The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

3แแนวคิดของทฤษฎีทวีปเลื่อนฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-06-10 10:43:03

3แแนวคิดของทฤษฎีทวีปเลื่อนฯ

3แแนวคิดของทฤษฎีทวีปเลื่อนฯ

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหสั วชิ า ว30104

ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6

นางพชั รี คูณทอง
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดของทฤษฎที วปี เลอ่ื นและหลักฐานสนบั สนนุ

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จัดทาขึ้นเพ่ือเป็นสอ่ื นวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 เพื่อให้ผู้เรียนใช้ประกอบกิจกรรมการ
เรียนการสอนและสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง นาไปใชใ้ นการเรียนการสอนซ่อมเสรมิ ได้ หรือใชใ้ น
การสอนแทนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรี ย น ของผู้ เรี ย น กลุ่ มส าร ะการ เรี ยน รู้ วิทย าศาส ตร์ เป็น น วัตกรร มที่ช่ว ยล ดบทบาทของครู
ตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ท่ียึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็ม
ตามศกั ยภาพ ซง่ึ สอดคล้องกับหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ.2560) ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ กระบวนการคิด
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการส่ือสาร การตัดสินใจ การนา
ความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั ตลอดจนสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมีจติ วิทยาศาสตร์คณุ ธรรมและค่านิยมที่
ถูกต้องเหมาะสม

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์น้ีจะทาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองโลกและการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได้เป็นอย่างดี มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น สามารถใชเ้ พื่อศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเองเป็นส่ือที่มีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ
วัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู รได้

พัชรี คณู ทอง

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ก

ชดุ ที่ 3 แนวคิดของทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลกั ฐานสนบั สนุน

สำรบัญ

เร่อื ง หนำ้
คำนำ ก
สำรบัญ ข
คำช้แี จงเกยี่ วกับกำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ ค
แผนภูมลิ ำดับข้นั ตอนกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ ง
คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์สำหรบั ครู จ
คำชีแ้ จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนักเรียน ช
1
สาระการเรยี นรู้ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั 1
จุดประสงค์การเรียนรู้ 2
ลาดบั ความคิดต่อเน่ือง 3
สาระสาคญั 4
แบบทดสอบก่อนเรยี น 7
บตั รเน้ือหา ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง แนวคดิ ของทฤษฎที วปี เลอื่ นและหลักฐานสนับสนุน 20
บตั รกจิ กรรมท่ี 3.1 เร่อื ง การสารวจหลักฐานสนบั สนนุ วา่ ทฤษฎีเคยอยตู่ ดิ กนั 25
บัตรกจิ กรรมท่ี 3.2 ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง แนวคิดของทฤษฎที วปี เล่อื นฯ 26
บตั รกิจกรรมที่ 3.3 ถอดบทเรียน เรอ่ื ง แนวคิดของทฤษฎีทวปี เลือ่ นฯ 27
แบบฝกึ หัด เร่ือง แนวคดิ ของทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนนุ 28
แบบทดสอบหลังเรยี น 31
กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น
32
บรรณำนกุ รม
33
ประวตั ิยอ่ ผจู้ ัดทำ

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ข

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดของทฤษฎีทวปี เล่อื นและหลักฐานสนบั สนุน

คำช้แี จงเกย่ี วกับชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง กระบวนการ
เปล่ียนแปลงภายในโลก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อใช้ประกอบการ
จัดการเรียนรู้ รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6
โดยให้สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) กระทรวงศึกษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝกึ ท่เี หมาะสมกบั ระดับ
และวัย เพื่อให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพ่ือ
ส่งเสริมเจตคติท่ีดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการ
แก้ปัญหา และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้
เข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ เกดิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีสารวจตรวจสอบขอ้ มูล
การคิดแก้ปัญหา ตลอดจนการเสริมสร้างจิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้
จานวน 9 ชุด ดังนี้

ชดุ ที่ 1 เรื่อง ข้อมูลในการศกึ ษาและแบง่ ชัน้ โครงสร้างโลก
ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง การแบ่งช้ันโครงสร้างโลก
ชดุ ที่ 3 เรอ่ื ง แนวคดิ ของทฤษฎที วีปเล่ือนและหลกั ฐานสนบั สนนุ
ชุดท่ี 4 เรื่อง แนวคิดของทฤษฎีการแผข่ ยายพื้นสมุทรและหลกั ฐานสนบั สนนุ
ชุดท่ี 5 เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี
ชุดที่ 6 เร่อื ง ธรณสี ณั ฐานและโครงสร้างทางธรณีท่ีเกิดจากการเคลอ่ื นท่ีของแผน่ ธรณี
ชดุ ท่ี 7 เร่ือง ภูเขาไฟระเบดิ
ชุดที่ 8 เรอื่ ง แผ่นดนิ ไหว
ชุดท่ี 9 เร่ือง สนึ ามิ
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้เป็น ชุดที่ 3 เรื่อง แนวคิดของทฤษฎีทวีปเลื่อน
และหลกั ฐำนสนบั สนุน ใช้เวลำ 2 ชัว่ โมง
3. ผ้ใู ช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นค้ี วรศกึ ษาขน้ั ตอนการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
อย่างละเอยี ดกอ่ นใช้
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ จะมีประโยชน์ต่อ
นักเรียนและผู้สนใจท่ีจะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
วิทยาศาสตรใ์ หม้ คี ณุ ภาพมากยง่ิ ข้ึนตอ่ ไป

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ค

ชุดท่ี 3 แนวคิดของทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนบั สนุน

แผนภมู ิลำดับข้ันตอนกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์

อา่ นคาชแี้ จงและคาแนะนาในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ศึกษาตัวชีว้ ัดและจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เสรมิ พ้นื ฐำน
ทดสอบก่อนเรียน ผ้มู พี ืน้ ฐำนต่ำ

ศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ตามขนั้ ตอน

ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนร้จู ากชดุ กจิ กรรม

ไมผ่ ่ำน ทดสอบหลังเรยี น
กำรทดสอบ

ผ่ำนกำรทดสอบ

ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์เรื่องตอ่ ไป

แผนภมู ิลำดับขน้ั ตอนกำรเรียนโดยใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์
ชุดที่ 3 เร่อื ง แนวคดิ ของทฤษฎที วีปเล่ือนและหลักฐำนสนับสนนุ

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ ง

ชดุ ท่ี 3 แนวคดิ ของทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลกั ฐานสนับสนุน

คำช้แี จงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรส์ ำหรบั ครู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ครูผู้สอนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดที่ 3 เรื่อง แนวคิด
ของทฤษฎีทวปี เล่อื นและหลักฐำนสนับสนุน ใชเ้ วลำในกำรทำกิจกรรม 2 ชั่วโมง ซึง่ นักเรียนจะ
ได้สารวจ สังเกตและรวบรวม ข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการ
สืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญ
สถานการณ์และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้บรรลุจดุ ประสงคแ์ ละมปี ระสิทธภิ าพ ครผู ูส้ อนควรดาเนนิ การดงั น้ี

1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สาหรับครู และแผนการจดั การเรยี นรู้ เพ่อื ที่ครูผู้สอนสามารถนาชุดกิจกรรมการเรียนรไู้ ปใช้ในการ
จัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

2. ครผู สู้ อนเตรียมสอ่ื การเรียนการสอนให้พรอ้ ม
3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซ่ึงนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด
ยกเว้นส่ือการสอนที่ตอ้ งใช้ร่วมกนั
4. ครูต้องช้ีแจงให้นักเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของนักเรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดังนี้

4.1 ศกึ ษาบทบาทของนักเรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรียนรู้โดยใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับข้ันตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพื่อจะได้ทราบ
ว่าจะปฏิบัตกิ จิ กรรมอะไร อย่างไร

4.3 นักเรียนต้องตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ
ชว่ ยเหลือซ่งึ กันและกนั ไม่รบกวนผู้อื่น และไม่ชักชวนเพอื่ นให้ออกนอกล่นู อกทาง

