The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

SAR63โรงเรียนชำนิพิทยาคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chattuporn6599, 2021-05-04 02:19:44

SAR63โรงเรียนชำนิพิทยาคม

SAR63โรงเรียนชำนิพิทยาคม

Chamnipittayakhom School รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓)

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา
(Self Assessment Report : SAR)
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

โรงเรยี นชานพิ ทิ ยาคม
อาเภอชานิ จังหวดั บรุ รี มั ย์
สหวทิ ยาเขตลาปลายมาศ

สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาบรุ รี ัมย์
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓)

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา
(Self Assessment Report : SAR)
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

โรงเรยี นชานพิ ทิ ยาคม
อาเภอชานิ จังหวดั บรุ ีรมั ย์
สหวทิ ยาเขตลาปลายมาศ

สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาบรุ รี มั ย์
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บทสรปุ ผลการรายงานการประเมนิ ตนเองสาหรบั ผบู้ รหิ าร

โรงเรียนชานิพทิ ยาคม ที่อยู่ ๙๕ หมูท่ ่ี ๔ ตาบลเมอื งยาง อาเภอชานิ จงั หวัดบุรีรมั ย์ เว็บไซต์
https://sites.google.com/a/chamnipit.ac.th/cnp_school/ สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา
มธั ยมศึกษา เขต ๓๒ เปิดสอนตงั้ แตช่ น้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ถงึ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ มีบุคลากร รวมท้ังสนิ้ ๒๐
คน จาแนกเปน็ ข้าราชการครู ๑๖ คน ครูอัตราจา้ ง ๑ คน อ่ืน ๆ ๓ คน มจี านวนนักเรยี นทงั้ หมด ๒๔๓ คน
(ขอ้ มลู ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๓) จาแนกเปน็ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑๕๒ คน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๙๑
คน ไดร้ ับการประเมินคุณภาพภายใน เมอ่ื วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓

๑. ระดบั คุณภาพมาตรฐานการศกึ ษา : ระดับดีเลศิ (๔)

๒. หลกั ฐานสนบั สนนุ ระดบั คณุ ภาพมาตรฐาน : โดยผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา ได้
พิจารณาตามมาตรฐาน ๓ ดา้ น คอื ตัวช้วี ดั ท่ี ๑ คณุ ภาพของผู้เรยี น ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการ
จัดการของผ้บู ริหารสถานศึกษา ตัวช้ีวัดท่ี ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ ผลการ
ประเมนิ ภาพรวมสรุปดังนี้

ผลการประเมนิ มาตรฐานด้านคณุ ภาพผเู้ รยี น สง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีสุขภาวะทดี่ ี มีสนุ ทรยี ภาพ มี
คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่พี งึ ประสงค์ มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง รักเรยี นรู้และพัฒนา
ตนเองอย่างต่อเน่ือง สามารถคิดอยา่ งเปน็ ระบบ คิดสรา้ งสรรค์ ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาได้อย่างมีเหตุผล มคี วามรู้และ
ทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลักสูตร มที กั ษะในการทางาน สามารถทางานร่วมกับผอู้ ่ืนได้ และมีเจตคติทีด่ ีต่ออาชีพ
สจุ รติ เชน่ กิจกรรมสดุดีครูกลอนสุนทรภู่ กจิ กรรมสปั ดาห์วันวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมศนู ย์การเรียนร้ปู ระชาคม
อาเซยี น กิจกรรมศูนย์การเรยี นร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการโรงเรียนวิถีพทุ ธ โครงการวนั สาคญั ทางชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ โครงการส่งเสรมิ สนุ ทรยี ภาพการกฬี า โครงการส่งเสริมสุนทรยี ภาพดา้ นศิลปะ ดนตรี
นาฏศลิ ป์ กิจกรรมค่ายวิชาการ โครงการคนไทยใฝ่รู้ โครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สง่ เสริมให้
นักเรียนมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยจัดกจิ กจิ กรรมโครงงานคณุ ธรรม สง่ ผลให้โรงเรียนได้รับการคดั เลอื ก
ใหเ้ ป็นโรงเรียนท่ีมีวิธีปฏิบัติทเ่ี ปน็ เลิศ ระดบั เหรียญทอง ของ สพม.๓๒ โครงการพฒั นาระบบการดูแลฯท่ี
เสรมิ สรา้ งพฒั นาการผู้เรยี นเต็มศักยภาพ โครงการโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพ เป็นตน้

ผลการประเมนิ มาตรฐานดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ส่งเสริมใหค้ รูปฏิบตั ิงานตามหน้าที่
อย่างมปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล เช่น โครงการพฒั นาครูสมู่ าตรฐานวิชาชพี ยคุ ใหม่ ผบู้ รหิ ารปฏบิ ตั งิ าน
ตามบทบาทหน้าที่อยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล คณะกรรมการสถานศึกษา และผปู้ กครอง ชมุ ชน
ปฏิบตั งิ านตามบทบาทหนา้ ที่อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ล มีการจัดหลกั สตู ร กระบวนการเรยี นรู้
และกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี นอยา่ งรอบด้านจดั สภาพแวดลอ้ มและการบรกิ ารที่ส่งเสริมให้ผเู้ รยี น
พฒั นาเต็มศักยภาพ มีการประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษาตามที่กาหนดในกฎกระทรวง เชน่ โครงการ
ส่งเสริมการมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมและการใหบ้ ริการผ้เู รยี น
โครงการพัฒนางานแผนงานฯ

ผลการประเมนิ มาตรฐานดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั สง่ เสรมิ ให้
จดั การเรียนร้ผู ่านกระบวนการคดิ และปฏิบัตจิ ริง และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตได้ ใชส้ ่ือ เทคโนโลยี

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓)

สารสนเทศและแหลง่ เรยี นรู้ที่เอื้อต่อการเรยี นรู้ มีการบริหารจดั การช้นั เรียนเชงิ บวก ตรวจสอบและประเมนิ
ผเู้ รียนอยา่ งเป็นระบบและนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น มกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นรูแ้ ละให้ข้อมลู สะท้อนกลับเพ่อื พฒั นา
และปรับปรุงการจัดการเรยี นรู้ เช่น โครงการสง่ เสริมและพัฒนาการจัดการเรยี นการสอนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โครงการพฒั นาครสู ู่มาตรฐานวิชาชพี ยุคใหม่
ส่งผลให้ ผลการทดสอบการศึกษาระดบั ชาตขิ ั้นพืน้ ฐาน O-NET อยู่ในลาดับท่ดี ีขนึ้

๓. แผนพฒั นาเพ่ือใหไ้ ดม้ าตรฐานทสี่ งู ขนึ้ :
- พัฒนาหลักสตู รและการเรียนการสอนท่ีมีหลักยดึ หยุ่น เน้นการบูรณาการเรยี นรแู้ ละการดารงชีวติ จดั
กิจกรรมสรา้ งทักษะการดารงชีวิต และการสนบั สนุนการสร้างงานสร้างอาชีพ
- ส่งเสรมิ และพัฒนาทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษของทุกคนในโรงเรยี น ด้านการสื่อสารและการค้นควา้ ให้
มากขนึ้
- สง่ เสริมและพฒั นาทักษะดา้ น ICT ของครโู ดยจดั การฝึกอบรมให้ครสู ามารถใชแ้ ละผลิตสื่อนวตั กรรม
ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้หลากหลาย
- พัฒนาระบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น ร่วมกับหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง เพ่อื ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ ตอ่
นักเรยี น
- พัฒนาการเรยี นการสอนให้มีระบบการเรียน การสอนและทดสอบออนไลน์
- จดั กิจกรรมการเรียนการสอนแบบบรู ณาการให้มากขึน้
- พัฒนาอาคารสถานทีใ่ ห้มีความมัน่ คง ปลอดภัยและสวยงาม เพือ่ ให้นักเรียนและครูได้มีความรู้สึก
ปลอดภยั และมีความสุขเม่ืออย่ใู นโรงเรียน
- จดั แหลง่ เรียนรภู้ ายในสถานศึกษา และจัดหาแหลง่ เรยี นรู้ภายนอกสถานศกึ ษาใหเ้ อือ้ ต่อการเรยี นรู้
- จดั หาวัสดคุ อมพวิ เตอร์และการผลิตส่ือต่าง ๆ รวมทั้งอปุ กรณ์ทางการศึกษาท่เี อื้อต่อการเรยี นรใู้ ห้
เพียงพอเหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ

คานา

รายงานการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาประจาปขี องสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ฉบบั น้ี จัดทาขน้ึ
ตามประกาศกฎกระทรวง “การประกันคุณภาพการศึกษา” พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยมวี ตั ถุประสงค์ เพ่ือรายงานผล
การพฒั นาคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี นชานิพิทยาคม ในรอบปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ เสนอตอ่ คณะกรรมการ
สถานศกึ ษา หนว่ ยงานต้นสังกัด และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพอ่ื พจิ ารณาและเปิดเผยรายงานนี้ต่อสาธารณชน
โดยมขี อ้ มูลของสถานศึกษา วิสยั ทศั น์ พันธกิจ เป้าหมายของโรงเรยี น แนวคดิ หลักเพื่อการพฒั นา การจัด
กิจกรรมการเรยี นการสอน สภาพการบริหารและการจัดการ ผลการดาเนนิ งานเพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
ในรอบปี ทผ่ี า่ นมา และสรปุ ผลการประเมิน ๓ มาตรฐาน ไวอ้ ย่างชัดเจน

โรงเรยี นชานิพทิ ยาคม ขอขอบคุณคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ผบู้ ริหาร ครแู ละบคุ ลากร
ทางการศึกษา นกั เรยี น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มสี ว่ นในการประเมินตนเอง ใหข้ ้อมูล และจัดทาเอกสาร
ฉบับน้ีจนเสรจ็ สมบูรณ์ เอกสารฉบับนี้จะเป็นเอกสารหลกั ฐานสารสนเทศของโรงเรียนชานิพิทยาคม ซ่ึงจะ
นาเสนอเพื่อรายงานหน่วยงานตน้ สังกัด ผเู้ ก่ยี วข้อง และเผยแพร่ต่อผ้ปู กครอง ชมุ ชน และสาธารณชน อันจะ
เกดิ ผลดีต่อทางราชการต่อไป

โรงเรยี นชานิพิทยาคม
๒๘ เมษายน ๒๕๖๔

สารบญั

เร่ือง หนา้

สว่ นท่ี ๑ ขอ้ มลู พน้ื ฐานของสถานศกึ ษา ๑
๑.๑ ขอ้ มูลท่วั ไป ๒
๑.๒ ข้อมูลด้านการบริหาร ๓
๑.๓ ขอ้ มลู นกั เรียน ๕
๑.๔ ข้อมูลครแู ละบุคลากร ๗
๑.๕ ข้อมลู อาคารสถานท่ี ๘
๑.๖ ขอ้ มูลงบประมาณ ๘
๑.๗ ขอ้ มูลสภาพชมุ ชนโดยรวม ๙
๑.๘ โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษา ๙
๑.๙ แหล่งเรียนรู้ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ๑๓
๑.๑๐ สรปุ ขอ้ มลู ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นระดับสถานศึกษา ๑๙
๑.๑๑ ผลการทดสอบระดับชาตขิ องผ้เู รยี น ๒๐
๑.๑๒ รางวัลทส่ี ถานศกึ ษาได้รับ ๒๒
๑.๑๓ การดาเนนิ งานของสถานศกึ ษาตามนโยบายจากหนว่ ยงานต้นสงั กัด หรอื ภาครัฐ
๒๓
สว่ นท่ี ๒ ผลการประเมนิ ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ระดบั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ๒๕
๒.๑ มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพของผูเ้ รยี น ๒๗
๒.๒ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ๒๘
๒.๓ มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั ๒๙
๒.๔ สรุปผลการประเมนิ ในภาพรวม
๒.๕ สรุปผล แนวทางการพฒั นา และความต้องการชว่ ยเหลอื ๓๖
๕๐
สว่ นที่ ๓ การปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practices) กจิ กรรมทโ่ี ดดเดน่ ๗๖
๓.๑ การปฏบิ ตั ิท่ีเปน็ เลศิ (Best Practices) กิจจกรรมทโี่ ดดเด่น
๓.๒ ผลการประเมินคุณภาพภายใน
๓.๓ ผลการประเมนิ คุณภาพภายนอก

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓)

สารบญั (ตอ่ ) หนา้
๘๐
สว่ นท่ี ๔ ภาคผนวก ๘๒
ก. ประกาศมาตรฐานการศกึ ษาและค่าเป้าหมายของสถานศึกษา ๘๖
ข. หนังสอื ใหค้ วามเห็นชอบการรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา
๘๗
(Self Assessment Report : SAR) ของคณะกรรมการสถานศึกษา ๘๙
ค ผลงาน เกยี รติบัตร รางวัลความภาคภูมใิ จ
ง คาสั่ง เกยี รติบตั ร ภาพถา่ ย และอน่ื ๆ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑

สว่ นท่ี ๑
ขอ้ มลู พ้ืนฐาน

๑. ขอ้ มลู ทว่ั ไป

ชอ่ื สถานศึกษา โรงเรยี นชานพิ ทิ ยาคม ตั้งอยเู่ ลขท่ี ๙๕ หม่ทู ี่ ๔ บา้ นตาเตน ตาบลเมืองยาง
อาเภอชานิ จงั หวัดบุรีรมั ย์ รหสั ไปรษณยี ์ ๓๑๑๑๐ สงั กัด สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต
๓๒ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ โทรศัพท์ ๐๔๔-๖๐๙๙๗๘
โทรสาร ๐๔๔-๖๐๙๙๘๐ e – mail : [email protected] website :
https://sites.google.com/a/chamnipit.ac.th/cnp_school/ เปดิ สอนตัง้ แต่ระดับชั้น ม.๑ ถึงระดับชน้ั
ม.๖ เนื้อที่ ๕๖ ไรง่ าน เขตพ้นื ท่บี รกิ ารครอบคลมุ พน้ื ทเี่ ขตอาเภอชานิ รวม ๖๓ หมูบ่ า้ น ไดแ้ ก่ ตาบล
เมืองยาง ๑๓ หมู่บ้าน ตาบลโคกสนวน ๘ หมู่บา้ น ตาบลหนองปล่อง ๑๐ หมูบ่ า้ น ตาบลชานิ ๘ หมบู่ ้าน
ตาบลช่อผกา ๑๓ หมู่บา้ น และตาบลละลวด ๑๑ หมบู่ ้าน

ประวตั โิ รงเรยี นโดยยอ่
โรงเรยี นชานพิ ิทยาคม ก่อต้ังเมอื่ วนั ท่ี ๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๔ โดยได้รบั อนุมัติจากกรมสามญั ศึกษา ให้
จัดต้ังเป็นโรงเรยี นสาขาของโรงเรียนสงิ หวทิ ยาคม โดยสภาตาบลเมืองยาง อนุมัตใิ ห้ใชท้ ่ีดินสาธารณะ
ประโยชน์ หม่ทู ี่ ๑ เป็นทต่ี ้ังโรงเรยี น เป็นอาคารเรยี นแบบชว่ั คราว ชอ่ื ว่า โรงเรยี นสิงหวิทยาคม “สาขาเมอื ง
ยางพิทยาคม” เปิดทาการเรียนการสอนครง้ั แรก วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๓๔ มีนักเรยี น ๗๖ คน ครูคน
แรก คอื นายใช้ ชนะเกยี รติ และใชก้ าลังข้าราชการครูจากโรงเรยี นสงิ หวิทยาคม และครูอัตราจา้ ง
ปฏิบตั ิการเรยี นการสอน
ปีการศึกษา ๒๕๓๘ โรงเรยี นสงิ หวทิ ยาคม “สาขาเมืองยางพทิ ยาคม” ได้รบั อนุมัตจิ ากกรมสามัญ
ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตง้ั โรงเรยี นเมืองยางพทิ ยาคม เป็นโรงเรยี นประจาตาบลเมืองยาง
อาเภอชานิ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ และแตง่ ตงั้ ให้ นายใช้ ชนะเกียรติ มาดารงตาแหน่ง ครูใหญ่โรงเรียนเมอื งยางพิทยา
คม
ปีการศึกษา ๒๕๓๙ นายใช้ ชนะเกยี รติ ไดร้ ับอนุมตั ิการแต่งต้งั จากกรมสามญั ศึกษา ใหด้ ารงตาแหน่ง
ทีส่ งู ขึ้นจากครใู หญ่เปน็ อาจารยใ์ หญ่โรงเรยี นเมืองยางพิทยาคม
ปีการศกึ ษา ๒๕๔๐ กรมสามัญศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร อนมุ ัติใหโ้ รงเรียนเมืองยางพิทยาคมเปิด
ทาการเรียนการสอนในระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔) จานวน ๒ หอ้ งเรียน มนี กั เรียน ๘๐
คน
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๔๙ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน อนมุ ตั ิให้โรงเรยี นเมืองยางพิทยา
คมเปลีย่ นชอ่ื มาเป็น “โรงเรียนชานพิ ิทยาคม” โดยการบริหารงานของนายประชมุ พนั ธุ์พงศ์ ผอู้ านวยการ
โรงเรยี น
ผูอ้ านวยการโรงเรียนคนปจั จุบนั นายประจวบ อนิ ทแย้ม ดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรยี น ต้งั แต่
วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงปัจจบุ ัน

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒
แผนทโ่ี รงเรยี น

๒. ขอ้ มลู ดา้ นการบริหาร

๑) ผอู้ านวยการโรงเรยี น ช่ือ-สกุล นายประจวบ อนิ ทแย้ม โทรศัพท์ ๐๘๑-๗๑๘๐๑๕๓
E-mail [email protected] วุฒกิ ารศึกษาสงู สุด ปริญญาโท ครศุ าสตร์มหาบัณฑติ
สาขาการบรหิ ารการศึกษา

๒) รองผู้อานวยการโรงเรียน - คน (ตามจานวนรองผู้อานวยการโรงเรยี นนั้นๆ )
๒.๑ ชอื่ -สกุล วุฒกิ ารศึกษาสูงสุด … โทรศพั ท์ e-mail
รบั ผิดชอบกลุ่ม (ตามโครงสร้างการบรหิ ารงานของสถานศึกษา)
๒.๒ ชอ่ื -สกลุ วฒุ ิการศึกษาสูงสดุ … …โทรศพั ท์ e-mail
รับผดิ ชอบกลมุ่ (ตามโครงสร้างการบริหารงานของสถานศึกษา)
๒.๓ ช่ือ-สกลุ วฒุ กิ ารศึกษาสงู สุด … โทรศพั ท์ e-mail
รบั ผดิ ชอบกล่มุ (ตามโครงสร้างการบริหารงานของสถานศึกษา)
๒.๔ ชอ่ื -สกุล วฒุ ิการศึกษาสูงสดุ … …โทรศพั ท์ e-mail
รบั ผิดชอบกลุ่ม (ตามโครงสรา้ งการบริหารงานของสถานศึกษา)

