The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

62_รายงานวิจัยเรื่องกุ้งแม่น้ำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pjuree, 2022-04-25 10:04:39

62_รายงานวิจัยเรื่องกุ้งแม่น้ำ

62_รายงานวิจัยเรื่องกุ้งแม่น้ำ

Keywords: กุ้งแม่น้ำ,คลองชะอวด

รายงานวจิ ยั

ปจั จยั ทม่ี ีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด อ้าเภอชะอวด จังหวัดนครศรธี รรมราช

Factors effecting on development of Giant freshwater prawn (Macrobrachium rosenbergii)
in Cha-uat canal, Cha-uat district, Nakhon Si Thammarat province.

คณะผูว้ จิ ัย

1. นางสาวนัฎฐารัตน์ เนาวส์ ุวรรณ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
2. นางสาวผาณิตนภิ า บญุ เกื้อ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4
3. นางสาวเพชรรตั น์ สร้อยสังวาลย์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

อาจารยท์ ีป่ รกึ ษา

1. นางสาวจุรีย์ ไกแ่ ก้ว
2. นางบัวคล่ี จงหวงั

นกั วทิ ยาศาสตร์ท่ีปรกึ ษา

1. อ.ดร.นันทดิ า สุธรรมวงศ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษณิ
2. ผศ.ดร.ศริ ลิ ักษณ์ ชว่ ยพนงั คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ทักษิณ

โรงเรยี นชะอวดวิทยาคาร อา้ เภอชะอวด จงั หวดั นครศรธี รรมราช
สา้ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขันพนื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

ตลุ าคม 2561

บทคดั ย่อ

ช่ืองานวจิ ยั : ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อการเจริญเติบโตของก้งุ แม่นา้ ในคลองชะอวด อ้าเภอชะอวด
จังหวัดนครศรธี รรมราช

คณะผู้วจิ ยั : 1. นางสาวนฎั ฐารตั น์ เนาวส์ ุวรรณ
2. นางสาวผาณิตนิภา บุญเกื้อ
3. นางสาวเพชรรัตน์ สรอ้ ยสงั วาลย์

ระดับช้ัน : มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
อาจารย์ทีป่ รึกษา: นางสาวจุรยี ์ ไกแ่ กว้ และ นางบัวคล่ี จงหวงั
โรงเรียน : ชะอวดวทิ ยาคาร
นกั วิทยาศาสตรท์ ป่ี รึกษา : อาจารย์ ดร. นนั ทดิ า สุธรรมวงศ์ และ ผศ.ดร.ศิรลิ ักษณ์ ชว่ ยพนงั

งานวิจัยน้มี วี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื ศึกษาลกั ษณะคณุ ภาพของน้า และความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้า
กับการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้า (Macrobrachium rosenbergii)ในคลองชะอวด โดยท้าการศึกษาจาก
พ้ืนทศ่ี กึ ษา จา้ นวน 3 จุด ด้าเนนิ การเก็บข้อมลู ในเดือนตลุ าคม พ.ศ.2561 จดุ ละ 3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน
ครั้งละ 1 สปั ดาห์ ท้าการเกบ็ ตวั อย่างน้า และตรวจวัดค่าคุณภาพน้าทางกายภาพและเคมี ได้แก่ อุณหภูมิ
ของอากาศและน้า ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้า (DO) ความโปร่งใส และ
ความเคม็ ของน้า พร้อมทั้งวางไซส้าหรับเก็บตัวอย่างกุ้งแม่น้า จดบันทึกจ้านวน เพศ ความยาวล้าตัว และ
น้าหนักของกุ้งทุกตัว วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน(S.D.) เปรียบเทียบ
ความแตกตา่ งของค่าเฉลย่ี โดยใช้การวเิ คราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One way ANOVA) ท้าการ
ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีของดันแคน (Duncan) และหาความสัมพันธ์ระหว่าง
คุณภาพของน้ากับความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้งโดยใช้ค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์เพียร์สัน (r) พบว่า
คณุ ภาพของนา้ ในคลองชะอวดอยู่ในระดับท่ีเหมาะสมกับการด้ารงชีวิตของสัตว์น้ารวมถึงกุ้งแม่น้า โดยทั้ง
3 พื้นท่ีศึกษาจะมีความแตกต่างกันของค่าเฉล่ียของอุณหภูมิน้า ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ปริมาณ
ออกซเิ จนทีล่ ะลายในน้า (DO) และความโปรง่ ใสของน้าอย่างมีนัยส้าคัญ แต่ตรวจไม่พบความเค็มทั้ง 3 จุด
ศึกษา อุณหภูมิของน้ามีความสัมพันธ์ทางลบกับความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้งอย่างมีนัยส้าคัญ
ส้าหรับความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้งน้ันมีความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับสูง และในจุดศึกษาท่ี 3
บ้านย่านแดง กุ้งท่ีพบมีน้าหนักเฉล่ียมากท่ีสุด เท่ากับ 110.44 ± 10.87 กรัม จัดเป็นกุ้งขนาดใหญ่
แตกตา่ งจากบรเิ วณสะพานรถไฟ และบ้านบางคลุ้งอย่างมีนัยส้าคัญ ซ่ึงพบกุ้งขนาดกลางที่มีน้าหนักต่อตัว
เฉล่ยี 75.82 ± 5.48 และ 96.65 ± 10.00 กรัม ตามล้าดบั

คา้ ส้าคัญ : กงุ้ แม่น้า, ก้งุ ก้ามกราม, Macrobrachium rosenbergii, คลองชะอวด

กิตตกิ รรมประกาศ

งานวิจัยฉบับน้ีส้าเร็จลุล่วงได้ด้วยดี ได้รับความกรุณาอย่างสูงจากนักวิทยาศาสตร์ท่ีปรึกษาของ
โครงการ GLOBE STEM คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยอาจารย์ ดร.นันทิดา สุธรรมวงค์
และผศ.ดร.ศิริลักษณ์ ช่วยพนัง ท่ีให้ความอนุเคราะห์เป็นท่ีปรึกษางานวิจัย รวมถึงเสียสละเวลาและให้
ค้าแนะนา้ ปรกึ ษาตลอดจนปรบั ปรุงแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่อยา่ งดียิ่ง ผู้วิจัยตระหนักถึง
ความตง้ั ใจจรงิ และความทุ่มเทของอาจารย์ทุกๆทา่ น และขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสงู ไว้ ณ ทน่ี ี้

ขอขอบพระคุณ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ท่ีจัดการประกวด
โครงการวิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม GLOBE Student Research Competition 2019 และสนับสนุน
ค่าใช้จ่ายในการเขา้ รว่ มการประชุมดังกล่าว ท้าให้ผู้วิจัยได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดจนข้อเสนอแนะท่ี
ดใี นการทา้ วิจับ

ขอขอบพระคุณ ผู้อ้านวยการสุภาภรณ์ คงคานนท์ ผู้อ้านวยการโรงเรียนชะอวดวิทยาคาร และ
ฝ่ายบริหารโรงเรียนชะอวดวิทยาคาร ท่ีให้การสนับสนุนการท้าวิจัย ขอขอบพระคุณ คุณครูจุรีย์ ไก่แก้ว
และคุณครบู ัวคล่ี จงหวัง คุณครูท่ีปรึกษางานวิจัยที่คอยเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ ด้าน และให้ค้าแนะน้าตลอด
การทา้ วิจัย ขอขอบพระคณุ คณะครูกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระคอมพิวเตอร์โรงเรียนชะ
อวดวิทยาคาร ทใี่ หค้ วามอนุเคราะห์คอมพวิ เตอร์ในการสบื ค้นข้อมูล

ขอขอบคุณ คุณลุง สมบูรณ์ สังข์ทอง คุณป้านอง สายเท้าเอี้ยน คุณน้าจ้าเริญ สายเท้าเอี้ยน
และคุณน้าประทีป กล่ินหอม ปราชญ์ชาวบ้านในต้าบลชะอวด และต้าบลเคร็ง ผู้มีประสบการณ์ด้านการ
จับกุ้งแม่น้า ที่เป็นผู้ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล ให้การแนะน้าในการเก็บข้อมูล และคอยอ้านวยความ
สะดวกชว่ ยพายเรือให้คณะผู้วิจยั ในขณะเกบ็ ข้อมูล

ท้ายท่ีสุดน้ีคณะผู้วิจัยขอขอบพระคุณพ่อแม่ ผู้ปกครองทุก ๆ คนท่ีคอยให้ก้าลังใจลูกๆ จนท้าให้
ลูกมีวันนี้ ขอขอบคุณพ่ี ๆ และเพ่ือน ๆ ทุกคนท่ีคอยห่วงใย ช่วยเหลือและให้ก้าลังใจที่ดีเสมอมา
ขอขอบคุณมา ณ ท่นี ้ดี ว้ ยคะ่

คณะผูว้ ิจัย
นัฎฐารตั น์ เนาวส์ วุ รรณ
ผาณิตนิภา บญุ เกื้อ
เพชรรัตน์ สร้อยสังวาลย์

สารบัญ

เร่ือง หนา้
บทคดั ย่อ ............................................................................................................................ ก
กติ ติกรรมประกาศ............................................................................................................... ข
สารบญั ................................................................................................................................. ค
สารบญั ตาราง....................................................................................................................... ง
สารบญั ภาพ ........................................................................................................................ จ
บทน้า................................................................................................................................... 1

ท่ีมาและความส้าคัญ................................................................................................. 1
ค้าถามงานวิจยั ......................................................................................................... 2
สมมตฐิ านของงานวจิ ัย............................................................................................. 2
วัตถุประสงค์ของงานวจิ ยั ......................................................................................... 2
สงิ่ ท่ไี ดร้ ับจากงานวจิ ยั .............................................................................................. 2
ขอบเขตของงานวจิ ัย................................................................................................ 3
เอกสารและงานวจิ ัย............................................................................................................. 4
ข้อมลู เบ้ืองตน้ เกีย่ วกบั อ้าเภอชะอวด และคลองชะอวด........................................... 4
ชีววทิ ยาของกุง้ แมน่ า้ หรอื กงุ้ กา้ มกราม................................................................... 5
งานวิจัยที่เก่ียวข้อง................................................................................................... 8
การวางแผนงานวิจัย............................................................................................................ 10
จดุ ศกึ ษา................................................................................................................... 11
วสั ดุและอปุ กรณ์....................................................................................................... 15
วธิ ีการดา้ เนนิ การวิจัย............................................................................................... 19
ผลการวิจัย........................................................................................................................... 21

ลกั ษณะคณุ ภาพของนา้ ในคลองชะอวด............................................................... 21
ความสมั พันธร์ ะหว่างคุณภาพนา้ กบั การเจรญิ เตบิ โตของก้งุ แม่นา้ ...................... 22
อภปิ รายผลและสรปุ ผล........................................................................................................ 25
เอกสารอา้ งอิง...................................................................................................................... 27
ภาคผนวก............................................................................................................................. 28

สารบญั ตาราง หนา้
9
ตารางท่ี 11
1. ผลการวิเคราะหต์ วั อย่างนา้ ในส่วนต่างๆ ของคลองชะอวด 21
2. พกิ ัดของจุดศึกษาที่เกบ็ ข้อมลู นา้ ในคลองชะอวด 24
3. ลักษณะคุณภาพของนา้ ในแต่ละจุดศกึ ษา
4. ความสมั พันธ์ระหวา่ งคุณภาพนา้ กับความยาวล้าตัวและน้าหนกั ของกุ้ง 29
29
ตารางภาคผนวก

1ก ข้อมลู จ้านวนกงุ้ ความยาวลา้ ตวั น้าหนกั เฉลี่ยของกงุ้ และจา้ นวนกุ้งต่อกโิ ลกรมั
2ก เปรียบเทียบลกั ษณะคณุ ภาพนา้ และขอ้ มลู กุ้งในแตล่ ะจุดศึกษา

สารบัญภาพ หนา้
3
ภาพที่ 6
1. แผนทค่ี ลองชะอวด 7
2. ลักษณะและสีของกงุ้ ก้ามกราม 11
3. ลกั ษณะของกุ้งกา้ มกราม 12
4. จุดศกึ ษาทงั้ 3 จุด คอื สะพานรถไฟชะอวด บ้านบางคลงุ้ และบ้านย่านแดง 13
5. จุดศึกษาที่ 1 บรเิ วณสะพานรถไฟ 14
6. จุดศึกษาท่ี 2 บ้านบางคลุ้ง 15
7. จดุ ศึกษาที่ 3 บา้ นย่านแดง 16
8. เครื่องวดั ความเคม็ 17
9. จานวดั ความโปร่งใส 16
10. ชุดทดสอบออกซิเจน 17
11. เครอ่ื งมือวัดความกรด-ดา่ ง 17
12. เทอร์มอมเิ ตอร์ 18
13. ขวดเก็บตัวอย่างนา้ 18
14. บกี เกอร์ 18
15. สายวดั 22
16. เครื่องช่ังดจิ ติ อล 22
17. แผนภูมแิ สดงอุณหภูมิเฉลย่ี ของอากาศ และน้า (องศาเซลเซยี ส) ในพื้นที่ศึกษา
18. แผนภูมแิ สดงค่าความเปน็ กรด-ด่าง และคา่ การละลายของออกซเิ จนในนา้ 23
ในพ้ืนที่ศกึ ษา 24
19. แผนภูมิแสดงคา่ ความโปร่งใสของนา้ (ซม.) ในแตล่ ะพนื้ ทศ่ี ึกษา
20. แผนภูมแิ สดงความยาวกุ้งเฉล่ีย (ซม./ตัว) และนา้ หนักกุ้งเฉลีย่ (กรัม/ตัว)
ในแต่ละพ้ืนท่ีศึกษา

บทน้า

ท่มี าและความสา้ คญั ของปญั หา

“คลองชะอวด” คือ คลองต้นน้าของแม่น้าปากพนงั ซง่ึ เกิดจากคลองต่างๆ ทางทิศตะวันตก ไหล
มารวมกันเป็นคลองชะอวด ได้แก่ คลองไม้เสียบ คลองลาไม คลองเกียบ เป็นต้น คลองชะอวดเป็นคลอง
สายหลกั ของอ้าเภอชะอวด เป็นคลองที่กว้างและลึกไหลผ่านหลายต้าบลในอ้าเภอชะอวด ได้แก่ ต้าบลท่า
ประจะ ต้าบลชะอวด และต้าบลเคร็ง ไหลไปทางอ้าเภอเชียรใหญ่และอ้าเภอหัวไทร ลงสู่ทะเลท่ีอ้าเภอ
ปากพนงั จงั หวัดนครศรีธรรมราช คลองชะอวดเป็นแหล่งน้าส้าคัญท่ีใช้ในการหล่อเล้ียงชีวิตของผู้คนท่ีอยู่
ในบริเวณริมคลอง และเป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์น้านานาชนิด โดยสัตว์น้าท่ีเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้าง
รายได้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณคลองเป็นอย่างมาก คือ “กุ้งแม่น้า” ซ่ึงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและขึ้นช่ือ
เป็นอย่างมากในอ้าเภอชะอวด จนกลายเป็นที่มาของค้าขวัญประจ้าอ้าเภอท่ีว่า “เมืองต้นน้า อิฐแผ่นงาม
กงุ้ กา้ มกราม กระจดู สวย หว้ ยน้าใส”

“กุ้งแม่น้า” คือ กุ้งก้ามกรามที่พบในแหล่งน้าธรรมชาติตามแม่น้าล้าคลอง ซึ่งจัดเป็นกุ้งน้าจืด
ชนิดหน่ึงท่ีมีขนาดใหญ่ที่สุด มีช่ือสามัญว่า Giant freshwater prawn และมีช่ือวิทยาศาสตร์ว่า
Macrobrachium rosenbergii de Man กุง้ ก้ามกรามมลี กั ษณะพเิ ศษตามชื่อ คอื เพศผู้จะมีขาเดินคู่ที่ 2
ซ่ึงเรียกว่า “ก้าม” ขนาดใหญ่และยาวกว่าคู่อื่นๆ มาก ก้ามยาวมีสีฟ้าหรือน้าเงิน ตลอดท้ังก้ามมีปุ่ม
ตะปุ่มตะป่า มีเปลือกสีเขียวอมฟ้าหรือน้าเงิน กุ้งก้ามกรามเป็นกุ้งน้าจืดแต่วางไข่ในน้าเค็มหรือน้ากร่อย
เมื่อฟักเป็นตัวอ่อนหรือลูกกุ้ง จะต้องอาศัยอยู่ในน้ากร่อยระยะหน่ึงตามธรรมชาติ มีช่ือเรียกท่ีต่างออกไป
มากมาย เช่น กุ้งแห ก้งุ ใหญ่ กุ้งแม่น้า กุ้งหลวง และกุ้งก้ามเกลี้ยง ขณะที่กุ้งตัวเมียที่มีขนาดล้าตัวเล็กกว่า
เรียกว่า กงุ้ นาง (กรี วิชญ์ เพชรจุล และ มณีรัตน์ ศิรสิ วัสดิ์, 2559)

กุ้งกา้ มกรามโดยธรรมชาติจะอยู่ในแม่น้าล้าคลอง พบแทบทุกจังหวัดในภาคกลางและภาคใต้ของ
ประเทศไทย สมยั กอ่ นนัน้ พบกงุ้ ชนดิ น้ชี กุ ชุม ทา้ ใหจ้ บั ไดง้ ่ายโดยเฉพาะในฤดูหนาว แต่ด้วยสภาพแวดล้อม
ท่ีมีความเปล่ียนแปลงไปในปัจจุบัน ท้าให้กุ้งก้ามกรามท่ีอยู่ตามแหล่งน้าธรรมชาติมีจ้านวนที่น้อยลง กุ้ง
แม่น้านิยมใชป้ รุงเปน็ อาหารหลายอย่าง เช่น ต้มกะทิ ต้มย้า ค่ัวเกลือ เผา หรือทอด มีรสชาติดี และเป็นท่ี
นิยมบริโภคของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเน้ือแน่นและมีปริมาณมาก ในอดีตกุ้งแม่น้าในคลองชะอวดมีความ
ชุกชุมเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันได้ลดปริมาณลง แต่ก็ยังมีชาวบ้านสามารถจับกุ้งแม่น้าได้ในหลาย
บริเวณในคลองชะอวด จากข้อมูลทางสถิติปี 2551-2555 ของกรมประมงพบว่า ปริมาณกุ้งก้ามกรามท่ีจับ
ในแหล่งน้าธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงอย่างมาก (กลุ่มงานวิจัยและวิเคราะห์สถิติประมง, 2557) เนื่องจาก
หลายสาเหตุ เช่น การสร้างเขื่อนก้ันน้าท้าให้กุ้งไม่สามารถอพยพไปวางไข่ในบริเวณปากแม่น้าได้ การท้า
การประมงมากเกินก้าลังผลิตตามธรรมชาติ ปัญหามลภาวะเป็นพิษของส่ิงแวดล้อม เช่น การเน่าเสียของ

-2-

แม่น้า ล้าคลอง และการท้าการประมงอย่างไม่ถูกวิธี ส้าหรับแนวโน้มการจับกุ้งแม่น้าในคลองชะอวดก็มี
ปริมาณลดลงเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีผู้ศึกษาไว้มากนัก ทางกลุ่มของผู้วิจัยจึงเกิดความสนใจท่ีจะศึกษา
เกย่ี วกับปจั จยั ท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้งแมน่ ้าในคลองชะอวด เพื่อเป็นแนวทางส้าหรับการอนุรักษ์
ให้กงุ้ แม่นา้ คงอยู่คคู่ ลองชะอวดตลอดไป

คา้ ถามวจิ ยั

1) ลกั ษณะคณุ ภาพน้าในคลองชะอวดเป็นอยา่ งไร
2) การเจรญิ เตบิ โตของกุ้งแมน่ ้าในคลองชะอวด มีความสัมพนั ธก์ บั ปัจจัยใดบ้าง

(อณุ หภูมิของอากาศและนา้ คา่ pH ปรมิ าณออกซิเจนทล่ี ะลายในน้า (DO) ความโปรง่ ใส
และความเคม็ ของน้า)

สมมติฐานงานวิจัย

1) ลกั ษณะคุณภาพของน้าในคลองชะอวดมคี วามเหมาะสมกบั การด้ารงชีวติ ของสัตวน์ ้าและกงุ้
แม่น้า

2) การเจรญิ เตบิ โตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด มีความสัมพันธก์ ับค่าอุณหภูมิของอากาศและน้า
คา่ pH ปรมิ าณออกซิเจนที่ละลายในนา้ (DO) ความโปรง่ ใส และความเค็มของน้า

วตั ถปุ ระสงคง์ านวจิ ยั

1) เพ่อื ศกึ ษาลกั ษณะคุณภาพน้าในคลองชะอวด
2) เพ่อื ศกึ ษาปจั จยั ท่ีมีความสมั พันธ์กับการเจริญเตบิ โตของกุ้งแมน่ ้าในคลองชะอวด

