The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-05-11 05:02:13

4_ระบบประสาท

4_ระบบประสาท

ชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์

ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

เรอ่ื ง ระบบอวยั วะตา่ ง ๆ ในร่างกายมนุษย์

ชุดที่ 4 ระบบประสาท

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 3 รหสั วิชา ว22101 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2

นางพัชรี คณู ทอง
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ
โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม อาเภอพบิ ูลมังสาหาร จังหวดั อบุ ลราชธานี
สังกัดองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดอบุ ลราชธานี

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 จัดทาขึ้นเพื่อเปน็ สอื่ นวตั กรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว22101 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ใน
รา่ งกายมนษุ ย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพ่อื พฒั นาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และพัฒนา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลด
บทบาทของครูตามแนวทางการปฏริ ูปการเรียนรู้ท่ียึดผู้เรยี นเปน็ สาคัญ เป็นกิจกรรม การเรยี นรู้
ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนา
ตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้
กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการส่ือสาร
การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตวิทยาศาสตร์
คุณธรรมและคา่ นิยมที่ถกู ต้องเหมาะสม

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีจะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองอาหารกับการดารงชีวิตได้เป็นอย่างดี มีทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึน สามารถใช้เพื่อศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เป็นส่ือท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์
ของหลักสูตรได้

ผจู้ ัดทาขอขอบพระคุณผูท้ ่ีมีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านท่ีให้การสนับสนุน ใหค้ าแนะนา
และเป็นที่ปรึกษาที่ดีในการจัดทาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การพัฒนาปรับปรุง/
ตรวจสอบแก้ไข จนได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์
ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับนักเรียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรม
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน เพื่อนร่วมวิชาชีพ ตลอดจนผู้สนใจ
ในการนาไปพฒั นาผู้เรียนใหเ้ กิดการเรียนรทู้ ม่ี ปี ระสิทธภิ าพต่อไป

พชั รี คูณทอง

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ก

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

สำรบญั

เรือ่ ง หนำ้
คำนำ ก
สำรบญั ข
คำชี้แจงเกยี่ วกบั กำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์ ค
แผนภูมิลำดบั ขัน้ ตอนกำรใชช้ ุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ง
คำช้ีแจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตรส์ ำหรับครู จ
คำชี้แจงกำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรียนรูว้ ทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนักเรยี น ช
1
สาระการเรยี นรู้/มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั 1
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สู่ตวั ชวี้ ดั 2
สาระสาคญั 3
แบบทดสอบกอ่ นเรียน 6
บตั รเนื้อหา ชุดที่ 4 เร่อื ง ระบบประสาท 21
บตั รกิจกรรมที่ 4.1 เร่อื ง รา่ งกายจะมีปฏกิ ริ ิยาอย่างไรเม่ือถูกเคาะบรเิ วณหัวเข่า 23
บตั รกจิ กรรมท่ี 4.2 เรื่อง การตอบสนองต่อส่งิ เร้า 25
บัตรกิจกรรมท่ี 4.3 เรื่อง ระบบประสาท 27
แบบทดสอบหลงั เรยี น 30
กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 31
บรรณำนกุ รม
33
ภำคผนวก 34
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 4.1 เร่ือง รา่ งกายจะมีปฏกิ ริ ิยาอยา่ งไรเมอื่ ถกู เคาะ
บริเวณหัวเข่า 36
เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 4.2 เร่ือง ระบบประสาท 39
เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 4.3 เรื่อง ระบบประสาท 41
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน
42
ประวัตยิ ่อผ้จู ดั ทำ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ข

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

คำชแ้ี จงเกีย่ วกบั ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์

1. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ระบบอวัยวะต่าง ๆ ใน
ร่างกายมนุษย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทาข้ึนเพ่ือใช้ประกอบการ
จัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวิชา ว22101 สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2
โดยให้สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) กระทรวงศึกษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝึกทีเ่ หมาะสมกบั ระดับ
และวัย เพ่ือให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพ่ือ
ส่งเสริมเจตคติที่ดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการ
แกป้ ญั หา และสามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้

2. ผู้สอนได้รวบรวมเน้ือหาสาระและกิจกรรม เพ่ือพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์
จากหนังสือและแหล่งความรู้ต่าง ๆ นามาจัดทาเป็นเอกสารประกอบการเรียนให้เหมาะสมกับ
ผู้เรียน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ เกิดทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีสารวจตรวจสอบข้อมลู การคดิ แก้ปัญหา ตลอดจนการเสรมิ สร้าง
จิตวิทยาศาสตร์ ผู้สอนหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้ จะก่อให้เกิด
ประโยชน์ ต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้มีคุณภาพต่อไป
ซึง่ ประกอบดว้ ยชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน 5 ชดุ ดงั น้ี

ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
ชดุ ที่ 2 เร่อื ง ระบบหายใจ
ชดุ ที่ 3 เรื่อง ระบบขับถา่ ย
ชุดท่ี 4 เรื่อง ระบบประสาท
ชดุ ที่ 5 เร่ือง ระบบสืบพนั ธ์ุ
3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีเป็น ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ชุดท่ี 4
เรื่อง ระบบประสำท ใชเ้ วลำ 3 ชั่วโมง
4. ผู้ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์นีค้ วรศึกษาขัน้ ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
อย่างละเอียดกอ่ นใช้
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะมีประโยชน์ต่อ
นักเรียนและผู้สนใจท่ีจะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
วิทยาศาสตรใ์ ห้มีคุณภาพมากยิ่งขึน้ ต่อไป

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ค

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

แผนภมู ิลำดับข้ันตอนกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์

อ่านคาช้ีแจงและคาแนะนาในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์

ศึกษาตัวช้ีวดั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เสริมพน้ื ฐำน
ทดสอบก่อนเรียน ผู้มีพื้นฐำนตำ่

ศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ตามขั้นตอน

ประเมนิ ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้จากชดุ กิจกรรม

ไม่ผ่ำน ทดสอบหลงั เรียน
กำรทดสอบ

ผ่ำนกำรทดสอบ

ศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์เรือ่ งตอ่ ไป

แผนภูมิลำดบั ขัน้ ตอนกำรเรยี นโดยใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ชดุ ท่ี 4 เรื่อง ระบบประสำท

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ ง

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

คำชแี้ จงกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรส์ ำหรับครู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดที่ 4 เร่ือง ระบบ
ประสำท ใชเ้ วลำในกำรทำกิจกรรม 3 ช่ัวโมง ซึง่ นักเรียนจะได้สารวจ สังเกตและรวบรวม ข้อมูล
มาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา ผ่านทาง
กระบวนการกลุ่ม เพื่อช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์และมี
ประสิทธภิ าพ ครผู สู้ อนควรดาเนินการดงั น้ี

1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือที่ครูผู้สอนสามารถนาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในการ
จดั กจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ

2. ครูผูส้ อนเตรียมสื่อการเรียนการสอนให้พร้อม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซึ่งนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเว้นส่อื การสอนท่ตี ้องใช้รว่ มกัน
4. ครูต้องช้ีแจงใหน้ ักเรียนรู้เก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดังน้ี

4.1 ศึกษาบทบาทของนักเรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรยี นรู้โดยใช้
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้

4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับขั้นตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพ่ือจะได้ทราบ
วา่ จะปฏบิ ัตกิ จิ กรรมอะไร อย่างไร

4.3 นักเรียนต้องตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกัน ไม่รบกวนผู้อนื่ และไมช่ กั ชวนเพ่ือนใหอ้ อกนอกล่นู อกทาง

4.4 หลังจากปฏิบัตกิ ิจกรรมแลว้ นักเรยี นจะต้องจัดเก็บอปุ กรณ์ทกุ ชิน้ ให้เรียบรอ้ ย
4.5 เมื่อมกี ารประเมนิ ผลนกั เรียนต้องปฏบิ ัติตนอย่างตัง้ ใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) แบ่งออกเป็น 5
ขนั้ ตอน ดังนี้
5.1 ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ
5.2 ขั้นที่ 2 ขั้นสารวจและคน้ หา
5.3 ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ จ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

5.4 ข้ันท่ี 4 ขั้นขยายความรู้
5.5 ข้ันท่ี 5 ขน้ั ประเมิน
6. ขณะท่ีนกั เรียนทุกกล่มุ ปฏิบัติกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เป็นรายกลมุ่ หรอื รายบคุ คล ตอ้ งไม่รบกวนกิจกรรมของนักเรียนกลุ่มอน่ื
7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรือกลมุ่ ใดมปี ญั หาควรเข้าไปให้ความช่วยเหลอื จนปัญหานั้นคลี่คลายลง
8. การสรุปผลท่ีไดจ้ ากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเปน็ กิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตวั แทนของกลุ่มร่วมกัน ครคู วรเปดิ โอกาสให้นักเรียนแสดงออกให้มากที่สดุ
9. ประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น เพื่อตรวจสอบผลการเรียนร้ขู องนักเรียน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ฉ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

คำชีแ้ จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรูว้ ทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนักเรียน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีนักเรียนได้ศึกษาต่อไปนี้คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชุดท่ี 4 เรื่อง ระบบประสำท ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต
และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นักเรียนควรปฏิบัติตาม
คาชแ้ี จง ดงั ต่อไปน้ี

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 เรื่อง ระบบประสำท ใช้เวลำจัด
กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 3 ชว่ั โมง

2. นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน จานวน 10 ข้อ
3. นักเรยี นทากจิ กรรมเปน็ รายกลมุ่ และศกึ ษาวธิ ดี าเนินกจิ กรรมให้เขา้ ใจ
4. นกั เรยี นปฏิบัติกจิ กรรมในชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
5. นักเรียนทากิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ใหค้ รบ
6. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน จานวน 10 ขอ้

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ช

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

สาระการเรียนรู้ / มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ / สาระสาคัญ

ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิตหน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิตการลาเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ
ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กันความสัมพันธ์ของโครงสร้างและ
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กันรวมทั้งนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

ตวั ชว้ี ัด ระบอุ วยั วะและบรรยายหนา้ ทขี่ องอวัยวะในระบบประสาทสว่ นกลางในการ
ว 1.2 ม.2/10 ควบคุมการทางานต่าง ๆ ของรา่ งกาย
ตระหนักถึงความสาคัญของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการ
ว 1.2 ม.2/11 ดูแลรักษา รวมถึงการป้องกันการกระทบกระเทือน และอันตรายต่อสมอง
และไขสนั หลงั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ู่ตัวช้ีวัด

