The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ท่านณัฐพงศ์ เช้า-บ่าย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุพรรณษา สิงห์ซอม, 2021-10-26 12:24:09

ท่านณัฐพงศ์ เช้า-บ่าย

ท่านณัฐพงศ์ เช้า-บ่าย

สภาพปัญหา 51

-นักเรยี นอา่ นไมอ่ อกเขยี นไมไ่ ด้ ซึ่งมีผลตอ่ การเลอ่ื นชั้น (ไม่ถกู ตอ้ ง)
-นักเรยี นอา่ นสระลดรปู ไมถ่ กู ตอ้ งผดิ เพีย้ น (ไม่ถกู ตอ้ ง)
-นักเรยี นไมส่ ามารถบวกเลขสองหลกั ได้ (ไม่ถกู ตอ้ ง)
-นักเรยี นเขียนคาศพั ท์ /หรือสนทนาภาษาองั กฤษไม่ได้ (ไม่ถกู ตอ้ ง)
-นักเรยี นไม่มวี นิ ัย นักเรยี นไมม่ คี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม (ไม่ถกู ต้อง)
-นักเรยี นอา่ นคาควบกลา้ ไมถ่ กู ตอ้ ง (ไม่ถกู ต้อง)
-นักเรยี นรอ้ ยมาลยั ไมไ่ ด้ ร้อยไมส่ วย (ไม่ถกู ต้อง)
-นักเรยี นเลน่ วอลเลยบ์ อลไมเ่ ก่ง (ไม่ถกู ตอ้ ง)
-คะแนนประเมินการทดสอบอา่ นไมผ่ า่ นเกณฑท์ กี่ าหนด (ใช่)
-นักเรยี นมผี ลคะแนนจากการทดสอบไมผ่ า่ นเกณฑ์ (ใช่)
-นักเรยี น มีคะแนนเฉลยี่ หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง..... ไม่ผ่านเกณฑท์ กี่ าหนด (ใช่)
-นักเรยี นมผี ลการประเมินทกั ษะ ..... ไม่ผ่านเกณฑท์ กี่ าหนด (ใช)่
-

52

ตัวอยา่ งประเด็นท้าทาย

-หลักสูตรซ่อมเสรมิ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการอา่ นของผเู้ รยี น
-การพฒั นาชดุ ฝกึ การอา่ นสระลดรูปสาหรบั ชนั้ ประถมศกึ าปที ี่ 1
-การพฒั นาความสามารถในการอา่ นคาควบกล้าด้วยการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือกนั เรยี นรู้
-การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิ เร่ืองการบวกเลขสองหลกั ดว้ ยการจดั การเรยี นรแู้ บบ BBL
-ชดุ การเรยี นรเู้ พอ่ื ส่งเสรมิ ความสามารถในการสอื่ สารและสนทนาภาษาอังกฤษฯ
-การพฒั นาทกั ษะการอา่ นดว้ ยสอ่ื การสอน สามมติ ิ (POP UP) เพ่ือแกป้ ัญหาดา้ นการ
อ่านของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
-การพฒั นาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี น หน่วยที่ ๔ สารในชวี ิตประจาวนั กลุ่ม
สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยโี ดยใชร้ ูปแบบการจดั การเรยี นรู้ซปิ ปา
(CIPPA Model)

ตวั อยา่ งประเด็นท้าทาย

-การพัฒนาผลสมั ฤทธก์ิ ลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเปน็ (มโนทศั น์
ทางคณิตศาสตร)์ ของนกั เรียนระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ด้วยชดุ การเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ร่วมกบั การใชโ้ ปรแกรม Quizizz รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน 4 รหัสวชิ า
ค32104 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
-การแกป้ ญั หาการขาดทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ และความสาคัญของสถานการณด์ า้ น
สิ่งแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
-การพฒั นาทักษะการคิดของนกั เรียน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์
-การจัดทาคมู่ ือ ..........

