The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่ออิเล็กทรอนิกส์ประกอบการศึกษา รายวิชา IS 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by parep, 2021-08-01 04:18:44

Women's Rights In Thailand

สื่ออิเล็กทรอนิกส์ประกอบการศึกษา รายวิชา IS 1

Keywords: Women's Rights In Thailand

ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ประกอบการศึกษา รายวชิ า IS 1

โรงเรียนสามคั คีวิทยาคม

สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาเขต 36







ปัจจุบนั ยงั มีหญิงไทยอยเู่ ป็นจานวนมากที่ยงั ไม่ทราบถึงกฎหมายคุม้ ครองดา้ นสิทธิ
มนุษยชนท่ีตนไดร้ ับ สาเหตุอนั เนื่องมาจากการปลูกฝังและอบรมสง่ั สอนมาแต่ชา้ นาน ทาใหห้ ลกั
ความเชื่อของค่านิยมที่ถือผชู้ ายเป็นใหญ่ยงั คงอยใู่ นทศั นคติความคิดของผหู้ ญิงหลายคน อีกท้งั ใน
ปัจจุบนั หญิงไทยบางส่วนยงั ประสบปัญหาการถูกล่วง ละเมิดสิทธิมนุษยชนอยหู่ ลายดา้ น ไม่วา่ จะ
เป็นการใชค้ วามรุนแรงภายในครอบครัว การถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือ แมแ้ ต่กฎระเบียบขอ้ บงั คบั
บางส่วนท่ีจากดั สิทธิของสตรี

ประเทศไทยต้งั แต่เดิมสถานภาพของสตรียงั ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม สตรีจึงมกั ถูก
มองวา่ เป็นสิ่งท่ีดอ้ ยคุณค่าและไร้ความสามารถ ถูกกดขี่ ข่มเหง และกีดกนั ไม่ไดร้ ับความเสมอภาค
ความเท่าเทียมกบั ผชู้ ายท้งั ที่มีสถานภาพความเป็นมนุษยเ์ หมือนกนั ซ่ึงการไม่เคารพในสิทธิมนุษยชน
ของสตรีตลอดจนถึงการเลือกปฏิบตั ิต่อผเู้ ป็นสตรีน้นั อาจมีสาเหตุอนั เน่ืองมาจากสภาพของสงั คมใน
สมยั ก่อนที่มีการยดึ ถือปฏิบตั ิสืบต่อกนั มาโดยผชู้ ายมีหนา้ ที่รับผดิ ชอบในฐานะหวั หนา้ ครอบครัว ทา
ใหส้ ตรีมีบทบาทลดลง แต่เน่ืองในปัจจุบนั สตรีไดร้ ับการศึกษาข้นั สูง มีความสามารถและมีบทบาท
สาคญั ทาใหส้ ิทธิมนุษยชนของสตรีไดร้ ับการยอมรับและคุม้ ครองในดา้ นต่างๆ ซ่ึงมีรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2540 อนั เป็นบทกฎหมายหลกั สูงสุดของประเทศ บญั ญตั ิกฎหมาย
รับรองสิทธิสตรีไว้

ดงั น้นั คณะผจู้ ดั ทาจึงนาสิทธิมนุษยชนของสตรีมาเป็นประเดน็ ในการศกึ ษา เพื่อนา
ความรู้เหล่าน้นั ออกไปเผยแพร่ใหแ้ ก่ผหู้ ญิงไทยท่ียงั ไม่ทราบถึงสิทธิมนุษยชนที่ตนไดร้ ับและเป็น
แนวทางไม่ใหถ้ ูกล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

เรื่อง หน้า

บทนา.............................................................................................................................ก
สิทธิมนุษยชนของสตรี..................................................................................................1
ความสาคญั ของสิทธิมนุษยชนของสตรี.........................................................................2
วนั สตรีสากล...............................................................................................................3-4
องค์กรคุ้มครองสิทธิสตรี............................................................................................5-7
กฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรี.................................................................8-11
กฎหมายครอบครัว....................................................................................................8-10
กฎหมายแรงงาน...........................................................................................................10
กฎหมายแพง่ ................................................................................................................11

บทบัญญตั ิรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช 2560 เกย่ี วกบั สตรี......12-14
ข้อมูลเชิงสถติ จิ ากผลสารวจการกรอกแบบฟอร์มสอบถาม.....................................15-27

1

สิทธิมนุษยชนของสตรี

สิทธิมนุษยชน (Human Rights) หมายถึงสิทธิข้นั พ้นื ฐานของมนุษยท์ ่ีเกิดมาพร้อมกบั ความ
เท่าเทียมกนั ท้งั ในแง่ของศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษยแ์ ละสิทธ์ิในการดารงชีวติ โดยไม่คานึงถึงความแตกต่างซ่ึง
ไม่วา่ จะเป็นเรื่องของเช้ือชาติ สีผวิ เพศ อายุ ภาษา ศาสนา สถานภาพทางกาย สุขภาพ รวมถึงความเช่ือทาง
การเมืองหรือความเช่ืออื่นๆน้นั ข้ึนอยกู่ บั พ้ืนฐานทางสังคม สิทธิมนุษยชนจึงเป็นส่ิงที่ไม่สามารถถ่ายทอด
หรือโอนใหแ้ ก่ผอู้ ่ืนได้

