The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อรรถชัย มีสุข, 2022-06-13 22:18:44

แนวทางการบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

แนวทางการบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

Keywords: แนวทางการบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน

แนวทางการบรู ณาการ
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

ใชเ้ ฉพาะโรงเรยี นเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทร์ ภเู กต็ ฯ เทา่ นนั้
ปรบั ปรงุ 1/2565

กรอบความคิดหลกั ของการออกแบบการจดั การเรียนรู้
บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

ความคิดหลกั ของการออกแบบการจดั การเรยี นรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นมี
แบบวเิ คราะหต์ วั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ เพอ่ื กาํ หนดจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม นํามาบรู ณาการงานสวน
พฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นมขี นั้ ตอนหลกั ทส่ี าํ คญั 3 ขนั้ ตอน คอื

ขนั้ ท่ี 1 วเิ คราะหต์ วั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ ทส่ี อดคลอ้ ง
ขนั้ ที่ 2 กาํ หนดจุดประสงคก์ ารจดั การเรยี นรู้ / บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นโดย
ใชค้ าํ ทบ่ี ง่ ถงึ การกระทาํ ทส่ี อดคลอ้ งกบั 5 องคป์ ระกอบ พชื ศกึ ษา และ3 สาระเรยี นรู้ ของงานสวน
พฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ขนั้ ท่ี 3 ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

ขนั้ ท่ี 1 วิเคราะหต์ วั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง

วิเคราะหต์ วั ชี้วดั / ความสอดคล้องกบั คาํ สาํ คญั ผลการวิเคราะห์
ผลการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง ของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

1) เปรยี บเทยี บ จาํ แนก ลกั ษณะ
โครงสรา้ งของพชื ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์
สณั ฐานวทิ ยา

2) สอ่ื สาร กาํ หนดคาํ วเิ คราะหส์ าระ
รวบรวมสาระ จดั กลุ่มสาระ เรยี บเรยี ง
สาระ อภปิ ราย อธบิ าย บอก เลา่

3) สาํ รวจ ทาํ แผนท่ี สภาพพน้ื ท่ี ภมู ิ
ประเทศ สภาพทอ้ งถน่ิ

4) วาดภาพ ถา่ ยภาพ ออกแบบป้ายชอ่ื
พรรณไม้ ออกแบบภมู ทิ ศั น์ หลกั การ
ออกแบบ องคป์ ระกอบของศลิ ปะ แสดง
ศลิ ปะพน้ื บา้ น เล่านิทาน เขยี นการต์ นู
ระบายสี รอ้ ง

5) เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทาํ งานรว่ มกนั
สมั พนั ธก์ บั ชมุ ชน

6) ระบบนเิ วศน์ ลกั ษณะพน้ื ท่ี
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปัจจยั วฏั จกั ร หว่ ง
โซ่อาหาร

วิเคราะหต์ วั ชี้วดั / ความสอดคล้องกบั คาํ สาํ คญั ผลการวิเคราะห์
ผลการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง ของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

7) คดิ วเิ คราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบ วาง
แผนการปฏบิ ตั งิ าน ออกแบบตารางบนั ทกึ
8) ขยายพนั ธพุ์ ชื ปลกู ดแู ลรกั ษา แปรรปู
จดั หา ดแู ลรกั ษา ประยกุ ต์
9) วเิ คราะห์ บนั ทกึ สงั เกต ทกั ษะการใช้
เครอ่ื งมอื คน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง คดิ อยา่ งมี
วจิ ารณญาณ จนิ ตนาการบนฐานของ
ความเป็นจรงิ เรยี บเรยี งขอ้ มลู จดบนั ทกึ
สรปุ ผลการการเรยี นรทู้ ุกเรอ่ื งทเ่ี กดิ จาก
กระบวนการเรยี นรู้ สอบถาม สรปุ องค์
ความรู้
10) วดั ชงั่ ตวง หาคา่
11) หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา
12) อน่ื ๆ ระบ.ุ ...............................

ตวั อยา่ ง
วิเคราะหต์ วั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง รายวิชาศิลปะ

วิเคราะหต์ วั ชี้วดั / ความสอดคล้องกบั คาํ สาํ คญั ผลการวิเคราะห์
ผลการเรียนรู้ ท่ีสอดคล้อง ของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

ศ 1.1 ม.3/1 บรรยาย 4) วาดภาพ ถ่ายภาพ ออกแบบป้ายชอ่ื สอดคลอ้ ง
สงิ่ แวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป์ พรรณไม้ ออกแบบภมู ทิ ศั น์ หลกั การ

ทเ่ี ลอื กมา โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื ง ออกแบบ องคป์ ระกอบของศลิ ปะ แสดง
ทศั นธาตแุ ละหลกั การ ศลิ ปะพน้ื บา้ น เล่านทิ าน เขยี นการต์ นู
ออกแบบ ระบายสี รอ้ ง

ขนั้ ท่ี 2 กาํ หนดจดุ ประสงคก์ ารจดั การเรียนรู้ / บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
โดยใช้คาํ ท่ีบง่ ถึงการกระทาํ ท่ีสอดคลอ้ งกบั 5 องคป์ ระกอบ พืชศึกษา และ3 สาระเรียนรู้ ของ
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

