คำส่ังโรงเรยี นบำ้ นกรวดวทิ ยำ
ที่ ๑๗๓/ ๒๕๖๓
เรอ่ื ง อนุมตั กิ ำรเดนิ ทำงไปรำชกำรในรำชอำณำจกั รของข้ำรำชกำรครแู ละนกั เรยี นในสถำนศกึ ษำ
อำศยั อำนำจตำมคำส่ัง สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน ท่ี ๑๓๖๕/๒๕๖๐ เรอื่ ง
มอบอำนำจกำรอนุมัติกำรเดินทำงไปรำชกำร สั่ง ณ วันท่ี ๒๘ สิงหำคม ๒๕๖๐ เรือ่ ง มอบอำนำจกำรอนุมัตกิ ำร
เดินทำงไปรำชกำรของขำ้ รำชกำรครู ลกู จำ้ งประจำ และระเบียบกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร ว่ำด้วยกำรพำนักเรยี น
ไปนอกสถำนศึกษำไมค่ ้ำงคืน รำยชอ่ื ดงั แนบ
เดินทำงไปรำชกำร นำนกั เรียนเขำ้ ร่วมกำรแข่งขนั กีฬำชงิ ชนะเลศิ แหง่ จังหวัดบรุ รี มั ยป์ ระจำปี
งบประมำณ พ.ศ. ๒๕๖๓ วนั ที่ ๑๓ – ๑๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๓ ณ โรงยมิ พลศกึ ษำ มหำวทิ ยำลัยรำชภฎั บุรีรัมย์
ขงั หวัดบุรรี มั ย์
ทง้ั น้ี ใหผ้ ทู้ ีไ่ ดร้ ับคำสั่งปฏบิ ัติหนำ้ ทดี่ ้วยควำมเอำใจใส่ เสียสละ อยำ่ งเต็มกำลังควำมสำมำรถ
เพ่อื ใหเ้ ป็นไปดว้ ยควำมเรียบร้อย มปี ระสิทธภิ ำพ เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ต่อรำชกำร
สง่ั กำร ณ วนั ที่ ๕ กมุ ภำพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓
(นำยอคั รเดช หลำบนอก)
ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนบำ้ นกรวดวิทยำคำร
คำสัง่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน
ที่ ๒๒/ ๒๕๖๐
เร่ือง มอบอำนำจเกี่ยวกับกำรพสั ดุ
อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๔๕ แห่งพระรำชบัญญัตริ ะเบยี บบรหิ ำรรำชกำร
กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร พ.ศ. ๒๕๖๐ และขอ้ ๙ แห่งระเบยี บสำนกั นำยกรฐั มนตรี วำ่ ดว้ ยกำรพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๕๙
และท่แี ก้ไขเพมิ่ เตมิ จงึ มอบอำนำจเกย่ี วกับกำรดำเนินกำรจดั ทำเอง กำรซื้อ กำรจ้ำง กำรจ้ำงท่ีปรึกษำ กำรจ้ำง
ออกแบบและควบคมุ งำน กำรแลกเปลี่ยน กำรเช่ำ กำรควบคมุ กำรจำหนำ่ ย และกำรดำเนนิ กำรอื่นๆ ที่
กำหนดในระเบยี บสำนดั นำยกรฐั มนตรี ว่ำดว้ ยกำรพัสดุของสำนักงำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำหรือสถำนศึกษำ
แล้วแต่กรณี ให้ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศึกษำและผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ ปฏิบตั ิรำชกำรแทน
เลขำธกิ ำรคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน เต็มวงเงนิ ท่เี ปน็ อำนำจของหัวหนำ้ ส่วนรำชกำร
ท้งั น้ี ตงั้ แต่วนั ท่ี ๘ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๐
สง่ั กำร ณ วนั ที่ ๘ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๐
(นำยไพฑูรย์ จยั สนิ )
นกั บรหิ ำร ๑๐ รกั ษำรำชกำรแทน
