The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม 1 ตอนปลาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kingkarnb, 2020-08-09 09:28:33

แบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม 1 ตอนปลาย

แบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม 1 ตอนปลาย

ทุกธรรมเนยี ม ประเพณี มขี นบ ต้องเคารพ ดำ�รง ให้คงขลงั
สนับสนนุ เปน็ คุณ อยู่ยนื ยัง ที่ล้าหลงั โลกอยู่ รู้ดัดแปลง
เชน่ น้เี รา เหลา่ ราษฎร์ ชนชาติรว่ ม เปน็ ส่วนรวม รับสุข ทว่ั ทกุ แหง่
สยามจะ ประเสริฐ เลิศแสดง ช่ือเสยี งแจง้ ประจักษจ์ บ พภิ พเอย

Plai 15-1-58.indd 1

แบบเรียนเร็วใหม่ เลม่ ๑

ตอนปลาย

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที  ่ี ๓

สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน

1/27/15 1:05 PM

แบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนปลาย

ลขิ สทิ ธิข์ องสำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน
ส�ำ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สถาบนั ภาษาไทย
กระทรวงศกึ ษาธิการ ถนนราชด�ำ เนินนอก เขตดุสติ กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
จดั พมิ พ์โดย
สำ�นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สถาบนั ภาษาไทย
พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๑ แจกนกั เรยี น สงั กดั ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ จ�ำ นวน ๖๐๐,๐๐๐ เลม่
ISBN 978-616-372-120-4

พิมพ์ท่ี บริษัทอมรนิ ทร์พรน้ิ ติง้ แอนด์พับลชิ ชิ่ง จ�ำ กดั (มหาชน)
๓๗๖ ถนนชัยพฤกษ์ แขวงตลง่ิ ชนั เขตตลง่ิ ชนั กรงุ เทพมหานคร ๑๐๑๗๐
โทรศัพท์ ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐, ๐-๒๘๘๒-๑๐๑๐
โทรสาร ๐-๒๔๓๓-๒๗๔๒, ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๕

Plai 15-1-58.indd 2

1/27/15 1:05 PM

แบบเรยี นเร็วใหม ่ เลม่ ๑ 
ตอนปลาย
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓

หลวงดรณุ กจิ วทิ ูร

เรียบเรียง

ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ประกาศสำ� นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
เร่อื ง อนญุ าตให้ใชส้ ื่อการเรียนรใู้ นสถานศึกษา
..............................

ด้วยส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้น�ำหนังสือ
แบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนปลาย มาปรับปรุงเป็นหนังสือส่งเสริม
การอ่าน เพ่ือใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ จงึ อนญุ าตใหใ้ ช้หนงั สือในสถานศกึ ษาได้
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๗


(นายกมล รอดคล้าย)
เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน

คำ� นำ�

สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน จดั พมิ พห์ นงั สอื แบบเรยี นเรว็ ใหม่
เล่ม ๑ ตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลาย แจกให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษา
โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใชเ้ ปน็ สอ่ื สง่ เสรมิ การจดั การเรยี นการสอนของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย สำ� หรบั แกป้ ญั หาการอา่ นไมอ่ อกเขยี นไมไ่ ดข้ องนกั เรยี นปจั จบุ นั

หนังสือแบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑​ ตอนปลาย นี้ จัดพิมพ์ขึ้นตามต้นฉบับ
เมือ่ พ.ศ. ๒๔๗๙ ซ่ึงหลวงดรณุ กจิ วทิ ูรแตง่ ขึ้นต่อจากแบบเรียนเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนตน้
และตอนกลาง มีเน้ือหาเริ่มตั้งแต่บทท่ี ๒๕ - ๓๖ แต่ได้ตัดบทที่ ๓๕ และ ๓๖ ออก
เนื่องจากบทที่ ๓๕ นำ� เสนอสระท่ีใชใ้ นสมยั โบราณ และบทท่ี ๓๖ เร่อื งคำ� กลอน ว่าดว้ ย
ระเบียบการเขียนหนังสือไทย ด้วยพิจารณาเห็นว่ายากเกินไปส�ำหรับใช้ฝึกทักษะ
การอ่านการเขียนสำ� หรบั นกั เรยี นระดบั ประถมศกึ ษา หนงั สอื แบบเรยี นเรว็ ใหม่ เลม่ ๑
ปัจจุบันยังได้รับการยกย่องจากผู้ท่ีเคยเรียน และผู้ที่ได้อ่านว่าเป็นหนังสือท่ีแสดงถึง
ภูมิปัญญาการสอนอ่านแบบไทย ช่วยให้นักเรียนสามารถอ่านหนังสือไทยได้เป็นอย่างดี
โดยเลม่ ตอนปลายมเี นอื้ หาเกยี่ วกบั คำ� ทมี่ ตี วั สะกดตรงมาตรา ไมต่ รงมาตรา เครอื่ งหมาย
ไมท้ ัณฑฆาต สระลดรปู ตวั ฤ  และทบทวนอกั ษรควบกล้ำ� ตามล�ำดบั การน�ำเสนอ
บทอ่านท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ลักษณะการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องและสละสลวย
มีตัวละครด�ำเนินเร่ืองช่วยให้นักเรียนอ่านอย่างเพลิดเพลิน เป็นการส่งเสริมนิสัยรัก
การอา่ นอกี ทางหนง่ึ นอกจากน้ี ยงั ปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นรจู้ กั หนา้ ที่ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง
ครอบครวั และสงั คม รวมไปถงึ มคี วามรักในประเทศชาตดิ ว้ ย

ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาเห็นว่า การส่งเสริม
ให้มีการใช้ส่ือการเรียนรู้ที่หลากหลายจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอน
ภาษาไทย จงึ ไดน้ ำ� หนังสอื แบบเรยี นเรว็ ใหม่ เล่ม ๑​ ตอนปลาย มาจดั พมิ พ์ข้ึนใหม่
เป็นหนังสือส่งเสริมการอ่านของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยปรับเปล่ียน
รปู แบบการใชภ้ าษาบางแหง่ และปรบั ปรงุ ภาพประกอบใหส้ อดคลอ้ งกบั ปจั จบุ นั ในการน้ี
หวังเปน็ อย่างยง่ิ วา่ หนงั สอื แบบเรียนเรว็ ใหม่ เลม่ ๑ ตอนปลาย นี้ จะช่วยให้นักเรยี น
สามารถอ่านภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วแตกฉาน รวมทั้งช่วยปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยมของคนไทยท่ีพึงมีในปัจจุบัน อันจะเป็นบันไดให้นักเรียน
กา้ วไปสศู่ กั ยภาพในการเรยี นรดู้ า้ นอน่ื ๆ เพอื่ เปน็ ก�ำลงั ทเี่ ขม้ แขง็ ในการพฒั นาประเทศชาติ
ตอ่ ไป


(นายกมล รอดคลา้ ย)
เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
๑๖ กนั ยายน ๒๕๕๗

เพลงชาติ

ขนุ วิจติ รมาตรา กบั นายฉันท์ ข�ำวไิ ล ผู้แตง่

๑. แผน่ ดนิ สยามนามประเทอื งว่าเมอื งทอง
ไทยเข้าครองตง้ั ประเทศเขตแดนสง่า
สบื เผา่ ไทยดึกดำ� บรรพ์โบราณลงมา
ร่วมรกั ษาสามคั คที วไี ทย
บางสมัยศตั รจู ู่โจมตี
ไทยพลชี ีพรว่ มรวมรุกไล่
เขา้ ลุยเลอื ดหมายมุ่งผดุงไผท
สยามสมยั บรุ าณรอดตลอดมา
๒. อนั ดินสยามคอื ว่าเนื้อของเชอื้ ไทย
นำ้� รินไหลคือว่าเลอื ดของเชือ้ ข้า
เอกราชคือเจดีย์ทเี่ ราบชู า
เราจะสามคั คีรว่ มมใี จ
รักษาชาตปิ ระเทศเอกราชจงดี
ใครย่ำ� ยีเราจะไม่ละให้
เอาเลือดล้างให้สน้ิ แผน่ ดินของไทย
สถาปนาสยามใหเ้ ทดิ ไทย ชโย

๓. เหล่าเราท้ังหลายขอน้อมกายถวายชีวิต
รกั ษาสทิ ธิอ์ ิสระ ณ แดนสยาม
ที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพยายาม
ปราบเสย้ี นหนามให้พินาศสืบชาตมิ า
แม้ถงึ ไทยไทยดอ้ ยจนย่อยยบั
ยังกู้กลบั คงคนื ได้ช่นื หน้า
ควรแกน่ ามงามสดุ อยุธยา
นั้นมิใชว่ ่าจะขดั สนหมดคนดี
๔. เหล่าเราท้งั หลายเลือดและเนอ้ื เช้อื ชาติไทย
มใิ หใ้ ครเขา้ เหยยี บย่�ำขยำ� ขยี้
ประคับประคองป้องสิทธ์อิ สิ รเสรี
เม่อื ภัยมีช่วยกนั จนวันตาย
จะสิน้ ชพี ไวช้ อื่ ใหล้ อื ล่นั
วา่ ไทยมน่ั รักชาติไมข่ าดสาย
มีไมตรีดียงิ่ ทัง้ หญงิ ทงั้ ชาย
สยามมวิ ายผู้มงุ่ หมายเชดิ ชัย ชโย.

บัญชีเรือ่ ง

หน้า

วธิ ีสอนทวั่ ๆ ไป ก.....................................................................................................................................................................................

บทท่ี ๒๕ ตัวสะกดอ่นื ๆ ที่อา่ นออกเสยี งเหมือน น ก ด บ สะกด ๑.....................

แบบฝึกหัด ๑...........................................................................................................................................................

เร่ือง กฬี า ๖ ..............................................................................................................................................................

เพลง ๑ ๓.........................................................................................................................................................................

บทท่ี ๒๖ ค�ำทีม่ เี ครื่องหมาย ์ (ไมท้ ณั ฑฆาต) ไมต่ ้องอา่ นออกเสยี ง..... ๑๔
แบบฝกึ หดั ๑ ๔.......................................................................................................................................................
เรือ่ ง เทยี่ วในท่ตี ่างๆ ทางทะเล ๑ ๖..........................................................................................
เรือ่ ง เทย่ี วในท่ตี า่ งๆ ทางบก ๒๐...............................................................................................
เพลง ๒ ๕........................................................................................................................................................................

บทที่ ๒๗ ตวั สะกดทม่ี ตี วั ควบหรอื ตวั สะกดทม่ี สี ระ ิ ุ ถา้ เปน็ คำ� เดยี วโดดๆ
ถงึ ไมม่ ีเคร่ืองหมาย ์ กไ็ มต่ ้องอ่านออกเสียง.................................... ๒๖
แบบฝึกหัด ๒๖......................................................................................................................................................
ตวั ร ล ห ทีค่ วบอยู่หน้าตัวสะกด ไม่ตอ้ งอา่ นออกเสยี ง.............๒๗
แบบฝกึ หัด ๒๗......................................................................................................................................................
เรื่อง เร่ิมอบรมตนในขณะท่ียังเยาว์ ๒๘............................................................................
เพลง ๓๐.......................................................................................................................................................................

บทท่ี ๒๘ ตัวสะกดท่ใี ช้ทงั้ สะกดและออกเสยี งดว้ ย................................................................ ๓๑
แบบฝกึ หดั ๓๑......................................................................................................................................................
เรอื่ ง เริ่มอบรมตนในขณะทย่ี ังเยาว์ (ตอ่ ) ๓๒..........................................................
เพลง ๓๖........................................................................................................................................................................

บทท่ี ๒๙ ค�ำเรียงบางค�ำท่อี า่ นออกเสียงเหมือนอักษรน�ำ........................................... ๓๗
แบบฝึกหัด ๓๗.....................................................................................................................................................
เร่อื ง ว่ายน�้ำ ๓๘.................................................................................................................................................
เพลง ๔๓.......................................................................................................................................................................

บทท่ี ๓๐ สระ –อ ลดรปู ตัว ร สะกด อา่ นออกเสยี งเปน็ ออน ๔๔.....................
แบบฝกึ หดั ๔๔ .....................................................................................................................................................
รร (ร หัน) อา่ นออกเสียงเปน็ อัน ฯลฯ ๔๕.............................................................
แบบฝึกหดั ๔๕.....................................................................................................................................................
เรือ่ ง งานร่ืนเรงิ วันข้ึนปีใหม่ ๔๖...................................................................................................
เพลง ๔ ๘........................................................................................................................................................................