ผลท่ไี ดร้ บั จากการวจิ ัย

1) ไดท้ ราบเก่ยี วกับคุณภาพน้าในคลองชะอวด
2) ได้ทราบเกี่ยวกับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด เพ่ือ

เปน็ แนวทางในการอนรุ ักษ์กุ้งแมน่ ้าในคลองชะอวดให้คงอยู่สืบไป
3) เพ่ือเป็นฐานข้อมูลเบ้ืองต้นส้าหรับการศึกษาลักษณะคุณภาพน้า และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์

กบั การเจริญเตบิ โตของกุง้ แมน่ า้ ในคลองชะอวดตอ่ ไป

-3-

ขอบเขตงานวจิ ัย

1. พืนท่ีศึกษา
การศึกษาครั้งนี้ท้าการศึกษาคุณภาพน้าและการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด

จ้านวน 3 จุดศกึ ษา คือ
จดุ ศกึ ษาที่ 1 บรเิ วณสะพานโค้งรถไฟตลาดชะอวด หมทู่ ี่ 1 ตา้ บลชะอวด
จดุ ศึกษาท่ี 2 บรเิ วณบ้านบางคลงุ้ หมู่ท่ี 3 ตา้ บลชะอวด
จดุ ศึกษาท่ี 3 บริเวณบ้านย่านแดง หม่ทู ่ี 7 ตา้ บลเครง็

ภาพท่ี 1 แผนทีค่ ลองชะอวด
ท่ีมา กรมชลประทาน, 2556
2. ปัจจยั ดา้ นเนือหา
ปัจจัยด้านคุณภาพของน้า ได้แก่ อุณหภูมิของอากาศ อุณหภูมิของน้า ค่าความเป็นกรด-ด่าง
(pH) ปรมิ าณออกซเิ จนทลี่ ะลายในนา้ (DO) ความโปร่งใสของนา้ และความเค็มของนา้
ปจั จยั ด้านการเจริญเติบโตของกุ้ง ได้แก่ เพศ จา้ นวนกงุ้ ความยาวลา้ ตัวกุ้ง และนา้ หนักของกุ้ง
3. ช่วงเวลาทที่ า้ งานวิจยั เดือนพฤษภาคม – ธนั วาคม พ.ศ.2561

-4-

เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

ในการวิจัย เรือ่ ง ปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของกงุ้ แม่นา้ ในคลองชะอวด อา้ เภอชะอวด
จงั หวัดนครศรีธรรมราช คร้ังนี้ผวู้ จิ ัยได้ศกึ ษาเอกสารและงานวิจัยทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ดงั น้ี

ข้อมูลเบอื งต้นเกี่ยวกบั อา้ เภอชะอวด และคลองชะอวด

1. ทีต่ ังอา้ เภอชะอวด
อา้ เภอชะอวดเปน็ อา้ เภอหนึ่งของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ตง้ั อยูท่ างตอนใต้ของจงั หวัดห่างจาก

อ้าเภอเมือง ประมาณ 71 กโิ ลเมตร มเี น้อื ทีป่ ระมาณ 833 ตารางกโิ ลเมตร คิดเป็นร้อยละ 9 ของพน้ื ท่ี
จงั หวดั มอี าณาเขตตดิ ต่อกับอ้าเภอข้างเคยี งดงั นี้

ทิศเหนอื ตดิ ตอ่ กับ อา้ เภอจุฬาภรณ์ และอา้ เภอร่อนพบิ ลู ย์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช
ทิศใต้ ติดตอ่ กับ อ้าเภอป่าพะยอม และอ้าเภอควนขนนุ จังหวดั พัทลุง
ทศิ ตะวันออก ตดิ ต่อกับ อ้าเภอเฉลิมพระเกียรติ อ้าเภอเชียรใหญ่ และอ้าเภอหัวไทร

จงั หวัดนครศรีธรรมราช
ทศิ ตะวันตก ติดต่อกับ อ้าเภอทุ่งสง จังหวดั นครศรีธรรมราช และอา้ เภอหว้ ยยอด จังหวัดตรัง

2. ขอ้ มูลคลองชะอวด
คลองชะอวดเป็นคลองสายหลักของอ้าเภอชะอวดที่เกิดจากคลองต่างๆ ทางทิศตะวันตกไหลมา

รวมกัน ได้แก่ คลองไม้เสยี บ คลองลาไม คลองเกยี บ เป็นต้น คลองชะอวดเปน็ คลองที่กว้างและลึก ไหลผ่าน
หลายต้าบลในอา้ เภอชะอวด ได้แก่ ต้าบลท่าประจะ ต้าบลชะอวด ต้าบลท่าเสม็ด และต้าบลเคร็ง ไหลผ่าน
ไปทางอ้าเภอเชียรใหญ่ อ้าเภอหัวไทร และลงสู่ทะเลท่ีอ้าเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช คลองชะ
อวดเป็นแหล่งน้าส้าคัญท่ีใช้หล่อเล้ียงชาวอ้าเภอชะอวด เป็นแหล่งท้ามาหากินของชาวบ้านเนื่องจากเป็น
แหล่งเพาะพันธ์ุสัตว์น้า และแหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์น้าหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีความส้าคัญในด้านของ
การศกึ ษาเรยี นรู้ ทางดา้ นธรรมชาติ วถิ ชี วี ิต และภูมิปัญญาชาวบ้าน เน่ืองจากธรรมชาติสองฝากฝังที่เต็มไป
ด้วยต้นไมน้ านาชนิด และวิถีชีวิตของผู้คน อีกท้ังยังมีการบอกเล่าเร่ืองราววิถีความเป็นอยู่ของชาวบ้านผ่าน
การพายเรอื หาปลา และการใช้ "ยอ" ซง่ึ เปน็ เคร่ืองมือในการหาปลาของชาวบา้ นริมคลองชะอวดแห่งน้ี

-5-

ชีววิทยาของกงุ้ แม่น้า หรือกงุ้ ก้ามกราม

1. ลักษณะของกุ้งแม่น้า หรือกุ้งกา้ มกราม
กงุ้ แมน่ ้า หรือ กงุ้ ก้ามกราม จัดอยู่ในจ้าพวกสัตว์น้าที่ไม่มีกระดูกสันหลัง มีการจัดหมวดหมู่ดังนี้

(Fofonoff PW et.al, 2018)
Kingdom Animalia
Phylum Arthropoda
Subphylum Crustacea
Class Malacostraca
Order Decapoda
Family Palaemonidae
Genus Macrobrachium
Species M. rosenbergii

กุ้งแมน่ ้า หรือกงุ้ กา้ มกราม เป็นสัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลัง มีเปลือกหุ้มอยู่ภายนอก เปลือกสีเขียว
อมสีฟ้าหรือสีม่วง ก้ามยาวมีสีครามหรือม่วงเข้ม บริเวณก้ามมีปุ่มตะปุ่มตะป่า ล้าตัวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
คอื ส่วนหวั ส่วนล้าตัว และส่วนหาง ส่วนหัวประกอบด้วยขาเดิน 3 คู่ และขาท่ีมีลักษณะเป็นก้ามอีก 2 คู่
อยู่ทางส่วนหน้า ขาคู่ที่ 1 ใช้ในการป้อนอาหารเข้าปากและท้าความสะอาดร่างกาย ขาคู่ที่ 2 มีความยาว
และใหญ่กว่าคู่ท่ี 1 ซึ่งใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ และจับเหยื่อ ส่วนปลายสุดของกุ้งก้ามกรามประกอบด้วย
กรีมีลักษณะแบนข้าง ส่วนโคนของกรีหนาและนูนเรียวแหลมไปทางส่วนปลาย ตรงกลางกรีโค้ง แอ่นลง
สว่ นปลายงอนขนึ้ ท่ีสันกรีด้านบนและล่างมีหลักหนามคล้ายฟันเล่ือย จ้านวนหนามบนสันกรีล่าง 8-14 ซ่ี
สันกรีบนมี 12-15 ซี่ ตาอยู่ส่วนใต้โคนกรีอยู่บนก้านซ่ึงยาวย่ืนออกมาและเคล่ือนไหวได้ ส่วนล้าตัวแบ่ง
ออกเป็นปลอ้ งๆ รวม 6 ปล้อง ด้านล่างของส่วนล้าตวั มีขาว่ายน้า 5 คู่ หางประกอบด้วยแพนหางข้างละ 1
คู่ ตรงส่วนกลางเปน็ ปลายหางแหลม (ภาพที่ 2)

-6-

ภาพที่ 2 ลักษณะของกงุ้ ก้ามกราม
ที่มา http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2771/giant-fresh-water-prawn

2. การกระจายของกุ้งกา้ มกราม
กุ้งก้ามกรามมีถิ่นก้าเนิดในเอเชียใต้ไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ

ไทย พม่า เวียดนาม ส้าหรับ ในประเทศไทยมักพบในแหล่งน้าจืดท่ีมีทางติดต่อกับทะเล เช่น แม่น้า
เจ้าพระยา แมน่ ้าแม่กลอง แมน่ ้าบางปะกง แม่น้าหลังสวน แม่น้าตาปี และทะเลสาบสงขลา

กุ้งกา้ มกรามมกี ารแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง พบท้ังบริเวณแหลง่ นา้ กรอ่ ยและบริเวณแหล่งน้า
จืดโดยกุ้งจะอาศัยในบริเวณที่น้าสะอาด กุ้งก้ามกรามวัยรุ่นจะเดินทางไปไปหากินในแหล่งน้าจืด ตาม
แม่น้า ล้าคลองทั่วๆไป เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ พ่อแม่พันธุ์กุ้งจะเดินทางมายังแหล่งน้ากร่อย ซ่ึงเป็นบริเวณ
ปากแม่น้าหรือทะเลสาบ เพ่ือผสมพันธ์ุวางไข่ และล้ียงตัวอ่อนจนเป็นกุ้งวัยรุ่น แล้วเดินทางเข้าไปยัง
บรเิ วณนา้ จดื เพือ่ เลย้ี งตัวจนเป็นกงุ้ ใหญ่ต่อไป

-7-

3. ลกั ษณะเพศของของกุ้ง

ภาพท่ี 3 ลกั ษณะเพศของกุ้งกา้ มกราม
ท่ีมา http://www.thaikasetsart.com/การเลี้ยงกุ้งก้ามกราม/

