The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1-ความหมาย-องค์ประกอบของหลักสูตร-และการพัฒนาหลักสูตร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kingkarnb, 2020-07-06 00:15:29

1-ความหมาย-องค์ประกอบของหลักสูตร-และการพัฒนาหลักสูตร

1-ความหมาย-องค์ประกอบของหลักสูตร-และการพัฒนาหลักสูตร

1

ความหมาย
องค์ประกอบของหลักสูตร

และการพฒั นาหลักสตู ร

บทท่ี 1
ความหมาย องคป์ ระกอบของหลักสตู ร และการพัฒนาหลกั สูตร

หลักสูตรมีความสาคัญและจาเป็นต่อการศึกษาทุกระดับ นับตั้งแต่การจัดการศึกษาระดับปฐมวัย
ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา รวมท้ังการจัดการศึกษานอกระบบ และการจัดการศึกษารูปแบบอื่น ๆ
ทั้งน้ีเนื่องจากหลักสูตรเป็นตัวกาหนดทิศทางในการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการทางด้านสังคม
เศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ โดยผู้เก่ียวข้อง
ในการจัดการศึกษาทุกฝ่าย ทุกระดับจะต้องวางแผนในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ให้บังเกิดผล
ตอ่ ผู้เรียน ในบทน้จี ะกล่าวถงึ ความหมายของหลักสูตร องคป์ ระกอบของหลักสูตร ความหมายและความสาคัญ
ของการพัฒนาหลกั สตู ร และกระบวนการพฒั นาหลกั สตู ร

ความหมายของหลักสตู ร
คาว่า “หลักสูตร” มาจากคาภาษาอังกฤษว่า “Curriculum” ซ่ึงเป็นคาที่มาจากภาษาลาตินว่า

“Currer” หมายถึง ทางวิ่ง หรือลู่ว่ิง โอลิวา (Oliva, 1992) ได้ศึกษาความหมายของหลักสูตรพบว่า การให้
ความหมายหลักสูตรข้ึนอยู่กับลักษณะความเชื่อหรือปรัชญาของแต่ละบุคคล และได้รวบรวมความหมายของ
หลกั สตู รไว้ ดังน้ี

1. หลกั สตู ร คอื ส่งิ ทส่ี อนในโรงเรียน
2. หลกั สูตร คอื เน้อื หาวิชา
3. หลกั สูตร คอื โปรแกรมสาหรับการเรยี น
4. หลักสตู ร คือ กลุม่ ของวสั ดุอุปกรณ์
5. หลักสตู ร คือ กล่มุ วชิ า
6. หลักสตู ร คือ ลาดับของรายวิชา
7. หลกั สูตร คอื จดุ มุ่งหมายท่ีผเู้ รียนพึงบรรลุ
8. หลกั สูตร คือ รายวชิ าที่จะศึกษา
9. หลักสูตร คือ ทุกส่ิงทุกอย่างที่ดาเนินภายในโรงเรียนและกิจกรรมนอกชั้นเรียน
การแนะแนว รวมทัง้ บคุ คลท่ีเกี่ยวขอ้ ง
10. หลักสตู ร คอื ส่ิงที่สอนท้ังในและนอกหอ้ งเรียน โดยการดูแลจากโรงเรยี น
11. หลักสตู ร คือ ทุกสิ่งท่ีไดว้ างแผนจากบุคลากรในโรงเรยี น
12. หลกั สตู ร คือ ลาดับขน้ั ตอนของประสบการณท์ ่ีโรงเรียนจัดให้แก่ผู้เรียน
13. หลกั สูตร คือ ผลของประสบการณ์ท่ีผู้เรยี นแตล่ ะคนได้รบั มาจากโรงเรียน
จากความหมายของหลักสูตรข้างต้น สรุปได้ว่า หลักสูตรมีความหมายสองนัย ความหมายในวงแคบ
หลักสูตร คือ วิชาหรือเน้ือหาที่สอน ส่วนความหมายในวงกว้างหลักสูตร คือ มวลประสบการณ์ท้ังหลายท่ีจัด
ให้แก่ผู้เรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ซ่ึงเป็นทั้งทางตรงและทางอ้อม หรืออาจนิยามความหมายของ

