“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 1
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 2 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 แบบ นร. 1 การนำเสนอผลงาน “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 ************************************************** 1. หน้าปก ประกอบด้วย 1) ชื่อผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” 2) ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565 3) การส่งผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ( กรุณาระบุ √ ลงใน ที่ตรงกับผลงาน ) เป็นผลงานที่ไม่เคยส่งเข้ารับการคัดสรรกับคุรุสภา เป็นผลงานที่เคยส่งเข้ารับการคัดสรรกับคุรุสภา ปี ....... เรื่อง ........แต่ไม่ได้รับรางวัลของคุรุสภา เป็นผลงานที่เคยได้รับรางวัลของคุรุสภาและมีการนำมาพัฒนาเพิ่มเติม หรือต่อยอดนวัตกรรม (ต้องกรอกแบบ นร. ๒) 4) ประเภทผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ( กรุณาระบุ √ ลงใน ที่ตรงกับผลงาน) (เลือกได้เพียง 1 ด้านเท่านั้น) การจัดการเรียนรู้ สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ การบริหารและการจัดการสถานศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ การวัดและประเมินผล อื่น ๆ โปรดระบุ ..................................................................... 5) ข้อมูลสถานศึกษา ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านดอนยู เลขที่ - ถนน - ตำบล/แขวง นาดี อำเภอ/เขต นาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี รหัสไปรษณีย์ 34160 โทรศัพท์ 093-3199923 โทรสาร – 6) สังกัด 1. สพป. อุบลราชธานี เขต 4 2. สพม. เขต ..........จังหวัด............ 3. สอศ. 4. สช. 5. กทม. 6. อปท. ............. 7. กศน. 8. การศึกษาพิเศษ 9. อื่น ๆ (โปรดระบุ)......................
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 3 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 7) ผู้บริหารสถานศึกษา ชื่อผู้บริหารสถานศึกษา (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ) อริสรา นามสกุล ชัดเจน เลขบัตรประชาชน 1-3499-00002-80-1 ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โทรศัพท์เคลื่อนที่ 093-3199923 E-mail : [email protected] 8) ผู้ประสานงาน ▪ (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ) พิทักษ์ นามสกุล ศรีโคตร เลขบัตรประชาชน 1-3407-00307-89-9 ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ 088-1192236 E-mail : [email protected] 9) คณะผู้ร่วมพัฒนาผลงานนวัตกรรม ( ครู /นักเรียน/ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวนตามจริง ) ▪ (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ) นิ่มนวล นามสกุล บุญเสนอ เลขบัตรประชาชน 1-3313-00051-75-8 ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ 061-5872774 E-mail : [email protected] ▪ (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ) ศศิธร นามสกุล สายแก้ว เลขบัตรประชาชน 1-3306-00084-51-1 ตำแหน่ง ครู วิทยะฐานะ - โทรศัพท์เคลื่อนที่ 083-8924890 E-mail : [email protected] 2. บทสรุป การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาสู่การสร้างทักษะชีวิต ด้วยชุดกิจกรรม“Coding to learning life skills” กระบวนการออกแบบการเรียนรู้ คือ วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล วางแผนการจัดกิจกรรม จัดกิจกรรม เลือกใช้สื่อและเทคโนโลยี และการวัดและประเมินผล เพื่อให้การแก้ปัญหา และการวางแผนมีกระบวนการที่ เป็นลำดับขั้นตอน จึงได้นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ผังงาน Flow Chart เข้ามาใช้ในกระบวนการของ นวัตกรรมการเรียนรู้ ที่จะช่วยในการต่อยอดทักษะต่าง ๆ คือการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และวางแผนอย่างเป็น ลำดับขั้นตอน หรือที่เรียกกันว่า อัลกอริทึม ผลการใช้นวัตกรรมพบว่า พบว่า ผลการใช้นวัตกรรมการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุด กิจกรรม “Coding to learning life skills” คะแนนการทำกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 40.84 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.68 ของคะแนนเต็ม และคะแนนสอบของแบบทดสอบหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 24.63 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.11 ของคะแนนเต็ม แสดงว่า การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 81.68/82.11 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ตามที่ตั้งไว้ ค่าดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรม มีค่าเท่ากับ 0.71 หรือคิดเป็นร้อยละ 71 แสดงว่าชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 71
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 4 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” เขียนผังงานสร้างทักษะชีวิต โดยรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.53, S.D. = 0.50) จากการจัดกิจกรรมนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนยู ปีการศึกษา 2564 ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ครบทั้ง 8 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 100 นักเรียนได้รับการพัฒนาให้เกิดความรู้ ทักษะที่จำเป็นตามตัวชี้วัด สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็น ขั้นตอน มีการถามตอบ อภิปรายร่วมกัน การนำเสนอ เพื่อสะท้อนความคิดของผู้เรียน ทำให้เป็นการเรียนการ สอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยเป็นการเรียนการสอน Active Learning สามารถจะพัฒนาทักษะกระบวนการ คิดวิเคราะห์ ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ โดยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างสร้างสรรค์ด้วยเรื่องที่ใกล้ตัวของนักเรียน เริ่มจากความรู้พื้นฐานคิดเป็นขั้นตอนอย่างง่าย ไปยังขั้นความรู้ ที่สูงขึ้นตามตัวชี้วัดชั้นปี 3. ความเป็นมาและความสำคัญ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ได้กำหนดให้การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้ เพื่อความเจริญงอกงาม ของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสวน ทาง วัฒนธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากสภาพแวดล้อม สังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ในมาตรา 6 การจัดการศึกษาต้อง เป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ.1239/2560 สั่ง ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เรื่องให้ใช้มาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งเงื่อนไขและระยะเวลาการใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ให้เป็น ดังนี้ 1.ปีการศึกษา 2561 ให้ใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 2.ปีการศึกษา 2562 ให้ใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2 4 และ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2 4 และ 5 3.ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไป ให้ใช้ในทุกชั้นเรียน คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ 921/2561 เรื่องยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วัด สาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยีและสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่ม
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 5 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 ให้เปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ 1.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระการงานอาชีพ 2.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ได้กำหนด สาระการเรียนรู้ออกเป็น 4 สาระ ได้แก่ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระเคมี สาระฟิสิกส์ และสาระโลกดาราศาสตร์และ อวกาศ ซึ่งองค์ประกอบของหลักสูตร ทั้งในด้านของเนื้อหา การจัดการเรียนการสอนและการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละ ระดับชั้น ให้มี ความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับกลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องเรียน เป็น พื้นฐาน เพื่อให้สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้ วิทยาศาสตร์ได้โดยจัด เรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหาแต่ละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยง ความรู้กับกระบวนการ เรียนรู้และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญ ทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะใน ศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สามารถแก้ปัญหาอย่าง เป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาการคำนวณ (Computing science) เป็นวิชาที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนให้เด็กสามารถคิด เชิงคำนวณ (Computational thinking) มีความพื้นฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital technology) และมีพื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อและข่าวสาร (Media and information literacy) ซึ่งการเรียนวิชาการคำนวณ จะไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การคิดให้เหมือนคอมพิวเตอร์เท่านั้น และไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการคิดในศาสตร์ของ นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่จะเป็นกระบวนการความคิดเชิงวิเคราะห์เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาของมนุษย์ โดย เป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานและช่วยแก้ไขปัญหาตามที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ มีเป้าหมายที่สำคัญในการพัฒนาผู้เรียนกล่าวคือเพื่อให้ ผู้เรียนมีความสามารถใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำสารสนเทศไปใช้ใน
