The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตัวอย่างแผนการสอน Move it ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยครูยุราพร เสลาลักษณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yuraporn.sel, 2022-08-09 22:25:15

ตัวอย่างแผนการสอน Move it ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ตัวอย่างแผนการสอน Move it ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยครูยุราพร เสลาลักษณ์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษ 3

ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรู้เร่อื ง Starter Unit เวลา 8 ชั่วโมง

หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อยท่ี 1 เรอ่ื ง Personal Identification เวลา 1 ช่ัวโมง

ช่อื ผสู้ อน นางยรุ าพร เสลาลักษณ์ สอนวันท่ี ...............................................


มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้

ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นข้อมลู ทเ่ี ป็นเร่อื ง ต่าง ๆ ใกล้ตวั และถามเพื่อขอขอ้ มูลของผอู้ ่ืนได้

ต 4.1 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู ที่เป็นเรอื่ ง ตา่ ง ๆใกล้ตวั และถามเพอื่ ขอขอ้ มูลของผอู้ ื่นได้

1. สาระสำคญั

สามารถเข้าใจเร่ืองทีฟ่ ังเก่ยี วกับตนเอง สามารถเข้าใจบทอ่านสัน้ ๆ ทป่ี ระกอบด้วยคำศัพทท์ ี่คนุ้ เคย

สามารถถาม-ตอบข้อมลู สว่ นตัวได้ สามารถบรรยายเกี่ยวกับบุคคลอ่นื ได้ สามารถใช้โครงสรา้ งประโยคงา่ ย ๆ

สามารถเขียนเก่ยี วกับบคุ คลท่ีตนเองรจู้ กั โดยใช้ภาษาง่าย ๆ ตรวจสอบงานเขียนเพื่อหาข้อผิดพลาด

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) สามารถถาม-ตอบขอ้ มลู สว่ นตวั ได้ (P)

2) ใฝเ่ รียนรู้ กลา้ แสดงออกในการใช้ภาษา (A)

3) นักเรียนสามารถเขา้ ใจความหมายของคำศพั ท์เกย่ี วกบั ตนเองได้ (K)

3. สาระการเรยี นรู้
คำศัพท์
กิจกรรม Grammar
- CD (n.): compact disc: a small circular piece of hard plastic on which
high quality recorded sound can be stored (แผน่ ซดี ี)
- CD player (n.): a piece of equipment used to play compact discs
(เครื่องเลน่ ซดี )ี
- cell phone (n.): cellular phone; mobile phone: a telephone that
you can carry with you and use in any place (โทรศัพท์มือถอื )
- email (n.): a system that allow people to send massages to each
other by computer (จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์)
หนา้ ทภี่ าษา
- Asking and giving about personal information and the everyday life

โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- To be
- To have
- There is/are

4.กิจกรรมการเรียนรู้ (จัดการเรยี นรแู้ บบActive Learning)

ขัน้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน

1. นกั เรียนรับทราบว่าในบทเรยี นน้ี นกั เรยี นจะได้ทบทวนเก่ียวกับไวยากรณ์เร่ือง To be /

Have / There is/are และเมือ่ จบบทเรยี นน้ี นักเรยี นสามารถสนทนาโต้ตอบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองได้ถูกต้อง

ตามโครงสรา้ งไวยากรณ์

2. นักเรยี นเปิดหนังสอื เรียนหน้า 4 และ 5 ดูบท Starter Unit นกั เรียนอ่านสิ่งทีน่ ักเรียนต้อง

เรียนรมู้ ีอยู่ 6 หัวขอ้ ซึ่งนักเรียนได้เรยี นรูม้ าแล้ว แตม่ าทบทวนใน Starter Unit ครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็น 6

กลมุ่ แลว้ ใหเ้ ลอื กหัวหน้าและรองหวั หนา้ กลมุ่ ครเู ขยี นหัวข้อบนกระดาน

1. To be 3. There is/are 5. Possessive’s

2. Have 4. Personal and object pronouns 6. Possessive adjectives and pronouns

ขน้ั สอน

3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจ ครใู หเ้ วลานกั เรียน 10 นาทใี นการคน้ คว้าจาก

สอื่ อเิ ล็กทรอนิกสร์ วมท้งั จากความรเู้ ดมิ ของตนเอง ตามหวั ขอ้ ที่ครูกำหนด คือ Form and Usage ครเู ป็นท่ี

ปรึกษาของทกุ กลุ่ม

4. นักเรียนกลุ่มที่ 1-3 นำเสนอความรทู้ คี่ ้นคว้ามา ใหเ้ พ่ือนซักถามเมื่อไม่เขา้ ใจ ใช้เวลากลมุ่ ละ

5 นาที ครเู ปน็ ท่ีปรึกษาให้นักเรียนทกุ กลุ่มและสรุปเนื้อหาทง้ั หมดเพ่ือความเข้าใจท่ีถูกต้องตรงกนั

