The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1_ระบบหมุนเวียนเลือด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-05-10 21:36:04

1_ระบบหมุนเวียนเลือด

1_ระบบหมุนเวียนเลือด

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

เรอ่ื ง ระบบอวัยวะตา่ ง ๆ ในรา่ งกายมนุษย์

ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์3 รหัสวิชา ว22101 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2

นางพัชรี คณู ทอง
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ
โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม อาเภอพบิ ูลมังสาหาร จงั หวัดอุบลราชธานี
สงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั อบุ ลราชธานี

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 จัดทาข้ึนเพื่อเป็นสอ่ื นวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวิชา ว22101 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ใน
ร่างกายมนุษย์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และพัฒนา
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลด
บทบาทของครูตามแนวทางการปฏริ ูปการเรียนรทู้ ่ียึดผู้เรียนเปน็ สาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้
ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนา
ตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาท้ังด้านความรู้
กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสาร
การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตวิทยาศาสตร์
คุณธรรมและคา่ นยิ มทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสม

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีจะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองอาหารกับการดารงชีวิตได้เป็นอย่างดี มีทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สามารถใช้เพื่อศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์
ของหลกั สตู รได้

ผู้จัดทาขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องทุกท่านท่ีให้การสนับสนุน ใหค้ าแนะนา
และเป็นท่ีปรึกษาท่ีดีในการจัดทาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การพัฒนาปรับปรุง/
ตรวจสอบแก้ไข จนได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์
ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับนักเรียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรม
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน เพื่อนร่วมวิชาชีพ ตลอดจนผู้สนใจ
ในการนาไปพฒั นาผูเ้ รียนให้เกดิ การเรยี นรู้ที่มีประสิทธภิ าพต่อไป

พัชรี คูณทอง

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ ก

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

สำรบัญ

เรื่อง หน้ำ
คำนำ ก
สำรบญั ข
คำช้ีแจงเกยี่ วกับกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ค
แผนภูมลิ ำดับขน้ั ตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ ง
คำชแี้ จงกำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์สำหรบั ครู จ
คำชแ้ี จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนกั เรียน ช
1
สาระการเรียนรู้/มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั 1
จุดประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวชี้วดั 2
สาระสาคญั 4
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 7
บตั รเนื้อหา ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง ระบบหมุนเวียนเลอื ด 23
บตั รกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ลกั ษณะของเซลล์เมด็ เลือด 25
บตั รกิจกรรมที่ 1.2 เรอื่ ง การทางานของหัวใจ 28
บัตรกิจกรรมที่ 1.3 เรื่อง อตั ราการเต้นของหวั ใจ 32
แบบทดสอบหลงั เรยี น 35
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
36
บรรณำนกุ รม
37
ภำคผนวก 38
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 1.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะของเซลลเ์ ม็ดเลือด 40
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 1.2 เร่ือง การทางานของหัวใจ 43
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 1.3 เรื่อง อัตราการเตน้ ของหัวใจ 47
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น
48
ประวัตยิ ่อผจู้ ดั ทำ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ข

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

คำชแ้ี จงเก่ียวกับชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์

1. ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ใน
ร่างกายมนุษย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการ
จัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวิชา ว22101 สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
โดยให้สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) กระทรวงศกึ ษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝกึ ท่ีเหมาะสมกับระดับ
และวัย เพื่อให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพื่อ
ส่งเสริมเจตคติท่ีดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการ
แกป้ ญั หา และสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

2. ผู้สอนได้รวบรวมเน้ือหาสาระและกิจกรรม เพื่อพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์
จากหนังสือและแหล่งความรู้ต่าง ๆ นามาจัดทาเป็นเอกสารประกอบการเรียนให้เหมาะสมกับ
ผู้เรียน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ เกิดทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วธิ ีสารวจตรวจสอบขอ้ มลู การคิดแก้ปัญหา ตลอดจนการเสรมิ สร้าง
จิตวิทยาศาสตร์ ผู้สอนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้ จะก่อให้เกิด
ประโยชน์ ต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้มีคุณภาพต่อไป
ซึง่ ประกอบด้วยชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน 5 ชุด ดังนี้

ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง ระบบหมุนเวียนเลือด
ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง ระบบหายใจ
ชุดที่ 3 เรอ่ื ง ระบบขบั ถา่ ย
ชุดท่ี 4 เรอ่ื ง ระบบประสาท
ชุดท่ี 5 เรอ่ื ง ระบบสบื พนั ธ์ุ
3. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้เป็น ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ชุดท่ี 1
เรื่อง ระบบหมุนเวียนเลอื ด ใช้เวลำ 3 ช่ัวโมง
4. ผ้ใู ช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์น้ีควรศกึ ษาข้นั ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
อย่างละเอียดกอ่ นใช้
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะมีประโยชน์ต่อ
นักเรียนและผู้สนใจที่จะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ให้มคี ุณภาพมากยงิ่ ข้นึ ต่อไป

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ค

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลอื ด

แผนภูมิลำดับขน้ั ตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์

อา่ นคาช้ีแจงและคาแนะนาในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์

ศกึ ษาตวั ชว้ี ัดและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ เสริมพนื้ ฐำน
ทดสอบก่อนเรียน ผู้มพี นื้ ฐำนตำ่

ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ตามข้นั ตอน

ประเมนิ ผลการจดั กิจกรรมการเรียนร้จู ากชุดกจิ กรรม

ไมผ่ ่ำน ทดสอบหลงั เรียน
กำรทดสอบ

ผ่ำนกำรทดสอบ

ศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรอ่ื งต่อไป

แผนภมู ิลำดับขั้นตอนกำรเรยี นโดยใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์
ชดุ ที่ 1 เรอ่ื ง ระบบหมุนเวยี นเลือด

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ง

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

คำชแ้ี จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตรส์ ำหรับครู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดที่ 1 เร่ือง ระบบ
หมุนเวียนเลอื ด ใชเ้ วลำในกำรทำกิจกรรม 3 ชวั่ โมง ซ่งึ นักเรียนจะไดส้ ารวจ สังเกตและรวบรวม
ข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทาง
สังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา ผ่านทาง
กระบวนการกลุ่ม เพ่ือช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์และมี
ประสิทธภิ าพ ครผู สู้ อนควรดาเนินการดงั น้ี

1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจดั การเรียนรู้ เพื่อท่ีครูผู้สอนสามารถนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในการ
จัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

2. ครูผ้สู อนเตรยี มสื่อการเรยี นการสอนใหพ้ ร้อม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซ่ึงนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเวน้ ส่ือการสอนท่ตี ้องใช้รว่ มกัน
4. ครูต้องช้ีแจงใหน้ ักเรียนรู้เก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ดังน้ี

4.1 ศกึ ษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมให้เข้าใจก่อนการเรียนรู้โดยใช้
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้

4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับขั้นตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพ่ือจะได้ทราบ
วา่ จะปฏิบตั กิ จิ กรรมอะไร อยา่ งไร

4.3 นักเรียนต้องตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ไมร่ บกวนผู้อืน่ และไม่ชกั ชวนเพอ่ื นใหอ้ อกนอกลนู่ อกทาง

4.4 หลงั จากปฏิบตั กิ ิจกรรมแล้ว นกั เรียนจะตอ้ งจดั เก็บอปุ กรณท์ กุ ชิน้ ใหเ้ รยี บร้อย
4.5 เมือ่ มีการประเมินผลนักเรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิตนอย่างตง้ั ใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) แบ่งออกเป็น 5
ขน้ั ตอน ดังน้ี
5.1 ขนั้ ที่ 1 ข้นั สร้างความสนใจ
5.2 ขั้นที่ 2 ขั้นสารวจและค้นหา
5.3 ข้นั ที่ 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ จ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

5.4 ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้
5.5 ขั้นท่ี 5 ขัน้ ประเมิน
6. ขณะท่ีนกั เรียนทุกกลมุ่ ปฏิบตั ิกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เป็นรายกลุ่มหรือรายบคุ คล ตอ้ งไมร่ บกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลมุ่ อ่นื
7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรอื กลุ่มใดมีปญั หาควรเข้าไปให้ความช่วยเหลือจนปญั หานั้นคลีค่ ลายลง
8. การสรุปผลที่ไดจ้ ากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเปน็ กิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตวั แทนของกลมุ่ ร่วมกนั ครูควรเปดิ โอกาสให้นักเรียนแสดงออกใหม้ ากท่สี ุด
9. ประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนักเรยี น เพอ่ื ตรวจสอบผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ ฉ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

คำช้แี จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรส์ ำหรบั นกั เรียน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีนักเรียนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชุดท่ี 1 เรื่อง ระบบหมุนเวยี นเลือด ซ่ึงนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต
และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุด นักเรียนควรปฏิบัติตาม
คาชแ้ี จง ดงั ตอ่ ไปนี้

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 เร่ือง ระบบหมุนเวียนเลือด ใช้เวลำ
จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ 3 ช่วั โมง

2. นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน จานวน 10 ขอ้
3. นกั เรยี นทากจิ กรรมเป็นรายกลุ่มและศึกษาวิธีดาเนินกิจกรรมให้เขา้ ใจ
4. นักเรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
5. นักเรียนทากิจกรรมในชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ใหค้ รบ
6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 10 ขอ้

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ช

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

สาระการเรยี นรู้ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ / สาระสาคัญ

ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิตหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตการลาเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ
ของสัตว์และมนษุ ย์ทีท่ างานสมั พันธ์กันความสมั พนั ธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ท่ี
ของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ทที่ างานสมั พนั ธก์ นั รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ดั บรรยายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของหัวใจหลอดเลือด และเลือด
ว 1.2 ม.2/6 อธบิ ายการทางานของระบบหมนุ เวียนเลือด โดยใช้แบบจาลอง
ว 1.2 ม.2/7 ออกแบบการทดลองและทดลองในการเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจ
ว 1.2 ม.2/8 ขณะปกติและหลงั ทากจิ กรรม
ตระหนักถึงความสาคัญของระบบหมุนเวียนเลือดโดยการบอกแนวทางในการ
ว 1.2 ม.2/9 ดแู ลรักษาอวัยวะในระบบหมนุ เวียนเลือดให้ทางานเป็นปกติ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้สตู่ วั ช้ีวัด

1. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าทข่ี องอวัยวะในระบบหมุนเวยี นเลอื ดได้ (K)
2. อธบิ ายการหมนุ เวียนเลอื ดผ่านหัวใจได้ (K)
3. เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของหลอดเลือดอารเ์ ตอรี หลอดเลอื ดเวน และหลอดเลือดฝอย
ได้ (K)
4. เปรียบเทียบความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และเพลตเลตได้
(K)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 1

ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

5. เปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหว่างวัคซนี กบั เซรมุ่ ได้ (K)
6. นับชีพจรบริเวณข้อมือ (P)
7. จาลองการทางานของหัวใจ (P)
8. วดั อตั ราการเต้นของหวั ใจ (P)
9. สร้างแบบจาลองการหมนุ เวียนเลอื ดผา่ นหัวใจ (P)
10. ตระหนักถึงความสาคัญของระบบหมุนเวียนเลือดและการดูแลรักษาอวัยวะในระบบ
หมนุ เวยี นเลอื ด (A)
11. สนใจใฝ่รใู้ นการศึกษา (A)
12. เป็นนักใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการเรียนรู้เพ่ือหาคาตอบอย่าง
สนุกสนาน (A)

สาระสาคญั

ระบบหมุนเวียนเลือดประกอบด้วยหัวใจ แบ่งออกเป็น 4 ห้อง ได้แก่ ห้องบน 2 ห้อง
และห้องล่าง 2 ห้อง มีล้ินหัวใจกั้นระหว่างห้องบนและห้องล่าง หัวใจทาหน้าที่สูบฉีดเลือดไปยัง
อวัยวะต่าง ๆ หลอดเลือดแบ่งออกเป็นหลอดเลือดอารเ์ ตอรีทาหนา้ ท่ีลาเลียงเลือดที่มีแก๊สออกซิเจน
สูงไปยังเซลล์ (ยกเว้นหลอดเลือดอาร์เตอรีจากหัวใจไปยังปอด) หลอดเลือดเวนทาหน้าท่ีลาเลียง
เลือดท่ีมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูงจากเซลล์กลับสู่หัวใจ (ยกเว้นหลอดเลือดเวนจากปอดกลบั มายัง
หัวใจ) และหลอดเลือดฝอยทาหน้าท่ีแลกเปลี่ยนแก๊สและสารอาหาร และเลือดประกอบด้วยเซลล์
เม็ดเลือดแดงทาหนา้ ท่ีลาเลยี งแก๊สออกซิเจนไปหล่อเล้ียงเซลล์ เซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวทาหนา้ ที่กาจัดเชื้อ
โรคและส่ิงแปลกปลอม และเพลตเลตทาหน้าที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด ระบบหมุนเวียนเลือดมีการ
หมุนเวียนอย่างเป็นระบบ โดยเลือดท่ีมีแก๊สออกซิเจนต่า แต่แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูงเข้าสู่หัวใจ
หอ้ งบนขวาและผ่านลงสู่หวั ใจหอ้ งล่างขวา แลว้ ลาเลียงไปยงั ปอดเพ่ือแลกเปลย่ี นแกส๊ กลายเป็นเลอื ด
ท่ีมีแก๊สออกซิเจนสูง แต่มีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ต่า กลับเข้าสู่หัวใจห้องบนซ้ายและผ่านลงสู่หัวใจ
ห้องล่างซ้ายเพ่ือนาเลือดท่ีมีแก๊สออกซิเจนสูงไปยังเซลล์ต่าง ๆ โดยการออกกาลังกาย การเลือก
รบั ประทานอาหาร และการรักษาสภาวะทางอารมณ์ชว่ ยให้ระบบหมุนเวียนเลอื ดทางานปกติ
ระบบหมุนเวียนเลือด ประกอบดว้ ย เลอื ด หลอดเลือด และหัวใจ

เลอื ด ประกอบด้วย น้าเลือด เม็ดเลือดแดง เมด็ เลอื ดขาว และเกล็ดเลอื ด
หลอดเลือด แบ่งเป็น หลอดเลือดท่นี าเลือดออกจากหัวใจและหลอดเลือดท่นี าเลือดเข้าสู่หวั ใจ
หัวใจ เปน็ อวัยวะทีส่ าคัญ ทาหน้าทส่ี ูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แลกเปล่ียน
แก๊ส แล้วไหลกลับส่หู วั ใจตามเดิม

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 2

ชุดกจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

เส้นทางการไหลเวียนเลือดของหวั ใจ
เลอื ดท่ีมอี อกซเิ จนสูงจากหวั ใจหอ้ งลา่ งซา้ ย ทั่วรา่ งกายสนั ดาปกบั อาหารทเ่ี ซลล์
เลอื ดท่ีมี CO2 สูง หวั ใจหอ้ งบนขวา หวั ใจหอ้ งลา่ งขวา ปอด เลือดท่มี ี
O2 สงู หวั ใจห้องบนซ้าย

การวัดความดนั เลือด วัดจากหลอดเลอื ดแดงทตี่ ้นแขน
ความดันเลือดมีค่า 110/80 มิลลิเมตรของปรอท หมายความว่า ความดันเลือดขณะ
หัวใจบีบตัวมีค่า 110 มิลลิเมตรของปรอท ความดันเลือดขณะหัวใจคลายตัวมีค่า 80 มิลลิเมตรของ
ปรอท
ชีพจร คือ การหดตวั และคลายตวั ของหลอดเลือดในจงั หวะเดียวกบั การหดหัวและคลาย
ตัวของหวั ใจ การวดั ชีพจรวัดไดจ้ ากหลอดเลือดแดงท่อี ยู่ใต้ผิวหนงั ตน้ื ๆ

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 3

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบอวยั วะในรา่ งกายของเรา
เวลา 10 นาที เรื่อง ระบบหมุนเวยี นเลือด
10 คะแนน

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบับน้ี จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาท่ีใช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องทส่ี ดุ แลว้ เขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. ขอ้ ใดผดิ เก่ียวกับเมด็ เลือดแดง
ก. ม้ามเปน็ อวัยวะท่ีทาหนา้ ทเ่ี ป็นแหล่งกกั เกบ็ สารองของเมด็ เลือดแดง
ข. เม็ดเลอื ดแดงทโี่ ตเต็มทข่ี องสัตวเ์ ลี้ยงลูกด้วยนมน้ันไม่มนี วิ เคลยี ส
ค. กระบวนการการสรา้ งเมด็ เลอื ดแดงเรยี กว่า erythropoiesis
ง. เซลล์เม็ดเลอื ดแดงมีอายปุ ระมาณ 110-120 ช่ัวโมง

2. ขอ้ ใดผิดเกี่ยวกับเม็ดเลือดขาว
ก. ไมม่ สี แี ละมนี วิ เคลยี ส
ข. basophil ไม่มีแกรนูล
ค. มีอายปุ ระมาณ 7-14 วัน
ง. เม็ดเลอื ดขาวทกุ ชนิดสามารถเคล่อื นยา้ ยออกนอกกระแสเลือดได้

3. หัวใจห้องใดทที่ าหน้าทส่ี ูบฉีดเลอื ดไปยังส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย
ก. ห้องลา่ งซ้าย
ข. ห้องล่างขวา
ค. ห้องบนขวา
ง. ห้องบนซ้าย

4. ค่าความดันเลือด 120 /80 มลิ ลิเมตรของปรอท ตัวเลข 120 หมายถึงข้อใด
ก. ความดนั เลือดขณะท่ปี อดหดตัว
ข. ความดันเลอื ดขณะทีป่ อดขยายตวั
ค. ความดนั เลือดขณะกล้ามเน้อื หวั ใจบบี ตัว
ง. ความดนั เลือดขณะกล้ามเน้ือหัวใจคลายตวั

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 4

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

5. ระบบหมุนเวียนเลอื ดมีหนา้ ทสี่ าคัญอยา่ งไร
ก. ทาให้สารท่ีมีอนุภาคใหญ่ มีขนาดเลก็ ลง
ข. ควบคุมการหมุนเวยี นสารตา่ งๆ ในรา่ งกาย
ค. ลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลลไ์ ปทั่วร่างกาย
ง. ลาเลยี งสารท่เี ซลล์ตอ้ งการและลาเลียงสารทีเ่ ซลลไ์ มต่ ้องการไปกาจัดออก

6. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะของหลอดเลือดแดง
ก. รับเลอื ดออกจากหวั ใจ
ข. มลี ้ินควบคมุ การไหลของเลือด
ค. มีผนงั หลอดเลอื ดหนาและแขง็ แรง
ง. มีแรงดันเลือดสูงกวา่ หลอดเลือดดา