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 6 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 การแก้ปัญหา เสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคม และ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย รู้เท่าทัน มีความรับผิดชอบมีจริยธรรม การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการเรียนรู้หลายทาง หรือการบูรณาการความรู้ต่างๆ ด้วยวิธีการที่ หลากหลาย ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับผู้สอน สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ได้ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ สร้างแรงกระตุ้นในการเรียนรู้ เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ ที่จะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ทักษะชีวิต พร้อมกับปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ความสามารถ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้จะต้อง เน้นที่การเรียนภาคปฏิบัติด้านเทคโนโลยี การศึกษาปัญหาใกล้ตัว ชุมชน และสังคมโลกต่อไป การให้ผู้เรียนได้ ลงมือทําจริงได้เรียนรู้จากประสบการณ์ จริง แสดงความเห็นและลักษณะเฉพาะของตน ความสนุกสนานและ การเล่นเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และชีวิตทางสังคมการร่วมมือ ต้องการความเร็วในการสื่อสาร การหาข้อมูล และตอบคําถามสร้างสื่อและนวัตกรรม ซึ่งปัจจัย เหล่านี้ทําให้การเรียนรู้รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร โดยบูรณาการทักษะชีวิต เพื่อการเสริมสร้างทักษะชีวิตนักเรียนสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ต่อเนื่องและยั่งยืน สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการบูรณาการกับ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานด้วยกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมที่นำไปสู่การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์หรือสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การใช้ ทักษะการคิดเชิงคำนวณ ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีและการสื่อสาร ในการแก้ปัญหา ที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้ความรู้ความสามารถ ทักษะกระบวนการและเครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์เรียนรู้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวอย่างเข้าใจสภาพที่เป็นอยู่ และการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่การจัดการ และปรับใช้ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพอย่างสร้างสรรค์ 4. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับนักเรียนด้วยการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” 2. เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนในการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” 3. เพื่อประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills”
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 7 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 5. กระบวนการพัฒนาผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม นำเสนอข้อมูลพร้อมรูปภาพ /แผนภาพ /สื่อ ที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของการพัฒนาผลงาน หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม การนำไปใช้จริง และผลที่เกิดขึ้นจริง ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) สภาพปัญหาก่อนการพัฒนา โรงเรียนบ้านดอนยูเป็นโรงเรียนขนาดกลาง จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล 2 – ประถมศึกษา ปีที่ 6 มีนักเรียนในปีการศึกษา 2565 จำนวน 150 คน มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งสิ้น จำนวน 13 คน วิชาวิทยาการคำนวณเป็นรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมี เป้าหมายพัฒนาผู้เรียนให้ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณสามารถคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา อย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ สามารถค้นหาข้อมูล หรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำสารสนเทศไปใช้ ในการแก้ปัญหาประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริงและทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย รู้เท่าทัน มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม ดังนั้นการเรียนการสอน วิทยาการคำนวณ นั้นเป็นการสอนรูปแบบใหม่ที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน ทำให้นักเรียน สามารถนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็นระบบ (Algorithm) สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยใน การต่อยอดทักษะต่าง ๆ คือการคิดวิเคราะห์และวางแผนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน หรือที่เรียกกันว่า อัลกอริทึม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) แต่ในการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา ค้นพบว่า นักเรียนขาดกระบวนการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันที่ดี อาทิเช่น - นักเรียนลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาไม่ได้ - นักเรียนไม่รู้จักวัฒนธรรมในชุมชน - นักเรียนไม่รู้จักปัญหาในครอบครัว และในชุมชน - นักเรียนขาดคุณธรรม จริยธรรม - นักเรียนไม่มีความสุขกับการเรียน จากการศึกษาสภาพปัญหาข้างต้น กิจกรรมการเรียนสอนสังคมศึกษาในยุคปัจจุบันนี้ต้อง จัดกระบวนการเรียนรู้ Active learning และการใช้สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อให้การจัดการเรียน การสอนประสบความสำเร็จ ควรที่จะมีการสอดแทรก ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและเสริมสร้างคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ให้แก่เด็กอย่างจริงจัง เพื่อให้พวกเขามีทักษะและภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน 2) การออกแบบนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา การออกแบบนวัตกรรมในครั้งนี้ได้ศึกษาหลักการแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมให้สัมฤทธิ์ผล ตามหลักการพัฒนานวัตกรรมของ ทิศนา แขมมณี(2548 : 423) ได้ให้หลักการพัฒนานวัตกรรม ทางการศึกษาไว้ พอสรุปได้ดังนี้ 1. การระบุปัญหา (Problem) ความคิดในการพัฒนานวัตกรรมนั้นส่วนใหญ่จะเริ่มจาก การมองเห็นปัญหา และต้องการแก้ไขปัญหานั้นให้ประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ 2. การกำหนดจุดมุ่งหมาย (Objective) เมื่อกำหนดปัญหาแล้วก็กำหนดจุดมุ่งหมายเพื่อจัดทำ หรือพัฒนานวัตกรรมให้มีคุณสมบัติ หรือลักษณะตรงตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 8 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 3. การศึกษาข้อจำกัดต่าง ๆ (Constraints) ผู้พัฒนานวัตกรรมทางด้านการเรียนการสอน ต้องศึกษา ข้อมูลของปัญหาและข้อจำกัดที่จะใช้นวัตกรรมนั้นเพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้ได้จริง 4. การประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรม (Innovation) ผู้จัดทำหรือพัฒนานวัตกรรมจะต้องมีความรู้ ประสบการณ์ ความริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งอาจนำของเก่ามาปรับปรุง ดัดแปลงเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรืออาจคิดค้นขึ้นมาใหม่ทั้งหมด นวัตกรรมทางการศึกษา มีรูปแบบแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาหรือวัตถุประสงค์ของนวัตกรรมนั้น เช่น อาจมีลักษณะ เป็นแนวคิดหลักการ แนวทาง ระบบ รูปแบบ วิธีการ กระบวนการ เทคนิค หรือสิ่งประดิษฐ์ และเทคโนโลยี เป็นต้น 5. การทดลองใช้(Experimentation) เมื่อคิดค้นหรือประดิษฐ์นวัตกรรมทางการศึกษาแล้ว ต้องทดลองนวัตกรรมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นการประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขผลการทดลอง จะทำให้ได้ข้อมูลนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมต่อไป ถ้าหากมีการทดลองใช้นวัตกรรมหลายครั้ง ก็ย่อมมีความมั่นใจในประสิทธิภาพของนวัตกรรมนั้น 6.การเผยแพร่ (Dissemination) เมื่อมั่นใจนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพแล้วก็สามารถ นำไป เผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก ภาพที่ 1 นวัตกรรม การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills”