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓

๓. ขอ้ มลู นกั เรยี น (รายงานเลอ่ื นมาเปน็ ณ วนั ท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เดมิ วันท่ี ๑๖ มถิ นุ ายน
๒๕๖๓)

๑) จานวนนักเรยี นในเขตพ้ืนทบ่ี รกิ ารทั้งสนิ้ ๒๔๓ คน

๒) จานวนนกั เรียนในโรงเรยี นท้ังสน้ิ ๒๔๓ คน จาแนกตามระดบั ชัน้ ทเ่ี ปิดสอน

ระดบั ชนั้ เรียน จานวนห้อง เพศ รวม เฉลยี่
ม. ๑ ๒ ชาย หญงิ ๕๑ ต่อหอ้ ง
๒๑ ๓๐ ๒๖

ม. ๒ ๒ ๒๐ ๓๙ ๕๙ ๓๐

ม. ๓ ๒ ๑๖ ๒๖ ๔๒ ๒๑

ม. ๔ ๑ ๑๕ ๒๗ ๔๒ ๔๒

ม. ๕ ๑ ๖ ๑๙ ๒๕ ๒๕

ม. ๖ ๑ ๑๑ ๑๓ ๒๔ ๒๔

รวม ๙ ๘๙ ๑๕๔ ๒๔๓ ๒๘

๗๐

๖๐

๕๐

๔๐
ปีการศึกษา ๒๕๖๒

๓๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๓
๒๐

๑๐


ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖

ข้อมลู จานวนนักเรยี นเปรยี บเทยี บปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ และ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๔

๓) จานวนนักเรยี นท่มี ีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ของกรมพลศึกษาหรอื สานกั งานกองทุน
สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส ) ๒๔๑ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๙๙.๑๘

๔) จานวนนักเรียนทมี่ ีน้าหนักส่วนสงู ตามเกณฑข์ องกรมอนามยั ๒๔๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙๙.๑๘
๕) จานวนนักเรยี นทม่ี ีความบกพร่องเรยี นรว่ ม ๒ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๐.๘๒
๖) จานวนนกั เรยี นมีภาวะทุพโภชนาการ ๒ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๐.๘๒
๗) จานวนนกั เรียนปญั ญาเลิศ ๒๕ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๐.๓๓
๘) จานวนนกั เรียนตอ้ งการความชว่ ยเหลอื เป็นพเิ ศษ ๘๑ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓๓.๔๗
๙) จานวนนักเรยี นท่ลี าออกกลางคัน (ปจั จบุ ัน) ๒ คน คดิ เป็นร้อยละ ๐.๘๒
๑๐) สถติ กิ ารขาดเรียน ๖๖ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒๗.๒๗
๑๑) จานวนนกั เรยี นที่เรยี นซ้าชัน้ ๐ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๐
๑๒) จานวนนักเรียนทจี่ บหลกั สูตร

ม. ๓ จานวน ๓๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๗๓.๘๑
ม. ๖ จานวน ๒๔ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๐๐
๑๓) อัตราส่วนครู : นกั เรียน = ๑ : ๑๕
๑๔) จานวนนักเรยี นที่เขา้ ร่วมกจิ กรรมศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ วรรณคดีและนันทนาการ ๒๔๓ คน
คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
๑๕) จานวนนักเรียนที่มคี ุณลกั ษณะเปน็ ลกู ทดี่ ีของพ่อ แม่ ผ้ปู กครอง ๒๔๓ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
๑๐๐
๑๖) จานวนนักเรียนทม่ี ีคุณลกั ษณะเป็นนกั เรยี นท่ดี ขี องโรงเรียน ๒๔๓ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐
๑๗) จานวนนักเรียนท่ที ากิจกรรมบาเพ็ญประโยชนต์ อ่ สงั คมทั้งในและนอกประเทศ ๒๔๓ คน
คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐
๑๘) จานวนนกั เรยี นที่มบี ันทึกการเรียนรูจ้ ากการอ่านและการสบื ค้นจากเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง
สม่าเสมอ ๒๔๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
๑๙) จานวนนกั เรยี นทผี่ ่านการประเมินความสามารถด้านการคิดตามทก่ี าหนดในหลกั สูตรสถานศึกษา
๒๔๓ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๐๐
๒๐) จานวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามความสามารถในการปรับตัวเขา้ กับสังคมตามที่
กาหนดในหลกั สูตรสถานศึกษา ๒๔๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๕

๔. ขอ้ มลู ครแู ละบคุ ลากร อายุ อายุ ตาแหนง่ / วฒุ ิ วชิ า เอก สอนวชิ า/ชนั้ จานวนครง้ั /
ราช วทิ ยฐานะ ช่ัวโมงทรี่ บั
ครปู ระจาการ การ การพฒั นา/ปี

ท่ี ช่ือ – ชือ่ สกลุ ๔๗ ๑๙ คศ.๓ ค.ม. การบริหารการศึกษา - ๔๐
๑๘
๑ นายประจวบ อินทแย้ม ๕๓ ๒๕ คศ.๓ กศ.บ. พลศึกษา สุขศกึ ษาฯ ๓๖
๒ ว่าท่รี ้อยตรีกานต์ แสงศิริ
๓ นางสาวกัญญาพร แกว้ รักษา ๔๒ ๑๗ คศ.๓ ศษ.ม./ การบริหารการศึกษา/ ภาษาไทย ๓๖

๔ นางสาวศริ ิพร พวงประเสริฐกุล กศ.ม./ การมัธยมศึกษา/ ๒๔

๕ นายประชา ไกรสร ค.บ. ภาษาไทย ๒๔
๓๖
๖ นางพิราภรณ์ บญุ เกดิ ๔๕ ๒๐ คศ.๒ กศ.ม./ การบรหิ ารการศกึ ษา/ ภาษาอังกฤษ ไปชว่ ย
๗ นายเขษม มหงิ สาเดช ราชการ
๘ นางชนนิ ทรพ์ ร พฒั นะธรี นันท์ ค.บ. ภาษาอังกฤษ ๔๒
๒๔
๙ นายไชยวฒั น์ ศตั รพู า่ ย ๔๒ ๑๘ คศ.๒ ศษ.ม./ การบรหิ ารการศึกษา/ คณิตศาสตร์ ๗๐
๑๐ นายสมชาย เล่ียมทา ๕๐
๑๑ นางสาวเพ็ญพกั ตร์ มะลติ ไิ ข ค.บ. คณิตศาสตร์ ๓๐
๑๒ นางปริศนา ขุลที รัพย์ ๑๘
๑๓ นายผดุงพงศ์ โพธิว์ เิ ศษ ๕๐ ๒๕ คศ.๒ ค.บ. คณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์
๑๔ นางสาวจริ าภรณ์ บุญศรี -
๔๖ ๑๐ คศ.๒ กศ.ม. การบรหิ ารการศกึ ษา ภาษาองั กฤษ -
๑๕ นางสาวสกุลรัตน์ สุนทรสนทิ
๑๖ นางสาวณัฐทิตา รักษา ๔๕ ๑๘ คศ.๓ ศษ.ม./ การบรหิ ารการศกึ ษา/ คอมพิวเตอร์
ค.บ. คอมพวิ เตอร์

๓๔ ๔ ครู ค.บ. เคมี วิทยาศาสตร์

๓๕ ๔ ครู วท.บ. เกษตรกลวิธาน การงานอาชพี

๒๗ ๓ ครู ค.บ. ชวี วิทยา ชีววทิ ยา

๓๕ ๓ ครู ร.บ. การเมืองการปกครอง สังคมศึกษา

๒๙ ๓ ครู ค.บ. ภาษาไทย ภาษาไทย

๓๖ ๓ ครู ค.บ. ศลิ ปศกึ ษา ศิลปศึกษา/
๒๙ ๔ ครู ค.บ. ฟิสิกส์ นาฏศลิ ป์
ฟิสกิ ส์

๓๗ ๕ ครู วท.บ. เทคโนโลยสี ารสนเทศ คอมพิวเตอร์

มคี รูท่ีสอนวชิ าตรงตามวิชาเอก ๑๖ คน รอ้ ยละ ๑๐๐
มคี รูทีส่ อนวชิ าตามความถนัด .....-..... คน รอ้ ยละ .....-.....

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๖

ครอู ตั ราจา้ งและบคุ ลาการทางการศกึ ษา

ท่ี ชอ่ื – ชอ่ื สกลุ อายุ ประสบการณ์ วฒุ ิ วชิ า เอก สอนวชิ า/ จา้ งดว้ ยเงนิ
การสอน (ป)ี ช้ัน

๑ นายวุฒิวิทย์ เนยี มหตั ถี ๓๖ ๘ ค.บ. สงั คมศกึ ษา สังคมศกึ ษา สพฐ.

๒ นางสาวภาวณิ ี โสภกั ดี ๓๐ ๒ ค.บ. สงั คมศกึ ษา ครูพ่ีเลย้ี ง สพฐ.

๓ นางสาวเขมกิ า รัตนสทิ ธ์ิ ๒๒ ๑ ปวส. การบญั ชี ธุรการ สพฐ

๔ นายเชยี งชาญ มแี ย้มภกั ดิ์ ๕๓ ลูกจา้ งประจา ตา่ กวา่ - - สพฐ
ปริญญา

ข้อมลู ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาจาแนกตามวฒุ ิการศกึ ษา

ตา่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท
๑๑ % ๓๓ %

ปรญิ ญาตรี
๕๖ %

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๗

ขอ้ มลู ขา้ ราชการครูจาแนกตามวิทยฐานะ ชาย หญงิ รวม
ที่ ตาแหนง่ ๑ -๑
๑ ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา คศ.๓ ๒ ๓๕
๒ ครู คศ.๓ ๑ ๑๒
๓ ครู คศ.๒ ๓ ๕๘
๔ ครู คศ.๑

ครู คศ.๑

ครู คศ.๒

ครู คศ.๓

ผอ. คศ.๓

๑0 ๒1 ๓2 ๔3 ๕4 ๖5 ๗6 7๘ ๙8 ๑9๐
ขอ้ มลู ขา้ ราชครแู ยกตามวทิ ยฐานะ

๕. ขอ้ มลู อาคารสถานท่ี จานวน
๑ หลัง
ประเภท ๑ หลงั
๑. อาคารเรยี น ๒๑๖ ค.๒๑๖ ล.ป,๒๙ ,๒๑๖ ก,๒๑๖ ปรปั ปรุง ๔๖,๒๑๖ ปที ีส่ รา้ ง 2538 ๑ หลงั
๒. อาคารเรยี นกง่ึ ถาวรปีท่สี ร้าง ๒๕๔๒ ๑ หลงั
๓. อาคารหอประชมุ ๑๐๐/๒๗ ปีทส่ี ร้าง ๒๕๔๕ ๑ หลงั
๔. อาคารโรงอาหาร ๒๖๐ ที่นง่ั ปีทสี่ ร้าง ๒๕๖๒ ๑ หลัง
๕. บ้านพักครู ๒๐๕/๒๖ (๕ ห้องนอน) ปีทส่ี รา้ ง ๒๕๓๘ ๑ หลงั
๖. บา้ นพักครู ๒๐๕/๒๖ (๕ ห้องนอน) ปที ีส่ ร้าง ๒๕๓๙ ๑ หลงั
๗. ส้วมมาตรฐาน ๖ ทีน่ งั่ /๒๗ ปที ส่ี รา้ ง ๒๕๓๙ ๑ สนาม
๘. ส้วมมาตรฐาน ๖ ทีน่ ง่ั /๒๗ ปที ส่ี รา้ ง ๒๕๓๘ ๑ สนาม
๙. สนามบาสเก็ตบอล ปที ีส่ ร้าง ๒๕๓๙ ๑ สนาม
๑๐. สนามบาสเกต็ บอล ปที ่สี ร้าง ๒๕๔๑ ๑ ลาน
๑๑. สนามฟุตบอล แบบ ฟ.๑ ปที ี่สร้าง ๒๕๔๐ ๖ คอลมั ภ์
๑๒. ลานกฬี าอเนกประสงค์ ปีที่สรา้ ง ๒๕๕๖
๑๓. ถงั เก็บนา้ ฝ.๓๓

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๘

๖. ขอ้ มลู งบประมาณ

กรอบรายการจดั สรร งบประมาณ

งบประมาณทจ่ี ะจดั สรรทงั้ สนิ้ ๘๗๗,๘๐๐
๒๖๒,๐๐๐
งบประมาณจดั สรร เพื่อลักษณะงานประจาของหน่วยงาน ๑๕๖,๐๐๐
๒๖,๐๐๐
๑) คา่ การใชก้ ระแสไฟฟ้า(เฉลยี่ เดอื นละ ๑๓,๐๐๐ บาท) ๓๐,๐๐๐

๒) ค่าการใชโ้ ทรศัพท์ โทรสาร อินเทอร์เน็ต (เฉล่ียเดอื นละ ๒,๐๐๐ บาท) ๕๐,๐๐๐
๖๑๕,๘๐๐
๓) คา่ ใชส้ อย การเดินทางไปราชการของครูและบุคลากร
(บุคลากร ๒๐ คน เฉลยี่ คนละ ๑,๐๐๐ บาท)

๔) จัดสรรเพอ่ื เปน็ งบสารองทวั่ ไป

งบประมาณจดั สรรเพ่ือการบริหารการจัดการเรียนการสอน(สนบั สนุนวชิ าการ)
จัดสรรเพอื่ การบริหารพฒั นาองค์กรดาเนนิ การตามโครงการในแผนปฏบิ ัติการ
ประจาปี ๒๕๖๔ รวม ๑๗ โครงการ

๗. ขอ้ มลู สภาพชมุ ชนโดยรวม

๑) สภาพชมุ ชนโดยรอบ บริเวณโรงเรียนเป็นชุมชนหลายทอ้ งถ่ินมาอยรู่ วมกนั โดยแยกกนั อย่เู ปน็
กลุ่ม เชน่ อีสาน ลาว เขมร ส่วย บริเวณโดยรอบโรงเรยี นเป็นทตี่ ้ังสถานที่ราชการหลายหน่วยงาน ไดแ้ ก่
ท่ตี งั้ องค์การบริหารส่วนตาบลเมืองยาง โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพประจาตาบลเมืองยาง ศูนยส์ ่งเสรมิ และ
พฒั นาอาชีพการเกษตรจังหวัดบุรรี ัมย์ (พนั ธ์พุ ชื เพาะเล้ียง) ทว่ี ่าการอาเภอชานิ สานกั งานเกษตรอาเภอชานิ
สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอชานิ ประชากร
ของชุมชนในท้องถ่นิ ประกอบอาชีพ ทานา รับจา้ ง ข้าราชการ พนักงาน/เจ้าหนา้ ที่ของรัฐ มีประชาชนใน
เขตบริการของโรงเรยี น ประมาณ ๓๓,๘๐๔ คน เป็นชาย ๑๘,๘๔๘ คน เป็นหญงิ ๑๘,๙๕๘ คน จานวน
ครวั เรือน ๗,๓๕๗ หลงั คา ชุมชนบรเิ วณโดยรอบโรงเรียนได้แก่ ตาบลเมืองยาง ตาบลชานิ ตาบลหนอง
ปลอ่ ง ตาบลโคกสนวน ตาบลชอ่ ผกา ตาบลละลวด อาชีพหลักของชมุ ชนคือ ทานา เน่ืองจากภูมิประเทศ
เปน็ ที่ราบลุม่ มีลานา้ ไหลผ่านประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีประเพณที ้องถ่ินหลากหลายเนอ่ื งจาก
เป็นชุมชนหลากหลายท้องถิ่น มาอย่รู ว่ มกนั เชน่ ประเพณีแห่พระหลวงพ่อชานจิ ประเพณบี ญุ ผเวศและเทศ
มหาชาติ ประเพณสี งกรานต์ ประเพณีทอดกฐนิ ประเพณีแจกข้าว (กระยาสารท) มีศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน
ข้นึ ชื่ออนั เปน็ ทรี่ จู้ กั โดยทว่ั ไปคอื การทอผ้ามดั หม่ี การทอเสอื่ กก การสานไม้ไผเ่ ปน็ ของใช้ การทาหมอนองิ
การถกั หรือสานเคร่ืองดักจับปลาเชน่ แห อวน สวิง

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๙

๒) ผู้ปกครองสว่ นใหญ่ จบการศึกษาระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ประกอบอาชพี ทานา คดิ เป็น
รอ้ ยละประมาณ ๗๐ % รับจ้าง ประมาณ ๒๘ % รบั ราชการ ประมาณ ๒ % นบั ถือศาสนาพุทธ ร้อยละ
๑๐๐ ฐานะทางเศรษฐกิจ / รายได้โดยเฉล่ยี / ครอบครวั / ปี ประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท จานวนคนเฉลี่ยต่อ
ครอบครวั ๒-๕ คน

๓) โอกาสและข้อจากดั ของโรงเรยี น บริเวณที่ต้ังโรงเรยี นอยู่ใกลแ้ หล่งเรียนรูห้ ลายแหง่ เชน่ ศนู ย์
สง่ เสรมิ และพัฒนาอาชีพการเกษตรจงั หวัดบรุ ีรัมย์(พันธพ์ุ ืชเพาะเลย้ี ง) ที่ว่าการอาเภอชานิ สานกั งานเกษตร
อาเภอชานิ โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพประจาตาบลเมืองยาง องค์การบริหารส่วนท้องถ่ินตาบลเมืองยาง
ตาบลชานิ โรงพยาบาลชานิ สถานีตารวจอาเภอชานิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วดั ชนะ
ตาราม วัดบา้ นเมืองยาง ฯลฯ