4.4 หลังจากปฏบิ ัตกิ ิจกรรมแล้ว นกั เรยี นจะต้องจดั เก็บอปุ กรณท์ กุ ชิ้นใหเ้ รยี บรอ้ ย
4.5 เมอื่ มกี ารประเมินผลนักเรยี นต้องปฏิบตั ิตนอย่างต้งั ใจและรอบคอบ
5. การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) แบ่งออกเป็น
7 ข้นั ตอน ดงั น้ี
5.1 ขั้นท่ี 1 ขั้นตรวจสอบความรเู้ ดมิ
5.2 ข้นั ที่ 2 ขัน้ สรา้ งความสนใจ
5.3 ขัน้ ท่ี 3 ข้นั สารวจและค้นหา

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ จ

ชุดท่ี 3 แนวคิดของทฤษฎที วีปเล่อื นและหลักฐานสนับสนุน
5.4 ขัน้ ที่ 4 ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ
5.5 ขน้ั ท่ี 5 ขัน้ ขยายความรู้
5.6 ข้นั ที่ 6 ขน้ั ประเมิน
5.7 ขน้ั ที่ 7 ขั้นนาความรู้ไปใช้
6. ขณะที่นกั เรียนทุกกลุ่มปฏิบัติกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด
เป็นรายกลุม่ หรือรายบคุ คล ตอ้ งไม่รบกวนกจิ กรรมของนักเรยี นกลุ่มอน่ื
7. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน
ใดหรือกลุ่มใดมีปญั หาควรเข้าไปใหค้ วามชว่ ยเหลือจนปญั หานนั้ คล่คี ลายลง
8. การสรุปผลที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ
ตัวแทนของกลุ่มร่วมกัน ครคู วรเปดิ โอกาสให้นกั เรียนแสดงออกให้มากทส่ี ุด
9. ประเมนิ ผลการเรยี นร้ขู องนกั เรียน เพ่อื ตรวจสอบผลการเรียนร้ขู องนกั เรียน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ฉ

ชดุ ที่ 3 แนวคิดของทฤษฎที วปี เล่ือนและหลักฐานสนับสนุน

คำชีแ้ จงกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรส์ ำหรับนกั เรียน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีนักเรียนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดที่ 3 เรื่อง แนวคิด
ของทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐำนสนับสนุน ซ่ึงนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต และรวบรวมข้อมูล
มาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหา ผ่านทาง
กระบวนการกลุม่ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุด นักเรียนควรปฏิบัติตามคาช้ีแจง ดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 3 เร่ือง แนวคิดของทฤษฎีทวีปเล่ือน
และหลกั ฐำนสนับสนนุ ใช้เวลำในกำรทำกจิ กรรม 2 ช่ัวโมง

2. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ข้อ
3. นกั เรียนทากิจกรรมเป็นรายกลมุ่ และศกึ ษาวิธีดาเนนิ กจิ กรรมใหเ้ ขา้ ใจ
4. นกั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมในชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
5. นกั เรียนทากิจกรรมในชดุ กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หค้ รบ
6. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 10 ข้อ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ ช

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดทฤษฎีทวปี เลื่อนและหลักฐานสนบั สนนุ

ชุดที่ 3

แนวคิดของทฤษฎีทวปี เล่ือนและหลกั ฐานสนับสนุน

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปล่ียนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
เปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิศาสตร์โลก รวมท้ังผลต่อสิ่งมีชีวิต
และสงิ่ แวดลอ้ ม

ตวั ช้ีวัด
ว 3.2 ม.6/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี
โดยใช้แบบจาลอง
ว 3.2 ม.6/3 ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณที่สัมพันธ์
กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่างหลักฐานทางธรณีวิทยา
ทพี่ บ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวดั
1. อธิบายแนวคดิ ทฤษฎีเกี่ยวกับการเคลอ่ื นที่ของแผ่นธรณี (K)
2. อธิบายหลักฐานทางธรณีทสี่ นับสนนุ การเคล่อื นที่ของแผ่นธรณี (K)
3. สร้างแบบจาลองและอธิบายเกีย่ วกับลักษณะของรอยต่อของแผ่นธรณีภาคของโลก (P)
4. ทดลองและอธิบายสาเหตุทที่ าใหแ้ ผ่นเปลือกโลกเคลอื่ นท่ี (P)
5. ประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเก่ียวกับแนวคิดทฤษฎที วปี เลือ่ นและหลักฐาน
สนบั สนุน ในการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนาความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั (A)

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 1

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดทฤษฎีทวปี เล่อื นและหลักฐานสนับสนุน

6. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรหู้ รอื อยากรอู้ ยากเหน็ ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอย่างสร้างสรรค์ ยอมรบั
ความคดิ เหน็ ของผู้อื่นได้ (A)

ลาดบั ความคิดต่อเนอื่ ง

การแปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี

ธรณีภาคซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของโครงสร้างโลก แบ่งออกเป็นแผ่นธรณี (plate)
หลายแผ่น ซ่งึ เคลอ่ื นท่ีไปบนฐานธรณภี าคทา ให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงทางธรณีอย่ตู ลอดเวลา



ทฤษฎีทวปี เลื่อน คือ แนวความคดิ ท่ีกล่าวว่า ในอดีต ณ ช่วงเวลาหนึง่ ทวปี ต่าง ๆ
ไม่ได้มีตาแหน่ง เหมือนกับในปจั จุบนั แต่เคยอยู่รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่เพียงแผ่นดนิ เดียวที่
เรียกวา่ พันเจยี (Pangaea)



หลักฐานที่สนับสนุนว่าทวีปเคยอยู่ติดกันมาก่อน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีป ซาก
ดึกดา บรรพ์ ความคลา้ ยกันของกลมุ่ หนิ และแนวเทือกเขา หลักฐานจากรอยครูดบนหนิ ท่เี กิด
จากการเคลอื่ นตวั ของธารนา้ แขง็ บรรพกาล



ทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร เป็นการพบหลักฐานบนพ้ืนสมุทรท่ีสนับสนุนการ
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ได้แก่ สันเขากลางสมุทร อายุของหินบะซอลต์บนพื้นมหาสมุทร
ภาวะแมเ่ หลก็ บรรพกาล



นกั วิทยาศาสตร์รวบรวมหลักฐานและแนวคิด จากทฤษฎีทวปี เลื่อน ทฤษฎีการแผ่
ขยายพืน้ สมุทร นา มาสรุปเป็นทฤษฎกี ารแปรสัณฐานของแผ่นธรณี ซึ่งกล่าวถึงการเคลื่อนท่ี
และการเปลี่ยนลักษณะของแผ่นธรณีอันเน่ืองมาจากวงจรการพาความร้อนของแมกมา
ภายในเนือ้ โลก



การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีสัมพันธ์กับ แนวรอยต่อของแผ่นธรณี 3 รูปแบบ คือ
แนวแผ่นธรณีแยกตัว แนวแผ่นธรณีเคลื่อนที่หากัน แนวแผ่นธรณีเคล่ือนผ่านกันในแนวราบ
แต่ละรูปแบบ ส่งผลให้เกิดธรณีสัณฐาน โครงสร้างทางธรณีแบบต่าง ๆ และปรากฏการณ์
ทางธรณีต่าง ๆ บนโลก

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 2

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเล่อื นและหลกั ฐานสนับสนุน
สาระสาคัญ

แผ่นธรณีต่าง ๆ ของโลกมีการเปล่ียนแปลงขนาดและตาแหน่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มหี ลกั ฐานปรากฏให้เห็น ซ่ึงอธบิ ายการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณไี ด้ตามทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผ่น
ธรณี โดยมี แนวคิดมาจาก ทฤษฎีทวีปเล่ือน และทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร ซ่ึงมีหลักฐาน
ที่สนับสนุน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีปท่ีสามารถเช่ือมต่อกันได้ ความคล้ายคลึงกันของกลุ่มหิน
และแนวเทือกเขา ซากดึกดา บรรพ์ ร่องรอยการเคลื่อนท่ีของตะกอนธารน้า แข็ง ภาวะแม่เหล็ก
บรรพกาล อายุหินของพ้ืนมหาสมทุ ร รวมท้ังการคน้ พบสนั เขากลางสมุทร และรอ่ งลกึ ก้นสมทุ ร

ทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผ่นธรณีอธิบายการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี เนื่องจากการพา
ความร้อน ของแมกมา ภายในโลก โดยแนวรอยต่อของแผ่นธรณีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณี
แยกตัว แนวแผ่นธรณีเคล่ือนหากัน และแนวแผ่นธรณีเคล่ือนทผ่ี ่านกันในแนวราบ ซ่ึงทา ให้เกิดธรณี
สัณฐาน ได้แก่ ร่องลึกก้นสมุทร หมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด
และสันเขากลางสมทุ ร และ โครงสรา้ งทางธรณี เชน่ เขตรอยเล่ือน นอกจากน้ยี ังทา ใหเ้ กิดธรณพี ิบัติ
ภยั ตา่ ง ๆ

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 3

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วปี เล่ือนและหลักฐานสนบั สนุน

แบบทดสอบก่อนเรยี น
เร่อื ง แนวคิดของทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนับสนุน
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว30104 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบบั น้ี จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาท่ีใช้ 10 นาที
2. จงเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทสี่ ดุ แลว้ เขยี นเครื่องหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. ในการศกึ ษาเรอ่ื งใด ๆ อาจมแี นวคดิ หรือทฤษฎใี นเรอ่ื งน้นั ๆไดม้ ากกว่าหนึ่ง ทัง้ น้ีขึ้นอยู่กบั
อะไร

ก. เวลาที่ค้นพบ
ข. ผู้ทาการค้นควา้
ค. ข้อมลู ท่ีถูกค้นพบ
ง. เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการศึกษา

2. บุคคลใดที่เปน็ ผู้เสนอทฤษฎี ทวีปเล่ือน
ก. กาลิเล โอ
ข. รอเบิร์ต ฮุก
ค. ฟรานซิส เบคอน
ง. อัลเฟรด เวเกเนอร์

3. โครงสรา้ งของโลกตามลักษณะมวลสารแบ่งเป็น 3 ชั้นใหญ่ๆประกอบไปด้วยชั้นใดบ้าง
ตามลาดับ

ก. ช้ันเปลือกโลก, ช้ันผิวโลก, ช้ันเน้ือโลก
ข. ช้ันเปลือกโลก, ช้ันเนื้อโลก, ชั้นแก่นโลก
ค. ชั้นเปลือกโลก, แก่นโลกชั้นใน, ชั้นแก่นโลก
ง. ชั้นเปลือกโลก, แก่นโลกชั้นนอก, แก่นโลกช้ันใน

4. กระบวนการที่ทาให้เกิดการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณเี กดิ จากอะไร
ก. การถ่ายโอนความร้อนภายในโลก
ข. การนาความร้อนของแผ่นธรณี
ค. ความหนาแน่นของแผ่นธรณี
ง. การหลอมระลายของช้ินหิน

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 4

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเล่ือนและหลกั ฐานสนบั สนุน

5. ธรณีภาคแผ่นอินเดียเคลือ่ นเข้ามุดชนกับแผ่นธรณีภาคแผน่ ยูเรเซียทาให้เกิดส่ิงใด
ก. แผ่นดินไหว
ข. เทือกเขาแอลป์
ค. เทือกเขาหิมาลัย
ง. การนาความร้อนของแผ่นธรณี

6. อุณหภูมิและความดันของแมกมาลดลงเป็นผลทาให้เกิดส่ิงใด
ก. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนและมุดลงใต้แผ่นธรณีภาคพื้นทวีปทาให้เกิดเหวลึก
ข. ธรณีภาคแผ่นหนึ่งมุดซ้อนลงใต้อีกแผ่นหนึ่งทาให้เกิดเทือกเขาสาคัญ
ค. เปลือกโลกตอนบนทรุดตัวทาให้เกิดหุบเขาทรุด
ง. ไม่มีผลกระทบต่อส่ิงใด

7. แผ่นธรณีภาค 2 ชนิดไดแ้ ก่แผ่นทวีปและแผน่ มหาสมุทรข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. เป็นแผ่นธรณีภาคที่เคล่ือนท่ีตลอดเวลา
ข. เป็นแผ่นธรณีภาคที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ค. เป็นแผ่นธรณีภาคที่ไม่สามารถเคล่ือนที่ได้
ง. เป็นแผ่นธรณีภาคท่ีอยู่ใต้มหาสมุทรเท่านั้น

8. ข้อใดถูกต้องท่ีสุดเก่ียวกับทวีปเลื่อน
ก. เกิดจากทวีป 2 ทวีปเล่ือนตัวเข้าหากัน
ข. ทวีปที่เดิมเป็นผืนแผ่นเดียวกันจะเริ่มค่อยๆ มีการแยกตัวออกจากกัน
ค. ทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกาเล่ือนเข้าหากันกลายเป็นทวีปขนาดใหญ่
ง. แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดทาให้ทวีปที่อยู่ติดกันเลื่อนออกจากกัน

9. แผ่นธรณีภาคแผ่นใดแผน่ หน่ึงจะมุดลงใต้อีกแผ่นหนง่ึ เกิดล่องลึกก้นสมุทรและแนวภูเขา
ไฟใต้ทะเลเกดิ จากอะไร

ก. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรเคล่ือนที่มุดชนกับแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป
ง. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร
ค. แผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีปชนกับแผ่นธรณีภาคพื้นทวีป
ง. ขอบแผ่นธรณีภาคเคล่ือนท่ีผ่านกัน

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 5

ชดุ ที่ 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเลอื่ นและหลกั ฐานสนับสนนุ
10. ธรณีภาค เกิดจากอะไร

ก. เปลือกโลกส่วนที่เป็นแผ่นดิน
ข. การหลอมละลายของชั้นหิน
ค. เน้ือโลกส่วนบนกับช้ันเปลือกโลกรวมกัน
ง. การรวมตัวของโลหะเหล็กและนิเกิลด้วยความร้อนสูง

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 6

ชดุ ที่ 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเลื่อนและหลกั ฐานสนบั สนนุ

บตั รเนอ้ื หา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
ชุดที่ 3 แนวคิดของทฤษฎที วปี เลอื่ นและหลกั ฐานสนบั สนนุ

ในต้นศตวรรษที่ 19 มีนักวิทยาศาสตร์ได้เสนอแนวคิดว่า ในอดีต ณ ช่วงเวลาหนึ่งทวีป
ต่าง ๆ ของโลกไม่ได้มีตาแหน่งเหมือนเช่นปัจจุบัน แต่เคยเช่ือมต่อเป็นผืนแผ่นดินเดียวกันมาก่อน
นกั วิทยาศาสตร์คนหน่ึงท่เี สนอแนวคิดขา้ งต้น คือ อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) โดยเริ่ม
จากการสังเกตรูปร่างทวีปต่าง ๆ บนโลกและพบว่าบางทวีปมีขอบที่ต่อกันได้ ดังรูปท่ี 3.1 จึงนาไปสู่
การศึกษาหาหลักฐานและขอ้ มูลเพอ่ื สนบั สนนุ แนวคดิ ดังกลา่ ว

รปู ที่ 3.1 แสดงรอยตอ่ ของทวีปในอดีต
ทมี่ า http://508 star.blogspot.com
รูปท่ี 3.1 แสดงให้เห็นว่าเม่ือ 200 ล้านปีก่อน ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา
อินเดีย ออสเตรเลีย เคยอยู่ชิดติดกับทวีปแอนตาร์กติกในบริเวณขั้วใต้ ซึ่งเป็นเขตหนาวเย็น โดยมี
หลักฐานเป็นรอ่ งรอยของธารน้าแขง็ ในอดีต ในขณะทีต่ อนใตข้ องทวีปอเมริกาเหนอื ยุโรป และเอเชีย
มีหลกั ฐานบ่งช้วี ่า เคยเป็นเขตรอ้ นแถบศูนยส์ ูตรมากอ่ น เน่ืองจากอุดมสมบูรณ์ด้วยถ่านหนิ และน้ามัน
ซึ่งเกิดจากการทับถมของพืชในอดีต และหลักฐานจากฟอสซิล