บทที่ ๓๑ สระ –อ ลดรปู ทม่ี ีตวั ร ซ่งึ ไม่ใชต่ วั สะกดอยู่ขา้ งหลัง
อ่านออกเสียงเป็นสระ –อ ๔๙.............................................................................................
แบบฝกึ หดั ๔๙.......................................................................................................................................................
เร่อื ง เลน่ ว่าว ๕๐...............................................................................................................................................
เพลง ๕ ๓.........................................................................................................................................................................

บทท่ี ๓๒ ไ—ย (ไมม้ ลายมีตัว ย) อ่านออกเสยี งเหมอื น ไอ ๕๔.....................................
แบบฝกึ หัด ๕๕.....................................................................................................................................................
ตวั ฤ ฤๅ ๕๖..........................................................................................................................................................
แบบฝึกหัด ๕๗......................................................................................................................................................
เร่ือง ธงชาติของเรา ๕๘...........................................................................................................................
เพลง ๖๖........................................................................................................................................................................

บทท่ี ๓๓ เคร่อื งหมายต่างๆ ทใี่ ช้แทนตวั หนังสือ ๖ ๗....................................................................
แบบฝึกหดั ๖๙.....................................................................................................................................................
เร่ือง จงบชู ารฐั ธรรมนญู ของเรา ๖๙.......................................................................................
เพลง ๗ ๓........................................................................................................................................................................
เร่ือง จงบชู ารฐั ธรรมนูญของเรา (ต่อ) ๗๓......................................................................
เพลง ๗๕........................................................................................................................................................................

บทที่ ๓๔ คำ� เทยี บ ร กับ ล ๗๖.................................................................................................................................
คำ� เทียบ ฟ กับ คว ๗ ๗............................................................................................................................
ค�ำเทยี บ ฝ กับ ขว ๗๘..............................................................................................................................
เร่อื ง เที่ยวงานประกวดสินค้า ๗ ๘..............................................................................................
เพลง ๘๑.........................................................................................................................................................................

ประวตั ิผเู้ รยี บเรยี ง



วิธีสอนทว่ั ๆ ไป

วธิ ีสอนในแบบเรยี นเร็วใหม่ เลม่ ๑ ตอนปลาย นี้ ถา้ บทใดมีลักษณะ
วิธสี อนท�ำนองเดยี วกับวิธีสอนทีก่ ลา่ วไวใ้ นแบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑ ตอนต้น
หรือตอนกลาง แลว้ ก็ให้น�ำวิธสี อนเหล่าน้ันมาเปน็ หลกั วิธีสอนของแบบเรยี น
เร็วใหม่ ตอนปลาย นี้ด้วย ในที่น้ีจะกล่าวแต่เฉพาะวิธีสอนท่ัวๆ ไป ซ่ึงมี
ลกั ษณะกฎเกณฑเ์ พมิ่ เติมขนึ้ ใหมต่ ามบทเรยี นนน้ั ๆ นอกจากที่กล่าวมาแลว้
ในตอนต้นและตอนกลาง เพราะฉะนั้นก่อนครูจะท�ำการสอนควรเรียนรู้
และท�ำความเข้าใจวิธีสอนตามความมุ่งหมายของแบบเรียนเร็วใหม่ เล่ม ๑
ตอนปลาย น้ใี ห้ดีเสียก่อน คอื

๑. มาตราตวั สะกด ตอ้ งใหเ้ ดก็ สงั เกตและจดจำ� มาตราตวั สะกดไวใ้ ห้
แมน่ ยำ� วา่ มกี ม่ี าตรา คอื มาตราอะไรบา้ ง และมาตราใดมตี วั สะกดกต่ี วั คอื อะไรบา้ ง
สว่ นมาตราทมี่ ตี วั สะกดหลายตวั ควรใหเ้ รยี นรคู้ ำ� งา่ ยๆ ทเ่ี หมาะแกว่ ยั และชนั้

๒. ค�ำที่มีตัว ร ล หรือ ห ควบอยู่หน้าตัวสะกด ไม่ต้องอ่าน
ออกเสยี ง ร ล หรอื ห เลย ออกเสยี งแตเ่ ฉพาะตวั หลงั เปน็ ตวั สะกดตวั เดยี วเทา่ นนั้
เชน่ สามารถ (สามาด) มารค (มาก) ปาลม์ (ปาม) ฟลิ ม์ (ฟมิ ) พรหม (พรม)
เกียรติ (เกยี ด) ปรารถนา (ปราดถะหนา) ฯลฯ ควรให้เดก็ สงั เกตและจดจำ�
คำ� ยกเว้นเหล่าน้ไี วใ้ หเ้ ปน็ หมวดเปน็ หมู่

๓. ค�ำเรียงบางค�ำออกเสียงเหมือนอักษรน�ำ ค�ำเรียงบางค�ำ
เปน็ คำ� ยกเวน้ ตอ้ งอา่ นออกเสยี งเหมอื นอกั ษรนำ� เชน่ สริ ิ (สหิ ร)ิ ดลิ ก (ดหิ ลก)
ประโยค (ประโหยก) ประวัติ (ประหวัด) ยโุ รป (ยุโหรบ) บุรษุ (บุหรุด) ฯลฯ
ค�ำเหล่านี้เป็นค�ำเรียง ไม่ใช่อักษรน�ำ เพราะพยางค์ต้นมีรูปสระท�ำนอง
เดียวกันกับค�ำเรียง แต่อ่านออกเสียงเหมือนอักษรน�ำ ควรให้เด็กสังเกตและ
จดจ�ำคำ� ยกเว้นเหล่านี้ไวใ้ หเ้ ป็นหมวดเปน็ หมู่

๔. ค�ำเรียงที่แผลงมาจากอักษรควบ มักออกเสียงเหมือนกันกับ
อกั ษรนำ� เชน่ ตำ� รวจ (ตำ� หรวด) สำ� เรจ็ (สำ� เหรด็ ) ดำ� ริ (ดำ� หร)ิ ฯลฯ คำ� เหลา่ นี้
เป็นค�ำเรียง ไม่ใช่อักษรน�ำ เพราะพยางค์ต้นมีรูปสระท�ำนองเดียวกับค�ำเรียง
แต่อ่านออกเสียงเหมือนอักษรน�ำ ให้เด็กสังเกตและจดจ�ำค�ำยกเว้นเหล่าน้ี
ไว้ใหเ้ ป็นหมวดเป็นหมู่

๕. ไมท้ ณั ฑฆาต พยัญชนะที่อยขู่ ้างหลงั ตวั สะกดที่ไมใ่ ช่อักษรควบ
หรือไม่มีค�ำเชื่อมข้างหลัง ต้องมีเคร่ืองหมายไม้ทัณฑฆาต เช่น วันเสาร์
(วนั เสา) เจดยี ์ (เจด)ี อาทติ ย์ (อาทดิ ) พระจนั ทร์ (พระจนั ) กษตั รยิ ์ (กะสดั )
เถาวลั ย์ (เถาวนั ) สภาราษฎร์ (สะพาราด) ฯลฯ แตถ่ า้ พยญั ชนะทอ่ี ยขู่ า้ งหลงั
ตัวสะกดที่เป็นอักษรควบหรือมีสระ ิ หรือ ุ ไม่ต้องมีเคร่ืองหมาย
ไมท้ ณั ฑฆาต เพราะเปน็ ตวั สะกด เชน่ บตุ ร (บดุ ) สมทุ ร (สะหมดุ ) ชาติ (ชาด)
ภาคภูมิ (พากพูม) เหตุ (เหด) ธาตุ (ทาด) ชว่ งโชติ (ชว่ งโชด) ฯลฯ ใหเ้ ด็ก
สังเกตและจดจำ� ค�ำยกเว้นเหล่านไ้ี วใ้ ห้เปน็ หมวดเปน็ หมู่

๖. ตวั สะกดทไี่ มต่ อ้ งอา่ นออกเสยี ง อะ ตวั สะกดทอ่ี ยใู่ นพยญั ชนะ
วรรค คือตัวสะกดทอี่ ยู่ในวรรค ก, วรรค จ, วรรค ฎ, วรรค ด หรอื วรรค ป
ตวั สะกดนนั้ ๆ ไมต่ อ้ งอา่ นออกเสยี ง อะ เชน่ อาชญา (อาดยา) สปั ดาห์ (สบั ดา)
บุคคล (บุกคน) สตั บรุ ุษ (สัดบหุ รุด) ฯลฯ

๗. ตวั สะกดทใี่ ชท้ ง้ั สะกดและออกเสยี งดว้ ย เชน่ ตกุ๊ ตา (ตกุ๊ กะตา)
ตก๊ั แตน (ตกั๊ กะแตน) จกั จน่ั (จกั กะจนั่ ) ชกั เยอ่ (ชกั กะเยอ่ ) มาตรา (มาดตรา)
อตั คัด (อัดตะคัด) วิทยา (วดิ ทะยา) ฯลฯ

ค�ำภาษาเดมิ ทเี่ ปน็ คำ� เรียงพยางค์ (ออกเสยี งเป็นสระ อะ) แล้วไทย
เอามาใช้เป็นตวั สะกด แตเ่ มอ่ื มคี ำ� มาเชือ่ มต่อทา้ ย (เข้าสมาส) แล้ว ตอ้ งอ่าน
ออกเสยี งตวั สะกดเหมอื นมเี สยี ง อะ (ประวสิ รรชนีย์) เช่น
ธงมหาราช (ธงมะหาราด) ราชสหี ์ (ราดชะสี)
สขุ ศกึ ษา (สุกขะสึกสา) นามสกลุ (นามสะกุน)
กุลบุตร (กนุ ละบุด) พญานาค (พะยานาก)

นาคราช (นากคะราด) ผลไม้ (ผนละไม้)
ใหเ้ ดก็ สงั เกตและจดจำ� คำ� ยกเว้นเหลา่ นไี้ ว้ให้เปน็ หมวดเป็นหมู่

๘. ตัวสะกดควบหรือมีสระ ถ้าเป็นค�ำเดียวโดดๆ ไม่ต้องอ่าน
ออกเสียงตัวสะกดควบหรือสระ เช่น จักร (จัก) ภูมิ (พูม) บุตร (บุด) ฯลฯ
ถ้ามีค�ำเช่ือมต่อท้าย (เข้าสมาส) ต้องออกเสียงตัวสะกดควบหรือสระด้วย
เช่น จกั รยาน (จกั กระยาน) ภูมศิ าสตร์ (พูมิสาด) บตุ รทาน (บุดตระทาน)
ฯลฯ

๙. สระ –อ ลดรปู ถ้า ร อยูแ่ ตล่ ำ� พงั ตวั เดยี วโดดๆ อ่านออกเสียง
เป็น “ออน” เช่น ละคร (ละคอน) บิดร (บิดอน) พร (พอน) อุทาหรณ์
(อทุ าหอน) ราษฎร (ราดสะดอน) ฯลฯ แตถ่ า้ มคี ำ� อนื่ เชอ่ื มตอ่ ทา้ ยอกี อา่ น
ออกเสยี งเปน็ “ออ” เชน่ จระเข้ (จอระเข)้ มรสมุ (มอระสมุ ) สรเลข (สอระเลก)
หรดี (หอระดี) ตัว บ ที่ไม่มีรูปสระก็อ่านออกเสียง “ออ” เหมือนกัน เช่น
บดี (บอด)ี บรม (บอรม) ฯลฯ ใหเ้ ดก็ สงั เกตและจดจำ� คำ� ยกเวน้ เหลา่ นไ้ี วใ้ ห้
เป็นหมวดเป็นหมู่

๑๐. เคร่ืองหมายต่างๆ ที่ใช้แทนตัวหนังสือ อักษรย่อและค�ำย่อ
เวลาอ่านต้องอ่านให้เต็มค�ำ อักษรย่อ เช่น น. [นาฬิกา (นาลิกา)] พ.ศ.
[พุทธศักราช (พุดทะสักกะหราด)] สต. [สตางค์ (สะตาง)] ค�ำย่อ เช่น
กรุงเทพฯ [กรุงเทพมหานคร (กรุงเทบมะหานะคอน)] ฯลฯ

๑๑. ค�ำเทียบ ร ล ฟ คว ฝ ขว ครูต้องออกเสียงให้เด็กฟัง
พร้อมกับค�ำอธิบายเสียก่อน แล้วจึงพยายามกวดขันให้เด็กอ่านค�ำเทียบ
ให้ชัดเจนถูกต้องจริงๆ และควรให้เด็กท่องกลอนค�ำเทียบส�ำหรับจดจ�ำ
ใหค้ ล่องปาก จะได้อา่ นถูกต้องไมผ่ ดิ พลาดต่อไป