ลักษณะของชุมชนเปน็ ชุมชนเกษตรกรรม ฐานะเศรษฐกจิ ไม่ค่อยดี ประชากรส่วนใหญ่จะย้าย
ถน่ิ ฐานไปทางานท่ีอนื่ จะอยู่บ้านในชว่ งทานาเทา่ นั้น เมื่อหมดฤดทู างานจะไปทางานรับจา้ งหรือบางคนไป
ทางานที่อนื่ เป็นเวลาหลายปี เพราะไม่มีท่นี าทามาหากนิ ท้งิ ให้บุตรหลานอย่กู ับญาติ ปยู่ ่า ตายาย หรืออยตู่ าม
ลาพัง ทาใหเ้ กิดปัญหาตามมามากมาย เช่น เดก็ ท่ถี ูกทอดทงิ้ มปี ญั หาทางด้านจติ ใจ ไม่สนใจเรยี น ขาดเรยี น
บอ่ ย และออกเรยี นกลางคนั โดยทไ่ี ม่มีผู้ปกครองคอยดูแล เดก็ จะมีพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม ถกู ชกั จูงไป
ในทางไม่ดไี ดง้ ่าย และผู้ปกครองไมเ่ ห็นความสาคัญของการศกึ ษาต่อของบุตรหลานของตนเอง เพราะตอ้ งหา
รายไดม้ าใชจ้ ่ายในครอบครวั และคิดวา่ การศกึ ษาต่อเป็นการสิ้นเปลือง

๘. โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา

โรงเรียนชานพิ ทิ ยาคม จัดสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรียนไดจ้ ัดสัดส่วนสาระการเรยี นรู้และเวลาเรยี น ดงั แสดงในตารางตอ่ ไปน้ี

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ – ๓) การงานฯ ภาษาตา่ ง ก พฒั นา สาระ รวม
ประเทศ ผู้เรยี น เพม่ิ เตมิ
ชนั้ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมฯ สขุ ศกึ ษาฯ ศลิ ปะ
๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๐๐ ๑,๒๐๐
ม.๑ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐
ม.๒ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๐๐ ๑,๒๐๐
ม.๓ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐
รวม ๓๖๐ ๓๖๐ ๓๖๐ ๔๘๐ ๒๔๐ ๒๔๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๐๐ ๑,๒๐๐

๒๔๐ ๓๖๐ ๓๖๐ ๖๐๐ ๓,๖๐๐

 จานวนชัว่ โมงทจ่ี ดั ใหน้ ักเรยี นเรยี นท้งั ปี เทา่ กบั ๑,๒๐๐ ชั่วโมง
 แผนการเรยี นรู้ / จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนทีต่ ้องการเนน้ เป็นพิเศษ คือ วทิ ย์-คณิต
 สาระเพ่มิ เติมท่ีจัด คอื

ม.๑ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สงั คมฯ ศลิ ปะ การงานฯ

ม.๒ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ศิลปะ การงานฯ

ม.๓ คณิตศาสตร์ ศลิ ปะ การงานฯ ภาษาตา่ งประเทศ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๐
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔– ๖) ๐

ช้นั ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมฯ สขุ ศึกษาฯ ศิลปะ การงานฯ ภาษาต่าง ก พัฒนา สาระ รวม
ประเทศ ผูเ้ รยี น เพมิ่ เตมิ

ม.๔ ๘๐ ๘๐ ๒๔๐ ๑๖๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๑๒๐ ๓๒๐ ๑,๒๐๐

ม.๕ ๘๐ ๘๐ ๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๑๒๐ ๖๔๐ ๑,๒๐๐

ม.๖ ๘๐ ๘๐ ๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๑๒๐ ๖๔๐ ๑,๒๐๐

รวม ๒๔๐ ๒๔๐ ๒๔๐ ๓๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐ ๓๖๐ ๑,๖๐๐ ๓,๖๐๐

 จานวนชว่ั โมงที่จัดให้นกั เรยี นเรียนทงั้ ปี เทา่ กับ ๑,๒๐๐ ช่วั โมง
 แผนการเรยี นรู้ / จุดเนน้ การพฒั นาผ้เู รียนทต่ี ้องการเน้นเป็นพิเศษ คือ วิทย์-คณิต
 สาระเพ่ิมเติมที่จดั คอื

ม.๔ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ศลิ ปะ ภาษาตา่ งประเทศ

ม.๕ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมฯ ศิลปะ การงานฯ ภาษาตา่ งประเทศ

ม.๖ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมฯ ศิลปะ การงานฯ ภาษาต่างประเทศ
 ภาษาตา่ งประเทศท่จี ัดสอน คือ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ภาษาอังกฤษ

๙. แหลง่ เรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ

๑) หอ้ งสมดุ มีขนาด ๑๔๔ ตารางเมตร จานวนหนงั สือในหอ้ งสมดุ ๔,๓๒๑ เลม่

- การสบื คน้ หนังสอื และการยืม-คนื ใช้ระบบคิวอีแ้ ละโปรแกรมสาเร็จรปู PLS III

- จานวนนกั เรยี นทีใ่ ชห้ อ้ งสมุดในปีการศึกษาทรี่ ายงานเฉลี่ย ๘๐ คนตอ่ วัน

คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓๗.๙๑ ของนักเรียนทัง้ หมด

๒) ห้องปฏบิ ตั กิ าร

ห้องปฏิบตั กิ ารวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๔ ห้อง

หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ จานวน ๑ ห้อง

หอ้ งปฏิบตั ิการทางภาษา จานวน ๑ หอ้ ง

หอ้ งปฏิบัติการคณิตศาสตร์ จานวน ๑ หอ้ ง

หอ้ งจรยิ ธรรม จานวน ๑ ห้อง

๓) คอมพวิ เตอรจ์ านวน ๔๐ เคร่อื ง

ใช้เพือ่ การเรียนการสอน ๓๐ เคร่ือง

ใชเ้ พอื่ สบื คน้ ข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ น็ต ๓๐ เคร่ือง

จานวนนกั เรยี นท่สี ืบคน้ ข้อมูลทางอนิ เตอรเ์ นต็ ในปีการศึกษาที่รายงาน เฉล่ยี ๘๕ คน ตอ่ วนั

คิดเป็นรอ้ ยละ ๔๐.๒๘ ของนกั เรียนทง้ั หมด

ใชเ้ พ่ือการบริหารจดั การ ๑๐ เคร่อื ง

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๑
๑) แหลง่ เรยี นรภู้ ายในโรงเรยี น ๐

แหลง่ เรยี นรภู้ ายใน/ชื่อแหล่งเรยี นรู้ สถติ กิ ารใชจ้ านวนครงั้ /ปี
ชือ่ แหลง่ เรยี นรู้
๑,๐๕๐
๑ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารวทิ ยาศาสตร์ ๖๕๐
๒ ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ ๔๕๐
๓ ห้องปฏิบตั ิการทางภาษา ๕๐๐
๔ ห้องปฏบิ ตั กิ ารคณิตศาสตร์ ๔๕๐
๕ ห้องจรยิ ธรรม ๓๕๐
๖ แปลงเกษตรสาธิต/แปลงผกั ๑๕๐
๗ บ่อเลย้ี งกบ/เลย้ี งปลา

๕) แหลง่ เรียนรภู้ ายนอกโรงเรยี น สถติ กิ ารใช้
จานวนครง้ั /ปี
แหล่งเรยี นรภู้ ายนอก/ชอ่ื แหลง่ เรยี นร/ู้ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่
ชอ่ื แหลง่ เรยี นรู้ ๒

๑ ทวี่ า่ การอาเภอชานิ ๖
๒ องค์การบริหารสว่ นตาบลเมืองยาง ๒
๓ สนามฟตุ บอลบุรีรมั ย์สเตเดียม ๒
๔ วดั บา้ นตาเก็ม ๒
๕ วัดชนะตาราม ๑
๖ วัดบา้ นเมอื งยาง ๖
๗ สานักงานเกษตรอาเภอชานิ ๓
๘ ศูนย์ส่งเสรมิ และพฒั นาอาชีพการเกษตรจงั หวดั บรุ รี มั ย์ (พนั ธ์ุพืชเพาะเลย้ี ง) ๑
๙ แปลงเกษตรสาธิต บ้านนางชม่าย ทศิ ทะษะ ๑
๑๐ สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ๑
๑๑ ห้องสมุดประชาชนอาเภอชานิ ๒
๑๒ โรงพยาบาลชานิ ๑
๑๓ โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพประจาตาบลเมืองยาง ๑
๑๔ สถานีตารวจอาเภอชานิ ๑
๑๕ ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์
๑๖ วดั หลวงปทู่ วด พทุ ธรงั สี จงั หวดั นครราชสมี า

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๒

๖) ปราชญช์ าวบา้ น/ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ทส่ี ถานศกึ ษาเชญิ มาใหค้ วามรู้แกค่ รู นกั เรยี น ใน
ปกี ารศกึ ษาทร่ี ายงาน

๖ ๑ นางสายพิน กุนน้อย ให้ความรู้เรื่อง การแปรรูปอาหารทาแหนมเห็ดนางฟ้า
สถิตกิ ารใหค้ วามร้ใู นโรงเรียนแห่งน้ี จานวน ๕ ครั้ง/ปี

๖ ๒ นางชะมา่ ย ทิศทะษะ ใหค้ วามรู้เรอื่ ง การทาไม้กวาดทางมะพร้าว
สถิติการใหค้ วามรู้ในโรงเรยี นแห่งน้ี จานวน ๖ ครั้ง/ปี

๖.๓ นางสาวอรทัย มนั่ คง ให้ความรเู้ รอื่ ง การทาขนมเบเกอร่ี
สถติ กิ ารใหค้ วามรู้ในโรงเรยี นแหง่ น้ี จานวน ๕ คร้งั /ปี

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๓


๑๐. สรปุ ขอ้ มูลผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นระดบั สถานศกึ ษา

ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เฉพาะรายวิชาพื้นฐาน ทุกระดบั ช้ัน ( ม.๑ - ม.๖)

ระดับชั้นละ ๒ ภาคเรียน (โปรดจัดทาขอ้ มลู ผลการเรยี นรู้ให้ครบทุกระดับชน้ั ตามแบบท่กี าหนด)

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน รอ้ ยละ

จานวน จานวนนกั เรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไี่ ด้ นร.ที่ได้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๓

ภาษาไทย สอบ ขน้ึ ไป ขน้ึ ไป
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ ๕๓ ๐ ๑ ๘ ๑๐ ๑๓ ๙ ๒ ๖ ๑๗ ๓๒.๐๗
สงั คมศกึ ษา ฯ
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๕๓ ๑ ๓ ๗ ๒๑ ๕ ๔ ๒ ๘ ๑๔ ๒๖.๔๑
ศลิ ปะ
การงานอาชพี ฯ ๕๓ ๐ ๓ ๖ ๘ ๙ ๑๓ ๔ ๘ ๒๕ ๔๗.๑๖
ภาษาตา่ งประเทศ
๕๓ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๕ ๓๓ ๑๓ ๕๑ ๙๖.๒๒
รวมจานวน
๕๓ ๔ ๙ ๔ ๗ ๘ ๗ ๔ ๑๐ ๒๑ ๓๙.๖๒

๕๓ ๐ ๑ ๑ ๓ ๖ ๘ ๑๒ ๒๐ ๔๐ ๗๕.๔๗

๕๓ ๐ ๗ ๗ ๑๒ ๙ ๙ ๑ ๖ ๑๖ ๓๐.๑๘

๕๓ ๑ ๐ ๓๐ ๗ ๓ ๒ ๑ ๓ ๖ ๑๑.๓๒

๔๒๔ ๖ ๒๔ ๖๓ ๖๘ ๕๓ ๕๗ ๕๙ ๗๔ ๑๙๐ ๔๔.๘๑

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ จานวน รอ้ ยละ

กลุม่ สาระการเรียนรู้ จานวน จานวนนักเรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ที่ได้ นร.ทไ่ี ด้

ภาษาไทย ทเี่ ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดบั ๓ ระดับ ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขึ้นไป ข้นึ ไป
วทิ ยาศาสตร์
สงั คมศกึ ษา ฯ ๕๓ ๐ ๑๑ ๕ ๑๒ ๗ ๔ ๑ ๔ ๙ ๑๖.๙๘
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๕๓ ๔ ๖ ๑๘ ๑๔ ๖ ๐ ๑ ๐ ๑ ๐๑.๘๘
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๕๓ ๐ ๑๑ ๗ ๖ ๒ ๒ ๐ ๐ ๒ ๐๓.๗๗

รวมจานวน ๕๓ ๐ ๔ ๔ ๕ ๕ ๘ ๓ ๑๓ ๒๔ ๔๕.๒๘

๕๓ ๐ ๗ ๗ ๘ ๑๔ ๓ ๖ ๓ ๑๒ ๒๒.๖๔

๕๓ ๐ ๐ ๖ ๗ ๓ ๖ ๓ ๑๒ ๒๑ ๓๙.๖๒

๕๓ ๐ ๒ ๐ ๑๑ ๘ ๑๕ ๓ ๒ ๒๐ ๓๗.๗๓

๕๓ ๐ ๑๑ ๑๗ ๗ ๕ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐

๔๒๔ ๔ ๕๒ ๖๔ ๗๐ ๕๐ ๓๘ ๑๗ ๓๔ ๘๙ ๒๐.๗๙

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๔


ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ร้อยละ

จานวน จานวนนกั เรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ท่ไี ด้ นร.ท่ไี ด้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๓

ภาษาไทย สอบ ข้นึ ไป ข้นึ ไป
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ ๖๑ ๐ ๒ ๙ ๘ ๑๖ ๗ ๕ ๑๓ ๒๕ ๔๐.๙๘
สงั คมศกึ ษา ฯ
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๖๑ ๐ ๐ ๔ ๘ ๑๕ ๑๖ ๑๒ ๖ ๓๔ ๕๕.๗๓
ศลิ ปะ
การงานอาชพี ฯ ๖๑ ๘ ๑ ๑๔ ๘ ๘ ๑๒ ๖ ๓ ๒๑ ๓๔.๔๒
ภาษาตา่ งประเทศ
๖๑ ๑ ๖ ๑ ๖ ๗ ๖ ๔ ๒๙ ๓๙ ๖๓.๙๓
รวมจานวน
๖๑ ๐ ๖ ๔ ๗ ๕ ๑๑ ๑๒ ๑๖ ๓๙ ๖๓.๙๓

๖๑ ๐ ๐ ๖ ๑ ๓ ๕ ๑๓ ๑๓ ๓๑ ๕๐.๘๑

๖๑ ๐ ๓ ๘ ๘ ๑๔ ๕ ๕ ๑๘ ๒๘ ๔๕.๙๐

๖๑ ๐ ๐ ๙ ๗ ๒๒ ๑๗ ๕ ๑ ๒๓ ๓๗.๗๐

๔๘๘ ๙ ๑๘ ๕๕ ๕๓ ๙๐ ๗๙ ๖๒ ๙๙ ๒๔๐ ๔๙.๑๘

ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ จานวน รอ้ ยละ นร.

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไ่ี ด้ ท่ีไดร้ ะดบั
ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ๓ ขึ้นไป
ภาษาไทย สอบ ขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ ๖๑ ๐ ๙ ๖ ๕ ๑๑ ๗ ๑๒ ๙ ๒๘ ๔๕.๙๐
สงั คมศกึ ษา ฯ
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๖๑ ๐ ๒ ๕ ๙ ๗ ๑๕ ๑๓ ๙ ๓๗ ๖๐.๖๕
ศลิ ปะ
การงานอาชพี ฯ ๖๑ ๕ ๔ ๔ ๔ ๖ ๑๐ ๙ ๑๐ ๒๙ ๔๗.๕๔
ภาษาตา่ งประเทศ
๖๑ ๐ ๕ ๐ ๓ ๓ ๘ ๘ ๒๗ ๔๓ ๗๐.๔๙
รวมจานวน
๖๑ ๐ ๗ ๒ ๘ ๑๕ ๑๒ ๘ ๕ ๒๕ ๔๐.๙๘

๖๑ ๐ ๐ ๐ ๓ ๑๑ ๙ ๑๓ ๒๓ ๔๕ ๗๓.๗๗

๖๑ ๐ ๓ ๘ ๑๑ ๘ ๑๕ ๖ ๓ ๒๔ ๓๙.๓๔

๖๑ ๐ ๑๑ ๑๓ ๒๐ ๑๐ ๕ ๐ ๐ ๕ ๐๘.๑๙

๔๘๘ ๕ ๔๑ ๓๘ ๖๓ ๗๑ ๘๑ ๖๙ ๘๖ ๒๓๖ ๔๘.๓๖

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๕


ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน ร้อยละ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ นร.ท่ีได้ นร.ท่ีได้

ภาษาไทย ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขนึ้ ไป ขึน้ ไป
วทิ ยาศาสตร์
สงั คมศกึ ษา ฯ ๔๒ ๐ ๐ ๔ ๔ ๗ ๖ ๑๑ ๖ ๒๓ ๕๔.๗๖
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๔๒ ๐ ๐ ๖ ๑ ๖ ๑๐ ๑๑ ๘ ๒๙ ๖๙.๐๔
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๔๒ ๐ ๑ ๕ ๖ ๗ ๘ ๓ ๘ ๑๙ ๔๕.๒๓

รวมจานวน ๔๒ ๐ ๑ ๑ ๔ ๓ ๘ ๖ ๑๑ ๒๕ ๕๙.๕๒

๔๒ ๖ ๒ ๑ ๑ ๕ ๕ ๔ ๑๘ ๒๗ ๖๔.๒๘

๔๒ ๐ ๐ ๐ ๒ ๑๑ ๔ ๔ ๑๓ ๒๑ ๕๐.๐๐

๔๒ ๐ ๕ ๐ ๔ ๔ ๙ ๗ ๑๓ ๒๙ ๖๙.๐๔

๔๒ ๐ ๐ ๔ ๗ ๑๓ ๑๒ ๕ ๐ ๑๗ ๔๐.๔๗

๓๓๖ ๖ ๙ ๒๑ ๒๙ ๕๖ ๖๒ ๕๑ ๗๗ ๑๙๐ ๕๖.๕๔

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ จานวน ร้อยละ

กลุม่ สาระการเรียนรู้ จานวน จานวนนักเรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไ่ี ด้ นร.ท่ีได้

ภาษาไทย ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขึน้ ไป ขน้ึ ไป
วทิ ยาศาสตร์
สงั คมศกึ ษา ฯ ๔๑ ๐ ๑ ๖ ๑๐ ๗ ๔ ๖ ๒ ๑๒ ๒๙.๒๖
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๔๑ ๐ ๑ ๕ ๗ ๙ ๘ ๔ ๔ ๑๖ ๖๓.๐๒
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๔๑ ๐ ๐ ๗ ๖ ๖ ๓ ๑ ๑๐ ๑๔ ๓๔.๑๔

