The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

7_อวัยวะรับความรู้สึก2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-11-28 03:15:47

7อวัยวะรับความรู้สึก2

7_อวัยวะรับความรู้สึก2

ชดุ ที่ 7

อวยั วะรบั ความร้สู ึก (2)

รายวิชาชีววทิ ยา 4 รหัสวชิ า ว30244 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

นางสาวนภศร เสรกี ลุ
ตาํ แหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการ

ชุดท่ี 7 อวยั วะรับความรู้สกึ (2) ก

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จัดทาขึ้นเพื่อเป็นสื่อนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน
และสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง นาไปใช้ในการเรียนการสอนซ่อมเสริมได้ หรือใช้ในการสอนแทนได้
เป็นอย่างดี เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดบทบาทของครูตามแนวทางการปฏิรูปการ
เรียนรู้ท่ียึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้
ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ ซ่ึงสอดคล้อง
กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ที่มุ่งเน้น
ให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาท้ังด้านความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
การแก้ปัญหา ความสามารถในการส่ือสาร การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ตลอดจนส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นมจี ิตวทิ ยาศาสตรค์ ณุ ธรรมและคา่ นิยมทถ่ี ูกต้องเหมาะสม

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้จะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกได้เป็นอย่างดี มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น สามารถใช้เพ่ือศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเองเป็นส่ือที่มีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ
วัตถุประสงคข์ องหลกั สูตรได้

นภศร เสรีกลุ

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชุดท่ี 7 อวัยวะรับความรู้สึก (2) ข

สำรบัญ หนำ้

เร่อื ง ข
คำนำ ค
สำรบญั ง
คำชี้แจงเกี่ยวกบั กำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ จ
แผนภูมลิ ำดบั ขน้ั ตอนกำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช
คำชี้แจงกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรบั ครู 1
คำชแ้ี จงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรส์ ำหรบั นักเรียน 2
2
สาระการเรยี นรู้/ผลการเรียนรู้ 3
จุดประสงค์การเรยี นรู้ 4
แนวความคิดรวบยอด 7
สาระสาคญั 17
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 19
บตั รเนือ้ หา ชุดท่ี 7 เรือ่ ง อวัยวะรับความรสู้ ึก (2) 21
บตั รกจิ กรรมที่ 7.1 เรอื่ ง ความไวของผวิ หนังแตล่ ะบรเิ วณ 22
บัตรกิจกรรมท่ี 7.2 เรอื่ ง โรคเก่ยี วกบั อวยั วะรบั ความรู้สกึ 23
บัตรกจิ กรรมท่ี 7.3 ผังมโนทัศน์ เร่อื ง อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 25
บัตรกิจกรรมท่ี 7.4 ถอดบทเรยี น เร่อื ง อวัยวะรับความรสู้ ึก (2) 28
แบบฝึกหดั เร่ือง อวัยวะรบั ความรู้สกึ (2) 29
แบบทดสอบหลังเรียน 30
กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 31
บรรณำนกุ รม 33
ภำคผนวก 35
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 7.1 เรื่อง ความไวของผวิ หนงั แต่ละบรเิ วณ 36
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 7.2 เรือ่ ง โรคเกยี่ วกบั อวยั วะรับความรู้สกึ 37
เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 7.3 ผังมโนทัศน์ เรื่อง อวัยวะรับความร้สู ึก (2) 39
เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 7.4 ถอดบทเรยี น เร่อื ง อวัยวะรับความรสู้ ึก (2) 40
เฉลยแบบฝกึ หัด เร่อื ง อวยั วะรบั ความรู้สกึ (2)
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
ประวตั ิย่อผู้จดั ทำ

โดย : นางสาวนภศร เสรีกุล ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชุดที่ 7 อวยั วะรับความรู้สกึ (2) ค

คำชีแ้ จงเกีย่ วกับชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง ระบบประสาทและ
อวัยวะรับความรู้สึก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่ือใช้ประกอบการจัดการ
เรียนรู้ วิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยให้สอดคล้องตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝึกที่เหมาะสมกับระดับและวัย เพ่ือให้นักเรียนเกิดความ
กระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพื่อส่งเสริมเจตคติที่ดี นักเรียนจะได้
พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการแก้ปัญหา และสามารถนาความรู้ไปใช้
ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ เกิด
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีสารวจตรวจสอบข้อมูล การคิดแก้ปัญหา ตลอดจนการ
เสริมสร้างจิตวิทยาศาสตร์ ซ่ึงประกอบด้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 7 ชดุ ดงั น้ี

ชุดท่ี 1 เรือ่ ง การรับรแู้ ละการตอบสนองของสัตว์
ชุดที่ 2 เรอื่ ง เซลล์ประสาท
ชุดที่ 3 เรื่อง การทางานของเซลล์ประสาท
ชดุ ที่ 4 เรื่อง ศนู ย์ควบคมุ ระบบประสาท
ชดุ ท่ี 5 เรอื่ ง การทางานของระบบประสาท
ชดุ ท่ี 6 เรื่อง อวัยวะรับความรู้สึก (1)
ชดุ ที่ 7 เรอ่ื ง อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2)
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีเป็น ชุดท่ี 7 เรื่อง อวัยวะรับควำมรู้สึก (2)
ใช้เวลำ 2 ชวั่ โมง
3. ผูใ้ ช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์นีค้ วรศึกษาขน้ั ตอนการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้
อยา่ งละเอียดก่อนใช้
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะมีประโยชน์ต่อ
นักเรียนและผู้สนใจท่ีจะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
วิทยาศาสตรใ์ ห้มคี ุณภาพมากย่ิงขนึ้ ตอ่ ไป

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ุล ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชุดที่ 7 อวยั วะรับความรู้สกึ (2) ง

แผนภมู ลิ ำดับขน้ั ตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์

อา่ นคาชี้แจงและคาแนะนาในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์

ศึกษาตัวช้ีวัดและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ เสรมิ พ้นื ฐำน
ทดสอบกอ่ นเรียน ผู้มีพนื้ ฐำนตำ่

ศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ตามขนั้ ตอน

ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรจู้ ากชดุ กิจกรรม

ไม่ผ่ำน ทดสอบหลงั เรียน
กำรทดสอบ

ผำ่ นกำรทดสอบ

ศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์เร่ืองตอ่ ไป

แผนภมู ิลำดับข้ันตอนกำรเรยี นโดยใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตร์
ชดุ ที่ 7 เรอื่ ง อวัยวะรบั ควำมร้สู ึก (2)

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชุดที่ 7 อวัยวะรบั ความรู้สึก (2) จ

คำช้แี จงกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับครู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดที่ 7 เรื่อง อวัยวะ
รับควำมรู้สึก (2) ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ช่ัวโมง ซ่ึงนักเรียนจะได้สารวจ สังเกตและ
รวบรวม ข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และ
แก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุ
จุดประสงค์และมีประสิทธภิ าพ ครูผูส้ อนควรดาเนนิ การดังนี้

1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจดั การเรียนรู้ เพื่อที่ครูผู้สอนสามารถนาชุดกิจกรรมการเรียนร้ไู ปใช้ในการ
จดั กิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพ

2. ครูผ้สู อนเตรยี มส่ือการเรยี นการสอนใหพ้ ร้อม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซึ่งนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเวน้ สื่อการสอนทีต่ ้องใชร้ ว่ มกนั
4. ครูต้องช้ีแจงใหน้ ักเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของนักเรียนในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
ดงั น้ี

4.1 ศึกษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรยี นรู้โดยใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับขั้นตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพื่อจะได้ทราบ
วา่ จะปฏบิ ตั กิ ิจกรรมอะไร อยา่ งไร

4.3 นักเรียนต้องต้ังใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ช่วยเหลอื ซึง่ กันและกัน ไม่รบกวนผอู้ ่นื และไม่ชักชวนเพื่อนใหอ้ อกนอกลูน่ อกทาง

4.4 หลังจากปฏิบัติกิจกรรมแลว้ นักเรยี นจะต้องจัดเก็บอปุ กรณ์ทกุ ชิ้นให้เรยี บรอ้ ย
4.5 เมือ่ มกี ารประเมนิ ผลนกั เรยี นตอ้ งปฏบิ ัตติ นอยา่ งตง้ั ใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based
Teaching)
6. ขณะที่นักเรียนทุกกลุ่มปฏิบัติกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เปน็ รายกล่มุ หรือรายบคุ คล ตอ้ งไม่รบกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลุ่มอื่น

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวัยวะรับความรู้สึก (2) ฉ

7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรอื กลุม่ ใดมปี ัญหาควรเข้าไปให้ความชว่ ยเหลือจนปัญหานัน้ คลคี่ ลายลง

8. การสรุปผลท่ีได้จากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตวั แทนของกลมุ่ ร่วมกนั ครคู วรเปิดโอกาสให้นกั เรยี นแสดงออกใหม้ ากท่สี ุด

9. ประเมินผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน เพอ่ื ตรวจสอบผลการเรยี นรขู้ องนักเรียน

ตง้ั ใจศึกษา
ชดุ กจิ กรรมนะคะ

เด็ก ๆ

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวัยวะรบั ความรู้สึก (2) ช

คำช้แี จงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนักเรียน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่นักเรียนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดท่ี 7 เร่ือง อวัยวะ
รับควำมรู้สึก (2) ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองคค์ วามรู้ โดย
ใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหาผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิด
ประโยชนส์ งู สดุ นกั เรียนควรปฏบิ ตั ิตามคาชี้แจง ดังต่อไปน้ี

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 7 เร่ือง อวัยวะรับควำมรู้สึก (2) ใช้เวลำในกำรทำ
กิจกรรม 2 ชั่วโมง

2. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ข้อ
3. นักเรยี นทากจิ กรรมเปน็ รายกลุ่มและศกึ ษาวธิ ดี าเนนิ กิจกรรมใหเ้ ข้าใจ
4. นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
5. นักเรียนทากจิ กรรมในชุดกิจกรรมการเรยี นร้ใู ห้ครบ
6. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน จานวน 10 ขอ้

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 1

ชดุ ที่ 7

อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2)

สาระการเรียนรู้และผลการเรยี นรู้

สาระ ชีววทิ ยา

4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการ
แลกเปล่ียนแก๊ส การลาเลียงสารและการหมุนเวยี นเลอื ด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย
การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคล่ือนที่ การสืบพันธุ์
และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์
รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรียนรู้
7. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของ ตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนังของ

มนุษย์ ยกตัวอย่างโรคต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง และบอกแนวทางในการดูแลป้องกัน
และรกั ษา

8. สังเกต และอธิบายการหาตาแหน่งของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับ

สัมผัสของผิวหนงั

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 2

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวยั วะรับความรู้สกึ จมกู ล้ิน และผวิ หนงั (K)
2. ทดสอบความไวในการรบั สัมผสั ของผวิ หนัง (P)
3. สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกับโรคทเี่ ก่ียวขอ้ งกับอวัยวะรับความรสู้ ึก จมูก ลน้ิ และผิวหนัง (P)
4. นาความรมู้ าใช้ในการดูแลรกั ษาและป้องกนั อนั ตรายของอวัยวะรับความรู้สกึ จมกู ลิ้น

และผวิ หนงั (A)
5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับอวัยวะรับความรู้สึก จมูก ลิ้น

และผิวหนัง ในการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
(A)
6. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและม่งุ ม่ันในการทางาน ทางานร่วมกับผู้อนื่ อยา่ งสร้างสรรค์
ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้ (A)

แนวความคดิ รวบยอด
ต่อเน่ือง

อวัยวะรับความรู้สึก (1)

จมูก ล้ิน และผิวหนัง เป็นอวัยวะรับความรู้สึกที่รับสิ่งเร้าที่แตกต่างกัน จึงมีความสาคัญท่ี
ควรดูแล ป้องกัน และรักษาให้สามารถทางานได้เป็นปกติ



จมูกมีเซลล์ประสาทรับกลิ่นอยู่ภายในเยื่อบุจมูกที่เป็นตัวรับสารเคมีบางชนิดแล้วเกิดกระแส
ประสาทส่งไปยังสมอง



จมูก เม่ือโมเลกุลสารเคมีผ่านเข้าจมูก ออลแฟกทอรีเซลล์ทาหน้าที่รับกล่ินและแปลเป็น
กระแสประสาทส่งไปยงั เสน้ ประสาทสมองคู่ท่ี 1 นาเข้าสู่สมองสว่ นเซรบี รมั



โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 3

ล้ินทาหน้าที่รับรส โดยมีตุ่มรับรสกระจายอยู่ทั่วผิวลิ้นด้านบน ตุ่มรับรสมีเซลล์รับรสอยู่
ภายใน เม่ือเซลล์รับรสถูกกระตุ้นด้วยสารเคมีจะกระตุ้นเดนไดรต์ของเซลล์ประสาทเกิด
กระแสประสาทสง่ ไปยงั สมอง



ลน้ิ มีตุ่มรับรสทาหน้าท่ีรับรสและแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปตามเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7

และ 9 เข้าสู่สมองส่วนเซรบี รัม



ผิวหนัง มีหน่วยรับสิ่งเร้าหลายชนิด เช่น หน่วยรับสัมผัส หน่วยรับแรงกด หน่วยรับความ

เจบ็ ปวด หนว่ ยรับอุณหภูมิ



ผิวหนัง มีเซลล์ประสาทรับความรู้สึกจานวนมาก ท้ังการสัมผัส แรงกด ความร้อน ความเย็น

ซึง่ จะสง่ กระแสประสาทไปยังสมอง

สาระสาคัญ

จมูก เม่ือโมเลกุลสารเคมีผ่านเข้าจมูก ออลแฟกทอรีเซลล์ทาหน้าท่ีรับกล่ินและแปลเป็น
กระแสประสาทสง่ ไปยังเสน้ ประสาทสมองคทู่ ี่ 1 นาเข้าสสู่ มองสว่ นเซรบี รัม

ลน้ิ มตี มุ่ รับรสทาหน้าทร่ี ับรสและแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปตามเสน้ ประสาทสมองค่ทู ี่ 7
และ 9 เขา้ สู่สมองส่วนเซรีบรัม

ผวิ หนัง มีเซลล์ประสาทรับความร้สู กึ จานวนมาก ทั้งการสัมผัส แรงกด ความร้อน ความเย็น
ซงึ่ จะส่งกระแสประสาทไปยังสมอง

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 4

รายวิชาชีววิทยา 4 แบบทดสอบก่อนเรียน ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6
เรือ่ ง อวยั วะรับความรสู้ กึ (2)

รหสั วิชา ว30244

คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องท่สี ุด แลว้ เขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. เสน้ ประสาทสมองคูท่ี 1 ถกู ทาลายจะส่งผลอยา่ งไร
ก. ไม่สามารถแปลผลภาพได้
ข. ไม่สามารถกลอกนัยนต์ าได้
ค. ไมส่ ามารถรบั กลิน่ อาหารได้
ง. ไมส่ ามารถทรงตัวได้ตามปกติ

2. ความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคใู่ ดทาให้สญู เสยี ความสามารถในการดมกล่ิน
ก. คูท่ ่ี 1
ข. ค่ทู ่ี 4
ค. คทู่ ่ี 5
ง. คู่ที่ 7

3. หนว่ ยรบั ความรู้สกึ ชนิดใดพบท่ีชนั้ ผิวหนังกาพรา้
ก. ความเย็น
ข. ความรอ้ น
ค. การสัมผัส
ง. ความเจ็บปวด

4. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 ส่วนคอื
ก. หนงั แท้และหนงั เทยี ม
ข. หนังกาพร้าและหนังแท้
ค. หนงั กาพรา้ และรขู ุมขน
ง. หนังกาพร้าและหนังเทยี ม

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 5

5. ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แม่ครัวปรุงส้มตา โดยใช้ น้าตาลปี๊บ น้าปลาร้า มะนาว พริกขี้หนู
และผงชูรส เมือ่ รับประทานอาหารจากร้านดังกล่าว เซลล์รบั รสที่ตุ่มรับรสบนล้ินจะรับรสต่อไปนี้
ไดเ้ กือบทุกรส ยกเวน้ ข้อใด

ก. เคม็
ข. เผ็ด
ค. เปร้ียว
ง. หวาน

6. หากเกิดความผิดปกตขิ องเส้นประสาทสมองคูที่ 9 จะส่งผลตอ่ การรบั รสใดมากทส่ี ดุ
ก. รสขม
ข. รสเค็ม
ค. รสหวาน
ง. รสเปรี้ยว

7. ถา้ นักเรยี นเดินอยู่ในหอ้ งนอน แล้วนิว้ ก้อยเทา้ ไปชนของเตยี ง หน่วยรบั ความรู้สึกใดของ
ผวิ หนังจะทางาน

ก. หน่วยรับความรู้สึกจากแรงกดที่ชั้นหนังกาพร้า
ข. หนว่ ยรับความรู้สึกจาการสมั ผัสที่ชนั้ หนงั กาพร้า
ค. หนว่ ยรบั ความรู้สึกเกย่ี วกบั ความเจ็บปวดทชี่ ้นั หนงั แท้
ง. หนว่ ยรับความรู้สึกเก่ยี วกับความเจ็บปวดท่ีชั้นหนงั กาพร้า

8. ข้อใด ไม่ใชว่ ธิ ีการปฏบิ ตั ิทถ่ี ูกตอ้ งเกี่ยวกบั การดารงประสทิ ธภิ าพของระบบผวิ หนัง
ก. ดมื่ น้าอย่างน้อยวนั ละ 6-8 แกว้
ข. ทาครมี กันแดดก่อนออกไปเผชญิ แสงแดดเสมอ
ค. ใชค้ รีมทมี่ ยี หี่ ้อและราคาแพงเท่านนั้ ในการบารุงผวิ
ง. อาบน้าชาระล้างรา่ งกายอย่างน้อยวนั ละ 1 – 2 ครั้ง

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 6

9. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกับการรับรสของลิน้
ก. ต่มุ รบั รสเค็มอยู่โคนล้ิน
ข. ตุ่มรบั รสหวานอยู่ปลายล้นิ
ค. ตมุ่ รับรสขมอยู่ด้านข้างลน้ิ
ง. ต่มุ รับรสทุกรสจะกระจายอยู่ท่วั ลน้ิ

10. การที่เรารูส้ กึ วา่ อาหารอร่อยนัน้ เปน็ ผลมาจากการ ทางานของประสาทสัมผัสส่วนใด
ก. taste buds ทลี่ ้นิ และอวัยวะรบั กล่ินในโพรงจมูก
ข. taste buds ท่ีลิน้ และประสาทรบั รู้ท่ีริมฝีปาก
ค. taste buds เฉพาะสว่ นท่ีอยู่ปลายลน้ิ
ง. taste buds ทีล่ ิ้น

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 7

บตั รเน้ือหา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
ชุดที่ 7 อวยั วะรบั ความรู้สึก (2)

7.1 จมกู กับการดมกลิ่น
จมูกสามารถรบั กลิ่นต่าง ๆ ได้ เนื่องจากมีออลแฟกทอรเี มมเบรน (olfactory membrane)

เป็นหน่วยรับความรู้สึกประเภทสารเคมี (chemoreceptor) อยู่ภายในเยื่อบุจมูกด้านบน ซ่ึงมี
ออลแฟกทอรีเซลล์ (o!factory cel!) เป็นเซลล์รับความรู้สึกที่ไวต่อการรับกลิ่น มีเซลล์ประสาทรับ
กลิ่น (olfactory neuron) ทาหน้าที่เปลี่ยนกลิ่นให้เป็นกระแสประสาทส่งไปตามเส้นประสาทสมอง
คู่ท่ี 1 (olfactory nerve) เข้าสู่สมองส่วนออลแฟกทอรีบัลบ์เพื่อนาเข้าสู่สมองส่วนเซรีบรัมภายใน
เยื่อบุจมูกประกอบด้วยหลอดเลือด เส้นประสาท และต่อมสร้างเย่ือเมือก โดยท่อของต่อมเหล่านี้จะ
เปิดบริเวณผิวของออลแฟกทอรเี มมเบรนเพอื่ ลา้ งกล่ินท่ีได้รับแลว้ ทาให้สามารถรบั กล่นิ ใหม่ตอ่ ไปได้

ภาพท่ี 7.1 โดรงสร้างภายในของจมกู
ทม่ี า : หนังสือเรียนรายวชิ าเพิม่ เติมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววิทยา
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เล่ม 1 บริษทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั (หนา้ 80)

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 8

นอกจากน้ี จมูกยังเป็นทางผ่านของอากาศท่ีหายใจอยู่ตลอดเวลา ทาหน้าท่ีกรองอากาศ
ปรบั อุณหภูมิและความชน้ื ของอากาศก่อนเข้าส่ปู อด หากอากาศเย็นจมกู จะปรับให้อุ่นขน้ึ หากอากาศ
แห้งมากจมกู ก็จะทาใหอ้ ากาศชุม่ ชืน้ ขน้ึ

จมูกส่วนนอก
มีสันจมูก ซ่ึงย่ืนจากหน้าผากระหว่างตาท้ังสองไปยังปลายจมูก ดั้งจมูกเป็นส่วนที่ต่อกับ
หนา้ ผาก ดา้ นล่างของจมูก ส่วนนอกมรี ูจมูก ซึ่งคนเชอื้ ชาติผวิ ขาวมีรจู มูกรปู รี คนเชื้อชาติผิวเหลืองรู
จมูกจะค่อนข้างกลม รูจมูกท้ังสองแยกกันโดยแผ่นกั้นกลาง และสองข้างของรูจมูกโป่งคล้ายปีก
เรียกว่า ปกี จมูก
ส่วนบนของจมูกส่วนที่เป็นกระดูก จึงแข็งและอยู่กับท่ี คลุมด้วยผิวหนัง ส่วนล่างมีแกน
ภายในเป็นกระดูกอ่อน คลุมด้วย ผิวหนังซ่ึงติดแน่นและมีต่อมไขมันมาก จึงเป็นส่วนท่ีจับ โยกไปมา
ได้

