โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี
(ในโครงการพระราชดำริ)
ROMKLAO KANCHANABURI SCHOOL
คปีูก่ามรืศึอกษานั2ก565เรียน
STUDENT HANDBOOK
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษากาญจนบุรี
กระทรวงศึกษาธิการ
…การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสรา้ งและพัฒนาความรู้ ความคิด
ความประพฤติ และคุณธรรมของบคุ คล สังคมและบ้านเมืองใดใหก้ ารศึกษาที่
ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆ ด้าน สังคมและ
บ้านเมืองน้ันก็จะมีพลเมืองท่ีมีคุณภาพ ซ่ึงสามารถธำรงรักษาความเจริญ
ม่นั คงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าตอ่ ไปไดโ้ ดยตลอด...
พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่ครูและนักเรยี นที่ไดร้ ับพระราชทานรางวัลฯ
วนั ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๔
คำนำ
คู่มือนักเรียน ผู้ปกครอง และครู จัดทำข้ึนมาเพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง
และครู ได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร การเรียนการสอนและแนว
ทางการปฏิบัติตนตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนดตลอดจนข้อมูลต่างๆ ของโรงเรียน
ซ่ึงเป็นสงิ่ จำเป็นอย่างยงิ่ ท่ี ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ต้องทราบรายละเอียดและปฏิบัติ
เป็นแนวทางเดียวกันเพราะการจัดการศึกษาแนวใหม่จะต้องอาศัยความจาก
ผเู้ ก่ียวข้องทุกทา่ น
การจัดการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพนักเรียนจะต้องปฏิบัติตนให้
ถูกต้องตามระเบียบ โดยเฉพาะระเบียบว่าด้วยการปกครองของโรงเรียน นักเรียน
จะต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดและผู้ปกครองจำเป็นต้องทราบรายละเอียดของ
ระเบียบด้วยเพราะจะได้ช่วยควบคุมและว่ากล่าวตักเตือนเพ่ือมิให้นักเรียนประพฤติ
ผดิ ระเบียบด้านหลักสูตรการเรียนการสอน นักเรียนและผูป้ กครองตอ้ งศึกษาและทำ
ความเข้าใจร่วมกัน เพราะนักเรียนแต่ละคนมีความรู้ ความสามารถและความสนใจ
แตกต่างกัน การท่ีนักเรียนจะเลือกเรียนจะต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถ และ
ความสนใจของนักเรียนด้วยเพ่ือสนองต่อหลักการและจุดหมายของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551
ดังนั้นโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี ( ในโครงการพระราชดำริ) จึงได้จัดทำ
คู่มือนักเรียน ผู้ปกครอง และครู เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาให้มี
ประสิทธิภาพและหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือคู่มือนี้คงเป็นประโยชน์ต่อ ครู นักเรียน
ผ้ปู กครอง เปน็ อย่างยงิ่
โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบุรี
(ในโครงการพระราชดำร)ิ
อำเภอ ทองผาภูมิ จังหวดั กาญจนบรุ ี
เอกสารคู่มือนักเรียนโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) ปีการศึกษา 2565 ฉบับนี้
จัดทำขึน้ เพ่ือใหน้ ักเรียนและผู้ปกครองศกึ ษาและทำความเข้าใจในการปฏิบตั งิ านของสถานศกึ ษา กฎระเบียบ แนว
ปฏิบัติตนและประกาศของสถานศึกษา หลักสูตรการจดั การเรียนการสอน ตลอดจนข้อมูลต่างๆของสถานศกึ ษา
ซงึ่ เป็นสงิ่ ที่จำเป็นอย่างยง่ิ ในการสร้างความเข้าใจและข้อตกลงร่วมกันระหวา่ งโรงเรียน ครู ผู้ปกครองและนักเรียน
ทกุ คน
โรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) เป็นโรงเรียนมุ่งสู่มาตรฐานสากล (world-class
Standard School) จัดตั้งข้ึนสำหรับนักเรียนท่ีด้อยโอกาสทางการศึกษาและเสี่ยงภัยนักเรียนทุกคนที่เข้ามาสู่
สถานศึกษาแห่งนี้จะต้องได้รับการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี และคนเก่ง มีทักษะชีวิตวิสัยทัศน์ของโรงเรียนท่ีว่า
“เป็นสถานศึกษาท่ีบ่มเพราะความดีบนวิธีไทย” พัฒนาทักษะงาน ทักษะชีวิต ตามหลักมาตรฐานสากลโดยการ
ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการสรา้ งองค์ความรู้แกน่ ักเรยี นให้มีเอกลักษณ์พเิ ศษ คือ “วิถชี ีวติ พอเพียง” เมื่อ
สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแหง่ น้ไี ปตอ้ งมีอัตลกั ษณค์ อื “มคี ุณภาพชวี ิตทีด่ ีในพ้นื ท่หี า่ งไกลหรอื เสยี่ งภยั ”
กระผมมีความตั้งใจท่ีจะพัฒนานักเรียนโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี ให้เป็นคนดีและคนเก่งบริหารงาน
โดยยดึ หลกั ธรรมมาภบิ าลและการมีสว่ นร่วมของทกุ ภาคส่วน ส่งเสริมนักเรยี นใหม้ ีคณุ ธรรมจริยธรรมและมวี ินัยใน
ตนเองน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน สถานศึกษามีแหล่งเรียนรู้
สวยงามสะอาดเอื้อตอ่ การเรียนรู้ใช้เทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้สู่มาตรฐานสากลบนพ้ืนฐานความเปน็ ไทย พรอ้ ม
เป็นพลโลกในศตวรรษที่ 21 และสงั คมอนาคตทยี่ งั ยืน
หวังว่าเอกสารคู่มือนักเรียนโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ ปีการศึกษา 2565
ฉบับน้ีคงจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนในการที่จะเข้าศึกษาเล่าเรียนโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการ
พระราชดำริ) ตอ่ ไป
สารบญั หนา้
เนอ้ื หา 1
คำนำ 2
ประวัตโิ รงเรยี นรม่ เกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 2
ข้อมูลพ้ืนฐาน 3
อตั ลักษณ์ เอกลกั ษณ์ ความเป็นเลิศ/มาตรการสง่ เสรมิ 4
วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ เป้าประสงคข์ องโรงเรยี น
กลยทุ ธ์ของโรงเรยี น 5
งานกลมุ่ บริหารวิชาการ 6
6
ระเบยี บสถานศกึ ษาวา่ ดว้ ยการประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ าม 7
หลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 13
โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 14
15
หมวดที่ 1 หลกั การวดั ประเมินผล 19
หมวดที่ 2 วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผลการเรียน 20
หมวดที่ 3 การตัดสนิ ผลการเรียนตามหลักสตู ร 20
หมวดท่ี 4 การเทยี บโอนผลการเรยี น
หมวดที่ 5 หน้าทข่ี องสถานศกึ ษา
หมวดที่ 6 การรายงานผลการเรยี น
การติดต่อฝ่ายทะเบียน-วดั ผล
การตดิ ตอ่ และการแต่งกายเมอ่ื มาขอรบั เอกสาร
เมอื่ นกั เรยี นไดร้ ับเอกสารจากฝา่ ยทะเบยี น – วัดผล
เนื้อหา หน้า
แนวทางการประเมิน 21
การเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 21
เกณฑก์ ารตดั สนิ 22
กจิ กรรมนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร (รด.) 23
งานกิจกรรมรักษาดินแดน (รด.) 25
การติดต่อของนักศึกษาวิชาทหาร 25
ระเบยี บสำหรับนักเรยี นประจำหอพัก 26
งานกลมุ่ บริหารบคุ คล
ข้อตกลงร่วมระหวา่ ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง 27
ระเบียบโรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
หมวดที่ 1 วา่ ดว้ ยหน้าทข่ี องนักเรยี นโรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี 29
29
ส่วนท่ี 1 บทบาทหนา้ ท่ี
สว่ นท่ี 2 การปฏบิ ัตติ นในการมาโรงเรยี นและเขา้ เรยี น 30
หมวดท่ี 2 ว่าดว้ ยการแตง่ กายของนักเรยี นโรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี 36
ส่วนที่ 1 การแต่งกายนักเรียน 38
ส่วนที่ 2 ทรงผมนกั เรยี น 38
แนวทางปฏิบัตติ นของนกั เรียน 40
การตรวจค้นนกั เรยี น
ประกาศระเบยี บโรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 47
เรอ่ื ง ว่าด้วยความประพฤติการลงโทษการตัดคะแนนและ
คุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องนกั เรยี น
เพลง มารช์ รม่ เกลา้
ประวตั ิโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) เป็นโรงเรียนท่ีจัดตั้งขึ้นตาม
พระบรมราโชบายของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิพระบรมราชินีนาถที่ทรงห่วงใย และเล็งเห็น
ความสำคัญของการจัดการศึกษาของเด็กและเยาวชนท่ีอาศัยอยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล
โดยเฉพาะ เน่ืองจากพระองค์ได้ทรงประสบปัญหาและความจำเป็นดังกล่าวอยู่เน่ืองนิจ ใน
โอกาสท่ีเสด็จพระราชดำเนินตามพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวในการเยี่ยมเยยี นดูแลทุกข์สุข
ของประชาชน จงึ ได้ทรงพระกรณุ ามอบหมายภารกิจดา้ นน้ใี ห้ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ผช.ผบ.
ทบ.รรก.มทภ 1 (ยศในขณะน้ัน) ไปดำเนินการต่อและได้ทรงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วน
พระองค์เพ่ือการจัดตั้งโรงเรียนเพื่อถวายความจงรักภักดีและเพ่ือสนองพระราชประสงค์ของ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตามพระบรมราโชบายดังกล่าวพลเอกอาทิตย์กำลัง
เอกได้นำเร่อื งนี้ปรารภกบั กองทัพภาคที่ 1 และจงั หวดั กาญจนบุรีซึ่งเห็นชอบและรบั ดำเนินการ
หลังจากนั้น จังหวัดกาญจนบุรีได้แต่งต้ังคณะทำงานข้ึนเพ่ือการจัดต้ังและก่อสร้าง
โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรีแห่งนี้ โดยมีการประชุมคร้ังแรกเม่ือวันที่ 25 มิถุนายน 2525 เพื่อ
หาผู้บริจาคเงินและที่ดินเพ่ือใช้เปน็ ทุนและสถานทีใ่ นการจัดตัง้ โรงเรียนตามลำดับ กองทพั ภาค
ท่ี 1 ไดร้ ับเงนิ บริจาคจากบริษัทสรุ าทิพย์ ศรมี หาบูรพา จำกัด เป็นเงิน 1,500,000 บาท และมี
ผมู้ ีจิตศรัทธาบริจาคเงินในการก่อสร้างโรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบุรอี ีก 1,360,000 บาท สร้าง
บนเน้อื ท่ี 42 ไร่ โดยมผี ู้บรจิ าค 3 ราย คือ นายอับ ร่มโพธ์ิรี นายประยูร แซมสีมว่ ง และนาย
จรูญ นักเพยี ร
เมื่อได้รับเงินบริจาคและกำหนดพ้ืนที่ท่ีจะทำการก่อสร้างแล้วจึงได้เสนอเรื่องไปท่ี
กองทัพภาคท่ี 1 และกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอการสนับสนุนและอนุมัตใิ น
การจัดต้ังโรงเรียนตามลำดับ การก่อสร้างโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรีนั้นได้เร่ิมทำการ
ก่อสร้างตั้งแต่วันท่ี 24 พฤศจิกายน 2525 โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้ให้กองพันทหารช่างท่ี 52
กรมทหารช่างท่ี 1 รักษาพระองค์ ดำเนินการก่อสร้างตามรูปแบบของทางราชการ แยกเป็น
อาคารเรียนแบบ 108 1 หลัง บ้านพักครู 1 หลัง เสร็จสิ้นการก่อสร้างเม่ือวันท่ี 31 มีนาคม
2526 โดยเป็นโรงเรยี นสาขาของโรงเรียนทองผาภมู ิวทิ ยา และได้ทำการเปดิ สอนต้ังแต่วันที่ 16
พฤษภาคม 2526 รบั นกั เรียนเขา้ เรียนจำนวน 58 คน 1 ระดับ คอื
นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 58 คน
นักเรียนชาย จำนวน 41 คน
นักเรียนหญิง จำนวน 17 คน
มคี รทู ำการสอน จำนวน 4 คน
ครูผู้ชาย จำนวน 1 คน
ครูผูห้ ญงิ จำนวน 3 คน
ค่มู ือนักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 1
สถานทตี่ ้งั ขอ้ มลู พน้ื ฐาน
อกั ษรยอ่ 84 หมู่ 6 ตำบลล่ินถ่นิ อำเภอทองผาภูมิ
สีประจำโรงเรยี น จงั หวดั กาญจนบรุ ี 71180
ปรัชญา ร.ก
คำขวญั ของโรงเรยี น ฟ้า – ทอง
การศึกษาพฒั นาความคดิ เพอื่ ชีวิตและสังคม
คติพจน์ รักษศ์ กั ดศิ์ รี มคี ณุ ธรรม นำวชิ าการ
สบื สานงานพระราชดำริ
ศูนยร์ วมจติ ใจ สาธุ โข สปิ ปก นาม
ประเภทของโรงเรียน ขน้ึ ช่ือว่าการศกึ ษาประเสรฐิ แท้
ระดบั ท่ีเปิดสอน สมเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ิติ์ พระบรมราชินนี าถ
โรงเรียนสหศกึ ษา (แบบรวมชาย-หญิง)
สงั กัด ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย
โทรศพั ท์ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษากาญจนบรุ ี
โทรสาร กระทรวงศกึ ษาธิการ
e-mail 0-3468-4266
Website 0-3468-4265
[email protected]
www.rkan.ac.th
อัตลกั ษณ์ เอกลักษณ์ มาตรการส่งเสริม
อัตลกั ษณ์
มีคุณภาพชีวติ ในพ้นื ท่หี ่างไกลหรอื เสย่ี งภยั
เอกลกั ษณ์
วถิ ีชวี ติ พอเพยี ง
ความเปน็ เลิศ/มาตรการสง่ เสรมิ
พึ่งพาตนเองบนพนื้ ฐานการมที กั ษะงาน ทักษะชวี ิต
คมู่ ือนกั เรยี น โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 2
วสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เปา้ ประสงค์ของโรงเรยี น
วิสัยทัศน์
ภายในปี 2568 โรงเรียนรม่ เกลา้ ในโครงการพระราชดำริ เปน็ สถานศกึ ษาท่ีมุ่งพัฒนา
ให้ผู้เรยี นมที กั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 พรอ้ มทง้ั ให้เปน็ คนดี คนเก่ง มคี ุณธรรม บน
พนื้ ฐานความเปน็ ไทย สบื สานงานตามพระราชดำริ
พนั ธกิจ
1. จดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการตามกระบวนการเรยี นรู้แบบวจิ ัยเปน็ ฐาน (PBL)
2. จดั หลกั สตู รฐานสมรรถนะอาชพี และ สรา้ งทักษะชีวิตให้กบั ผู้เรียน
3. สรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมอื ในการจดั การศึกษากบั สถาบนั การศึกษาท่เี กยี่ วขอ้ งใน
ภมู ิภาค
4. ส่งเสรมิ ทักษะการวิเคราะหเ์ ทคโนโลยี สื่อและประเมนิ สารสนเทศเพื่อการเรยี นรู้
ปลกู ฝังคณุ ลักษณะดา้ นการทำงาน ดา้ นการเรียนรู้ และดา้ นคณุ ธรรม
5. สืบสานงานตามพระราชดำริในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน
6. ดำเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เป้าประสงค์ของโรงเรยี น
1. ครมู ีทกั ษะการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning ในหน่วยการเรียนรู้บรู ณาการ
2. สถานศกึ ษามหี ลักสตู รอาชพี ระยะส้ัน หลกั สตู รเตรียมพ้ืนฐานความถนัดการศกึ ษา
ต่ออุดมศกึ ษาหรือทวิศึกษา
3. นักเรยี นมที กั ษะชวี ติ และสมรรถนะในสาขาอาชีพ
4. สถานศกึ ษามรี ะบบเทคโนโลยสี อ่ื สารสารสนเทศเพ่ือการเรียนร้แู ละการบรหิ าร
จัดการ
