: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า ก
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า ก คํานํา สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัย ในระดับ พื้นที่ ประจำาปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จึงได้มีการคัดเลือกประเมินผลวิธีปฏิบัติ ที่เป็นเลิศ (Best Practice) ระดับ ปฐมวัย ปีงบประมาณ ๒๕๖๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนงานวิจัย/นวัตกรรม รวมถึงความก้าวหน้า ทางวิชาการในการศึกษาระดับปฐมวัย ตลอดจน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสถานศึกษาพัฒนาเด็กปฐมวัย จํานวน ๓ ด้าน คือ (๑) ด้านการบริหารจัดการศึกษาระดับปฐมวัย (สําหรับผู้บริหาร) (๒) ด้านการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ระดับปฐมวัย (สําหรับครูผู้สอน) (๓) ด้านนวัตกรรมการนิเทศการศึกษาระดับปฐมวัย สําหรับ ศึกษานิเทศก์) ในการนี้ผู้จัดทําได้นําเสนอเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาคัดเลือกผลงาน วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการบริหารจัดการศึกษาระดับปฐมวัย (สําหรับผู้บริหาร) ของโรงเรียนปราสาท ขอขอบคุณ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง ศึกษานิเทศก์ และผู้มีส่วน เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม ในการจัดทําเอกสารฉบับนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนําไปประยุกต์ใช้ในการ บริหารจัดการของโรงเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป นายนิติธร ผะงาตุนัตถ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองปราสาท ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนปราสาท QR-code วีดีทัศน์ QR-code เล่มผลงาน QR-code E-Book
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า ข สารบัญ เรื่อง หน้า ปก คํานํา ก สารบัญ ข แบบนําเสนอผลงาน / นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๑ ๑. ความสําคัญของผลงาน / นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๑ ๑.๑ ความเป็นมาและความสําคัญ ๑ ๑.๒ แนวทางในการพัฒนา ๒ ๒. จุดประสงค์และเป้าหมายของผลงาน / นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๔ ๒.๑ การกําหนดจุดประสงค์ของการดําเนินงาน ๔ ๒.๒ เป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในการจัดทําผลงาน ๔ ๓. กระบวนการหรือขั้นตอนการดําเนินงาน ๕ ๓.๑ การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม ๕ ๓.๒ การดําเนินงานตามกิจกรรม ๖ ๓.๓ ประสิทธิภาพของการดําเนินงาน ๑๔ ๓.๔ การใช้ทรัพยากร ๑๔ ๔.ผลการดําเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่จะได้รับ ๑๕ ๔.๑ ผลที่เกิดตามจุดประสงค์ ๑๕ ๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ของงาน ๑๖ ๔.๓ ประโยชน์ที่เกิดจากนวัตกรรม ๒๐ ๕. ปัจจัยความสําเร็จ ๒๐ ๖. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned) ๒๐ ๗. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ ๒๑ ๗.๑ การเผยแพร่ ๒๑ ๗.๒ รางวัลที่ได้รับ ๒๓ ๘. การขยายผล ต่อยอด หรือประยุกต์ใช้ผลงาน นวัตกรรม หรือวิธีปฏิบัติ ๒๓ ๘.๑ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการถอดบทเรียน ๒๓ ๘.๒ การเรียนรู้เพื่อการต่อยอด และการขยายผล ๒๔ ๙. ภาคผนวก ๒๕
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 1 การนําเสนอกระบวนการและวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการบริหารจัดการศึกษาระดับปฐมวัย (ผู้บริหาร) ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๖ ๑. ชื่อผลงาน : การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ๒. ชื่อผู้นําเสนอผลงาน : นายนิติธร ผะงาตุนัตถ์ ตําแหน่ง : ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองปราสาท ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ E – mail : [email protected] เบอร์โทรศัพท์ : ๐๘๓-๓๖๔๖๙๕๖ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ความสําคัญของผลงาน / นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๑.๑ ความเป็นมาและความสําคัญ ตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๕๐) ได้กําหนดเป้าหมายการพัฒนาคนในทุกมิติทุกช่วงวัย ให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม การเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม มีแนวทางในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการ สมรรถนะ และคุณลักษณะที่ดีสมวัยทุกด้าน ซึ่ง สอดคล้องกับ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ สําหรับเด็กอายุ ๓ – ๖ ปี เป็นการจัดการศึกษาใน ลักษณะการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษา เด็กจะได้รับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญาตามวัยและความสามารถของแต่ละบุคคล นโยบายปฏิรูปการศึกษา ให้ความสําคัญกับการจัดการศึกษา มุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร ซึ่งเป็นไปตามการดําเนินงานตาม นโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านโอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คือ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ ๓ - ๖ ปีทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ เรียนรู้ และการดูแลป้องกัน เพื่อให้มีพัฒนาการครบทุกด้าน โดยการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (นโยบาย สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖) จากการประเมินพัฒนาการการจัดการศึกษาปฐมวัย ของโรงเรียนปราสาท ปีการศึกษา ๒๕๖๕ พบว่า พัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๑ - ๓ มีผลการ ประเมินพัฒนาการ แยกรายด้าน ดังนี้ (๑) ด้านร่างกาย อยู่ในระดับคุณภาพ ๓ คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๙๒ อยู่ในระดับ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๒.๐๘ อยู่ในระดับ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 2 (๒) ด้านอารมณ์ – จิตใจ อยู่ในระดับคุณภาพ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ อยู่ในระดับ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐ อยู่ในระดับ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐ (๓) ด้านสังคมในอยู่ระดับคุณภาพ ๓ คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๘๓ อยู่ในระดับ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๔.๑๗ อยู่ในระดับ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐ และ (๔) ด้านสติปัญญา อยู่ในระดับคุณภาพ ๓ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ อยู่ ในระดับ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐ อยู่ใน ระดับ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐ (รายงานสถานศึกษา SAR ปีการศึกษา ๒๕๖๕) สรุปได้ว่าผลการประเมินพัฒนาการ เด็กปฐมวัยอยู่ในระดับดีเลิศ ตามกําหนดที่โรงเรียนได้ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ยังมีบางด้านที่มีผลการประเมินที่ ลดลง การวิเคราะห์สภาพปัญหา จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา ของโรงเรียนจาก หน่วยงานภายนอกและรายงานการ พัฒนาการศึกษา ยังมีบางส่วนที่ทางโรงเรียนต้องนํามาพัฒนา คือ การเพิ่มและ พัฒนาเทคนิคของการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ให้ดียิ่ง ขึ้นไปด้วยการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาปฐมวัยอย่าง ต่อเนื่อง ทางโรงเรียนจึงนํามากําหนดนโยบาย โดยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาร่วมกัน จัดทํา นโยบาย ของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนนั้น คือรูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับ ปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการบริหารแบบมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วม รับผิดชอบ ร่วมปฏิบัติ ฯลฯ เพื่อพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน และปรับปรุงแก้ไขนักเรียนให้สามารถพัฒนาได้เต็มตามศักยภาพ โดยนําแนวคิดในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียน เป็นฐาน (SBM : School Base Management) มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการจนทําให้ประสบผลสําเร็จและ เป็นประจักษ์ต่อสาธารณชน ซึ่งในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานนั้น “การมีส่วนร่วม” เป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้ การบริหารสถานศึกษาประสบผลสําเร็จ จากเหตุผลและความสําคัญที่กล่าวมานั้นจึงได้นําความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจนการแสวงหาความรู้จาก แนวคิด ทฤษฎี ในการบริหารจัดการด้านการศึกษา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา ตลอดจนนโยบาย การศึกษา จุดเน้นของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นํามาสร้างนวัตกรรมทางด้านการบริหาร สถานศึกษา รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นหลักการและแนวทางในการบริหารการพัฒนาการจัดการศึกษาระดับ ปฐมวัย อันจะนําไปสู่ การพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ๑.๒ แนวทางในการพัฒนา รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ มีกรอบแนว ทางการพัฒนาตามวงจรคุณภาพของเดิมมิ่ง ใน ๔ ขั้นตอน ดังนี้
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 3 ภาพประกอบ : กรอบแนวคิด
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 4 ๒. จุดประสงค์และเป้าหมายของผลงาน / นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๒.๑ การกําหนดจุดประสงค์ของการดําเนินงาน ๒.๑.๑ เพื่อให้เด็กปฐมวัยของโรงเรียนปราสาท มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านเต็มตามศักยภาพและมีความพร้อม ในการเรียนในระดับสูงขึ้น ๒.๑.๒ เพื่อพัฒนาผู้บริหาร ครูปฐมวัยในโรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุรินทร์ เขต ๓ มีความเข้าใจในการจัดการศึกษาปฐมวัย ๒.๑.๓ เพื่อพัฒนาการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้แบบรูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของโรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ๒.๒ การกําหนดเป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพของการดําเนินงาน ๒.๒.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ - ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนปฐมวัย มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านเต็มตามศักยภาพและมีความพร้อมใน การเรียนในระดับสูงขึ้น - ร้อยละ ๘๐ ของผู้บริหาร ครูปฐมวัยในโรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มีความเข้าใจในการจัดการศึกษาปฐมวัย ๒.๒.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ - นักเรียนปฐมวัย มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านเต็มตามศักยภาพและมีความพร้อมในการเรียนใน ระดับสูงขึ้น - ผู้บริหาร ครูปฐมวัยในโรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มีความเข้าใจในการจัดการศึกษาปฐมวัย
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 5 ๓. กระบวนการหรือขั้นตอนการดําเนินงาน ๓.๑ การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม ผู้บริหารสถานศึกษาร่วมกับ ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และนักเรียน โรงเรียนปราสาทได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ และออกแบบนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาการจัดการ เรียนรู้ กรอบแนวคิดในการพัฒนาที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับปัญหา แนวคิด หลักการทฤษฎีที่ใช้วิธีการ พัฒนา และผลสำเร็จที่พึงประสงค์ ดังนี้ นวัตกรรม PS2 T MODEL P = Participlant (การมีส่วนร่วม) การมีส่วนร่วมของ ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ครู และผู้ปกครอง หน่วยงานอื่น ๆ S = Supervision (การนิเทศ) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ S = Support (การสนับสนุน) การสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ T = Tectnology (การใช้เทคโนโลยี) การนำเทคโนโลยีไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วงจรคุณภาพ PDCA P = Plan คือ การวางแผน การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน วิธีการและขั้นตอนที่ จำเป็น เพื่อให้การดำเนินการประกันคุณภาพบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 6 D = Do คือ การปฏิบัติงานให้บรรลุตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ การดำเนินงานต่าง ๆ เป็นไปตามขั้นตอน หรือระบบงานที่ออกแบบหรือกำหนดไว้ โดยหน่วยงานนั้น ๆ จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลและบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติงานไว้ด้วย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินในขั้นตอนต่อไป C = Check คือ การติดตาม ตรวจสอบ ระบบกลไกของการดำเนินงาน รวมทั้งผลการปฏิบัติงานเป็นไป ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ หากมีปัญหาหรือจุดอ่อนของการดำเนินงาน ควรได้มีการค้นหา สาเหตุและวางมาตรการในการแก้ไขต่อไปเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพของงานต่อไป A = Act คือ การปรับปรุงพัฒนา ในการดำเนินงาน เพื่อเกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น ๓.๒ การดําเนินงานตามกิจกรรม การนํารูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของโรงเรียนปราสาท สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ สู่การดําเนินงานตามกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัย มีดังนี้ ๓.๒.๑ ขั้นวางแผน (P : Plan) P - Participlant (การมีส่วนร่วม) มีการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับ การเรียนการสอนในหน่วยการเรียนรู้ต่าง ๆ หรือ จะเป็นปัญหาทางด้านพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาทั้งเชิง ปริมาณ และเชิงคุณภาพ เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุของปัญหา ลักษณะของปัญหา เพื่อจะได้หาแนวทางแก้ปัญหานั้น ๆ ที่จะนำไปใช้ในการกำหนดวิธีการแก้ปัญหา หรือพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ ๑.๑ การวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นในการเรียนจัดการเรียนรู้ เช่น ปัญหาที่ตัวเด็ก ได้แก่ ความสามารถในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่โดดเด่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้ดีขึ้น หรือปัญหาพฤติกรรมเด็ก พัฒนาการเด็ก เช่น การขาดวินัย การคิด และทักษะการชีชีวิต โดยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษา สังเกตพฤติกรรมเด็ก เป็นต้น ๑.๒ ใช้วิธีการประเมินเด็กโดยการสังเกต การสัมภาษณ์ การเก็บรวบรวมผลงานที่เด็กแสดงออก เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการของเด็กในระดับต่อไป โดยวิธีการประเมินผลดังนี้ - การสังเกตพฤติกรรมของเด็ก โดยครูเป็นผู้สังเกตขณะเด็กทำกิจกรรม - การบันทึกพฤติกรรมของเด็กโดยการสัมภาษณ์ - สานสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียนโดยผ่านสมุดรายงานพฤติกรรม - สอบสัมภาษณ์พฤติกรรมเด็กจากผู้ปกครอง