1. อธบิ ายโครงสร้างและหนา้ ที่ของอวัยวะในระบบประสาทได้ (K)
2. บอกองค์ประกอบของระบบประสาทของมนุษยไ์ ด้ (K)
3. อธิบายการทางานของระบบประสาทได้ (K)
4. เขยี นการทางานของระบบประสาทอย่างเป็นลาดบั ขนั้ ได้ (P)
5. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของระบบประสาทและการดแู ลรักษาอวยั วะในระบบประสาท
(A)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

1

ชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

6. สนใจใฝร่ ใู้ นการศกึ ษา (A)
7. เปน็ นักใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการเรยี นรู้ เพื่อหาคาตอบอยา่ ง
สนุกสนาน (A)

สาระสาคัญ
ระบบประสาทประกอบด้วยสมองทาหน้าท่ีควบคุมการทางานของร่างกาย ไขสันหลังทา

หน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาท และเส้นประสาททาหน้าที่รับส่งกระแสประสาท ซึ่งมีเซลล์ประสาทอยู่
จานวนมาก การทางานของระบบประสาทเกิดจากการส่งกระแสประสาทจากอวัยวะรับความรูส้ กึ ไปยัง
ไขสันหลังและ ส่งต่อไปยังสมอง จากน้ันสมองส่งกระแสประสาทผ่านไขสันหลังไปยังหน่วยปฏิบัติการ
ต่าง ๆ ระบบประสาทเก่ียวข้องกับการทางานของทุกระบบจึงควรป้องกันการกระทบกระเทือนของ
สมองและไขสันหลัง หลีกเล่ียงการใช้สารเสพติด และภาวะเครียด เพื่อดูแลรักษาระบบประสาทให้
ทางานอย่างเปน็ ปกติ

ระบบประสาทของมนุษย์ประกอบด้วยสมอง และไขสันหลัง สมองแบ่งเป็น สมองส่วน
หน้า ส่วนกลาง และส่วนท้าย

พฤติกรรม หมายถึง กิริยาของสิ่งมีชีวิตที่แสดงออกมาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น
เพ่ือความอยู่รอด

สิ่งเร้าภายนอก ได้แก่ แสง อุณหภูมิ และการสัมผัส ส่วนส่ิงเร้าภายใน ได้แก่ ฮอร์โมน
ตัวอย่างพฤติกรรม เช่น การเคลื่อนไหว การสัมผัส การมองเห็น การหายใจ การได้ยิน
การดมกล่ิน การรับรส การกระดิกหาง การแยกเข้ียว การร้อง
การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การปรับตัวชั่วคราว และการ
ปรับตัวถาวร

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

2

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 4 ระบบอวัยวะในร่างกายของเรา
เวลา 10 นาที
เรอื่ ง ระบบประสาท 10 คะแนน

คาช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาท่ใี ช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสดุ แล้วเขยี นเคร่ืองหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. ขอ้ ใดเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกบั ระบบประสาท
ก. สมอง ไขสนั หลัง และเซลล์ประสาท
ข. สมองและเสน้ ประสาท
ค. สมองและไขสนั หลัง
ง. สมอง

2. สว่ นประกอบ A และ B ในเซลล์ประสาทคือส่วนใด

ก. A – แอกซอน B – เดนไดรต์
ข. A – เดนไดรต์ B – แอกซอน
ค. A – นิวเคยี ส B – เดนไดรต์
ง. A – นิวเคียส B – แอกซอน

3. ข้อใดคือศูนยค์ วบคมุ ระบบประสาทส่วนกลาง
ก. สมอง
ข. ไขสันหลัง
ค. ใยประสาท
ง. ถูกต้องทัง้ ขอ้ ก และ ข

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

3

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

4. ข้อใดจับครู่ ะหว่างชนิดของเซลล์ประสาทและหน้าท่ไี ดไ้ มถ่ กู ตอ้ ง
ก. เซลลป์ ระสาทนาคาส่ัง-นากระแสประสาทออกจากระบบประสาทส่วนกลางไปยังหนว่ ย
ปฏิบตั ิงาน
ข. เซลลป์ ระสาทประสานงาน-รับกระแสประสาทจากเซลลห์ น่งึ ส่งไปยงั อกี เซลล์หน่งึ
ค. เซลล์ประสาทนาคาสั่ง-นากระแสประสาทจากหน่วยปฏบิ ัติงานเข้าสู่ระบบประสาท
สว่ นกลาง
ง. เซลลป์ ระสาทรบั ความรู้สึก-รบั ความรูส้ กึ จากส่วนต่างๆ แล้วส่งไปยงั ระบบประสาท
ส่วนกลาง

5. นิชาดาประสบอุบัตเิ หตุทางรถยนตท์ าใหก้ ลายเป็นผู้ป่วยความจาเส่อื มชั่วคราว อาการ
ความจาเส่อื มของนิชาดาน่าจะมาจากการท่สี มองสว่ นใดได้รบั การกระทบกระเทือน

ก. พอนส์
ข. เซรีบรมั
ค. เซรเี บลลัม
ง. เมดลั ลา ออบลองกาตา

6. สมองส่วนใดทีท่ าหนา้ ท่ีเป็นศนู ย์ควบคุมการทางานของระบบประสาทอตั โนมัติ
ก. เมดลั ลา ออบลองกาตา
ข. เซรีเบลลมั
ค. เซรบี รมั
ง. พอนส์

7. ทุกครง้ั หลงั การดม่ื สรุ าสุรตั นจ์ ะมีอาการเดนิ เซไม่ตรงทาง เปน็ เพาะฤทธขิ์ องแอลกอฮอล์
สง่ ผลกระทบต่อสมองสว่ นใด

ก. พอนส์
ข. เซรบี รมั
ค. เซรีเบลลมั
ง. เมดัลลา ออบลองกาตา

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ

4

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

8. บคุ คลที่มีปญั หาเก่ยี วกับการหลง่ั น้าลายและการเคลอื่ นไหวใบหนา้ แสดงวา่ สมองส่วนใดมี
ปัญหา

ก. เมดลั ลา ออบลองกาตา
ข. เซรเี บลลมั
ค. เซรีบรมั
ง. พอนส์

9. การกระทาทกุ ข้อภายใตก้ ารควบคุมของระบบประสาทอัตโนมัติ ยกเวน้ ข้อใด
ก. การพูด
ข. ปัสสาวะ
ค. อาการขนลกุ
ง. การชกั เท้าหนเี มอื่ เหยยี บตะปู

10. เส้นประสาทสมองของสัตวเ์ ลี้ยงลกู ดว้ ยนา้ นมมีทง้ั หมดกค่ี ู่
ก. 11 คู่
ข. 12 คู่
ค. 13 คู่
ง. 14 คู่

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

5

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

บตั รเน้ือหา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท (Nervous system)

ในการดารงชีวิตประจาวันของมนุษย์มีการรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ รอบตัวอยู่
ตลอดเวลา เช่น เมื่ออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ความร้อนจากดวงอาทิตย์จะกระตุ้นใหค้ วามรู้สึกร้อน
และมีเหง่ือออก และเมื่อได้กล่ินอาหาร กล่ินอาหารจะกระตุ้นให้รู้สึกหิว ท้ังนี้เน่ืองจกมนุษย์มีระบบ
ประสาทท่รี บั รู้และตอบสนองต่อสง่ิ เร้าที่มากระตนุ้

ระบบประสาทประกอบดว้ ย สมอง (Brain) ไขสนั หลงั (spinal cord) และเส้นประสาท
(nerve) ดังภาพที่ 4.1 ซึ่งจะทาหน้าท่ีร่วมกันในการควบคุมการทางานของอวัยวะทุกอวัยวะของ
รา่ งกาย รวมถงึ การแสดงพฤตกิ รรมของมนุษยเ์ พ่ือตอบสนองต่อสง่ิ เรา้

ระบบประสาท
สว่ นกลาง

ระบบประสาทรอบนอก
เสน้ ประสาท

ภาพที่ 4.1 ระบบประสาทของมนุษย์
ท่ีมา : หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เลม่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 88)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

6

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

มนุษย์และสัตว์มีการตอบสนองตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มท้งั ภายในและภายนอกร่างกาย โดยการแสดง
พฤติกรรมต่างๆ ออกมา ซ่ึงพฤติกรรมที่แสดงออกมาน้ันเกิดจากการทางานของระบบประสาทใน
การตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ระบบประสาทของมนุษย์ประกอบด้วย สมอง ไขสันหลังและ
เสน้ ประสาท ดงั ภาพท่ี 4.2

ภาพที่ 4.2 ระบบประสาทของมนษุ ย์
ทีม่ า : http://www.med.cmu.ac.th/dept/vascular/human/lesson/lesson5.php

หน่วยย่อยท่ีสาคัญของสมองและไขสันหลัง ได้แก่ เซลล์ประสาท (neuron หรือ nerve
cell) ซ่ึงมีอยู่เป็นจานวนมากมายหลายพันล้านเซลล์ เซลล์ประสาทมีลักษณะและส่วนประกอบ
ของเซล์ ดังภาพ 4.3

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

7

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

ภาพท่ี 4.3 เซลลป์ ระสาท
ทมี่ า : หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 88)

เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์ (cell body) และส่วนท่ีย่ืนออกมาจากตัวเซลล์
ที่เรียกว่า เส้นใยประสาท (nerve fiber) ส่วนท่ีเป็นตัวเซลล์ของเซลล์ประสาทประกอบด้วย
ไซโทพลาซึมและนิวเคลียสส่วนเส้นใยประสาทมี 2 ชนิดคือ เดนไดรต์ (dendrite) และแอกซอน
(axon) โดยเดนไดรต์จะทาหนา้ ทรี่ บั กระแสประสาทและแอกซอนทาหน้าท่ีส่งกระแสประสาท