5. สถานศกึ ษาพฒั นามาตรฐานการบริหารการจดั การและระบบประกันคุณภาพของ
สถานศกึ ษา
6. นกั เรียนมีทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีในการเขา้ ถึงองค์ความร้บู นจรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี
7. นกั เรียนมีเป้าหมายการทำงานและมีการตรวจสอบกระบวนการเรียนรู้ มกี าร
ทำงานเป็นทีม มีความซือ่ สตั ย์และเคารพสิทธกิ ารเปน็ พลเมอื ง
8. สถานศึกษามแี หลง่ เรยี นรู้และการจดั การเรยี นรกู้ ารอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ ม ศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ ตามแนวทางพระราชดำริ
คมู่ อื นักเรยี น โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 3
9. นักเรียนและครดู ำเนนิ วถิ ีชีวิตตามหลกั ความพอเพยี ง
10. สถานศกึ ษามีเครือข่ายความรว่ มมอื การจดั ทำหลกั สูตรฐานสมรรถนะและ
เครือขา่ ยการเรยี นรู้
กลยุทธข์ องโรงเรยี น
กลยุทธ์ท่ี 1 : พัฒนาทักษะการสรา้ งองคค์ วามรู้จากการปฏิบตั ิ (Active Learning)
กลยุทธท์ ี่ 2 : พฒั นาการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning
กลยุทธท์ ี่ 3 : พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศในการจดั การเรยี นรแู้ ละมาตรฐาน
การบรหิ ารการจดั การ
กลยทุ ธท์ ่ี 4 : พฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานและแหลง่ เรียนรทู้ ่เี ช่อื มตอ่ การเรียนรู้
กลยุทธ์ที่ 5 : สรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมือการจดั การศึกษาและสบื สานงาน
พระราชดำริ
งานกลมุ่ บริหารวชิ าการ
- ระเบยี บสถานศึกษาวา่ ด้วยการประเมินผลการเรยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี ( ในโครงการ
พระราชดำริ)
หมวด 1 หลักการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น
หมวด 2 วธิ ีการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
หมวด 3 การตัดสินผลการเรียนตามหลักสตู ร
หมวด 4 การเทยี บโอนผลการเรียน
หมวด 5 หน้าท่ขี องสถานศึกษา
หมวด 6 การรายงานผลการเรียน
หมวด 7 บทเฉพาะกาล
- การติดตอ่ งานทะเบียน – วัดผล
- กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
- การศกึ ษาวชิ าทหาร
- งานห้องสมดุ โรงเรยี น
คมู่ อื นักเรียน โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 4
ระเบยี บสถานศึกษา
วา่ ด้วยการประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551
โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 โดยกำหนดให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตร
สถานศึกษา ระเบยี บการวัดผลประเมินผล และเอกสารประกอบหลกั สตู รทเ่ี กยี่ วข้องนัน้ เพอื่ ให้
มีข้อกำหนดตา่ งๆ เกี่ยวกับการวดั ผลประเมินผลสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนจึงได้กำหนดระเบียบการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ตาม
หลักสูตรโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) โดยกำหนดระเบียบการวัดผล
ประเมนิ ผลดงั ต่อไปนี้
ข้อที่ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการศึกษาตาม
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
ข้อที่ 2 ระเบียบน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่ ปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้โดยใช้บังคับ
ต้งั แต่ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้นถงึ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ข้อที่ 3 ให้ใช้ระเบียบนี้ควบคู่กับหลักสูตรโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการ
พระราชดำร)ิ
ขอ้ ที่ 4 ใหค้ ณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ใน
โครงการพระราชดำริ) รักษาใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บนี้
คมู่ อื นกั เรียน โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 5
หมวดท่ี 1
หลักการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี น
ข้อ 5 การประเมนิ ผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตามหลักการดงั นี้
5.1 โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) เป็นผู้รับผิดชอบการวัด
ประเมินผลการเรียนของผู้เรียน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เก่ียวข้องมีส่วนร่วมในการวัดและ
ประเมินผล
5.2 การวัดและประเมินผลการเรียนตอ้ งครอบคลุม และสอดคล้องกับมาตรฐานการ
เรียนรู้ ตามหลักสูตรที่โรงเรียนกำหนดโดยให้ครอบคลุม 8 กลุ่มสาระฯ การอ่าน คิดวิเคราะห์
การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
5.3 การประเมินผลการเรียนรู้ ต้องประกอบด้วย การประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียน
ปรบั ปรุงการจดั การเรียนการสอน และการประเมนิ ผลเพื่อตัดสนิ ผลการเรยี น
5.4 การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้อง
ดำเนินการด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกับส่ิงที่ต้องการวัด เหมาะสมกับธรรมชาติของ
วิชา และผเู้ รยี น
5.5 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนและผู้มีส่วนเก่ียวข้องตรวจสอบผลการเรียน แก้ไขผลการ
เรียน และ ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนระหว่างสถานศึกษาในระบบการศึกษาเดียวกันและ
ระบบการศกึ ษาอื่น
5.6 โรงเรียนจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา เพ่ือเป็นหลักฐานการประเมินผลการ
เรียนรายงานผลการเรยี น หลกั ฐานแสดงวุฒิและรับรองผลการเรียนของผู้เรียน
หมวดท่ี 2
วธิ วี ัดผลและประเมินผลการเรียน
ข้อ 6 วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ใหใ้ ช้วธิ ีการและเครื่องมอื ทห่ี ลากหลาย
เนน้ การปฏิบตั ใิ ห้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั และกระบวนการเรียนรู้ โดย
ประเมนิ จากพฤติกรรมของผู้เรยี นหรือแฟม้ สะสมงานโดยใหผ้ ทู้ ่มี สี ว่ นร่วมในการประเมินผล
ซึ่งมีการประเมนิ ในระดบั ตา่ ง ๆ มดี ังต่อไปนี้
6.1 การวัดและประเมินผลระดับชน้ั เรียน การวดั และประเมนิ ผลในระดบั ชั้นเรยี น ให้
ประเมินผลก่อนเรียน และหลังเรียน โดยให้เป็นไปตามหลักการวัดและประเมินผล กลุ่มสาระ
ค่มู ือนกั เรียน โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 6
การเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน โดยให้มกี ารวิเคราะห์ผ้เู รยี นและคำนงึ ถึงความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล ดังนี้
(1) ประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น เพ่อื เปน็ การตรวจสอบความรพู้ ้ืนฐานของผู้เรยี น
(2) ประเมนิ ผลระหว่างเรยี นเพ่ือปรบั ปรงุ กระบวนการเรียนการสอนให้เหมาะสม
โดยประเมนิ ทักษะความรู้ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมของผูเ้ รยี น มุง่ ตรวจสอบ
ผู้เรียนว่าบรรลุตัวชี้วัด ตามแผนการจัดการเรียนรู้หรือไม่และใช้เป็นข้อมูลในการประกอบ
พิจารณาเล่ือนช้ัน โดยให้ครูผู้สอนจัดทำแบบกรอกข้อมูลผลการประเมินต่าง ๆ ในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ทุกกลุ่ม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การประเมินลักษณะอันพึงประสงค์ และการอ่านคิด
วเิ คราะห์
(3) ประเมนิ ผลหลังเรียนเพอ่ื เปน็ การตรวจสอบผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นในภาพรวม
หลงั จากเรยี นจบการเรียนการสอนทกุ กิจกรรม รวมถงึ การประเมินผลปลายภาคเรยี น
และปลายปี โดยผู้สอนพิจารณาคัดเลือกตัวช้ีวัดที่สำคัญ ให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ
กระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แลว้ จัดสรา้ งเคร่ืองมือใช้ประเมนิ นกั เรยี น และผลการ
ประเมนิ ให้ใช้เปน็ ข้อมลู ประกอบการพจิ ารณาตัดสนิ เล่อื นชั้นเรียน
6.2 การวัดและประเมินผลระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นการประเมินตามมาตรฐาน
การเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนต้อง
ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
และให้โรงเรียนนำผลการ ประเมินดังกล่าวมาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนและพัฒนา
คณุ ภาพของผูเ้ รียน
6.3 การวดั และประเมินผลระดับชาติ เป็นการประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รียน มาตรฐานการ
เรียนรู้ตาม หลักสูตรแกนกลาง พุทธศักราช 2551 โดยโรงเรียนต้องจัดให้นักเรียนทุกคนใน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการประเมินทุกคน ทั้งน้ีให้เป็นไป
ตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบมาย และให้โรงเรียนนำผล
การประเมินดงั กลา่ วมาปรบั ปรุงการจดั การเรยี นการสอนและพัฒนาคณุ ภาพของผเู้ รยี น
หมวดท่ี 3
การตัดสินผลการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร
ขอ้ 7 การตดั สนิ ผลการเรยี นตามหลกั สตู ร โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการ
พระราชดำริ) เปน็ การ ประเมินและตดั สนิ ผลการเรยี น ให้ผา่ นเกณฑต์ ามที่โรงเรียนกำหนด
โดยประเมนิ ใหค้ รบท้งั 5 รายการ ได้แก่ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ทกุ กลมุ่ สาระฯ การอ่าน คิด
คู่มือนักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 7
วเิ คราะห์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและเวลาเรียน เพื่อใชใ้ นการตัดสนิ
ผลการเรยี นในการเลื่อนช้นั
7.1 การตดั สินผลการเรียนในระดบั มัธยมศึกษามกี ารตดั สินในหลายลักษณะ คอื การ
ผ่านรายวิชากำหนดเป็นภาคเรียน การเล่ือนช้นั ปีกำหนดเปน็ รายปีการศกึ ษาและการจบ
ระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนต้นและระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หลักเกณฑ์การวดั ผลและ
ประเมินผลเพ่อื ตัดสนิ ผลการเรยี นของผู้เรียนตามหลกั สตู รของโรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ใน
โครงการพระราชดำร)ิ พทุ ธศกั ราช 2551 มดี งั น้ี
1) ตัดสินผลการเรยี นเปน็ รายวิชา ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเรียนตลอดทัง้ ภาคเรียนไมน่ อ้ ยกว่า
รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรียนทงั้ หมดในรายวชิ านนั้ ๆ
2) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับการประเมินทกุ ตวั ชวี้ ดั และผ่านตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำหนด
3) ผ้เู รยี นต้องไดร้ บั การตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวชิ า
4) ผเู้ รยี นต้องไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษา
กำหนดในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และกจิ กรรม
พัฒนาผูเ้ รียน
ถ้าผู้เรียนมขี ้อบกพร่องเพียงบางตวั ช้ีวดั ซ่งึ สถานศึกษาพิจารณาเห็นวา่ สมารถพัฒนา
และสอนซอ่ มเสริมได้ ก็ใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษาท่จี ะผอ่ นผนั ใหเ้ ลื่อนช้นั ได้
คะแนนระหวา่ งภาคเรียนและคะแนนปลายภาคเรียน
7.2 การใหร้ ะดับผลการเรยี น ในการตดั สินเพือ่ ให้ระดบั ผลการเรยี นรายวชิ าของกลุ่ม
สาระการเรียนรใู้ ห้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนเปน็ 8 ระดับ รายวชิ าท่ีจะนบั หนว่ ยกิจได้
จะตอ้ งไดร้ ะดบั ผลการเรยี นตง้ั แต่ 1 ขนึ้ ไป โดยมแี นวการให้ระดับผลการเรยี นดงั นี้
กลุม่ สาระ คะแนน คะแนนเต็ม
ระหวา่ งเรียน ปลายภาค
ภาษาไทย 70 30 100
คณติ ศาสตร์ 70 30 100
วทิ ยาศาสตร์ 70 30 100
สังคมศกึ ษา ศาสนาและ 70 30 100
วฒั นธรรม
สุขศกึ ษาและพลศึกษา 80 20 100
ศิลปะ 80 20 100
การงานอาชพี และเทคโนโลยี 80 20 100
ภาษาตา่ งประเทศ 70 30 100
ค่มู ือนักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 8
คะแนนรอ้ ยละ ระดบั ผลการเรยี น ความหมายของผลการ
ประเมนิ
80-100 4 ดีเย่ียม
75-79 3.5 ดีมาก
70-74 3 ดี
65-69 2.5 เกือบดี
60-64 2 พอใช้
55-59 1.5 เกอื บพอใช้
50-54 1
ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ตำ่
ในกรณที ไี่ ม่สามารถใหผ้ ลการเรยี นเปน็ 8 ระดบั ได้ ให้ใช้ตัวอกั ษรระบุเงอ่ื นไขผลการ
เรยี นดงั นี้
“มส” หมายถงึ ผู้เรยี นไมม่ สี ทิ ธเิ ขา้ รับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผูเ้ รยี นมเี วลา
เรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นในแต่ละรายวชิ า และไมไ่ ดร้ ับการผ่อนผนั ใหเ้ ขา้ รับการ
วดั ผลปลายภาคเรียน
“ร” หมายถงึ รอการตัดสินและยงั ตดั สนิ ผลการเรยี นไมไ่ ด้ เนื่องจากผเู้ รยี นไมม่ ี
ขอ้ มูลผลการเรยี นในรายวิชานน้ั ครบถ้วน ไดแ้ ก่ ไม่ได้วดั ผลระหวา่ งภาคเรยี น / ปลายภาค
ไม่ได้ส่งงานทีม่ อบหมายให้ทำ ซ่ึงงานน้ันเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการตดั สินผลการเรยี น หรือมเี หตุ
สดุ วสิ ยั ทท่ี ำใหป้ ระเมนิ ผลการเรยี นไมไ่ ด้
การประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์นัน้ ให้
ระดบั ผลการประเมินเป็นผา่ นและไม่ผา่ น ในกรณผี ่านใหร้ ะดับผลการเรียนเปน็ ดเี ย่ยี ม ดีและ
ผา่ น ในการสรุปผล การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น เพอ่ื เล่อื นชัน้ และการจบ
การศกึ ษา กำหนดเกณฑก์ ารตดั สนิ เป็น 4 ระดบั และความหมายของแต่ละระดบั ดังน้ี
ดเี ยี่ยม หมายถึง มผี ลงานทแี่ สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และ
เขยี นที่มีคุณภาพดเี ลศิ อยเู่ สมอ
