ค ว า ม สำ คั ญ ใ น ก า ร พั ฒ น า
ผ ล ง า น ทั ศ น ศิ ล ป์
ความสำคัญในการพัฒนาผลงานทัศนศิลป์
การพัฒนาผลงานทัศนศิลป์ หมายถึง การปรับปรุงผลงาน วิธี
การทำงานให้มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ มีความก้าวหน้ าในการทำงานมาก
ไปกว่าเดิม การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ให้มีความก้าวหน้ าอย่างต่อ
เนื่องนั้น ถือว่ามีความสำคัญสำหรับผู้เรียนทุกคน เพราะช่วยทำให้ผลงาน
ของตนได้รับการปรับปรุงและมีการพัฒนาจนมีความแตกต่างไปจากผู้อื่น
ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้ เป็นความไฝ่ฝันของผู้สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์
ทุกๆ คน ส่วนการจะบรรลุผลได้ตามความคิดฝันไว้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ
ความตั้งใจ ความใส่ใจ และความมานะของผู้ฝึกปฏิบัติแต่ละคนว่าจะมีมาก
น้ อยเพียงใด และขึ้นอยู่กับการรู้จักแสวงหาแนวทางในการเรียนรู้และหา
วิธีหารใหม่ๆ มาสร้างสรรค์การทำงานให้มีความแปลกใหม่แตกต่างไปจาก
ที่เคยมีอยู่แต่เดิม
ดังนั้น การพัฒนาผลงานทัศนศิลป์จึงมีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อ
วงการศิลปะ ดังนี้
1. มีความสำคัญที่ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ทาง
ด้านทัศนศิลป์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษากลุ่มสาระศิลปะ
2. มีความสำคัญในการพัฒนาตนเองให้เกิดการศึกษาเรียนรู้เกี่ยว
กับสิ่งใหม่ๆ โดยเน้ นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปแบบ เนื้อหา และ
เทคนิควิธีการในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์
3. มีความสำคัญต่อการสร้างนิสัยในการทำงานที่ดี โดยไม่ยึดติดกับ
แบบอย่างที่ซ้ำซาก ซื้อตายตัวมากจนเกินไป
4. ความสำคัญในการรู้จักประเมินตน เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพในการ
ทำงานอย่างรอบด้าน จนนำไปสู่การพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดความ
ก้าวหน้ าและสมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้น
การศึกษาทางด้านทัศนศิลป์ เมื่อเรารู้จักประเมินผลงาน ไม่ว่าจะ
เป็นผลงานของตนเอง หรือผู้อื่นก็ตาม รวมทั้งเมื่อได้รับการวิจารณ์ผลงานที่
เราสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งในผลงานทัศนศิลป์แต่ละชิ้นย่อมจะมีส่วนดีที่เราพึง
เก็บสะสมไว้และส่วนที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข หากเราเปิดใจให้กว้างยอมรับ
คำวิจารณ์ ฟังด้วยใจเป็นกลาง ก็จะได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลที่เรา
สามารถเก็บเกี่ยวนำไปใช้พัฒนาผลงานของเราให้มีความก้าวหน้ าได้อย่าง
ต่อเนื่อง ซึ่งก็ย่อมจะสัมฤทธิ์ผลอย่างดียิ่งในการศึกษาวิชาทัศนศิลป์
การจัดทำแฟ้มสะสม
งานทัศนศิลป์
การจัดทำแฟ้มสะสมงานทัศนศิลป์
การจัดทำแฟ้ มสะสมงาน หรือแฟ้ มผลงานทัศนศิลป์ (Portfolio)
มีจุดมุ่งหมายเพื่ อการจัดเก็บและรวบรวมประวัติและผลงานที่เป็ นกระดาษ
เช่น ภาพพิมพ์ ภาพวาดลายเส้น ภาพสีน้ำ เป็นต้น ให้เป็นระบบ หรือใน
กรณีที่พลาดมีขนาดใหญ่มาก หรือสร้างสรรค์ด้วยวัสดุอื่นนอกเหนือจาก
กระดาษ หรือมีรูปแบบที่ไม่สามารถจะนำมาจัดเก็บได้ ก็ถ่ายเป็นภาพไว้
แล้วนำไปจัดเก็บแทน เพื่อจะได้เป็นหลักฐานสำหรับนำไปใช้ประโยชน์ใน
โอกาสต่างๆ เช่น เพื่อเก็บสะสมผลงานให้เป็นระบบ ศึกษาพัฒนาความ
ก้าวหน้ าในการทำงาน ศึกษาต่อ สมัครงาน ประกวดแข่งขัน หรือติดต่อ
ธุรกิจเชิงพาณิชย์ศิลป์
การจัดทำแฟ้ มสะสมผลงานทัศนศิลป์ จะมีรายละเอียดแตกต่าง
กันไปหลายรูปแบบ ในระดับชั้นนี้ ขอแนะนำการจัดทำแฟ้ มสะสมผลงานที่
ไม่มีความยุ่งยากมากนัก ซึ่งองค์ประกอบหลักๆ ในแฟ้ มสะสมผลงาน จะ
ครอบคลุมประเด็น ดังนี้
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนหน้ า หรื่อส่วนนำ ภายในจะประกอบไปด้วยปก
คำนำ สารบัญ วัตถุประสงค์ ชีวประวัติผู้จัดทำ
1. ปก : ควรใช้กระดาษแข็ง ระบุชื่อผู้เรียน เลขประจำตัว ชื่อโรงเรียน
เขตพื้นที่การศึกษา อำเภอ จังหวัด โดยออกแบบตกแต่งให้
2. ใบปกรอง สวยงาม ถ้านำภาพประกอบเข้ามา เสริม ต้องสื่อออกมาให้เห็น
3. คำนำ ว่าเป็นแฟ้ มสะสมผลงานทัศนศิลป์