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 9 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 แนวความคิดการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ รศ.ยืน ภู่วรรณ ปีการศึกษา 2561 การศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตรใหม่ เริ่มใช้หลักสูตร วิทยาการ คำนวณ Computing มาแทนที่ เทคโนโลยีสารสนเทศ ในชั้น ป.1 ป.4 ม.1 ม.4 โดยย้ายไปยังกลุ่มวิทยาศาสตร์ ในตัวสาระ 4.2 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และโอกาสที่ดี ที่โรงเรียนจะจัดการเรียนการสอน ในเรื่องที่ เป็นความสนใจของนักเรียน และเป็นความท้าทายที่นักเรียนอยากเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะนักเรียนมีทุน ทางด้านดิจิทัลอยู่แล้ว เพราะเทคโนโลยีอยู่รอบ ๆ ตัวเขา เกี่ยวพันกับชีวิต ข้อเด่นของวิชานี้ คือ รูปแบบของ การจัดการศึกษาสามารถทำอยู่ในรูปแบบกิจกรรม ให้เหมาะกับนักเรียน และสามารถ บูรณาการกับวิชาอื่น ๆ ได้ ทำไมจึงใช้ชื่อ Computing หรือ วิทยาการคำนวณ แทน เทคโนโลยีสารสนเทศ หากดูจากวิกิพีเดีย (Wikipedia.org) ซึ่งให้รายละเอียดไว้พอควร ซึ่งขอสรุปมาสั้น ๆ คอมพิวติ้ง คือ การกระทำกิจกรรมต่างๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยใช้ประโยชน์จาก การวางลำดับ ขั้นตอนแบบคณิตศาสตร์ ที่รู้จักกันดีในเรื่อง อัลกอริทึม ตัวอย่างเช่น การทำกิจกรรม ที่เกิดจากการใช้ คอมพิวเตอร์ คำนวณ ประมวลผล จัดการข้อมูล การเข้าถึง ใช้ ข้อมูลข่าวสาร การใช้คอมพิวเตอร์สร้างระบบอัฉ ริยะ การประยุกต์ในงานด้านต่าง ๆ เช่น การใช้สื่อ ข้อมูล สารสนเทศ เพื่อประโยชน์ ต่าง ๆ รวมถึงเพื่อการ บันเทิงด้วย นอกจากนี้ ยังเกี่ยวโยงกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อกิจกรรมการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้ ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ใช้ในการสื่อสาร อำนวยความสะดวก ระบบช่วยการทำงานด้านต่าง ๆ ที่มีผลในปัจจุบันและ อนาคต ความรู้เกี่ยวกับวิทยาการคำนวณจึงกว้าง รวมถึง วิชาที่เกี่ยวกับ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม ซอฟต์แวร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการคำนวณในหลักสูตร ว.4.2 ประกอบด้วย สามโดเมนความรู้ คือ กระบวนการคิด แก้ปัญหา อัลกอริทึม และเนื้อหาเกี่ยวกับ วิทยาการคอมพิวเตอร์ Computer science , พื้นฐานการประยุกต์ใช้ คอมพิวเตอร์ ความรู้ทางด้าน Digital technology (ICT) และ พื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์ กับการจัดการข้อมูล ข่าวสาร การสื่อสาร การใช้สื่อ การรู้เท่าทันสื่อ และข่าวสาร (Media and Information literacy) ซึ่งทั้งสาม เรื่อง เป็นเรื่องพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับชีวิต ที่ทุกคนจะต้องใช้อยู่แล้ว ในส่วนของ Computer science เป็นเรื่องพื้นฐานกระบวนการคิด ตั้งแต่การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) การคิดวิเคราะห์ (Analytical) การวางลำดับขั้นตอนการคิด การแก้ปัญหา กระบวนการคิด แก้ปัญหา ที่เรียกว่า อัลกอริทึม เรื่องเหล่านี้ เป็นพื้นฐานของชีวิตตั้งแต่เกิด การทำอะไร ก็ จะมีขั้นตอนการทำ การเลือกการตัดสินใจ เมื่อไรจะทำอะไร อะไรทำพร้อมกันได้ ประสิทธิภาพของการทำอาหารเป็นอย่างไร เขียน ลำดับขั้นตอนได้อย่างไร วัตถุประสงค์ ต้องการให้นักเรียน มองการแก้ปัญหาในชีวิตอย่างเป็นระบบ รู้จักลำดับ ขั้นตอน การตัดสินใจ การใช้เหตุและผลที่ตามมา หลายประเทศใช้หลักสูตร Computing ในการศึกษาพื้นฐานมาก่อนหน้าเรา อังกฤษใช้มาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นวิชาสำหรับนักเรียนทั้งระดับประถม และมัธยม สำหรับสิงคโปร์ กำหนดไว้ใน O level (Ordinary Level) และมีการทดสอบนักเรียนในระดับนี้ก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 10 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ไทยรัฐ ออนไลน์ ในเรื่องของวิชาวิทยาการคำนวณ ประเทศแรกที่ทำในเรื่องนี้ คือประเทศอังกฤษ เมื่อ ประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่สำหรับประเทศไทยนั้น "วิชาวิทยาการคำนวณ" ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560 และเริ่มบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2561 เป็น ครั้งแรก ซึ่งประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศแรกๆ ที่นำหลักสูตรการเรียนการสอนนี้มาใช้ด้วยเช่นเดียวกัน แจงความคิด 3 อย่าง 1.การคิดเชิงคำนวณ การคิดเชิงคำนวณ (Computational thinking) คือ การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็น ระบบ ดังนี้ - การย่อยปัญหา - การจดจำรูปแบบ - ความคิดด้านนามธรรม - การจดจำรูปแบบ 2.ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital technology) ดังนี้ - การใช้เทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูลและการประมวลผลข้อมูล - การประยุกต์ใช้ความรู้ การประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา - การสร้างสรรค์ ทักษะในการผลิตหรือสร้างผลงาน ผ่านเทคโนโลยีสื่อสารโดยใช้ความ หลากหลายของสื่อดิจิทัล 3.การรู้เท่าทันสื่อและข่าวสาร (Media and information literacy) คือการรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี ดิจิทัลใช้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเองและสังคม ดังนี้ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - การรู้เท่าทันตนเอง - ความตระหนักในอิทธิพลของสื่อ พื้นฐานในการเรียนรู้ และต่อยอด วิชาวิทยาการคำนวณ เป็นวิชาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะด้านการคิดเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการค้นหา ประเมิน จัดการ พร้อมทั้งนำเอาความรู้ไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งหมดนี้คือทักษะขั้นพื้นฐานในการนำเอาความรู้ที่ได้ไปต่อ ยอดกับอีกหลากหลายวิชา และถือได้ว่าเป็นทักษะสำคัญสำหรับเด็กไทยที่ก้าวเข้าสู่โลกยุค Digital Age อย่าง เต็มตัวอีกด้วย ทั้งนี้แม้จะผ่านมา 1 ปีแล้วที่ภาครัฐประกาศให้วิชาวิทยาการคำนวณเป็นวิชาภาคบังคับที่เด็กทุกคน จะต้องเรียน แต่ก็ต้องยอมรับว่า การเรียนการสอนวิชานี้ยังถือเป็นเรื่องใหม่อยู่สำหรับครูไทย เรียกได้ว่าครูยังมี ความกังวลถึงวิธีในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน บางโรงเรียนยังมีความสับสนว่าครูในภาควิชาใดจะ เป็นครูผู้สอนในวิชานี้ รวมไปถึงสื่อการเรียนการสอนที่จะทำให้เด็กสามารถตอบวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดของ วิชาวิทยาคำนวณได้
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 11 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชาที่ต้องเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning โดยผู้เรียนต้องได้ คิด และปฏิบัติ ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ลองผิดลองถูก หาข้อผิดพลาด และแก้ไขชิ้นงานได้แบบเป็นรูปธรรม อัน ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนของเนื้อหา โดยเชื่อมโยงเอาแนวคิดกับหลักการไปใช้งานและปฏิบัติได้จริง และส่วนของภาคปฏิบัติ คือ การลงมือให้เห็นผลแบบเป็นรูปธรรม และจับต้องได้ ผ่านการฝึกฝนการแก้ปัญหา และกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ สิ่งเหล่านี้ครูผู้สอนวิทยาการคำนวณเองจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและ เพิ่มพูนทักษะความรู้เพื่อที่จะสามารถนำไปถ่ายทอดประสบการณ์ต่อได้ในห้องเรียนร่วมมือกับองค์กรทั่วโลก ทั้งนี้ในฐานะผู้ออกแบบนวัตกรรมทางการศึกษา และกระบวนการเรียนการสอน เราตระหนักและ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนครูมาโดยตลอด ในส่วนของวิชาวิทยาการคำนวณที่ผ่านมาเราได้มีการ จัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง โดยเปิดให้มีการอบรมสัมมนาครูทั่วประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจ และชี้ให้เห็นถึงกระบวนการเรียนการสอนผ่านสื่อการเรียนรู้ที่ช่วยเสริมให้เด็กเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ ใน รูปแบบที่ครูทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับบริบทห้องเรียนของตนเองได้ ซึ่งการอบรมนี้จะทำให้ครูเห็นภาพ และเกิดไอเดียดีๆ ในการถ่ายทอดความรู้ไปยังเด็ก นอกจากนั้น อักษร เอ็ดดูเคชั่น ยังได้จับมือร่วมกับองค์กรทั้งระดับโลก และระดับประเทศ โดยมี เป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและยกระดับการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณให้กับครู อาทิ code.org เว็บไซต์ชื่อดังด้านการเขียนภาษา Coding จากประเทศสหรัฐอเมริกา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ ทหารลาดกระบัง และสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมไปถึง Micro:bit Educational Foundation