เลขยกกำลงั
2
ใบงานที่ 7 เรือ่ ง การหารเลขยกกำลังเมื่อเลขชีก้ ำลงั เป�นจำนวนเต็มบวก
หนว่ ยที่ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง การหารเลขยกกำลงั เมอ่ื เลขชี้กำลังเปน� จำนวนเต็มบวก
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท� ี่ 1
ชอ่ื ...................................................................นามสกลุ .........................................ชน้ั ม.1/.........เลขท.่ี ............
จุดประสงค์การเรียนรู้ : หาผลหารของเลขยกกำลงั เมือ่ เลขชี้กำลังเปน� จำนวนเตม็ บวกได้
คำชแี้ จง ให้นักเรียนจับคจู่ ำนวนทีก่ ำหนดใหท้ างดา้ นขวามือ ทม่ี คี ่าเท่ากบั เลขยกกำลังทางด้านซ้ายมอื ต่อไปน้ี
1
1) 126 ÷123 ก. 34
2) (−10)10 ÷ (−10)6
ข. 810
.…………3) 840 ÷ (−8)50 ค. 62
…………..4) 27 ÷ 37 ง. 10,000
…………..5) (47 × 45 ) ÷ 48 จ. 123
…………..6) 7 10 ÷ 7 10 ฉ. 256
8 8
1
…………..7) (49 × 76 ) ÷ 719 ช. 810
…………..8) (54 ÷ 625) × 53 ญ. 34
…………..9) (−6)8 ÷ 66 ฎ. 1
…………..10) b11 × b−18 ,b ≠ 0 711
ฐ.125
ฑ. 1
1
ฒ. b7
ฌ. (−7)11
ใบกิจกรรมท่ี 6 เรือ่ ง การหารเลขยกกำลงั เมือ่ เลขชก้ี ำลังเป�นจำนวนเต็มบวก
หนว่ ยท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การหารเลขยกกำลังเมอื่ เลขชกี้ ำลงั เปน� จำนวนเตม็ บวก
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปท� ่ี 1
ชอื่ ...................................................................นามสกุล.........................................ชน้ั ม.1/.........เลขท.ี่ ............
จุดประสงค์การเรยี นรู้ : หาผลหารของเลขยกกำลังเม่ือเลขช้ีกำลังเปน� จำนวนเตม็ บวกได้
คำชแ้ี จง 1.ตวั แทนกลมุ่ รับบัตรคำการหารเลขยกกำลงั เมือ่ เลขช้ีกำลังเปน� จำนวนเต็มบวก
2.สมาชิกภายในกลุ่มรว่ มกนั ระดมความคดิ เห็นและรว่ มกนั อภปิ ราย หาผลหารของเลขยกกำลงั เม่อื
เลขชี้กำลงั เปน� จำนวนเตม็ บวก แลว้ สรปุ การหารเลขยกกำลงั เมอ่ื เลขชกี้ ำลังเป�นจำนวนเต็มบวก
1. 57 ÷52 =.................................
2. (−2)4 ÷(−2)3 =....................
3. 1 5 ÷ 1 2 =..................
3 3
4. 34 ÷34 =....................................
5. 62 ÷36=................................
6. 4 6 ÷ 4 6 =.................
9 9
7. (−10)2 ÷(−10)8 =..................
8. 5 3 ÷ 5 6 =.....................
6 6
9. (2.5)5 ÷(2.5)7 =........................
10. 343 ÷ 710 =.................................
จากการหารเลขยกกำลงั ข้างต้นจะเหน็ วา่
การหารเลขยกกำลงั ทมี่ ีฐานเปน� จำนวนเดียวกันและฐานไมเ่ ทา่ กับศนู ย์ มีเลขชกี้ ำลงั เปน� จำนวนเตม็ บวก
ในรปู am ÷ an จะพจิ ารณาได้ 3 กรณี คือ เมือ่ m > n ,m = n และ m < n
กรณีที่ 1 เมื่อ am ÷ an เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ ท่ีไมใ่ ชศ่ ูนย์ m, n แทนจำนวนเต็มบวก และ m>n
am ÷ an= .....................
กรณที ี่ 2 เมอ่ื am ÷ an เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ ทไี่ มใ่ ช่ศนู ย์ m,n แทนจำนวนเต็มบวก และ m = n
am ÷ an=.....................