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 7 - การให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมของเด็ก - การสนทนาโต้ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเหมาะสม - การนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน - การรวบรวมผลงานในรูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการวางแผนปรับ กระบวนการเรียนรู้ และพัฒนากิจกรรม รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมการศึกษา ให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน หรือแต่ละ กลุ่มที่ครูผู้สอนต้องการพัฒนาตามกระบวนการเรียนรู้ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ๓.๒.๒ ขั้นดําเนินการ (D : Do) การดําเนินงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มีดังนี้ S – Supervision (การนิเทศ) โดยการที่ผู้บริหาร ครู และผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันวางกำกับ ติดตาม การดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาของเด็ก มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ดังนี้ ศึกษาหลักการ จุดมุ่งหมาย คุณลักษณะตามวัย และโครงสร้างหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เพื่อให้ทราบเนื้อหาการจัดประสบการณ์ วัสดุ อุปกรณ์ จัดทำแผนการจัด ประสบการณ์ วิเคราะห์ผลการประเมินพัฒนาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ และนำผลการประเมินพัฒนาการ ทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา มาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางการ พัฒนาเด็กต่อไป หลักสูตรให้มีความสมบูรณ์ ๑. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach สําหรับเด็กปฐมวัย Project Approach เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรูปแบบหนึ่ง ที่ให้โอกาสผู้เรียนเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่ ตนเองสนใจในสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ ตั้งคําถามในสิ่งที่ยังต้องการเรียนรู้หา คําตอบ รวมทั้งดําเนินการวางแผนสํารวจ สืบค้น สืบเสาะ บันทึก คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และคิดอย่างมี วิจารณญาณ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล และความรู้ต่าง ๆ เรียนรู้เพิ่มเติมด้วยประสบการณ์ตรงหลากหลายวิธี ผู้เรียนและ ครูร่วมกันสรุปเรียบเรียงขั้นตอนการเรียนรู้ และสิ่งที่เรียนรู้ออกมาเป็นชิ้นงานและนิทรรศการอันเป็นการสรุป ความคิดรวบยอดที่ดี ต่อจากนั้นก็ทําการเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นระบบ การเรียนรู้แบบ Project Approach จะเป็นการเรียนรู้ในสิ่งที่ผู้เรียนสนใจใกล้ตัว ซึ่งเปรียบเทียบได้กับการเรียนรู้ด้วยวิธีการวิจัย เบื้องต้น
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 8 Project Approach เป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ Brain- Based Learning อย่างมาก และเหมาะสมกับ การส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองไปตลอดชีวิต การสืบค้นเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับชีวิตประจําวันของผู้เรียนทําให้ การเรียนรู้มีความหมายเป็นอย่างมาก การเรียนรู้ยังดําเนินไปในรูปแบบของการบูรณาการหลักวิชาและทักษะ ทางวิชาการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และยังทําให้ผู้เรียนได้ใช้สมองทั้งซีกซ้าย – ซีกขวาร่วมกันอีกด้วย เช่น เด็กสังเกต คิดวิเคราะห์ หาเหตุผลว่าทําไมจึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็นําความคิดรวบยอดหรือสิ่งที่เรียนรู้สร้างสิ่งจําลองที่ สะท้อนการเรียนรู้เหล่านั้นอย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น การจัดการเรียนรู้แบบ Project Approach นี้ ครูจะต้องไม่ หลงทาง และตระหนักเสมอว่า เนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่สําคัญแต่ทักษะและกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนสําคัญที่สุด ครูควรให้ความสําคัญกับประสบการณ์และความต้องการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นหลัก ในขณะเดียวกันก็คํานึงถึง หลักสูตรและทักษะต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย การเรียนรู้แบบ Project Approach นี้ ของโรงเรียนปราสาท แบ่งออกเป็น ๓ ระยะ แต่ละระยะประกอบด้วย การเรียนรู้ ๕ รูปแบบ ดังนี้ การเรียนรู้ ๓ ระยะ Project Approach ระยะที่ ๑ - เริ่มต้น ๑. ผู้เรียน เลือกว่าจะศึกษาเรื่องอะไร โดยครูเป็นผู้ให้คําแนะนํา ๒. ผู้เรียน อภิปรายว่า มีความรู้เดิมอะไร เกี่ยวกับเรื่องที่เลือกแล้วบ้าง ครูช่วยให้ผู้เรียนบันทึกความคิด ด้วย วิธีต่าง ๆ เช่น วาด ปั้น จําลอง ฯลฯ ๓. ผู้เรียนบอกข้อสงสัยที่ผู้เรียนมีเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนจะเรียนรู้ และครูช่วยให้ผู้เรียนสรุปตั้งคําถามผู้เรียน ต้องการ เพื่อหาคําตอบในระหว่างการสํารวจสืบค้นครั้งนี้ และบันทึกคําถามเหล่านั้น ๔. ผู้เรียนพูดคุยเกี่ยวกับว่าคําตอบที่จะสํารวจสืบค้นได้นั้น น่าจะเป็นอะไร อย่างไร เพราะอะไร ครูช่วย เบัน ทึกความคาดคะเนของผู้เรียนไว้ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลในภายหลัง ซึ่งขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการตั้งสมมติฐาน เบื้องต้น ๕. ครูให้ผู้เรียนช่วยกันคิดว่าจะหาคําตอบให้กับคําถาม เพื่อตรวจสอบสมมติฐานของผู้เรียน ได้กันอย่างไรบ้าง Project Approach ระยะที่ ๒ – การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนรู้ ๑. ครูช่วยผู้เรียนวางแผนการสืบค้น เพื่อเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งในห้องเรียน โรงเรียน และ/หรือ ชุมชน รวมถึงการจัดหาวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจเรียนรู้ ที่จะสามารถตอบคําถามของผู้เรียน ได้มาให้ความรู้
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 9 ๒. ผู้เรียนใช้ของจริง / ภาพ / สิ่งพิมพ์ / หนังสือและคอมพิวเตอร์ในการสืบค้นข้อมูล โดยมีครูเป็นผู้ ช่วยเหลือในระหว่างกิจกรรมในวงกลมที่ผู้เรียนสามารถประชุมร่วมกัน และนําเสนอรายงานสิ่งที่ผู้เรียนค้นพบใน การทํากิจกรรมต่าง ๆ เป็นระยะ ครูส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนถามคําถามและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับ สิ่งที่ผู้เรียน แต่ละคนได้ค้นพบคําตอบหรือเรียนรู้ คาดคะเน และจัดกระทําแยกแยะ / วิเคราะห์ หาเหตุผล / สังเคราะห์ข้อมูล ต่าง ๆ ที่ได้รับมา ๓. ผู้เรียนวาดภาพ ถ่ายภาพ เขียนคําและป้ายต่าง ๆ สร้างกราฟและหรือแผนภูมิสิ่งที่ผู้เรียนวัดและนับแล้ว สร้างจําลองสิ่งที่ผู้เรียนสนใจเรียนรู้กัน เมื่อผู้เรียนเรียนรู้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สามารถพิจารณา ทบทวนแลเพิ่มเติม หรือ ทําจําลองใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปได้เรื่อย ๆ ด้วย ๔. ในช่วงเวลาของการรวบรวมข้อมูลนี้ ผู้เรียนควรได้ใช้ทักษะต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการพิจารณา หาเหตุผลวิเคราะห์ข้อมูล และ สารสนเทศต่าง ๆ ด้วยวิจารณญาณว่าข้อมูลนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ และเรา ได้อะไรจาก ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เหล่านั้น Project Approach ระยะที่ ๓ – การสรุป Project ๑. ผู้เรียนอภิปรายกันถึงหลักฐานที่ได้สืบและค้นพบตอบคําถามที่ตั้งไว้ได้ เปรียบเทียบสิ่งที่เรียนรู้กับความรู้ เดิมของผู้เรียนว่าตรงกันหรือไม่ รวมถึงเปรียบเทียบกับการคาดคะเนของผู้เรียนที่ทําไว้ตั้งแต่ระยะแรก พิจารณาหา เหตุและผล ๒. ผู้เรียนช่วยกันวางแผนจัดแสดงให้ผู้ปกครองและเพื่อนๆ และบุคคลอื่น ๆ ได้เห็นวิธีการเรียนรู้ กิจกรรม ผลงาน และสิ่งที่ผู้เรียนค้นพบเรียนรู้ ซึ่งเปรียบเสมือนการลําดับเหตุการณ์ และการสรุปความคิดรวบ ยอดอีกครั้ง หนึ่ง ๓. ผู้เรียนลงมือจัดแสดงเพื่อแบ่งปันความรู้และเรื่องราวเกี่ยวกับ Project Approach ของผู้เรียน ครู จะได้ ช่วยสนับสนุนส่งเสริมวางแผน และดําเนินการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนทํา และ ค้นพบกันอย่างสนุกสนาน กระตือรือร้นและภาคภูมิใจ