การเคล่ือนที่ของกระแสประสาทจะอยู่ในรูปของสัญญาณทางไฟฟ้าซ่ึงจะเคล่ือนจากเซลล์
หน่งึ ไปยงั อีกเซลลห์ นึ่งดังภาพท่ี 4.3 ระหว่างเซลล์ประสาทจะมีช่องวา่ งแคบ ๆ ซงึ่ กระแสประสาทไม่
สามารถเคล่ือนท่ีผ่านไปได้โดยตรงต้องอาศัยสารเคมีที่สร้างจากบริเวณปลายแอกซอนเพื่อไปกระตุ้น
ให้เกิดกระแสประสาทในเซลล์ถัดไปโดยขณะท่ีกระแสประสาทเคลื่อนมาถึงบริเวณปลายแอกซอน
สารเคมีดงั กล่าวจะแพรผ่ ่านช่องวา่ งแคบ ๆ ไปยังปลายเดนไดรต์ของอกี เชลล์หน่ึงจึงทาให้เกิดกระแส
ประสาทขึน้ ได-้ ช่องว่างระหว่างเซลล์ประสาท

มนุษย์มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ท้ังภายนอกและภายในร่างกาย ซึ่งการตอบสนอง
เหล่าน้ีเกิดจากการควบคุมและประสานงานของระบบประสาท โดยระบบประสาทจะทาหน้าที่รับ
ความรู้สึกจากสิ่งเร้า และส่งกระแสประสาทตอ่ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วรา่ งกายท่ีทาหน้าที่ตอบสนอง
ตอ่ สง่ิ เรา้ น้ัน ๆ

ระบบประสาท (nervous system) เป็นระบบควบคุมและประสานการทางานของระบบ
อวยั วะต่าง ๆ เพอ่ื รักษาสมดลุ ของร่างกายรวมถงึ ควบคมุ การแสดงพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

8

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

ภาพที่ 4.4 ทิศทางการเคล่ือนที่ของกระแสประสาทจากเซลล์หน่งึ ไปยงั อีกเซลล์หนงึ่
ทม่ี า : หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เลม่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 89)

เซลล์ประสาทแบ่งออกตามหน้าท่ีได้ 3 ชนิด คือเซลล์ประสาทรับความรู้สึก (sensory
neuron) มีหน้าที่รับข้อมูลจากสิ่งเร้า เซลล์ประสาทสั่งการ (motor neuron) มีหน้าที่ส่งกระแส
ประสาทไปยังหน่วยปฏิบัติหรืออวัยวะต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้อที่แขนและขา และเซลล์ประสาท
ประสานงาน (inter neuron) มีหนา้ ท่ีรับและส่งกระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาทรับความรู้สึก
และเซลล์ประสาทส่งั การ

สมองและไขสันหลังเป็นศูนย์กลางควบคุมการทางานของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
จึงเรียกวา่ ระบบประสาทสว่ นกลาง (central nervous system)

1. ระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system หรือ CNS) ประกอบด้วยสมอง
และไขสันหลงั

2. ระบบประสาทส่วนปลาย หรือระบบประสาทรอบนอก (peripheral nervous
system หรือ PNS) ประกอบด้วยเส้นประสาทสมอง (cranial nerve) และเส้นประสาทไขสันหลัง
(spinal nerve) และระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic nervous system หรือ ANS) ระบบ
ประสาทรอบนอกหรือระบบประสาทส่วนปลาย ระบบประสาทรอบนอกประกอบด้วยหน่วยรับ
ความรู้สึกทั้งหมด เส้นประสาทท่ีติดต่อระหว่างหน่วยรับความรู้สึกกับระบบประสาทส่วนกลาง
และเส้นประสาทท่เี ช่ือมโยงระหว่างระบบประสาทส่วนกลางกับหน่วยปฏิบตั งิ าน

ระบบประสาทใต้อานาจจติ ใจ (voluntary nervous system) หรอื ระบบประสาทโซมาติก
(somatic nervous system) ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของกลา้ มเนอ้ื ลาย

ระบบประสาทอัตโนมัติ (Involuntary nervous system หรือ Autononic nervous
system) หรือ ระบบประสาทนอกอานาจจติ ใจ ควบคุมการทางานของกลา้ มเนื้อเรยี บระบบประสาท

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

9

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

อัตโนมัติประกอบด้วยระบบซิมพาเทติก (sympathetic system) และระบบพาราซิมพาเทติก
(parasympathetic system)

โครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของอวัยวะในระบบประสาท
1. สมอง
สมองอยู่ภายในกะโหลกศีรษะ มนี ้าหนกั ประมาณ 1.3 – 1.4 กโิ ลกรมั แบ่งออกเปน็ ส่วน ๆ

แต่ละส่วนจะทาหน้าท่ีแตกต่างกนั
สมองประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ซีรีบรัม ซีรีเบลลัม และก้านสมอง โดยซีรีบรัม

(cerebrum) เป็นส่วนที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุดของสมอง ทาหน้าท่ีเก่ียวกับการจา การคิด สติปัญญา
การตัดสินใจ ความมีเหตุผล การพูด การเคลื่อนไหว การรับรู้และการตอบสนอง และอ่ืน ๆ
ซีรีเบลลัม (cerebellum) ทาหน้าที่เก่ียวกับการควบคุมการทรงตัวและการเคล่ือนไหวของ
กล้ามเนื้อต่าง ๆ ส่วนก้านสมอง (brain stem) ทาหน้าท่ีควบคุมการหายใจ การเต้นของหัวใจ
ความรสู้ ึกรอ้ นหนาว และอุณหภมู ขิ องรา่ งกาย

สมองแบ่งออกเปน็ 3 ส่วน

1. สมองส่วนหน้า (forebrain หรือ prosencepphalon) ประกอบด้วยเทเลนเซ
ฟาลอน (telencephalo)และไดเอนเซฟาลอน (diencephalon) เทเลนเซฟาลอนคือสมองใหญ่
(cerebrum) ส่วนไดเอนเซฟาลอนประกอบด้วยไฮโพทาลามัส (hypothalamus)ทาลามัส
(thalamus)

2. สมองส่วนกลาง (midbrain หรือ mesencephalon) ทาหน้าที่เป็นส่วนหน่ึง
ของก้านสมองและเป็นจุดศูนย์กลางของรีเฟลกซ์เกี่ยวกับการมองเห็น (visual reflex) และรีเฟลกซ์
เก่ยี วกับการไดย้ นิ (auditory reflex) ประกอบดว้ ยเซรีบรัมพีดังเคลิ (cerebralpeduncle) และคอร์
พอราควอไดร์เจอมินาร์ (corpora quadrigermina) ซึ่งแบ่งออกเป็น คอลิคูไลด์ (superior
colliculi) 2 พู ( lob) และอนิ ฟีเรยี คอลิคูไลด์ (inferior colliculi) 2 พู

3. สมองส่วนท้าย (hindbrain หรือ rhombencephalon) ประกอบด้วยเมดัลลา
ออบลองกาตา (medulla oblongate) เซรเี บลลัม (cerebellum) และ พอนส์ (pons)
สมอง มี 2 ชั้น (ตรงข้ามกบั ไขสนั หลงั )

1. Gray matter เป็นที่อยู่ของกระแสประสาทและ axon ท่ไี ม่มีเยื่อไมอลิ นิ หุม้
2. White matter เป็นที่อยู่ของ axon ที่มีเย่ือไมอลิ ินหุ้ม

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ

10

ชุดกจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

ภาพท่ี 4.5 สมองส่วนตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์
ทมี่ า : หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2

บรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หนา้ 35)

เยอื่ หุ้มสมอง (Menirges)
1. ชั้นนอก (Pura mater) เหนียว แขง็ แรงมากโดยมหี น้าท่ีป้องกันการ
กระทบกระเทอื น
2. ช้นั กลาง (Arachoid mater) เป็นเยอ่ื บางๆ
3. ชนั้ ใน (Pia mater) มีเส้นเลอื ดแทรกมากมายทาหนา้ ท่สี ่งอาหารไปเลยี้ งสมอง ใน
ระหว่างชั้นกลางกบั ชั้นในจะมีการบรรจุของเหลวท่เี รียกว่า นา้ เล้ยี งสมองไขสันหลัง
โดยจาทาหน้าท่ีให้สมองแลไขสันหลงั เปียกช้อื อยเู่ สมอ

ประกอบดว้ ยเนอ้ื เย่ือ 2 ส่วน คือ
1. White matter เปน็ ส่วนทีม่ สี ีขาวรอบนอก ไม่มีเซลล์ประสาทจะมีเฉพาะใย
ประสาทที่มเี ยอ่ื ไมอิลนิ หุ้ม

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

11

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

2. Gray matter เป็นสว่ นสเี ทา ประกอบด้วยใยประสาทที่ไม่มเี ย่ือไมอิลนิ หุ้ม และตวั
เซลล์ประสาทซ่งึ มที ง้ั ประเภทประสานงานและนาคาส่งั

1. ปกี บน (dorsal horn) เปน็ บรเิ วณรบั ความรู้สกึ
2. ปกี ลา่ ง (ventral horn) เปน็ บรเิ วณนาคาส่งั
3. ปกี ข้าง (lateral horn) เปน็ บรเิ วณระบบประสาทอัตโนวัติ Note

ภาพท่ี 4.6 หนา้ ที่ของสมองสว่ นต่าง ๆ
ทม่ี า : หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2

สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หน้า 90)

เซลล์ประสาท ส่วนประกอบของเซลลป์ ระสาท
1. ตัวเซลล์ (cell body หรือ soma) มีส่วนประกอบเหมือนเซลล์ทั่วๆไป เช่น นิวเคลียส

ไมโตคอนเดีย
2. ใยประสาท (nerve fiber) คือสว่ นของโปรโตพลาสซมึ ของเซลล์ท่ียนื่ ออกไปมี 2 ชนดิ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

12

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

2. ไขสันหลัง (spinal cord) เป็นส่วนที่ต่อจากสมองซึ่งอยู่ภายในกระดูกสันหลังข้อแรก
จนถึงกระดูกบ้ันเอวไขสันหลังมีหน้าท่ีหลักดังนี้ส่งผ่านกระแสประสาทจากหน่วยรับความรู้สึก
(receptor) ไปสู่สมองส่งผ่านกระแสประสาทจากสมองไปสู่หน่วยปฏิบัติงาน (effector) ต่าง ๆ ของ
รา่ งกายเปน็ ศูนย์รเี ฟล็กซ์ (reflex) ซ่ึงเป็นศูนย์ควบคมุ การทางานของร่างกายภายนอกอานาจจิตใจ