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 7

ชดุ ที่ 3 แนวคิดทฤษฎที วปี เลื่อนและหลักฐานสนับสนนุ
นักธรณีวิทยาเช่ือว่าเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่ ในปี 1908 Frank B. Taylor ได้อธิบาย
ปรากฏการณ์ของการที่มหาทวีป 2 แห่ง ซ่ึงเคยวางตัวอยู่ใกล้ข้ัวโลกเหนือและใต้แตกแยกออกเป็น
ทวีปขนาดเล็กกว่าและเคล่ือนท่ีมาทางเส้นศูนย์สูตร นั่นคือมหาทวีปลอเรเซีย (Laurasia) ซ่ึงอยู่ทาง
เหนือและมหาทวีปกอนด์วานา (Gondwanaland) ซ่ึงอยู่ทางใต้ โดยเป็นการเคลื่อนที่เฉพาะของ
เปลือกโลกไซอัล และผลักดันตะกอนทาให้เกิดแนวเทือกเขาทางด้านหน้าทท่ี วีปเคลื่อนที่ไปประกอบ
กับร่องรอยการแตกแยกของทวีปทางด้านหลัง สาหรับแรงที่ทาให้เกิดการเคล่ือนที่ของทวีปน้ัน
อธบิ ายวา่ มาจากแรงดึงดดู ของดวงจนั ทร์ซ่ึงเข้ามาอยู่ใกลช้ ดิ โลกมาก ในยคุ ครีเทเชยี ส
ต่อมาในปี 1910 Alfred Wegener ได้สร้างแผนท่ีมหาทวีปใหม่เพียงแห่งเดียว โดยอาศัย
รูปร่างแผนที่ของ Snider และตั้งช่ือว่ามหาทวีปพันเจีย ล้อมรอบอยู่ด้วยมหาสมุทรแพนธาลาสซา
(Panthalassa) แลว้ จึงแตกออกและเคลอ่ื นท่ีไปอยู่ ณ ตาแหน่งทเี่ ห็นอยูใ่ นปัจจุบนั
ขณะเคล่ือนท่ีก็เกิดเทือกเขาด้านหน้า การแตกแยกด้านหลังเหมือนคาอธิบายของ Taylor
นอกจากน้ียังอธิบายว่ารอยชิ้นทวีปที่ขาดหล่นปรากฏเป็นเกาะแก่ง หรือรอยฉีกที่พบเป็นร่องลึก
ยังปรากฏอยู่บนพ้ืนมหาสมุทร ขณะเดียวกับท่ีมีการแทรกดันข้ึนมาของเปลือกโลก ท่ีมีมวลตั้งต้น
มาจากช้นั เนือ้ โลก

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 8

ชุดท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนบั สนุน

รูปท่ี 3.2 ภาพแสดงแผ่นทวีปตา่ ง ๆ
ท่มี า : http://www.baanjomyut.com
ทกุ ทวีปในโลกเคยเปน็ แผ่นดินเดยี วกัน
นักธรณีวิทยาพบว่าเปลือกโลกมิได้รวมติดกันเป็นแผ่นเดียวโดยตลอด มีรอยแยกอยู่ท่ัวไป
ซึ่งรอยแยกเหล่าน้ีอยู่ลึกลงไปจากผิวโลก เปลือกโลกแบ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ 6 แผ่น
และแผน่ เปลอื กโลกขนาดเลก็ อกี หลายแผน่

รูปที่ 3.3 แผน่ เปลือกโลกแสดงรอยต่อระหว่างแผน่ เปลือกโลก
ท่มี า http://www.baanjomyut.com
โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 9

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดทฤษฎที วปี เลือ่ นและหลักฐานสนบั สนุน

จากรูปท่ี 3.3 แผ่นเปลือกโลก จะเห็นว่าเปลือกโลกประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่
6 แผน่ ดงั น้ี

1. แผ่นยเู รเซีย เปน็ แผน่ โลกท่รี องรับทวีปเอเซยี และทวีปยุโรป และพ้ืนนา้ บริเวณใกลเ้ คียง
2. แผน่ อเมรกิ า แผน่ เปลือกโลกท่ีรองรับทวีปอเมริกาเหนือ และทวปี อเมรกิ าใตแ้ ละพื้นน้า
คร่งึ ซกี ตะวันตกของมหาสมุทรแอนแลนตกิ
3. แผน่ แปซิฟิก เป็นแผน่ เปลือกโลกทรี่ องรบั มหาสมทุ รแปซฟิ ิก
4. แผ่นออสเตรเลยี เป็นแผน่ เปลือกโลกท่ีรองรบั ทวปี ออสเตรเลีย ประเทศอินเดีย และพื้น
นา้ ระหวา่ งประเทศออสเตรเลียกบั ประเทศอนิ เดีย
5. แผน่ แอนตาร์กติกา เปน็ แผ่นเปลือกโลกที่รองรบั ทวปี แอนตาร์กติกา และพน้ื น้าโดยรอบ
6. แผ่นแอฟริกา เปน็ แผน่ เปลือกโลกท่รี องรับทวปี แอฟริกา และพนื้ น้ารอบๆ ทวปี
นอกจากนี้ยังมีแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กอีกด้วย เช่น แผ่นฟิลิปปินส์ ซ่ึงรองรับประเทศ
ฟิลิปปินส์ เปน็ ต้น
ซึง่ มีทฤษฎีและหลกั ฐานต่างๆ มากมาย เพื่อพสิ จู น์ว่าโลกเคยเปน็ แผน่ ดนิ เดยี วกนั แล้วแยก
ออกจากกนั จนเปน็ รปู ร่างที่เห็นในปจั จุบนั
ทฤษฎีการเล่ือนไหลของทวีป เป็นทฤษฎีที่เสนอโดย อัลเฟรด เวเกเนอร์ ชาวเยอรมัน
ซ่ึงมใี จความว่า เมอื่ 180 ล้านปี ผวิ โลกส่วนที่เป็นแผ่นดินซึ่งโผล่พ้นผวิ นา้ ทตี่ ิดกันเป็นทวีปเดียว เรยี ก
ทวีปใหญ่น้ีว่า แพงเจีย (pangea) ซ่ึงแปลว่า all land หรือ แผ่นดินท้ังหมด เมื่อเลาผ่านไปแพงเจีย
เริ่มแยกเป็นหลายส่วน แต่ละส่วนขยับเขยื้อนเคล่ือนท่ีแยกจากกันไปเป็นทวีปต่างๆ ดังปรากฏใน
ปจั จบุ ัน

ภาพที่ 3.4 ทวีปเดยี วตามแนวคิดของ อัลเฟรด เวเกเนอร์
ทมี่ า http://www.baanjomyut.com

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 10

ชุดท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนบั สนนุ
หลกั ฐานทส่ี นับสนนุ ทฤษฎกี ารเล่ือนไหลของทวีปของอัลเฟรด เวเกเนอร์

1. หลักฐานสภาพรปู รา่ งของทวปี
สาหรับเวเกเนอร์หลักฐานแรกท่ีนามาใช้อธิบายแนวคิดเรื่อง“ ในอดีตทวีปทั้งหมดเคย

เป็นแผ่นดินเดียวกันมาก่อน” คือรูปร่างของขอบทวีปต่าง ๆ บนโลกบางทวีปมีขอบที่ต่อกันได้เช่น
ทวีปอเมริกาแอฟริกาและยุโรปซึ่งคาดว่าทวีปเคยอยู่ติดกันท้ังน้ีจากกิจกรรมจะเห็นว่าการต่อรูปร่าง
ของทวีปโดยพิจารณาจากแนวชายฝ่ังในปัจจุบันอาจต่อกันได้ไม่สมบูรณ์เน่ืองจากการกร่อนและการ
สะสมตัวของตะกอนเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี แต่หากต่อรูปร่างของทวีปโดยใช้ขอบของลาดทวีป
จะพบว่าทวีปต่าง ๆ สามารถเชื่อมตอ่ กันได้สมบรู ณ์มากขึน้ ดังรูป 3.5

รปู ที่ 3.5 การเชือ่ มตอ่ ขอบทวปี ต่าง ๆ บนโลก โดยพิจารณาจากขอบของลาดทวีปเปน็ เกณฑ์
ท่มี า : หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 (หนา้ 37)

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร
โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ชีย่ วชาญ 11

ชดุ ที่ 3 แนวคิดทฤษฎีทวปี เล่ือนและหลกั ฐานสนบั สนุน
รูปร่างของทวีปต่างๆ สวมกันได้อย่างพอเหมาะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทวีปแอฟริกากับทวีป
อเมรกิ าเหนอื และอเมรกิ าใต้

รูปท่ี 3.6 ทวีปเดียวตามแนวคิดของ อลั เฟรด เวเกเนอร์
ที่มา http://www.baanjomyut.com