ซึ่งแต่งตั้งให้เราเป็นผู้จำหน่ายไมโครบิต บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์เพื่อการศึกษาในประเทศไทย อย่างเป็นทางการอีกด้วย และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ทักษะนี้เปรียบเสมือนทักษะพื้นฐานที่เด็กไทยสามารถนำไปใช้ได้กับทุก สถานการณ์ในการดำรงชีวิต ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม วิชาวิทยาการคำนวณไม่ได้สอนเพื่อให้เด็กทุกคนที่เรียน ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่ต้องการให้เด็กมีทักษะการคิดที่ถูกใช้ในการทำ ความเข้าใจปัญหา และสามารถสร้างแนวทางการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ วัชรพัฒน์ ศรีคำเวียง ปัจจุบันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารได้นำมาใช้เป็น เครื่องมือ ช่วยในการทำงาน การศึกษา การเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น การเรียนรู้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ผ่านมาอาจไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินชีวิตในยุคเศรษฐกิจ ดิจิทัลที่ต้องมีพื้นฐานความรู้และทักษะเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริงหรือพัฒนานวัตกรรม และใช้ทรัพยากรด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการสร้างองค์ความรู้หรือสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการ พัฒนาทักษะของผู้เรียนให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพในศตวรรษที่ 21 จึงได้ปรับเปลี่ยนหลักสูตรเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารไปสู่หลักสูตรวิทยาการคำนวณ ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ และเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 12 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ภาพที่ 2 ศูนย์อำนวยการบริษัทเอกชนทางด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Space Exploration Technologies Corporation) ที่มา : https://pixabay.com ,SpaceX-Imagery วิทยาการคำนวณ (Computing science) คืออะไร ? วิทยาการคำนวณ (Computing science) เป็นวิชาที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนให้เด็กสามารถคิด เชิงคำนวณ (Computational thinking) มีความพื้นฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital technology) และมีพื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อและข่าวสาร (Media and information literacy) ซึ่งการเรียนวิชาการคำนวณ จะไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การคิดให้เหมือนคอมพิวเตอร์เท่านั้น และไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการคิดในศาสตร์ของนัก วิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่จะเป็นกระบวนการความคิดเชิงวิเคราะห์เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาของมนุษย์ โดยเป็น การสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานและช่วยแก้ไขปัญหาตามที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ มีเป้าหมายที่สำคัญในการพัฒนาผู้เรียนกล่าวคือ เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ มีทักษะในการค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำสารสนเทศ ไปใช้ในการแก้ปัญหา เสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือ สังคม และสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย รู้เท่าทัน มีความรับผิดชอบมี จริยธรรม ซึ่งในระดับชั้นชั้นมัธยมตอนต้นจะเป็นการเรียนการสอนที่เน้นการออกแบบและการเขียน โปรแกรมอย่างง่าย เพื่อเป็นการฝึกแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน ส่วนใน ระดับชั้นมัธยมตอนปลาย จะเป็นการประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ เพื่อนำไปใช้ในการบูรณาการกับโครงาน วิชาอื่น ๆ อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 13 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ภาพที่ 3 นักโปรแกรมเมอร์พัฒนาโปรแกรม ที่มา : https://pixabay.com, JuralMin ขอบเขตของวิชาวิทยาการคำนวณมีอะไรบ้าง? การกำหนดขอบเขตการเรียนการสอนของวิชาวิทยาการคำนวณมี 3 องค์ความรู้ ดังนี้ การคิดเชิงคำนวณ (computational thinking) เป็นวิธีการคิดและแก้ปัญหาเชิงวิเคราะห์ สามารถใช้ จินตนาการมองปัญหาด้วยความคิดเชิงนามธรรม ซึ่งจะทำให้เราสามารถเห็นแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอนและมีลำดับวิธีคิดได้ โดยวิธีคิดแบบวิทยาการคำนวณนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเขียนโปรแกรม เพราะภาษา โปรแกรมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่จุดประสงค์ที่สำคัญกว่าคือการสอนให้เด็กคิดและเชื่อมโยงปัญหา ต่างๆ เป็น จนสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบนั่นเอง พื้นฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (digital technology) เป็นการสอนให้รู้จักเทคนิควิธีการต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคไทยแลนด์ 4.0 จะเน้นในด้านระบบอัตโนมัติ (Automation) ที่อยู่ใน ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร อุตสาหกรรม หรือคมนาคม ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน และ นำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างเหมาะสม พื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อและข่าวสาร (media and information literacy) เป็นทักษะเกี่ยวกับการ รู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล แยกแยะได้ว่าข้อมูลใดเป็นความจริงหรือความคิดเห็น โดยเฉพาะข้อมูลบนสื่อ สังคมออนไลน์ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ รู้กฎหมายและลิขสิทธิ์ทางปัญญาต่างๆ เพื่อให้เด็กใช้ช่องทางนี้ได้อย่างรู้เท่าทันและปลอดภัยมากที่สุด สาระการเรียนรู้เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มีอะไรบ้าง ? ในการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาการคำนวณนั้นผู้เรียนจะต้องมีองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้ สาระการเรียนรู้เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และมีทักษะการคิดเชิง คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 14 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้กำหนด สาระสำคัญดังนี้ วิทยาการคอมพิวเตอร์ การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ การใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน การบูรณาการกับวิชาอื่น การเขียนโปรแกรมการคาดการณ์ผลลัพธ์ การตรวจหา ข้อผิดพลาด การพัฒนาแอปพลิเคชันหรือพัฒนาโครงงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การประเมินผลการนำเสนอ ข้อมูลหรือสารสนเทศเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง การค้นหาข้อมูลและแสวงหาความรู้บนอินเทอร์เน็ต การ ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การเลือกใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ต ข้อตกลงและข้อกำหนดใน การใช้สื่อหรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสาร การรู้ดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การรู้เท่า ทันสื่อ กฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรมนวัตกรรมและผลกระทบของ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อการดำเนินชีวิต อาชีพสังคม และวัฒนธรรม ภาพที่ 4 การพัฒนาโปรแกรมเว็บไซต์ ที่มา : https://pixabay.com, lakexyde จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า วิทยาการคำนวณเป็นรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาผู้เรียนให้ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณสามารถคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา อย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ สามารถค้นหาข้อมูล หรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำ สารสนเทศไปใช้ในการแก้ปัญหาประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริงและทำงานร่วมกันอย่าง สร้างสรรค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างปลอดภัย รู้เท่าทัน มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม ณัฐพล บัวอุไร การสอนวิชาวิทยาการคำนวณ หลักสูตรและแนวทางการจัดการเรียนรู้ระดับ ประถมศึกษา-ขยายโอกาส หลังจากที่ได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากรแนะนำการจัดหลักสูตรและแนวทางการจัดการ เรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หลายแห่ง ก็พบว่าแต่ละโรงเรียนที่มาอบรมนั้นมีความแตกต่างกันไป บางครั้งก็มีความแตกต่างกันมากทางด้าน