ดี หมายถึง มีผลงานทแี่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และ
เขียนที่มคี ุณภาพเป็นที่ยอมรับ
ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละ
เขยี นท่ีมีคุณภาพเป็นทยี่ อมรบั แตย่ ังมขี ้อบกพรอ่ งบางประการ
ค่มู อื นกั เรียน โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 9
ไมผ่ า่ น หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานทแี่ สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละ
เขยี น หรือถ้ามผี ลงาน ผลงานนั้นยังมขี อ้ บกพร่องทต่ี อ้ งไดร้ บั
การแกไ้ ขหลายประการ
ในการสรุปผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมทุกคุณลักษณะ เพื่อการ
เลือ่ นชัน้ และการจบการศกึ ษา กำหนดเกณฑก์ ารตัดสนิ เป็น 4 ระดบั และความหมายของแตล่ ะ
ระดับ ดังน้ี ดีเย่ียม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัยและ นําไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั เพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคมโดยพิจารณาจากผลการ ประเมินระดับดี
เยย่ี ม จาํ นวน 5-8 คณุ ลกั ษณะและไมม่ คี ณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดับดี
ดี หมายถึง ผูเ้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะในการปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์เพือ่ ใหเ้ ปน็ ท่ียอมรบั ของ
สงั คมโดยพจิ ารณาจาก
1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ย่ยี ม จำนวน 1-4 คณุ ลักษณะ และไมม่ ี คณุ ลกั ษณะใด
ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กวา่ ระดบั ดี หรอื
2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีท้งั 8 คุณลกั ษณะ หรอื
3. ไดผ้ ลการประเมนิ ตัง้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป จำนวน 5-7 คณุ ลกั ษณะ และมีบาง
คณุ ลกั ษณะไดผ้ ลการประเมินระดบั ผา่ น
ผา่ น หมายถงึ ผูเ้ รยี นรบั รู้และปฏบิ ตั ิไดค้ รบตามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขท่ี สถานศกึ ษา
กำหนด
ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไข ท่ี
สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับไม่ผ่าน ต้ังแต่ 1 คุณลักษณะการ
ประเมินกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น จะต้องพจิ ารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรมการปฏิบตั ิกิจกรรม
และผลงานของผ้เู รียน ตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากำหนดและใหผ้ ลการเข้า ร่วมกจิ กรรมเปน็ ผ่าน
และไมผ่ า่ น
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน มี 3 ลักษณะ คอื
1. กจิ กรรมแนะแนว
2. กิจกรรมนกั เรยี น ซึง่ ประกอบดว้ ย
1) กจิ กรรมลกู เสอื เนตรนารี ยุวกาชาด ผ้บู ำเพญ็ ประโยชน์ และ นกั ศกึ ษา
วชิ าทหาร โดยผูเ้ รยี นเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่
2) กจิ กรรมชุมนมุ หรอื ชมรม
ทงั้ นี้ ผู้เรียนระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้นจะตอ้ งเข้าร่วมกิจกรรมท้งั ข้อ (1) และ (2)
สำหรับผู้เรยี นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลายสามารถเลือกเข้าร่วมกจิ กรรมใดกิจกรรม หนึ่งในขอ้
(1) หรอื (2)
คู่มือนกั เรียน โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 10
3. การวดั ผลและประเมินผลกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ดังน้ี
“ผ” หมายถึง ผเู้ รยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม และมผี ลงาน
ตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากำหนด
“มผ” หมายถงึ ผู้เรียนมเี วลาเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และมี
ผลงาน ไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากำหนด
7.3 ผลการเรียนท่มี เี ง่ือนไข ได้แก่ ไมม่ สี ทิ ธ์ิเข้ารบั การประเมนิ ผลปลายภาค ใน
รายวชิ าและรอการตดั สนิ ใหใ้ ชต้ วั อักษรระบุเง่ือนไขแสดงผลการเรยี น ประกอบด้วย
1) ตวั อักษรแสดงผลการเรียนแตล่ ะรายวิชาใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
“มส” หมายถงึ ผูเ้ รยี นไม่มสี ทิ ธิเขา้ รบั การวัดผลปลายภาคเรยี น เนือ่ งจาก ผู้เรียนมี
เวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นในแต่ละรายวชิ า และไมไ่ ด้รับการผ่อนผนั ใหเ้ ขา้ รบั
การวัดผลปลายภาคเรยี น
“ร” หมายถึง รอการตดั สินและยงั ตัดสินผลการเรยี นไมไ่ ด้ เนอื่ งจากผูเ้ รยี น ไมม่ ี
ข้อมลู ผลการเรียนรายวิชานนั้ ครบถว้ น ไดแ้ ก่ ไมไ่ ดว้ ดั ผลระหว่างภาคเรยี น / ปลาย ภาค ไมไ่ ด้
สง่ งานทีม่ อบหมายให้ทำ ซึง่ งานน้นั เป็นส่วนหนงึ่ ของการตัดสนิ ผลการเรยี น หรือมเี หตสุ ุดวสิ ยั ท่ี
ทำใหป้ ระเมนิ ผลการเรียนไม่ได้
7.4 การเปล่ียนผลการเรยี น “0” สถานศกึ ษาจัดใหม้ ีการสอนซอ่ มเสริมในมาตรฐาน
การเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ัดที่ผเู้ รยี นสอบไมผ่ า่ นก่อน แลว้ จงึ สอบแก้ตวั ไดไ้ ม่เกนิ 2 ครั้ง ถ้าผ้เู รยี นไม่
ดำเนนิ การสอบแก้ตัวตามระยะเวลาท่ีสถานศึกษากำหนด ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถานศกึ ษาท่ี
จะพจิ ารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรยี น สำหรับภาคเรยี นที่ 2 ตอ้ งดำเนนิ การให้
เสร็จส้ินภายในปกี ารศกึ ษานนั้ ถ้าสอบแกต้ ัว 2 ครงั้ แลว้ ยงั ไดร้ ะดับผลการเรยี น “0” อีก ให้
สถานศกึ ษาแต่งต้ังคณะกรรมการดำเนินการเก่ยี วกับการเปลย่ี นผลการเรยี นของผเู้ รยี นโดย
ปฏบิ ัตดิ ังนี้
1) ถา้ เป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรยี นซ้ำรายวิชาน้นั
2) ถ้าเป็นรายวิชาเพ่ิมเตมิ ใหเ้ รยี นซำ้ หรอื เปลย่ี นรายวชิ าเรียนใหม่ทงั้ น้ีใหอ้ ยูใ่ น
ดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษา
การเรียนซ้ำรายวชิ า
ผเู้ รียนที่ได้รับการสอนซ่อมเสรมิ และสอบแก้ตัว 2 ครงั้ แล้วไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน
ให้เรียนซ้ำรายวิชาน้ัน ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดเรียนซ้ำในช่วงใด
ช่วงหนึ่งท่ีสถานศึกษาเห็นว่าเหมาะสม เช่น พักกลางวัน วันหยุด ชั่วโมงว่างหลังเลิกเรียนภาค
ฤดรู อ้ น
ในกรณีภาคเรียนท่ี 2 หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “0” “ร” “มส” ให้ดำเนินการให้
เสรจ็ ส้ินก่อนเปิดเรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปดิ การเรียนการสอนในภาคเรียนฤดู
คมู่ อื นกั เรยี น โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 11
ร้อนได้ให้สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา / ต้นสังกัดเป็นผู้พิจารณาประสานงานให้มีการ
ดำเนนิ การเรียนการสอนในภาคฤดรู ้อนเพอ่ื แก้ไขผลการเรยี นของผูเ้ รียน
7.5 การเปลี่ยนผลการเรียน “มผ” หลักสูตรโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ฉบับ
ปรับปรุง) พุทธศักราช 2558 ในกรณีท่ีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อม
เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนทำกจิ กรรมจนครบตามเวลาท่ีกำหนดหรือปฏิบตั กิ ิจกรรมเพ่ือพฒั นาคุณลกั ษณะ
ท่ีต้องปรับปรุง แก้ไข แล้วจึงเปล่ียนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ทั้งนี้ดำเนินการให้เสร็จ
สน้ิ ภายในปกี ารศึกษาน้นั ยกเว้นมีเหตสุ ดุ วสิ ัยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของสถานศกึ ษา
7.7 การเล่ือนชั้น ผู้เรียนจะได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกภาคเรียนและได้รับการ
เลือ่ นชน้ั เม่อื สนิ้ ปกี ารศกึ ษา โดยมคี ุณสมบตั ติ ามเกณฑ์ ดงั น้ี
1) รายวชิ าพน้ื ฐาน ได้รบั การตดั สินผลการเรยี นผ่านทุกรายวิชา
2) รายวชิ าเพิ่มเตมิ ไดร้ ับการตดั สนิ ผลการเรยี นผ่านเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด
3) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา
กำหนด ในการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงคก์ ิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
4) ระดับผลการเรียนเฉล่ียในปีการศึกษาน้ันได้ไม่ต่ำกว่า 1.00 หลังดำเนินการ
สอบแกต้ วั ตามระยะเวลาทสี่ ถานศกึ ษากำหนด
7.8 การเรียนซ้ำ ผเู้ รยี นทไ่ี มผ่ า่ นรายวิชาจำนวนมากและมแี นวโนม้ วา่ จะเป็นปญั หาต่อ
การเรียนในระดับชั้นสูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้
สถานศึกษาจะจัดให้ผูเ้ รยี นเรียนซำ้ ใน 2 กรณี ดังน้ี
กรณีที่ 1 เรียนซำ้ รายวชิ า หากผู้เรยี นได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตวั 2 คร้ัง
แล้วไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ให้เรียนซ้ำรายวชิ าน้นั ท้ังน้ใี ห้อย่ดู ุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาใน
การจัดให้เรียนซ้ำในชว่ งใดช่วงหนึ่งทสี่ ถานศกึ ษาเห็นวา่ เหมาะสม
กรณที ่ี 2 เรยี นซำ้ ชัน้ มี 2 ลักษณะ คอื
- ผู้เรยี นมรี ะดับผลการเรียนเฉลย่ี ในปกี ารศึกษานั้นตำ่ กวา่ 1.00 และมีแนวโน้มวา่
จะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชัน้ ที่สงู ขึ้น
- ผเู้ รียนมผี ลการเรียน 0,ร,มส สะสมเกินกวา่ 5 รายวชิ า ในรายวิชาพ้นื ฐานลา
เพิ่มเตมิ ของรายวิชาทล่ี งทะเบยี นเรยี นใน ปีการศกึ ษานัน้
7.9 การสอนซอ่ มเสรมิ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช
2551 กำหนดให้
สถานศึกษาจัดซอ่ มเสริมเพอ่ื พฒั นาการเรยี นร้ขู องผู้เรียนเต็มตามศักยภาพ การสอน
ซอ่ มเสริม เปน็ การสอนเพือ่ แก้ไขขอ้ บกพร่อง กรณที ่ผี ู้เรยี นมีความรู้ ทักษะกระบวนการ
หรือเจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ ไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด สถานศึกษาตอ้ งจัดสอน
ซ่อมเสริมเป็นกรณพี เิ ศษนอกเหนอื ไปจากการสอนปกติ เพื่อพฒั นาใหผ้ เู้ รียนสามารถบรรลตุ าม
คมู่ อื นักเรียน โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 12
มารตราฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ทีก่ ำหนดไว้ เปน็ การใหโ้ อกาสแกผ่ ้เู รยี นไดเ้ รยี นรู้และพฒั นา
โดยจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทหี่ ลากหลายและตอบสนองความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล การสอน
ซอ่ มเสริมสามารถดำเนินการได้ในกรณี ดงั ต่อไปน้ี
1. ผู้เรยี นมีความรู้ / ทกั ษะพื้นฐานไมเ่ พียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวชิ านัน้ ควร
จดั การสอนซ่อมเสรมิ ปรบั ความรู้/ทกั ษะพ้นื ฐาน
2. การประเมินระหวา่ งเรยี น ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดงความรู้ทกั ษะ กระบวนการ
หรอื เจตคติ / คณุ ลกั ษณะท่ีกำหนดไว้ตามมารตราฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี ดั
3. ผลการเรยี นไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรอื ตำ่ วา่ เกณฑก์ ารประเมนิ โดยผู้เรยี นไดร้ ะดบั ผล
การเรยี น “0” ตอ้ งจดั การสอนซอ่ มเสรมิ ก่อนจะใหผ้ ้เู รยี นสอบแกต้ วั
4. ผู้เรยี นมีผลการเรยี นไมผ่ ่าน สามารถจดั สอนซ่อมเสริมในภาคฤดรู ้อนเพื่อแก้ไข
ผลการเรยี น ทั้งน้ใี ห้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษา
หมวดที่ 4
การเทยี บโอนผลการเรยี น
ขอ้ 8 สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากสถานศกึ ษาไดใ้ น
กรณีต่าง ๆ ได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร
การออกกลางคัน และการขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและเข้า
ศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะประสบการณ์จากแหล่ง
การเรียนรู้อื่น ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันทางศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ
การจัดการศึกษาโดยครอบครัว โรงเรียนเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนควรดำเนินการ
ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน หรือต้นภาคเรียนที่สถานศึกษารับผู้ขอรับโอนเป็นผู้เรียน ท้ังนี้
ผู้เรียนที่ได้รับโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย 1
ภาคเรียน โดยสถานศึกษาท่ีรับการเทียบโอนควรกำหนดรายวชิ า จำนวนหน่วยกิต ทีจ่ ะรับ
เทยี บดอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอนผลการเรยี นดำเนนิ การไดด้ งั นี้
8.1 พิจารณาจากหลกั ฐานการศกึ ษาและเอกสารอืน่ ๆ ซ่งึ จะให้ขอ้ มลู ความรู้
ความสามารถของผู้เรียนในด้านตา่ ง ๆ
8.2 พจิ ารณาจากความรู้ ประสบการณต์ รง การปฏบิ ตั ิจรงิ การทดสอบ การ
สมั ภาษณ์ การปฏิบตั ิงาน หรืออน่ื ๆ ตามทีโ่ รงเรยี นกำหนด
8.3 พจิ ารณาจากความสามารถ และการปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ ท้งั นใี้ หเ้ ปน็ ไปตาม
ระเบยี บการเทยี บโอนที่กระทรวงศึกษาธกิ ารกำหนด
คู่มือนกั เรยี น โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 13
8.4 การเทียบโอนผลการเรียนใหด้ ำเนนิ การในรปู ของคณะกรรมการการเทียบ
โอนจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน แตไ่ มเ่ กิน 5 คน
8.5 การเทยี บโอนให้ดำเนินการดงั น้ี
8.5.1 กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น ให้นำ
รายวิชาหรอื หน่วยกิตท่ีมีตัวช้ีวัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง/จุดประสงค์/
เน้ือหาที่สอดคล้องกันไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 มาเทียบโอนผลการเรียนและพจิ ารณาให้ระดับ