7. อัตราชพี จรมีความสาคัญอยา่ งไร
ก. สงั เกตการทางานของไต
ข. สังเกตการทางานของปอด
ค. สงั เกตการทางานของหัวใจ
ง. สงั เกตการณ์ทางานของกระเพาะอาหาร

8. ขอ้ ความใดไมถ่ กู ต้อง
ก. การสะสมของไขมันในหลอดเลือดอาจทาใหเ้ กิดโรคความดนั เลือดสงู
ข. คา่ ความดนั เลือดปกติของวยั เด็กจะสูงกวา่ วัยผใู้ หญ่
ค. คนที่มีอารมณ์เครยี ดความดันเลอื ดจะสูงกว่าปกติ
ง. คนอ้วนมกั มีความดนั เลือดสูงกวา่ ปกติ

9. สงิ่ ใดตอ่ ไปนี้ทีร่ ่างกายขาดแล้วจะเกดิ อาการป่วย
ก. นา้ เหลือง
ข. เกล็ดเลอื ด
ค. เม็ดเลอื ดขาว
ง. เมด็ เลอื ดแดง

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 5

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

10. ส่ิงใดตอ่ ไปน้ีทีร่ ่างกายขาดแล้วจะเกิดอาการป่วย
ก. เมด็ เลอื ดแดง
ข. หลอดเลอื ดขาว
ค. หลอดเลือดฝอย
ง. หลอดเลือดดาและหลอเลือดฝอย

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 6

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

บตั รเนอ้ื หา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชดุ ท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด (Cardiovascular System)

ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ประกอบด้วย หัวใจ หลอดเลือด และเลือดท่ีอยู่ภายใน
หลอดเลือด ดงั ภาพท่ี 1.1 โดยเลือดที่อยู่ภายในหลอดเลือดจะทาหน้าที่ลาเลียงสารอาหาร แก๊ส ของ
เสีย และสารอนื่ ๆ ไปยงั อวยั วะต่าง ๆ ในร่างกาย

ภาพที่ 1.1 ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์
ท่มี า : หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เลม่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ (หน้า 53)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 7

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

ระบบหมุนเวียนเลือดทาหน้าท่ีขนส่งสารต่าง ๆ เช่น อาหารและออกซิเจนไปท่ัวร่างกาย
และนาของเสยี กลับคนื มา ส่วนประกอบสาคัญของระบบน้มี ี 3 ส่วน ได้แด่ เลือด เป้นของเหลยี วทีน่ า
สารตา่ ง ๆ เขา้ และออกจากเซลล์หลอดเลอื ดเปน็ ท่อให้เลอื ดไหลผ่าน และหัวใจทาหนา้ ทสี่ ูบฉีดเลือด

หัวใจ
หัวใจประกอบด้วยกล้ามเนื้อหัวใจทางานต่างจากกล้ามเนื้อชนิดอ่ืนโดยที่ไม่รู้จักเมื่อยหล้า

หัวใจแบง่ เปน็ 4 ส่วน เรยี กวา่ ห้องหัวใจ ห้องบนทัง้ สองซกี เรยี กว่า หัวใจห้องบน (Atria) และห้องลา่ ง
ท้ังซกี เรยี กว่า หวั ใจห้องล่าง (ventricle)

การไหลเวียนเลือดภายในหัวใจ

ภาพที่ 1.2 การไหลเวียนเลือดภายในหวั ใจ
ท่ีมา : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 8

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

ภาพท่ี 1.3
ท่ีมา : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4
ลิ้นระหว่างห้องหัวใจเป็นล้ินปิด-เปิดทางเดียว เมื่อเลือดไหลมาจะมีแรงดันใบล้ินทาให้ลิ้น
เปิดออก และปิดกลับอย่างรวดเร็วเพ่ือป้องกันมิให้เลือดไหลย้อนกลับ การปิดกระแทกของล้ินจะทา
ให้เกดิ “เสียงเต้นของหวั ใจ” (heart beat)
การไหลเวยี นเลอื ด
การไหลเวียนเลือด 1 รอบ เลือดต้องไหลผ่านหัวใจ 2 คร้ังคือ ครั้งแรกเลือดถูกสูบฉีดออก
จากหัวใจห้องล่างขวาไปยังปอดเพื่อรับออกซิเจนท่ีเราหายใจเข้าไป จากนั้นเลือดจะไหลกลับเข้าสู่
หวั ใจห้องบนซา้ ย ลงสู่ห้องล่างซ้าย แล้วถูกสูบฉีดเพื่อนาออกซิเจนไปยังสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย แล้ว
ไหลกลบั สูห่ ัวใจเพื่อเริม่ ตน้ การไหลเวียนรอบใหม่

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 9

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

ภาพที่ 1.4
ทม่ี า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4
หลอดเลือด
เลือดไหลออกจากหัวใจไปตามหลอดเลือดแดงซึ่งมีผนังแข็งแรงมากจากนั้นหลอดเลือดจะ
แตกแขนงเล็ก ลงไปเร่ือย ๆ จนกลายเป็นหลอดเลือดฝอยซ่ึงมีผนังบางเท่าความหนาของเซลล์เดียว
เทา่ น้นั ดังนนั้ ออกซิเจนและสารต่าง ๆ ทจ่ี าเปน็ ตอ่ เซลลภ์ ายในร่างกายจึงสามารถะแพร่ผ่านเขา้ สู่น้า
เนื้อเยอ่ื ท่ีอย่รู ะหวา่ งเซลลไ์ ดอ้ ย่างงา่ ยดาย

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 10

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

ภาพที่ 1.5
ทีม่ า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 11

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

เลือด (blood)
ร่างกายของมนุษย์ท่ีโตเต็มวัยมีเลือดอยู่ประมาณ 5-6 ลิตรคิดเป็นร้อยละ 7-8 ของน้าหนัก

ตัวนักเรียนทราบหรือไม่ว่าเลือดมีส่วนประกอบอะไรบ้างเลือด (blood) เป็นของเหลวสีแดง
เมื่อสังเกต ด้วยตาจะดูเหมือนวา่ เป็นเนื้อเดียวกันแต่ถ้านาเลือดมาปั่นแยกใหต้ กตะกอนจะพบว่าแยก
เป็นชั้น ๆ ดงั ภาพที่ 1.6 โดยช้นั บนเป็นของเหลวใส ได้แก่ พลาสมา (plasma) มี ยู่ประมาณร้อยละ
55 ของเลือดส่วนชั้นล่างประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดแดง (red blood cell) เซลล์เม็ดเลือดขาว
(white blood cell) และเกลด็ เลอื ด (platelet) อยรู่ วมกันประมาณรอ้ ยละ 45 ของเลือด

ภาพท่ี 1.6 การแยกชน้ั ของเลอื ดเม่ือนาไปปน่ั แยก
ทม่ี า : หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 53)

พลาสมาประกอบด้วยน้าและสารหลายชนดิ เช่น โปรตีนที่เก่ียวข้องกับการแขง็ ตัวของเลอื ด
แอนติบอดี สารอาหาร ฮอร์โมน ยูเรีย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ท่ีอยู่ในรูปไนโตรเจนคาร์บอเนต
ไอออน ( HCO3 )

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 12

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลอื ด

เซลลเ์ ม็ดเลือดแดงและเซลล์เมด็ เลอื ดขาวเป็นเซลลท์ ่ีพบอยใู่ นเลือดโดยจะพบเซลล์เมด็ เลือด
แดงเป็นส่วนใหญ่เดลงเม็ดเลือดแดงมีรูปร่างกลมแบนขนาดเล็กตรงกลางเว้าเข้าหากันท้ังสองด้าน
และไม่มีนวิ เคลียสสว่ นเซลล์เม็ดเลือดขาวเปน็ เลนส์ที่มีขนาดใหญแ่ ละมีนวิ เคลียสที่มรี ูปร่างต่าง ๆ ดัง
ภาพ 1.7

ภาพท่ี 1.7 ลักษณะของเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาว
ที่มา : หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์ (หน้า 56)

ในร่างกายจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงอยู่เป็นจานวนมากประมาณ 5 – 6 ล้านเซลล์ต่อเลือด
1 ลูกบาศก์มิลลิเมตรเซลล์เม็ดเลือดแดงสร้างจากไขกระดูก โดยเซลล์ที่เกิดข้ึนใหม่จะมีนิวเคลียส
แต่เม่ือเจริญเต็มที่นิวเคลียสจะสลายไปก่อนปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด ในเซลล์เม็ดเลือดแดง
มีเฮโมโ กลบิ นซ่ึงเป็น โปร ตีนที่มีธาตุเห ล็กเ ป็นองค์ป ระกอบโ ดย เ ฮโมโกล บินส ามารถจั บกับ แก๊ส
ออกซิเจนทาให้เซลล์เม็ดเลือดแดงลาเลียงแก๊สออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้เซลล์เม็ด
เลอื ดแดงมีอายปุ ระมาณ 100-120 วนั และจะถกู ทาลายท่ตี บั และม้ามโดยไขกระดกู จะสร้างเซลล์เม็ด
เลอื ดแดงข้นึ มาใหมเ่ ปน็ การทดแทนไปเร่ือยๆ