กรณีที่ 3 เม่อื am ÷ an เม่อื a แทนจำนวนใดๆ ที่ไมใ่ ชศ่ นู ย์ m, n แทนจำนวนเต็มบวก และ m<n
am ÷ an= ...................
ใบความรทู้ ี่ 7 เรื่อง การหารเลขยกกำลงั เม่ือเลขช้ีกำลงั เปน� จำนวนเตม็ บวก
หนว่ ยที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การหารเลขยกกำลังเม่อื เลขชก้ี ำลงั เป�นจำนวนเต็มบวก
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาป�ท่ี 1
ชือ่ ...................................................................นามสกุล.........................................ชนั้ ม.1/.........เลขท.ี่ ............
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ : หาผลหารของเลขยกกำลงั เมื่อเลขช้ีกำลงั เปน� จำนวนเตม็ บวกได้
การหารเลขยกกำลังทม่ี ีฐานเปน� จำนวนเดียวกันและฐานไมเ่ ท่ากบั ศูนยม์ เี ลขชกี้ ำลังเป�นจำนวนเตม็
บวก ในรปู ของ am ÷an จะพิจารณาเป�น 3 กรณี คือ เมอื่ m>n,m=n และ m<n ดงั นี้
กรณีท่ี 1 เม่อื am ÷ an เมอื่ a แทนจำนวนใดๆ ที่ไมใ่ ชศ่ นู ย์ m, n แทนจำนวนเตม็ บวก และ m>n
พิจารณาการหารเลขยกกำลงั ดังตอ่ ไปน้ี
38 = 3×3×3× 3×3×3× 3×3
32 3×3
= 3×3×3×3×3×3
= 36 หรือ 38−2
จากการหารเลขยกกำลงั ข้างตน้ จะเห็นวา่ ผลหารเปน� เลขยกกำลังทีม่ ีฐานเป�นจำนวนเดิม และเลขชี้
กำลังเทา่ กบั เลขชี้กำลงั ของตัวตง้ั ลบดว้ ยเลขชีก้ ำลงั ของตวั หาร ซึ่งเป�นไปตาม สมบัติของการหารเลขยกกำลงั
ดงั น้ี
เมอื่ a แทนจำนวนใดๆทีไ่ ม่ใช่ศนู ย์ m,n แทนจำนวนเตม็ บวก และ m>n
am ÷ an= am-n
กรณีท่ี 2 เมือ่ am ÷ an เมอ่ื a แทนจำนวนใดๆ ท่ไี มใ่ ช่ศนู ย์ m,n แทนจำนวนเต็มบวก และ m = n
พิจารณา 74 ÷74
ถา้ ใชบ้ ทนยิ ามของเลขยกกำลงั จะได้ 74 ==177 × 7 × 7 × 7
74 × 7 × 7 × 7
ถ้าลองใช้สมบตั ิของการหารเลขยกกำลงั am ÷an =am-n ,a ≠ 0 ในกรณที ่ี m=n
จะได้ 74 = 74 −4
74
= 70
แต่จากการใชบ้ ทนิยามของเลขยกกำลงั ดงั ท่แี สดงไว้ข้างต้น เราได้วา่ 74 ÷74 =1 ดังนน้ั เพือ่ ให้
สมบตั ขิ องการหารเลขยกกำลงั am ÷an =am-n ใช้ได้ในกรณที ่ี m=n ด้วย จงึ ตอ้ งให้ 70 =1
ในกรณที ว่ั ๆ ไปมบี ทนิยามของ a0 ดังน้ี
บทนยิ าม เมื่อ a แทนจำนวนใด ๆ ที่ไม่ใชศ่ ูนย์
a0 =1
เมือ่ มขี ้อตกลงดงั กลา่ วจงึ ทำใหส้ มบตั ิของการหารเลขยกกำลงั am ÷an =am-n ,a ≠ 0 เป�นจรงิ
ในกรณีที่ m=n ด้วย
กรณีที่ 3 เม่ือ am ÷ an เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ ทไ่ี มใ่ ช่ศนู ย์ m, n แทนจำนวนเต็มบวก และ m<n
พจิ ารณา 24 ÷29
ถ้าใชบ้ ทนยิ ามของเลขยกกำลังจะได้ 24 = 2×2×2×2
29 2×2×2×2×2×2×2×2×2
1
= 25
ถา้ ใช้สมบัตกิ ารหารของเลขยกกำลงั a=m ÷ an am - n ,a ≠ 0 ในกรณที ่ี m < n
จะได้ =2249 2=4−9 2−5
ดังนัน้ เพือ่ ให้สมบตั ิของการหารเลขยกกำลงั am ÷ an = am - n ใชไ้ ด้ในกรณที ี่ m < n ด้วย จึงต้อง
ให้ 1 เทา่ กบั 2−5
25
ในกรณที ่วั ๆ ไป มีบทนิยามของ a-n ดังน้ี