จดุ ประสงคก์ าร ระดบั พฤติกรรม คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ งานสวนพฤกษศาสตร์
จดั การเรียนรู้ โรงเรียน

(คาํ ท่ีบง่ ถงึ การกระทาํ )

ด้านความร้(ู K) บอก....เลอื ก..ระบุ....
1. ความรคู้ วามจาํ เรยี งลาํ ดบั
2. ความเขา้ ใจ
3. การนําไปใช้ อธบิ าย....ยกตวั อยา่ ง..
ใหค้ วามหมาย .....สรปุ
4. การวเิ คราะห์ ความ

5. การสงั เคราะห์ ใชส้ ตู ร.......คาํ นวณหา
6. การประเมนิ คา่ คา่ ......เขยี นแผน.........
ด้านทกั ษะ/ ปรบั ปรุง…แกป้ ัญหา...
ประมาณคา่ ......เขยี น
โครงการ......ตรวจสอบ

แยกแยะ....จาํ แนกขอ้
แตกตา่ งของ........
เปรยี บเทยี บ
หาความสมั พนั ธ.์ ........
จดั ประเภท……
ตรวจสอบ…..เขยี น
ไดอะแกรม

ยอ่ ….. สรปุ …ปรบั
ปรงุ .ออกแบบ..
ดดั แปลง.....เสนอแนะ.
แกไ้ ข

วจิ ารณ์…. อภปิ ราย…
ตดั สนิ .........วนิ จิ ฉยั .....
กาํ หนดราคา………

สรา้ ง.......ตอ่ ......แก.้ ...

จดุ ประสงคก์ าร ระดบั พฤติกรรม คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ งานสวนพฤกษศาสตร์
จดั การเรียนรู้ โรงเรียน

(คาํ ท่ีบง่ ถงึ การกระทาํ )

กระบวนการ(P) ประกอบ....ออกแบบ
ด้านเจนตคติ/คณุ ทาํ ตาม....ซอ่ ม.. ผสม
ลกั ษณะะ(A) วาด.... เลอ่ื ย......
ระบาย ชงั่ ... ตวง.....
วดั .....
รบั ฟัง....ทาํ ตาม....
ตงั้ ใจ….. ถาม...ตอบ...
ทาํ ตาม..อาสา....
ชว่ ยเหลอื ... บนั ทกึ ….
สนบั สนุน...โตแ้ ยง้ ..
แสดงความคดิ เหน็ ...
แสดงความสาํ คญั ....
จดั ระเบยี บ

ตวั อยา่ ง
กาํ หนดจดุ ประสงคก์ ารจดั การเรียนรู้ / บรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนโดยใช้คาํ ที่บง่
ถึงการกระทาํ ที่สอดคล้องกบั 5 องคป์ ระกอบ พืชศกึ ษา และ3 สาระเรียนรู้
ของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

จดุ ประสงคก์ าร ระดบั พฤติกรรม คาํ ท่ีบง่ ถงึ การกระทาํ งานสวนพฤกษศาสตร์
จดั การเรียนรู้ โรงเรียน
(คาํ ท่ีบง่ ถงึ การกระทาํ )

ด้านความร้(ู K)

อธบิ ายคณุ คา่ และ 2. ความเขา้ ใจ อธบิ าย....ยกตวั อยา่ ง.. อธบิ ายคุณคา่ และความสาํ คญั
ความสาํ คญั ของ ใหค้ วามหมาย .....สรปุ ของการวาดเสน้ จากการศกึ ษา
การวาดเสน้ จาก ความ พืชศึกษาได(้ K)
การศกึ ษา
ธรรมชาติ

วาดเสน้ โดย ด้านทกั ษะ/ สรา้ ง.......ตอ่ ......แก.้ ... วาดเสน้ โดยการศกึ ษา
การศกึ ษา กระบวนการ(P) ประกอบ....ออกแบบ รปู ลกั ษณะพชื ศึกษา(P)
ธรรมชาตเิ ป็นแบบ ทาํ ตาม....ซอ่ ม.. ผสม

จดุ ประสงคก์ าร ระดบั พฤติกรรม คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ งานสวนพฤกษศาสตร์
จดั การเรียนรู้ ด้านเจนตคติ/คณุ โรงเรียน
ชน่ื ชมความงาม ลกั ษณะะ(A) (คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ )
ของการวาดเสน้
จากการศกึ ษา รบั ฟัง....ทาํ ตาม.... แสดงความคดิ เหน็ ความงาม
ธรรมชาติ (A) ตงั้ ใจ….. ถาม...ตอบ... ของการวาดเสน้ โดยการศกึ ษา
ทาํ ตาม..อาสา....
ชว่ ยเหลอื ... บนั ทกึ …. รปู ลกั ษณะพืชศึกษา(A)

สนบั สนุน...โตแ้ ยง้ ..
แสดงความคดิ เหน็ ...
แสดงความสาํ คญั ....