เซลล์เม็ดเลือดขาวทาหน้าท่ีเป็นหน่วยป้องกันที่สาคัญของร่างกายสร้างจากไขกระดูก
เช่นเดียวกับเซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นเซลล์ท่ีมีนิวเคลียสอยู่ตลอดชีวิตของเซลล์มีหลายชนิดและมี
ลักษณะแตกต่างกันบางชนิดทา หน้าท่ีจับและทาลายเชื้อโรคและส่ิงแปลกปลอมท่ีเข้าสู่ร่างกายบาง
ชนิดทาหน้าที่สร้างแอนติบอดีซึ่งเป็นสารประเภทโปรตีนทาให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคหรือสิ่ง
แปลกปลอมท่ีเข้าสู่ร่างกายเซลล์เม็ดเลือดขาวมีจานวนน้อยกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง มากโดยปกติ

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 13

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

ร่างกายจะมีจานวนเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ 5,000-11,000 เซลล์ในเลือด 1 ลูกบาศก์
มิลลิเมตร แต่เม่ือมีส่ิงแปลกปลอมทที่ าใหเ้ กดิ โรคในร่างกายเซลล์เม็ดเลือดขาวจะเพิ่มจานวนขึ้นเซลล์
เม็ดเลือดขาวส่วนใหญ่จะมีอายุส้ันกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงโดยบางชนิดมีอายุเพียงไม่ก่ีวันแล้วจะตาย
ไป

นอกจากเซลล์เม็ดเลือดแล้วยังมีเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของเซลล์ชนิดหนึ่งท่ีสร้างข้ึนใน
ไขกระดกู เกล็ดเลือดไม่มนี ิวเคลียสและมรี ูปรา่ งไม่แน่นอน มหี นา้ ที่ช่วยในการแข็งตวั ของเลือด ทาให้
เลือดหยุดไหลเม่ือมีบาดแผล ในเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตรจะมีเกล็ดเลือดประมาณ 200,000 –
500,000 เกลด็ เกลด็ เลือดมีอายุประมาณ 10 วัน จากน้ันจะถูกทาลายท่ีตับและมา้ ม

ภาพท่ี 1.8 เซลล์เม็ดเลือดขาว
ทม่ี า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

เลือดประกอบดว้ ยเม็ดเลือดแดง เมด็ เลือดขาว และเกล็ดเลือด ลอยอยู่ในของเหลวสีเหลือง
ทเี่ รียกวา่ พลาสมา ร่างกายผใู้ หญ่เฉลย่ี แลว้ มีเลือดอยู่ประมาณ 5 ลติ ร นอกจากทาหนา้ ท่ีลาเลียงสาร
ต่าง ๆ ไปทั่วร่างกายแล้วเลือดยังช่วยต่อสู้เช้ือโรค รักษาบาดแผลและควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
อกี ดว้ ย

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 14

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

ภาพท่ี 1.9 เซลลเ์ ลือดแดง
ทมี่ า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

เม็ดเลือดแดง มีรูปร่างคล้ายจานภายในมีสารสีม่วงแดงเรียกว่า ฮีโมโกลบิน เมื่อเลือดไหล
ผา่ นปอด ฮีโมโกลบินจะจับกับออกซิเจนกลายเป็น ออกซิฮีโมโกลบินซึ่งมีสีแดงสด เม่ือเม็ดเลือดแดง
นาออกซิเจนไปส่งให้แก่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายแล้ว ออกซีฮีโมโกลบินจะเปล่ียนกลับมาเป็น
ฮีโมโกลบินอีกคร้ัง เม็ดเลือดแดงจะตายไปทุก ๆ 4 เดือนและมีเม็ดเลือดแดงใหม่ท่ีสร้างจากไข
กระดกู ในอตั ราวนิ าทีละ 2 ล้านตัวมาทดแทน

ภาพท่ี 1.10 เซลลเ์ ม็ดเลือดแดง
ทม่ี า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

เม็ดเลือดขาว มขี นาดใหญก่ ว่าเม็ดเลอื ดแดง ทาหน้าท่ีช่วยร่างกายต่อสกู้ ับเชือ้ โรค
เกล็ดเลอื ด เปน็ เศษช้ินเลก็ ๆ ของเซลลม์ หี นา้ ท่ีชว่ ยห้ามเลือดเมื่อเกดิ บาดแผล

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ 15

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

การแขง็ ตัวของเลือด
เม่ือเลือดไหลออกจากบาดแผล สักครู่หน่ึงจะเห็นเลือดเปล่ียนเป็นลิ่มคล้ายวุ้น ล่ิมเลือด

ประกอบด้วยไฟบริน โดยมีเกล็ดเลือดเป็นตัวกระตุ้นปฏิกิริยา ล่ิมเลือดทาหน้าที่ช่วยห้ามเลือด
และปอ้ งกนั มใิ ห้เชื้อโรคเขา้ สูบ่ าดแผล

ภาพที่ 1.11 ลิ่มเลอื ดทเ่ี กดิ จากไฟบรนิ
ทีม่ า : http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4

หมู่เลอื ด
หมู่เลือดแบ่งเป็น 4 หมู่ คือ A B O และ AB แต่ละหมู่จะมีแอนติเจนบนเม็ดเลือดแดง

และแอนติบอดีในพลาสมา ท่ีแตกต่างกันไป ในการถ่ายเลือด หมู่เลือดของผู้ให้จะต้องสอดคล้องกับ
หมเู ลือดของผรู้ ับ ดังตารางท่ี 1.1

ตารางที่ 1.1 แสดงชนิดของหม่เู ลือด

หมู่เลือด แอนตเิ จน แอนติบอดี หมูเ่ ลอื ดที่รับได้
A และ O
AA แอนติบอดี A B และ O
ให้ไดท้ ุกหมู่
BB แอนติบอดี B
ใหไ้ ดเ้ ฉพาะ O
AB A และ B ไมม่ ี

O ไมม่ ี แอนติบอดี A , แอนติบอดี B

หมู่เลือดในระบบ ABO แบ่งออกเป็น 4 หมู่ด้วยกัน ได้แก่ หมู่เลือด A B AB และ O โดย
บุคคลจะมหี มูเ่ ลือดใดนั้นข้นอยู่กบั แอนตเิ จน ซึง่ เปน็ โปรตีนชนดิ หน่ึงอยู่บนผิวของเซลล์เม็ดเลอื ดแดง
เช่น ผู้ท่ีมีหมู่เลือด A จะมีแอนติเจน A และมีแอนติบอดี B และผู้ท่ีมีหมู่เลือด B จะมีแอนติเจน B
และมีแอนติบอดี A ดงั ตารางท่ี 1.2

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 16

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

ตารางท่ี 1.2 แสดงชนดิ ของแอนตเิ จนและแอนติบอดีในหมู่เลือดตา่ ง ๆ

หมูเ่ ลือด ชนิดของแอนติเจนบนผิวของเม็ดเลือดแดง ชนดิ ของแอนติบอดีในพลาสมา

A แอนติเจนบน A แอนตบิ อดี A

B แอนติเจนบน B แอนตบิ อดี B

AB แอนตเิ จนบน A และ แอนตเิ จนบน B ไมม่ ี

O ไมม่ ี แอนติบอดี A และแอนติบอดี B

หลักการให้เลือด การให้เลือดจะปลอดภัยเมื่อผู้รับและผู้ให้มีหมู่เลือดที่เข้ากันได้ โดยผู้รับ
ต้องมีแอนติบอดีไม่ตรงกับแอนติเจนของผู้ให้ เพราะถ้าแอนติเจนกับแอนติบอดีตรงกันจะ
เกิดปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดี ทาให้เลือดไปจับกลุ่มกันตกตะกอน และอาจเกิด
อันตรายถึงชีวิตได้

การหมนุ เวยี นของเลือด
อาหารที่เรากินเข้าไปเม่ือผ่านกระบวนการย่อยอาหารจะได้อนุภาคที่เล็กท่ีสุดซึ่งสามารถ

แพร่ผ่านเข้าสู่ผนังของลาไส้เล็กได้ จากน้ันจะแพร่เข้าสู่หลอดเลือด แล้วถูกนาไปยังส่วนต่างๆของ
รา่ งกายโดนระบบหมุนเวียนของเลือด เชนเดียวกบั กาซออกซิเจนท่ีเมื่อถูกนาเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูก
นาไปยังเซลล์ต่างๆของร่างกายโดยเม็ดเลือดแดง และก๊าซคาร์บอนไดออกไซดท่ีเกิดจากกระบวนการ
หายใจ จะถูกลาเลียงออกจากเซลล์ทางพลาสมา ซ่ึงการหมุนเวียนของเลือดและการหมุนเวียนของ
กา๊ ซจะเกิดควบคกู่ นั ไป ในระบบหมนุ เวยี นเลอื ดประกอบด้วย เลอื ด หลอดเลอื ด และ หวั ใจ

ภาพท่ี 1.12 หลอดเลอื ดอาร์เทอรี หลอดเลอื ดเวน และหลอดเลือดฝอย
ท่มี า : หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2

สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หนา้ 59)