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 15 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ความพร้อมของครูและอุปกรณ์การเรียนการสอนครับ บางโรงเรียนการจัดหลักสูตรก็ยังมีปัญหาอยู่ด้วย ประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสทำงานตรงนี้ก็เลยจะขอสรุปและนำเสนอเอกสารต่างๆ ที่คุณครูประถ มศึกษา รวมทั้ง โรงเรียนขยายโอกาสจะสามารถนำไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้โดยยึดการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) ผ่านกระบวนการการแก้ปัญหาด้วย อัลกอริทึม โดยใช้ผังงาน Flow Chart แสดงลำดับชั้นตอนการแก้ปัญหา ซึ่งมีแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังนี้ ดังนี้ ทิศนา แขมมณี (2556: 138) ได้สรุปลักษณะสำคัญของการเรียนแบบใช้ปัญหา เป็นฐาน ดังนี้ 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันเลือกปัญหาที่ตรงกับความสนใจหรือตามความต้องการ ของผู้เรียน 2. ผู้สอนและผู้เรียนมีการออกไปเผชิญสถานการณ์ปัญหาอย่างแท้จริง หรือผู้สอนมีการจัด สถานการณ์ให้ผู้เรียนเผชิญปัญหา 3. ผู้สอนและผู้เรียนมีการร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและหาสาเหตุของปัญหา 4. ผู้เรียนมีการวางแผนการแก้ปัญหาร่วมกัน 5. ผู้สอนมีการให้คำปรึกษาแนะนำและช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เรียนในการ แสวงหาแหล่งข้อมูล การศึกษาข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล 6. ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาที่หลากหลายและมีการ พิจารณาเลือกวิธี ที่เหมาะสม 7. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า และแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 8. ผู้เรียนลงมือแก้ปัญหารวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรุป และประเมินผล 9. ผู้สอนมีการติดตามการปฏิบัติงานของผู้ เรียนและให้คำปรึกษา 10. ผู้สอนมีการประเมินผลการเรียนรู้ทั้งทางด้านผลงานและกระบวนการของผู้เรียน ดังนั้นสรุปได้ว่า ลักษณะสำคัญของการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นการเรียนที่ ยึดผู้เรียนเป็น สำคัญ และใช้ปัญหาเป็นเป็นตัวกระตุ้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความอยากรู้ โดยที่ผู้สอนกระตุ้น ให้ผู้เรียนแสวงหา ทางเลือกในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ภายใต้กระบวนการกลุ่ม มีการวางแผนการแก้ปัญหาร่วมกัน และ ผู้เรียนเป็นคนแก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเองจนเกิดการเรียนรู้
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 16 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 กระบวนการและขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ภาพที่ 5 กระบวนการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่มา : Cowedrow, 1997 : 4 (อ้างอิงถึงใน อาภรณ์ แสงรัศมี, 2543 : 21) ภาพที่ 6 กระบวนการแก้ปัญหาที่มีลำดับขั้นตอนวิธี (Algorithm) วัชราภรณ์ สุริยาภิวัฒน์ (2545) กล่าวว่า ผังงาน (Flowchart) คือรูปภาพหรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนลา ดับหรือขั้นตอนในโปรแกรมรูปภาพหรือสัญลักษณ์ที่ใช้จะเป็นเอกลักษณ์และแทนความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ถ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหมายถึงการคำนวณหรือประมวลผลโดยไม่มีการเปรียบเทียบหรือทดสอบใด ๆ ถ้า เป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดก็คือการถามเงื่อนไข เป็นต้น
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 17 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 เอกพันธุ์ คาปัญโญ (2549) ได้ให้ความหมายว่าผังงาน (Flowchart) คือแผนภาพที่ใช้แสดงลำดับ ขั้นตอนในการทำงานของโปรแกรมซึ่งจะใช้ภาพสัญลักษณ์สื่อความหมายแทนแต่ละขั้นตอนของการทำงานและ จะใช้ลูกศรสื่อถึงลำดับขั้นตอนในการทำงานซึ่งจะทำให้เราทราบขั้นตอนและลำดับการทำงานของโปรแกรมได้ อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับ สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (2549) กล่าวว่า การเขียนผังงาน (Flowchart) เป็นการเขียนอัลกอริทึมในรูปแบบของแผนภาพ โดยใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานในการ แสดงขั้นตอนและลักษณะการทำงานซึ่งถูกเชื่อมโยงด้วยเส้นที่มีลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูล เหมาะสา หรับผู้ที่เริ่มต้นเขียนโปรแกรม จากความหมายดังกล่าวข้างต้นสรุปได้ว่า ผังงาน (Flowchart) เป็นแผนภาพที่ใช้สัญลักษณ์สื่อแทน ความหมายเพื่อแสดงขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งมีการกำหนดไว้เป็นมาตรฐาน ทำให้สามารถลำดับขั้นตอนการ ทำงานของโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง การเขียนผังงานต้องใช้ภาพสัญลักษณ์ต่างๆนามาเรียงกันเพื่อแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานโดยมี ลูกศรเชื่อมระหว่างภาพต่างๆสัญลักษณ์ที่จะใช้ในการเขียนผังงานที่นิยมใช้กันนั้นเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงาน ที่มีชื่อว่า American National Standard Institute (ANSI) และInternational Standard Organization (ISO) หน่วยงานดังกล่าวรวบรวมและกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์มาตรฐานที่จะใช้ในการเขียนผังงานโปรแกรม และผังงานระบบเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ทํากิจกรรม/ภารกิจต่าง ๆ ภาพที่ 7 ขั้นตอนการใช้ผังงาน Flow Chart ในการจัดการเรียนการสอน จบ เริ่มต้น เรียนรู้สถานการณ์ปัญหาในชีวิตประจำวัน เรียนรู้การแก้ปัญหาผ่านสื่อและใบกิจกรรม ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และในชุมชน ร่วมกันวางแผนขั้นตอนการทำงาน ด้วยการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย พบข้อผิดพลาดใช่ไหม ใช่ ไม่ใช่ นำเสนอกระบวนการ ลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนที่ วางแผนไว้ เลือกประเด็นที่สนใจ ร่วมกันวางแผนตามกระบวนการ ลงมือสร้างชิ้นงาน นำเสนอ และเผยแพร่
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 18 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 3) ขั้นตอนการดำเนินงานพัฒนา การพัฒนานวัตกรรม มี 10 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะ/สำรวจสภาพปัญหา ขั้นตอนที่ 2 สร้างกรอบแนวคิดในการพัฒนา ขั้นตอนที่ 3 วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 4 กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 5 กำหนดคุณลักษณะนวัตกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 6 สำรวจทรัพยากรการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 7 ออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 8 วางแผนและดำเนินการพัฒนาการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 9 ตรวจสอบ ทดลองและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 10 สรุปและประเมินผลการเรียนรู้ ประสิทธิภาพของนวัตกรรม 1.กระบวนการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมถูกต้องตามหลักวิชา นวัตกรรมการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ผ่านการคัดกรองและตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษา รายนามดังต่อไปนี้ 1) นางสาวปิยธันว์ เบญจเทพรัศมี ตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์วิทยาฐานะ ชำนาญการพิเศษ 2) ผศ.ดร.อัจฉรีย์ พิมพิบูล ตำแหน่ง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุบลราชธานี สาขาดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อ การศึกษา 3) นายปริญญา ประเสริฐ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาจาน วิทยาฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ 2. นวัตกรรมมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด นวัตกรรมการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ที่สร้างขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.68/82.11 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ตามที่ตั้งไว้ การวิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรม มีค่าเท่ากับ 0.71 หรือคิดเป็นร้อยละ 71 แสดงว่าชุดกิจกรรม “Coding to learing life skills” ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 71 3. วิธีการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมครอบคลุมในด้านเนื้อหา (Content validity) และโครงสร้าง (Construct Validity)