ไขสันหลังเป็นส่วนที่ต่อลงมาจากก้านสมองตามแนวยาวภายในช่องของกระดูกไขสันหลัง
ดังภาพ 4.7 หน้าที่หลักของไขสันหลัง คือ เชื่อมต่อการทางานระหว่างสมองกับเส้นประสาท
และส่งสัญญาณจากสมองส่งต่อไปยังเส้นประสาท และส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังสมอง
นอกจากนไี้ ขสนั หลังยงั ทาหน้าท่ีเป็นศูนยก์ ลางควบคมุ การตอบสนองอย่างทันทีทนั ใดของร่างกาย

ภาพท่ี 4.7 ไขสนั หลังของมนุษย์
ท่ีมา : หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2

บริษทั อกั ษรเจริญทศั น์ อจท. จากดั (หน้า 36)

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

13

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

ภาพท่ี 4.8 ตาแหน่งของไขสนั หลงั
ทีม่ า : หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์ (หนา้ 93)

3. เส้นประสาท (nerve) ประกอบด้วยใยประสาท (nerve fiber) หลายอันมารวมกันเป็น
มัดซงึ่ เป็นส่วนท่เี ชื่อมต่อระหว่างสมองและไขสันหลังกับอวัยวะต่าง ๆ ทวั่ ร่างกายทาหน้าท่ีเป็นตัวรับ
ข้อมูลจากสมองและไขสันหลังแล้วส่งต่อไปยังอวัยวะต่าง ๆ หรือรับข้อมูลจากอวัยวะต่าง ๆ แล้ว
ส่งไปยังสมองและไขสันหลังโดยข้อมูลที่เคล่ือนท่ีไปตามเส้นประสาทจะอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟ้า
เรียกว่ากระแสประสาท (nerve impulse)

เส้นประสาท เป็นมัดของเส้นใยประสาทหลาย ๆ มัด รวมกันเป็น เส้นประสาท
โดยเส้นประสาทจะเช่อื มต่อระหว่างอวัยวะต่าง ๆ กับสมองและไขสันหลัง ทาหน้าที่เป็นตัวรับข้อมูล
จากสมองและไขสันหลงั ส่งตอ่ ไปยังอวยั วะตา่ ง ๆ ของร่างกาย หรือรบั ขอ้ มูลจากอวยั วะตา่ ง ๆ แล้ว
ส่งไปยังสมองและไขสันหลัง ข้อมูลท่ีเคล่ือนท่ีไปตามเส้นประสาท อยู่ในรูปสัญญาณไฟฟ้า เรียกว่า
กระแสประสาทเส้นประสาทแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เส้นประสาทสมอง เป็นเส้นประสาท
ท่แี ยกออกจากสมองมี 12 คู่ และเส้นประสาทไขสันหลัง เป็นเสน้ ประสาททแ่ี ยกออกจากไขสันหลังมี
31 คู่

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

14

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

ภาพที่ 4.9 เส้นประสาทสมองและเสน้ ประสาทไขสันหลัง
ทมี่ า : http://decimotenpanm.blogspot.com/2012/12/blog-post.html

เม่ือมีส่งิ เร้า เช่น แสง เสียง อุณหภูมิ กล่ิน รส มากระตุ้น อวัยวะรับสมั ผัส จะทาให้มนุษย์
และสตั วจ์ ะแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมา ซ่งึ สิง่ เร้าแบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่

1. สิ่งเร้าภายนอก (External stimulus) เช่น อุณหภูมิ แสง เสียง สารเคมี ความช้ืน กลิ่น
และแรงดึงดูดของโลก ตัวอย่างพฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสิ่งเราภายนอก ได้แก่ เมื่อแสงสว่างจ้า
มนุษย์จะหรี่ตาเพ่ือลดปริมาณแสงที่เข้าตา ในวันที่อากาศร้อนควายจะนอนแชใ่ นแอ่งน้าเพื่อระบาย
ความร้อน เปน็ ต้น

2. สิ่งเร้าภายใน (Internal stimulus) เช่น การเปลี่ยนแปลงสรีระที่เกิดข้ึนในร่างกาย เช่น
ระดบั ออกซเิ จนในเลือด ฮอรโ์ มน เอนไซม์ ความหิว ตัวอย่างพฤติกรรมท่ีตอบสนองต่อส่ิงเร้าภายใน
ได้แก่ เมื่อไม่มีอาหารในกระเพาะอาหารเราจะรู้สึกหิวแล้วหาอาหารมารับประทาน พฤติกรรมการ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

15

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

จบั คู่ ผสมพนั ธุข์ องสตั ว์ เม่ือสตั วเ์ จริญเตบิ โตเตม็ ที่จะสามารถหลั่งฮอรโ์ มนเพศ สตั ว์จึงเกิดพฤติกรรม
การผสมพนั ธ์ุ เปน็ ตน้

มนุษย์และสัตว์สามารถตอบสนองต่อส่ิงเร้า เช่น แสง เสียง อุณหภูมิ ความดัน ความหิว
ความกระหาย โดยใช้อวัยวะรับความรู้สึก เช่น นัยย์ตารับแสง หูรับเสียง ผิวหนังรับความดัน
และอุณหภูมิ แล้วส่งกระแสประสาทไปตามเส้นประสาท เข้าสู่ไขสันหลังหรือสมอง จากนั้นไขสัน
หลังหรือสมองจะส่งคาสง่ั ไปยับยั้งหรือกระตนุ้ การทางานของต่อมหรืออวัยวะท่ีเก่ียวข้องส่งผลให้เกิด
พฤติกรรมตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าได้

ภาพท่ี 4.10 มัดใยประสาทท่ีประกอบดว้ ยใยประสาทจานวนมากมารวมกนั
ทมี่ า : หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เลม่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

บรษิ ัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 36)

ในสมองและไขสันหลังจะประกอบด้วยเซลล์ประสาทจานวนมาก ซึ่งประกอบด้วยเซลล์
และใยประสาท

ส่วนของระบบประสาทท่ีอยู่นอกสมองและไขสันหลังเรียกว่า ระบบประสาทรอบนอก
(peripheral nervous system) ซ่ึงได้แก่เส้นประสาท เป็นส่วนที่ย่ืนออกมาจากสมองและไขสัน
หลังและเชื่อมไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เส้นประสาทประกอบด้วยมัดของเส้นใยประสาท
หลาย ๆ มัด ดังภาพที่ 4.10 เส้นประสาททาหน้าท่ีรับกระแสประสาทจากสมองและไขสันหลังส่งไป
ยงั อวยั วะต่าง ๆ ของร่างกาย และรับข้อมูลจากอวัยวะต่าง ๆ แล้วส่งไปยงั สมองและไขสนั หลงั

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

16

ชดุ กิจกรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

ภาพท่ี 4.11 เส้นประสาทตัดตามแนวขวาง
ทม่ี า : หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2

สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ (หนา้ 93)

ภาพที่ 4.12 ลกั ษณะของเซลลป์ ระสาท
ที่มา : หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2

บริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 36)

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

17

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

เซลล์แระสารทแต่ละเซลล์จะสานต่อกันเป็นร่างแหเพื่อถ่ายทอดกระแสประสาท
โดยแอกซอนของเซลล์ประสาทจะแตกออกเป็นกิ่งก้านแล้วนาไปแนบชิดกับเดรนไดรต์ของเซลล์
ประสาทอ่ืน ๆ หรือหน่วยปฏิบัตกิ ารต่าง ๆ โดยเรียกบริเวณที่เซลลป์ ระสาทสองเซลล์มาแนบชิดกัน
นีว้ ่า ไซแนปส์ (synapse)

การดแู ลรักษาอวัยวะในระบบประสาท
ระบบประสารทเป็นระบบประสานการทางานของอวัยวะต่าง ๆ ทั่งร่างกายให้เป็นไปอย่าง
ปกติ อยา่ งไรก็ตามถา้ ระบบประสาททางานผดิ ปกติจากการกระทบกระเทือน หรือการรับสารพษิ บาง
ชนดิ ที่สง่ ผลตอ่ การทางานของระบบประสาท อาจส่งผลทาให้เกดิ โรคต่าง ๆ ตามา
โรคอัมพฤกษ์และอัมพาต เป็นภาวะผิดปกติของสมองในการควบคุมการทางานของ
กล้ามเนื้อแขนและขารวมท้ังการรับความรู้สึกต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
การอุดตันของหลอดเลือดอาร์เตอรีในสมองทาให้สมองขาดเลือดและสมองตาย การแตกของหลอด
เลือดอาร์เตอรีในสมองจากความดันเลือดสูงหรือได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ การสูบ
บุหรท่ี าใหเ้ กิดการตบี ตันของหลอดเลือดอาร์เตอรีในสมองหรอื เกิดจากโรคบางโรค เช่น โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหติ สงู โรคหัวใจ และหลอดเลือดเปน็ ต้น
การรักษาโรคอัมพฤกษแ์ ละอัมพาตขึน้ อย่กู ับสาเหตุของการเกิดโรคเช่นหากเกิดจากการแตก
ของหลอดเลือดอาร์เตอรีอาจรักษาโดยใช้การผ่าตัดหากเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดอาร์เตอรี
อาจรักษาโดยใช้ยาสลายลิ่มเลอื ดเป็นต้นรวมทั้งการทากายภาพบาบัดเพ่ือฟื้นฟกู ลา้ มเน้ือบรเิ วณแขน
และขา
โรคอัลไซเมอร์ (alzheimer's disease) เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สมองและเซลล์ประสาท
ในสมองเส่ือมสภาพหรือถูกทาลายทาให้เซลล์สมองและเซลล์ประสาทเล็กลง หรืออาจรุนแรงถึงขั้น
เซลลส์ มองตาย สง่ ผลตอ่ การทางานท่ีผิดปกติของสมอง และทาให้เกดิ อาการความจาเสื่อม ซึ่งปจั จัย
เส่ียงท่ีทาให้เซลล์สมองและเซลล์ประสาทในสมองเสื่อมสภาพมีหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม
การด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่มีสารอาหารบารุงสมอง
ขาดการออกกาลังกาย เปน็ ตน้ ซ่งึ ส่วนใหญ่โรคอัลไซเมอร์จะพบในผสู้ งู อายุ
ปจั จุบันโรคอัลไซเมอร์ยังไม่มีวธิ ีการรักษาให้หายขาด มีเพียงการใช้ยาและการบาบัดท่ีช่วย
บรรเทาอาการผ้ปู ่วยเทา่ นนั้ หรืออาจชว่ ยให้พัฒนาการของโรคเกดิ ช้าลงได้