5. นกั เรยี นอา่ นคำสง่ั ในกจิ กรรมที่ 1 เร่อื งการใช้ To be ในหนงั สือเรยี น หน้า 4 แลว้ เติมบท

สนทนาใหส้ มบรู ณ์ เสร็จแล้วตรวจสอบคำตอบกบั เพอ่ื น (ดูเฉลยทา้ ยเล่ม)

ขน้ั สรปุ

6. นกั เรียนทำกจิ กรรมท่ี 2 เร่ืองการใช้ Have ในหนังสอื เรียน หน้า 4 ครกู ำหนดเวลาให้

นักเรยี นทำกิจกรรม 5 นาที เสรจ็ แล้ว นกั เรยี นตรวจสอบคำตอบกับเพ่ือน และครตู รวจสอบคำตอบทั้งช้นั โดย

การสุ่มนักเรยี นอา่ นคำตอบคนละ 1 ข้อ ครูคอยช่วยเหลือเม่อื มปี ัญหา (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)

7. นกั เรียนทำกิจกรรมท่ี 3 และ 4 ในหนังสอื เรียน หน้า 4 เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจในการใช้

To be และ Have แลว้ สุม่ เรียกนกั เรยี นให้ตอบโดยการอา่ นประโยค (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

8. นักเรยี นทำกจิ กรรมท่ี 5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 5 เก่ียวกบั การใช้ There is/are ครู

กำหนดเวลาการทำกิจกรรมตามความเหมาะสม เสร็จแลว้ นักเรียนตรวจสอบคำตอบกับเพ่อื น (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

9. นักเรียนจับคู่กันเปน็ A และ B สนทนาโต้ตอบข้อมูลเกยี่ วกับเร่ืองใกล้ตัวโดยใช้โครงสรา้ ง
ประโยคจากกิจกรรมที่ 5 เปน็ ตัวอยา่ ง โดยเปล่ียนเน้ือหาข้างในใหเ้ ป็นข้อมูลของตนเองและใหน้ ักเรียนพดู ถงึ
ตำแหนง่ ส่งิ ของภายในห้องเรียน

ระหวา่ งนักเรียนทำกิจกรรม ครเู ดนิ ไปรอบ ๆ ชน้ั เรยี นเพื่อประเมินผลการสนทนาโต้ตอบโดย
ใช้แบบประเมินการสนทนากิจกรรมคู่ และใช้เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้
5.ส่ือ/วัสดุอปุ กรณแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้

สื่อ วสั ดุ-อุปกรณ์ แหลง่ เรียนรู้
สอื่ power point CD /เคร่อื งเปิด CD ในหอ้ งเรียน 125
หนังสือ Move it ช้นั ม.2

6.การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

6.1 วดั ผลประเมนิ ผลตามจดุ ประสงค์
- คำพดู สนทนาโตต้ อบข้อมูลใกลต้ วั โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคจากกจิ กรรมท่ี 5 ในหนังสอื เรียน หนา้ 5

6.2 วธิ ีวดั ผลประเมินผล
- ประเมนิ การสนทนาโต้ตอบโดยใชแ้ บบประเมนิ การสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้

6.3 เคร่อื งมือวดั ผลประเมินผล
- แบบให้คะแนนการพูดสนทนา

6.4 เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล (แนบทา้ ยภาคผนวก)

เกณฑ์การประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด

9-12 คะแนน ดีมาก

6-8 คะแนน ดี

3-5 คะแนน พอใช้

นอ้ ยกว่า 3 คะแนน ควรปรบั ปรงุ

จุดประสงค์ วธิ วี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
ที่ แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์ 60%
1. K : ความรู้

กสนสนทนาโต้ตอบขอ้ มลู

2. P : กระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤติกรรม

3. A : เจตคติ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สังเกตพฤติกรรม

7.กิจกรรมเสนอแนะ/ช้นิ งาน

7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

7.2 ชน้ิ งานและภาระงาน

-

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ 3

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรู้เรือ่ ง Starter Unit เวลา 8 ช่ัวโมง

หน่วยการเรยี นร้ยู ่อยที่ 1 เรอ่ื ง Personal Identification เวลา 1 ช่ัวโมง

ช่ือผสู้ อน นางยุราพร เสลาลักษณ์ สอนวนั ที่ ...............................................


มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้

ต 1.2 ม. 2/3 เลอื กคำศัพท์ใหส้ ัมพันธก์ ับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง

1. สาระสำคญั

สามารถเข้าใจเรือ่ งท่ีฟังเกี่ยวกบั ตนเอง สามารถเข้าใจบทอ่านสน้ั ๆ ท่ีประกอบด้วยคำศัพท์ที่คุน้ เคย

สามารถถาม-ตอบขอ้ มูลส่วนตวั ได้ สามารถบรรยายเก่ียวกับบคุ คลอนื่ ได้ สามารถใชโ้ ครงสรา้ งประโยคง่าย ๆ

สามารถเขียนเก่ียวกบั บุคคลท่ีตนเองรูจ้ กั โดยใช้ภาษางา่ ย ๆ ตรวจสอบงานเขยี นเพ่ือหาข้อผดิ พลาด

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1) สามารถถาม-ตอบขอ้ มลู ส่วนตัวได้ (P)

2) ใฝ่เรียนรู้ กล้าแสดงออกในการใช้ภาษา (A)

3) นกั เรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์เกย่ี วกบั ตนเองได้ (K)

3. สาระการเรียนรู้

- คำศพั ท์

กจิ กรรม Vocabulary

- museum (n.): a building where important cultural, historical, or scientific

objects are kept and shown to the public (พิพิธภณั ท)์

- movie theater (n.): a building in which films are shone; cinema (โรงภาพยนตร)์

- library (n.): a room or building containing books that can be looked at or

borrowed (หอ้ งสมุด)

- town square (n.): a broad open area in the middle of a town, usually in the

shape of a square or the building surrounding it (จัตุรสั กลาง

เมือง)

- หน้าที่ภาษา

- Asking and giving about personal information and the everyday life

4.กจิ กรรมการเรยี นรู้ (จดั การเรยี นรแู้ บบActive Learning)

ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรียน

1. นักเรียนรับทราบว่าในบทเรียนนี้ เป็นบทเรียนการทบทวนคำศัพท์ทั่ว ๆ ไปที่นักเรียนเคยเรียนรู้มาแล้ว
เมอื่ จบบทเรยี นน้ี นกั เรยี นต้องระบุคำศัพทใ์ ห้ตรงกบั รปู ภาพได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60

2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนโดยให้นักเรียนบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่และสิ่งของต่าง ๆ
เชน่ classroom, kitchen, bedroom, bathroom, clothes, camera, etc.

ขัน้ สอน

3. นักเรยี นเปดิ หนังสอื เรียน หน้า 6 แล้วดูคำศพั ทใ์ นกรอบส่ีเหลี่ยม ครอู ่านออกเสียงคำศัพท์แตล่ ะคำและ
นักเรียนออกเสยี งตาม ครูแนะนำเพ่มิ เติมเกยี่ วกับคำท่ีเป็นปญั หาในการออกเสียงสำหรับนักเรียนเชน่
museum, zoo, theater เปน็ ต้น

4. นกั เรียนทำกจิ กรรมท่ี 1 ในหนงั สือเรยี น หน้า 6 ใหน้ กั เรียนจับคู่คำศัพท์กบั รปู ภาพที่ 1-9 ใหถ้ ูกตอ้ ง เสรจ็
แลว้ ตรวจสอบคำตอบร่วมกันท้ังชนั้ ด้วยการใชค้ ำถามดังน้ี
- Question: What is picture 1?
- Answer: It’s …………

5. นักเรยี นถามคำถามข้อต่อไปแลว้ เรียกให้เพือ่ นตอบ ทำต่อไปจนจบท้งั 9 ขอ้ (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
6. นักเรยี นทำกจิ กรรมที่ 2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 6 ซึ่งใชค้ ำศัพทจ์ ากกจิ กรรมท่ี 1 ในการทำกิจกรรม เสร็จ

แลว้ ตรวจสอบคำตอบด้วยการเรียกนักเรียนใหต้ อบทลี ะคนดว้ ยการให้อา่ นทุกคำศัพท์ทุกคำในกิจกรรมที่
2 (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม)
7. ครปู ระเมินผลจากจำนวนคำตอบทถี่ ูกต้องจากกิจกรรมที่ 1-2 โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60
ขน้ั สรปุ

8. นกั เรยี นทำกิจกรรมท่ี 3 ในหนงั สือเรียน หน้า 6 เลอื กตัวเลอื กคำตอบให้ถกู ต้อง เสร็จแล้ว ตรวจสอบ
คำตอบด้วยการเรยี กนักเรียนให้ตอบทลี ะคน ครูคอยให้ความชว่ ยเหลือในดา้ นการออกเสียง (ดูเฉลยท้าย
เลม่ )

9. นกั เรยี นทำกิจกรรมที่ 4 ในหนังสือเรยี น หน้า 6 นักเรยี นจับคู่ภาพกับคำศัพท์ให้ถูกต้อง (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ )
10. นกั เรยี นทำกจิ กรรมท่ี 5 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 6 นักเรียนอ่านคำถามข้อ 1-6 แล้วบอกว่าสิ่งของทค่ี ำถาม

แต่ละข้อถามถึงคืออะไร ครูบอกใบน้ ักเรยี นไปวา่ คำตอบคือคำศัพทจ์ ากกิจกรรมที่ 4 (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ )
5.สือ่ /วัสดอุ ุปกรณแ์ ละแหล่งเรียนรู้

สอ่ื วัสดุ-อุปกรณ์ แหลง่ เรียนรู้
สอ่ื power point CD /เครอ่ื งเปิด CD ในห้องเรยี น 125
หนงั สือ Move it ชัน้ ม.2