เลขำธกิ ำรคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพื้นฐำน
คำสั่งกรมกำรปกครอง
ท่ี ๗๔๙/ ๒๕๖๑
เรือ่ ง ให้ข้ำรำชกำรชว่ ยรำชกำร
เพอ่ื ประโยชนข์ องทำงรำชกำร อำศยั อำนำจควำมในมำตรำ ๓๒ แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบ
บรหิ ำรรำชกำรแผ่นดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๓๒ แห่งพระรำชบัญญัตริ ะเบยี บบริหำรรำชกำร
แผ่นดนิ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ จงึ ให้ นำยดรณ์ สมติ ะเกษตรนิ ตำแหน่ง นำยอำเภอ (ผู้อำนวยกำรสูง) อำเภอ
ลำลูกกำ จังหวัดปทมุ ธำนี ไปชว่ ยรำชกำรที่กรมกำรปกครอง โดยมอบหมำยให้ปฏิบตั หิ นำ้ ท่ีทว่ี ทิ ยำลัยกำร
ปกครอง กรมกำรปกครอง
ท้ังนี้ ตั้งแตว่ ันท่ี ๑๑ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป จนกว่ำจะมีคำส่งั เปล่ียนแปลง
สงั่ กำร ณ วันท่ี ๑๐ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๒๕๖๑
รอ้ ยตำรวจโทร
(อำทติ ย์ บุญญะโสภคั )
อธบิ ดกี รมกำรปกครอง
คำสัง่จัจ่ วัห่ วองจคำ
ทงี ๒๒๖๘ / ๒๕๕๖
เรงืง จ กำรมงบวมำ ใว้รงจผู้ั่ำรำชกำรั่จวัห่ กำกบ่ หแู ลกำรปฏิบ่ตริ ำชกำรใอทง้ จทงีง ำเภง
ตำมคำสัง่จั่จวั่หวองจคำ ทีง ๙๑๓/๒๕๕๕ ลจั่อทงี ๒๘ กุมภำพอ่ ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ผัู้ ำ่ รำชกำร
ั่จวัห่ วองจคำ ไหม้ งบวมำ ใวร้ งจผู้ัำ่ รำชกำร กำก่บกำรหูแลปฏบิ ่ติรำชกำรใอท้งจทีงงำเภง ต้จ่ แต่ัอ่ ทีง ๒๘
กมุ ภำพอ่ ธ์ ๒๕๕๕ อ้่อ
เพงืงใวก้ ำรปฏิบต่ ิรำชกำรขงจั่จวั่หวองจคำ เป็อไปหั้ คัำมเรี บร้ง มีประสัิทธิภำพ
และสังหคลง้ จกบ่ ข้งเท็ััริจใอปัััุบ่อ ัึจสัมคัร กเลกิ คำสัง่จทงี ๙๑๓/๒๕๕๕ ลจั่อทงี ๒๘ กุมภำพอ่ ธ์ พ.ศ.
๒๕๕๕ เรงืงจ กำรมงบวมำ ใวร้ งจผูั้ ่ำรำชกำรกำกบ่ กำรหูแลปฏบิ ่ติรำชกำรใอท้งจทงงี ำเภงและใว้ใชค้ ำสัจ่ง อี้
บจ่ ค่บแทอโห มีรำ ละเงี หห่จตง่ ไปอี้
มงบวมำ ใวร้ งจผัู้ ำ่ รำชกำรกำก่บหแู ลกำรปฏิบ่ตริ ำชกำรใอทง้ จทีงงำเภง แบจ่ เป็อกลุ่มพือ้ ทีง
งำเภง หจ่ อ้ี
๑. กล่มุ พอ้ื ทงีง ำเภงทีง ๑ มงบวมำ ใว้ อำ ธอัฒ่ อ์ พลง โสัภณ รงจผู้ั่ำรำชกำรัจ่ วัห่
วองจคำ กำก่บหูแลกำรปฏิบต่ ิรำชกำรใองำเภงห่จต่งไปอ้ี
๑. งำเภงเมืงจวองจคำ
๒. งำเภงสั่จคม
๓. งำเภงทำ่ บง่
๔. งำเภงศรีเชี จใวม่
๒. กลมุ่ พือ้ ทงงี ำเภงทีง ๒ มงบวมำ ใว้ อำ งโณท่ ธรรมกลุ รงจผูั้ ำ่ รำชกำรัจ่ วัห่
วองจคำ กำก่บหแู ลกำรปฏิบ่ติรำชกำรใองำเภงห่จตง่ ไปอ้ี
๑. งำเภงสัระใคร
๒. งำเภงโพอพิสั่
๓. งำเภงเผำ้ ไร่
๔. งำเภงอัำปี
ท่้จอ้ี ต้จ่ แตบ่ ่หอ้เี ป็อตอ้ ไป
สัจ่ง กำร ณ ัอ่ ทงี ๓๑ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(อำ ัริ ต่ อ์ ล้มิ สััุ ฒ่ อ์)
ผัู้ ่ำรำชกำรั่จวั่หวองจคำ
ระเบยี บสำนักงำนตำรวจแหง่ ชำติ
ว่ำด้วยประมวลระเบยี บกำรตำรวจไม่เกย่ี วกับคดี
ลักษณะที่ ๑๖
กำรสง่ เสรมิ จรยิ ธรรมและจรรยำบรรณของตำรวจ
พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยท่ีเปน็ กำรสมควรปรับปรุงประมวลระเบยี บกำรตำรวจไม่เก่ียวกับคดี ลักษณะท่ี ๑๖ กำร
ไหวพ้ ระสวดมนต์สำหรับตำรวจ เพอ่ื เสรมิ สร้ำงให้ขำ่ รำชกำรตำรวจปฏิบตั ิหน้ำทีอ่ ยำ่ งมคี ณุ ธรรม จริยธรรม
สอดคล้องกับกฎ ก.ตร. วำ่ ด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยำบรรณของตำรวจ
๑.ระเบียบนเี้ รียกว่ำ “ระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธิกำรว่ำดว้ ยกำรปฏบิ ตั ิของผู้เข้ำสอบ ฉบับท่ี ๒
พ.ศ. ๒๕๕๕
อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๑ แห่งพระรำชบัญญตั ิตำรวจแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ผู้
บัญชำกำรตำรวจแห่งชำติ จึงวำงระเบียบไว้ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกควำมในฉบับที่ ๑๖ กำรไหว้พระสวดมนตส์ ำหรับตำรวจ แหง่ ประมวลระเบยี บ
ตำรวจไมเ่ กยี่ วกับคดี และให้ใชค้ วำมท่ีแนบท้ำยระเบียบนี้แทน
ข้อ ๒ ให้ใช้ระเบยี บนี้ ต้งั แต่บัดนี้เป็นตน้ ไป
ประกำศ ณ วันท่ี ๒๖ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พลตำรวจเอก
(จกั รทิพย์ ชัยจินดำ)
ผู้บญั ชำกำรตำรวจแห่งชำติ
ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการ
ว่าดว้ ยการปฏบิ ัติของผเู้ ขา้ สอบ(ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๕๕
โดยทเ่ี ป็นการสมควรแกไ้ ขเพมิ่ เติมระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วยการปฏิบตั ขิ องผ้เู ข้า
สอบ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้มีความเหมาะสมยงิ่ ข้นึ อาศัยอานาจความในมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบญั ญัติระเบียบ
บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๕๖ รัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการกระทรวงศึกษาธกิ าร จงึ วางระเบยี บไว้
ดังตอ่ ไปนี้
๑.ระเบียบน้ีเรยี กว่า “ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ยการปฏบิ ัติของผเู้ ขา้ สอบ ฉบบั ที่ ๒
พ.ศ. ๒๕๕๕
๒.ระเบยี บนีใ้ หใ้ ชต้ งั้ แต่วันประกาศเป็นตน้ ไป
๓.ใหย้ กเลกิ ความใน ๔.๑๐ ของข้อ ๔ แห่งระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ด้วยการปฏิบตั ขิ อง
ผ้เู ขา้ สอบ พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใชค้ วามต่อไปน้แี ทน ๔.๑๐ ต้องนั่งอยใู่ นห้องสอบจนหมดเวลาสอบ
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ศาสตราจารย์สชุ าติ ธาคาธารงเวช)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ
คำสั่จง ัจ่ วัห่ วองจคำ
ทีง ๑๓๗ / ๒๕๕๗
เรงืง จ มงบงำอำัขงจอำ กงจคก์ ำรบริวำรสัั่ อตำบลใว้ปล่หงจ๕กำรบรวิ ำรสั่ัอตำบลปฏิบต่ ริ ำชกำรแทอ
เพงืงใว้กำรบรวิ ำรรำชกำรขงจงจคก์ ำรบรวิ ำรสั่ัอตำบลอำจแก้ั เปอ็ ไปหั้ คัำมรัหเร็ั