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ

18

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

ภาพที่ 4.13 การแตกของหลอดเลอื ดอาร์เทอรี่ในสมอง
ท่ีมา : หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2

บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั (หนา้ 39)

ภาพที่ 4.14 เปรยี บเทยี บสมองคนปกติกับผู้ป่วยโรคอลั ไวเมอร์
ทม่ี า : หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั (หนา้ 39)

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

19

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

อย่างไรก็ตามเราสามารถดูแลรักษาการทางานของระบบประสาทเพ่ือ หลีกเล่ียง
ความผิดปกติ และการเกิดโรคท่เี ก่ียวข้องกับระบบประสาท รวมทั้งเพ่ือเสริมสร้างประสิทธิภาพการ
ทางานของระบบประสาทได้ดงั นี้

- ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะและไขสันหลังจากอุบัติเหตุต่าง ๆ
ซึ่ง อาจ เ ป็น ส าเ ห ตุข องก า รเ กิ ดโ ร คอั ม พฤ ก ษ์แ ล ะอั ม พา ต เช่ น กา ร สว ม หม ว ก นิ ร ภัย ข ณะขั บ ขี่
รถจักรยานยนตเ์ ป็นต้น

- หลีกเล่ียงการด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์การสูบบุหรี่และการใช้สารเสพติดโดยเฉพาะ
ฝืนมอร์ฟีนและเฮโรอีนเพราะเป็นสารที่มีฤทธ์ิกดประสาทซ่ึงทาให้ระบบประสาทถูกทาลายรวมท้ัง
การใชย้ าบางชนดิ ท่มี ผี ลตอ่ ระบบประสาทเช่นยานอนหลับยาระงบั ประสาทยากลอ่ มประสาทเปน็ ตน้

- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะอาหารท่ีมีวิตามินบี 1 สูง
เช่นข้าวกล้องขา้ วซอ้ มมือถว่ั ลิสงเครื่องในสัตว์เมล็ดทานตะวนั เป็นต้นเนื่องจากวิตามินบี 1 ชว่ ยบารุง
สมองให้แข็งแรงและช่วยให้ระบบประสาทบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทางานอย่างปกติอีกท้ัง
ปอ้ งกนั การเกดิ โรคเหน็บชา

- ควรพักผ่อนให้เพียงพอและทากิจกรรมท่ีช่วยผ่อนคลายความเครียดเช่นออกกาลัง
กายดูหนังฟังเพลงอา่ นหนังสือเปน็ ต้น

- หากมีความผิดปกติเก่ียวกับระบบประสาทเช่นปวดศีรษะมากอาเจยี นและชาตามมือ
ตามเทา้ โดยไมร่ สู้ าเหตุควรรีบไปพบแพทยเ์ พ่ือตรวจสุขภาพและทาการรักษาได้อยา่ งทันทว่ งที

จากท่กี ล่าวมาจะเหน็ ว่าระบบประสาทมคี วามสาคญั อย่างย่ิงต่อการดารงชีวิตเราจงึ ควร
ดูแลรักษาอวัยวะและโครงสร้างของระบบประสาททั้งสมองไขสันหลังและเส้นประสาทเพ่ือให้
สามารถทาหน้าท่ไี ด้อยา่ งปกติ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

20

ชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

บตั รกิจกรรมที่ 4.1
เร่ือง รา่ งกายจะมปี ฏิกิรยิ าอย่างไรเมอื่ ถูกเคาะบรเิ วณหัวเข่า

จุดประสงค์
- ทดสอบและอธบิ ายปฏกิ ิริยารีเฟลกซ์

วัสดุและอุปกรณ์
- ค้อนยางขนาดเล็ก

วิธกี ารดาเนินกจิ กรรม
1. ใหน้ ักเรยี นจับคู่กันโดยให้คนที่หน่ึงนั่งห้อยขาทง้ั สองขา้ ง โดนเท้าไม่แตะพื้น และทาตัวให้

สบายออจากน้ันให้นักเรียนอีกคนหน่ึงท่ียืนอยู่ด้านข้างใช้ค้อนยางเคาะเบา ๆ 2-3 ครั้ง ที่บริเวณใต้
เขา่ ดงั ภาพ สงั เกตการตอบสนองและบนั ทกึ ผล

ภาพการเคาะหัวเขา่ ด้วยคอ้ นยาง
2. สลับกันทดสอบ โดยเปล่ียนคนทดสอบให้คนนั่งเป็นคนเคาะบ้าง สังเกตการตอบสนอง
และบันทกึ ผล

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

21

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

คาถามท้ายกิจกรรม
1. เมื่อใชค้ ้อนยางเคาะหัวเขา่ เบา ๆ จะเกดิ อะไรข้ึน

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. การตอบสนองทเี่ กดิ ขึ้นจากการใชค้ ้อนยางเคาะทใ่ี ต้หวั เขา่ นักเรียนมีการคดิ กอ่ นท่จี ะ
ตอบสนองหรือไม่
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกจิ กรรม สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

22

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

บัตรกจิ กรรมที่ 4.2
เร่ือง การตอบสนองต่อสิง่ เรา้

จดุ ประสงค์
- ทดสอบและอธบิ ายความสามารถในการตอบสนอง

วสั ดุและอุปกรณ์
- เหรยี ญบาท

วิธีการดาเนนิ กจิ กรรม
1. ให้นักเรียนคนหนึ่งจับเหรียญบาทเหนือหลังมือของนักเรียนอีคนหน่ึง ประมาณ 20

เซนตเิ มตร

ภาพการจบั อุปกรณใ์ นกิจกรรม

2. กาหนดกติกาว่านักคนที่จับเหรียญปล่อยเหรียญลงมา นักเรียนอีกคนหน่ึงต้องชักมือออก
ไม่ใหเ้ หรยี ญกระทบมอื

3. ปล่อยเหรียญทันทีโดยไม่ให้อีกคนหนึ่งรูต้ ัว แลว้ สังเกตว่านักเรียนคนน้ันจะหลบเหรยี ญได้
หรือไม่ บนั ทึกผล

4. ทาซา้ 5 ครง้ั บันทกึ จานวนคร้ังท่หี ลบเหรียญได้
5. สลบั กนั ทดสอบโดยเปล่ยี นใหค้ นหลบเหรียญเป็นคนปล่อยเหรียญบา้ ง

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

23

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

คาถามท้ายกิจกรรม
1. นักเรยี นหลบเหรยี ญไดก้ ่ีคร้ัง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ความสามารถในการหลบเหรียญไดข้ ้ึนอย่กู ับอะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกิจกรรม สรปุ ได้ว่าอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

24

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

บตั รกิจกรรมที่ 4.3
เรอ่ื ง ระบบประสาท

จดุ ประสงค์
- รวบรวมขอ้ มูลและนาเสนอโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของอวัยวะในระบบประสาท การทางาน
ของระบบประสาท และวธิ ีการดูแลรกั ษาอวยั วะในระบบประสาท

วัสดุและอุปกรณ์

วิธกี ารดาเนินกิจกรรม
1. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบประสาท การทางานของ

ระบบประสาท และวธิ กี ารดแู ลรักษาอวยั วะในระบบประสาท
2. ร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบประสาท การทางาน

ของระบบประสาท และวธิ ีการดแู ลรักษาอวยั วะในระบบประสาท
3. นาเสนอรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น โปสเตอร์ แผนภาพความคดิ ถอดบทเรยี น แผน่ พบั

คาถามทา้ ยกจิ กรรม
1. สมองสว่ นตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ ทาหน้าทอ่ี ะไรบ้าง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. เซลล์ประสาททาหน้าท่อี ะไร และมีลักษณะอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

25

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

3. แอกซอนมีลกั ษณะเหมือนหรอื ต่างกนั กับเดรนไดรต์อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. เม่ือเดินเหยยี บเศษแกว้ จะมกี ารทางานของระบบประสาทอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. อาหารประเภทใดชว่ ยสร้างเสรมิ การทางานของระบบประสาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

26

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 4 ระบบอวัยวะในรา่ งกายของเรา
เวลา 10 นาที
เรือ่ ง ระบบประสาท 10 คะแนน

คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบฉบบั น้ี จานวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาทใี่ ช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ุด แล้วเขียนเครอื่ งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. สว่ นประกอบ A และ B ในเซลลป์ ระสาทคือส่วนใด

ก. A – เดนไดรต์ B – แอกซอน
ข. A – แอกซอน B – เดนไดรต์
ค. A – นวิ เคยี ส B – เดนไดรต์
ง. A – นวิ เคียส B – แอกซอน

2. ข้อใดบอกความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมองส่วนต่าง ๆ ของเซรีบรมั กบั หน้าที่ไมถ่ กู ต้อง
ก. frontal lobe ควบคมุ การทางานของกลา้ มเน้ือเรยี บ
ข. temporal lobe เปน็ ศนู ยก์ ารไดย้ นิ และดมกลิน่
ค. occipital lobe เปน็ ศูนยก์ ลางมองเห็น
ง. parietal lobe รับสมั ผัสความเจ็บปวด

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

27

ชดุ กิจกรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

3. ขอ้ ใดคอื ศนู ย์ควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง
ก. สมอง
ข. ไขสันหลงั
ค. ใยประสาท
ง. ถกู ต้องท้งั ขอ้ ก และ ข

4. ระบบประสาทส่วนกลางควบคุมการทางานส่วนใดของรา่ งกาย
ก. อวยั วะภายใน
ข. อวยั วะภายนอก
ค. การทางานของสมอง
ง. การทางานของไขสันหลัง

5. เซลล์ประสาทหลายขั้วทาหนา้ ทีเ่ ป็นเซลล์ประสาทประเภทใด
ก. เซลลป์ ระสาทสงั่ การ
ข. เซลล์ประสาทตัวกลาง
ค. เซลลป์ ระสาทประสานงาน
ง. เซลลป์ ระสาทรับความรู้สึก

6. แอกซอนของ motor neurons (เซลลป์ ระสาทสงั่ การ) อยตู่ ิดกับส่ิงใด
ก. ต่อรบั รสท่ลี ้นิ
ข. หน่วยปฏิบัติงาน
ค. อวยั วะรบั สัมผสั ที่ตา
ง. อวัยวะรบั ความรสู้ ึกที่ผวิ หนงั