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 10 จากทั้ง ๓ ระยะของ Project Approach คณะครูปฐมวัย โรงเรียนปราสาท รวบรวมเป็นการเรียนรู้ ๕ รูปแบบ ดังนี้ รูปแบบการเรียนรู้ ระยะที่ ๑ เริ่มต้น ระยะที่ ๒ พัฒนา ระยะที่ ๓ สรุป ๑. การสนทนาพูดคุย ปรึกษา - แบ่งปันคว ามรู้และ ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับ เรื่องที่จะศึกษา - ก า ร ศ ึ ก ษ า ใ น แ ล ะ น อ ก ห้องเรียน และการสัมภาษณ์ - ทบทวนการศึกษาทั้งในและ นอกห้องเรียน - เรียนรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ - เตรียมที่จะแบ่งปันเรื่อง รำวของ project - ทบทวนและประเมิน project ๒ . ก า ร ศ ึ ก ษ า น อ ก ห้องเรียน - ผู้เรียนพูดคุยเกี่ยวกับ ประสบการณ์เดิมที่เด็ก เคยได้รับกับผู้ปกครอง - สำรวจสืบค้นแหล่งเรียนรู้ นอกห้องเรียน - สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ แหล่ง เรียนรู้นอกห้องเรียน และที่ได้ เชิญเข้ามาตอบคำถามเด็กใน ห้องเรียน - ประเมิน project ผ่าน สายตาของผู้อื่นนอกกลุ่ม ของตน ๓. การสร้างแบบจําลอง ทดแทน - วาดภาพ เขียน สร้าง เล่น บทบาทสมมติ ฯลฯ เพื่อ แ บ ่ ง ป ั น ค ว า ม ร ู ้ แ ล ะ ประสบการณ์เดิมของ ผู้เรียน - ภาพร่าง และบันทึกคร่าวๆ จากการไปศึกษานอกห้องเรียน - วาดระบาย เขียน แผนภูมิ ทางคณิตศาสตร์ แผนที่ ฯลฯ เพื่อแสดงให้เห็นการเรียนรู้ใหม่ - ย่อและสรุปเรื่องราว ข อ ง การ ศ ึ ก ษ าเ พื่ อ แบ่งปันเรื่องราวของ project กับผู้อื่น ๔. การสํารวจสืบค้น - ต ั ้ ง ค ํ า ถ า ม จ า ก พื้ น ฐานความรู้เดิม - สำรวจสืบค้นตามข้อสงสัย ของคำถาม - การไปเรียนรู้นอกห้องเรียน และการค้นคว้าในห้องสมุด แล้วตั้งคำถามใหม่ๆ - คาดคะเนเกี่ยว กับ คำถามใหม่ๆ 5. การจัดแสดง - แ บ ่ ง ป ั น การ ส ร้าง แ บ บ จ ำ ล อ ง ต่าง ๆ ที่ ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง ประสบการณ์ส่วนตัวของ เด็กแต่ละคนในเรื่องที่ ศึกษา - แบ่งปันการสร้างแบบ จำลอง ต่าง ๆ ของประสบการณ์และ ความรู้ใหม่ - การบันทึกต่อเนื่องของงาน project - สรุปการเรียนรู้ทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ project
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 11 ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว Project Approach เป็นเพียงวิธีการจัดการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่วิธีการ ของ Project Approach นั้น มีขั้นตอนที่ง่ายสําหรับครูจะดําเนินการตามรูปแบบที่ Dr.Lillian Katz และ Dr.Sylvia Chard ได้คิดกรอบขึ้นมาดังที่เสนอไปให้รับทราบแล้ว อีกทั้งการเรียนรู้ของผู้เรียนวิธีนี้ยังสอดคล้องกับการทํางาน ของสมองอีกด้วย ๒. การน้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สู่การจัดการศึกษา ระดับชั้น ปฐมวัย โรงเรียนปราสาท การดําเนินงานการน้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สู่การจัดการศึกษา ระดับชั้นปฐมวัย โรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มีดังนี้ ๒.๑ แต่งตั้งคณะกรรมการการขับเคลื่อนกระบวนการในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนระดับปฐมวัยโดยการ น้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษา รัชกาลที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติ ๒.๒ คณะกรรมการตั้งเป้าหมายการพัฒนา แนวทางการดําเนินงาน และการประเมินคุณภาพผู้เรียน และ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับชั้นปฐมวัย โดยใช้กรอบแนวคิดดังนี้ พระบรมราโชบาย เป้าหมาย การพัฒนา พฤติกรรมบ่งชี้ ๑. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ผู้เรียนมีพฤติกรรมแสดงถึงความ เข้าใจต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบัน พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติพฤติกรรมเหล่านี้ได้ด้วย ตนเองหรือมีผู้ชี้แนะ ได้แก่ ยืนตรง เคารพธงชาติ ร่วมกิจกรรม ใน ศาสนาที่ตนนับถือ ร่วมกิจกรรมที่ เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงความรักต่อบุคคลในครอบครัว ฯลฯ โดยผ่านการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้อย่างมีความสุขและ เหมาะสมกับวัย ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ แสดงออกถึง ความรักชาติ ศรัทธา ในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ดูหมิ่น ศาสนาอื่น และเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ เพื่อปลูกฝัง ทัศนคติ ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ๑. ยืนตรงเคารพธงชาติ ๒. ร่วมกิจกรรมในศาสนาที่ตนนับ ถือ ๓. ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ ๔. แสดงความรักต่อบุคคลใน ครอบครัว
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 12 พระบรมราโชบาย เป้าหมาย การพัฒนา พฤติกรรมบ่งชี้ ๒. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม ผู้เรียนมีพฤติกรรมไม่นำของของ ผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ทำตาม ข้อตกลงของชั้นเรียน พูดความจริง ไม่โกหก รวมถึงช่วยดูแลรักษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑. ไม่นำของของผู้อื่นมาเป็นของ ตนเอง ๒. ทำตามข้อตกลงของชั้นเรียน ๓. พูดความจริงไม่โกหก ๔. ช่วยดูแลรักษาธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ๓. มีงานทำ มีอาชีพ ผู้เรียนมีพฤติกรรมแสดงถึงการมี นิสัยรักการทำงาน และทำงานจน สำเร็จ โดยการ ทำงานที่ครู มอบหมายให้อย่างมีความสุข และ ตั้งใจทำงานจนสำเร็จ ๑. ทำงานที่ครูมอบหมายให้ ๒. ตั้งใจ จดจ่อ ในงานหรือกิจกรรม ที่ทำ ๓. มีความสุขระหว่างทำงาน ๔. ทำงานจนสำเร็จ ๔. เป็นพลเมืองดี ผู้เรียนมีพฤติกรรมแสดงถึงความ รับผิดชอบต่องานของตนเองและ หน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย ช่วยเหลือ เพื่อนและครูตามโอกาส ๑. มีความรับผิดชอบต่องานของ ตนเอง ๒. รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย ๓. ช่วยเหลือเพื่อน ๔. ช่วยเหลือครูตามโอกาส ๕. มีจิตอาสา ๒.๓ คณะครูปฐมวัยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามเป้าหมาย และแนวทางการดําเนินงานในการน้อม นําพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ รายงานผลถึงผู้บริหารเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม ๓.๒.๓ วันนิเทศติดตามผล (C : Check) S – Support (สนับสนุน) คือกระบวนการในการที่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ปกครองร่วมสนับสนุนปัจจัย เช่น การนำสิ่งของต่าง ๆ จากบ้านมาให้เด็กได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน เช่น การนำข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ไข่ไก่ ให้เด็กนำมาทำกิจกรรมกับเพื่อน เพื่อฝึกให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม พัฒนาเด็กให้มีความสามารถ มากยิ่งขึ้น และพัฒนานวัตกรรม ๕ ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ ๑ การศึกษาเอกสารแนวคิดหลักการ สำรวจปัญหาการพัฒนาการเรียนรู้ และมีแนวทางในการ แก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้แนวคิดและแนวทางที่จะนำมาแก้ปัญหาต่อไป