1

หลักสูตรออกไดเ้ ปน็ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่นิยามหลักสตู รว่า ส่ิงทีเ่ ปน็ เอกสารที่แสดงออกมาในรูปของ ตัวหลกั สูตร
คู่มือครู หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ หนังสือเรียน หนังสือเสริมประสบการณ์ ตลอดจน
ส่ือการเรียนรู้และอุปกรณ์ในรูปแบบต่าง ๆ อีกกลุ่มหน่ึงจะนิยามหลักสูตรให้ครอบคลุมทั้งสิ่งที่เป็นเอกสาร
และกิจกรรม หรือประสบการณท์ งั้ หลายที่โรงเรียนจดั ให้แก่ผเู้ รียน

องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร
องค์ประกอบของหลักสูตร (Curriculum elements) หมายถึง การจัดระบบโครงสร้างภายในของ

หลักสูตรว่ามีส่วนประกอบสาคัญอะไรบ้าง ซึ่งนักการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรได้กล่าวถึง
องค์ประกอบของหลกั สูตรไว้ ดงั นี้

ไทเลอร์ (Tyler, 1969: 11 - 13) ได้เสนอแนวคิดในการจัดการหลักสูตรแบบหลักการเหตุผล
(The Rationale Curriculum Model) วา่ หลกั สตู รควรมีองคป์ ระกอบครอบคลุมประเดน็ สาคญั ต่อไปนี้

1. จุดมุ่งหมายทางการศึกษาทีต่ ้องการใหผ้ ู้เรยี นบรรลุผลสาเร็จ
2. ประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งต้องจัดให้ผู้เรียนเพ่ือให้บรรลุผลสาเร็จตามจุดมุ่งหมาย
ทางการศึกษาทกี่ าหนดไว้
3. มวลประสบการณท์ จี่ ะทาใหก้ ารเรียนร้เู กดิ ข้ึนอยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. วธิ กี ารประเมนิ ผลวา่ การเรียนรูบ้ รรลุตามจดุ มงุ่ หมายท่ีกาหนดไว้
โบซอง (Beauchamp, 1981: 67 - 70) กลา่ ววา่ องค์ประกอบของหลักสูตร มี 4 ส่วน คือ
1. เป้าหมายหรอื วัตถุประสงค์เฉพาะ
2. ขอบขา่ ยเนื้อหา
3. การวางแผนการใช้หลกั สูตร
4. การพจิ ารณาตดั สนิ
สงบ ลกั ษณะ (2542: 9) จาแนกองค์ประกอบของหลกั สตู รไว้ 5 สว่ น คอื
1. ผลการเรียนรู้ ซง่ึ นิยมเรียกว่า มาตรฐานการเรยี นรู้
2. ขอบขา่ ยเนือ้ หาวิชา หรอื สาระการเรียนรู้
3. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือส่ิงท่ีเรียกว่า แผนการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงเป็น
องค์ประกอบสาคัญท่ีสุดท่ีครูจะต้องคิดค้นกระบวนการท่ีดีท่ีสุด เพ่ือให้ผู้เรียนทุกคนบรรลุผลการเรียนรู้
ได้ครบถว้ น
4. แผนการใช้สื่อการเรียนการสอน
5. แผนการวดั ผลประเมินผล เพือ่ แสดงหลกั ฐานการบรรลผุ ลการเรยี นรู้
จากแนวคิดเกี่ยวกบั องค์ประกอบของหลักสูตรดังกล่าวข้างตน้ อาจสรุปได้ว่า หลักสูตรมีองค์ประกอบ
สาคัญ 4 สว่ น ดงั แผนภมู ิต่อไปนี้