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 17

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

หลอดเลือดอาร์เทอรีเป็นหลอดเลือดท่ีทาหน้าท่ีนาเลือดออกจากหัวใจโดยการบีบตัวของ
หัวใจเพื่อนเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายหลอดเลือดเวนทาหน้าท่ีนาเลือดจากส่วนต่าง ๆ ของ
ร่างกายกลับเข้าสู่หัวใจส่วนหลอดเลือดฝอยเป็นหลอดเลือดท่ีแตกแขนงเป็นร่างแหแทรกไปตาม
เนื้อเยื่อของร่างกายและเช่ือมต่อระหว่างอาร์เทอรีขนาดเล็กกับเป็นขนาดเล็กหลอดเลือดฝอยเป็น
บริเวณท่ีมีการแลกเปล่ียนแก็สและสารกับเซลล์ของร่างกายนักเรียนศิตว่าจากหน้าท่ีที่ แตกต่างกัน
ของหลอดเลือดแต่ละชนิดโครงสรา้ งของหลอดเลือดจะเป็นอยา่ งไร

หลอดเลือดอาร์เทอรีเป็นหลอดเลือดที่มีมีผนังหนาเพราะประกอบด้วยเน้ือเยื่อหลายชั้นจึง
ยืดหยุ่นได้ดีสามารถขยายตัวเพื่อรับแรงจากเลือดท่ีเกิดจากการบีบตัวของหัวใจได้ดีส่วนหลอดเลือด
เวนจะมีผนังบางกว่าและมคี วามยืดหย่นุ นอ้ ยกวา่ ในการไหลของเลอื ดภายในหลอดเลือดเวนเพอ่ื กลับ
เข้าสู่หัวใจนั้นอาศัยการหดและคลายตวั ของกล้ามเนอ้ื ของร่างกายบริเวณรอบ ๆ หลอดเลอื ดและลิ้น
ก้ันที่อยู่ภายในหลอดเลือดซ่ึงจะทาหน้าที่ควบคุมการไหลของเลือดให้ไปในทิศทางเดียวดังนั้นความ
ดันของเลือดในหลอดเลือดเวนจึงน้อยกว่าในหลอดเลือดอาร์เทอรีมากหลอดเลือดท่ีอยู่ใกล้ผิวหนัง
และมองเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นหลอดเลือดเวนสว่ นหลอดเลือดอาร์เทอรีมักจะพบอยู่ใต้ผิวหนังที่ลึก
ลงไปสว่ นหลอดเลอื ดฝอยนัน้ มีขนาดเลก็ มากและมีผนังบางประกอบดว้ ยเซลล์เพียงชนั้ เดียว

หลอดเลือดอาร์เทอรีจะลาเลียงเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยการทางานของหัวใจ
(heart) ซึ่งมีการบีบและคลายตัวเป็นจังหวะตลอดเวลาเพ่ือทาหน้าท่ีสูบฉีดเลือดไปตามหลอดเลือด
หวั ใจจงึ เปน็ อวัยวะที่ ทางานหนักมากนักเรยี นทราบหรอื ไม่วา่ หวั ใจมโี ครงสร้างเปน็ อย่างไร

หวั ใจของมนุษย์มี 4 หอ้ ง ได้แก่ หัวใจห้องบน 2 หอ้ งและหัวใจห้องล่าง 2 ห้องหัวใจห้องบน
มีหน้าที่รับเลือดหัวใจห้องล่างมีหน้าท่ีส่งเลือดระหว่างหัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่างมีล้ินหัวใจก้ัน
เพื่อปอ้ งกนั เลอื ดไหลย้อนกลับ

ภาพที่ 1.12 หลอดเลอื ดอารเ์ ทอรี หลอดเลือดเวน และหลอดเลือดฝอย
ทีม่ า : หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์ (หนา้ 60)

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 18

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

ภาพท่ี 1.13
ทมี่ า : https://sites.google.com/site/rabbrangkay2/home/rabb-hil-weiyn-lohit

ระบบไหลเวยี นโลหิต
ระบบไหลเวียน หรือ ระบบหัวใจหลอดเลือด เป็นระบบอวัยวะซึ่งให้เลือดไหลเวียนและ

ขนส่งสารอาหาร (เช่น กรดอะมิโนและอิเล็กโทรไลต์) ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ฮอร์โมน และ
เม็ดเลือดเข้าและออกเซลล์ในร่างกายเพื่อหล่อเล้ียงและช่วยต่อสู้โรค รักษาอุณหภูมิและ pH ของ
รา่ งกาย และรักษาภาวะธารงดุล

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 19

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

มกั มองวา่ ระบบไหลเวยี นประกอบดว้ ยทั้งระบบหัวใจหลอดเลอื ด ซ่ึงกระจายเลือด และระบบ
น้าเหลือง ซ่ึงไหลเวียนน้าเหลือง ท้ังสองเป็นระบบแยกกัน ตัวอย่างเช่น ทางเดินน้าเหลืองยาวกว่า
หลอดเลือดมาก เลือดเป็นของเหลวอันประกอบด้วยน้าเลือด เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ด
เลือดซ่ึงหัวใจทาหน้าท่ีไหลเวียนผ่านระบบหลอดเลือดสัตว์มีกระดูกสันหลัง โดยน้าออกซิเจนและ
สารอาหารไปและของเสียกลับจากเน้ือเยื่อกาย น้าเหลือง คือ น้าเลือดส่วนเกินท่ีถูกกรองจาก
ของเหลวแทรก (interstitial fluid) และกลับเข้าสู่ระบบน้าเหลือง ระบบหัวใจหลอดเลือด
ประกอบด้วยเลือด หัวใจและหลอดเลือด ส่วนระบบน้าเหลืองประกอบด้วยน้าเหลือง ปุ่มน้าเหลือง
และหลอดนา้ เหลือง ซง่ึ คืนนา้ เลือดทก่ี รองมาจากของเหลวแทรกในรูปน้าเหลอื ง

มนุษย์และสัตว์มีกระดูกสันหลังอ่ืนมีระบบหัวใจหลอดเลือดแบบปิด คือ เลือดไม่ออกจาก
เครือข่ายหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดาและหลอดเลือดฝอย แต่กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบาง
กลุ่มมีระบบหัวใจหลอดเลือดแบบเปิด ในทางตรงข้าม ระบบน้าเหลืองเป็นระบบเปิดซึ่งให้ทางที่
จาเป็นแก่ของเหลวระหว่างเซลล์ส่วนเกินกลับเข้าสู่หลอดเลือดได้ ไฟลัมสัตว์ไดโพลบลาสติก
(diploblastic) บางไฟลมั ไม่มีระบบไหลเวียน

หัวใจห้องล่างซ้ายจะสูบฉีดเลือดท่ีมีแก๊สออกซิเจนสูงออกจากหัวใจทางหลอดเลือดอาร์เทอรี
ขนาดใหญ่หรือเอออร์ตา (aorta) ต่อจากนั้นเลือดจะไหลไปตามหลอดเลือดอาร์เทอรีและหลอด
เลือดฝอย เพื่อลาเลียงแก๊สออกซิเจนและสารต่าง ๆ ไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย ขณะเดียวกันของเสีย
ตา่ ง ๆ จากเซลล์ เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ยูเรยี จะแพร่เขา้ มายังหลอดเลอื ดฝอย จากนัน้ เลอื ด
ในหลอดเลอื ดฝอยจะเข้าสู่หลอดเลอื ดเวนและไหลกลับเขา้ สู่หวั ใจหอ้ งบนขวา

เลือดจากหัวใจห้องบนขวาจะไหลเข้าสู่หัวใจห้องล่างขวาซึ่งจะบีบตัวเพื่อส่งเลือดท่ีมีแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์สูงไปแลกเปล่ียนแก๊สที่ปอดทางหลอดเลือดอาร์เทอรีที่ไปยังปอดเลือดท่ีมีแก๊ส
ออกซิเจนสูงจากปอดจะกลับเข้าสู่หัวใจห้องบนซ้ายทางหลอดเลือดเวนที่มาจากปอดและไหลลงสู่
หวั ใจห้องลา่ งซา้ ย

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 20

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

ภาพท่ี 1.14 การหมนุ เวยี นเลือดของหัวใจผา่ นปอดและการแลกเปล่ียนแก๊สทีป่ อด
ทม่ี า : https://sites.google.com/site/rabbhilweiynlohit4089gufljk/home

ความผดิ ปรกติของระบบไหลเวียนโลหิต
โรคของระบบไหลเวียนโลหิต เป็นบัญชีโรคย่อยหนึ่งจากบัญชีจาแนกทางสถิติระหว่าง

ประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ฉบับทบทวนครั้งที่ 10 (ICD-10) ซ่ึงเป็นรหัสของโรค
และอาการ อาการแสดง ความผิดปกติท่ีตรวจพบ อาการนา สภาพสังคม หรือสาเหตุภายนอกของ
การบาดเจ็บหรือโรค จัดทาขึ้นโดยองค์การอนามัยโลกโดยแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 โดยมี
วัตถุประสงค์ในการจัดประเภทการเจ็บป่วยตามเกณฑ์เพ่ือใช้บันทึกเพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลทางสถิติ
ในการวางแผนสขุ ภาพในระดบั สากล

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 21

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลอื ด

ภาพที่ 1.15 การหมุนเวยี นเลือดจากหัวใจไปยังปอดและสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายและกลบั สหู่ ัวใจ
ทม่ี า : หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 60)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 22

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

บตั รกจิ กรรมที่ 1.1
เรือ่ ง ลกั ษณะของเซลล์เมด็ เลอื ด

จุดประสงค์
1. สังเกตและเปรียบเทียบขนาด ปริมาณ และรูปร่างลักษณะของเซลล์เม็ดเลือดแดง