ผลการเรยี นให้สอดคล้องกบั หลกั สตู รที่รับเทียบโอน
8.5.2 กรณกี ารเทยี บโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ให้พิจารณา
จากเอกสารหลักฐาน (ถา้ ม)ี โดยใหม้ กี ารประเมินดว้ ยเครื่องมอื ที่หลากหลายและให้ระดับผล
ใหส้ อดคลอ้ งกับหลักสตู รทีร่ บั เทยี บโอน
ทงั้ นี้ วิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เปน็ ไปตามประกาศของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
และแนวปฏบิ ตั ิที่เกย่ี วขอ้ ง
หมวดที่ 5
หน้าที่ของสถานศึกษา
ข้อ 9 โรงเรียนมีหนา้ ทจ่ี ัดให้มเี อกสารประเมนิ ผลตามหลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน
(ปพ.) ดงั ตอ่ ไปนี้
- แบบ ปพ.1 ระเบียนแสดงผลการเรยี น
- แบบ ปพ.2 หลกั ฐานแสดงวุฒกิ ารศกึ ษา (ใบประกาศนยี บตั ร)
- แบบ ปพ.3 แบบรายงานผู้สำเรจ็ การศึกษา
- แบบบนั ทึกผลการเรียนประจำรายวิชา
- แบบรายงานประจำตัวนกั เรยี น
- ใบรบั รองผลการเรยี น
- ระเบยี นสะสม ฯลฯ
ขอ้ 10 โรงเรยี นมีหนา้ ทีจ่ ดั ทำรายงานคุณภาพนกั เรียนเสนอตอ่ ผู้ทมี่ ีส่วนเกย่ี วขอ้ ง
- รายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี
- วารสาร / จลุ สารของสถานศึกษา
- จดหมายส่วนตัว
- การให้คำปรกึ ษาหารือเปน็ รายบุคคล
- การใหพ้ บครูทป่ี รึกษาหรอื การประชุมเครือขา่ ยผูป้ กครอง
- การใหข้ อ้ มูลทางอินเตอรเ์ นต็ ผา่ นเว็บไซต์ของสถานศึกษา
คู่มือนกั เรียน โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 14
หมวดที่ 6
การรายงานผลการเรยี น
ข้อ 11 การรายงานผลการเรียน เป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบ
ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซ่ึงสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำ
เอกสารรายงานใหผ้ ู้ปกครองทราบเปน็ ระยะๆ ภาคเรียนละ 1 คร้งั เพ่อื ใช้เปน็ ข้อมูลในการ
ปรับปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างมี
ประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลสำหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ
ยืนยนั รบั รองผลการเรยี นและวฒุ ิการศึกษาของผู้เรยี น
1. จุดมุ่งหมายการรายงานผลการเรียน
1.1 เพ่ือแจ้งใหผ้ ้เู รยี น ผเู้ กย่ี วข้องทราบความก้าวหนา้ ของผ้เู รยี น
1.2 เพ่ือให้ผู้เรียน ผู้เก่ียวข้องใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไข
สง่ เสริมและพฒั นา การเรยี นของผเู้ รียน
1.3 เพ่ือให้ผู้เรียน ผู้เก่ียวข้องใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการเรียน
กำหนดแนวทางการศกึ ษาและการเลอื กอาชีพ
1.4 เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องใช้ดำเนินการออกเอกสารหลักฐาน
การศึกษาตรวจสอบและรับรองผลการเรียน หรอื วุฒิทางการศกึ ษาของผู้เรียน
1.5 เพอ่ื เป็นขอ้ มลู สำหรับสถานศกึ ษา เขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาและหนว่ ยงาน
ตน้ สังกัดใชป้ ระกอบในการกำหนดนโยบาย วางแผนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2. ข้อมลู ในการรายงานผลการเรียน
2.1 ข้อมูลระดับชั้นเรียน ประกอบด้วย เวลามาเรียน ผลการประเมิน
ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการเรียน ความประพฤตแิ ละผลงานในการเรยี นของผเู้ รยี น
เป็นข้อมลู สำหรบั รายงานให้ผมู้ ีส่วนเก่ียวข้อง ได้แก่ ผู้เรยี น ผ้สู อน และ ผปู้ กครอง ได้รับ
ทราบความก้าวหน้า ความสำเร็จในการเรียนของผู้เรียน เพ่ือนำไปใช้ในการวางแผนกำหนด
เป้าหมายและวธิ กี ารในการพัฒนาผ้เู รียน
2.2 ขอ้ มูลระดบั สถานศกึ ษา ประกอบด้วย ผลการประเมนิ ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระ ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละ
เขียน ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนรายปี /
รายภาค ผลการประเมนิ ความกา้ วหน้าในการเรยี นรรู้ ายปี / รายภาคโดยรวมของสถานศกึ ษา
เพอ่ื ใช้เป็นข้อมลู และสารสนเทศในการพฒั นาการเรียนการสอนและคุณภาพของผ้เู รยี น ให้
คู่มอื นกั เรยี น โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 15
เป็นไปตามมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ดั การตดั สนิ การเลือ่ นชน้ั และการซ่อมเสริมผูเ้ รียนท่มี ี
ข้อบกพร่องให้ผ่านระดบั ชนั้ และเป็นข้อมลู ในการออกเอกสาร หลักฐานการศึกษา
2.3 ข้อมูลการประเมินคุณภาพระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ได้แก่ ผลการประเมิน
คุณภาพของผู้เรียนด้วยแบบประเมินที่สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาจัดทำข้ึนในกลุ่มสาระการ
เรียนรู้สำคัญในระดับชั้นที่นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลท่ี
ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ี
การศึกษา เพอื่ ให้เกิดการยกระดบั คุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของผเู้ รยี นและสถานศกึ ษา
2.4 ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของ
ผู้เรียนด้วยแบบประเมินท่ีเป็นมาตรฐานระดับชาติ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สำคัญในช้ัน
มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 และ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ซึง่ ดำเนนิ การโดยหนว่ ยงานระดบั ชาตเิ ป็นข้อมูล
ทผี่ ู้เกี่ยวข้องใชว้ างแผนและดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในสว่ นท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพื่อให้เกิด
การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียน สถานศึกษาท้องถ่ิน เขตพื้นที่
การศกึ ษาและประเทศชาติ รวมทง้ั นำไปรายงานในเอกสารหลกั ฐานการศึกษาของผเู้ รยี น
2.5 ข้อมูลพัฒนาการของนักเรียนในด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย ข้อมูลเก่ียวกับ
พัฒนาการดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นข้อมลู ส่วนหน่ึงของ
การแนะแนวและจัดระบบการดูแลช่วยเหลือเพ่ือแจ้งให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้ปกครอง และ
ผู้เก่ียวข้องได้รับทราบข้อมูล โดยผู้ที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบแต่ละฝ่ายนำไปใช้ปรับปรุงแก้ไขและ
พัฒนาผู้เรียนให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมท้ังนำไปจัดทำเอกสารหลักฐาน
แสดงพฒั นาการของผเู้ รยี น
3. ลกั ษณะข้อมูลสำหรบั การรายงาน การรายงานผลการเรยี นสถานศกึ ษา สามารถ
เลือกลักษณะข้อมลู สำหรบั การรายงานได้หลายรปู แบบ ให้เหมาะสมกับวธิ ีการรายงาน
โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของการายงานและการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ของผู้รับ
รายงานแตล่ ะฝ่าย ลักษณะข้อมลู มีรูปแบบดังน้ี
3.1 รายงานเป็นตัวเลข ตัวอักษร คำหรือข้อความท่ีเป็นตัวแทนระดับความรู้
ความสามารถของผู้เรียนท่ีเกิดจากการประมวลผล สรุปตัดสินข้อมูลผลการเรยี นรู้ของผ้เู รียน
ไดแ้ ก่
1. คะแนนทีไ่ ด้กบั คะแนนเตม็
2. คะแนนรอ้ ยละ
3. ระดับผลการเรียน “0 - 4” ( 8 ระดับ) หรือตามที่สถานศึกษา
กำหนดและผลการเรียนทม่ี ีเงื่อนไข “ผ” “มผ” “ร” “มส”
4. ผลการประเมินคุณภาพ “ดเี ย่ยี ม” “ด”ี “ผา่ น”
5. ผลการตัดสินผา่ นระดับช้ัน “ผ่าน” “ไม่ผ่าน”
คู่มอื นักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 16
3.2 รายงานโดยใช้สถิติ เป็นการรายงานจากข้อมูลท่ีเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือ
ข้อความให้เป็นภาพแผนภูมิหรือเส้นพัฒนาการ ซ่ึงจะแสดงให้เห็นพัฒนาการความก้าวหน้า
ของผเู้ รียนว่าดขี น้ึ หรอื ควรไดร้ บั การพัฒนาอยา่ งไร เมื่อเวลาเปลย่ี นแปลงไป
3.3 รายงานเป็นข้อความ เป็นการบรรยายพฤติกรรมหรือคุณภาพที่ผู้ประเมิน
สังเกตพบเพื่อรายงานให้ทราบว่าผู้เรียนมีความสามารถ มีพฤติกรรม ผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรยี น ตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั และบุคลิกภาพอย่างไร
4. วธิ ีการรายงาน การรายงานผลการเรียนใหผ้ ู้เกี่ยวข้องรบั ทราบ สามารถ
ดำเนินการไดด้ งั นี้ 4.1 การายงานผลการเรยี นในเอกสารทางการศึกษา ไดแ้ ก่
- แบบ ปพ.1 ระเบยี นแสดงผลการเรยี น
- แบบ ปพ.2 หลกั ฐานแสดงวฒุ กิ ารศกึ ษา (ใบประกาศนยี บตั ร)
- แบบ ปพ.3 แบบรายงานผสู้ ำเร็จการศกึ ษา
- แบบรายงานประจำตัวนกั เรยี น
- ใบรบั รองผลการเรยี น
- ระเบยี นสะสม
5. การกำหนดระยะเวลาในการรายงาน การกำหนดระยะเวลาในการรายงานผล
การเรียนแต่ละประเภทที่ได้มีการดำเนินการในโอกาสต่างๆ ท้ังการประเมินระดับช้ันเรียน
การประเมินระดับสถานศึกษา การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษาและการประเมิน
ระดับชาติ สถานศึกษาควรกำหนดช่วงเวลาในการรายงานให้สอดคล้องกับช่วงระยะเวลาที่
ผเู้ รยี นและผู้เก่ยี วขอ้ งจะนำข้อมลุ การรายงานไปใชใ้ นการดำเนนิ การของการปรบั ปรงุ แก้ไขและ
ส่งเสริมการเรยี นรู้ของผู้เรียนตามบทบาทหน้าท่ีของแต่ละฝ่าย โดยยึดหลกั การรายงานให้เร็ว
ท่ีสุดภายหลังการประเมนิ ผลแต่ละครั้ง เพือ่ ใหก้ ารรายงานเกิดประโยชนแ์ ละมปี ระสทิ ธิภาพใน
การนำไปใช้สูงสุด
5.1 การออกเอกสาร ป พ.1 – ป พ.3 ให้ เป็ นไป ตาม ระเบี ยบ ท่ี
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด สว่ นเอกสารหลักฐานอื่นๆให้เปน็ ไปตามขอ้ กำหนดของโรงเรยี น
5.2 การเก็บรักษาเอกสารหลกั ฐานทางการศึกษาตามขอ้ 5.1 ให้โรงเรยี น
เปน็ ผ้เู ก็บรกั ษาเอกสาร หลักฐานตามขอ้ กำหนดของเอกสารหลกั ฐานแตล่ ะประเภท
5.3 โรงเรียนจดั ให้มคี ณะกรรมการของโรงเรยี น ดังนี้
1. คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน
2. คณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวิชาการของโรงเรยี น
3. คณะอนกุ รรมการกลุม่ สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
4. คณะกรรมการการพัฒนาและประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ
เขยี น
คมู่ อื นักเรียน โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 17
สถานศกึ ษา 5. คณะกรรมการพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอังพึงประสงค์ของ
6. คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรยี น
ประกาศ ณ วันท่ี 4 มกราคม พ.ศ. 2565
(ว่าท่รี ้อยตรสี ุริยัน จนั ทรา)
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุรี
(ในโครงการพระราชดำริ)
ค่มู อื นกั เรยี น โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 18
การตดิ ตอ่ ฝา่ ยทะเบียน-วัดผล
1. การขอเปลย่ี นแปลงหลกั ฐาน
1.1 การขอแก้ วนั เดือน ปีเกิด
1.2 การเปลย่ี นชอื่ หรอื ชื่อสกลุ
ในกรณีที่ปรากฏว่า วัน เดือน ปีเกิดของนักเรียนมีความผิดพลาด ไม่ตรงกับ
หลกั ฐานทางราชการอ่ืนๆ ผ้ปู กครองเป็นผู้ติดตอ่ กบั ฝ่ายทะเบียน – วดั ผล ขอเปลยี่ นแปลง
ในการขอเปลี่ยนชื่อ หรอื ชื่อสกุลของนักเรียน หรอื ของบิดา มารดา หลังจากได้รบั เอกสาร
อนุมตั ิจากทางราชการแล้ว บิดา หรอื มารดา จะต้องมาติดต่อท่ีฝา่ ยทะเบียน – วัดผล เพื่อ
ยนื่ คำร้องเปลย่ี นแปลงหลักฐานตอ่ ฝา่ ยทะเบียนของโรงเรยี น โดยปฏิบัติดงั นี้
1. เขยี นใบคำรอ้ ง (ของโรงเรยี น) ขอเปลยี่ นแปลงหลกั ฐาน
2. แนบสำเนา สตู บิ ัตร หรอื ทะเบียนแจ้งคนเกิด เซ็นช่อื รับรองสำเนาถูกต้อง
3. มอบสำเนาทะเบียนบ้านปัจจุบันท่ีถูกต้อง พร้อมแสดงทะเบียนบ้านตัวจริงเพื่อ
เป็นหลกั ฐานยืนยัน และฝา่ ยทะเบยี น – วัดผล จะคืนหลักฐานตวั จรงิ ใหแ้ ละเก็บสำเนาไว้เปน็
หลกั ฐาน
1. การขอแก้ วัน เดือน ปีเกิด และชื่อ หรือช่ือสกุล นักเรียนตอ้ งดำเนินการให้
แลว้ เสรจ็ กอ่ นการสอบปลายภาคอยา่ งน้อย 1 เดอื น
2. ในกรณบี ิดา มารดา มียศทางททหาร หรอื ตำรวจ เมอ่ื ได้รบั การเลื่อนยศ ต้อง
แจง้ โรงเรยี นเพอื่ แก้ไขทะเบียน
3. เมื่อมกี ารเปลี่ยนแปลงที่อยู่ต้องแจง้ โรงเรยี น โดยถา่ ยสำเนาทะเบียนบ้านปัจจุบนั 1
ชุด มอบใหฝ้ า่ ยทะเบียน
2. การขอใบรบั รอง ใบระเบยี นแสดงผลการเรียนและใบประกาศนียบตั ร
2.1 ใบรบั รอง ( ปพ.7 ) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จะออกให้แก่นักเรียนที่กำลัง
เรียนอยู่ในโรงเรยี น ซึง่ มีความประสงคจ์ ะขอใบรับรองผลการศึกษา ใบรบั รองความประพฤติ
ใบรับรองประเภทน้ีใชไ้ ดใ้ นเวลา 60 วนั นับแตว่ นั ท่อี อกให้
2.2 ใบระเบียนแสดงผลการเรียน ( ปพ.1 หรือ รบ .1 เดิม) เป็นเอกสารบันทึก
ข้อมูลผลการเรียนของนักเรียน โรงเรียนจะออกให้นักเรียนเป็นรายบุคคล เม่ือนักเรียนจบ
การศึกษาแตล่ ะช่วงชัน้ (รับเอกสารประมาณปลายเดอื นมีนาคม) เอกสาร ปพ.1 นี้ นักเรียน
ควรเกบ็ รักษาไว้เป็นอย่างดี เมื่อต้องใชส้ ำเนา และลงช่อื รบั รองเอกสาร พร้อมยนื่ ปพ.1 ตัว
จริง เรียบร้อยแล้วนำ ปพ.1 ตัวจริงเก็บไว้ แต่หากนักเรียนทำสูญหาย สามารถมาขอ
คมู่ ือนกั เรียน โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 19
เอกสาร ปพ.1 ซ้ำได้ โดยนำรูปถ่ายปัจจบุ ัน 1 น้ิวครึ่ง มา 2 รูป แล้วเขยี นคำร้อง (ของ
โรงเรียน) ย่นื ต่อฝ่ายทะเบยี น – วัดผล
2.3 ใบประกาศนียบัตร หรือ ปพ.2 โรงเรียนจะออกให้แก่นักเรียนท่ีจบช่วงชั้นโดย
มอบให้พร้อม ปพ.1
2.4 ใบแปลประกาศนียบัตร เป็นเอกสารที่แปลจากใบประกาศนียบัตร วิธีปฏิบัติ
ของนักเรียนเขียนคำรอ้ ง (ของโรงเรียน) ยื่นคำร้องพรอ้ มสำเนาใบประกาศนยี บตั ร
การตดิ ตอ่ และการแตง่ กายเมื่อมาขอรบั เอกสาร
1. ติดต่อในวนั และเวลาราชการ 08.30 – 16.30 น.