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 13 ๑.๑ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการแสวงหาแนวคิดและหลักการ ๑.๒ การศึกษาเอกสารงานวิจัยและประสบการณ์ของผู้เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ ๒ การเลือกและการวางแผนสร้างนวัตกรรม โดยพิจารณาเลือกจากลักษณะของนวัตกรรมการ เรียนรู้ที่ดี ดังนี้ ๒.๑ เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ตรงกับความต้องการและความจำเป็น ๒.๒ มีความหน้าเชื่อถือและเป็นไปได้สูงที่จะสามารถแก้ปัญหา และพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ๒.๓ เป็นนวัตกรรมที่มีแนวคิดหรือหลักการทางวิชาการรองรับจนน่าเชื่อถือ ๒.๔ สามารถนำไปใช้ในห้องเรียนได้จริง ใช้ได้ง่าย สะดวกต่อการใช้และการพัฒนานวัตกรรม ๒.๕ มีผลการพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่าได้ใช้ในสถานการณ์จริงแล้วสามารถแก้ปัญหาหรือพัฒนา คุณภาพการจัดการเรียนรู้ได้อย่างน่าพึงพอใจ ขั้นตอนที่ ๓ สร้างและพัฒนานวัตกรรม จากแผนการสร้างนวัตกรรม ครูต้องศึกษาถึงรายละเอียดของ นวัตกรรมที่จะสร้างและดำเนินการตามขั้นตอน เช่น การสร้างนวัตกรรมที่เป็นชุดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ ๔ การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม พิสูจน์ว่า นวัตกรรมที่สร้างขั้นนั้นเมื่อนำไปใช้จะได้ผล ตามที่ต้องการหรือไม่ สามารถแก้ปัญหาในชั้นเรียนหรือพัฒนาผู้เรียนได้จริงหรือไม่การประสิทธิภาพของนวัตกรรมมี หลายวิธี เช่น การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ การบรรยายคุณภาพ การคำนวณค่าร้อยละของนักเรียน การหาประ สิทฺธิภาพของนวัตกรรม การประเมินสื่อมัลติมีเดีย ขั้นตอนที่ ๕ ปรับปรุงนวัตกรรม หลังจากที่หาประสิทธิภาพของนวัตกรรมที่สร้างขั้น นำมาปรับปรุง นวัตกรรมให้มีคุณภาพเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในห้องเรียนได้มากขึ้น โดยเฉพาะค่าหาประสิทธิภาพโดยการให้ ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจและการบรรยายคุณภาพก่อนการทดลองใช้และหลังการทดลองใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็ก จะทำให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นรายละเอียดที่จะปรับปรุงนวัตกรรม ๓.๒.๔ ขั้นสรุปและประเมินผล (A : Act) T – Technology (เทคโนโลยี) เป็นเทคนิควิธีการสอนของครู ได้ทำสื่อการสอน ใบงาน หรือ กิจกรรมต่าง ๆ ให้กับเด็กได้เรียนรู้ และติดตาม มีขั้นตอนดังนี้ ๑. มีจุดมุ่งหมาย มุ่งให้ผู้เรียนนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการแก้ปัญหาไปใช้ในการตัดสินใจ ๒. จัดการเรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นความถนัดและความสนใจ ๓. มีลักษณะของการเป็นผู้รอบรู้และมีประสบการณ์ ยอมรับความแตกต่างของผู้เรียน ๔. พัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการ ให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะการดำรงชีวิตได้ตามศักยภาพ ๕. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การนำนวัตกรรม/ทางเลือกใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 14 ๓.๓ ประสิทธิภาพของการดําเนินงาน รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มีรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย เกิดประสิทธิภาพ คือ S – Support สนับสนุน และ S – Supervision การนิเทศ โรงเรียนปราสาท ได้ดําเนินการ พัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พัฒนาครูและบุคลากรปฐมวัยให้มีความรู้ความสามารถ ตลอดจน การนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามหลักสูตรสถานศึกษา และนโยบายของคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน พัฒนาโรงเรียนปราสาท สู่ความเป็นเลิศ P - Participlant การมีส่วนร่วม การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม มีการกําหนดวิสัยทัศน์ร่วมกัน ปฏิบัติงานตามพันธกิจของโรงเรียนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามเป้าที่กําหนดไว้อย่างชัดเจน การบริหารงาน งบประมาณโปร่งใสตรวจสอบได้ มีการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมจากชุมชน หน่วยงานองค์กร ภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ผู้บริหารมีภาวะผู้นํา และมีความสามารถในการบริหารจัดการได้ อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลตามนโยบายของหน่วยงานบังคับบัญชา เห็นจากผลแห่งความสําเร็จโรงเรียน ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางศึกษา มีการจัดระบบนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และพัฒนางานอย่างสม่ำเสมอ บรรยากาศการ ทํางาน เป็นมิตร เอื้ออาทรกับผู้ร่วมงานและผู้รับบริการ T – Technology เทคโนโลยีโรงเรียนมีการการบริหารจัดการโรงเรียน เด็ก ปฐมวัยมีผลพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สูงขึ้น อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม ครูปฐมวัยมีนวัตกรรมสําหรับเด็กปฐมวัยและ จัดทําวิจัยในการวิเคราะห์ผู้เรียน เป็นครูมืออาชีพ มีผลงานเชิงประจักษ์ นักเรียนระดับปฐมวัย มีพฤติกรรมที่เป็นไปตามเป้าหมายของการน้อมนํา พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติ ผู้เรียนจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานคิดเป็น ร้อยละ ๑๐๐ ทุกปี โดยจุดเน้นก็คือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับชั้นตั้งแต่ระดับปฐมวัย จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๓.๔ การใช้ทรัพยากร รูปแบบการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบมีส่วนร่วมโดยใช้รูปแบบ PS2 MODEL โรงเรียน ปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ผ่านแนวคิดการทํางานอย่างมีเป้าหมาย ทุกฝ่าย ร่วมพัฒนา เป็นการดําเนินงานแบบมีส่วนร่วมและบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วน โดยใช้ทรัพยากรหลักในการ พัฒนาโดยทุกฝ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตกลงที่จะให้ความร่วมมือในการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมของ โรงเรียนปราสาท พัฒนาควบคู่ไปกับชุมชนเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษา ให้มี คุณภาพที่ดีขึ้น โดยได้กําหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบร่วมกัน ดังนี้ ๑. ร่วมกันจัดการศึกษาให้มีคุณภาพการศึกษาทั้งในระดับปฐมวัยและประถมศึกษา พร้อมกับสนับสนุน ปัจจัยต่าง ๆ ในการพัฒนา เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการศึกษา ทั้งงบประมาณ และบุคลากรสนับสนุนพัฒนา ควบคู่ไปกับชุมชน
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 15 ๒. ร่วมกันยกระดับระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนปราสาท ใน ๖ ด้าน คือ ด้านคุณภาพผู้เรียน ด้าน คุณภาพครู/บุคลากรทางการศึกษา ด้านคุณภาพการบริหารจัดการ ด้านคุณภาพ แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น ด้านคุณภาพ การมีส่วนร่วม และด้านคุณภาพชีวิตของชุมชน ๔.ผลการดําเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่จะได้รับ ๔.๑ ผลที่เกิดตามจุดประสงค์ รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ เป็นการ ดําเนินงานแบบมีส่วนร่วม มีผลดําเนินงานตามจุดประสงค์ ดังนี้ ตารางที่ ๑ ผลการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ระดับ ๓ ขึ้นไป (ร้อยละ) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ – ๒๕๖๕ พัฒนาการ ผลการประเมินพัฒนาการเด็กระดับ ๓ ขึ้นไป (ร้อยละ) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๑. ด้านร่างกาย ๙๕.๖๕ ๘๕.๑๕ ๙๙.๖๔ ๒. ด้านอารมณ์– จิตใจ ๙๙.๑๓ ๘๕.๓๗ ๙๘.๗๖ ๓. ด้านสังคม ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๙๕.๓๖ ๔. ด้านสติปัญญา ๙๘.๒๖ ๙๗.๕๗ ๘๕.๒๓ ค่าเฉลี่ย ๙๘.๒๖ ๙๒.๐๒ ๙๔.๗๔ คุณภาพเด็ก ด้านร่างกาย เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายในระดับยอดเยี่ยม จากการประเมินคุณภาพ ส่งผล ให้เด็ก มีน้ำหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน มีทักษะการเคลื่อนไหวตามวัย มีสุขนิสัยในการดูแล สุขภาพของ ตน และหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุภัย รวมถึงดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ มีสุข นิสัย สมวัย ปฏิบัติกิจวัตรประจําวันได้ด้วยตนเอง และระมัดระวังไม่ให้ตนเองได้รับอันตราย จากการจัดกิจกรรม ดังกล่าวจึง ส่งผลทําให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย คุณภาพเด็ก ด้านอารมณ์ – จิตใจ เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ ในระดับที่ยอดเยี่ยมเนื่องจาก การจัดกิจกรรม ต่าง ๆ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจเป็นไปตามเกณฑ์ เด็กมีความสุขในการ เรียนรู้ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีมีความร่าเริง แจ่มใส มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น รักการออก กําลัง กาย ศิลปะ ดนตรี ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีความมั่นใจในตนเองและกล้าแสดงออก รู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทนใน การรอคอย แสดงออกทางอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์และเหมาะสมกับวัย มีความรู้สึกที่ดีต่อ ตนเอง และ ผู้อื่น ยอมรับและพอใจในผลงานของตนเองและผู้อื่น