2

หลักการและจุดมุ่งหมาย

การประเมนิ ผล เนื้อหาวิชาและเวลา

การนาหลกั สูตรไปใช้

จากแผนภูมมิ คี วามหมายดังน้ี
1. หลักการและจุดมุ่งหมาย หลักการ คือ คุณสมบัติหรือแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับหลักสูตร

“หลักการ” จะบอกให้รู้ว่า หลักสูตรน้ัน ๆ จัดขึ้นเพ่ืออะไร ซึ่งจะกาหนดไว้ในเชิงปรัชญาของหลักสูตร
ส่วนจุดมุ่งหมายของหลักสูตร เป็นความคาดหวังของหลักสูตรว่า ผู้ท่ีเรียนจบหลักสูตรน้ัน ๆ จะมีคุณลักษณะ
อย่างไร ควรมีพฤติกรรมอะไรบ้าง จุดมุ่งหมายจึงเป็นผลการเรียนรู้ที่เกิดข้ึนในตัวผู้เรียน ท้ังในด้านความรู้
เจตคติ ค่านิยม ความสามารถ และทักษะตา่ ง ๆ

2. เนอื้ หาวิชาและเวลาเรียน
2.1 เนื้อหาวิชา เปรียบเสมือนสื่อหรือเครื่องนาทางพาผู้เรียนไปสู่จุดมุ่งหมายของหลักสูตร

การเลอื กเน้ือหาวิชาอาจจัดเป็นกลุ่มวิชา หมวดวชิ า หรอื รายวิชาก็ได้ ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับเจตนาและความเหมาะสม
ในการจัดทาหลักสตู ร

2.2 เวลาเรียน คือ ส่วนที่กาหนดว่า หลักสูตรน้ันต้องใช้เวลาศึกษาท้ังหมดกี่ปี แต่ละปี
ต้องเรยี นกลมุ่ วิชาหรือรายวชิ าอะไรบา้ ง รอ้ ยละเท่าไร ในแตล่ ะสปั ดาหต์ อ้ งเรยี นวชิ าอะไรบา้ ง เปน็ เวลาเทา่ ไร

3. การนาหลักสูตรไปใช้ หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้บริหารและครูนาไปปฏิบัติให้เกิดผลแก่ผู้เรียน
ประกอบด้วย กจิ กรรมสาคัญ 3 ประการ

3.1 การแปลงหลักสูตรสู่การสอน ได้แก่ การจัดทาเอกสารหลักสูตร วัสดุและอุปกรณ์
การสอนท่ีต้องใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุผลสาเร็จตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ตัวอย่างเอกสาร
หลักสตู ร เช่น แผนการสอน ค่มู อื ครู แบบเรยี น แบบฝึกเสริมทักษะ หนงั สืออา่ นประกอบ เป็นต้น

3.2 การจัดเตรียมสิ่งอานวยความสะดวก เช่น วัสดุหลักสูตร เอกสารหลักสูตร การจัดอบรม
บุคลากรท้ังผู้สอนและผู้เก่ียวข้องอื่น ๆ รวมท้ังการเตรียมอาคาร สถานที่ ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด ให้พร้อม
ที่จะรองรับกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามที่หลกั สตู รกาหนดไว้

3.3 การสอน เป็นกระบวนการท่ีประกอบด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรม
เสริมความรู้ให้ผู้เรียน จุดหมายปลายทางของกระบวนการสอน คือ ทาให้ผู้เรียนบรรลุผลตามจุดมุ่งหมาย
ที่กาหนดไว้ในหลักสูตร การสอนถือว่าเป็นหัวใจและเป็นกิจกรรมสาคัญท่ีสุดในการนาหลักสูตรไปใช้ หากไม่มี
การสอนหลักสูตรแม้จะกาหนดไว้อย่างดีเลิศเพียงใด ก็ไม่สามารถทาให้ผู้เรียนบรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมาย
ทีม่ ุ่งหวงั ได้