2. การแต่งกายนกั เรยี นปัจจุบนั แต่งเคร่ืองแบบนกั เรยี นเรยี บรอ้ ย ถูกระเบียบของ
โรงเรยี น
3. นกั เรยี นเกา่ แต่งกายสุภาพ (เพ่ือให้เกียรตกิ บั โรงเรยี นซ่งึ เปน็ สถานท่รี าชการไม่
สมควรสวมเสอ้ื ยดื กางเกงขาส้นั รองเท้าแตะมาตดิ ตอ่ ) พรอ้ มแสดงบัตรประจำตวั นักเรยี น
หรือบัตรประจำตวั ประชาชน
เมอื่ นกั เรียนไดร้ บั เอกสารจากฝ่ายทะเบยี น – วัดผล
1. ตรวจสอบขอ้ มลู ในเอกสารใหถ้ ูกต้อง หากมีความผดิ พลาดใหร้ ีบแจง้ แก้ไขท่ฝี า่ ย
ทะเบยี น – วดั ผล
2. สำเนาเอกสารไวป้ ระมาณ 2 – 3 ชดุ เพราะเวลาใช้จะใชฉ้ บับถ่ายสำเนา สว่ น
ฉบบั จริงเม่ือใช้คู่กบั สำเนาและตรวจสอบแลว้ ต้องเกบ็ ไว้ในปลอดภยั เนือ่ งจากเป็นเอกสาร
สำคัญ
3. กรณีฉบับจริงสูญหาย ตอ้ งการขอใหม่ ตอ้ งนำรูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง จำนวน
2 รูป เขียนคำรอ้ งและยื่นทงี่ านทะเบียน
4. มารบั เอกสารตามทกี่ ำหนดนดั หมาย และในระยะเวลาที่กำหนด ดังน้ี
1. เมอื่ ยื่นคำร้องและรูปถ่ายท่ถี ูกตอ้ งตามระเบยี บของโรงเรียน มารบั ได้
นับอกี 2 วนั ทำการ
2. ปพ.1 (หรอื รบ.1) มกี ำหนดรบั ในระยะเวลาภายใน 1 เดอื น
3. ประกาศนียบัตรหรือ ปพ.2 มีกำหนดรบั ภายใน 10 ปี
คูม่ ือนักเรยี น โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 20
แนวทางการประเมิน
สถานศกึ ษาควรมีแนวทางในการดำเนินการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นทชี่ ดั เจน
1. การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นรายกิจกรรม มีแนวปฏิบัตดิ งั นี้
1.1 ตรวจสอบเวลาเข้ารวมกิจกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปเกณฑ์ท่ี
สถานศึกษากำหนดไว้
1.2 ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/
ชิ้นงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนดไว้ด้วยวิธีการท่ีหลากหลายและใช้การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
1.3 ผู้เรียนที่มีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/
ชน้ิ งานของผู้เรยี น ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดไว้เป็นผู้ผ่านการประเมินรายกิจกรรม
และนำผลการประการประเมินไปบนั ทึกในระเบยี บแสดงผลการเรยี น
1.4 ผู้เรียนที่มีการผลประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม
หรือเกณฑ์การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนหรือท้ังสองเกณฑ์ ถือว่าไม่
ผ่านการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผู้สอนต้องดำเมินการซ้อมเสริมจนผ่าน ทั้งนี้
ควรดำเนินการให้เสร็จสินในปีการศึกษาน้ันยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของ
สถานศกึ ษา
2. การประเมินกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียนเพื่อการตัดสนิ
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นการประเมินการผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
เป็นรายปี/รายภาค เพื่อสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุปผลรวม เพ่ือเล่ือนชั้นและ
ประมวลผลรวมในปีสดุ ท้ายเพื่อการจบแต่ละระดบั การศึกษา โดยการดำเนินการดงั่ กล่าวมแี นว
ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
การเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นของนกั เรยี นโรงเรียน ร่มเกล้า กาญจนบุรี
1. นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาตอนตน้ ตอ้ งเขา้ ร่วมกจิ กรรม 120 ชว่ั โมง ตอ่ 1 ปี การศึกษา
แยกเปน็ กจิ กรรมสาธารณประโยชน์ 45 ช่ัวโมง
2. นกั เรยี นในระดบั ชั้น ม. ปลาย ตอ้ งเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 120 ชว่ั โมง ต่อ 1
ปกี ารศึกษา และแยกเป็น กจิ กรรมสาธารณประโยชน์ 60 ชั่วโมง ดังต่อไปนี้
คู่มอื นกั เรียน โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 21
ช่อื กจิ กรรม จำนวน ชม. ตอ่ ภาคเรยี น หมายเหตุ
1. กิจกรรมแนะแนว 20
2. กจิ กรรมนักเรียน
- ลส. , นน. , 20 ต่อเน่ืองมาจาก
- ชุมนมุ 20 IS1/IS2
- กิจกรรมที่โรงเรยี นกำหนด .........................
20
3. กิจกรรมสาธารณประโยชน์
20
5. กิจกรรม IS3 ม.2/ม.5
2.1 กำหนดใหผ้ ู้รบั ผดิ ชอบในการรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับการร่วมกจิ กรรมพฒั นา
ผู้เรยี นของผูเ้ รยี นทกุ คนตลอดระดบั การศกึ ษา
2.2 ผ้รู บั ผดิ ชอบสรปุ และการตดั สนิ ผลการรว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนของผเู้ รยี นเป็น
รายบคุ ลตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนดเกณฑ์การจบแตล่ ะระดบั การศกึ ษาท่สี ถานศึกษา
กำหนดนนั้ ผเู้ รยี นต้องผ่านกจิ กรรม 3 กิจกรรมสำคญั ดงั นี้
1.) กิจกรรมแนะแนว
2.) กิจกรรมนักเรียน ไดแ้ ก่ (1) กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผู้
บำเพ็ญประโยชนแ์ ละนักศึกษาวชิ าทหาร (2) กิจกรรมชุมนมุ ชมรม
3.) กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์
2.3 นำเสนอผลการประเมนิ ต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสารการเรยี นรูแ้ ละกจิ กรรม
พัฒนาผเู้ รียน เพอ่ื ใหค้ วามเหน็ ชอบ
2.4 เสนอผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาพจิ ารณาอนมุ ตั ิผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ผ่านเกณฑ์การจบแตร่ ะดับการศึกษา
เกณฑ์การตัดสิน
ผู้เรยี นจะตอ้ งไดร้ บั การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นและผา่ นเกณฑต์ ามท่ี
สถานศกึ ษากำหนดโดยการกำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ อยา่ งเหมาะสม ดังนี้
1. กำหนดคณุ ภาพหรือเกณฑใ์ นการประเมนิ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน
กำหนดไว้ 2 ระดับคอื ผ่าน และ ไม่ผา่ น
คูม่ อื นักเรยี น โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 22
2. กำหนดประเดน็ การประเมนิ ใหส้ อดคล้องตามจุดประสงคใ์ นแต่ละกจิ กรรมและกำหนด
เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ ดงั นี้
2.1 เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินรายกิจกรรม
ผ่าน หมายถงึ ผูเ้ รียนมีเวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์และปฏบิ ตั กิ จิ กจิ กรรม
และผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด
ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรยี นมเี วลาเขา้ รว่ มไมค่ รบตามเกณฑห์ รือไมผ่ า่ นการปฏบิ ัติ
กจิ กรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำหนด
2.2 เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนรายป/ี รายภาค
ผา่ น หมายถึง ผู้เรยี นมผี ลการประเมินระดบั “ผา่ น” ในกจิ กรรมสำคัญทั้ง 3
กิจกรรมคือกจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรยี น กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
ไมผ่ ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นมผี ลการประเมินระดับ “ไมผ่ ่าน” ในกิจกรรมสำคญั กิจกรรม
หนึง่ จาก 3 กจิ กรรมคือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะ
ประโยชน์
2.3 เกณฑ์การตดั สินผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นเพือ่ จบระดับการศึกษา
ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมนิ ระดับ “ผา่ น” ทุกชน้ั ปีในระดับการศกึ ษานั้น
ไม่ผา่ น หมายถงึ ผูเ้ รยี นมีผลการประเมินระดับ “ไมผ่ ่าน” บางช้นั ปใี นระดบั
การศกึ ษานัน้
กิจกรรมนกั ศกึ ษาวิชาทหาร (ร.ด.)