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 19 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 การตรวจสอบคุณภาพของนวัตกรรมการเรียนการสอนทำได้หลายวิธีวิธีหนึ่งคือการหา ประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนการสอนตามเกณฑ์ E1/ E2 ที่ตั้งไว้ การหาประสิทธิภาพ ตามวิธีนี้อยู่บนฐานแนวคิดว่าหากนวัตกรรมการเรียนการสอนนั้นมีประสิทธิภาพจริง เมื่อผู้เรียนได้ดำเนิน กิจกรรมตามขั้นตอนต่าง ๆ ของนวัตกรรมนั้นครบถ้วนทุกขั้นตอนแล้ว คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ที่ได้จากการดำเนิน กระบวนการระหว่างเรียนของผู้เรียนทั้งกลุ่มจะมีค่าใกล้เคียงกับคะแนนเฉลี่ยร้อยละที่ได้จากการทดสอบหลังเรี ยน โดยไม่ควรมีค่าแตกต่างกันเกินร้อยละ 5 E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ หมายถึง คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ที่ได้จาก การทดสอบย่อย ในการทำกิจกรรมในระหว่างเรียนทุกกิจกรรม E2 แทนประสิทธิภาพของผลลัพธ์ หมายถึง คะแนน เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ที่ได้จาก การทดสอบหลังเรียน การคำนวณหาประสิทธิภาพ การคำนวณหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1 ) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2 ) มีวิธี การคำนวณ ดังนี้ 1. การคำนวณหาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1 ) เมื่อ แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ แทน คะแนนรวมจากการทำแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียนของ ผู้เรียนทุกคน แทน จำนวนผู้เรียน แทนคะแนนเต็มของแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมในระหว่างเรียน 2. การคำนวณหาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2 ) เมื่อ แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ แทน คะแนนรวมจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนของผู้เรียนทุกคน แทน จำนวนผู้เรียน แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน เผชิญ กิจระการ (2546 : 1-6) ได้เสนอแนวทางในการหาประสิทธิผลของแผนการเรียนรู้ หรือสื่อที่สร้างขึ้น โดยให้พิจารณาจากพัฒนาการของนักเรียนจากก่อนเรียน และหลังเรียนว่ามีความรู้
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 20 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างเชื่อถือได้หรือไม่ หรือเพิ่มขึ้นเท่าใดซึ่งอาจพิจารณาได้จากการคำนวณค่า t-test แบบ Dependent Samples หรือหาค่า ดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I) มีรายละเอียด ดังนี้ 1. การหาค่าพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของผู้เรียนโดยอาศัยการหาค่า t-test (แบบ Dependent Samples) เป็นการพิจารณาดูว่านักเรียนมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอย่างเชื่อถือได้หรือไม่ โดยทำการทดสอบนักเรียนทุกคนก่อน (Pretest) และหลังเรียน (Posttest) แล้วนำมาหาค่า t-test แบบ Dependent Samples หากมีนัยสำคัญทางสถิติ ก็ถือได้ว่า นักเรียนกลุ่มนั้นมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอย่างเชื่อถือได้ 2. การหาพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของนักเรียนโดยอาศัยการหาค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I) มีสูตรดังนี้ ดัชนีประสิทธิผล = ผลรวมของคะแนนหลังเรียนทุกคน – ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนทุกคน (จำนวนนักเรียน x คะแนนเต็ม) – ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนทุกคน การหาค่า E.I เป็นการพิจารณาพัฒนาการในลักษณะที่ว่าเพิ่มขึ้นเท่าไร ไม่ได้ทดสอบว่าเพิ่มขึ้น อย่างเชื่อถือได้หรือไม่ วิธีการอาจแปลงคะแนนให้อยู่ในรูปของร้อยละก็ได้ ดังนี้ ดัชนีประสิทธิผล = ร้อยละของผลรวมของคะแนนหลังเรียน – ร้อยละของผลรวมของคะแนนก่อนเรียน 100 – ร้อยละของผลรวมของคะแนนก่อนเรียนทุกคน ข้อสังเกตบางประการที่เกี่ยวกับค่า E.I. 1. E.I. เป็นเรื่องของอัตราส่วนของผลต่าง จะมีค่าสูงสุดเป็น 1.00 ส่วนค่าต่ำสุดไม่สามารถ กำหนดได้เพราะค่าต่ำกว่า -1.00 และถ้าเป็นค่าลบแสดงว่า ผลคะแนนสอบก่อนเรียน มากกว่าหลังเรียน ซึ่งหมายความว่าระบบการเรียนการสอนหรือสื่อที่สร้างขึ้นไม่มีคุณภาพ 2. การแปลผล E.I. ในตาราง ผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 ของงานวิจัย มักจะใช้ข้อความ ไม่เหมาะสม ทำให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายของ E.I. ผิดจากความเป็นจริง เช่น ค่า E.Iเท่ากับ 0.7167 ก็มัก จะกล่าวว่า “ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7167 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.67 ซึ่งใน ความเป็นจริงค่า E.I. เท่ากับ เพราะคิดเทียบจาก E.I. สูงสุดเป็น 1.00 ดังนั้น ถ้าคิดเทียบเป็นร้อยละ ก็คือ คิดเทียบจากค่าสูงสุดเป็น 100 E.I. จะมีค่าเป็น 71.67 จึงควรใช้ข้อความว่า “ ค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7167 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7167 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.67 ” 3. ถ้าค่าของ E1/ E2 ของแผนการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และเมื่อหา E.I. ด้วยพบว่า มีพัฒนาการ เพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งที่ผู้วิจัยพอใจ หากคำนวณค่าความคงทนด้วยโดยใช้สูตร t-test แบบDependent Samples ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีนัยสำคัญ (เพราะผู้วิจัยคาดหวังว่าหากสื่อ หรือแผนการเรียนรู้มีคุณภาพ ผลการเรียน หลังสอนเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง เช่น ผ่านไป 2 สัปดาห์ กับผลการเรียนจบจะต้องไม่แตกต่างกัน)
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 21 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 4) ผลงานที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน - นักเรียนเกิดทักษะการแก้ปัญหา และสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ - นักเรียนสามารถเรียนได้รู้ได้อย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการกลุ่มที่ครูเป็น เพียงผู้คอยให้คำแนะนำ และสนับสนุนการทำกิจกรรม - ผลงานนักเรียนได้รับการยอมรับและมีความภาคภูมิใจในตนเองที่สามารถนำความรู้ ทักษะ สู่การบูรณาการในการทำกิจกรรมในวิชาอื่น ๆ ได้ ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง ชนะเลิศ การแข่งขัน ภาพยนตร์สั้น ระดับ ป. 1-6 ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขต พื้นที่การศึกษาเป็นตัวแทน (เป็นตัวแทน แข่งขันระดับชาติ) 1. เด็กหญิงชมพู กานัง 2. เด็กชายพัฒนากร อินทนา 3. เด็กหญิงสหฤทัย มากดี 4. เด็กหญิงอาทิตยาพัณฒ์ บุญขันธ์ 5. เด็กชายเศรษฐวัฒน์ พาพะหม ประจำปีการศึกษา 2565 สพป.อุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 22 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์พื้นฐาน ในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา 1. เด็กชายพิพฒน์ โททม 2. เด็กชายกิตติชัย ขันธวัตร 3. เด็กชายธนวัฒน์ ทองคำ ประจำปีการศึกษา 2565 สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์ระดับกลาง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขต พื้นที่การศึกษา 1. เด็กชายธีรภัทร ขันทธวัตร์ 2. เด็กชายกวิน มีลาภ 3. เด็กหญิงจริยาภรณ์ มีลาภ ประจำปีการศึกษา 2565 สพป.อุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 23 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์ระดับสูง ในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา 1. เด็กชายศิริวัฒน์ ภูกานัง 2. เด็กหญิงอัญรินทร์ ฉิมทะเล 3. เด็กชายนรากร ขันธวัตร สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศ การแข่งขัน หุ่นยนต์ผสม ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา(เป็น ตัวแทนแข่งขันระดับชาติ) 1. เด็กชายกวิน มีลาภ 2. เด็กชายธนวัฒน์ ทองคำ 3. เด็กชายนรากร ขันธวัตร 4.เด็กชายพิพัฒน์ โททม ประจำปีการศึกษา 2565 สพป.อุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 24 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศ การแข่งขัน หุ่นยนต์ผสม ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา(เป็น ตัวแทนแข่งขันระดับชาติ) 1. เด็กชายกวิน มีลาภ 2. เด็กชายธนวัฒน์ ทองคำ 3. เด็กชายนรากร ขันธวัตร 4.เด็กชายพิพัฒน์ โททม ประจำปีการศึกษา 2565 สพป.อุบลราชธานี เขต 4 1. เด็กหญิงหทัยชนก บรรณกิจ 2. เด็กหญิงวิภาวดี สายสุพรรณ 3. เด็กหญิงสุพัตรา สมบัติวงค์ 4. เด็กชายปรัญชัย ข้องบ้านโฆ้ง 5. เด็กหญิงปาณิศา เอี่ยวสุรา 6. เด็กชายเศรษฐพงษ์ พาพะหม ได้เข้าร่วมแข่งขันสร้างสรรค์วิดีโอเพลง Coding ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน “The Coding Challenge VDO Contest” ประจำปี การศึกษา 2564 สำนักงานคณะ กรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 25 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง 1. เด็กหญิงหทัยชนก บรรณกิจ 2. เด็กหญิงวิภาวดี สายสุพรรณ 3. เด็กหญิงสุพัตรา สมบัติวงค์ 4. เด็กชายปรัญชัย ข้องบ้านโฆ้ง 5. เด็กหญิงปาณิศา เอี่ยวสุรา 6. เด็กชายเศรษฐพงษ์ พาพะหม ได้เข้าร่วมแข่งขันสร้างสรรค์วิดีโอเพลง Coding ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน “The Coding Challenge VDO Contest” ประจำปี การศึกษา 2564 สำนักงานคณะ กรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. เด็กหญิงหทัยชนก บรรณกิจ 2. เด็กหญิงวิภาวดี สายสุพรรณ ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 การ ประกวดคลิปสั้นด้วยแอปพลิเคชั่น Tiktok ประจำปีการศึกษา 2564 สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ประถมศึกษา อุบลราชธานี เขต 4 คลิปวีดีโอ : The Coding Challenge VDO Contest