สิทธิมนุษยชนของสตรี (Women's rights) คือสิทธิที่กาหนดไวใ้ หแ้ ก่สตรีและเดก็ ผหู้ ญิงทว่ั
โลก ซ่ึงกฎหมายบางแห่งมีเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีทอ้ งถ่ินและพฤติกรรมที่มีส่วนในการสนบั สนุน
และเสริมสร้างสิทธิเหล่าน้ี ในขณะที่บางแห่งผคู้ นยงั เพิกเฉยในสิทธิมนุษยชนมนุษยชนของสตรี ซ่ึงสิทธิ
มนุษยชนของสตรีแตกต่างจากแนวคิดในมุมมองเร่ืองสิทธิมนุษยชนโดยพจิ ารณาจากขอ้ อา้ งต่างๆท่ีแสดง
ความลาเอียงทางดา้ นประเพณีหรือประวตั ิศาสตร์โดยอา้ งขอ้ มูลดงั กล่าวในการต่อตา้ นการใชส้ ิทธิมนุษยชน
ของสตรีและใหก้ ารยอมรับผชู้ ายและเดก็ ผชู้ ายมากกวา่

2

ความสาคญั

ปัจจุบนั ยงั มีสตรีจานวนมากท่ีตอ้ งเผชิญหนา้ กบั อุปสรรคเพ่อื ที่จะไดร้ ับสิทธิมนุษยชนมาก
ข้ึนสาเหตุอนั เน่ืองมาจากปัจจยั ต่างๆไม่วา่ จะเป็นเช้ือชาติ ภาษา วฒั นธรรม ศาสนา ความพิการ ชนช้นั หรือ
ความเป็นชนพ้ืนเมือง ผอู้ พยพรวม ผลู้ ้ีภยั สตรีเหล่าน้ียงั อาจเสียเปรียบและถูกกีดกนั ออกไป เน่ืองจากการ
ขาดความรู้เก่ียวกบั สิทธิมนุษยชนของตน หรือมีอุปสรรคในการเขา้ ถึงขอ้ มูลและกลไกการช่วยเหลือใน
กรณีท่ีมีการละเมิดสิทธิเกิดข้ึน

3

วนั สตรีสากล

วนั สตรีสากล (International Women's Day) ตรงกบั วนั ท่ี 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวนั ท่ีจดั
ข้ึนเพ่อื เฉลิมฉลองใหแ้ ก่ความสาคญั ของผหู้ ญิงทวั่ โลก และใหต้ ระหนกั ถึงบทบาทของผหู้ ญิงท่ีมีต่อการ
ขบั เคลื่อนของเศรษฐกิจและสังคม อีกท้งั วนั ดงั กล่าวยงั มีประวตั ิความเป็นมายาวนานกวา่ 100 ปี

ประวตั คิ วามเป็ นมา

จุดเร่ิมตน้ ของวนั สตรีสากลเกิดข้ึนเม่ือวนั ที่ 28 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ.1909 ณ เมืองชิคาโก
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีกลุ่มแรงงานหญิงท่ีทางานในโรงงานทอผา้ ไดร้ วมตวั กนั ตามทอ้ งถนน เพอื่
เดินขบวนเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม หลงั จากไดร้ ับค่าจา้ งดว้ ยความไม่เป็นธรรม อีกท้งั ความ
เป็นอยขู่ องแรงงานสตรีในเมืองชิคาโก มกั กล่าววา่ ไม่ต่างอะไรจากทาสนิโกรในเง้ือมมือของคนผวิ
ขาว เพราะตอ้ งทางานหนกั วนั ละ 16-17 ชวั่ โมง โดยไม่มีวนั หยดุ และไม่มีหลกั ประกนั การใดๆ ซ่ึง
เป็นผลอนั ก่อใหเ้ กิดการเจบ็ ป่ วยลม้ ตายตามมาในระยะเวลาอนั ส้ันแต่กลบั ไดร้ ับค่าแรงเพียงเลก็ นอ้ ย
อีกท้งั สตรีท่ีต้งั ครรภม์ กั จะถูกไล่ออก ซ่ึงนบั เป็นความพยายามอยา่ งมากในการออกมาเคล่ือนไหว
เพอื่ สิทธิมนุษยชนของสตรีคร้ังสาคญั ภายใตก้ ารสนบั สนุนของพรรคสงั คมนิยม แมจ้ ะมีหลายร้อย
คนถูกจบั กมุ แต่กไ็ ดร้ ับการสนบั สนุนจากสตรีท้งั โลก ส่งผลใหว้ ถิ ีการผลิตแบบทุนนิยมเริ่มสัน่ คลอน