3

4. การประเมนิ ผล เปน็ กระบวนการค้นหาคาตอบเก่ียวกับหลกั สตู ร 2 ลักษณะ คอื
4.1 การประเมินผลการเรียน เป็นแนวปฏิบัติเก่ียวกับการตรวจสอบคุณภาพของผู้เรียน

และการปรบั ปรุงการเรียนการสอนของครู
4.2 การประเมินผลหลักสูตร เป็นการประเมินผลเกี่ยวกับปัจจัยป้อน กระบวนการ ผลผลิต

และผลกระทบของหลักสูตร เพื่อนาไปปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา
และความตอ้ งการทางสงั คม

จากแนวคิดเกี่ยวกับองค์ประกอบของหลักสูตรของนักการศึกษาและนักพัฒนาหลักสูตรท่ีนาเสนอมา
ตามลาดับ อาจสรุปได้ว่า หลักสูตรมีองค์ประกอบสาคัญ คือ จุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษา ขอบข่ายสาระ
วิชา หรือประมวลประสบการณ์ท่ีจัดให้กับผู้เรียน แผนการจัดการเรียนการสอน และแนวการประเมินผล
การเรยี นรู้

การพัฒนาหลักสตู ร
1. ความหมายและความสาคัญ

คาว่า “การพัฒนาหลักสูตร” (Curriculum development) หมายถึง การจัดทาหลักสูตรข้ึนมาใหม่
โดยท่ียังไม่เคยมีหลักสูตรน้ันมาก่อนเลย กับในอีกความหมายหนึ่ง หมายถึง การจัดทาหลักสูตรที่มีอยู่แล้ว
ใหด้ ขี ึ้นกวา่ เดิม

การพัฒนาหลักสูตรต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีลาดับขั้นตอนที่ต่อเน่ือง เร่ิมตั้งแต่การศึกษา
ข้อมูลพื้นฐานที่จาเป็นสาหรับการพัฒนาหลักสูตร การดาเนินการร่างหลักสูตร การกาหนดจุดมุ่งหมาย
การกาหนดเนื้อหาสาระและประสบการณ์การเรยี นรู้ กาหนดการวดั และประเมนิ ผล การดาเนินการใช้หลักสตู ร

สภาวะโลกมีการเปล่ียนแปลงต่อเน่ืองอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงมีทั้งสภาพแวดล้อม
ตามธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมท่ีเกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการ
ต่าง ๆ ในยุคโลกาภิวัตน์ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและเศรษฐกิจกับทุกประเทศ รวมทั้ง
ประเทศไทยด้วย การศึกษาโดยใช้หลักสูตรเดิมอยู่จะไม่สามารถพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพ
และเตรียมพร้อมกับสังคมท่ีมีความเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วได้ หลักสูตรจึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาอยู่
เป็นระยะ หากหลักสูตรเดิมไม่มีความเหมาะสมเพียงพอ การพัฒนาหลักสูตรมีความสาคัญต่อปัจจัยด้านต่าง ๆ
ดงั น้ี

1) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว ระบบการค้า
ในระดับโลกหรือภูมิภาคท่ีมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมีหลายอย่างมากขึ้น เช่น องค์การการค้าโลก
(WTO) เขตการค้าเสรี (AFTA) การปรับตัวทางการค้าไม่เท่าทันสภาวะการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ทาให้
เสียเปรียบคู่แข่งในต่างประเทศ อาชีพเกิดใหม่มีมากขึ้น การพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถสร้างอาชีพด้วยตนเอง
มคี วามจาเปน็ มากขน้ึ

4

2) การพัฒนาการเมืองและการปกครอง การปลูกฝังแนวคิดท่ีช่วยส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย
อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสาคัญ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการซ้ือสิทธิ์ขายเสียงในการเลือกผู้แทนแต่ละคร้ังที่ยังคง
มมี ากอยู่ใหห้ มดไป