4. สารบัญ
: มีความเหมือนกับปกทุกประการ นิยมใช้กระดาวขาว หรือ
5. วัตถุประสงค์ กระดาษสีอ่อน
6. ชีวประวัติ
: อาจเขียนบอกลักษณะภาพรวมของแฟ้ มสะสมผลงานเล่มนี้
องค์ประกอบในเล่ม ขั้นตอนการดำเนินการ
: บอกหัวข้อใหญ่ของเรื่อง หรือลำดับหมวดหมู่ที่อยู่ในแฟ้ ม เช่น
ประวัติการศึกาษา ประวัติการทำงาน การงวัลและเกียรติประวัติ
ที่ได้รับ เป็นต้น
: บอกเหตุผลที่ทำแฟ้ มสะสมผลงานเล่มนี้ว่า ทำขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์
ใด
: บอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวของผู้เรียน เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น
กีฬา อาหารที่ชอบ คติปีะจำใจ ศิลปินด้านทัศนศิลป์ที่ชื่นชอบ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนบรรจุหลักฐาน เป็นที่แสดงชิ้นงาน หรือภาพถ่าย
ชิ้นงานที่ผู้เรียนได้สร้างสรรค์ขึ้นจากการศึกษาวิชาทัศนศิลป์ มี
การสะท้อนความคิดเห็นต่อชิ้นงาน แนวคิดในการทำผลชิ้นงาน
วิธีปฏิบัติงาน รวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ปฏิบัติงาน
1. ระบุรายละเอียดของชิ้นงาน : เป็นการให้ข้อมูลอย่างละเอีนดของผลงาน เช่น
เป็นงานประเภทใด สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคแบบใด
พร้อมบอกเนื้อหารายละเอียด คุณค่าทางศิลปะ
แนวคิดที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงาน เป็นต้น
2. กรณีที่ผลงานมีหลายชิ้น : ควรจัดเป็นกลุ่มเพื่อสะดวกในการศึกษา เช่น
กลุ่มภาพจิตรกรรมสีน้ำ กลุ่มภาพเทคนิคผสม เป็นต้น
3. วิธีการปฏิบัติงาน : อธิบายขั้นตอนการทำงาน ตั้งแต่ขั้นเตรียม ขั้นลงมือ
และขั้นสรุปผลงาน
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนใส่แบบฟอร์มที่ใช้ประเมินผลงาน รวมทั้งเกณฑ์
การประเมินผลงาาน เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่า ผลงานที่ถูกนำมาเก็บ
ไว้นั้นได้รับผลการประเมินเป็นอย่างไร รวมทั้งอาจใส่หลักฐาน
การประเมินไว้ด้วยก็ได้ นอกจากนี้ ก็ควรมีบรรณานุกรมและ
ภาคผนวก (ถ้ามี)
1. เกณฑ์การประเมิน : เป็นเกณฑ์ที่ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องใช้ประเมินผลงานในแฟ้ ม
ส่วนใหญ่มักจะบอกเป็ นระดับคะแนน
(ตัวอย่างระดับคะแนน เช่น 4 = ดีที่สุด, 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ปรับปรุง )
2. บรรณานุกรม : ระบุรายการหนังสือ เอกสาร หรือชื่อเว็บไซต์ (URL) ที่ใช้ใน
การสืบค้นข้อมูลเพื่อนำความรู้ หรือเทคนิควิธีการมาใช้
ปฏิบัติงานทัศนศิลป์ ชิ้นนั้น
3. ภาคผนวก : เป็นส่วนของข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้ามี) เพื่ออธิบายข้อมูล
หรือความรู้เสริม ที่ผู้เรียนได้เคยอ้างถึงเมื่อปฏิบัติชิ้นงานที่
อยู่ในแฟ้ ม
ตัวอย่าง หน้ า "ประวัติผลงาน " ที่เก็บสะสมในแต่ละหน้ าของแฟ้ ม
สะสมผลงาน พร้อมรายละเอียดใต้ภาพ
ชื่อเจ้าของผลงาน ชื่อ ..................................... นามสกุล ......................................
อาจารย์ที่ปรึกษา .....................................................................................................
ชื่ อผลงาน .....................................................................................................
เนื้อหาสาระ ....................................................................................................
ขนาดผลงาน กว้าง...................................... ยาว .........................................
เทคนิคของผลงาน ....................................................................................................
(สีน้ำ สีโปสเตอร์ เทคนิคผสม วาดเส้น งานปั้นและสื่อผสม ภาพพิมพ์
การแกะสลักเทียนไข ฯลฯ )
คุณค่าทางศิลปะ .....................................................................................................
แนวคิด .....................................................................................................
วัน / เดือน / ปี พ.ศ. ที่สร้างสรรค์งาน ...................................................................