4

ก่อนหนา้ น้ีเมื่อวนั ที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1907 นกั การเมืองสตรสี ายแนวคิดสงั คม
นยิ ม ชาวเยอรมนั นาม “คลาร่า เซทคิน” ไดร้ ะดมกลุ่มแรงงานหญิงมากกวา่ 15,000 คนออกไป
ประทว้ งดว้ ยการเดินขบวนนดั หยดุ งานเพ่อื เรียกร้องความเป็นธรรม สาเหตุท่ีเลือกเคลื่อนไหว
ในวนั ที่ 8 มีนาคมน้นั เนื่องจากคาแนะนาของ “เทเรซ่า มลั คีล” นกั เคลื่อนไหวดา้ นแรงงานชาว
อเมริกนั เช้ือสายยเู ครนที่ตอ้ งการระลึกถึงการต่อสูข้ องแรงงานหญิงที่ทางานในโรงงานทอผา้
รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาซ่ึงพวกเธอไดร้ วมตวั กนั การเรียกร้อง ใหน้ ายจา้ งเพิม่ ค่าแรง
และสวสั ดิการและเพอ่ื เรียกร้องสิทธิมนุษยชนของพวกเธอ เมื่อวนั ที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1857 แต่
ระหวา่ งการชุมนุมไดม้ ีการลอบวางเพลิงโรงงานทอผา้ และมีการใชก้ าลงั ในการสลายการชุมนุม
ทาใหส้ ุดทา้ ยตอ้ งมีผหู้ ญิงถึง ๑๑๙ คน ตอ้ งเสียชีวติ จากเหตุการณ์ในคร้ังน้ีดว้ ยการที่มีคนลอบ
วางเพลิงเผาโรงงานทอผา้ ขณะท่ีพวกเธอกาลงั นง่ั ชุมนุมกนั อยู่

ในปี ค.ศ. 1910 มีการจดั ประชุมสมชั ชาสตรีสงั คมนิยมคร้ังท่ี ๒ ณ เมือง
โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก นบั เป็นคร้ังแรกท่ีมีการแต่งต้งั ตวั แทนแรงงานผหู้ ญิงจานวน 100
คนจาก 17 ประเทศทวั่ โลก ซ่ึงในสถานท่ีประชุมไดป้ ระกาศรับรองขอ้ เรียกร้องของบรรดาแรงงาน
สตรีในระบบสาม 8 คือใหล้ ดเวลาทางานเหลือวนั ละ 8 ชวั่ โมง ใหเ้ วลาศกึ ษาหาความรู้เพื่อพฒั นา
ศกั ยภาพของตวั เองอีก 8 ชว่ั โมง และอีก 8 ชวั่ โมงเป็นเวลานอนหลบั พกั ผอ่ น และมีการปรับค่าแรง
ของแรงงานหญิงใหเ้ ท่าเทียมกบั แรงงานชาย อีกท้งั ยงั มีการคุม้ ครองสวสั ดิการสตรีและแรงงานเดก็
อีกดว้ ย นอกจากน้นั ในการประชุมคร้ังน้นั ยงั ไดม้ ีการรับรองขอ้ เสนอของ “คลาร่า เซทคิน” ดว้ ยการ
ประกาศใหว้ นั ท่ี 8 มีนาคม เป็นวนั สตรีสากล ซ่ึงในปี ต่อมาไดม้ ีการจดั งานวนั สตรีสากลข้ึน (เดิมมี
ช่ือวา่ “วนั สตรีแรงงานสากล” ) ทาใหก้ ารต่อสูแ้ ละนดั หยดุ งานเพอ่ื เรียกร้องสิทธิของแรงงานหญิง
ดาเนินเรื่อยมา สุดทา้ ยในปี ค.ศ.1975 องคก์ ารสหประชาชาติ(United Nations : UN) ไดป้ ระกาศให้
มีการจดั งาน “วนั สตรีสากล” ข้ึนอยา่ งเป็นทางการ เพ่อื ใหค้ วามสาคญั กบั บทบาทและสิทธิของสตรี
ทวั่ โลก

5

องค์กรคุ้มครองสิทธิสตรี

ถึงแมป้ ัจจุบนั สิทธิมนุษยชนของสตรีจะไดก้ ารยอมรับมากข้ึนในสงั คม แต่กย็ งั มีสตรีอยู่
เป็นจานวนมากท่ีถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนชน ไม่วา่ จะเป็นการถูกกดข่ี ข่มเหง การถูกเอารัดเอาเปรียบ
หรือแมแ้ ต่การใชค้ วามรุนแรงภายในครอบครัว สตรีเหล่าน้นั อาจยงั ไม่ทราบถึงสิทธิมนุษยชนของสตรี
ที่ตนไดร้ ับ จึงเป็นผลทาใหห้ ลายหน่วยงานมีการจดั ต้งั เป็นมูลนิธิละองคก์ รต่างๆมากมาย เพอื่ คุม้ ครอง
และใหค้ วามช่วยเหลือแก่สตรีเหล่าน้นั

สานกั งานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (NHRC)

6

มูลนิธิผหู้ ญิง

มูลนิธิเพ่อื นหญิง

7

องคก์ ารสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women)

Amnesty International Thailand

8

กฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรี

ถึงแมป้ ัจจุบนั สิทธิมนุษยชนของสตรีจะไดก้ ารยอมรับมากข้ึนในสังคม แต่กย็ งั มีสตรีอยู่
เป็ นจานวนมากท่ีถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนชน

กฎหมายครอบครัว

สามารถแบ่งออกเป็น 7 หวั ขอ้ สาคญั ไดด้ งั น้ี

1. การหม้นั
กฎหมายกาหนดเง่ือนไขของการหม้นั เอาไวว้ า่ ผชู้ ายและผหู้ ญิงจะตอ้ งมีอายคุ รบ 17 ปี

บริบูรณ์โดยตอ้ งใหบ้ ิดา มารดา ผปู้ กครองใหค้ วามยนิ ยอม ซ่ึงจะตอ้ งมีการมอบของหม้นั ใหแ้ ก่ผหู้ ญิง
เพอ่ื เป็นหลกั ฐานวา่ จะสมรสกบั ผหู้ ญิงคนน้นั
2. เง่ือนไขการสมรส