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 26 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง 1. เด็กชายมงคล อินทะนา 2. เด็กชายพีระพัฒน์ อารีเหลือ 3. เด็กหญิงยุภาพร ศรีเนตร 4. เด็กหญิงพิมลภัส บุญประค 5. เด็กชายปรัญชัย ฆ้องบ้านโข้ง ได้รับรางวัลครูผู้สอนนักเรียน เหรียญทอง (ระดับชาติ) การประกวดภาพยนตร์สั้น ระดับชั้น ป.1-ป.6 ในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 69 ประจำปี การศึกษา 2562 สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐาน สแกนเข้าชมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ได้ที่ QR Code
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 27 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อครู เผยแพร่เทคนิควิธีการให้กับเพื่อนครูหรือผู้ที่มีความสนใจในเรื่องก า ร ใ ช ้ น ว ั ต ก ร ร ม การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาผ่าน ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังนำผลการดำเนินกิจกรรมเผยแพร่สู่ทาง Youtube : krootakzido Playlist กิจกรรมการเรียนการสอน วิทยาการคำนวณ QR code การเผยแพร่ผลงานเทคนิคการ ผลิตสื่อดิจิทัล และเทคนิคถ่ายภาพ เว็บไซต์ Krootakzido เผยแพร่ผลงานและนวัตกรรม ด้านเทคโนโลยี
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 28 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 รางวัล เหรียญทอง OBEC AWARDS ครั้งที่ 11 ครูผู้สอนยอดเยี่ยม ระดับประถมศึกษา บูรณาการ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ระดับภูมิภาค จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปี 2565 รางวัล เหรียญทอง กิจกรรม เครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนาเฟ้นหานวัตกรรม ปี 2564
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 29 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง ชนะเลิศ การแข่งขัน ภาพยนตร์สั้น ระดับ ป. 1-6 ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขต พื้นที่การศึกษาเป็นตัวแทน (เป็นแข่งขัน ระดับชาติ) 1.นายพิทักษ์ ศรีโคตร 2.นางสาวจรรยาพร นูกอง สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์พื้นฐาน ในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา 1.นายพิทักษ์ ศรีโคตร 2.นางสาวนิ่มนวล บุญเสนอ สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์ระดับกลาง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขต พื้นที่การศึกษา 1.นายพิทักษ์ ศรีโคตร 2.นางสาวอริสรา ชัดเจน สพป.อุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 30 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ชื่อรางวัล หน่วยงาน อ้างอิง รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันหุ่นยนต์ระดับสูง ในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา 1.นายพิทักษ์ ศรีโคตร 2.นางสาวอริสรา ชัดเจน สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รางวัลเหรีญทอง รองชนะเลิศ การแข่งขัน หุ่นยนต์ผสม ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา(เป็น ตัวแทนแข่งขันระดับชาติ) 1.นางสาวนิ่มนวล บุญเสนอ 2.นางสาวศศิธร สายแก้ว สพป.อุบลราชธานี เขต 4 ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริหารสถานศึกษา ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในเขตพื้นที่ การศึกษา ที่มีความสนใจในกระบวนการจัดกิจกรรมหรือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาตนเอง หรือบุคลากร เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนักเรียน ผู้บริหารสนับสนุนให้ข้าพเจ้าได้พัฒนาตนเองสู่การพัฒนาผู้อื่นทำให้มีโอกาสเป็นวิทยากรในการให้ความรู้ เกี่ยวกับการนำเทคนิคต่าง ๆ ไปใช้ในการจัดกิจกรรมในวิชาวิทยาการคำนวณ อีกทั้ง ผู้บริหารได้พัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะในรายวิชาวิทยาการคำนวณ (อ้างอิง : เกียรติบัตร)
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 31 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 รางวัล เหรียญทอง OBEC AWARDS ครั้งที่ 11 ผู้บริหารสถานศึกษายอดเยี่ยม ระดับประถมศึกษา ขนาดเล็ก ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ระดับภูมิภาค จากสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปี 2565 ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษา JavaScript ระดับเบื้องต้น และภาษา C# ระดับเบื้องต้น สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รหัสหลักสูตร 65087 จำนวน 40 ชั่วโมง ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อสถานศึกษา ผลงานนวัตกรรม ส่งผลให้โรงเรียนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยมี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning อยู่เสมอ นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ฝึกทักษะการแก้ปัญหาพัฒนา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการ เรียนรู้ร่วมกัน อย่างมีความสุข มีความสามัคคีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกันสามารถนำความรู้ความสามารถที่ได้รับ พัฒนาตนเอง ตลอดมา
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 32 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ Algorithm ในชีวิตประจำวันกับการแก้ปัญหา เผยแพร่ความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่เพื่อนครูในสถานศึกษามาโดยตลอด เรียนรู้ร่วมกัน กับเพื่อนครูอย่างมีความสุข
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 33 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 โรงเรียนได้รับการประเมินอยู่ในระดับ A กิจกรรมการประเมินคุณธรรมความโปร่งใสของสถานศึกษา ออนไลน์ (ITA) ประจำปี 2565 ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อวงการวิชาชีพ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ระดับ ป ร ะ ถ ม ศ ึ ก ษ า ห ล ั ก ส ู ต ร Scratch แ ล ะ ห ล ั ก ส ู ต ร Unplugged จ ั ด โ ด ยส ถ า บ ั น ส ่ ง เ ส ริ ม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 (อ้างอิง : หนังสือเชิญเป็นวิทยากร/เกียรติบัตร)
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 34 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ผลงานส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ข้าพเจ้าเป็นวิทยากรเผยแพร่ให้ความรู้ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งชุมชนสามารถ ขอคำแนะนำหรือปรึกษาการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัยและ แนะนำการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการออกแบบสื่อโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ในชุมชน และผลิตสื่อ ประชาสัมพันธ์ แล้วเผยแพร่บนช่องทางออนไลน์ สร้างประโยชน์ และความรู้กับผู้ที่สนใจศึกษาได้
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 35 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 6) การขยายผลและเผยแพร่ผลการพัฒนา การทำกิจกรรมในการเรียนของนักเรียนและพัฒนาประยุกต์ใช้สู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ นักเรียน ที่ได้รับรางวัล สามารถเผยแพร่ความรู้สู่นักเรียนในสถานศึกษา ชุมชน สำนักงานเขตพื้นที่ ภูมิภาค ตลอดจน การเผยแพร่ผ่านสื่อประสาสัมพันธ์ของโรงเรียนบ้านดอนยู เช่น หุ่นยนต์ขั้นพื้นฐาน โครงงานวิทยาศาสตร์ - เผยแพร่เป็นเอกสารให้กับครูในโรงเรียนและโรงเรียนในเครือข่าย - เผยแพร่ผ่านสื่อเว็บไซต์https://sites.google.com/view/krootakzido/home - เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์https://www.youtube.com/user/taky233/videos ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่มีในการเลือกตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ในการ กำหนดหน่วยการเรียนรู้และกำหนดสาระสำคัญได้อย่างลงตัวในโครงสร้างรายวิชาวิทยาการคำนวณ ซึ่งมีความ เชื่อมโยงสอดคล้องกันตั้งแต่มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้การกำหนดเวลา (ชั่วโมง) ในการ เรียนรู้ของผู้เรียน การนำเสนอและเผยแพร่ผลงานสู่ชุมชน ระดับจังหวัด และระดับภาค
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 36 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 องค์ความรู้จากการพัฒนาตนเอง นาไปพัฒนาผู้เรียนให้เกิดองค์ความรู้ที่มีการเชื่อมโยงกันในทุก รายวิชา โดยการบูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ ได้แก่ ภาษาไทย การสอนให้ผู้เรียนมองเห็นความสัมพันธ์ของการนำความรู้ด้านภาษาไทยมาใช้กับรายวิชา วิทยาการคำนวณ ได้แก่ ทักษะการใช้ภาษา การสื่อสาร การใช้ถ้อยคำ การออกเสียงคำ อักขระ คำควบกล้ำ ฯลฯ ให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย การเรียบเรียงคำ ทักษะการเล่า เรื่องและการนำเสนอผลงาน