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 16 คุณภาพเด็ก ด้านสังคม เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ในระดับยอดเยี่ยม จากการจัดประสบการณ์ รวมถึง โครงการและกิจกรรมที่หลากหลายทําให้เด็กมีการช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีวินัย มีความ รับผิดชอบ เชื่อฟังคําสั่งของพ่อแม่ ครูอาจารย์ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ประพฤติตนตามวัฒนธรรมไทย และศาสนา ที่ ตนนับถือ รวมทั้งสามารถเล่นและทํางานร่วมกับผู้อื่นได้ และมีพฤติกรรมเป็นไปตามเป้าหมายและพฤติกรรมบ่งชี้ ของการน้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติ คุณภาพเด็ก ด้านสติปัญญา เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา ในระดับยอดเยี่ยม จากการจัดประสบการณ์ รวมถึง การจัดประสบการณ์แบบโครงการ Project Approach และ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่ง ประเทศไทย และกิจกรรมที่หลากหลาย ได้ส่งเสริมทักษะและกระบวนการคิด การพัฒนาทางภาษา คณิตศาสตร์ และ กระบวนการวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับวัย ๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ของงาน จากการใช้รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ แสดงผลสัมฤทธิ์ ดังนี้ ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย (SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก จากตารางพบว่า (๑) เด็กร้อยละ ๙๙.๖๔ มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความ ปลอดภัยของ ตนเอง ได้มีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน เคลื่อนไหวร่างกายคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี กล้ามเนื้อ มือและ การประสาน ระหว่างมือกับตาดี ดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ปฏิบัติ ตนตาม ข้อตกลงเกี่ยวกับ ความปลอดภัย อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ (๒) เด็กร้อยละ ๙๘.๗๖ มีพัฒนาการ ด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ร่าเริง แจ่มใส แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมาะสม รู้จัก ยับยั้งชั่งใจ อดทน ในการรอคอย ยอมรับ และพอใจใน ความสามารถ ของตนเองและผู้อื่นมีจิตสํานักและค่านิยมที่ ดี มีความมั่นใจ กล้า พูด กล้าแสดงออก อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ (๓) เด็กร้อยละ ๙๕.๓๖ มีพัฒนาการด้าน สังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ช่วยเหลือ ตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน มีวินัยใน ตนเอง ประหยัดและ พอเพียง มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อม ในและนอกห้องเรียน มีมารยาทตาม วัฒนธรรมไทย ยอมรับความ แตกต่างระหว่างบุคคล เล่น และทํางานร่วมกับผู้อื่น ได้ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ (๔) เด็กร้อยละ ๘๕.๒๓ มี พัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหา ความรู้ได้สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ระดับ ดีเลิศ 1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ ดีเลิศ /ร้อยละ 99.64 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ ดีเลิศ/ร้อยละ 98.76 1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ดีเลิศ /ร้อยละ 95.36 1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ ดี /ร้อยละ 85.23 ผลรวมมาตรฐานที่ 1 ดีเลิศ
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 17 ผู้อื่นเข้าใจ ตั้งคําถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัยและพยายามค้นหา คําตอบ มีความสามารถในการคิดรวมยอด การคิดแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเรื่องง่าย ๆ ได้ อยู่ในระดับ คุณภาพ ดี มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดับ ยอดเยี่ยม 2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 2.5 ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเยนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 ผลรวมมาตรฐานที่ 2 ยอดเยี่ยม จากตารางพบว่า (๑) โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย ออกแบบ การจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อมเพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น เน้นการ เรียนรู้ผ่านการ เล่น และการลงมือปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติและ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และสอดคล้องกับชุมชนและท้องถิ่น อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม (๒) โรงเรียนจัดครูให้ เหมาะสมกับภารกิจการเรียนการสอนหรือจัดครูที่จบการศึกษาปฐมวัยหรือผ่าน การอบรมการศึกษาปฐมวัยอย่าง พอเพียงกับชั้นเรียน อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม (๓) โรงเรียนส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบ หลักสูตรสถานศึกษา มีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมิน พัฒนาการเด็ก มีการสังเกตและประเมิน พัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก และครอบครัว อยู่ ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม (๔) โรงเรียนอํานวยความสะดวก โดยมีเครื่องเล่นสนามที่ทันสมัย ปลอดภัยและมี ความแข็งแรงเพื่อ ส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง ๔ ด้านและพัฒนาครู อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม (๕) โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียน โดยคํานึงถึงความปลอดภัยและมีสื่อ เพื่อ การเรียนรู้ อย่าง เพียงพอตามมุมประสบการณ์ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ เล่นเป็นรายบุคคลและกลุ่ม เล่นแบบ ร่วมมือร่วมใจ มีสื่อ การเรียนรู้ สื่อจากธรรมชาติ สื่อเทคโนโลยี สื่อเพื่อการสืบเสาะหาความรู้ อยู่ในระดับ คุณภาพ ยอดเยี่ยม (๖) โรงเรียนกําหนดมาตรฐานของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และอัตลักษณ์ที่ สถานศึกษา กําหนดจัดทําแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานที่สถานศึกษา กําหนด และดําเนินการ ตามแผน มีการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการ ดําเนินงาน และจัดทํารายงาน ผลการประเมินตนเองประจําปี นําผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพ สถานศึกษา โดยผู้ปกครองและ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและจัดส่งรายงานผลการประเมินตนเองให้ หน่วยงานต้นสังกัด อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 18 มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสําคัญ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ระดับ ยอดเยี่ยม 3.