ผชู้ ายและผหู้ ญิงจะตอ้ งมีอายุ 17 ปี บริบูรณ์ แต่หากตอ้ งการสมรสตอนอายนุ อ้ ยกวา่ น้ี
จะตอ้ งขออนุญาตศาล มิฉะน้นั ทางอาเภอจะไม่จดทะเบียนสมรสใหท้ ้งั น้ีท้งั คู่ จะตอ้ งมีสติดีไม่เป็นคน
วกิ ลจริต และหา้ มสมรสกบั ผรู้ ับบุตรบุญธรรม หา้ มญาติสนิทสืบสายโลหิตสมรสกนั ถา้ มีคู่สมรสแลว้
หา้ มจดทะเบียนสมรสอีก ถา้ เป็นหญิงม่ายตอ้ งรอ 310 วนั จึงจะสมรสใหม่ไดร้ วมท้งั ผเู้ ยาวจ์ ะตอ้ งขอ
ความยนิ ยอมจากบิดามารดา นอกจากน้ีผชู้ ายและผหู้ ญิงจะตอ้ งยนิ ยอมเป็นสามีภรรยากนั

9

3. ทรัพย์สินระหว่างสามี - ภรรยา

กฎหมายการแบ่งปันทรัพยส์ ินระหวา่ งสามีภรรยา แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1) ทรัพยส์ ินส่วนตวั ไดแ้ ก่ ทรัพยท์ ี่มีอยกู่ ่อนสมรส เคร่ืองแต่งกาย เคร่ืองประดบั ตามควรแก่ฐานะ

เครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นการประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพของฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึง รวมถึงทรัพยส์ ินที่ไดม้ า
ระหวา่ งการสมรส โดยไดร้ ับจากมรดก หรือการใหโ้ ดยเสน่หา เช่น พ่อตาหรือแม่ยายเสียชีวติ ฝ่ าย
หญิงท่ีไดร้ ับมรดกมากจ็ ะเป็นทรัพยส์ ินส่วนตวั ของผหู้ ญิง
2) ทรัพยส์ ินสมรส ไดแ้ ก่ ทรัพยท์ ่ีคู่สมรสไดม้ าระหวา่ งสมรส ทรัพยท์ ี่ผใู้ หท้ าพนิ ยั กรรมหรือหนงั สือ
ยกใหร้ ะบุวา่ ใหท้ ้งั สองคนเป็นสินสมรส และทรัพยท์ ี่เป็นดอกผลของสินส่วนตวั

4. การหย่า

หากอยดู่ ว้ ยกนั แลว้ ไม่มีความสุข และมีความประสงคท์ ่ีจะหยา่ ขาดจากกนั ซ่ึงตกลง
กนั ไดโ้ ดยสันติวธิ ี เขียนสญั ญาหยา่ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร แบ่งลูก แบ่งทรัพยก์ นั วา่ ลูกคนไหนใครจะ
ดูแล ทรัพยส์ ินชิ้นไหนใครจะเอาไป โดยลงช่ือสามีภรรยาต่อหนา้ พยาน 2 คน แลว้ นาสญั ญาหยา่ ไป
จดทะเบียนท่ีอาเภอ สาหรับขอ้ ควรระวงั ของการหยา่ คือจะตอ้ งคิดใหร้ อบคอบและอยา่ ตดั สินใจววู่ าม
โดยการใชอ้ ารมณ์เพราะบางคร้ังเมื่อหายโกรธจะกลบั มาคืนดีกนั อีกกไ็ ม่สามารถกลบั ได้ เพราะฝ่ าย
ชายไปจดทะเบียนใหม่กบั คนอ่ืนไปก่อนแลว้ แต่หากตกลงกนั ไม่ไดเ้ พราะฝ่ ายหน่ึงอยากหยา่ แต่อีก
ฝ่ ายไม่ยนิ ยอม หรือยอมแต่แยง่ ลูก แยง่ ทรัพยก์ นั กจ็ ะตอ้ งใชว้ ธิ ีการฟ้องร้อง

5. บุตรนอกการสมรส

คือ เดก็ เกิดจากผหู้ ญิงท่ีไม่ไดจ้ ดทะเบียนสมรส ซ่ึงเป็นบุตรนอกสมรสของผชู้ าย
ถา้ ผชู้ ายมีศีลธรรมดีจะรับผดิ ชอบต่อเลือดเน้ือเช้ือไขของเขา จะมีทางช่วยใหเ้ ดก็ เปล่ียนฐานะเป็น
บุตรชอบดว้ ยกฎหมาย โดยการไปจดทะเบียนรับรองบุตร

6. บุตรบุญธรรม

ผทู้ ่ีมีประสงคท์ ี่จะรับบุตรบุญธรรม ตอ้ งมีคุณสมบตั ิตามที่กฎหมายกาหนดไว้ คือมีครบอายุ
25 ปี บริบูรณ์และตอ้ งมีอายมุ ากกวา่ เดก็ อยา่ งนอ้ ย 15 ปี จะตอ้ งไดร้ ับความยนิ ยอมจากบิดามารดาของเดก็
และจากตวั เดก็ เอง (ถา้ หากเดก็ มีอายคุ รบ 15 ปี แลว้ ) รวมท้งั จากคู่สมรสท้งั ผรู้ ับและผจู้ ะเป็นบุตรบุญธรรม
จากผดู้ ูแลสถานสงเคราะห์ (หากเป็นเดก็ ที่ถูกทอดทิ้งอยใู่ นสถานสงเคราะห์) และตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจาก
คณะกรรมการการรับเดก็ เป็นบุตรบุญธรรม จะตอ้ งผา่ นการทดลองเล้ียงดู 6 เดือน เพอ่ื ดูวา่ เขา้ กบั ครอบครัว
ใหม่ไดห้ รือไม่ โดยมีนกั สังคมสงเคราะห์ไปเยย่ี มอยา่ งนอ้ ย 3 คร้ัง และจะตอ้ งจดทะเบียนรบั รองบุตร