ภาพท่ี 7.2 จมูกส่วนนอก
ที่มา : https://www.saranukromthai.or.th

โพรงจมกู
นับต้ังแต่รูจมูกทางด้านหน้าเข้าไปจนถึงรูเปิดทางด้านหลัง ซึ่งจะติต่อกับคอหอยส่วนจมูก
ผนงั กั้นกลางของโพรงจมกู เรยี บและแบน ประกอบด้วย แผน่ กระดกู และแผ่นกระดูกอ่อนบางๆ ผนัง
ใกล้รมิ ไมเ่ รยี บ เหนอื รจู มูก มสี ว่ นท่ีกว้างขนึ้ เปน็ กระพุ้ง เรียกว่า เวสตบิ ูล ซ่ึงมขี นจมกู ส้ันและแข็งแรง

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 9

อยู่ท่ีส่วนล่างเพื่อกรองฝุ่นละอองจากอากาศ ท่ีผนังใกล้ริมมีแผ่นกระดูกยื่น ๓ ช้ิน เรียกว่า คอนคา
(concha) ชนิ้ ลา่ งใหญ่ ชิ้นกลาง และชิ้นบนเล็กลงไป ตามลาดับ

ภาพที่ 7.3 จมกู ส่วนใน
ท่มี า : https://www.saranukromthai.or.th

ด้านบนของโพรงจมูก ค่อนข้างแคบแต่จะกว้างในส่วนหลัง แบ่งได้เป็น ๓ ส่วน ส่วนหน้า
เอียงลาดลงลา่ งไปขา้ งหนา้ ส่วนกลางอย่ใู นแนวนอน และส่วนหลังเอียงลาดลงลา่ งไปขา้ งหลัง

พ้ืนของโพรงจมูก กค็ ือด้านบนของเพดานปากสว่ นแข็งซงึ่ อยรู่ ะหว่างช่องปากกับช่องจมูก
เยื่อเมือกท่ีบุส่วนบนโพรงจมูก มีสีเหลือง และมีปลายประสาทรับกล่ิน ส่งไปตามประสาท
สมองคทู่ ี่ 1
เย่ือเมือกท่ีบุส่วนล่างของโพรงจมูก จะหนามาก และมีเลือดมาเล้ียงมาก จึงทาให้อากาศ
หายใจอุ่น มีต่อมจานวนมากโดยเฉพาะท่ีครึ่งหลังของโพรงจมูก จึงทาให้มีน้ามูกเม่ือเป็นหวัด

กระดูกที่อยู่รอบๆ โพรงจมูก จะมีโพรงอากาศอยู่ภายใน เรียกว่า โพรงอากาศ (paranasal air
sinuses) โพรงอากาศเหล่านี้จะมีรูเปิดเข้าสู่ผนังใกล้ริมของโพรงจมูกตรงตาแหน่งต่างๆ กัน การ
อักเสบของโพรงจมกู จงึ อาจจะแพร่กระจายไปยังโพรงอากาศต่างๆ เหล่าน้ี

จมูก เป็นอวัยวะรับความรู้สึกเก่ียวกับกลิ่นในรูปของแก๊ส ( olfactory receptor ) ใน จมูก
มีหน่วยรับความรู้สึกต่อสิ่งเร้าที่เป็นประเภทสารเคมี( Chemoreceptor) เช่นเดียวกับเซลล์รับรส
ของลิน้

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 10

การรบั กล่นิ อาศัยเย่ือรบั กล่ิน ( Olfactory epithelium ) ภายในจมูก การรับรสอาหารส่วน
ใหญ่อาศัยกล่ินประกอบด้วย สัตว์เลย้ี งลูกด้วยน้านมบางพวกจะมีจมูกไวต่อการรบั กลิ่นมากเช่นพวก
สตั ว์มีกีบ สัตว์ฟันแทะและสัตว์กินเนื้อ สตั ว์เหล่านี้จะมีจมูกอ่อนยาวมากและมีเยื่อรับกลิ่นยึดติดโดย
ตลอด การทม่ี เี ซลล์รบั กล่ินมากทาใหส้ ามารถรบั กลิน่ ได้ดี

จมูกของคนแบ่งออกเป็น 3 บรเิ วณดงั นี้
1. ส่วนแรกของลมหายใจเข้า ( Vestibular region ) ได้แก่รูจมูก และโพรงจมูกส่วนนอก
เป็นส่วนแรกของจมูก เป็นทางผ่าน ของลมหายใจเข้า มีขนจมูกและต่อมน้ามันอยู่ท่ัวไปภายใต้
กระดูกออ่ น ซงึ่ เป็นสว่ นปลายของจมูก
2. ส่วนหายใจ ( Respiratory region ) เป็นบริเวณที่เกี่ยวกับทางเดินของลมหายใจ
เป็นส่วนที่ยาวที่สุด อยู่ลึกจากบริเวณทางเข้ามีเย่ือบุผิวหลายชนิด บางชนิดเป็นเยื่อบุผิวท่ีมีเซิเลีย
( ciliated epithelium ) ซึ่งมีสีชมพู ภายในมีต่อมเมือกและเส้นเลือดฝอยมาเล้ียงอยู่มากมาย
3. ส่วนดมกลิ่น ( Olfactory region ) หรือบริเวณรับกลิ่น เป็นบริเวณท่ีมีการดมกลิ่นอยู่ที่
ส่วนบนและด้านหลงั ของจมกู ท้งั ซ้ายและขวา ในจมกู แต่ละข้างมีพน้ื ท่ปี ระมาณ 2.5 ตารางเซนตเิ มตร
บริเวณรับกลิ่นด้านบนจะมีเยือ่ บุเรียกว่า ออลแฟคทอรี เอปีทีเลียม ( Olfactory epithelium เยื่อนี้
มีสีเหลือง ท่ีเยื่อน้ีจะมีตัว เซลล์ประสาทรับกล่ิน ( Olfactory receptor หรือ Olfactory cell ) ฝัง
อยู่ประมาณ 60 ล้านเซลล์ เซลล์รับกลิ่นนี้เป็นเซลล์ประสาทชนิดสองข้ัว แต่ละเซลล์มีเดนไดร์ตประ
มาณ 6 – 12 อัน การที่มีเดนไดร์ตหลายอันทาให้มองเห็นเป็นเส้น ๆ จึงเรียก เดนไดร์ตนี้ ว่า แฮร์(
Hair ) หรือซีเลีย ( Cilia ) ซ่ึงจะกระตุ้นแล้วส่งกระแสประสาทไปตามเส้นประสาทสมองคู่ที่ 1 หรือ
เรียกว่า ออลแฟคทอรีแทรค ( Olfactory tract ) ไปยังสมองส่วนออลแฟคทอรีบัลบ์ บริเวณจมูก
สว่ นน้ีเต็มไปด้วยเยื่อเมือก และเซลล์หลายชนดิ นอกจากนีช้ ่องจมูกยังติดต่อกับคอหอยได้โดยมีรูเล็ก
ๆ ทาให้ ได้กล่ินอาหารดว้ ยคุณสมบัติของตวั กระต้นุ ท่จี ะทาใหร้ ับกล่ินได้ดี
1. ต้องระเหยได้ สามารถระเหยเข้ารจู มกู ได้
2. ละลายนา้ ได้เล็กนอ้ ยเพื่อให้ละลายผา่ นเยื่อเมือกเขา้ สูเ่ ซลล์รับกลน่ิ ได้
3. ละลายในไขมันได้ เพราะบริเวณ ออลแฟคทอรี แฮร์ และปลายเซลล์รบั กลิน่ ประกอบด้วย
ไขมนั
ในขณะที่เป็นหวัดจะรู้สึกคัดจมูก จมูกจะตันและเย่ือจมูกจะบวม ความสามารถในการรับ
กล่นิ จะหายไป แตล่ ะคนมีความไวตอ่ กลิ่นไมเ่ หมอื นกนั ผู้หญิงจมูกจะไวตอ่ การรับกลิ่นไดด้ ีกวา่ ผู้ชาย

7.2 ลิน้ กับการรบั รส
โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 11

ล้ินทาหน้าที่รับรส ด้านบนของล้ินมีพาพิลลา (papilla) ท่ีประกอบด้วยตุ่มรับรส (taste
bud) ซึ่งมีเซลล์รับรส (taste cell) เรียงตัวต้ังฉากกับเย่ือบุผิว ด้านบนมีขนทาหน้าท่ีรับรส ด้านล่าง
มีเสน้ ประสาทนากระแสประสาทไปยังสมอง แบ่งออกเป็นเส้นประสาทสมองคู่ท่ี 7 รบั รสจากบริเวณ
ปลายล้ินและด้านข้างล้นิ และเส้นประสาทสมองคู่ที่ 9 รับรสจากบริเวณโคนลน้ิ ตุ่มรบั รสสามารถรับ
รสได้ 5 รส ได้แก่ รสหวาน รสขม รสเปรย้ี ว รสเค็ม และรสอรอ่ ยหรอื อมู ามิ (umami) ลนิ้ บางบริเวณ
อาจรับรสบางรสได้มากกว่ารสอ่ืน ' ได้แก่ บริเวณปลายลิ้นรับรสหวานได้ดี บริเวณปลายล้ิน
และด้านข้างของล้ินรับรสเค็มได้ดี บริเวณด้านข้างของล้ินรับรสเปร้ียวได้ดี และบริเวณโคนลิ้นรับ
รสขมได้ดี

ภาพท่ี 7.4 โครงสรา้ งของล้ิน
ที่มา : หนังสือเรยี นรายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วิทยา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 เลม่ 1 บรษิ ทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด (หนา้ 81)

การรบั รส (Taste or Gustatory sense)

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 12

อวัยวะที่เกี่ยวกับการรับรส คือ ล้ิน (Tonque) ตรงบริเวณพ้ืนผิวของลิ้นมี mucous
membrane ที่ยื่นนูนออกมา ตุ่มนูนน้ี เรียกว่า papillae จะประกอบด้วย ตุ่มรับรส (Taste buds)
ใน papillae หนึ่งอัน จะประกอบด้วย taste buds อยู่ประมาณ 250 อัน เป็น receptors สาหรับ
รับรส การรับรสต้องอาศัยการเปล่ียนแปลงทางเคมี ต่อ taste buds ซ่ึงมีเซลล์ประสาทรับรส คือ
ประสาทสมองคทู่ ่ี 7 (Facial nerve) และคูท่ ี่ 9 (Glossopharyngeal nerve) ไปยังศนู ย์กลางการรับ
รส ต้ังอย่ดู ้านลา่ งสดุ ของ Post central gyrus ใน cerebral cortex

