วิธีใช้ไหมขัดฟั น
ทำไมต้องใช้ไหมขัดฟัน
1. ไหมขัดฟัน สามารถนำเศษอาหารที่ติดฟันออกได้มากกว่าการ
แปรงฟัน
2. ลดปัญหากลิ่นปากได้จากต้นเหตุ
3. ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับเหงือก และฟัน
4. สุขภาพแข็งแรงขึ้น อายุยืนขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม : ใช้ไหมขัดฟันให้ครบทุกซี่ ก่อนหรือหลังการ
แปรงฟัน อาจจะเริ่มจากซี่ในสุดด้านขวาไปซ้าย จากฟันบนไป
ฟันล่างก็ได้ ไหมขัดฟันที่ใช้แล้ว ควรทิ้งทันที ห้ามนำกลับมาใช้
ซ้ำ เพราะอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อแบคทีเรียได้ บ้วนปากด้วย
น้ำสะอาดหลังการใช้ไหมขัดฟัน หมั่นใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำจน
ชิน เพื่อสุขภาพอนามัยของฟัน และเหงือกที่ดีขึ้น
ข้อดี-ข้อเสีย ของการใช้
ไหมขัดฟัน
ข้อดี
ขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกเหงือกและฟัน ในที่ที่การ
แปรงฟันไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้
ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น คราบแบคทีเรียก่อตัวขึ้นบนผิวฟัน
และเหงือก ฟันผุ โรคเหงือก รวมถึงโรคปริทันต์ที่ทำให้
เกิดอาการเหงือกอักเสบเรื้อรัง เหงือกบวม ระคายเคือง
หากปล่อยทิ้งไว้ และไม่ได้รับการรักษาจะสามารถทำให้
เหงือกร่น และสูญเสียฟันได้ในที่สุด
ป้องกันการเกิดโรคเหงือก โดยเฉพาะผู้ที่แปรงฟัน และใช้
ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ จะมีโอกาสของการเลือดออก
ที่เหงือก และการอักเสบของเหงือกได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ใช้
ไหมขัดฟัน
ข้อเสีย
ในช่วงแรกของการใช้ไหมขัดฟันอาจทำให้รู้สึกเจ็บ และมี
เลือดไหลได้ หรือในกรณีที่ใช้ไหมขัดฟันลึกลงไปใน
เหงือกมากเกินไปก็อาจทำให้เลือดออกได้เช่นกัน สุขภาพ
เหงือกที่ดีจะทำให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น หากยังคงมี
เลือดไหลอยู่หลังจากใช้ไหมขัดฟันแล้ว 2-3 วัน ควรไป
พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสอบ และศึกษาวิธีการใช้ไหม
ขัดฟันที่ถูกต้อง
อาจไม่สามารถเข้าทำความสะอาดได้ในบางกรณี โดย
เฉพาะในผู้ที่มีซอกฟันชิดกันมากเกินไปอาจทำให้เกิดความ
ยากลำบากในการใช้ไหมขัดฟัน
ชนิดของไม้ขัดฟันแบ่งได้ ดังนี้
1. ไหมขัดฟันชนิดเคลือบขี้ผึ้ง
เป็นไหมขัดฟันทั่วไปที่ใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่คนที่หัด
ขัดฟันใหม่ ๆ ไปจนถึงคนที่ขัดฟันระดับมือโปร เพราะไหมขัดฟัน
ชนิดเคลือบขี้ผึ้งใช้งานง่าย ขี้ผึ้งที่เคลือบเส้นใยอยู่ก็ช่วยให้ไหมขัด
ฟันลื่นเข้าร่องฟันได้สะดวก ลดความเสี่ยงเกิดอันตรายบริเวณ
เหงือกโดยรอบได้ด้วย
2. ไหมขัดฟันชนิดไม่เคลือบขี้ผึ้ง
เป็นไหมขัดฟันปกติแต่ที่เส้นใยไม่เคลือบขี้ผึ้ง เป็นตัวเลือก
สำหรับคนที่แพ้ขี้ผึ้งหรือไม่ชอบกลิ่น แต่หากจะเลือกใช้ไหมขัดฟัน
ชนิดนี้ควรเลือกเส้นใยที่ไม่คม เพื่อป้องกันไหมขัดฟันบาดเหงือก
ด้วยนะคะ
ทั้งนี้ นอกจากเส้นไหมชนิดเคลือบขี้ผึ้งและไม่เคลือบขี้ผึ้ง
ก็ยังมีชนิดของใยไหมให้เลือกอีก 2 แบบด้วยกัน คือ