10

7. มรดก
หากเป็นดา้ นของมรดกตกทอด ทายาทที่จะไดร้ ับมรดกคือทายาทโดยธรรม และทายาทตาม

พนิ ยั กรรมถา้ ผเู้ สียชีวติ ไดท้ าพินยั กรรมสงั่ ไวว้ า่ ยกทรัพยส์ ินชิ้นใดใหแ้ ก่ใคร ผนู้ ้นั กย็ อ่ มมีสิทธ์ิรับทรัพยส์ ิน
ตามที่ระบุไวใ้ นพนิ ยั กรรม แต่หากผเู้ สียชีวติ ไม่ไดท้ าพินยั กรรมไวท้ รัพยส์ ินมรดกน้นั จะถูกตกทอดใหแ้ ก่
ทายาทโดยธรรม ซ่ึงมีอยู่ 6 ลาดบั ไดแ้ ก่ บุตร ถา้ บุตรคนใดเสียชีวติ ก่อน หลานซ่ึงเป็นบุตรของบุตรจะรับ
แทน และถดั มาคือบิดามารดา พน่ี อ้ งร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกนั หรือ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้า นา้ อา ลง
มาตามลาดบั

กฎหมายแรงงาน

สามารถแบ่งออกเป็น 2 หวั ขอ้ สาคญั ไดด้ งั น้ี

1. สัญญาจ้างแรงงาน
ผหู้ ญิงจะไดร้ ับการคุม้ ครองตามกฎหมายแรงงาน ที่ถูกใชใ้ หท้ างานตอนดึก โดยไม่เตม็ ใจ ถา้

หากต้งั ครรภจ์ ะตอ้ งใหเ้ วลาลาคลอด 90 วนั หรือหากทางานอยดู่ ีๆ โดยใหอ้ อกดว้ ยสาเหตุที่ไม่สมเหตุสมผล
จะตอ้ งไดค้ ่าชดเชยในการทางานเกิน 4 เดือนจะตอ้ งชดเชยสาหรับ 1 เดือน ถา้ เกิน 1 ปี จะตอ้ งชดเชยสาหรับ
3 เดือน และเกิน 3 ปี จะตอ้ งชดเชยสาหรับ 6 เดือน

2. กฎหมายการล่วงละเมดิ ทางเพศในสถานทที่ างาน
นายจา้ งท่ีเป็นเพศชายจะมาล่วงละเมิดลูกจา้ งท่ีเป็นเพศหญิงไม่ได้ ไม่วา่ จะเป็นทาง

สายตา ท่าทาง คาพดู หรือแมแ้ ต่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ลูกจา้ งที่เป็นผหู้ ญิงสามารถร้องเรียนได้

11

กฎหมายแพ่ง
สามารถแบ่งออกเป็น 4 หวั ขอ้ สาคญั ไดด้ งั น้ี

1. การกู้ - ยืมเงิน

ในการตกลงทาสัญญากยู้ มื เงินน้นั ทางกฎหมายกาหนดไวว้ า่ หากมีการกยู้ มื เงินเพียง
เลก็ นอ้ ยไม่เกิน 50 บาท กฎหมายไม่ไดบ้ งั คบั วา่ ตอ้ งทาหลกั ฐานเป็นหนงั สือแสดงถึงการกยู้ มื หรือทา
สญั ญาไวต้ ่อกนั ซ่ึงจะแลว้ แต่ที่พูดจาตกลงกนั ไว้ แต่หากกยู้ มื เงินเป็นจานวนมากกวา่ 50 บาทจะตอ้ ง
ทาหลกั ฐานแห่งการกยู้ มื เป็นหนงั สือสัญญากไู้ วต้ ่อกนั มิฉะน้นั จะไม่สามารถฟ้องร้องบงั คบั คดีกนั ได้
ซ่ึงกฎหมายน้ีร่างกนั มาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2478
2. การเช่าซื้อกบั การซื้อขายแบบผ่อนส่ง

ความหมายของการเช่าซ้ือ คือการขายแบบผอ่ นชาระ เช่นเดียวกบั การซ้ือขายแบบผอ่ น
ส่ง แต่ต่างกนั ท่ีวา่ การซ้ือขายแบบผอ่ นส่งกรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินที่ซ้ือขายน้นั จะโอนไปยงั ผซู้ ้ือทนั ที ซ่ึง
การเช่าซ้ือจะเป็นสัญญาที่เจา้ ของจะเอาทรัพยส์ ินออกมาใหเ้ ช่า และใหค้ ามน่ั วา่ จะขายทรัพยส์ ินน้นั หรือ
จะใหท้ รัพยส์ ินน้นั ตกเป็นสิทธิแก่ผเู้ ช่าโดยเงื่อนไขท่ีใหผ้ เู้ ช่าจ่ายเงินเป็นจานวนไปตามท่ีกาหนดไว้