ภาพท่ี 7.5 ลักษณะของปุ่มรับรส บน Papilla ของลิน้
ทมี่ า : https://www.saranukromthai.or.th

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 13
ตาแหนง่ การรบั รส

ภาพที่ 7.6 ตาแหนง่ รับรส
ท่มี า : https://www.saranukromthai.or.th

ส่วนใหญ่ของ taste buds พบท่ีด้านหน้าและด้านข้างของลิ้น พบข้างบนต่อมทอนซิล
และรอบๆ nasopharynx โดยทัว่ ไปการรบั รสบนล้นิ จะรบั รสได้ 4 ชนิด คือ

รสหวาน (Sweet) รับไดด้ ที ่ปี ลายลิน้
รสเปรี้ยว (Sour) อย่ดู า้ นขา้ งของล้ินท้ังสองข้าง
รสเคม็ (Salt) รบั ไดท้ ด่ี า้ นขา้ งค่อนไปทางปลายล้นิ ทั้งสองข้าง
รสขม (Bitter) อย่กู ลางโคนลิ้น

7.3 ผิวหนงั กับการรบั ความรู้สกึ
ผวิ หนงั เป็นอวยั วะรับความรสู้ ึกที่มีพ้ืนทมี่ ากท่ีสุดในรา่ งกาย มีหน่วยรับความรู้สึกหลายล้าน

เซลล์กระจายอยู่ท่ัวรา่ งกาย แต่ละบริเวณมีจานวนเซลล์รับความรสู้ ึกแตกต่างกัน ทาให้รับความรู้สึก
ได้มากน้อยแตกต่างกันและไวต่อการกระตุ้นในรูปแบบท่ีต่างกัน เช่น หน่วยรับความรู้สึกจากแรงกด
ฝังอยู่ในชั้นหนังแท้ (dermis) มีปลายประสาทเดนไดรอยู่ตรงกลางและมีเน้ือเยื่อเก่ียวพันหุ้มปลาย
ประสาทอยู่รอบ 1 ส่วนหน่วยรับความรู้สึกเจ็บปวดมีปลายประสาทเดนไดรค์แทรกอยู่ในช้ันหนัง
กาพร้า (epidermis) หน่วยรับความรู้สึกบางหน่วยอาจอยู่อย่างอิสระ บางหน่วยอาจพันอยู่รอบเส้น
ขน ดังนนั้ การลบู เส้นขนเบา ๆ จึงสามารถรับสัมผัสได้เช่นกัน

ผิวหนังนอกจากจะเป็นอวัยวะห่อหุ้มร่างกายแล้ว ยังเป็นอวัยวะรับความรู้สึกสัมผัสที่กว้าง
กว่าอวัยวะรับความรู้สึกอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจากผิวหนังจะมีหน่วยรับความรู้สึกสัมผัสจานวนนับ

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 14

ล้านเซลล์ ท่ีต้องสัมผัสกับส่ิงเร้าภายนอกมากมายตลอดเวลาเพื่อส่งข้อมูลไปยังสมองอย่าง
ต่อเน่อื งทาใหเ้ รารับรู้สภาพแวดล้อมรอบตวั ตลอดเวลา

ภาพท่ี 7.7 ปลายประสาทท่ีทาหน้าท่รี ับความรู้สกึ ต่าง ๆ บรเิ วณผิวหนัง
ทีม่ า : หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวี วิทยา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เล่ม 1 บริษทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หนา้ 82)

ผิวหนังของคนมีพ้ืนที่มากมายแต่บางส่วนของผิวหนังอาจมีปลายประสาท ( nerve
ending) ซึ่งมีหน่วยรับความรู้สึกอยู่มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกัน โดยหน่วยรับความรู้สึก
แต่ละชนิด จะไวต่อการกระตุ้น เฉพาะอย่างเช่น หน่วยรับความรู้สึกเก่ียวกับความดันจะมี
ลักษณะคล้ายหัวหอมผ่าซีก และมีปลายประสาทเดนไดรต์อยู่ตรงกลาง มีเน้ือเย่ือเก่ียวพัน
หุ้มปลายประสาทอยู่รอบๆ หน่วยรับความรู้สึกนี้ฝังลึกอยู่ในผิวหนังบริเวณของหนังแท้ (dermis)

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 15

ส่วนหน่วยรับความรู้สึกเจ็บปวดจะมีปลายประสาทเดนไดรต์ที่แทรกอยู่ในชั้ นหนังกาพร้า
(epidermis) นอกจากน้ีใต้ช้ันหนังแท้ (dermis) ยังมีช้ันเน้ือเย่ือเก่ียวพัน (subcutaneous
tissue) อยอู่ ยา่ งหลวมๆ

ภาพที่ 7.8 ปลายประสาทที่ทาหน้าที่รบั ความรู้สึกตา่ งๆ บริเวณผวิ หนัง
ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/nervous/3_10.htm

การท่ีผิวหนังบางบริเวณมีหน่วยรับความรู้สึกสัมผัสมากกว่าส่วนอื่นทาให้ ผิวหนังส่วนนั้น
ไวต่อความรู้สึกมากว่าผิวหนังส่วนอื่น จะเห็นได้จากภาพเปรียบเทียบ ( 7.9) โดยอวัยวะที่มี
ขนาดต่างกันในภาพ แสดงถึงความไวในการรับความรู้สึกสัมผัสของอวัยวะนั้นๆ จากภาพ
จะเหน็ ได้ว่ามือและริมฝปี ากเป็นสว่ นท่ีรบั ความรูส้ ึกสัมผัสได้มาก

กลไกการทางานของระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกมีความสัมพันธ์กัน เช่น เมื่อมี
อาการป่วยทาให้ความสามารถในการรับกลิ่นของอาหารลดลง ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าอาหารไม่อร่อย ทั้งที่
ความสามารถในการรับรสยังปกติ ดังนั้น การรับกล่ินอาหารของจมูกจึงมผี ลต่อการรับรสของอาหาร
ด้วยเช่นกัน นอกจากน้ี การทางานของระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกยังทาให้ร่างกาย
สามารถรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ได้ ซ่ึงมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตจึงควรตระหนักถึง
วธิ ีการดูแล ป้องกนั และรักษาระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู ึกต่าง ๆ อยา่ งถกู วธิ ี

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 16

ภาพท่ี 7.9 เปรียบเทียบความไวในการรับสมั ผัสของอวัยวะตา่ งๆ
ทมี่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/nervous/3_10.htm

ภาพที่ 7.9 การทางานรว่ มกันของเซลลร์ ับกลน่ิ และตุ่มรับรส
ท่มี า : หนงั สือเรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววิทยา
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 เลม่ 1 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั (หนา้ 85)
โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 17

บัตรกจิ กรรมที่ 7.1
เร่อื ง ความไวของผวิ หนังแต่ละบรเิ วณ

จุดประสงค์
ตรวจสอบความไวของการรบั ความรสู้ กึ ของผวิ หนังแต่ละบรเิ วณได้

วัสดุอุปกรณ์ 2. ลวดเสยี บกระดาษ
1. ผา้ ปิดตา 4. ปากกาสตี ่างกัน 2 ดา้ ม
3. กระดาษ

วิธปี ฏบิ ตั ิ
1. วาดภาพแทนร่างกายของนกั เรยี นท่ีเปน็ ตวั แทนกล่มุ
2. ผูกผ้าปิดตานกั เรยี น แลว้ ใหน้ ักเรยี นอีกคนใช้ปลายลวดเสียบกระดาษซงึ่ กางหา่ งกนั

พอสมควรแตะบนผิวหนังของนักเรียนทีผ่ กู ผ้าปดิ ตาไว้ โดยแตะด้วยปลายลวดเสยี บกระดาษข้างเดยี ว
และ 2 ขา้ งสลบั กัน

3. ใหน้ ักเรียนทีผ่ กู ผ้าปดิ ตาระบบุ รเิ วณที่รบั สมั ผัสด้วยปลายลวดเสยี บกระดาษลงบนภาพ
ร่างกาย

4. ปรับปลายลวดเสียบกระดาษทง้ั 2 ข้าง ให้ชิดเข้ามาเปน็ ระยะ ๆ ทดลองซา้ ข้อ 2.-3.
จนกระท่ังนักเรยี นท่ีผูกผ้าปดิ ตาไมส่ ามารถบอกความแตกต่างระหว่างการแตะดว้ ยปลายลวดเสียบ
กระดาษข้างเดยี วและ 2 ข้างได้

ภาพที่ 7.10 การศึกษาความไวของผวิ หนังแตล่ ะบรเิ วณ
ทมี่ า : คลังภาพ อจท.

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 18

ผลการทากิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คาถามทา้ ยกจิ กรรม
1. นักเรียนสามารถสรปุ ผลการทดลองน้ีไดอ้ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. แต่ละบริเวณของรา่ งกายรับสัมผัสไดเ้ หมอื นหรือตา่ งกนั อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 19

บัตรกิจกรรมท่ี 7.2
เร่อื ง โรคเกย่ี วกับอวยั วะรบั ความรูส้ ึก

จุดประสงค์
สบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกับโรคต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้องกบั อวยั วะรบั ความรสู้ กึ และบอกแนวทางในการ

ดแู ลและรกั ษาโรค

วิธีปฏิบตั ิ
1. แบ่งกลุม่ 5 กลมุ่ สืบคันขอ้ มลู เร่อื ง โรคท่ีเก่ียวข้องกบั อวัยวะรับความรู้สกึ ดงั น้ี
กล่มุ ท่ี 1 โรคที่เก่ยี วข้องกบั ตา
กล่มุ ที่ 2 โรคท่เี กย่ี วข้องกบั หู
กลุ่มท่ี 3 โรคทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับจมกู
กลมุ่ ท่ี 4 โรคที่เกี่ยวขอ้ งกบั ล้ิน
กลุ่มที่ 5 โรคทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ผวิ หนัง
2. สบื คันขอ้ มูลโรคท่เี กีย่ วข้องกบั อวัยวะรบั ความรูส้ ึก อธบิ ายสาเหตุของโรค อาการของโรค

และบอกแนวทางในการดูแลและรกั ษาโรค
3. จัดทารายงาน แผ่นพบั นาเสนอ และป้ายนเิ ทศ เพื่อนาเสนอหน้าชน้ั เรยี น

ผลการทากจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 20

คาถามท้ายกจิ กรรม
จงยกตวั อย่างโรคที่เกีย่ วข้องกับอวยั วะรบั ความรู้สกึ อวัยวะละ 1 โรค และบอกแนวทางใน

การดแู ลและรักษาโรคดังกลา่ ว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 21

บตั รกิจกรรมท่ี 7.3
แผนผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง อวยั วะรับความรสู้ กึ (2)

คาชี้แจง ให้นักเรียนสรุปความรู้ที่เก่ียวกับ “อวัยวะรับความรู้สึก (2)” เป็นแผนผังมโนทัศน์
(Concept Mapping) ในกระดาษที่แจกใหแ้ ลว้ นาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 22

บตั รกิจกรรมที่ 7.4
ถอดบทเรียน เร่ือง อวัยวะรบั ความรู้สกึ (2)

คาช้ีแจง ให้นักเรียนถอดบทเรียนที่เกี่ยวกับ “อวัยวะรับความรู้สึก (2)” ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงเป็น ในกระดาษชาร์ตที่กาหนดให้แล้วนาเสนอผลงานโดยนาไปติดป้ายนิเทศหน้า
ชั้นเรียน

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 23

แบบฝึกหดั
เรือ่ ง อวัยวะรับความรูส้ ึก (2)

คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้องทส่ี ดุ

1. อวยั วะรบั ความรูส้ ึกมโี ครงสร้างท่ีเหมาะสมต่อการทาหน้าท่ีอย่างไร
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
........................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
.................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................................................................... ...........