คลง่ จต่ั รัมท้่จเป็อกำรลหข้่อตงอและระ ะเัลำใอกำรสัง่จกำร กำรงอุญำต และกำรงอมุ ต่ ิ ใอเรงงื จเกีง ัก่บ
กำรใว้บรกิ ำรประชำชอโห ตรจ งำศ่ งำอำัตำมคัำมใอมำตรำ ๖๐ แวจ่ พระรำชบ่ญญ่ติสัภำตำบลและงจ๕
กำรบรวิ ำรสั่ัอตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และแกไ้ ขเพิงมเติมถจึ (ฉบ่บทีง ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒ ใว้ปลห่ งจคก์ ำรบริวำรสัั่ อ
ตำบลบำจแก้ัปฏบิ ่ติรำชกำรแทอใอกำรสัจง่ กำรงอญุ ำต และกำรงอมุ ่ติ ตำมบญ่ ชกี ำรมงบวมำ งำอำัแอบ
ทำ้ คำสัจ่ง อ้ี
ใอกำรอี้ เมงืง ปล่หงจค์กำรบรวิ ำรสัั่ อตำบลบำจแกั้ ไหป้ ฏบิ ่ตริ ำชกำรแทอทงไี หร้ ่บมงบงำอำั
ตำมคำสัจง่ อีไ้ ปแล้ั ใว้ทำบ่ญชสี ัรปุ ง่ เสัองอำ กงจค์กำรบรวิ ำรสั่ัอตำบลบำจแกั้ ทุกสัำมสัิบั่อ
ทจ้่ อี้ ต้จ่ แต่บห่ อ้เี ปอ็ ต้อไป
สังจ่ กำร ณ ั่อทงี ๗ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๕๗
(อำ มณฑล ไั เัรญิ )
อำ กงจคก์ ำรบรวิ ำรสั่ัอตำบลบำจแกั้
ขอ้ บังคับมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
ว่าดว้ ยการแต่งตงั้ ศาสตร์เมธาจารย์ พ.ศ. ๒๕๕๖๐
โดยท่เี ปน็ การสมควรให้มขี อ้ บงั คบั วา่ ด้วยการแตง่ ตงั้ ศาสตราจารย์ เพือ่ เป็นยกย่อง เชิดชู และ
สนบั สนุนอาจารย์ประจาที่ดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการในระดบั “ศาสตราจารย์”ของคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัย
ซึง่ มีคงวามเปน็ เลิศในทางวชิ าการใหส้ ามารถธารงความเปน็ เลิศทางวิชาการ โดยการผลติ และเผยแพรต่ าราวิจัย
ตลอดจนผลงานวชิ าการในรปู แบบอน่ื ทม่ี ีคณุ ภาพเปน็ เลิศให้แกส่ าธารณชนระดับชาติ
อาศยั อานาจตามความมาตรา ๑๘ (๒) และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติ
มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๑ ข้อบงั คับนเี้ รยี กว่า “ข้อบังคบั มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ วา่ ดว้ ยเร่ืองการแต่งตงั้ ศาสตร
เมธาจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๐”
ข้อ ๒ ข้อบงั คับนี้ให้ใช้บังคับตง้ั แต่วันถัดจากวันประกาศเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ บทนิยาม
ในขอ้ บังคับ
“มหาวทิ ยาลยั ” หมายความว่า มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
“สภามหาวทิ ยาลยั ” หมายความว่า สภามหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์
“คณะ” หมายความรวมถึง วทิ ยาลัย สถาบัน สานกั หรอื หนว่ ยงานที่เรียกชอื่ อย่างอน่ื ทมี่ ี
ฐานะเทยี บเท่าคณะทม่ี ีหนา้ ทใ่ี นการจดั การเรยี นการสอนและการวจิ ยั
“คณบด”ี หมายความรวมถึง ผอู้ านวยการสถาบนั ผู้อานวยการสานกั หรอื หัวหนา้ หนว่ ยงาน
ทเ่ี รียกช่อื อยา่ งอนื่ ทม่ี ีฐานะเทียบเทา่ คณะท่ีมีหน้าทจี่ ัดการเรยี นการสอนหรอื การวิจยั
ขอ้ ๔ ช่อื ตาแหน่ง