ก้งุ กา้ มกรามเพศผู้กับเพศเมียมีลักษณะท่ีสามารถจ้าแนกความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดอยู่หลาย
ประการ ได้แก่ เพศผู้จะมีช่องเปิดของน้าเชื้อ 1 คู่ อยู่ที่โคนขาเดินคู่ที่ 5 ด้านใน และบริเวณช่องท้อง
ระหวา่ งขอบของเปลอื กหุ้มตัวของเพศผ้จู ะแคบกวา่ ของตัวเมยี ซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะกุ้งท่ี
โตเต็มวัยในระยะฤดูวางไข่ นอกจากนี้ลักษณะที่เห็นง่ายๆ คือ ขาเดินคู่ที่ 2 ซึ่งมีลักษณะเป็นก้ามของกุ้ง
เพศผู้มีขนาดใหญ่และยาวกว่าของเพศเมีย เมื่อมีขนาดเท่าๆ กัน แต่ถ้าจะพิจารณากันให้แน่ชัดแล้วมี
อวัยวะที่แตกต่างกันอยู่ที่บริเวณโคนขาว่ายน้าคู่ท่ี 2 ของเพศผู้มีต่ิงขนาดเล็กย่ืนออกมา 2 ติ่ง เรียกว่า
Appendix masculina กับ Appendix interna ส่วนบริเวณโคนขาว่ายน้าคู่ท่ี 2 ของเพศเมียนั้น จะมีติ่ง
ยื่นออกมาเพียงอันเดียวเรียกว่า Appendix interna เท่านั้น นอกจากน้ีในฤดูวางไข่จะสังเกตเห็นว่า
ภายในกระดองหัวของกงุ้ เพศเมียจะมสี ีแสดหรือแดงอมเหลืองเด่นชัด สีในบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นที่ตั้งของ
รังไข่ หรอื สามัญทั่วไปเรียกว่า “แกว้ กงุ้ ” สา้ หรับของเพศผูส้ ีในบริเวณดงั กลา่ วจะไม่ปรากฏให้เหน็

4. การสบื พนั ธุ์

กุ้งแม่น้า สืบพันธ์ุโดยการวางไข่ตลอดปี แต่ในฤดูฝนพบว่าตัวเมียมีไข่มากกว่าระยะอ่ืน โดยจะ
เริ่มสืบพันธ์ไุ ดเ้ ม่ืออายปุ ระมาณ 3 เดือน เป็นต้นไป รังไข่จะอยู่บนหัว เมื่อไข่แก่จะมีสีส้มที่เรียกว่า แก้วกุ้ง
แม่กุ้งที่มีไขพ่ รอ้ มจะผสมกับน้าเช้ือของตัวผู้แล้วจะลอกคราบก่อน หลังจากนั้น 6-12 ช่ัวโมง ตัวผู้จะปล่อย
น้าเช้ือเข้าไปเก็บไว้ในถุงน้าเช้ือของตัวเมียซึ่งอยู่ตรงบริเวณหน้าอก โคนขาเดินคู่ท่ี 3 และภายใน 24
ชั่วโมง ตัวเมียจะปล่อยไข่ท่ีอยู่บนหัวออกมาผสมกับน้าเช้ือ ท่ีเก็บไว้ในถุงท่ีหน้าอก ไข่ที่ผสมแล้วจะถูก
สง่ ผา่ นออกมาเก็บไว้ที่ช่องท้อง โดยจะยดึ เกาะอยู่กับขนเล็ก ๆ ท่ีขาว่ายน้า ไข่ท่ีปล่อย ออกมาใหม่ ๆ จะมี
สีส้มเหลอื ง แลว้ คอ่ ย ๆ เปล่ยี นเป็นสีน้าตาลเทา ไข่กุ้งจะใชเ้ วลาประมาณ 19 วัน ในระดับอุณหภูมิ 25-30
องศาเซลเซียส จึงฟักออกเป็นตัว กุ้งก้ามกรามท่ีอยู่ล้าน้าธรรมชาติ จะเดินทางลงมายังแม่น้าในบริเวณท่ี

-8-

น้าเคม็ ขน้ึ ถงึ เพ่ือปลอ่ ยลูกก้งุ ให้เจริญเติบโตในนา้ กรอ่ ยระยะหนง่ึ ก่อนแลว้ จึงเคล่ือนย้ายไปอยู่ในน้าจืด แม่
กุง้ ตวั หนง่ึ ๆ จะวางไข่ครั้งละประมาณ 3,000 – 200,000 ฟอง ทั้งนี้ข้ึนกับขนาด แม่กุ้งตัวหนึ่งๆ สามารถ
วางไข่ได้ปลี ะ 2-4 คร้งั

งานวจิ ัยที่เก่ยี วขอ้ ง

การศึกษาเก่ียวกับกุ้งก้ามกรามได้มีการศึกษากันอย่างแพร่หลายท้ังในประเทศและต่างประเทศ
ส้าหรับการศึกษาในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ส้าคัญในการเพาะเลี้ยงกุ้งเพ่ือ
การค้าในหลายพื้นที่ของประเทศ ท้ังในด้านคุณภาพน้า การขนส่ง ตลอดจนปัจจัยด้านโรคระบาด มีส่วน
น้อยท่ศี ึกษาจากกุ้งแมน่ ้าในธรรมชาติ

นพคุณ ภักดีณรงค์ (2558) ศึกษาปัจจัยท่ีส้าคัญในการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ปัจจัยด้านแหล่งน้าต้องอยู่ใกล้แหล่งน้าจืดที่ใช้ตลอดทั้งปี ส่ิงที่เกษตรกรต้อง
ค้านงึ เปน็ พิเศษคอื การวางแผนเลี้ยง ซ่งึ ต้องติดตามข้อมูลช่วงเวลาปิด เปิด เข่ือน ปริมาณน้าฝนในแต่ละปี
และปริมาณน้าในแม่น้าซ่ึงส้าคัญต่อการเล้ียงกุ้งก้ามกรามในเกษตรกรเป็นอย่างมาก ปัจจัยรองลงมา คือ
ปัจจัยด้านการขนส่งและสภาวะเครียด เพราะเขตแหล่งน้าจืดไม่สามารถเพาะพันธ์ุลูกกุ้งได้เองจึง
จ้าเป็นต้องขนส่งมาจากทางภาคกลางภาคที่ติดกับทะเล ดังน้ันปริมาณท่ีค้านวณไว้จะต้องค้านึงถึงจ้านวน
ลูกกุ้งที่ตายเน่ืองจากภาวะตึงเครียดในระหว่างการขนส่ง สุดท้ายปัจจัยโรคระบาด เนื่องจากแหล่งน้าจืด
เป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรคมากมาย โดยเฉพาะแบคทีเรียซึ่งเป็นเช้ือฉกฉวยโอกาส มักเจริญดีใน
นา้ จืดมากกวา่ น้ากร่อยและนา้ เค็ม

วีร์ ก่ีจนา และ ฐากร ทิพย์สุนทรศักด์ิ (2554) ได้ศึกษาคุณภาพน้าในการอนุบาลลูกกุ้ง พบว่า
คณุ ภาพนา้ มคี วามเหมาะสมต่อการดา้ รงชวี ติ ของลูกกงุ้ ก้ามกราม โดยปรมิ าณออกซิเจนท่ีละลายน้ามีค่าอยู่
ในช่วง 5.9-7.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ความเป็นกรดเป็นด่างมีค่าอยู่ในช่วง 6.9-8.5 ความกระด้างของน้ามีค่า
อยใู่ นชว่ ง 150-270 มิลลิกรมั ตอ่ ลติ ร อณุ หภมู ิน้ามีคา่ อยใู่ นช่วง 27.5-29.9 องศาเซลเซยี ส และแอมโมเนีย
รวมมีค่าอยู่ในช่วง 0.11-0.17 มิลลิกรัมต่อลิตร ซ่ึงสอดคล้องกับการศึกษาของมันสิน ตัณฑุลเวศม์ และ
ไพพรรณ พรประภา (2544) ที่รายงานว่าคุณภาพน้าที่เหมาะสมส้าหรับสัตว์น้าควรมีปริมาณออกซิเจนท่ี
ละลายน้าไม่น้อยกว่า 5 มิลลิกรัมต่อลิตร ความเป็นกรดเป็นด่างมีค่าอยู่ในช่วง 6.5-9.0 แอมโมเนียรวมไม่
ควรเกิน 0.12-1.43 มิลลิกรัมต่อลิตร (ท่ีความเป็นกรดเป็นด่าง 7.5-9.0 และอุณหภูมิ 25-30 องศา
เซลเซียส) และสอดคล้องกับภาณุ และคณะ (2539); Ling (1969) รายงานว่าอุณหภูมิน้าที่เหมาะสมมีค่า
อยูใ่ นช่วง 25.0-32.0 องศาเซลเซียส ความกระดา้ งของนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 150-300 มิลลิกรมั ตอ่ ลติ ร

-9-

โครงการส่งน้าและบ้ารุงรักษาลุ่มน้าปากพนังตอนบน (กรมชลประทาน, 2556) ได้เก็บตัวอย่าง

น้าเพ่ือท้าการวิเคราะห์ และตรวจสอบหาคุณภาพน้า ของสายคลองต่างๆ เขตโครงการฯในเดือน

พฤศจิกายน 2556 ผลการวเิ คราะห์ตัวอย่างน้าในส่วนต่างๆ ของคลองชะอวด ดังตารางที่ 1

ตารางท่ี 1 ผลการวิเคราะห์ตัวอยา่ งนา้ ในสว่ นตา่ งๆ ของคลองชะอวด

ลำดับ จุดเกบ็ ตัวอยำ่ งนำ ค่ำพกิ ดั คำ่ พกิ ัด คำ่ ควำมเป็น DO. ค่ำควำมเค็ม
ที่ UTM-X UTM-Y กรด - ดำ่ ง (มก./ (กรัม/ลติ ร)
ลติ ร)
(pH.) (EC.)