6.การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
6.1 วัดผลประเมินผลตามจุดประสงค์
- คำตอบจากการทำกจิ กรรมท่ี 1-2 ในหนังสือเรียน หน้า 6

6.2 วธิ ีวัดผลประเมินผล

- ประเมนิ การจับคภู่ าพกับคำศพั ทจ์ ากจำนวนคำตอบที่ถกู ตอ้ ง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60

6.3 เครื่องมือวัดผลประเมินผล

- แบบฝึกหัด

6.4 เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล (แนบท้ายภาคผนวก)

เกณฑ์การประเมินการทำแบบฝึกหดั

9-12 คะแนน ดมี าก

6-8 คะแนน ดี

3-5 คะแนน พอใช้

นอ้ ยกวา่ 3 คะแนน ควรปรับปรุง

จุดประสงค์ วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

ท่ี

1. K : ความรู้ แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์ 60%

แบบฝึกหดั

2. P : กระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤตกิ รรม

3. A : เจตคติ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤติกรรม

7.กจิ กรรมเสนอแนะ/ช้ินงาน

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................................................................................................. ............

7.2 ชน้ิ งานและภาระงาน

- แบบฝึกหัดจับคู่คำศัพท์

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3

รหสั วชิ า อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษ 3

ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรเู้ รอื่ ง Starter Unit เวลา 8 ช่ัวโมง

หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อยท่ี 1 เรอื่ ง Personal Identification เวลา 1 ชั่วโมง

ชื่อผสู้ อน นางยุราพร เสลาลกั ษณ์ สอนวนั ที่ ...............................................



มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้

ต 1.3 ม. 2/1 พดู บรรยายเก่ยี วกบั ภาพบคุ คลทสี่ นใจ

ต 2.1 ม. 2/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คม

และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

1. สาระสำคญั
สามารถเข้าใจเรื่องทีฟ่ ังเกีย่ วกับตนเอง สามารถเขา้ ใจบทอ่านสั้น ๆ ทีป่ ระกอบด้วยคำศัพทท์ ่ีคุน้ เคย

สามารถถาม-ตอบขอ้ มูลส่วนตวั ได้ สามารถบรรยายเก่ยี วกับบุคคลอนื่ ได้ สามารถใชโ้ ครงสร้างประโยคงา่ ย ๆ
สามารถเขยี นเก่ียวกบั บคุ คลที่ตนเองรู้จกั โดยใช้ภาษาง่าย ๆ ตรวจสอบงานเขยี นเพื่อหาข้อผิดพลาด

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) สามารถบรรยายเกีย่ วกับบุคคลอนื่ ได้ (P)
2) ใฝเ่ รียนรู้ กล้าแสดงออกในการใช้ภาษา (A)
3) นกั เรียนสามารถเขา้ ใจความหมายของคำศพั ทเ์ กยี่ วกับตนเองได้ (K)

3. สาระการเรียนรู้
- หนา้ ทภ่ี าษา

- Asking and giving about personal information and the everyday life

4.กจิ กรรมการเรียนรู้ (จัดการเรียนรู้แบบActive Learning)

ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน
1. นักเรียนรับทราบว่าในบทเรียนนี้ เป็นการทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับประเทศและเชื้อชาติซึ่งที่นักเรียนเคย

เรยี นร้มู าแลว้ เมอื่ จบบทเรียนนี้ นกั เรยี นจะต้องนำคำศัพทไ์ ปเขียนและพดู เกยี่ วกบั บุคคลอ่นื ได้ถกู ต้อง

ขนั้ สอน

2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนโดยการแบ่งนักเรยี นเป็นสองกลุ่ม A และ B สลบั กนั บอกชื่อประเทศ
และเชื้อชาติ เช่น A: บอกชอ่ื ประเทศ (America)
B: บอกเชอื้ ชาติ American
สลับกันไปเร่ือย ๆ ตามเวลาท่ีครูกำหนด

3. นกั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรยี น หน้า 7 อ่านคำส่ังกจิ กรรมที่ 6 คือ What nationality are the people? ดภู าพ
บุคคลกบั ช่อื ประเทศใตภ้ าพแล้วเติมประโยคข้อ 1-6 ใหส้ มบรู ณ์ เสร็จแล้วตรวจสอบคำตอบกับเพ่ือน

4. ครูตรวจสอบคำตอบพร้อมกันทง้ั ชน้ั โดยการเรียกนกั เรียนทีละค่ใู หถ้ าม-ตอบจากภาพ เช่น
- A: She’s from the US. What nationality is she?
- B: She is American.