จดั ระเบยี บ

ขนั้ ท่ี 3 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

ตวั อยา่ ง
การวิเคราะหก์ ารจดั การเรียนร้บู รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

รายวชิ า การงานอาชพี 5

รายวชิ า การงานอาชพี 5 รหสั วชิ า ง23101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3สาระท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ การจดั การ
พชื พรรณ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง เทคนคิ การปลกู พชื ในภาชนะ เวลา 2 ชวั่ โมง

จดุ ประสงคก์ ารจดั การ ตวั ชี้วดั / ผลการ งานสวนพฤกษศาสตร์ บรู ณาการ
เรียนรู้ เรียนรู้ โรงเรียน

(คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ )

บอกประโยชน์และ
อธบิ ายการปลกู ไมผ้ ล 5 องคป์ ระกอบ
ดา้ นความร(ู้ K) ในภาชนะจากของ - พชื ศกึ ษา

เหลอื ใชไ้ ด้ 3สาระเรยี นรู้

ออกแบบทาํ ตาม
กิจกรรมการปลกู
ดา้ นทกั ษะ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการ พรรณไมใ้ นพืน้ ที่
/กระบวนการ(P/S) ปลกู ไมผ้ ลในภาชนะ ศึกษาและภาชนะจาก
จากของเหลอื ใชไ้ ด้

ของเหลือใช้ได้

ดา้ นเจนตคต(ิ A) มเี จตคตทิ ด่ี แี ละเหน็ แสดงความสาํ คญั
ประโยชน์ในการใช้ ประโยชน์ของพรรณ
ภาชนะจากของเหลอื ไม้ที่นํามาปลกู ได้
ใชม้ าปลกู พชื ได้

ตวั อยา่ ง
การจดั ทาํ แผนการเรียนรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น รายวชิ า การงานอาชพี 5

รายวชิ า การงานอาชพี 5 รหสั วชิ า ง23101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3สาระท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ การจดั การ
พชื พรรณ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง เทคนคิ การปลกู พชื ในภาชนะ เวลา 2 ชวั่ โมง

มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทํางาน มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทํางาน ทกั ษะการ
จดั การทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะการทํางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มี
คุณธรรม และลกั ษณะนิสยั ในการทํางาน มจี ติ สาํ นึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากร และสงิ่ แวดลอ้ ม
เพอ่ื การดาํ รงชวี ติ และครอบครวั
1. สาระสาํ คญั

การปลูกพชื ผกั ผลไม้ในภาชนะ จะทําให้เจรญิ เตบิ โตได้เรว็ กว่าปลูกลงดนิ เพราะดนิ ปลูกมี
ความร่วนซุย และ โปรง่ ใชพ้ น้ื ทน่ี ้อย ใหผ้ ลผลติ เรว็ ดแู ลรกั ษาดา้ นโรค แมลง วชั พชื และการห่อผลงา่ ย
บงั คบั ออกดอกตดิ ผลได้ ควบคุมคุณภาพ และรสชาตไิ ด้ ดกี ว่าปลูกลงดนิ สามารถเคล่อื นยา้ ยได้ ใชเ้ ป็น
ไมป้ ระดบั ภายในบา้ น
2. ตวั ชี้วดั

- ง 1.1 ม. 3/1 อภปิ รายขนั้ ตอนการทาํ งานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ
- ง 1.1 ม. 3/2 ใชท้ กั ษะในการทาํ งานรว่ มกนั อยา่ งมคี ณุ ธรรม
- ง 1.1 ม. 3/3 อภปิ รายการทาํ งานโดยใชท้ กั ษะการจดั การเพอ่ื ประหยดั พลงั งานทรพั ยากร
และสงิ่ แวดลอ้ ม
3. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
สาระที่ 1 การดาํ รงชีวิตและครอบครวั มาตรฐาน ง1.1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 3
- ขนั้ ตอนการทาํ งานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพเป็นการปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการทาํ งานโดยทาํ ตามลาํ ดบั
ขนั้ ตอนมคี วามสามารถทาํ งานสาํ เรจ็ ตามเป้าหมายทว่ี างไว้
- ทกั ษะการทํางานร่วมกนั เป็นการสร้างให้ผู้เรยี นทํางานร่วมกนั และอยู่ร่วมกนั ได้อย่างมี
ความสขุ
- ทกั ษะการจดั การ เป็นการจดั ระบบงาน และระบบคน เพ่อื ให้ทํางานสําเรจ็ ตามเป้าหมาย
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกประโยชน์และอธบิ ายการปลกู ไมผ้ ลในภาชนะจากของเหลอื ใชไ้ ด้ (K)
2. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการปลกู ไมผ้ ลในภาชนะจากของเหลอื ใชไ้ ด(้ P)
3. ออกแบบทาํ ตามกิจกรรมการปลกู พรรณไม้ในพืน้ ท่ีศึกษาและในภาชนะจากของ
เหลือใช้ได้ (P)

4. มเี จตคตทิ ด่ี แี ละเหน็ ประโยชน์ในการใชภ้ าชนะจากของเหลอื ใชม้ าปลกู พชื ได้ (A)
5. แสดงความสาํ คญั ประโยชน์ของพรรณไม้ที่นํามาปลกู ได้ (A)

ตวั อยา่ ง
การวิเคราะหก์ ารจดั การเรียนร้บู รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนรายวชิ าศลิ ปะ

รายวชิ าศิลปะ รหสั วชิ า ศ23102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หลกั การออกแบบและ
สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ เวลาเรยี น 6 ชวั่ โมง เรอ่ื งท่ี 1 การวาดเสน้ จากการศกึ ษาธรรมชาติ เวลาเรยี น 2

ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นายศวิ โิ รจน์ ดว้ งจนั ทร์

จดุ ประสงคก์ ารสอน ตวั ชี้วดั / ผลการ งานสวนพฤกษศาสตร์ บรู ณาการ
เรียนรู้ โรงเรียน

(คาํ ท่ีบง่ ถงึ การกระทาํ )

อธบิ ายคณุ คา่ และ

ความสาํ คญั ของการ 5 องคป์ ระกอบ
ดา้ นความร(ู้ K) วาดเสน้ จากการศกึ ษา พชื ศกึ ษา
ธรรมชาติ 3สาระเรยี นรู้

ดา้ นทกั ษะ วาดเส้นโดยการศึกษา
/กระบวนการ(P/S) วาดเสน้ โดยการศกึ ษา รปู ลกั ษณะพืชศึกษา
ธรรมชาตเิ ป็นแบบ เป็นแบบ

ดา้ นเจตคต(ิ A) ชน่ื ชมความงามของ แสดงความคิดเหน็
การวาดเสน้ จาก ความงามของการวาด
การศกึ ษาธรรมชาติ เส้นโดยการศึกษา
รปู ลกั ษณะพืชศึกษา
เป็ นแบบ

ตวั อยา่ ง
การจดั ทาํ แผนการเรียนรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นรายวชิ าศลิ ปะ

รายวิชาศิลปะ รหัสวิชา ศ23102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หลกั การออกแบบและ
สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ เวลาเรยี น 6 ชวั่ โมง เรอ่ื งท่ี 1 การวาดเสน้ จากการศกึ ษาธรรมชาติ เวลาเรยี น 2
ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นายศวิ โิ รจน์ ดว้ งจนั ทร์
มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์
วพิ ากษว์ จิ ารณ์คณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระชน่ื ชม และ
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั
ตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.3/1 บรรยายสงิ่ แวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป์ ทเ่ี ลอื กมา โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งทศั นธาตุและ
หลกั การออกแบบ
ศ 1.1 ม.3/3 วเิ คราะห์ และบรรยายวธิ กี ารใช้ ทศั นธาตุ และหลกั การออกแบบในการสรา้ งงาน
ทศั นศลิ ป์ ของตนเองใหม้ คี ณุ ภาพ
สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด

วาดเสน้ จากการศกึ ษาธรรมชาติ เป็นวธิ กิ ารถา่ ยทอดการแสดงออกเบอ้ื งตน้ ของผสู้ รา้ งสรรค์
งานทศั นศลิ ป์ โดยการสรา้ งรปู จากสงิ่ ทเ่ี หน็ ภายนอก ธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม ขน้ึ โดยเทคนิคพน้ื ฐานหรอื
คดิ คน้ กระบวนการใหมๆ่ สะทอ้ นอารมณ์แลว้ พฒั นาใหส้ มบรู ณ์ในทส่ี ดุ
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายคณุ คา่ และความสาํ คญั ของการวาดเสน้ จากการศกึ ษาธรรมชาติ (K)
2. วาดเสน้ โดยการศกึ ษาธรรมชาตเิ ป็นแบบ (P)
3. วาดเส้นโดยการศึกษารปู ลกั ษณะพืชศึกษา(P)
4. ชน่ื ชมความงามของการวาดเสน้ จากการศกึ ษาธรรมชาติ (A)
5. แสดงความคิดเหน็ ความงามของการวาดเส้นโดยการศึกษารปู ลกั ษณะพืชศึกษา
(A)

ตวั อยา่ ง
การวิเคราะหก์ ารจดั การเรียนร้บู รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น

รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน

รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหสั วชิ า (ค33101) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การ
วเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ เรอ่ื ง คา่ เฉลย่ี เลขคณติ เวลา 60 นาที ผสู้ อน นางสภุ สิ รา มณรี ตั น์

จดุ ประสงคก์ ารสอน ตวั ชี้วดั / ผลการ งานสวนพฤกษศาสตร์ บรู ณาการ
ดา้ นความร(ู้ K) เรียนรู้ โรงเรียน

(คาํ ที่บง่ ถงึ การกระทาํ )

1. บอกความหมาย
ของคา่ เฉลย่ี เลขคณติ 5 องคป์ ระกอบ
ของขอ้ มลู ได้ พชื ศกึ ษา
2. หาคา่ เฉลย่ี เลข - 3สาระเรยี นรู้
คณิตของขอ้ มลู ทไ่ี มไ่ ด้
แจกแจงความถไ่ี ด้

ดา้ นทกั ษะ 1. ในการใหเ้ หตุผล วดั ขนาด ใบ ลาํ ต้น
/กระบวนการ(P/S) ประกอบการหา ดอก ผล เมลด็ หา
ดา้ นเจตคต(ิ A) คา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของ ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตของ
ขอ้ มลู ได้ ข้อมลู ได้
2. สอ่ื สารสอ่ื ตงั้ ใจบนั ทึกข้อมลู
ความหมายในการหา ขนาด ใบ ลาํ ต้น ดอก
คา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของ ผล เมลด็ พชื ศึกษา
ขอ้ มลู ได้

-

ตวั อยา่ ง
การจดั ทาํ แผนการเรียนรบู้ รู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน

รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหสั วิชา (ค33101) ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 การ
วเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ เรือ่ ง คา่ เฉลย่ี เลขคณติ เวลา 60 นาที ผสู้ อน นางสภุ สิ รา มณรี ตั น์

1.สาระหลกั
สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความน่าจะเป็น

2.มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการแกป้ ัญหา

3.ตวั ชี้วดั
ค 3.1 ม.6/1 เขา้ ใจและใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการนําเสนอขอ้ มลู และแปลความหมายของคา่ สถติ ิ
เพอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจ

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความหมายของคา่ เฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มลู ได้ (K)
2. หาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มลู ทไ่ี มไ่ ดแ้ จกแจงความถไ่ี ด้ (P)
3. ใหเ้ หตผุ ลประกอบการหาคา่ เฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มลู ได้ (A)
4. สอ่ื สาร สอ่ื ความหมายในการหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มลู ได้
5. วดั ขนาด ใบ ลาํ ต้น ดอก ผล เมลด็ หาค่าเฉล่ียเลขคณิตของข้อมลู ได้ (P)
6. ตงั้ ใจบนั ทึกข้อมลู ขนาด ใบ ลาํ ต้น ดอก ผล เมลด็ พืชศึกษา (A)

งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน

แนวทางการดําเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น (School
Botanical Garden) คอื ทุกสง่ิ ทุกอย่างท่มี อี ยู่ในโรงเรยี นท่ใี ช้เพ่อื การเรยี นรู้ โดยมี พชื เป็นปัจจยั หลกั
ชีวภาพอ่ืนเป็นปัจจยั รอง กายภาพเป็นปัจจยั เสริม และวสั ดุอุ ปกรณ์เป็นปัจจยั ประกอบ งานสวน
พฤกษศาสตร์โรงเรยี น คือ งานสร้างจิตสํานึกในการอนุรกั ษ์พันธุ กรรมพืชทรพั ยากรชีวภาพและ
กายภาพ โดยมกี ารสมั ผสั การเรยี นรู้ การสรา้ งและปลกู ฝังคุณธรรม การเสรมิ สรา้ งปัญญาและภมู ปิ ัญญา
สามารถออกแบบการจดั การเรยี นรู้ และวางแผนการสอนบูรณาการกบั 5 องค์ประกอบของงานสวน
พฤกษศาสตร์โรงเรยี น เพ่ือให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของโครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เน่ืองมาจาก
พระราชดํารสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การสรา้ งจติ สาํ นึกในการอนุรกั ษ์ โดย
ใชก้ ระบวนการเรยี นรงู้ านสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประกอบดว้ ย 3 หลกั คอื 1) เหตุ คอื การเรยี นรู้
คุณธรรม ภมู ปิ ัญญา 2) ปัจจยั คอื พชื ชวี ภาพและกายภาพ และ3) ผล คอื จติ สาํ นกึ ในการอนุรกั ษ์

องคป์ ระกอบงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
องคป์ ระกอบท่ี 1 การจดั ทาํ ป้ายช่ือพรรณไม้ หลกั การ รชู้ ่ือ รลู้ กั ษณ์ ร้จู กั สาระการเรียนรู้
13 ลาํ ดบั การเรียนรู้
1. กาํ หนดพืน้ ท่ีศึกษา ผงั พน้ื ทท่ี งั้ หมดของโรงเรยี น ,ผงั บรเิ วณ ,ผงั กาํ หนดขอบเขตพน้ื ท่ี
ศกึ ษาภายในโรงเรยี น
2. สาํ รวจพรรณไม้ในพืน้ ท่ีศึกษา การสาํ รวจพรรณไม้ ,การจาํ แนกชนดิ พชื /พรรณไม้
3.ทาํ และติดป้ายรหสั ประจาํ ต้น รปู แบบป้ายรหสั ประจาํ ตน้ ,วสั ดุทาํ ป้ายประจาํ ตน้ ,วธิ กี ารตดิ
ป้ายประจาํ ตน้
4. ตงั้ ชื่อหรือสอบถามชื่อ และศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื บา้ น (ก.7,003 หน้า 1) ,การตงั้ ช่อื และสอบถาม
ชอ่ื ของพรรณไม,้ การศกึ ษาโดยใชแ้ บบศกึ ษาพรรณไม้ ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น (ก.7,003 หน้า ปก)
,การเรยี นรขู้ อ้ มลู พน้ื บา้ น (ก.7,003 หน้า 1)
5. ทําผงั แสดงตําแหน่งพรรณไม้ การหาและบนั ทึกตําแหน่งพกิ ดั พรรณไม้, การจดั ทําผงั
ตาํ แหน่งพรรณไมเ้ ฉพาะพน้ื ท,่ี ผงั พรรณไมใ้ นขอบเขตพน้ื ทศ่ี กึ ษา, ผงั พรรณไมร้ วม
6. ศึกษา และบนั ทึกลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7,003 หน้า 2,7) การศกึ ษาโครงสรา้ งและ
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ (เอกสาร ก.7,003 หน้าท่ี 2,7) ,การวดั ความสงู และความกวา้ งทรงพุ่ม ,การ
วาดภาพทางพฤกษศาสตร์
7. บนั ทึกภาพหรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร*์ การบนั ทกึ ภาพทางพฤกษศาสตรข์ องพรรณ
ไมท้ ไ่ี ดท้ าํ การสาํ รวจและศกึ ษาพรรณไม้ , การใชก้ ลอ้ งถ่ายภาพ , การถ่ายภาพพรรณไม้ ลกั ษณะวสิ ยั ,