3) การพัฒนาสังคม โดยท่ีสังคมคาดหวงั ท่จี ะใหก้ ารศึกษาช่วยปลูกฝงั และถ่ายทอดวัฒนธรรมท่ีดงี าม
ของสังคมสืบต่อไป ซ่ึงขณะน้ีการไหลบ่าทางวัฒนธรรมจากต่างประเทศกาลังเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ
จากส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนปัญหาสังคมในกลุ่มวัยรุ่น ได้แก่ ปัญหายาเสพติด ปัญหาโรคเอดส์ นอกจากนี้
ยังมีปัญหาสังคมอันเน่ืองมาจากการพัฒนาประเทศ เช่น สภาพสังคมมีความแตกต่างกันมากของสังคมเมือง
กบั สงั คมชนบท สภาพปัญหาต่าง ๆ เหล่าน้ี หลักสูตรท่พี ัฒนาใหม่ต้องชว่ ยพัฒนาสังคมใหด้ ขี น้ึ ดว้ ย

4) การพัฒนาด้านวิชาการ ความรู้วิทยาการต่าง ๆ มีเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก โดยเฉพาะความรู้
ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ท่ีมีผลกระทบต่อการเปล่ียนแปลง
ของสังคม เช่น เทคโนโลยสี ื่อสารโทรคมนาคม คอมพวิ เตอร์ ตลอดจนความร้ใู หม่ ๆ ด้านชีวภาพ การปรับแต่ง
พนั ธุกรรม การพฒั นาหลักสูตรตอ้ งเตรียมผเู้ รียนให้พรอ้ มรับวทิ ยาการใหม่ไดท้ ันกับความกา้ วหน้าที่เกดิ ขึ้นได้

5) การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินขีดจากัด
มีผลต่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป ทาให้ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเพียงพอ ปัญหามลพิษทางน้า ทางบก
และทางอากาศมีมากข้ึน การพัฒนาหลักสูตรช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงได้ โดยสอนให้ผู้เรียนเกิดความรู้ รับรู้
และตระหนักในปัญหาทีเ่ กดิ ขึน้ เพื่อจะได้ชว่ ยปอ้ งกันและช่วยแก้ปัญหาต่อไป

2. รูปแบบการพัฒนาหลกั สูตร
รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรมีหลายรูปแบบ ข้ึนอยู่กับผู้เสนอนั้นมีหลักการ แนวคิด การพัฒนา

หลักสตู รอยา่ งไร
2.1 รปู แบบการพัฒนาหลกั สูตรตามแนวคิดของราล์ฟ ไทเลอร์ (Ralph Tyler)
ไทเลอร์ได้วิเคราะห์กระบวนการพัฒนาหลักสูตร โดยต้ังคาถามหลักท่ีเป็นพ้ืนฐานในการ

พฒั นาหลักสูตร 4 ข้อ คอื
1. มีจุดมุ่งหมายทางการศึกษาอะไรบ้าง ทสี่ ถานศึกษาควรให้ผูเ้ รียนไดบ้ รรลุ
2. จะต้องมปี ระสบการณท์ างการศกึ ษาอะไรบา้ ง เพื่อให้บรรลุตามจุดมงุ่ หมายทางการศกึ ษา
3. ประสบการณ์ทางการศกึ ษาเหล่านี้ จะจดั ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพได้อย่างไร
4. จะประเมนิ ผลจดุ มงุ่ หมายทางการศกึ ษาอยา่ งไรใหม้ ีประสทิ ธิภาพ
แนวคิดการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์น้ัน มุ่งให้ความสาคัญกับจุดมุ่งหมายการจัดมวล

ประสบการณ์ ประสิทธิภาพของประสบการณ์ และการประเมินผลตามจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่กาหนดไว้
รูปแบบการพัฒนาหลกั สูตรของไทเลอร์แสดงเปน็ แผนภมู ไิ ด้ ดงั น้ี