1 เหนอื อ่างเกบ็ นา้ ห้วยนา้ ใส 724000 893000 7.01 5.08 0.035

2 ท้าย อ่างเกบ็ นา้ ห้วยนา้ ใส 724000 893000 7.10 5.12 0.035

3 เหนอื ฝายคลองไม้เสยี บ 723000 006000 6.84 4.82 0.026

4 ท้าย ฝายคลองไม้เสยี บ 723000 006000 6.90 4.51 0.057

5 ตลาดชะอวด 803000 099000 6.86 4.72 0.015

6 หนา้ ศนู ย์พฒั นาพรคุ วนเคร็ง 753000 218000 6.67 4.96 0.030

7 คลองปากควน 787000 141000 6..45 4.80 0.012

8 คลองบางรกั โพรง 826000 153000 6.54 5.01 0.030

9 คลองบางกลม 835000 154000 6.63 4.13 0.009

10 เหนือ ปตร.คลองชะอวด-แพรกเมอื ง 861000 436000 6.62 4.76 0.087

11 ทา้ ย ปตร.คลองชะอวด-แพรกเมอื ง 861000 436000 6.45 4.88 1.048

12 เหนอื ทรบ.บา้ นสามแพรก 822000 442000 6.59 3.82 0.189

13 ทา้ ย ทรบ.บา้ นสามแพรก 822000 442000 6.47 3.26 1.203

14 เหนอื ทรบ.คลองรามแกว้ 776000 437000 6.49 3.27 0.247

15 ทา้ ย ทรบ.คลองรามแกว้ 776000 437000 6.57 3.89 1.093

16 เหนือ ทรบ.ทะเลปงั 877000 436000 6.46 4.15 0.365

17 ท้าย ทรบ.ทะเลปงั 877000 430000 6.76 4.10 1.980

18 เหนอื ทรบ.ตรงเตรยี ง 838000 435000 6.41 3.10 0.219

19 ทา้ ย ทรบ.ตรงเตรียง 838000 435000 6.34 3.22 2.070

20 ปลายคลองชะอวด-แพรกเมือง 879000 200000 6.80 4.24 0.082

21 ปลายคลองแดน 754000 320000 6.36 4.12 0.087

22 สะพานเทศบาลหัวไทร 895000 440000 6.85 3.02 7.440

โดยคุณภาพน้าท่ีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของสัตว์น้า ค่าการละลายของออกซิเจนในน้าท้ิง
ไมน่ ้อยกวา่ 3.00 มิลลิกรมั /ลิตร ค่าอุณภูมขิ องน้าไม่มากกวา่ 40 องศาเซลเซียส ค่าความเค็มของน้าไม่สูง
กวา่ 0.48 กรมั /ลติ ร

-10-

จากการศึกษางานวิจัยข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า คุณภาพน้าที่เหมาะสมต่อการด้ารงชีวิตกุ้งแม่น้า
และสัตว์น้าต่างๆ มีค่าดังนี้

- ความเป็นกรดเป็นด่างมคี า่ อยใู่ นช่วง 6.5-9.0
- ปริมาณออกซิเจนท่ลี ะลายน้ามคี า่ มากกว่า 3 มิลลิกรมั ต่อลิตร
- อณุ หภมู นิ ้าท่ีเหมาะสมมคี า่ อยู่ในช่วง 25.0-32.0 องศาเซลเซยี ส

- คา่ ความเค็มของน้าไมส่ ูงกว่า 0.48 กรัม/ลิตร

- ความกระดา้ งของน้ามีคา่ อยู่ในชว่ ง 150-300 มิลลิกรมั ตอ่ ลติ ร และ

- แอมโมเนยี รวมมีค่าอย่ใู นช่วง 0.11-1.43 มิลลกิ รมั ต่อลติ ร

-11-

การวางแผนงานวจิ ยั

จดุ ศกึ ษา

การศึกษาปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของก้งุ แมน่ ้าในคลองชะอวด อ้าเภอชะอวด จงั หวัด
นครศรีธรรมราช ทา้ การสา้ รวจคณุ ภาพน้าและเกบ็ ตัวอย่างกุ้งจากคลองชะอวด จา้ นวน 3 จุด มีพิกัดจุด
ศึกษาดังตารางท่ี 2 และภาพท่ี 1

ตารางท่ี 2 พิกดั ของจุดศึกษาท่ีเก็บข้อมูลน้าในคลองชะอวด

จุดทศ่ี กึ ษาที่ ละตจิ ดู (N) พกิ ดั
7.962770 ลองจิจูด (E)
1 สะพานรถไฟชะอวด 7.960977 99.998563
2 บ้านบางคลุง้ 7.988532 100.031925
3 บ้านยา่ นแดง 100.047618

จุดศึกษาที่ 3
บ้านย่านแดง

โรงเรียน
ชะอวดวทิ ยาคาร

จุดศึกษาที่ 1 จุดศึกษาท่ี 2
สะพานรถไฟชะอวด บ้านบางคล้งุ

ภาพที่ 4 จุดศึกษาท้ัง 3 จุด คือ สะพานรถไฟชะอวด บ้านบางคลงุ้ และบ้านย่านแดง

-12-

จุดศึกษาท่ี 1 คือ บริเวณสะพานรถไฟชะอวด
ตงั้ อยู่ทหี่ มู่ท่ี 1 ต.ชะอวด เป็นคลองชะอวดจดุ ที่ไหลผ่านบริเวณตลาดชะอวดและชุมชนชะอวด

มสี ะพานรถไฟ และสะพานแพทอดยาวเชอ่ื ม 2 ฝังคลอง สามารถเดนิ ผา่ นไปยังคลองอกี ฝงั นงึ ได้
ดงั ภาพที่ 5

จดุ ศึกษาท่ี 1 สะพานรถไฟชะอวด
อวด

จุดศึกษาท่ี 1 สะพานรถไฟชะอวด N

WE
S

ภาพที่ 5 จดุ ศกึ ษาท่ี 1 บริเวณสะพานรถไฟ ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรธี รรมราช

-13-

จุดศกึ ษาท่ี 2 บริเวณบ้านบางคลุ้ง
ตั้งอยทู่ หี่ มู่ 3 ต.ชะอวด เป็นบริเวณท่รี ับนา้ ตอ่ มาจากจุดท่ี 1 บรเิ วณโดยรอบเป็นพืน้ ที่การเกษตร

ของชาวบา้ น ได้แก่ สวนยางพารา และผักสวนครัว ดงั ภาพท่ี 6

N
WE

S

จดุ ศึกษาท่ี 2 บา้ นบางคลุง้

ภาพที่ 6 จดุ ศกึ ษาที่ 2 บริเวณบา้ นบางคล้งุ ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรธี รรมราช

-14-
จุดศกึ ษาท่ี 3 บริเวณยา่ นแดง

ตง้ั อยูใ่ นหมู่ที่ 7 ต.เครง็ เปน็ คลองชะอวดบรเิ วณทไ่ี หลผา่ นพื้นท่ปี า่ พรคุ วนเคร็ง สภาพโดยรอบ
เป็นพ้ืนท่ีการเกษตร และป่าพรุควนเคร็ง ดงั ภาพท่ี 7

ภาพที่ 7 จุดศึกษาท่ี 3 บรเิ วณบ้านย่านแดง ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรธี รรมราช

-15-

วัสดแุ ละอุปกรณ์

วสั ดุและอปุ กรณใ์ นการวจิ ัย มดี งั นี้
1) เครื่องวัดความเคม็ (salinity meter) รนุ่ PARA Test (ภาพที่ 8)

ภาพที่ 8 เครอ่ื งวัดความเค็ม
2) จานวัดความโปร่งใส (secchi disc) รุ่น Gammaco (ภาพท่ี 9)

ภาพที่ 9 จานวดั ความโปร่งใสของนา้

-16-
3) ชดุ ทดสอบการละลายของออกซเิ จน (Dissolved oxygen DO meter) รุ่น PARA Test

(ภาพที่ 10)

ภาพที่ 10 ชดุ ทดสอบการละลายของออกซิเจน
4) เคร่อื งความเปน็ กรด ด่าง (pen type pH meter) (ภาพท่ี 11)

ภาพที่ 11 เคร่อื งวดั ความเป็นกรด ด่าง

-17-
5) เทอร์มอมิเตอร์ (thermometer) ชนิดแท่งแก้ว (ภาพที่ 12)

ภาพที่ 12 เทอรม์ อมิเตอร์
6) ขวดเกบ็ ตัวอยา่ งนา้ ( water sampling ) รนุ่ schott (ภาพที่ 13)

ภาพท่ี 13 ขวดเก็บตวั อย่างนา้

-18-

7) บีกเกอร์ (beaker) (ภาพท่ี 14)
8) สายวัด (measuring tape) (ภาพที่ 15)

ภาพที่ 14 บกี เกอร์ ภาพท่ี 15 สายวดั
9) เครือ่ งชัง่ ดิจติ อล (Digital Scale) (ภาพที่ 16)

ภาพท่ี 16 เครอ่ื งช่งั ดจิ ติ อล

-19-

วธิ ีการดา้ เนินการวจิ ยั

1. ขนั ตอนในการด้าเนนิ การวิจยั
1.1 ขนั เตรียมการวิจัย
1. เลือกหัวข้อทีส่ นใจทีจ่ ะศึกษา
2. วางแผนออกแบบการวิจยั
3. จดั เตรยี มอปุ กรณ์
4. กา้ หนดจุดศึกษาเป็น 3 จุด

1.2 ขนั ด้าเนนิ การวจิ ัย
ในการศึกษา ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด อ้าเภอ

ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ้วู ิจัยไดท้ า้ การเก็บขอ้ มูลนา้ และเกบ็ ข้อมูลกุ้งแม่นา้ มขี ้ันตอนดังนี้
1. ท้าการเก็บตัวอย่างน้า ตรวจวัดคุณสมบัติของน้าทางกายภาพและทางเคมีโดย

ตรวจวัดค่าอุณหภูมิของอากาศและน้า ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้า (DO)
ความโปร่งแสง และความเค็มของน้า โดยในแต่ละจุดศึกษาจะท้าการตรวจวัด 3 ครั้งเพ่ือหาค่าความ
แม่นยา้ ของจุดศึกษาน้ันๆ มขี ั้นตอนดงั นี้

 ตรวจวัดค่าอุณหภูมิของน้าและอากาศโดยใช้เทอร์มอมิเตอร์แบบแท่งแก้ว
สงั เกตและบันทึกผล

 ตรวจวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) โดยใช้เครื่องวัดความเป็นกรด-ด่างแบบ
พกพา (pH meter) สงั เกตและบนั ทกึ ผล

 ตรวจวัดหาค่าปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้า โดยใช้ชุดทดสอบปริมาณ
ออกซิเจนละลายน้า (Dissolved oxygen DO meter) สังเกตและบันทกึ ผล

 ตรวจวัดค่าความโปรง่ ใสของน้า โดยใช้จานวดั ความโปร่งใส (secchi disc)
สงั เกตและบันทกึ ผล

 ตรวจวัดคา่ ความเค็ม โดยใช้เครอ่ื งวัดความเค็ม (salinity meter) สังเกตและ
บันทึกผล

2. เกบ็ ตัวอยา่ งกงุ้ โดยการวางไซในแต่ละจุดศกึ ษา จุดละ 5 ลูก ใช้มะพร้าวห้าวเป็นเหยื่อ
สา้ หรบั ล่อกงุ้ ท้าการวางไซไว้ในแต่ละจดุ ๆ ละ 2 คืน เกบ็ ตวั อยา่ งในตอนเช้าของวันท่ี 2 บันทึกข้อมูลกุ้งที่
ไดจ้ ากการวางไซในแต่ละจุดศกึ ษา โดยจดบนั ทกึ เพศ วัดความยาวลา้ ตัว และน้าหนักของกุ้งทกุ ตัว