รวมจานวน ๔๑ ๐ ๐ ๒ ๔ ๗ ๕ ๗ ๑๑ ๒๓ ๕๖.๐๙

๔๑ ๒ ๑ ๐ ๔ ๔ ๑๒ ๑๑ ๕ ๒๘ ๖๘.๒๙

๔๑ ๐ ๑ ๑ ๒ ๒ ๘ ๖ ๑๓ ๒๗ ๖๕.๘๕

๔๑ ๐ ๖ ๑ ๔ ๕ ๓ ๑ ๑๔ ๑๘ ๔๓.๙๐

๔๑ ๐ ๒ ๑๒ ๑๔ ๓ ๖ ๐ ๐ ๖ ๑๔.๖๓

๓๒๘ ๒ ๑๒ ๓๔ ๕๑ ๔๓ ๔๙ ๓๖ ๕๙ ๑๔๔ ๔๓.๙๐

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๖

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ จานวน ร้อยละ

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทีไ่ ด้ นร.ท่ไี ด้

ภาษาไทย ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดบั ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขึ้นไป ขน้ึ ไป
วทิ ยาศาสตร์
สงั คมศกึ ษา ฯ ๔๓ ๐ ๒ ๓ ๓ ๕ ๑๗ ๗ ๒ ๒๖ ๖๐.๔๖
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๔๓ ๑ ๑ ๑๑ ๑๕ ๘ ๒ ๒ ๒ ๖ ๑๓.๙๕
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๔๓ ๑ ๐ ๘ ๔ ๖ ๘ ๘ ๖ ๒๒ ๕๑.๑๖

รวมจานวน ๔๓ ๐ ๐ ๐ ๒ ๕ ๗ ๔ ๒๓ ๓๔ ๗๙.๐๖

๔๓ ๒ ๑ ๐ ๓ ๑ ๗ ๙ ๒๐ ๓๖ ๘๓.๗๒

๔๓ ๐ ๐ ๐ ๒ ๖ ๓ ๙ ๑๔ ๒๖ ๖๐.๔๖

- -- - - - - -- - -

๔๓ ๐ ๐ ๗ ๑๑ ๘ ๖ ๔ ๔ ๑๔ ๓๒.๕๕

๓๐๑ ๔ ๔ ๒๙ ๔๐ ๓๙ ๕๐ ๔๓ ๗๑ ๑๖๔ ๕๔.๔๘

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ จานวน ร้อยละ

จานวน จานวนนักเรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ที่ได้ นร.ทไ่ี ด้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทเี่ ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๓

ภาษาไทย สอบ ขึน้ ไป ข้ึนไป
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ (เพมิ่ เตมิ ) ๔๓ ๐ ๓ ๖ ๔ ๔ ๕ ๑๐ ๕ ๒๐ ๔๖.๕๑
สงั คมศกึ ษา ฯ
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๓ ๔ ๐ ๐ ๒ ๕ ๑๔ ๑๐ ๘ ๓๒ ๗๔.๔๑
ศลิ ปะ
การงานอาชพี ฯ ๔๓ ๐ ๐ ๑ ๓ ๗ ๑๐ ๓ ๑๖ ๒๙ ๖๗.๔๔
ภาษาตา่ งประเทศ
๔๓ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑ ๔ ๑๒ ๒๓ ๓๙ ๙๐.๖๙
รวมจานวน
๔๓ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๘ ๒๐ ๑๒ ๔๐ ๙๓.๐๒

- -- - - - - - - - -

๔๓ ๐ ๐ ๒ ๔ ๕ ๑๓ ๔ ๗ ๒๔ ๕๕.๘๑

๔๓ ๑ ๑๒ ๑๓ ๑๑ ๒ ๑ ๐ ๐ ๑ ๐๒.๓๒

๓๐๑ ๕ ๑๕ ๒๒ ๒๔ ๒๔ ๕๕ ๕๙ ๗๑ ๑๘๕ ๖๑.๔๖

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๗



ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ จานวน ร้อยละ

จานวน จานวนนกั เรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไ่ี ด้ นร.ทไ่ี ด้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ทเี่ ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดบั ๓

สอบ ขนึ้ ไป ข้นึ ไป

ภาษาไทย ๒๖ ๐ ๒ ๓ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๑๕ ๕๗.๖๙

คณติ ศาสตร์ ๒๖ ๑ ๑ ๓ ๒ ๕ ๙ ๓ ๒ ๑๔ ๕๓.๘๔

วทิ ยาศาสตร์ (เพมิ่ เตมิ ) ๒๖ ๐ ๐ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๑๙ ๒๐ ๗๖.๙๒

สงั คมศกึ ษา ฯ ๒๖ ๐ ๒ ๑ ๑ ๑ ๒ ๓ ๑๔ ๑๙ ๗๓.๐๗

สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๒๖ ๑ ๐ ๐ ๑ ๔ ๓ ๓ ๑๔ ๒๐ ๗๖.๙๒

ศลิ ปะ - -- - - - - - - - -

การงานอาชพี ฯ ๒๖ ๐ ๓ ๓ ๑ ๕ ๔ ๒ ๗ ๑๓ ๕๐.๐๐

ภาษาตา่ งประเทศ ๒๖ ๐ ๑ ๑๒ ๓ ๒ ๔ ๑ ๐ ๕ ๑๙.๒๓

รวมจานวน ๑๘๒ ๒ ๙ ๒๒ ๑๑ ๒๒ ๒๖ ๑๘ ๖๒ ๑๐๖ ๕๘.๑๓

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ จานวน รอ้ ยละ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ นร.ท่ีได้ นร.ทไี่ ด้
ทเี่ ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดับ ๓ ระดบั ๓
ภาษาไทย สอบ ขนึ้ ไป ขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ (เพมิ่ เตมิ ) ๒๖ ๐ ๐ ๑ ๒ ๓ ๓ ๖ ๑๐ ๑๙ ๗๓.๐๗
สงั คมศกึ ษา ฯ
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๒๖ ๑ ๐ ๒ ๐ ๕ ๘ ๒ ๘ ๑๘ ๖๙.๒๓
ศลิ ปะ
การงานอาชพี ฯ ๒๖ ๐ ๓ ๑ ๒ ๔ ๒ ๓ ๑๐ ๑๕ ๕๗.๖๙
ภาษาตา่ งประเทศ
๒๖ ๐ ๐ ๐ ๐ ๔ ๒ ๒ ๑๗ ๒๑ ๘๐.๗๖
รวมจานวน
๒๖ ๑ ๐ ๐ ๐ ๑ ๑ ๗ ๑๖ ๒๔ ๙๒.๓๐

๒๖ ๐ ๐ ๐ ๐ ๓ ๒ ๑๑ ๙ ๒๒ ๘๔.๖๑

- -- - - - - - - - -

๒๖ ๐ ๖ ๒ ๔ ๔ ๓ ๑ ๕ ๙ ๓๔.๖๑

๑๘๒ ๒ ๙ ๖ ๘ ๒๔ ๒๑ ๓๒ ๗๕ ๑๒๘ ๗๐.๓๒

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๘

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ร้อยละ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไ่ี ด้ นร.ท่ไี ด้

ภาษาไทย ทเ่ี ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขึ้นไป ขึน้ ไป
วทิ ยาศาสตร์ (เพมิ่ เตมิ )
สงั คมศกึ ษา ฯ ๒๔ ๐ ๑ ๓ ๔ ๒ ๕ ๔ ๕ ๑๔ ๕๘.๓๓
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑ ๕ ๙ ๙ ๒๓ ๙๕.๘๓
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑ ๓ ๔ ๑๖ ๒๓ ๙๕.๘๓

รวมจานวน ๒๔ ๐ ๐ ๐ ๓ ๘ ๔ ๓ ๖ ๑๓ ๕๔.๑๖

๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๓ ๒ ๑๙ ๒๔ ๑๐๐

- -- - - - - - - - -

๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๔ ๒๐ ๒๔ ๑๐๐

๒๔ ๐ ๐ ๑ ๒ ๔ ๙ ๘ ๐ ๑๗ ๗๐.๘๓

๑๖๘ ๐ ๑ ๔ ๙ ๑๖ ๒๙ ๓๔ ๗๕ ๑๓๘ ๘๒.๑๔

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรียนที่ ๒ จานวน รอ้ ยละ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นทมี่ ผี ลการเรยี นรู้ นร.ทไี่ ด้ นร.ทไ่ี ด้

ภาษาไทย ทเี่ ขา้ ๐ ๑ ๑.๕ ๒ ๒.๕ ๓ ๓.๕ ๔ ระดบั ๓ ระดับ ๓
คณติ ศาสตร์ สอบ ขน้ึ ไป ขึ้นไป
วทิ ยาศาสตร์ (เพมิ่ เตมิ )
สงั คมศกึ ษา ฯ ๒๔ ๐ ๑ ๐ ๑ ๑ ๖ ๔ ๑๑ ๒๑ ๘๗.๕๐
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ศลิ ปะ ๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๒ ๘ ๗ ๗ ๒๒ ๙๑.๖๖
การงานอาชพี ฯ
ภาษาตา่ งประเทศ ๒๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๓ ๑ ๙ ๑๑ ๒๑ ๘๗.๕๐

รวมจานวน ๒๔ ๐ ๑ ๐ ๑ ๕ ๕ ๖ ๖ ๑๗ ๗๐.๘๓

๒๔ ๐ ๑ ๐ ๐ ๐ ๑ ๑ ๒๑ ๒๓ ๙๕.๘๓

๒๔ ๐ ๐ ๑ ๐ ๑ ๔ ๘ ๑๐ ๒๒ ๙๑.๖๖

- -- - - - - - - - -

๒๔ ๐ ๑ ๑๒ ๑๑ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐

๑๖๘ ๐ ๔ ๑๓ ๑๓ ๑๒ ๒๕ ๓๕ ๖๖ ๑๒๖ ๗๕.๐๐

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๑๙


๑๑. ผลการทดสอบระดบั ชาตขิ องผู้เรียน

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ (O - NET)

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ (O - NET)

ตารางเปรยี บเทยี บคะแนนสอบ O – NET ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563 โรงเรยี นชานพิ ทิ ยาคม

40
35
30
25
20 ปกี ารศกึ ษา 2562
15 ปกี ารศกึ ษา 2563
10
5
0

ภาษาไทย สงั คมศกึ ษาฯ ภาษาตา่ งประเทศ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๐


๑.๑๒ รางวลั ทส่ี ถานศกึ ษาไดร้ บั

รางวลั รายการรางวลั /ปกี ารศกึ ษา/หนว่ ยงาน ระดบั รางวลั
1. สถานศึกษา
1. เปน็ ตวั แทนโรงเรียนขนาดเล็กในสหวทิ ยาเขตลาปลายมาศ  ระดับประเทศ/สากล

นาเสนอหน่วยการเรียนรบู้ รู ณาการ เพ่ือเสรมิ สร้างคุณลักษณะ  ระดับภาค

อย่อู ย่างพอเพยี ง ในงานการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการเพ่ือ  ระดับจังหวัด/เขตพื้นที่

พฒั นาสูผ่ เู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ณ สพม.32 และสนามช้างอารนี า่  ระดับสหวทิ ยาเขต

บรุ ีรัมย์

2. เข้ารว่ มนาเสนอ “แนวปฏบิ ัติที่ดี” เร่อื งการจัดการขยะอย่างมี

ประสทิ ธภิ าพ ดว้ ยหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตาม

นโยบาย NCLB ไม่มีเด็กคนใดถกู ทง้ิ ไว้ข้างหลัง ณ สพม.32

3. รางวัลเหรยี ญทอง อันดบั 2 โรงเรยี นที่มีแนวปฏบิ ตั ิท่ีเป็นเลิศ

การยกระดบั การเรยี นการสอนในสถาบนั การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานใน

เขตภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนล่างด้วย Project และ Service

based Learning สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต

32 ปกี ารศึกษา 2563

4. เข้ารว่ มการนาเสนอโปสเตอร์วจิ ยั โรงเรียนท่ีมแี นวปฏิบตั ิทเี่ ปน็

เลศิ การยกระดับการเรียนการสอนในสถาบนั การศกึ ษาขน้ั

พืน้ ฐานในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนลา่ งด้วย Project

และ Service based Learning ณ จงั หวดั อบุ ลราชธานี

2. ผู้บรหิ าร 1. รางวัลผู้บังคบั บญั ชาลูกเสอื ดเี ดน่ จากสานักงานลูกเสือ  ระดับประเทศ/สากล
สถานศึกษา แหง่ ชาติ ประเภทผูส้ นบั สนนุ ประจาปี ๒๕๖๒  ระดับภาค
2. รางวัลเชิดชเู กียรติขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา  ระดับจังหวัด/เขตพนื้ ที่
ของสมาคมผู้บริหารโรงเรยี นมธั ยมศึกษาจงั หวดั บรุ รี ัมย์  ระดับสหวทิ ยาเขต
ประจาปี ๒๕๖๓
3. รางวัลครดู ขี องแผน่ ดิน ข้ันพนื้ ฐาน

3. ครผู สู้ อน 1. นางปรศิ นา ขลุ ีทรัพย์ นางสาวเพญ็ พักตร์ มะลติ ิไข และ  ระดับประเทศ/สากล
นายเชียงชาญ มีแย้มภักด์ิไดร้ ับรางวัลครแู ละบุคลากรดเี ดน่  ระดับภาค
ปี 2562 สพม.32  ระดับจังหวัด/เขตพ้นื ที่
2. นางสาวศิรพิ ร พวงประเสริฐกลุ นางเขมสรณ์ ดวงมาลี และ  ระดบั สหวิทยาเขต
นางสาวเพญ็ พักตร์ มะลิติไข ได้รับรางวัลครดู ไี ม่มีอบายมุข
ปี 2563
3. นายสรุ ศักด์ิ วทิ ย์ศลาพงษ์ และนางสาวผกาพนั ธ์ุ บญุ เอ้ือ
ได้รบั รางวลั ครูดีศรชี านิ ปี 2563

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๑

รางวลั รายการรางวลั /ปีการศกึ ษา/หนว่ ยงาน ระดบั รางวลั

4. นางสาวกญั ญาพร แก้วรักษา และนายผดงุ พงษ์ โพธิ์วเิ ศษ
ครผู สู้ อนนกั เรยี น ได้รบั รางวลั ระดับเหรยี ญทองแดง กจิ กรรม
การแขง่ ขนั กวีเยาวชนคนร่นุ ใหม่ โคลงสส่ี ภุ าพ (4 บท) ม.4-ม.6
ในงานศิลปหตั ถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ปกี ารศึกษา 2562
5. นางสาวกัญญาพร แก้วรกั ษา นายสรุ ศักด์ิ วิทย์ศลาพงษ์
นางปริศนา ขลุ ที รัพย์ นางสาวเพ็ญพักตร์ มะลิติไข
นางสาวจติ ตโ์ิ ศภณิ บญุ เชิด นายผดงุ พงศ์ โพธว์ิ ิเศษ
และนางสาวจริ าภรณ์ บญุ ศรีไดร้ ับรางวัลครดู ีของแผ่นดิน
ขน้ั พื้นฐาน
6. นางสาวผกาพันธ์ุ บุญเออ้ื นางปรศิ นา ขลุ ที รัพย์
นางสาวจติ ติโ์ ศภิณ บญุ เชดิ นางสาวจริ าภรณ์ บุญศรี
และนางสาวภาวณิ ี โสภกั ดี ได้รับรางวลั ครูดีไม่มีอบายมุข
ประจาปี 2564
7. นางสาวกัญญาพร แกว้ รักษา นางสาวจิตติ์โศภณิ บุญเชิด
และนายผดงุ พงศ์ โพธิ์วิเศษไดร้ ับรางวัลเชิดชเู กยี รตขิ า้ ราชการ
ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ของสมาคมผบู้ ริหารโรงเรียน
มธั ยมศกึ ษาจงั หวัดบุรรี มั ย์ ประจาปี 2563

4. นักเรยี น 1. นายชญานนท์ กมลจติ ร และนางสาวตติยา เอ่ยี มรมั ย์  ระดับประเทศ/สากล
นกั เรียนชั้น ม.๖/๑ไดร้ บั รางวัลเหรียญทองแดง การแข่งขนั กวี  ระดับภาค
เยาวชนคนรนุ่ ใหม่ โคลงสส่ี ภุ าพ (4 บท) ม.4-ม.6 ในงาน  ระดบั จงั หวัด/เขตพ้นื ที่
ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ระดบั ชาติ ปกี ารศึกษา 2562  ระดับสหวิทยาเขต
2. นายชญานนท์ กมลจิตร
ได้เข้าร่วมการสรรหาเยาวชนดเี ด่น
เน่อื งในโอกาสวนั เยาวชนแห่งชาติ ประจาปี 2562 จากสภา
สงั คมสงเคราะหแ์ หง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์



๑.๑๓ การดาเนนิ งานของสถานศกึ ษาตามนโยบายจากหนว่ ยงานตน้ สงั กดั หรอื ภาครฐั ๒๒

โรงเรียนเข้ารว่ มโครงการ/กจิ กรรม หรือเปน็ แกนนาขบั เคลอื่ นโครงการตา่ งๆดงั น้ี

ที่ โครงการ/กจิ กรรม/แกนนา การเขา้ รว่ ม
เขา้ รว่ ม ไมไ่ ดเ้ ขา้ รว่ ม

1 โครงการส่งเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษา 
(โรงเรยี นสุจรติ )

2 การขับเคล่ือนน้อมนาพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในหลวงรัชกาล 
ท่ี 10 และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา

3 โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. 