ชือ่ ตาแหน่งท่เี ปน็ ภาษาไทย (ศาสตราเมธาจารย์) ผ้สู นบั สนุนการเงิน (สาขาวิชาท่ีเชย่ี วชาญ)
ชื่อตาแหนง่ ทีเ่ ปน็ ภาษาองั กฤษ (Name of Donor) Professor of (Area of Expertise)
ขอ้ ๕ คุณสมบัติของศาสตรเมธาจารย์
ผ้ทู ่จี ะได้รบั การเสนอแตง่ ต้งั เปน็ ศาสตรเมธาจารย์ จะตอ้ งมีคณุ สมบัตดิ งั นี้
(๑) เป็นศาสตราจารย์ประจามหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์
(๒) เปน็ ผู้มีผลงานวชิ าการท่มี คี ุณภาพดีเลศิ ออกสู่สังคมอย่างต่อเนอ่ื งตลอดระยะเวลา ๕ ปีท่ี
ผา่ นมาโดยเฉพาะผลงงานที่ได้รับการตีพมิ พ์ เปน็ ท่ยี อมรบั ในระดับชาติ
(๓) เปน็ ผู้แสดงออกถงึ ความมงุ่ มัน่ และมศี ักยภาพ ตลอดจนมีแผนงานท่ีชัดเจนในการผลิต
ผลงานทางวชิ าการทมี่ ีคุณภาพดีเลิศอยา่ งตอ่ เน่อื งในช่วงระยะเวลา ๓ ปขี ้างหน้า
(๔) เปน็ ผูท้ ี่ไมม่ ีประวตั ิด่างพร้อยในดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ
ขอ้ ๖ การรักษาการตามขอ้ บงั คับ
ให้อธิการบดีเปน็ ผ้รู กั ษาการตามข้อบังคับน้ี และมีอานาจออกประกาศ คาส่ังหรือการอ่นื ท่ี
เกี่ยวขอ้ งเพื่อปฏบิ ตั ิการตามข้อบงั คับนี้
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๒ มีนามคม พ.ศ. ๒๕๖๐
(ดร. สุเมธ ตนั ติเวชกลุ )
นายกสภามหาวทิ ยาลัย
ขอ้ บงั คับจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
วา่ ดว้ ยเครือ่ งแบบ เครอื่ งหมาย และเครือ่ งแตง่ กายของนสิ ิต (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๖๐
โดยท่ีสมควรแกไ้ ขเพ่มิ เติมข้อบงั คับจฬุ าลงกรณม์ หาวิทาลยั ว่าด้วยเครื่องแบบ เครื่องหมาย
และเครอ่ื งแต่งกายของนสิ ิต พ.ศ. ๒๕๕๓ เพ่อื รองรับการจัดตัง้ สานกั วิชาทรัพยากรการเกษตรข้นึ ใน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาศัยอานาจตามความมาตรา ๒๑ (๒) และมาตรา ๖๘ แห่งพระราชบัญญัตจิ ุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั พ.ศ. ๒๕๕๑ จงึ มติใหอ้ อกข้อบังคบั ไว้ ดังนี้
ข้อ ๑ ขอ้ บงั คบั นเ้ี รยี กว่า “ขอ้ บงั คบั จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ว่าด้วยเรื่องเคร่อื งแบบ
เคร่ืองหมาย และเครือ่ งแตง่ กายของนสิ ิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐”
ขอ้ ๒ ข้อบงั คบั นีใ้ ห้ใช้บงั คับต้งั แตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ใหเ้ พิม่ ความตอ่ ไปนีท้ ้ายวรรคสองของ (๒) ของข้อ ๘ แหง่ ขอ้ บงั คบั จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัยว่าดว้ ยเคร่อื งแบบ เครื่องหมาย และเครอื่ งแตง่ กายของนสิ ิต พ.ศ. ๒๕๕๓
“สานกั วิชาทรัพยากรการเกษตร สแี ดงอิฐ”
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
(ลงนาม) สุชาดา กีระนนั ท์
(ศาสตราจารย์กติ ติคุณ ดร.คุณหญงิ สชุ าดา กรี ะนนั ท์)
นายกสภามหาวทิ ยาลัย