-20-

1.3 ขันวเิ คราะห์และสรุปผลวิจยั
ขนั ตอนในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู มีดังนี้
1. วิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพของน้า น้าข้อมูลค่าอุณหภูมิของอากาศและน้า ความเป็น

กรด-ด่าง (pH) ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้า (DO) ความโปร่งแสง และความเค็มของน้าที่ได้มาหา
ค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft excel

2. นา้ ขอ้ มูลเพศ จา้ นวน ความยาวล้าตัวกุง้ และน้าหนักของกุ้ง ไปทดสอบความแตกต่าง
และหาความสมั พนั ธก์ ับข้อมูลคณุ ภาพน้าโดยใชโ้ ปรแกรม SPSS 16.0

3. เสนอผลการวเิ คราะห์ทีไ่ ด้ในรูปแบบตารางและกราฟ
4. น้าข้อมูลทไี่ ด้จากการวเิ คราะหม์ าสรุปผลการวิจัย
2. สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล
1. ทดสอบความแตกต่างของอุณหภูมิ ค่าความเป็นกรด-ด่างของน้า ค่าปริมาณ
ออกซเิ จนทีล่ ะลายในน้า (DO) ความโปร่งใส และคา่ ความเค็มของน้า ด้วยค่าสถิติเอฟ (F-test) โดยใช้การ
วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One way ANOVA) และท้าการทดสอบความแตกต่างของ
ค่าเฉลย่ี รายคดู่ ว้ ยวิธีของดนั แคน (Duncan)
2. หาความสัมพนั ธ์ของคุณภาพน้ากับความยาวและนา้ หนักของกงุ้ โดยใช้ค่าสัมประสิทธ์ิ
สหสัมพนั ธเ์ พยี ร์สัน (Pearson’s correlation coefficient: r) การแปลผลค่า r เป็นดงั นี้

r = 0.50-1.00 หมายความวา่ มีความสมั พนั ธก์ ันในระดับสงู
r = 0.30-0.50 หมายความวา่ มคี วามสัมพันธ์กันในระดับปานกลาง
r = 0.00-0.30 หมายความว่า มคี วามสัมพนั ธ์กันในระดับต้า่
เครื่องหมาย + และ – หน้าตัวเลขสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์จะบอกทิศทางของ
ความสมั พนั ธ์โดยทีห่ าก
r มีเครือ่ งหมาย + หมายถึง การมีความสมั พันธ์กนั ไปในทิศทางเดยี วกนั
r มีเครอ่ื งหมาย - หมายถงึ การมีความสัมพันธ์กันไปในทศิ ทางตรงกันข้าม

-21-

ผลการวิจยั

การศึกษา เร่อื ง ปัจจัยท่ีมผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของกุ้งแม่นา้ ในคลองชะอวด อ้าเภอชะอวด
จังหวดั นครศรธี รรมราช ไดผ้ ลการวิจัย ดงั น้ี

ลกั ษณะคุณภาพของนา้ ในคลองชะอวด

ผลการตรวจวัดลักษณะคณุ ภาพน้าทั้ง 3 จุดทศ่ี ึกษาในคลองชะอวด เป็นเวลา 3 คร้ัง ในช่วงเดือน
ตุลาคม 2561 พบว่าอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยอยู่ในช่วง 26.78 - 28.56 องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้าเฉลี่ย อยู่
ในช่วง 29.56 –30.56 องศาเซลเซียส ค่าการละลายออกซิเจนในน้าเฉล่ียอยู่ในช่วง 4.78–5.44 มิลลิกรัม
ต่อลิตร ค่าความเป็นกรด-ด่างเฉลี่ย อยู่ในช่วง 6.19– 6.64 ความโปร่งใสเฉล่ียอยู่ในช่วง 40.84 – 52.61
เซนติเมตร สา้ หรบั ค่าความเค็มของน้าพบว่ามีคา่ เท่ากบั 0.00 ในทุกพื้นทศี่ ึกษา ดังตารางท่ี 3

ตารางที่ 3 ลักษณะคุณภาพของน้าในแตล่ ะจุดศึกษา

จุด ครงั คุณภาพของน้า
ศึกษา ท่ี
อุณหภมู ิ อณุ หภูมิน้า การละลาย pH ความเคม็ ความโปร่งแสง
อากาศ (◦C) (◦C) ออกซิเจน (มก./ล) (ppt) (cm)

1 1 24.67±0.47 31.33±0.00 4.67±1.31 6.78±0.43 0.00±0.00 40.17±3.09

2 31.33±0.47 31.33±0.47 5.67±0.05 6.49±0.05 0.00±0.00 32.53±0.54

3 24.67±0.47 29.00±0.00 6.00±0.00 6.66±0.08 0.00±0.00 49.83±3.70

เฉลย่ี 26.89±3.14 30.56±1.10 5.44±0.57 6.64±0.12 0.00± 0.00 40.84±7.08

2 1 29.67±0.94 29.33±0.47 5.17±0.24 6.31±0.04 0.00±0.00 53.17±8.02

2 31.33±0.94 31.00±0.82 5.17±0.24 6.02±0.04 0.00±0.00 60.83±5.56

3 24.67±0.47 28.33±0.47 4.00±0.41 6.23±0.05 0.00±0.00 43.83±8.27

เฉล่ีย 28.56±2.83 29.56±1.10 4.78±0.55 6.19±0.12 0.00±0.00 52.61±6.95

3 1 29.33±0.47 30.67±0.47 4.50±0.41 6.78±0.01 0.00±0.00 40.17±6.36

2 27.33±0.47 29.67±0.47 6.00±0.41 6.40±0.03 0.00±0.00 56.33±4.87

3 23.67±0.47 28.33±0.47 4.50±0.41 6.51±0.03 0.00±0.00 33.00±1.08

เฉลยี่ 26.78±2.35 29.56±0.96 5.00±0.71 6.56±0.01 0.00±0.00 43.17±9.76

-22-

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพนา้ กบั การเจริญเตบิ โตของกุ้งแม่น้า

1) เปรียบเทยี บข้อมลู ลักษณะคุณภาพนา้ และการเจรญิ เติบโตของกุ้งแม่นา้
เม่ือน้าข้อมลู คุณภาพน้าและข้อมูลกุ้งมาเปรียบเทียบกันในแต่ละจุดศึกษา พบว่า อุณหภูมิอากาศ

โดยเฉลี่ยทั้ง 3 พื้นท่ีท่ีศึกษาไม่มีความแตกต่างกัน แต่ค่าเฉล่ียของอุณหภูมิน้า ความเป็นกรด-ด่าง การ
ละลายของออกซิเจนในน้า และความโปร่งใสของน้า ของทั้ง 3 พ้ืนที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญท่ี
ระดบั 0.05 (ภาพท่ี 17-19) (ตารางภาคผนวก 2ก)

ภาพที่ 17 แผนภมู ิแสดงอุณหภมู ิเฉลีย่ ของอากาศ และน้า (องศาเซลเซียส) ในแต่ละพ้ืนที่ศกึ ษา

หมายเหตุ ตัวอักษรที่แตกต่างกนั แสดงวา่ คา่ เฉล่ยี มคี วามแตกตา่ งกนั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ความเช่อื มั่น 95 เปอร์เซ็นต์

ภาพที่ 18 แผนภมู แิ สดงค่าความเปน็ กรด-ดา่ ง และค่าการละลายของออกซเิ จนในน้า ในแต่ละพ้ืนที่ศกึ ษา

-23-

หมายเหตุ ตัวอักษรทีแ่ ตกตา่ งกนั แสดงวา่ คา่ เฉลี่ยมคี วามแตกตา่ งกนั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ความเชอ่ื มน่ั 95 เปอร์เซ็นต์

ภาพที่ 19 แผนภมู แิ สดงค่าความโปรง่ ใสของนา้ (ซม.) ในแต่ละพน้ื ที่ศึกษา
เมื่อพิจารณาความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้ง พบว่าความยาวล้าตัวกุ้งเฉล่ียในจุดศึกษาท่ี 2
และ 3 มีความยาวมากกว่าจุดศึกษาท่ี 1 อย่างมีนัยส้าคัญที่ระดับ 0.05 ส้าหรับน้าหนักเฉลี่ยของกุ้งจาก
ท้ัง 3 พ้ืนท่ีศึกษามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญท่ีระดับ 0.05 โดยจุดศึกษาท่ี 3 บ้านย่านแดง กุ้ง
แม่น้าที่จับได้มีน้าหนักเฉล่ียมากที่สุด 110.44 ± 10.87 กรัม รองลงมาคือ จุดศึกษาที่ 2 มีน้าหนักเฉล่ีย
96.65 ± 10.00 กรัม และจุดศึกษาท่ี 1 น้าหนักเฉลี่ย 75.82 ± 5.48 กรัม ตามล้าดับ (ภาพท่ี 20) (ตาราง
ภาคผนวก 1ก และ 2ก)

ภาพท่ี 20 แผนภมู ิแสดงความยาวกงุ้ เฉล่ยี (ซม./ตัว) และน้าหนกั กงุ้ เฉลีย่ (กรัม/ตวั )ในแต่ละพ้นื ที่ศกึ ษา

-24-

2) ความสมั พันธ์ระหว่างคณุ ภาพน้ากบั การเจรญิ เติบโตของกุ้งแม่นา้
เม่ือน้าข้อมูลคุณภาพน้ากับความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้งมาหาความสัมพันธ์ โดยใช้ค่า

สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (r) ผลการวิเคราะห์พบว่าอุณหภูมิอากาศและอุณหภูมิของน้ามี
ความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับสูง (r = 0.648) และอุณหภูมิอากาศมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับ
ปานกลางกับการละลายของออกซิเจนในน้า และความโปร่งใสของน้า ส้าหรับอุณหภูมิของ น้ามี
ความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับความเป็นกรด-ด่าง ส่วนความโปร่งใสของน้ามีความสัมพันธ์
ทางบวกระดบั สูงกบั การละลายของออกซเิ จนในนา้ แตม่ ีความสัมพันธท์ างลบกบั ความเป็นกรด-ดา่ ง

เม่ือพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพ น้ากับความยาวล้าตัวและน้าหนักของกุ้ง พบว่า
อุณหภูมิของน้ามีความสัมพันธ์ทางลบกับความยาวล้าตัวของกุ้ง และน้าหนักของกุ้งอย่างมีนัยส้าคัญ
ในขณะท่ีความยาวล้าตัวกุ้งและน้าหนักของกุ้งมีความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับสูง (r = 0.812) น่ันคือ
กุง้ แมน่ ้าที่มีความยาวล้าตัวมากกจ็ ะมีน้าหนกั มากเชน่ กนั ดังตารางที่ 4