5

ตามแผนภูมิการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์น้ัน ก่อนจะกาหนดจุดมุ่งหมายช่ัวคราวจะต้อง
อาศัยขอ้ มลู จาก 3 แหล่ง คือ ผเู้ รียน ซง่ึ เกยี่ วข้องกบั ความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ และคุณลกั ษณะ
ของผู้เรียนที่สังคมต้องการ สังคม ได้แก่ ค่านิยม ความเชื่อ และแนวปฏิบัติในการดารงชีวิตในสังคม
ส่วนด้านเน้ือหาวิชาอาจจะรวบรวมได้จากแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญและผลการวิจัย ต่อจากน้ันจึ งอาศัยข้อมูล
ทางด้านจิตวิทยา ผสมผสานกับแนวคิดทางปรัชญาการศึกษามากล่ันกรองจุดมุ่งหมายชั่วคราว เพ่ือทาให้
จดุ มุ่งหมายมลี ักษณะเฉพาะเจาะจงมากขึ้น แล้วจึงสรปุ เปน็ จุดมุง่ หมายทแ่ี ท้จริง

2.2 รูปแบบการพฒั นาหลักสูตรตามแนวคดิ ของฮิลดา ทาบา (Hilda Taba)
ทาบามีแนวคิดว่า ครูเป็นผู้นาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ จึงควรเป็นผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนา

หลักสตู ร ข้ันตอนการพฒั นาหลกั สูตรตามแนวคิดของทาบา แบ่งเป็น 7 ข้ันตอน คือ
1. วินิจฉัยความต้องการ ผู้สร้างหลักสูตรสารวจปัญหา ความต้องการ และความจาเป็น

ของผเู้ รียนและสงั คม
2. กาหนดจุดประสงค์ เมื่อได้ความต้องการและความจาเป็นของผู้เรียนแล้วจึงกาหนด

จดุ ประสงคใ์ หส้ อดคล้องกนั และมีความชัดเจน
3. คัดเลือกเน้ือหา เน้ือหาต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์ มีความถูกต้อง เท่ียงตรง

และมคี วามเชื่อถือได้

6

4. จัดเน้ือหา การจัดเน้ือหาต้องมีความต่อเนื่อง สอดคล้องกับวุฒิภาวะ ความสามารถ
และความสนใจของผูเ้ รยี น

5. เลือกประสบการณ์การเรียนรู้ ผู้สร้างหลักสูตรคิดวิธีการท่ีจะให้ผู้เรียนเรียนรู้เนื้อหา
ทจ่ี ัดไว้ โดยพิจารณาว่าจะเลือกประสบการณก์ ารเรียนรอู้ ยา่ งไร ผ้เู รยี นจึงจะเกดิ ประสบการณต์ ามท่กี าหนดไว้

6. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ต้องเป็นลาดับ ต่อเน่ืองกัน
เรียงลาดบั ตามเนอ้ื หา และสอดคล้องกับลักษณะผู้เรยี น

7. กาหนดส่ิงที่ประเมินและวิธีการประเมิน ผู้สร้างหลักสูตรตัดสินใจว่าจะประเมินอะไร
เพือ่ ตรวจสอบวา่ บรรลุวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไวห้ รือไม่ และกาหนดด้วยว่าจะใชว้ ิธีประเมินอย่างไร ใช้เคร่ืองมือ
อะไร

2.3 รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รตามแนวคดิ ของเซเลอร์ และคณะ (Saylor and others)
เซเลอร์ไดเ้ สนอรปู แบบการพฒั นาหลักสูตร ซึง่ ประกอบด้วยขนั้ ตอนตา่ ง ๆ ดงั นี้
1. การกาหนดเป้าหมาย จุดประสงค์ และขอบเขตความรู้ ผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องสารวจ

ข้อมูลพ้ืนฐานท่ีเก่ียวข้องในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดลอ้ มของสังคมท้ังในดา้ นการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม
ความต้องการ และความคาดหวังของสงั คม ความต้องการของผู้เรียน ปรัชญาทางการศกึ ษา แล้วนาขอ้ มูลท่ีได้
จากการสารวจมากาหนดเป็นเป้าหมาย จดุ ประสงค์ และขอบเขตของความรู้