5. นกั เรียนถาม-ตอบคำถามจนจบข้อ 6 แล้วให้นกั เรยี นสะกด nationality ทั้ง 6 คำพร้อม ๆ กนั (ดเู ฉลย
ท้ายเลม่ )

6. นักเรียนทำกิจกรรมที่ 7 และ 8 ให้เติมคำศัพท์เกี่ยวกับ Countries and nationalities ให้ถูกต้อง ครู
ตรวจสอบคำตอบพร้อมกนั ทั้งชั้น โดยการใหน้ ักเรยี นที่ครูสุ่มอ่านประโยคคำตอบทั้งประโยค (ดูเฉลยท้าย
เล่ม)

7. นักเรยี นทำกิจกรรมที่ 9 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 7 อา่ นเน้ือหาท่ีกำหนดให้และดรู ปู ภาพประกอบ เสร็จแลว้
เขียนคำศัพท์ทั้ง 12 ข้อตามรูปภาพ นกั เรียนตรวจสอบคำตอบรวมทัง้ การสะกดคำกบั เพอ่ื น นักเรยี นท่ีครู
ส่มุ ออกไปเขียนคำตอบบนกระดานคนละ 1 ข้อ

8. นกั เรียนนำภาพบุคคลท่ีมีช่ือเสยี งมาคนละ 1 ภาพเพื่อนำมาพดู บรรยายเก่ยี วกับ Countries and
nationalities และข้อมูลทัว่ ๆ ไป โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยคจากกิจกรรมท่ี 9 ในหนังสอื เรยี น หน้า 7 เป็น
แนวทาง

ขน้ั สรุป

9. นักเรยี นที่ครูสุ่ม 4-5 คนออกมาพดู บรรยายภาพของบุคคลท่ีมชี ื่อเสียงโดยใช้แบบประเมินการพดู และใช้
เกณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้

5.สอื่ /วัสดุอุปกรณแ์ ละแหล่งเรยี นรู้

สื่อ วสั ดุ-อุปกรณ์ แหล่งเรยี นรู้
สอ่ื power point CD /เคร่ืองเปดิ CD ในห้องเรียน 125
หนังสอื Move it ชัน้ ม.2
Flash cards

6.การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

6.1 วัดผลประเมินผลตามจุดประสงค์
- ตอบคำถาม และสามารถพูดบรรยายเกี่ยวกบั บุคคลอน่ื ได้
6.2 วิธีวดั ผลประเมนิ ผล
- ประเมินการตอบคำถามและการบรรยายเก่ยี วกับบุคคลอ่ืนโดยใช้เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60

6.3 เคร่อื งมือวดั ผลประเมนิ ผล
- แบบบนั ทึกการพดู

6.4 เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล (แนบทา้ ยภาคผนวก)

เกณฑ์การประเมนิ การทำแบบฝึกหดั

9-12 คะแนน ดีมาก

6-8 คะแนน ดี

3-5 คะแนน พอใช้

นอ้ ยกวา่ 3 คะแนน ควรปรบั ปรุง

จุดประสงค์ วิธวี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ

ที่

1. K : ความรู้ แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์ 60%

การพดู ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับบุคคลอื่น

2. P : กระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤตกิ รรม

3. A : เจตคติ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤตกิ รรม

7.กจิ กรรมเสนอแนะ/ชน้ิ งาน

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

7.2 ชิน้ งานและภาระงาน

-

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4

รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษ 3

ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรเู้ ร่ือง Starter Unit เวลา 8 ชั่วโมง

หน่วยการเรียนรูย้ ่อยท่ี 1 เรื่อง Personal Identification เวลา 1 ชั่วโมง

ชอื่ ผ้สู อน นางยุราพร เสลาลกั ษณ์ สอนวันที่ ...............................................





มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
ต 1.1 ม. 2/4 อ่านบทอา่ นแนะนำตวั สน้ั ๆ และตอบคำถาม

1. สาระสำคัญ
สามารถเขา้ ใจเร่ืองท่ฟี ังเกยี่ วกับตนเอง สามารถเข้าใจบทอ่านส้ัน ๆ ท่ปี ระกอบด้วยคำศัพท์ท่ีคุ้นเคย
สามารถถาม-ตอบขอ้ มลู สว่ นตัวได้ สามารถบรรยายเกยี่ วกับบุคคลอื่นได้ สามารถใช้โครงสร้างประโยคงา่ ย ๆ
สามารถเขยี นเก่ยี วกับบคุ คลที่ตนเองร้จู กั โดยใช้ภาษาง่าย ๆ ตรวจสอบงานเขยี นเพื่อหาข้อผดิ พลาด

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) สามารถเข้าใจบทอ่านสน้ั ๆ ที่ประกอบดว้ ยคำศพั ท์ท่คี ุ้นเคย(P)
2) สามารถเขา้ ใจโครงสรา้ งไวยกรณ์ Present simple ได้ (P)
3) ใฝ่เรียนรู้ กลา้ แสดงออกในการใช้ภาษา (A)
4) นกั เรยี นสามารถเขา้ ใจความหมายของคำศพั ท์เกี่ยวกับบรรยายลกั ษณะบุคคลอื่นได้(K)

3. สาระการเรียนรู้

- คำศพั ท์

กิจกรรม Reading amusing; making one laugh (ตลก, สนกุ สนาน)
- funny (adj.):