การถ่ายเฉพาะสว่ นโดยถ่ายในแต่ล่ะสว่ นของตน้ เดยี วกนั ประกอบดว้ ย ราก (บางชนิด) ลําตน้ ใบ ดอก
ผล และ เมลด็

8. ทําตัวอย่างพรรณไม้ (แห้ง/ ดอง/ เฉพาะส่วน) การจดั ทําตัวอย่างพรรณไม้ ,การทํา
ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง , การทําตัวอย่างพรรณไม้ดอง ,การทําตัวอย่างพรรณไม้เฉพาะส่วน ,การ
ถา่ ยภาพพรรณไมแ้ หง้ ดอง เฉพาะสว่ น , ระบบการจดั เกบ็ และสบื คน้ ได้ ,วธิ กี ารจดั เกบ็ เอกสาร

9.เปรียบเทียบข้อมูลท่ีสรปุ (ก.7,003 หน้า 8) กบั ข้อมลู ที่สืบค้นจากเอกสาร แล้วบนั ทึกใน
ก.7,003 หน้า 9 , 10 การสรุปขอ้ มูลพรรณไม้ (ก.7 ,003 หน้า 8) ,การสบื ค้นขอ้ มูลพรรณไม้ ,การนํา
ขอ้ มลู ทส่ี รปุ ในหน้าท่ี 8 มาเปรยี บเทยี บกบั ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสบื คน้

10.จดั ระบบข้อมลู ทะเบยี นพรรณไม้(ก.7,005)การเรยี นรรู้ ปู แบบการทาํ ทะเบยี นพรรณไมต้ าม
แบบ อพ.สธ. , การเรยี นรูว้ ธิ กี ารทําทะเบยี นพรรณไม้, การจดั ทําระบบการจดั เกบ็ และสบื คน้ ทะเบยี น
พรรณไม้

11.ทาํ รา่ งป้ายชื่อพรรณไม้สมบรู ณ์ การเรยี นรรู้ ปู แบบการทาํ ป้ายชอ่ื พรรณไมส้ มบรู ณ์ตามแบ
บอพ.สธ.ประกอบดว้ ย ,การเรยี นรวู้ ธิ กี ารทาํ รา่ งป้ายชอ่ื พรรณไมส้ มบรู ณ์

12.ตรวจสอบความถกู ต้องทางวิชาการด้านพฤกษศาสตร์ การเรยี นรวู้ ธิ กี ารรวบรวมขอ้ มลู
ความถูกต้องทางวชิ าการดา้ นพฤกษศาสตร,์ การเรยี นรูว้ ธิ กี ารทําฐานขอ้ มูลความถูกต้องทางวชิ าการ
ดา้ นพฤกษศาสตร์ ,การเรยี นรวู้ ธิ กี ารจดั สง่ ขอ้ มลู ความถกู ตอ้ งทางวชิ าการดา้ นพฤกษศาสตร์

13. ทาํ ป้ายชื่อพรรณไม้สมบรู ณ์ การทาํ ป้ายชอ่ื พรรณไมส้ มบรู ณ์
องค์ประกอบที่ 2 การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลูกในโรงเรียน หลกั การ คลุกคลี เหน็ คุณ
สนุ ทรียะ สาระการเรียนรู้ 9 ลาํ ดบั การเรียนรู้
1.ศึกษาข้อมูลจากผงั พรรณไม้เดิมและศึกษาธรรมชาติของพรรณไม้ รายงานสภาพ
ภมู ศิ าสตรข์ องพน้ื ทต่ี ามผงั พรรณไม้ (ปัจจยั กายภาพ แสง , ลม ,ดนิ ,น้ํา ), รายงานการศกึ ษาพรรณไม้
ทจ่ี ะนํามาปลกู ทอ่ี ยใู่ นสภาพธรรมชาติ
2.สาํ รวจ ศึกษา วิเคราะหส์ ภาพพืน้ ท่ี รายงานการศกึ ษาปัจจยั กายภาพ แสง , ลม ,ดนิ ,น้ํา
3.พิจารณาคุณและสุนทรียภาพของพรรณไม้ ร่มร่นื ,สมั ผสั สรา้ งจติ นาการบรรยายกาศ
บอกเล่าเรอ่ื งราว ,กลนิ่ พกั ผอ่ นผอ่ นคลายความตงึ เครยี ด ,พบปะสงั สรรค์
4.กาํ หนดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ การกําหนดการใชป้ ระโยชน์ในพ้นื ท่ี ,มุมมอง/ความพงึ
พอใจ ความรสู้ กึ จนิ ตนาการบนพน้ื ฐานของการนําไปใชป้ ระโยชน์
5.กาํ หนดชนิดพรรณไมท้ ี่จะปลกู กาํ หนดชนิดพรรณไมท้ จ่ี ะปลกู วสั ดุปลกู
6.ทาํ ผงั ภมู ิทศั น์ จดั ทาํ ผงั ภมู ทิ ศั น์ ,แสดงรายละเอยี ดการปลกู พรรณไม้