ในปี พ.ศ. 2458 นักอุตุนิยมชาวเยอรมัน ช่ือ ดร.อัลเฟรด เวเกเนอร์ ได้ต้ังสมมติฐานว่า
แผ่นดินทงั้ หมดบนโลกแต่เดิมเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันเรียกว่าพันเจียซึ่งเปน็ ภาษากรีกแปลว่าแผน่ ดิน
ทั้งหมด

พนั เจยี เปน็ มหาทวปี ทีค่ ลุมพืน้ ทจ่ี ากขัว้ โลกเหนอื -ข้วั โลกใต้ ลอ้ มรอบดว้ ยมหาสมทุ รพัน
ทาลัสซ่งึ แบง่ ออกเป็น 2 สว่ น คือ ส่วนเหนือเสน้ ศูนย์สูตร คอื ลอเรเซีย และสว่ นใต้เส้นศูนยส์ ตู ร
คือกอนดว์ านา เวเกเนอร์และคณะไดอ้ ธิบายสมมตฐิ านโดยใชห้ ลักฐาน

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 12

ชดุ ที่ 3 แนวคิดทฤษฎีทวปี เลอื่ นและหลักฐานสนับสนนุ

รูปท่ี 3.7 แสดงข้นั ตอนการเล่ือนของแผน่ ธรณีภาคจากอดตี ถงึ ปัจจุบัน
ที่มา http://khanaporn.exteen.com

1. หลักฐานจากรอยต่อของทวปี
2. หลักฐานจากความคลา้ ยคลงึ กนั ของกลมุ่ หินและแนวภูเขา
3. หลักฐานจากหนิ ที่เกดิ จากการสะสมตวั ของตะกอนจากธารน้าแขง็
4. หลกั ฐานจากซากดึกดาบรรพ์

และหลักฐานข้อมลู ทางธรณวี ิทยาอน่ื ๆทีส่ นับสนุนการเคลอ่ื นตัวของทวีป
2. หลกั ฐานสง่ิ มชี ีวิตทัง้ พืชและสัตว์

มีการอ้างหลักฐานการพบซากดึกดาบรรพ์ของส่ิงมีชีวิตท้ังพืชและสัตว์และช้ันของหิน
ชนิดเดยี วกันในสองทวีปแถบทอี่ ยดู่ า้ นเดียวกนั หรือใกลเ้ คียง

เวเกเนอร์ได้เสนอแนะให้ลองพิจารณารูปร่างของทวีปต่างๆ บนแผนที่โลก เวเกเนอร์ยัง
ได้ศึกษาซากฟอสซิลของพืชและสัตว์ท่ีมีอยู่ตามแนวชายฝั่ง (Coastline) ท้ังทวีปอเมริกาใต้และ
ทวีปแอฟริกา ซ่ึงพบว่าบริเวณที่แนวชายฝั่งทวีปท้ังสองต่อตรงกันน้ัน ซากฟอสซิลที่พบก็เหมือนกัน
ทกุ อย่างด้วยซึ่ง หมายความว่าพืชและสัตวท์ ่ีกลายเป็นฟอสซิลน้ันเป็นชนิดเดียวกัน หากทวีปทั้งสอง

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 13

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลอื่ นและหลกั ฐานสนับสนนุ
อยู่แยกกันมาอย่างในปัจจุบัน โดยมีมหาสมุทรคั่นระหว่างทวีปเช่นนี้ แล้วพวกพืชและสัตว์ในอดีต
เหล่านี้จะเดินทางจากทวีปหนึ่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปสู่อีกทวีปหนึ่งได้อย่างไร ข้อสังเกตน้ี
สนบั สนุนสมมตฐิ านของเวเกเนอรท์ ว่ี า่ ทวปี อเมริกาใต้และทวีปแอฟรกิ าเดมิ เป็นผืนดินเดยี วกนั

รปู ที่ 3.8 แสดงหลกั ฐานรอยตอ่ ของทวีปและหลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์
ทีม่ า : http://khanaporn.exteen.com

ทฤษฎีนเ้ี กิดในชว่ งคริสต์ศตวรรษที่ 19 จากการศึกษาแผนที่โลกของ ฟรานซสิ เบคอน
(Francis Bacon) โดยคาดเดาวา่ ทวปี อเมรกิ าใต้ และทวปี แอฟริกา หากดันเขา้ มาประกอบกัน
สามารถเชือ่ มตอ่ กนั ได้พอดี

ต่อมาในปี ค.ศ.1915 อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) ได้นาเสนอเกี่ยวกับทฤษฎี
ทวีปเล่ือนว่า เมื่อประมาณ 200 - 300 ล้านปีท่ีผ่านมา แผ่นดินทั้งหมดในโลกรวมเป็นผืนเดียวกัน
เรียกว่า “แพงเจีย” (Pangea : แปลว่า ผืนแผ่นดินทั้งหมด) ซ่ึงประกอบด้วยทวีปอเมริกาเหนือ
อเมริกาใต้ แอฟริกา ออสเตรเลีย อินเดีย และหมู่เกาะมาดากัสการ์ มากล่าวไว้ โดยกล่าวว่า ในยุค
ไตรแอสสิก ทวีปที่เดิมเป็นผืนแผ่นเดียวกันจะเริ่มค่อย ๆ มีการแยกตัวออกจากกัน โดยทวีปอเมริกา

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 14

ชุดท่ี 3 แนวคิดทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลกั ฐานสนับสนนุ

เหนือและอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจากทวีปแอฟริกา และทวีป ยุโรป จึงทาให้ขนาดของมหาสมุทร
แอตแลนติกกวา้ งย่ิงขน้ึ เราเรียกการเคลอ่ื นไหวดงั กลา่ วว่า “ทวปี เล่ือน” (Continental Drift)

ทฤษฎีเล่ือนน้ีเป็นท่ียอมรับกันท่ัวไปในปี ค.ศ.1960 จากทฤษฎีดังกล่าว กล่าวถึงการที่ทวีป
อเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้รวมเป็นแผ่นเดียวกันเรียกว่า “แผ่นอเมริกา” และมักพบว่าส่วน
บริเวณท่เี ปน็ ขอบของแผ่นทวีป เชน่ แผน่ ทวีปแปซฟิ ิก จะพบแนวการเกิดภเู ขาไฟและแผ่นดนิ ไหวอยู่
เสมอ เนื่องจากการเคล่ือนทขี่ อง แผน่ ทวีป (plate) อยูต่ ลอดเวลา สันนิษฐานวา่ การเคลื่อนทีข่ องหิน
หลอมละลายและกระบวนการพาความร้อนภายในโลก เนื่องมาจากความแตกต่างของอุณหภูมิและ
ความหนาแน่นทาให้เกดิ การหมนุ เวยี น

โดยเมื่อ 200 ล้านปีก่อน ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา อินเดีย ออสเตรเลีย
เคยอยู่ชิดติดกับทวีปแอนตาร์กติกในบริเวณขั้วใต้ ซ่ึงเป็นเขตหนาวเย็น โดยมีหลักฐานเป็นร่องรอย
ของธารนา้ แขง็ ในอดีต

ในขณะทตี่ อนใตข้ องทวีปอเมริกาเหนอื ยุโรป และเอเชีย มีหลักฐานบ่งชวี้ ่า เคยเป็นเขตรอ้ น
แถบศูนย์สูตรมาก่อน เนื่องจากอุดมสมบูรณ์ด้วยถ่านหินและน้ามัน ซ่ึงเกิดจากการทับถมของพืช
ในอดีต ประกอบกับหลักฐานทางฟอสซิล แสดงให้เห็นว่า เม่ือครั้งก่อนแผ่นดินเหล่าน้ีเคยอยู่ชิด
ติดกนั พชื และสัตว์บางชนิดจงึ แพรข่ ยายพันธุ์บนดินแดนเหลา่ น้ีในอดีต

แผ่นเทคโทนิกยูเรเชีย และแผ่นเทคโทนิกออสเตรเลียมีรอยเช่ือมกันอยู่ท่ีบริเวณอินโดนีเซีย
ไปจนถึงทะเลอันดามัน (เส้นสีเทา ) ซึ่งเกิดการเล่ือนเบียดกัน ณ บริเวณเส้นวงกลม ใต้ท้องทะเล
จงึ เกดิ เหตคุ ล่นื ยักษ์