4 การพัฒนาความสามารถด้านการอา่ น 

5 การยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน 

6 การจัดการเรียนการสอนตามทักษะในศตวรรษท่ี 21  
7 การพฒั นาความสามารถดา้ นการใช้ภาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร  
8 การจดั การเรยี นร้ตู ามแนวทางสะเต็มศกึ ษา 
9 การจัดการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม (วังไกลกงั วล) DLTV/DLIT 
10 การจดั การเรียนรวู้ ทิ ยาการคานวณ (Computing Science) 
11 การจดั การเรียนรูท้ ่ีเปน็ มิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม 
12 โรงเรยี นคณุ ภาพประจาตาบล 
13 โรงเรียนวิถพี ุทธ 
14 โรงเรียนเรียนรวม
15 ธนาคารโรงเรยี น 
16 สหกรณ์โรงเรียน 
17 แผนดาเนินธรุ กจิ อย่างต่อเนื่องฯ BCP 
18 To Be Number One 
19 KKU 
20 โรงเรยี นเศรษฐกิจพอเพยี ง 
21 โรงเรยี นสุจริต 
22 โรงเรยี นปลอดบุหร่ี 
23 โรงเรียนปลอดภยั
24 อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๓

สว่ นที่ ๒

ผลการประเมนิ ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา
ระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพผเู้ รยี น

๑. ระดบั คุณภาพ ดเี ลศิ

๒. วธิ กี ารพฒั นา/ผลทเี่ กดิ จากการพฒั นา ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ทสี่ นบั สนนุ ผลการประเมนิ
ตนเอง

๒.๑ วธิ กี ารพฒั นา/ผลทเ่ี กดิ จากการพฒั นา
โรงเรยี นชานพิ ิทยาคมส่งเสริมให้ครจู ดั กระบวนการเรียนการสอนท่เี น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยการ

ดาเนนิ งาน/กจิ กรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ งานหลักสตู รมีการประชมุ ปฏบิ ตั ิการ ปรับปรุงหลักสูตร
สถานศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ฯ(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.๒๕๖๐) เพอื่ ให้ครูใชเ้ ปน็ กรอบในการ
จดั การเรียนการสอน การพฒั นาผูเ้ รยี น ส่งเสริม สนบั สนนุ ใหผ้ เู้ รียนบรรลุตามเป้าหมายที่วา่ “การจัดการศึกษา
ต้องเปน็ ไปเพ่ือพฒั นาคนไทยให้เป็นมนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ทัง้ รา่ งกาย จติ ใจ สติปญั ญา ความรู้ และคณุ ธรรม
จริยธรรม และวฒั นธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อนื่ ได้อย่างมีความสุข ซงึ่ สอดรบั กับจดุ ม่งุ หมาย
ของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ท่ีไดม้ ุ่งพัฒนาใหผ้ ู้เรยี นเป็นคนดี มีปัญญา มี
ความสขุ ดังนน้ั โรงเรียนชานพิ ทิ ยาคมจึงกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาดา้ นคณุ ภาพผู้เรียนจานวน ๒ ดา้ น ไดแ้ ก่
๑) ด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนและ ๒) ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรยี น ดา้ นผลสัมฤทธิท์ างการ
เรียนมุ่งเน้นใหน้ ักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร การคิดคานวณ รวมท้งั การมีผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียนตามหลกั สตู รสถานศึกษา มีความสามารถในการวิเคราะห์ คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ มีความสามารถ
ในการสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การส่ือสาร และการมีความรู้ ทกั ษะพืน้ ฐาน เจตคตทิ ีด่ ีต่อ
งานอาชีพ สาหรับด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รยี นมุ่งเน้นใหผ้ เู้ รยี นมคี ุณลักษณะและคา่ นิยมที่ดตี ามที่
สถานศกึ ษากาหนด และ มีสุขภาวะทางร่างกายและสงั คม ความภูมใิ จในท้องถิน่ และความเปน็ ไทยการยอมรับ
ทจ่ี ะอย่รู ่วมกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย

๒.๒ ขอ้ มลู หลกั ฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ ทสี่ นับสนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง
ประเดน็ ภาพความสาเร็จดา้ นคณุ ภาพผ้เู รยี นทส่ี นบั สนุนผลการประเมินตนเอง ได้แก่ ๑) โครงการคน

ไทยใฝร่ ู้ ๒) โครงการสง่ เสริมคุณภาพนักเรียน ๓) โครงการยกระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนทุกกลมุ่ สาระฯ ๔)
โครงการประสานวชิ าการ สบื สานปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงฯ สูย่ ุค ๔.๐ ๕) โครงการโรงเรยี นส่งเสรมิ
สุขภาพ ๖) โครงการโรงเรียนวถิ ีพทุ ธ ๗) โครงการวนั สาคัญทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๘) โครงการ
พฒั นาคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องนกั เรียน ๙) โครงการส่งเสริมสุนทรยี ภาพการกีฬา ศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๔

๓. จดุ เด่น จดุ ท่ีควรพฒั นา แผนพฒั นาคณุ ภาพเพือ่ ยกระดบั ใหส้ งู ขึ้น จดุ ทค่ี วรพฒั นา
จดุ เดน่

สถานศกึ ษามีการวิเคราะหผ์ ลสมั ฤทธ์ิ การจดั กจิ กรรมท่ีมุ่งเนน้ ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ ยงั

ทางการเรยี นและไดก้ าหนดเป็นเป้าหมายทางการ ขาดการปฏบิ ัติที่ตอ่ เนื่อง จรงิ จงั การยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์

เรยี นโดยใชข้ ้อมูลฐาน ๓ ปียอ้ นหลังเปน็ เป้าหมาย แตล่ ะกลุ่มสาระประสบผลสาเร็จในระดับหน่ึง นกั เรยี น

คณุ ภาพนักเรยี นให้พัฒนาสงู ขน้ึ จัดกิจกรรมการ ส่วนใหญ่ยงั ตอ้ งไดร้ บั การพัฒนาตอ่ ไป ผลสมั ฤทธิ์

เรียนการสอนเนน้ การปฏิบัติ เนน้ ทกั ษะในการอา่ น ระดบั ชาตขิ องนกั เรยี นมีแนวโนม้ เปล่ียนแปลงพัฒนาขึ้น

การเขียน และการคิดคานวณ ส่งเสริมผู้เรียนให้ บางกลมุ่ สาระฯ แต่บางกลมุ่ สาระฯ ก็มีแนวโน้มลดลง

พฒั นาเตม็ ศักยภาพ มกี ารจดั แหล่งเรียนรภู้ ายในได้ จาเปน็ ต้องมุ่งเนน้ พฒั นาต่อไป

อยา่ งเหมาะสม มสี ื่อด้านเทคโนโลยที ี่ทันสมัย จดั กิจกรรมด้านการอ่าน การเขยี น คานวณ

ผูเ้ รียนมี สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ ดี กล้าแสดงออก ให้กับนกั เรียนเรียนรว่ ม เปรยี บเทียบความก้าวหน้าและ

และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมคี วามสขุ การพัฒนาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล

แผนพฒั นาคุณภาพเพอื่ ยกระดบั ใหส้ งู ขน้ึ
๑) พฒั นาให้นกั เรียนมที ักษะในการอ่าน การเขยี น การสอ่ื สาร และการคดิ คานวณเปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ี

โรงเรยี นกาหนดในแต่ระดบั ชั้น
๒) พฒั นาให้นกั เรียนมีความสามารถในการคิดจาแนก แยกแยะ ใคร่ครวญไตร่ตรอง พิจารณาอย่าง

รอบคอบโดยใชเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเหน็ และแก้ปัญหาอย่างมี
เหตผุ ล

๓) พัฒนาให้นักเรยี นมคี วามสามารถในการรวบรวมความรู้ได้ทง้ั ด้วยตนเองและการทางานเป็นทมี
เชอ่ื มโยงองคค์ วามรู้ และประสบการณม์ าใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

๔) พัฒนาให้นักเรียน มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารเพอื่ พัฒนาตนเอง
และสังคมในดา้ นการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทางาน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และมีคุณธรรม

๕) พัฒนาให้นักเรยี น มีความก้าวหนา้ ในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รสถานศึกษาจากพนื้ ฐานเดมิ ในดา้ น
ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ กระบวนการต่าง ๆ รวมท้ัง

๖) พฒั นาให้นกั เรียนมีความก้าวหน้าในผลการทดสอบระดับชาติ มคี วามรู้ ทกั ษะพื้นฐานในการจัดการ
เจตคตทิ ีด่ ีพรอ้ มทจ่ี ะศึกษาต่อในระดบั ช้ันที่สงู ข้ึน มพี ฤติกรรมเป็นผ้ทู ม่ี ีคุณธรรม จริยธรรม เคารพในกฎกติกา

๗) พฒั นาให้นักเรยี นมีค่านยิ มและจติ สานกึ ตามทสี่ ถานศกึ ษามคี วามภมู ิใจในท้องถ่ิน เห็นคุณคา่ ของ
ความเป็นไทย มสี ่วนรว่ มในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมประเพณีไทยรวมท้ังภมู ิปัญญาไทย

๘) พัฒนาให้นักเรยี น มีการรักษาสขุ ภาพกาย สุขภาพจติ อารมณ์ และสงั คม แสดงออกอย่างเหมาะสม
ในแต่ละชว่ งวยั

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๕

มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ

๑. ระดบั คณุ ภาพ ดเี ลศิ

๒. วธิ กี ารพฒั นา/ผลทเ่ี กดิ จากการพฒั นา ข้อมลู หลักฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ทสี่ นบั สนนุ ผลการประเมนิ
ตนเอง

๒.๑ วธิ กี ารพฒั นา/ผลทเ่ี กดิ จากการพฒั นา
เพ่ือใหบ้ รรลตุ ามกระบวนการบริหารและการจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษา ในโรงเรยี นชานิพิทยาคม

การดาเนนิ การวิเคราะหส์ ภาพปญั หา ผลการจัดการศึกษาทผี่ ่านมา โดยใชข้ ้อมลู ฐานในการกาหนดเป้าหมาย
วิสัยทัศนแ์ ละพันธกจิ อย่างชดั เจน ในดาเนินการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผเู้ รียนรอบดา้ น ตามหลักสตู ร
สถานศึกษาทุกกลมุ่ เปา้ หมาย เชื่อมโยงกบั ชวี ติ จรงิ จัดทาแผนพฒั นา คณุ ภาพจัดการศึกษา ดาเนินงานพัฒนา
ครูและบุคลากรให้มีความเชีย่ วชาญ ทางดา้ นวชิ าชพี ตามความตอ้ งการของครูและสถานศึกษา จดั
สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอ้ือต่อการจดั การเรียนรอู้ ยา่ งมีคณุ ภาพ และจัดระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ เพอ่ื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการเรียนร้ทู เี่ หมาะสมกับสภาพของโรงเรียนชานพิ ทิ ยาคม

๒.๒ ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ทส่ี นบั สนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง
ประเด็นภาพความสาเรจ็ ดา้ นกระบวนการบริหารและการจดั การได้แก่ โรงเรียนมีเปา้ หมายวสิ ัยทศั น์

และพนั ธกิจท่โี รงเรยี นกาหนดชัดเจน สอดคลอ้ งกบั บริบทของโรงเรียน ความต้องการของชุมชน มีระบบการ
บรหิ ารจดั การคณุ ภาพอย่างเปน็ ระบบ วางแผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศกึ ษาโดยนาแผนไปปฏบิ ตั ิ ติดตาม
ตรวจสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ พัฒนางานอยา่ งต่อเนื่อง มีการบรหิ ารอัตรากาลัง ทรพั ยากรทางการ
ศึกษา และระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น มีการนิเทศภายใน นาขอ้ มลู มาใชใ้ นการพฒั นาบคุ ลากร และ
ผู้เก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ายมสี ว่ นในการวางแผน ปรบั ปรุง พฒั นาและร่วมกนั รับผดิ ชอบต่อการจัดการศึกษา มีการ
บริหารจดั การเก่ียวกบั งานวชิ าการ รวมถงึ การจัดการเรียนการสอนของกล่มุ เรยี นร่วมด้วย มกี ารสง่ เสรมิ
สนบั สนุนพฒั นาครูและบุคลากรตรงตามความต้องการและจดั ใหม้ ีชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ มาใชใ้ นการ
พัฒนางานและการเรยี นรู้ของผู้เรียน จดั สภาพ
แวดล้อมทางกายภาพ ภายในและภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดลอ้ มทางสงั คมที่เอ้อื ต่อการจดั การเรยี นรู้
ของผเู้ รยี นที่มคี ุณภาพ มีความปลอดภัย จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สนบั สนนุ การบริหารจดั การ และการ
จัดการเรียนรู้ท่เี หมาะสมกับสภาพของโรงเรยี น พัฒนาบรกิ ารด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ มหี อ้ งปฏบิ ัติการ
คอมพวิ เตอร์เพ่ือใชใ้ นการบริหารจดั การและการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเหมาะสม โดยมีโครงการท่สี ่งเสริมใน
มาตรฐานที่ ๒ น้ี ไดแ้ ก่ ๑) โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมและการใหบ้ ริการผเู้ รยี น ๒) โครงการพฒั นาระบบ
การชว่ ยเหลอื ดูแลนกั เรยี นท่ีเสรมิ สรา้ งพัฒนาการผู้เรยี นเต็มศักยภาพ ๓) โครงการรณรงค์ศึกษาต่อ และสง่ เสรมิ
คุณภาพชีวิตนกั รยี น
๔) โครงการพฒั นาครูสู่มาตรฐานวิชาชพี ยุคใหม่ ๕) โครงการสง่ เสรมิ การมสี ่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา ๖) โครงการพฒั นางานแผนงานและประกนั คณุ ภาพ ๗) โครงการบริหารร่วมสร้างสรรค์ สมั พันธ์
ชมุ ชน ประสทิ ธิผลตามหลักสตู ร ประชาชนพึงพอใจ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๖

๓. จดุ เด่น จดุ ทค่ี วรพฒั นา แผนพฒั นาคณุ ภาพเพอ่ื ยกระดบั ใหส้ งู ขน้ึ

จดุ เดน่ จดุ ทคี่ วรพฒั นา

โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสยั ทัศน์ พันธกจิ ท่ี โรงเรยี นควรจดั ให้มอี าคารและ

กาหนดไวช้ ดั เจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน หอ้ งปฏิบตั ิการทีเ่ พียงพอและเหมาะสมต่อการจดั การ

ตามความต้องการของชุมชน วัตถปุ ระสงคข์ อง เรียนรู้ มกี ารนิเทศ ตดิ ตาม ที่ชดั เจน

แผนการจดั การศึกษาของชาติ นโยบายของรฐั บาล

และตน้ สงั กดั ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลงของสงั คม

พฒั นางานวิชาการเน้นคุณภาพผเู้ รียนรอบด้าน ตาม

หลักสตู รสถานศกึ ษา และสง่ เสริมสนับสนนุ พัฒนาครู

และบุคลากรใหม้ ีความเชย่ี วชาญตรงตามความ

ตอ้ งการ ใหเ้ ปน็ ชุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ มาใช้ใน

การพัฒนางานและการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น

แผนพฒั นาคณุ ภาพเพอื่ ยกระดบั ใหส้ งู ขนึ้
๑) มีโครงการการบรหิ ารจัดการเกยี่ วกับงานวิชาการ การพัฒนาหลักสูตร
๒) กิจกรรมเสริมหลักสตู รทเ่ี นน้ คณุ ภาพผเู้ รียนรอบดา้ น
๓) จดั หาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ให้เพยี งพอต่อความต้องการของนักเรียน
๔) พฒั นาระบบอนิ เทอร์เนตความเร็วสูงภายในโรงเรียน
๕) พฒั นาครูสู่ครูมอื อาชีพ
๖) จดั สภาพแวดลอ้ มบรเิ วณโรงเรียนใหเ้ ปน็ แหลง่ เรียนรู้

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๗

มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั

๑. ระดบั คุณภาพ ดี

๒. วธิ กี ารพฒั นา/ผลทเี่ กดิ จากการพฒั นา ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจักษ์ ทสี่ นบั สนนุ ผลการประเมนิ
ตนเอง

๒.๑ วธิ ีการพฒั นา/ผลทเ่ี กดิ จากการพฒั นา
โรงเรียนชานพิ ทิ ยาคมส่งเสริมใหค้ รูจดั กระบวนการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ โดยการ

ดาเนินงาน/กจิ กรรมอย่างหลากหลาย ไดแ้ ก่ งานหลักสูตรมกี ารประชุมปฏบิ ัตกิ าร ปรับปรงุ หลักสูตร
สถานศึกษา ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ัดฯ(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๑) สง่ เสรมิ ใหค้ รจู ัดการเรยี นการ
สอนเน้นการปฏิบตั ิ (Active learning) ให้ผู้เรียนผ่านกระบวนการคิด ปฏิบตั จิ ริง เพื่อนาไปสกู่ ารเรยี นรูท้ ่ลี ึกซงึ้
และคงทน ตามมาตรฐานและตวั ชี้วดั ของหลกั สูตรสถานศึกษา ให้นกั เรียนมสี ่วนรว่ ม ครูรูจ้ ักผู้เรยี นเป็น
รายบคุ คล ดาเนนิ การตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอยา่ งเป็นระบบ และนาผลมาพฒั นาผเู้ รียน รวมทงั้ ร่วมกนั
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ และนาผลทไ่ี ดม้ าปรับปรงุ การจัดการเรียนรู้ ครมู แี ผนการจดั การเรียนรู้ที่สามารถนาไปใชจ้ ดั
กิจกรรมได้จรงิ ครใู ช้สือ่ และแหลง่ เรียนรู้ มกี ารบริหารจดั การชนั้ เรยี นเชงิ บวก เพอ่ื ใหเ้ ด็กรกั การเรยี นร้แู ละ
เรียนร้รู ่วมกนั อยา่ งมคี วามสขุ ครูร่วมแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละนาข้อมลู มารว่ มพัฒนาปรบั ปรุงการจัดการเรยี นรู้
และสอนตามแผน ครูผลติ นวตั กรรม แผนการจดั การเรียนรู้ อีกทง้ั ปรับโครงสรา้ งรายวชิ า หนว่ ยการเรยี นรูล้ ด
เวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ สัดสว่ นคะแนนแตล่ ะหน่วย กาหนดคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ทสี่ อดคล้องกับหนว่ ยการ
เรยี นรู้ สนับสนนุ ให้ครจู ัดการเรียนการสอนทีส่ รา้ งโอกาสให้นักเรยี นทุกคนมีสว่ นร่วม ไดล้ งมอื ปฏิบตั ิจรงิ จนสรุป
ความรู้ไดด้ ้วยตนเอง จัดการเรียนการสอนทีเ่ น้นทักษะการคิด เช่น จดั การเรียนรู้ดว้ ยโครงงาน ครูมีการ
มอบหมายหน้าท่ีให้นักเรียนจัดปา้ ยนิเทศ และบรรยากาศตามสถานทต่ี า่ ง ๆทั้งภายในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น
ครูใชส้ ่ือการเรียนการสอน นวตั กรรมและเทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการประเมนิ คณุ ภาพและประสิทธภิ าพ
ของสื่อการสอนท่ีใชค้ รูทกุ คนทางานวิจยั ในชัน้ เรียน ปีการศึกษาละ ๑ เร่ือง

๒.๒ ขอ้ มลู หลกั ฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ ทส่ี นบั สนนุ ผลการประเมินตนเอง
ประเด็นภาพความสาเร็จดา้ นกระบวนการจดั การเรียนการสอนทเี่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ที่สนบั สนนุ ผล