- เส้นใยแบบเส้นกลม ลักษณะเป็นเส้นกลม ๆ คล้ายเส้น
ด้ายแต่เหนียวกว่า มีทั้งแบบเส้นกลมปกติ และเส้นกลมที่จะพองฟู
ขยายตัวเมื่อสัมผัสน้ำหรือน้ำลาย ซึ่งจะช่วยลดความคมของใยไหม
ได้
- เส้นใยแบบเทป ลักษณะเป็นเส้นแบน ๆ มีพื้นที่สัมผัสกับ
ผิวฟันได้มากกว่า
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของไหมทั้ง 2 แบบก็ไม่ได้แตกต่างกัน
มากนัก ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของคนใช้
3. ไหมขัดฟัน Superfloss
ไหมขัดฟัน Superfloss เป็นไหมขัดฟันชนิดพิเศษ
สำหรับคนจัดฟันหรือทำสะพานฟัน เพราะจะประกอบไปด้วย
ส่วนพลาสติกสำหรับสอดเส้นไหมเข้าใต้เหล็กจัดฟันหรือสะพาน
ฟัน และยังมีส่วนเส้นที่เป็นฟองน้ำสำหรับทำความสะอาดเหล็ก
จัดฟันและบริเวณใต้สะพานฟัน รวมไปถึงตัวไหมขัดฟันที่ใช้
ทำความสะอาดซอกฟันตามปกติ
4. ไหมขัดฟันที่ใช้ร่วมกับห่วงร้อยไหมขัดฟัน (Floss
threader)
นอกจากไหมขัดฟัน Superfloss ก็ยังมีไหมขัดฟัน
สำหรับคนจัดฟันชนิดนี้อีกแบบ โดยจะใช้อุปกรณ์ห่วงร้อยไหม
(Floss threader) คู่กับไหมขัดฟันเคลือบขี้ผึ้ง เพื่อนำไหมขัด
ฟันเข้าไปทำความสะอาดบริเวณใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน
หรือซอกฟันที่ติดกับเครื่องมือจัดฟันได้อย่างสะดวกขึ้น
5. ไหมขัดฟันแบบมีด้าม (Floss holder)
เป็นไหมขัดฟันแบบมีด้ามจับแทนการใช้มือ เหมาะ
สำหรับผู้ที่ใช้มือไม่ถนัด ไม่สามารถใช้ไหมขัดฟันทั่วไปได้ หรือ
คนที่อ้าปากได้จำกัด ไหมขัดฟันแบบมีด้ามจะช่วยทำความ
สะอาดซอกฟันได้โดยไม่ต้องแหย่นิ้วเข้าไปควบคุมไหมขัดฟันใน
ปาก
6. ไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water flosser หรือ Oral irrigation)
ไหมขัดฟันนวัตกรรมใหม่ที่ใช้แรงดันน้ำพ่ นทำความ
สะอาดผิวฟันเป็นจังหวะ ซึ่งแรงดันน้ำที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 80-90
PSI ซึ่งเป็นแรงดันน้ำที่ปลอดภัยต่อเหงือก โดยไหมขัดฟันพลัง
น้ำเหมาะกับคนที่จัดฟัน หรือมีเครื่องมือต่าง ๆ ในช่องปาก เช่น
สะพานฟันหรือรากเทียม รวมไปถึงคนที่ไม่สะดวกใช้ไหมขัดฟัน
ทั่วไป
วิธีการใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน
1.ดึงไหมขัดฟันออกมาให้ได้ความยาวประมาณ 12 นิ้ว
2.สอดปลายไหมด้านใดด้านนึง เข้าไปในห่วงของที่ร้อยไหม
ขัดฟัน
3. สอดที่ร้อยไหมขัดฟันที่มีไหมขัดฟันอยู่เข้าไปใต้ลวดจัด
ฟัน เพื่อทำการร้อยให้ไหมขัดฟันเข้าไปอยู่ใต้ลวดจัดฟัน
4.หลังจากที่ไหมขัดฟันอยู่ใต้ลวดจัดฟันแล้ว เอาที่ร้อยไหม
ขัดฟัดออก
5. พั นไหมไว้ที่นิ้วกลางทั้งสองข้าง
6.ใช้นิ้วโป้ง และนิ้วชี้จับที่ไหม ให้มีความยาวของไหมขัดฟัน
7.ขระยหับว่ไาหงมนิข้ึว้นทีล่จังบช้อายๆู่ปแรละมะโาอณบ
ตั2วฟนิั้นวไปด้วยพร้อมๆกัน ทำ
ซ้ำไปซ้ำมา 4-5 ครั้ง ต่อ 1 ซอกฟัน (ระหว่างการใช้ไหม
ขัดฟัน ให้ระวังการดึงไหมด้วย เพราะอาจเกิดการบาด
เหงือกให้เลือดออกได้)
8.เปลี่ยนตำแหน่งไหมไปเรื่อย ๆ พร้อมกับทำความสะอาด
ซอกฟันจนครบทุกซี่ฟัน
9.ควรใช้ไหมขัดฟันทุกๆวัน อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนแปรง
ฟันตอนเย็น
ใช้ไหมขัดฟันกันให้ถูกวิธีด้วย
นะคะ