2. การออกแบบหลกั สูตร ขัน้ ตอนน้ีประกอบด้วยการเลือกรูปแบบของหลักสตู รที่เหมาะสม
และมปี ระสิทธิภาพ การเลอื กและจัดเนือ้ หาสาระ การเลอื กประสบการณก์ ารเรียนรู้ โดยขัน้ ตอนตา่ ง ๆ จะต้อง
สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย จุดประสงค์ และขอบเขตของความรู้

3. การนาหลักสูตรไปใช้ ขั้นตอนน้ีเป็นการวางแผนและจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้
โดยกาหนดวิธีการสอน ส่ือวัสดุอุปกรณ์ ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับเป้าหมาย จุดประสงค์ ขอบเขต
ของความรแู้ ละเน้ือหาสาระ

4. การประเมินหลักสูตร ขั้นตอนนี้เก่ียวข้องกับการตัดสนิ ใจเลือกเทคนิควิธีการประเมินผล
เพอ่ื เป็นการตดั สินใจในคุณภาพและความสาเร็จของหลกั สตู ร

กระบวนการการพฒั นาหลกั สูตรตามแนวคดิ ของ เซเลอร์แสดงเป็นแผนภมู ิได้ ดังนี้

7

จากแนวคิดเก่ียวกับรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร ของนักการศึกษาสามารถสรุปได้ว่ า
กระบวนการพัฒนาหลักสูตร มีขน้ั ตอนสาคัญทต่ี อ้ งปฏิบัติ ดังน้ี

1. การสารวจและรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน โดยเก็บข้อมูลทั้งจากสังคม ชุมชน โรงเรียน
และผู้เรียนทท้งั ในด้านเศรษฐกจิ การเมือง สงั คม วัฒนธรรม และความคาดหวัง เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการพฒั นา
หลักสูตร

2. การกาหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร โดยนาข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่หน่ึงมากาหนด
เป็นจุดม่งุ หมายของหลกั สูตร เพ่ือทจ่ี ะเปน็ แนวทางในการกาหนดเนือ้ หาสาระท่ผี เู้ รยี นควรจะได้เรียนรู้

3. การออกแบบหลักสูตร ข้ันตอนน้ีมีกิจกรรมที่ต้องดาเนินการ คือ กาหนดขอบข่าย
และลาดับข้ันของเน้ือหาสาระ จัดทาหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ และกาหนดแนวทางในการจัด
กจิ กรรมการเรียนการสอน แนวทางในการพฒั นาและใชส้ ื่อ และแนวทางในการประเมนิ ผลการเรียนการสอน

4. การนาหลักสูตรไปใช้ เป็นการนาหลกั สูตรทไี่ ดอ้ อกแบบไว้ไปสูก่ ารปฏิบตั ิจรงิ ในช้นั เรียน
โดยครูจดั ทาการเรยี นการสอนและการวัดประเมินผลตามท่ีได้กาหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรียนรู้

5. การประเมินผลหลักสูตร หลังจากท่ีใช้หลักสูตรแล้วก็ควรจะต้องมีการประเมินผล
หลักสูตร เพ่ือให้ทราบถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของหลักสูตรว่า ได้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
ทกี่ าหนดไว้หรือไม่ ตลอดจนเพื่อให้ทราบถึงสภาพและปญั หาท่เี กิดขึ้นในการใช้หลกั สูตร

6. การปรับปรุงหลักสูตร หลังจากประเมินผลหลักสูตรแล้วก็จะได้สารสนเทศท่ีบอกสภาพ
และปัญหาของหลักสูตร ซ่ึงผู้พฒั นาหลกั สตู รสามารถใช้ในการปรบั ปรุงหลกั สตู รเดิมของตนใหด้ ขี ้ึน

3. การพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษา
หลักสูตรสถานศึกษาตรงกับคาว่า “School based curriculum” หรือ “School curriculum”

