The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เสื้อมัดย้อมจากเปลือกต้นตะบูนดำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อรรถชัย มีสุข, 2021-03-18 04:10:30

เสื้อมัดย้อมจากเปลือกต้นตะบูนดำ

เสื้อมัดย้อมจากเปลือกต้นตะบูนดำ

ช่ือโครงงาน
เสอ้ื มดั ยอ้ มจากเปลอื กต้นตะบูนดา

1 นางสาวธญั กานต์ ชอ่ื ผทู้ าโครงงาน
2 นางสาวขวญั ชนก สทิ ธมิ ล เลขท่ี 24 ชนั้ ม.6/7
3 นางสาวลนิ ดา บญุ เตบิ เลขที่ 30 ชนั้ ม.6/7
คงบนั เลขท่ี 33 ชนั้ ม.6/7

โครงงานนี้เป็นสว่ นหนึ่งของกิจกรรมการเรยี นรู้
วิชา การปลกู ไมส้ วนพฤกษศาสตร์ รหสั ง30273

กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ
โรงเรยี นเฉลิมพระเกยี รติสมเดจ็ พระศรนี ครินทร์ ภเู กต็

ปี การศกึ ษา 2563



กิตติกรรมประกาศ

โครงงานน้สี าเรจ็ ขน้ึ ไดด้ ว้ ยโครงงานสาเรจ็ ขน้ึ ไดด้ ว้ ยความรว่ มมอื ของ
คนในกลมุ่ และความคดิ สรา้ งสรรคก์ นั รวมไปถงึ ยงั ไดค้ ณุ ครผู สู้ อนคอยช้แี นะและ
ใหค้ าปรกึ ษาจนทาใหโ้ ครงงานน้ปี ระสบผลสาเรจ็

ทา้ ยสดุ น้ีผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ โครงงานนจ้ี ะเป็นประโยชน์ต่อ
การศกึ ษาเกย่ี วกบั เสอ้ื มดั ยอ้ มจากเปลอื กต้นตะบูนดาของผสู้ นใจต่อไป

คณะผจู้ ดั ทา



ชื่อเรือ่ งโครงงาน : เสอ้ื มดั ยอ้ มจากเปลอื กต้นตะบนู ดา
ผ้จู ดั ทาโครงงาน
: 1 นางสาวธญั กานต์ สทิ ธมิ ล
2 นางสาวขวญั ชนก บญุ เตบิ
3 นางสาวลนิ ดา คงบนั

ครทู ี่ปรึกษาโครงงาน : ครูอรรถชยั มสี ขุ

ปี การศึกษา : 2563

บทคดั ยอ่

การจดั ทาโครงงานเสอ้ื มดั ยอ้ มจากเปลอื กตน้ ตะบูนดาในครงั้ น้ีมี

วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ใหร้ ูค้ ุณของศกั ยภาพของตน้ ไมใ้ นป่าชายเลนโดยคณะผจู้ ดั ทา

นาเสนอศกั ยภาพของตน้ ตะบนู ดาโดยนามาทาเป็นโครงงานเสอ้ื มดั ยอ้ มจาก

เปลอื กต้นตะบนู ดา

โดยดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ งมาจากอนิ เตอรเ์ น็ตและ

หนังสอื เพ่อื มาเป็นแนวทางในการศกึ ษาและนามาทดลองหลงั จากไดข้ อ้ มลู ทค่ี รบ

ครนั แลว้ จงึ เรมิ่ นาเปลอื กตน้ ตะตูนดามาสกดั สที าเสอ้ื มดั ยอ้ ม

ผลการศกึ ษาและจดั ทาโครงงานพบวา่ ตน้ ตะบูนดามศี กั ยภาพนามาสกดั

ทาเป็นเสอ้ื มดั ยอ้ มได้ โดยไดส้ จี ากธรรมชาตทิ มี่ าจากเปลอื กต้นตะบูนดาสขี อง

เปลอื กต้นตะบนู ทาใหเ้ สอ้ื มลี วดลายทส่ี วยงามปลอดจากสารเคมแี ละใช้

ทรพั ยากรทหี่ าไดต้ ามธรรมชาติ

ค หน้า

สารบญั ข
1
กติ ตกิ รรมประกาศ
บทคดั ย่อ 2
บทที่ 1 บทนา 3

- ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน 4
- วตั ถปุ ระสงค์ 5
- ขอบเขตการศกึ ษาคน้ ควา้ 6
- ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 7
บทท่ี 2 แนวคดิ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 8
บทท่ี 3 วธิ ดี าเนินงาน
- วสั ดุอุปกรณ์
- ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน
บทท่ี 5 สรุปและขอ้ เสนอแนะ
เอกสารอา้ งองิ
ภาคผนวก
ขอ้ มลู ผจู้ ดั ทา