53

ดร.ณฐั พงศ์ ฉลาดแย้ม 098-3625416 [email protected] https://drnat.thai.ac/ 54

นวัตกรรม ทจี่ ะนำไปแก้ปั ญหำ ตอบโจทย์การแกป้ ญั หา

 รูปแบบการสอน/การจดั การเรยี นรู้ ใหม่
 วธิ กี ารสอน กระบวนการ
 สอ่ื /เคร่อื งมือการสอน/เทคโนโลยี
 หลกั สูตร

ทาใหค้ ุณภาพและประสทิ ธิภาพ ของการจดั การศึกษา
/การเรยี นการสอนสูงข้ึนกวา่ เดิม

รูปแบบและแนวคดิ การจดั การเรียนรู้ทค่ี รูผู้สอน
สามารถนามาใช้ในการจดั การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21

1. รปู แบบการจัดการเรียนร้โู ดยยึดผเู้ รียนเปน็ ศนู ย์กลางโมเดลซิปปา (CIPPA Model)
2. รปู แบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle Learning Model)
3. รปู แบบการจัดการเรียนร้ตู ามวฏั จักรการเรียนรู้ (4 MAT Cycle Learning Model)
4. รปู แบบการจดั การเรียนร้กู ระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ (Synectic Learning Model)
5. รูปแบบการจัดการเรียนรูโ้ ดยนาเสนอมโนมติล่วงหน้า (Advance Organizer Model
6. รปู แบบการจัดการเรียนรโู้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning Model)
7. รปู แบบการจดั การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning Model)
8. รปู แบบการจัดการเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน (Brain-Based Learning Model)

รูปแบบและแนวคดิ การจดั การเรียนรู้ทค่ี รูผู้สอน
สามารถนามาใช้ในการจดั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

10. รปู แบบการจดั การเรียนรูแ้ บบ SSCS (SSCS Learning Model)

11. รปู แบบการจดั การเรียนรทู้ ีเ่ น้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
(Learning Management Emphasizing Critical Thinking Model)

12. รูปแบบการจดั การเรียนร้ทู ี่เนน้ การคิดวิเคราะห์
(Learning Management Emphasizing Analytical Thinking Model)

13. รูปแบบการจัดการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้ 5 ชนั้ (5 STEPs Learning Model)
14. การจัดการเรียนร้โู ดยใชว้ ิธีการแบบเปิด (Opened Approach)

การจดั การเรียนรเู้ ชิงรกุ

Active Learning

15. รปู แบบการจัดการเรียนรแู้ บบรว่ มกนั (Collaborative learning)
16. รปู แบบการจัดการเรียนรแู้ บบร่วมมือ (Cooperative Learning) 8 รปู แบบ
17. รูปแบบการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning)
18. รูปแบบการจัดการเรียนร้เู พื่อการสื่อสาร (Communicative Approach)
19. รูปแบบการจัดการเรียนรูผ้ า่ นการทางาน (Work-based Learning)
20. รปู แบบการจัดการเรียนรดู้ ว้ ยกิจกรรมเปน็ ฐาน (Activity-based Learning)
21. รปู แบบการจดั การเรียนรเู้ ชิงประสบการณ์ (Experiential Learning)
22. รปู แบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Constructivism
23. รูปแบบการจัดการเรียนรแู้ บบขน้ั บันได(IS)

นวตั กรรมทีเ่ ลือกมาเปน็ ประเดน็ ทา้ ทาย

ชุดการสอน/ชดุ การเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบตั ิ ชุดฝึก ชุดฝึกปฏิบตั ิ
ใบงาน แบบฝึก บทเรียนสาเรจ็ รปู ค่มู ือ เอกสารการสอน
เอกสารประกอบการเรียน หนังสือเสริมประสบการณ์
ชุดเกม ชุดเพลง การ์ตนู เอกสาร แผ่นป้ายนิเทศ แถบ
บนั ทึกเสียง CD VCD DVD E-Book ระบบ E-Learning
การเรียนออนไลน์ผ่านเวบไซต์ ฯลฯ

การออกแบบการทดลอง แบบแผนการทดลองแบบ One – Shot Case Study มงุ่ เนน้ การวิจัยเชงิ
ทดลองกับกลมุ่ ทดลองเพยี งกลุม่ เดียวเทา่ นน้ั โดยดาเนนิ การทดลองแลว้
ข้อเสนอในประเดน็ ทา้ ทาย ศกึ ษาผลทเี่ กิดขึ้นกับตัวแปรตาม วา่ เกดิ การเปลีย่ นแปลงหรือไม่ อย่างไร

One short case study X หมายถึง การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้......../นวัตกรรม
XO O หมายถึง ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน/ผลลพั ธ์/คะแนนสอบ

ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80

คา่ สถิตทิ ่ีเสนอ ครงั้ น้ี ไดแ้ ก่

1. ยอดรวม (Total) คือ การนาข้อมูลสถิตมิ ารวมกนั เป็นผลรวมท้งั หมด เชน่ จานวนนกั เรียนทั้งหมด ในระดับสายชนั้ จานวนนกั เรยี น
ทั้งหมดทเี่ รยี นในรายวิชาหนงึ่ จานวนนักเรยี นทง้ั หมดท่สี อบไมผ่ า่ น เปน็ ต้น
2. คา่ เฉลย่ี (Average, Mean) หมายถงึ ค่าเฉล่ยี ซง่ึ เกดิ จากข้อมลู ของผลรวมทง้ั หมดหารด้วยจานวนรายการของข้อมลู เช่น การวดั
ประเมนิ ผลด้วยแบบทดสอบกบั นักเรียน จานวน 20 คน คะแนนเตม็ 30 นาผลคะแนนทดสอบทกุ คนมารวมกนั และหารด้วยจานวน 20
จะไดค้ า่ เฉลี่ย X
3. อตั ราร้อยละหรือเปอรเ์ ซนต์ (Percentage or Percent) คอื สดั สว่ น เมอ่ื เทยี บต่อ 100 การคานวณก็ทาไดง้ ่าย โดยเอา 100 ไปคูณ
สัดส่วนที่ตอ้ งการหาผลลพั ธก์ จ็ ะออกมาเป็นรอ้ ยละ หรอื เปอรเ์ ซ็นต์ เชน่ แบบทดสอบ 8 ข้อ นักเรยี นทาได้ 5 ข้อ ,5/8 x 100 = 62.5

60

การหาคา่ ร้อยละ

รอ้ ยละ = (ผลรวม * 100)/คะแนนทั้งหมด เชน่ ผลรวม = 54 คะแนนท้งั หมด = 200 =(54*100)/200 =xxx

ประเดน็ ท้าทาย

จุดประสงค์/เป้าหมาย

ผลลพั ธ์

61

ตวั อย่าง

แต่ละคนจะเขยี นไม่เหมือนกนั ตามกรอบความคาดหวงั วทิ ยฐานะ และวชิ าท่สี อนของแต่ละคน











ดร.ณฐั พงศ์ ฉลาดแย้ม 098-3625416 [email protected] https://drnat.thai.ac/ 68

ผลลัพธ์การพัฒนาทคี่ าดหวัง

รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป

ดร.ณฐั พงศ์ ฉลาดแย้ม 098-3625416 [email protected] https://drnat.thai.ac/ 69

70

งานทีป่ ฏบิ ัติตามมาตรฐาน ตาแหนง่ ครู

ลักษณะงาน :

1. ดา้ นการจัดการเรยี นรู้
2. ด้านการสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจัดการเรียนรู้
3. ดา้ นการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ



72

การเรยี นรู้ (Learning)

หมายถึง กระบวนการเรยี นรู้ (Learning Process) กับ ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome)

Learning

Process of Learning Learning Outcomes

การเรยี นรเู้ ชิงรกุ

(Active Learning)

กระบวนการเรยี นรู้ สร้าง ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้

(Learning Process) (Learning Outcome)

Think Process Affective Group Process 1. ความรู ้ (K)
Process 2. กระบวนการ/ทกั ษะ (P/S)
คแทกสกอื่าิดักป้รสษใาญัชะร้ หIาCT Team 3. คุณลกั ษณะ/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ จรยิ ธรรม (A)
คคคคววววาาาามมมมใสพสฝนนอร่ ใกุใู้จจ Co-operation
Collaboration +

ผลผลติ

รายละเอียดการปฏบิ ัติ

งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชีว้ ัด (Indicators)

ลักษณะงาน

ดา้ นการจดั การเรยี นรู้ สร้างหลกั สตู รเพอื่ พฒั นาทกั ษะ นักเรยี นมพี ฒั นาการสมรรถนะ 1. ผู้เรียน ร้อยละ 60 มีพัฒนามกี ารพฒั นาทกั ษะ
การอา่ นของผเู้ รยี น ทักษะการอา่ น การอา่ น
ดา้ นการสง่ เสรมิ และ 2. ผู้เรียน ผูป้ กครอง และชุมชน มีสว่ นรว่ ม ร้อยละ 80
สนับสนนุ การจดั การเรยี นรู้ วเิ คราะหผ์ เู้ รยี นและสรา้ งระบบ 1. มีขอ้ มลู นร.รายบคุ คล
พี่ชว่ ยนอ้ ง เพือ่ นชว่ ยเพอื่ น 2. มีพื้นทที่ ากจิ กรรมสรา้ ง 1. ร้อยละ 100 ของขอ้ มูล
ด้านการพฒั นาตนเอง สัมพนั ธภาพใหก้ บั ผเู้ รยี นรจู้ กั กนั 2. Feedback ความพงึ พอใจจากผเู้ รยี น
และวิชาชพี 1. ศึกษาจติ วทิ ยาการเรยี นรขู้ อง 1. ได้วธิ กี ารจดั การเรยี นรทู้ ี่ ผู้ปกครองและชมุ ชน สูงกวา่ ระดบั มาก
เดก็ แตล่ ะวยั หลากหลาย
2. ศกึ ษาหลกั สตู รสมรรถนะ 2. นักเรยี นได้เรยี นรจู้ ากครู 1. จานวนแนวทาง/ไอเดีย
3. ร่วมชุมชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี 2. ครูตา่ งโรงเรยี นมสี ว่ นรว่ ม
PLC