ร เสียงเกิดแต่ปุ่มเหงือก ท�ำให้ลิ้นรัว โดยกระดิกปลายลิ้นที่ปุ่ม
เหงอื ก แต่ ล เสยี งเกดิ แต่ฟัน ทำ� ให้ปลายลิ้นแผก่ ดไวท้ ีเ่ พดาน แลว้ กระแทก
ลงมาขา้ งลา่ งพรอ้ มกบั ออกเสยี ง ล แลว้ ใหเ้ ดก็ อา่ นคำ� เทยี บ ร ล เปรยี บเทยี บ
กันทีละคู่

ฟ เสียงเกิดแต่ริมฝีปากให้ลมผ่านฟัน แต่ คว เสียงเกิดแต่
ลำ� คอโดยเมม้ รมิ ฝปี ากเขา้ ขา้ งใน แลว้ ใหเ้ ดก็ อา่ นคำ� เทยี บ ฟ​ คว เปรยี บเทยี บ
ทีละคู่

ฝ เสียงเกิดแต่ริมฝีปากให้ลมผ่านฟัน แต่ ขว เสียงเกิดแต่
ลำ� คอโดยเมม้ รมิ ฝปี ากเขา้ ขา้ งใน แลว้ ใหเ้ ดก็ อา่ นคำ� เทยี บ ฝ ขว เปรยี บเทยี บกนั
ทีละคู่

๑๒. ฤ ฤๅ เปน็ สระทป่ี ระสมกบั ตวั ร มที ใ่ี ชแ้ ตเ่ ฉพาะคำ� ทเ่ี นอื่ งมาจาก
ค�ำภาษาสันสกฤตเทา่ นั้น

ฤ อา่ นออกเสียงต่างกนั เปน็ ๓ อยา่ ง คอื
(๑) ฤ อา่ นเปน็ เสยี ง “เรอ” มที ใี่ ชอ้ ยแู่ ตเ่ ฉพาะค�ำวา่ ฤกษ์ (เรกิ )
คำ� เดยี วเทา่ นนั้
(๒) ฤ ถา้ อยู่แตล่ ำ� พงั หรืออยู่ข้างหลังตวั ค น พ ม ห อ่านเป็น
เสียง รึ เช่น ฤดู (รึดู) ฤษี (รึสี) คฤหัสถ์ (คะรึหัด) นฤคหิต (นะรึคะหิด)
พฤษภาคม (พรึดสะพาคม) พฤศจกิ ายน (พรดึ สะจิกายน) หฤทัย (หะรึไท)
ฯลฯ
(๓) ฤ ถา้ อยขู่ ้างหลังตัว ก ป ต ท ศ​ ส หรอื ตวั ท ษ สะกด
อ่านเป็นเสียง ริ เช่น อังกฤษ (อังกริด) กฤษณา (กริดสะหนา) ปฤจฉา
(ปรดิ ฉา) ปฤษฎางค์ (ปรดิ สะดาง) ตฤณ (ตรนิ ) ทฤษฎี (ทรดิ สะด)ี ศฤงคาร
(สะหรงิ คาน) สฤษฎ์ิ (สะหริด) ฤทธ์ิ (ริด) ดำ� ฤษณา (ดำ� ริดสะหนา) ฯลฯ
ฤๅ อ่านออกเสยี งเปน็ รอื อย่างเดยี ว เชน่
ฤๅทยั (รือไท)   ฤๅดี (รือดี) ฯลฯ
๑๓. บทเรียนควรมีความยากง่ายให้พอเหมาะแก่วัยและชั้น
ทกุ ๆ บทเรยี นครตู ้องเลือกสอนแต่ค�ำงา่ ยๆ ทค่ี วรรู้ ให้พอเหมาะแก่วยั และชัน้
ไมค่ วรใหย้ ากเกนิ กำ� ลังความคดิ ของเดก็
๑๔. วธิ สี อนอน่ื ๆ ครูควรพยายามสังเกตและค้นคว้าหาหลักเกณฑ์
วิธีสอนท่ีดี เพื่อให้เด็กเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถสังเกตและจดจ�ำได้
อย่างแม่นยำ� ผา่ นวิธีการเรยี นรู้ทส่ี นกุ สนานเพลิดเพลิน

1

บทท่ี ๒๕

อธบิ ายตวั สะกดทอี่ า่ นออกเสยี งเหมอื นมาตรา  น  ก  ด  บ 
สะกด

ญ  ณ  ​ร  ล    สะกด  อ่านออกเสียงเหมือน  น  สะกด 

เชน่

กุญแจ อา่ นว่า กนุ แจ นามสกลุ อ่านวา่ นามสะกนุ

ขอบคณุ อ่านวา่ ขอบคุน ปลาวาฬ อา่ นว่า ปลาวาน

ทหาร อา่ นวา่ ทะหาน

ทหาร

ปลาวาฬ

แบบฝกึ หัด

คนโบราณ  รู้ประมาณ  การกุศล เจริญมงคล  ณ  ตำ� บล  ตน้ ตาลหมู่

โครงปลาวาฬ  ที่หนา้ ศาล  เชิญทา่ นด ู ควรเรยี นร ู้ เปน็ สำ� คญั   เกดิ ปญั ญา

เป็นคนควร  กตัญญู  รคู้ ณุ ท่าน เปน็ ทหาร  ตอ้ งหาญ  เชย่ี วชาญกลา้

จึงเป็นคณุ   เปน็ มงคล  เป็นผลมา เปน็ บญุ พา  ใหเ้ จรญิ   เนน่ิ นานเอย

ข  ค  ฆ  สะกด  อ่านออกเสียงเหมือน  ก  สะกด  เช่น
สุนัข อา่ นว่า สนุ กั พญานาค อา่ นว่า พะยานาก
เมฆ อ่านว่า เมก

2

แหน่ าค พญานาค สนุ ขั ไน

แบบฝกึ หดั

แหน่ าค  ภาค  หนา้ มขุ หายโรค  สุข  สามคั คี
ท�ำเลข  เมฆ  โชคดี พญานาค  สุนัขไน

จ  ช  ฎ  ฏ  ฐ  ฑ  ฒ  ต  ถ  ท  ธ  ศ  ษ  ส  สะกด 
อา่ นออกเสยี งเหมือน  ด  สะกด  เชน่
เว็จ อ่านว่า เว็ด รถไฟ อา่ นวา่ รดไฟ
กริช อ่านว่า กรดิ เงินบาท อา่ นว่า เงินบาด
กฎหมาย อา่ นว่า กดหมาย วันพุธ อ่านวา่ วันพดุ
ปรากฏ อ่านว่า ปรากด อากาศ อ่านว่า อากาด
อฐิ อ่านว่า อิด กระดาษ อา่ นวา่ กระดาด
ครุฑ อ่านว่า ครุด สวสั ด ี อ่านว่า สะหวดั ดี
สงั เกต อา่ นว่า สงั เกด

3

ครุฑ อฐู

แบบฝกึ หดั

เดือนเมษ  เม่ือวันตรษุ ยกตราครุฑ  หนา้ ห้างเสร็จ
ตรวจงาน  ผ่านทางเว็จ ถกู เศษอฐิ   เหมือนกริชต�ำ
เหน็ อูฐ  มีชวี ิต ก็เพง่ พิศ  พินจิ จำ�
ท่องบท  กฎหมาย  ค�ำ– ภาษิตเลิศ  ประเสรฐิ เหลือ
อากาศ  อาจแผกผดิ ไปทวั่ ทิศ  ประเทศเหนือ
นั่งไป  ในรถเรอื เราสงั เกต  ปรากฏชดั
สวัสดี  มเี มตตา กันทว่ั หนา้   ประชารฐั
กลวั อาชญา  อยา่ ริหัด พูดเท็จเลย  จะเคยตวั

ป  พ  ฟ  ภ  อา่ นออกเสยี งเหมอื น  บ  สะกด  เชน่

ธูป อา่ นว่า ทูบ ลาภ อา่ นวา่ ลาบ

เคารพ อา่ นว่า เคารบ ออฟฟิศ อ่านวา่ ออบฟดิ

4

แบบฝกึ หัด

จดุ ประทปี   ธูปเทียนครบ เคารพศพ  โดยสภุ าพ

ไปทพั   ไดร้ บั ลาภ อยา่ ท�ำบาป  ทราบไว้เอย

ขอ้ ควรจ�ำ  มาตราตัวสะกดม ี ๘  มาตรา  คอื  

มาตราค�ำเปน็   ๕  มาตรา ธูป
แม ่ กง มีตัวสะกด ๑ ตวั คอื ง
แม ่ กน มตี ัวสะกด ๖ ตวั คือ ญ  ณ  น  ร  ล  ฬ
แม่ กม มตี วั สะกด ๑ ตวั คือ ม
แม ่ เกย มีตวั สะกด ๑ ตัว คือ ย
แม่ เกอว มตี วั สะกด ๑ ตวั คือ ว

มาตราค�ำตาย  ๓  มาตรา 
แม่ กก มตี ัวสะกด ๔ ตัว คอื ก  ข  ค  ฆ
แม ่ กด มีตวั สะกด ๑๕ ตัว คอื จ  ช  ฎ  ฏ  ฐ  ฑ  ฒ
ด  ต  ถ  ท  ธ  ศ  ษ  ส
แม่ กบ มตี ัวสะกด ๕ ตวั คือ บ  ป  พ  ฟ  ภ

5

รถถัง รถเกราะ ปนื กล

แบบฝึกหดั

ณ วันพธุ   คราวตรุษ  จงเจรญิ ร่วมสามคั คี  ดเี ทอญ  เชญิ ทา่ น

คนสภุ าพ  พนิ จิ   กจิ การงาน อาจบนั ดาล  ผลสง่   เปน็ มงคล

แตก่ าลนาน  คนโบราณ  ทา่ นปรารภ มโหรสพ  อุโบสถ  กจิ กุศล

พระบิณฑบาต  ทำ� บญุ   ทกุ ตำ� บล บำ� เพญ็ ตน  เป็นผล  สุขสบาย

เลอื ดทหาร  กลา้ หาญ  ชาญองอาจ โชคโอกาส  เกดิ ผล  เพยี รขวนขวาย

เปน็ นักรบ  ปรารภเรียน  เพียรจนตาย ชีวิตกาย  กอ็ ทุ ิศ  เพื่อกิจรบ

นิทานใหม่  ใชบ่ ุราณ  ชายภารโรง ช่ือบุญโปรง่   นามสกุล  บญุ ขนบ

นิสยั เธอ  ทัง้ มวล  สมควรคบ เคยประสบ  อุตสาหะ  พอประมาณ

ในปจั จบุ ัน  ใช้ปญั ญา  ทางพาณิชย์ เล้ียงชวี ติ   สวสั ด ี มีหลกั ฐาน

ท�ำกระดาษ  ทำ� อิฐ  เปน็ กิจการ ค้าน�ำ้ ตาล  ข้าวสาร  ผาลไถนา

ขายกรอบรูป  ธปู เทยี น  ท�ำประณีต อาวธุ มีด  มากมวล  ควรซอ้ื หา

อาจสงั เกต  ประเภทหมวด  และตรวจตรา ดูมูลคา่   ประมาณไว้  ในบญั ชี

อนั กองทพั   สำ� หรับ  ปอ้ งประเทศ ตอ้ งวเิ ศษ  สมยุค  ทกุ หน้าท่ี

ก�ำลังทหาร  ประมาณ  ใหม้ ากมี อาวุธด ี ดจุ อา้ ง  ตัวอย่างยล

มีเครือ่ งบิน  เรือเหาะ  รถเกราะครบ พรอ้ มรถถงั   ทงั้ เรอื รบ  รวมเปน็ ตน้

ยังอาวธุ   อนื่ ๆ  เช่นปนื กล เตรยี มประจญ  ประจำ� ไว ้ ใชร้ บเอย.