บทท่ี 1
บทนา
ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน
เน่ืองจากภายในโรงเรยี นมปี ่าชายเลนและทางคณะผจู้ ดั ทาสนใจในต้น
ตะบูนดาซ่งึ เป็นตน้ ไมช้ นิดหนงึ่ ทอี่ ย่ใู นป่าชายเลนทน่ี ่าสนใจและทางคณะผจู้ ดั จงึ
เลอื กมาศกึ ษาหาคุณประโยชน์ของตน้ ตะบนู ดาไปเผยแพรภ่ ายในโรงเรยี นและ
ชุมชนเพ่อื ต่อยอดเศรษฐกจิ ภายในชมุ ชน

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ศึกษาสารสกดั สีจากเปลือกต้นตะบูนดา
2เพือ่ นาสีที่ไดม้ าจากเปลอื กต้นตะบูนดามาทาชิ้นงานเสอื้ มดั ย้อม

ขอบเขตของการศึกษาค้นควา้
1 บริเวณป่ าโกงกางรอบโรงเรยี น

ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั
1ไดศ้ ึกษาขอ้ มลู ของต้นตะบนู ดามากขึ้น
2นาขอ้ มูลท่ีศึกษาต้นตะบนู ดามาใช้ประโยชน์

บทท่ี 2
แนวคิดที่เกยี่ วข้อง

ในการจดั ทาโครงงานเส้ือมดั ยอ้ มจากเปลอื กต้นตะบูนดา คณะ
ผ้จู ดั ทาไดน้ าเสนอตามลาดบั ดงั นี้

โรงเรยี นคอลงพทิ ยาลงกรณ(์ สปป.)เผยแพร่ไวว้ า่ ผา้ มดั ยอ้ มจากเปลอื ก
ตน้ ตะบนู เป็นการมดั ยอ้ มทไี่ ม่ตอ้ วใชส้ ารเคมี เป็นการนาวตั ถุดบิ ทม่ี อี ยู่มาเพมิ่
มลู คา่ เป็นการอนุรกั ษภ์ ูมปิ ัญญาชาวบา้ นและดาเนินตามแนวทางของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาศลิ ปะและการออกแบบ มหาลยั พระ
นเรศวร (12 กนั ยายน 2562) ไดเ้ ผยแพร่วา่ สารมารถทาสารสกดั สารจากพชื ได้
หลายวธิ ตี วั ทาละลายทสี่ ามารถใชใ้ นการสกดั พชื ไดแ้ ก่ น้าปนู ใส แอลกอฮอล์
น้ายาผสมแอลกอฮอล์ นอกจากน้ีอาจจะใชก้ ระดา่ งเตมิ ลงไปในน้ายาสกดั ให้
เหมาะสมยงิ่ ขน้ึ

Coggle (มปป.) ไดเ้ ผยแพร่อุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการทาเสอ้ื มดั ยอ้ มนัน้ มเี สอ้ื สี
ทไ่ี ดจ้ ากตน้ ตะบนู ดา หนงั ยาง ตาข่ายเพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หเ้ ศษไมก้ ระจายไปตดิ กบั
ผา้ ทเ่ี รายอ้ ม กอ้ นหนิ หรอื วตั ถขุ นาดต่างๆเพ่อื เอาไวท้ าเป็นแม่แบบกดทบั ผา้
เพ่อื ใหเ้ กดิ ลวดลายตามจนิ ตนาการและเกลอื