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ระดับ ยอดเยี่ยม/ร้อยละ 100 ผลรวมมาตรฐานที่ 3 ยอดเยี่ยม จากตารางพบว่า (๑) ครูใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นเด็กเป็นสําคัญสามารถ กําหนด เป้าหมาย ในการ พัฒนา คุณภาพผู้เรียนครอบคลุม พัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่สอดคล้อง กับ เป้าหมายของหลักสูตรสถานศึกษา (๒) ครูสามารถวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์เด็กมา ใช้ในการวางแผนจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กโดยคํานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล (๓) ครูออกแบบการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอน เทคนิคการสอนที่หลากหลาย และจัด กิจกรรม การ เรียนรู้ตามแผนการจัด ประสบการณ์ที่กําหนด โดยครูเข้ารับอบรมพัฒนาความรู้ ด้านการจัดการ เรียนรู้ในระดับ ปฐมวัย ซึ่งเป็นการพัฒนา ศักยภาพ ของครูในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็ก ผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ การสรุปผลสัมฤทธิ์ตามกิจกรรมตาม รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมี ส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ๑. การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จุดมุ่งหมาย เพื่อให้ ครูปฐมวัยในสถานศึกษา มีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทําหลักสูตร ผลปรากฏว่า โรงเรียนมีหลักสูตร สถานศึกษา ระดับชั้นปฐมวัย ผู้อํานวยการโรงเรียน และครูปฐมวัยสามารถนําความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับไป ใช้ในการจัดทํา และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนที่สอดคล้องกับบริบทโรงเรียน สอดคล้องกับนโยบาย และจุดเน้นของ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสามารถนําหลักสูตรไปใช้ในการจัดประสบการณ์เพื่อ พัฒนาเด็กปฐมวัยได้ ครอบคลุมทั้ง ๔ ด้าน นอกจากนี้ ครูปฐมวัยยังสามารถจัดทํานวัตกรรม และวิจัยในชั้นเรียน เพื่อนํามาพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรของสถานศึกษา
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 19 ๒. การดําเนินงานตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย จุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาครูปฐมวัย ใน สถานศึกษา มีความรู้ความเข้าใจในการดําเนินงานตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ผล ปรากฏ ว่า ครูปฐมวัยในสถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจในการดําเนินงานตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย คิดเป็น ร้อยละ ๑๐๐ และจากข้อมูลการนิเทศติดตามระดับชั้นเรียน พบว่า ครูได้นํารูปแบบการ พัฒนาเด็กปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ไปจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก ปฐมวัยในระดับชั้น เรียน สร้างผลให้เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์มีความรู้ และทักษะทางวิทยาศาสตร์เหมาะสมกับช่วงวัย ๓. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach สําหรับเด็กปฐมวัย จุดมุ่งหมาย เพื่อ พัฒนาครูปฐมวัยในสถานศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ซึ่งวิธีการนี้จะสอดคล้องกับการดําเนินงานตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย และจากการนิเทศกํากับ ติดตามในระดับชั้นเรียนพบว่า ครูปฐมวัยสามารถนํา ประสบการณ์การเรียนรู้ โครงงาน Project Approach ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน การสืบค้นเรียนรู้ที่ สัมพันธ์กับชีวิตประจําวัน ของผู้เรียนทําให้การเรียนรู้มีความหมายเป็นอย่างมาก การเรียนรู้ยังดําเนินไปในรูปแบบ ของ การบูรณาการ หลัก วิชาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และยังทําให้ผู้เรียนได้ใช้สมองทั้งซีกซ้าย - ซีกขวาร่วมกันอีกด้วย ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการทํากิจกรรม ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ๔. การน้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สู่การจัดการศึกษา ระดับชั้น ปฐมวัย โรงเรียนปราสาท จุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาครูปฐมวัยใน สถานศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจถึงในการน้อมนํา พระบรมราโชบายด้านการศึกษา มาจัดประสบการณ์ความรู้ ให้กับผู้เรียนปฐมวัย โดยการการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตาม เป้าหมายและพฤติกรรมบ่งชี้ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ จากการ นิเทศกํากับ ติดตามในระดับชั้นเรียนพบว่า ครูปฐมวัยได้ นําพฤติกรรมบ่งชี้ในการปฏิบัติตนตามพระบรมราโชบาย ด้านการศึกษา ทั้ง ๔ ด้าน สําหรับเด็กปฐมวัย สอดแทรก ไปกับการจัดการเรียนการสอน วัดและประเมินผลได้จาก การสังเกตพฤติกรรม เช่น ด้านที่ ๑ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง การเข้าแถวเคารพธงชาติ เคารพ ๓ สถาบัน นักเรียนชั้นปฐมวัย สามารถยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติได้เสียงดังฟังชัด สวดมนต์ และร่วมร้องเพลงมาร์ชประจําโรงเรียนได้ ถูกต้อง มีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมทางศาสนา เช่น การตักบาตร การเวียนเทียน เป็นต้น ด้านที่ ๒ มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม นักเรียนปฐมวัยสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงในชั้นเรียนได้ ไม่ พูดจาโกหก และไม่นําของคนอื่นมาเป็นของตนเอง ด้านที่ ๓ มีงานทํา มีอาชีพ นักเรียนชั้นปฐมวัยสามารถทํางานที่ตนเองได้รับมอบหมายได้สําเร็จ มีความสุข ในการเรียน และมีสมาธิจดจ่อในการทํางาน
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 20 ด้านที่ ๔ เป็นพลเมืองดีนักเรียนชั้นปฐมวัย มีความรับผิดชอบต่องานของตนเอง และต่องานของส่วนรวม ช่วยเหลือ ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มีจิตอาสา มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในห้องเรียน ๔.๓ ประโยชน์ที่เกิดจากนวัตกรรม ๑. ผู้อํานวยการโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียน ปราสาท มีความตระหนักรู้ และเข้าใจในการบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาปฐมวัย ๒. ครูปฐมวัย โรงเรียนปราสาท เข้าใจและสามารถจัดการศึกษา ปฐมวัยได้อย่างมีคุณภาพ ๓. เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน เต็มตามศักยภาพ และมีความพร้อมในการเรียนในระดับที่สูงขึ้น มี พัฒนาการที่เป็นรอยเชื่อมต่อระหว่างปฐมวัยและประถมศึกษา ๔. ผู้ปกครองระดับชั้นปฐมวัย มีความรู้ความเข้าใจในการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย และพึงพอใจในการจัด การศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนปราสาท ๕. ได้รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบมีส่วนร่วมโดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL ที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของชุมชน ๕. ปัจจัยความสําเร็จ ๑. การนิเทศติดตาม และประเมินผลของเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ และการนิเทศภายในโดย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหาร และคณะครู ๒. พฤติกรรมของครู และการบริหารของผู้บริหารเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ กระบวนการ ทํางานแบบมีส่วนร่วม และบูรณาการจากทุกภาคส่วน ๓. สถานศึกษามีการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบมีส่วนร่วมโดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL ตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน และนโยบาย จุดเน้น ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การยอมรับ มีความศรัทธา ให้การ สนับสนุน และให้ความร่วมมือทุกด้านในการพัฒนาโรงเรียน ๖. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned) สิ่งที่ได้รับจากแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) “รูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับ ปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนปราสาท พบว่า การ ดําเนินงานด้านการพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพได้มาตรฐานตามมาตรฐาน การศึกษาปฐมวัย ทั้งทางด้านคุณภาพ ของเด็ก ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ด้านการจัดประสบการณ์ที่ เน้นเด็กเป็นสําคัญ จะประสบผลสําเร็จ ได้ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ดังนี้