6

กีฬากลางแจ้ง

กฬี า

กฬี า คือ การเล่นแขง่ ขนั   เพ่อื ความสนุก  เพอื่ บำ�รงุ กำ�ลงั  
ให้แข็งแรง  อยู่เย็นเป็นสุข  มีอายุยืนยาว  พูดถึงการเล่นแล้ว 
เด็ก ๆ  คงชอบเล่นด้วยกันท้ังน้ัน  ทุก ๆ  คนต้ังแต่จำ�ความได้มา 
คงจะระลึกขึ้นได้ว่าได้เคยเล่นอะไรกันมาแล้วท้ังน้ัน  การเล่น 
เป็นการสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างไร  เด็ก ๆ  เมื่อนึกขึ้นคงรู้สึก 
ได้ดี  แต่เพราะยังเป็นเด็กอยู่  จึงไม่ใคร่คิดเลยไปถึงว่า  การเล่น 
อยา่ งไรควรเลน่   อยา่ งไรไมค่ วรเลน่   เวลาและสถานทไ่ี หนควรเลน่  
และไมค่ วรเลน่   เลน่ อยา่ งไรเปน็ คณุ   เลน่ อยา่ งไรเปน็ โทษ  เชน่ น ้ี
เป็นต้น

บดั น ้ี เดก็  ๆ  ไดเ้ ขา้ โรงเรยี น  เปน็ นกั เรยี นไดร้ บั การศกึ ษา 
ในสถานที่ดีแล้ว  นอกจากความรู้วิชาต่าง ๆ  ท่ีเรียนอยู่ทุก ๆ  วัน 
ทางโรงเรียนยังจัดให้นักเรียนเล่นกีฬา  ในเวลาและโอกาสที่ควร 
จะเลน่ ไดอ้ กี ดว้ ย  พดู ถงึ ตรงน ้ี นกั เรยี นจะรสู้ กึ ขน้ึ ไดท้ นั ทวี า่   การ 
ที่โรงเรียนได้จัดสนาม  โรงพลศึกษา  และห้องพัก  สำ�หรับไว้ให้ 

7

นักเรียนเล่นโดยครบครันเช่นน้ี  ก็เพราะถือว่ากีฬาเป็นการศึกษา 
เช่นเดียวกับวิชาความรู้อื่น ๆ  เหมือนกัน  ด้วยว่ากีฬาเป็นส่ิง 
สำ�คัญอย่างหนึ่ง  ซ่ึงนอกจากผู้เล่นจะได้รับความสนุกสนาน 
เพลิดเพลินดังกล่าวแล้ว  ยังเป็นการบำ�รุงกำ�ลังกายให้แข็งแรง 
เพราะทำ�ให้กล้ามเนื้อ โลหิต และอวัยวะต่าง ๆ  ออกกำ�ลังทำ�งาน 
บำ�รงุ กำ�ลงั ใจและสตปิ ญั ญาใหด้  ี มคี วามคดิ ความอา่ นและไหวพรบิ  
คล่องแคล่ว  เฉียบแหลมยิ่งข้ึน  และเป็นเคร่ืองนำ�ให้เกิดการรัก 
หมู่คณะ  รักโรงเรียน  ทำ�ความสามัคคีให้เกิดในพวกเดียวกัน 
ตลอดจนทำ�ให้เป็นผู้มีนิสัยกล้าหาญ  รวมความว่าเป็นส่ิงที่อบรม 
กำ�ลงั กายและกำ�ลงั ใจ  ใหเ้ ปน็ นกั กฬี าอยา่ งดเี ลศิ   นกั เรยี นบางคน 
มักมีกิริยาหงอยเหงาและเซื่องซึม  บางคนก็ทำ�ท่าขรึมและ 
เครง่ ครดั ในการดหู นงั สอื หรอื การเลา่ เรยี นจนเกนิ ไป  แสดงอาการ 
ออ่ นแอเบอ่ื หนา่ ย  ไมเ่ อาใจใสต่ อ่ กีฬาเสยี เลย  ขอ้ นนี้ บั วา่ นกั เรยี น 
คนน้ันขาดส่ิงสำ�คัญในการศึกษาไปส่วนหน่ึงทีเดียว  เพราะ 
กีฬาเป็นการบำ�รุงกำ�ลังกาย  ตลอดจนกำ�ลังใจและกำ�ลังความคิด 
ให้สะอาดผ่องใสดขี น้ึ

การกฬี าทค่ี วรเลน่ นน้ั มมี ากมายหลายประการ  รวมกลา่ วได้ 
เปน็   ๒  อยา่ ง  อยา่ งหนงึ่ คอื   กฬี ากลางแจง้   เลน่ กนั ในลานหรอื  
สนาม  เป็นต้นว่า  ซ่อนหา  มอญซ่อนผ้า  กาฟักไข่  ไม้ห่ึง 
กระโดดเชือก  ชิงธง  ลิงชิงหลัก  ว่ิงสวมกระสอบ  ว่ิงสามขา 
วง่ิ เกบ็ ของ  วง่ิ เปย้ี ว  วงิ่ ผลดั   วง่ิ เรว็   ตจ่ี บั   กายบรหิ าร  เลน่ วา่ ว 
ว่ายน้ำ�  ว่ิงวัว  แข่งเรือ  และเตะตะกร้อ เป็นต้น  อีกอย่างหน่ึง 
คือกีฬาในร่ม  เล่นในห้องพักสำ�หรับเล่น  เป็นต้นว่า  หมากเก็บ 

8

กฬี าในร่ม

หมากแยก  เสือตกถัง  เสือกินวัว  ปิงปอง  จูงนางเข้าห้อง 
ตลอดถึงการเล่นในโรงพลศึกษา  เช่น  ห่วง  ราวเดี่ยว  ราวคู่ 
มวยฝร่ัง  มวยญ่ีปุ่น  เป็นต้น   กีฬาเหล่านี้ถ้ารู้จักเล่นแต่พอดี 
ท้ังเลือกเวลาและสถานที่ให้เหมาะ  จึงจะมีคุณดังกล่าวมาแล้ว 
ข้างต้น  แต่ถ้าไม่รู้จักประมาณ  เล่นมากหรือน้อยเกินไป 
ไมพ่ อเหมาะแกเ่ วลา  หรอื เลน่ ในทไ่ี มค่ วรไปเลน่   เลน่ อยา่ งไมร่ จู้ กั  
ถนอมของเลน่   ทำ�ใหห้ มดเปลอื งไปในสง่ิ ทไ่ี มจ่ ำ�เปน็   เชน่   เมอ่ื เลน่  
แลว้ ไมน่ ำ�ไปเก็บไว้ที่ตามเดิม เปน็ ต้น  เหลา่ นี้ไม่ด ี คอื อาจทำ�ให้ 
เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตนได้  และควรกำ�หนด 
จดจำ�ไว้ว่า  เกียจครา้ นน้ันไม่ดี

9

โรงพลศึกษา

กฬี า  (ตอ่ )

เมื่ิอทางโรงเรียนได้ฝึกหัดการกีฬาต่าง ๆ  และอบรมนิสัย 
นักกีฬาท่ีดี  ให้มีในหมู่นักเรียนของตนเรียบร้อย  ท้ังได้คัดเลือก 
คนท่ีเล่นเก่ง ๆ  ที่จะเข้าแข่งขันกับโรงเรียนอื่น ๆ  ได้แล้ว  จึง 
รวบรวมชื่อส่งไปยังเจ้าหน้าท่ี  คร้ันถึงวันกำ�หนดแข่งขัน  วันนั้น 
เปน็ วนั สนกุ สนานอยา่ งยงิ่ ของนกั เรยี นทงั้ หลายทเี ดยี ว  จะไดเ้ หน็  
สนามทเี่ ลน่ กรฑี านนั้ ตกแตง่ งดงาม  ประดบั ประดาดว้ ยธงทวิ หอ้ ย 
แขวนและปักรายเป็นระยะ ๆ  ปลิวสะบัดอยู่ไหว ๆ  แลดูงดงาม 
นา่ ด ู ทกุ  ๆ  ดา้ นสนามกรฑี ากเ็ ตม็ แนน่ ดว้ ยผคู้ นทพ่ี ากนั เบยี ดเสยี ด 
เขา้ ไปดเู ขา้ ไปชม  ซง่ึ โดยมากเปน็ บดิ า  มารดา  ผปู้ กครอง  พน่ี อ้ ง 
พวกพ้อง  เพ่ือนฝูง  ของนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ  ในสนาม 
ก็มีเจ้าหน้าท่ีพร้อมด้วยเครื่องใช้ประกอบการเล่นกีฬาทุก ๆ  อย่าง 
นักเรียนทั้งชายและหญิงทุก ๆ  รุ่น  ซ่ึงเป็นนักกีฬา  สวมเส้ือ 
กางเกงแบบกีฬาสีของโรงเรียนสะอาดเรียบร้อยน่าดู  คอยเข้า 

10

การแขง่ ขนั กีฬาในสนาม

แข่งขัน  ใจก็ต่ืนเต้นลิงโลดอยากจะได้เห็นเขามีชัยชนะเป็นอย่าง 
ยอดเยี่ยมในการกีฬานั้น ๆ  เมื่อขณะแข่งขันได้เห็นเพ่ือนนักกีฬา 
รว่ มโรงเรยี น  ซง่ึ ไดร้ บั การฝกึ หดั อบรมใหเ้ ปน็ นกั กฬี าทด่ี แี ลว้   มนี ำ้ �ใจ 
เป็นลูกผูช้ าย  คือ  ใจคอหนักแน่น  แน่วแน่  ม่นั คง  กว้างขวาง 
เฉียบขาด  ไม่หว่ันไหว  และรู้จักคุมสติไว้ได้  ไม่เสียมารยาทผู้ดี 
ไมโ่ กรธงา่ ย  ไมแ่ สดงอาการรา้ ยกาจ  สภุ าพออ่ นโยน  เมอื่ ทำ�ผดิ  
พลาดพล้ังล่วงเกินต่อผู้อ่ืน  ก็แสดงความเสียใจและขอโทษ 
ถ้าเขาทำ�ดีแก่ตนก็แสดงความยินดีและขอบคุณ  ด้วยถ้อยคำ�อัน 
อ่อนหวานจับอกจับใจ  เล่นถูกต้องตามกติกา  เป็นที่ไว้วางใจได ้
ซื่อตรง  ไม่เอาเปรียบใคร  ไม่โกงเล็กโกงน้อย  เอาชนะอย่าง 
สงา่ ผา่ เผย  ไมร่ งั แกหรอื แกลง้ ใคร  ไมท่ ำ�รา้ ยใครลบั หลงั   ไมด่ ถู กู  
ดหู มนิ่ ใคร  ไมเ่ ยาะเยย้ ใคร  ไมพ่ ยาบาทปองรา้ ยใคร  ตลอดเวลา 
เล่นก็มีหน้าตาย้ิมแย้มแจ่มใส  มกี ริ ิยารา่ เรงิ   มีใจพร้อมเพรยี งกัน 
ไม่แก่งแย่งชิงดีกัน  รักหมู่รักคณะ  เข้าแข่งขันตามเวลากำ�หนด 
เมอ่ื ไดเ้ หน็ พวกพอ้ งของตนตา่ งรสู้ กึ วา่   เลน่ เพอื่ ความชนะสำ�หรบั  

11

โรงเรียนของตน  ไม่ใช่เล่นเพื่อตัวคนเดียว 
ถงึ คราวชนะกช็ นะเปน็   ไมอ่ วดด ี ไมเ่ ยาะเยย้  
ฝ่ายผู้แพ้  แม้ประสบคราวแพ้ก็แพ้เป็น 
ไม่อาฆาตจองเวรฝ่ายผู้ชนะ  เป็นต้น 
ในเวลาท่ีดูอยู่น้ัน  นักเรียนหรือผู้เป็น 
นักกีฬา  ย่อมดูด้วยอาการสุภาพเรียบร้อย 
เ ห็ น ใ ค ร เ ล่ น ดี ห รื อ ช น ะ ก า ร กี ฬ า ใ ด   ๆ 
ก็ตบมือแสดงความยินดี  พร้อมกับร้อง 
ชโย! ชโย!  ด้วยเสยี งอนั ดัง  นา่ สนกุ สนาน 
ส่วนการตัดสินเด็ดขาดในการแพ้หรือ 
ชนะน้ัน  อยู่ในหน้าที่ของผู้ตัดสินคนเดียว 
นักกีฬาท่ีดี  ย่อมนิยมเช่ือถือตามคำ�ของ 
ผู้ตัดสินอย่างเฉียบขาด  ไม่มีการคัดค้าน 
หรือโต้แย้งอีกเลย  เพราะผู้เล่นก็ดี ผู้ดูก็ดี 
ไมใ่ ชผ่ ตู้ ดั สนิ   จงึ ไมม่ หี นา้ ทเ่ี ชน่ นน้ั   ถา้ ผใู้ ด 
กลา่ วตเิ ตยี นหรอื คดั คา้ นโตแ้ ยง้ ผตู้ ดั สนิ แลว้  
ผู้น้ันนับว่าโง่เขลาเพราะยังไม่รูจ้ ักระเบียบ 
แบบแผนของนกั กฬี า

เมื่อเสร็จการแข่งขันทุกประเภทแล้ว 
จะไดเ้ หน็ นกั เรยี นทง้ั ชายและหญงิ ทกุ  ๆ รนุ่  
ท่ีชนะกีฬา  เข้าไปรับรางวัลจากผู้เป็น 
ประธานในงานน้ัน  ตามลำ�ดับก่อนหลัง 