2. โรคท่ีเก่ียวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก เกี่ยวกับลิ้นและอวัยวะรับรสได้แก่อะไรบ้าง แต่ละโรคมี
แนวทางในการดแู ลและรกั ษาโรคอย่างไร
............................................................................................................................. .................................
....................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. ................................
....................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................ ..............................................................

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 24

3. โรคที่เก่ียวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก จมูก ได้แก่อะไรบ้าง แต่ละโรคมีแนวทางในการดูแล
และรักษาโรค อย่างไร
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
........................................................................................................................................... ...................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................

4. โรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะรับความร้สู ึก เก่ียวกับผิวหนัง ได้แก่อะไรบ้าง แต่ละโรคมีแนวทางในการ
ดูแลและรกั ษาโรคอยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................................... ...............
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................
....................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 25

รายวชิ าชีววิทยา 4 แบบทดสอบหลังเรยี น ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
เร่อื ง อวยั วะรับความรสู้ ึก (2)

รหัสวิชา ว30244

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาทใี่ ช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วเขยี นเครือ่ งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. การท่ีเรารู้สึกวา่ อาหารอรอ่ ยนน้ั เปน็ ผลมาจากการ ทางานของประสาทสัมผสั ส่วนใด
ก. taste buds ทีล่ น้ิ และอวยั วะรบั กลิ่นในโพรงจมูก
ข. taste buds ทล่ี ้ินและประสาทรบั รูท้ ่ีรมิ ฝปี าก
ค. taste buds เฉพาะสว่ นทอี่ ยู่ปลายลนิ้
ง. taste buds ทลี่ ้นิ

2. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 สว่ นคือ
ก. หนงั แท้และหนงั เทยี ม
ข. หนงั กาพร้าและหนังแท้
ค. หนงั กาพร้าและรขู ุมขน
ง. หนังกาพรา้ และหนังเทยี ม

3. เส้นประสาทสมองคูที่ 1 ถูกทาลายจะส่งผลอย่างไร
ก. ไม่สามารถแปลผลภาพได้
ข. ไม่สามารถกลอกนยั นต์ าได้
ค. ไม่สามารถรับกลิ่นอาหารได้
ง. ไมส่ ามารถทรงตวั ได้ตามปกติ

4. หนว่ ยรับความรสู้ กึ ชนิดใดพบทช่ี น้ั ผิวหนังกาพร้า
ก. ความเย็น
ข. ความร้อน
ค. การสมั ผสั
ง. ความเจ็บปวด

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 26

5. หากเกิดความผดิ ปกติของเสน้ ประสาทสมองคูท่ี 9 จะส่งผลต่อการรบั รสใดมากทส่ี ุด

ก. รสขม
ข. รสเค็ม
ค. รสหวาน
ง. รสเปร้ยี ว

6. ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แม่ครัวปรุงส้มตา โดยใช้ น้าตาลปี๊บ น้าปลาร้า มะนาว พริกขี้หนู
และผงชูรส เมอ่ื รับประทานอาหารจากร้านดังกลา่ ว เซลล์รับรสท่ีตุ่มรับรสบนลิ้นจะรับรสต่อไปน้ี
ไดเ้ กือบทุกรส ยกเว้นขอ้ ใด

ก. เคม็
ข. เผ็ด
ค. เปรย้ี ว
ง. หวาน

7. ถา้ นักเรียนเดนิ อยู่ในห้องนอน แลว้ นว้ิ ก้อยเทา้ ไปชนของเตยี ง หนว่ ยรับความรู้สึกใดของ
ผวิ หนังจะทางาน

ก. หน่วยรบั ความรู้สึกจากแรงกดท่ีช้ันหนังกาพร้า
ข. หนว่ ยรับความรู้สึกจาการสมั ผัสทีช่ ้นั หนงั กาพร้า
ค. หนว่ ยรบั ความรู้สึกเกย่ี วกบั ความเจ็บปวดท่ีช้นั หนงั แท้
ง. หน่วยรับความรู้สึกเก่ียวกับความเจ็บปวดทช่ี ั้นหนังกาพร้า

8. ความผดิ ปกติของเสน้ ประสาทสมองคใู่ ดทาให้สูญเสียความสามารถในการดมกล่นิ
ก. คทู่ ี่ 1
ข. คทู่ ่ี 4
ค. คทู่ ี่ 5
ง. คทู่ ่ี 7

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 27

9. ข้อใด ไม่ใช่วธิ ีการปฏบิ ัติที่ถูกต้องเกีย่ วกับการดารงประสิทธิภาพของระบบผิวหนัง
ก. ดมื่ นา้ อย่างน้อยวันละ 6-8 แกว้
ข. ทาครมี กนั แดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเสมอ
ค. ใชค้ รีมท่ีมยี ่หี ้อและราคาแพงเท่านนั้ ในการบารุงผิว
ง. อาบน้าชาระลา้ งร่างกายอยา่ งน้อยวันละ 1 – 2 ครง้ั

10. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกับการรับรสของล้นิ
ก. ตุม่ รบั รสเค็มอยู่โคนล้ิน
ข. ตุ่มรบั รสหวานอยู่ปลายลนิ้
ค. ตมุ่ รับรสขมอยู่ด้านข้างลน้ิ
ง. ต่มุ รบั รสทุกรสจะกระจายอยู่ท่วั ลนิ้

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 28

กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น
ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2)

แบบทดสอบก่อนเรียน ง แบบทดสอบหลังเรยี น ง
ขอ้ ก ข ค ขอ้ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 29

บรรณานกุ รม

เกศทิพย์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา และฤทธิ์ วัฒนชยั ยงิ่ เจริญ. (2564). หนังสือเรยี นรายวชิ าเพ่มิ เติม
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วิทยา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 เล่ม 1. (พิมพ์คร้งั ท่ี 3)
กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกล้า, บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด.

จิรัสย์ เจนพาณิชย์ (2558). ชีววทิ ยาสาหรับนกั เรยี นมัธยมปลาย. กรงุ เทพมหานคร :
หจก.สามลดา.

ซีร์สตาร์ (2552). ชวี วทิ ยา เลม่ 1. (แปลจาก Biology 1 Concepts and Applications
โดยทมี คณาจารย์ ภาควชิ าชวี วทิ ยามหาวิทยาลยั ขอนแก่น, ผูแ้ ปล). กรงุ เทพมหานคร :
เจเอสที พบั ลิชช่งิ จากัด.

ปรชี า สุวรรณพินจิ และนงลักษณ์ สุวรรณพนิ จิ (2549). ชวี วิทยา 2. กรงุ เทพมหานคร :
จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วันดี วัฒนชยั ย่ิงเจริญ (2552). การจดั จาแนกสิง่ มีชีวิต. ภาควชิ าชวี วิทยา คณะวทิ ยาศาสตร์ :
มหาวทิ ยาลยั นเรศวร.

ศกึ ษาธกิ าร, กระทรวง. (2560). ตวั ช้วี ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาชนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพซ์ มุ นมุ สหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . (2554). หนงั สอื เรียนรายวชิ าชวี วทิ ยา
เพม่ิ เติมเล่ม 5. กรุงเทพมหานคร : สกสค.

สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี สถาบนั . (2555). คู่มือครรู ายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม
เลม่ 5. กรงุ เทพมหานคร : สกสค.

สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบนั . (2556). หนังสือเรียนรายวิชาเพม่ิ เดิม
ชวี วทิ ยา เล่ม 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร.์
พิมพ์ครงั้ ท่ี 9. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว.

ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน.(2558). หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเดมิ
ชวี วิทยา เลม่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์.
พมิ พค์ รง้ั ที่ 9. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว.

สตาร์, ซซี าย. (2553). ชวี วิทยา เล่ม 2. กรงุ เทพมหานคร : เซนเกจ เลินน่ิง.
https://www.baanjomyut.com/library_3/extension-

1/function_of_the_nervous_system/index.html

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 30

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 31

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 7.1
เร่อื ง ความไวของผวิ หนังแตล่ ะบรเิ วณ

จดุ ประสงค์
ตรวจสอบความไวของการรบั ความรู้สึกของผิวหนังแตล่ ะบริเวณได้

วัสดุอุปกรณ์ 2. ลวดเสยี บกระดาษ
1. ผา้ ปิดตา 4. ปากกาสตี า่ งกัน 2 ดา้ ม
3. กระดาษ

วิธปี ฏบิ ตั ิ
1. วาดภาพแทนรา่ งกายของนกั เรียนท่ีเปน็ ตัวแทนกล่มุ
2. ผกู ผ้าปดิ ตานกั เรยี น แลว้ ให้นกั เรยี นอกี คนใชป้ ลายลวดเสยี บกระดาษซงึ่ กางห่างกัน

พอสมควรแตะบนผวิ หนงั ของนักเรยี นท่ผี กู ผ้าปิดตาไว้ โดยแตะดว้ ยปลายลวดเสียบกระดาษข้างเดยี ว
และ 2 ข้างสลับกนั

3. ให้นกั เรียนท่ผี ูกผา้ ปดิ ตาระบบุ รเิ วณท่รี ับสมั ผสั ด้วยปลายลวดเสยี บกระดาษลงบนภาพ
ร่างกาย

4. ปรับปลายลวดเสยี บกระดาษทง้ั 2 ขา้ ง ให้ชดิ เขา้ มาเปน็ ระยะ ๆ ทดลองซา้ ขอ้ 2.-3.
จนกระทัง่ นักเรยี นที่ผูกผา้ ปดิ ตาไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างการแตะดว้ ยปลายลวดเสียบ
กระดาษขา้ งเดียวและ 2 ข้างได้

ภาพที่ 7.10 การศกึ ษาความไวของผวิ หนังแต่ละบริเวณ
ทมี่ า : คลังภาพ อจท.