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทาขึ้น เพ่ือให้เขตพ้ืนที่การศึกษา หน่วยงาน
ระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาทุกสังกัดท่ีจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นาไปใช้เป็นกรอบในการพัฒนาหลักสูตร
แ ล ะ จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น เ พื่ อ พั ฒ น า เ ด็ ก แ ล ะ เ ย า ว ช น ไ ท ย ทุ ก ค น ใ น ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พื้ น ฐ า น
(กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2551: 3)

การดาเนินการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ซ่ึงโรงเรียนนาร่องและพร้อมใช้ ใช้ในปีการศึกษา 2552 โรงเรียนทั่วไปใช้ในปีการศึกษา 2553 จะเห็น
ได้ว่า เป็นการทบทวนหลักสูตรสถานศึกษาเดิม โดยจัดทาโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา จัดทาคาอธิบาย
รายวิชา โดยประมวลจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตรระดับ
ท้องถ่ิน และสถานศึกษาพิจารณาเพ่ิมเติม ในส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนหรือท้องถิ่นที่ต้องการพัฒนา
เปน็ พิเศษ

การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
มกี ระบวนการดังแสดงในแผนภมู ิตอ่ ไปนี้

8

9

การจัดทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา มี 2 ลักษณะ
ลกั ษณะที่ 1 การจัดทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา

10

องค์ประกอบของหลักสูตรสถานศึกษา

ลกั ษณะที่ 2 การจัดทาหลักสตู รระดับช้นั เรียน

การจัดทาหลักสูตรระดับชั้นเรียน เป็นกิจกรรมที่ครูผู้สอนจะต้องดาเนินการก่อนจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ ดังนี้

11

สรุป

ความหมายของหลักสูตรเป็นตัวกาหนดลักษณะของหลักสูตร หลักสูตรที่ดีควรประกอบด้วย
องค์ประกอบ 4 ส่วน คือ หลักการและจุดมุ่งหมาย เน้ือหาและเวลาเรียน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ซ่ึงเป็น
หัวใจสาคัญของการนาหลักสูตรไปใช้และการประเมินผล รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของนักการศึกษา
ทั้งหลายมีข้ันตอนหลักท่ีสาคัญ ได้แก่ การสารวจและรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน การกาหนดจุดมุ่งหมายหลักสูตร
การออกแบบหลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้ การประเมินผลหลักสูตร และการปรับปรุงหลักสูตร การพัฒนา
หลักสูตรสถานศึกษา เป็นกระบวนการที่บุคลากรของสถานศึกษาเป็นผู้วางแผน ออกแบบ นาไปใช้
และประเมนิ ผลหลักสูตรทสี่ ถานศึกษาได้พัฒนาข้นึ

12

บรรณานุกรม

ศกึ ษาธิการ, กระทรวง. 2551. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร
: โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั .

สงบ ลักษณะ. 2542. “ปฏิรปู หลกั สตู ร” ใน ปฏริ ูปการศึกษา ปีท่ี 1 ฉบับท่ี 12 1-15 มีนาคม.
Beauchamp, George A. 1981. Curriculum Theory. Itasca lllinois : P.F Peacock.
Kelly, A.V. 2004. The Curriculum : Theory and Practice. California : Sage Publications Inc.
Markee, Numa. 1997. Managing Curricular Innovation. Cambridge : Cambridge

University Press.
Oliva, Peter F. 1992. Developing The Curriculum. New York : Harpers Collins.
Ornstein, Allan C. & Francis P. Hunkins. 2004. Curriculum : Foundation, Principles, and Issues.

Boston : Allyn and Bacon.
Pratt, David. 1994. Curriculum Planning : A Handbook for Professionals. Save Orlando,

Fla : Harcourt Brace.
Saylor, Galen J. and others. 1981. Curriculum Planning for Better Teaching and Learning.

New York : Holt, Rinehart and Winston.
Taba, Hilda. 1962. Curriculum Development : Theory and Practice. New York : Harcourt,

Brace & World.
Tyler, Ralph W. 1969. Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago : University of

Chicago Press.

13


Click to View FlipBook Version