บทนิยาม เม่ือ a แทนจำนวนใด ๆ ทไ่ี ม่ใช่ศูนย์และ n แทนจำนวนเต็มบวก
1
a- n = an
เม่ือมขี อ้ ตกลงดังกล่าวจึงทำใหส้ มบัตขิ องการหารเลขยกกำลงั am ÷an =am-n ,a ≠ 0 เป�นจริง ในกรณที ี่
m<n ด้วย
ใบงานท่ี 8 เร่อื ง การเขยี นจำนวนทม่ี ีคา่ มาก ๆ ให้อยู่ในรปู สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์
หน่วยท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 เร่อื ง การเขยี นจำนวนทีม่ ีค่ามากๆ ให้อย่ใู นรปู สญั กรณ์วิทยาศาสตร์
รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาป�ที่ 1
ชื่อ...................................................................นามสกลุ .........................................ชน้ั ม.1/.........เลขท.ี่ ............
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ : เขยี นจำนวนที่มคี า่ มาก ๆ ใหอ้ ยใู่ นรูปสญั กรณว์ ิทยาศาสตรไ์ ด้
คำชีแ้ จง 1. จงเขียนจำนวนตอ่ ไปนใี้ นรปู A × 10n เมอื่ 1 ≤ A < 10และ n เปน� จำนวนเตม็
1) 300 = 3×100 2) 600 = 6×...........
= 3×......... = ......................
3) 4,000= 4 ×1,000 4) 5,000 = ...................................
= .......................... = .................................
5) 4,50=0 4.5×1,000 6)5,600 = ...........................
= ...................... = ...........................
7) 70,000 = 7×10,000 8) 80,000 = .............................
= ........................... = ......................
9) 780,00=0 7.8×100,000 10) 895,000 = .............................
= ........................... = ............................
บัตรคำจำนวน
3.7 0.6 1.86 4
20 19 2.7 1,000
9.99 100 7,890 740
500 234 0.999 6.512
0.009 0.35 52 9.9
6.0001 1.1 490 78
569 0.00001 0.78 0.2389
82 4.5
ใบความรทู้ ่ี 8 เร่ือง การเขยี นจำนวนทม่ี ีคา่ มาก ๆ ใหอ้ ยู่ในรูปสัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์
หน่วยที่ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 เรือ่ ง การเขยี นจำนวนท่มี ีคา่ มากๆ ให้อยู่ในรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์
รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปท� ่ี 1
จุดประสงค์การเรียนรู้ : เขียนจำนวนทีม่ ีค่ามาก ๆ ให้อย่ใู นรูปสัญกรณ์วทิ ยาศาสตรไ์ ด้
สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์
การใชส้ ญั ลักษณ์แทนจำนวนอกี รปู แบบหนึง่ ซง่ึ เขียนอยใู่ นรปู การคณู ของ เลขยกกำลงั ที่มฐี านเปน� สบิ
และเลขชก้ี ำลงั เปน� จำนวนเต็ม มรี ูปท่ัวไปเปน� A× 10n เมื่อ 1 ≤ A < 10และ n เป�นจำนวนเต็ม เรียกวา่
การเขยี นจำนวนในรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์ (scientific notation
เรานิยมเขียนจำนวนทม่ี คี ่ามาก ๆ หรอื มคี า่ นอ้ ย ๆ ในรปู สญั กรณ์วิทยาศาสตร์