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 32

ผลการทากจิ กรรม
…แ…น…ว…ค…าต…อ…บ………………………………………………………………………………………………………………………….
………………ผ…ิว…หน…ัง…แ…ต…่ล…ะบ…ร…ิเว…ณ…ข…อ…ง…ร่า…ง…ก…าย…ร…ับ…ค…วา…ม…ร…ู้สึก…ไ…ด…้แต…ก…ต…่า…งก…ัน……เน…่ือ…งจ…า…ก…ม…ีจา…น…ว…น…ป…ล…าย….
…ป…ร…ะ…ส…าท…แ…ต…ก…ต…่าง…ก…ัน…บ…ร…ิเว…ณ…ท…ี่ม…ีป…ล…า…ยป…ร…ะ…ส…าท…อ…ย…ู่ม…า…กจ…ะ…ร…ับ…ค…วา…ม…ร…ู้สึก…ไ…ด…้ม…าก……ส่ว…น…บ…ร…ิเว…ณ…ท…ี่ม…ี .
…ป…ล…า…ยป…ร…ะ…สา…ท…อ…ย…ู่นอ้…ย…จ…ะ…รบั …ค…ว…าม…ร…้สู …ึกไ…ด…น้ …้อย…………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คาถามทา้ ยกจิ กรรม

1. นกั เรียนสามารถสรุปผลการทดลองน้ีไดอ้ ยา่ งไร
…แ…น…ว…คา…ต…อ…บ………………………………………………………………………………………………………………………….
………………ผ…ิวห…น…ัง…แ…ต…่ละ…บ…ร…ิเว…ณ…ข…อ…ง…ร่า…ง…กา…ย…ร…ับ…คว…า…ม…รู้ส…ึก…ไ…ด้…แต…ก…ต…่า…งก…ัน……เน…่ือ…งจ…า…ก…ม…ีจา…น…ว…น…ป…ลา…ย….
…ป…ร…ะส…า…ท…แ…ตก…ต…่า…งก…ัน……โด…ย…บ…ริเ…วณ……ที่ม…ีป…ล…า…ยป…ร…ะ…ส…าท…อ…ย…ู่ม…าก…จ…ะ…รับ…ค…ว…าม…ร…ู้ส…ึก…ได…้ม…าก……เช…่น…บ…ร…ิเว…ณ…ม…ือ….
…ส…่ว…น…บร…เิ ว…ณ…ท…่ีม…ีป…ล…าย…ป…ร…ะส…า…ท…อ…ยูน่…้อ…ย…จ…ะร…ับ…ค…วา…ม…ร…ู้สึก…ไ…ดน้…อ้…ย…เ…ช…่น…บ…ร…ิเว…ณ…ต…้นค…อ…………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. แตล่ ะบริเวณของร่างกายรับสมั ผัสไดเ้ หมอื นหรือตา่ งกนั อย่างไร
…แ…น…ว…คา…ต…อ…บ………………………………………………………………………………………………………………………….
………………ข…น้ึ อ…ย…กู่ …บั …ผ…ลก…า…ร…ทา…ก…ิจ…กร…ร…ม…ขอ…ง…น…ัก…เร…ียน……เช…่น…บ…ร…เิ ว…ณ…ป…ล…าย…น…้ิว…จ…ะม…จี …า…น…วน…ป…ล…า…ยป…ร…ะ…สา…ท….
…ม…า…ก…จ…ึงส…า…ม…า…รถ…แ…ย…ก…คว…า…ม…แ…ตก…ต…่า…งข…อ…ง…จ…าน…ว…น…ข…าข…อ…ง…ล…วด…เ…สีย…บ…ก…ร…ะด…า…ษ…ไ…ด้…แ…ต่…บร…ิเ…วณ……ต้น…ค…อ…ม…ี .
…จ…า…นว…น…ป…ล…าย…ป…ร…ะส…า…ท…น…้อย…อ…า…จไ…ม…ส่ …าม…า…รถ…แ…ย…ก…คา…ม…แ…ตก…ต…า่ …งไ…ด…้ ………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 33

เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 7.2
เร่ือง โรคเก่ยี วกบั อวัยวะรับความรูส้ กึ

จดุ ประสงค์
สบื คน้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับโรคตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกับอวัยวะรับความรูส้ ึกและบอกแนวทางในการ

ดูแลและรกั ษาโรค

วธิ ปี ฏิบัติ
1. แบง่ กล่มุ 5 กล่มุ สบื คนั ขอ้ มลู เรอ่ื ง โรคทีเ่ กย่ี วข้องกับอวัยวะรบั ความรสู้ กึ ดังน้ี
กลุ่มท่ี 1 โรคทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับตา
กลมุ่ ท่ี 2 โรคที่เกีย่ วขอ้ งกับหู
กลุ่มท่ี 3 โรคทเี่ กยี่ วขอ้ งกับจมูก
กลุ่มท่ี 4 โรคทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ล้ิน
กลุ่มท่ี 5 โรคท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ผิวหนัง
2. สบื คนั ข้อมลู โรคที่เกย่ี วข้องกับอวัยวะรบั ความรู้สกึ อธิบายสาเหตขุ องโรค อาการของโรค

และบอกแนวทางในการดูแลและรกั ษาโรค
3. จัดทารายงาน แผน่ พับนาเสนอ และป้ายนิเทศ เพ่ือนาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน

ผลการทากจิ กรรม
…แ…น…ว…ค…าต…อ…บ………………………………………………………………………………………………………………………….
………………จ…าก…ก…ิจ…ก…รร…ม…พ…บ…ว…่า…โร…ค…ท…ี่เก…ย่ี …วก…ับ…อ…ว…ัยว…ะ…ร…ับค…ว…า…มร…ู้ส…ึก…ม…ีหล…า…ย…โร…ค…แ…ต…่ล…ะโ…รค…ม…แี …น…วท…า…ง…ใน….
…ก…า…รด…ูแ…ล…แ…ละ…ร…ัก…ษ…าโ…ร…คแ…ต…ก…ต…่าง…ก…ัน…เ…ช่น……ต…้อ…หิน……(g…la…u…co…m……a)…เ…ป็น…โ…ร…คท…่ีเ…ก…ิดจ…า…ก…ค…วา…ม…ด…ัน…ใน…ล…ูก…ตา….
…ส…ูง…แล…ะ…ก…ด…ท…ับเ…ส…้น…ป…ระ…ส…าท…ต…า…เน…่ือ…ง…จา…ก…ก…าร…ถ…่า…ยเ…ท…ขอ…ง…ข…อ…งเ…หล…ว…ใ…นด…า…ข…ัด…ข้อ…ง…ห…รือ…อ…า…จเ…ก…ิด…จา…ก…ก…าร….
…ใ…ช…้ยา…ห…ย…อ…ดต…า…บ…าง…ช…น…ิด…บ่อ…ย…เก…ิน…ไ…ป…ม…ีว…ิธีก…า…รร…ัก…ษ…าโ…ด…ย…ลด…ค…ว…าม…ด…ัน…ข…อ…งล…ูก…ต…าโ…ด…ยใ…ช…้ย…าท…ีม่ …ีส…ม…บัต…ิข…ับ….
…ข…อ…งเ…ห…ล…วใ…น…ล…ูกต…า…แ…ต…่ห…า…กม…ีอ…า…กา…ร…ห…น…ักต…้อ…ง…ผ…่าต…ัด…ร…ะบ…า…ย…ข…อง…เห…ล…ว…ใน…ล…ูก…ต…าเ…พ…ื่อ…ลด…ค…ว…าม…ด…ัน…ใ…นล…ูก….
…ต…า…ต…อ้ …ก…ระ…จ…ก…(c…a…ta…r…ac…i)…เ…ป็น…โ…รค…ท…ี่เ…กดิ…จ…า…กเ…ล…น…ส์ต…า…ข…่นุ …มัว…ท…า…ให…้เห…็น…ภ…า…พ…ม…วั เ…ห…มือ…น…ม…อ…งผ…า่ …น…ห…มอ…ก….
…ม…ีว…ิธ…ีก…าร…ร…ัก…ษ…าโ…ด…ย…กา…ร…ผ…่า…ตัด…เ…ป…ล…ี่ยน…เ…ล…น…ส…์ตา……อ…าก…า…ร…ต…าเ…พ…ล…ียเ…ป…็น…อ…าก…า…ร…ป…วด…ร…อ…บ…ๆ……ต…าแ…ล…ะ….
…ห…น…้า…ผ…าก……เน…ื่อ…งจ…า…ก…ใช…้ส…า…ยต…า…ม…าก…เ…กิน…ไ…ป…ห…รือ…ม…ีแ…ส…งส…ว…่า…งน…้อ…ย…เก…ิน…ไ…ป…ม…ีว…ิธีแ…ก…้ไ…ขโ…ด…ย…กา…ร…จั…ดแ…ส…ง…ให…้ .
…เ…ห…มา…ะ…ส…มแ…ล…ะ…พ…กั ส…า…ย…ตา………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 34

คาถามทา้ ยกิจกรรม
จงยกตวั อยา่ งโรคที่เกีย่ วข้องกับอวัยวะรบั ความรู้สกึ อวยั วะละ 1 โรค และบอกแนวทางใน

การดูแลและรักษาโรคดังกล่าว
…แ…น…ว…ค…าต…อ…บ………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………ข……นึ้ ……อ……ย…………ู่ก……บั ……ด…………ุล……พ……นิ…………ิจ……ข……อ……ง……ค…………ร……ูผ……สู้ ……อ……น………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 35

เฉลยบตั รกจิ กรรมที่ 7.3
แผนผังมโนทศั น์ เร่ือง อวัยวะรับความรู้สกึ (2)

คาช้ีแจง ให้นักเรียนสรุปความรู้ที่เกี่ยวกับ “อวัยวะรับความรู้สึก (2)” เป็นแผนผังมโนทัศน์
(Concept Mapping) ในกระดาษที่แจกให้แลว้ นาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน

ข้นึ อยูก่ ับดลุ พินจิ ของครผู สู้ อน

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรับความรสู้ ึก (2) 36

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 7.4
ถอดบทเรียน เรือ่ ง อวยั วะรับความรสู้ กึ (2)

คาชี้แจง ให้นักเรียนถอดบทเรียนที่เก่ียวกับ “อวัยวะรับความรู้สึก (2)” ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงเป็น ในกระดาษชาร์ตที่กาหนดให้แล้วนาเสนอผลงานโดยนาไปติดป้ายนิเทศหน้า
ชัน้ เรยี น

ขึน้ อยู่กบั ดลุ พนิ ิจของครผู สู้ อน

โดย : นางสาวนภศร เสรีกลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม

ชดุ ท่ี 7 อวยั วะรบั ความรสู้ ึก (2) 37

เฉลยแบบฝึกหดั
เรือ่ ง อวัยวะรบั ความร้สู กึ (2)

คาชแ้ี จง : ให้นักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถูกตอ้ งท่ีสดุ