12

เป็นระเบียบเรียบร้อย  น่าดูน่าชมน่ายินดีย่ิงนัก  ตอนน้ีแหละ 
เป็นเวลาท่ีนักเรียนรู้สึกปลาบปล้ืมอย่างล้นเหลือ  ท่ีได้เห็น 
พวกของตน  เพ่ือนของตน  และโรงเรียนของตนมีชื่อเสียง 
ไดร้ บั รางวลั เปน็ ตน้ วา่ ถว้ ย  ซงึ่ โดยมากเปน็ ของรางวลั ใหแ้ กค่ ณะ 
หรือโรงเรียน  นอกจากน้ีก็ยังมีเหรียญ  กระเป๋าใส่หนังสือ 
นาฬิกาปลุก  และเสื้อหมวกพิเศษ  ซึ่งให้แก่ผู้ชนะเป็นส่วนตัว 
เวลาแจกรางวัล  ต่างก็ตบมือเสียงเกรียวกราว  เป็นการแสดง 
ความยินดใี หแ้ กผ่ ้ชู นะอย่างมีนำ้ �ใจนักกฬี า

นักเรียนได้อ่านมาถึงเพียงน้ี  ก็อาจจะรู้ได้แล้วว่ากีฬาน้ัน 
สำ�คัญอย่างไร  นักกีฬาที่ดีน้ันมีลักษณะอย่างไร  เพราะฉะนั้น 
ทุกคนควรอบรมนิสัยนักกีฬา  ให้เป็นนิสัยติดสันดานประจำ�ตัว 
ช่ัวลูกหลานเหลนสืบไป  และนิยมส่งเสริมสนับสนุนผู้ที่มีน้ำ�ใจ 
เปน็ นกั กฬี าดว้ ยกนั   เมอ่ื จะคบเพอ่ื นกค็ วรเลอื กคบหาเพอ่ื นทม่ี ใี จ 
เป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง  เพราะเพ่ือนเช่นนี้แหละ  ย่อมจะชักนำ� 
ไปสู่ความดีความเจริญ  และความดีความเจริญนั้น  ย่อมจะมีผล 
เนอ่ื งไปเปน็ คณุ แกบ่ า้ นเกดิ เมอื งนอนอนั เปน็ ทรี่ กั ยง่ิ ของตนอกี ดว้ ย 
ส่วนผู้ท่ีมีน้ำ�ใจไม่ใช่นักกีฬาน้ัน เป็นเหมือนกับคนพาล  อันมี 
ลกั ษณะตรงกนั ขา้ มกบั นกั กฬี า  นา่ รงั เกยี จมาก  ไมน่ า่ คบเปน็ เพอ่ื น 
ด้วยเลย  ใครคบเข้าแล้วก็มีแต่จะชักจูงให้ตกไปสู่ความเสื่อมเสีย 
และความเส่ือมเสียนั้นก็อาจมีผลเนื่องไปเป็นโทษแก่บ้านเกิด 
เมอื งนอนไดเ้ ชน่ เดยี วกนั   เรารงั เกยี จเกลยี ดของโสโครก  ไมอ่ ยาก 
แตะต้องและไม่อยากให้มาเปรอะเป้ือนร่างกายของเราฉันใด 
เราก็จงเกลียดผู้ที่มีน้ำ�ใจไม่ใช่นักกีฬาฉันนั้น  ผู้ท่ีพยายาม 

13

อบรมตนให้มีน้ำ�ใจเป็นนักกีฬา  จึงได้ชื่อว่าเป็นคนรักบ้านเกิด 
เมอื งนอนอนั เปน็ ท่รี ักย่งิ อยา่ งแทจ้ รงิ

(เพลง...............................)

ผู้ร่วมดา้ ว  ชาวสยาม  ชอ่ื งามสม ควรอบรม  ตวั เรา  ให้เขา้ หลกั
ท�ำตัวเรา  ให้ชน  ทุกคนรัก คอื เปน็ นัก–  กีฬา  ทุกทา่ ทาง

ใจเยอื กเย็น  หนกั แน่น  ขม่ แค้นโกรธ ไมถ่ อื โทษ  ยอมให ้ ไดท้ กุ อยา่ ง

ทั้งมั่นคง  เฉยี บขาด  ไมพ่ ลาดพราง ลำ� บากบ้าง  กม็ ิบ่น  ทนตรากตร�ำ

อีกใจคอ  กว้างขวาง  ทางเผื่อแผ ่ ไมห่ มายแต ่ เอาเปรยี บ  หรอื เหยยี บยำ�่

กรุณา  ปราน ี มปี ระจำ� กล่าวถ้อยคำ�   กส็ ภุ าพ  ไม่หยาบคาย

นีค้ ือหลกั   นกั กฬี า  ว่าอย่างยอ่ เปน็ เคร่ืองกอ่   เกดิ ผล  ควรขวนขวาย

ท�ำตนเปน็   นกั กีฬา  อยา่ เว้นวาย  สยามหมาย  สมม่งุ   รุง่ เรืองเอย

14

บทท่ี ๒๖

อธบิ ายคำ� ทม่ี  ี  ์ (ไมท้ ณั ฑฆาต)  การนั ต ์ ไมต่ อ้ งอา่ นออกเสยี ง 
เช่น
เจดยี ์ อ่านวา่ เจดี เถาวลั ย ์ อ่านว่า เถาวัน
วันเสาร์ อ่านวา่ วนั เสา พงศพ์ นั ธ ุ์ อา่ นว่า พงพัน
อาทิตย ์ อ่านวา่ อาทดิ ประชาราษฎร์ อ่านว่า ประชาราด
พระจนั ทร์ อา่ นว่า พระจัน กษตั รยิ ์ อา่ นวา่ กะสัด

ต่อหนังสอื คำ่ �

แบบฝึกหดั

พระสงฆ์สอนศิษย์ให้ต่อหนังสือค่ำ�  เพ่ือให้รู้จักสวดมนต์ 
ไหว้พระ  ฟังเทศน์  อันเป็นประเพณีดีงามของเรา  นอกจากนี้ 

15

ยังสอนหนังสือ  คำ�ศัพท์  ตัวสะกดการันต์  และสอนเลข  คิด 
โจทย์เลข  เหลี่ยมลูกบาศก์  สัปดาห์หนึ่งมีวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ 
ผเู้ ยาวท์ ร่ี กั ษาอนามยั ดมี รี า่ งกายสมบรู ณพ์ นู สขุ   เดก็  ๆ  ตอ้ งอตุ สา่ ห ์
เลา่ เรยี น  รจู้ กั ใชส้ ตางค ์ ประหยดั ทรพั ย ์ ซอ่ื สตั ย ์ สงเคราะหก์ นั  
รักพงศ์พันธ์ุ  รักอาจารย์  รักการกีฬา  เล่นฟุตบอลได้โล่ 
ครูบาอาจารย์ทา่ นกล่าวว่า  ประชาราษฎร์ของเรานบั ถือพระพทุ ธ 
เคารพพระมหากษัตริย์  ถือคำ�สัตย์ม่ัน  เสียชีพอย่าเสียสัตย์ 
มีจิตใจประสงค์ดี  ถึงคราวถูกเกณฑ์ทหารก็เต็มอกเต็มใจ 
พระปรางค์  ต้นโพธ์ิ  โบสถ์  วิหาร  พระเจดีย์  เหล่าน้ีเป็น 
เคร่ืองหมายเล็งถึงพระพุทธ  พระพุทธก็รวมอยู่ในพระไตรรัตน์ 
พระไตรรตั นน์ มี้ คี ณุ คา่ ยง่ิ กวา่ เพชรพลอยทง้ั หลาย  เปน็ แบบพมิ พ์ 
อนั ดงี าม  เปน็ ดวงประทปี ทจ่ี ะนำ�ตวั เราไปสคู่ วามสขุ   หนงั สอื พมิ พ์ 
ส่งทางไปรษณีย์  โดยทางรถยนต์  เรือยนต์  เรือเมล์  เป็นต้น 
ถึงอยู่เขตแดนไกลตั้งโยชน์  ก็ได้อ่านเนืองนิตย์  หนังสือพิมพ์ 
ฉบับวันจันทร์  เดือนกุมภาพันธ์  มีข่าวนายแพทย์พิสูจน์ศพ 
ปราบโรคอหิวาต์  เร่ืองการเพาะปลูกข้าวโพดท่ีสิงคโปร์  และ 
เรอ่ื งไขม่ กุ   หอยสงั ขเ์ ปน็ สตั วแ์ ปลกประหลาดนา่ อา่ น  ผทู้ อ่ี ตุ สา่ ห ์
อา่ นหนังสอื พิมพ์ทุกวันยอ่ มทำ�ใหต้ าหกู ว้าง

16

เที่ยวในที่ต่าง ๆ ทางทะเล

การไปเทย่ี วในทต่ี า่ ง ๆ  นน้ั   เปน็ ของสำ�คญั แหง่ ชวี ติ   เพราะ 
เป็นการพักผ่อน  ทำ�ให้ร่างกายและจิตใจสดช่นื ผ่องใส  โดยได้รับ 
อากาศสะอาดสดชนื่   ไดร้ บั ความเพลดิ เพลนิ สนกุ สนานเบกิ บานใจ 
เพราะได้พบเห็นสถานท่ี  และส่ิงของแปลก ๆ  ท่ียังไม่เคยพบ 
เคยเหน็   อนั เปน็ เครอ่ื งบำ�รงุ ปญั ญา  ประดบั ประดาความร ู้ ความคดิ  
ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น  เป็นการเปิดหูเปิดตา  โดยได้เห็นทำ�เลใน 
ท้องถ่ินต่าง ๆ  พืชต่าง ๆ  สัตว์ต่าง ๆ  และการทำ�มาหากินต่าง ๆ 
ของผู้คนในท้องถิ่นนั้น ๆ  ตลอดจนการฝีมือของช่างโบราณ 
อันงดงามต่าง ๆ  อีกด้วย  การไปเท่ียวน้ี  จึงนับว่าเป็นการเรียน 
สำ�คญั สว่ นหนง่ึ ทเี ดยี ว  สมยั นก้ี ารไปมากส็ ะดวกด ี มรี ถไฟ  เรอื เมล ์
รถยนต์  เรือยนต์  แล่นขึ้นล่องอยู่เสมอ  ทั้งทางนำ้ �และทางบก 
จงึ น่าไปเทยี่ วยง่ิ นัก

ปากน้ำ�เจา้ พระยา

17

ถ้าไปเที่ยวทางนำ้ �  ก็จะได้เห็นภาพแม่นำ้ �  ตลอดจนทะเล 
อันงดงามน่าดู  พอเรือแล่นออกปากนำ้ �  ก็รู้สึกเย็นสบายดี  และ 
แลเห็นปากน้ำ�นั้นกว้างออกไปทุก ๆ  ที  แลดูลิ่วไป  ซ่ึงน่าดูมาก 
พอสุดเขตปากน้ำ�  ก็ถึงปากอ่าว  ท่ีปากอ่าวสยามนี้  มีสันดอน 
คือเป็นท่ีเนินนูนข้ึนคล้ายหลังเต่า  เรือใหญ่เดินข้ามได้แต่เฉพาะ 
เมอ่ื เวลานำ้ �ขน้ึ   ถา้ เปน็ เวลานำ้ �ลงแลว้ ตน้ื เขนิ มาก  นก่ี น็ า่ ประหลาด 
ยิ่งแล่นไกลออกไป  ก็เห็นแต่ทิวไม้อยู่รำ�ไร ๆ  สุดสายตา  และ 
ถา้ ยงิ่ แลน่ ออกไปอกี   ทวิ ไมเ้ หลา่ นน้ั กด็ เู ลก็ เรยี วลงทกุ ที ๆ จนเหน็  
ไม่ถนัด  และในท่ีสุดก็แลไม่เห็นอะไรเลย  นอกจากน้ำ�กับฟ้า 
เท่าน้ัน  น่าใจหาย  สีน้ำ�ในทะเลน้ันค่อย ๆ เขียวขึ้นทีละน้อย ๆ 
จนกระทง่ั เขยี วจดั   และถา้ ยง่ิ ลกึ ออกไป  กเ็ ปน็ สนี ำ้ �เงนิ   จนในทส่ี ดุ  
เป็นสีดำ�  น่ีก็ประหลาดมาก  ส่วนรสของน้ำ�ทะเลน้ันเค็มจัด 
ถ้าตักขึ้นมาดูในเวลากลางคืน  จะเห็นมีแสงใสเป็นเม็ดพราว 
ราวกบั แสงหง่ิ หอ้ ยหรอื แมงคาเรอื ง  เปน็ ของนา่ ดแู ละประหลาดมาก 
กลางทะเลน้ันมีลมพัดแรงจัด  ทำ�ให้กระแสนำ้ �เต้นกระเพ่ือมเป็น 
ระลอกคลน่ื อยไู่ หว ๆ  เสยี งนำ้ �ปะทะกนั แตกกระจายดงั ซา่  ๆ  ถา้ เปน็  
คลน่ื ใหญก่ ม็ เี สยี งดงั กกึ กอ้ ง  คลน่ื นอ้ ยกค็ อ่ ย ๆ  เบาบางลง  ขณะท ่ี
เรือแล่นอยู่  เม่ือมีคล่ืนมากระทบเข้า  ก็ทำ�ให้เรือโคลงเคลง 
แกวง่ ไกวไปมา  ราวกบั วา่ เลน่ ชงิ ชา้   เปน็ สง่ิ นา่ ดแู ละนา่ ประหลาด 
เหมือนกัน  พอสุดเขตปากอ่าวก็เข้าสู่ทะเล  เห็นนกนางนวล  ซ่ึง 
งามน่ารักมาก  เที่ยวบินโผลงลอยน้ำ�  โฉบปลากินไปมาใกล้ ๆ 
ลำ�เรือ  นอกจากนี้ยังมีนกทะเลชนิดอ่ืน ๆ  บินร่อนขวักไขว่ไปมา 
อยู่มากมาย  น่าดูแท้ ๆ  และที่กลางทะเลใกล้ ๆ  กับร่องนำ้ �หรือ 