การเขยี นจำนวนทีม่ ีคา่ มากๆ ใหอ้ ย่ใู นรูปสญั กรณ์วิทยาศาสตร์
1. วิธกี ารเขยี นจำนวนทีม่ ีค่ามาก ๆ ใหอ้ ยใู่ นรปู A × 10n เมอ่ื 1 ≤ A < 10และ n เปน� จำนวนเตม็
9,000,000 = 9 × 1,000,000
= 9 × 106
23,500,000 = 235 × 100,000
= 2.35 × 100 × 100,000
= 2.35 × 102 × 105
= 2.35 × 107
840,000,000,000 = 84 × 10,000,000,000
= 8.4 × 10 × 1010
= 8.4 × 1011
2. สญั กรณว์ ทิ ยาศาสตรใ์ นแตล่ ะข้อต่อไปน้แี ทนจำนวนใด
ตัวอย่าง 9×106 = 9 x 1,000,000
9,000,000
=
2.35 x 102 x 105
2.35×107 = 2.35 x 100 x 100,000
23,500,000,000
=
=
8.4×1011 = 8.4 x 10 x 1010
= 84 x 1010
= 84 x 10,000,000,000
= 840,000,000,000
การเขียนจำนวนในรปู A × 10n เมือ่ 1 ≤ A < 10 และ n เป�นจำนวนเตม็ อาจเขยี นได้งา่ ย และ
รวดเร็วข้ึน โดยใชห้ ลักต่อไปนี้
พจิ ารณาการเขียนจำนวน 1,250 ในรูปแบบตา่ ง ๆ ดังนี้
1,250= 1,250 ×1 = 1,250 ×100
1,250 = 125.0 ×10 = 125×101
1,250 =12.50 ×100 = 12.5×102
1,250 =1.250 ×1,000 =1.25×103
จากตัวอย่างการเขยี น 1,250 ในรปู แบบตา่ ง ๆ ข้างต้น นกั เรียนจะเห็นว่าเมอื่ เราเล่ือนจดุ ทศนยิ มจาก
ทางขวามาทางซ้ายหนึ่งตำแหน่งจะทำใหเ้ ลขชี้กำลังของ 10 มีค่าเพิ่มขน้ึ 1 ดังนั้น เมอื่ เราเลื่อนจุดทศนยิ มจาก
ทางขวาไปทางซ้ายเป�นจำนวนเท่าไร กใ็ ห้เพม่ิ คา่ เลขชีก้ ำลงั ของ 10 เป�นจำนวนเทา่ น้ัน ดังตัวอย่างต่อไปน้ี
จำนวน จำนวนซ่งึ เขียนในรูป A × 10n จำนวนตำแหน่ง
เม่ือ 1 ≤ A < 10 และ nเปน� จำนวนเตม็ ทศนิยมท่เี ลอื่ น
125, 000, 000
1.25 × 108 8 ตำแหน่ง
8 9 ตำแหนง่
7.409 ×109 10 ตำแหน่ง
7, 409, 000, 000
8.5201×1010
9
85, 201, 000, 000
10
ใบงานท่ี 9 เร่อื ง การเขียนจำนวนทีม่ ีคา่ น้อย ๆ ใหอ้ ยใู่ นรปู สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์
หน่วยท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 เรอ่ื ง การเขียนจำนวนท่ีมคี ่าน้อยๆ ใหอ้ ยู่ในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์
รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาป�ท่ี 1
คำชแ้ี จง : จงเขยี นจำนวนตอ่ ไปนใ้ี นรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์
1) 0.0005 = 5 2) 0.0078 = 78
10, 000 10, 000
5
= .1..0..4................ = .....................
= = .....................
= .....................
3) 0.0236 = 236 4) 0.00127 = 127
10, 000 100, 000
= ..................... = .....................
= ..................... = .....................
5) 0.009 = 9 ×10........ = .....................
6) 0.000123= 1.23 ×10........
7) 0.000006=732 6.732 ×10........ 8) 0.00006732= .......................
9) 0.000123 ×10−7 =1.23 ×10........ ×10−7
= 1.23 ×10........
10) 0.000000006587 ×104= ............×10........ ×104
= 6.587 ×10........
