งขันวชิ าการให้มีประสทิ ธิภาพเนน้ การดำเนนิ งานท่เี ป็น
ระบบครบวงจรและการมีส่วนร่วมอยา่ งท่ัวถึงของทุกภาคและส่งเสริมการจดั ประกวด แข่งขนั สิ่งประดิษฐ์ และ
นวัตกรรมในประเทศและระหว่างประเทศ
9) พัฒนาสถานศึกษาท่ีมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ให้มีความพร้อม เพื่อยกระดับเป็น
โรงเรียน ที่มีวัตถุประสงค์พิเศษด้านต่างๆ และพัฒนาสู่การศึกษาระดับนานาชาติ และการจัดการศึกษาใน
รูปแบบ โรงเรยี นพักนอนตามความเหมาะสมตามบริบทพ้ืนที่
กลยทุ ธ์ท่ี 3 การเพ่มิ โอกาสการเรยี น และการฝึกอบรมวิชาชพี ให้กบั กลุ่มผอู้ ยูน่ อกระบบ
1) พัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนสมู่ าตรฐานเพื่อยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ของ
ชมุ ชน

กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 42

2) ฝกึ อาชพี ระยะสั้นตามความต้องการของตลาดงาน
3) จดั การเทียบโอนประสบการณ์ในการท างานเพือ่ ให้คณุ วฒุ ทิ างการศกึ ษา
4) ส่งเสริม สนับสนุนอบรมวิชาชีพเพ่ือการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิมหรือสร้างอาชีพใหม่
สำหรบั ผ้ปู ระกอบอาชีพอสิ ระ
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 4 การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทยี มกนั ทางการศกึ ษา
เปา้ หมายเชิงยทุ ธศาสตร์
1. ประชาชนกลุ่มที่ด้อยโอกาสทางสังคมได้รับการช่วยเหลือให้มีความพร้อมในการเข้าถึง
บริการการศกึ ษา
2. ประชาชนไดร้ ับโอกาสในการเข้าถงึ บรกิ ารการศึกษาอย่างมีคุณภาพตอ่ เนื่องตลอดชีวติ
กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั ขิ องกลยุทธต์ ามยุทธศาสตรท์ ่ี 4
กลยทุ ธท์ ี่ 1 ลดความเหลอื่ มล้ำทางการศึกษา
1) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ด้อยโอกาสทุกกลุ่มมีความพร้อมในการศึกษา อาทิ การสนับสนุน
ทุนการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส คนพิการ หรือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทุนการศึกษา
สำหรับผเู้ รียนในการศกึ ษาตอ่
2) ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ใหผ้ ้ดู ้อยโอกาส คนพกิ ารได้รับการศกึ ษาทมี่ ีคุณภาพเสมอภาค
3) การจัดการศึกษาทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาและการสื่อสาร อาทิ DLIT,
DLTV, ETV อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
4) ขยายเครือข่ายบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกพ้ืนพ้ืนที่ เพียงพอกับผู้เรียน
และ จดั ใหม้ ศี นู ยบ์ ริการอินเทอร์เน็ต ในสถานศึกษาทีม่ ีความพรอ้ มในการให้การบริการชมุ ชน
กลยทุ ธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสการเข้าถงึ การศึกษาทมี่ คี ุณภาพอยา่ งเท่าเทยี มและทว่ั ถึง
1) พัฒนาระบบข้อมูลด้านการศึกษาท่ีมีมาตรฐานเช่ือมโยงและเข้าถึงได้ระหว่างหน่วยงาน
การศึกษาและหน่วยภายนอกที่เก่ียวข้องโดยการจัดทำแผนที่การศึกษา (Education Mapping) และ น า
SMART Card มาใช้ในการใหบ้ รกิ ารการศึกษา
2) รณรงค์ให้ประชากรวัยเรียนได้เข้าถึงบริการระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ผ่านการ
ประชาสัมพนั ธ์ เชงิ รุกและความร่วมมือของเครอื ข่ายชมุ ชน และหนว่ ยงานในพน้ื ท่ี
3) เร่งพฒั นาสถานศกึ ษาใหม้ มี าตรฐานการศกึ ษาท่ที ัดเทียมและใกล้เคียงกัน
4) พัฒนาระบบการเทียบโอนผลการเรียนรู้ระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ
การศึกษาตามอัธยาศัย และประสบการณ์จากการทำงาน
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 การจัดการศกึ ษาเพอ่ื เสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชีวติ ทเ่ี ปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม
เป้าหมายยุทธศาสตร์
1. ประชาชนมีองค์ความรู้จิตสำนึกในการใช้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ
สง่ิ แวดล้อม
2. สถานศึกษาชมุ ชนมคี วามเขม้ แขง็ ในการอนรุ กั ษ์ฟ้ืนฟู ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
กลยทุ ธ์และแนวทางการปฏบิ ัติของกลยทุ ธ์ตามยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5
กลยุทธท์ ี่ 1 สง่ เสรมิ สนับสนุนการสร้างจติ สำนกึ รับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม
1) จัดทำหลักสูตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในระดับการศึกษาต่างๆ
ทง้ั ในระบบและนอกระบบ
2) ปลกู ฝงั และสง่ เสริมการสร้างสำนึกรักษส์ ิ่งแวดล้อม
3) พัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับการสรา้ งเสรมิ คุณภาพชีวติ ที่เป็นมิตร
กบั สง่ิ แวดล้อม

กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 43

4) กำหนดมาตรฐานสถานศกึ ษาน่าอยู่น่าเรยี นรู้ และพฒั นาสถานศึกษาเขา้ สูม่ าตรฐาน พร้อม
ทงั้ ยกย่องเชดิ ชเู กียรติสถานศึกษาทผ่ี ่านเกณฑ์มาตรฐาน

5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
สง่ิ แวดล้อม ในสถานศกึ ษาและชุมชน

กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาองค์ความรู้การคิดค้นนวัตกรรมเพ่ือเสริมสร้างคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับ
สิ่งแวดลอ้ ม

1) พฒั นาฐานขอ้ มลู แหลง่ เรยี นร้ทู เี่ กีย่ วขอ้ งกับทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในชมุ ชน
2) สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจในการใชแ้ ละอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม
3) ส่งเสริมให้สถานศึกษา ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรมท่ีเกี่ยวกับการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมุง่ เนน้ การแสวงหาแหล่งพลงั งานใหม่ท่ีเปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดล้อม

ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 การพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการศกึ ษา
เป้าหมายยุทธศาสตร์

1. ผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา มีความปลอดภัยในชีวิต
และทรัพยส์ ิน มขี วัญกำลงั ใจในการปฏิบตั หิ น้าท่ี

2. หน่วยงาน/สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการและมีการทำงานเชิงการบูรณาการกับ ทุก
หนว่ ยงานในพ้นื ท่ีอย่างมีประสิทธภิ าพทันสมัย โปรง่ ใส ตรวจสอบได้

3. ทกุ ภาคส่วนเข้ามามีส่วนในการจดั การศกึ ษาในรูปแบบการสานพลังประชารฐั
กลยทุ ธ์และแนวทางการปฏิบตั ิของกลยุทธต์ ามยทุ ธศาสตรท์ ่ี 6
กลยุทธ์ท่ี 1 รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากร ทาง
การศกึ ษา สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษา

1) สร้างความเขม้ แข็งของเครือขา่ ยทุกภาคสว่ นในการเฝา้ ระวังเหตุการณ์ความไมส่ งบ
2) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่ได้รับรู้ข่าวสารและสร้างความเข้าใจท่ีถูกต้องต่อสถานการณ์
จริง
3) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนท่ีร่วมกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพ้ืนที่ตนเอง
ในการดแู ลชวี ิตและทรพั ย์สินของผ้เู รยี น ครู บุคลากรทางการศกึ ษา สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศกึ ษา
4) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ความไม่สงบในสถานศึกษาและ
หน่วยงานทางการศึกษา
กลยุทธ์ท่ี 2 การเสรมิ สรา้ งขวัญและกำลงั ใจแก่ผ้ปู ฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นพ้ืนทจี่ ังหวัดชายแดนภาคใต้
1) สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าท่ีของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ทกุ ระดับ โดยการยกยอ่ ง เชดิ ชเู กยี รตเิ ป็นกรณีพิเศษสำหรบั พื้นที่จงั หวดั ชายแดนภาคใต้
2) ส่งเสริมให้มีคา่ ตอบแทนพิเศษแก่ข้าราชการครูและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัด
ชายแดนภาคใต้และสง่ เสริมให้ผปู้ ฏบิ ัติหนา้ ที่ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสบรรจุเขา้ รับราชการ เป็นกรณี
พิเศษ
3) ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มี
สวัสดิการดา้ นท่อี ยอู่ าศัย
4) ผลักดันให้มีการกำหนดเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ หรือเกณ ฑ์การประเมิน
ความก้าวหน้า ในวิชาชีพ ของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น
กรณพี ิเศษ
กลยุทธ์ท่ี 3 พฒั นาประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการศึกษา

กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 44

1) พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาแต่ละ
ระดับ ที่ครอบคลุมทั้งมาตรฐาน รปู แบบการประเมินรปู แบบการพัฒนาตามผลการประเมิน และการรบั รอง ผล
การประเมนิ

2) สร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทุกระดับท้ังภาครัฐ เอกชน ให้
สอดคล้อง กับเจตนารมณก์ ารแกป้ ญั หาจงั หวดั ชายแดนภาคใต้

3) พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานทางการศึกษาสู่ความเป็นองค์กรท่ีมี ขีด
สมรรถนะสูง โดยใช้รูปแบบการบริหารสมัยใหม่และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเพ่ิม ประสิทธิภาพการ
บริหารจัดการศึกษาทัง้ ระบบทกุ ระดับสู่ SMART Office

4) ปรบั ปรุงประสิทธภิ าพการตดิ ตาม ประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานทางการศึกษา
และสถานศกึ ษา ใหเ้ ปน็ ระบบครบวงจร

5) สร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาให้เป็นที่ยอมรับ ด้วยการ
สือ่ สาร องค์กร การประชาสัมพันธ์ และการตลาดเชงิ รุกแบบมอื อาชพี

กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริมการท างานเชิงบูรณาการการศึกษากับหน่วยงานทุกระดับและการมี ส่วน
ร่วมการจัดการศึกษา

1) ส่งเสริมให้มีการบูรณาการ การจัดการศึกษาระหว่างหน่วยงานการศึกษาและหน่วยงาน
อ่ืน ในพนื้ ท่ีเพอ่ื ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สุดในการใช้ทรพั ยากรรว่ มกนั

2) สร้างความเข้มแข็งขององค์คณะบุคคลทางการศึกษาและภาคีเครือข่าย ในการบูรณาการ
การพฒั นาคุณภาพการศึกษาในพ้ืนท่ี

3) เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของศูนย์ประสานงานและบรหิ ารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศปบ.จชต.) ให้เป็นองค์กรในการบูรณาการ การจัดการศึกษาทุกระดับทุกประเภท ในพื้นที่ได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ

4) สง่ เสรมิ การมสี ่วนรว่ มการจัดการศกึ ษาของทุกภาคสว่ นในการ “สานพลงั ประชารัฐ”
5) แสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพ่ือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดการศึกษา
ระหว่างกัน และให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อการเช่ือมความสัมพันธ์และการพัฒนาร่วมกันท้ังนี้เน้นการมี
พนั ธสญั ญาทเี่ ป็นรปู ธรรมตอ่ เน่ืองและเป็นประโยชน์ทั้งสองฝา่ ย