3. การขายฝาก

สาหรับการขายฝากน้นั กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้นั จะตกเป็นของผซู้ ้ือทนั ทีเมื่อมีการซ้ือ
ขายกนั เพยี งแต่มีขอ้ ตกลงวา่ ผขู้ ายอาจไถ่ทรัพยส์ ินคืนไดภ้ ายในเวลาที่กาหนดไวใ้ นสัญญา ขอ้ ตกลงน้ี
ตอ้ งทาเป็นหนงั สือและตอ้ งจดทะเบียนระบุใหช้ ดั เจนวา่ จะไถ่คืนภายในระยะเวลากี่ปี และจะไถ่จานวน
เงินคืนเท่าไหร่ เป็นตน้
4. การจานอง

เป็นการนาเอาเอกสารที่แสดงกรรมสิทธ์ิ เช่น โฉนดที่ดิน หรือ ร.ส.3 ไปจดทะเบียนเป็น
ประกนั การชาระหน้ี โดยไม่ตอ้ งส่งมอบทรัพยส์ ินส่วนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินท่ียงั เป็นของลูกหน้ีอยู่
เจา้ หน้ีจะบงั คบั เอาทรัพยห์ ลุดเป็นกรรมสิทธ์ิได้ กต็ ่อเมื่อลูกหน้ีขาดส่งดอกเบ้ีย 5 ปี ติดต่อกนั และตอ้ ง
ฟ้องบงั คบั จานอง ทรัพยส์ ินจะไม่เป็นกรรมสิทธ์ิของเจา้ หน้ีทนั ทีอยา่ งการขายฝาก ดงั น้นั ควรศึกษาและ
หาความรู้เพ่มิ เติมอยเู่ สมอ

12

บทบญั ญตั ริ ัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560
เกย่ี วกบั สตรี (ฉบบั ปัจจุบัน)

ปัจจุบนั มีบทบญั ญตั ิรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 เกี่ยวกบั สตรี
ท่ีถูกร่างข้ึนโดยองคก์ ร ซ่ึงไดร้ ับการแต่งต้งั จากคณะผยู้ ดึ อานาจการปกครองในขณะน้นั ในบทบญั ญตั ิ
รัฐธรรมนูญไดบ้ ญั ญตั ิคุม้ ครองเก่ียวกบั สิทธิสตรี โดยระบุไวใ้ นมาตรา ๔

มาตรา ๔ ศักด์ิศรีความเป็ นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค
ของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง

ปวงชนชาวไทยยอ่ มไดร้ ับความคุม้ ครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกนั

มาตรา ๒๗ บุคคลย่อมเสมอกนั ในกฎหมาย มสี ิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
เท่าเทยี มกนั

ผชู้ ายและผหู้ ญิงมีสิทธิเท่าเทียมกนั การเลือกปฏิบตั ิโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่วา่ ดว้ ย
เหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกาเนิด เช้ือชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพกิ าร สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะ
ของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศกึ ษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการ
เมืองอนั ไม่ขดั ต่อบทบญั ญตั ิแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเหตุอ่ืนใด จะกระทามิได้

13

มาตรการท่ีรัฐกาหนดข้ึนเพอ่ื ขจดั อุปสรรคหรือส่งเสริมใหบ้ ุคคลสามารถใชส้ ิทธิหรือ
เสรีภาพ ไดเ้ ช่นเดียวกบั บุคคลอื่น หรือเพอ่ื คุม้ ครองหรืออานวยความสะดวกใหแ้ ก่เดก็ สตรี ผสู้ ูงอายุ
คนพิการ หรือผดู้ อ้ ยโอกาส ยอ่ มไม่ถือวา่ เป็นการเลือกปฏิบตั ิโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม บุคคลผู้
เป็นทหาร ตารวจ ขา้ ราชการ เจา้ หนา้ ท่ีอื่นของรัฐ และพนกั งานหรือลูกจา้ งขององคก์ ร ของรัฐยอ่ มมี
สิทธิและเสรีภาพเช่นเดียวกบั บุคคลทว่ั ไป เวน้ แต่ที่จากดั ไวใ้ นกฎหมายเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกบั
การเมือง สมรรถภาพ วนิ ยั หรือจริยธรรม

มาตรา ๔๘ สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลงั การคลอดบุตรย่อมได้รับความคุ้มครองและช่วย
เหลือตามทกี่ ฎหมายบญั ญัติ

บุคคลซ่ึงมีอายเุ กินหกสิบปี และไม่มีรายไดเ้ พยี งพอแก่การยงั ชีพ และบุคคลผยู้ ากไร้ยอ่ ม
มีสิทธิ ไดร้ ับความช่วยเหลือท่ีเหมาะสมจากรัฐตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิ

มาตรา ๗๑ รัฐพงึ เสริมสร้างความเข้มแขง็ ของครอบครัวอนั เป็ นองค์ประกอบพืน้ ฐานท่ีสาคญั ของสังคม
จดั ให้ประชาชนมที อี่ ยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ส่งเสริมและพฒั นาการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อให้ประชาชนมี
สุขภาพทแี่ ขง็ แรงและมจี ิตใจเข้มแขง็ รวมตลอดท้งั ส่งเสริมและพฒั นาการกฬี าให้ไปสู่ความเป็ นเลศิ และ
เกดิ ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