การประเมินตนเอง ไดแ้ กห่ ลกั สตู รสถานศึกษา หลกั สตู รรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมชุมนุม ใหน้ ักเรยี นเลือกตาม
ความถนดั และความสนใจผ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัติจริง การบันทกึ การใชส้ อ่ื เทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรู้
เอกสารการตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอย่างเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผเู้ รียนมีการบริหารจดั การช้ัน
เรยี นเชงิ บวกโดยครูมีวิจัยชน้ั เรียนและนาผลไปแกไ้ ขปัญหาจริง ครูมกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละใหข้ ้อมลู สะท้อน
กลับเพ่ือพัฒนาและปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นรโู้ ดยจดั กิจกรรม Open house ใหน้ ักเรียนนาเสนอผลงาน
โครงงานท่ีได้เคยทางาน และครจู ดั นิทรรศการแสดงผลงานเพ่อื แลกเปลีย่ นเรยี นรกู้ ับสถานศกึ ษาในเครือข่าย
อาเภอชานิ โดยมโี ครงการที่สง่ เสรมิ ในมาตรฐานที่ ๓ น้ี ไดแ้ ก่ ๑) โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาการจัดการเรียน
การสอนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
๒) โครงการพัฒนาและใชแ้ หล่งเรียนรู้ภายในและนอกสถานศกึ ษา

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๘

๓. จดุ เดน่ จดุ ท่คี วรพัฒนา แผนพฒั นาคณุ ภาพเพ่ือยกระดบั ใหส้ งู ขน้ึ

จดุ เดน่ จดุ ทคี่ วรพฒั นา

ครูมีความตง้ั ใจ มุ่งม่ันในการพฒั นาการสอน ควรนาภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ให้เข้ามามีส่วนร่วม

โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ท่ีเน้นทักษะ ในการจดั กิจกรรมให้นักเรียนไดเ้ รยี นรู้ และการให้

กระบวนการคิด ได้ปฏิบัติจริง มีการให้วิธีการและ ขอ้ มลู ย้อนกลับแก่นกั เรยี นทนั ทีเพ่ือนกั เรยี นนาไปใช้

แหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ให้นักเรียนแสวงหาความรู้ พฒั นาตนเอง

จากส่ือเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมี

ส่วนร่วมในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อ

การเรียนรู้

แผนพฒั นาคณุ ภาพเพอ่ื ยกระดบั ใหส้ งู ขนึ้
1) โครงการปรับปรงุ หลักสูตรสถานศึกษา
2) โครงการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
3) โครงการพัฒนาการใช้สื่อ เทคโนโลยี ส่หู ้องเรียน
4) โครงการสง่ เสริมให้ครจู ัดทาแผนการจดั การเรียนรูแ้ ละนาไปใชจ้ ริง
5) กิจกรรมสาหรับนักเรียนทตี่ ้องการความช่วยเหลือเปน็ พเิ ศษ/นักเรยี นเรียนรวมให้นักเรยี นมี

ความรสู้ งู ขน้ึ ตามระดับชัน้

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๒๙

สรปุ ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา

มาตรฐาน คะแนนประเมนิ * ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั
มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพของผเู้ รยี น ๓.๖๔ ดเี ลศิ
มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ๓.๖๔ ดเี ลิศ
มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอน ๓.๕๐ ดี

ท่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ๓.๖๐ ดเี ลศิ
สรปุ ผลการประเมนิ

* จากการประเมนิ โดยคณะกรรมการจดั ทาและประเมินผลคณุ ภาพการศึกษาโรงเรยี นชานิพิทยาคม

โดยใช้เกณฑ์ดังนี้ คะแนน ๑.๐๐ – ๑.๕๐ อยใู่ นระดับ กาลงั พัฒนา

คะแนน ๑.๕๑ – ๒.๕๐ อยู่ในระดับ ปานกลาง

คะแนน ๒.๕๑ – ๓.๕๐ อยใู่ นระดับ ดี

คะแนน ๓.๕๑ – ๔.๕๐ อยใู่ นระดบั ดีเลิศ

คะแนน ๔.๕๑ – ๕.๐๐ อยู่ในระดับ ยอดเย่ียม

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๐

สรปุ ผลการประเมนิ ในภาพรวม

ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษาอยู่ในระดบั ดเี ลศิ (๔)
จากผลการดาเนนิ งาน โครงการ และกิจกรรมตา่ ง ๆ ส่งผลให้สถานศกึ ษาจดั การพัฒนาคุณภาพ

การศึกษาประสบผลสาเรจ็ ตามทีต่ ้งั เปา้ หมายไวใ้ นแตล่ ะมาตรฐาน จากผลการประเมินสรุปวา่ ไดร้ ะดับดีเลิศ
ท้งั นี้ เพราะมาตรฐานท่ี ๑ ผลการจัดการศึกษา อยู่ในระดับดเี ลิศ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการ
จดั การ อย่ใู นระดับดเี ลิศ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ อย่ใู นระดบั ดี

ทงั้ นี้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ โรงเรยี นไดว้ างแผนและดาเนนิ การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ให้ได้มาตรฐาน
ตรงตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายของโรงเรียน โดยอาศัยการบรหิ ารอยา่ งเปน็ ระบบและมีประสิทธิภาพ ยดึ
หลักการกระจายอานาจ การมสี ่วนรว่ มคดิ ร่วมทาทง้ั ภายในองค์กรและการมีสว่ นรว่ มของชุมชนในการจัด
การศกึ ษา มีการจัดกจิ กรรมต่าง ๆ เพ่อื ส่งเสริมพัฒนาครูให้เปน็ ครมู ืออาชพี โดยการให้ความรู้และส่งเสรมิ การ
ทาวิจยั การสร้างสอ่ื การสอน การวัดและการประเมนิ ผล ตลอดจนการใชร้ ะบบนิเทศภายในเพ่ือช่วยในการ
พฒั นาการจดั การเรยี นการสอนของครู สาหรับนกั เรียนมีการจดั กิจกรรมเพื่อสง่ เสริมให้นักเรียนได้มโี อกาสศกึ ษา
เลา่ เรียนและแสดงความสามารถตามศักยภาพและความสนใจ การจดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ อือ้ ต่อการเรียนรู้ การ
ปลกู ฝงั คณุ ลักษณะการใฝร่ ใู้ ฝ่เรียนให้แก่ผ้เู รียนตลอดจนการเปิดโอกาสให้ผปู้ กครองและชุมชนเข้ามาสนับสนนุ
ทางด้านวิชาการและการดูแลพฤติกรรมของนักเรยี นในรูปแบบของเครือข่ายผูป้ กครองการดาเนนิ งานเหลา่ นี้
ส่งผลต่อผเู้ รียนโดยตรง และปรากฏผลการประเมินทกุ ด้านอย่ใู นระดบั ดมี ากถึงดีเยี่ยม ซง่ึ สามารถแสดงให้เห็น
เปน็ รูปธรรม อาททิ างดา้ นวิชาการ เห็นไดจ้ ากผลสัมฤทธิท์ างการเรียนและผลจากการทดสอบทางการเรียน
ระดับชาติ และรางวลั จานวนมากมายจากการแขง่ ขนั ทักษะความรูท้ างดา้ นวชิ าการ ดนตรี กีฬา ผลงานทางด้าน
ปลกู ฝงั คุณลักษณะอันพึงประสงค์ปรากฏใหเ้ ห็นจากประกาศเกียรตคิ ุณทางดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมท่นี ักเรยี น
ไดร้ ับ โรงเรียนวิถีพทุ ธเนน้ จิตอาสา และผลการประเมินคุณภายภายในจากสานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา
มธั ยมศกึ ษา เขต ๓๒ แสดงผลการปฏบิ ตั งิ าน ในการปลุกจิตสานึกทางด้านการอนุรักษ์พลงั งานและรกั ษา
สิ่งแวดลอ้ ม เปน็ ต้น เหลา่ นี้ล้วนเป็นหลกั ฐานยนื ยันจากองค์กรภายนอกทัง้ ในระดับประเทศและระดับเขตพ้ืนท่ี
การศกึ ษา นอกจากนี้ ผลจากการดาเนนิ งานดังได้กล่าว สง่ ผลใหโ้ รงเรียนผา่ นการรบั รองมาตรฐานการศึกษา ใน
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ระดับคณุ ภาพ ดี คะแนนเฉลย่ี ๘๓.๘๓

การดาเนินงานส่วนใหญ่เปน็ ไปตามแผนปฏบิ ตั กิ ารและแผนกลยุทธ์ อาจมกี ารปรบั โครงการ/กิจกรรม
ตามความจาเปน็ และสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนการสอน ผลการดาเนนิ งานในภาพรวมเปน็ ไปตามวิสัยท่ี
กาหนดไว้ กลา่ วคือบรรลุผลด้านคณุ ธรรม การมวี ถิ ีชวี ติ อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย การพฒั นาการจดั
การศกึ ษาเนน้ การมีส่วนรว่ มของทุกภาคส่วน

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๑

สรปุ ผล แนวทางการพฒั นา และความตอ้ งการการชว่ ยเหลอื

ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ถอื เป็นข้อมลู สารสนเทศสาคัญทส่ี ถานศึกษาจะตอ้ งนาไป
วิเคราะห์ สงั เคราะหเ์ พ่ือสรปุ นาไปส่กู ารเชอื่ มโยงหรอื สะท้อนภาพความสาเร็จกบั แผนพัฒนาการจัดการศึกษา
ของสถานศกึ ษา (๓-๕ ปี) และนาไปใชใ้ นการวางแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา ดังน้ัน จากผล
การดาเนินงานของสถานศึกษา สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเด่น จดุ ควรพฒั นาของแต่ละ
มาตรฐาน พร้อมท้ังแนวทางการพัฒนาในอนาคตและความตอ้ งการการชว่ ยเหลือได้ดังน้ี

สรปุ ผล

จดุ เดน่ จดุ ควรพัฒนา

● ดา้ นคณุ ภาพผเู้ รยี น ● ด้านคุณภาพผเู้ รยี น

๑) ผ้เู รยี นมสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจิตทีด่ ี มีมนษุ ย ๑) จานวนผูเ้ รียนอา่ นหนังสอื ไม่ออกและอา่ นไม่

สมั พันธท์ ด่ี ีต่อเพื่อน ครู และผอู้ ืน่ มีระเบยี บวนิ ยั มี คลอ่ ง มีอยู่มาก โรงเรียนตอ้ งใหค้ วามสาคัญ และ

ความรบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบของสถานศึกษา แก้ไขปัญหาอยา่ งจรงิ จัง เพราะนักเรยี นในกลมุ่ นี้จะ

เคารพเช่ือฟงั ครูอาจารย์ พอ่ แม่ และผ้ปู กครอง มีความ สง่ ผลต่อผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรียนอยู่ใน

เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ รูจ้ กั เสียสละ มีจิตอาสาบาเพ็ญประโยชน์ ระดบั ต่า และมคี ะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบทาง

ช่วยเหลือสังคมสมา่ เสมอ มคี วามสามารถดา้ นศลิ ปะ การศกึ ษาระดับชาติ (O-NET) ตา่ กว่าระดับชาตทิ ุก

ดนตรี นาฏศิลป์ และกีฬา กล่มุ สาระฯ ที่มีการทดสอบและต่อเน่ืองมาโดย

ตลอด

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๒

จดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นา

● ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ● ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ

๑) ผูบ้ รหิ ารมคี วามตงั้ ใจ มคี วามมงุ่ ม่นั มหี ลักการ ๑) ควรเปดิ โอกาสใหผ้ ้ปู กครองไดม้ สี ่วนรว่ มในการ

บรหิ าร และมวี ิสัยทศั น์ที่ดีในการบริหารงาน สามารถ เสนอความคิดเหน็ ในการจัดการศกึ ษาเพ่ือพัฒนา

เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีใน การทางาน และคณะกรรมการ ผเู้ รียนมากขึ้น

สถานศึกษามีความต้งั ใจ และมคี วามพร้อมในการ ๒) ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมอื กบั ผู้มสี ่วน

ปฏิบัตหิ น้าทต่ี ามบทบาท เกีย่ วขอ้ งในการจัดการศึกษาของโรงเรียนใหม้ ีความ

๒) โรงเรียนมีการบรหิ ารและการจดั การอย่างเปน็ เขม้ แข็งมีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบต่อผลการจดั การศึกษา

ระบบ โรงเรยี นได้ใช้เทคนคิ การประชมุ ท่ีหลากหลายวธิ ี และการขบั เคลื่อนคุณภาพการจัดการศกึ ษา

เช่น การประชมุ แบบมีสว่ นรว่ ม การประชมุ ระดมสมอง ๓) สถานศกึ ษาจดั ระบบให้ครูประเมินตนเอง

การประชุมกลุ่ม เพื่อใหท้ ุกฝ่ายมีสว่ นร่วมในการกาหนด รายบุคคลตามแผนพฒั นาตนเอง แต่ยังขาดการให้

วิสยั ทัศน์ พันธกจิ เปา้ หมายท่ีชดั เจน มกี ารปรับ ข้อมูลย้อนกลับแกค่ รใู นการพัฒนาตนเองในการจดั

แผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาแผนปฏบิ ัตกิ าร กิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือยกระดบั คณุ ภาพของนักเรยี น

ประจาปีที่สอดคลอ้ งกับผลการจัดการศกึ ษา สภาพ ๔) ควรมีการหมนุ เวียนงานเพ่ือพัฒนาครผู ู้รบั ผดิ ชอบ

ปญั หา ความตอ้ งการพัฒนา และนโยบาย การปฏริ ูป ในมาตรฐานต่าง ๆ เกดิ การทดแทนงานกันได้อย่าง

การศึกษา ท่มี ุ่งเน้นการพฒั นาให้ผูเ้ รยี นมคี ณุ ภาพ ตาม ต่อเนือ่ ง

มาตรฐานหลกั สตู รของสถานศกึ ษา ครผู ้สู อนสามารถ

จดั การเรยี นรู้ได้อยา่ งมคี ณุ ภาพ มีการดาเนินการนิเทศ

กากบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดาเนินงาน และจัดทา

รายงานผลการจัดการศกึ ษา และโรงเรียนไดใ้ ช้

กระบวนวิจยั ในการรวบรวมข้อมลู มาใชเ้ ป็นฐานในการ

วางแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา

๓) โรงเรียนให้ความสาคญั กับการดาเนินงานประกัน

คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาเนน้ การสร้างความ

เข้าใจและใหค้ วามรู้ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา

กบั คณะครู บุคลากรทุกฝา่ ยท่ีเกยี่ วขอ้ งอย่างชัดเจน

เปน็ ประโยชน์ในการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา การ

ดาเนนิ งานประกนั คุณภาพภายในของโรงเรยี นเนน้ การ

มสี ่วนร่วมโดยดาเนินการในรูปของคณะกรรมการสรา้ ง

วฒั นธรรมการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา

ให้กบั บุคคลที่เกยี่ วข้องทกุ ระดับ

๔) โรงเรยี นมีการมอบหมายงานเพ่ือการประกัน

คุณภาพการศึกษาให้กับครูทุกคนได้รับผดิ ชอบ ไว้อย่าง

ชัดเจน

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๓

จดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นา

● ดา้ นกระบวนการเรยี นการสอนทเี่ นน้ ผเู้ รยี น ● ดา้ นกระบวนการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รยี น
เป็นสาคญั เป็นสาคัญ
๑) ครพู ฒั นาตนเองอยู่เสมอ มีความตั้งใจมงุ่ มั่น ใน ๑) ครูควรจัดกิจกรรมเน้นให้ผู้เรยี นได้มีความ สามารถ
การปฏบิ ัติหนา้ ท่ีอย่างเต็มเวลาและความสามารถ ในการคดิ วิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์อยา่ งหลากหลาย และ
๒) ครจู ัดกิจกรรมใหน้ ักเรียนแสวงหาความรจู้ ากสอ่ื ใชแ้ หล่งเรียนรู้ในการพฒั นาตนเอง
เทคโนโลยดี ้วยตนเองอยา่ งต่อเนื่อง ๒) ครูควรจัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับชนั้ ม.๑–ม.
๓) ครูให้นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการจดั บรรยากาศ ๓ ใหส้ ามารถนาเสนอ อภิปรายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
สภาพแวดลอ้ มทเี่ อื้อตอ่ การเรียนรู้ อยา่ งสมเหตสุ มผล และมที ักษะในการแกป้ ัญหาตาม
๔) ครจู ดั กิจกรรมใหน้ กั เรียนเรียนรูจ้ ากการคดิ ได้ สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
ปฏบิ ตั จิ ริงดว้ ยวธิ ีการและแหลง่ เรียนรูท้ ี่หลากหลาย ๓) ครคู วรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระดบั ชั้น ม.๑ –
๕) ผลงานวิจยั ในช้ันเรยี นของครทู กุ คนไดร้ ับการ ม.๓ ใหม้ พี ฤติกรรมทัศนคติที่ดีตอ่ ความ เปน็ ไทยไม่
ตรวจประเมินและคาแนะนาจากคณะกรรมการวจิ ัย หลงใหลกบั ค่านิยมต่างชาติ จนเกิดการลอกเลยี นแบบให้
ลืมวฒั นธรรมอนั ดงี ามของไทย
๔) ครคู วรจัดการเรยี นการสอนดว้ ยวิธกี ารที่หลากหลาย
สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ดั ตามหลกั สตู ร
การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และฝกึ ใหน้ กั เรียนไดค้ ิดวิเคราะห์
หาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ สอื่ เทคโนโลยีใหม้ ากขึ้น และ
พัฒนาสอ่ื แหล่งเรียนรู้ จัดเตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิการให้อยู่ใน
สภาพดีและพรอ้ มใช้งานเสมอ
๕) ครูควรวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รยี นดว้ ย
วิธีที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล้องกบั มาตรฐาน
การเรยี นรู้ และธรรมชาตวิ ชิ า
๖) ครคู วรนาภูมิปญั ญาท้องถ่ินให้เขา้ มามสี ว่ นร่วมใน
การจัดกจิ กรรมให้นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้
๗) ครคู วรให้ข้อมูลยอ้ นกลับแกน่ ักเรียนทนั ทีเพ่ือ
นกั เรยี นนาไปใช้พัฒนาตนเอง
๘) ครูควรใชส้ อ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการจดั การ
เรยี นรู้เพ่ิมมากขึน้

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๔

แนวทางการพฒั นาในอนาคต

การดาเนินการพัฒนาสถานศึกษาในอนาคตเพื่อให้บรรลเุ ป้าหมายของสถานศึกษากาหนดไว้ ๓
ทศิ ทาง คือ ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน บุคลากร ทรัพยากร

๑. แผนพฒั นากจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ มุ่งพฒั นาหลักสตู รและการเรยี นการสอนที่มหี ลกั ยดึ หยุ่น เน้นการบูรณาการเรียนรู้และการ