7.จัดหาพรรณไม้ วสั ดุปลูก การสนับสนุน (หน่วยงานต่างๆ ชุมชน ผู้ปกครอง) ,การ
ขยายพนั ธุ์ การตอน การเพาะเมลด็ การปักชาํ การตดิ ตา ฯลฯ ,การปลกู พรรณไมเ้ พม่ิ เตมิ

8.การปลูก และดแู ลรกั ษา การบนั ทกึ การดแู ลรกั ษา (การใหน้ ้ํา ป๋ ุย ตดั แต่ง), การบนั ทกึ การ
เปลย่ี นแปลง (สงิ่ ทส่ี งั เกตได)้

9.ศึกษาคุณของพืชพรรณท่ีปลูก ออกแบบบันทึกการเปลี่ยนแปลง การบันทึก
ความสมั พนั ธ์ระหว่างปัจจยั (ชวี ภาพ,กายภาพ,วฒั นธรรมภูมปิ ัญญา) ,การศกึ ษาคุณ และสุนทรยี ภาพ
พรรณไมท้ ป่ี ลกู (คุณทเ่ี กดิ แก่สรรพสตั ว์ คณุ ทเ่ี กดิ แกค่ น คณุ ทเ่ี กดิ แก่สถานทศ่ี กึ ษา)

องค์ประกอบท่ี 3 การศึกษาข้อมูลด้านต่างๆ หลกั การ ร้กู ารวิเคราะห์ เห็นความต่าง
รคู้ วามหลายหลาก สาระการเรียนรู้ 3 ลาํ ดบั การเรียนรู้

1.การศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน(ก.7,003) ครบตามทะเบยี นพรรณไม้
การมสี ่วนร่วมของผูศ้ กึ ษา, การศกึ ษาขอ้ มูลพ้นื บ้าน, การศกึ ษาขอ้ มูลพรรณไม,้ การสรุปลกั ษณะและ
ขอ้ มลู พรรณไม,้ การสบื คน้ ขอ้ มูลพฤกษศาสตร์ , การบนั ทกึ ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ , การตรวจสอบผลงานเป็น
ระยะ , ความเป็นระเบยี บ ,ความตงั้ ใจ

2.การศึกษาพรรณไม้ที่สนใจ การศกึ ษาลกั ษณะภายนอก ของพชื แต่ละส่วนโดยละเอียด,
การศกึ ษาลกั ษณะ ภายในของพชื แต่ละส่วนโดยละเอยี ด, การกําหนดเร่อื งทจ่ี ะเรยี นรใู้ นแต่ละส่วนของ
พชื , การเรยี นรแู้ ต่ละเร่อื ง แต่ละส่วนขององคป์ ระกอบย่อย , การนําขอ้ มูลมาเปรยี บเทยี บความต่างใน
แต่ละเรอ่ื งในชนดิ เดยี วกนั

องคป์ ระกอบที่ 4 การรายงานผลการเรียนรู้ หลกั การ รสู้ าระ ร้สู รปุ ร้สู ื่อ สาระการเรียนรู้
7 ลาํ ดบั การเรียนรู้

1. รวบรวมผลการเรียนรู้ รวบรวมผล องคป์ ระกอบท่ี 1, 3
2. คดั แยกสาระสาํ คญั และจดั ให้เป็นหมวดหมู่ คดั แยก, จดั หมวดหมู่
3. สรปุ และเรียบเรียง สรปุ , เรยี บเรยี ง, ลาํ ดบั ขนั้ ตอน
4. เรียนร้รู ปู แบบการเขียนรายงาน รายงานแบบวชิ าการ, รายงานแบบบูรณาการ 1) การสรุป
2) การเรยี บเรยี งสาระเป็นภาษาทส่ี อ่ื กระชบั ไดใ้ จความ 3) รปู แบบและความเรยี บรอ้ ยของรายงาน
5. กาํ หนดรปู แบบการเขียนรายงาน ลงมอื ปฏบิ ตั /ิ นําเสนอในชนั้ เรยี น วเิ คราะหข์ อ้ ดี ขอ้ ดอ้ ย
6. เรียนรวู้ ิธีการรายงานผล แบบเอกสาร, แบบบรรยาย เชน่ การเล่านิทาน อภปิ ราย สมั มนา,
แบบศิลปะ เช่น การแสดงศิลปะพ้ืนบ้าน ละคร ร้องเพลง การวาดภาพทาง, แบบนิทรรศการ
(นทิ รรศการเฉพาะเรอ่ื ง, นิทรรศการแบบโครงงาน)

7. กาํ หนดวิธีการรายงานผล ลงมอื ปฏิบตั /ิ นําเสนอในชนั้ เรยี น อภิปรายผล วเิ คราะห์ขอ้ ดี
ขอ้ ดอ้ ย

องค์ประกอบที่ 5 การนําไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา หลกั การ นําองค์ความรู้ ที่เป็ น
วิทยาการ เผยแพร่เพื่อให้เกิดองคค์ วามร้ใู หม่ สาระการเรียนรู้ 4 ลาํ ดบั การเรียนรู้

1. การนําสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนบูรณาการสู่การเรียนการสอน วธิ กี าร, ปัจจยั , ผล,
แผนการใช้ การออกแบบการจดั การเรยี นร,ู้ การใชส้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น กําหนดรายการสอ่ื เรอ่ื งท่ี
ใชใ้ บงาน, สรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่