แผ่นดินไหวเร่ิมที่เกาะสุมาตรา เนื่องแผ่นเทคโทนิก 2 แผ่น คือ แผ่นออสเตรเลีย
และยเู รเซียเคลือ่ นทจี่ นทาให้เกิดการเบียดกันและมดุ เข้าหากับอีกแผ่นที่บริเวณตะวนั ตกเฉียงใต้ของ
เกาะสุมาตรา ทาให้เกิดคลนื่ ใต้นา้ ขนาดใหญเ่ ขา้ สู่ชายฝั่ง

แนวความคิดที่สนับสนุนทฤษฎีทวีปเล่ือน ได้แก่ ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นทะเล (Sea
Floor Spreading Theory) และยังมีหลักฐานสนับสนุนอื่นๆ อีก เช่น หลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์
ที่พบบริเวณสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่ ฝั่งทวีปอเมริกาใต้ และทวีปแอฟริกาใต้ มีลักษณะ
คลา้ ยกัน

นอกจากหลักฐานเรื่องขอบทวีปแลว้ เวเกเนอรไ์ ด้พยายามหาคาอธิบายแนวคิดโดยการศึกษา
และหาหลักฐานดว้ ยตนเองร่วมกบั ข้อมลู จากงานวิจัยของนกั วิทยาศาสตร์อ่ืน ๆ ดงั น้ี

(1) หลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์จากการพบซากดึกดาบรรพ์ของพืชและสัตว์ เช่น
กลอสโซพเทรีส (Glossopteris) มีโซซอรัส (Mesosaurus) ไซโนเนทัส (Cynognathus) ลีสโทร
ซอรัส (Lystrosaurus) บนทวีปอเมริกาใต้ทวีปแอฟริกาทวีปแอนตาร์กติกาทวีปออสเตรเลียและ
ประเทศอนิ เดยี ซงึ่ ในปัจจุบันพ้ืนทีต่ า่ ง ๆ ดังกล่าวอยู่ห่างกนั มากและมมี หาสมุทรคน่ั อยูด่ ังนั้นโอกาสที่

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 15

ชดุ ที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนบั สนนุ
พืชและสัตว์ดังกล่าวข้ามถิ่นฐานระหว่างทวีปน้ันเป็นไปได้ยากนักวิทยาศาสตร์จึงนามาใช้เป็น
หลกั ฐานประกอบว่าในอดตี ทวีปดงั กล่าวเคยอยู่ติดกันมากอ่ นดังรูป 3.9

รปู ท่ี 3.9 การกระจายตัวของซากดึกดาบรรพ์พืชและสตั วช์ นดิ ตา่ ง ๆ
ท่คี ้นพบในแต่ละทวีป แสดงถงึ การเช่อื มต่อของแผน่ ดนิ ในอดีต

ท่ีมา : หนังสือเรียนรายวิชาเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 38)
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

(2) หลักฐานจากกลุ่มหินและแนวเทอื กเขา เมอ่ื พจิ ารณาหลักฐานทางด้านธรณีวิทยาและ
ธ ร ณี กา ล นั กวิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ได้ ศึ กษ า ช นิ ด หิ น แ ล ะ กลุ่ ม หิ น ต า ม แ น ว เ ทื อ ก เ ข า แ อป พ า เ ล เ ชี ย น
( Appalachian mountains) ในท วีปอ เมริ กาเ หนือแ ละ แ น ว เ ทื อ ก เ ข า ค า เ ล โ ด เ นี ย น
(Caledonian mountains) ในประเทศนอร์เวย์กรีนแลนด์ไอร์แลนด์และอังกฤษซ่ึงอยู่บนสองฝั่ง
ของมหาสมุทรแอตแลนติกดังรูป 3.10 (ก) พบว่าแนวเทือกเขาทั้งสองมีกลุ่มหินเดียวกันและมีช่วง
อายุเดียวกันประมาณ 200 ล้านปีและเมื่อนขอบของลาดทวีปมาเชื่อมต่อกันพบว่าในอดีตเทือกเขา
ท้ังสองวางตัวอยู่เป็นแนวเทือกเขาเดียวกันดังรูป 3.10 (ข) จึงเป็นอีกหลักฐานหน่ึงที่นามาใช้
สนับสนนุ แนวความคิดทว่ี ่าในอดีตทวปี ดงั กลา่ วเคยอยูต่ ิดกันมาก่อน

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 16

ชดุ ท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลกั ฐานสนบั สนุน

รูปท่ี 3.10 หลกั ฐานจากกลมุ่ หนิ และแนวเทือกเขา
(ก) แนวเทือกเขาในทวีปอเมรกิ าเหนอื และทวีปยโุ รป ในปจั จบุ นั
(ข) แนวเทือกเขาในทวีปอเมรกิ าเหนอื และทวปี ยุโรป ท่ีเคยเชอ่ื มต่อกนั ในอดตี
ที่มา : หนังสอื เรยี นรายวชิ าเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 39)
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 17

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวปี เล่อื นและหลกั ฐานสนบั สนุน
นอกจากน้ีนักวิทยาศาสตร์ยังได้ศึกษากลุ่มหินบริเวณทวีปอเมริกาใต้ทวีปแอฟริกาทวีป
ออสเตรเลียทวีปแอนตาร์กติกาและประเทศอินเดียพบว่าต่างก็มีกลุ่มหินที่มีช่วงอายุระหว่าง 359-
146 ลา้ นปี และมสี ภาพแวดล้อมการเกิดของหนิ คล้ายคลึงกัน
(3) หลักฐานจากการเคล่ือนที่ของธารน้าแข็งบรรพกาล จากการท่ีนักวิทยาศาสตร์ได้
ศึกษาสภาพภมู ิอากาศบรรพกาลในทวีปออสเตรเลยี ทวีปแอฟริกาทวีปอเมริกาใต้และประเทศอินเดีย
ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในเขตร้อนชื้นหรือเขตอบอุ่นพบว่าในบางบริเวณของทวีปเหล่าน้ันมีหลักฐานรอย
ครดู แสดงการเคลื่อนที่ของธารน้าแข็งบรรพกาลในชว่ งอายุ 280 ลา้ นปี ดงั รูป 3.11 (ก) และเมอื่ น้า
ขอบทวีปมาต่อกันพร้อมกับพจิ ารณาทศิ ทางการเคล่ือนท่ีของธารน้าแข็งบรรพกาลจากรอยครูดถูบน
หินฐานที่ธารน้าแข็งเคลื่อนท่ีผ่านพบว่าธารน้าแข็งบรรพกาลมีการเคล่ือนที่กระจายออกจากทวีป
แอฟริกาไปสู่บริเวณอื่นซ่ึงคล้ายคลึงกับลักษณะการเคล่ือนท่ีของธารน้าแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา
ในปัจจุบันจงึ เปน็ สมมุติฐานวา่ ทวีปดังกลา่ วเคยอยตู่ ดิ กนั ใกลบ้ รเิ วณข้ัวโลกใต้และมีพดื น้าแข็งปกคลุม
ดงั รูป 3.11 (ข)

รูปที่ 3.11 หลกั ฐานจากการเคลื่อนท่ขี องธารน้าแข็งบรรพกาล
(ก) บรเิ วณทีพ่ บหลักฐานจากการเคล่อื นท่ขี องธารนา้ แข็งบรรพกาล
ท่ีมา : หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หนา้ 40)
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 18

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วปี เลอ่ื นและหลกั ฐานสนับสนุน

รูปที่ 3.11 หลักฐานจากการเคล่ือนท่ีของธารน้าแข็งบรรพกาล
(ข) ทวีปต่าง ๆ เคยต่อกนั บรเิ วณขว้ั โลกใต้

ที่มา : หนงั สอื เรียนรายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 (หนา้ 41)
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 19

ชุดที่ 3 แนวคิดทฤษฎีทวีปเลื่อนและหลักฐานสนับสนุน

บตั รกิจกรรมท่ี 3.1
เรื่อง การสารวจหลกั ฐานสนับสนนุ ว่าทฤษฎีเคยอยูต่ ิดกันมาก่อน

จดุ ประสงคก์ ิจกรรม
อธบิ ายและสรา้ งแบบจาลองหลักฐานทีส่ นบั สนนุ แนวคดิ ว่าทวปี เคยอย่ตู ดิ กนั มาก่อน