รัฐพึงส่งเสริมและพฒั นาทรัพยากรมนุษยใ์ หเ้ ป็นพลเมืองท่ีดี มีคุณภาพและความสามารถ
สูงข้ึน รัฐพงึ ใหค้ วามช่วยเหลือเดก็ เยาวชน สตรี ผสู้ ูงอายุ คนพกิ าร ผยู้ ากไร้ และผดู้ อ้ ยโอกาสใหส้ ามารถ
ดารงชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ และคุม้ ครองป้องกนั มิใหบ้ ุคคลดงั กล่าวถูกใชค้ วามรุนแรง หรือปฏิบตั ิอยา่ ง
ไม่เป็นธรรม รวมตลอดท้งั ใหก้ ารบาบดั ฟ้ื นฟูและเยยี วยาผถู้ ูกกระทาการดงั กล่าว

ในการจดั สรรงบประมาณ รัฐพึงคานึงถึงความจาเป็นและความตอ้ งการท่ีแตกต่างกนั ของ
เพศ วยั และสภาพของบุคคล ท้งั น้ี เพื่อความเป็นธรรม

14

มาตรา ๙๐ พรรคการเมืองใดส่งผู้สมคั รรับเลือกต้งั แบบแบ่งเขตเลือกต้ังแล้ว ให้มสี ิทธิส่งผู้สมคั รรับเลือก
ต้ังแบบบัญชีรายช่ือได้

การส่งผสู้ มคั รรับเลือกต้งั แบบบญั ชีรายชื่อ ใหพ้ รรคการเมืองจดั ทาบญั ชีรายช่ือพรรคละ
หน่ึงบญั ชี โดยผสู้ มคั รรับเลือกต้งั ของแต่ละพรรคการเมืองตอ้ งไม่ซา้ํ กนั และไม่ซา้ํ กบั รายช่ือผสู้ มคั รรับ
เลือกต้งั แบบแบ่งเขตเลือกต้งั โดยส่งบญั ชีรายช่ือดงั กล่าวใหค้ ณะกรรมการการเลือกต้งั ก่อนปิ ดการรับ
สมคั รรับเลือกต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกต้งั

การจดั ทาบญั ชีรายชื่อตามวรรคสอง ตอ้ งใหส้ มาชิกของพรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการ
พจิ ารณาดว้ ย โดยตอ้ งคานึงถึงผสู้ มคั รรับเลือกต้งั จากภูมิภาคต่างๆ และความเท่าเทียมกนั ระหวา่ งผชู้ าย
และผหู้ ญิง



16

ขอ้ มูลเหล่าน้ีเป็นเพยี งผลจากการสารวจของกลุ่มบุคคลตวั อยา่ งที่เป็นเพศหญิงและมี
ช่วงอายทุ ่ีแตกต่างกนั โดยการนาแบบฟอร์มสอบถามออกไปเผยแพร่และเกบ็ ขอ้ มูลเชิงสถิติของกลุ่ม
ตวั อยา่ งเหล่าน้นั ทราบถึงสิทธิมนุษยชนหรือไม่ และหากทราบมีความรู้เก่ียวกบั สิทธิมนุษยชนของ
สตรีมากหรือนอ้ ยเพยี งใด

คณะผศู้ กึ ษาไดเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลดงั กล่าวออกมาเป็นรูปแบบของแผนภูมิภาพและ
แผนภูมิวงกลม เพอ่ื ใหท้ ราบขอ้ มูลเชิงสถิติท่ีมีความแม่นยามากข้ึน

17

ผลการสารวจ

จากการสารวจสามารถสรุปขอ้ มูลไดด้ งั น้ี
ช่วงอายุ

จากการสารวจมีผกู้ รอกแบบฟอร์มสอบถามจานวน 55 คน คิดเป็นผทู้ ี่มีอายตุ ่ากวา่ 15 ปี
จานวน 11 คนคิดเป็น 20% ผทู้ ี่มีอยใู่ นช่วง 15 - 17 ปี จานวน 11 คนคิดเป็น 20% ผทู้ ี่มีอยใู่ นช่วง 18 - 35
ปี จานวน 11 คนคิดเป็น 20% ผทู้ ี่มีอยใู่ นช่วง 36 - 60 ปี จานวน 11 คนคิดเป็น 20% และผทู้ ี่มีอายมุ ากกวา่
60 ปี ข้ึนไปจานวน 11 คนคิดเป็น 20%

18

ข้อมูลโดยรวม

จากการกราฟแสดงใหเ้ ห็นวา่ บุคคลจากกลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่ยงั ไม่ค่อยมีความรู้ดา้ นสิทธิ
มนุษยชนของสตรีมาก โดยคณะผจู้ ดั ทาสามารถแบ่งผลการสารวจออกมาไดด้ งั น้ี
1. ผู้ชายและผู้หญงิ มสี ิทธทิ เ่ี ท่าเทยี มกนั

19

2. สิทธทิ างเพศและอนามยั เจริญพนั ธ์ุ (Reproductive Rights) ทกุ คนควรจะตัดสินใจด้วยตนเองเกยี่ วกบั
ร่างกายของตน

3. สิทธิในด้านของการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็ นเพศไหนหรืองานแบบไหนทุกคนกส็ ามารถทาได้เหมือนกนั