บา้ นและสวน (มปป.) ไดเ้ ผยแพรไ่ วว้ า่ นาน้าใส่หมอ้ แลว้ ตงั้ ไวใ้ หน้ ้าเดอื ด
จากนนั้ นาน้าทสี่ กดั จากตน้ ตะบูนดาลงไปต้มหลงั จากนนั้ ใสผ่ า้ ทม่ี ดั เตรยี มไวล้ ง
ไปในหมอ้ ต่อไปอกี ประมาณ 30-1 ชวั ่ โมง ครบกาหนดเวลาแลว้ นาผา้ ขน้ึ จาก
หมอ้ นาไปลา้ งดว้ ยน้าสะอาด 3-4 รอบ แบบไมต่ อ้ งขยผ้ี า้ จากนนั้ นาเสอ้ื ไป
ตากลมใหแ้ หง้

บา้ นครี วี งค์ (28 มนี าคม 2559) ไดเ้ ผยแพรป่ ระโยชน์ของผา้ มดั ยอ้ มไว้
วา่ เพ่อื เป็นการอนุรกั ษ์วธิ กี ารทาผา้ มดั ยอ้ มและเสรมิ สรา้ งรายไดเ้ ศรษฐกจิ ใหก้ บั
คนในชมุ ชน

จากขอ้ มลู ทศี่ กึ ษามาต้นตะบูนดามศี กั ยภาพนามาทาเป็นเสอ้ื มดั ยอ้ มได้
โดยไดส้ จี ากธรรมชาตทิ ม่ี าจากเปลอื กต้นตะบนู ดาสขี องเปลอื กต้นตะบนู ดา ทพ
ใหเ้ สอ้ื มดั ยอ้ มมลี วดลายปลอดสารเคมแี ละใชท้ รพั ยาการทหี่ าไดต้ ามธรรมชาตใิ ห้
เกดิ ประโยชน์มากขน้ึ นอกจากมปี ระโยชน์จากตนเองสามารถทจ่ี ะเผยแพรใ่ หก้ บั
ชมุ ชนใหช้ าวบา้ นเกดิ รายได้ จงึ ทาใหค้ ณะผจู้ ดั ทาคดิ ทจี่ ะตอ่ ยอดทามาเป็น
โครงงานเสอ้ื มดั ยอ้ มจากต้นตะบนู ดา

บทท่ี 3
วิธีการดาเนิ นงาน

ตอนที่ 1 วสั ดอุ ปุ กรณ์
1. เสอ้ื ขาว
2. เปลอื กผลตะบูนทห่ี นั ่ แลว้ 1,000 กรมั
3. น้าเปลา่ 5 ลติ ร
4. เชอื กฟางสาหรบั มดั ยาว 30 ซม. 30 – 50 เสน้

ตอนท่ี 2 วิธีดาเนินงาน
1. หนั ่ เปลอื กผลตะบนู สดตามขนาดทตี่ อ้ งการ
2. นาผลตะบนู ทห่ี นั ่ ไว้ ไปต้มกบั น้าจนเป็นสนี ้าตาล
3. นาผา้ ฝ้ายหรอื ผา้ cotton ทต่ี ดั ไว้ ตามขนาดทตี่ อ้ งการ มามดั ดว้ ย
เชอื กตามทอี่ อกแบบไว้ หรอื ตามจนิ ตนาการ
4. นาไปตม้ ในน้าตะบนู ทเ่ี ตรยี มไว้ นานประมาณ 30-60 นาที หรอื นาน
กว่านัน้ จนไดส้ ตี ามต้องการ
5. ตกั ขน้ึ มาตากใหแ้ หง้ จากนนั้ นาไปตดั เชอื กออก
6. นาไปซกั ใหส้ ะอาด รดี ใหเ้ รยี บ
7. สามารถนาไปใชไ้ ดต้ ามตอ้ งการ

บทท่ี 4
ผลการดาเนิ นงาน

จากการดาเนิ นงาน

สารทช่ี ่วย ความเขม้ ขน้ 3 ระดบั
ติดสี 3 กรมั 5 กรมั 7 กรมั

น้าปูนใส 14-1210 TP 14-1210 TP 14-1210 TP

shifting sand shifting sand shifting sand

จากการดาเนินงานพบวา่ เปลืกต้นตะบูนดาท่ีนาไปสกดั สีโดยใช้น้า

ปนู ใสเป็นสารท่ีช่วยติดสีทาให้สีของผา้ มดั ย้อมมสี ที ่ีติดตามปริมาณของ

น้าปูนใสความเข้มข้นจากมากไปน้อยตามลาดบั

ภาพชิ้นงานทีส่ มบูรณ์ (กรณีโครงงานมีสิ่งประดิษฐ)์ / แผนภมู ิ กราฟ

บทท่ี 5
สรปุ และข้อเสนอแนะ

สรปุ ผลการศึกษา
จากการศกึ ษาความเขม้ ขน้ 3 ระดบั ของสารทชี่ ่วยตดิ สขี องเสอ้ื มดั ยอ้ ม