วัสดุ-อปุ กรณ์
1. หลกั ฐานจากซากดกึ ดาบรรพ์ (รปู 1)
2. หลักฐานจากกล่มุ หินและแนวเทอื กเขา (รปู 2)
3. หลกั ฐานจากการเคลอื่ นท่ีของธารนา้ แข็งบรรพกาล (รูป 3)
4. โครงร่างแผนท่ีโลกปัจจุบัน (ภาคผนวก ก)
5. รูปแผน่ ทวปี ต่าง ๆ (ภาคผนวก ข)
6. กรรไกร 1 อัน
7. ปากกาส/ี ดินสอสี 1 ชุด

รปู 1 หลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 20

ชดุ ท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวปี เล่ือนและหลกั ฐานสนบั สนนุ

รปู 2 หลักฐานจากกลุ่มหนิ และแนวเทอื กเขา

รปู 3 หลักฐานจากการเคล่ือนท่ีของธารน้าแขง็ บรรพกาล
โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 21

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเลือ่ นและหลกั ฐานสนบั สนุน

สถานการณ์
"ถ้านกั เรียนต้องการนาเสนอแนวคิดเรือ่ ง "ในอดีตทวปี ทั้งหมดเคยเปน็ แผน่ ดินเดียวกนั มา

กอ่ น" โดยใชห้ ลกั ฐานจากซากดกึ ดาบรรพ์ กลมุ่ หนิ และแนวเทอื กเขา และการเคลอ่ื นท่ีของธารนา้
แขง็ บรรพกาล ท่ีพบจากในทวปี ต่าง ๆ ทว่ั โลก" นักเรยี นจะมวี ธิ ีการวิเคราะห์ข้อมลู และ นาเสนอให้
คนท่วั ไปยอมรับแนวคิดดังกล่าวได้อย่างไร

วิธีการทากิจกรรม
1. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์ เก่ียวกบั สถานการณแ์ ละหลักฐานทีก่ าหนดใหด้ ังตอ่ ไปน้ี
- หลักฐานจากซากดึกดาบรรพ์
- หลกั ฐานความคล้ายกนั ของกลุ่มหนิ และแนวเทอื กเขา
- หลกั ฐานจากการเคล่อื นท่ขี องธารน้าแข็งบรรพกาล
2. สืบค้น และรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ นาผลท่ีได้มาบันทึกลงในตารางท่ี

กาหนดให้
3. วเิ คราะห์ขอ้ มูลจากตารางมาจดั ทาแผนที่แสดงการเช่อื มต่อกันของแผน่ ทวปี โดยใช้ โครง

ร่างแผนที่ท่กี าหนดให้
4. นาเสนอแผนทท่ี ีแ่ สดงการเชอื่ มตอ่ กันของแผน่ ทวีป
5. รวบรวมความคิดเห็นท่ีได้จากการนาเสนอและอภิปรายร่วมกันมาปรับปรุงผลงานให้

สมบรู ณ์ย่งิ ขึน้

ตารางบนั ทกึ ขอ้ มูล ทวีปประเทศ
หลักฐานทใี่ ช้สนับสนุน
ุยโรป
เอเ ีชย
ิอนเดีย
อเมริกาเหนือ
อเม ิรกาใต้
ออสเตรเลีย
แอฟ ิรกา
แอนตา ์รก ิตกา

ซากดกึ ดาบรรพ์ มโี ซซอรสั
แนวเทอื กเขา ไซโนเนทสั
ลสิ โทซอรสั
กลอสโซพเทริส
แอปพาเลเชยี น
คาเลโดเนยี น

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ 22

ชุดท่ี 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเลื่อนและหลักฐานสนับสนุน
ทวปี ประเทศ

หลกั ฐานที่ใช้สนับสนุน ยุโรป
เอเ ีชย
ิอนเดีย
อเมริกาเหนือ
อเมริกาใ ้ต
ออสเตรเ ีลย
แอฟริกา
แอนตาร์ก ิตกา

ธารนา้ แขง็ พบ/ไม่พบ
บรรพกาล

สรุปผลการทากจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คาถามท้ายกจิ กรรม
1. จากกจิ กรรมมที วปี ใดบ้างท่ีเคยอยู่ติดกันมาก่อน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. มหี ลกั ฐานใดบา้ งท่ีนามาใช้สนบั สนุนว่าทวีปเคยอยู่ติดกนั มาก่อน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 23

ชุดท่ี 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลักฐานสนับสนุน
3. หลักฐานใดบ้างท่ีสามารถนามาใช้ระบุช่วงเวลาท่ีทวีปต่าง ๆ เคยอยู่ติดกันมาก่อน
และหลักฐานดังกลา่ วนามาใช้อธิบายไดว้ า่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ 24

ชดุ ท่ี 3 แนวคิดทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนับสนนุ

บตั รกิจกรรมท่ี 3.2
แผนผงั มโนทัศน์ เรอื่ ง แนวคิดของทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลกั ฐานสนับสนนุ

คาชี้แจง ให้นกั เรยี นสรุปความรทู้ ่ีเกยี่ วกับ “แนวคดิ ของทฤษฎที วีปเลื่อนและหลกั ฐานสนับสนุน”
เป็นแผนผงั มโนทศั น์ (Concept Mapping) ในกระดาษทแี่ จกใหแ้ ลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 25

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วปี เล่ือนและหลกั ฐานสนับสนนุ

บตั รกิจกรรมที่ 3.3
ถอดบทเรยี น เรอ่ื ง แนวคิดของทฤษฎที วีปเลือ่ นและหลกั ฐานสนับสนุน

คาช้ีแจง ให้นักเรียนถอดบทเรียนที่เกี่ยวกับ “แนวคิดของทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐาน
สนับสนุน” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็น ในกระดาษชาร์ตที่กาหนดให้แล้วนาเสนอ
ผลงาน โดยนาไปติดปา้ ยนิเทศหนา้ ช้ันเรยี น

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 26

ชุดที่ 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเล่อื นและหลกั ฐานสนับสนนุ

แบบฝึกหัด
เร่ือง แนวคดิ ของทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลกั ฐานสนบั สนนุ

1. เพราะเหตุใด อัลเฟรด เวเกเนอร์ จึงเชอื่ วา่ ทวีปต่าง ๆ ในปจั จุบันเคยตดิ กนั เปน็ แผ่นเดยี วกนั มา
ก่อน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ลกั ษณะของทวปี ในปัจจุบันเหมอื นหรือแตกต่างกับทวปี เมื่อประมาณ 200 ลา้ นปกี ่อนอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. ลกั ษณะของทวปี ในปัจจุบันเหมือนหรอื แตกต่างกบั ทวีปเมอื่ ประมาณ 200 ล้านปีก่อนอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ช่ยี วชาญ 27

ชุดท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลือ่ นและหลกั ฐานสนับสนนุ

แบบทดสอบหลังเรยี น

เร่อื ง แนวคิดของทฤษฎีทวีปเล่อื นและหลักฐานสนับสนุน

รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวชิ า ว30104 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาที่ใช้ 10 นาที
2. จงเลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องท่ีสุด แลว้ เขียนเครือ่ งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

1. บุคคลใดท่ีเปน็ ผู้เสนอทฤษฎี ทวีปเล่ือน
ก. กาลิเล โอ
ข. รอเบิร์ต ฮุก
ค. ฟรานซิส เบคอน
ง. อัลเฟรด เวเกเนอร์

2. โครงสร้างของโลกตามลักษณะมวลสารแบ่งเป็น 3 ช้ันใหญ่ๆประกอบไปด้วยช้ันใดบ้าง
ตามลาดับ

ก. ช้ันเปลือกโลก, ช้ันผิวโลก, ช้ันเนื้อโลก
ข. ช้ันเปลือกโลก, ชั้นเน้ือโลก, ชั้นแก่นโลก
ค. ชั้นเปลือกโลก, แก่นโลกช้ันใน, ช้ันแก่นโลก
ง. ช้ันเปลือกโลก, แก่นโลกช้ันนอก, แก่นโลกช้ันใน

3. กระบวนการท่ีทาให้เกิดการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีเกดิ จากอะไร
ก. การถ่ายโอนความร้อนภายในโลก
ข. การนาความร้อนของแผ่นธรณี
ค. ความหนาแน่นของแผ่นธรณี
ง. การหลอมระลายของชิ้นหิน