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 45

ส่วนที่ ๓ ตารางสรุปบัญชีแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔

ท่ี โครงการ/กจิ กรรม เปา้ หมาย แผนการดำเนนิ งาน รบั จดั สรร แผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ
ท้งั ปี ไตรมาส ไตรมาส งบประมาณท้งั ไตรมาส ไตรมาส
๑ การศึกษาขน้ั พื้นฐาน ๑-๒ ๓-๔ ๑-๒ ๓-๔
๒ โครงการกจิ กรรมสง่ เสริมการรู้หนงั สอื ๓๔๔ คน ๑๗๒ คน ๑๗๒ คน ปี
๓ การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวติ ๕๐ คน ๒๗ คน ๒๓ คน ๐.- ๐.- ๐.-
๔ กิจกรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคม ๔๓ คน ๒๓ คน ๒๐ คน ๑๔,๘๕๐.- ๑๒,๖๕๐.-
๒๘ คน ๑๕ คน ๑๓ คน ๒๗,๕๐๐.- ๒,๖๔๕.- ๒,๓๐๐.-
และชมุ ชน ๔,๙๔๕.- ๖,๐๐๐.- ๕,๒๐๐.-
๕ การจัดกระบวนการเรยี นรู้เศรษฐกจิ ๑๐ คน ๗ คน ๓ คน ๑๑,๒๐๐.-
๒,๔๕๐.- ๑,๔๕๖.-
พอเพยี ง ๔๐๐ คน ๒๐๐ คน ๒๐๐ คน ๓,๙๐๖.-
๖ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ๐.- ๐.-
๒๒๐ คน ๐.-
กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น ๒๐๐ คน ๑๑๐ คน ๑๑๐ คน ๐.- ๐.-
หอ้ งสมดุ ประชาชน ๒๐ คน ๑๐๐ คน ๑๐๐ คน ๐.- ๐.- ๐.-
๗ บ้านหนังสอื ชมุ ชน ๑๖๐ คน ๑๐ คน ๑๐ คน ๐.- ๐.- ๐.-
๘ หนว่ ยบรกิ ารเคล่ือนทรี่ ถโมบาย ๘๐ คน ๘๐ คน ๐.- ๐.- ๐.-
๙ อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ๑๐ คน ๐.-
๑๐ ห้องสมดุ เคลือ่ นท่สี ำหรับชาวตลาด ๗ คน ๔ คน ๖ คน ๓,๖๐๐.- ๕,๔๐๐.-
๑๑ โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน ๗ คน - ๙,๐๐๐.- ๖,๖๘๘.- ๖,๖๘๘.-
จดั อาชพี (๑ อำเภอ ๑ อาชีพ) ๖ คน ๒,๓๗๖.-
พฒั นาอาชพี ระยะสัน้ ๓ คน ๑๔ คน ๑๖ คน ๑๐,๘๐๐.- ๑๑,๐๐๐.-
(กลมุ่ สนใจ ไมเ่ กนิ ๓๐ ชั่วโมง) ๓ คน ๒๑,๘๐๐.-
ชั้นเรียนวชิ าชีพ (๓๑ ช่วั โมงขึน้ ไป) ๔ คน
๑๒ โครงการสง่ เสริมภาษาเพื่อการเรียนรู้ ๒ คน ๒ คน ๒๘,๘๐๐.- ๒,๔๐๐.- ๒,๔๐๐.-
และสอื่ สาร ๗ คน
โครงการฝึกประสบการณ์ภาษาสูก่ าร ๘ คน ๗ คน ๐ คน ๕,๐๓๓.- ๕,๐๓๓.- ๐.-
ประกอบอาชพี ๓๐ คน ๘ คน ๐ คน ๕,๔๗๓.- ๕,๔๗๓.- ๐.-
ฝกึ ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร ๐ คน ๓๐ คน ๗,๙๒๐.- ๐.- ๗,๙๒๐.-
ภาษาไทย ๕ คน
ภาษาตา่ งประเทศ ๓ คน ๒ คน ๖,๐๐๐.- ๓,๖๐๐.- ๒,๔๐๐.-
๙ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คม ๔ คน
ดจิ ทิ ลั ๔ คน ๐ คน ๔,๐๐๐.- ๔,๐๐๐.- ๐.-
๑๐ โครงการภาษาตา่ งประเทศเพ่อื การ
สื่อสารด้านอาชีพ
๑๒ โครงการกฬี า กศน.สาสมั พันธ์
ชายแดนใต้ “กจิ กรรมจัดแขง่ ขันระดบั
อำเภอ”

กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 46

แผนปฏิบตั กิ ารประจ
สำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษา

(งาน/โคร

กศน

ที่ ชื่องาน/โครงการ วัตถปุ ระสงค์ กจิ กรรมหลกั เชิงปร

๑ โครงการสนับสนุน ๑ เพื่อสง่ เสริมให้ผู้เรยี นได้ ๑.สำรวจ/ประชาสัมพนั ธ์ ผเู้ รยี นการศ