- good-looking (adj.): attractive and pleasant to look at (น่ามอง, ซ่งึ หน้าตาดี)
- หนา้ ท่ีภาษา

- Introducing oneself
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

- Present Simple

4.กิจกรรมการเรยี นรู้ (จดั การเรียนร้แู บบActive Learning)
ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรยี น

กจิ กรรม Reading and Writing

1. นักเรียนรับทราบวา่ ในบทเรียนนื้ เป็นบทเรียนทบทวนการอ่านและการเขียน เมื่อจบบทเรียนนี้ นักเรียน
จะต้องตอบคำถามจากการอ่านขอ้ ความแนะนำตัวสนั้ ๆ ของบคุ คลอ่ืนได้

2. ครูสนทนาถาม-ตอบกับนักเรียนเกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องใช้ในการแนะนำตัวเอง โดยครูใช้ภาพบุคคลติดบน
กระดานแลว้ ใหน้ ักเรยี นซกั ถามเกี่ยวกบั บุคคลเหล่าน้นั โดยใชเ้ กมส์ “I Know Everything” ดงั น้ี
Student: What’s her name?
Teacher: Linda. Her name is Linda.
Student: How old is she?

ขั้นสอน

3. ครูขออาสาสมัครนักเรยี นทำหนา้ ทเ่ี ป็นผ้ตู อบและครูแจกภาพบคุ คลใหน้ ักเรียนคนน้นั และทำแบบน้ีอีก 2-
3 คน เพ่ือทดสอบการใช้คำถามเกยี่ วกบั ข้อมูลสว่ นตัวทีน่ ักเรยี นเคยเรียนมา

4. นักเรยี นดภู าพบุคคลในกิจกรรมที่ 1 ในหนงั สือเรียน หน้า 8 ครูใช้คำถามเพื่อดึงความสนใจเบ้ืองต้น เช่น
- What’s the title of the reading?
- How many people are there?
- Are they all female?
- Are they old?
- Who are they?
Etc.

5. นกั เรียนฟงั ซีดีบนั ทึกเสยี ง CD 1 Track 2 ของบทอ่านในกจิ กรรมที่ 1 ทีละบท และอา่ นออกเสียงตามเม่ือ
จบบทหน่งึ

6. นกั เรยี นอ่านขอ้ ความแนะนำตัวเองของ Jody, Nadia และ Carlos ในบทอา่ น ในหนงั สือเรียน หนา้ 8
เสรจ็ แล้วครตู ง้ั คำถามเกย่ี วกับบทอ่านเหล่านัน้ โดยใชค้ ำถามทน่ี ักเรยี นเคยใช้ในการฝึกถาม-ตอบมาแล้ว

7. นักเรียนทำกิจกรรมที่ 2 และ 3 ในหนงั สือเรียน หน้า 8 เพื่อตรวจสอบเข้าใจจากเรือ่ งท่ีอ่าน ครู
กำหนดเวลาในการทำกิจกรรม 10 นาที

8. นกั เรียนตรวจสอบคำตอบกับเพ่อื น โดยในกิจกรรมท่ี 2 ครูใหเ้ พ่อื นทั้งชน้ั เรียนอา่ นประโยคที่ใหม้ าพร้อม
กนั ทีละข้อ แลว้ ใหน้ กั เรียนทคี่ รูสมุ่ ตอบคำถาม ถา้ คำตอบเป็น False ให้บอกนกั เรียนคำตอบท่ถี ูกต้องด้วย
(ดูเฉลยทา้ ยเลม่ )

9. นกั เรียนตรวจสอบคำตอบกับเพ่ือน โดยในกจิ กรรมท่ี 3 นกั เรยี นตอบโดยการอา่ นประโยคทัง้ ประโยค (ดู
เฉลยทา้ ยเลม่ )

ข้นั สรุป

10. ครูประเมนิ ผลการอ่านจากจำนวนคำตอบที่ถกู ต้องในกจิ กรรมท่ี 2-3 โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60
11. นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 4 ในหนังสอื เรียนหนา้ 8 เขยี นบทร่างเกย่ี วกับการแนะนำตวั เองตามตัวอยา่ งในบท

อา่ น นกั เรยี นสามารถทจ่ี ะเพ่มิ เตมิ ข้อมลู ของตนเองได้ ครูใหน้ กั เรียนมีอิสระในงานเขียนและศึกษาจาก
ตวั อยา่ งดว้ ยตนเอง ครูคอยชว่ ยเหลือเมื่อมปี ัญหา เม่ือเขียนเสร็จแล้วใหค้ รูตรวจสอบอกี คร้งั หนึ่ง

12. นักเรียนออกแบบ Profile ของตนเองโดยการใช้ข้อมูลที่เขียนเตรียมไว้แล้ว พร้อมกับติดรูปภาพของ
ตนเองใน Profile น้นั