1.วัตถปุ ระสงค์
วัตถปุ ระสงคใ์ นการฝึกนกั ศึกษาวชิ าทหารมี 2 ประการคือ
1.1 เพ่ือให้นักเรียนซึ่งสำเร็จประโยชน์มัธยมศึกษาตอนต้นท่ีสมัครเข้ารับการฝึก
นักศึกษาวิชาทหารตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ( ฉบบั ท่ี 3 ) พ.ศ. 2503 ให้มี
ความรคู้ วามสามารถทง้ั ในทางเทคนิคและยทุ ธวธิ ีเหมาะสมกบั หน้าทดี่ ังน้ี
1.1.1 ฝึกนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1,2 ให้มีความรู้วิชาเบื้องต้นเพื่อให้
บงั เกิดวินัยลักษณะทหาร การเช้อื ฟังและการปฏิบัติตาคำสั่งผู้บังคับบัญชา
โดยเคร่งครดั สามารถใชอ้ าวุธประจำกายและทำการยิงปืนอย่างได้ผล
1.1.2 ฝึกนักศึกษาวิชาช้ันป่ีที่ 3 ให้มีความรู้วิชาทหารทั้งทางเทคนิคและ
ทางยุทธวิธีให้สามารถทำหนา้ ที่ผูบ้ งั คับบญั ชาหมแู่ ละรองผู้บงั คบั หมวดได้
คูม่ อื นักเรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 23
1.2 ให้เป็นเยาวชนท่ีมีระเบียบวินัย สุขภาพ แข็งแรง อดทน มีอุดมการณ์ยึดมันใน
สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ วฒั นธรรมและขนมธรรมเนยี มประเพณีที่ดีงามของชาติ
2. สิทธิของนกั ศกึ ษาวชิ าทหารนกั ศึกษาวชิ าทหาร
นักศึกษาวิชาทหารจะไดร้ ับสทิ ธิระหวา่ งเข้ารบั การฝึกและเมอ่ื สำเรจ็ การฝกึ แล้วดังน้ี
2.1 ระหวา่ งเขา้ รับการฝึกวิชาทหารจะได้รบั สทิ ธิ
2.1.1 การแต่งเครื่องแบบ บคุ ลท่ีหน่วยบญั ชาการรกั ษาดินแดนจังหวดั ทหารบก
กาญจนบุรี ประกาศมสี ภาพเปน็ นกั ศกึ ษาวิชาทหาร หลงั ไดร้ ับการฝกึ วชิ าทหารไม่น้อยกว่า 16
ชวั่ โมง มีสทิ ธิแตง่ เคร่อื งแบบวิชาทหารได้ตาม พ.ร.บ.เครือ่ งแบบนักศกึ ษาวชิ าทหารและ
เครือ่ งแบบผ้กู ำกับนักศึกษาวชิ าทหาร พ.ศ. 2521
2.1.2 การเพิม่ คะแนนพเิ ศษ นศท. ทีส่ ำเรจ็ การฝึกนกั ศึกษาวชิ าทหาร ตั้งแต่
ชั้นปีท่ี 1 ขึ้นไป มสี ทิ ธิได้รบั การเพมิ่ คะแนนตามชั้นปที สี่ ำเรจ็ การฝึกวิชาทหารเมื่อสอบคดั เลอื ก
ศกึ ษาต่อในโรงเรยี นทหาร พ.ศ.2492 คือ
2.1.2.1 สำเรจ็ การฝกึ วิชาทหาร ช้นั ปที ่ี 1 เพิ่มให้ 3 ใน 100 คะแนนรวมทัง้ ส้ิน
2.1.2.2 สำเรจ็ การฝึกวชิ าทหาร ชัน้ ปีที่ 2 เพิม่ ให้ 4 ใน 100 คะแนนรวมท้งั สิน้
2.1.2.3 สำเร็จการฝกึ วชิ าทหาร ชั้นปีท่ี 4 เพม่ิ ให้ 5 ใน 100 คะแนนรวมท้งั สิ้น
2.1.3 การยกเว้นการเรียกมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
นกั ศึกษาวิชาทหารที่อยู่ในระหว่างการเข้ารับฝึกวิชาทหารจะไดรับสิทธ์ิในการยกเว้นการตรวจ
เลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการในยามปกตติ าม พ.ร.บ. รบั ราชการทหาร พ.ศ. 2497
2.1.4 การลดวันรับราชการทหารกองประจำการของนกั ศกึ ษาวชิ าทหารซงึ่ สำเรจ็
การศกึ ษา ตามกลักสตู รทก่ี ระทรวงกลาโหม (กห.) กำหนดมดี ัง่ น้ี
2.1.4.1 ผสู้ ำเรจ็ การฝึกวชิ าทหารช้นั ปที ่ี 1 รบั ราชการทหารกองประจำการ 1 ปี
6 เดือนแตถ่ ้ารอ้ งเขา้ รบั ราชการกองประจำการไดส้ ทิ ธิรับราชการเพยี ง 1 ปี
2.1.4.2 ผู้สำเรจ็ การฝึกวิชาทหารช้ันปที ี่ 2 รับราชการทหารกองประจำการ 1 ปี
แต่ ถา้ ร้องขอเขา้ รบั ราชการกองได้สทิ ธิรบั ราชการเพยี ง 6 เดอื น
2.1.4.3 ผสู้ ำเร็จการฝึกวิชาทหารชัน้ ปีที่ 3 ใหข้ ้ึนทะเบยี นกองประจำการ แล้ว
ปลดเปน็ ทหารกองหนุนโดยมิตอ้ งเข้ารบั ราชการในกองประจำการ
2.2 เมือ่ สำเรจ็ การศกึ ษา นกั ศกึ ษาวิชาทหารท่สี ำเรจ็ ฝึกวิชาทหารจะไดร้ บั การแตง่ ตงั้
ยศตามระเบยี บกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแตง่ ต้ังยศผสู้ ำเรจ็ การฝกึ วิชาทหารตามหลกั สูตร
กลาโหมวา่ ด้วยการส่งเสริมการฝึกวชิ าทหาร พ.ศ.2538
2.3 ขอ้ ผกู พนั ต่อทางราชการทหาร เม่ือสำเร็จการฝกึ วชิ าทหารตามหลกั สตู รการฝกึ
วชิ าทหารช้ันปที ่ี 3 แลว้ จะต้องเข้ารบั ราชการทหารในการเรยี กพลตามที่ทางการได้หมายเรยี ก
ค่มู ือนกั เรียน โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 24
พลหรือด้วยวิธใี ดใหไ้ ปรับราชการทหารดังกลา่ ว มีกำหนดเวลา 10 ปี ตามระบบควบคมุ กำลัง
สำรองนับต้งั แต่วันทีส่ ำเรจ็ การฝึกวิชาทหารชัน้ ปที ี่ 3 และเม่ือถกู เรยี กพลให้ถอื ว่าเป็นปแี รก
เงอ่ื นไขทผี่ ูกพัน หากหลีกเลย่ี ง, ขดั ขนื ไม่ปฏิบัตติ ามจะไดร้ บั โทษตามพระราชบญั ญตั ิ รบั
ราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 2647
งานกิจกรรมรกั ษาดินแดน (ร.ด)
การฝึก-ศึกษาวิชาหารของนกั เรยี น (นศท.) จะต้องเรียนให้ตรงตามช้นั ปี กบั ระดับช้ัน
เรยี น โดย
การเรียนช้ันปีท่ี 1 ต้องศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 และต้องอยู่ชุมนุมยุวชนรักษาดินแดน
โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ)
การเรียนช้ันปที ี่ 2 ตอ้ งศกึ ษาอยู่ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 และต้องอยูช่ ุมนุมยุวชนรักษาดนิ แดน
โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุร(ี ในโครงการพระราชดำริ)
การเรียนชั้นปีท่ี 3 ต้องศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และต้องอยู่ชุมนุมยุวชนรักษาดินแดน
โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุร(ี ในโครงการพระราชดำร)ิ เข้าเรียนไม่ตรงตามช้ัน
ปี ต้องรอรบั สทิ ธก์ิ ่อน
การตดิ ตอ่ ของนกั ศึกษาวิชาทหาร
นักศึกษาวิชาทหารที่มีข้อสงสัยในการปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเข้ารับฝึกสิทธิ
วันหยุด การข้อยกเว้น การสมัคร การรายงานตัว การผ่อนผันการเข้ารักการเกณฑ์ทหาร การ
เปล่ียน ชื่อ-สกุล เป็นต้น ให้ติดต่อที่งานกิจกรรมรักษาดินแดน ผกท. ไพโรจน์ สารารัมย์
088-4588478
คมู่ ือนักเรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 25
ระเบยี บการสำหรับนักเรียนประจำหอพกั
ของโรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี
1. ระเบยี บการสมัครเปน็ นักเรียนประจำหอพกั
ทางงานนักเรียนประจำหอพักรับดูแลนักเรยี นบ้านไกลทุกระดับช้ัน การเข้าเป็นนักเรียน
ประจำหอพกั ของนักเรียน จะต้องอยู่ในในความรับผิดชอบของโรงเรียน
2. การติดต่อผู้ปกครองกบั นักเรยี น
วนั ธรรมดาใหต้ ดิ ตอ่ ผา่ นห้องประชาสมั พนั ธ์
- วันเสาร์อาทิตย์ ให้ติดต่อผ่าน ครูเวรประจำวันห้องธุรการหรือติดต่อ ทางเบอร์
โทรศพั ท์ 034 –684266
- ผู้ปกครองควรแจ้งให้ทางโรงเรียนและงานนักเรยี นประจำหอพักทราบโดยเร็วที่สุด
เม่ือมีการเปล่ียนแปลงท่ีอยู่หรือ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองเพื่อความรวดเร็ว ในการ
ติดต่อเมอ่ื มีความจำเปน็
- ทกุ ครั้งท่ีผ้ปู กครองมาพบปะหรือเยี่ยมเยียนลูกหลาน กรุณาแจ้งครูดูแลหอพักหรือ
ครูเวรประจำวนั ได้ ห้ามพานักเรยี นออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไม่ได้รบั อนญุ าตเด็ดขาด
- หา้ มผ้ปู กครองนักเรียน เข้าไปในบริเวณหอพักนักเรียนทั้งหญิงและชายโดยไม่ไดร้ ับ
อนุญาต
3. การกลบั บ้าน
ทางงานหอพักนกั เรยี นประจำอนญุ าตใหน้ กั เรียนกลับบา้ นไดใ้ นเสาร์ – อาทติ ย์ ของ
ทกุ สน้ิ เดอื นและวันหยดุ ตามปฏทิ นิ โรงเรียนหรอื วันหยดุ นกั ขตั ฤกษต์ ดิ ต่อกนั หลายวัน ซึ่งแลว้ แต่
ทางโรงเรยี นกำหนดทางโรงเรยี นจะอนุญาตใหน้ กั เรยี นประจำหอพกั กลับบ้านได้ มี 2 กรณี
1. ใหน้ ดั กบั ผปู้ กครองดว้ ยตนเอง โดยหากเปน็ วนั หยดุ เสาร์ - อาทิตย์ ให้ผปู้ กครองมา
รบั ไดต้ ้ังแตเ่ วลา16.00 – 18.00 ของวนั ศกุ ร์ โดยทผี่ ูป้ กครองทมี่ ารบั จะต้องเขา้ พบผดู้ แู ลงาน
นักเรยี นประจำท่ีหอ้ งธรุ การ เพือ่ แจง้ ใหท้ ราบและเซ็นหลกั ฐานการมารับของผปู้ กครอง
2. กรณีผ้ปู กครองไมไ่ ดม้ ารบั ด้วยตัวเองใหโ้ ทรศพั ทแ์ จ้งครปู ระจำหอพกั
3. ในวันกลับเข้าทพี่ กั นกั เรียนจะต้องรายงานตัวกอ่ นเวลา 17.00 น. ของวนั สดุ ท้าย
ทห่ี ยุดเรยี นและให้ผู้ปกครองทีม่ าส่ง เซ็นเปน็ หลักฐาน โดยผดู้ แู ลจะเป็นผเู้ ซน็ รับรอง กรณกี ลับ
โรงเรยี นหลังจากวันเวลาดงั กลา่ วใหโ้ ทรศัพท์แจ้งครูประจำหอพัก หรอื ครูเสาวคนธ์ ชนะรัตน์
เบอรโ์ ทร 084-8601986 (กรณีนกั เรยี นหญงิ ) ครูกำธร สงั ข์มา เบอร์โทร 081-3835020
(กรณีนกั เรยี นชาย)
คู่มือนกั เรียน โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 26
งานกลมุ่ บริหารงานกจิ การนักเรยี น
ขอ้ ตกลงร่วมระหวา่ งครู – นกั เรียน – ผ้ปู กครอง
โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) กำหนดระเบยี บให้นักเรยี น
ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนให้ถกู ต้องเหมาะสมกบั สภาพของการเป็นนกั เรียน ดังต่อไปน้ี
1. มสี ถานภาพโสด
2. มอี ายุระหว่าง 12 – 18 ปี
3. นักเรียนตอ้ งปฏบิ ัตติ ามกฎ ข้อบงั คับ ระเบยี บ และคำส่ังต่าง ๆ ของทางโรงเรยี น
โดยเครง่ ครดั
4. นกั เรียนต้องปฏเิ สธส่งิ ทเ่ี ปน็ ความช่ัวหรอื ส่งิ ท่ีไมด่ ที ง้ั หลายอันจะเป็นผลกระทบตอ่
ตนเองและส่วนรวม
5. นักเรยี นต้องแตง่ เครอ่ื งแบบนักเรยี น ชุดพลศกึ ษา เครือ่ งแบบลกู เสอื -เนตรนารี ให้
ถูกตอ้ งเรียบรอ้ ยตามระเบยี บของทางโรงเรียนก่อนออกจากบ้านตลอดจนอย่ใู นและนอก
โรงเรียน (เม่อื อยใู่ นเคร่ืองแบบหรอื ชดุ น้ัน ๆ)
6. นกั เรียนตอ้ งเคารพและเชอ่ื ฟงั บิดา มารดา ครู อาจารย์ และบคุ คลอืน่
7. นักเรยี นตอ้ งมกี ิรยิ าวาจาสุภาพเรยี บร้อยและรักษามารยาทวัฒนธรรมอนั ดงี าม
8. นกั เรยี นต้องไม่นำสิ่งอื่นใด นอกจากอปุ กรณก์ ารเรียนมาโรงเรยี น
9. นักเรยี นต้องไมท่ ำลายทรัพย์สนิ ของโรงเรยี นและสาธารณะ รวมท้งั ไมก่ ระทำส่งิ
ใดๆ อันจะนำมาซ่งึ ความเสียหายแกช่ อ่ื เสยี งของโรงเรยี น
10. นกั เรียนตอ้ งรู้และเขา้ ใจในสิทธแิ ละหน้าที่ของตนเองตลอดจนรจู้ กั เคารพสิทธิ
หนา้ ทขี่ องผ้อู นื่ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย
11. นกั เรียนตอ้ งจัดแถวใหม้ ีระเบยี บเรยี บรอ้ ย เงียบ และน่ิงรอรบั คำสงั่ จากครูทกุ
ครัง้ ท่ีมกี ารเข้าแถว
12. นักเรยี นต้องให้ความรว่ มมอื กบั โรงเรยี นในการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ทั้งในและนอก
โรงเรียนอันจะนำชื่อเสยี งมาสโู่ รงเรียน
13. ห้ามนักเรียนสบู บุหร่ี เสพสง่ิ เสพติด และเคร่อื งดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทกุ ชนิด
ตลอดจนไม่ครอบครองส่งิ ดังกลา่ ว
14. หา้ มนักเรียนเลน่ การพนนั ทกุ ชนดิ ในทกุ สถานที่ และห้ามมว่ั สมุ ในสถานเรงิ รมย์
ร้านเกม หรือแหลง่ อบายมุขต่างๆ ตลอดทง้ั การเท่ียวเตรเ่ กนิ เวลาที่ทางราชการกำหนด
15. หา้ มนกั เรยี นนำหรอื มสี ื่อลามกอนาจารไว้ในครอบครอง
คมู่ อื นักเรียน โรงเรยี นร่มเกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 27
16. หา้ มนกั เรียนพกพาอาวธุ วัตถสุ ิง่ ของอน่ื ทใี่ ช้แทนอาวุธ วตั ถรุ ะเบิด และ/หรือก่อ
เหตุทะเลาะวิวาท ทำรา้ ยรา่ งกาย กา้ วรา้ ว ขม่ ขู่ กรรโชกทรัพย์ ข่มเหง รังแก ลกั ทรพั ย์ของผ้อู ื่น
ท้งั ในและนอกโรงเรียน
17. ห้ามนกั เรยี นนำหรือสวมใส่เครอ่ื งประดบั วตั ถหุ รอื ทรัพยส์ นิ มีคา่ และของใชท้ ่ี
เกนิ ความจำเป็นมาโรงเรยี น (ยกเว้นนาฬิกาและสรอ้ ยคอสเตนเลสคล้องพระทสี่ วมศรี ษะได้)
18. หา้ มนกั เรยี นเจาะหรอื สกั ตามสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย
19. ห้ามนักเรยี นใช้เครือ่ งมอื ส่อื สาร อาทิ โทรศัพทม์ ือถือ อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์
อุปกรณด์ หู นงั ฟังเพลง และเกมทกุ ชนดิ ในเวลาเรยี น
20. นกั เรยี นจะพ้นสภาพการเป็นนกั เรียนเมื่อเข้าพิธีสมรสตามประเพณีสากล
ประเพณีท้องถนิ่ และหรอื ตง้ั ครรภ์ในระหว่างเรยี น ใหพ้ ้นสภาพการเปน็ นักเรยี นทั้งหญงิ และ
ชาย
คมู่ อื นกั เรยี น โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 28
ระเบยี บโรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
หมวดที่ 1 ว่าด้วยหนา้ ทข่ี องนกั เรยี นโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ)
ส่วนที่ 1 บทบาทหนา้ ท่ี
1. ตอ้ งแตง่ เคร่อื งแบบนักเรียน ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ร.ด. ตามทโี่ รงเรยี นกำหนดอยา่ งถูกต้อง
2. ต้องสนใจและมีความรบั ผิดชอบในการเรียน
3. ต้องประพฤตติ นตามกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ และขอ้ ตกลงของโรงเรยี น
4. ตอ้ งเชอื่ ฟัง ไมก่ ้าวร้าวตอ่ คณุ ครทู กุ ทา่ น
- ไม่หนีเรยี นหรือโดดเรยี น - ไม่เล่นการพนนั
- ไมล่ กั ทรัพย์ - ไมร่ วมกล่มุ น่งั ตามหอ้ งสว้ ม
- ไม่สบู บหุ รแี่ ละสง่ิ เสพติด - ไมม่ าสาย
- ไม่มั่วสมุ อบายมุขตา่ งๆ
5. ต้องมาโรงเรยี นใหท้ ันสัญญาณเรียกเขา้ แถว เวลา 08.00 น.