ของมนุษย์
2. สังเกตและเปรียบเทียบขนาด ปริมาณ และรูปร่างลักษณะของเซลล์เม็ดเลือดขาว

ของมนุษย์

วัสดุและอปุ กรณ์
1. กลอ้ งจุลทรรศนใ์ ช้แสง
2. สไลด์ถาวรเลอื ดของมนุษย์

วธิ ดี าเนนิ กิจกรรม
1. สงั เกตเซลลเ์ มด็ เลือดจากสไลด์ถาวรภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง โดยใช้กาลังขยายต่า
และสงู ตามลาดบั
2. สังเกตขนาด รปู รา่ งลกั ษณะ ปรมิ าณของเซลล์เมด็ เลือดแดงและเซลลเ์ มด็ เลือดขาว
3. บันทึกผลโดยการวาดภาพเซลล์เม็ดเลอื ดทมี่ องเหน็ ชดั เจนขึน้
4. เปรยี บเทียบภาพทีบ่ ันทกึ ได้กบั เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวภาพท่ี 3.4 ใน
หนงั สือเรียนหนา้ 56

บนั ทึกผลการดาเนินกจิ กรรม

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 23

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

คาถามท้ายกิจกรรม
1. เซลล์เมด็ เลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวมีขนาดและปรมิ าณแตกตา่ งกนั อย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. รูปร่างลักษณะของเซลลเ์ ม็ดเลือดแดงและเซลล์เมด็ เลือดขาวเหมอื นหรือแตกต่างกันอยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกจิ กรรมสรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 24

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

บตั รกจิ กรรมที่ 1.2
เร่อื ง การทางานของหัวใจ

จดุ ประสงค์
1. สงั เกตและอธิบายการทางานของหวั ใจโดยใช้แบบจาลอง

วสั ดุและอปุ กรณ์
1. ท่อปัม๊ น้า
2. บกี เกอรข์ นาด 2,000 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
3. น้า
4. สผี สมอาหาร

วธิ ดี าเนนิ กจิ กรรม
1. ใช้สผี สมอาหารผสมลงในนา้
2. ร่วมกันจัดอุปกรณช์ ดุ แบบจาลองของการทางานของหัวใจโดยใช้ท้อปมั๊ น้า 2 อัน
และภาชนะสาหรบั ใส่นา้ สี ดังภาพ

ภาพการจัดอุปกรณใ์ นกิจกรรม
3. คาดคะเนทศิ ทางการเคล่ือนท่ีของน้าสีในแบบจาลองเม่ือบบี และปลอ่ ยลกู บบี ของท่อปัม๊

นา้ 2 อนั พร้อมกัน

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 25

ชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

4. ใช้มอื บบี และปล่อยลกู บบี ของทอ่ ปัม๊ นา้ 2 อันพรอ้ มกนั สังเกต บันทึกผลโดยการวาด
ภาพ และเขียนทิศทางการเคลื่อนที่ของน้าสีในแบบจาลอง

5. เปรยี บเทยี บส่วนประกอบของแบบจาลองกบั อวัยวะต่าง ๆ ของระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

บันทึกผลการดาเนนิ กิจกรรม

คาถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เหตุใดน้าสจี ึงไหลไปตามท่อได้อย่างต่อเนื่อง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เหตใุ ดเมื่อคลายมือออกแล้วน้าสีไม่ไหลกลับทางทอ่ เดิม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 26

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

3. นกั เรยี นจะอธบิ ายการทางานของแบบจาลองการทางานของหัวใจว่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. แบบจาลองการทางานของหัวใจในกิจกรรมน้ี มีส่ิงที่เหมือนและแตกต่างกันจากการทางาน
ของหวั ใจมนษุ ยอ์ ยา่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. จากกิจกรรมสรปุ ไดว้ า่ อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ 27

ชุดกิจกรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

บตั รกจิ กรรมท่ี 1.3
เรอ่ื ง อัตราการเตน้ ของหวั ใจ

จดุ ประสงค์
1. วดั อัตราการเตน้ ของหวั ใจโดยการจับชพี จร
2. ออกแบบการทดลองและทดลองเพื่อเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักและ
ทากจิ กรรมต่าง ๆ

วสั ดุและอุปกรณ์
1. นาฬกิ าจบั เวลา
2. โทรศัพทม์ ือถอื

วธิ ีดาเนนิ กิจกรรม : ตอนที่ 1
1. หงายมอื ข้างหน่งึ ขน้ึ แลว้ ใชน้ ิ้วของอีกข้างหนึง่ แตะเบา ๆ บนข้อมือที่หงายตรงตาแหน่ง
ทส่ี ามารถจบั ชีพจรได้ ดงั ภาพ

ภาพการจับชีพจร
2. สงั เกตและนบั จานวนครั้งของชพี จรในเวลา 1 นาที และบนั ทึกผล
3. ทาขอ้ 2 ซา้ อีก 2 ครงั้ แลว้ หาค่าเฉล่ีย

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ 28

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

ผลการดาเนินกจิ กรรม : ตอนท่ี 1

กจิ กรรมของรา่ งกาย ครง้ั ที่ 1 อัตราชพี จร (ครง้ั ต่อนาที) ค่าเฉลย่ี
ครั้งท่ี 2 ครั้งที่ 3
ขณะพัก
เดินไปเดนิ มา
วง่ิ

คาถามทา้ ยกจิ กรรม : ตอนท่ี 1
1. ในเวลา 1 นาที อัตราการเตน้ ของหวั ใจของนักเรียนเป็นเทา่ ไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. อัตราการเตน้ ของหวั ใจทง้ั 3 คร้งั เท่ากันหรือไม่ อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกจิ กรรมสรปุ ได้วา่ อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 29

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

วธิ ดี าเนินกิจกรรม : ตอนท่ี 2
1. ออกแบบการทดลองเพ่ือศึกษาผลของการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่มี ีต่ออัตราการเต้นของ
หัวใจโดยตั้งคาถาม ตงั้ สมมติฐาน ระบุตัวแปรตน้ ตัวแปรตามและตัวแปรควบคุม
2. ทาการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน และบนั ทึกผลตามกิจกรรมท่ีออกแบบไว้
3. อภิปราย สรปุ ผลการทดลอง และนาเสนอผล

ผลการดาเนินกจิ กรรม : ตอนท่ี 2
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

คาถามท้ายกิจกรรม : ตอนท่ี 2
1. คาถามและสมมติฐานของการทดลองในตอนที่ 2 คืออะไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ตวั แปรตน้ ตัวแปรตามและตัวแปรควบคุมในการทดลองนี้คอื อะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 30

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวยี นเลือด

3. กจิ กรรมใดท่ีทาให้อัตราการเตน้ ของหวั ใจมากท่ีสดุ และน้อยทส่ี ดุ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ผลการทดลองเป็นไปตามสมมตฐิ านทต่ี ้ังไว้หรือไม่ อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. จากกิจกรรมสรปุ ได้อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 31

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้ทู ี่ 1 ระบบอวยั วะในร่างกายของเรา
เวลา 10 นาที เร่ือง ระบบหมนุ เวยี นเลือด
10 คะแนน

คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาท่ใี ช้ 10 นาที
2. จงเลอื กคาตอบทีถ่ กู ต้องที่สุด แลว้ เขยี นเครือ่ งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. หัวใจห้องใดท่ที าหน้าทส่ี ูบฉีดเลอื ดไปยังส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย
ก. ห้องบนขวา
ข. หอ้ งบนซ้าย
ค. หอ้ งลา่ งขวา
ง. ห้องลา่ งซ้าย

2. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ ักษณะของหลอดเลอื ดแดง
ก. รบั เลอื ดออกจากหัวใจ
ข. มีล้นิ ควบคมุ การไหลของเลือด
ค. มีผนงั หลอดเลือดหนาและแขง็ แรง
ง. มีแรงดันเลือดสูงกว่าหลอดเลอื ดดา

3. สารใดที่มีผลทาใหเ้ มด็ เลือดแดงมสี แี ดง
ก. ไฟบรนิ
ข. เพลตเลต
ค. ฮีโมโกลบนิ
ง. โพรทรอมบนิ

4. คา่ ความดันเลือด 120 /80 มลิ ลเิ มตรของปรอท ตัวเลข 120 หมายถึงข้อใด
ก. ความดนั เลือดขณะทปี่ อดหดตัว
ข. ความดันเลอื ดขณะที่ปอดขยายตวั
ค. ความดนั เลือดขณะกลา้ มเน้ือหัวใจบบี ตัว
ง. ความดันเลอื ดขณะกลา้ มเน้ือหวั ใจคลายตัว

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 32

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

5. ระบบหมนุ เวียนเลอื ดมหี นา้ ทส่ี าคัญอยา่ งไร
ก. ทาให้สารท่ีมีอนภุ าคใหญ่ มขี นาดเล็กลง
ข. ควบคมุ การหมุนเวยี นสารต่างๆ ในรา่ งกาย
ค. ลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลลไ์ ปท่วั ร่างกาย
ง. ลาเลยี งสารที่เซลล์ต้องการและลาเลยี งสารที่เซลลไ์ ม่ต้องการไปกาจัดออก

6. ขอ้ ความใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
ก. เม็ดเลอื ดขาวทาหนา้ ทที่ าลายเชอ้ื โรค
ข. เม็ดเลอื ดแดงทาหน้าท่ลี าเลยี งออกซิเจน
ค. ทั้งเม็ดเลอื ดแดงและเม็ดเลือดขาวจะถูกทาลายท่ีไต
ง. เกลด็ เลือดทาหนา้ ที่ช่วยให้เลือดหยดุ ไหลเมื่อเกดิ บาดแผล