7. เซลล์ประสาทท่ีมปี ลายเดนไดร์ตดิ ต่อกับอวัยวะรบั ความร้สู ึก คือเซลลป์ ระสาทชนิดใด
ก. motor neurons
ข. sensory neurons
ค. conective neurons
ง. associative neurons

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

28

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

8. สมองส่วนหนา้ ประกอบด้วยสมองส่วนใดบ้าง
ก. ซีรีบรัม, ซรี ีเบลลมั , พอนส์
ข. ซีรบี รมั , ทาลามสั , ซรี ีเบลลมั
ค. ซรี ีบรมั , ทาลามสั , ไฮโพทาลามัส
ง. ซรี ีบรมั , ซรี เี บลลมั , ไฮโพทาลามัส

9. คุณวา่ นเหยียบเศษแก้วเกิดการสะดุ้งและกระตุกขาออกทนั ที ปรากฏการณ์เช่นน้เี รยี กว่า
อะไร

ก. Taxis
ข. Kinesis
ค. Effect
ง. Reflex

10. เสกสรรค์ทาข้อสอบชีววิทยาไม่ค่อยได้ และไม่มีความม่ันใจวา่ จะสอบผ่าน จึงรสู้ กึ ซึมเศร้า
ไม่สบายใจ ความรู้สกึ ทีเ่ กิดขึ้นนเ้ี ป็นเพราะสมองส่วนใดถูกกระตนุ้

ก. ทาลามัส
ข. เซรเี บลลมั
ค. ไฮโพทาลามัส
ง. เมดัลลาออบลองกาตา

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

29

ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน

ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

แบบทดสอบก่อนเรยี น ง แบบทดสอบหลงั เรียน ง
ขอ้ ก ข ค ขอ้ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

30

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

บรรณานกุ รม

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2554). หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 4
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เล่ม 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

________. (2554). คมู่ ือครู รายวชิ าวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 4 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 2
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

กาญจนา เนตรวงศ.์ (2552). ติวเขม้ วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนต้น.
กรงุ เทพฯ : ฟิสกิ สเ์ ซน็ เตอร.์

ธนพงษ์ วชั รโรจน.์ (2559). เตรยี มสอบวิทยาศาสตร์ ม.2. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั สวสั ดีไอทีจากดั .
ประดับ นาคแกว้ และ ดาวัลย์ เสริมบญุ สม. (2555). หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปที ี่ 2. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 2. กรุงเทพฯ : แม็คเอ็ดดูเคชน่ั .
ประไพรัตน์ พลู ทว.ี (ม.ป.ป.). ชีววิทยาเพมิ่ เติม เล่ม 2. อ่างทอง : วรศลิ ป์การพิมพ.์
ฝา่ ยวิชาการสานกั พิมพ์ภูมบิ ัณฑติ . (ม.ป.ป.). คูม่ อื -เตรยี มสอบ วทิ ยาศาสตร์ ม.2. กรุงเทพฯ :

สานกั พมิ พภ์ มู ิบณั ฑติ
พมิ พนั ธ์ เดชะคปุ ต์, พเยาว์ ยินดสี ุข, ธารณิ ี วิทยาอนวิ รรตน์, นัยนา ตรงประเสริฐ,

อมรรตั น์ บุบผโชติ, นา้ ผ้งึ ศภุ อทุ ุมพร, และคนอนื่ ๆ. (2554). หนงั สอื เรยี นรายวชิ า
พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.2. กรงุ เทพฯ : สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.).
พิมพันธ์ เตชะคปุ ต์ และคณะ . (2560). ชดุ กิจกรรมพฒั นาการคิด เสรมิ สรา้ งสมรรถนะสาคัญ
และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รยี น. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคณุ ภาพ
วิชาการ (พว).
โพธธิ รณ์ ครรชิตานุรักษ์, ณัฐพงศ์ แถมยิ้ม และ ชยั ศาสตร์ คเชนทรส์ ุวรรณ. (2559). สรุปเข้ม
วทิ ยาศาสตร์ ม.ต้น ฉบบั สมบรู ณ์ มนั่ ใจเต็ม 100. นนทบุรี : ไอดซี ฯี .
ไพโรจน์ แกว้ มา. (2555). Compact วทิ ยาศาสตร์ ม.2. กรงุ เทพฯ : แมค็ เอ็ดดเู คชัน่ .
ยุพา วรยศ, ถนดั ศรีบุญเรอื ง, โจบอยด์ และวอลเตอร์ ไวทล์ อร.์ (2554). หนังสือเรยี น รายวชิ า
พ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 1. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท.
ลดั ดาวลั ย์ เสยี งสังข์, สามารถ พงศ์ไพบูลย์ และ พเยาว์ ทองคา. (2553). ค่มู ือเตรียมสอบ
วิทยาศาสตร์ ม.1-2-3. กรุงเทพฯ : ไฮเอ็ดพับลิชชิ่ง.
ศรลี ักษณ์ ผลวฒั นะ เจยี มจิต กุลมาลา . (2559). หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ม.2.
กรุงเทพฯ : บรษิ ทั แมกแอ็ดดูเคชนั่ จากัด.

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ

31

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

สมัญญา นกแก้ว. (2555). ขยันกอ่ นสอบวิทยาศาสตร์ ม.2. กรงุ เทพฯ : แม็คเอด็ ดูเคชน่ั .
สรุ ยศ สุทธิธรรม, กุล อภิวัฒนเ์ จริญกุล และ อุดมเดช ใหมเ่ อี่ยม. (2557). วทิ ยาศาสตร์ ม.2

เล่ม 1. กรุงเทพฯ : ฟรมี ายด.์
เสียง เชษฐศิรพิ งศ.์ (2555). คมู่ ือวิทยาศาสตร์4 ม.2 เล่ม 2. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท สานักพิมพ์

พ.ศ. พฒั นา จากดั .
สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบนั . (2559). หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน

วิทยาศาสตร์ 4. พมิ พค์ ร้ังท่ี 9. กรงุ เทพฯ: สกสค.ลาดพร้าว.
สมพงษ์ จันทร์โพธิ์ศรี. (ม.ป.ป.). ค่มู ือเตรียมสอบวิทยาศาสตร์ เล่มรวม เทอม 1-2 ม.2.

กรงุ เทพฯ : ไฮเอด็ พับลิชชิง่ จากัด.
สมศกั ด์ิ วรมงคลชยั , พนั ธ์ ทองชุมนุม, สทุ ัศน์ ไตรสถิตวร และ เกษร บุญทิม. (ม.ป.ป.). คมู่ อื

เตรยี มสอบวิทยาศาสตร์ ม.3 สอบเข้า ม.4. กรงุ เทพฯ : ไฮเอ็ดพบั ลิชชง่ิ จากดั .
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2554). หนังสือเรยี นรายวชิ าวิทยาศาสตร์

พน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ 4. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของ สกสค.
สุธารี คาจนั ศรี และภคพร จิตรขี ันธ.์ (2562). หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1. กรุงเทพฯ : ไทยรม่ เกลา้ ,
บรษิ ทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั .
อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ. (2553). ระบบรา่ งกายมนุษย์. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพเ์ อม็ ไอเอส.
Parramon, A. (2555). กายวภิ าคศาสตรแ์ ละสรรี วทิ ยา. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คสพ์ ับลเิ คช่ันส.์
http://www.krusarawut.net/wp/?p=2722
https://sites.google.com/site/rabbrangkay2/home/rabb-prasath
https://bodysystemsbykrupimnucha.wordpress.com/2017/05/11
http://decimotenpanm.blogspot.com/2012/12/blog-post.html
http://www.med.cmu.ac.th/dept/vascular/human/lesson/lesson5.php
https://twitter.com/engineeringbuu/status/758684149427286017
http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/63443/-blo-
http://www.thaigoodview.com/node/89203
http://www.kruseksan.com/test/m2t21.html

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ

32

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

33

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 4.1
เรอ่ื ง รา่ งกายจะมปี ฏกิ ิรยิ าอยา่ งไรเม่ือถกู เคาะบริเวณหัวเข่า

จุดประสงค์
- ทดสอบและอธบิ ายปฏิกิรยิ ารีเฟลกซ์

วัสดุและอุปกรณ์
- ค้อนยางขนาดเล็ก

วิธกี ารดาเนินกจิ กรรม
1. ให้นักเรยี นจับคู่กนั โดยใหค้ นท่ีหนึ่งน่ังห้อยขาทง้ั สองข้าง โดนเท้าไม่แตะพ้ืน และทาตัวให้

สบายออจากนั้นให้นักเรียนอีกคนหน่ึงที่ยืนอยู่ด้านข้างใช้ค้อนยางเคาะเบา ๆ 2-3 ครั้ง ที่บริเวณใต้
เขา่ ดงั ภาพ สังเกตการตอบสนองและบนั ทึกผล

ภาพการเคาะหัวเขา่ ดว้ ยค้อนยาง
2. สลับกันทดสอบ โดยเปลี่ยนคนทดสอบให้คนนั่งเป็นคนเคาะบ้าง สังเกตการตอบสนอง
และบันทกึ ผล

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

34

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

คาถามท้ายกิจกรรม
1. เมอ่ื ใชค้ ้อนยางเคาะหัวเขา่ เบา ๆ จะเกดิ อะไรขึ้น

…………………………………………………………………………ข……น้ึ ……อ…………ย……กู่ ……ับ……ด…………ลุ ……ย……พ…………ิน……จิ ……ข……อ…………ง……ค……ร……ผู ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. การตอบสนองทเ่ี กดิ ขึ้นจากการใช้ค้อนยางเคาะที่ใตห้ วั เข่า นกั เรยี นมีการคิดกอ่ นท่จี ะ
ตอบสนองหรือไม่

…………………………………………………………………………ข……้ึน……อ…………ย……ู่ก……บั ……ด…………ลุ ……ย……พ…………นิ ……จิ ……ข……อ…………ง……ค……ร……ผู ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร

…………………………………………………………………………ข……น้ึ ……อ…………ย……กู่ ……บั ……ด…………ุล……ย……พ…………นิ ……ิจ……ข……อ…………ง……ค……ร……ูผ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

35

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 4 ระบบประสาท

เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 4.2
เรือ่ ง การตอบสนองต่อสิ่งเร้า