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 21 ๑. ด้านนักเรียน ผู้เรียนมีโอกาสทางการศึกษามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ ๖ | ๓ – ๖ ปีทุกคน เข้าสู่ระบบ การศึกษา สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลป้องกัน เพื่อให้มีพัฒนาการครบทุกด้านตามช่วงวัยของ ผู้เรียน ๒. ด้านผู้บริหาร / ครู / บุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในวิชาชีพอย่าง ต่อเนื่อง ทุกคนตระหนักร่วมกัน รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความรับผิดชอบ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับรางวัลได้ระดับต่าง ๆ ๓. ด้านโรงเรียน ได้รับการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนจากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทในการ ขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนปราสาท ให้ประสบผลสําเร็จในกิจกรรมต่าง ๆ ๗. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ ๗.๑ การเผยแพร่ จากการดําเนินการรูปแบบการบริหารงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบมีส่วนร่วมโดยใช้ รูปแบบ PS2 T MODEL ส่งผลต่อการดําเนินงานที่บรรลุตามจุดประสงค์มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ได้รับ การยอมรับจากผู้ปกครอง ชุมชน และท้องถิ่น โรงเรียนมีการเผยแพร่กิจกรรม ด้วยวิธีการที่หลากหลาย อาทิ - เผยแพร่ภาพกิจกรรมการดําเนินงานทุกกิจกรรมโดยการจัดนิทรรศการ การเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ (Facebook,Line) ทางโรงเรียนปราสาท การจัดนิทรรศการ Project Approach ระดับปฐมวัย
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 22 การประชาสัมพันธ์ในกลุ่มไลน์ผู้ปกครองนักเรียน ข่าวประชาสัมพันธ์ เพจโรงเรียนปราสาท
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 23 ๗.๒ รางวัลที่ได้รับ การประกวดห้องเรียนคุณภาพ รางวัลชนะเลิศ ระดับปฐมวัย จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ ๗๐ กิจกรรมการฉีกปะกระดาษ รองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เหรียญทอง ครูผู้สอน นางสาวกฤติมา เหล่าบุดดีและ นางสาวนิตยา กันโท ๘. การขยายผล ต่อยอด หรือประยุกต์ใช้ผลงาน นวัตกรรม หรือวิธีปฏิบัติ ๘.๑ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการถอดบทเรียน การถอดบทเรียนที่ได้รับ นวัตกรรมที่พัฒนานี้เป็นเชิงวิจัยปฏิบัติการตามกระบวนการ PDCA มีการ ดําเนินงานคือ Plan การวางแผน มีการวิเคราะห์บริบทของโรงเรียน Do การปฏิบัติตามแผน สถานศึกษาดําเนินงาน ตามหลักสูตรปฐมวัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง ๔ ด้าน Check การให้ผู้ปกครอง ชุมชน ภาคีเครือข่าย คณะครู ผู้มี ส่วนได้ส่วยเสีย มีส่วนร่วมในการดําเนินงาน Act การปรับปรุงแก้ไข นําผลการประเมินผลการ ดําเนินการแก้ไข ปรับปรุงให้เกิดคุณภาพ ทั้งนี้การประเมินผล ใช้การวิจัยและพัฒนา ประเมินโครงการด้วยเทคนิคCIPP Model ตาม แนวคิดของ Daniel L.Stufflebeam ประกอบด้วยการประเมินใน ๔ ด้าน คือ ด้านสภาวะ แวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยนําเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) ด้านผลผลิต (Product) โดยการใช้ รูปแบบการบริหารงาน การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบมีส่วนร่วมโดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL ผ่านกระบวนการบริหาร จัดการโรงเรียนเป็นฐาน (SBM : School Base Management) ใช้หลักในการกระจาย อํานาจจนเกิดสัมฤทธิ์ผล และคุณภาพทางการศึกษาอย่างรอบด้าน และต่อเนื่อง เพื่อจะนําไปสู่การปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติต่อไป
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 24 ๘.๒ การเรียนรู้เพื่อการต่อยอด และการขยายผล ๑. ศึกษาสภาพปัจจุบัน บริบทของสถานศึกษา ชุมชน ร่วมกับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อ ระดมสมองให้ทราบถึงความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทิศทางและเป้าหมาย แผนงานของสถานศึกษาในการ ปฏิบัติงาน เช่น แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติการประจําปี แผนการประกันคุณภาพการศึกษา แผนการ นิเทศภายใน ๒. เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพ การสร้างทีมงานที่เข็มแข็ง กําหนด บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในภารกิจที่ชัดเจน พัฒนาความร่วมมือกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน ผู้ปกครอง ชุมชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายภายนอกองค์กรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อ สนับสนุน และพัฒนาโรงเรียน ๓. การพัฒนาความรู้ให้กับบุคลากร ได้แก่ การพัฒนาทักษะความรู้ ทักษะความคิดโดยการพัฒนา หลักสูตร สถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ กระบวนการ Active Learning การจัดประสบการณ์ Project Approach และการน้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ ให้กับ ผู้เรียนปฐมวัย พัฒนาและส่งเสริมการจัดประสบการณ์ ๖ กิจกรรมหลัก กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรม เสริมประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมเกมการศึกษา พัฒนากิจกรรม ด้านการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ร่าง อารมณ์ – จิตใจ สังคม และสติปัญญา และพัฒนากระบวนการ เรียนรู้ ๔. การนิเทศกํากับติดตาม ประเมินผลโดยผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู เขต พื้นที่การศึกษา โดยศึกษานิเทศก์ ผู้อํานวยการเขตพื้นที่
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 25 ภาคผนวก
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 26 หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ๒๕๖๐
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 27 ภาพกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ (Project Approach) ภายใต้ รูปแบบ PS²T MODEL
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 28 ภาพกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ (Project Approach) ภายใต้ รูปแบบ PS²T MODEL
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 29 กิจกรรมการฉีกปะกระดาษ รองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เหรียญทอง ครูผู้สอน นางสาวกฤติมา เหล่าบุดดี และนางสาวนิตยา กันโท ภายใต้รูปแบบ PS²T MODEL
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 30 เกียรติบัตรกิจกรรมการฉีกปะกระดาษ รองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เหรียญทอง ครูผู้สอน นางสาวกฤติมา เหล่าบุดดี และนางสาวนิตยา กันโท ภายใต้รูปแบบ PS²T MODEL
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 31 เกียรติบัตรกิจกรรมการฉีกปะกระดาษ รองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เหรียญทอง ครูผู้สอน นางสาวกฤติมา เหล่าบุดดี และนางสาวนิตยา กันโท ภายใต้รูปแบบ PS²T MODEL
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 32 เกียรติบัตรการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงการ (Project Approach) ภายใต้รูปแบบ PS²T MODELโรงเรียนปราสาท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุรินทร์ เขต 3
: การบริหารงานการพัฒนาคุณภาพศึกษาระดับปฐมวัยแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบ PS2 T MODEL เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้า 33