18

ทางเดนิ เรอื   มกี ระโจมไฟ  หรอื ทเ่ี รยี กวา่ ประภาคารเปน็ เรอื นกระจก 
มีสีเขียว ๆ แดง ๆ  ตั้งอยู่เป็นแห่ง ๆ  เวลากลางคืน  มีเจ้าหน้าที่ 
ประจำ�  คอยฉายแสงไฟให้สว่าง  เห็นได้ในระยะไกล ๆ  เพื่อ 
ให้สะดวกแก่การเดินเรือไปมา  เพราะในทะเลนั้นมีเรือไปมา 
ค้าขายมาก

เทยี่ วในทต่ี า่ ง ๆ  ทางทะเล  (ตอ่ )

เมอื่ แลน่ เรอื ไปในทะเล  จะไดพ้ บเหน็ เกาะนอ้ ยใหญ ่ ซง่ึ ตง้ั  
ระเกะระกะอยูใ่ นทะเล  มากมายเหลือท่จี ะนับ  มีท้งั ทิวไม้และเขา 
ดูเขียวชอุ่ม  งามนัยน์ตา  น่าชมอย่างยิ่ง ตามชายหาดบางแห่ง 
ก็มีทรายท้งั ชนิดหยาบและละเอียด  กรวดหินกอ้ นเล็ก  ก้อนนอ้ ย 
มองดูเรี่ยรายเกลื่อนกลาดไป  ทั้งสัตว์จำ�พวกหอยต่าง ๆ  เช่น 
หอยพิมพการัง  หอยสังข์  หอยเสียบ  หอยนมสาว  หอยหลอด 
หอยจุ๊บแจง  หอยแครง  หอยแมลงภู่  หอยกะพง  ก็มีอยู่ 
ตามฝ่ังทะเลเป็นอันมาก  หอยเหล่าน้ีมีสีและรูปร่างต่าง ๆ  กัน 
นอกจากนก้ี ็ยังมีปูต่าง ๆ  เช่น  ปูทะเล  ปูม้า  และปูลม  เป็นต้น 
กระดองของมนั มลี ายตา่ ง ๆกนั   สตั วป์ ระเภทนกี้ เ็ ปน็ ของงามนา่ ด ู
น่าชม  ในท้องทะเลนั้นมีปลาต่าง ๆ นับอนันต์  เป็นต้นว่า  ปลา
แป้น  ปลาท ู ปลากเุ ลา  ปลากะพง  ปลากระบอก  ปลาโลมา  และ 
ปลาฉลาม  เหล่านี้  เป็นต้น ต่างว่ายแหวกเวียนวนไปมา 
เปน็ ฝงู  ๆ  แลดสู ะพรง่ั   นอกจากน ้ี กย็ งั มแี มงกะพรนุ   ตวั ของมนั  
มีลักษณะคลา้ ย ๆ  กบั วนุ้ และสขี าว  หวั กลม ๆ  มหี างเปน็ สายรงุ รงั  
แหวกว่ายอยู่ในนำ้ �  น่าดูมาก  แมงดาทะเลก็มีรูปร่างของมัน 

19

หาดทรายทะเล

ผิดกันกับแมงดานา  คือกระดองกลม ๆ  มีปากอยู่ใต้ท้อง  มีตีน 
ยุ่มย่ามอยู่ริมฝีปาก  และมีหางแข็งแหลม  ตัวผู้เกาะอยู่บนหลัง 
ตัวเมียเสมอ  ถ้าจะนึกต่อไปแล้ว  ก็ดูเลวทรามเต็มที  เพราะ 
ตามปกติท่ีรู้กันอยู่ท่ัว ๆ  ไปน้ัน  มนุษย์ก็ดี  สัตว์เดียรัจฉานก็ดี 
ผู้ชายหรือตัวผู้  โลกได้สร้างมาให้เป็นฝ่ายที่มีกำ�ลังแข็งแรง 
จึงจำ�เป็นต้องหาเล้ียงผู้หญิงหรือตัวเมีย  ซึ่งเป็นเพศฝ่ายมีกำ�ลัง 
ออ่ นแอกวา่ ทง้ั สน้ิ     แตแ่ มงดาทะเลนท้ี ำ�ไมกลบั กลายเปน็ เชน่ นน้ั  
เป็นของน่าขันและน่ารังเกียจแท้ ๆ  ถ้าเรือแล่นเลียบเข้าไป 
ใกล้ ๆ  ฝ่งั   ก็จะได้เห็นชาวประมงทำ�โป๊ะ  โพงพาง  วางเฝือก 
ลากอวน  ลงเบด็   ยกยอ  ซง่ึ ลว้ นแตเ่ ปน็ เครอ่ื งมอื จบั ปลา  บางพวก 
ก็ปักหลักจับหอยแมลงภู่  หอยกะพง  บ้างก็ถีบกระดาน  ลงไป 
เที่ยวเก็บหอย  เก็บปลาเล็ก ๆ  ตามชายทะเล  บ้างก็พายเรือ 
เล็ก ๆ ไปหาปลาตามชายฝ่ังทะเลท่ีต้ืน ๆ  ล้วนแต่เป็นการทำ�มา 
หากินในท้องถิ่นทะเลท้ังส้ิน เป็นส่ิงน่ารู้น่าดูมิใช่น้อย บนฝั่ง 

20

ก็มีต้นไม้  เช่น  ต้นลำ�พู  ข้ึนอยู่ตามชายเลน  มีห่ิงห้อยเกาะอยู่ 
เป็นนิตย์  เวลากลางคืนจะเห็นแสงเป็นประกาย  ราวกับประดับ 
ดว้ ยเพชรพลอยพราวไปทง้ั นนั้   แลดงู ามตาและนา่ ประหลาดยงิ่ นกั  
นอกจากนกี้ ย็ งั มตี น้ โกงกาง  ตน้ ตะบนู   และไมอ้ น่ื  ๆ  มเี ถาวลั ยข์ นึ้  
พาดพันห้อยย้อย  น่าดูมาก  ตามต้นไม้เหล่านี้  มักมีลิงค่าง 
อาศัยอยู่เป็นฝูง ๆ ส่งเสียงร้องอยู่ขรม  น่าดูน่าฟัง  ผู้ที่ไป 
เที่ยวทะเล  เวลาเย็น ๆ  มักชอบเท่ียวเดินเล่นตามหาดทราย 
เก็บกรวดหินและเปลือกหอยสีต่าง ๆ  เล่นบ้าง  จับหอยจับปู 
เล่นบ้าง  ลุยนำ้ �ตามหาดทรายเล่นบ้าง  บางทีว่ิงหนีคล่ืนทะเล 
เล่นบ้าง  ลงเรือตีกรรเชียงหรือแล่นใบเล่นบ้าง  การเล่นเหล่านี้ 
แตล่ ะอย่าง ๆ  ล้วนน่าสนกุ สนาน  นา่ เพลดิ เพลนิ ทง้ั นั้น

เทย่ี วในทีต่ า่ ง ๆ  ทางบก

ถา้ แมว้ า่ ไปเทย่ี วทางบก  กจ็ ะไดพ้ บเหน็ ภาพแปลกเปลยี่ น 
ผิดไปจากท่ีกล่าวมาแล้ว  อีกอย่างหนึ่งทีเดียว  คือจะได้เห็น 

ทงุ่ นา

21

แผ่นดิน  เป็นทุ่งนาใหญ่  กว้างขวางเว้ิงว้าง  แลดูสุดสายตา 
เห็นคันนาคั่นเป็นตอนเป็นระยะตลอดไป  บ้างก็เป็นท่ีมีหญ้า 
ป่าละเมาะและหมู่ไม้อยู่เป็นแห่ง ๆ  ถ้าเป็นเวลาหน้าแล้ง  จะเห็น 
วัวควายเที่ยวหากินอยู่เป็นฝูง ๆ  ถ้าเป็นหน้านาจะเห็นต้นข้าว 
งอกงามเขียวสะพรั่งไปทั้งน้ัน  มองดูคล้ายพรมสวยงามน่าดู 
และถ้าเป็นหน้าข้าวออกรวง  ก็จะได้เห็นรวงข้าวสุกเหลืองอร่าม 
ทั่วไปท้ังท้องทุ่ง  ดูราวกับสีทอง  นี่ก็สวยงามน่าดู  พวกชาวนา 
ทั้งหญิงชาย  ลงแขกเกี่ยวข้าว  ต่างร้องเพลงแก้กันอย่าง 
สนุกสนาน  เป็นภาพท่ีงามน่าดูมาก  ในทำ�เลบางแห่งจะได้ 
พบพื้นที่ท่ีเป็นไร่ต่าง ๆ  มีไร่ข้าวโพด  กล้วย  อ้อย  น้อยหน่า 
ถว่ั งา  ฝา้ ย และฟกั แฟง แตงกวา เป็นตน้   ซงึ่ ชาวไร่ได้ทะนบุ ำ�รุง 
เป็นอย่างดี  งอกงามน่าดูน่าชมมาก  จะได้พบพื้นท่ีท่ีเป็นสวน 
ต่าง ๆ  เช่น  สวนหมาก  มะพร้าว  มะม่วง  มะไฟ  ลำ�ไย  ลิ้นจี่ 
เงาะ  ทุเรียน  ละมุด  มังคุด  เป็นต้น  ซึ่งชาวสวนได้ปลูกไว้และ 
หมนั่ บำ�รงุ รกั ษาอยเู่ สมอ ๆ  ถา้ เปน็ หนา้ มผี ลแลว้ กจ็ ะไดเ้ หน็ ผลดก 
ดาษด่ืน  ถ้าเป็นสวนไม้ดอก  เช่น  กุหลาบ  พุด  สายหยุด 
พุทธชาด  มะลิลา  กระดังงา  จำ�ปา  จำ�ปี  ราตรี  สารภี  ยี่สุ่น 
บุนนาค  หน้าวัว  กล้วยไม้  ไม้ดอกเหล่านี้มีสีสันต่าง ๆ  งาม 
น่าดูน่าชม  ทั้งส่งกลิ่นหอมฟุ้งตลบอบอวลน่าช่ืนใจย่ิงนัก  จะได้ 
พบป่าไม้ใหญ่น้อยต่าง ๆ  มีไม้หลายชนิด  เป็นต้นว่า  ไม้ไผ่ 
ไม้รวก  ไม้เต็ง  ไม้รัง  ไม้ตะแบก  ไม้สัก  ไม้ยาง  ไม้พะยูง 
ไม้มะเกลือ  ไม้ประดู่  ไม้แดง  และไม้อ่ืน ๆ  ล้วนแต่มีลำ�ต้น 
สงู ตระหงา่ น  แผก่ ง่ิ กา้ นงดงาม  แลดนู า่ รม่ เยน็   ชาวปา่ ทท่ี ำ�มาหากนิ  