ตารางที่ 4 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งคณุ ภาพนา้ กับความยาวล้าตัวและนา้ หนกั ของกุ้ง

ความสัมพันธ์ อณุ หภมู ิ อณุ หภูมิ ความเปน็ การละลายของ ความ ความยาว น้าหนกั
อากาศ ของนา้ กรด-ดา่ ง ออกซิเจนในน้า โปรง่ ใส ลา้ ตัวกุ้ง ก้งุ
อณุ หภมู อิ ากาศ
อุณหภูมิของน้า 1.000 1.000 1.000
ความเปน็ กรด-ดา่ ง 0.648** 0.316*
การละลายของ
ออกซิเจนในน้า -0.211
ความโปรง่ ใส
ความยาวล้าตัวกุง้ 0.327* 0.248 -0.003 1.000
น้าหนกั กงุ้
0.364* 0.077 -0.513** 0.527** 1.000
0.064 -0.322** -0.243 -0.078 0.166 1.000
-0.069 -0.354* -0.189 -0.195 0.034 0.812** 1.000

หมายเหตุ * มีความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งมนี ัยส้าคญั ทรี่ ะดับความเชือ่ ม่นั 95 เปอรเ์ ซ็นต์
** มคี วามสมั พนั ธ์กนั อย่างมีนัยส้าคญั ทีร่ ะดับความเชื่อม่นั 99 เปอรเ์ ซน็ ต์

-25-

อภปิ รายและสรปุ ผล

การศึกษาปัจจัยท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด อ้าเภอชะอวด จังหวัด
นครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาคุณภาพน้าในคลองชะอวด และความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพ
ของน้ากับการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในคลองชะอวด โดยท้าการศึกษาจากพ้ืนที่ศึกษา จ้านวน 3 จุด
ด้าเนินการเก็บข้อมูลจุดละ 3 ครั้ง ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2561 ท้าการเก็บตัวอย่างน้า และตรวจวัดค่า
คุณภาพน้าทางกายภาพและเคมี ได้แก่ อุณหภูมิของอากาศและน้า ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ปริมาณ
ออกซิเจนท่ีละลายในน้า (DO) ความโปร่งใส และความเค็มของน้า พร้อมท้ังวางไซส้าหรับเก็บตัวอย่างกุ้ง
แม่น้า จดบันทึกเพศ จ้านวน ความยาวล้าตัวกุ้ง และน้าหนักของกุ้งทุกตัว วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การวิเคราะห์ความ
แปรปรวนแบบทางเดียว (One way ANOVA) ท้าการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉล่ียรายคู่ด้วยวิธีของ
ดันแคน (Duncan) และหาความสัมพันธ์ของคุณภาพของน้ากับความยาวและน้าหนักของกุ้งโดยใช้ค่า
สมั ประสิทธิ์สหสัมพันธเ์ พยี ร์สนั การอภปิ รายและสรปุ ผลการวจิ ัยประกอบด้วย 3 ส่วน ดังน้ี

ลักษณะคุณภาพของน้าในคลองชะอวด

ผลจากการเก็บตัวอย่างน้า และตรวจวัดค่าคุณภาพทางกายภาพและเคมีของน้าในคลองชะอวด
จ้านวน 3 จดุ ศกึ ษา พบวา่ อณุ หภูมอิ ากาศเฉลย่ี อยู่ในช่วง 26.78 - 28.56 องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้าเฉลี่ย
อยู่ระหว่าง 29.56–30.56 องศาเซลเซียส สอดคล้องกับการศึกษาของวีร์ กี่จนา และ ฐากร ทิพย์สุนทร
ศักด์ิ (2554) ท่ีศึกษาคุณภาพน้าในการอนุบาลลูกกุ้ง พบว่าคุณภาพน้ามีความเหมาะสมต่อการด้ารงชีวิต
ของลูกกุ้งก้ามกราม โดยอุณหภูมิน้ามีค่าอยู่ในช่วง 27.5-29.9 องศาเซลเซียส และสอดคล้องกับค่า
มาตรฐานของกรมชลประทาน (2556) ที่ก้าหนดว่าอุณหภูมิของน้าเพื่อการเกษตรไม่ควรมากกว่า 40
องศาเซลเซียส ส้าหรับค่าปริมาณออกซิเจนท่ีละลายน้านั้นอยู่ระหว่าง 4.78–5.44 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็น
ค่าที่เหมาะสมส้าหรับการด้ารงชีพของสัตว์น้าซึ่งค่ามาตรฐานต้องไม่ต่้ากว่า 3.00 มิลลิกรัมต่อลิตร ค่า
ความเป็นกรด-ดา่ ง (pH) ในคลองชะอวดเฉล่ียอยู่ระหว่าง 6.19–6.64 สอดคล้องกับผลการตรวจวิเคราะห์
น้าของโครงการส่งน้าและบ้ารุงรักษาลุ่มน้าปากพนังตอนบนของกรมชลประทาน (2556) ท่ีตรวจวัดค่า
คณุ ภาพน้าในคลองชะอวดพบว่ามคี า่ ความเปน็ กรด-ด่างเท่ากบั 6.34 - 7.10 แต่ไม่สอดคล้องกับการศึกษา
ของวรี ์ กีจ่ นา และฐากร ทพิ ยส์ นุ ทรศักด์ิ (2554) ทพี่ บว่าความเป็นกรดเปน็ ด่างของน้าในการอนุบาลลูกกุ้ง
มีค่าอยู่ในช่วง 6.9-8.5 ทั้งน้ีเนื่องจากคลองชะอวดเป็นแหล่งน้าตามธรรมชาติที่บางช่องมีการไหลของน้า
จากป่าพรุลงสู่คลอง ท้าให้มีค่าความเป็นกรดท่ีต่้ากว่าน้าในแหล่งน้าธรรมชาติอ่ืนๆ ค่าความโปร่งใสของ
น้าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 40.84– 52.61 เซนติเมตร ส่วนความเค็มของน้าน้ันพบว่ามีค่าเท่ากับ 0.00 ในทุก
พื้นที่ศึกษา สอดคล้องกับค่ามาตรฐานของกรมชลประทาน แสดงว่าคุณภาพน้าในคลองชะอวดมีความ
เหมาะสมส้าหรบั การเจรญิ เติบโตของกงุ้ แมน่ ้า สอดคลอ้ งกบั สมมตฐิ านท่วี างไว้

-26-

ปจั จยั ทม่ี ีความสมั พันธก์ บั การเจรญิ เตบิ โตของก้งุ แม่น้าในคลองชะอวด

กุ้งแม่น้าที่จับได้ส่วนใหญ่จะเป็นกุ้งเพศผู้ จ้านวนกุ้งทั้งหมดท่ีพบทั้ง 3 พื้นท่ีศึกษา เป็นเพศผู้
จ้านวน 41 ตัว และเพศเมียจ้านวน 3 ตัว ความยาวของกุ้งโดยรวมเฉลี่ย 17.33–19.17 เซนติเมตร
นา้ หนกั ของก้งุ ต่อตวั โดยรวมเฉลีย่ 75.82 - 110.46 กรัมต่อตัว กุ้งที่พบในจุดศึกษาท่ี 3 บ้านย่านแดง เป็น
กุ้งที่มีน้าหนักเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ 110.44 ± 10.87 กรัม จัดเป็นกุ้งขนาดใหญ่เพราะมีน้าหนักเฉล่ียต่อตัว
เกิน 100 กรัม ส้าหรับกุ้งที่พบในจุดศึกษาที่ 1 บริเวณสะพานรถไฟ และจุดศึกษาท่ี 2 บ้านบางคลุ้ง มี
น้าหนักของกุ้งเฉล่ียต่อตัว 75.82 ± 5.48 และ 96.65 ± 10.00 กรัม ตามล้าดับ จัดเป็นกุ้งขนาดกลาง ซ่ึง
ขนาดของกุ้งนี้ หมายถึง มูลค่าของกุ้งด้วย เนื่องจากกุ้งขนาดใหญ่และขนาดกลางจะถูกรับซื้อในราคาท่ีไม่
เทา่ กัน โดยกงุ้ ขนาดใหญ่จะขายส่งในราคากโิ ลกรมั ละ 500 บาท ในขณะท่ีกุ้งขนาดกลาง (น้าหนักตัวเฉล่ีย
50-100 กรัม) จะขายส่งในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ส่วนกุ้งขนาดเล็กซ่ึงมีน้าหนักตัวเฉลี่ยน้อยกว่า 50
กรมั จะถกู ขายในราคากโิ ลกรัมละ 200 บาท

เม่ือพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้ากับความยาวล้าตัวและน้าหนักเฉลี่ยของกุ้ง
พบวา่ อุณหภมู ขิ องน้ามคี วามสมั พนั ธ์ทางลบกับความยาวล้าตัวของกุ้ง และน้าหนักของกุ้งอย่างมีนัยส้าคัญ
น่ันคือ ถ้าอณุ หภมู ขิ องน้าลดลงจะท้าให้การเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าสูงขึ้น ในทางกลับกันถ้าอุณหภูมิของ
น้าสูงขึ้นก็จะท้าให้การเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าลดลงตามไปด้วย ท้ังน้ีเน่ืองจากอุณหภูมิท่ีสูงขึ้นจะส่งผล
ท้าให้อัตราการละลายของออกซิเจนในน้าลดลง ในขณะท่ีอัตราเมแทบอลิซึมของส่ิงมีชีวิตในน้าเพ่ิมขึ้น
ส่งผลให้ความเป็นกรดของน้าเพ่ิมขึ้นตามไปด้วย ส้าหรับปัจจัยด้านอุณหภูมิอากาศ การละลายของ
ออกซิเจนในนา้ และความเปน็ กรด-ดา่ งของน้าน้ันมีความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของกุ้งแม่น้าในระดับ
ต้่าอยา่ งไม่มีนัยสา้ คัญ