6. ต้องมคี วามขยัน มีความประหยัด มีความซื่อสตั ย์ มกี ารตรงตอ่ เวลา มีนำ้ ใจ มคี ุณธรรม
จรยิ ธรรม
7. ต้องพูดจาแสดงกริ ิยาสภุ าพอ่อนโยน มีสมั มาคารวะ
8. ตอ้ งมคี วามเสยี สละ มีจติ อาสา รักษาทรพั ย์สนิ สมบตั ขิ องโรงเรยี น
9. ต้องมคี วามสามัคคใี นหมู่คณะ ร่นุ นอ้ งนบั ถอื รุ่นพ่ี และร่นุ พี่ประพฤติตัวเป็นตวั อยา่ งทีด่ ี แก่
ร่นุ น้อง
10. ตอ้ งสร้างชอ่ื เสียงและใหเ้ กียรตติ อ่ สถาบนั โรงเรยี น
11. ตอ้ งพฒั นาความรู้ ร่างกาย จติ ใจ สติปญั ญา ความสามารถและสงั คมตลอดเวลา
สว่ นที่ 2 การปฏิบตั ติ นในการมาโรงเรยี นและเข้าเรียน
1. แตง่ กายดว้ ยเครอ่ื งแบบนกั เรียน หรอื เครอ่ื งแต่งกายท่ีถกู ตอ้ งและเรยี รอ้ ยตลอดเวลา ที่
เดนิ ทางไป-กลบั จากโรงเรยี น ขณะอยู่ในโรงเรยี นและการไปทำกิจกรรมนอกโรงเรียน
2. ในวันหยดุ ราชการ นักเรยี นท่ีเขา้ มาติดต่อต้องแต่งชุดเครอ่ื งแบบนักเรียนหรือชดุ พละของ
โรงเรยี น
3. ให้นำรถจักรยานหรือจักรยานยนตเ์ ขา้ มาจอดในท่ีบริเวณที่จอดรถตามที่โรงเรยี นกำหนด
4. ให้ลงรถตามจดุ ทีก่ ำหนดและทำความเคารพคุณครูดว้ ยความนอบน้อม
คู่มือนกั เรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 29
5. ไม่พกพาอาวธุ ไมน่ ำส่งิ ของมนึ เมาเข้ามาในโรงเรยี น ไม่นำของมคี า่ มาโรงเรียน ไม่ทา
ใบหนา้ และตกแต่งเครือ่ งประดับใด ๆ ทงั้ ส้นิ
6. แสดงความเคารพคณุ ครูดว้ ยการยกมือไหว้
7. ต้องเขา้ แถวทำกจิ กรรมเคารพธงชาติ – สวดมนต์ – แผเ่ มตตา – ร้องเพลงโรงเรยี น ช่วงเชา้
กอ่ นเข้าหอ้ งเรียน
8. ไมอ่ อกจากโรงเรียนกอ่ นเวลาโรงเรยี นเลกิ โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต
9. ไมอ่ ยูใ่ นบรเิ วณโรงเรียน โดยไมม่ ีครคู วบคมุ หรือเกินเวลาที่กำหนด
10. ตอ้ งทำความเคารพคณุ ครูทกุ คนและผ้ทู ม่ี าเยอื นโรงเรยี นเมือ่ พบปะ
11. เม่อื มีความจำเปน็ ตอ้ งหยดุ เรยี น นกั เรยี นหรือผู้ปกครองต้องแจง้ ใหท้ ราบ
12. ไม่นำบุคคลภายนอกเขา้ มาในโรงเรยี นโดยมิไดร้ ับอนุญาตจากทางโรงเรยี น
ส่วนที่ 3 การขออนุญาตกลบั บ้านกอ่ นเวลาและการขออนญุ าตออกนอกบริเวณโรงเรียน
1. เมือ่ นกั เรียนมคี วามจำเปน็ ตอ้ งกลบั บ้านกอ่ นโรงเรียนเลกิ ต้องแจง้ ใหค้ รูประจำช้นั /หวั หนา้
ระดับชัน้ /ครฝู า่ ยกจิ การนักเรยี นทราบ และใหผ้ ปู้ กครองมารับด้วยตนเอง กรณใี หผ้ ู้อ่นื มารบั
ต้องมีหนงั สือยนิ ยอมจากผปู้ กครองพร้อมบตั รประจำตวั ของผมู้ ารับและของผ้ปู กครองมาแสดง
ทห่ี อ้ งปกครอง
2. เมอ่ื ไดร้ ับอนญุ าตแลว้ ใหก้ รอกข้อความในใบอนญุ าตใหค้ รบถ้วนตามขน้ั ตอนแลว้ ให้ครู
ประจำหอ้ งปกครองลงลายมืออนญุ าต
3. ในกรณเี จ็บปว่ ยกะทันหัน จะอนุญาตใหก้ ลับบ้านได้ตอ้ งอยู่ในดุลพินจิ ของครฝู า่ ยพยาบาล
4. เมื่อนักเรียนตอ้ งการขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน อันเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงเรยี น
ต้องใหค้ รผู รู้ บั ผิดชอบกิจกรรมนน้ั ๆ ลงช่อื รับรอง เพ่อื ขออนญุ าตจากหัวหน้าฝา่ ยกิจการ
นกั เรยี น
5. การออกนอกบริเวณโรงเรยี นโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาตถือว่าหนเี รยี น
หมวดท่ี 2 ว่าด้วยการแต่งกายของนกั เรียนโรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบุรี
ส่วนที่ 1 การแตง่ กายนักเรยี น
ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเคร่ืองแบบนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.
2558 โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) จึงออกระเบียบว่าด้วยการแต่ง
กายนกั เรยี นให้เหมาะสมกับสภาพการณป์ ัจจุบนั จงึ กำหนดเครอื่ งแบบนักเรยี นไว้ ดังต่อไปน้ี
1. หมวดนีเ้ รยี กว่า “หมวดว่าดว้ ยการแต่งกายนักเรียน”
2. นักเรียนโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) ทุกคน ต้องปฏิบัติตาม
ระเบยี บข้อน้อี ย่างเคร่งครัด
คมู่ อื นักเรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 30
3. เครอ่ื งแบบท่กี ำหนดให้
ก. เครอื่ งแบบชุดนกั เรยี นชายม.ต้น และ ม.ปลาย
คมู่ ือนักเรยี น โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 31
ข. เครื่องแบบชดุ นกั เรยี นหญิงมธั ยมศึกษาตอนตน้
ค่มู ือนกั เรยี น โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 32
ค. แบบเสื้อนกั เรียนหญงิ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
คู่มอื นักเรยี น โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 33
ง. เครื่องแบบชุดพลศกึ ษาช้นั มธั ยมศึกษาตอนต้น
ค่มู ือนักเรยี น โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 34
จ. เครื่องแบบชุดพลศกึ ษาช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
คู่มอื นกั เรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 35
ส่วนที่ 2 ทรงผมนักเรียน
ก. ทรงผมนกั เรยี นชาย
1. นกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาตอนต้น
- ผมนักเรยี นชาย ใหต้ ดั ผมเกรยี นทง้ั ด้านขา้ งและดา้ นหลังผมบนศรี ษะยาวไมเ่ กนิ 2
ซม. หรอื ตัดผมรองทรงสงู ด้านขา้ งโดยรอบตัดสั้นเกรียน ด้านบนยาวไม่เกิน 5 ซม. ไม่หวแี สก
กลางหรือหวเี สยตง้ั ไม่ไวห้ นวดเครา ไมใ่ สน่ ำ้ มนั หรอื เยล และไมเ่ ปลยี่ นสผี ม
โรงเรยี นกำหนดใหน้ ักเรียนทุกคนตดั ผมเดอื นละหนงึ่ ครั้ง (ตรวจผมทกุ ต้นเดอื น)
คมู่ อื นกั เรียน โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 36
ข. ทรงผมนกั เรยี นหญิง
1. นกั เรยี นหญงิ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ทรงผม นักเรยี นหญิงจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณไี ว้ผมยาวให้เปน็ ไปตามความ
เหมาะสม และรวบใหเ้ รยี บร้อย ใหไ้ วท้ รงผมความยาวตัดเปน็ แนวตรงเสมอเท่ากนั หมดท้งั
ด้านหนา้ และดา้ นหลัง แสกขา้ งใดขา้ งหน่ึง กิ๊บสดี ำให้ใชเ้ ฉพาะสดี ำเพยี งสีเดยี ว ตดิ ผมให้
เรียบร้อยและตดิ โบว์ใช้สกี รมทา่ แบบชนั้ เดยี ว ไม่มลี วดลาย ถ้านกั เรยี นหญงิ จะไว้ทรงผมสน้ั
ให้ความยาวของผมเทา่ กบั ปกเส้อื ขอบบน ห้ามซอยหรอื ดดั ห้ามตดั หน้าม้า หรือไวจ้ อนเปดิ หู
ห้ามยอ้ มผม หรือกระทำด้วยวิธอี น่ื ใดให้มีสผี ดิ จากธรรมชาติ ผมทไี่ วย้ าวจะไวย้ าวไดไ้ มเ่ กิน
ก่งึ กลางสะบักหลัง (ขอบบนของเส้ือชนั้ ใน)
คู่มือนกั เรียน โรงเรยี นร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 37
แนวทางปฏิบตั ิตนของนกั เรียน
1. นักเรยี นตอ้ งมาโรงเรียนใหท้ ันกอ่ นสัญญาณเรียกแถวเคารพธงชาตติ ามเวลาที่
โรงเรยี นกำหนดไว้ หากนกั เรยี นมาโรงเรยี นหลังจากแยกเขา้ ห้องเรยี นแล้วต้องปฏิบตั ดิ ังนี้
1.1 ลงช่ือในสมุดบันทึกการมาสายของนกั เรียนท่ปี ้อมยาม
1.2 นักเรยี นท่ีมาสายเกนิ 3 คร้งั ใน 1 สปั ดาห์ โดยไม่มีเหตผุ ลงานปกครองจะ
ดำเนนิ การอยา่ งใดอย่างหนึ่งดงั ตอ่ ไปน้ี
1.2.1 มอบใหค้ รทู ่ีปรกึ ษาพจิ ารณาและลงโทษ
1.2.2 ฝา่ ยปกครองพิจารณาลงโทษ
1.2.3 เชิญผ้ปู กครองมาพบ
2. หากนกั เรียนจำเป็นตอ้ งมาโรงเรียนสาย ให้นำหนงั สอื รบั รองจากผปู้ กครองแจง้ ให้
ฝ่ายปกครองทราบ หรือผู้ปกครองมาแจ้งด้วยตนเองก็ได้
3. นักเรียนคนใดไมม่ าโรงเรยี นและไม่ส่งใบลาให้ถอื ว่าหลบหนโี รงเรียน
4. ใหห้ ัวหน้าสำรวจรายช่ือนักเรียนทข่ี าดเรยี นและลงช่ือผ้ขู าดเรียนในสมุดบันทึกผู้ขาด
เรยี นในหอ้ งปกครอง เมอ่ื หมดเวลาเรียนคาบแรก
5. การหยดุ เรียนทุกครงั้ เป็นหน้าที่ของนกั เรียนทจี่ ะตอ้ งย่นื ใบลากจิ หรอื ลาป่วยตอ่
คณุ ครูท่ีปรึกษาตามเหตผุ ลท่เี ปน็ จริงของวนั ทีล่ า ยกเว้นไมส่ ามารถสง่ ใบลาได้เพราะเหตจุ ำเป็น
ใหส้ ง่ ใบลามายงั คณุ ครทู ปี่ รกึ ษาตามเหตผุ ลทเ่ี ป็นจริงของวนั แรกทล่ี า ยกเว้นไมส่ ามารถสง่ ใบลา
ไดเ้ พราะเหตจุ ำเป็น ใหส้ ่งใบลามายังคณุ ครูท่ีปรกึ ษาในวันแรกท่มี าเรยี น
การตรวจค้นนักเรียน
เพ่ือมใิ หน้ ักเรียนนำส่งิ ของทไี่ ม่มีประโยชน์ หรือสิ่งท่ีเปน็ อันตรายต่อโรงเรียนและเพือ่ น
นักเรยี นนำมาโรงเรียน จะดำเนินการดังนี้
1. การตรวจอาจดำเนินการในห้องเรยี น หน้าเสาธงหรอื ท่ีใดกไ็ ดโ้ ดยไมแ่ จง้ ให้ทราบ
ลว่ งหนา้
2. สิ่งทตี่ รวจค้นไดห้ ากเป็นสิ่งทผี่ ดิ กฎหมาย โรงเรยี นจะรบิ ไว้ หรอื ทำลายหรอื เชิญ
ผปู้ กครองมารับคนื แลว้ แตก่ รณี พรอ้ มท้ังพิจารณาโทษแกน่ กั เรียน
คมู่ ือนักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 38
3. ถ้าเป็นส่งิ ผดิ กฎหมายร้ายแรงจะสง่ เจา้ หนา้ ทตี่ ำรวจดำเนนิ การแล้วพิจารณาโทษแก่
นกั เรียน
4. ถ้าเปน็ สิ่งทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ อันตรายแกร่ า่ งกายและชีวิต โรงเรยี นจะลงโทษสถานหนกั
ค่มู อื นกั เรียน โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 39
ประกาศระเบยี บโรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำร)ิ
เรื่อง วา่ ดว้ ยความประพฤติการลงโทษการตดั คะแนนและ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องนักเรยี น
......................................................