22

ในทางป่า  ก็พาพวกมาทำ�การโค่น  ตัดต้นไม้  บ้างก็ทอนเป็น 
ทอ่ นฟนื   เผาถา่ น  ตผี ง้ึ   ลา่ สตั วก์ นั อยา่ งสนกุ สบายตามประเภท 
พ้ืนบ้านพ้ืนเมือง  เวลาลมพัดไม้ชนิดมีดอกหอม  ก็ส่งกลิ่นหอม 
ตลบ  เป็นท่ีน่าสบายใจ  น่าเท่ียว  น่าชม  ย่ิงนัก  พ้ืนท่ีบางแห่ง 
เป็นเขาน้อยใหญ่เป็นทิว  มีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่ม  ร่มเย็น  เป็นที่ 
นา่ ปนี ปา่ ยขน้ึ ไปเทย่ี วเลน่   และประกอบดว้ ยแคว  ลำ�ธาร  มนี ำ้ �ไหล 
คดเคย้ี วอยตู่ ามเชงิ เขา  มนี ำ้ �พ ุ นำ้ �ตก  ใสเยน็ ซา่ นกระเซน็   พงุ่ ขน้ึ  
เป็นฝอย  บ้างก็หยดย้อยไหลอยู่ตลอดวันตลอดคืน  งามน่าดู 
น่าอาบเล่นอย่างยิ่ง  ในที่บางแห่งก็เป็นหนองเป็นบึง  มีกระจับ 
ตบั เตา่   ผกั ตบ  สนั ตะวา  ผกั แวน่   ขนึ้ อยสู่ ลบั สลอน  และมปี ลา 
ป ู เตา่   ชกุ ชมุ   ตา่ งกด็ ำ�ผดุ และวา่ ยแหวกไปมาอยไู่ หว ๆ  นา่ ดมู าก 
นอกจากน้ีในป่าใหญ่ ๆ  จะได้พบสัตว์ต่าง ๆ  อันมีอยู่มากมาย 
เช่น  ช้าง  เสือ  เน้ือ  กวาง  ลิง  ค่าง  บ่าง  ชะนี  เป็นต้น 
ต่างเท่ียวหากินและวิ่งขวักไขว่ไปมาอยู่ตามพ้ืนดิน  บ้างก็ 
โหนไต่ไปมาตามต้นไม้  ส่งเสียงร้องก้องอยู่ทั่วไป  ประกอบด้วย 
เสียงร้องของสัตว์จำ�พวกแมลงต่าง ๆ  เช่น  เรไร  ร้องหร่ิง ๆ 
ฟังดูวังเวงเยือกเย็นมาก  ยังมีสัตว์จำ�พวกนกอีกประเภทหนึ่ง 
มีขนาดรูปร่างและสีต่าง ๆ  กัน  บ้างก็พลอดตามภาษาของมัน 
สำ�เนียงไพเราะเพราะพรง้ิ   นา่ ฟงั ยง่ิ นกั

23

เท่ียวในทต่ี ่าง ๆ  ทางบก  (ตอ่ )

ถ้าไปเท่ียวตามวัดต่าง ๆ  จะได้ 
พบเห็นโบสถ์  วิหาร  มณฑป  พระเจดีย์ 
พระปรางค์  พระพุทธรูป  และของเก่า ๆ 
ที่ ส ร้ า ง ไว้ ใ ห ญ่ โ ต   มี อ ยู่ เ ป็ น อั น ม า ก 
ของเหล่านี้  เช่น  กรอบประตู  หน้าต่าง 
ฝาผนัง  เป็นต้น  แกะสลัก  ป้ัน  เขียนไว้ 
เป็นรูปคน  รูปสัตว์  เป็นภาพลวดลาย 
ตา่ ง ๆ  ดว้ ยฝมี อื ชา่ งโบราณของเรา  ลว้ นแต่ 
สวยงามประณีตน่าดูน่าชมยิ่งนัก  และตาม 
โบราณสถาน  กม็ กี ำ�แพงปราสาท  กเู่ ทวรปู  
อิ ศ ว ร   น า ร า ย ณ์   เ ป็ น ต้ น   ทำ� ด้ ว ย 
ฝีมือละเอียดและงดงาม  โบราณสถาน 
ศิลปวัตถุ  โบราณวัตถุ  เหล่าน้ีเป็นเครื่อง 
เชิดชูช่ือเสียงของเรา  เราต้องพร้อมใจกัน 
เป็นน้ำ�หนึ่งใจเดียวกัน  ช่วยกันสงวน 
และบำ�รงุ รกั ษาไวใ้ หป้ รากฏอย ู่ ตลอดกระทง่ั  
ลูกหลานเหลนสืบ ๆ  กันต่อไป  นอกจากน้ี 
ก็ยังมีตลาดซึ่งเป็นท่ีชุมนุมชนผู้คนไปมา 
ซ้ือขายส่ิงของท่ีมีในพ้ืนบ้านพื้นเมืองน้ัน ๆ 
ก็เป็นของน่าดูน่าชมเหมือนกัน  ยังมี 
ส่ิงอื่น ๆ  อีกซ่ึงถ้าจะนำ�มากล่าวให้สิ้นเชิง 
แล้ว  ก็จะยืดยาวมากเกินไป  รวมความว่า 

24

ตลาดนดั ตามชนบท

ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งเหลา่ น ี้ เปน็ ทนี่ า่ ไปเทยี่ วด ู เทย่ี วชม  และเปน็ สง่ิ ท ี่
จะทำ�ให้บังเกิดความเพลิดเพลิน  เป็นความสำ�ราญกายสบายใจ 
ของผ้ทู ี่ได้ไปเทยี่ ว  ไดพ้ บได้ดูไดช้ ม  ทงั้ สนิ้

เมื่อนักเรียนได้อ่านเรื่องเท่ียวในที่ต่าง ๆ  แต่เพียงย่อ ๆ 
เท่านี้  ก็คงจะรู้สึกเพลิดเพลินมาก  ถ้ามีโอกาสอันเหมาะแล้ว 
น่าจะไปเท่ียวชมให้เห็นปรากฏแก่ตาของตนเอง  และเมื่อนึกว่า 
การไปเท่ียวนั้น  ได้รับผลคือความสนุกสนาน  ความสำ�ราญกาย 
สบายใจและความรู้  เป็นเคร่ืองบำ�รุงปัญญาให้ฉลาดขึ้นอีก 
เปน็ ตน้   เชน่ นแ้ี ลว้   แมห้ ากวา่ จะไดป้ ระสบความยากลำ�บาก  หรอื  
บางทีจะต้องผจญภัยอันตรายต่าง ๆ  บ้างก็ดี  แต่ถ้าเรามีสติ 
รอบคอบ  โดยระมัดระวังตัว  มีกำ�ลังกายคล่องแคล่วว่องไวอยู่​  
มีกำ�ลังใจเข้มแข็งอดทนดีแล้ว  ก็ไม่น่าจะเห็นเป็นความยากเข็ญ 
ในการเที่ยวนั้นเลย  และถ้าหากสมมติว่า  ตนจะต้องไปประสบ 

25

ความลำ�บาก  หรือภัยอันตรายเข้า  ก็จำ�ต้องมีใจกล้าหาญอย่าง 
ลูกผู้ชายแท้จริง  จำ�เป็นต้องพยายามฝ่าความลำ�บาก  หรือ 
ภัยอันตรายนั้น ๆ  ให้รอดชีวิตกลับมาจนได้  ดังเช่นเร่ืองผจญภัย 
เป็นต้น  ต้องหม่ันสังเกตกำ�หนดจดจำ�สิ่งต่าง ๆ  ให้ดี  เหมือนกับ 
นักท่องเท่ียว  ท่ีเที่ยวเสาะแสวงหาความรู้ต่าง ๆ  อันจะเป็นคุณ 
แก่ตน  และประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของตน  แต่ถ้าหากว่า 
การไปเท่ียวนั้น  ไม่ได้รับผลดังกล่าวแล้ว  ก็น่าจะเสียดายทรัพย์ 
และเวลาท่หี มดเปลอื งไปโดยไรผ้ ล

(เพลง...............................)

ชาวสยาม  พยายาม  อบรมอาตม​์ ใหฉ้ ลาด  เลิศสม  อุดมศักด์ิ 

การศึกษา  ไมส่ ิ้นสดุ   อยา่ หยุดพกั เพียรขะมกั   เขมน้ หมาย  จนวายชนม์

หม่นั คน้ ควา้   ความจรงิ   ส่งิ น่ันน ี่ คุณโทษม ี เป็นไฉน  หรอื ไรผ้ ล

ทำ�ส่งิ ท ่ี ดีเพื่อ  เกอื้ กลู ตน แลเปน็ ผล  เผยแผ่  แกโ่ ลกเอย

26

บทท ่ี ๒๗

อธบิ ายตวั สะกดทเี่ ปน็ ตวั ควบ  หรอื ตวั สะกดทม่ี สี ระ     ิ   ุ 
อยู่ด้วย  ถ้าเป็นค�ำเดียวโดด ๆ  ถึงไม่มี    ์  (ไม้ทัณฑฆาต) 

ก็ไมต่ ้องอา่ นออกเสียง  เชน่

เหตุ อา่ นวา่ เหด ชาต ิ อา่ นว่า ชาด
พยาธปิ ากขอ อา่ นว่า พะยาดปากขอ บตุ ร อา่ นว่า บดุ
ภูมิรู้ อ่านว่า พูมรู้

แบบฝึกหดั
สารพดั   พยาธิ  มูตร บุตร  ทอ่ งสูตร  พูดสมเหตุ
มหาสมทุ ร  เซนติเมตร น้�ำหา้ ลิตร  รกั มิตร  ญาติ
รว่ มสมคั ร  ขออนมุ ตั ิ ธนบตั ร  ยส่ี บิ บาท
รกั ชาต ิ รอ้ งเพลงชาติ ชักธงชาต ิ ถอื ธงฉัตร

ทหาร ยวุ ชน ลกู เสอื

“สละชีพ  เพอ่ื ชาติ” จรงิ “รกั ชาติย่งิ   ชีพ” แน่ชัด
จงปฏบิ ัติ  เคร่งครัดไว้
“เสียชพี   อย่าเสยี สตั ย์”

27

อธิบายตัว  ร  ล  หรือตัว  ห  ที่ควบอยู่หน้าตัวสะกด 
ไม่ต้องอ่านออกเสียงตัว  ร  ล  หรือตัว  ห  ออกเสียงแต่ตัวหลัง 
เป็นตวั สะกดตวั เดยี วเทา่ นัน้   เช่น
สามารถ อา่ นว่า สามาด กระยาสารท อ่านวา่ กระยาสาด
มารค อา่ นวา่ มาก เกยี รต ิ อ่านวา่ เกียด
ตน้ ปาลม์ อา่ นวา่ ต้นปาม พระพรหม อา่ นวา่ พระพรม

ปาล์ม พระพรหม

แบบฝกึ หัด

มารค  แปลว่า  ทาง  ถ้าเราไปทางบกหรือทางนำ้ �ในวัน
สารทกลางปี  จะเห็นชาวบ้านเขานิยมทำ�บุญกันด้วยกระยาสารท 
และเราสามารถมองเห็นภาพพราหมณ์น่ังก้มศีรษะกราบไหว้ 
พระพรหมอยู่  นอกจากน้ียังมีภาพท่านผู้ทำ�ความดีและเกียรติ 
ให้แกป่ ระเทศชาติของเรา  น่าบูชา  น่าปลาบปลืม้ ใจ  ยง่ิ นัก

28

เรอื่ ง  เร่ิมอบรมตนในขณะท่ียังเยาว์

บรรดาสิ่งตา่ ง ๆ  อันเป็นสมบัตขิ องโลก  จะเป็นวตั ถสุ ิ่งของ 
สัตว์หรือบุคคลก็ตาม  ถ้าได้รับการอบรม  ฝึกหัด  ดัดแปลง 
ตกแต่ง  ให้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว  ย่อมมีค่ายิ่งข้ึน  เช่น  ต้นตะโก 
ต้นมะขาม  ที่เขาดัดเขาแต่ง  ย่อมน่าดูน่าชมกว่าต้นที่ไม่ได้ดัด 
ไม่ได้แต่ง  ไม้ถือก็ดี  โต๊ะ  เก้าอ้ีก็ดี  ถ้าขัดและทาสีให้ 
ประณีตข้ึน  ก็ย่อมงดงาม  มีราคามากข้ึน  เพชรพลอย  ก็เป็น 
แร่ธาตุชนิดหน่ึง  ซึ่งถ้านำ�มาเจียระไน  จนสะอาดมีน้ำ�งาม 
รัศมีพราวตา  ก็ย่อมมีราคาแพงกว่าเพชรพลอยท่ีไม่ได้เจียระไน 
หรือเจียระไนแต่น้อย ช้าง ม้า วัว ควาย เสือ หมี ลิง 
และสุนัข เป็นต้น  ถ้าฝึกหัดดีแล้วก็ย่อมใช้ได้ดีกว่าช้างเถ่ือน 
ม้าเถ่อื น  ควายเถ่อื น  ท่อี ยูต่ ามป่า  และเท่ยี วระเหระหนไปตาม 
ลำ�พังของมัน  เราคงจะได้เคยเห็นตามท่ีเขานำ�มาแสดงบ้างแล้ว 
ซ่ึงน่าดูน่าชม  น่าประหลาดยิ่งนัก  ส่วนมนุษย์เราก็เป็นฉันนั้น 
คือถ้าได้รับการอบรมฝึกหัดกล่อมเกลาให้เป็นคนมีภูมิรู้ดีแล้ว 
ก็ย่อมเป็นคุณเป็นเกียรติท้ังแก่ตนเองและคนอื่น ๆ  ตลอดถึง 