1. อวัยวะรับความร้สู ึกมีโครงสร้างทเ่ี หมาะสมตอ่ การทาหน้าทีอ่ ยา่ งไร
..แ..น...ว..ค...า..ต..อ...บ........................................................................................... ................................................
..........อ..ว..ั.ย..ว..ะ..ร..ับ...ค..ว..า..ม...ร..ู้ส..กึ...ม..ีล...ัก..ษ...ณ...ะ..พ...ื้น...ฐ..า..น...ป..ร..ะ...ก..อ..บ...ด..้.ว..ย..เ.ซ...ล..ล..์.ร..ับ..ค...ว..า..ม..ร..ู้ส...ึก...ซ...ึ่ง.เ.ป...็น...โ.ค...ร..ง..ส..ร..้า..ง..พ...ิเ.ศ..ษ....
..เ.พ...่ือ..ร..ับ...ค...ว..า..ม...ร..ู้ส..ึก...ต..่า..ง...ๆ.....เ.ช..่น....ต...า..ม..ีเ..ซ..ล...ล..์ร..ูป...แ..ท...่ง..แ..ล...ะ..เ..ซ..ล...ล..์ร..ูป...ก..ร..ว...ย..ท...่ีไ.ว...ต..่อ..ก...า..ร..ร..ับ...แ..ส...ง...ห...ูม..ีเ..ซ..ล...ล..์ข...น...
..ภ..า..ย...ใ.น...ค..ล...อ..เ..ค..ล..ีย...แ..ล...ะ..เ.ซ...ม..ิเ.ซ...อ..ร..์ค...ิว..ล..า..ร..์แ...ค..เ.น...ล...ซ..่ึง..ไ.ว..ต...่อ..ก...า..ร..เ.ป...ล..่ีย...น..แ...ป..ล...ง..ข..อ..ง..ข...อ..ง.เ..ห..ล...ว..ท..ี่.เ.ก..ิด...จ..า..ก..ค...ล..ื่น....
..เ.ส...ีย..ง..ห...ร..ือ...ก..า..ร...เ.ป...ล..่ี.ย..น...แ..ป...ล...ง..ก..า..ร...ท..ร...ง..ต..ัว....จ..ม...ูก...ม..ีอ...อ..ล...แ...ฟ...ก..ท...อ..ร..ี.เ.ซ...ล..ล...์ท..ี่.ไ.ว...ต..่อ...ก..า. .ร..ร..ับ...ก...ล..ิ่น....(..โ.ม...เ..ล..ก..ุ.ล...
..ส..า..ร..เ.ค...ม..ี)...ล..้ิน...ม..ี.เ.ซ..ล...ล..์ร..ับ...ร..ส..ท...ี่ไ.ว...ต..่อ..ก...า..ร..ร..ับ...ร..ส..(.โ..ม..เ..ล..ก..ุล...ส..า..ร..เ.ค...ม..ี)...แ..ล..ะ...ผ..ิว..ห...น..ัง..ม...ีห...น..่ว..ย...ร..ับ..ค...ว..า..ม..ร..ู้.ส..ึก..ซ...ึ่ง..ไ.ว...
..ต..อ่ ...ก..า..ร..ร..ับ...ส..ัม...ผ..ัส..ต...่า..ง...ๆ....เ.ซ...ล..ล..์เ..ห..ล...่า..น..ี้.จ..ะ..ส..า..ม...า..ร..ถ..แ...ป..ล...ส..ัญ...ญ....า..ณ...จ..า..ก...ส..่ิง..เ.ร..้า..ท...่ีไ.ด...ร้ ..ับ..เ.ป...็น...ก..ร..ะ..แ...ส..ป...ร..ะ..ส..า..ท....
..แ..ล..ะ...ส..่ง..ไ.ป...แ...ป..ล...ผ..ล..ท...่ีส..ม...อ..ง..เ..พ..่ือ...เ.ก..ิด...พ...ฤ..ต..ิ.ก..ร..ร..ม...ต..อ..บ...ส...น..อ...ง.ต...่อ..ส...ิ่ง..เ.ร..้า..ท...ี่ไ.ด...ร้ ..ับ....(.น..ั.ก..เ.ร..ีย...น..อ...า..จ..ย...ัง..ไ.ม...่ส.า..ม...า..ร..ถ...
..ต..อ...บ..ค...า..ถ..า..ม..ไ..ด..้.............................................................................................. ........................................

............................................................................................................................. .................................

..............................................................................................................................................................

2. โรคท่ีเกี่ยวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก เก่ียวกับล้ินและอวัยวะรับรสได้แก่อะไรบ้าง แต่ละโรคมี

แนวทางในการดูแลและรกั ษาโรคอย่างไร
..แ..น...ว..ค...า..ต...อ..บ................................................................................................................................. ..........
...................-...ล..้ิน...อ...ัก..เ..ส..บ.....(.g..l.o...s..s.i.t..i.s.)...เ..ป..็น...ภ...า..ว..ะ...ท..ี่.ล..ิ้น...ม..ี.อ..า..ก...า..ร..อ..ั.ก..เ.ส...บ....บ...ว..ม....เ.ป...ล...ี่ย..น...ส..ี..ผ..ิ.ว..ข..อ...ง..ล..้ิน...ม...ี ..
..ล..ัก...ษ..ณ....ะ..เ.ป...ล..ยี่...น..ไ..ป..จ...า..ก..เ.ด...มิ ....ห..ร..ือ...ต..ุ่ม...ร..ับ..ร..ส...ไ.ด...้ร..บั ..ค...ว..า..ม..เ..ส..ีย..ห...า..ย....ท..า..ใ..ห..้เ..ก..ิด..อ...า..ก..า..ร..บ..ว..ม....ป...ว..ด....แ..ล..ะ...ส..่ง..ผ..ล....
..ต..่อ...ก..า..ร..ร..ั.บ..ร..ส...อ..า..ห...า..ร..ห...ร..ือ..ก...า..ร..พ...ูด.....ม..ี.ส..า..เ.ห...ต..ุเ..ก..ิด...จ..า..ก..ก...า..ร..บ...า..ด..เ.จ...็บ...ท..่ี.เ.ก..ิด...บ...ร..ิเ.ว..ณ....ป..า..ก...ซ..่ึง..อ...า.จ...ส..่ง..ผ...ล..ต..่.อ....
..ล..้ิน....ก...า..ร..แ..พ...้ย..า..บ...า..ง..ช..น...ิด....ก..า..ร..แ..ก...้ย..า..ส...ฟี ..ัน...ห...ร..ือ..ผ...ล..ิต..ภ...ณั...ฑ...์ด...ูแ..ล...ช..่อ..ง..ป...า..ก....พ..ฤ...ต..ิก...ร..ร..ม..ก..า..ร..บ...ร..โิ .ร..ค...อ..า..ห...า..ร..ท..ี่...
..ก..่อ...ใ.ห...้เ.ก..ิด...อ..า..ก..า..ร..ป...ว..ด..แ...ส..บ...ป..ว..ด...ร..้อ..น....ห..ร..ือ...ก..า..ร..ต..ิด...เ.ช..้ือ...แ..บ...ค..ท...ีเ.ร..ีย....เ.ช..ือ้...ร..า...ห...ร..ือ..เ..ช..ื้อ..ไ..ว..ร..ัส....ม...ีว..ิธ..ีก...า..ร..ร..ัก..ษ...า.....
..จ..ะ..ข...ึ้น...อ..ย..ู่ก...ับ...ส..า..เ.ห...ต..ุ.ข..อ..ง..ก...า..ร..เ.ก..ิ.ด..โ..ร..ค....ซ..ึ่ง..อ..า..จ...เ.ป...็น..ใ..ช..้ก...า..ร..ด..ู.แ..ล..ส...ุข..ภ...า..พ...ข..อ...ง..ช..่อ..ง..ป...า..ก....ก..า..ร...ป..ร..ับ...เ.ป...ล..่ีย...น.....
..พ...ฤ..ต...กิ ..ร..ร..ม..ก...า..ร..บ..ร..โิ..ถ..ค....ห...ร..ือ..ก..า..ร..ร..ัก...ษ..า..ด...ว้ ..ย..ย...า.........................................................................................

............................................................................................................................................................. .

............................................................................................................................. .................................

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 38

3. โรคท่ีเกี่ยวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก จมูก ได้แก่อะไรบ้าง แต่ละโรคมีแนวทางในการดูแล

และรกั ษาโรค อยา่ งไร
..แ..น...ว..ค...า..ต...อ..บ................................................................................... ........................................................
.............-...โ.ร..ค...ไ..ซ..น...สั..อ...กั ..เ..ส..บ....(.s..i.n..u...s..i.t.i.s..)..เ.ป...็น...ภ..า..ว..ะ...ท..เ่ี..ย..่อื..บ...บุ...ร..เิ .ว..ณ...โ..พ...ร..ง.อ...า..ก..า..ศ...ข..า้..ง.จ..ม...กู ..เ.ก...ดิ ..ก...า..ร..อ..ัก..เ..ส..บ.....
..จ..า..ก...ก..า..ร..ต...ิด..เ..ช..้ือ..แ...บ...ค..ท...ีเ.ร..ีย..ท...่ีผ..่.า.น...เ..ข..้า..ม..า..ท...า..ง..ก...ร..ะ..บ...ว..น..ก...า..ร..ห...า..ย..ใ..จ...ท...า..ใ..ห..้.ม..ีอ...า..ก..า..ร..ค...ัด..จ...ม..ูก....ม..ีน...้า..ม...ูก..ข..้.น...
..ป...ว..ด..บ...ร..ิเ.ว..ณ....จ..ม..ูก....ต...า...โ.ห...น...ก..แ..ก...ม้ ....ห..น...้า..ผ..า..ก....แ..ล...ะ..ฟ...ัน....ล..ม...ห..า..ย...ใ.จ..ม...ีก..ล...น่ิ ..เ..ห..ม...น็ ....ม..ีว..ิธ..กี..า..ร..ร..กั...ษ..า..โ..ด..ย..ก...า..ร..ใ.ช...้ ..
..ย..า..พ...่น....ย..า..ร..บั...ป...ร..ะ..ท..า..น....ห...ร..อื ..ก...า..ร..ผ..า่ ..ต..ดั.................................................................... .................................
.............-..โ..ร..ค...จ..ม..ูก...อ..ัก...เ.ส..บ...ช...น..ดิ ...แ..พ...้ ..(.a..l.l.e..r..g..i.c...r.h...in...i.t.i.s..)..เ.ป...็น...โ.ร..ค..ท...่ีม..กี...า..ร..อ..กั ...เ.ส..บ...ข...อ..ง..เ.น...อ้ื ..เ..ย..่ือ...จ..ม..กู...ท...า..ใ.ห...้ ...
..ม..ีอ...า..ก..า...ร..บ..ว...ม..แ...ด..ง..แ...ล..ะ..ม...ีเ.ม...ือ...ก..ภ...า..ย..ใ..น...โ.พ...ร..ง..จ...ม..ูก...ม..า..ก...ก..ว..่.า..ป..ก...ต..ิ..ม..ี.ส..า..เ..ห..ต...ุ เ..ก..ิด...จ..า..ก..ก...า..ร..ต...ิด..เ..ช..ื้อ...ร..ะ..บ...บ.....
..ท...า..ง..เ.ด...ิน...ห...า..ย..ใ..จ....เ.ก...ิด..จ...า..ก...โ.ร..ค...ภ...ูม..ิ.แ..พ...้..ห..ร..ื.อ..ก...า..ร..เ.ป...ล...ี่ย..น...แ...ป...ล..ง..ท...า..ง..อ...า..ก..า..ศ.....ม..ีว..ิ.ธ..ีก..า...ร..ร..ัก..ษ.. .า..โ.ด...ย...ก..า..ร.....
..ห...ล..ีก..เ..ล..ีย่..ง..ส...า.ร...ก..่อ..ภ...มู..ิแ...พ..้..ก..า..ร..ใ..ช..้ย..า....ห..ร..อื...ก..า..ร..ใ..ห..ว้..คั...ซ..นี...ภ..มู...แิ ..พ...้ใ.น...ผ..ูป้...ว่..ย..ท...่ีม..อี..า..ก...า..ร..ร..ุน..แ...ร..ง...........................