ค่าใชจ้ ่ายในการจัด เรียนร้ใู นรูปแบบการศกึ ษา กลุ่มเปา้ หมาย ระบบระดบั

การศึกษาต้ังแต่ นอกระบบ ระดับการศกึ ษา ๒.รับสมัครนักศกึ ษา ขน้ั พื้นฐาน

ระดับอนุบาลจน ขน้ั พื้นฐานทีเ่ หมาะสมกับ ๓.ขนึ้ /ลงทะเบยี นเรียน ของ กศน.ต

จบการศึกษาขนั้ ตนเอง ๔.วางแผนการ ศรีสาคร ไ

พน้ื ฐาน ๒ เพื่อส่งเสริมกิจกรรม ดำเนินงาน รูปแบบการ

พฒั นาคุณภาพผู้เรยี นที่ ๕. ดำเนนิ การจดั กจิ กรรม เหมาะสมก

ภาครัฐให้การสนับสนนุ -จัดกิจกรรมการศกึ ษา ผ่านการจัด

๓ เพื่อส่งเสรมิ การจดั ข้นั พื้นฐาน การศกึ ษาข

กิจกรรมการเรียนรตู้ ลอด -จดั กจิ กรรมพฒั นา ตามหลกั สตู

ชวี ติ ของชมุ ชนโดยใช้ คุณภาพผู้เรียน ได้รับการส

กศน.ตำบล : แหลง่ เรยี นรู้ -จดั ซ้อื หนังสอื เรียน คา่ ใชจ้ ่ายต

ชุมชนใหเ้ กดิ ประโยชน์ ๖.นเิ ทศ/ตดิ ตามผลการ กำหนดไว้

สูงสดุ ดำเนนิ งานกจิ กรรม ๓๔๔ คน

๔ เพื่อสนบั สนนุ ส่ือการ ๗. สรปุ และประเมินผล

เรียนรูใ้ หน้ ักศกึ ษาข้นั การดำเนนิ งานโครงการ

พน้ื ฐาน ๘. รายงานผลตอ่

ผบู้ ังคบั บญั ชา

กศน

จำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
านกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย
รงการในภาพรวม)

น.ตำบลตะมะยงู

ตัวชว้ี ดั ความสำเร็จ เปา้ หมาย งบประมาณ
ริมาณ เชิงคุณภาพ
ประเภท จำนวนกลมุ่ งบอุดหนุน งบรายจ่าย
กลุม่ เป้าหมาย เป้าหมาย(คน) อื่น

ศึกษานอก ร้อยละ ๘๐ ของ -นักศกึ ษา -ประถม - คา่ จดั การเรียน -
บการศึกษา นกั ศกึ ษาการศึกษาข้นั การศกึ ษา ศึกษา
น ทกุ ระดับ พนื้ ฐานทกุ ระดบั ช้ัน มี นอกระบบ ๘ คน การสอน ๐.-บาท
ตำบล ทักษะในการเรียนรู้และ ระดับ -มธั ยมศกึ ษา
ไดเ้ รยี นร้ใู น มคี ุณลกั ษณะอนั พึง การศึกษาขัน้ ตอนต้น - คา่ กิจกรรม
รศกึ ษาที่ ประสงค์ของสงั คม มี พืน้ ฐาน ๑๔๐ คน
กบั ตนเอง ผลสัมฤทธิท์ างการ พฒั นาคณุ ภาพ
ดกิจกรรม เรียนที่สูงขึน้ และมี -มัธยมศึกษา
ข้ันพื้นฐาน คุณภาพ มีคุณธรรม ตอนปลาย ผเู้ รยี น ๐.-บาท
ตร และ จรยิ ธรรม และ อนั จะ ๒๐๔ คน
สนับสนุน นำไปสกู่ ารอยู่ร่วมกัน - ค่าหนงั สอื เรยี น
ตามสิทธิที่ ในชุมชน สังคมได้
จำนวน อย่างมคี วามสขุ เกดิ ๐.-บาท
เรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง
ตลอดชีวิต

รวม ๐.- -
รวมสุทธิ ๐.- -

น.ตำบลตะมะยูง
หน้า 47

แผนปฏบิ ตั ิการประจ
สำนกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษา

(งาน/โค

กศน.