29

ประเทศชาต ิ พระพทุ ธเจา้ จอมปราชญผ์ เู้ ปน็ ครอู ยา่ งวเิ ศษของเรา 
แต่เดิมทีก็ทรงนิยมลัทธิพราหมณ์ผู้ถือพระพรหม  แต่ภายหลัง 
ท่านได้ทรงคิดค้นคว้าหาความจริง  จนกระทั่งทรงพบแล้วว่า 
ความสขุ หรอื ความทกุ ขต์ า่ ง ๆ  นนั้ เกดิ จากตนเอง  และการกระทำ� 
ของตนเอง  ความดีหรือความช่ัวท่ีทำ�ลงแล้วน้ันเองเป็นเหตุ 
ย่อมเผล็ดผลตามที่ทำ�ไว้ เหมือนหว่านพืชชนิดใดลง  ก็ผลิผล 
ชนิดน้ันข้ึน  เช่น  หว่านข้าวก็ไม่กลายเป็นหญ้า  หญ้าก็ไม่ 
กลายเป็นถั่วงา  พืชชนิดใดก็คงเป็นชนิดนั้น  ถ้าเราทำ�ดี 
กไ็ ดร้ บั ผลดี คอื   ความสขุ   ความเจรญิ     ถา้ เราทำ�ชว่ั กไ็ ดร้ บั ผลชว่ั  
คือ  ความทุกข์  ความเดือดร้อน  ความเสื่อม  เป็นเงาตามตัว 
เราทุกคนต้องเช่ือม่ันในคำ�ส่ังสอนของท่านจะได้เป็นเคร่ือง 
คอยเตือนใจ  เหน่ียวร้ังใจ  ข่มใจให้หมั่นพยายามปฏิบัติแต่ 
สิ่งที่ดี  และเว้นจากการกระทำ�ชั่วทุกเวลาและทุกสถาน  เราก็จะ 
ได้รับความสุขความเจริญ  อาจสามารถเล้ียงตัวเองได้ต่อไป 
ภายหนา้   เพราะฉะนนั้ คนเราทกุ คนจำ�เปน็ ตอ้ งอบรมฝกึ หดั ตนเอง 
ให้หมั่นกำ�จัดความช่ัวที่มีอยู่ในตัว  แม้ทีละน้อย ๆ  บ่อย ๆ  เข้าก็ 
อาจผอ่ งใสมากขนึ้ ได ้ เหมอื นน้ำ�ฝนทตี่ กลงมาจากอากาศ  อนั คน 
เอาภาชนะเปล่าไปวางรองไว้  ณ  กลางแจ้ง  แม้เม็ดฝนตกลงใน 
ภาชนะน้ัน  ทีละน้อย ๆ  บ่อย ๆ  เข้าก็อาจเต็มภาชนะตุ่มไหน้ันได้ 
การอบรมฝึกหัดตนต้องอบรมด้วยความสมัครใจและรู้สึกสำ�นึก 
ตัวเอง  ต้องต้ังใจแน่วแน่ดังเข็มทิศ  และต้องเริ่มอบรมฝึกหัด 
ตนเสียต้ังแต่ยังเยาว์  เพราะจิตใจยังอ่อนและกำ�ลังเจริญ จึงจะ 
ได้ผลสมหวัง  เมื่อเติบโตแล้วร่างกายเจริญเต็มที่  จิตใจกล้าแข็ง 

30

อบรมฝึกหัดยากมาก  ไม่ค่อยได้ผล  สมดังสุภาษิตโบราณ 
ท่านกล่าวไว้ว่า  “ไม้อ่อนดัดง่าย  ไม้แก่ดัดยาก”  ยุวชนสยาม 
ทง้ั หลายจงรูส้ กึ สำ�นึกตวั ไว้วา่   การอบรมตนให้เป็นคนดีน่ันแหละ 
ชอื่ วา่ เปน็ ผรู้ กั ประเทศชาต ิ อนั เปน็ ถนิ่ ฐานของตน  พรอ้ มทงั้ สกลุ  
และมติ รญาตอิ ยา่ งแท้จรงิ   ควรภมู ิใจได้

(เพลง...............................)

ปรารภ  อบรมตน เถดิ ทุกคน  ชนสยาม
ทำ� ดดี ้วย  ตนช่วยตน
เรามา  พยายาม หม่ันตรองตร ิ ใหผ้ ลผิ ล 
หน่ึงน้ ี มีสติ ทกุ อึดใจ  ไป่ปล่อยตาม 
ยัง้ ไว้  อยไู่ ด้จน ไม่มาย่ัว  ทัว่ ทกุ ยาม
ขืนข่ม  อารมณ์ช่วั ความเคม็ นน้ั   มนั รกั ษา 
เชน่ เช้อื   เกลอื เคม็ นาม ตามพระพุท-  ธวาจา
ขอ้ สอง  ตอ้ งยดึ ยดุ เพราะตนแท ้ ทำ� แกต่ น
ตนมี  ดชี ่ัวมา หมายท�ำด ี ได้ดีดล
ผลตอ้ ง  สนองม ี เหมือนอยา่ งเงา  เฝ้าตดิ ตาม
ทำ� ช่ัว  ได้ช่ัวยล คอื ผดงุ   คณุ ดงี าม
สามนี ้ ทห่ี มายมุง่ สามข้อครบ  ควรอบรม
งดท่ัว  ชวั่ เลวทราม ราษฎร์ทวั่ หน้า  สมาคม
จักสุข  ทุกประชา– อุดมพรอ้ ม  หอมฟงุ้ เอย
สยาม  ยอ่ มงามสม

31

บทที ่ ๒๘

อธบิ าย  ตวั สะกดที่ใชท้ ั้งสะกดและออกเสียงดว้ ย  เชน่
ตุก๊ ตา อา่ นว่า ตุก๊ กะตา ศาสนา อา่ นวา่ สาดสะหนา
ผลไม้ อา่ นวา่ ผนละไม ้ ภูมศิ าสตร ์ อ่านวา่ พมู สิ าด
ราชสหี ์ อา่ นว่า ราดชะสี เกียรติยศ อา่ นว่า เกียดตยิ ด
มาตรา อา่ นวา่ มาดตรา จักรยาน อ่านว่า จกั กระยาน

ราชสหี ์ ตก๊ั แตน ตกุ๊ ตา จักรยาน

แบบฝึกหัด

รัฐบาล  รัศม ี มีไมผ้ ล อธั ยาศยั   ชนั สตู ร  ศาสนา
ปรารถนา  วิทยา  ช้นั มัธยม
ผา้ สกั หลาด  ภูมศิ าสตร์  เลขมาตรา จักจ่นั   เจรจา  เสยี งขรม
ราชสหี  ์ ตก๊ั แตน  ตกุ๊ ตา พัสด ุ อดุ ม  เป็นเกียรติยศ
สุขศกึ ษา  พลเมือง  ต่างมาชม พศิ ดู  พสิ ดาร  ไปท้งั หมด
มัธยัสถ ์ ชักเยอ่   ขีจ่ ักรยาน ถงึ กำ� หนด  ฟงั วทิ ย ุ เรยี นวทิ ยา
เอ็ดตะโร  อึกทกึ   เธอควรงด

32

เร่มิ อบรมตนในขณะทยี่ ังเยาว ์ (ต่อ)

เด็ก ๆ  ทุกคน  จ�ำต้องกระท�ำตัวให้เป็นเด็กดีที่สุดที่จะ 
กระทำ� ได ้ ใหม้ คี ณุ ความด ี สมกบั ไดร้ บั การศกึ ษามาแลว้   หนา้ ท่ี 
ท่ีดีนั้น  มีอยู่เป็นอันมาก  เหลือท่ีจะน�ำมากล่าวให้พิสดาร 
ในท่ีน้ีได้  ต่อไปมิช้าเมื่อนักเรียนได้เรียนถึงชั้นมัธยม  หรือ 
ได้รับการอบรมในทางศาสนาอีกแล้ว  ก็คงจะเข้าใจว่า  ส่ิงไหน 
ควรกระท�ำ  และสิ่งไหนไม่ควรกระท�ำ  กว้างขวางออกไปเป็น 
ล�ำดับ  แต่ในที่น้ีจะกล่าวถึงหน้าที่ท่ีเด็ก ๆ  ควรอบรมทางบ้าน 

เด็กทำ�งานทบ่ี ้าน

ที่โรงเรียน  และต่อประชุมชน  จะได้มีอัธยาศัยสุภาพเรียบร้อย 
รู้จักระเบียบแบบแผนอันดี  ให้เป็นนิสัยติดตัวต่อไปภายหน้า 
จะได้เป็นพลเมืองดี  เป็นก�ำลังของประเทศชาติอันเป็นที่รักย่ิง 
ของตนสืบไป

33

หน้าท่ีซึ่งควรกระท�ำทางบ้านน้ัน  ข้อส�ำคัญ  ต้องรู้จัก 
เคารพนับถือ  เช่ือถ้อยฟังค�ำผู้หลักผู้ใหญ่  ต้องแสดงกิริยา 
อนั ออ่ นนอ้ ม  ตอ้ งเจรจาถอ้ ยคำ� ทอี่ อ่ นหวานไพเราะ  อยา่ ทำ� เปน็ คน 
ด้ือด้านมุทะลุหุนหันพลันแล่น  ถือทิฐิมานะในทางผิดซ่ึงเป็น 
ส่ิงเลวทรามต่�ำช้ามาก  มีความกตัญญูกตเวที  รู้จักสนองคุณ 
ผู้มีคุณ  กับต้องรู้จักมัธยัสถ์เก็บหอมรอมริบทรัพย์  อย่าเป็น 
คนสุรุ่ยสุร่าย  ต้องขยันขันแข็งท�ำการงาน  อย่าเกียจคร้านหรือ 
มักง่าย  ส่ิงของอะไรหยิบเอาไปใช้แล้ว  ต้องเอามาเก็บไว้ท่ี 
ตามเดิม  ไม่ท้ิงขว้างพัสดุน้ันให้เสียหาย  ท้ังกับต้องตั้งตนอย ู่
ในระเบียบเรียบร้อยเสมอ  อย่าให้ใคร ๆ  เขาติเตียนได้ว่าเป็นเด็ก 
ไม่รู้จักสมบัติผดู้ ี  ไม่มคี วามสุภาพ  เหลา่ นี้เปน็ ต้น

หน้าท่ีซ่ึงควรกระท�ำที่โรงเรียนนั้น  ข้อส�ำคัญต้องพยายาม 
รักษาวินัย  และต้ังใจกระท�ำตามกฎข้อบังคับของโรงเรียน 

เด็กนักเรียนชว่ ยกนั ทำ�งานแตง่ โรงเรยี นในวันมงี านประจำ�ปี

34

ให้ถูกต้องเต็มท่ี  อย่าให้บกพร่องได ้
ไม่ไปโรงเรียนสายหรือหนีโรงเรียน  ซึ่ง 
เป็นศัตรูช่ัวร้ายย่ิงกว่างูพิษ  กับต้องมี 
ความเคารพนับถือครูบาอาจารย์จริง  ๆ 
ต ล อ ด จ น หั ว ห น้ า นั ก เรี ย น   เช่ื อ ฟ ั ง 
ค�ำสั่งสอนโดยเคร่งครัด  และเอาใจใส่ 
ในบทเรียนของตน  ไม่เกียจคร้าน 
ก า ร ใ ช้ จ่ า ย ก็ ต ้ อ ง ก ร ะ เ ห ม็ ด ก ร ะ แ ห ม่ 
ใช้แต่พอสมควรแก่ฐานะท่ีเป็นนักเรียน 
อย่าท�ำเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย  กับท้ังต้องมีใจ 
สมัครที่จะช่วยกันท�ำกิจการของโรงเรียน 
สารพัดทุกอย่างท่ีจะน�ำเกียรติยศชื่อเสียง 
มาสู่โรงเรียนของตัวเหล่านี้ เป็นตน้

หน้าท่ีซึ่งควรกระท�ำต่อประชุมชน 
นั้น  ข้อส�ำคัญต้องคิดถึงคนหมู่มาก 
เป็นใหญ่กว่า  ที่จะถือเอาความสะดวก 
สบายส่วนตัว  เวลาเดินไปตามถนน
อย่าท�ำตนเป็นเคร่ืองจักร  หรือไม่มีชีวิต 
จิตใจ  และหาความรู้สึกผิดชอบมิได้ เช่น 
เดินกลางถนนเกะกะกีดขวางทางรถ 
ไปมา  และหากว่าพบคนไม่รู้จักทางมา 
ไต่ถามถึงหนทางท่ีเขาไม่รู้จัก ถ้าเรา 


Click to View FlipBook Version