2. จงวงกลมลอ้ มรอบจำนวนในวงเลบ็ ทีม่ ีคา่ เทา่ กับสัญกรณว์ ิทยาศาสตร์ทกี่ ำหนดให้
1) 7 ×10−3 [ 0.007 , 0.0007 ]
2) 8 ×10−4 [ 0.008 , 0.0008 ]
3) 5.6 ×10−8 [ 0.000000056 , 0.0000000056 ]
4) 1.48 ×10−5 [ 0.000148 , 0.0000148 ]
5) 8.2 ×10−6 [ 0.0000082 , 0.0000082 ]
ใบความรทู้ ี่ 9 เร่ือง การเขยี นจำนวนทีม่ คี า่ น้อย ๆ ให้อย่ใู นรปู สญั กรณ์วิทยาศาสตร์
หน่วยท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 เร่อื ง การเขียนจำนวนท่ีมคี า่ น้อยๆ ใหอ้ ยูใ่ นรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาป�ที่ 1
พจิ ารณาการเขยี นจำนวนในรูปสัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ตอ่ ไปน้ี
1) 0.02 = 2 2) 0.00572 = 572
100 100, 000
2 5.72 ×102
= 102 = 105
= 2 × 1 = 5.72 ×102−5
102 = 5.72 ×10−3
= 2 ×10−2
3) 0.0004 =4 4) 0.00065 = 65
10, 000 100, 000
4 6.5 × 10
= 104 = 105
= 4 ×10−4 = 6.5×101−5
= 6.5×10−4
5) 0.000083 = 8.3 6) 0.00000036
100, 000 = 3.6 ×10−7
8.3
= 105
= 8.3 ×10−5
การเขียนจำนวนท่ีมคี ่าน้อยๆ ในรปู A × 10n เมอ่ื 1 ≤ A < 10และ n เป�นจำนวนเตม็
อาจเขียนไดง้ า่ ย และรวดเรว็ ขึน้ โดยใช้หลกั ดังน้ี
พจิ ารณาการเขยี นจำนวน 0.0027 ในรูปแบบตา่ งๆ ดงั นี้
0=.0027 0=.0027 0=.1000027 0.0027 ×100
1
0.0=027 0=.10027 01=.00217 0.027 ×10−1
0=.27 01=.0227
0.00=27 100 0.27 ×10−2
0.002=7 1,20.070= 120.7=3 2.7 ×10−3
จากการเขยี น 0.0027 ในรูปแบบตา่ งๆ ข้างตน้ นกั เรียนจะเห็นว่า เมอ่ื เราเลือ่ นจดุ ทศนยิ มจาก
ทางซา้ ยไปทางขวาหนึ่งตำแหน่งจะทำใหเ้ ลขช้ีกำลงั ของ 10 มคี ่าลดลง 1 ดงั นั้นเมอื่ เราเลือ่ นจุดทศนยิ มจาก
ทางซา้ ยไปทางขวาก่ตี ำแหนง่ ก็ใหล้ ดคา่ เลขชี้กำลังของ 10 เทา่ กับจำนวนตำแหนง่ ทเ่ี ลอ่ื น ดงั ตวั อยา่ งในตาราง
ต่อไปนี้
จำนวน จำนวนซึ่งเขียนในรปู A × 10n จำนวนตำแหน่ง
เมอ่ื 1 ≤ A < 10และ n เปน� จำนวนเต็ม ทศนิยมทีเ่ ล่ือน
0.00357
3.57 ×10−3 3 ตำแหน่ง
3 4 ตำแหน่ง
3.57 ×10−4 5 ตำแหน่ง
0.000357
8.1 × 10 −5
4
0.000081
5
โจทย์ป�ญหาเกี่ยวกับการนำสมบตั เิ ลขยกกำลงั ไปประยุกตใ์ ช้
PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเลก็ ไม่เกนิ 2.5 ไมครอน ถ้า 1 ไมครอนมีความยาว
เทา่ กับ 1 ใน 1,000,000 เมตร อยากทราบวา่ PM2.5 คือฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก
ไมเ่ กนิ กเี่ มตร (ให้ตอบในรูปสญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์
ถ้าไรฝุ่นตวั หน่งึ หนกั 0.000000012 กรมั ไรฝุ่นซงึ่ มนี ้ำหนกั เท่าๆกัน ทกุ ตัว
จำนวน 200 ตัว จะมนี ้ำหนกั เทา่ กับกก่ี รัม (ใหต้ อบในรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์