20

4. สิทธิในการปกป้องคุ้มครอง เมื่อถูกกดขแี่ ละข่มเหงสามารถแจ้งความเอาผดิ ได้

5.สิทธิในการมสี ่วนร่วมทางการเมืองเทยี บเท่ากบั บุรุษ

21

6.องค์กรคุ้มครองสิทธมิ นุษยชนของสตรีทท่ี ราบ

7. กฎหมายครอบครัว

22

8. กฎหมายแรงงาน

23

9. กฎหมายแพ่ง

24

10. วนั สตรีสากลตรงกบั วนั ทว่ี นั ท่ี 8 มนี าคมของทุกปี

25

11. บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยเกย่ี วกบั สตรี ฉบบั ปัจจุบัน (พ.ศ. 2560)

26

ความคดิ เหน็

คณะผศู้ ึกษาไดท้ าการสารวจขอ้ คิดเห็นเก่ียวกบั สิทธิมนุษยชนของกลุ่มตวั อยา่ ง
ซ่ึงสามารถสรุปไดด้ งั น้ี
1. แนวทางทสี่ ามรถหลกี เลย่ี งการถูกล่วงละเมดิ สิทธิมนุษยชน

ผคู้ นจากกลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่แนะนาใหร้ ะมดั ระวงั ตนเอง และหลีกเลี่ยงการอยใู่ น
พ้ืนท่ีเส่ียง ไม่วา่ จะเป็นเสน้ ทางเปลี่ยว การอยกู่ บั เพศตรงขา้ มหรือบุคคลแปลกหนา้ เพียงลาพงั เป็นตน้
โดยควรศกึ ษาหาขอ้ มูลความรู้เพ่มิ เติมเก่ียวกบั สิทธิมนุษยชนของสตรีเพอ่ื ใหท้ ราบถึงสิทธิคุม้ ครอง
สตรีที่ไดร้ ับมา

27

2. การมบี ทบญั ญตั ิกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรี

ผคู้ นจากกลุ่มตวั อยา่ งเห็นดว้ ยกบั การมีบทบญั ญตั ิกฎหมายคุม้ ครองสิทธิมนุษยชนของ
สตรี เนื่องจากบทบญั ญตั ิดงั กล่าวใหค้ วามช่วยเหลือและปกป้องคุม้ ครองสิทธิเสรีภาพของสตรีเพ่อื
ไม่ใหถ้ ูกล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน
3. แนวทางการแก้ปัญหาการถูกล่วงละเมดิ สิทธิมนุษยชน

ผคู้ นจากกลุ่มตวั อยา่ งเห็นดว้ ยกบั การแจง้ ความดาเนินคดีทางกฎหมายแก่ผกู้ ระทาผดิ เพอ่ื
ไม่ใหต้ นถูกล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน

กฎหมายสิทธิสตรี. //(ม.ป.ป.). //สืบคน้ เมื่อวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
/จาก/http://www.maewad.go.th/datacenter/doc_download/a_120717_104755.pdf

ไทยรัฐออนไลน.์ //(๒๕๖๔). //ประวตั ิและท่ีมา "วนั สตรีสากล" 8 มีนาคม ของทุกปี .
//สืบคน้ เม่ือวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ /จาก/https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2044465

สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู . //(๒๕๖๐). //รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย.
// สืบคน้ เมื่อวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
/จาก/http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF

สถานีวทิ ยกุ ระจายเสียงรัฐสภาและสานกั วชิ าการ สานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร. //(๒๕๖๑).
//รายการ ร้อยเร่ือง...เมืองไทย. //สืบคน้ เมื่อวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ /จาก/https://1th.me/dlGCh

สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปภมั ภ.์ //(๒๕๖๔). //วนั สตรีสากล (International Women's Day).
//สืบคน้ เมื่อวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ /จาก/https://www.thaiwomen.or.th/en/knowledge_women_inter

สิทธิสตรี. //(ม.ป.ป.). //สืบคน้ เม่ือวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
/จาก/http://www.nongkwang.go.th/site/attachments/article/94/1.pdf

สิทธิสตรี. //(๒๕๖๓). //สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ /จาก/https://tinyurl.com/avh5t6r7

สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการเสริมสุขภาพ. //(๒๕๕๕). //ความหมายของสิทธิมนุษยชนสตรี.
//สืบคน้ เม่ือวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔/จาก/https://1th.me/51pYs

sanook. //(๒๕๖๔). //วนั สตรีสากล 8 มีนาคม ของทุกปี ประวตั ิความเป็นมา.
//สืบคน้ เม่ือวนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔/จาก/https://www.sanook.com/women/12537/

สิทธิมนุษยชนของสตรีเป็นสิทธิสาคญั ท่ีผหู้ ญิงไทยทุกคนควร

ทราบ เพ่อื ไม่ใหถ้ ูกล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนและไดร้ ับความเป็นธรรมตาม
บทบญั ญตั ิติกฎหมายคุม้ ครองสตรี . . .

1.นางสาวพรี ดา ภู่ประคา ช้นั ม.4.8 เลขที่ 6
2.นางสาวพชิ ญช์ รัตน์ เชิดธีระกลุ ช้นั ม.4.8 เลขที่ 7
3.นางสาวณชั ชา อินทรีย์ ช้นั ม.4.8 เลขท่ี 9
4.นางสาวสิริกญั ญา กาวลิ าวรรณ ช้นั ม.4.8 เลขที่ 37
5.นายชีวาวชิ ญ์ ตรุณรัตน์ ช้นั ม.4.8 เลขท่ี 38

นางแกว้ ใจ เหล่าไพโรจนจ์ ารี


Click to View FlipBook Version