จากเปลอื กต้นตะบูนดาโดยวธิ กี ารเปรยี บเทยี บของสารทชี่ ว่ ยคอื น้าปนู ใส ไดน้ า
สารทชี่ ่วยตดิ สนี ามาเปรยี บเทยี บ คอื น้าปนู ใส 3,5,7 กรมั ต่อน้า 6 ลติ ร
ตามลาดบั พบว่าน้าปนู ใส 7 กรมั ใหค้ วามเขม้ ขน้ ของสที ช่ี ว่ ยตดิ เสอ้ื ไดม้ ากที่สดุ
ความเขม้ ขน้ รองลงมาเป็นน้าปูนใส 5 กรมั และ 5 กรมั ตามลาดบั
อภิปรายผลการศกึ ษา

จากการทดลองพบวา่ น้าปูนใสทม่ี ปี รมิ าณเยอะกว่าเป็นสารทชี่ ่วยตดิ สไี ด้
มากทส่ี ุดและความเขม้ ขน้ นอ้ ยลงมาอยทู่ ป่ี รมิ าณของสารทช่ี ่วยตดิ สสี อดคลอ้ ง
กบั รายงานคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาศลิ ปะและการออกแบบ
มหาวทิ ยาลยั นเรศวรไดเ้ ผยแพรว่ า่ สามารถทาการสกดั สารจากพชื ไดห้ ลายวธิ ตี วั
ทาละลายทสี่ ามารถในการสกดั พชื ไดแ้ ก่ น้าปูนใส แอลกอฮอล์และความเขม้ ขน้
ขน้ึ อย่กู บั ปรมิ าณของสารสกดั สมี ากหรอื นอ้ ยตามลาดบั
ขอ้ เสนอแนะ

1) เปลยี่ นสารสกดั สใี หเ้ ป็นสารทสี่ ามารถหาไดต้ ามธรรมชาติ
2) นาไปประดษิ ฐ์ในรูปแบบทหี่ ลากหลายมากขน้ึ เพ่อื สรา้ งรายได้

เอกสารอ้างอิง
https://www.scbfoundation.com/media_knowledge/knowledge/319/%E
0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0
ค้นหาเม่อื :20 มกราคม 2564
https://coggle.it/diagram/WKlpFnu6qQABGc2R/t/%E0%B8%81%E0%B
8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%
ค้นหาเม่อื :20 มกราคม 2564
https://m.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1575038549436388
&id=1575033316103578
คน้ หาเม่อื :20 มกราคม 2564
https://l.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fso05.tci-
thaijo.org%2Findex.php%2FRRBR%2Farticle%2Fdownload%
คน้ หาเมอื่ :20 มกราคม 2564

ภาคผนวก
ภาพท่ี 1 อปุ กรณ์การทดลอง
ภาพท่ี 2 ระหวา่ งการทดลองการยอ้ มสเี สอ้ื มดั ยอ้ ม

ขอ้ มูลผ้จู ดั ทา

ช่ือ ธญั กานต์ นามสกลุ สิทธิมล
อายุ 18 ปี
ที่อยู่ 21/25 ม.4 ซ.นพตาแก้ว อ.ถลาง จ.ภเู กต็ 83110
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0627278692
Email : [email protected]

ชื่อ ขวญั ชนก นามสกลุ บญุ เติบ
อายุ 18 ปี
ที่อยู่ 3/43 หม่4ู ซอยเกาะแก้ว24 ตาบลเกาะแก้ว
อาเภอเมือง จงั หวดั ภเู กต็
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0615966887
Email : [email protected]

ชื่อ ลินดา นามสกลุ คงบนั
อายุ 18 ปี
ที่อยู่ 121/183 ซ.ทรายทอง4 ถ.วิชิตสงคราม ม.7 ต.
กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภเู กต็ 83120
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0970762368
Email : [email protected]




Click to View FlipBook Version