สว่ นที่ 1 การตดั คะแนนพฤตกิ รรมของนักเรยี น
เพ่ือให้การดูแลแก้ไขพฤติกรรมนักเรียน มีหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเป็นไปด้วย
ความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และเพ่ือให้คะแนนความประพฤติเป็นเกณฑ์การพิจารณา
แก้ไขความประพฤตินักเรียนที่ไม่เหมาะสมตลอดจนเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกจึงวาง
ระเบยี บว่าด้วยคะแนนความประพฤตนิ ักเรียนไว้ดงั นี้ ขอ้ 1 หมวดนเ้ี รยี กวา่ หมวดว่าด้วยยการ
ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนมีคุณลกั ษณะพงึ ประสงค์และการตดั คะแนนพฤตกิ รรมของนกั เรยี น”
ข้อ 2 ระเบียบน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันประกาศผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ
สถานศึกษาลงนามอนญุ าต
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) ว่า
ดว้ ยการลงโทษนกั เรยี นหรือนักศกึ ษา ฉบบั หนา้ นห้ี รือฉบบั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง
ขอ้ 4 ในระเบียบน้ี
“ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนร่มเกล้า
กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบุรี (ใน
โครงการพระราชดำร)ิ หรอื ผู้ท่ไี ด้รับการแตง่ ตง้ั มอบหมายจากผอู้ ำนวยการ
“กระทำความผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติฝ่าฝื น
ระเบียบ ข้อบังคับ ของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวง ว่าด้วย
ความประพฤตขิ องนักเรียนละนกั ศกึ ษา
“การลงโทษ” หมายความวา่ การลงโทษนักเรียนหรือนกั ศกึ ษาทก่ี ระทำความผดิ โดย
มคี วามมุ่งหมาย เพือ่ การอบรมสงั่ สอน
ข้อ 5 โทษท่ีจะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี 4 สถานโดย
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าดว้ ยการลงโทษนกั เรียนนกั ศึกษา พ.ศ. 2548 ดังน้ี
1. ว่ากลา่ วตักเตือน
2. ทำทัณฑ์บน
3. ตัดคะแนนความประพฤติ
คู่มือนกั เรียน โรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 40
4. ทำกิจกรรมเพ่ือให้ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม จนถึงการยา้ ยสถานศึกษา
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีการรุนแรงหรือแบบกลั่นแกล้งหรือ
ลงโทษดว้ ย ความโกรธหรือดว้ ยความพยาบาท โดยคำนงึ ถงึ อายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และ
ความร้ายแรงของพฤติการณ์ ประกอบการลงโทษด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้
เป็นไปเพ่ือเจตนาท่ีจะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดี ของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกใน
ความผดิ และกลับประพฤตติ นในทางทีด่ ตี ่อไปใหผ้ ้บู รหิ ารโรงเรียนหรือ สถานศึกษาให้ผู้บรหิ าร
โรงเรียนสถานศึกษามอบหมายเป็นผมู้ ีอำนาจในการลงโทษนักเรียน นักศึกษา
ข้อ 7 การว่ากล่าวตักเตือน ใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษากระทำความผิดไม่
รา้ ยแรง ใหเ้ ปน็ อำนาจของครูทพี่ บเห็นการกระทำความผดิ เปน็ พจิ ารณาลงโทษ
ข้อ 8 การทำทัณฑ์บนใชใ้ นกรณีนกั เรยี นหรอื นกั ศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าดว้ ยความ
ประพฤติ นักเรียนหรือนักศึกษาหรือกรณี ทำให้เสื่อมเสียช่ือเสียงและเกียรติศักด์ิของ
สถานศึกษาหรือฝา่ ฝืนระเบียบของ สถานศึกษาหรอื ได้รบั โทษวา่ กล่าวตกั เตือนแล้วแตย่ ังไมเ่ ข็ด
หลาบ ให้เป็นอำนาจของครูหัวหน้าระดับชั้น รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน
เป็นผู้พิจารณาโทษการทำทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดา มารดาหรือผู้ปกครองมา
บันทกึ รับทราบความผดิ และรบั รองการทำทณั ฑ์บนไว้ด้วย
ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ ว่าด้วยการตัด
คะแนนความประพฤตนิ กั เรยี นหรือนักศึกษาของแต่ละสถานศกึ ษากำหนด และให้บันทึกขอ้ มูล
ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานให้เป็นอำนาจของ
- นักเรียนถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน ให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้า
ระดับชั้นเป็นผู้พิจารณา แล้วส่งผลการตัดคะแนนให้รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานกิจการ
นกั เรยี น
- นักเรียนถูกตัดคะแนนความประพฤติ 20 คะแนน ให้หัวหน้าระดับชั้น และรอง
ผ้อู ำนวยการกลมุ่ บริหารงานกิจการนักเรียนเปน็ ผพู้ ิจารณา
- นักเรียนถูกตัดคะแนนความประพฤติ 40 คะแนนข้ึนไป ให้อำนาจของรอง
ผ้อู ำนวยการกลุม่ บริหารงานกจิ การนักเรียนเปน็ ผู้พจิ ารณา แลว้ นำเสนอผอู้ ำนวยการโรงเรียน
- นักเรียนถูกตัดคะแนนความประพฤติ 70 คะแนนข้ึนไป ให้คณะกรรมการงาน
ปกครองเป็นผู้พจิ ารณา แล้วนำเสนอผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเปน็ ผอู้ นมุ ัติ
ข้อ 10 ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปล่ียนพฤติกรรม ใช้ในกรณีที่นักเรียนและนักศึกษา
กระทำความผิดที่สมควรต้องปรับเปล่ียนพฤติกรรม ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการงาน
ปกครองเปน็ ผูพ้ ิจารณาดำเนนิ การทำกิจกรรมเพือ่ ปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรม ดังต่อไปนี้
ค่มู อื นักเรียน โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 41
- นักเรียนท่ีถูกตัดคะแนนความประพฤติสะสมถึง 40 คะแนน ทำกิจกรรมเพ่ือ
ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม บำเพญ็ ประโยชน์ จำนวน 5 วัน โรงเรียนจัดกจิ กรรรม ผูร้ บั ผดิ ชอบ ครูที่
ปรึกษา และหวั หน้าระดบั ช้ัน
- นักเรียนท่ีถูกตัดคะแนนความประพฤติสะสมถึง 50-60 คะแนน ทำกิจกรรมเพ่ือ
ปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรม บำเพ็ญประโยชน์ จำนวน 10 วัน โรงเรยี นจัดกจิ กรรรม ผูร้ ับผิดชอบ ครู
ทป่ี รกึ ษา และหัวหน้าระดบั ชัน้
- นักเรียนท่ีถูกตัดคะแนนความประพฤติสะสมถึง 70 คะแนน ทำกิจกรรมเพ่ือ
ปรับเปล่ียนพฤติกรรม บำเพ็ญประโยชน์ จำนวน 20 วัน โรงเรียนจัดกิจกรรรม ผู้รับผิดชอบ
ผู้ปกครอง ครทู ี่ปรึกษา หวั หนา้ ระดับชนั้ หัวหน้างานปกครอง
- นักเรียนท่ีถูกตัดคะแนนความประพฤติสะสมถึง 80-90 คะแนน ทำกิจกรรมเพื่อ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บำเพ็ญประโยชน์ จำนวน 30 วัน โรงเรียนจัดกิจกรรรม ผู้รับผิดชอบ
ผู้ปกครอง ครทู ี่ปรกึ ษา และหัวหน้าระดับชน้ั
- นักเรยี นท่ีถูกตัดคะแนนความประพฤติสะสมถึง 100 คะแนน ให้เชิญผู้ปกครองมา
พบเพ่อื รบั ทราบผลท่ีนกั เรียนจะต้องพิจารณาให้พน้ สภาพนักเรียนโรงเรียนรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี
(ในโครงการพระราชดำริ)
ข้อ 11 นักเรียนที่ประพฤติผิดระเบียบโรงเรียนตั้งแต่กระทำความผิดข้อ 2,3,4 ทำ
หนังสือเชญิ ผปู้ กครองมาพบใหบ้ นั ทึกทุกครงั้
ข้อ 12 โรงเรียนจะประกาศรายช่ือนักเรียนท่ีต้องเข้ารับการอบรมพัฒนาความ
ประพฤติและมีหนังสือแจ้งผู้ปกครองให้ทราบเพ่ือชำระค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมเพื่อ
ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อ 13 นกั เรยี นทกี่ ระทำความผิดถูกตัดคะแนนสะสม 100 คะแนนขึน้ ไป จะตอ้ งหยุด
เรียน เพือ่ รอผลการอนมุ ัตขิ องผ้อู ำนวยการโรงเรียน
ข้อ 14 การตรวจสารเสพติดทุกชนิด คณะกรรมการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน
สามารถตรวจไดเ้ ลยโดยไม่ตอ้ งขออนุญาตผ้ปู กครอง
ข้อ 15 ให้ฝ่ายบริหารงานกิจการนักเรียน/ งานปกครองนักเรียนโรงเรียนร่มเกล้า
กาญจนบุรี ( ในโครงการพระราชดำริ) รักษาการใช้เป็นไปตามระเบียบน้ีและให้มีอำนาจ
ตคี วาม และวนิ ิจฉยั ปญั หาเกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ ามระเบยี บน้ี
คู่มือนักเรียน โรงเรียนร่มเกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำร)ิ 42
ข้อ ลักษณะความผดิ คะแนน บทลงโทษ
ท่ถี กู ตัด
1 รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
- หลกี เลี่ยงไม่ร่วมเข้าแถวเคารพธงชาติ 5 - วา่ กล่าวตกั เตอื น
- ไมก่ ระทำพธิ ีทางศาสนาด้วยความเตม็ ใจ 5 - วา่ กลา่ วตกั เตือน
- ไม่เปน็ นกั เรยี นที่ดีของโรงเรยี นและประเทศ 5 - วา่ กล่าวตกั เตือน
- มาไม่ทันเขา้ แถว/มาสาย 5 - วา่ กลา่ วตกั เตือน
2 ซื่อสัตย์ สุจริต 10 - แจง้ ผู้ปกครอง
- ทจุ รติ การสอบ 10 - แจง้ ผู้ปกครอง
- โกหก กลา่ วเทจ็ เปน็ เหตุให้เกิดความเสยี หาย 10 - ว่ากลา่ วตักเตอื น
- ไมแ่ จง้ เอกสารของโรงเรยี นให้ผปู้ กครองทราบ 10 - ว่ากลา่ วตกั เตอื น
- ปีนรว้ั กำแพง , ประตูโรงเรียน (เข้า-ออก) 5 - ว่ากลา่ วตกั เตือน
- เดนิ แถว หรอื ข้ึน ลงบนั ไดไมช่ ดิ ขวา 5 - ว่ากลา่ วตกั เตือน
- รบั ประทานอาหารไมต่ รงเวลาทก่ี ำหนด 10 - แจ้งผปู้ กครอง
- ปลอมลายมอื ผู้ปกครอง ครูช่ือ และฝา่ ยบริหาร
โรงเรียน 10 - เชิญผปู้ กครอง
- นำผ้ปู กครองที่ไม่ใช่ผูป้ กครองของตนเองมาแทน 5 - ว่ากล่าวตกั เตอื น
- ซ้อื อาหารจากริมร้ัวหรอื รบั ประทานอาหารนอก
โรงเรยี นในเวลาเรยี น 5 - ว่ากล่าวตกั เตือน
- ขีด,เขยี นทำความสกปรกบนโตะ๊ ,ฝาผนงั 10 - ว่ากลา่ วตกั เตือน
- เข้าห้องพักครู หรือคน้ โตะ๊ ครูโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต 5 - วา่ กลา่ วตักเตือน
- ไม่เขา้ Homeroom หลงั เวลาเลกิ เรยี นตอนเยน็
5 - วา่ กลา่ วตกั เตอื น
3 ระเบียบวนิ ยั
- แต่งกายใสเ่ สือ้ /กางเกง/กระโปรง,ชดุ พละ/ 5 - วา่ กล่าวตกั เตอื น
ผดิ ระเบยี บ 5 - วา่ กล่าวตกั เตือน
- เข็มขัด/ถงุ เท้า/รองเท้า/กระเป๋า ผิดระเบียบ 5 - วา่ กล่าวตักเตือน
- ใส่เครือ่ งประดบั 5 - วา่ กล่าวตักเตือน
- นกั เรียนหญงิ ไม่สวมเส้อื ทับ 10 - วา่ กลา่ วตกั เตือน
- ไมป่ ักชื่อ/ใสเ่ สอ้ื ทม่ี ชี ่อื ของผอู้ ่ืน
- ทรงผมผดิ ระเบยี บ/ผมยาว/หนวดเครายาว/ซอย 5 - ว่ากลา่ วตักเตือน
ผม/ทำสผี ม
- เลบ็ ยาว/ตกแต่งสเี ลบ็ /แต่งหน้า/ทาปาก
คู่มือนักเรียน โรงเรียนรม่ เกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดำริ) 43
ข้อ ลกั ษณะความผิด คะแนน บทลงโทษ
ทีถ่ กู ตัด
- ปกปิดขอ้ มลู อนั ควรแจ้ง/ไม่ใหค้ วามรว่ มมอื ในการ - ว่ากล่าวตักเตือน
สอบหาข้อเท็จจริง 10
- นำอปุ กรณก์ ารเล่นการพนนั มาโรงเรยี น/สง่ เสริม - แจ้งผู้ปกครอง
สนับสนนุ หรือมสี ว่ นร่วมในเหตกุ ารณท์ ่ีมีการเลน่ 20
การพนนั - แจง้ ผูป้ กครอง
- สง่ เสริมหรือมสี ่วนร่วมในเหตกุ ารณล์ กั ขโมย 20 - แจง้ ผปู้ กครอง
- ดหู รอื มีส่วนร่วมในเหตกุ ารณ์ทะเลาะวิวาท 20 - เชิญผปู้ กครอง
- ยุยง หรือสร้างแตกความสามัคคี 20 - เชิญผปู้ กครอง
- สบู /จำหนา่ ย หรือมีบุหรใ่ี นครอบครอง 30 - เชิญผปู้ กครอง
- กลัน่ แกลง้ /ขม่ ขู่ /รงั แก/ ผ้อู ่นื หรอื ทำร้ายผอู้ ื่น 30 - เชญิ ผปู้ กครอง
- ชักชวนบคุ คลภายนอกมาขม่ ขหู่ รือรงั แกผูอ้ ่นื 30 - เชญิ ผปู้ กครอง
- หนีออกนอกหรือไม่เข้าโรงเรียนเท่ยี วเรร่ ่อนอยู่ 30
ตามบา้ นเพื่อน/ทีส่ าธารณะในเวลาเรียน - เชิญผู้ปกครอง
- สกั หรอื เจาะอวัยวะตามรา่ งกาย 30 - เชิญผู้ปกครอง
- มีภาพหรอื สิ่งลามกไว้ในครอบครองและเผยแพร่ 30 - เชญิ ผู้ปกครอง
- แสดงพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสมสอ่ ไปในทางชสู้ าว 30 - เชิญผปู้ กครอง
- ชูส้ าวอย่างร้ายแรง/ทำอนาจาร 50 - เชญิ ผปู้ กครอง
- ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้อ่ืน 50 - เชญิ ผปู้ กครอง
- ด่มื สรุ าและของมนึ เมา 50 - เชญิ ผู้ปกครอง
- เล่นการพนัน 50 - เชิญผู้ปกครอง
- พบอาวธุ หรือสงิ่ ที่เป็นอันตราย 50 - เชญิ ผู้ปกครอง
- ชกั /ชวนนำบคุ คลภายนอกทำร้ายผอู้ ืน่ ภายใน 50
โรงเรยี น - เชิญผปู้ กครอง
- ลกั ขโมย/ขูก่ รรโชก/รดี ไถ 50 - เชิญผปู้ กครอง
- เสพ/ครอบครองหรือจำหนา่ ยสารเสพติดทุกชนดิ 50 - เชิญผู้ปกครอง
- ทำการตดั ต่อ/เตมิ /เผยแพรภ่ าพ ข้อความทางส่อื 50
อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ เหตุให้เพือ่ น/ - เชญิ ผู้ปกครอง
ครู/โรงเรยี นหรือผู้อ่นื เสยี หาย 50
- ถา่ ย/เผยแพร่วดี ีโอ คลปิ วีดโี อ ซง่ึ นำความเสือ่ ม
เสียมาสผู่ ้อู ื่นหรอื โรงเรียน
คมู่ อื นักเรยี น โรงเรยี นรม่ เกล้า กาญจนบรุ ี (ในโครงการพระราชดำริ) 44