13. นักเรยี นจดั บอร์ด The Friends’ Club ในหอ้ งเรยี นดว้ ยการใช้ข้อมลู Profile ทท่ี ำเสร็จเรยี บร้อยสวยงาม
เป็นการแลกเปลีย่ นเรยี นรูซ้ ึ่งกันและกนั

5.ส่อื /วัสดอุ ปุ กรณแ์ ละแหล่งเรยี นรู้

สื่อ วัสดุ-อุปกรณ์ แหลง่ เรยี นรู้
ส่ือ power point CD /เคร่ืองเปดิ CD ในห้องเรยี น 125
หนังสอื Move it ชัน้ ม.2
Flash cards

6.การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

6.1 วัดผลประเมนิ ผลตามจุดประสงค์
- สามารถให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองโดยใช้ โครงสร้างไวยกรณ์ Present simple ได้ถกู ตอ้ ง
6.2 วิธีวดั ผลประเมนิ ผล
- ประเมินการเขียนข้อมูลตนเองโดยใชโ้ ครงสร้างทางไวยกรณไ์ ด้ถูกต้องร้อยละ 60
6.3 เครื่องมือวดั ผลประเมินผล
- เขยี นแนะนำตนเอง

6.4 เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล (แนบทา้ ยภาคผนวก)

เกณฑ์การประเมนิ การทำแบบฝึกหดั

9-12 คะแนน ดีมาก

6-8 คะแนน ดี

3-5 คะแนน พอใช้

นอ้ ยกว่า 3 คะแนน ควรปรบั ปรุง

จุดประสงค์ วธิ วี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน
ผ่านเกณฑ์ 60%
ที่ ผ่านเกณฑ์ 70%
ผา่ นเกณฑ์ 70%
1. K : ความรู้ ใบงาน การเขียน

การเขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง

2. P : กระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม

สงั เกตพฤติกรรม

3. A : เจตคติ แบบสงั เกตพฤติกรรม

สงั เกตพฤตกิ รรม

7.กจิ กรรมเสนอแนะ/ชน้ิ งาน
7.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................... ...............................................

7.2 ช้นิ งานและภาระงาน
- เขยี นแนะนำตนเอง

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 5

รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษ 3

ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรเู้ ร่อื ง Starter Unit เวลา 8 ช่ัวโมง

หน่วยการเรียนร้ยู ่อยท่ี 1 เรอ่ื ง Personal Identification เวลา 1 ช่ัวโมง

ชื่อผ้สู อน นางยรุ าพร เสลาลกั ษณ์ สอนวันท่ี ...............................................


มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้

ต 1.1 ม. 2/4 อา่ นบทอา่ นแนะนำตวั ส้ัน ๆ และตอบคำถาม

ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาถาม-ตอบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ ท่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรยี น

1. สาระสำคญั
สามารถเขา้ ใจเร่อื งทฟ่ี ังเกี่ยวกับตนเอง สามารถเข้าใจบทอ่านสั้น ๆ ทป่ี ระกอบดว้ ยคำศัพทท์ ่ีคนุ้ เคย
สามารถถาม-ตอบขอ้ มลู ส่วนตัวได้ สามารถบรรยายเก่ียวกับบุคคลอ่นื ได้ สามารถใชโ้ ครงสรา้ งประโยคงา่ ย ๆ
สามารถเขียนเกยี่ วกับบคุ คลท่ีตนเองรู้จักโดยใช้ภาษางา่ ย ๆ ตรวจสอบงานเขียนเพื่อหาข้อผิดพลาด

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) สามารถเข้าใจบทอ่านส้นั ๆ ที่ประกอบดว้ ยคำศพั ท์ทีค่ ุน้ เคย(P)
2) ใฝ่เรยี นรู้ กลา้ แสดงออกในการใช้ภาษา (A)
3) นักเรียนสามารถเขา้ ใจความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับบรรยายลักษณะบคุ คลอนื่ ได้(K)

3. สาระการเรยี นรู้

- คำศพั ท์

กิจกรรม Speaking and Listening

- cool (adj.): great, excellent, outstanding, smart (เจง๋ เยีย่ ม)

- guy (n.): (informal) a man, guys: spoken used when talking to or about
a group of people, male or female (เพื่อน, คนทเ่ี รารู้จัก)

4.กจิ กรรมการเรียนรู้ (จดั การเรียนรแู้ บบActive Learning)
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
กิจกรรม Speaking and Listening
1. นกั เรียนรับทราบว่าในบทเรียนน้ี เป็นบทเรียนทบทวนการฟังและการพูด เม่อื จบบทเรียนน้ี นกั เรียนตอ้ ง

ทำฝึกการฟัง บทสนทนาเพื่อจับใจความสำคญั และฝึกพดู บทสนทนาท่ใี ช้ข้อมลู สว่ นตัวของตนเองได้
ข้นั สอน
2. นักเรยี นทำกจิ กรรมท่ี 5 ในหนงั สอื เรียน หน้า 9 อ่านบทสนทนาในใจ ครูใชค้ ำถามง่าย ๆ ถามเกย่ี วกบั