ไฮโดรเจน 1 กรัม มจี ำนวนโมเลกลุ อย่ปู ระมาณ 6.0238×1023 โมเลกุล
ไฮโดนเจน 30 กรมั มจี ำนวนโมเลกุลประมาณกโ่ี มเลกลุ
(ใหต้ อบในรปู สญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์
วัตถชุ น้ิ หน่ึงอยู่ห่างจากโลกประมาณ 11 x 107 ปแ� สง และ 1 ป�แสงเท่ากบั 9.4 x 1012
กโิ ลเมตร วตั ถชุ ้นิ นี้ห่างจากโลกประมาณกี่กโิ ลเมตร
เส้นผ่านศูนย์กลางลูกป�งปองเปน� 4 เซนติเมตร เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางลกู บอลเป�น 32
เซนติเมตร ลูกปง� ปองมีขนาดเป�นก่ีเทา่ ของลูกบอล
ใบกิจกรรมที่ 10 เรอื่ ง การนำสมบัติของเลขยกกำลังไปประยุกตใ์ ช้
หน่วยที่ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 เรอ่ื ง การนำสมบตั ขิ องเลขยกกำลงั ไปประยุกต์ใช้
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปท� ี่ 1
คำช้ีแจง 1.ตวั แทนกลุ่มจบั สลากโจทย์การนำสมบตั ขิ องเลขยกกำลังไปประยกุ ต์ใช้ กลุม่ ละ 1 ข้อ
2.สมาชกิ ภายในกลมุ่ รว่ มกนั ระดมความคิดเหน็ และรว่ มกนั อภิปราย เพื่อหาคำตอบของโจทยท์ ไ่ี ด้รบั
แลว้ สรปุ ลงในกระดาษปรฟู๊
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง เลขยกกำลัง
รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท� ่ี 1
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบทีถ่ กู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว
1. 35 มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ข. 3 บวกกนั 5 ตวั
ก. 3 คูณ 5
ค. 3 คณู กนั 5คร้ัง ง. 3 คูณกนั 5 ตวั
2. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. − 32 มี − 3เป�นฐาน มี 2 เป�นเลขชก้ี ำลงั
ข. 1 5 มี 1 เป�นฐาน มี 5 เปน� เลขช้ีกำลงั
2
ค. (−7)8 มี −7 เป�นฐาน มี 8 เป�นเลขช้กี ำลัง
ง. (0.2)6 มี 2 เป�นฐาน มี 6 เป�นเลขชีก้ ำลงั
3. 2 4 มคี า่ ตรงกบั ข้อใด
3
ก. 8 ข. 16
12 3
16 16
ค. 12 ง. 81
4. 625 เขยี นใหอ้ ยูใ่ นรูปเลขยกกำลังทีม่ ีฐานเป�นจำนวนเฉพาะตรงกบั ข้อใด
ก. −54 ข. 54
ค. (−25)2 ง. 252
5. ค่าของ (−8)4 × 85 มคี ่าตรงกบั ข้อใด ข. 89
ก. (−8)9 ง. ไมส่ ามารถหาคำตอบได้
ค. 820
6. ค่าของ 9× 34 × 27 มคี า่ ตรงกบั ข้อใด
ก. 39 ข. 310
ค. 311 ง. 312
7. ผลลพั ธ์ของ 37 × 65 มคี ่าตรงกบั ข้อใด
81× 62
ก. 32 × 62 ข. 33 × 63
ค. 311 × 66 ง. 312 × 66
8. 8 ×10−5 มีคา่ ตรงกบั ข้อใด
ก. 0.08 ข. 0.008
ค. 0.0008 ง. 0.00008
9. 3,460×10−6 มีค่าเท่ากบั ข้อใด
ก. 3.46 ×10−9 ข. 3.46 ×10−6
ค. 3.46 ×10−3 ง. 3.46 ×106
10. ดาว A อย่หู ่างจากโลกประมาณ 5×1020 กโิ ลเมตร ดาว B อยู่ห่างจากโลกเปน�
6×104 เท่าของระยะทางจากโลกถงึ ดาว A อยากทราบวา่ ดาว B อยู่หา่ งจากโลก
เป�นระยะทางตรงกบั ข้อใด
ก. 3×1025 กิโลเมตร ข. 30 ×1025 กโิ ลเมตร
ค. 3 ×1026 กโิ ลเมตร ง. 30 ×1026 กิโลเมตร