7. ขอ้ ความใดไม่ถูกต้อง
ก. คนอว้ นมกั มีความดนั เลือดสูงกวา่ ปกติ
ข. คา่ ความดนั เลือดปกติของวยั เด็กจะสงู กวา่ วยั ผใู้ หญ่
ค. คนปกตทิ ่ีมีอารมณ์เครยี ดความดันเลอื ดจะสูงกวา่ ปกติ
ง. การสะสมของไขมนั ในหลอดเลอื ดอาจทาใหเ้ กิดโรคความดันเลอื ดสูง

8. สิง่ ใดตอ่ ไปน้ีทร่ี ่างกายขาดแลว้ จะเกิดอาการป่วย
ก. เมด็ เลือดแดง
ข. หลอดเลอื ดขาว
ค. หลอดเลือดฝอย
ง. หลอดเลือดดาและหลอเลอื ดฝอย

9. หลอดเลือดใดมปี ริมาณแก๊สออกซเิ จนมากท่ีสุด
ก. หลอดเลือดจากปอดไปยงั หวั ใจ
ข. หลอดเลอื ดจากหัวใจไปยังปอด
ค. หลอดเลอื ดจากหัวใจไปสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย
ง. หลอดเลอื ดจากสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายไปทหี่ ัวใจ

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 33

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลือด

10. ส่วนประกอบใดท่ีพบมากที่สดุ ในนา้ เลือด
ก. น้า
ข. ฮอรโ์ มน
ค. ออกซิเจน
ง. สารอาหาร

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 34

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวยี นเลอื ด

กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน

ชุดท่ี 1 ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

แบบทดสอบก่อนเรยี น ง แบบทดสอบหลงั เรียน ง
ข้อ ก ข ค ข้อ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 35

ชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

บรรณานกุ รม

กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2554). หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 4
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 2 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

________. (2554). คมู่ อื ครู รายวิชาวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.

ยุพา วรยศ และคณะ. (2551). หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
เลม่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษา
ข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์ สกสค.

ราชวิทยาลยั จฬุ าภรณ์. (2560). โครงการตรวจคัดกรอง“ สมองเสอื่ มอลั ไซเมอร์ครบวงจร
ในคนไทย”: ความร้เู ร่ืองอัลไซเมอร์. สบื คน้ เม่อื 30 ธนั วาคม 2560,
จากhttp://ad.cra.ac.th/AD_Screening/content/knowledge

วลยั มน วมิ ลประสาร. (2560). ความปลอดภยั ในห้องปฏบิ ตั กิ าร (2). วารสารเพือ่ การวจิ ยั
และพัฒนาองคก์ ารเภสชั กรรม. 24 (3), 4. ศูนย์การเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ.
(2561). ชวี ติ ในอวกาศ. สืบค้นเม่ือ 5 มกราคม 2561,
จาก http://www.lesa.biz/space-technology) spacecraft/life-in-space

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2558). หนังสือเรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ชีววิทยาเล่ม 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6. กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
(พมิ พ์ครัง้ ที่ 9). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2559). หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน
วทิ ยาศาสตร์ 4 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 2. กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
(พมิ พค์ ร้ังท่ี 9). กรุงเทพฯ, โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

สถานบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2561). หนงั สือเรียน
รายวิชาวิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 1. กลุ่มสาระการเรยี นรู้
วิทยาศาสตร์ (พิมพ์ครงั้ ท่ี 3). กรงุ เทพฯ, โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.

https://sites.google.com/site/rabbrangkay2/home/rabb-hil-weiyn-lohit
http://www.bknowledge.org/link/content/bshow/srch/1/blid/4
https://sites.google.com/site/rabbhilweiynlohit4089gufljk/home

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 36

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 37

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลอื ด

เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 1.1
เรอื่ ง ลกั ษณะของเซลลเ์ มด็ เลอื ด

จดุ ประสงค์
1. สังเกตและเปรียบเทียบขนาด ปริมาณ และรูปร่างลักษณะของเซลล์เม็ดเลือดแดง

ของมนษุ ย์
2. สังเกตและเปรียบเทียบขนาด ปริมาณ และรูปร่างลักษณะของเซลล์เม็ดเลือดขาว

ของมนุษย์

วสั ดแุ ละอุปกรณ์
1. กลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ชแ้ สง
2. สไลด์ถาวรเลือดของมนษุ ย์

วธิ ีดาเนินกิจกรรม
1. สงั เกตเซลลเ์ ม็ดเลือดจากสไลด์ถาวรภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง โดยใช้กาลังขยายต่า
และสูงตามลาดบั
2. สังเกตขนาด รูปร่างลกั ษณะ ปรมิ าณของเซลลเ์ ม็ดเลือดแดงและเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาว
3. บันทกึ ผลโดยการวาดภาพเซลลเ์ มด็ เลือดท่มี องเหน็ ชัดเจนขึน้
4. เปรยี บเทยี บภาพทบ่ี ันทกึ ได้กับเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวภาพที่ 3.4 ใน
หนงั สือเรียนหนา้ 56

บนั ทกึ ผลการดาเนินกิจกรรม

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 38

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

คาถามทา้ ยกิจกรรม
1. เซลลเ์ ม็ดเลือดแดงและเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวมีขนาดและปริมาณแตกตา่ งกันอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………เซ…ล…ล…์เม…็ด…เล…ือ…ด…แ…ดง…ม…ีข…น…าด…เล…็ก…ก…ว…า่ เ…ซล…ล…์เ…ม็ด…เ…ลือ…ด…ข…าว……แต…ม่ …ีป…ร…ิม…าณ…ม…า…ก…กว…่า……………………
………………เซ…ล…ล…์เม…ด็ …เล…อื …ด…ข…าว……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. รูปร่างลกั ษณะของเซลลเ์ มด็ เลือดแดงและเซลลเ์ ม็ดเลือดขาวเหมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………เซ…ล…ล…์เม…็ด…เ…ลือ…ด…แ…ด…งม…ีร…ูป…ร…่าง…ก…ล…ม…ต…รง…ก…ล…าง…เ…ว้า…ไ…ม…่ม…ีน…ิวเ…ค…ลีย…ส……ส่ว…น…เ…ซล…ล…์เ…ม็ด…เ…ลื…อด……………
……………ข…าว…ม…รี …ปู ร…า่ …งก…ล…ม…แ…ล…ะ…มีน…ิว…เค…ล…ยี …ส…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกจิ กรรมสรุปได้วา่ อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………เซ…ล…ล…์เม…็ด…เล…ือ…ด…แ…ด…งเ…ป…็น…เซ…ล…ล์ท…่ีม…ีร…ูป…ร…่าง…ก…ล…ม…ต…รง…ก…ล…าง…เว…้า…เข…้า…ห…าก…ัน……แล…ะ…เป…็น…เ…ซ…ลล…์ท…ี่ไ…ม…่มี……
…………น…ิว…เค…ล…ยี ส……ส่ว…น…เซ…ล…ล…์เม…็ด…เล…อื …ด…ขา…ว…เป…น็ …เซ…ล…ล…์ท…ี่ม…ีรูป…ร…่าง…ก…ล…ม…แล…ะ…ม…นี …ิวเ…คล…ีย…ส…ข…น…า…ดข…อ…ง…เซ…ล…ล์……
…………เม…็ด…เ…ลือ…ด…แ…ด…ง…เล…็ก…ก…ว่า…เซ…ล…ล…์เม…็ด……เล…ือ…ด…ขา…ว…น…อ…ก…จ…า…กน…้ีป…ร…ิม…า…ณ…ข…อง…เ…ซล…ล…์เ…ม็ด…เ…ล…ือด…แ…ด…ง…มี……
…………ม…าก…ก…ว…า่ เ…ซ…ลล…์เ…มด็…เ…ล…อื ด…ข…า…ว ……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 39

ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลือด

เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 1.2
เร่อื ง การทางานของหัวใจ

จดุ ประสงค์
1. สังเกตและอธิบายการทางานของหัวใจโดยใชแ้ บบจาลอง

วสั ดแุ ละอปุ กรณ์
1. ทอ่ ปมั๊ นา้
2. บีกเกอร์ขนาด 2,000 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร
3. นา้
4. สีผสมอาหาร

วธิ ดี าเนนิ กิจกรรม
1. ใช้สีผสมอาหารผสมลงในน้า
2. รว่ มกันจดั อุปกรณ์ชุดแบบจาลองของการทางานของหวั ใจโดยใชท้ อ้ ปมั๊ น้า 2 อัน และ
ภาชนะสาหรบั ใสน่ ้าสี ดงั ภาพ

ภาพการจดั อุปกรณใ์ นกิจกรรม
3. คาดคะเนทิศทางการเคลื่อนที่ของนา้ สีในแบบจาลองเม่ือบีบและปลอ่ ยลูกบบี ของท่อป๊ัม

นา้ 2 อนั พร้อมกัน

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 40

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 ระบบหมนุ เวียนเลอื ด

4. ใชม้ ือบบี และปลอ่ ยลูกบบี ของทอ่ ปั๊มนา้ 2 อนั พรอ้ มกนั สังเกต บนั ทกึ ผลโดยการวาด
ภาพ และเขียนทศิ ทางการเคล่อื นที่ของน้าสีในแบบจาลอง