เนอ้ื หาในบทสนทนาน้ัน
- How many people are there in the conversation?
- Who are they?
- Where are they?
- Who is the new student? Etc.
3. ครูชใ้ี ห้นักเรยี นเห็นวา่ ในบทสนทนาน้ันมีตอนทีต่ ้องฟงั เพื่อหาคำตอบทถ่ี ูกต้อง นักเรียนตอ้ งฟังอยา่ งตง้ั ใจ
เพือ่ เลือกคำตอบ
4. นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 3 นักเรียนฟังและขีดเส้นใต้คำตอบที่ถูกต้อง เสร็จแล้วนักเรียน
ตรวจสอบคำตอบกับเพอื่ น
5. นักเรยี นฟงั ซีดีบนั ทึกเสียงอีกคร้งั หน่งึ โดยครูหยดุ ซดี บี ันทึกเสียงเป็นชว่ ง ๆ เพือ่ ใหน้ ักเรียนฝกึ ออกเสยี ง
ตาม เสรจ็ แล้วครูประเมนิ ผลการฟังจากจำนวนคำตอบท่ีถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นระดับพอใช้
6. นกั เรียนจบั กลุ่ม ๆ ละ 3 คนทำกิจกรรมที่ 6 ในหนงั สือเรยี น หน้า 9 แสดงบทบาทเปน็ Jody, Carlos และ
Zak ฝึกพูดตามบทสนทนา ครคู อยให้ความช่วยเหลอื ในดา้ นการออกเสยี ง
7. นกั เรียนอาจจะดบู ทพดู เมื่อจำไม่ได้ แต่เวลาพดู ให้มองตาคู่สนทนา และพยายามพดู ให้เป็นธรรมชาติ
8. นักเรียนทำกจิ กรรมท่ี 7 ในหนังสอื เรยี น หน้า 9 อ่านบทสนทนาท่กี ำหนดให้ และนักเรียนอ่านประโยคขอ้
a-e เสรจ็ แลว้ เติมประโยคข้อ a-e ลงในบทสนทนาให้ถกู ต้องสมบรู ณ์ เสร็จแล้วฟงั ซดี ีบันทึกเสียง CD 1
Track 4 เพ่ือตรวจสอบคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
9. นกั เรยี นจับค่ทู ำกิจกรรมที่ 8 ในหนงั สือเรียน หน้า 9 เติมขอ้ มลู สว่ นตวั ของตนเองแทนทีข่ ้อความทเี่ ป็นสี
ม่วงในกจิ กรรมที่ 7
ขั้นสรุป
11. นกั เรียนฝกึ สนทนาถาม-ตอบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองตามบทสนทนาในกจิ กรรมที่ 7 ซึ่งใช้ขอ้ มูลของตนเองที่
เติมแลว้ นกั เรยี นพยายามพูดโดยไมอ่ ่านจากเน้ือหา
12. นกั เรยี นทคี่ รสู ่มุ ออกมาพดู สนทนาหน้าชนั้ เรียน ครคู อยชว่ ยเหลือในการออกเสยี งให้ถูกตอ้ ง เสร็จแล้วครู
ประเมนิ ผลการสนทนาถาม-ตอบของนกั เรียนแต่ละคโู่ ดยใช้แบบประเมินการสนทนากจิ กรรมคู่ และใช้
เกณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้
5.สอ่ื /วัสดุอุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้

ส่อื วสั ดุ-อปุ กรณ์ แหล่งเรยี นรู้

ส่อื power point CD /เครอ่ื งเปิด CD ในหอ้ งเรียน 125

หนงั สือ Move it ช้นั ม.2

Flash cards

6.การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

6.1 วดั ผลประเมินผลตามจดุ ประสงค์

- นกั เรียนทำแบบประเมนิ ตนเอง My Assessment Profile, Starter Unit ทา้ ยหนังสอื เรยี น/ท้ายค่มู ือครู

6.2 วิธีวัดผลประเมินผล

- ประเมินการทำแบบฝึกหดั ได้ถกู ต้องรอ้ ยละ 60

6.3 เคร่ืองมือวดั ผลประเมนิ ผล

- แบบฝกึ หัด

6.4 เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล (แนบทา้ ยภาคผนวก)

เกณฑ์การประเมินการทำแบบฝึกหดั

9-12 คะแนน ดีมาก

6-8 คะแนน ดี

3-5 คะแนน พอใช้

นอ้ ยกวา่ 3 คะแนน ควรปรบั ปรงุ

จุดประสงค์ วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน

ท่ี

1. K : ความรู้ ใบงาน การเขียน ผา่ นเกณฑ์ 60%

แบบฝึกหดั

2. P : กระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤติกรรม

3. A : เจตคติ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 70%

สงั เกตพฤติกรรม

7.กิจกรรมเสนอแนะ/ชน้ิ งาน

7.1 กิจกรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................................................................................................. ............

7.2 ชิน้ งานและภาระงาน

-


Click to View FlipBook Version