จุดประสงค์
- ทดสอบและอธบิ ายความสามารถในการตอบสนอง

วัสดแุ ละอุปกรณ์
- เหรยี ญบาท

วิธีการดาเนนิ กิจกรรม
1. ให้นักเรียนคนหน่ึงจับเหรียญบาทเหนือหลังมือของนักเรียนอีคนหน่ึง ประมาณ 20

เซนติเมตร

ภาพการจบั อปุ กรณ์ในกจิ กรรม

2. กาหนดกติกาว่านักคนท่ีจับเหรียญปล่อยเหรียญลงมา นักเรียนอีกคนหน่ึงต้องชักมือออก
ไมใ่ ห้เหรยี ญกระทบมอื

3. ปลอ่ ยเหรียญทนั ทโี ดยไม่ใหอ้ ีกคนหนึ่งรู้ตวั แลว้ สังเกตวา่ นักเรียนคนนั้นจะหลบเหรียญได้
หรอื ไม่ บนั ทึกผล

4. ทาซา้ 5 ครัง้ บนั ทกึ จานวนครัง้ ท่ีหลบเหรียญได้
5. สลบั กันทดสอบโดยเปลย่ี นให้คนหลบเหรียญเป็นคนปล่อยเหรยี ญบา้ ง

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ

36

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชดุ ที่ 4 ระบบประสาท

ผลการดาเนนิ กจิ กรรม
ก่อนการทากิจกรรม
1. ใหน้ ักเรยี นอา่ นช่ือกิจกรรม จุดประสงค์ และวธิ ดี าเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ

เขา้ ใจจากการอา่ นโดยใชค้ าถาม ดงั ต่อไปนี้
• กิจกรรมน้ีเก่ียวข้องกับเรื่องอะไร (เรื่องความสามารถในการตอบสนองโดยการหลบ

เหรยี ญ)
• กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (เพ่ือทดสอบและอธิบายความสามารถในการ

ตอบสนอง)
• วธิ ีดาเนินกิจกรรมมีข้ันตอนโดยสรุปอย่างไร (นักเรียนจับค่กู ัน คนหน่ึงคว่ามอื อีกคน

หน่ึงจับเหรียญบาทอยู่เหนือ หลังมือของเพื่อนสูงประมาณ 20 เซนติเมตร จากน้ันปล่อยเหรียญลง
บนหลังมือ นักเรียนคนท่ีคว่ามือพยายาม หลบไม่ให้ถูกเหรียญ บันทึกจานวนที่หลบเหรียญได้) ครู
ควรบนั ทึกขั้นตอนการท ากิจกรรมโดยสรุปบนกระดาน

• นักเรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (สังเกตความสามารถในการหลบ
เหรียญ และรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับจานวนครงั้ ของการหลบเหรียญ)

ระหว่างการทากิจกรรม
2. ขณะที่แต่ละกลุ่มทากิจกรรม ครูควรเดินสังเกตการณ์ทากิจกรรมในแต่ละกลุ่ม

และให้คาแนะนาถ้านักเรียนมีข้อสงสัยใน ประเด็นต่าง ๆ เช่น วิธีทากิจกรรม และอื่น ๆ ซ่ึงครูควร
รวบรวมปัญหาและข้อสงสัยต่าง ๆ จากการท ากิจกรรมของ นักเรียน เพื่อใช้เป็นขอ้ มูลประกอบการ
อภิปรายหลังการทากิจกรรม

หลังการทากจิ กรรม
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากิจกรรม ตอบคาถามท้ายกิจกรรม และ

ร่วมกนั สรุปผลของกิจกรรมโดยใช้ คาถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพ่ือใหไ้ ด้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า
ความสามารถในการตอบสนองของแต่ละคนจะ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับรู้ของ
อวัยวะรับความรู้สึก เช่น ตา และประสิทธิภาพในการทางาน ร่วมกันระหว่างกล้ามเนื้อกับระบบ
ประสาท

ครูควรชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการตอบสนองมีประโยชน์ต่อมนุษย์ ซึ่งทุกคน
สามารถฝึกฝนให้เร็วขึน้ ได้ เพราะจะทาให้หลบหลกี อันตรายได้อยา่ งรวดเรว็

4. ตั้งคาถามเพื่อนาเข้าสู่ความสาคัญของระบบประสาท โดยใช้คาถาม เช่น ถ้าสมอง
หรือไขสันหลังถูกทาลายหรือได้รับ อันตรายจะมีผลต่อร่างกายอย่างไร นักเรียนมีวิธีดูแลรักษาระบบ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

37

ชุดกิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 4 ระบบประสาท

ประสาทได้อย่างไร จากน้ันให้อ่านเน้ือหาจากหนังสือ เรียนหน้า 97 และร่วมกันอภิปราย เพ่ือให้ได้
ข้อสรุปว่า การดูแลรักษาระบบประสาททาได้หลายทาง เช่น ระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความ
กระทบกระเทือนหรืออันตรายบริเวณศีรษะและกระดูกสันหลัง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคท่ีเก่ียวกับ
สมอง หลีกเล่ียงการใช้สารเสพติดหรือสารท่ีมีผลกระทบต่อระบบประสาท พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกก าลงั กายอยา่ งสมา่ เสมอ นง่ั สมาธิ และรบั ประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย

คาถามท้ายกิจกรรม
1. นักเรียนหลบเหรียญไดก้ ่ีครั้ง

…………………………………………………………………………ข……น้ึ ……อ…………ย……ู่ก……บั ……ด…………ุล……ย……พ…………นิ ……ิจ……ข……อ…………ง……ค……ร……ูผ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ความสามารถในการหลบเหรยี ญไดข้ น้ึ อยู่กบั อะไร

…………………………………………………………………………ข……้ึน……อ…………ย……่กู ……ับ……ด…………ุล……ย……พ…………ิน……ิจ……ข……อ…………ง……ค……ร……ูผ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ า่ อย่างไร

…………………………………………………………………………ข……น้ึ ……อ…………ย……กู่ ……บั ……ด…………ลุ ……ย……พ…………นิ ……ิจ……ข……อ…………ง……ค……ร……ูผ……สู้…………อ……น…………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

38

ชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

เฉลยบตั รกจิ กรรมท่ี 4.3
เร่อื ง ระบบประสาท

จดุ ประสงค์
- รวบรวมข้อมูลและนาเสนอโครงสรา้ งและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบประสาท การทางาน
ของระบบประสาท และวธิ ีการดแู ลรักษาอวัยวะในระบบประสาท

วัสดุและอุปกรณ์

วิธกี ารดาเนินกิจกรรม
1. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบประสาท การทางานของ

ระบบประสาท และวธิ กี ารดูแลรักษาอวัยวะในระบบประสาท
2. ร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบประสาท การทางาน

ของระบบประสาท และวธิ กี ารดแู ลรกั ษาอวัยวะในระบบประสาท
3. นาเสนอรูปแบบที่น่าสนใจ เชน่ โปสเตอร์ แผนภาพความคดิ ถอดบทเรียน แผ่นพับ

คาถามท้ายกจิ กรรม
1. สมองส่วนตา่ ง ๆ ของมนุษย์ ทาหน้าทีอ่ ะไรบ้าง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………เซ…ร…ีบร…ับ…ค…ว…บค…ุม…ค…ว…าม…ค…ดิ …แ…ละ…ก…า…รท…า…งา…น…ต…่าง……ๆ…ข…อง…ร…า่ ง…ก…าย…ไ…ฮ…โพ…ท…า…ลา…ม…สั …คว…บ…ค…มุ …อ…ุณ…ห…ภูม…ิ .
…แ…ล…ะก…า…รเ…ต…้น…ขอ…ง…ห…ัวใ…จ…เซ…ร…ีเบ…ล…ล…ัมค…ว…บ…ค…ะก…า…ร…เค…ล…ื่อน…ไ…ห…วจ…อ…บ…ส…์ค…วบ…ค…มุ …ก…าร…ห…า…ยใ…จ…ท…าล…า…มัส…ท…า…ห…น…้าท…ี่ .
…ร…วะ…ก…ร…ะแ…ส…ป…ร…ะส…า…รร…า…ย…ข้า…แ…ล…ะอ…อ…ก…จ…าก…ส…ม…อ…งแ…ล…ะ…เม…ด…ัลล…า…อ…อ…บล…อ…ง…ก…าต…า…ค…วบ…ค…ุม…ก…าร…เต…น้ …ข…อ…งห…ัว…ใจ….
…ก…าร…ห…า…ยใ…จ…แล…ะ…ค…ว…าม…ด…ัน…เล…อื …ด………………………………………………………………………………………………….

2. เซลลป์ ระสาททาหน้าท่ีอะไร และมีลกั ษณะอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………เ…ซล…ล…์ป…ร…ะส…า…ท…ป…ระ…ก…อ…บ…ด…้วย…ต…ัว…เซ…ล…ล…์แล…ะ…ใ…ยป…ร…ะ…สา…ท…ท…า…ห…น้า…ท…่ีถ…่า…ยท…อ…ด…ก…ระ…แ…ส…ป…ระ…ส…า…ท….
…ไ…ป…ย…ังส…่ว…น…ต…่า…งๆ…ข…อ…งร…่า…ง…กา…ย……ตัว…เ…ซล…ล…์ …(c…e…ll…b…o…dy…)…ป…ร…ะก…อ…บ…ด…้ว…ย…นิว…เ…ค…ลีย…ส…แ…ล…ะ…ไซ…โ…ทพ…ล…า…ซ…ึม….
…ซ…ึ่ง…ภ…า…ยใ…น…พ…บ…อ…อ…ร์แ…ก…เน…ล…ล…์ต…่า…ง …ๆ…เ…ช่น…ไ…ม…โท…ค…อ…น…เด…ร…ีย…ร…่าง…แ…ห…เอ…น…โ…ดพ…ล…า…ซ…ึม…กอ…ล…จ…ิค…อ…ม…เพ…ล…็ก…ซ…์ .
…เ…ป…็น…ต…้น…โด…ย…ท…าห…น…้า…ท…่ีส…ังเ…ค…รา…ะ…ห…์สา…ร…ท…ี่จ…าเ…ป…็น…ต่อ…ก…า…รด…า…ร…งช…ีว…ิต…ข…อง…เซ…ล…ล…์ป…ร…ะส…า…ท…แ…ละ…ข…น…ส…่งส…า…ร….
…จ…า…ก…ต…วั เ…ซล…ล…ไ์ …ปย…ัง…ใย…ป…ร…ะส…า…ท…อ…นื่ …ๆ………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ

39

ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

3. แอกซอนมลี ักษณะเหมอื นหรือตา่ งกันกับเดรนไดรต์อย่างไร
………………แ…อ…ก…ช…อน…เ…ป…็น…ใย…ป…ร…ะ…สา…ท…ท…ี่น…า…กร…ะ…แ…ส…ป…ระ…ส…า…ท…ออ…ก…จ…า…ก…ตัว…เ…ท…ละ…ส…่ว…น…เด…น…ไ…กร…ท…ี่เ…ป็…นใ…ย….
…ป…ร…ะ…ส…าท…ท…ี่น…า…กร…ะ…แ…สป…ร…ะ…สา…ท…เข…้า…ส…ตู่ วั…เ…ซล…ล…์ซ…ง่ึ เ…ซ…ลล…ป์ …ร…ะ…สา…ท…อ…าจ…ม…ีเต…น้ …ไ…ดร…ต…เ์ พ…ยี …ง…1…เ…ส…้นห…ร…อื …ห…ลา…ย….
…เ…ส…้น…แ…ต…่อ…ีกร…อ…บ…เร…ีย…ง…3…เ…ส้…นเ…ท…่าน…้ัน……เด…น…ไ…ดร…ต…์เป…็น…ใ…ย…ปร…ะ…ส…าท…ท…ี่น…า…ก…ระ…แ…ส…ป…ระ…ส…า…ท…เข…้า…สู่ต…ัว…เซ…ล…ล…์ .
…ส…ว่ …น…แ…อก…ซ…อ…น…เป…็น…ใ…ยป…ร…ะ…สา…ท…ท…ี่น…าก…ร…ะ…แส…ป…ร…ะ…สา…ท…อ…อ…กจ…า…ก…ตัว…เ…ซล…ล…เ์ ซ…ล…ล…์ป…ระ…ส…า…ท…แต…ล่ …ะ…เซ…ล…ล…อ์ า…จ….
…ม…ีเ…ด…นไ…ด…รต…เ์ …พ…ียง…1……เส…น้ …ห…รือ…ห…ล…าย…เ…สน้……แ…ต่แ…อ…ก…ซ…อน…ม…ีเพ…ีย…ง…เส…้น…เด…ีย…ว…เท…่า…นน้ั…………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. เม่อื เดนิ เหยยี บเศษแกว้ จะมีการทางานของระบบประสาทอยา่ งไร
………………เ…ซล…ล…์ป…ร…ะ…สา…ท…ร…ับ…คว…า…ม…รู้ส…ึก…ท…ี่เท…้า…ส…่ง…กร…ะ…แ…สป…ร…ะ…ส…าท…ต…่อ…ไป…ย…ัง…ไข…ส…ัน…ห…ล…ังแ…ล…ะ…ส…่งต…่อ…ไป…ย…ัง….
…ส…ม…อ…ง…ท…าใ…ห…้รู้ส…ึก…เจ…็บ…แ…ล…ะไ…ข…ส…ันห…ล…ัง…ย…ังส…่ง…ก…ระ…แ…ส…ปร…ะ…ส…าน…ต…่อ…ไป…ย…ัง…ก…ล้า…ม…เน…ื้อ…ท…่ีข…า…ให…้ย…ก…ขา…อ…อ…ก…จา…ก….
…เ…ศ…ษ…แก…ว้ ……………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. อาหารประเภทใดช่วยสร้างเสรมิ การทางานของระบบประสาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………อา…ห…า…รท…่มี …วี …ติ …าม…ิน…บ…ี 1…ส…งู …เน…่ือ…ง…จา…ก…ช…่วย…บ…า…รงุ…ส…ม…อง…แ…ล…ะร…ะ…บ…บป…ร…ะ…ส…าท…………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. จากกิจกรรมสรปุ ไดว้ า่ อยา่ งไร
………………เ…ซ…รีบ…ร…ับ…ค…ว…บ…คุม…ค…ว…า…ม…คิด…แ…ล…ะ…ก…า…รท…า…ง…าน…ต…่า…ง…ๆ……ขอ…ง…ร…่าง…ก…า…ย…ไฮ…โพ…ท…า…ล…า…ม…ัส…คว…บ…ค…ุม….
…อ…ณุ…ห…ภ…มู …แิ …ล…ะก…า…รเ…ต…้น…ขอ…ง…ห…วั ใ…จ…เซ…ร…เี บ…ล…ลมั…ค…ว…บ…ค…ะก…า…รเ…ค…ลอื่…น…ไ…หว…จ…อ…บ…ส์ค…ว…บ…ค…ุม…กา…ร…ห…าย…ใจ…ท…า…ล…าม…ัส….
…ท…า…ห…น…้าท…่รี…ว…ะก…ร…ะ…แส…ป…ร…ะ…สา…ร…รา…ย…ข…้าแ…ล…ะ…ออ…ก…จ…าก…ส…ม…อ…งแ…ล…ะ…เม…ด…ัลล…า…อ…อ…บล…อ…ง…กา…ต…า…คว…บ…ค…ุม…กา…ร…เต…้น….
…ข…อ…ง…ห…ัวใ…จ…ก…าร…ห…า…ยใ…จ…แล…ะ…ค…ว…าม…ด…ัน…เล…ือ…ด…เ…ซล…ล…์ป…ร…ะ…สา…ท…ป…ร…ะก…อ…บ…ด…้วย…ต…ัว…เซ…ล…ล…์แล…ะ…ใ…ยป…ร…ะ…ส…าท…ท…า….
…ห…น…้า…ท…ี่ถ…่าย…ท…อ…ด…กร…ะ…แ…สป…ร…ะ…ส…าท…ไ…ป…ยัง…ส…่ว…นต…่า…ง…ๆข…อ…ง…ร่า…ง…กา…ย…แ…อ…ก…ช…อน…เ…ป…็น…ใย…ป…ระ…ส…า…ท…ที่น…า…ก…ร…ะแ…ส….
…ป…ร…ะ…ส…าท…อ…อ…ก…จา…ก…ต…ัว…เท…ล…ะส…่ว…น…เด…น…ไ…กร…ท…ี่เป…็น…ใ…ย…ปร…ะ…ส…าท…ท…ี่น…า…ก…ระ…แ…ส…ป…ระ…ส…า…ทเ…ข…้าส…ู่ต…ัว…เซ…ล…ซ…่ึงม…ีต…ล…์ .
…ป…ร…ะ…ส…าท…อ…า…จม…ีเ…ต…้นไ…ด…รต…์เ…พ…ียง……1…เส…้น…ห…รือ…ห…ล…า…ยเ…ส…้น…แ…ต…่อีก…ร…อ…บ…เร…ีย…ง …3…เส…้น…เ…ท่า…น…้ัน…เ…ซ…ลล…์ป…ร…ะ…สา…ท….
…ร…ับ…ค…ว…าม…ร…ู้ส…กึ ท…ี่เ…ท…้าส…่ง…กร…ะ…แ…สป…ร…ะ…ส…าท…ต…่อ…ไป…ย…งั ไ…ข…ส…ันห…ล…ัง…แ…ละ…ส…ง่ ต…่อ…ไ…ป…ยัง…ส…ม…อง…ท…าใ…ห…้ร…ู้สึก…เ…จบ็…แ…ล…ะ…ไข….
…ส…ัน…ห…ล…ังย…ัง…ส…่งก…ร…ะ…แส…ป…ร…ะส…า…น…ต…อ่ ไ…ป…ย…ังก…ล…า้ ม…เ…น…ื้อท…่ขี …า…ให…้ย…ก…ขา…อ…อ…ก…จา…ก…เศ…ษ…แ…กว้……อา…ห…า…รท…ี่ม…ีว…ติ …าม…นิ …บ…ี .
…1……สูง…เ…นื่อ…ง…จ…าก…ช…ว่ …ยบ…า…ร…ุงส…ม…อ…งแ…ล…ะร…ะ…บ…บ…ป…ระ…ส…าท……………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

40

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น
ชุดที่ 4 ระบบประสาท

แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น
ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10  10 

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ

41

ชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชุดท่ี 4 ระบบประสาท

ประวตั ยิ ่อผูจ้ ัดทา

ชอ่ื – สกลุ นางพชั รี คูณทอง

วนั เดือน ปี เกดิ 4 พฤศจิกายน 2522

สถานทเ่ี กดิ อาเภอสิรินธร จังหวัดอบุ ลราชธานี

ทอ่ี ยู่ปัจจบุ ัน 111 หมู่ 12 บา้ นโนนสมบัติ ตาบลโนนกลาง

อาเภอพบิ ลู มังสาหาร จังหวดั อุบลราชธานี

เร่ิมรับราชการ 12 กรกฎาคม 2545 ตาแหน่ง อาจารย์ 1 ระดับ 3

โรงเรยี นขม้ินพทิ ยาสรรพ์ อาเภอเมือง จังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ

ตาแหน่งหน้าทปี่ จั จุบนั ครู วิทยฐานะ ครเู ชยี่ วชาญ

สถานท่ที างานในปัจจุบัน โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม ตาบลโนนกลาง อาเภอพิบลู มังสาหาร

จังหวัดอุบลราชธานี

ประวัตกิ ารศึกษา ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนบ้านหนิ สูง ตาบลช่องเมก็ อาเภอสริ นิ ธร
พ.ศ. 2535 จังหวัดอบุ ลราชธานี
มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นเบต็ ต้ีดูเมน 2 ช่องเมก็ ตาบลชอ่ งเมก็
พ.ศ. 2538 อาเภอสริ นิ ธร จังหวดั อุบลราชธานี
มัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นสริ ินธรวิทยานุสรณ์ อาเภอสิรินธร
พ.ศ. 2541 จังหวดั อุบลราชธานี
ปรญิ ญาครุศาสตรบ์ ัณฑติ (ค.บ.) สาขาวิชาฟสิ ิกส์
พ.ศ. 2545 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
ปรญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ (ศษ.ม.) สาขาวชิ าหลกั สตู รและการสอน
พ.ศ. 2556 มหาวทิ ยาลยั ราชธานี จงั หวดั อบุ ลราชธานี

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

42


Click to View FlipBook Version