5. เปรียบเทยี บส่วนประกอบของแบบจาลองกบั อวัยวะต่าง ๆ ของระบบหมุนเวียนเลอื ด

บันทึกผลการดาเนินกจิ กรรม

คาถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เหตุใดน้าสจี งึ ไหลไปตามท่อได้อย่างตอ่ เน่ือง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………เพ…ร…าะ…ก…า…รบ…บี …ล…กู …บบี…แ…ล…ะ…ป…ลอ่…ย…อ…ย…่าง…ต…อ่ เ…น…ื่อง……ท…าใ…ห…้น้า…ถ…ูก…ด…ูดข…นึ้ …ม…าแ…ล…ะ…ไห…ล…ไป…ต…า…ม…ท…่อไ…ด………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เหตุใดเมือ่ คลายมือออกแลว้ น้าสีไม่ไหลกลับทางทอ่ เดิม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………เ…พร…า…ะ…กา…ร…ท…าง…าน…ข…อ…ง…ลนิ้…บ…ร…เิ ว…ณ…โค…น…ท…่อ…ป…ม๊ั …ท่ีป…ิด…เ…ปดิ…ไ…ด…้ ช…ว่ …ยค…ว…บ…ค…ุมไ…ม…่ให…น้ …้า…ส…ไี ห…ล…ยอ้…น…ก…ล…บั ………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 41

ชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 ระบบหมุนเวียนเลือด

3. นกั เรียนจะอธิบายการทางานของแบบจาลองการทางานของหัวใจว่าอย่างไร
…………เม…ื่อ…ใช…้ม…ือ…ข…วา…บ…ีบ…ล…ูก…บ…ีบ…ซ่ึง…เป…ร…ีย…บ…เส…ม…ือ…น…ห…ัวใ…จ…ห…้อ…งล…่า…งข…ว…า…บ…ีบต…ัว…เ…พื่…อส…่ง…เล…ือ…ด…ไป…ย…ัง…ป…อด………
…………ขณ……ะท…่ี …มือ…ซ…้า…ย…บีบ…ล…ูก…บ…ีบ…ก…็เป…ร…ียบ…เ…ส…มือ…น…ห…ัว…ใจ…ห…้อ…งล…่า…ง…ซ้า…ย…บ…ีบ…ตั…วเ…พ…่ือน…า…เล…ือ…ด…ไป…เ…ล…ี้ยง…ส…่ว…น……
…………ต…่าง…ๆ……ขอ…ง…ร่า…ง…ก…าย…เ…ม…ื่อ…คล…า…ย…ม…อื …ขว…า…ท…่บี …ีบล…ูก…บ…ีบ…เป…ร…ีย…บ…เส…ม…ือน…ห…วั …ใจ…ค…ล…าย…ต…ัว…เพ…่ือ…ร…บั …เล…ือ…ด……
…………จา…ก…ร…่าง…ก…าย…เ…ข้า…ส…ู่ห…ัว…ใจ…ห…้อ…งบ…น…ข…ว…า …แล…ะ…เม…่ือ…ค…ล…าย……มื…อซ…้า…ย…ท่ี…บีบ…ล…ูก…บ…ีบ…ก…็เ…ปร…ีย…บ…เห…ม…ือ…น…ก…ับ……
…………ห…วั ใ…จ…หอ้…ง…บ…น…ซ้า…ย…ค…ลา…ย…ต…วั เ…พ…่ือ…รับ…เ…ลอื…ด…จ…าก…ป…อ…ด…………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. แบบจาลองการทางานของหัวใจในกิจกรรมน้ี มีสิ่งท่ีเหมือนและแตกต่างกันจากการทางาน
ของหวั ใจมนษุ ยอ์ ย่างไร

………แบ…บ…จ…า…ลอ…ง…ม…สี ่ิง…ท…เ่ี ห…ม…ือ…น…กับ…ก…า…รท…า…ง…าน…ข…อ…งห…ัว…ใจ…ม…น…ุษ…ย…์ ค…ือ…………………………………………………
…………1…. แ…บ…บ…จ…าล…อ…ง…มี…4…ห…้อ…งค…ล…้า…ยก…ับ…ห…วั …ใจ…ม…น…ุษ…ย์……………………………………………………………………
…………2…. ส…่ว…น…ข…อง…แ…บ…บ…จา…ล…อ…งห…ัว…ใจ…ห…้อ…งล…่า…งใ…ห…ญ…่ก…ว่า…ห…วั …ใจ…ห…อ้ …งบ…น…………………………………………………
…………3…. ม…ีล…น้ิ …ป…ดิ …เป…ิด…เพ…อ่ื …ป…้อ…งก…ัน…ก…าร…ไ…หล…ย…้อ…น…กล…บั …ข…อ…งน…้า…ส…ีคล…า้ …ย…กบั…ก…า…ร…ทา…ง…าน…ข…อ…งล…้นิ …ห…วั …ใจ……………
…………4…. ข…อ…ง…เห…ล…วม…ปี …ร…มิ …าณ…เ…ท…า่ เ…ด…ิมห…ม…ุน…เว…ีย…น…อ…ยภู่…า…ย…ใน…ร…ะ…บบ……ไม…ต่ …อ้ …งเ…ต…มิ น…้า…จ…าก…ภ…า…ยน…อ…ก…เข…า้ …ไป………
………แบ…บ…จ…า…ลอ…ง…ม…ีสงิ่…ท…ี่แ…ตก…ต…า่ …งจ…า…ก…กา…ร…ท…าง…าน…ข…อ…ง…หวั…ใ…จม…น…ุษ…ย…์ ค…อื …………………………………………………
…………1…. ห…อ้…ง…ข…อง…ห…ัว…ใจ…ใน…แ…บ…บ…จา…ล…อ…งส…ล…ับ…บ…น…ล…่า…งก…ับ…ข…อง…จ…รงิ………………………………………………………
…………2…. ส…่ว…น…ข…อง…แ…บ…บ…จา…ล…อ…งห…วั …ใจ…ห…อ้ …งบ…น…ไ…ม่ส…า…ม…าร…ถ…บ…บี …ตวั…ไ…ด้…บ…บี …ได…้เฉ…พ…า…ะ…หวั…ใ…จห…้อ…ง…ล่า…ง………………
…………3…. ท…่อ…น…้า…พ…ล…า…สต…ิก…ท…่ีเ…ป…็น…ตัว…แ…ท…น…ข…อ…งห…ล…อ…ด…เล…ือ…ด…น…้ัน…แ…ข…็ง …ไม…่ส…า…ม…า…รถ…ห…ด…แ…ล…ะ…ขย…า…ย…ต…ัว…ได…้
………เห…ม…ือน…ก…ับ…ห…ล…อ…ดเ…ล…อื ด……ขอ…ง…ม…น…ษุ ย…์ ………………………………………………………………………………………

5. จากกิจกรรมสรปุ ไดว้ า่ อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………แบ…บ…จ…า…ลอ…ง…ก…าร…ท…าง…า…น…ขอ…ง…ห…ัวใ…จ…ม…ีล…ัก…ษ…ณ…ะก…า…ร…ท…า…งา…น…ค…ลา้…ย…ก…ับก…า…ร…ท…าง…าน…ข…อ…ง…หวั…ใ…จม…น…ุษ…ย…์ ค…ือ…
………เม…่ือ…หั…วใ…จ…บีบ…ต…ัว…จ…ะม…กี …า…รส…่ง…เล…ือ…ด…จา…ก…ห…ัว…ใจ…ห…้อ…งล…่า…งซ…้า…ย…ไป…ย…ังส…่ว…น…ต…่าง…ๆ……ขอ…ง…ร…่าง…ก…าย……แ…ละ…เ…ลือ…ด
………จา…ก…ห…ัวใ…จ…ห…้อง…ล…่า…ง…ขว…า…จ…ะถ…ูก…ส…่งไ…ป…ย…ังป…อ…ด…เ…ม…ื่อ…หัว…ใ…จค…ล…า…ย…ตัว…ห…ัว…ใจ…ห…้อ…งบ…น…ข…ว…า…จะ…ร…ับ…เล…ือ…ด…จา…ก…
………ส่ว…น…ต…่าง……ๆ…ข…อ…งร…่าง…ก…า…ย…ข…ณ…ะ…เด…ีย…วก…ัน…เล…ือ…ด…จ…าก…ป…อ…ด…ก…็จะ…ไ…ห…ลเ…ข…้าส…ู่ห…ัว…ใจ…ห…้อ…งบ…น…ซ…้า…ย…อ…ย…่าง…ไร…ก…็
………ตา…ม…ม…ีข…้อจ…า…ก…ัด…บ…าง…อ…ย่…าง…ท…่ีแ…บ…บจ…า…ล…อ…ง …แ…ตก…ต…่า…งจ…า…ก…ห…ัวใ…จ…ม…นุษ…ย…์ …เช…่น…ต…า…แ…ห…น…่งข…อ…ง…ห้อ…ง…ห…ัว…ใจ…
………กา…ร…บ…บี ต…ัว…ข…อ…งห…ัว…ใจ…แ…ต…ล่ ะ…ห…อ้ …ง…ค…วา…ม…ส…าม…า…ร…ถใ…น…กา…ร…ห…ด…แ…ละ…ข…ย…าย…ต…วั …ขอ…ง…ห…ล…อด…เ…ลือ…ด…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 42


Click to View FlipBook Version