2. การเผยแพร่องคค์ วามรู้ ชน้ิ งาน โครงงาน รายงาน การอภปิ ราย ฯลฯ
3.การจดั สร้างแหล่งเรียนรู้ การจดั บรรยากาศเอ้อื ต่อการเรยี นรู,้ การจดั หาส่อื ท่เี ป็นปัจจุบนั
ทนั สมยั สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รและความต้องการของผูเ้ รยี น, การจดั ทําเคร่อื งมอื สบื คน้ ขอ้ มูลท่สี ะดวก
รวดเรว็ , การจดั ระบบการใหบ้ รกิ ารสะดวกรวดเรว็
4. การใช้ การดแู ลรกั ษา และพฒั นาแหล่งเรียนรู้ การใช,้ การดแู ลรกั ษา, การพฒั นา

สรรหามาเขียน

พระพุทธศาสนากบั พืชในพระไตรปิฎก (เช่น ขุ.ชา.27/1469/297) สอนใหร้ ูค้ ุณแมแ้ ต่ของ
พชื ‘องั กุรเปตวตั ถุ’ ทร่ี ะบุตอนหน่ึงไวว้ ่า “...บุคคลอาศยั นัง่ นอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่ควรหกั
รานก่ิงของต้นไม้นัน้ ไม่พึงทาํ ลายแม้ใบของต้นไม้นัน้ เพราะการประทุษร้ายต่อมิตรเป็ นความ
เลวทราม...”

ต้นไมใ้ นพทุ ธประวตั ิ
ตน้ สาละอนิ เดยี ชอ่ื วทิ ยาสตร์ Shorea robusta Roxb.
วงศ์ DIPTEROCARPACEAE
ตามพุทธประวตั กิ ล่าวถงึ เหตุการณ์การประสตู แิ ละดบั ขนั ธป์ รนิ ิพพานของพระพุทธเจา้ ไวว้ ่า
เกดิ ขน้ึ ณ ใตต้ น้ สาละ โดยประสตู ใิ ตน้ ตน้ สาละตน้ เดย่ี วและปรนิ ิพพานใตต้ น้ สาละคู่ หากแต่เป็นตน้ สาละ
อนิ เดยี ซ่งึ มคี วามแตกต่างกบั ต้นสาละลงั กาท่คี นส่วนใหญ่รูจ้ กั กนั และนิยมปลูกในบา้ นเราอย่างสน้ิ เชงิ
แมว้ ่ารปู ทรงของดอกสาละลงั กาจะคลา้ ยคลงึ กบั ดอกบวั ทอ่ี าจเกย่ี วขอ้ งกบั การดาํ เนินได้ 7 กา้ วหลงั การ
ประสตู กิ ต็ าม

มจุ ลนิ ท์ หรอื จกิ น้ํา
ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Barringtonia acutangula (L.) Gaertn.
วงศ์ LECYTHIDACEAE
ปรากฎภายหลงั จากตรสั รู้ ๗ วนั พระพทุ ธเจา้ ทรงออกจากสมาธแิ ลว้ เสดจ็ จากควงตน้ อชปาล
นโิ ครธไปยงั ควงตน้ มจุ ลนิ ท์ เพอ่ื ประทบั นงั่ เสวยวมิ ตุ ตสิ ขุ อยเู่ ป็นเวลา ๗ วนั หลงั จากนนั้ เกดิ เมฆใหญ่ขน้ึ
เป็นฝนเจอื ลมหนาวตกตลอด ๗ วนั จนพญานาคมุจลนิ ท์ไดอ้ อกจากท่อี ยู่ของตนไปโอบรอบพระกาย
ของพระพุทธเจา้ เป็นขนด ๗ รอบ แผ่พงั พานใหญ่ปกคลุมเหนือพระเศยี รเพ่อื ป้องกนั ความหนาวและ
ความรอ้ นรวมถงึ เหลอื บ ยงุ และสตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน

ราชยตนะ หรอื เกด
ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Manilkara hexandra (Roxb.) Dubard
วงศ์ SAPOTACEAE
สปั ดาหส์ ดุ ทา้ ยหลงั จากพระพทุ ธองคท์ รงตรสั รแู้ ลว้ ไดท้ รงประทบั เสวยวมิ ตุ ตสิ ขุ ณ ใตต้ น้
ราชายตนะเป็นเวลา 7 วนั ในระหวา่ งทป่ี ระทบั อยนู่ นั้ ไดม้ พี อ่ คา้ 2 คน ชอ่ื วา่ ตปสุ สะและภลั ลกิ ะนํากอง
เกวยี นคา้ ขายจากแดนไกล ไดถ้ วายเสบยี งทใ่ี ชใ้ นการเดนิ ทางคอื สตั ตุผงและสตั ตกุ อ้ นแดพ่ ระพทุ ธเจา้
หลงั จากนนั้ พระพทุ ธเจา้ ไดแ้ สดงธรรมแกพ่ อ่ คา้ ทงั้ สอง จงึ เกดิ ปฐมอุบาสกถงึ สรณะ ๒ คอื ถงึ พระพทุ ธ
และพระธรรม กอ่ นกลบั พอ่ คา้ ทงั้ สองไดข้ อเสน้ พระเกศา 8 เสน้ เป็นของระลกึ เพอ่ื นําไปบชู ายงั เมอื งของ
ตน


Click to View FlipBook Version