ดารงชวี ติ จดั กิจกรรมสรา้ งทักษะการดารงชวี ติ และการสนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชพี
๑.๒ การศกึ ษาสภาพความต้องการของท้องถ่นิ ผเู้ รยี น และนามาพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาให้

สอดคล้องกัน
๑ ๓ การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการนาวิจัยในช้นั เรยี นมาใชเ้ พ่อื พฒั นาการเรยี นการ

สอน
๑.๔ การประเมินผลการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือนาผลการประเมินไปปรับปรุงพฒั นา

ตอ่ ไป
๑.๕ การพฒั นากิจกรรมการเรียนการสอนทเ่ี นน้ การคิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์

มากย่ิงข้ึน
๑.๖ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพฒั นาความรแู้ ละทักษะท่จี าเป็นในการเรยี นรู้ตาม

หลักสตู ร รวมทง้ั เพิ่มผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียนทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ให้สูงขนึ้
๑.๗ การพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสารและการค้นควา้
๑.๘ สง่ เสริมด้านสุนทรียภาพ ด้านศลิ ปะ ดนตรี และกีฬา
๑.๙ ควรส่งเสรมิ ใหค้ รูวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ัดกาหนดเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้เนน้ กระบวนการ

ทกั ษะตามตัวชีว้ ัด. มากกวา่ การสอนเนอ้ื หาให้จบ ออกแบบการวดั ผลใหส้ อดคล้องกบั เป้าหมาย
๑.๑๐ ควรกระจายค่าเปา้ หมายตามมาตรฐานการศึกษาขนั้ พ้นื ฐานไปสกู่ ลุม่ สาระและครูรายบุคคล

๒. แผนพฒั นาบุคลากร
๒.๑ การพัฒนาทักษะด้าน ICT ของครโู ดยจัดการฝกึ อบรมให้ครสู ามารถใชแ้ ละผลิตส่อื นวัตกรรม

ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้หลากหลาย
๒.๒ การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร การคน้ ควา้ และพัฒนาวชิ าชีพ
๒.๓ การจัดกจิ กรรมการแลกเปล่ียนการเรยี นรูท้ างวชิ าการ
๒.๔ จดั กิจกรรมวิจยั พฒั นาผ้เู รียนและพฒั นางานอยา่ งเป็นระบบ
๒.๕ จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนแบบบรู ณาการ
๒.๖ พัฒนาบคุ ลากรสู่การประกนั คุณภาพการศึกษาและการประเมินภายนอก
๒.๗ พัฒนาครูผูส้ อนดา้ นการประเมนิ ผลการเรยี นการสอนตามสภาพจรงิ
๒.๘ ผบู้ ริหารควรนเิ ทศตดิ ตามการจดั การเรียนการสอน ทาแผนการนิเทศภายในมีการบันทกึ ผล

นเิ ทศการสอนในลักษณะ coachingให้มากขึ้น กากับติดตามใหม้ ีการจัดทาแผนการใช้จ่ายเงินและทาบัญชีคุม
เงินแยกประเภทกากบั ตดิ ตามให้เจา้ หนา้ ทพ่ี สั ดุทาบญั ชีวสั ดแุ ละทะเบยี นคุมทรพั ยส์ ิน ควรตดิ ตามตรวจสอบ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๕

คณุ ภาพการศึกษาระดับบุคคลภาคเรยี น๑ครัง้ การประเมินตนเองตามมาตรฐานฯควรใชเ้ ครอื่ งมือทห่ี ลากหลาย
เพอื่ ให้ได้ขอ้ มลู ที่แท้จริงซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนาไปพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาได้อย่างแท้จรงิ สง่ เสรมิ
แนวคิดเรอ่ื งการประกนั คุณภาพการศกึ ษาให้เป็นวัฒนธรรมการทางานปกติของสถานศึกษา

๓. แผนการจดั หาทรัพยากร
๓.๑ การจดั แหลง่ เรียนรภู้ ายในสถานศึกษา และจัดหาแหลง่ เรียนรู้ภายนอกสถานศึกษาให้เอ้อื ตอ่

การเรยี นรู้
๓.๒ การจัดหาวัสดุคอมพิวเตอร์และการผลิตส่อื ตา่ ง ๆ รวมท้ังอปุ กรณ์ทางการศกึ ษาท่ีเออื้ ต่อ

การเรยี นร้ใู หเ้ พียงพอเหมาะสมและมปี ระสทิ ธภิ าพ
๓.๓ จดั หาวิทยากรทอ้ งถน่ิ เพ่ือใหค้ วามรู้ในเรือ่ งตา่ ง ๆ ท่ีนกั เรียนตอ้ งการเรยี นรูใ้ หเ้ พียงพอ

จากแผนงานทัง้ สามนีแ้ ผนงานนี้ สามารถกาหนดทิศทางของสถานศึกษาในอนาคตขา้ งหน้าไดว้ า่
สถานศกึ ษาแหง่ น้ีมที ศิ ทางการพฒั นาการจัดการศึกษาและการประกนั คุณภาพการศกึ ษาในทิศทางท่ถี ูกต้อง
บรรลุเปา้ หมาย วสิ ัยทศั น์ และพันธกิจได้

ความตอ้ งการและการชว่ ยเหลอื

๑) ขอความช่วยเหลือจากชุมชนและองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นในการสนับสนุนด้านงบประมาณใน
การจัดแหลง่ เรยี นรู้ภายในโรงเรียน

๒) ขอความอนุเคราะห์ด้านวชิ าการจากหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ
๓) ขอความอนุเคราะหง์ บประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานประกอบการ
ชุมชน ผปู้ กครอง และหนว่ ยงานตา่ ง ๆ เพ่อื สนบั สนนุ ทนุ การศกึ ษาแกน่ กั เรียน
๔) ขอความอนเุ คราะห์งบประมาณจากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน สถานประกอบการ
ชมุ ชน ผปู้ กครอง และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงอาคารเรียนอาคารประกอบ ภูมิทัศน์ และสิ่งอานวยความ
สะดวก ตลอดจนวัสดอุ ุปกรณท์ างการศกึ ษา
๕) ขอความอนเุ คราะห์จากผรู้ ู้/ปราชญช์ าวบา้ น มาเป็นวิทยากรถา่ ยทอดภมู คิ วามร้เู ร่ืองต่าง ๆ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๖

สว่ นที่ ๓

การปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practices) กจิ กรรมทโ่ี ดดเดน่

๓.๑ การปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ปน็ เลศิ (Best Practices) กิจกรรมทโ่ี ดดเดน่

โรงเรียนชานิพิทยาคม ได้ดาเนินการจัดทาโครงการและกิจกรรมตา่ งๆ มากมาย ในรอบปที ี่ผา่ นมานัน้
ทางโรงเรยี นขอยกเรื่อง เร่อื ง การจดั การขยะอยา่ งมีประสิทธภิ าพดว้ ยหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็
Best Practices เพราะเปน็ โครงการทป่ี ระสบผลสาเร็จตามเปา้ หมาย ครูและนักเรยี นให้ความรว่ มมอื เปน็ อย่าง
ดี ไดร้ บั การช่นื ชมจากบุคคลภายนอกอยู่เปน็ ประจา โดยมีรายละเอยี ดดังตอ่ ไปน้ี

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๗

บทคดั ยอ่

การดาเนินงานกิจกรรมการสร้างวินยั ดา้ นการบรหิ ารจัดการขยะ น้าเสียและมลพิษทางอากาศ
มจี ุดประสงค์เน้นการสรา้ งวินัยให้เกดิ ขึน้ ในโรงเรยี นใหก้ ับนักเรยี น เยาวชนเปน็ สาคัญ เพราะเยาวชน
เปน็ พลเมืองแหง่ อนาคต ดังนั้น การที่พลเมืองท่ีดี มีวินัย ใส่ใจเรอ่ื งสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปญั หาเรื่องขยะทเี่ น้น
วินัยเรื่องการจดั การขยะ แยกขยะ ธนาคารขยะ และการมจี ิตสานกึ ด้านการดูแลรกั ษาสงิ่ แวดล้อม โรงเรียน
ชานิพิทยาคม สังกดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๓๒ ไดเ้ ห็นความสาคัญในการอนรุ ักษ์
สิง่ แวดลอ้ มและการสรา้ งจิตสานึกใหเ้ กดิ กบั บคุ ลากรและนักเรยี นทกุ คน ทางโรงเรียนจงึ ไดป้ ระกาศเปน็
มาตรการ เรื่อง การอนุรักษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม และได้ดาเนินการดา้ นการจัดการขยะข้ึนโดยยึดหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นแนวทางในการบรหิ ารจดั การ ซงึ่ มีวัตถปุ ระสงค์ดังนี้ ๑) เพอ่ื ปลูกฝังคุณธรรม
ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒) เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเกิดความตระหนกั มีจิตสานึกในการรักษาความ
สะอาดและอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดล้อม ๓) เพอ่ื ให้โรงเรียนเป็นสถานศึกษาทีป่ ราศจากขยะ โรงเรยี นสวยงาม ร่มรน่ื
ปลอดภัย มสี ภาพแวดล้อมทีด่ ีขึน้ ๔) เพ่ือลดการแพร่กระจาย ของเชือ้ โรค และสะดวกแก่การนาไปกาจัด/นา
กลบั ไปใชใ้ หม่ ๕) เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถนาขยะท่ีมีประโยชน์ไปรีไซเคิล ใหเ้ กดิ ประโยชนไ์ ดม้ ากทีส่ ุด ๖) เพ่ือ
สรา้ งความร่วมมือในการบริหารจดั การขยะให้เป็นระบบ กระบวนการทางานทกุ กจิ กรรมใช้วงจรเดรมมิ่ง
(DEMING CYCLE) เขา้ มาจดั การ โดยยดึ หลักการ ความรว่ มมอื cooperate (C) ไดแ้ ก่ ๑) ข้นั การร่วมวางแผน
(CP) ๒) ขนั้ ร่วมดาเนนิ การ (CD) ๓) ข้นั การรว่ มตรวจสอบ (CC) ๔) ขน้ั ตอนประเมนิ และปรับปรุง (CA) ซึ่งใน
ข้ันรว่ มดาเนนิ การ (CD) ได้ใช้วธิ ี KTMS ประกอบดว้ ย ๑) ขน้ั รบั รู้ และการสร้างความตระหนกั (Knowledge
and awareness) ๒) ข้นั ฝกึ ซอ้ ม (ลดปญั หา) (Training) ๓) ขนั้ จดั การ (กาจัดปัญหา) (Management) ๔) ขนั้
สรา้ งความยั่งยนื (Sustainability) และใช้หลักการ ๔R ในการรณรงค์การจัดการขยะ ไดแ้ ก่ ๑) Reduce ลด
การใช้ ๒) Reuse การใช้ซา้ ๓) Repair การซ่อมแซมแก้ไข ๔) Recycle การนากลับมาใช้ ผลการดาเนนิ งาน
เกดิ ผลดังนี้ ๑) บุคลากรและนักเรียนมจี ิตสานึกในการอนรุ ักษส์ งิ่ แวดล้อม ๒) มีการจดั การดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี
๓) สภาพ
แวดล้อมดีขึน้ ไมม่ ีมลพิษในส่ิงแวดล้อม ๔) นักเรียนตระหนกั มจี ติ สานึก เร่ืองความสะอาดและการคัดแยกขยะ
๕) นกั เรยี นสามารถนาขยะที่มีประโยชน์ไปรไี ซเคิล ให้เกดิ ประโยชน์ได้มากที่สุด ๖) เกิดความรว่ มมอื ในการ
บรหิ ารจัดการขยะใหเ้ ปน็ ระบบภายในโรงเรยี น ทงั้ น้ี ผลิตภณั ฑท์ ่ีมาจากขยะรีไซเคลิ สามารถนามาพฒั นาต่อ
เปน็ สนิ คา้ ทม่ี ีคุณภาพมากย่ิงข้ึน เพอื่ สร้างมูลคา่ ผลติ ภณั ฑใ์ หส้ งู ขึน้ สามารถนามาขาย สร้างรายได้ในอนาคต
เช่น ตระกร้าจากเศษหนงั สือพิมพท์ ใี่ ช้แลว้ ปุ๋ยหมักชวี ภาพ เป็นต้น

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๘

ความสาคญั ของ “แนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ ”ี

การดาเนนิ งานกจิ กรรมการสร้างวนิ ัยด้านการบริหารจดั การขยะ น้าเสยี และมลพิษทางอากาศ มี
จุดประสงคเ์ นน้ การสร้างวนิ ยั ให้เกดิ ขึน้ ในโรงเรยี นใหก้ ับนักเรยี น เยาวชนเป็นสาคัญ เพราะเยาวชนเปน็ พลเมือง
แห่งอนาคต ดงั นน้ั การท่ีพลเมืองที่ดี มวี ินัย ใส่ใจเร่ืองสงิ่ แวดล้อม โดยเฉพาะปญั หาเรื่องขยะท่ีเน้นวินยั เรอื่ งการ
จดั การขยะ แยกขยะ ธนาคารขยะ และการมจี ิตสานึกดา้ นการดูแลรกั ษาส่งิ แวดล้อม ในปี ๒๕๖๑ รฐั บาลไดม้ ี
นโยบายเนน้ ด้านการบริหารจัดการขยะ น้า น้าเสีย พลังงานและความหลากหลายทางชีวภาพ ท่มี ุ่งเนน้ การ
ทางานบูรณาการกับหนว่ ยงานท่ีเก่ยี วข้อง สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานเป็นหนว่ ยงานหลกั ท่ี
เกีย่ วข้องในการสรา้ งพลเมืองที่มคี ุณภาพในการใหค้ วามรู้ สร้างเจตคติ นาไปสู่การมีความตระหนกั และมี
จติ สานกึ ท่ีดใี นด้านการจดั การขยะ นา้ น้าเสีย มลพิษทางอากาศ พลงั งานและอนุรักษ์ความหลากหลายทาง
ธรรมชาติ โดยมเี ปา้ หมายเชงิ นโยบายใหท้ กุ โรงเรียนทั่วประเทศดาเนนิ การเรื่องการสรา้ งวนิ ยั ด้านการจัดการ
ขยะ นา้ เสีย มลพิษทางอากาศ

โรงเรียนชานิพทิ ยาคม สังกัดสานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๓๒ ไดเ้ หน็ ความสาคญั ใน
การอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อมและการสร้างจิตสานกึ ใหเ้ กิดกับบุคลากรและนกั เรยี นทุกคน ทางโรงเรยี นจึงได้ประกาศ
เป็นมาตรการ เรื่อง การอนุรักษพ์ ลังงานและส่ิงแวดล้อม และได้ดาเนนิ การดา้ นการจัดการขยะขนึ้ ท้งั น้ี ขยะมลู
ฝอยสามารถพบไดท้ ่ัวไปแตส่ ว่ นใหญ่ที่เห็นได้ชดั เจน คือ บริเวณภายในโรงเรยี นจะมตี ้นไมใ้ หญอ่ ยู่เปน็ จานวน
มาก ทาให้เกดิ เศษใบไม้รว่ งหลน่ ปริมาณเยอะ นักการภารโรงจะตอ้ งเสียเวลาในการเก็บกวาด และกาจัดด้วย
วธิ กี ารเผาทง้ิ ทาให้เกิดมลพิษทางอากาศ และยงั พบขยะทมี่ าจากการบริโภคอาหาร เครื่องด่ืม น้าดื่ม และขนม
ตา่ งๆ ของเดก็ นักเรียน ตกอยู่เกลอ่ื นกลาดไปทวั่ บริเวณโรงเรียน เพราะพฤติกรรมของนักเรียนส่วนใหญจ่ ะไม่นา
ขยะไปทิ้งลงถัง แตจ่ ะทิ้งลงพ้ืนแทน ทาใหบ้ รเิ วณโรงเรียนสกปรกมากขึ้น

ทัง้ น้ี หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นพระราชดารัสช้ีแนวทางการดารงชีวติ ใหแ้ ก่ปวงชนชาว
ไทยนบั ตัง้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นต้นมา ซ่งึ โรงเรียนชานิพทิ ยาคมไดน้ อ้ มนาหลักแนวคิดน้ี มาใช้ในการพฒั นา
โรงเรยี นตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “สามห่วง สองเง่ือนไข” ดังนี้ ๑) ความพอประมาณ :
กจิ กรรมจะเน้นให้นักเรยี นปฏิบตั ิงานบนพน้ื ฐานความพอเหมาะพอควร ไมส่ รา้ งความเดอื ดรอ้ นให้แก่ตนเองและ
ผอู้ ืน่ ทากิจกรรมท่ีมีอยู่ให้พอเหมาะกับสภาพของตนเองไม่ทาการใด ๆ ทเี่ กินตัว เห็นคุณค่าและใชท้ รัพยากรให้
คมุ้ ค่าและเกิดประโยชน์สูงสดุ ๒) ความมีเหตผุ ล : กิจกรรมใหน้ ักเรียนในโรงเรียนจะดาเนินงานอยา่ งมเี หตมุ ผี ล
โดยพิจารณาจากเหตุ และศึกษาปัจจยั ทเ่ี ก่ียวข้อง ตลอดจนคานงึ ถงึ ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๓) การมีภมู ิคุ้มกนั ใน
ตวั ทดี่ ี : กิจกรรมทนี่ ักเรยี นจะไมป่ ฏบิ ัติตนบนความเส่ียง แต่จะเตรยี ม ความพร้อมเพอื่ รบั ผลกระทบที่คาดว่าจะ
เกดิ ขน้ึ จากการเปลย่ี นแปลงต่างๆ โดยคานงึ ถงึ ความเป็นไปได้ของตนเองทีจ่ ะเป็นลกู ท่ดี ี เป็นนกั เรยี นทด่ี ี
นกั เรียนจะสร้างภมู ิคุ้มกันใหต้ นเองโดยยึดหลักความรู้ค่คู ุณธรรม สาหรบั เง่ือนไข ๑) ความรู้ : มกี จิ กรรมท่ีสร้าง
นิสัยใฝร่ ู้ใฝ่เรียนให้นักเรียนหาความร้เู พ่มิ เตมิ เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองให้รอบรู้ทันสมยั ทันเหตกุ ารณ์ โดยใช้
อนิ เทอร์เนต็ ในการคน้ คว้าหาความรู้ อ่านหนังสือทุกวัน ดูงาน ร่วมแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ใชค้ วามรอบคอบที่จะนา
ความร้เู หล่านั้นมาพิจารณาให้เชือ่ มโยงกันเพ่ือประกอบการทางาน มคี วามระมัดระวัง ในการปฏิบตั ิทกุ ขัน้ ตอน