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 37 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 คณิตศาสตร์ การสอนให้ผู้เรียนรู้จักนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ประยุกต์ใช้ในการคำนวณ ได้แก่ ทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ การคาดคะเนฯลฯ ควบคู่ไปกับการหาคำตอบใน กิจกรรมจากรายวิชาวิทยาการคำนวณ สังคมศึกษา การสอนให้ผู้เรียนการนำความรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับสังคมศึกษา และความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิต ในชุมชนที่นักเรียนอยู่อาศัย ความเชื่อและวัฒนธรรม ทักษะการสร้างรายได้จากการขาย และคุณธรรมจริยธรรม การถอดบทเรียนจากภาพยนตร์ ศิลปะ การสอนให้ผู้เรียนนำความรู้ด้านทัศนศิลป์ และด้านดนตรี มาปรับประยุกต์ใช้กับทักษะ การแก้ปัญหา เพื่อให้ชิ้นงานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขื้น และให้นักเรียนได้ผ่อนคลายกับ การใช้ทักษะการคิดอีกด้วย ชมวิดีโอกิจกรรมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=NOUDA7AT1zw
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 38 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 การงานอาชีพ การสอนให้ผู้เรียนใช้ความรู้เรื่องงานเกษตร การปลูกพืชผักสวนครัว การทำไร่ ทำนา ซึ่ง เกี่ยวข้องกับบริบทและวิถีชีวิตของชุมชน โดยเน้นให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติรวมทั้งการใช้ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการสืบค้นหาความรู้ ออกแบบ และสามารถนำมาใช้ ประการการนำเสนอข้อมูลของนักเรียนเองได้อย่างเหมาะสม ฯลฯ ภาษาต่างประเทศ การสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกิจกรรม Unplugged ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ นักเรียนได้ใช้ภาษาไทยควบคู่ไปกับการเรียนรู้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม ฯลฯ
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 39 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 สุขศึกษาและพละ ศึกษา การสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพ การเลือกซื้อและรับประทาน อาหารให้ครบ 5 หมู่ ถูกสุขลักษณะ รวมทั้งการเสริมสร้างสรรมถภาพทางกายด้วยการ ปฏิบัติงานเกษตร นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติในทุกขั้นตอน
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 40 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 นักเรียนได้นำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปลี่ยนเรียนรู้/ผลงาน/ชิ้นงาน/ภารงาน/ผลการปฏิบัติงานที่มี คุณภาพในรูปแบบต่าง ๆ ตามวาระและโอกาสในระดับสถานศึกษา ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ผ่านกิจกรรมเปิดบ้าน วิชาการ Open House นำเสนอกิจกรรมที่เกิดจากกระบวนการบูรณาการของชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ภาพกิจกรรมการบูรณาการของชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” 6. ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ข้อเสนอแนะ จากการดำเนินการ การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills”นั้น มีขอเสนอแนะในการดำเนินการ ดังนี้ 1) ควรจัดกิจกรรมค่ายพัฒนาการสอนวิทยาการคำนวณด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” เพื่อให้มีนักเรียนแกนนำมาเพื่อช่วยดำเนินการจัดกิจกรรม ให้นักเรียนได้ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตาม 2) ควรให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดของตนเองมากขึ้น 3) ควรให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนด้วย แนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 1) จัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” ตลอดปี การศึกษา เพื่อความต่อเนื่องของการจัดการเรียนการสอน กิจกรรมต่างๆ และเป็นการต่อยอดความคิดของ กิจกรรมที่ดำเนินการผ่านมา สรุปและประเมินผล 7. จุดเด่น หรือลักษณะพิเศษของผลงานนวัตกรรม 1.ผลงานมีจุดเด่น น่าสนใจ สะท้อนถึงการมีแนวคิดใหม่ จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ การฝึกให้นักเรียนให้คิดแก้ปัญหา ผ่านกระบวณการเรียนรู้การเขียน อัลกอริทึมด้วยผังงาน Flowchart โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) ทำให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจและมีความสนุกสนานในการเรียนรู้ อีกทั้งนวัตกรรมนี้มีแนวคิดมาจากปัญหา ในชีวิตประจำวันของนักเรียน จึงได้คิดหาวิธีการแก้ปัญหาตามหลักวิชาการ จึงได้คิดรูปแบบกิจกรรมและ สถานการณ์การของอัลกอริทึมที่หลากหลายขึ้นมา โดยเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติ และอีกช่องทาง คือ เว็บไซต์ Code.org ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ที่ช่วยในการเขียนโปรแกรมอย่างง่ายในรูปแบบออนไลน์ และห้องเรียน Scratch Online ในเว็บไซต์ Scratch.mit.edu ซึ่งข้าพเจ้าได้นำมาปรับใช้ในนวัตกรรมนี้ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้การ เขียนโปรแกรมซึ่งมีรูปแบบกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอนมาปรับใช้กับชุดกิจกรรม “Coding
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 41 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 to learning life skills” ซึ่งมีการประเมินผลจากสถานการณ์จริงโดยดูจากความสามารถในการปฏิบัติ ( authentic assessment ) 2.ใช้ง่าย สะดวก เนื่องจากชุดกิจกรรม “Coding to learing life skills” เป็นชุดกิจกรรมที่บูรณาการเน้น ทักษะการปฏิบัติจริงให้เกิดทักษะชีวิต ซึ่งมีการฝึกเขียนอัลกอริทึมด้วยผังงานจากปัญหา และเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้เรียนจึงสามารถฝึกทักษะการเขียนอัลกอริทึมได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ เพื่อพัฒนา ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและทักษะการเขียนอัลกอริทึมของผู้เรียน 3.ลงทุนน้อย การนำแนวคิดและวิธีการจาก 5W1H มาปรับใช้กับกระบวนการแก้ปัญหา โดยนำสถานการณ์ ปัญหามาแก้ไขและวางแผนการทำงาน ด้วยการพัฒนาทักษะกระบวนการแก้ปัญหามาอยู่ในรูปแบบนวัตกรรม Unplugged Coding สามารถเรียนรู้ได้ง่าย มีวิธีการเรียนรู้ที่ไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังสร้างจากวัสดุที่มีราคาไม่แพง ลงทุนน้อยแต่สามารถใช้ได้นาน 8. บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ.(2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. ______________. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ. “การสอนวิทยาการคำนวณ” การสอนวิชาวิทยาการคำนวณ หลักสูตรและแนวทางการจัดการเรียนรู้ระดับ ประถมศึกษา-ขยายโอกาส - Nattapon's Blog “แนวความคิดเกี่ยวกับวิชาวิทยาการคำนวณ” https://www.scimath.org/lessontechnology/item/8808-computing-science “นวัตกร”http://www.edsiam.com/%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B 8%81%E0%B8%A3/ “วิทยาการคำนวณ” โลกยุคใหม่ที่ท้าทายครูและนักเรียนไทย https://www.thairath.co.th /lifestyle/life/1544733
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 42 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ภาคผนวก
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 43 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กับนวัตกรรม
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 44 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 45 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 46 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 แสกนที่คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้ารับชมรายละเอียดใน แผนการจัดการเรียนรู้การใช้ ชุดกิจกรรมที่ 1 Study of Problems ศึกษาปัญหาใน ชีวิตประจำวัน แสกนที่คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้ารับชมรายละเอียดใน แผนการจัดการเรียนรู้การใช้ ชุดกิจกรรมที่ 2 Problem Solving Skills เรียนรู้ทักษะการ แก้ปัญหา
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 47 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 แสกนที่คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้ารับชมรายละเอียดใน แผนการจัดการเรียนรู้การใช้ ชุดกิจกรรมที่ 3 Career Skills ต่อยอดสู่ทักษะการสร้างอาชีพ แสกนที่คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้ารับชมรายละเอียดใน แผนการจัดการเรียนรู้การใช้ ชุดกิจกรรมที่ 4 Good Society สื่อดิจิทัลสร้างสังคมดี
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 48 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 10. คลิปวิดีโอ ลิงค์คลิปวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=gh8uUk3qO5o แสกนที่คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้ารับชมรายละเอียด วิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการ แก้ปัญหา ด้วยชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills” เขียนอัลกอริทึมด้วยผังงาน Flow Chart
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 49 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ภาพกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม “Coding to learning life skills”
“หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2566 I 50 โรงเรียนบ้านบ้านดอนยูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4