ประเดน็ ทา้ นทาย การสรา้ งหลักสูตรเพือ่ พัฒนาทักษะการอา่ นของผเู้ รียน





















10 ขอ้ ดขี องระบบ PA

1.“ลด”ความซ้าซ้อนของการประเมนิ
2.“ละ”ความสนใจจากมหกรรมประกวดแขง่ ขัน
หนั มาเอาใจใสเ่ ด็กทกุ คน
อย่างเท่าเทยี ม
3. “เลกิ ”สะสมแฟ้ม โล่ รางวลั ป้ายไวนิล ฟวิ เจอร์บอรด์
และการขนึ ป้ายรอบรวั โรงเรียน

10 ขอ้ ดีของระบบ PA

4. “หลกี ” การลา่ ใบประกาศฯ การนับ ชม.อบรม
หรือ ชม.PLC ที่จริง ๆ ไมไ่ ดท้ ้า
5. “เล่ยี ง” การวดั คุณภาพจาก คะแนน O-NET
เพราะบรบิ ทโรงเรยี น ห้องเรยี น และผเู้ รยี นไม่
เหมือนกัน

10 ข้อดีของระบบ PA

6. “รวดเรว็ ” ใช้ระบบออนไลน์ ไมต่ อ้ งรอผลเปน็ ปีๆ
ส่งใหม่ได้ทกุ ภาคเรยี น
7. “โปรง่ ใส” ผ้ปู ระเมินทุกคนต้องผ่านการพฒั นา
ใชร้ ะบบการสมุ่ ไมต่ ้องวิง่ เขา้ หา ลบู หนา้
ปะจมูก ต้อนรับขบั สู้ ดูแลเอาใจ
)

10 ข้อดีของระบบ PA

8. “ไม่ตอ้ งเสียเงิน” ไม่ตอ้ งจ้างใครท้าวิจยั (หรอื จา้ งใครมาถ่ายคลปิ เพราะ
ประเมินจาก
คณุ ภาพการสอน ไม่ใช่ ประเมินคณุ ภาพคลิปทส่ี ง่ มา)
9. “ยตุ ิธรรม” แยกตัวชวี ดั การประเมนิ ตามลกั ษณะหอ้ งเรยี น (สามญั
ปฐมวัย กศ.พิเศษ กศน. อาชวี ะ) เม่ือไดแ้ ลว้ ไม่ขึนหิง มีการประเมนิ เพ่ือ
คงวิทยฐานะตามระดบั ดแู ลครใู นพนื ท่ยี ากลา้ บาก ครทู ี่พฒั นาตนเอง
และมคี วามสามารถ

10. “ผลลพั ธเ์ กดิ กบั ผู้เรียน” อยา่ งแท้จริง

Process C

เวบไซต์

https://drnat.thai.ac/?fbclid=IwAR3t1oYwHpSFInDXRTvemGOYQww9rHPVD_pFvC5dNrVcFWwTDx3EBJgPqeU

91

ตามเยี่ยมชมทีแ่ ฟนเพจนะครบั

https://web.facebook.com/DR.NONG.NEWLOOK/

ตดิ ต่อตรงนี้

Email : [email protected]
เบอรโ์ ทร : 0983625416
Facebook : ศน. ณฐั พงศ ์ ฉลาดแยม้

https://www.youtube.com/channel/UCopyII8BnnF9gQsDYNSm3Rg?view_as=subscriber

ดร. ณัฐพงศ์ ฉลาดแยม้
สาขาหลักสูตรและการเรียนการสอน

สพป. อดุ รธานี เขต 1

Process C


Click to View FlipBook Version