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๓๙

สว่ นเง่ือนไข ๒) คุณธรรม : มีกจิ กรรมที่เสริมสรา้ งคุณลักษณะพ้ืนฐานของนกั เรียน ทั้งด้านจติ ใจและ การกระทา
ประกอบดว้ ยมคี วามตระหนักในคุณธรรม ตง้ั ม่นั ในความดี มีความขยัน ซื่อสตั ย์สจุ รติ ความอดทน ความ
พากเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวติ อย่างพอเพียง

โรงเรยี นชานิพิทยาคม เป็นสถานศกึ ษาแบบอย่างการจัดการเรยี นการสอนและบริหารจัดการตามหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง “สถานศึกษาพอเพยี ง” ที่มกี ารบริหารจดั การศึกษาด้วยหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ตงั้ อย่เู ลขท่ี ๙๕ หมู่ที่ ๔ บา้ นตาเตน ตาบลเมืองยาง อาเภอชานิ จังหวัดบุรรี ัมย์ รหัสไปรษณีย์
๓๑๑๑๐ จากการศึกษาโดยวธิ กี ารสารวจพน้ื ท่ี โรงเรียนชานิพทิ ยาคม พบว่า ขยะท่ีพบในโรงเรยี นสว่ นมากเกดิ
จากนกั เรียนซื้ออาหารและขนมมารับประทาน ขยะส่วนใหญ่ท่ีพบเปน็ ถุงพลาสติก แก้วน้าพลาสตกิ ขวด
พลาสตกิ หลอดดูด ไม้เสียบลูกชิ้น กลอ่ งโฟม กลอ่ งนม เศษซองลูกอมและเศษกระดาษ มีบางสว่ นที่เกดิ จาก
บคุ คลภายนอก เช่น ผู้ปกครองนกั เรยี น ประชาชนท่มี าเลน่ กฬี านอกเวลา เชน่ ตอนเยน็ และเสารอ์ าทิตย์ นามา
และท้งิ เศษขยะไว้ โดยสว่ นมากนักเรียนจะท้งิ ในถงั ขยะ มบี างส่วนท่ที ้ิงนอกถงั ขยะ ระยะเวลาที่ทิง้ ไดแ้ ก่ ชว่ งเชา้
ก่อนเข้าแถว นกั เรยี นจะซื้ออาหาร เครื่องด่ืมและขนมมารบั ประทาน และไม่นาไปทงิ้ ลงถังขยะ ช่วงพกั กลางวัน
หลังรบั ประทานอาหารกลางวัน เดก็ จะซ้ืออาหารถือไปพรอ้ มกบั เลน่ หรอื รว่ มกิจกรรมอ่นื ๆ แลว้ ท้งิ ไว้ตาม
บริเวณทางเดินบนั ได ท่ีพกั ริมระเบยี งอาคาร ซุ้มท่นี ั่งพกั ท้งั น้ี การนาขยะท่ีอยู่ในถังไปทิ้งมเี พียงนักการภารโรง
เทา่ นนั้ ท่ีทาหนา้ ที่ ยังขาดเวรทงิ้ ถงั ขยะในโรงเรยี นสาหรบั นักเรยี น บางครงั้ ขยะท่อี ยู่ในถังขยะมีปริมาณมากและ
ล้นถังขยะออกมา บางครง้ั กม็ ีสุนัขมาคุ้ยเขี่ย

จากท่ีกล่าวมาแล้วข้างตน้ คณะผบู้ ริหารและครูไดป้ รึกษาหารือเกย่ี วกบั วธิ ีกาจัดขยะในโรงเรยี นใหล้ ด
นอ้ ยลง โดยการหาวิธีการบริหารจดั การขยะทเี่ ปน็ ปัญหาใหล้ ดน้อยลง หรอื ใช้ใหเ้ กิดประโยชนม์ ากท่ีสดุ ด้วย
หลักการบูรณาการจากแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การปลกู ฝงั คุณลักษณะพึงประสงค์
ผู้เรยี น ค่านิยมของคนไทยและความเปน็ พลเมืองท่ีดีของคนไทย เพ่ือปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นมีคุณลักษณะดงั กล่าว ท่ี
จะเปน็ พนื้ ฐานที่ดีในอนาคต สรา้ งส่ิงแวดลอ้ มท่ดี ี ทาใหเ้ กิดความสวยงาม สร้างเสรมิ สุขภาพอนามยั ของบคุ คล
ใหอ้ ยูอ่ ย่างมคี วามสขุ ตลอดไป

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๔๐

วตั ถุประสงค์

๑. เพ่ือปลกู ฝงั คุณธรรมตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
๒. เพ่ือใหน้ ักเรยี นเกิดความตระหนกั มจี ติ สานึกในการรักษาความสะอาดและอนุรักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม
๓. เพื่อใหโ้ รงเรยี นเป็นสถานศึกษาท่ปี ราศจากขยะ โรงเรียนสวยงาม รม่ รื่นปลอดภัย มสี ภาพแวดล้อมที่ดขี น้ึ
๔. เพื่อลดการแพรก่ ระจาย ของเช้อื โรค และสะดวกแก่การนาไปกาจดั /นากลับไปใช้ใหม่
๕. เพื่อให้นักเรียนสามารถนาขยะท่ีมีประโยชน์ไปรีไซเคิล ให้เกิดประโยชน์ได้มากทสี่ ดุ
๖. เพ่ือสร้างความรว่ มมือในการบรหิ ารจัดการขยะใหเ้ ปน็ ระบบ

เปา้ หมาย

๑. เชงิ ปริมาณ
- นักเรยี นโรงเรียนชานิพทิ ยาคม จานวน ๒๔๒ คน บคุ ลากรในโรงเรยี น จานวน ๒๔ คน ได้เขา้ ร่วมโครงการ
โรงเรยี นปลอดขยะ
- ปริมาณขยะภายในโรงเรยี นลดนอ้ ยลง รอ้ ยละ ๕๐
๒. เชิงคณุ ภาพ
- บคุ ลากรและนักเรียนรอ้ ยละ ๙๐ ปฏิบตั ิตามนโยบาย กฏระเบยี บในการรักษาความสะอาดและสง่ิ แวดล้อมใน
โรงเรียนจนติดเป็นนสิ ัยท่ีดี และมีระเบียบวนิ ยั ในการทางานและรักษาความสะอาด

กระบวนการดาเนนิ งาน

ในการดาเนินงานทุกโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนชานิพิทยาคม มแี นวทางการพฒั นา
ผเู้ รียน โดยยดึ กระบวนการพัฒนาคณุ ภาพเชงิ ระบบ ตามวงจรเดรมมิง่ (DEMING CYCLE) เข้ามาจดั การทกุ
กจิ กรรม โดยยดึ หลกั การ ความรว่ มมอื cooperate (C) ทาใหเ้ กดิ การขับเคลื่อนกระบวนการพฒั นาคณุ ภาพ
และเพิ่มระดบั คณุ ภาพ ท่ปี ระสบความสาเรจ็ ปรับปรงุ คุณภาพทย่ี งั ไม่ได้ตามมาตรฐานหรือเป้าหมายต่อไป โดย
มีกระบวนการดาเนนิ งานในโครงการนี้ ดงั นี้

๑ ขนั้ การรว่ มวางแผน (CP)
ได้เชญิ ประชุมผมู้ สี ่วนเก่ียวข้องเพอ่ื วิเคราะหป์ ัญหาและรว่ มวางแผนพฒั นาคุณภาพ โดยได้จดั ทา
โครงการ การบรหิ ารจดั การขยะในโรงเรยี น ระบุกิจกรรมต่าง ๆ เสนอตอ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษาเพ่ืออนุมตั ิ

๒ ขนั้ รว่ มดาเนนิ การ (CD)
๒.๑ กาหนดนโยบายด้านการอนุรักษส์ ิ่งแวดล้อม เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ัติของโรงเรียน

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๔๑

๒.๒ ออกคาสง่ั แตง่ ตงั้ คณะทางาน โดยมอบหมายงานแต่ละคนรบั ผดิ ชอบในแต่ละกจิ กรรม ประชุม
วางแผนเตรยี มการบุคลากร วสั ดุ อปุ กรณ์ สถานที่ และงบประมาณ

๒.๓ ดาเนนิ กิจกรรมตามความรบั ผดิ ชอบโดยมกี ารดาเนินงานตามประเด็นในการพัฒนาโดยวธิ ี KTMS
ดงั นี้

๑) ขั้นรบั รู้ และการสรา้ งความตระหนกั (Knowledge and awareness)
ประชุมคณะครู มอบหมายความรบั ผดิ ชอบ อบรมสรา้ งความร้คู วามเข้าใจนกั เรยี น นักเรียนได้
เรยี นรูก้ ารคัดแยกขยะ มีการเรียนรู้เกีย่ วกับการคดั แยกขยะ โดยใช้เกมการคดั แยกขยะมาเป็นตัวกระตนุ้ ให้เกิด
การเรยี นรู้ มสี ือ่ ให้ความร้เู กย่ี วกับการคดั แยกขยะ สร้างความรบั ผิดชอบในเรื่องขยะ โดยใช้เวลาหน้าเสาธง โฮม
รมู การประชุม โดยต่อเนื่อง จัดการโดยครปู ระจาชน้ั และบูรณาการเขา้ กบั การเรยี นการสอนในช้นั เรียน เช่น
กจิ กรรมขยะมีประโยชน์
๒) ข้นั ฝกึ ซอ้ ม (ลดปัญหา) (Training) ทดลองการจัดการขยะด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ได้แก่

๒.๑) การคัดแยกขยะ เปน็ ขยะท่ีนาไปใชใ้ หม่ไดด้ ว้ ยวธิ ีการอืน่ ๆ เช่น ประดษิ ฐ์เปน็
ของเล่น ของใช้ โดยการให้ความรู้แกน่ ักเรยี นในการใช้ นาไปใช้ ประดษิ ฐ์ ในกจิ กรรมหน้าเสาธงตอนเชา้

๒.๒) ลดการใช้ขยะไมย่ ่อยสลาย ให้ความรู้แกน่ ักเรยี นรู้จักขยะที่ไมย่ ่อยสลายและ
ขยะท่ยี ่อยสลาย ขยะที่มีพษิ นาไปส่กู ารปฏิบตั เิ ลือกใช้และสนับสนุนการใชข้ ยะไมม่ ีพษิ และย่อยสลายได้

๒.๓) ท้งิ ขยะในถังขยะให้ถูกท่ี ฝึกวินัยในการรักษาความสะอาด เลอื กทงิ้ ขยะในถงั ท่ี
คัดแยกขยะ ตรงกบั ขยะในมอื

๒.๔) ชว่ ยกันทาความสะอาดในเขตรบั ผิดชอบ กาหนดพนื้ ท่ีโดยโครงการ
ประชาธิปไตยมอบหมายรายชั้นในการทาและรกั ษาความสะอาด สร้างภมู ิคุ้มกนั ให้กับตนเอง

๒.๕) พบขยะที่ไหนเกบ็ ทนี่ ั่น เปน็ การปลูกฝังวินยั และจิตสาธารณะให้กับนักเรียน แม้
การเดนิ ทางจากบา้ นมาโรงเรียน

๒.๖) ยึดมนั่ คาว่า สะอาดสร้างสขุ ภาพแข็งแรง เป็นการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี งมาใช้ในชวี ิตประจาวัน ด้วยหลกั สามห่วง สองเงือ่ นไข การดาเนนิ งานในข้ันนจี้ ะมีผูร้ บั ผดิ ชอบไดแ้ ก่ ครู
ประจาเขตพื้นท่ี ครเู วรประจาวัน และสภาคณะนักเรยี นโรงเรยี นชานพิ ทิ ยาคมคอยสงั เกตุและติดตาม

๓) ขน้ั จัดการ (กาจัดปญั หา) (Management)
๓.๑) การจดั การขยะท่ีไม่สามารถนากลบั มาใช้ใหม่ได้ทัง้ หมด ดว้ ยการจัดทส่ี าหรับ

เก็บขยะเตรียมเก็บโดยหนว่ ยเก็บขยะของชุมชน ด้วยการจัดถังสาหรบั การแยกขยะก่อนท้ิง ประกอบไปด้วย ถัง
สาหรับท้ิงขยะท่วั ไป ถงั สาหรับทิง้ ขวดแกว้ และพลาสตกิ และถังสาหรบั ท้งิ ขยะเปยี ก

๓.๒) การบรหิ ารจดั การขยะที่สามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ได้ มีวิธตี ่างๆ ดงั นี้
- ส่วนทีเ่ หลือจากการนากลบั มาใช้ในโรงเรยี นดว้ ยวิธีการจาหน่ายใหก้ ับโรง

รบั ซื้อขยะ
- บูรณาการสอนดว้ ยการนาขยะที่สามารถนากลับมาใชไ้ ด้ ดว้ ยการประดิษฐ์

เปน็ ของเล่น และของใช้ที่มปี ระโยชน์ ในกจิ กรรม “ขยะมีประโยชน์”
- จดั กิจกรรมประกวดชุดรไี ซเคลิ ซง่ึ จัดให้มกี ารประกวดในงานสัปดาห์

วทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓) ๔๒

การดาเนินการในขั้นนมี้ ีครผู ้รู ับผดิ ชอบโครงการ และครูประจาวชิ า เปน็ ผูร้ บั ผิดชอบ
จัดกจิ กรรม

๔) ข้นั สรา้ งความย่งั ยนื (Sustainability)
การบรหิ ารจัดการขยะอย่างย่ังยนื เพื่อสรา้ งความกา้ วหน้าในการดาเนินการ อย่างต่อเนื่องดว้ ย
วธิ กี ารดงั นี้
- กาหนดเป็นมาตรการ การอนรุ ักษพ์ ลงั งานและส่งิ แวดล้อมของโรงเรยี นชานิพทิ ยาคม เพื่อให้
นักเรยี นและบุคลากรทุกคน ได้ยึดถอื เป็นแนวปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั
- ใหก้ ารรณรงคเ์ กี่ยวกับการจัดการขยะอย่างย่งั ยนื ด้วยการให้ความรหู้ นา้ เสาธง และทาเป็น
แผน่ พบั ประชาสัมพันธ์ในโรงเรียน และชุมชน ด้วยหลกั การ ๔R ดังน้ี
Reduce - การลดปริมาณขยะ โดยการใช้ผลติ ภณั ฑ์ที่มบี รรจภุ ัณฑส์ ้ินเปลอื ง
Reuse - การนามาใชซ้ ้า เชน่ ขวดแกว้ กลอ่ งกระดาษ กระดาษพิมพห์ นา้ หลงั
Repair - การซอ่ มแซมแก้ไขส่ิงของตา่ ง ๆ ใหส้ ามารถใช้งานต่อได้ ไม่ให้กลายเปน็ ขยะ
Recycle - การแปรสภาพและหมนุ เวยี นนากลับมาใชไ้ ดใ้ หม่ โดยนาไปผา่ นกระบวนการผลิต
ใหม่ อกี ครงั้
ในขั้นนค้ี รผู ูร้ ับผิดชอบไดบ้ นั ทึกข้อมูลการดาเนินกจิ กรรมทุกข้ันตอน พร้อมภาพถ่าย

๓ ข้นั การรว่ มตรวจสอบ (CC)
ใช้การนเิ ทศโดยคณะผูบ้ ริหารเพ่ือนครู ผู้ปกครองนกั เรียน เป็นการประเมนิ ผลรว่ มกนั ทุกระยะ

๔ ขัน้ ตอนประเมินและปรบั ปรงุ (CA)
เป็นการวดั และประเมนิ ผลการดาเนินงานเมื่อสิน้ สุดโครงการ โดยคณะกรรมการประเมนิ จัดทาและรวบรวม
ขอ้ มูลเพือ่ นาเสนอที่ประชุม นามาวิจยั เพ่ือพฒั นาปรบั ปรงุ งานท่ไี ม่เป็นไปตามเปา้ หมายและพฒั นา ต่อยอดงาน
ท่ีประสบความสาเรจ็ และทาการสรุปและรายงานผล

รายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓) ๔๓

ผลการดาเนนิ งาน

๑ บคุ ลากร และนักเรยี นมจี ิตสานึกในการอนุรกั ษส์ ่งิ แวดล้อม
๒ มกี ารจัดการด้านสิ่งแวดลอ้ มทด่ี ี
๓ สภาพแวดล้อมดขี ้นึ ไม่มีมลพษิ ในส่งิ แวดล้อม
๔ นกั เรยี นตระหนัก มีจิตสานึก เร่ืองความสะอาดและการคัดแยกขยะ
๕ นกั เรยี นสามารถนาขยะท่ีมีประโยชน์ไปรีไซเคลิ ใหเ้ กิดประโยชน์ได้มากทสี่ ุด
๖ เกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการขยะใหเ้ ปน็ ระบบ ภายในโรงเรยี น

ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั

๑. บุคลากรและนกั เรยี นในโรงเรียนมคี ณุ ธรรมตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒. นกั เรยี นเกดิ ความตระหนัก มจี ิตสานึกในการรกั ษาความสะอาดและอนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อม
๓. โรงเรยี นเปน็ สถานศกึ ษาท่ีปราศจากขยะ โรงเรียนสวยงาม รม่ ร่ืนปลอดภยั มีสภาพแวดลอ้ มทด่ี ีขึ้น
๔. ลดการแพร่กระจาย ของเช้อื โรค และสะดวกแก่การนาไปกาจดั /นากลับไปใช้ใหม่
๕. นกั เรียนสามารถนาขยะท่ีมีประโยชนไ์ ปรีไซเคิล ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้มากท่สี ดุ
๖. มกี ารบริหารจดั การขยะอยา่ งเป็นระบบ
๗. เปน็ ตัวอยา่ งของการบรหิ ารจดั การขยะซงึ่ โรงเรียน ชมุ ชน หน่วยงานต่างๆ หรอื ผูท้ ่สี นใจ นาไป
ประยกุ ตใ์ ช้ได้

ปจั จยั ความสาเรจ็

๑ ไดร้ บั การสนบั สนนุ ในทุกด้านจากผบู้ ริหาร
๒ นักเรยี นและบคุ ลากรใหค้ วามร่วมมือในการทากจิ กรรมทุกกิจกรรมดว้ ยดี
๓ ผูป้ กครองให้การสนับสนนุ ในการจดั กจิ กรรมและสง่ เสริมนักเรียนในดา้ นการอนรุ ักษ์พลังงานและ
สิ่งแวดล้อม
๔ โรงเรียนมรี ะบบการบรหิ ารจัดการที่มีคุณภาพ


Click to View FlipBook Version