4. ธรณีภาคแผ่นอินเดียเคลื่อนเข้ามุดชนกับแผ่นธรณีภาคแผน่ ยูเรเซียทาให้เกิดส่ิงใด
ก. แผ่นดินไหว
ข. เทือกเขาแอลป์
ค. เทือกเขาหิมาลัย
ง. การนาความร้อนของแผ่นธรณี

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 28

ชดุ ท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวปี เลือ่ นและหลกั ฐานสนบั สนนุ

5. ธรณภี าค เกิดจากอะไร
ก. การหลอมละลายของชั้นหิน
ข. เปลือกโลกส่วนที่เป็นแผ่นดิน
ค. เน้ือโลกส่วนบนกับช้ันเปลือกโลกรวมกัน
ง. การรวมตัวของโลหะเหล็กและนิเกิลด้วยความร้อนสูง

6. ในการศกึ ษาเรื่องใด ๆ อาจมีแนวคิดหรือทฤษฎีในเร่อื งนน้ั ๆได้มากกวา่ หนง่ึ ทง้ั น้ีขึ้นอยู่กบั
อะไร

ก. เวลาทคี่ ้นพบ
ข. ผ้ทู าการค้นควา้
ค. ข้อมูลท่ีถูกคน้ พบ
ง. เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการศึกษา

7. อุณหภูมิและความดันของแมกมาลดลงเป็นผลทาให้เกิดส่ิงใด
ก. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนและมุดลงใต้แผ่นธรณีภาคพื้นทวีปทาให้เกิดเหวลึก
ข. ธรณีภาคแผ่นหนึ่งมุดซ้อนลงใต้อีกแผ่นหน่ึงทาให้เกิดเทือกเขาสาคัญ
ค. เปลือกโลกตอนบนทรุดตัวทาให้เกิดหุบเขาทรุด
ง. ไม่มีผลกระทบต่อส่ิงใด

8. ข้อใดถูกต้องท่ีสุดเก่ียวกับทวีปเลื่อน
ก. เกิดจากทวีป 2 ทวีปเลื่อนตัวเข้าหากัน
ข. ทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกาเล่ือนเข้าหากันกลายเป็นทวีปขนาดใหญ่
ค. แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดทาให้ทวีปที่อยู่ติดกันเล่ือนออกจากกัน
ง. ทวีปท่ีเดิมเป็นผืนแผ่นเดียวกันจะเริ่มค่อยๆ มีการแยกตัวออกจากกัน

9. แผ่นธรณีภาค 2 ชนิดได้แก่แผ่นทวีปและแผน่ มหาสมุทรข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. เป็นแผ่นธรณีภาคที่เคล่ือนท่ีตลอดเวลา
ข. เป็นแผ่นธรณีภาคที่ไม่มีการเปล่ียนแปลง
ค. เป็นแผ่นธรณีภาคที่ไม่สามารถเคล่ือนที่ได้
ง. เป็นแผ่นธรณีภาคท่ีอยู่ใต้มหาสมุทรเท่านั้น

โดย นางพัชรี คณู ทอง ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ 29

ชดุ ที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนุน
10. แผ่นธรณีภาคแผ่นใดแผ่นหนึ่งจะมุดลงใต้อีกแผ่นหนงึ่ เกิดล่องลึกก้นสมุทรและแนวภูเขา
ไฟใต้ทะเลเกดิ จากอะไร

ก. ขอบแผ่นธรณีภาคเคล่ือนท่ีผ่านกัน
ข. แผ่นธรณีภาคภาคพ้ืนทวีปชนกับแผ่นธรณีภาคพื้นทวีป
ค. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร
ง. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรเคลื่อนที่มุดชนกับแผ่นธรณีภาคภาคพ้ืนทวีป

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครเู ชย่ี วชาญ 30

ชุดที่ 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลักฐานสนบั สนนุ

กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น
ชดุ ที่ 3 แนวคิดของทฤษฎที วปี เลื่อนและหลกั ฐานสนับสนุน

แบบทดสอบก่อนเรยี น ง แบบทดสอบหลังเรียน ง
ขอ้ ก ข ค ข้อ ก ข ค
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน

โดย นางพัชรี คูณทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเช่ยี วชาญ 31

ชุดท่ี 3 แนวคิดทฤษฎที วีปเลอื่ นและหลักฐานสนบั สนนุ

บรรณานุกรม

กรมทรพั ยากรธรณี. (2544), ธรณีวทิ ยาประเทศไทยเฉลิมพระเกียรตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว
เนื่องในวโรกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม
2542. (พมิ พค์ ร้ังที่ 1). กรงุ เทพฯ : กองธรณีวิทยากรมทรพั ยากรธรณี.

กรมทรัพยากรธรณ.ี (2550), ธรณวี ิทยาประเทศไทย. (พิมพค์ ร้ังท่ี 2). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ดอกเบยี้ .
ราชบณั ฑิตยสถาน. (2558) พจนานกุ รมศัพท์ธรณีวทิ ยา A-M. (พมิ พค์ ร้ังที่ 2). กรงุ เทพฯ :

สานักพมิ พ์คณะรัฐมนตรีและราชกจิ จานเุ บกษา.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2558), พจนานกุ รมศพั ท์ธรณวี ทิ ยา N-Z. (พมิ พค์ รั้งที่ 2). กรงุ เทพฯ :

สานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกจิ จานุเบกษา.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2551). หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน

วทิ ยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา. (พิมพค์ ร้งั ที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2551). หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พ์คร้งั ท่ี 8). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2554). หนังสอื เรยี นรายวิชาเพม่ิ เติม

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พค์ ร้งั ที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2561). หนังสือเรียนรายวชิ าเพม่ิ เติม

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1. (พิมพ์ครั้งท่ี 1). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์
แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั .
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2563). หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ. (พมิ พค์ รั้งที่ 1).
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). คูม่ อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ. (พิมพ์ครง้ั ที่ 1).
กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.
http://508 star.blogspot.com
http://www.baanjomyut.com
http://khanaporn.exteen.com
https://sites.google.com/site/worldandchange56/

โดย นางพชั รี คูณทอง ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูเชยี่ วชาญ 32

ชุดท่ี 3 แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลือ่ นและหลกั ฐานสนบั สนุน

ประวตั ยิ ่อผ้จู ดั ทา

ชื่อ – สกลุ นางพัชรี คณู ทอง

วนั เดอื น ปี เกิด 4 พฤศจิกายน 2522

สถานทเ่ี กดิ อาเภอสริ ินธร จังหวัดอบุ ลราชธานี

ทอ่ี ยู่ปัจจุบัน 111 หมู่ 12 บ้านโนนสมบตั ิ ตาบลโนนกลาง

อาเภอพิบูลมงั สาหาร จังหวดั อุบลราชธานี

เรมิ่ รบั ราชการ 12 กรกฎาคม 2545 ตาแหน่ง อาจารย์ 1 ระดบั 3

โรงเรยี นขมน้ิ พิทยาสรรพ์ อาเภอเมอื ง จงั หวดั กาฬสินธุ์

ตาแหน่งหนา้ ทีป่ ัจจุบัน ครู วิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ

สถานทีท่ างานในปจั จุบัน โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม ตาบลโนนกลาง อาเภอพิบลู มงั สาหาร

จังหวดั อุบลราชธานี

ประวตั ิการศกึ ษา ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นบ้านหินสูง ตาบลชอ่ งเม็ก อาเภอสิรินธร
พ.ศ. 2535 จงั หวัดอบุ ลราชธานี
มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนเบต็ ตีด้ ูเมน 2 ชอ่ งเม็ก ตาบลชอ่ งเมก็
พ.ศ. 2538 อาเภอสริ นิ ธร จังหวดั อบุ ลราชธานี
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนสริ นิ ธรวทิ ยานุสรณ์ อาเภอสิรินธร
พ.ศ. 2541 จังหวัดอุบลราชธานี
ปริญญาครศุ าสตร์บัณฑติ (ค.บ.) สาขาวชิ าฟิสิกส์
พ.ศ. 2545 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
ปรญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต (ศษ.ม.) สาขาวชิ าหลกั สตู รและการสอน
พ.ศ. 2556 มหาวิทยาลยั ราชธานี จงั หวดั อบุ ลราชธานี

โดย นางพชั รี คณู ทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ 33




Click to View FlipBook Version