นอกจากนี้ยังพบว่าความยาวล้าตัวกุ้งและน้าหนักของกุ้ง มีความสัมพันธ์กันทางบวกใน
ระดับสงู (r = 0.812) กล่าวคอื กุ้งแม่น้าที่มีความยาวล้าตัวมากก็จะมีน้าหนักมากเช่นกัน และพบว่าความ
ยาวล้าตัวกุ้งเฉล่ียในจุดศึกษาที่ 2 บ้านบางคลุ้ง และจุดศึกษาที่ 3 บ้านย่านแดง มีความยาวมากกว่าจุด
ศึกษาท่ี 1 บริเวณใต้สะพานรถไฟ อย่างมีนัยส้าคัญท่ีระดับ 0.05 ส้าหรับน้าหนักเฉลี่ยของกุ้งจากทั้ง 3
พ้ืนที่ศกึ ษามีความแตกตา่ งกันอย่างมนี ัยสา้ คัญทรี่ ะดบั 0.05 ทง้ั นเี้ น่ืองจากจุดศึกษาที่ 1 เป็นพื้นที่ท่ีอยู่ใกล้
ตลาดและแหล่งชุมชน น้าในคลองมีการปนเป้ือนของสารเคมีจากครัวเรือนท้าให้ความเป็นกรด-ด่าง มีค่า
สูงกว่าจุดศึกษาอื่นๆ สอดคล้องกับศุภชัย นิลวานิช (2543) ที่กล่าวว่าคุณภาพน้าถือเป็นปัจจัยส้าคัญอีก
อยา่ งหน่งึ ในการเล้ียงกุ้งซึ่งจะส่งผลต่อผลผลิต การเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และความต้านทานต่อ
โรค การที่ค่าความเป็นกรดเป็นด่างสูงเกินไปจะท้าให้แพลงก์ตอนที่อยู่ในน้าเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและ
เมอ่ื แพลงกต์ อนตายลงจะส่งผลใหน้ ้าเน่าเสีย ในขณะที่ค่าความเป็นกรดเป็นด่างต้่าเกินไปแพลงก์ตอนก็จะ
เจรญิ เติบโตชา้ การคายออกซเิ จนกจ็ ะน้อยลงดว้ ย

ขอ้ เสนอแนะ

การเก็บข้อมูลในระยะยาวจะท้าให้ทราบปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์ต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง
แม่น้าในแตล่ ะฤดกู าล เพื่อเปน็ แนวทางในการอนรุ ักษแ์ ละการเพม่ิ ปริมาณก้งุ แมน่ ้าในคลองชะอวดต่อไป

-27-

เอกสารอา้ งองิ

กรมชลประทาน. (2556). ผลวเิ คราะหต์ วั อย่างน้า โครงการสง่ น้าและบา้ รงุ รักษาลมุ่ นา้ ปากพนงั ตอนบน.
http://irrigation.rid.go.th/rid15/cad/2012/index.php.

กลมุ่ วิจยั และวิเคราะหส์ ถิตกิ ารประมง. (2557). สถิติการประมงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2555.
กีรวชิ ญ์ เพชรจลุ และ มณรี ตั น์ ศิริสวสั ด์ิ. (2559). ความหลากหลายทางพันธกุ รรมของกุ้งก้ามกรามในบ่อ

เล้ียงของเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธโ์ุ ดยใชเ้ ทคนคิ อารเ์ อพดี ี-พซี ีอาร, วิทยาศาสตร์ มข, ปีท่ี 44
ฉบบั ที่ 2, หนา้ 331-344.
นพคณุ ภักดีณรงค.์ (2558). ปจั จยั ในการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ,
วิทยาศาสตรบ์ รู พา, ปีท่ี 20 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2558, หน้า 251-258.
มันสนิ ตัณฑลุ เวศม์ และ ไพพรรณ พรประภา. (2544). การจดั การคณุ ภาพน้าและการบ้าบัดน้าเสียในบอ่
เล้ียงปลาและสัตวน์ ้าอน่ื ๆ. ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดลอ้ ม, คณะวิศวกรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย. 319 หนา้ .
วีร์ ก่ีจนา และ ฐากร ทพิ ย์สุนทรศักด.์ (2554). การเล้ยี งก้งก้ามกรามโดยใชว้ ัสดหุ ลบซ่อนจ้านวนต่างกนั .
สถานปี ระมงน้าจดื จงั หวดั อ่างทอง, ส้านักวิจัยและพัฒนาประมงน้าจืด, กรมประมง. 51 หน้า.
ศูนยส์ ารสนเทศกรมประมงเอกสารฉบับที่ 9/2557. (2557). แหล่งข้อมลู :
http://www.fisheries.go.th/it-stat/yearbook/data_2555/menu_2555.htm.
หลักการเพาะเลี้ยงปลา. เอกสารเผยแพรฉ่ บบั ท่ี 30. สถาบันวจิ ัยการเพาะเลยี้ งสตั ว์น้าจดื , กรมประมง.
124 หนา้ .
Ling, S. W. 1969. The general biology and development of Macrobrachium rosenbergii (de
Man). Regional Fish Culturist for Asia and the Far East Bangkok, Thailand.
Wowor, D. and Ng, P.K.L. 2007. The Giant Freshwater Prawns of the Macrobrachium
rosenbergii Species Group (Crustacea: Decapoda: Caridea: Palaemonidae). Raffles
Bulletin of Zoology. 55: 321-336.

-28-

ภาคผนวก ก
ตารางข้อมูลก้งุ และคุณภาพนา้

ภาพประกอบการทา้ วิจัย

-29-

ตารางภาคผนวก 1ก ข้อมลู จ้านวนกุ้ง ความยาวล้าตัว น้าหนกั เฉล่ยี ของกุง้ และจา้ นวนกุ้งต่อกโิ ลกรมั

จดุ จ้านวน ความยาวของก้งุ (ซ.ม.) นา้ หนักของกุง้ (กรัม) จา้ นวน
ศกึ ษา ครังท่ี กุง้ (ตวั ) รวม เฉลีย่ รวม เฉลยี่ ตวั /กก.
(ซ.ม.) (ซ.ม./ตวั ) (กรมั ) (กรัม/ตวั )
ท่ี 4 67.60 16.90 ± 1.22 293.80 73.45 ± 2.98 13.61
11 3 51.80 17.27 ± 1.63 225.40 75.13 ± 2.35 13.31
4 71.20 17.80 ± 1.08 314.80 78.70 ± 8.27 12.71
2 11 190.60 17.33 ± 1.22 834.00 75.82 ± 5.48 13.19
3 5 94.70 18.94 ± 0.36 457.50 91.50 ± 9.32 10.93
รวม 3 56.80 18.93 ± 0.35 303.20 101.07 ± 9.06 9.89
21 6 111.20 18.53 ± 1.29 592.40 98.73 ± 10.68 10.13
2 14 262.70 18.76 ± 0.86 1353.10 96.65 ± 10.00 10.35
3 6 114.30 19.05 ± 0.77 642.40 107.07 ± 12.34 9.34
รวม 6 115.30 19.22 ± 0.48 667.10 111.18 ± 11.62 8.99
31 7 134.60 19.23 ± 0.34 789.30 112.76 ± 9.85 8.87
2 19 364.20 19.17 ± 0.52 2098.80 110.46 ± 10.87 9.05
3
รวม

ตารางภาคผนวก 2ก เปรยี บเทียบลักษณะคุณภาพน้าและข้อมูลกุง้ ในแต่ละจดุ ศกึ ษา

จดุ ศกึ ษา

ปัจจัยทีศ่ ึกษา จุดท่ี 1 จุดท่ี 2 จุดท่ี 3

สะพานรถไฟ บา้ นบางคลุ้ง บ้านย่านแดง

อุณหภมู ิอากาศ (íC) 26.49 ± 3.11 27.88 ± 2.96 26.61 ± 2.45
อณุ หภูมขิ องน้า (íC) 30.48 ± 1.18 a 29.26 ± 1.05 b 29.49 ± 0.99 b
ค่าความเปน็ กรด-ดา่ ง
6.66 ± 0.61 a 6.21 ± 0.11 b 6.56 ± 0.56 a

ค่าการละลายของออกซเิ จนในนา้ (มก./ล) 5.43 ± 0.62 a 4.67 ± 0.60 b 4.97 ± 0.72 ab

คา่ ความเค็ม (ppt) 0.00 ± 0.00 0.00 ± 0.00 0.00 ± 0.00
ค่าความโปรง่ ใส (ซม.) 41.60 ± 7.25 b 50.81 ± 6.91 a 42.63 ± 10.03 b

ความยาวลา้ ตัวก้งุ เฉล่ีย (ซม./ตัว) 17.33 ± 1.22 b 18.76 ± 0.86 a 19.17 ± 0.52 a
น้าหนกั ก้งุ เฉลีย่ (กรมั /ตวั ) 75.82 ± 5.48 c 96.65 ± 10.00 b 110.44 ± 10.87 a

หมายเหตุ ตวั อักษรในแนวนอนทแี่ ตกตา่ งกันแสดงวา่ คา่ เฉลีย่ มคี วามแตกต่างกนั ทางสถติ ิทรี่ ะดบั ความเชือ่ ม่นั 95 เปอร์เซน็ ต์

-30-

จุดศึกษาที่ 1 บริเวณสะพานรถไฟชะอวด จดุ ศึกษาที่ 2 บรเิ วณบา้ นบางคล้งุ
หมู่ท่ี 1 ต.ชะอวด หม่ทู ่ี 3 ต.ชะอวด

จุดศึกษาที่ 3 บรเิ วณบ้านย่านแดง หมูท่ ่ี 7 ต.เคร็ง

-31-
การเก็บขอ้ มูลจากชาวบา้ นบริเวณในพืน้ ท่ีศกึ ษา
การจัดเตรยี มอุปกรณ์และวางแผนในการเก็บข้อมลู

-32-

1 23

456

การใช้เครือ่ งมือตรวจคุณภาพของนา้ 78

1) วดั อุณหภมู ิของอากาศ 2) วัดอณุ หภมู ิน้า

3) วัดคา่ ความเป็นกรด-ด่าง 4) เก็บตัวอย่างน้า
5-6) การทดสอบค่าการละลายของออกซิเจนในน้า
7) วดั ความโปร่งใสของนา้ 8) วดั ความเคม็ ของน้า

-33- 3

12

45

6 78

ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างกงุ้ 1-2) เตรยี มมะพร้าวหา้ วชิ้นขนาดพอเหมาะ
3) ใส่ชนิ้ มะพร้าวหา้ วลงในไซ และวางไซในแต่ละจดุ ศึกษาจา้ นวน 2 คนื
4) เกบ็ ไซในเช้าของวันที่ 3
5-6) เกบ็ กุ้งท่ีอยู่ในไซ นบั จา้ นวน และจดบนั ทกึ ข้อมูลเพศ
7) วดั ความยาวล้าตัวกุ้งทุกตวั และจดบนั ทึกข้อมูล
8) ช่ังน้าหนกั กุ้งทุกตวั และจดบันทกึ ข้อมูล

-34-
การวเิ คราะห์ข้อมลู และสรปุ ผล


Click to View FlipBook Version