4. โรคที่เก่ียวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก เก่ียวกับผิวหนัง ได้แก่อะไรบ้าง แตล่ ะโรคมีแนวทางในการ

ดูแลและรักษาโรคอย่างไร
..แ..น...ว..ค...า..ต...อ..บ...........................................................................................................................................
.............-...เ.ก...ล...ื้อ..น.....(.T..i.n...e..a....v..e..r.s..i.c..o..l..o..r..)..เ..ก..ิด...จ..า..ก...เ.ช...ื้อ....M...a...l.a...s.s..e...z..ia....s..p..p.....ท...า..ใ..ห..้ผ...ู้ป..่.ว..ย..ม...ีผ..ื่.น..ข...ึ้น...ต..า..ม.....
..ผ..ิ.ว..ห...น..ัง..ใ..น...บ..ร..ิ.เ.ว..ณ....ท..ี่ม...ีต..่.อ..ม...ไ.ข...ม..ัน...ม...า..ก....เ.ช...่น....ห...น...้า..อ..ก....ห...ล..ั.ง...ไ..ห..ล...่ .ซ...อ...ก..ค...อ....ล..า..ค...อ....ต..้น...แ...ข..น....ห...น...้า..ท..้อ...ง...
..ใ..บ..ห...น...้า...แ...ล..ะ..ผ...ู้ป...่ว..ย..อ...า..จ..ม...ีอ..า..ก...า..ร..ค..ัน...ใ..น..ช...่ว..ง..ท...ี่ม..ีเ..ห..ง..ื่อ...อ..อ...ก..ม...า..ก....ม..ีว..ิธ...ีก..า..ร..ร..ัก...ษ...า..โ.ด. .ย...ก..า..ร..ใ..ช..้ย...า..แ..บ...บ...ท..า.....
..(.ใ..น..ก...ร..ณ...ีท...ี่ม..ีผ...ื้น..ไ..ม..่.ม..า..ก..)...ย..า..แ...บ..บ...ด...ิน....(.ใ.น...ก..ร..ณ....ีท...่ีม..ีผ..่ืน...ม...า..ก..แ..ล...ะ..เ.ป...็น...บ..ร..ิเ..ว..ณ....ก..ว..้า..ง..)...ห..ร..ือ..อ..า..จ...ใ.ช...้ส..ม...ุน..ไ..พ...ร....
..ร..กั ..ษ...า..โ.ร..ค...เ.ก..ล..ื้อ...น.....................................................................................................................................
.............-...โ.ร...ค..เ..ร..ิม....(.h...e..r.p...e..s..)..เ..ก..ิด...จ..า..ก...ก..า..ร..ต...ิด..เ.ช...้ือ..ไ..ว..ร..ัส....H...P..V....(.H...e..r..p..e..s...S...im....p...l.e..x...V...i.r.u..s..)...ผ..ู้ป...่ว..ย..จ...ะ..ม..ี...
..ต..ุ่ม...น...้า..ใ.ส...บ..ร..ิเ..ว..ณ...ท...ี่ต..ิด...เ.ช...้ือ...เ..ช..่น....ป...า..ก....อ..ว..ัย...ว..ะ..เ..พ..ศ....ท...ว..า..ร..ห...น..ั.ก...ต...้น...ข..า...ท...า..ใ..ห..้ม...ีอ..า..ก..า..ร..ป...ว..ด....แ..ส...บ..ท...ี่แ..ผ...ล.....
..โ..ร..ค..เ.ร..ิม...เ.ป...็น..โ..ร..ค..ผ...วิ ..ห...น..ัง..ท...ี่ไ.ม...ส่ ..า..ม..า..ร...ถ..ร..ัก..ษ...า..ใ.ห...้ห...า..ย..ข...า..ด...เ..น..่อื...ง..จ..า.ก...เ.ช..ือ้...ไ.ว..ร..สั...จ..ะ..ย...ัง..ค..ง..แ..ฝ...ง.อ...ย..ู่ใ..น..ร..า่..ง..ก..า..ย.....
..แ..ม...้อ..า..ก...า..ร..ข..อ..ง..โ..ร..ค..จ...ะ..ส..ง..บ...ล..ง..แ..ล...้ว...แ...ล..ะ..อ...า..จ..จ..ะ..ก...ล..ับ...ม..า..แ...ส..ด...ง.อ...า..ก..า..ร..อ...ีก..ห...า..ก..ร..่า..ง..ก..า. .ย..ม...ีร..ะ..บ...บ..ภ...ูม..ิค...ุ้ม..ก...ัน.....
..อ..่อ...น..แ...อ...ก...า..ร..ร..กั ..ษ...า..จ..ึง..เ.ป...็น..ก...า..ร..บ..ร..ร..เ..ท..า..อ..า..ก...า..ร..เ.จ..บ็...ป...ว..ด..แ..ล...ะ..ค..ว...บ..ค...ุม..ก..า..ร..แ...พ...ร..่ก..ร..ะ..จ..า..ย...ข..อ..ง..เ..ช..ือ้ ..ไ..ว..ร..ัส..........
.............-...โ..ร..ค..อ...ีส..ุ.ก..อ..ี.ใ.ส.....(.c..h..i.c..k..e..n...p..o...x../.v...a..r.i.c..e..l..l.a..)..เ..ป...็น..โ..ร..ค...ต..ิด...ต..่อ...ท..า..ง..ผ...ิว..ห...น..ัง..ท...ี่เ.ก..ิด...จ..า..ก...ก..า..ร..ต...ิด..เ..ช..้ือ.....
..ไ..ว..ร..ัส..ว..ีซ...ีว..ี .(.V...a..r.i.c..e..l..l.a...Z...o...s.t..e..r...V..i.r.u...s..:..V..Z...V..)...ผ..ู้ป...ว่..ย...จ..ะ..เ.ก...ิด..ผ...ืน่ ..เ..ป..็น...จ..ุด...แ..ด..ง....ๆ...ต...า..ม..ร..่า..ง..ก..า..ย..แ...ล..ะ..จ...ะ..เ.ร..ิ่ม.....
..ก..ล...า..ย..เ.ป...น็...ต..ุ่ม...พ..อ...ง.ข...น..า..ด...เ.ล..็ก...ท...ี่ม..นี...้า..ใ.ส.....อ...ีก..ท...ัง้ .ย..ัง..ม...ีอ..า..ก..า..ร..ไ..ข..ต้...่า...ร..สู้..กึ...ค..ร..ั่น...เ.น...ื้อ..ค..ร..ัน่...ต...ัว...เ.ห...น..ื่.อ..ย..ง..่า..ย....ป..ว...ด....
..ศ..ี.ร..ษ...ะ...แ...ล..ะ...เ.จ..็.บ..ค...อ....โ..ด..ย...ท..ั่.ว..ไ.ป...ก...า..ร..ร..ัก...ษ...า..โ.ร..ค...อ...ีส..ุก...อ..ีใ..ส..เ..ป...็น..ก...า..ร..ป...ร..ะ...ค..ับ...ป...ร..ะ..ค...อ. .ง..ต..า..ม...อ...า..ก..า..ร..ท...่ีเ..ก..ิด.....
..ข..ึ้น...ก..ับ...ผ..ู้ป...่ว..ย...เ.ป...็น..ห...ล..ัก....เ..พ..่ือ...ช..่ว..ย...บ..ร..ร..เ..ท..า..อ...า..ก..า..ร..ข...อ..ง..โ.ร..ค...ใ.ห...้ด...ีข..ึ้น....เ..ช..่น....ก..า..ร..ท...า..น...ย..า..ใ..น..ก...ล.ุ่ม...ต..้า..น...ก..า..ร...อ..ับ.....
..เ.ส...บ....ก...า..ร..ใ.ช...้ย..า..ท...า..ภ...า..ย..น...อ...ก..เ..พ..่ือ...ล..ด...อ..า..ก...า..ร..ค...ัน..แ...ล..ะ...เ.ก..็บ...ค...ว..า..ม...ช..้ืน...แ..ก. .่ผ...ิว..ห...น..ัง....แ..ต...่ใ.น...ผ..ู้.ป..่ว..ย...ท...ี่ม..ีอ...า..ก..า..ร.....
รุนแรงอาจต้องใชย้ าในกลุ่มตา้ นไวรัสเพื่อช่วยฆ่าเชอื้

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรับความรสู้ กึ (2) 39

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
ชุดที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2)

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น
ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10  10 

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม

ชดุ ที่ 7 อวยั วะรบั ความรสู้ กึ (2) 40

ประวัติยอ่ ผูจ้ ดั ทา

ชอ่ื – สกลุ นางสาวนภศร เสรีกลุ
วนั เดือน ปี เกิด วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2528
สถานทีเ่ กิด อาเภอชานุมาน จังหวัดอานาจเจริญ
สถานที่อยู่ปัจจบุ ัน บา้ นเลขท่ี 26 หมู่ 7 บา้ นโคกนกกระเต็น
ตาบลโคกสาร อาเภอชานมุ าน จังหวดั อานาจเจรญิ
ตาแหน่งหน้าที่ปัจจุบัน ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
สถานท่ีทางานปจั จุบนั โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม ตาบลโนนกลาง
อาเภอพบิ ลู มงั สาหาร จงั หวัดอุบลราชธานี
ประวัตกิ ารศึกษา
พ.ศ. 2540 ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนชมุ ชนโคกสารวทิ ยา ตาบลโคกสาร
อาเภอชานุมาน จังหวัดอานาจเจรญิ
พ.ศ. 2543 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นชุมชนโคกสารวิทยา ตาบลโคกสาร
อาเภอชานมุ าน จงั หวดั อานาจเจริญ
พ.ศ. 2546 มธั ยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชานุมานวิทยาคม
อาเภอชานมุ าน จงั หวัดอานาจเจรญิ
พ.ศ. 2551 ปริญญาครศุ าสตรบ์ ัณฑติ (ค.บ.) สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์
(ชวี วิทยา) ถาบันราชภัฏอุบลราชธานี จงั หวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2558 ปริญญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ (ศษ.ม.)
สาขาวชิ าบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
กรงุ เทพมหานคร

โดย : นางสาวนภศร เสรกี ลุ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นโนนกลางวทิ ยาคม


Click to View FlipBook Version