ท่ี ชื่องาน/โครงการ วัตถุประสงค์ กิจกรรมหลกั เชิงปร

๒ โครงการจดั การ ๑. เพอ่ื ส่งเสริมทกั ษะอาชพี ๑.สำรวจกลมุ่ เปา้ หมาย ๑.นักศึกษา
๒.วางแผนการดำเนินงาน/
ศึกษาตลอดชวี ิต การมีงานทำใหผ้ ู้เรยี นใน ประสานงานเครือขา่ ย ศกึ ษาปอเน
ในสถาบนั ศกึ ษา สถาบันศกึ ษาปอเนาะ ๓.เขยี นโครงการเพอื่ ขอ จำนวน๕๒
ปอเนาะ ๒. เพื่อพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ให้ อนุมตั ิ ๒.สถาบันศ
สามารถจัดการศึกษาและ ๔.แตง่ ตงั้ คณะทำงาน ปอเนาะ จ
จดั การเรียนรู้อยา่ งมีคุณภาพ ดำเนนิ งานฝา่ ยตา่ ง ๆ แห่ง

๓. เพ่ือพัฒนาส่ิงแวดล้อม ๕. ดำเนนิ การจัดกจิ กรรม ส่งเสริมแห
บรเิ วณสถาบนั ศึกษาปอเนาะ -สง่ เสรมิ ทกั ษะอาชพี และกจิ กรร
๔. เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนในสถาบัน -ส่งเสรมิ แหลง่ รู้ในสถาบัน ปอเนาะ ๑
ศึกษาปอเนาะและบริเวณ พัฒนา
โดยรอบมคี วามรู้ มที ักษะการ ศกึ ษาปอเนาะ
เขา้ สังคมและอยู่รว่ มกันอย่าง - ๑ ปอเนาะ ๑ โครงการ

พฒั นา
๖.นเิ ทศ/ติดตามผลกจิ กรรม

สนั ตสิ ขุ ๗. สรุปผลการดำเนินงาน

๒. เพื่อส่งเสริมสนบั สนนุ ให้ ๘. รายงานผลต่อ
ผู้บงั คับบัญชา
ผูเ้ รียนในสถาบนั ศึกษา

ปอเนาะเกิดการเรยี นรดู้ ้าน

สุขภาวะ

กศน

จำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
านกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั
ครงการในภาพรวม)

.ตำบลตะมะยงู

ตัวชวี้ ดั ความสำเร็จ เป้าหมาย งบประมาณ

ริมาณ เชิงคุณภาพ ประเภท จำนวนกลุม่ งบดำเนินงาน งบรายจ่ายอืน่

กลุ่มเป้าหมาย เปา้ หมาย(คน) - -กจิ กรรม
ส่งเสริมทักษะ
าในถาบนั -ร้อยละ ๘๐ ของ -นักศึกษาใน ๕๒ คน อาชพี
๑๕,๘๐๐.-
นาะ ผูเ้ รยี นในสถาบันศกึ ษา สถาบันศกึ ษา

๒ คน ปอเนาะ มีคุณภาพ ปอเนาะ

ศึกษา ชวี ิตท่ีดีขึ้น มองเห็น -สถาบนั ศึกษา ๑ แห่ง

จำนวน ๑ ช่องทางในการ ปอเนาะ

ได้รบั การ ประกอบอาชพี

หล่งเรยี นรู้ สามารถดำรงชวี ิตตาม

รม ๑ แนวทางปรชั ญาของ

๑ โครงการ เศรษฐกิจพอเพยี งและ

ใชใ้ นชวี ิตอยา่ งมี

ความสขุ

-ร้อยละ ๑๐๐ ของ

สถาบนั ศกึ ษาปอเนาะ

มีการจัดโครงการ ๑

ปอเนาะ ๑ โครงการ

พัฒนา

รวม - ๓๑,๘๖๕.-
รวมสุทธิ - ๓๑,๘๖๕.-

น.ตำบลตะมะยูง
หน้า 48


Click to View FlipBook Version